เจาะเวลาหาฉิมพลี(ภาคยุทธจักร) – ตอนที่ 4
ยูอันดื่มเลือดจากเจ้าแดงน้อยจนหมดชาม จิบแรกเหมือนจะคาวเล็กน้อย
แต่ต่อมากลับรู้สึกมีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนใบไผ่อ่อนๆ ปนๆกับใบยูคาลิปตัส
อาจเป็นเพราะเจ้าแดงน้อยถูกเลี้ยงด้วยสมุนไพรมีค่ามาเป็นสิบๆปีก็เป็นได้
หลังดื่มหมดไม่ถึงนาที ความอบอุ่นในท้องก็แผ่ขยาย กระจายออกมา จากอุ่นเริ่มเป็นร้อนขึ้นๆ
จนเริ่มระอุ เหงื่อไหลออกมาเหมือนน้ำ ใบหน้า จมูกแดงก่ำไปหมด ทุกส่วนในร่างกายเหมือนกำลังถูกต้ม
ยูอันรีบถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วกระโจนลงในถังน้ำขนาดใหญ่ ที่สามประหลาดชังโลกเตรียมไว้ให้
ก็พอลดความร้อนลงได้บ้าง แต่ริมฝีปากยังพองร้อน ส่วนตั้งแต่บั้นเอวลงไปที่เคยชาจนหมดความรู้สึก
ก็กลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง
“ดื่มลงไปให้หมด ” ต้วนอู่คัง ยื่นชามขนาดใหญ่มาให้ ข้าง
ในเหมือนเป็นเลือดสัตว์อีกชนิดหนึ่ง
ยูอันมองหน้าอาจารย์ใหญ่ เหมือนจะถามว่าให้ดื่มจริงๆเหรอ ต้วนอู่คังก็พยักหน้ายืนยันอีกครั้ง
ยูอันจึงกลั้นใจดื่มลงไป ..ไม่เลว ชามนี้ก็ไม่คาวมาก ยูอันนึกในใจ
แต่กลับกันกับเลือดของแดงน้อย พอดื่มเลือดชามนี้ เหมือนดื่มน้ำเย็นจัดเข้าไป
ร่างกายที่กำลังแดงจนพอง ก็ลดความร้อนลง รู้สึกเย็นสบายอย่างบอกไม่ถูก
” เดินออกมาจากถังได้แล้ว ” ต้วนอู่คังสั่ง หลังปล่อยให้ยูอันแช่ในถังน้ำสักพัก
ยูอันก้าวเท้าออกมาจากถังน้ำ แต่พอก้าวออกมาก็เพิ่งนึกได้
ว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้สวมอะไรสักชิ้น แถมน่าแปลกที่ ยูน้อย กลับแข็งขันอย่างน่ากลัว
“อะ อาจารย์…ศิษย์ไม่ได้สวมเสื้อผ้า ” ยูอันเอามือไปปิดๆยูน้อยตัวเองไว้ แต่เริ่มรู้สึกแปลกๆ
เพราะตอนนี้ ขนาดของมัน เหมือนไม่ใช่ของตัวเอง
“ฮ่าๆๆ เจ้าจะอายพวกอาจารย์ทำไม เอามือออกให้พวกเราชมชัดๆตา…”
เสียงอาจารย์รองอู๋จื่อตันหัวเราะขำๆ
ยูอันเองก็เริ่มพิจารณาอีกครั้ง ก็รู้ทันทีว่า ขนาด มันไม่เหมือนเดิมอย่างชัดเจน
ถึงรูปทรงจะเช่นเดิม คือเหยียดตรงงอนขึ้นด้านบนเล็กน้อย แต่ขนาดจากเดิมเกือบ 7 นิ้ว
ตอนนี้เท่าที่กะๆ ขนาดมันยาวเกิน 8 นิ้วไปละแน่ๆ แต่ไม่รู้จะถึง 9 นิ้วรึเปล่า ที่นี่ไม่มีอะไรวัดด้วยซิ
แถมความอวบอ้วนน่าจะพอๆกับกระป๋องปลากระป๋อง ดีไม่ดีจะมากกว่าสะด้วยซ้ำ
ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ถ้าเป็นสมัยโลกปัจุบัน คงเฮลั่นบ้านไปแล้ว ที่อยู่ดีๆ
กลายเป็นเด็กไทยไซด์ฝรั่งไปได้ แถมเส้นเลือดที่บริเวณผิวรอบๆยูน้อยยิ่งพองตัวเด่นชัด
แข็งแกร่ง เป็นเส้นเด่นชัด ดูมันน่ากลัวดุร้ายกว่าเดิมมากมาย – –
“พวกเจ้าว่าเป็นเช่นไร…”ต้วนอู่คัง ถามน้องร่วมสาบานทั้งสอง
“นับว่าเกินคาดหมายจริงๆ” ม่อหยงชิ้ว กล่าวขึ้นหลังจากมาพิจารณาใกล้ๆ …
“แต่เดิม ศิษย์น้อย ก็มีขนาดที่ใหญ่ยาวกว่าชายในยุทธจักรทั่วๆไปอยู่แล้ว ยิ่งได้เลือดจากแดงน้อย
และเลือดของตะพาบทะเลพันปี ยิ่งทำให้แท่งหยก แข็งแกร่งและเพิ่มขนาดมากไปอีก…
เช่นนี้ เชื่อว่าชายในยุทธจักรคงไม่มีใครเทียบได้อีกแล้ว ยิ่งถ้าได้รับการกระตุ้นจากการร่วมรัก
กับหญิงสาว ก็น่าจะเพิ่มขนาดได้อีกเล็กน้อย….” คำวิจารณ์จากม่อหยงชิ้ว ที่มีฉายาคุณชายสู่สม
ถูกต้องแม่นยำจริงๆ ในสมัยนั้น เรื่องเพศศึกษา ถือเป็นเรื่องต้องห้าม เมื่อเด็กชายเข้าสู่วัยรุ่น
ก็ไม่ได้สนใจในเรื่องเพศ เหมือนกับวัยรุ่นในยุคปัจุบัน เรื่องการบริหารส่วนสำคัญของชาย
หรือเรียกว่าการช่วยตัวเอง ก็ไม่ได้ทำตั้งแต่เด็กเหมือนยูอัน – – ดังนั้นตั้งแต่เริ่มแรก ยูน้อย
ก็ขนาดเกินกว่ามาตรฐานของชายในยุคนี้อยู่แล้ว
“แถมด้วยน้ำลายของแดงน้อย ที่กัดเข้าไปส่วนโคนของแท่งหยก จะทำให้น้ำสวรรค์ ที่เจ้าจะปล่อยออกมา
เมื่อถึงสวรรค์ ลดกลิ่นคาวลง แต่มีกลิ่นหอมสดชื่นเข้ามาแทน และสามารถแข็งตัวได้แข็งแกร่ง
ยาวนานกว่าปรกติ ” ต้วนอู่คังช่วยอธิบายเพิ่มเติม ถึง คุณสมบัติ ของยูน้อยที่เปลี่ยนไป – –
“เลือดของแดงน้อยที่ไหลเวียนในร่างกาย จะเข้าไปกลืนเป็นเนื้อเดียวกับเลือดและกล้ามเนื้อ
ในร่างกายของเจ้า ทำให้มีความต้านทานความร้อน หนาว และที่สำคัญ จะทำให้ร่างกายของเจ้า
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งถ้าหญิงสาวได้กลิ่น จะถูกกระตุ้นความต้องการทางเพศขึ้นมาทันที ”
ม่อหยงชิ้วกล่าวอย่างภาคภูมิใจในความพิเศษของศิษย์คนแรกและคนเดียวของตน
“แปลว่า ศิษย์เข้าใกล้สาวสาว ไม่ได้นะสิอาจารย์สาม -*- คงได้ปั่นป่วนกันไปหมด ”
ยูอันเริ่มวิตก ในเรื่องกลิ่นกระตุ้นเซ็กส์ของตัวเอง เรื่องขนาดที่เพิ่มขึ้นมา แถมความอึด คิดไปๆมาๆ
ก็ดูเหมือนจะเป็นข้อดี *-* ถ้ากลับไปโลกปัจุบันได้ น่าเอาเจ้าแดงน้อย ไปเพาะพันธุ์ขาย คงรวยไม่รู้เรื่อง
ในหนังโป้ที่เคยดู พระเอกบางคนยังขนาดสู้เจ้า ยูน้อย ตอนนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ สู้พวกฝรั่งได้สบายๆ
แว๊บนึง ก็อดคิดถึงเอ กับเก๋ไม่ได้ ไม่รู้ป่านนี้ จะโตขึ้นเป็นสาวสวยขนาดไหน รูปร่างคงสวยงามไม่มีที่ติ
ถ้า…กลับไปแล้วได้ใช้ ยูน้อย ทั้งสองสาวคงตกใจไม่น้อย แต่ก็คงสามารถรับได้ในที่สุดเพราะ
ส่วนน้องสาวของเอและเก๋ ขนาดไม่ใช่น้อยๆเลย ….ยิ่งคิดยิ่งทำให้ร่างกายเกิดความต้องการเพิ่มขึ้น
ยูน้อยยิ่งผงาดแข็งขันอย่างดุดันน่ากลัว
“ฮ่าาๆๆ แต่การดื่มเลือดแดงน้อยเข้าไป ก็จะทำให้เจ้าเกิดความต้องการทางเพศบ่อยและง่ายขึ้นด้วย…”
เสียงม่อหยงชิ้วพูด เหมือนน้ำเย็นราดบนหัว ยูอันได้สติกลับมาอีกครั้ง
“กำละสิ – -แค่ปรกติ มันก็ต้องการมากอยู่แล้ว ยังจะต้องการบ่อยกว่าเดิมอีก -*- “ยูอันอดวิตกไม่ได้
สงสัยจะกลายเป็นโจรราคะอันดับ1 สมใจอาจารย์ทั้งสามจริงๆละมั้ง
“หากเกิดความต้องการขึ้นมา เจ้าต้องหาทางปลดปล่อย เพราะยิ่งยับยั้ง ห้ามใจ
ยิ่งเป็นผลเสียต่อตัวเอง แรกๆอาจจะแค่กำลังภายในลดลง เกิดอาการปวดบริเวนแท่งหยก
และอาการปวดจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นหมดสติ และถ้าหากยังไม่ได้รับการร่วมรักกับหญิงสาวอีก
สมองเจ้าอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนจนถึงขึ้นเสียสติ กลายเป็นคนวิกลจริต…”
เสียงต้วนอู่คังอธิบายยาวเหยียด ยิ่งฟัง ยูอันก็ยิ่งเหงื่อแตก
แต่แปลก กลิ่นเหงื่อของตัวเอง กลับสูดแล้วรู้สึกสดชื่นแปลกๆ
“อ้อ เจ้าควรรู้ไว้อย่าง กลิ่นกายของเจ้าถึงแม้จะทำให้หญิงสาวที่ได้กลิ่นถูกกระตุ้นความต้องการทางเพศขึ้นมาได้
แต่ก็เป็นเพียงการกระตุ้นเพียงเล็กน้อย ถ้าหญิงนั้นมีตบะสมาธิที่มากพอหรือไม่ได้มีความชมชอบในตัวเจ้า
ก็จะไม่เกิดผลอะไรนัก
แต่ทว่า เหงื่อของเจ้ากลับสามารถกระตุ้นความต้องการของหญิงสาวได้มากกว่ากลิ่นกายของเจ้ามากนัก
ยิ่งถ้าคนได้สูดดมมีความชอบเจ้าเป็นทุนเดิม อาจจะไม่สามารถยับยั้งชั่งใจ ยอมพลีกายให้เจ้าด้วยความเต็มใจ
และเนื่องจากเป็นการกระตุ้นความต้องการทางธรรมชาติ จึงไม่มีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ
หลังจากร่วมรักกับเจ้าจนสุขสม ก็จะกลับสู่ภาวปรกติ
และแน่นอนว่า ไม่มียาแก้หรือป้องกันได้ นอกจากร่วมรักกับเจ้าเท่านั้น ”
อาจารย์ใหญ่ต้วนอู่คัง อธิบายให้ยูอันฟังช้าๆด้วยความตั้งใจ
“อาจารย์ แล้วเรื่องกำลังภายใน 20 ปีนั่นเล่า..”ยูอันอดถามถึงเรื่องสำคัญที่เกือบจะลืมไปสะแล้ว
ถ้าตอนนี้ตัวเองมีกำลังภายใน เทียบเท่ากับคนที่ฝึกเดินลมปราณมา 20 ปี คงจะดีไม่น้อย
“ตอนนี้ กำลังภายในของเจ้า ยังไม่สามารถนำออกมาใช้ได้
จนกว่าเจ้าจะร่วมสัมพันธ์กับหญิงสาวเสียก่อน และยิ่งเจ้าร่วมสัมพันธ์กับหญิงสาวมากขึ้นเท่าไหร่
กำลังภายในของเจ้าก็จะยิ่งเพิ่มพูน จาก 20 ปี เป็น 21 22 23 ไปเรื่อยๆ
พลังลมปราณนี้เรียกว่า ปราณชมพูสวรรค์ “ต้วนอู่คังตอบด้วยความภาคภูมิใจ
“กำลังภายในที่เพิ่ม จะเพิ่มครั้งละ 1ปี เช่นนั้นหรืออาจารย์ ” ยูอันเริ่มคึกคัก
แต่ด้วยความเป็นคนที่ฉลาดเป็นเลิศ จึงซักถาม หา ค่าคงที่การร่วมเพศ เพื่อจะได้คำนวนถูก
“เรื่องนี้เรายังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด เนื่องจากเลือดของแดงน้อยกับเลือดตะพาบทะเลพันปี
เพิ่งมีเจ้าคนแรกที่ได้ดื่มลงไป แต่จากตำราลับประจำตระกูลที่ได้เขียนไว้
ยิ่งเจ้าทำให้หญิงสาวที่ร่วมสัมพันธ์ด้วย ขึ้นสู่สวรรค์อย่างรุนแรงมาก เท่าไหร่
ก็จะยิ่งได้รับกำลังภายในสั่งสมในลมปราณมากขึ้น
และหากหญิงสาวขึ้นสู่สวรรค์ติดๆกันหลายๆครั้งในคืนเดียว
ก็จะยิ่งทำให้เจ้าได้รับกำลังภายในมากขึ้นไปอีก…
อ่อ แต่ทว่าขณะที่หญิงกำลังขึ้นสู่สวรรค์แท่งหยกของเจ้าต้องยังเสียบแน่น
อยู่ในช่องทางสวรรค์ของหญิงนั้น ถึงจะได้รับลมปราณสะสมมา”
“แต่เจ้าต้องระวังไว้อย่างหนึ่ง ” อาจารย์รองกล่าวเสริมขึ้นมา
“ถ้าหากหญิงที่เจ้าร่วมสัมพันธ์ด้วยไปร่วมรักกับชายคนอื่นในช่วงระยะเวลา 1ปี
อาจจะก่อนได้ร่วมรักกับเจ้า 1ปี หรือเพิ่งมีก็ตาม เจ้าจะไม่ได้รับกำลังภายในเพิ่มมาสักนิด
แต่ก็ไม่ได้มีผลเสียอะไรนัก หากเจ้าจะทำไปเพื่อความสำราญหรือเพื่อฝึกฝนท่วงท่า ”
ยูอันนั่งฟังด้วยความตั้งใจ การฝึกลมปราณด้วยการร่วมเพศ ในโลกคงไม่มีวิชาไหนน่าฝึกเท่านี้อีกแล้ว
และคิดว่าเป็นวิชาที่ตัวเองคงขยันขันแข็ง ในการฝึกอย่างแน่นอน – –
“อาจารย์ แล้วหญิงสาวที่ร่วมรักกับศิษย์แล้ว จะเกิดผลเสียอะไรกับนางรึเปล่า..”
ยูอันอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ เคยอ่านในนิยายกำลังภายใน
มีวิชาพวกที่ดูดกำลังภายในของคนที่ร่วมรักด้วยมาเป็นของตนเอง
“อืมมม…เท่าที่ศึกษามา น่าจะมีข้อดีมากว่าข้อเสีย
หญิงสาวที่ร่วมรักกับเจ้า จะถูกกลิ่นกาย กลิ่นเหงื่อของเจ้ากระตุ้นความต้องการออกมาอย่างเต็มที่
และด้วยขนาดของแท่งหยกของเจ้า หญิงสาวจะก้าวขึ้นสู่สวรรค์ได้อย่างง่ายดายละสุขสมกว่าร่วมรักกับชายปรกติ
ถ้าจะมีข้อเสีย ก็อาจจะเป็นได้ว่า หญิงนางนั้น แทบจะไม่เกิดความต้องการกับชายอื่นอีกเลย หรือถึงจะมี
ก็ไม่อาจขึ้นสู่จุดสูงสุดของสวรรค์ได้อีก มีเพียงแต่เจ้าเท่านั้น ถึงจะพานางขึ้นสู่จุดนั้นได้..
และหากหญิงใด ได้ดื่มน้ำสวรรค์จากแท่งหยกของเจ้า ก็จะช่วยให้ร่างกายผิวพรรณเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย
ใบหน้าอ่อนเยาว์ หากเป็นผู้ฝึกยุทธ ก็จะได้รับพลังการฝึกปรือเพิ่มขึ้นด้วยแต่ก็เพิ่มไม่มากนัก…”
หลังอธิบายถามตอบกันอีกครู่ใหญ่ ยูอันก็ได้เล่าให้อาจารย์ทั้งสาม
ได้ฟังว่าตนเองทำงานอยู่ในสำนักคุ้มกันภัยตระกูลจาง โดยได้รับความช่วยเหลือจากคุณหนูจางเป็นอย่างดี
พอสามประหลาดชังโลก ได้ยินชื่อคุณหนูจางก็แอบสบตากันยิ้มๆแบบมีเลสนัย
เพราะต่างก็เคยได้ยินเสียงล่ำลือว่า สะคราญแห่งลี่เจียง จางซินถง มีความงดงามขนาดไหน
“เจ้ากลับไปที่สำนักคุ้มกันภัยเช่นเดิมก่อน…”ต้วนอู่คังพูดขึ้นหลังพูดคุยกันจบ
“การที่ได้อยู่ในสำนักคุ้มกันภัย จะช่วยให้เจ้าพบปะผู้คนหลากหลาย
จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าในภายหน้า .. พวกอาจารย์จะแยกย้ายกันออกทำธุระกันเล็กน้อย
อาจจะไม่ได้กลับมาที่ถ้ำอีกนาน …หากมีอะไรพวกเราจะไปหาเจ้าที่สำนักคุ้มกันภัยก็แล้วกัน…”
ต้วยอู่คังนัดแนะกับยูอัน
“อ้อ…ถ้ำแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากบึงมังกรดำมากนัก หากเจ้าจะพาหญิงสาว มา ฝึกลมปราณ
ก็พามาได้ ใช้ห้องด้านหน้าที่อยู่ใกล้ๆกับปากถ้ำ ห้องนั้นสามารถเก็บกักเสียงไว้ภายใน
เมื่อปิดประตูห้อง ให้เจ้าตะโกนลั่นในนั้น ต่อให้ยืนแอบฟังอยู่หน้าประตู
ก็จะไม่ได้ยินเสียงอะไรสักนิด พวกเราได้เตรียมเตียงขนาดใหญ่กับฝูกชั้นดีไว้ให้แล้ว
และหากเปิดประตูด้านหลังของห้อง ก็จะเป็นสระน้ำขนาดเล็กที่พวกเราได้สร้างไว้
น้ำก็เป็นน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก ที่เจ้าหมดสติอยู่นั่นละ ”
“พวกเราไม่ชอบมารยาทอันคร่ำครึ เจ้าไปได้แล้ว ”
ต้วนอู่คัง สั่งยูอันให้แต่งตัวและกลับไปสำนักคุ้มกันภัย
ยูอันก้มลงกราบอาจารย์ทั้งสาม ถึงแม้ทีแรกจะไม่ชอบหน้าอาจารย์ทั้งสามนัก
แต่หลังจากสนทนากันมาหนึ่งวัน ก็รับรู้ได้ว่าอาจารย์ทั้งสามมีความปรารถนาดีต่อตัวเองจริงๆ
ส่วนเรื่องจะเป็นโจรปล้นสวาทนั้น เป็นเรื่องของอนาคต หากเราไม่ปล้น สะอย่าง
ก็คงไม่ต้องเป็นโจร *-* แต่เรื่องความพิเศษของตัวเอง และยูน้อย ทบทวนแล้ว
มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย ก็โอเคๆ ยูอันคิดในใจ *-*
ขณะจะเดินพ้นจากปากถ้ำ ยูอันได้ยินเสียงอาจารย์สาม พูดออกมาว่า
“ศิษย์น้อยฟังให้ดี นับจากนี้หากเจ้าร่วมสัมพันธ์กับหญิงสาวครั้งแรก
เลือดของแดงน้อยกับเลือดตะพาบทะเลพันปี จะถูกกระตุ้นออกมา
ร่างกายของเจ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง อย่าตกใจไปละ ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เริ่มเข้มข้นขึ้นละตอนนี้ อยากยูนี่ ลมปราณคงขึ้นเอาๆ
ส่วนเครดิตคนเขียนให้ใช้ uuuu ครับ