ไร้เดียงสา ตอนที่ 1
ไร้เดียงสา ตอนที่ 1
สวัสดีครับ ผมมีชื่อว่าเดช เข้าออกคุกเป็นว่าเล่นเลยอ่ะครับ ล่าสุดติดไป แปดปี ในข้อหา ลักทรัพย์ และกระทำการชำเรา เพิ่งจะออกคุกมาได้ อาทิตย์หนึ่งแล้ว ยังหางานหาการไรทำไม่ได้เลยอ่ะครับ ไม่มีใครรับเข้าทำงาน เลยวันๆได้แต่เดินแตะฝุ่นไปเรื่อยๆ ญาติพี่น้องก็ไม่มี เมียก็หนี มีผัวใหม่ตั้งแต่ผมเข้าคุกได้ปีแรก ผมเลยอาศัยกินๆนอนๆอยู่ในวัด กรุงเทพไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั้น ผมเป็นคนค่อนข้างตัวใหญ่น่ะครับ สูง 180 ซม กล้ามเป็นมัดๆเลย เดินไปไหนก็มีแต่คนกลัว เพราะหนวดเครา และตัวที่ดำมะเมี่ยมละมั้ง เลยกลัวกัน ปีนี้ผมก็อายุ ย่างเข้า 45 แล้วครับ ก็ยังไม่แก่นะผมคิดว่างั้น
ผ่านไป 4 เดือนนับจากที่ออกจากคุกมาวันนี้ ผมได้งานแล้วล่ะครับ เป็นคนงานขับรถให้ท่านทูต แกรับผมเข้าทำงาน
เพราะความสงสาร และเห็นว่าผม หนักเอาเบาสู้ โดยได้รับการสนับสนุนจาก เหล่าบรรดา คนสวนในบ้านแกนั้นแหละที่รู้จักกับผม ในวงเหล้า ท่านทูตนี้ดีกับผมมากๆครับ แกมีเมียชื่อ คุณ ดาว เมียแกอายุน่าจะสัก 38 ได้ หน้าตายังดูเด็ก อยู่เลย สวยมากๆ ตอนผมเข้ามาทำงานวันแรกยังนึกว่าดาราเลย แต่ไม่กล้ามองมากเดี๋ยวโดนไล่ออก เลยได้แต่เหล่มอง นานๆที ไม่ให้รู้ตัว คุณดาวนี่เป็นแม่บ้านอยู่บ้านธรรมดาน่ะครับ คอยดูแลเรื่องในบ้าน ควบคุมดูแลเหล่าคนรับใช้ อีกสามสีชีวิตที่ทำงานบ้าน และเด็ดสุดที่ทำให้ผม รู้สึกโชคดี และกระชุ่มกระชวยที่ได้รับใช้คนในบ้านนี้คือ ครอบครัวนี้มีลูกสาวสองคนครับ คนโต น่าจะอายุ 26 แล้ว เพราะเห็นเรียนจบมาแล้วจากต่างประเทศ ตอนนี้ทำงาน ด้านการทูตเหมือนพ่อ ส่วนอีกคน น่าจะสัก 14 ปีเห็นจะได้ คนเล็กนี่กำลังเรียนอยู่ นานา ชาติ บอกตรงๆครับ ลูกสาวบ้านนี้ พิมพ์เดียวกับแม่เลย สวยหยาดเยิ้มจริงๆ ขาวยังกะหยวกกล้วย เอวเป็นเอว นมเป็นนม ก้นนี่ งอน เด้งลอยมาเลย เวลาใส่กางเกงยีนส์นี่สวยมาก ไอ้ผมก็ได้แต่มองไปวันๆน่ะครับเพราะมีหน้าที่ขับรถให้คุณท่านๆ ทั้งหลาย ขับไปรับส่งไปโรงเรียนบ้าง ไปที่ทำงานบ้าง แล้วแต่ท่านๆจะใช้น่ะครับ ผมก็ไม่กล้าคิดทะลึ่งอะไรหรอกครับที่เล่ามาเพราะคุณท่านทุกคนดีกับผมมาก ก็อย่างว่า ได้แต่มองแล้วก็รู้สึก กระปรี้กระเปร่าก็โอเคแล้วครับ
ตอนนี้ผมทำงานที่บ้านคุณท่านๆ ได้ครบ 1 ปีแล้วครับ ท่านชอบผมมากๆ เรื่องความไว้วางใจนี่ หายห่วงเพราะผมไม่เคยทุจริต ไม่เคยทำตัวเกเรให้เดือดร้อนใจสักครั้ง ขยันทำงาน วันนี้ก็เช่นกันครับ ท่านทูต กับคุณดาว อณุญาติให้ลูกสาวคนเล็ก ไปเที่ยวกับเพื่อนได้ โดยไปกันที่ หัวหิน ไปทั้งหมดก็ สี่คนครับโดยรวมตัวผมด้วย ก็มีคุณ ฟาง (ลูกสาวท่านทูต นายผม) คุณ แก้ว และคุณ หนิง เพื่อนๆของคุณ ฟางที่โรงเรียนนานาชาติ นั้นแหละ ทีแรกคุณ ฟาง แกขอไปกันเอง สามคน แต่คุณดาวแกไม่ยอมอ่ะครับ ต้องให้มีผู้ชายไปด้วยอันตราย และพ่อแม่ของคุณแก้ว และคุณ หนิง ก็เห็นด้วย เลยตกลงว่าต้องเอาผมไปขับรถให้ และดูแลเหล่าลูกๆของคุณท่านๆ ให้ดี ผมได้รับคำสั่งมาก็ดู หน้าชื่นตาบานด้วย เพราะจะได้ไปเที่ยวพักผ่อนด้วย และได้ใกล้ชิดกับคุณฟางด้วยเพราะ เวลาปกติผมไม่มีโอกาสได้คุยหรือ ไปไหนแบบนี้อยู่แล้ว เห็นเด็กแล้วใจมันกระปรี้กระเปร่าครับ ทริปไปเที่ยวครั้งนี้ไปกัน สองคืน ครับ ไปวันศุกร์ ตอนเย็นเลิกเรียน กลับ อาทิตย์
พอเย็นวันศุกร์ คุณฟางกับเพื่อนๆก็ขึ้นรถที่มีผมเป็นคนขับมุ่งหน้าสู่หัวหิน วันนี้คุณฟางสวยมากครับ อายุ 14 แล้ว ผมยาว รัดทรงหางม้า ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น อวดเรียวขา ที่เกลี้ยงเกลาและขาวจริงๆครับ เสื้อสีขาว เสื้อยืดธรรมดา แต่มันเข้ารูปน่ะครับ อืมม นมเป็นนมจริงๆ ผมเห็นแล้วยังลืนน้ำลายเอือ๊ก ใหญ่ๆ ส่วนเพื่อนๆ คุณ ฟาง คุณแก้วและคุณหนิง นี่ ความสวยและน่ารักไม่แพ้กันจริงๆ คุณหนิงจะดูออกจะ ขี้อายสุด ดูเป็นเด็กเรียบร้อยเอามากๆ ส่วนคุณ แก้วจะออก ห้าวๆแก่นๆหน่อย ผมขับรถไป ฟังที่คุณๆ เขาคุณกันไปที่เบาะหลัง ก็รู้เลยครับ ทั้งหมดยังไม่มีแฟนแน่ๆ เพราะดูท่าแล้ว ยังไม่ประสีประสา กันเท่าไรเลย ขับไปถึงหัวหินเป็นคอนโดน่ะครับ ของท่านทูต ชั้น 7 ริมชายหาด มีทั้งหมด สามห้องนอน 1 ห้องรับแขก กว้างยังกับบ้านดีๆนี่เองครับ มองอออกไปนอกระเบียงก็เห็นทะเลเลย ไปถึงก็ประมาณ 3 ทุ่มได้ครับ ผมช่วยยกกระเป๋าเสร็จ ไรเสร็จก็ทำท่าจะขอลา ออกไปหาที่พักข้างนอกครับ เพราะได้รับเงินมาจากคุณดาว แม่ของคุณหนูฟาง 3000 บาท ให้หาที่พักใกล้ๆกับคอนโดอยู่ต่างหาก
“ พี่เดช ค่ะ ฟางว่า พี่ไม่ต้องไปหาที่พักให้ยุ่งยากหรอก ก็นอนที่นี่ก็ได้นะ มีตั้งสามห้อง ยังไงพวกหนูก็นอนรวมห้องเดียวกันอยู่แล้วเหลืออีกตั้ง สองห้องแหนะ”คุณหนูฟางเสนอความคิดเห็น โดยมีเหล่าบรรดาเพื่อนๆ พยักหน้ารับ เห็นด้วย
“ แต่กระผมว่า หากคุณท่านทราบจะไม่เหมาะน่ะครับ และอีกอย่างคุณผู้หญิงก็ให้เงินค่าที่พักมาแล้ว 3000 บาท”
ผมกล่าวออกไปเพราะกลัวคุณท่านรู้เรื่องล่ะ กลายเป็นผมจะซวยเอาน่ะครับ
“ อืมม แล้วพี่เดชจะไปบอกคุณแม่ทำไมล่ะค่ะ ฟางไม่บอก เพื่อนฟางไม่บอก แล้วคุณแม่จะรู้ได้ไง และอีกอย่าง พี่เดชก็คิดเสียว่า เราเอาค่าขนมได้เพิ่มมาอีกตั้ง 3000 มากินหนมกันดีกว่า ดีกว่าไปเสียค่าห้องน่ะค่ะ ดีไหม??.” คุณหนูฟางเสนอไอเดีย ซึ่งจริงๆแล้วผมก็แอบดีใจจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ แต่ต้องแสร้งทำนิ่งๆ
. .” อืมมได้ครับ เรื่องนี้เป็นความลับนะครับไม่งั้นผมซวยแน่ๆ งั้น เดี๋ยวผมจะเอาเงิน 3000ค่าที่พักนี่เป็นกองกลางในการเที่ยวครั้งนี้นะครับ”
.” ได้เลยค่ะ พี่เดช เอาเป็นว่าตกลงกันตามนี้ งั้นคืนนี้ หนู แก้ว และหนิง จะนอนรวมกันในห้องนอนใหญ่นะค่ะ ส่วนพี่เดช ก็นอนห้องโน่นก็แล้วกันค่ะ มีอะไรเดี๋ยวหนูบอกก็แล้วกัน “
เป็นอันว่าคืนนี้ผมได้นอนที่คอนโด คืนแรกครับ อืมมสวรรค์ทรงโปรดจริงๆ ชาตินี้ได้มีวาสนา ได้นอนคอนโด เตียงนอนนุ่มๆ สีขาว ฟูกหนาเป็นศอก เปิดกระจกออกไปก็เจอระเบียง และทะเลเลย ผมยืนทออดอารมณ์รับลมเย็นๆอยู่ตรงระเบียงอย่างสบายอารมณ์
สวัสดีครับ ผมมีชื่อว่าเดช เข้าออกคุกเป็นว่าเล่นเลยอ่ะครับ ล่าสุดติดไป แปดปี ในข้อหา ลักทรัพย์ และกระทำการชำเรา เพิ่งจะออกคุกมาได้ อาทิตย์หนึ่งแล้ว ยังหางานหาการไรทำไม่ได้เลยอ่ะครับ ไม่มีใครรับเข้าทำงาน เลยวันๆได้แต่เดินแตะฝุ่นไปเรื่อยๆ ญาติพี่น้องก็ไม่มี เมียก็หนี มีผัวใหม่ตั้งแต่ผมเข้าคุกได้ปีแรก ผมเลยอาศัยกินๆนอนๆอยู่ในวัด กรุงเทพไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั้น ผมเป็นคนค่อนข้างตัวใหญ่น่ะครับ สูง 180 ซม กล้ามเป็นมัดๆเลย เดินไปไหนก็มีแต่คนกลัว เพราะหนวดเครา และตัวที่ดำมะเมี่ยมละมั้ง เลยกลัวกัน ปีนี้ผมก็อายุ ย่างเข้า 45 แล้วครับ ก็ยังไม่แก่นะผมคิดว่างั้น
ผ่านไป 4 เดือนนับจากที่ออกจากคุกมาวันนี้ ผมได้งานแล้วล่ะครับ เป็นคนงานขับรถให้ท่านทูต แกรับผมเข้าทำงาน
เพราะความสงสาร และเห็นว่าผม หนักเอาเบาสู้ โดยได้รับการสนับสนุนจาก เหล่าบรรดา คนสวนในบ้านแกนั้นแหละที่รู้จักกับผม ในวงเหล้า ท่านทูตนี้ดีกับผมมากๆครับ แกมีเมียชื่อ คุณ ดาว เมียแกอายุน่าจะสัก 38 ได้ หน้าตายังดูเด็ก อยู่เลย สวยมากๆ ตอนผมเข้ามาทำงานวันแรกยังนึกว่าดาราเลย แต่ไม่กล้ามองมากเดี๋ยวโดนไล่ออก เลยได้แต่เหล่มอง นานๆที ไม่ให้รู้ตัว คุณดาวนี่เป็นแม่บ้านอยู่บ้านธรรมดาน่ะครับ คอยดูแลเรื่องในบ้าน ควบคุมดูแลเหล่าคนรับใช้ อีกสามสีชีวิตที่ทำงานบ้าน และเด็ดสุดที่ทำให้ผม รู้สึกโชคดี และกระชุ่มกระชวยที่ได้รับใช้คนในบ้านนี้คือ ครอบครัวนี้มีลูกสาวสองคนครับ คนโต น่าจะอายุ 26 แล้ว เพราะเห็นเรียนจบมาแล้วจากต่างประเทศ ตอนนี้ทำงาน ด้านการทูตเหมือนพ่อ ส่วนอีกคน น่าจะสัก 14 ปีเห็นจะได้ คนเล็กนี่กำลังเรียนอยู่ นานา ชาติ บอกตรงๆครับ ลูกสาวบ้านนี้ พิมพ์เดียวกับแม่เลย สวยหยาดเยิ้มจริงๆ ขาวยังกะหยวกกล้วย เอวเป็นเอว นมเป็นนม ก้นนี่ งอน เด้งลอยมาเลย เวลาใส่กางเกงยีนส์นี่สวยมาก ไอ้ผมก็ได้แต่มองไปวันๆน่ะครับเพราะมีหน้าที่ขับรถให้คุณท่านๆ ทั้งหลาย ขับไปรับส่งไปโรงเรียนบ้าง ไปที่ทำงานบ้าง แล้วแต่ท่านๆจะใช้น่ะครับ ผมก็ไม่กล้าคิดทะลึ่งอะไรหรอกครับที่เล่ามาเพราะคุณท่านทุกคนดีกับผมมาก ก็อย่างว่า ได้แต่มองแล้วก็รู้สึก กระปรี้กระเปร่าก็โอเคแล้วครับ
ตอนนี้ผมทำงานที่บ้านคุณท่านๆ ได้ครบ 1 ปีแล้วครับ ท่านชอบผมมากๆ เรื่องความไว้วางใจนี่ หายห่วงเพราะผมไม่เคยทุจริต ไม่เคยทำตัวเกเรให้เดือดร้อนใจสักครั้ง ขยันทำงาน วันนี้ก็เช่นกันครับ ท่านทูต กับคุณดาว อณุญาติให้ลูกสาวคนเล็ก ไปเที่ยวกับเพื่อนได้ โดยไปกันที่ หัวหิน ไปทั้งหมดก็ สี่คนครับโดยรวมตัวผมด้วย ก็มีคุณ ฟาง (ลูกสาวท่านทูต นายผม) คุณ แก้ว และคุณ หนิง เพื่อนๆของคุณ ฟางที่โรงเรียนนานาชาติ นั้นแหละ ทีแรกคุณ ฟาง แกขอไปกันเอง สามคน แต่คุณดาวแกไม่ยอมอ่ะครับ ต้องให้มีผู้ชายไปด้วยอันตราย และพ่อแม่ของคุณแก้ว และคุณ หนิง ก็เห็นด้วย เลยตกลงว่าต้องเอาผมไปขับรถให้ และดูแลเหล่าลูกๆของคุณท่านๆ ให้ดี ผมได้รับคำสั่งมาก็ดู หน้าชื่นตาบานด้วย เพราะจะได้ไปเที่ยวพักผ่อนด้วย และได้ใกล้ชิดกับคุณฟางด้วยเพราะ เวลาปกติผมไม่มีโอกาสได้คุยหรือ ไปไหนแบบนี้อยู่แล้ว เห็นเด็กแล้วใจมันกระปรี้กระเปร่าครับ ทริปไปเที่ยวครั้งนี้ไปกัน สองคืน ครับ ไปวันศุกร์ ตอนเย็นเลิกเรียน กลับ อาทิตย์
พอเย็นวันศุกร์ คุณฟางกับเพื่อนๆก็ขึ้นรถที่มีผมเป็นคนขับมุ่งหน้าสู่หัวหิน วันนี้คุณฟางสวยมากครับ อายุ 14 แล้ว ผมยาว รัดทรงหางม้า ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น อวดเรียวขา ที่เกลี้ยงเกลาและขาวจริงๆครับ เสื้อสีขาว เสื้อยืดธรรมดา แต่มันเข้ารูปน่ะครับ อืมม นมเป็นนมจริงๆ ผมเห็นแล้วยังลืนน้ำลายเอือ๊ก ใหญ่ๆ ส่วนเพื่อนๆ คุณ ฟาง คุณแก้วและคุณหนิง นี่ ความสวยและน่ารักไม่แพ้กันจริงๆ คุณหนิงจะดูออกจะ ขี้อายสุด ดูเป็นเด็กเรียบร้อยเอามากๆ ส่วนคุณ แก้วจะออก ห้าวๆแก่นๆหน่อย ผมขับรถไป ฟังที่คุณๆ เขาคุณกันไปที่เบาะหลัง ก็รู้เลยครับ ทั้งหมดยังไม่มีแฟนแน่ๆ เพราะดูท่าแล้ว ยังไม่ประสีประสา กันเท่าไรเลย ขับไปถึงหัวหินเป็นคอนโดน่ะครับ ของท่านทูต ชั้น 7 ริมชายหาด มีทั้งหมด สามห้องนอน 1 ห้องรับแขก กว้างยังกับบ้านดีๆนี่เองครับ มองอออกไปนอกระเบียงก็เห็นทะเลเลย ไปถึงก็ประมาณ 3 ทุ่มได้ครับ ผมช่วยยกกระเป๋าเสร็จ ไรเสร็จก็ทำท่าจะขอลา ออกไปหาที่พักข้างนอกครับ เพราะได้รับเงินมาจากคุณดาว แม่ของคุณหนูฟาง 3000 บาท ให้หาที่พักใกล้ๆกับคอนโดอยู่ต่างหาก
“ พี่เดช ค่ะ ฟางว่า พี่ไม่ต้องไปหาที่พักให้ยุ่งยากหรอก ก็นอนที่นี่ก็ได้นะ มีตั้งสามห้อง ยังไงพวกหนูก็นอนรวมห้องเดียวกันอยู่แล้วเหลืออีกตั้ง สองห้องแหนะ”คุณหนูฟางเสนอความคิดเห็น โดยมีเหล่าบรรดาเพื่อนๆ พยักหน้ารับ เห็นด้วย
“ แต่กระผมว่า หากคุณท่านทราบจะไม่เหมาะน่ะครับ และอีกอย่างคุณผู้หญิงก็ให้เงินค่าที่พักมาแล้ว 3000 บาท”
ผมกล่าวออกไปเพราะกลัวคุณท่านรู้เรื่องล่ะ กลายเป็นผมจะซวยเอาน่ะครับ
“ อืมม แล้วพี่เดชจะไปบอกคุณแม่ทำไมล่ะค่ะ ฟางไม่บอก เพื่อนฟางไม่บอก แล้วคุณแม่จะรู้ได้ไง และอีกอย่าง พี่เดชก็คิดเสียว่า เราเอาค่าขนมได้เพิ่มมาอีกตั้ง 3000 มากินหนมกันดีกว่า ดีกว่าไปเสียค่าห้องน่ะค่ะ ดีไหม??.” คุณหนูฟางเสนอไอเดีย ซึ่งจริงๆแล้วผมก็แอบดีใจจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ แต่ต้องแสร้งทำนิ่งๆ
. .” อืมมได้ครับ เรื่องนี้เป็นความลับนะครับไม่งั้นผมซวยแน่ๆ งั้น เดี๋ยวผมจะเอาเงิน 3000ค่าที่พักนี่เป็นกองกลางในการเที่ยวครั้งนี้นะครับ”
.” ได้เลยค่ะ พี่เดช เอาเป็นว่าตกลงกันตามนี้ งั้นคืนนี้ หนู แก้ว และหนิง จะนอนรวมกันในห้องนอนใหญ่นะค่ะ ส่วนพี่เดช ก็นอนห้องโน่นก็แล้วกันค่ะ มีอะไรเดี๋ยวหนูบอกก็แล้วกัน “
เป็นอันว่าคืนนี้ผมได้นอนที่คอนโด คืนแรกครับ อืมมสวรรค์ทรงโปรดจริงๆ ชาตินี้ได้มีวาสนา ได้นอนคอนโด เตียงนอนนุ่มๆ สีขาว ฟูกหนาเป็นศอก เปิดกระจกออกไปก็เจอระเบียง และทะเลเลย ผมยืนทออดอารมณ์รับลมเย็นๆอยู่ตรงระเบียงอย่างสบายอารมณ์
