Lolita Mansion ตอนที่ 10.3
……………………………………………..
น้องรินะ น้องโทโทเอะและน้องมิซูกิกลับมาที่ห้องพักหลังจากน้องซายากะกลับไปไม่นานนัก สามสาวหยอกล้อผมอย่างสนุกสานเรื่องหีอันโหนกนูนของน้องซายากะและเรียกร้องให้ผมอธิบายความรู้สึกที่ควยผ่านเข้าไปสู่ความอวบแน่นของโหนกหี ทำเอาผมต้องแก้ข้อสงสัยเพื่อให้เมียทั้งสามของผมมั่นใจว่าหีของตัวเองมีคุณภาพไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าน้องซายากะแต่อย่างใด
หลังจากการร่วมรักยามเช้ากับสามสาว ผมรีบไล่ให้ทุกคนไปไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวดูประการังตามที่คุณสุพจน์ได้จัดโปรแกรมไว้ให้ วันนี้ทางรีสอร์ทได้จัดเรือเพื่อนำแขกที่มาพักไปชมประการังในท้องทะเล และจะปิดท้ายด้วยการแวะชมถ้ำมรกต ซึ่งเป็นถ้ำที่อยู่ภายในเกาะมุก มีหาดทรายทรงกลม
สวยงามอยู่ภายในแต่มีทางเข้าได้ทางเดียวคือต้องลอดภูเขาผ่านช่องทางน้ำเล็กๆ ทำให้สามารถเข้าไปได้เฉพาะเวลาน้ำลงเท่านั้น
ผมลงมาที่เรือนำเที่ยวลำใหญ่ของรีสอร์ทพร้อมกับน้องทั้งสามที่วันนี้สดใสอยู่ในชุดบิกินี่เช่นเคย เพียงแต่มีผ้าบาติกฝ้ายผืนใหญ่พันท่อนล่างไว้เพื่อไม่ให้เนินหีอวดตัวสู่สายตาผู้อื่นมากนัก แต่ความน่ารักของทั้งสามสาวก็ทำให้แขกที่มาคอยลงเรือต้องจับตามองด้วยความสนใจ ผมกวาดตามองไปดูเพื่อนร่วมทริปก็พบว่าทั้งหมดเป็นครอบครัวชาวเอเซีย จำนวนเพียง 20 คน ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวยิ้มแย้มแจ่มใสทำความรู้จักกับผมและน้องทั้งสามด้วยอัธยาศัยอันดี มีเพียงคู่หนุ่มสาวชาวฮ่องกงที่มาฮันนี่มูนเท่านั้นที่แยกตัวไปอยู่กันเพียงสองคนและแสดงความรักด้วยการกอดจูบตลอดเวลาโดยไม่สนใจสายตาผู้ร่วมทริป
ก่อนเรือออกเล็กน้อยร่างงามในชุดบิกินี่สีน้ำเงินเข้มของน้องรีน่าก็ขึ้นมาบนเรือพร้อมน้องซายากะที่วันนี้อยู่ในชุดบิกินี่สีแดงตัวเดิมที่ผมเห็นในตอนเช้า กริยาท่าทางของเด็กหญิงแจ่มใสขึ้นต่างกับเมื่อเย็นวานอย่างสิ้นเชิง น้องซายากะแยกจากน้องรีน่าแล้วถลาเข้ามาเข้ากลุ่มของน้องรินะอย่างรวดเร็ว ทำให้น้องริน่ามองตามมาด้วยสายตาแสดงความแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงของน้องสาว ผมแอบมองน้องรีน่าที่ตรงไปนั่งเก้าอี้พักผ่อนหัวเรือด้วยความชื่นชมความงามสมบูรณ์ของเด็กสาว แต่ก็อดคิดถึงหน้าอกคู่งามที่แกว่งไกวตามการเย็ดกับคุณสุพจน์เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้
คุณสุพจน์มาขึ้นเรือที่หลังสุดพร้อมน้องอิงค์และน้องพิงค์ เด็กหญิงทั้งสองอยู่ในชุดว่ายน้ำสีดำเหมือนกัน ต่างกันที่น้องอิงค์เป็นชุดวันพีซแต่น้องพิงค์สวมชุดสองชิ้นแบบสปอร์ต ใบหน้าที่ราวกับเด็กสาวของน้องพิงค์ดึงดูดสายตาทุกคนบนเรือให้หันมาดูราวกับนัดกันไว้แต่เด็กหญิงไม่สนใจและตรงเข้ามาหาน้องซายากะที่กำลังคุยกับกลุ่มน้องรินะ ไม่นานนักน้องพิงค์ก็เข้ากลุ่มได้อย่างสนิทสนม เสียงจ๊อกแจ๊กของกลุ่มเด็กหญิงดังขึ้นไม่ขาดระยะ
ผมแยกตัวไปหาคุณสุพจน์ที่ทำหน้าที่บังคับเรืออยู่ที่ด้านบน เพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ สนุกกันอย่างเต็มที่ คุณสุพจน์ยิ้มรับ บุ้ยใบ้ให้ผมจัดการกับวิสกี้ที่ตั้งอยู่เอง แล้วทักทายอย่างสนิทสนม
“คุณเอกดูเหนื่อยๆ นะ สงสัยจะหนักแน่เมื่อคืน”
ผมหัวเราะแล้วหันไปรินวิสกี้ดื่มเป็นเพื่อนคุณสุพจน์ และชวนคุยเรื่องการร่วมลงทุนในรีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งคุณสุพจน์ก็ตกลงใจที่จะรับให้ผมร่วมทุนและจะนัดหมายกับทนายความเพื่อทำสัญญากับผมต่อไป
เรือมาจอดที่เกาะไหง คุณสุพจน์จัดการนำเรือเล็กท้องแบนรับทุกคนไปดำน้ำดูประการัง ผมกับเด็กหญิงทั้ง 5 ดำน้ำชมความงามของประการังอ่อนอย่างเพลิดเพลิน ครู่หนึ่งน้องรินะก็ว่ายมาดึงผมแยกออกไปจากกลุ่มไกลพอสมควรแล้วชี้ให้ดูกอดอกไม้ทะเลที่น้องรินะไปพบเข้า ผมดำดูตามการชักชวน แต่น้องรินะไม่รู้ว่าหรอกตอนที่ผมดำลงไปนั้นจุดสนใจของผมอยู่ที่เนินหีอวบอิ่มในบิกินี่ที่งามกว่าดอกไม้ทะเลเป็นไหนๆ ผมเอื้อมมือไปคลึงเนินหีของน้องรินะใต้น้ำทำเอาน้องรินะสะดุ้งแล้วทุบผมเบาๆ
“บ้า..น้าเอกเนี่ย รินะจะให้น้าเอกดูดอกไม้ทะเล”
ผมกอดเอวคอดกิ่วของน้องรินะเข้าหาตัว มือหนึ่งควานแทรกลงไปในบิกินี่กุมหอยตัวงามไว้ในฝ่ามือแล้วคลึงมันไปมา
“น้าอยากกินหอยตัวนี้มากกว่า”
น้องรินะหน้าแดง แต่ไม่ห้ามปรามมือของผมที่กำลังรุกล้ำอยู่เบื้องล่างแต่อย่างใด ผมดึงร่างน้องรินะเข้ามากอดไว้เสื้อชูชีพที่สวมอยู่ทำให้ร่างของผมและน้องรินะลอยตัวอยู่กลางน้ำโดยไม่ต้องออกแรงว่าย น้องรินะครางออกมาเมื่อนิ้วผมเริ่มซุกเข้าไปสู่ความอบอุ่นของรูหีเพื่อหลบความเย็นของน้ำทะเล
“อูย..น้าเอก..อย่าแกล้งรินะสิ ที่นี่เย็ดกันไม่ได้เดี๋ยวรินะอารมณ์ค้างกันพอดี”
ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งเกี่ยวขอบกางเกงว่ายน้ำออกปล่อยให้แท่งควยที่กำลังแข็งปั๋งชูชันอยู่ใต้น้ำ มืออีกข้างหนึ่งถอนนิ้วออกออกจากรูหีเพื่อแหวกบิกินี่ท่อนล่างของน้องรินะออกทางด้านข้าง ยกขาน้องรินะขึ้นข้างหนึ่งมาเกี่ยวเอวผมไว้ แล้วดึงสะโพกกระทัดรัดเข้ามาหาจนหัวควยจ่ออยู่กับรูหีใต้น้ำทะเล
“ใครบอกว่าเย็ดกันไม่ได้…น้าจะเย็ดรินะจังเดี๋ยวนี้แหละ”
“อุ๊ย…น้าเอก..จะเย็ดจริงเหรอ..อูวส์..”
น้องรินะห่อปากครางออกมาเมื่อผมค่อยๆ ส่ายหัวควยกดลงไปในรูหีน้องรินะ แม้น้ำทะเลรอบข้างจะทำให้น้ำหล่อลื่นของน้องรินะกระจายออกไปบ้าง แต่เมื่อมันค่อยๆเข้าไปความคับแน่นของรูหีทำให้น้ำทะเลไม่สามารถแทรกเข้าไปได้ น้ำหล่อลื่นที่น้องรินะหลั่งออกมาจากความเสียวและความตื่นเต้นที่จะถูกเย็ดกลางทะเล ทำให้หัวควยสามารถบุกเข้าไปได้จนมิดโคน ผมเริ่มกระเด้าช้าๆ น้องรินะอัดร่างกายเข้ามากอดผมแน่นอัดสะโพกตอบโต้การกระเด้าอย่างลืมตัว
“อูวส์..น้าเอก…เสียวจัง..อึ๊ดดด…”
” ดีไหมรินะจัง น้าจะเร่งละนะ”
ผมบอกแล้วเริ่มกระเด้าถี่ขึ้น วงน้ำกระเพื่อมออกจากร่างของผมที่กอดกันแน่นกับน้องรินะเป็นระลอก การเย็ดกลางน้ำทั้งที่ลอยตัวท่ามกลางการซัดของคลื่นรอบข้างยิ่งเป็นการช่วยให้การกระเด้าเพิ่มความเร็วได้มากขึ้น ควยผมวิ่งเข้าออกรูหีน้องรินะถี่ยิบจนความเสียววิ่งจี๊ดมาที่ปลายควย น้องรินะหลับตาปี๋เร่งความเร็วตอบโต้การกระเด้าของผม จนร่างน้อยเกร็งตัวสะดุ้งแล้วอัดเนินหีไร้ขนเข้ากับควยผมนิ่ง ผมระเบิดน้ำรักอัดเข้าสู่รูหีอย่างแรงจนมันล้นทะลักออกมาและลอยขึ้นสู่ผิวน้ำเป็นสายรอบตัว น้องรินะซบหน้าลงกับเสื้อชูชีพผมแล้วครางยาว
“โอย…น้าเอก…มันสุดๆ ไปเลย”
ผมจับจมูกน้อยๆสั่นไปมา
“ต่ออีกทีไหมล่ะ…”
น้องรินะลืมตาขึ้นมองไปด้านหลังผมแล้วสั่นหน้า
“ต่อไม่ได้แล้วล่ะน้าเอก..พวกมิซูกิตามมาโน่นแล้ว”
ผมหันกลับไปมองเห็นร่างของเด็กหญิงทั้งสี่กำลังเคลื่อนเข้ามาหา น้องมิซูกิคงเห็นผมกอดน้องรินะอยู่กลางทะเลเลยกลัวว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น ผมรีบโบกมือให้แล้วถอยควยออกจากรูหี ปล่อยให้น้องรินะสูดลมหายใจลึกๆ แล้วว่ายไปหากลุ่มเพื่อนๆที่ตามมา ขณะว่ายกลับไปที่เรือ น้องโทโมเอะว่ายเข้ามากระซิบข้างหูผม
“น้าเอกนี่ร้ายนักนะ เย็ดรินะจังกลางทะเลเลย”
ผมหัวเราะลูบมือไปที่สะโพกอวบอัดของน้องโทโมเอะ
“โทโมเอะจังจะลองบ้างไหมล่ะ”
น้องโทโมเอะหน้าแดง แลบลิ้นแผลบหนึ่งแล้วรีบว่ายไปขึ้นเรือเพื่อรับประทานอาหารกลางวันและเตรียมเดินทางต่อไปยังเกาะมุกซึ่งเป็นตั้งของถ้ำมรกต
หลังอาหารกลางวันแบบบาร์บีคิวบนเรือ คุณสุพจน์ก็นำเรือมาเทียบที่เกาะมุกหน้าถ้ำมรกต ผมต้องแปลกใจเมื่อคุณสุพจน์ชี้ให้ดูทางเข้าที่เป็นโพรงเหนือผิวน้ำทะเลเพียง 2 เมตร คุณสุพจน์บอกว่าการที่จะมาเที่ยวชมต้องคำณวนเวลาน้ำขึ้นน้ำลงให้ดีก่อน เพราะถ้าน้ำขึ้นแล้วช่องทางเข้าจะถูกปิดจนกว่าน้ำจะลงอีกครั้งซึ่งต้องรออีกประมาณ 6 ชั่วโมง สำหรับคราวนี้คุณสุพจน์บอกว่าจะมีเวลาชมภายในอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่น้ำจะขึ้น
พนักงานนำเรือเล็กมารับทุกคนไปที่จุดหมาย ผมนึกสนุกเลยอาสาเป็นคนขับเรือให้เอง เรือลำนี้เป็นเรือท้องแบนกินน้ำตื้นความจุ 30 คนที่ปกติจะติดตั้งไว้ที่ท้ายเรือ ผมพิจารณาดูเรือเล็กแล้วนึกชมคุณสุพจน์ที่ไม่ละเลยเรื่องความปลอดภัย เพราะช่องเก็บของหัวเรือมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตครบถ้วน แม้กระทั้งแพชูชีพแบบกระโจมที่มีราคาแพงลิบก็ยังถูกนำมาเก็บไว้ด้วย ผมขับเรือเล็กด้วยความชำนาญมารับทุกคนและมุ่งหน้าเข้าไปที่ปากทางเข้าถ้ำ
เรือเล็กค่อยๆแล่นผ่านปากทางเข้าไปสู่ความมืดมิด ของถ้ำมรกต แสงไฟฉายประจำเรือส่องให้เห็นความงามของหินย้อยด้านบนที่ต่ำลงมาจนแทบกระทบศรีษะคนในเรือ ไกลออกไปประมาณ 30 เมตรปรากฏจุดแสงรางๆ ที่ค่อยๆเพิ่มขนาดขึ้นเมื่อเรือเข้าไปใกล้ จนในที่สุดเรือก็พาทุกคนเข้ามาอยู่ที่หาดทรายทรงกลมขาวสะอาดกว้างประมาณ 100 เมตร ที่ทุกด้านถูกล้อมไว้ด้วยหน้าผาสูงชัน นับเป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่ทำเอาทุกคนส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจและชื่นชม
ผู้ร่วมทริปทุกคนแยกย้ายกันไปชมความงามรอบๆ อย่าสงตื่นตาตื่นใจ ส่วนน้องรินะ น้องมิซูกิ และน้องโทโมเอะไปเล่นน้ำที่หาดทรายเล็กๆ อย่างสนุกสนาน แล้วกลับมานั่งเล่นกับผมที่เสื่อซึ่งผมปูไว้ที่โคนต้นไม้ใหญ่พร้อมเครื่องดื่มอาหารว่าง ใบหน้าน้องทั้งสามสดใสร่างเริงบอกถึงความสนุกสนานที่ได้รับจากการมาเที่ยวครั้งนี้ น้องรินะหยิบมันฝรั่งทอดใส่ปากแล้วบ่นดังๆ
“เสียดายจังพรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว”
ผมขยี้ผมที่เปียกชุ่มของน้องรินะอย่างเอ็นดู
“ไม่ต้องเสียดายหรอก น้าตกลงกับคุณสุพจน์แล้วว่าจะร่วมลงทุนที่รีสอร์ทนี่ อีกหน่อยอยากจะมาเมื่อไหร่ก็ได้”
น้องทั้งสามส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความดีใจ น้องโทโมเอะหันมาหาผมแล้วแกล้งพูดให้ร้องรินะได้ยินก่อนวิ่งหนี
“อย่างนี้โทโมเอะก็ต้องขอฝึกกับรินะแล้ว จะได้ดำน้ำกับน้าเอกได้คล่องๆ”
น้องรินะร้องกรี๊ดแล้ววิ่งไล่ตามน้องโทโมเอะออกไป ทิ้งให้น้องมิซูกิทำหน้างงๆ อยู่กับผม แต่ก่อนที่ผมจะอธิบายให้น้องมิซูกิฟังคุณสุพจน์ก็เดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“คุณเอกครับ เก็บของดีกว่าลมกำลังเปลี่ยน ท่าทางจะเกิดพายุที่แถบนี้ สงสัยต้องรีบกลับแล้วครับ”
ผมพยักหน้ารับแล้วสั่งให้น้องๆ รีบเก็บของ คุณสุพจน์ไปเรียกแขกทุกคนให้มารวมตัวกันที่เรือ ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มปรากฏเมฆดำและลมเริ่มพัดลงมาทำให้ทุกคนต้องตะลีตะลานเก็บของ แล้วขึ้นเรือกลับมาที่เรือใหญ่ทันที ด้านนอกคลื่นกำลังเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมรอจนทุกคนขึ้นไปหมดแล้วก็เตรียมหันเรือไปจอดเก็บทางด้านท้าย ทันใดนั้นก็มีเสียงกรี๊ดลั่นขึ้นมา ผมหันกลับไปมองเห็นน้องรีน่ากำลังตะโกนอะไรอยู่โดยมีคุณสุพจน์จับตัวไว้แน่น น้องมิซูกิรีบวิ่งมาทางท้ายเรือแล้วตะโกนบอกผม
“น้าเอก ซายากะจังกับน้องพิงค์ไม่ได้ขึ้นเรือมาด้วย”
ผมสะดุ้งด้วยความตกใจ การเร่งรีบกลับขึ้นเรือเพื่อหนีพายุทำให้ทุกคนลืมเช็คจำนวนคน และทิ้งให้น้องซายากะกับน้องพิงค์ตกค้างอยู่ ผมรีบหันหัวเรือโบกมือให้คุณสุพจน์แล้วเร่งเครื่องเรือเล็กกลับไปที่ปากถ้ำซึ่งกำลังมีน้ำสูงขึ้นทุกขณะจนเมื่อเรือเข้ามาในถ้ำผมต้องนอนรบกับพื้นเพื่อป้องกันมิให้ศีรษะตัวเองกระแทกกับหินย้อยด้านบน น้ำขึ้นสูงอย่างรวดเร็วจนผมต้องเร่งความเร็วเรือเต็มที่พุ่งเข้าไปยังหาดทรายด้านใน เมื่อพ้นปากทางเข้าผมรีบกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบร่างน้องซายากะกับน้องพิงค์กอดกันกลมอยู่ที่โคนต้นไม้ที่ผมเคยนั่ง ร่างทั้งสองวิ่งลงมาหาผมทันทีที่ได้ยินเสียงเรือแล้วกระโดดมากอดผมแน่น เสียงร้องไห้ดังออกมาไม่ขาดระยะ ผมพยายามทำเสียงให้ร่าเริงเพื่อปลอบใจน้องทั้งสอง
“ว่าไงพวกเราหนีเที่ยวที่ไหนมาจนตกเรือล่ะ…”
น้องพิงค์เงยหน้ามองผมแล้วตอบปนสะอื้น
“พิงค์ขอโทษ พิงค์พาซายากะไปดูถ้ำเล็กข้างใน นึกว่าจะอยู่ที่นี่ชั่วโมงหนึ่ง พอกลับออกมาก็ไม่มีใครเหลือแล้ว”
ผมลูบหัวน้องพิงค์อย่างเอ็นดูแล้วหันไปบอกน้องซายากะ
“เอ้า รีบขึ้นเรือเร็ว เดี๋ยวจะกลับไม่ทัน”
น้องทั้งสองรีบมาขึ้นเรือ แต่ก่อนที่ผมจะหันหัวเรือกลับน้ำก็ดันตัวเองขึ้นสูงจนท่วมปากทางด้านในและไม่มีทางที่ผมจะขับออกไปได้อีกนอกจากจะดำน้ำผ่านความมืดมิดเป็นระยะ 30 เมตรเพื่อออกไป ผมตะลึงมองดูระดับน้ำแล้วถอนใจ เพราะรู้ดีว่าต้องรออีก 6 ชั่วโมงกว่าปากถ้ำจะเปิดให้เรืออกไปได้ แต่ก็ยังเบาใจที่น้องซายากะและน้องพิงค์ปลอดภัยดี ผมรีบเปิดช่องเก็บของหัวเรือคว้าโทรศัพท์ฉุกเฉินอิริเดียมขึ้นมาต่อกับแบตเตอรี่และกดเรียกไปหาคุณสุพจน์ที่ยังคงรอผมอยู่บนเรือ
“คุณเอกเป็นไงบ้าง”
คุณสุพจน์ระล่ำระลักถามมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน ผมพยายามหัวเราะเพื่อไม่ให้น้องทั้งสองข้างๆ ผมตกใจ
“ไม่เป็นไรครับ น้องพิงค์กับซายากะปลอดภัยดี แต่ผมกลับออกไปไม่ได้เพราะถ้ำปิดแล้ว คุณสุพจน์พาทุกคนกลับไปที่รีสอร์ทก่อนเลยไม่ต้องห่วงผม หลบพายุไปก่อน พอพายุสงบค่อยกลับมารับผมไม่ต้องห่วง ในเรือเล็กมีถุงยังชีพ ไม่เป็นไรครับรับรอง”
คุณสุพจน์ถอนใจยาว ผมรู้ว่าคุณสุพจน์ต้องกลับไปรีสอร์ทจนกว่าพายุจะสงบอย่างไม่มีทางเลือกอื่น
“โอเคครับ เดี๋ยวพายุสงบแล้วผมจะรีบกลับมารับนะ”
“บอกน้องๆ ของผมด้วยนะครับว่าไม่ต้องห่วง ข้างในนี้ปลอดภัยดีไม่มีคลื่นลม ดีกว่าข้างนอกด้วยซ้ำไป”
คุณสุพจน์รับคำแล้วเลิกการติดต่อ ผมรีบเล่าสถานการให้น้องทั้งสองฟังว่าต้องติดอยู่ที่นี่จนกว่าพายุสงบ ซึ่งน่าแปลกใจที่น้องทั้งสองไม่ตกใจมากนักคงเป็นเพราะมีผู้ใหญ่อยู่ใกล้ๆ ผมบอกให้น้องซายากะและน้องพิงค์ลงจากเรือให้พาผมไปที่ถ้ำเล็กที่น้องพิงค์บอก เพื่อที่จะใช้หลบฝนแต่ปรากฏว่ามันเป็นถ้ำที่น้ำท่วมถึงและตอนนี้อยู่ใต้กระแสน้ำเรียบร้อยแล้ว ผมจึงต้องกลับมาที่เรือเล็กนำแพชูชีพออกมากางที่ใต้โคนไม้ต้นเดิมแล้วกระตุกปล่อยอากาศให้ขยายตัวจนเป็นแพพร้อมกระโจมที่มีไว้ป้องกันแสงแดดในทะเล แต่ตอนนี้ผมกลับใช้มันเป็นเครื่องป้องกันลมฝนแทน
เมื่อผมจัดตั้งแพเสร็จก็เป็นเวลากว่าหกโมงเย็น ฝนที่กระหน่ำอย่างหนักทำให้รอบด้านมืดสนิท มีเพียงแสงสว่างจากโคมแบตเตอรี่ประจำเรือเท่านั้นที่ทำให้ผมพอมองเห็นรอบด้านได้ ผมไล่ให้น้องทั้งสองเข้าไปหลบฝนในกระโจมแล้วกลับไปเอาถุงยังชีพจากเรือเล็กซึ่งมีทั้งอาหารแห้งและน้ำดื่ม ก่อนจะกลับออกมาผมเห็นกระเป๋าพลาสติคใบหนึ่งที่ผมจำได้ว่าเป็นของน้องมิซูกิวางทิ้งอยู่ที่ท้องเรือจึงคว้าเอามาด้วยกัน เมื่อผมกลับเข้ามาก็พบว่าน้องทั้งสองกอดกันแน่นด้วยความหนาวเนื่องจากทั้งคู่อยู่ในชุดว่ายน้ำบิกินี่ที่แทบป้องกันความเย็นไม่ได้เลย
ผมปิดไฟแล้วก้าวเข้าไปในแพ ดึงผ้ากระโจมปิดล็อกไว้ทำให้ฝนสาดเข้ามาไม่ได้ ภายในกระโจมสามารถบรรจุคนได้ 5-6 คนโดยไม่เบียดเสียดทำให้มีที่ว่างมากสำหรับการเคลื่อนไหวของคนสามคน ผมจัดวางเครื่องยังชีพไว้มุมหนึ่ง ท่ามกลางเสียงฟันกระทบกันของน้องซายากะและน้องพิงค์ดังต่อเนื่องในสภาพนี้ผมรู้ว่าถ้าปล่อยให้ร่างกายขาดความอบอุ่นจะทำให้เกิดอาการไข้หนักลุกลามตามมาแน่นอน ผมรีบเปิดกระเป๋าน้องมิซูกิดูว่ามีเสื้อผ้าแห้งๆ ติดมาด้วยหรือไม่แต่ต้องผิดหวังเพราะมีเพียงผ้าเช็ดตัวชายหาดผืนใหญ่บรรจุอยู่เพียงผืนเดียว ผมถอนใจแล้วตัดสินใจบอกน้องทั้งสองด้วยเสียงจริงจัง
“ซายากะจัง น้องพิงค์ ถอดชุดว่ายน้ำออกซะ”
“น้าเอก!!!!”
เสียงน้องทั้งสองอุทานพร้อมกัน ผมรีบบอกต่อก่อนจะเข้าใจผิด
“ถอดชุดที่เปียกมาให้น้าตากทางด้านนี้ ตอนนี้ซายากะจังกับน้องพิงค์จะใส่เสื้อผ้าเปียกไม่ได้ ต้องให้ร่างกายแห้งโดยเร็วที่สุดไม่งั้นไม่สบายแน่ อย่ามัวแต่อายตอนนี้มืดสนิทน้ามองไม่เห็นหรอก ชีวิตสำคัญกว่านะ”
น้องซายากะกับน้องพิงค์เงียบลง มีเสียงสวบสาบที่บอกให้รู้ว่าทั้งสองคนถอดชุดว่ายน้ำหมดแล้ว
“เอ้า ส่งมาให้น้าทางนี้”
ผมบอกแล้วยื่นมือไปรับชุดของน้องพิงค์ที่ส่งถึงมือผมพอดีในความมืด ผมกวาดมือไปรับชุดของน้องซายากะแต่กลับกระทบหน้าอกเต่งของน้องซายากะเข้าเต็มที่ แทน น้องซายากะไม่ส่งเสียงอะไรแต่คว้ามือผมไว้แล้วเอาชุดว่ายน้ำทั้งสองชิ้นมายัดให้ ผมเอาผ้าที่เปียกโชกทั้งสี่ชิ้นไปผึ่งรวมกันที่ถุงยังชีพแล้วถอดเสื้อผ้าของผมเองออกบ้าง แล้วส่งผ้าเช็ดตัวให้น้องทั้งสองเช็ดผมและร่างกายให้แห้งสนิท
เสียงฟันกระทบกันยังดังไม่หยุดทำให้ผมต้องถามน้องทั้งสองด้วยความกังวล
“น้องพิงค์ ซายากะจัง หนาวมากไหม”
เสียงตอบมาสั่นระริก
“พิงค์หนาวจังเลยน้าเอก”
“ซายากะก็หนาวจนทนไม่ไหวแล้วน้าเอก”
ผมตัดสินใจคลานเข้าไประหว่างกลางเด็กหญิงทั้งสองท่ามกลางความมืด เพื่อคว้าร่างกายเปล่าเปลือยทั้งสองมากอดไว้คนละข้างก่อนเอนตัวลงนอนโดยให้ทั้งสองคนกอดร่างกายผมไว้ในท่าตะแคง แล้วรีบเอาผ้าเช็ดตัวคลุมไว้ด้านบนเพื่อป้องกันความเย็น น้องพิงค์สะดุ้งตัวแข็งเมื่อผมดึงร่างน้อยเข้ามากอดแต่ไม่ขัดขืน ส่วนน้องซายากะร้องออกมาเบาๆ เมื่อผมดึงร่างเข้ามาแต่ก็ยอมล้มตัวลงนอนเคียงข้างกอดผมไว้แน่นเช่นกันโดยไม่แสดงอาการต่อต้าน ผมรีบพูดเบาๆ กับน้องทั้งสอง
“ขอโทษนะที่น่าต้องกอดพวกเราไว้แบบนี้ ถ้าไม่แบ่งความอุ่นให้กัน ทั้งหมดคงต้านความหนาวไม่ได้แน่ นี่ถ้าไม่มีฝนน้ายังพอใช้ผ้าใบกระโจมคลุมได้ ผ้าเช็ดตัวก็มีผืนเดียวตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกอดกันไว้แบบนี้ พวกเราเข้าใจนะ”
เสียงน้องทั้งสองรับคำพร้อมกันเบาๆ ผมกอดน้องทั้งสองไว้แน่น ความอบอุ่นเริ่มถ่ายเทระหว่างกันจนร่างที่สั่นสะท้านของน้องพิงค์ผ่อนคลายลงทีละน้อย เช่นเดียวกับน้องซายากะที่เสียงฟันกระทบหยุดไป แม้ผมจะรับรู้ว่ามีร่างเปลือยที่งดงามของสาวน้อยสองคนอยู่ในอ้อมกอด แต่ความกังวลต่อความหนาวเย็นที่คุกคามภายนอกทำให้ผมไม่คิดถึงเรื่องอื่นนอกจากจะทำอย่างไรให้ร่างกายอบอุ่นได้มากที่สุด เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงไอตัวของผมและน้องทั้งสามคนกระจายออกไปใต้ผ้าเช็ดตัวและแผ่ออกไปในกระโจมจนมีอุณหภูมิที่พิ่มขึ้นพร้อมกับเสียงฝนที่เริ่มซาลง ผมลองกระซิบเรียกน้องทั้งสองเบาๆ แต่ไม่มีเสียงตอบ ทำให้ผมรู้ว่าน้องซายากะและน้องพิงค์คงหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน เมื่อวิกฤตคลายลงร่างกายผมเริ่มรับรู้ถึงร่างเปลือยของสองเด็กหญิงที่ตะแคงตัวกอดผมไว้ทั้งสองด้าน
น้องพิงค์ซุกหน้าเข้ากับต้นแขนผม แขนข้างหนึ่งพาดอยู่ที่หน้าอก ขาขวายกขึ้นก่ายต้นขาแต่สะโพกห่างออกไปทำให้เนินหีไม่ได้สัมผัสกับร่างกายผม ส่วนน้องซายากะใบหน้าซุกเข้ามาที่ซอกคอผมส่งลมหายใจอบอุ่นหอมกรุ่นออกมาสัมผัสแก้มผมอย่างต่อเนื่อง หน้าอกกระทัดรัดของน้องซายากะเบียดแน่นอยู่กับต้นแขนจนสัมผัสได้ถึงความเต่งตึงเมื่อผมพยายามขยับแขนเล็กน้อย ขาเรียวตรงของน้องซายากะยกขึ้นก่ายสะโพกผมไว้ หัวเข่าเบียดชิดควยผมที่กำลังเริ่มตื่นตัว อัดโคกหีมหึมาที่ผมเพิ่งพรากความสาวของมันไปเมื่อคืนที่ผ่านมากดแน่นอยู่กับสะโพกด้านข้างของผม สัมผัสของน้องทั้งสองทำให้ควยผมเริ่มพองตัวอย่างรวดเร็วจนลอดพ้นขอบผ้าเช็ดตัวที่ห่มร่างทั้งหมดไว้ขึ้นมาชูชันเรียกร้องให้ผมผู้เป็นเจ้าของหาทางช่วยเหลือ
ผมถอนใจเมื่อนึกถึงกำหนดนัดระหว่างผมกับน้องซายากะคืนนี้ ที่กลับกลายมาเป็นการติดค้างอยู่พร้อมกับน้องพิงค์ ทำให้ผมหมดโอกาสที่จะร่วมรักกับน้องซายากะเป็นครั้งที่สอง ขณะที่ผมกำลังตัดสินใจว่าจะลุกขึ้นเพื่อไปเตรียมอาหารจากถุงยังชีพให้เด็กหญิงทั้งสอง มือน้อยของน้องซายากะบนอกผมก็เริ่มเคลื่อนไหวลูบไปมา ผมหันหน้าไปกระซิบที่ข้างหูน้องซายากะเบาๆ
“ซายากะจังตื่นแล้วหรือ ยังหนาวไหม”
น้องซายากะกระซิบตอบข้างหูผมในความมืด
“ไม่หนาวแล้วน้าเอก กอดน้าเอกไว้อุ่นดีจังเลย”
“แล้วซายากะจังหิวหรือยัง น้าจะไปเตรียมอาหารให้ดีไหม”
มือน้อยๆของน้องซายากะเคลื่อนต่ำลงไปเบื้องล่างเมื่อกระทบแท่งควยผมที่กำลังแข็งปั๋งก็ร้องอุทานเบาๆ คำหนึ่งแล้วกุมควยผมไว้แน่น ส่งเสียงเบาๆ
“ซายากะอยากกินนี่มากกว่า”
สัมผัสที่อบอุ่นจากมือน้อยๆของน้องซายากะยิ่งทำให้ควยผมแข็งราวกับจะระเบิดออก ผมค่อยๆแทรกมือลงไปที่สะโพกสู่เนินหีที่อัดแน่นอยู่เบื้องล่าง น้องซายากะขยับสะโพกออกเปิดช่องว่างให้ผมแทรกลงไปกุมเนินหีที่โหนกนูนโดดเด่นไว้เต็มฝ่ามือ ผมลูบไล้มันไปมาอย่างตื่นใจกับขนาดและความอวบตึงยืดหยุ่น เสียงน้องซายากะครางแผ่ว
“อูวส์…น้าเอก ดีจังเลย”
ผมค่อยๆขยับตัวจากร่างน้องพิงค์จนพ้นการกอดด้านข้างแล้วพลิกตัวเข้าหาน้องซายากะในท่าตะแคง ผมใช้ริมฝีปากควานใบหน้าของน้องซายากะจนพบกับริมฝีปากน้องซายากะที่เผยอรอรับอยู่ เพียงผมประทับริมฝีปากลงไปน้องซายากะก็สะดุ้งเฮือก สองแขนกอดรอบคอผมแน่นกดอัดริมฝีปากบดเบียดกับปากผมแนบแน่น ผมส่งลิ้นผ่านไรฟันที่อ้าออกไปเกี่ยวพันกับลิ้นของน้องซายากะที่โต้ตอบแลกลิ้นอย่างชำนาญ จนผมอดคิดไม่ได้ว่าทำไมน้องซายากะจึงจูบเก่งขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งผ่านการเย็ดครั้งแรกกับผมเมื่อวานนี้เอง แต่ผมรีบปัดความสงสัยออกไปและเพลิดเพลินไปกับความหอมกรุ่นจากปากของสาวน้อยเบื้องหน้า
หน้าอกกระทัดรัดของน้องซายากะส่ายบดเบียดกับหน้าอกผมแน่นจนรู้สึกได้ถึงหัวนมชูชันที่กำลังแข็งปั๋ง ผมใช้มืออีกข้างที่ว่างจากการเค้นคลึงเนินหีเบื้องล่าง มาลูบไล้นมคู่น้อยที่แสนนุ่มนวลพร้อมกับบี้คลึงหัวนมไปมา ร่างน้องซายากะบิดส่ายตามการปลุกเร้าอารมณ์พร้อมกันทั้งสามทาง สองแขนโอบรัดผมแน่นยิ่งขึ้นส่งเสียงครางอู้อี้ในลำคอดังขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องถอนปากแล้วกระซิบข้างหู
“ซายากะจังอย่าส่งเสียงนะ เดี๋ยวน้องพิงค์ตื่น”
ก่อนที่น้องซายากะจะตอบรับ ผมก็เลื่อนตัวลงมาผ่านทรวงอกคู่งามที่ผมกำลังใช้มือนวดเฟ้น สู่ลานหน้าท้องราบเรียบผ่านลงไปที่จุดหมายเบื้องล่างซึ่งผมตั้งใจว่าจะไม่ยอมพลาดโอกาสชิมรสชาติของโหนกหีที่แสนอัศจรรย์นี้อย่างแน่นอน เพียงผมซุกหน้าลงสู่โหนกหีสะโพกน้องซายากะก็ยกสูงขึ้นอัดโคกนูนเข้ากับใบหน้าผม ความอวบหยุ่นที่สะท้อนราวกับมีสปริงและกลิ่นที่หอมอ่อนๆ ปนกลิ่นคาวจากน้ำหล่อลื่นที่เกิดจากการปลุกเร้าของนิ้วผมที่ผ่านมา ทำเอาผมอดใจไม่ไหวที่จะประกบปากอมเนินนูนนั้นไว้ทั้งลูก ลิ้นไต่ไปมาตามขอบฐานที่ยกสูงของมันแล้วฉกผ่านสองแคมอวบเข้าสู่การขมิบรับภายใน ผมเลื่อนใบหน้าลงจนปลายจมูกกดอยู่กับติ่งเสียวเหนือปากทางเข้ารูหีแล้วใช้มันคลึงติ่งเสียวไปมาพร้อมกับส่งลิ้นเข้าควานรับรสของน้ำสวรรค์ภายในที่ทะลักทะลายออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“อี๊ดดดดดดดดด”
เสียงกัดฟันของน้องซายากะดังมาจนผมได้ยินชัดเจน น้องซายากะกำลังกลั้นการส่งเสียงครางอย่างที่สุด ทั้งที่ความเสียวที่เกิดจากจมูกและปลายลิ้นผมกำลังโจมตีอย่างรุนแรง ผมเร่งรัวลิ้นถี่ยิบจนสะโพกของน้องซายากะกระดอนขึ้นลงก่อนที่จะเเกร็งตัวค้างแคมสองข้างขมิบปลายลิ้นของผมถี่ๆ แล้วคลายตัวลงทีละน้อย น้องซายากะทิ้งสะโพกลงกับพื้นถอนใจยาวออกมา ผมเคลื่อนตัวกลับไปที่ด้านบนจูบปากน้อยๆ ก่อนยกขาน้องซายากะข้างหนึ่งขึ้นมาค้างที่สะโพกผม แท่งควยจ่อเข้ากับปากรูหีที่ฉ่ำเยิ้มผมค่อยๆกดมันผ่านลงไปในแคมอวบช้าๆ กล้ามเนื้อทุกส่วนของน้องซายากะในอ้อมกอดของผมเกร็งตัวรับการบุกรุกจนผมรู้สึกได้ จนผมต้องคลึงเค้นเต้านมคู่งามเพื่อผ่อนคลายการเกร็งตัวของน้องซายากะ ครู่หนึ่งการเกร็งตัวก็เริ่มลดลงน้องซายากะเริ่มแลกลิ้นกับผมอย่างรุนแรง ผมค่อยๆ กดหัวควยผ่านม่านหลืบที่รัดรึงในช่องหีลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุดหนอกควยของผมก็อัดแน่นอยู่กับความหยุ่นสะท้อนของโหนกหีน้องซายากะ
“อูว์…คับไปหมดเลยน้าเอก”
น้องซายากะถอนจูบออกแล้วกระซิบแผ่วๆ ข้างหูผม
“ซายากะจังยังเจ็บอยู่ไหม”
ผมกระซิบถามในระดับเสียงเดียวกันด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บนิดๆ น้าเอก แต่มันเสียวมากกว่า…มันดีกว่าเมื่อคืนเยอะเลย….อ๊าวส์”
น้องซายากะครางยาวเมื่อผมดึงควยออกมาเล็กน้อยแล้วกดกลับลงไป การดูดรัดของรูหีที่ราวกับวังน้ำวนซึ่งดูดทุกอย่างลงไปสู่ความลับเบื้องล่าง ทำเอาน้ำรักผมกระฉูดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ มันทะลักพรวดออกมาจนเอ่อนองล้นรูหี ถ้าเป็นคนธรรมดาการหลั่งแบบนี้คงทำให้หมดแรงและหยุดการเย็ดชั่วคราว แต่ผมเพียงหยุดรับความเสียวสุดยอดไว้ครู่เดียวก่อนเริ่มกระเด้าใหม่อีกครั้งถี่ยิบ น้ำรักของผมเพิ่มการหล่อลื่นจนควยวิ่งเข้าออกช่องหีของน้องซายากะได้อย่างสะดวก โคกหีหีอวบนูนของน้องซายากะโชว์คุณลักษณะพิเศษของมันออกมาอย่างเต็มที่ ยิ่งผมกระเด้าแรงเท่าไหร่โคกนูนจะส่งแรงสะท้อนตอบโต้เพิ่มขึ้นเท่านั้น จนราวกับเป็นการกระเด้าบนเตียงสปริงชั้นดี ผมกัดฟันรับความเสียวที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่น้องซายากะก็บิดร่างไปมาสองมือจิกแผ่นหลังของผมแน่น เสียงครางลั่นของน้องซายากะดังขึ้นข้างหูผม
“โอ๊ย…นะ น้า..เอก..ซะ ซายากะ…อ๊าส์”
ภายในรูหีส่วนลึกที่สุดของน้องซายากะตอดหัวควยผมถี่ๆ กล้ามเนื้อรูหีทั้งหมดหดเกร็งตัวแน่นบีดรัดจนผมต้องทะลักน้ำเสียวออกมาอีกครั้ง มันพุ่งกระฉูดอย่างแรงอัดตรงสู่มดลูกจนน้องซายากะสะท้านไปทั้งร่าง ร่างน้อยเบียดอัดโคกหีเข้ากับผมแน่นสนิท แล้วค่อยๆ คลายตัวลงทีละน้อย เสียงครางที่ดังลั่นของน้องซายากะเมื่อถึงจุดสุดยอด ทำให้ผมอดกังวลไม่ได้ว่าจะเป็นการปลุกน้องพิงค์ที่หลับอยู่ข้างๆให้ตื่น แต่เมื่อทุกอย่างสงบลงเสียงลมหายใจของน้องพิงค์ยังคงดังอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผมแน่ใจว่าเด็กหญิงยังคงหลับอยู่และไม่ถูกรบกวนจากการเย็ดที่รุนแรงข้างๆ
ผมลูบไล้ร่างกายนุ่มนวลของน้องซายากะไปมา กระซิบถามแบบล้อๆ
“ดีกว่าเมื่อคืนไหมซายากะจัง”
น้องซายากะซุกหน้าแน่นกับอกผม
“ไม่รู้แล้ว …น้าเอกล้อซายากะเรื่อยเลย”
“ไม่รู้ได้ไง เมื่อกี้ครางลั่นเชียว ดีนะที่น้องพิงค์ไม่ตื่นน่ะ”
ผมกระเซ้าน้องซายากะ ก่อนที่จะผมค่อยๆ ถอนควยออกจากร่าง น้ำรักที่ออกมาติดต่อกันเปียกพื้นยางของแพช่วยชีวิตจนลื่นไปหมด ผมกระซิบถามน้องซายากะเบาๆ
“หิวหรือยัง เดี๋ยวน้าเตรียมอาหารให้นะ”
“อื้อ” น้องซายากะรับคำ
ผมขยับตัวไปที่ถุงยังชีพแล้วเปิดโคมไฟ แสงสว่างที่เกิดขึ้นหลังจากอยู่ในความมืดมานานทำให้ผมตาพร่าไปเล็กน้อย ผมหยิบถุงยังชีพแล้วหันกลับมาหาน้องซายากะเพื่อเตรียมอาหาร ร่างน้องซายากะเปล่าเปลือยงดงามอยู่ในแสงสว่างของโคม ใบหน้าสวยหวานแบบหมวยเป็นสีแดงเข้มเมื่อเห็นผมจ้องร่างเปลือยอย่างชื่นชม หน้าอกคู่งามเป็นพวงน้อยๆ ประดับด้วยเม็ดทับทิมสีชมพูบนยอด เนินหีเบื้องล่างยังคงมีน้ำรักที่ผมฝากเอาไว้ไหลออกมาเป็นระยะ ภาพเบื้องหน้าคือภาพของเด็กหญิงที่เพิ่งเสร็จจากการร่วมรักที่งดงามจนผมแน่ใจว่ามันจะเป็นภาพที่ประทับไว้ในใจผมโดยไม่มีวันลืมเลือน
น้องซายากะก้มหน้าพูดเบาๆ
“น้าเอกน่ะ..มองอะไร ซายากะอายนะ”
ผมหัวเราะเบาๆ ขยับดึงร่างน้อยเข้ามากอด จูบปากหนักๆ ครั้งหนึ่งก่อนตอบ
“น้ารักซายากะจังนะ..”
น้องซายากะกอดตอบผม
“ซายากะก็รักน้าเอก”
มือผมคลึงเคล้นหน้าอกคู่น้อยไปมาอีกครั้งน้องซายากะสั่นหัวดิก
“พอก่อนนะน้าเอกซายากะขอพักก่อน น้าเอกเย็ดน้องพิงค์ดีกว่า”
ผมสะดุ้งกับคำพุดของน้องซายากะ
“ไม่ไหวหรอกซายากะจัง น้องพิงค์เพิ่ง 9 ขวบเอง”
น้องซายากะหัวเราะกิ๊ก ถอยร่างออกจากผมไปหาน้องพิงค์ที่นอนตะแคงตัวอยู่ข้างๆ แล้วผลักร่างเด็กหญิงเบาๆ ให้นอนหงาย ทำให้ผมเห็นร่างเปลือยของน้องพิงค์เต็มตาเป็นครั้งแรก กระจ่างชัดอยู่ท่ามกลางแสงไฟโคม
ใบหน้าที่งดงามรวมกับหญิงสาวของน้องพิงค์หลับตาสนิท แม้จะไม่เห็นดวงตาคู่งามที่ดึงดูดสายตาผู้ชายทุกคน แต่ใบหน้านั้นก็ยังคงความงามที่สมบูรณ์ไว้อย่างครบถ้วน ริมฝีปากอิ่มเยอขึ้นเล็กน้อยราวกับรอการจูบจากผู้โชคดีที่น้องพิงค์เลือก ยิ่งเพิ่มความเย้ายวนจนผมไม่แปลกใจเลยที่แม้กระทั่งคุณสุพจน์ผู้เป็นพ่อเองก็แทบจะคุมอารมณ์รักไม่ได้ จนเกือบร่วมรักกับลูกสาวตนเอง
แต่เมื่อไล่สายตาลงมาที่ร่างกาย น้องพิงค์กลับเป็นเด็กหญิงอายุ 9 ขวบที่แบบบาง หน้าอกราบเรียบราวกับเด็กผู้ชายมีเพียงเม็ดยอดของหัวนมสีน้ำตาลเท่านั้นที่เป็นลูกกลมบ่งบอกยืนยันว่าเป็นหน้าอกของเด็กหญิงที่กำลังรอวันเจริญเติบโตเป็นทรวงอกที่สมบูรณ์ในวันข้างหน้า ช่วงเอวของน้องพิงค์แทบจะเป็นเส้นตรงมีส่วนเว้าที่เอวเพียงเล็กน้อย ต่ำลงมาที่สะโพกเนินหีน้อยสีน้ำตาลอ่อนยังแนบตัวอยู่กับโหนกเนื้อที่ราบเรียบ ไม่มีสัญญานใดบ่งบอกถึงความพร้อมในการเจริญพันธ์ มันเป็นเพียงหีที่งดงามของเด็กหญิงที่อยู่ในระหว่างรอเวลาพัฒนาการให้อวบอิ่มขึ้นจนสามารถรองรับการร่วมเพศได้ในอนาคตแต่ตอนนี้มันยังคงมีสถานะเป็นช่องทางขับถ่ายเท่านั้น สิ่งที่งดงามที่สุดบนร่างกานของน้องพิงค์กลับเป็นลำขาที่เรียวตรงมีเนื้อหนังสมบูรณ์ โคนขาอ่อนชิดกันปราศจากช่องว่างผิวเนื้อของลำขาใสจนเห็นเส้นเลือดกระจายอยู่ภายใต้ความนุ่มเนียน นี่เป็นลำขาที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชายทุกคนได้นอกเหนือจากใบหน้าที่แสนงดงามของน้องพิงค์
น้องซายากะจับตามองผมพิจารณาร่างเปลือยของน้องพิงค์อย่างเงียบๆ แล้วพูดเบาๆ
“น้องพิงค์สวยไหมน้าเอก”
ผมพยักหน้ารับ
“น้องพิงค์สวยมาก แต่คงต้องรออักสักหน่อยนะซายากะจัง ตอนนี้น้องพิงค์ยังเย็ดไม่ได้หรอก ดูที่หีน้องพิงค์สิ ยังเล็กนิดเดียวรับควยผู้ชายไม่ได้แน่”
น้องซายากะหัวเราะ…
“น้าเอกยังไม่รู้ความลับของน้องพิงค์เหมือนที่ซายากะรู้..”
“ความลับ”
ผมทวนคำพูดน้องซายากะ งงเล็กน้อย
น้องซายากะอมยิ้ม ทรุดตัวลงก้มศีรษะไปที่เนินหีของน้องพิงค์ แล้วจูบเบาๆ ก่อนที่จะไล้ปลายลิ้นเรียวไปตามร่องหีเล็กๆ สองมือน้องซายากะสอดเข้าใต้สะโพกน้องพิงค์แล้วฝังใบหน้าลงกับพลูหีเคล้นคลึงไปมาหนักๆ น้องพิงค์สะดุ้งเฮือกลืมตาโพลงร้องอุทานออกมา
“ซายากะจัง…อุ๊ย..น้าเอก”
น้องพิงค์ร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นผมกำลังเฝ้าดูน้องซายากะแสดงบทรักกับน้องพิงค์ สองมือพยายามผลักใบหน้าน้องซายากะที่ฝังอยู่กับเนินหีออก น้องซายากะเงยหน้าขึ้นแล้วเลื่อนตัวขึ้นทับร่างน้องพิงค์ไว้ แต่สองมือเลื่อนไปเคล้นคลึงเนินหีลากนิ้วไปมาตามร่องน้อย
“น้องพิงค์ไม่ต้องอายนะ..เดี๋ยวน้าเอกจะช่วยเย็ดน้องพิงค์ไง ไม่ต้องรอให้ซายากะพาไปหาน้าเอกหรอก”
น้องซายากะบอกน้องพิงค์ ที่กำลังหย้าแดงด้วยความอายสายตาผม น้องพิงค์หอบน้อยๆ เมื่อถูกโจมตีจุดเสียว อ้าปากครางกระท่อนกระแท่น
“นะ…น้าเอก.. อย่าดูนะ ซา ซายากะ..ไหนบอกว่าจะเย็ดน้าเอกก่อนไง”
น้องซายากะหัวเราะ เร่งกระตุ้นเนินหีน้องพิงค์หนักขึ้นจนน้องพิงค์หลับตาปี๋
“ซายากะเพิ่งเย็ดกับน้าเอกเสร็จ เดี๋ยวซายากะจะให้น้าเอกรู้ความลับน้องพิงค์นะ..”
“ยะ..อย่าเพิ่ง…อ๊ายยยยยยย”
น้องพิงค์ร้องออกมาเมื่อความเสียวพุ่งขึ้นถึงขีดสุด ร่างน้อยดิ้นไปมาราวกับได้รับความเจ็บปวด ปากอ้ากว้างส่งเสียงคราง ผมรู้แล้วว่าทำไมน้องวายากะถึงชำนาญการจูบ สาวน้อยทั้งสองคงร่วมรักระหว่างเพศเดียวกันมานานพอสมควรแล้ว ครู่หนึ่งน้องซายากะยกตัวขึ้นจากร่างน้องพิงค์แล้วบอกผม
“นี่ไงน้าเอก ความลับน้องพิงค์”
ผมจ้องร่างเปลือยของน้องพิงค์เบื้องหน้าด้วยความตกตะลึง ร่างกายของน้องพิงค์เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อบรรลุจุดสุดยอด พลูหีที่เคยแฟบอยู่ใต้ลำขาขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเป็นโหนกนูนเต็มหน้าขาด้วยขนาดที่ไม่แตกต่างจากน้องซายากะ เพียงแต่ไม่โหนกนูนเท่า ทรวงอกที่แบนแฟบพองตัวขึ้นเป็นก้อนกลมปลายของมันชูชันแข็งตัวไหวระริกชวนให้ดอมดม ร่างเปลือยของน้องพิงค์กลับกลายเป็นร่างของเด็กสาวอายุประมาณ 14-15 ที่พร้อมสำหรับการร่วมเพศ เพียงแต่ความสูงเท่านั้นที่ยังคงเป็นความสูงของเด็กหญิงวัย 9 ขวบอยู่ แต่เมื่อประกอบกับใบหน้าสวยคมของหญิงสาวที่งดงาม ทำให้ร่างเปลือยเบื้องหน้ากลายเป็นร่างที่กระตุ้นอารมณ์เพศของผู้ชายทุกคนในทันทีที่ได้เห็น ควยของผมกระดกแข็งปั๋งราวกับจะร้องขอให้ผมพาไปทำความรู้จักกับเรือนร่างนี้โดยเร็วที่สุด
น้องซายากะดึงมือผมไปประกบเนินหีอวบอิ่ม มันนุ่มนวลและแฝงแรงสะท้อนของหีเด็กสาวอย่างสมบูรณ์ น้องพิงค์ผวาร่างขึ้นกอดผมแน่นส่งเสียงกระซิบข้างหู
“น้าเอก..ช่วยพิงค์ด้วย..”
ผมประกบปากเข้ากับปากบนใบหน้างดงามของน้องพิงค์อย่างห้ามใจไม่อยู่ ก้อนเนื้อหน้าอกแข็งเป็นไตบดเบียดกับหน้าอกผมแน่น ลิ้นของน้องพิงค์เป็นฝ่ายแทรกเข้ามาหาลิ้นของผมอย่างร้อนรนแล้วเกี่ยวกระหวัดอย่างรุนแรงเสียงน้องซายากะกระซิบบอกผมทางด้านหลังดังมา
“น้องพิงค์จะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงทันทีที่ถึงจุดสุดยอดน่ะน้าเอก . แล้วจะกลับเป็นเด็กเมื่อถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง ซายากะกับน้องพิงค์ช่วยกันเองมานานแล้ว ตอนที่ซายากะเล่าให้น้องพิงค์ฟังเรื่องที่น้าเอกเย็ดซายากะเมื่อคืน น้องพิงค์ก็อยากให้น้าเอกช่วยบ้าง และขอให้ซายากะช่วยพามาหาน้าเอกคืนนี้ด้วย”
เสียงน้องซายากะอธิบายราวกับดังอยู่แสนไกล อารมณ์ผมพลุ่งพล่านไปกับร่างเปลือยอ่อนนุ่มของน้องพิงค์ในอ้อมกอดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ร่างกายผมกับน้องพิงค์ราวกับถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยพลังที่มองไม่เห็น ผมแลกจูบอย่างเร่าร้อนกับน้องพิงค์ สองมือตะโบมบีบเคล้นอกงามอย่างไม่รู้ตัวว่ามันจะรุนแรงเพียงใด หน้าอกของน้องพิงค์บิดเบี้ยวอยู่ในมือผม หัวนมแข็งราวกับก้อนหินส่ายไปมา ผมผลักร่างน้องพิงค์ให้นอนหงายฉกใบหน้าลงกับแคมหีอวบอูมที่บีบตัวเองรัดลิ้นผมไว้แน่น ร่างงามกระตุกไปมาอย่างลืมตัว น้ำหล่อลื่นหลั่งไหลออกมาชุ่มโชกไปหมดจนผมดูดดื่มไม่ทันเสียงน้องพิงค์ครางลั่นออกมา
“นะ..น้าเอก..เย็ดพิงค์เดี๋ยวนี้..เย็ดเลย…พิงค์ไม่ไหวแล้ว”
ผมเลื่อนตัวขึ้นจ่อควยเข้ากับปากทางเข้าฉ่ำเยิ้มของน้องพิงค์โดยไม่รู้ตัวทั้งที่ใจหนึ่งผมเรียกร้องขอดื่มน้ำทิพย์จากรูหีงดงามให้สมใจเสียก่อน แต่ร่างกายผมเหมือนถูกบังคับให้ยกตัวขึ้น ยังไม่ทันที่ผมจะเตรียมตัวที่จะเย็ดแรงดูงดูดมหาศาลก็แผ่ซ่านออกมาจากรูหีของน้องพิงค์ ดูดควยผมลงไปในรูหีเบื้องหน้าโดยผมไม่สามารถต่อต้านได้ ผมสะท้านไปทั้งร่างร้องออกมาด้วยความตกใจ
“..อะไรกัน..”
“โอ๊วส์…”
เสียงน้องพิงค์ร้องลั่นเมื่อแท่งควยจมพรวดลงสู่รูหีอย่างรวดเร็วมันผ่านชั้นของเยื่อสาวไปแทบไม่รู้ตัวและจมมิดลงสู่เบื้องล่างแนบแน่น ร่างน้องพิงค์กระตุกราวกับถูกเขย่า สะโพกผมขยับขึ้นลงกระเด้าอย่างรุนแรงโดยที่ผมควบคุมไม่ได้ สายตาน้องพิงค์จับจ้องตาผมด้วยแววตาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเองก็ตกใจไม่แพ้กัน การกระเด้าของผมเกิดขึ้นโดยควบคุมไม่ได้เช่นเดียวกับการกระเด้งสะโพกตอบโต้ของน้องพิงค์ ราวกับว่าจิตใจผมและน้องพิงค์ถูกแยกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งกำลังร่วมรักกันอย่างดุเดือดแต่อีกส่วนหนึ่งกำลังสับสนงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ความเสียวของผมพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะทะยานขึ้นบนฟ้า น้องพิงค์หลับตาปี๋กัดฟันแน่นร่างบอบบางกระตุกและกระเด้งอย่างรุนแรง ภายในรูหีน้องพิงค์กระตุกเป็นวงรอบต่อเนื่องราวกับหลุมดำ จนผมกลั้นความเสียวไว้ไม่ได้ น้ำรักพุ่งออกจากร่างผมเข้าสู่การดูดอย่างรุนแรงไม่หยุดมันหลั่งไหลราวกับไม่มีวันจบสิ้น ผมฟุบร่างลงกับร่างบอบบางของน้องพิงค์อย่างสิ้นแรงเป็นครั้งแรกแต่น้ำรักยังคงพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง จนผมรู้สึกว่าพลังชีวิตทั้งหมดกำลังถูกดูดตามน้ำรักออกไปแต่ผมไม่สามารถป้องกันหรือยับยั้งมันได้
ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของผมถูกปล่อยออกตามน้ำรัก หัวใจหยุดเต้นเลือดหยุดไหลเวียนแต่จิตใจผมกลับรับรู้ถึงภายในร่างกายของน้องพิงค์ ภาพชีวิตของน้องพิงค์หมุนเวียนอยู่รอบตัวผม พลังชีวิตของผมกลับโคจรหมุนเวียนในร่างน้องพิงค์รอบแล้วรอบเล่า ดูดซับความรู้สึกทั้งหมดราวกับเป็นคนๆเดียวกัน จนในที่สุดภาพหนึ่งก็ปรากฏขึ้น
มันเป็นภาพของเหตุการณ์รถโรงเรียนของน้องพิงค์คว่ำ ร่างน้องพิงค์กระเด็นออกทางหน้าต่างจนศีรษะกระแทกก้อนหินด้านนอกอย่างแรง ผมเห็นภาพกลไกร่างกายของน้องพิงค์ที่ถูกสั่งการจากแรงกระแทกในสมอง พลังชีวิตถูกส่งมาที่ระบบควบคุมการเจริญเติบโตกระตุ้นให้ร่างกายเปลี่ยนแปลง แต่เนื่องจากน้องพิงค์ยังเด็กทำให้การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่คงที่ ภาพเหตุการณ์คล้ายกันที่เกิดกับผมปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง ผมได้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กันระหว่างผมกับน้องพิงค์และเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม
การเติบโตและการปรับเปลี่ยนขนาดของควยผม ไม่ได้เกิดจากฮอร์โมนดังที่แพทย์เข้าใจ แต่มันเป็นการสั่งการโดยตรงจากพลังจิตที่ถูกกระตุ้นจากการกระแทกที่สมอง ความต้องการส่วนลึกในใจผมที่อยากมีควยขนาดใหญ่เหมือนผู้ชายทั่วไปส่งผลให้พลังจิตเข้าควบคุมกล้ามเนื้อของร่างกายจนเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับกรณีน้องพิงค์ที่มีความใฝ่ฝันจะโตเป็นหญิงสาวโดยเร็ว พลังจิตของน้องพิงค์ก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายขึ้นเช่นเดียวกัน การที่ผมควยถูกดูดดึงจากหีของน้องพิงค์เป็นการผสานกันของพลังจิตที่ต้องการดูดซับพลังของอีกฝ่าย และในขณะนี้ผมกำลังถูกพลังของน้องพิงค์ดูดกลืนชีวิตทั้งหมดเข้าสู่ร่างของเด็กหญิงวัย 9 ขวบนี้
พลังชีวิตผมเริ่มก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนและวนเวียนในร่างกายของน้องพิงค์รอบแล้วรอบเล่า ก่อนจะเริ่มถ่ายกลับมายังร่างผมที่ยังคงฟุบอยู่บนร่างน้องพิงค์ หัวใจผมเริ่มเต้นอีกครั้งลมหายใจกลับมา พร้อมพลังชีวิตที่เข้มแข็งกว่าเดิมหลายเท่าพรั่งพรูเข้าสู่ร่างผ่านการเชื่อมต่อระหว่างควยผมกับหีน้องพิงค์ มันไหลกลับมาราวกระแสน้ำป่าจนเต็มเปี่ยม ตามมาด้วยพลังชีวิตของน้องพิงค์ที่กำลังจะไหลเข้ามา ผมสูดลมหายใจดึงควยออกจากร่างน้องพิงค์ก่อนที่เด็กหญิงจะสูญเสียพลังชีวิตมาให้ผม
“น้าเอก..น้าเอก .. เป็นอะไรหรือเปล่า”
เสียงน้องซายากะระล่ำระลักถามผม ร่างเปลือยของน้องซายากะกอดผมไว้แน่น น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ผมสะบัดหน้าไล่ความงุนงงก่อนตอบ
“น้าไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”
น้องซายากะร้องไห้กระซิกอยู่กับอกผม
“น้าเอกกะน้องพิงค์หยุดหายใจไปตั้งนาน ซายากะนึกว่าแย่แล้ว…”
“น้าไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ไม่ต้องกังวลนะ”
ผมบอกน้องซายากะก่อนหันไปหาน้องพิงค์ที่นอนอยู่ข้างๆ ร่างกายน้องพิงค์กลับคืนสู่เด็กอายุ 9 ขวบ ผมมองดูใบหน้าน้องพิงค์ด้วยความแปลกใจที่ความงดงามของใบหน้าหญิงสาวที่เคยปรากฏกลับหายไป ใบหน้าน้องพิงค์กลับเป็นใบหน้าของเด็กหญิงที่น่ารักสมวัย 9 ขวบ แต่ไม่มีความยวนใจดึงดูดผู้ชายดังที่เคยเป็นมา เมื่อผมเลื่อนสายตามาที่หีของน้องพิงค์ก็ต้องแปลกใจซ้ำสอง หีน้องพิงค์ที่ควรจะฉีกขาดจากการร่วมเพศกลับปิดสนิทราวกับไม่เคยมีอะไรผ่านเข้าออก หีน้อยๆ กลับสู่ความลีบเรียวของเด็กหญิงโดยสมบูรณ์ มีเพียงน้ำรักที่ไหลเป็นทางตามแนวร่องหีเท่านั้นที่เป็นเครื่องยืนยันว่าหีของน้องพิงค์เพิ่งผ่านการร่วมรัก
น้องพิงค์ลืมตายันร่างขึ้นนั่งแล้วโผเข้ากอดผม กระซิบข้างหู
“พิงค์ขอบคุณน้าเอกที่สุด ตอนนี้พิงค์ไม่มีพลังนั่นอีกแล้ว พิงค์จะได้กลับเป็นเด็กปกติเสียที”
ผมยิ้มรับและเข้าใจความหมายของน้องพิงค์ดี การหลอมรวมของพลังชีวิตที่ผ่านมาแทบทำให้ผมกับน้องพิงค์เป็นคนๆ เดียวกัน ความรู้สึกของน้องพิงค์ที่พ้นความทรมาณของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงอย่างควบคุมไม่ได้ ผมสามารถรับรู้และเข้าใจอย่างครบถ้วน
“น้าเอกรอพิงค์อีก 3 ปีนะ พิงค์จะไปให้น้าเอกเย็ดอีก”
น้องพิงค์บอกผมอีกทีด้วยน้ำเสียงแจ่มใส ผมจูบปากน้อยเบาๆ แล้วพยักหน้า ก่อนจะหันมาหาน้องซายากะที่กำลังมองผมและน้องพิงค์ด้วยสายตางุนงง เพียงผมสบตาน้องซายากะ กระแสจิตผมสัมผัสถึงจิตใจของน้องซายากะราวกับหนังสือที่กางออกตรงหน้า ผมยิ้มให้น้องซายากะพร้อมกับค้นหาความจำเรื่องที่เห็นผมสิ้นสติไปพร้อมน้องพิงค์เมื่อครู่ แล้วกำหนดลบออกอย่างง่ายดาย พร้อมความจำเกี่ยวกับความลับของร่างกายน้องพิงค์ คงไว้แต่ความจำเหตุการณ์ร่วมรักที่ประทับใจระหว่างผมกับน้องซายากะที่ผ่านมาเมื่อครู่
น้องซายากะมีสีหน้างงไปวูบหนึ่งแล้วยิ้มออกมา
“เสียดายจัง น้องพิงค์ยังไม่พร้อม คงต้องรออีก 3 ปีนะน้าเอก”
เสียงของน้องซายากะแจ่มใสราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เด็กหญิงจำได้แต่เพียงว่าหลังผมร่วมรักแล้วได้ชักชวนให้ผมเย็ดน้องพิงค์ด้วย แต่น้องพิงค์ไม่พร้อมรับควยจึงได้แต่กระตุ้นด้วยลิ้นให้ถึงจุดสุดยอดเท่านั้น
“เอ้า…” ผมบอกน้องทั้งสอง ” มากินอาหารกันเถอะจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้เช้าลมสงบเรือจะได้มารับกลับกัน”
น้องซายากะยิ้มเจ้าเล่ห์
“พักผ่อนอย่างเดียวหรือน้าเอก”
ผมเอื้อมมือไปลูบหน้าอกก้อนน้อยของน้องซายากะแล้วบีบเบาๆ ก่อนตอบ
“ซายากะไม่ได้พักผ่อนหรอก น้ารับรอง”
รุ่งเช้าผมรับโทรศัพท์จากคุณสุพจน์แจ้งว่าเรือมารอที่หน้าปากถ้ำแล้ว ผมรีบให้น้องทั้งสองใส่ชุดว่ายน้ำกลับหลังจากที่เมื่อคืนผมร่วมรักกับน้องซายากะมาตลอด ส่วนน้องพิงค์ผมกับน้องซายากะช่วยกันเล้าโลมจนเด็กหญิงเสียวสุดยอดนับไม่ถ้วน แต่เมื่อผมพยายามลองใช้ควยขนาดเล็กที่สุด ก็ยังไม่สามารถแทรกสอดเข้าสู่รูหีที่กลับตีบตันได้อีกเลย ทำให้ผมต้องทำใจแต่กำหนดแน่วแน่ว่าอีกปีสองปีผมจะต้องกลับมาเปิดบริสุทธิ์น้องพิงค์เป็นครั้งที่สองให้ได้
น้องรินะ น้องมิซูกิ และน้องโทโมเอะรอผมอยู่บนเรื่ออย่างกระวนกระวายแล้วกระโดดเข้ากอดผมทันทีที่ผมขึ้นมาบนเรือใหญ่ ระหว่างนั่งเรือกลับฝั่งผมทดลองใช้กระแสจิตสัมผัสเมียทั้งสามของผม และรับรู้ด้วยความอิ่มใจว่าทั้งสามคนรักผมมากที่สุดและมีผมเพียงคนเดียวเท่านั้นในจิตใต้สำนึก เมื่อถึงฝั่งผมขึ้นไปทานอาหารเช้าและได้พบน้องรีน่าที่มาคอยน้องซายากะ ผมทดลองตรวจสภาพจิตใจของน้องรีน่าพบว่าน้องรีน่าเพียงแต่ต้องการสนุกทางเพศกับคุณสุพจน์โดยปราศจากความรัก แต่ความจริงน้องรีน่ารักกับแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งที่อยู่กินด้วยกันอย่างลับๆ ผมทดลองปรับลบภาพแฟนของน้องรีน่าออกโดยบรรจุคุณสุพจน์เข้าไปแทนที่และตรึงไว้ถาวรในจิตใต้สำนึก ประกายตาของน้องรีน่าเปลี่ยนไปทันที หันกลับไปหาคุณสุพจน์แล้วกระซิบกันครู่หนึ่งก่อนจับมือกันเดินไปด้วยกันทางด้านหลังที่พัก โดยไม่สนใจสายตารอบข้าง
ผมรู้สึกตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง และความสามารถในการบังคับจิตใจคนที่เกิดขึ้นหลังการผสมกระแสจิตกับน้องพิงค์ สิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นอย่างไรผมไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ผมรู้ว่าผมกำลังครอบครองบางสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งโลกนี้ได้ถ้าผมต้องการ
จบตอนรีสอร์ทเสียว ……………………