Lolita Mansion ตอนที่ 2
ซูกุมิจัง
ผมพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล 3 อาทิตย์เต็ม โดยมีน้องซูกุมิคอยดูแลช่วยเหลือผมตลอดเวลาโดยไม่ปริปากบ่น แม้ร่างกายผมที่เกิดอาการช้ำจากแรงกระแทกกลับสู่สภาพปกติ และเคลื่อนไหวเองได้แล้วก็ตาม แต่น้องซูกุมิก็ยังคงยืนยันที่จะอยู่ในห้องพยาบาลกับผมโดยไม่กลับไปที่แมน ชั่น
ตลอดระยะเวลาพักฟื้น น้องซูกุมิคอยชวนผมคุยเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังโดยไม่ปิดบัง บ่อยครั้งที่ผมต้องหัวเราะกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับพฤติการณ์แผลงๆ ของกลุ่มเด็กสาววัย 12 เพื่อนๆ ของน้องซูกุมิ ส่วนตัวน้องซูกุมิเองก็เริ่ม
คลายความเศร้าจากการสูญเสียที่เกิดขึ้น และกลับมาเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงแจ่มใสในเวลาไม่นานนัก
น้องซูกุมิเล่าให้ฟังเรื่องกลุ่มเด็กหนุ่มหน้าแมนชั่นที่คอยตามจีบน้องซูกุ มิ ซึ่งผมเองเมื่อพิจารณาในหน้าหวานน่ารัก รอยยิ้มสดใส รูปร่างผอมบางสูงโปร่ง ผิวขาวเนียนอมชมพูเรื่อๆ ตามแบบเด็กสุขภาพดี และช่วงขาที่เรียวยาวทำให้ผมไม่แปลกใจที่เด็กสาวจะเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ พวกนั้น
เช้าวันก่อนที่ผมจะออกจากโรงพยาบาล น้องซูกุมิช่วยผมเก็บข้าวของเครื่องใช้ประจำตัว ผมนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้และรีบเรียกน้องซูกุมิ
“ซูกุมิจัง มานี่หน่อย น้ามีเรื่องจะคุยด้วย”
น้องซูกุมิเดินมาหาผมที่เตียง ยิ้มสดใส
“มีอะไรหรือน้าเอก..”
“ก็เรื่องของซูกุมิจังนั่นแหละ น้าอยากถามว่าซูกุมิจังจะทำยังไงต่อไป”
น้องซูกุมิหน้าสลด พึมพัมตอบ
“ซูกุมิก็ยังไม่รู้เหมือนกันน้าเอก เมื่อวานมีทนายความมาบอกซูกุมิให้ไปหาญาติมาทำหน้าที่ผู้ปกครอง เพื่อที่ซูกุมิจะได้รับเงินประกันของคุณพ่อ แต่ซูกุมิไม่มีญาติที่ไหนเลย และไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียนต่อได้หรือเปล่า ซูกุมิคิดไว้ว่าพอน้าเอกกลับไปบ้านแล้ว จะย้ายออกจากห้องไปขอพักอยู่กับมายูมิเพื่อนหนูก่อน แล้วค่อยหาทางตัดสินใจ บางทีอาจจะขอให้คุณพ่อของมายูมิจัง ช่วยรับเป็นผู้ปกครองซูกุมิด้วย”
น้องซูกุมิก้มหน้า ร่ายยาวระบายความอัดอั้น ผมมองดูเด็กสาวด้วยความสงสาร ตลอดระยะเวลา 3 อาทิตย์ทำให้ผมเกิดความรู้สึกผูกพันกับเด็กสาวแสนน่ารักคนนี้ แต่เป็นความรู้สึกแบบพี่น้องไม่มีความใคร่ใดๆ เข้ามาเจือปน ผมเชยคางน้องซูกุมิให้เงยหน้าขึ้น สบตาผม แล้วตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
“ถ้าซูกุมิจัง ไม่ว่าอะไร น้าจะรับเป็นผุ้ปกครองเอง เดี๋ยวน้าจะให้ทนายความเดินเรื่องให้ ส่วนเรื่องที่พัก ซูกุมิจังไม่ต้องย้ายออกจากห้องหรอก พักอยู่ที่นั่นได้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เราผ่านความตายมาด้วยกัน น้าไม่เคยถือซูกุมิจังเป็นคนนอกนะ..”
“น้าเอก…”
ซูกุมิจังลืมตาโพลง ยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นโถมตัวเข้ากอดผมแน่น ร้องไห้โฮออกมา
ผมโอบหลังซูกุมิ ตบเบาๆ เชิงปลอบ แล้วถามเชิงยอกเย้า
“เอ้า…ร้องไห้ทำไม ไม่ตกลงหรือ”
น้องซูกุมิสั่นหน้า เงยหน้าขึ้นสบตาผมแล้วตอบพร้อมน้ำตา
“ซูกูมิดีใจที่สุด … ชีวิตหนูเป็นของน้าเอกช่วยมา หนูขออยู่รับใช้น้าเอกตลอดไปนะ”
ผมขยี้หัวเด็กสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“บ้า..พูดอะไรแก่แดดเป็นผู้ใหญ่เชียว ดูละครมากไปหรือเปล่า ไปแต่งตัวซะ เดี๋ยวจะได้กลับบ้านกัน”
น้องซูกุมิหัวเราะกิ๊ก แล้ววิ่งออกจากห้องไป
ผมกลับมาเริ่มทำงานที่แมนชั่นตามปกติ ส่วนน้องซูกุมิก็เริ่มไปโรงเรียนหลังจากหยุดยาวไป 3 อาทิตย์ โรงเรียนของน้องซูกุมิเป็นโรงเรียนเอกชนของชาวญี่ปุ่น รับเฉพาะนักเรียนญี่ปุ่นที่ตามพ่อแม่มาทำงานในไทย ทุกวันหลังจากเลิกเรียนน้องซูกุมิจะเข้ามาห้องพักผมเพื่อทำความสะอาด เก็บของและเตรียมน้ำร้อนไว้ให้ผม พร้อมเบียร์เย็นเฉียบ ผมได้ทราบจากแม่บ้านว่าน้องซูกุมิไปอ้างผมสั่งแม้บ้านว่าไม่ต้องมาดูแลห้อง พักส่วนตัว และยึดเอาหน้าที่ทั้งหมดมาทำเอง
อาทิตย์แรกผมเห็นการดูแลห้องพักของน้องซูกุมิเป็นเรื่องขบขัน แต่หลังจากที่แขนหายดีผมก็เริ่มไม่สบายใจปนรำคาญ เพราะตั้งแต่ควยผมเกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกเย็นผมจะออกไปเที่ยวกลางคืน และทดลองใช้ควยอันใหม่กับสาวๆ ในบาร์ญี่ปุ่นโดยไม่ว่างเว้น กิตติศัพท์ความมรหดของควยผมเริ่มกระจายไปในหมู่สาวๆ และต่อไปถึงวงธุรกิจที่ผมต้องติดต่อประจำ จนทำให้มีผู้หญิงมากมายมาทำความรู้จักและทอดสะพานให้โดยไม่ปิดบัง แต่ผมจะเลือกเฉพาะคนที่แน่ใจว่าจะไม่มีพันธะต่อกันเท่านั้น ส่วนใหญ่ผมจึงเย็ดพวกดาราสาวๆ เป็นหลัก เพราะกลุ่มนี้จะไม่มีเวลามายุ่งเกี่ยวกับผมมากนัก
ปกติผมจะพาคู่นอนของผมมาที่ห้องพักเพราะสะดวกและปลอดภัย ซึ่งน้องเทย่าก็เป็นคนล่าสุดที่เข้ามา ละเลงน้ำรักกับผมจนแทบคลานกลับบ้านไม่ไหว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือน้องซูกุมิจะคอยรับผมอยู่ตลอดไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ถ้าผมกลับมาคนเดียวก็จะรีบจัดผ้าเช็ดตัวให้ผมไปอาบน้ำและเตรียมเบียร์ไว้ให้ พร้อมกับแกล้ม แต่ถ้าผมกลับมาพร้อมคู่นอน น้องซูกุมิจะรีบกลับห้องของตนเอง แม้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเย็ดของผม แต่ก็ทำให้ผมอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเปิดประตูเห็นแววตาผิดหวังของน้องซูกุมิเมื่อเห็นผมพาสาวๆ มาค้างคืนในห้อง
เมื่อผมกลับเข้ามาทำงานในเช้าวันที่ผมเพิ่งส่งน้องเทย่ากลับบ้าน ผมตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาความอึดอัดที่เกิดขึ้น เย็นนั้นผมนั่งดื่มเบียร์รอน้องซูกุมิอยู่ในห้องพัก และเช่นเคย พอ สามโมงเย็น น้องซูกุมิก็ไขกุญแจเข้ามาในห้องพักผมเตรียมทำความสะอาดตามปกติ เมื่อเห็นผมนั่งอยู่ที่โซฟาก็ชะงักนิดหนึ่งและทำท่าจะกลับออกไป
“ซูกุมิจัง..” ผมเรียก ” มาคุยกับน้าหน่อยนะ”
น้องซูกุมิกลับเข้ามาในห้อง ก้มหน้าเดินมานั่งกับผมที่โซฟา
“น้าเอกมีอะไรจะคุยกับซูกุมิเหรอ”
น้องซูกุมิเงยหน้าถามผมเสียงเบา
“คือน้ามาคิดๆ ดูแล้วนะว่า ซูกุมิจังอยู่คนเดียวที่นี่ไม่เหมาะแน่ เพราะจะไม่มีคนดูแล น้าเองก็ไม่มีเวลาที่จะจัดการเรื่องต่างๆ ให้ซูกุมิจัง น้าเลยติดต่อคุณพ่อคุณแม่ของน้าที่บ้านเชียงใหม่ ให้รับอุปการะซูกุมิจัง ท่านก็ยินดีที่จะรับน้องซูกุมิเป็นบุตรบุญธรรม และจะดูแลให้เรียนในโรงเรียนนานาชาติที่เชียงใหม่ ที่นั่นอากาศสบายมีเพื่อนทุกชาติ ดีไหมล่ะ ตกลงน้าจะจัดการเรื่องทางกฏหมายและเตรียมเดินทางไปเชียงใหม่วันมะรืนนี้ได้ เลย…อ้าวเป็นอะไรไปล่ะ”
ระหว่างที่ผมพูดยาวเหยียดน้องซูกุมิมีสีหน้าสลดลงเรื่อยๆ และร้องไห้ออกมาหลังผมพูดจบ
“ซูกุมิ ไม่อยากไป ซูกุมิอยากคอยรับใช้น้าเอก น้าเอกอย่าให้ซูกุมิไปนะ”
น้องซูกุมิสะอึกสะอื้น ขอร้องผม แต่ผมตัดสินใจแล้ว ผมพูดเสียงดุเข้มขึ้น
“ไม่เอา หยุดร้องได้แล้ว น้าตัดสินใจแล้ว เพื่ออนาคตของซูกุมิจังนะ”
น้องซูกุมิ มองหน้าผม สองมือกำแน่น ตะโกนเสียงลั่น
“ซูกุมิไม่ไป…ซูกุมิจะอยู่กับน้าเอก”
ผมดุเสียงเครียด
“จะอยู่ได้ยังไง น้าเป็นผู้ชาย ซูกุมิจังเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารักมากด้วย ซุกุมิจังก็เห้นว่าน้าพาผู้หญิงมานอนด้วยทุกคน ถ้าซูกุมิจังอยู่ไป โตขึ้นน้าอาจทนไม่ไหวแล้วเย็ดซูกุมิจังนะ..จะเอาเหรอ”
“เย็ด..” น้องซูกุมิอุทานออกมา
“นั่นแหละ…จะรอให้น้าเย็ดหรือไง”
น้องซูกุมิร้องไห้โฮ วิ่งออกไปจากห้อง ผมเสียใจเล็กน้อยที่ต้องใช้คำหยาบๆ กับเด็กสาวที่อ่อนโยนแบบน้องซูกุมิ แต่ถ้าผมไม่บังคับแบบนี้ น้องซูกุมิก็จะไม่ยอมไปเชียงใหม่เพื่ออนาคตของตัวเอง ผมได้แต่ถอนใจแล้วจัดการสั่งให้ลูกน้องเตรียมเรื่องการเกินทางให้น้องซูกุมิ
วันรุ่งขึ้นน้องซูกุมิเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ลูกน้องผมนำเอกสารและตั๋วเครื่องบินไปให้ แล้วกลับมาบอกผมว่าน้องซูกุมิตาแดงเพราะร้องไห้อย่างหนัก แต่ก็ยอมรับเอกสารและกระเป๋าเดินทางไปจัดของโดยดี กำหนดเดินทางเป็นตอนแปด โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ผมตั้งใจว่าจะไปส่งน้องซูกุมิที่สนามบิน เพื่อไม่ให้น้องซูกุมิน้อยใจมากนัก ผมสบายใจขึ้นแต่ในใจลึกๆ ก็รู้สึกโหวงเหวงที่รู้ว่าจะไม่ได้เห็นและพูดคุยหยอกล้อกับน้องซูกุมิอีก
วันรุ่งขึ้นผมสะดุ้งตื่นตอนตีสามจากเสียงโทรศัพท์ภายใน วันนี้ผมไม่มีสาวๆ มานอนด้วยอย่างเคย เพราะตั้งใจที่จะไปส่งน้องซูกุมิแต่เช้า ผมยกหูโทรศัพท์ขึ้นฟัง เสียงน้องซูกุมิดังมาตามสาย
“น้าเอก ลงมาหาซูกุมิหน่อยได้ไหม หนูอยากลาน้าเอก”
“อื้อ .. ได้สิเดี๋ยวน้าลงไปนะ”
ผมลุกแล้วออกจากห้องในชุดนอนลงไปที่ห้องน้องซูกุมิ แล้วกดกริ่งประตู น้องซูกุมิมาเปิดรับ ผมเดินเข้าไปในห้องนอนเห็นกระเป็าเดินทางสองใบจัดเตรียมไว้พร้อมชุดเดินทาง แขวนอยู่ น้องซูกุมิอยู่ในชุดนอนปิจาม่ามิดชิด ใบหน้าอ่อนเยาว์เศร้าหมอง มีร่องรอยของการร้องไห้ แต่ก็ยังไม่อาจลบเลือนความน่ารักของน้องซูกุมิได้
“เรียบร้อยไหมซูกุมิจัง”
ผมถาม น้องซูกุมิพยักหน้าเดินเข้ามากอดผมไว้แน่น ซุกหน้าลงกับอกผมเริ่มร้องไห้อีก ผมกอดตอบหลวมๆ แล้วดันตัวน้องซูกุมิออก และก้มหน้าพูดเบาๆ
“อย่าร้องไห้นะ น้าเอกรักซูกุมิจังเหมือนน้องสาวแท้ๆ ถ้าว่างเมื่อไหร่น้าเอกจะไปหาซูกุมิจังที่เชียงใหม่นะ”
น้องซูกุมิสบตาผม พยายามหยุดเสียงสะอื้น
“ซูกุมิไม่ไปไม่ได้เหรอน้าเอก”
ผมส่ายหน้า…
“ไม่ได้หรอก ยิ่งซูกุมิจังของน้าเอกสวยน่ารักแบบนี้สักวันน้าอาจลืมตัวนะ..” ผมตอบเบาๆ
“เย็ด..” เสียงน้องซูกุมิพึมพำเบาๆ
“หืมห์ อะไรนะ..” ผมฟังไม่ถนัด
น้องซูกุมิ ปล่อยแขนที่กอดผม มายืนอยู่ตรงหน้า แล้วถามผมด้วยเสียงเด็ดเดี่ยว
“น้าเอกบอกว่าถ้าซูกุมิอยู่น้าเอกจะเย็ดซูกุมิใช่ไหม”
ผมพยักหน้า งงเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าสาวน้อยคิดจะทำอะไร
“‘งั้นถ้าน้าเอกเย็ดซูกุมิ ซูกุมิก็อยู่กับน้าเอกได้ใช้ไหม”
ซูกุมิจังถามเสียงจริงจัง
“บ้า..พูดอะไรน่ะ ซูกุมิจัง”
“งั้นน้าเอกเย็ดซูกุมิจังเถอะ ซูกุมิไม่อยากไปจากน้าเอก”
น้องซุกุมิพูดเบาๆ สองมือกระตุกสายรัดชุดปิจาม่าออก มันหลุดลงไปกองกับพื้นด้วยน้ำหนักผ้า เบื้องหลังชุดนอนไม่มีเสื้อผ้าอื่นแม้แต่ชิ้นเดียว เรือนร่างของเด็กสาววัย 12 เปลือยกระจ่างอยู่กลางแสงไฟนวลในห้องนอน น้องซูกุมิจ้องตาผมโดยไม่หลบสายตาเหมือนเคย สีแดงแผ่ซ่านขึ้นที่ใบหน้าขาวนวลจนเป็นสีชมพูเข้มจัด ทำให้ใบหน้าที่หวานอยู่แล้วเพิ่มความน่าดูขึ้นไปอีก ต่ำลงไปเป็นหัวไหล่ที่แม้จะบอบบางแต่กลมกลึงลาดรับกับท่อนแขนเรียวนุ่มนวล
ผิวสีชมพูของน้องซูกุมิสะท้อนแสงไฟจนแทบเกิดประกาย หน้าอกขนาดเล็กที่เพิ่งผลิบานรับกับร่างกายบอบบาง ปลายยอดของมันแดงสดราวกับเม็ดทับทิม วงหัวนมเป็นสีชมพูอ่อนงดงาม แม้จะไม่ได้สัมผัส แต่เพียงสายตาก็รับรู้ได้ถึงความเต่งตึงของเด็กสาววัยแรกผลิ ผมเลื่อนสายตามาที่หน้าท้องราบเรียบเอวเริ่มปรากฏส่วนโค้งที่ลาดรับเส้นแนว สะโพกขนาดกระทัดรัด ไม่มีรอยกระดูกแบบเด็กเริ่มโตปรากฏให้เห็นแม้แต่นิดเดียว มีแต่เพียงความราบเรียบของผิวเนื้อ ปรากฎอยู่ตรงหน้า ท้องน้อยของซูกุมิจังนูนขึ้นเล็กน้อย สายตาผมเลื่อนมาหยุดที่จุดสำคัญกลางสะโพก
หีน้อยๆ ที่แสนงดงามของซูกุมิจังเปิดตัวเองทั้งหมดเบื้องหน้าผม ไม่มีขนรบกวนสายตา แต่เริ่มปรากฏแนวไรขนรางๆ เป็นกระจุกที่ด้านบน ราวกับเตรียมโอบคลุมติ่งเสียวเอาไว้ สองแคมอวบอัดเปล่งปลั่งประกบรอยผ่าไว้อย่างมิดชิด ป้องกันสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในโลกไว้ภายใน ขนาดของมันไม่ใหญ่โตเหมือนสาวๆ ที่ผมเคยเห็น แต่เป็นขนาดที่เหมาะรับกับร่างกายของเด็กสาววัย 12 เป็นเนินนูนขนาดน้อยๆ ที่งดงามเกินบรรยาย มันแผ่อาณาเขตต่อไปยังต้นขาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเบียดชิดจนไม่มีช่องว่าง ก่อนจะค่อยๆ เรียวตรงลงไปถึงปลายเท้า
ผมตะลึงมองร่างเปลือยที่งดงามราวนางฟ้าตัวน้อยๆ ตรงหน้า ความรู้สึกเหมือนหัวใจเริ่มมีสายน้ำไหลเข้ามาจนเต็ม ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพยายามไม่พิจารณาเรือนร่างของซูกิมิจัง เพราะกำแพงเรื่องอายุคอยกั้นเอาไว้ แต่ความงามที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าส่งสายน้ำของความรู้สึกที่เก็บกดเอาไว้พัง ทลายมันลงอย่างสิ้นเชิง
“ซูกุมิจัง….”
ผมครางเสียงแหบแห้ง ก้าวตรงดึงร่างบอบบางน้อยๆ เข้ามากอดอย่างแนบแน่น สัมผัสที่อบอุ่นแผ่กระรายไปทั่วร่างราวกับแสงแดดอุ่นยามเช้า น้องซูกุมิตัวสั่นอยู่ในองแขนของผม
“น้าเอกอย่าให้ซูกุมิไปนะ ชีวิตซูกุมิเป็นของน้าเอกมีน้าเอกคนเดียว”
ผมเชยคางกลมมนของน้องซูกุมิขึ้นสบตา ก่อนก้มหน้าลงประทับจูบแรกให้กับสาวน้อย ซูกุมิจังสะท้านเฮือก กอดผมแน่น ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจของผมทวีความรุนแรงขึ้นจนแทบระเบิด ผมตระหนักในทันทีว่าความรู้สึกขาดบางสิ่งในชีวิตถูกเติมเต็มโดยสมบูรณ์จาก จูบนี้ ผมรักเด็กสาวตัวน้อยคนนี้ และไม่มีใครที่ไหนจะพรากน้องซูกุมิไปจากผมได้
ผมถอนจูบ จ้องตาน้องซูกิมิ แล้วพูกอย่างหนักแน่น
“ซูกุมิจังอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกเพราะ….”
น้องซูกุมิก้มหน้าลงซุกอกผม เริ่มมีเสียงสะอื้น ผมไม่รอให้น้ำตาของสาวน้อยไหลออกมารีบพูดต่อ
“น้ารักซูกุมิ ซูกุมิจังต้องไปอยู่ที่ห้องน้า เป็นภรรยาของน้านะ”
น้องซูกุมิสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นจ้องตาผม ผมพยักหน้า
“น้าเอก….”น้องซูกุมิกอดผมแน่น
“ซูกุมิก็รักน้าเอก รักน้าเอกคนเดียว…”
น้ำตาไหลพรากออกมาจนชุ่มหน้าอกผม แต่คราวนี้เป็นน้ำตาของความดีใจ ผมก้มลงจูบน้องซูกุมิอีกครั้งนิ่งนาน ปลายลิ้นแทรกผ่านไรฟันแตะปลายลิ้นอบอุ่นหอมหวานของน้องซูกุมิ ที่ตอนแรกแตะกับปลายลิ้นผมอย่างกล้าๆ กลัว แต่ในที่สุดก็เริ่มเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของผมอย่างเต็มที่ ความหอมหวานและอ่อนละมุนของริมฝีปากเด็กสาว เริ่มทำให้แท่งควยผมขยายตัวขึ้นจนดันกางเกงนอนเป็นแท่งยาว
ผมช้อนร่างเปลือยของน้องซูกุมิขึ้นมาในวงแขนพามาที่เตียงแล้ววางลงอย่างทะนุ ถนอม น้องซูกุมิมองหน้าผมด้วยสายตาที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันเป็นแววตาของสาวน้อยที่ถูกจุดอารมณ์รักให้เปิดออกเป็นครั้งแรก ผมก้าวขึ้นเตียงนอนเคียงข้างน้องซูกุมิ พลิกร่างให้ตะแคงมาหาผมแล้วกระซิบเบา
“ซูกุมิจังเป็นของน้านะ….”
น้องซูกุมิพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร ผมดึงตัวน้องซุกุมิมากอดแล้วจูบอีครั้งเนิ่นนาน สองมือเริ่มถอดชุดนอนของตัวเองออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ในที่สุดร่างเปลือยขของน้องซูกุมิกับผมก็แบบชิดกันแทบเป็นเนื้อเดียว น้องซูกุมิกอดผมแน่น มือผมลูบไล้ไปตามแผ่นหลังนวลเนียนนุ่มมือ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเด็กสาว ทำให้น้องซูกุมิแลกลิ้นกับผมอย่างเต็มที่
ผมเลื่อนมือมาทางด้านหน้าเกาะกุมหน้าอกกระทัดรัดของน้องซูกุมิไว้เต็มมือ มันเต่งตึงแต่นุ่มนวล เม็ดทับทิมบนยอดอกแข็งปั๋งบอกให้รู้ถึงอารมณ์ที่กำลังกระเจิงไปตามการปลุก เร้า ผมถอนริมฝีปากออกแล้วเลื่อนลงมาที่หน้าอกคู่น้อยใช้ลิ้นดุนดันปลายยอดที่ชู ชันก่อนดูดเข้าไปในปาก ลิ้นผมไต่วนรอบฐานหัวนมสลับกับบดบี้ปลายเน้นๆ น้องซูกุมิแหงนแอ่นหน้าอกขึ้นมาสูง ส่งเสียงคราง
“อูยส์ น้าเอก..ซูกุมิเป็นอะไรไม่รู้ มันวูบวาบไปหมด..”
ผมปล่อยเม็ดทับทิมออกจากปาก แต่ยังคงใช้มือบดบี้ปลายยอดต่อเนื่อง แล้วบอกน้องซูกุมิเบาๆ
“เขาเรียกว่าเสียวน่ะ…ซูกุมิจังชอบไหม”
“อื้อ …ดีจัง…สะ..สะเสียว…จังเลย”
น้องซูกุมิคราง มือขยำไหล่ผมไว้แน่น ผมเลื่อนใบหน้าลงมาที่ลานหน้าท้องซุกไซร้เนื้อเนียน ก่อนขยับลงต่ำมาที่เนินเนื้อนูนน่ารักเบื้องล่าง ปลายลิ้นฉกแตะที่ติ่งเสียวเป็นจังหวะ น้องซูกุมิสะดุ้งร่างกายกระตุกตามจังหวะลิ้น ส่งเสียงคราง
“อูวส์ ..นะ นะ…น้าเอก..ทะ ทำ อะ อะไร”
ผมไม่ตอบ แต่เพิ่ามความเร็วในการกระตุ้นติ่งเสียวจนรู้สึกได้ว่ามันขยายตัวแข็งขึ้นมา สู้ลิ้น น้ำหล่อลื่นของน้องซูกุมิจังไหลออกไม่ขาดสาย ผมก้มลงประกบปากกับเนินน้อยดูดดื่มสายน้ำทิพย์อย่างชื่นใจ มันไม่มีกลิ่นอื่นใดนอกจากกลิ่นคาวอ่อนๆปนหวาน ปลายลิ้นผมแทรกตัวเข้าไปในช่องหลืบน้อยที่คับแคบ น้องซูกุมิบิดส่ายสะโพกไปมาราวกับจะหลบหลีก แต่บางครั้งก็ดันขึ้นมาสู้แรงลิ้นของผม ส่งเสียงไม่ขาดระยะ
“โอย…โอย..ซูกุมิ สะ..สะ…เสียว..อ๊าส์….”
น้ำหล่อลื่นของน้องซูกุมทะลักออกมาราวทำนบแตก ร่างกายเด็กสาวกระตุกซ้ำๆ เกร็งแน่น ปลายเท้าเหยียดตรงนิ่งไปชั่วครู่ก่อนผ่อนคลาย ในที่สุดน้องซูกุมิก็ได้รับความรู้สึกสุดยอดครั้งแรกจากปลายลิ้นของผม
ผมดึงตัวกลับไปที่ด้านบน ก้มหน้าดูสาวน้อยที่หลับตาพริ้ม ในหย้าอ่อนระโหย แต่ริมฝีปากมีรอยยิ้มจางด้วยความสุขสม ผมกระซิบข้างหู
“เป็นไงบ้างซูกุมิจัง..”
น้องซูกุมิลืมตา พลิกตัวกอดผมแน่น
“มันเสียวสุดๆ เลยน้าเอก จี๊ดขึ้นไปแล้วคลาย นี่ใช่ไหมน้าเอกที่เขาเรียกว่าเย็ด”
ผมหัวเราะเบาๆ มือเคล้าคลึงเต้าเต่ง…
“ยังหรอก แต่น้าจะเย็ดซูกุมิจังละนะ…”
น้องซูกุมิพยักหน้า ผมจูบประทับปากน้อยจิ้มลิ้มอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือควานลงไปที่เนินหีน้อยๆ แล้วบีบแคมทั้งสองเป็นจังหวะ ปลายนิ้ววางที่ปุ่มเสียวให้เสียดสีตามแรงบีบ น้องซูกุมิครางในลำคอแต่ยังคงจูบแลกลิ้นกับผมไม่หยุด
ผมใช้นิ้วค่อยๆ แทรกเข้าไปในรูหีน้อยๆ ของน้องซูกุมิอย่างช้าๆ น้องซูกุมิสะดุ้ง ถอนปากออกร้องเบาๆ
“อุ๊ย..น้าเอก…ซูกุมิเจ็บ..”
ผมแทรกนิ้วเข้าออกช้าๆ กระซิบบอกน้องซูกุมิ
“ซูกุมิจังอย่างเกร็งนะคนดี ปล่อยตามสบาย เดี๋ยวน้าจะทำให้ซูกุมิจังมีความสุขที่สุดเลย”
น้องซูกุมิพยักหน้าหลับตาแน่น แล้วโอบคอผมดึงลงไปจูบ ผมเคลือนนิ้วเข้าออกด้วยความหนักใจเล็กน้อยเพราะมันเป็นรูหีเด็กสาวที่แคบ และปิดสนิท ถ้าควยผมที่กำลังแข็งปั๋งขนาด 7 นิ้วผ่านเข้าไป มันต้องฉีกขาดค่อนข้างแน่ ผมเคล้นคลึงหีของน้องซูกุมิจนร่างน้อยบิดส่ายไปมา น้ำหล่อลื่นชุ่มโชกจนเปียก มือ ในที่สุดนิ้วผมก็เคลื่อนเข้าออกได้สะดวกโดยไม่มีอาการแสดงความเจ็บปวดจาก น้องซูกุมิ จากประสบการณ์ของผมรู้ว่าน้องซูกุมิพร้อมแล้วสำหรับการร่วมรักครั้งแรกใน ชีวิตสาว แต่ปัญหาอยู่ที่ผมไม่ต้องการให้น้องซูกุมิเจ็บปวดเกินไปจนทำลายความสุขเสียว ที่น้องน้องซูกุมิจะได้รับ
ทันใดนั้น แสงสว่างวาบก็พุ่งขึ้นมาในใจผม ผมมัวแต่ใช้ควย 7 นิ้วกับสาวๆ มาโดยตลอด แต่ลืมไปเลยว่าผมสามารถควบคุมขนาดของผมได้ มันเป็นของขวัญที่ผมได้รับจากอุบัติเหตุ และบางทีการที่ผมสามารถมีควย 2 ขนาด ก็คงเป็นการชดเชยของสวรรค์ให้กับวัยเด็กที่ไม่สมบูรณ์ของผม ควยขนาด 2 นิ้วครึ่งเหมาะที่สุดสำหรับการเริ่มสอนเด็กสาววัย 12 อย่างน้องซูกุมิให้รู้จักการร่วมรัก โดยไม่เจ็บปวดมากนัก
ผมกลั้นลมหายใจพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะร่างเปลือยนุ่มนวลของน้องซุกุมิที่กำลังบิดไปมาเสียดสีร่างกายผม และเสียงครวญครางไม่ขาดระยะของน้องซูกุมิ เหมือนเสียงเร่งให้ผมรีบพาน้องซูกุมิไปสู่จุดสุดยอดให้เร็วที่สุด แต่ในที่สุดผมก็รับรู้ถึงประแสเลือดที่ค่อยๆ ย้อนนกลับออกมาจากแท่งควย มันค่อยลดขนาดลงจนมีความยาว 2 นิ้วครึ่ง แต่ยังคงแข็งราวกับแท่งเหล็ก จากอารมณ์ของผมที่ถูกกระตุ้นจากรสสัมผัสจากเด็กสาว
ผมดึงตัวน้องซูกุมิมากระชับแน่น แล้วกระซิบเบา
“ซุกุมิจัง เป็นของน้านะ..”
น้องซูกุมิพยักหน้า สองแขนโอบกอดผมแน่นขึ้นจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ผมส่ายแท่งควยไปตามแนวลำขาแล้วจรดมันเข้ากับปากช่องทางเข้าสู่ความลับของ น้องซูกุมิ ถอนนิ้วออกแล้วกดปลายควยลงไปเบาๆ ปลายหัวควยเริ่มแทรกตัวลงไปในร่องหลืบที่แคบตันอย่างช้าๆ น้องซูกุมิกัดฟันแน่น สีหน้าเริ่มเหยเกบอกให้รู้ว่าความเจ็บปวดจากสิ่งแปลกปลอมเริ่มขึ้นแล้ว ผมรีบบอกน้องซูกุมิเบาๆ
“ซูกุมิจังอย่าเกร็งนะคนดี…”
“มัน คะ คับไปหมดเลยน้าเอก แต่ก็ สะ เสียวด้วย..”
น้องซูกุมิกระซิบตอบเสียงกระท่อนกระแท่น
ผมหมุนสะโพกเป็นวงเพื่อเปิดช่องทางและเพิ่มความคุ้นเคยระหว่างรูหีน้อยๆ กับควยของผม น้องซูกุมิจังส่ายสะโพกตาม จนปลายควยผมค่อยๆ ชำแรกเข้าไปได้จนมิดเงี่ยง ซูกุมิจังถอนใจเฮือกแล้วถาม
“อูยส์ …หมดแล้วใช่ไหมน้าเอก..”
ผมไม่ตอบ แต่เริ่มกระเด้าขึ้นลงอย่างเบาๆ น้องซูกุมิเกร็งมือจิกแผ่นหลังผมแน่น ครู่หนึ่งน้ำหล่อลื่นก็เริ่มซึมออกมาชะโลมลำควยจนผมคลายความคับแน่นลงเล็ก น้อย ลำควยเริ่มมุดไปข้างหน้าทีละนิดจนกระทบกับสิ่งกีดขวางด่านสุดท้ายของน้องซู กุมิ ผมกระเด้าเข้าออกในระดับนั้นอยู่พักใหญ่และเร่งจังหวะจนน้องซูกุมิครวญ ครางออก
“โอ๊ว…อูยส์…สะ สะ เสียว..น้าเอกอย่าหยุดน้าาา”
ร่างน้อยที่บิดไปมาใต้ตัวผมเกร็งกระตุก ผมรู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดรอบควยตามการกระตุกของน้องซูกุมิ จุดสุดยอดครั้งที่สองของน้องซูกุมิมาถึงผมตัดสินใจกดแท่งควยตามลงไปผ่าน เยื่อสาวจนทะลุ ควยดิ่งลงไปจนมิดโคน น้องซูกุมิเบิกตาโพลงร้องลั่นห้อง
“โอ๊ย…น้าเอก..ทำอะไร..ซูกุมิเจ๊บ…”
น้องซูกุมิพยายามส่ายสะโพกออกจากแท่งควยที่ปักลึกลงไปจนมิค ผมกดตัวน้องซูกุมิไว้แน่นและรีบปลอบ
“ไม่เป็นไรแล้ว ซูกุมิจัง เจ็บครั้งเดียวเท่านั้น ต่อไปไม่เจ็บแล้ว ซูกุมิเป็นเมียน้าแล้วนะรู้ไหม?”
น้องซูกุมิหยุดดิ้น มองหน้าผม
“มันเจ็บที่สุดเลยน้า เหมือนจะฉีก นี่ใช่ไหมน้าเอกที่เรียกว่าเย็ดกัน”
ผมพยักหน้ารับ
“นี่แหละ น้าจะเริ่มเย็ดซูกุมิจังล่ะนะ”
น้องซูกุมิกัดฟันแน่น…พยักหน้าอายๆ
ผมเริ่มดคล้นคลึงเต้าน้อยของน้องซูกุมิด้วยมือ แล้วไซร้ริมฝีปากไปที่ซอกคอหอมกรุ่น ขบติ่งหูเบาๆ น้องซูกุมิหดไหล่หัวเราะกิ๊กออกมา ผมเริ่มเคลื่อนแท่งควยเข้าออกช้าๆ และเพิ่มความเร็วขึ้นตามการตอบสนองของน้องซูกุมิ ไม่นานน้องซูกุมิก็กระดกสะโพกตอบโต้ผมตามจังหวะ ส่งเสียงครางระงม
“อูยส์..อูยส์ โอ๊วส์ ..อี๊ดดดดดด ซูกุมิไม่เจ็บแล้ว น้าเอกเร่งอีก …เร่งอีก….”
ผมกระเด้าสวนรับน้องซูกุมิอย่างไม่ยั้ง ความเสียวที่อัดแน่นกำลังเตรียมระเบิดออก น้องซูกุมิกระแทกโคกนูนเนียนเข้ากับหนอกเนื้อผมอย่างแรงแล้วหยุดนิ่ง น้ำรักผมพรั่งพรูฉีดเข้าไปในร่องหลืบจนเกินความสามารถที่หีน้อยๆ จะรับได้หมด มันไหลย้อนออกมาเนืองนองอยู่บนผ้าปู้เตียง เป็นสีชมพูจางจากการผสมคราบเลือดของเยื่อพรหมจรรย์
น้องซูกุมิทิ้งตัวลงกับเตียงอย่างหมดแรง ผมกอดกระชับร่างน้อยไว้ทั้งที่ยังแช่ควยอยู่ จริงดังที่ผมคาด ควยขนาด 2 นิ้วครึ่งแม้จะทำให้ซูกุมิเจ็บปวดบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับฉีกขาดและเมื่อผ่านการ เสียดสี ร่องหลืบน้องซูกุมิก็เริ่มขยายตัวปรับขนาดตามแท่งควยผมได้อย่างสมบูรณ์
ผมจูบริมฝีปากบางของน้องซูกุมิแล้วกระซิบ
“เป็นไงบ้างซูกุมิจัง เย็ดกันสนุกไหมล่ะ”
น้องซูกุมิหน้าแดง ทุบไหล่ผม
“น้าเอกบ้า….”
ผมหัวเราะ มือเคล้าคลึงเต้าเต่งไปมา แล้วไล่ตามแนวหลังลงไปที่สะโพกกลมมน บีบแก้มก้นกระทัดรัดนั้นเบาๆ แล้วไล้ไปตามขาอ่อนเนียน น้องซูกุมิครางเบาๆ
“อื้อ..สบายจังเลยน้าเอก….”
ผมจูบน้องซูกุมิอีกครั้ง แล้วถาม
“งั้นน้าจะต่อละนะ….”
น้องซูกุมิ ไม่ตอบส่ายหน้างุดๆ ซุกเข้ากับอกผม แต่อาการขยับสะโพกตามมือที่ลูบไล้ไปมาบอกผมว่าน้องซูกุมิไม่ขัดข้องที่จะ ร่วมรักกับผมอีกครั้ง
ควยที่ยังฝังตัวอยู่ในรูหีน้องซูกุมิเริ่มแข็งตัวอีกครั้งอย่างรวดเร็วตาม คุณสมบัติพิเศษของผม มันเริ่มเคลื่อนตัวเข้าออกอย่างช้าๆ แต่คราวนี้ผมรู้สึกปวดหนึบๆ เป็นอาการของเลือดส่วนเกินที่กำลังพรั่งพรูมาคั่งอยู่แต่ถูกสกัดกั้นไว้ด้วย การควบคุมอารมณ์ของผม แรงกระตุ้นของกระแสเลือดทำให้ควยแข็งปั๋งจนแทบระเบิด ผมชักมันเข้าออกรูหีที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นของน้องซูกุมิ ความคล่องตัวของมันทำให้ผมตัดสินใจปลดปล่อยแท่งควย 7 นิ้วออกมาให้ได้รับรสชาติของสาววัย 12 อย่างเต็มที่ ผมก้มกระซิบข้างหูน้องซูกุมิ
“ดีไหม…ซูกูมิจัง”
“เสียวดีจังน้าเอก….” น้องซูกุมิครางตอบเบาๆ
“ซูกุมิจังทนเจ็บอีกนิดนะ”
ผมถอนหายใจปลดการสะกัดกั้นกระแสเลือด แท่งควยเพิ่มขนาดขึ้นในทันที มันเบ่งตัวขึ้นในรูหีน้อยของซูกุมิปลายขยายลึกพุ่งเข้าไปในร่องหลืบจนไปชน ปากมดลูก น้องซูกุมิสะดุ้งสุดตัวร้องลั่น..
“โอ๊ย..อะไรน่ะ…น้าเอก…ทำไมมันใหญ่ขึ้น โอ๊ย..ฉีกแล้ว..เอาออกไปก่อน..”
ผมกอดน้องซูกุมิแน่น
“อดทนอีกนิดนะซูกุมิจัง คราวนี้หมดแล้วล่ะ ซูกุมิจังจะได้รับความสุขเต็มที่ไง..”
“ไม่ไหวแล้วน้าเอก…เอาออกเถอะ”
น้องซูกุมิร้องออกมา น้ำตาไหลซึมเป็นทาง ผมรีบจูบซับน้ำตา แรงบีบตลอดลำควยแน่นเปรี๊ยะ รูหีน้องซูกุมิพยายามขยายตัวรับแท่งควยอย่างสุดความสามารถ ผมก้มลงดูที่แท่งควยซึ่งจมมิดลงไปในร่างของน้องซูกุมิ ปากแคมทั้งสองของรูหีบีบรัดควยเป็นวงกลมดิก เลือดซึมออกมาเป็นทาง แต่ไม่มากนักเนื่องจากรูหีเคยผ่านควยขนาดสองนิ้วครึ่งมาแล้ว ผมแช่ควยนิ่งให้ฝังอยู่ในรูหีเพื่อสร้างความคุ้นเคย
“เข้าไปหมดแล้ว ซูกุมิเก่งจัง รับของน้าได้หมดเลย”
ผมกอดน้องซูกุมิแล้วพูดชมให้กำลังใจน้อง น้องซูกุมิจ้องหน้าผม แล้วซุกหน้ากับอกผมอีกครั้งถามเสียงอู้อี้
“แล้วของซูกุมิสู้พวกที่น้าพามาเย็ดได้ไหม”
ผมหัวเราะ..ใช้นิ้วบีบปลายเม็ดทับทิมบนยอดอกของน้องซูกุมิไปมาแล้วตอบ
“หีซูกุมิจังเยี่ยมที่สุด พวกนั้นไม่มีทางสู้เลย”
น้องซูกุมิยิ้มรับ ที่ผมชมไม่ได้เป็นคำพูดเกินจริงแต่ประการใด เพราะรูหลืบของน้องซูกุมินุ่มนวลและรัดรึง ต่างจากพวกสาวๆ ที่ร่างกายเติบโตเต็มที่และผ่านการร่วมเพศมาแล้วอย่างโชกโชน แต่ภายในรูหีของน้องซูกุมิมีแต่ความกระชับแน่น และดูดรัดควยจนไม่อยากจะออกมาจากความอบอุ่นที่แสนวิเศษนี้
น้องซูกุมิรับคำชมของผม แล้วเริ่มเคลื่อนสะโพกตัวเองไปมา เหมือนกับกำลังทดสอบความเจ็บปวดที่เหลืออยู่
“อูยส์…มันเจ็บจังเลยน้าเอก”
“ซูกุมิจังค่อยๆ ขยับเข้าออกนะ..น้าจะช่วย”
ผมประคองสะโพกน้อยๆ ของน้องซูกุมิเอาไว้ ค่อยๆ ดันมันให้ส่ายเป็นวงกลมเล็กๆ ซูกุมจังซู๊ดปากราวกับกิยพริกเผ็ดๆ แต่ไม่ยอมหยุด และพยายามเคลื่อนสะโพกขึ้นลง ผมเริ่มรู้สึกถึงน้ำหล่อลื่นที่เพิ่มปริมาณขึ้น ลำควยขนาดใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวตัวเองได้ มันถูกกระชับโดยกล้ามเนื้อภายในโพรงหีของของน้องซูกุมิ และพยายามดิ้นรนหาอิสรภาพเพื่อที่จะแหวกว่ายในคลองอันคับแคบนี้โดยอิสระ
ผมเพิ่มระยะทางในการกระเด้าให้มากขึ้นทีละน้อย อารมณ์ของน้องซูกุมิเริ่มเพิ่มสูงจนกลบความเจ็บปวด ระยะทางกระเด้าเพิ่มมากขึ้นทีละน้อย จนในที่สุดผมก็สามารถลากแท่งควยออกมาได้เกือบพ้นปากร่องหลืบแล้วสวนกลับเข้า ไปจนสุดได้ กล้ามเนื้อปากแคมของน้องซูกุมิขยายตัวรองรับการเย็ดอีกครั้ง แต่มันยังคงคับแน่นสุดๆ น้องซูกุมิครางไม่หยุด
“อูยส์ .. คับจังน้าเอก…สะ สะ เสียวด้วย..เสียวจัง”
ผมพลิกตัวน้องซูกุมิให้มาตะแคงด้านข้างแล้วกระเด้าเข้าออกถี่ยิบ ความคับแน่นบีบลำควยอย่างรุนแรง น้องซูกุมิเด้งสะโพกโต้ตอบผม กัดริมฝีปากแน่นมีเพียงเสียงคราง อึ๊ด อึ๊ด ในลำคอถี่ยิบ ปลายควยผมกระแทกครั้งสุดท้ายเข้าไปถึงปากมดลูกและพรั่งพรูน้ำรักออกมาราวกับ น้ำป่า ภายในโพรงหีของน้องซูกุมิตอดปลายควยผมถี่ยิบและดูดน้ำรักเข้าไปเต็มที่ น้องซูกูมิครางลั่น
“อ๊ายยยยยยยยยยย…….โอ๊วส์”
ร่างน้อยกระตุกเป็นระยะ แล้วค่อยผ่อนคลายลง ความเสียวสุดยอดครั้งนี้ทำเอาน้องซูกุมิหลับไปในทันที ผมลูบไล้เรือนผมชุ่มเหงื่อของน้องซูกุมิด้วยความรักเต็มหัวใจ แล้วหลับไปพร้อมกันทั้งที่ลำควยยังฝังตัวอยู่ในร่างของน้องซูกุมิ
เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาจัดการโทรไปหาพ่อแม่ที่เชียงใหม่ รับที่จะดูแลน้องซูกุมิเอง และโทรไปสั่งให้แม่บ้านเก็บของทั้งหมดของน้องซูกุมิไปไว้ที่ห้องผม น้องซูกุมิย้ายมาในเย็นวันนั้น และทำหน้าที่ภรรยาของผมด้วยความเต็มใจ ทำเอาตลอดอาทิตย์นั้นผมแทบไม่ได้ทำงาน เฝ้าเวียนว่ายเก็บความหอมหวานจากเรือนร่างของน้องซูกุมิตลอดเวลา ชีวิตนี้ผมคงขาดน้องซูกุมิไม่ได้เสียแล้ว
