Lolita Mansion ตอนที่ 9
“อื๊ยยยย…..รินะจังงงงง..”
น้องซูกุมิส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียว เมื่อน้องรินะซุกไซร้ไปมาตามเนินหีอวบอิ่ม ส่งลิ้นกระดิกไล้เลียติ่งเสียวของน้องซูกุมิที่แข็งตัวสู้การโจมตีอย่างไม่กลัวกรง มือทั้งสองของน้องซูกุมิขยุ้มผมของน้องรินะไว้แน่น ใบหน้าอ่อนเยาว์สะบัดไปมาด้วยความเสียว น้องรินะฉกปลายลิ้นแทรกเข้าไปภายในร่องหีน้อยๆ ที่กำลังตอบโต้ด้วยการหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาไม่ขาดระยะจนแทบจะชะโลมใบหน้าน่ารักของน้องรินะทั้งหมด สะโพกของน้องซุกุมิกระเด้งขึ้นลงรับรสสัมผัสจากลิ้นของเด็กหญิงวัย 11 ลำขาเรียวงามเหยียดเกร็ง แล้วสั่นระริกตามการกระตุกร่างของเด็กสาววัย 13
“ระ ริ นะ จังงงง…ซูกุมิไปแล้ววววน้า”
น้องซูกุมิครางลั่น กดศีรษะของน้องระนะอัดแน่นเข้ากับเนินหีครู่หนึ่ง
แล้วปล่อยมือทิ้งลงข้างๆ อย่างหมดแรง น้องรินะเงยหน้าขึ้นจากโหนกหีงดงามที่เปียกไปด้วยน้ำรักแล้วดันร่างขึ้นมาฟุบกับหน้าอกเต่งตึงคู่งามของน้องซุกุมิ ส่งเสียงใสแจ๋วแบบล้อๆ
“หีพี่ซูกุมิสวยจังเลย น้ำเสียวก็ฮ๊อมหอม มิน่าน้าเอกถึงรักพี่ซูกุมิที่สุด”
น้องซุกุมิหน้าแดง ยกมือขึ้นขยี้ผมนุ่มของน้องรินะอย่างมันเขี้ยว หันหน้ามาดูผมที่กำลังกระเด้าร่างเปลือยของน้องโทโมโมเอะข้างๆ แล้วล้อน้องรินะกลับ
“รินะจังก็ใช้ลิ้นเก่งที่สุด..น้าเอกคงติวเข้มแน่ๆ เลย”
น้องรินะหัวเราะเสียงใส หน้าแดงจัด พุ่งร่างขึ้นประกบจูบกับน้องซูกุมิ สองสาวน้อยกอดกันแน่นแกจูบอย่างเร้อนสองมือลูบไล้ร่างกายนวลเนียนของอีกฝ่ายไปมา เสียงครางในลำคอเมียทั้งสองของผมดังประสานกันยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้ผมกระเด้าร่างเปลือยอวบอัดใต้ร่างถี่ยิบ
น้องโทโมเอะกระเด้ารับการเย็ดของผมอย่างลืมตัวร่างเปลือยของเด็กหญิงชื้นไปด้วยเหงื่อ แม้จะถึงจุดสุดยอดไปหลายครั้ง แต่น้องโทโมเอะก็ยังคงตอบโต้รับการเย็ดที่รุนแรงอย่างไม่ยอมแพ้ ข้อดีของแคมหีอวบแสดงความพิเศษของมันออกมาอย่างเต็มที่ แม้น้ำหล่อลื่นจะไหลออกมาอย่างชุมโชก แต่สุดยอดแคมหีของน้องโทโมเอะก็ยังรัดรึงลำควยผมที่พุ่งเข้าออกไว้แน่น จนผมต้องใช้แรงกระเด้ามากกว่าปกติ
ปลายยอดหัวนมที่ชูชันแข็งตัวราวกับก้อนหินในปากของผมที่กำลังดูดดันไปมาบนหน้าอกแบนราบของน้องโทโมเอะกลับกระตุ้นอารมณ์ผมให้ตื่นตัว ราวกับผมกำลังเย็ดเด็กชายหน้าหวานน่ารักคนหนึ่ง ซึ่งแทนที่จะมีควยน้อยของเด็กชายวัย 11 กลับเป็นหีที่ยอดเยี่ยมแทน ผมกระเด้าถี่ยิบส่งให้ร่างน้อยนั้นกระดอนขึ้นลงตามแรง จนน้องโทโมเอะครวญครางออกมา
“โอ๊วส์…น้าเอก…แรงอีก ..อีก…อื๋ยย…อ๊าส์ส์….”
โหนกเนื้อหีอวบอัดบดแน่นกับหนอกควยผม ภายในตอดหัวควยผมถี่ยิบเรียกร้องขอน้ำรัก เพิ่มแรงเสียวจนผมต้องปล่อยน้ำรักทะลักเข้าภายในร่างของน้องโทโมเอะอย่างแรง ร่างอวบอัดเกินเด็กวัย 11 กระตุกรับน้ำรักแล้วคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ปล่อยร่างลงนอนหงายกับพื้นอย่างหมดแรง..น้องโทโมเอะครางยาว
“โอยยยย.. น้าเอก.. โทโมเอะ ม่ายหวายแล้วนะ”
ผมจูบไซร้ซอกคอหอมกรุ่นที่ชื้นเหงื่อของน้องโทโมเอะ แล้วกระซิบล้อๆ
“อ้าว..น้ำศักดิ์สิทธิ์ของน้ายังไม่หมดเลย”
น้องโทโมเอะหน้าแดง ทุบไหล่ผมดังพลั่ก
“นี่แน่ะ..น้าเอกบ้า…ช่วยรินะจังหลอกโทโมเอะ”
ผมหัวเราะ คิดถึงวันที่ผมรับความสาวของน้องโทโมเอะจากพิธีไล่วิญญาณที่ผ่านมา เมื่อน้องรินะบอกความจริงให้น้องโทโมเอะรู้ทำเอาน้องโทโมเอะวิ่งไล่ทุบเพื่อนรักอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็กลับมาขอให้ผมทำพิธีเพิ่มให้แทบทุกวัน ผมเริ่มขยับแท่งควยในรูหีของน้องโทโมเอะขึ้นลง แต่เจ้าของรูหีรีบส่ายหน้าร้องอุธรณ์
“โทโมเอะไม่ไหวแล้วน้าเอก..ขอพักก่อนนะ”
ผมหัวเราะเบาๆ จูบปากน่ารักทีหนึ่งแล้วถอนควยออกจากร่างของเด็กหญิง ด้านข้างน้องซูกุมิตะแคงร่างกอดก่ายกับน้องรินะ ปากน้องซูกุมิดูดไซร้เต้านมน้อยๆของน้องรินะ ส่งนิ้วเรียวงามชักเข้าออกในร่องหีอย่างต่อเนื่อง น้องรินะส่ายหน้าไปมาครวญครางรับความเสียวจากนิ้วมือ
“อูยยย.. พี่ซูกุมิ..รินะเสียววว..”
สะโพกน้องซูกุมิหันมาทางผมเผยให้เห็นร่องหีฉ่ำเยิ้มทางด้านหลัง แม้จะร่วมรักกับผมมานับครั้งไม่ถ้วน แต่หีที่แสนงดงามของน้องซูกุมิก็ยังกระตุ้นอารมณ์ผมได้ทุกครั้งที่เห็น ผมขยับตัวเข้าประชิดสะโพกกระทัดรัดยกขาเรียวงามของน้องซูกุมิขึ้นแล้วสอดควยเข้าสู่ภายในรูหีอบอุ่นของเมียที่ผมแสนรักจนสุดโคน น้องซูกุมิสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรับรู้การบุกรุกทางด้านหลัง ละปากจากเต้านมของน้องรินะแล้วคราง
“อูย..น้าเอก…ลึกจังเลย”
น้องรินะกระซิบข้างหูน้องซูกุมิ ทั้งที่สะโพกยังคงกระเด้าสะโพกรับนิ้ว
“อิ อิ.. น้าเอกมาช่วยรินะแล้ว”
ผมละมือที่เกาะกุมสะโพกของน้องซูกุมิมาจิ้มที่หน้าผากน้องรินะ แล้วทำเสียงล้อแบบดุดุ
“ไม่ต้องทำเป็นดีใจหรอก รินะจังเป็นคิวต่อไปนะ”
………………….
วันนี้เป็นวันที่น้องซูกุมิเข้ามาที่แมนชั่นใหม่เพื่อร่วมพิธีทางศาสนาเปลี่ยนชื่อแมนชั่นจากชื่อเดิมคือ โกลด์ลิฟวิ่ง มาเป็น “ซูมิแมนชั่น” ซึ่งเป็นชื่อที่ผมตัดย่อมาจากชื่อของน้องซูกุมิ เนื่องจากผมตั้งใจที่จะให้น้องซูกุมิบริหารแมนชั่นแห่งนี้ภายหลังเรียนจบ ซึ่งเมื่อพิธีทางศาสนาและการเลี้ยงอาหารผู้เช่าทั้งหมดเสร็จ ผมก็พาน้องซูกุมิมาที่ห้องทำงานซึ่งได้ตกแต่งใหม่ให้ทันสมัยขึ้น โดยได้ทุบกำแพงด้านสระน้ำออกและติดตั้งหน้าต่างกระจกบานใหญ่เท่าผนังแทน ทำให้ห้องดูโล่งกว้างขึ้นอีกมาก
น้องรินะ น้องโทโมเอะ และน้องมิซูกิ รอพบน้องซูกุมิ ที่ห้องทำงานใหม่ น้องมิซูกิดูจะขัดเขินเมื่อพบว่าน้องรินะและน้องโทโมเอะสนิทสนมกับน้องซูกุมิและยึดถือน้องซูกุมิเป็นพี่สาว ทำให้น้องมิซูกิดูจะเงียบๆไปและแยกตัวไปทำงานคนเดียว ปล่อยให้น้องรินะกับน้องโทโมเอะลากตัวน้องซูกุมิเข้าไปในทาวเฮ้าส์ด้านหลังโดยมีผมพ่วงไปด้วย ทั้งสามสาวหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม แต่บรรยากาศเปลี่ยนไปเมื่อน้องโทโมเอะเกิดเล่นสนุกกับน้องซูกุมิโดยแกล้งกอดแล้วจูบปากโดยมีน้องรินะเข้าช่วย การสัมผัสแบบเย้าแหย่เลยค่อยๆเปลี่ยนเป็นการกระตุ้นอารมณ์รักขึ้นทีละน้อย จนกลายเป็นการร่วมรักหมู่ไป ซึ่งต้องถือว่าเป็นการฉลองชื่อแมนชั่นใหม่ที่สมบูรณ์แบบทีเดียว ผมกลับออกมาที่ห้องทำงานพร้อมกับทุกคนเวลาใกล้ห้าโมงเย็นโดยลืมนึกถึงน้องมิซูกิ แต่ปรากฏว่าน้องมิซูกิยังรอเสนองานผมอยู่และมองผมด้วยสายตาที่ดูจะแปลกใจกับท่าทางสนิทสนมที่ผมแสดงออกกับเมียทั้งสาม แต่ก็ยังคงเสนอรายงานให้กับผมตามปกติ
การรับน้องมิซูกิให้ทำงานเป็นเลขาส่วนตัวของผมช่วงปิดเทอมทำให้ผมแปลกใจกับความสามารถของน้องมิซูกิ ผมยอมรับว่าทีแรกผมไม่ได้หวังอะไรจากการทำงานของน้องมิซูกินอกจากจะช่วยเหลือให้เด็กหญิงมีรายได้เพิ่มขึ้นช่วงปิดเทอม แต่หลังจากน้องมิซูกิทำงานได้เพียงอาทิตย์เดียว ผมก็ได้รับรู้ว่าน้องมิซูกิมีความสามารถในการทำงานในตำแหน่งเลขาไม่ต่างกับผู้ใหญ่ ทั้งความสามารถในการดูแลเอกสารและการจัดระเบียบการนัดหมายให้ผมพร้อมสรุปประเด็นหลักก่อนการนัดหมาย ชนิดที่ผมอ่านแว่บเดียวก็รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวและหัวข้อการพูดคุยอย่างไร การจ้างน้องมิซูกิจึงกลับเป็นการได้เพชรเม็ดงามเข้ามาอยู่ในธุรกิจของผมและผมตั้งใจว่าเมื่อเปิดเทอมผมจะยังคงจ้างให้น้องมิซูกิทำงานต่อไป
สิ่งที่ยังรบกวนใจผมอยู่ก็คือไม่ว่าผมจะให้ความสนิมสนมเป็นกันเองกับน้องมิซูกิเพียงใด แต่ดูน้องมิซูกิจะไม่ตอบรับความเป็นกันเองนั้นเลย แม้จะยอมเรียกผมว่าน้าและเลิกแทนตัวเองว่าดิฉัน แต่กริยาอาการก็ยังคงเป็นการวางตัวเกินอายุ แม้ว่าน้องรินะกับน้องโทโมเอะจะพยายามชวนคุยหรือเล่าเรื่องตลกๆให้ฟัง สิ่งที่สะท้อนกลับออกมาก็มีเพียงรอยยิ้มบางๆ และแววตาที่แจ่มใสขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกของความเป็นผู้ใหญ่ตามปกติ
วันรุ่งขึ้นผมต้องลงไปตรวจงานวางรากฐานก่อสร้างอาคารใหม่ ที่จะขยายห้องพักของซูมิแมนชั่นเพิ่มขึ้น ผมชวนน้องมิซูกิไปกับผมด้วยทั้งที่ไม่จำเป็นแต่ผมถือว่าเป็นการให้ประสบการณ์ในการทำงานแก่น้องมิซูกิ ระหว่างที่ผมกำลังเดินไปตามไซท์งานพร้อมฟังคำอธิบายของวิศวกร มือน้อยๆ ของน้องมิซูกิก็กระตุกแขนเสื้อผมเบาๆ
“น้าเอก”
ผมก้มลงดูเด็กหญิงที่กำลังจ้องตาผมด้วยสายตาแสดงความกังวล
“มีอะไรหรือ มิซูกิจัง”
น้องมิซูกิดึงผมออกมาจากวิศวกร ผมแปลกใจนิดหน่อยเพราะปกติน้องมิซูกิจะไม่เข้ามาสอดแทรกการพูดคุยของผม แต่ก็ยอมตามน้องมิซุกิไป โดยมีวิศวกรเดินตามมา น้องมิซูกิหยุดที่ข้างแนวเขตก่อสร้างแล้วชี้บอกผม
“มิซูกิว่าเส้นนี้ไม่ตรงนะน้าเอก”
ผมมองตามนิ้วของน้องมิซูกิ เส้นตรงวางแนวขนานกับที่ดินข้างเคียงดูปกติ ผมหันไปดูน้องมิซูกิที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่
“น้าว่ามันตรงแล้วนะมิซุกิจัง”
น้องมิซูกิสั่นหัว
“มันดูตรงเพราะมีเสาด้านข้างหลอกตาน่ะน้าเอก แต่มิซูกิเชื่อว่าไม่ตรงแน่ น้าเอกบอกให้น้าวิศวกรวัดดูใหม่เถอะ”
ผมมองน้องมิซูกิด้วยความเอ็นดูในความกล้าแสดงออกและยอมผ่อนตามให้ ทั้งที่ผมแน่ใจในสายตาตนเองและการวัดของวิศวกร ผมสั่งให้วิศวกรลองวัดเส้นแนวก่อสร้างอีกครั้งโดยกำหนดกับเส้นแนวที่ดินผลที่ออกมาทำให้ผมต้องอึ้ง เนื่องจากการตีแนวเดิมพลาดไปจริงๆเกือบครึ่งเมตร ซึ่งถ้ามีการก่อสร้างตามแนวก็จะทำให้ผิดระเบียบการก่อสร้างและกระทบต่อแบบรวมของโครงสร้าง ผมรีบสั่งให้วิศวกรแก้ไขด่วนและหันกลับมามองน้องมิซูกิด้วยความแปลกใจ น้องมิซูกิดูจะพอใจกับการที่ผมยอมรับความคิดเห็น โดยไม่รู้ตัวว่าข้อสังเกตของน้องมิซูกิทำให้ผมป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกฟ้องร้องจากที่ดินข้างเคียงเป็นจำนวนเงินมากมายทีเดียว
เมื่อผมกับน้องมิซูกิกลับมาที่ห้องทำงาน ผมเรียกน้องมิซูกิให้มานั่งที่หน้าโต๊ะผม แล้วเขียนตัวเลขจำนวนหนึ่งลงในกระดาษส่งให้น้องมิซูกิ ที่มองตัวเลขอย่างงงๆ แล้วถาม
“เลขอะไรน่ะน้าเอก”
ผมไม่ตอบคำถาม แต่ถามกลับ
“มิซูกิจังอยากทำงานกับน้าไหม?”
น้องมิซุกิทำหน้าแปลกใจ
“มิซูกิก็ทำงานกับน้าเอกอยู่แล้วนี่”
ผมส่ายหน้า
“นั่นเป็นการทำงานเฉพาะปิดเทอม น้าถามว่าอยากทำงานกับน้าตลอดไปเลยไหม หลังเปิดเทอมแล้วน้าอยากให้มิซูกิจังมาทำงานที่นี่หลังจากเลิกเรียนด้วย มิซูกิจังอยากทำไหมล่ะ”
ใบหน้าเด็กหญิงเปล่งประกายความดีใจออกมา รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าน้องมิซูกิเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มทำงานกับผม น้องมิซูกิพยักหน้าถี่ๆส่งเสียงใสของเด็กหญิงวัย 11 ขวบออกมาอย่างลืมตัว
“ทำน้าเอก มิซูกิอยากทำ”
ผมผงกหัว แล้วบอกตัว
“อย่างนั้นน้าตกลงรับมิซูกิจังทำงาน ตัวเลขในกระดาษนั้นคือเงินเดือนที่น้าจะจ่ายให้ทุกเดือน มิซูกิจังพอใจไหม”
น้องมิซูกิเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ ดูตัวเลขในกระดาษ แล้วตอบอย่างตะกุกตะกัก
“นะ นะ นี่มัน … น้าเอกเขียนตัวเลขผิดหรือเปล่า มันเยอะมาก”
ผมส่ายหน้าตอบ
“นั่นเป็นตัวเลขที่เหมาะกับความสามารถของมิซูกิจังแล้ว เดี๋ยวมิซูกิถือลงไปหาคุณติ๋วนะจะได้ทำสัญญาจ้างงานกัน เสร็จแล้วรีบกลับขึ้นมาน้าจะพามิซูกิจังไปทำงานข้างนอก”
น้องมิซูกิลุกขึ้นยืน ตายังจ้องกระดาษใบนั้นอย่างไม่เชื่อสายตาแล้วเงยหน้ามองผม ริมฝีปากสั่นๆเหมือนจะพูดอะไร เป็นอาการที่แสดงถึงความดีใจและต้องการขอบคุณ ซึ่งถ้าเป็นน้องรินะหรือน้องโทโมเอะคงกระโดดเข้ามากอดขอบคุณแล้วแต่น้องมิซูกิที่ปกติไม่เคยแสดงอารมณ์หรือพูดคุยกับเด็กรุ่นเดียวกันคงไม่รู้ว่าจะขอบคุณอย่างไร ผมลุกขึ้นเดินไปหาน้องมิซูกิ ดึงร่างที่บอบบางราวกับเด็ก 9 ขวบเข้ามากอดหลวมๆ น้องมิซูกิตัวแข็งทื่อไปขณะหนึ่งแต่แล้วสองมือก็โอบเอวผมแล้วซุกหน้าลงกับอก ผมใช้นิ้วดันคางให้น้องมิซูกิเงยหน้าขึ้นจูบที่หน้าผากเบาๆ แล้วบอกน้องมิซูกิ
“น้าดีใจที่มิซูกิมาทำงานกับน้านะ”
น้องมิซูกิสบตาผมด้วยแววตาแจ่มใส
“มิซูกิขอบคุณน้าเอกที่สุด ที่ให้โอกาสมิซูกิเข้าทำงาน มิซูกิจะทำงานอย่างเต็มที่ตามที่น้าเอกต้องการ”
ผมหัวเราะเบาๆ จิ้มหน้าผากกลมนูนน้อยๆ นั้น
“พูดจาเป็นคนแก่เชียว ไปหาคุณติ๋วได้แล้ว”
น้องมิซูกิยิ้มให้แล้ว วิ่งออกจากห้องไป ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นน้องมิซูกิแสดงกริยาแบบเด็กหญิงที่เปิดเผยตัวเองจากความดีใจจนลืมตัว
เมื่อน้องมิซูกิกลับเข้ามา ผมสั่งการให้เด็กหญิงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะออกไปข้างนอก เนื่องจากชุดที่น้องมิซูกิใส่เป็นประจำเป็นชุดที่ไม่เข้ากับร่างกายและวัยของน้องมิซูกิเลย เสื้อยืดที่ใส่ประจำเป็นเสื้อเก่าๆ ตัวเล็กและกระโปรงที่ใส่ก็เป็นกระโปรงผ้าสุ่มยับๆ ที่ตกสมัยไปนานแล้ว แต่เมื่อน้องมิซูกิกลับเข้ามาพร้อมชุดที่ “ดีที่สุด” ก็ทำเอาผมถอนใจ เพราะชุดที่ดีที่สุดของน้องมิซูกินั้น แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากชุดที่ใส่เป็นปกติเลย
ผมพาน้องมิซูกิไปตรวจที่ดินเปล่าย่านห้วยขวางที่เจ้าของบอกขายผม และให้น้องมิซูกิช่วยจดบันทึกรายละเอียดสำคัญซึ่งน้องมิซูกิก็ทำได้โดยไม่มีข้อตำหนิใดๆ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของสมองที่จับประเด็นและแยกแยะใจความสำคัญได้ดี หลังจากเสร็จแล้ว แทนที่ผมจะกลับแมนชั่นผมกลับพาน้องมิซูกิมาที่โรงพยาบาลประจำที่ผมมีเพื่อนเป็นเจ้าของอยู่ น้องมิซูกิมองรอบๆ ด้วยความสงสัยขยับแว่นสายตาแล้วถามผม
“น้าเอกมาโรงพยาบาลทำไม ไม่สบายเหรอ”
ผมไม่ตอบแต่ยิ้มๆ แล้วจูงมือน้องมิซูกิเข้าไปหาเพื่อนผม น้องมิซูกิขัดเขินนิดหนึ่งเมื่อผมจับมือพาเดินแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออก ปล่อยให้ผมกุมมือน้อยๆ เดินไปราวกับพ่อจูงลูก
ผมขึ้นไปหาเพื่อนผมที่ห้องทำงานโดยให้น้องมิซูกิรออยู่ข้างนอก เมื่อกลับออกมาผมก็พาน้องมิซูกิมาที่แผนกจักษุ แล้วให้น้องมิซูกิไปนั่งที่เก้าอี้ของเครื่องมือขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ทำให้น้องมิซูกิถามผมด้วยความสงสัย
“น้าเอกจะให้มิซูกิทำอะไรน่ะ”
ผมอมยิ้มแล้วตอบเด็กหญิงข้างหน้า
“ก็มิซูกิจะทำงานกับน้า ก็ต้องตรวจสายตาก่อนไง ถอดแว่นออกเอาคางไปวางไว้ที่ช่องรับแล้วจ้องเข้าไปนะ..”
น้องมิซูกิพยักหน้าแล้วปฏิบัติตาม ผมหันไปพยักหน้าให้พนักงานคุมเครื่อง ที่ปรับตั้งเครื่องมือวุ่นวายอยู่ แล้วบอกน้องมิซูกิ
“คุณหนูลืมตาจ้องมานิ่งๆ นะครับ”
เครื่องมือทำงาน น้องมิซูกิส่งเสียง อุ๊ย คำหนึ่งโดยไม่พูดอะไร เจ้าหน้าที่สั่งให้ใช้ตาอีกข้างมองมาแล้วปฏิบัติเหมือนเดิม เมื่อเสร็จแล้วก็ปิดสวิทซ์ น้องมืซูกิยืนขึ้นหยิบแว่นตาที่วางไว้ ผมกดมือเด็กหญิงที่กำลังจะเอาแว่นตาขึ้นมาสวม
“มิซูกิจังยังไม่ต้องใส่แว่น มองดูรอบๆก่อน”
น้องมิซูกิทำหน้างง แต่ก้ยอมมองไปรอบๆ ใบหน้าของเด็กหญิงแสดงความแปลกใจ กระพริบตาถี่ๆ แล้วอุทานออกมา
“น้าเอก..ทำไมมันชัดไปหมดเลย”
ผมหัวเราะแล้วชี้ไปทางพนักงานที่คุมเครื่อง
“น้าคนนี้เขาทำเลสิคให้มิซูกิจังเสร็จแล้วนะ..ทิ้งแว่นตาไปได้เลย มิซูกิจังไม่ต้องใส่มันอีกแล้ว”
น้องมิซูกิมองผมตาค้าง..พูดตะกุกตะกัก
“ละ ละ เลสิค…มันแพงมากนะน้าเอก..มิซูกิไม่มี..”
ผมเอานิ้วจิ้มปากน้อยนั้นไว้
“ไม่ต้องกังวล น้าทำให้เองเลขาน้าจะใส่แว่นตาเชยๆ ไม่ได้หรอก”
ตาสองข้างของน้องมิซูกิปรากฏสีแดงเรื่อๆ น้ำตาเริ่มไหลออกมา แล้วร่างน้อยก็กระโดดเข้ากอดผมแน่น ปากพร่ำขอบคุณละล่ำละละลัก จนผมต้องปรามให้เงียบเสียงแล้วพาน้องมิซุกิออกมาจากโรงพยาบาล ตลอดเวลาน้องมิซูกิมองไปรอบตัวอย่างตื่นตาตื่นใจปากถามผมเป็นระยะถึงอาคารต่างๆ รอบด้าน ผมแปลกใจเล็กน้อยเมื่อทราบว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่น้องมิซูกิมาอยู่ในไทย น้องมิซูกิไม่เคยออกจากที่พีกไปเที่ยวที่ไหนเลย ผมสั่งให้คนขับรถพาไปจอดที่สยามพารากอนแล้วพาน้องมิซูกิไปเข้าร้านทำผมสั่งให้ช่างจัดการกับทรงผมรังนกกระจอกนั้นเสียใหม่ ส่วนผมก็เดินไปเลือกซื้อของที่ร้านใกล้เคียง พอครบเวลาที่ช่างทำผมบอกผมก็กลับไปรับน้องมิซูกิที่ร้าน
“น้าเอก”..
ผมหันไปพบกับเด็กสาวน่ารักในเสื้อผ้าแสนเชยยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าผม ไม่เหลือร่องรอยของน้องมิซูกิที่หมกมุ่นกับการเรียนอีกต่อไป เส้นผมที่เคยกระเซอะกระเซิงถูกปรับสภาพให้เรียบซอยเข้ากับใบหน้าปล่อยด้านหลังให้ยาวแล้วรวบเป็นหางเปียไว้สองด้าน ดวงตาที่ปราศจากแว่นตามาบดบังกลมโตแจ่มใส รอยยิ้มกว้างของน้องมิซูกิเมื่อเห็นผมเผยให้เห็นฟันกระต่ายคู่ใหญ่ ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจบนใบหน้าที่เปลี่ยนจากเด็กหญิงเงียบขรึมมาเป็นเด็กสาวที่ร่าเริงแจ่มใส นี่เป็นใบหน้าที่น่ารักที่ถูกซ่อนจากแว่นตาและทรงผมเชยๆ มาโดยตลอด
ผมยิ้มรับน้องซูกุมิแล้วส่งถุงขนาดใหญ่ให้ใบหนึ่ง
“เอ้า…เป็นของขวัญวันชุบตัวของมิซูกิจังนะ”
น้องมิซูกิทำหน้าสงสัยแต่ก็รับถุงไปเปิดดูแล้วอุทานออกมา..
“น้าเอก…นี่..นี่ ..มัน..”
ผมรีบตัดบท..
“ไม่ต้องพูด ไปที่ห้องลองเสื้อแล้วเลือกออกมาใส่ชุดหนึ่งเดี๋ยวนี้”
น้องมิซูกิจ้องหน้าผมด้วยแววตาที่ผมไม่เคยเห็นก่อนรับคำแล้ววิ่งไปที่ห้องลองเสื้อพร้อมถุงใบใหญ่ในมือ ระหว่างที่ผมรอน้องมิซูกิทำผม ผมได้ไปที่แผนกเสื้อผ่าวัยรุ่น และเลือกเสื้อผ้าเด็กหญิงมา 10 ชุด และชุดว่ายน้ำ 2 ชุดซึ่งไม่มีปัญหาในการเลือกสำหรับผม เพราะที่ผ่านมาผมเป็นเพื่อนกลุ่มเมียตัวน้อยของผมไปซื้อเสื้อผ้าบ่อยๆ ผมจึงรู้ถึงแนวทางการแต่งตัวของเด็กหญิงในวัยน้องมิซูกิดีพอที่จะเลือกเสื้อผ้าให้ได้
น้องมิซูกิกลับออกมาในชุดเสื้อไร้สายสีเหลืองติดระบายด้านหน้า มีแถบเชือกโยงกับลำคอ กางเกงขาสั้นสีขาว ทำให้ร่างเล็กๆนั้นดูสว่าง และเจริญวัยขึ้นดังที่เด็กหญิงอายุ 11 ควรจะเป็น หน้าอกน้อยๆ ที้เพิ่งตั้งเต้าดันตัวออกมาไม่มากนัก ผิวของเนินหน้าอกเป็นสีขาวรูปชุดว่ายน้ำตัดกับผิวส่วนอื่นของร่างกายที่เป็นสีแทน มีรอยสายบราที่หัวไหล่ ผมไม่ได้ซื้อบราให้น้องมิซูกิ ดังนั้นจึงแน่ใจได้ว่าภายใต้เสื้อยืดไร้สายตัวนี้น้องมิซูกิไม่ได้ใส่บราแน่นอน แต่ก็ไม่โป๊เนื่องจากมีระบายหน้าช่วยบังเอาไว้
ผมมองร่างเด็กหญิงตรงหน้าด้วยความชื่นชม น้องมิซูกิมีรางกายบอบบาง แต่เป็นความบอบบางที่เกิดจากโครงกระดูกที่เล็กตามกรรมพันธ์ ผิวเนื้อบนร่างกายของสาวน้อยดูนุ่มนวลโดยไม่มีร่องรอยปูดโปนของกระดูกแบบเด็กที่ผอมทั่วไป หน้าอกแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็เหมาะสมกับร่างบอบบางนั้น เอวเริ่มคอดจนเกิดเป็นรูปร่างของวัยสาว สะโพกน้อยๆ อัดแน่นเป็นรูปร่างในกางเกงขาสั้นสีขาว ลำขาสีแทนเรียวตรงแต่มีช่องว่างกว้างของขาอ่อนส่วนบน ทำให้ผมสงสัยว่าเป็นช่องว่างที่เกิดจากรรมพันธ์หรือเกิดจากลักษณะพิเศษของหีแบบหนึ่งที่ไม่ค่อยพบบ่อยนัก
น้องมิซูกิมีท่าทางเขินเมื่อเห็นสายตาผมที่จ้องร่างที่แปลงโฉมแล้วแบบไม่กระพริบ ใบหน้าน่ารักมีสีแดงรางๆที่แก้ม พึมพัมเบาๆ
“น้าเอกมองอะไร”
ผมได้สติ หัวเราะออกมาแล้วลูบศีรษะน้อยๆ นั้ยอย่างเอ็นดู
“ไม่มีอะไรหรอก ไม่คิดว่ามิซูกิจังจะน่ารักแบบนี้ สงสัยอีกสัก 3 – 4 ปี คงมีหนุ่มๆ มาตามจีบกันเต็มแมนชั่นแน่”
น้องมิซูกิ เบียดเข้ามาชิดผม คล้องแขนไว้แล้วซบหน้าลงกับท่อนแขนผม
“มิซูกิขอบคุณน้าเอก…มิซูกิจะทำงานตอบแทนน้าเอกให้ดีที่สุด”
เย็นนั้นหลังจากน้องมิซูกิเลิกงานกลับไปห้องพัก ผมมีงานด่วนเข้ามาทำให้ต้องอยู่ต่อเพื่อทำงานแต่ผมไม่ได้ขอให้น้องมิซูกิลงมาช่วยเพราะเป็นเวลาเย็นและผมไม่ต้องการใช้งานเด็กอายุ 11 ให้ทำงานแบบผู้ใหญ่ กว่างานจะเรียบร้อยก็เกือบ 4 ทุ่ม ผมปิดไฟพักสายตาอยู่ครู่หนึ่ง ใจคิดว่าจะไปหาน้องโทโมเอะที่ห้องดี หรือจะกลับบ้านไปหาน้องซูกุมิ ผมตัดสินใจจะกลับไปหาน้องซุกุมิเมื่อนึกขึ้นได้ว่าน้องเทนกะจะมาค้างที่ห้องน้องซูกุมิด้วยเพื่อติววิชาภาษาอังกฤษ ร่องหลืบแนวคลื่นของน้องเทนกะเป็นของดีพิเศษที่ผมไม่มีโอกาสชิมบ่อยนักและผมก็ไม่อยากพลาดเสียด้วย
เมื่อผมลุกขึ้นเพื่อเตรียมกลับ หางตาผมรับรู้ความเคลื่อนไหวที่หน้าต่างด้านสระน้ำ ผมมองออกไปเห็นร่างตะคุ่มของเด็กผู้หญิงเดินไปที่สระน้ำในชุดว่ายน้ำแล้วนั่งลงข้างสระหย่อนเท้าลงในน้ำซบใบหน้ากับราวจับบันไดสระแล้วนิ่งอยู่ ผมดูเวลาที่ใกล้ 4 ทุ่มด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย เพราะสระน้ำปิดบริการไปตั้งแต่หนึ่งทุ่มตรง การลักลอบมาว่ายน้ำในเวลากลางคืนนอกจากเป็นการฝืนระเบียบแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อผู้ว่ายด้วย เนื่องจากไม่มีผู้ดูแลความปลอดภัย ผมตัดสินใจเปิดประตูด้านสระน้ำออกแล้วตรงไปหาเด็กหญิงที่ยังคงซบหน้าอยู่กับราวจับ เมื่อผมเดินไปใกล้ผมได้ยินเสียงสะอื้นหนักๆ ดังออกมาจากร่างของเด็กหญิงในชุดว่ายน้ำบิกินี่แบบสปอร์ตสีแดง ชุดว่ายน้ำดูคุ้นตาผมเช่นเดียวกับร่างบอบบางที่ซบอยู่กับราวจับของสระ ผมกระแอมหนักๆ ร่างบอบบางนั้นสะดุ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมองผมทันที เป็นอย่างที่ผมคาดเดาใบหน้าที่มีน้ำตาเนืองนองกลางแสงไฟสระน้ำสลัวๆ นั้นคือใบหน้าของน้องมิซูกิอย่างแน่นอน น้องมิซูกิอุทานออกมา…
“น้าเอก…”
ผมนั่งลงข้างๆ น้องมิซูกิ ลูบผมสลวยที่เพิ่งผ่านการดัดเมื่อบ่ายนี้ แล้วถามเบาๆ
“มิซูกิจังเป็นอะไรไปหรือเปล่า ร้องไห้ทำไมน่ะ”
น้องมิซูกิปล่อยโฮออกมาอีก ผมดึงร่างบอบบางนั้นเข้ามากอดข้างๆ แต่น้องมิซูกิผวาเข้ากอดผมแน่นร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด ผมปล่อยให้น้องมิซูกิร้องไห้ต่อไปโดยไม่ห้าม มือลูบไล้หัวไหล่กลมมนไปมาเป็นการปลอบใจ จนเสียงร้องไห้ค่อยๆ ลดลงแต่ร่างยังคงสั่นจากแรงสะอื้น ผมช้อนคางของน้องมิซูกิให้เงยหน้าขึ้นแล้วถามเบาๆ
“มิซูกิจังเป็นอะไร เล่าให้น้าฟังหน่อยนะ”
น้องมิซูกิไม่ตอบ แต่กลับถามผมด้วยเสียงสะอื้น
“น้าเอก..ถ้ามิซูกิไม่ได้เรียนต่อ น้าเอกจะยังให้มิซูกิทำงานต่อไปได้ไหม”
ผมอึ้งกับคำถามแปลกๆ แต่ก็ตอบไปตามความจริง
“น้าไม่ได้จ้างมิซูกิจังเพราะการศึกษา แต่น้าพอใจการทำงานของมิซูกิต่างหาก..เรื่องการเรียนไม่มีปัญหาสำหรับน้าหรอก..ว่าแต่ทำไมมิซูกิจังจะไม่ได้เรียนล่ะ”
น้องมิซูกิยังคงไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับถามต่อด้วยคำถามที่ทำเอาผมสะดุ้ง
“น้าเอกให้มิซูกิทำงาน ให้ของมิซูกิมากมาย น้าเอกตั้งใจจะเย็ดมิซูกิหรือเปล่า”
“เฮ้ย…” ผมอุทานออกมา “มิซูกิจังเอาความคิดนี้มาจากไหนน่ะ ”
ร่างบอบบางเบื้องหน้ามองตาผมนิ่ง แล้วความลับที่ปกปิดไว้ก็พรั่งพรูออกมาให้ผมรับรู้….
น้องมิซูกิไม่ใช่ลูกแท้ๆของคุณมาซาโอะ แต่เป็นลูกของพี่ชายคุณมาซาโอะที่เสียชีวิตจากโรคมะเร็งเมื่อน้องมิซูกิอายุเพียง 3 ขวบ ส่วนคุณแม่ตายไปตั้งแต่คลอดน้องมิซูกิ หลังจากพ่อของน้องมิซูกิตาย น้องมิซูกิก็ต้องมาอยู่กับน้าตามกฎหมาย ทั้งที่คุณมาซาโอะไม่ต้องการ แม้ว่าน้องมิซูกิจะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทของคุณพ่อจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่มากนักและไม่พอเพียงสำหรับค่าใช่จ่ายของน้องมิซูกิ ทำให้ครอบครัวคุณมาซาโอะไม่ให้ความสนใจน้องมิซูกิและดุด่าเป็นประจำ แม้น้องมิซูกิจะพยายามตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่จนมีผลการเรียนยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่เคยได้รับการชมเชยจากน้าชาย และย้ำเตือนตลอดมาว่าจะส่งให้เรียนจนจบมัธยมต้นเท่านั้น ทำให้น้องมิซูกิต้องพยายามดิ้นรนมาสมัครทำงานกับผมเพื่อสะสมเงินเป็นค่าเล่าเรียนต่อไปให้สูงขึ้น แต่เมื่อน้องมิซูกิกลับไปที่ห้องพักวันนี้และได้แจ้งน้าชายเรื่องที่ผมจ้างงาน ทำเลสิค และซื้อของใช้จำเป็นให้ น้าของน้องมิซูกิแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งและไล่ให้ออกไปจากที่พัก โดยบอกว่าเมื่อหาเงินเองได้ก็ไปหาที่พักและเลี้ยงตัวเอง รวมทั้งประกาศจะไม่ส่งให้น้องมิซูกิเรียนต่อ นอกจากนี้ยังเยาะเย้ยน้องมิซูกิว่าที่ผมจ้างงานและให้ของต่างๆ นั้นก็เพื่อต้องการจะเย็ดน้องมิซูกิแล้วไล่ออกทีหลังเมื่อเบื่อแล้วเท่านั้น
ผมนิ่งอึ้งไปกับเรื่องราวของน้องมิซูกิ และเข้าใจในทันทีว่าทำไมน้องมิซูกิถึงกลายเป็นคนที่ต้องการแข่งขันกับเพื่อนๆ เพื่อหวังให้คุณมาซาโอะพอใจและสร้างให้ตนเองมีโอกาสที่จะได้เรียนต่อ แม้ว่าจะทำให้น้องมิซูกิกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อน และไม่มีโอกาสแสวงหาความสนุกสนานที่เด็กวัยเดียวกันควรจะมีก็ตาม
น้องมิซุกิเล่าต่อไป ทั้งที่ร่างกายยังสั่นจากแรงสะอื้นจนผมรู้สึกได้ ผมกอดร่างบอบบางนั้นให้แน่นขึ้น
“คุณน้าเขาไล่ให้มิซากิออกจากบ้าน บอกให้ไปหาที่อยู่เอาเอง และยึดเอาเสื้อผ้าของใช้ของมิซูกิไว้หมด มิซูกิมีแค่เสื้อผ้าที่น้าเอกซื้อให้วันนี้เท่านั้น เงินที่มิซูกิเก็บไว้แล้วพี่มิซูโฮะยืมไป พี่มิซูโฮะก็ไม่คืนให้บอกว่าเป็นค่าเลี้ยงดู มิซูกิไม่รู้จะทำยังไง น้าเอกก็กลับบ้านไปแล้ว มิซูกิเลยมาที่สระว่ายน้ำตั้งใจนะว่ายน้ำให้เหนื่อยจะได้ไม่ต้องคิดอะไร ”
ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อมิซูโฮะ และนึกขึ้นได้ว่าเป็นชื่อเด็กสาวใจแตกที่ผมเย็ดในคืนที่ผมลงโทษโทโมโกะ ผมเพิ่งรู้ว่าว่ามิซูโฮะเป็นลูกของคุณมาซาโอะ และมีศักดิ์เป็นพี่ของน้องมิซูกิ แต่ตอนนี้ผมไม่คิดถึงเรื่องพวกนั้น ผมต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับน้องมิซูกิข้างหน้าผมนี่เสียก่อน ผมกอดน้องมิซูกิไว้แน่นแล้วตัดสินใจ
“มิซุกิจังมากับน้า ไปพักกับโทโมเอะก่อน น้ารับรองว่าน้าจะแก้ไขทุกอย่างให้ มิซูกิจะได้เรียนเท่าที่ต้องการ และยังคงทำงานกับน้าต่อไป เชื่อน้านะ”
ผมบอกน้องมิซูกิที่จ้องผมอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ผมลุกขึ้นดึงร่างบอบบางนั้นขึ้นมา น้องมิซูกิพยักหน้ารับ เดินไปที่ข้างสระน้ำซึ่งมีกระเป๋าเก่าๆ ใบเล็กๆวางอยู่ ผมสะท้อนใจที่เห็นว่าทุกอย่างที่น้องมิซูกิมีสามารถบรรจุลงในกระเป๋าเล็กๆ ใบนี้ได้ และเชื่อว่าทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมซื้อให้วันนี้เท่านั้น
ผมพาน้องมิซูกิกลับเข้ามาในห้องทำงานแล้วผ่านไปทาวเฮ้าส์ด้านหลัง ให้น้องมิซูกิพักอยู่ที่ห้องนอนผมก่อน แม้ร่างของน้องมิซูกิจะอยู่ในชุดว่ายน้ำที่เผยให้เห็นร่างกายงดงามสมวัยของน้องมิซูกิอยู่ตรงหน้า แต่ผมก็ไม่สมารรถให้ความสนใจมากนักเพราะต้องแก้ไขเรื่องน้องมิซูกิก่อน ผมกลับเข้ามาแล้วไปพบคุณมาซาโอะที่ห้องพัก และเสนอเงื่อนไขรับตัวน้องมิซากิเข้ามาเป็นพนักงานและรับอุปการะน้องมิซูกิ กับคุณมาซาโอะ โดยแลกกับการยกเลิกสถานะผู้ปกครองและเงินในบัญชีของน้องมิซูกิที่ได้จากค่าทดแทนทั้งหมด ผมต้องแปลกใจเมื่อพบว่าการเจรจาง่ายเกินคาด เพราะคุณมาซาโอะเองก็กำลังเตรียมกลับญี่ปุ่นและไม่ต้องการพาน้องมิซูกิกลับไปเให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายอีกต่อไป ผมนัดหมายให้ทนายของผมมาจัดการเรื่องกกหมายกับคุณมาซาโอะในวันรุ่งขึ้นแล้วกลับมาหาน้องมิซูกิที่ห้องด้วยความโล่งใจ
ผมเข้าไปในห้องนอนพบน้องมิซูกินอนขดตัวอยู่บนที่นอนหลับไป นาฬกาที่หัวเตียงบอกเวลา ตี 1 ผมใช้เวลาคุยกับคุณมาซาโอะเกือบ 3 ชั่วโมง ทำให้น้องมิซูกิที่รออยู่หลับไปทั้งที่อยู่ในชุดว่ายน้ำ ผมพิจารณาร่างเด็กหญิงที่กำลังจะเข้ามาอยู่ในอุปการะผมด้วยความสงสาร ใบหน้าน่ารักมีคราบน้ำตาเป็นทาง หมอนที่หนุนมีรอยน้ำตาอยู่เปียกชุ่ม ร่างที่ตะแคงตัวทำให้ทรวงอกแรกผลิในชุดว่ายน้ำเบียดกันแน่นจนดูมีขนาดใหญ่กว่าปกติ เนื้อนวลขาวละเอียดดูน่าสัมผัส ลานท้องราบเรียบขยับขึ้นลงตามการหายใจ สะโพกขนาดกระทัดรัดอวดเส้นแสดงความกลมกลึงของมันในท่าตะแคง ลำขาที่ก่ายกันอยู่แม้จะไม่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเช่นน้องโทโมเอะ แต่ก้เป็นลำขาที่ยางเรียวตรงรับกับสะโพก ผิวเนื้อสีแทนจากการว่ายน้ำทำให้มันดูเป็นลำขาที่สมบูรณ์บนร่างบอบบางของน้องมิซูกิ ผมพิจารณาร่างน้อยเบื้องหน้าด้วยความชื่นชมในความงามที่ถูกปิดกั้นไว้ในชุดเชยๆมาโดยตลอด แต่เป็นความชื่นชมโดยปราศจากอารมณ์ใคร่
น้องมิซูกิถอนหายใจเฮือกหนึ่งแล้วพลิกร่างขึ้นนอนหงาย ผมเลื่อนสายตาลงไปตามหน้าท้องผ่านบิกินี่ท่อนล่างเพื่อพบว่ามันแทบจะราบเรียบไปถึงเนินหีโดยไม่มีเนินนูนขึ้นมาดังเช่นเด็กหญิงวัย 11 เช่นน้องรินะมี ต่ำลงไปเป็นลำขาอ่อนที่มีช่องว่างประมาณ 2 นิ้วไม่เบียดชิดอวบอิ่มเหมือนน้องโทโมเอะ ผมนึกขึ้นได้ถึงข้อสงสัยประการหนึ่งเมื่อผมได้เห็นช่องว่างของลำขาในกางเกงขาสั้นไปครั้งแรก ผมขยับร่างลงมาทางปลายเท้าเพื่อพบกับความจริงที่ซ่อนอยู่ของน้องมิซูกิ
เนินหีขนาดพอเหมาะที่โหนกนูนสมวัยซ่อนตัวอยู่ด้านล่างของบิกินี่ ขนาดของมันใกล้เคียงกับเนินหีของน้องรินะ แต่เมื่อปรากฏอยู่บนร่างเล็กๆ ที่บอบบางของน้องมิซูกิ ขนาดของมันกลับดูโดดเด่นเป็นพิเศษ เนื้อผ้าของชุดว่ายน้ำที่แทรกตัวเข้าไปในร่องหีจากท่านอนตะแคงเมื่อครู่ ทำให้เห็นรูปร่างของร่องหีอย่างชัดเจนราวกับไม่มีสิ่งขวางกั้น ผมจับจ้องร่องหีด้วยจิตใจที่เริ่มปั่นป่วนเล็กน้อย น้องมิซูกิเป็นคนหีคว่ำทำให้โหนกหีย้อยลงมาทางด้านล่างมากกว่าเด็กหญิงทั่วไป และนี่เองเป็นสาเหตุให้โคนขาอ่อนถูกเนื้อหีผลักดันจนปรากฏช่องว่างขึ้น ประสบการณณ์ที่ผ่านมาของผมบอกให้รู้ว่าหีแบบนี้หากใช้ท่าร่วมเพศปกติจะทำได้ยาก ท่าที่เหมาะสมคือการหนุนสะโพกให้ยกสูง หรือเข้าทางด้านหลัง แต่ข้อดีของหีคว่ำคือการที่ถูกบดเบียดจากท่อนขาตลอดเวลาทำให้เป็นหีที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเหมาะกับการร่วมรักยาวนาน
ผมถอนใจพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่ประทุขึ้นมา แล้วจับหัวไล่กลมมนของน้องมิซูกิเขย่าเบาๆ น้องมิซูกิลืมตาขึ้นช้า แล้วเบิกโพลงเมื่อเห็นผม ร่างน้อยกระตุกขึ้นมาในท่านั่ง ทำท่าจะลงจากเตียงจนผมต้องกดให้นิ่งแล้วนั่งลงข้างๆ ผมเอื้อมือไปกุมมือน้องมิซูกิไว้แล้วยิ้มให้
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะมิซูกิจัง”
น้องมิซูกิจ้องตาผม แล้วถามอย่างสงสัย
“เรียบร้อยอะไรหรือน้าเอก”
“น้าไปคุยกับคุณมาซาโอะแล้ว เพื่อขอสิทธิ์เป็นผู้อุปการะมิซูกิจังจนกว่าจะบรรลุนิติภาวะ ต่อไปนี้มิซูกิจังจะต้องย้ายมาพักที่ทาวเฮ้าส์นี้กับโทโมเอะจัง โดยน้าจะรับผิดชอบเรื่องการเรียนและความเป็นอยู่ของมิซูกิจังทั้งหมด และน้องมิซูกิจังจะต้องทำงานเป็นเลขาให้น้าจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย มิซูกิจังจะรับได้ไหม”
ตากลมโตของน้องมิซูกิเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ แล้วถามผมด้วยเสียงตื่นเต้น
“หมายความว่ามิซูกิจะได้อยู่กับน้าเอก ได้ทำงานกับน้าเอกต่อไปใช่ไหม”
ผมพยักหน้า น้องมิซูกิร้องไห้โฮออกมาแล้วโถมตัวเข้ากอดผมจนผมเสียหลักลงไปนอนหงายอยู่บนเตียง ร่างบอบบางของน้องมิซูกิกอดผมแน่นอยู่ด้านบน พร่ำคำพูดออกมาจนแทบฟังไม่ทัน
“มิซูกิดีใจที่สุด ขอบคุณน้าเอก…มิซูกิจะทำงานกับน้าเอกตลอดไปไม่ไปไหนทั้งนั้น”
ผมยันตัวขึ้นมา ดันร่างน้องมิซูกิออกห่างเล้กน้อย แล้วขยี้ผมอย่างเอ็นดู
“คืนนี้มิซูกิจังนอนห้องนี้ไปก่อนนะ พรุ่งนี้น้าจะให้ช่างแต่งห้องข้างๆ โมโมเอะจังให้ แล้วจะได้ออกไปซื้อของใช้จำเป็นทั้งหมดอีกที ไปนอนได้แล้วเปลี่ยนเสื้อซะทีหลังอย่าหลับในชุดโป๊ๆแบบนี้ล่ะ”
น้องมิซูกุหัวเราะออกมา แต่โถมตัวกลับเข้ามากอดผมอีก น้องมิซูกิเงยหน้าขึ้นแล้วก่อนที่ผมจะคาดคิด ปากน้อยของน้องมิซูกิก็กดเข้ากับปากของผมหนักๆ ผมตะลึงนิ่งไปครู่หนึ่ง น้องมิซูกิถอนปากออกจ้องหน้าผมด้วยใบหน้าที่แก้มเป็นสีแดงเรื่อๆ พึมพำ
“มิซูกิขอขอบคุณน้าเอกด้วยจูบแรกของมิซูกิ น้าเอกอย่าโกรธนะ”
ผมถอนใจเอื้อมมือไปลูบผมสลวยด้วยความเอ็นดู
“น้าไม่ต้องการสิ่งตอบแทนจากน้องมิซูกิหรอกนะ น้าจะถือว่าน้องมิซูกิเป็นน้องสาว และน้องมิซูกิต้องถือว่าน้าเป็นพี่ชาย ต่อไปนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้น เอาล่ะไปนอนได้แล้วพรุ่งนี้มีอะไรต้องทำอีกเยอะ”
ผมขยับจะลุกขึ้นแต่น้องมิซูกิดึงผมแรงๆให้กลับลงไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง แล้วขยับตัวมาชิดกอดแขนผมไว้แล้วกระซิบเบาๆ
“น้าเอก…มิซูกิอยากถามอีกเรื่องหนึ่ง”
ผมยิ้มให้ดวงตากลมโตที่จับจ้องผมอยู่
“เอ้าว่ามา…ถามเสร็จแล้วต้องนอนนะ”
น้องมิซูกิกลืนน้ำลาย แล้วถามเสียงสั่นๆ
“ถ้ามิซูกิอยู่กับน้าเอก มิซูกิต้องเย็ดกับน้าเอกเหมือนพี่ซูกุมิ รินะจัง กับโทโมเอะจังหรือเปล่า”
“อะ อะ..อะไรนะ..”
ผมสะดุ้งกับคำถาม เกิดอาการติดอ่างเพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร น้องมิซูกิก้มหน้าแล้วพูดเบาๆ
“เมื่อวานตอนน้าเอกกับพี่ซูกุมิ รินะจังและ โทโมเอะจัง มาที่ห้องนี้ มิซูกิเห็นว่าน้าเอกหายไปนานเลยเปิดเข้ามาดูเห็นน้าเอกกำลังเย็ดกับทั้งสามคน มิซูกิไม่รู้ว่ามิซูกิต้องเย็ดกับน้าเอกด้วยหรือเปล่า”
ผมถอนใจเฮือก นึกด่าตัวเองที่ไม่ปิดล็อคประตูให้เรียบร้อย แต่ก็พยายามตอบน้องมิซูกิด้วยเสียงปกติ
“น้าไม่ปิดบังมิซูกิจังหรอกนะ ทั้งสามคนนั่นเป็นคนที่น้ารัก และทั้งสามคนก็รักน้าเป็นเมียน้ามานานแล้ว แต่มิซูกิไม่จำเป็นจะต้องเย็ดกับน้า เพราะน้าถือว่ามิซูกิเป็นน้องสาวและจะอุปการะมิซูกิจังโดยไม่ต้องตอบแทนอะไรทั้งสิ้น มิซูกิจังสบายใจได้น้าไม่บังคับให้มิซูกิจังทำอะไรที่ฝืนตัวเองแน่นอน”
แทนที่น้องมิซูกิจะปล่อยแขนผม ร่างบอบบางนั้นกับกอดผมแน่นขึ้น ส่งเสียงถามอย่างไม่แน่ใจ
“แล้วน้าเอกรักพี่ซูกุมิ รินะจัง โทโมเอะจัง แบบเดียวกับที่น้าเอกรักมิซุกิหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้า
“น้ารักมิซูกิจังเหมือนน้องสาวนะ แต่ทั้งสามคนนั่นเป็นเมียน้ามันไม่เหมือนกันหรอก มิซูกิจังไม่ต้องกังวล อ้าว..ร้องไห้ทำไมล่ะ”
ผมรู้สึกว่ามีน้ำเปียกที่หน้าอก น้องมิซูกิกำลังร้องไห้ เสียงสะอื้นดังขึ้นเบาๆ
“ถ้าน้าเอกเย็ดมิซูกิ น้าเอกจะรักมิซูกิเหมือนคนอื่นๆได้ไหม”
ผมดันร่างน้องมิซูกิออก จ้องที่ดวงตากลมโตที่กำลังมีน้ำตาไหล ความรู้สึกสองกระแสต่อสู่กันในร่าง ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าผมเองก็รักน้องมิซูกิและอยากให้น้องมิซูกิมาร่วมครอบครัวของผม แต่อีกกระแสหนึ่งก็คิดถึงความไม่สมควร การต่อสู้ดำเนินไปครู่หนึ่งในที่สุดก็ปรากฏผู้ชนะ ผมเชยคางของน้องมิซูกิให้สบตาผมแล้วถามเบาๆ
“น้าขอโทษที่พุดไม่จริงกับมิซูกิจัง น้ารักมิซูกิและอยากให้มิซูกิเป็นเมียน้า แต่น้าไม่กล้าบอกเพราะน้าไม่รู้ว่ามิซูกิรักน้าแบบไหนกันแน่..”
น้องมิซูกิหยุดร้องไห้ทันที ตาเบิกกว้าง แถมตัวเข้ากอดผมเต็มแรงจนผมต้องนอนหงายลงไปที่เตียงอีกครั้ง ร่างน้อยทาบทับผมปากส่งเสียงถี่เร็ว
“มิซูกิรักน้าเอก…อยากเป็นเมียอีกคนหนึ่งของน้าเอก น้าเอกรับมิซูกิไว้ด้วยนะ”
ผมกอดร่างบอบบางแน่น หน้าอกคู่น้อยเบียดชิดกับอกผมจนรู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นนอกชุดว่ายน้ำ ผมพยายามข่มอารมณ์ที่กำลังติ่นตัวจากการสัมผัส แล้วกระซิบเบาๆ
“คืนนี้มิซูกินอนก่อนดีไหม วันไหนมิซูกิพร้อมน้าจะ….”
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ น้องมิซูกิสั่นหน้าถี่ๆ แล้วขยับมาจ้องตาผม พูดด้วยน้ำเสียงราวกับหญิงสาวเต็มตัว
“มิซูกิพร้อมแล้ว … น้าเอกเย็ดมิซูกิเถอะ”
ผมจ้องดวงตากลมโตเขม็ง น้องมิซูกิพยักหน้าราวกับรู้ว่าผมต้องการถามความแน่ใจแล้วซุกหน้าลงกับอก มือผมเริ่มลูบไล้ร่างกายบอบางงดงามในชุดว่ายน้ำไปมา ผิวกายของน้องมิซูกินุ่มนวลและละเอียดราวกับเด็กทารก มือผมผ่านลงไปที่สะโพกกระทัดรัดบีบเบาๆเพื่อรับรสความนุ่มนวลของแก้มก้นก่อนไล้ไปตามขาอ่อนนวลเนียน น้องมิซูกิส่ายร่างไปมา มือน้อยๆ ลูบไล้ท่อนแขนของผม
ผมเชคางน้องมิซูกิขึ้นแล้วจูบเบาๆที่ริมฝีปากบาง น้องมิซูกิกอดคอผมแล้วดันริมฝีปากให้แนบชิด ลิ้นผมถูกส่งออกไปแตะกระตุ้นริมฝีปากที่ปิดสนิท ทำให้มันค่อยๆ เผยอรับเป็นช่องว่างให้ลิ้นของผมผ่านเข้าไปในปากหอมกรุ่น รสน้ำลายที่หอมหวานของเด็กวัยแรกสาวสดชื่นราวกับน้ำทิพย์ ลิ้นเรียวเล็กของน้องมิซูกิขยับมาแตะลิ้นผมอย่างกลัวๆ กล้าๆ แต่เมื่อผมกวาดเกี่ยวมันด้วยความนุ่มนวล ไม่นานนักลิ้นของน้องมิซูกิก็แนบสนิมกับลิ้นของผมและเกี่ยวพันไปมาโดยเพิ่มแรงสัมผัสขึ้นทีละน้อย ร่างของน้องมิซูกิส่ายไหวไปมาตามรสจูบ มือผมสอดเข้าใต้ร่างท่อนบนของน้องมิซูกิกดสลักด้านหนน้าของชุดว่ายน้ำให้หลุดออก แรงดึงของชุดว่ายน้ำดีดผ้าออกไปทางด้านข้าง ทรวงอกน้อยๆที่เริ้มผลิบานของน้องมิซูกิแนบแน่นอยู่กับหน้าอกผม
ผมค่อยๆ ปลดเครื่องแต่งกายออกจากร่างโดยไม่หยุดการจูบกับน้องมิซูกิ เสื้อเชิ๖ถูกถอดออกหน้าอกของผมสัมผัสกับหน้าอกเปล่าเปลือยของน้องมิซูกิเต็มที่จากแรงกดด้านของน้ำหนักตัวน้องมิซูกิ ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งตัวของหัวนมเล็กๆ ที่น้องมิซูกิบดส่ายมันเข้ากับร่างผมตามอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วนจากการจูบ มือผมปลดเข็มขัดกางเกงและรูดมันออกไปทางปลายเท้าพร้อมกางเกงใน แท่งควยแข็งปั๋งชูชันขึ้นมาระหว่างขาของน้องมิซูกิที่คร่อมผมอยู่
ผมถอนจากปากน้อย พลักดันร่างน้องมิซูกิให้ขึ้นมานั่งอยู่บนตักผม หน้าอกงดงามขนาดไม่ใหญ่โตนักแต่สมบูรณ์และเต่งตึงตามวัยปรากฏให้ผมเห็นท่ามกลางแสงไฟ ปลายยอดสีชมพูอ่อนแข็งตัวชูชันไหวระริกผมจ้องมันอย่างตะลึงในความงดงาม น้องมิซูกิหน้าแดง ยกมือขึ้นปิดปลายยอดจากสายตาของผมส่งเสียงสั่นๆ
“น้าเอกอย่าจ้องอย่างนั้น มิซูกิอายนะ”
ผมยิ้มดันร่างน้องมิซูกิให้หงายไปทางด้านหลังทั้งที่สะโพกยังอยู่บนตัก มือผมดึงมือที่ปิดปลายยอดสีชมพูออกโดยปราศจากแรงขัดขืน ผมซุกหน้าไซร้รับความนุ่มนวลของหน้าอกคู่น้อยส่งเสียงพึมพัม
“ไม้ต้องอายหรอกมิซุกิจัง หน้าอกมิซูกิจังสวยที่สุดเลย”
น้องมิซูกิส่ายหน้าไปมาเมื่อหน้าอกถูกใบหน้าผมสัมผัส ผมจูบที่ปลายอกชูชันแล้วใช้ลิ้นดุนดันไปมาน้องมิซูกิส่งเสียงคราง
“อื๋ยยย..น้าเอก..มันเสียว…ยะ อย่าดูด….”
แม้จะส่งเสียงห้าม แต่มือของน้องมิซูกิที่กดศีรษะผมแน่นกับหน้าอก แสดงให้เห็นว่าเป็นการห้ามที่มีความหมายตรงข้าม ผมเล่นกับยอดอกที่ชูชันด้วยปลายลิ้นเพื่อรับรสสัมผัสแล้วดันร่างที่กึลังบิดส่ายลงให้นอนกับพื้นเตียงหนานุ่ม สองมือผมเลื่อนลงไปกอบกุมสะโพกน้อยบีบเคล้นรความหยุ่นตึงก่อนเกี่ยวกับของบิกินี่แล้วลากมันลงไปทางปลายเท้า ผมเลื่อนร่างขึ้นประกบร่างเปลือยของน้องมิซูกิจนแท่งควยแข็งปั๋งกดแน่นอยู่ที่ลานหน้าท้องราบเรียบ ผมจับมือน้องมิซูกิให้เลื่อนลงมากุมมันไว้ น้องมิซูกิสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสขนาดของมันส่งเสียงออกมา
“นะ น้าเอก..มันใหญ่จัง จะเข้าไปในหีมิซูกิได้หรือเปล่าเนี่ย”
ผมละปากออกจากยอดอกแล้วส่งเสียงตอบก่อนเลื่อนตัวลงต่ำ
“งั้นน้าขอสำรวจดูก่อนนะ”
ผมเลื่อนลงมาที่สะโพกของน้องมิซุกิ เบื้องหน้าคือโหนกหีที่ซ่อนตัวอยู่ต่ำลงไปกว่าเด็กหญิงคนอื่นๆ มันโดดเด่นไร้เส้นขนใดๆ ทำให้แคมที่กำลังพัฒนาการทั้งสองข้างดูงดงามน่าลิ้มลอง น้ำหล่อลื่นที่เยิ้มออกมาเคลือบปากแคมทั้งสองเป็นมันวาว ร่องหีวัยเยาว์ปิดสนิทเป็นสัญญานว่าไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้าไปรบกวนความสงบสุขที่ดำเนินมาตลอด 11 ปี ผมประกบปากเข้ากับเนินหีน้อยๆ ไว้แน่นซูกจมูกลงกับติ่งเสียวที่ได้รับการสัมผัสเป็นครั้งแรก ทำให้ร่างน้องมิซูกิกระตุก ครวญครางออกมา
“อูยส์..น้าเอก…โดนอะไรน่ะ..ทำไมมิซูกิเสียวไปหมดแบบนี้..อ๊าวส์..”
น้องมิซูกิร้องออกมาเมื่อปลายลิ้นผมพยยามแทรกผ่านร่องแคมโดยไล้ขึ้นลงตามแนวร่องหี สะโพกน้องมิซูกิบิดส่ายราวกับได้รับความเจ็บปวด แต่กลับบดอัดส่งเนินหีเข้าหาปากผมให้แนบแน่นยิ่งขึ้น ผมกระดิกลิ้นไปมาถี่ยิบปาดขึ้นลงแล้วบดอัดเข้ากับติ่งเสียวน้อยๆ ที่แข็งตัวจนรู้สึกได้ ร่างบอบบางบิดไปน้ำหล่อลื่นหลั่งเข้าสู่ปากผมที่ดูดดื่มมันลงไปดดยไม่รังเกียจ กลิ่นคาวอุ่นๆที่หอมหวานของเด็กหญิงอบอวลจนควยผมแข็งราวกับแท่งคอนกรีต ผมสะบัดปลายลิ้นต่อเนื่องแทรกผ่านเข้าสู่ร่องหลืบเป็นระยะสลับกับการใช้มือบี้เคล้นติ่งเสียว ร่างของน้องมิซูกิดิ้นรนไปมา สองมือขยุ้มผมของผมจิกแน่น ร่างกายเริ่มสั่นเป็นสัญญานบอกให้รู้ว่าน้องมิซูกิกำลังจะรับรู้ความเสียวสุดยอดเป็นครั้งแรกในชีวิต ผมฉกปลายลิ้นถี่ยิบเข้ากับติ่งเสียว สองมือกอบกุมหน้าอกกระทัดรัดด้านบนคลึงหัวนมแข็งปั๋งไปมา ร่างของน้องมิซูกิกระเด้งขึ้นลงราวกับจะดันตัวเองลอยขึ้นไปในอากาศ
“โอ๊สว์….อ๊ายยยยยยยยยยย…นะ..น้า..เอก…มัน…สะ..สะ…อ๊าวส์…..”
น้องมิซูกิร้องออกมาสุดเสียง…สะโพกกระตุกถี่ยิบ ลิ้นผมรับรู้ถึงการบีบตัวของแคมเป็นจังหวะ ร่างบอบบางเกร็งนิ่งค้างในท่าแอ่นโค้งครู่หนึ่งแล้วทิ้งร่างลงกับพื้นเตียง ผมทายร่างลงกอดน้องมิซูกิเอาไว้ ซุกหน้ากับซอกคอริมฝีปากน้อยๆ ของน้องมิซูกิส่งเสียงราวกับละเมอ
“โอย..นะ น้าเอก..มิซูกิยังกับขึ้นสวรรค์เลย….”
ผมจูบบดกับปากนิ่มนวลนั้น แล้วกระซิบ
“ยังมีสวรรค์ชั้นสูงกว่านี้รอมิซูกิจังอยู่นะ”
น้องมิซูกิจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่บอกถึงความรักและความสุขสมที่ได้รับ ถามเสียงเบาๆ
“มิซูกิเคยอ่านจากอินเทอร์เน็ต รู้ว่าน้าเอกจะต้องเอาควยใส่ลงไปในหีของมิซูกิ แต่มิซุกิลองจับควยน้าเอกดูแล้วมันใหญ่จัง หีของมิซูกิจะรับได้หรือน้าเอก..”
ผมจูบปากช่างพูดของนักค้นคว้าแสนฉลาดตัวน้อยเบาๆ แล้วบอกที่ข้างหู
“มิซูกิจังลองจับใหม่อีกทีสิ”
ระหว่างที่พูด ผมก็บังคับกระแสเลือดให้ไหลออกจากควยบางส่วน จนมันมีขนาดเล็กที่สุดที่สองนิ้วครึ่ง มือของน้องมิซูกิเอื้อมลงไปอย่างกลัวๆ แต่เมื่อสัมผัสแล้วกำไว้แน่นน้องมิซูกิก็อุทานออกมา
“อุ๊ย..น้าเอก..ทำไมมันเล็กลงได้”
ผมเคล้นคลึงหน้าอกน้อยๆไปมา ก่อนตอบ
มันเล็กเพราะจะทำให้มิซูกิจังไม่เจ็บไง อีกหน่อยพอคุ้นแล้วมันจะค่อยๆใหญ่ขึ้น รับรองว่ามิซูกิจังจะยิ่งชอบนะ..”
น้องมิซูกิซุกหน้ากับคอผม ทุบหลังผมเบาๆ
“บ้า…น้าเอก บ้า….อุ๊ย”
น้องมิซูกิอุทานออกมาเมื่อมือผมเริ่มไล้ไปตามร่องหีที่ฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่นแล้วแทรกตัวเข้าไปช้าๆ ผมกระซิบข้างหูน้องมิซูกิ
“น้าจะเริ่มละนะ..มิซูกิจังพร้อมไปสวรรค์หรือยัง”
“พะ พร้อมแล้ว..นะ น้า เอก..ค่อยๆ นะ …ซีดส์..โอย…มันเข้าไปแล้ว..”
น้องมิซุกิครางออกมาด้วยเสียงสั่นๆ เมื่อนิ้วชี้ผมค่อยๆกดจมลงไปในร่องหีคับแคบ มันบีดรัดนิ้วมือผมแน่น แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางเมื่อผมพยายามสัมผัสความอบอุ่นภายใน น้ำหล่อลื่นที่ชุมโชกทำให้มันสามารถเคลื่อนตัวเข้าไปได้ลึกขึ้นเรื่อยๆ จนพบจุดหมายที่บอบบางของม่านกั้นพรหมจรรย์ของเด็กหญิง นิ้วมือผมกำหนดระยะเพื่อป้องกันการทำลายเยื่อสูงค่าโดยไม่ตั้งใจ และขยับเข้าออกไปมาเพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับรูหีน้องมิซูกิ
น้องมิซูกิสะบัดหน้าครวญคราง สะโพกแอ่นขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวของนิ้ว ผมดึงหมอนเข้ามาสอดใต้สะโพกของน้องมิซูกิ เพื่อให้หีที่อยู่ต่ำยกตัวเองขึ้นมาในระดับที่พอดีกับควยที่รออยู่อย่างกระวนกระวาย ผมโน้มร่างไปทับร่างบอบบางนั้นไว้ ถอนนิ้วมืออกจากร่องหีแล้วจ่อแท่งควยขนาดพอเหมาะกับรูหีน้อยๆ เข้าตรงเป้าหมายถูไถขึ้นลงเพื่อชะโลมหัวควยด้วยน้ำหล่อลื่นที่ทะลักออกมา ผมก้มหน้าลงจูบไซร้แก้มนวลเนียน กระซิบเบา
“มิซูกิจังไปสวรรค์กับน้านะ .. เจ๊บนิดเดียว..”
น้องมิซูกิพยักหน้ารับหลับตาปี๋กัดฟันแน่น ผมค่อยๆ แทรกหัวควยให้ผ่านแคมที่เคยถูกบุกเบิกด้วยนิ้วลงไปสู่รูหีที่ถูกหนุนให้นูนเด่น แต่ขนาดของควยที่มีเส้นรอบวงใหญ่กว่าทำให้มันเข้าไปได้ลำบาก ผมกระตุ้นยอดอกน้องมิซูกิหนักๆ ควานหาปากน้อยแล้วประกบจูบแลกลิ้นอย่างรุนแรง น้องมิซูกิครางฮือในลำคอกอดผมแน่น เมื่อแรงบีบรัดเริ่มคลายตัว หัวควยผมก็ค่อยๆ ขยับลงไปเรื่อยๆ มันไปได้ช้าๆ แต่การกระตุกของแคมหีและการเต้นของร่องหลืบภายใน ทำให้หัวควยต้องสัมผัสกับแรงงกระตุ้นต่อเนื่องจนผมต้องกัดฟันกรอดเพื่ออั้นไม่ให้น้ำรักที่กำลังวิ่งพรูมาที่หัวควยทะลักออกมาเสียก่อน หัวควยค่อยๆจมลงทีนะน้อย ในที่สุดก็ไปจ่ออยู่กับปากประตูขุมทรัพย์ของน้องมิซูกิ
“อือ..อูวส์…”
เสียงน้องมิซูกิครางในลำคอ ผมขยับแท่งควยขึ้นลงโดยรักษาระยะทางไว้ มือหนึ่งเอื้อมลงไปไปกดคลึงติ่งเสียวด้านบน น้องมิซูกิหลับตาปี๋แลกลิ้นกับผมอย่างดุเดือด ใบหน้าบิดเบี้ยวส่ายไปมาราวกับเจ็บปวด แต่การตอบสนองของสะโพกที่พยายามอัดขึ้นรับการกระเด้าของผมบอกให้รู้ว่าน้องมิซูกิพร้อมสำหรับการบุกเบิกความสาวเป็นครั้งแรกแล้ว
ร่างน้องมิซูกิกระตุกอีกครั้ง ติ่งเสียวที่นิ้วมือผมแข็งตัวชูชันจนรู้สึกได้ น้องมิซูกิถอนปากจากการจูบ ปากน้อยอ้ากว้างจนแทบเป็นวงกลม ส่งเสียงร้องออกมาดังลั่น
“อ๊ายยยยยยยย….น้า..เอก…ปะ..ไป..แล้ว”
สะโพกน้องมิซูกิเกร็งแอ่นขึ้นหาแท่งควย ผมตัดสินใจสวนกลับลงไปเต็มๆ หัวควยผมแทรกผ่านม่านบอบบาง รับรู้ถึงการฉีกขาดแล้วดำดิ่งผ่านเข้าสู่ร่างกายของน้องมิซูกิจนสุดโคน น้องมิซูกิสะดุ้งเฮือก ผมรีบกดริมฝีปากน้องมิซูกิไว้แน่นเพื่อป้องกันการส่งเสียงร้องแล้วไซร้ลิ้นไปมา น้องมิซูกิเกร็งตัวแน่นอยู่ครู่หนึ่งหางตามีน้ำตาซึมออกมา ผมหยุดแช่ควยไว้ภายในนิ่ง จูบไซร้ริมฝีปากหอมหวานจนในที่สุดน้องมิซูกิก็เริ่มจูบตอบ ผมถอนจูบแล้วกระซิบถามข้างหูน้องมิซูกิ
“มิซูกิจัง เจ็บมากไหม”
น้องมิซูกิพยักหน้า..ตอบเสียงสั่นๆ
“เจ็บมากเลยน้าเอก..แต่พอดีน้าเอกดันมันลงไปตอนที่มิซูกิไปสวรรค์พอดี มันเลยกลายเป็นเจ็บและเสียวสุดๆ พร้อมๆ กัน…นี่มิซูกิเป็นเมียน้าเอกแล้วใช่ไหมน้าเอก..”
น้องมิซูกิตอบผมอายๆ
ผมพยักหน้ารับ
“มิซูกิจังเป็นเมียน้าแล้ว…ต้องอยู่กับน้าตลอดไปนะ มิซูกิจังพร้อมจะขึ้นสวรรค์พร้อมกับน้าหรือยัง”
น้องมิซูกิหลับตา ส่งเสียงตอบ
“มิซูกิจะไปสวรรค์พร้อมน้าเอก…น้าเอกเบาๆก่อนนะ”
ผมยกสะโพกขึ้น ก้มลงดูลำควยที่มีคราบเลือดปกคลุมด้วยความรู้สึกตื้นตันที่เด็กหญิงแสนน่ารักคนนี้มอบร่างกายให้ ผมค่อยๆขยับขึ้นลงอย่างช้าๆ ก้มหน้าใช้ลิ้นไซร้ยอดอกอย่างแสนรัก ความนุ่มนวลของหน้าอกวัยสาวแนบอยู่กับแก้มผมมันเป็นความรู้สึกพิเศษที่ไม่สามารถบรรยายรสสัมผัสนี้ได้ ปลายยอดอกที่ชูชันไหวระริกสู้การดุนดันของลิ้นผม น้องมิซูกิครางเสียงกระท่อนกระแท่น..
“น้า..นเ..เอก..เร่งอีกนิดก็ได้..มิซูกิไม่ค่อยเจ็บแล้ว”
ผมเพิ่มความเร็วในการกระเด้าทีละน้อย ร่างของน้องมิซูกิเริ่มบิดส่ายไปมาตามแรงกระแทก ปากน้อยอ้าออกค้าง เสียงน้องมิซูกิเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“อู้วส์ …อ๊าสว์…”
ผมถอนปากจากหน้าอกของน้องมิซูกิมาอยู่ในท่าคุกเข่าหน้าหมอนที่หนุนสะโพกน้องมิซูกิ สองมือยึดสะโพกกลมกลึงเอาไว้ แล้วกระหน่ำกระเด้าถี่ยิบ น้องมิซูกิบิดร่างจนแทบหลุดจาการเกาะกุมของผม ร่างกายส่ายไปมา สองมือจิกผ้าปูตียงแน่น โยกสะโพกสวนเข้ากับควยของผมอย่างไม่กลัวเจ็บ ความเสียวระดมพลมาที่ปลายควยผมแล้วทะลักพรวดเข้าสู่ภายในรูหีของน้องมิซูกิเต็มแรง มันฉีดเข้าไปจนเต็มความสามารถของรูหีน้อยๆ ในการกักเก็บแล้วเอ่อล้นทะลัออกมาภายนอก
“อ๊ายยยยยยยย…..”
น้องมิซุกิร้องลั่นเมื่อสายน้ำรักมหาศาลฮีดเข้ากระทบมดลูกที่ยังัฒนาไม่สมบูรณ์ ร่สางน้อยเกร็งอัดเนินหีเข้ากับควยผมแน่น ผมบดส่ายหนอกควยไปมาเพื่อเพิ่มแรงสัมผัสและปลอบโยนรูหีที่บอบช้ำจากสงครามครั้งแรก ก่อนทรุดตัวตามลงทาบทับร่างน้องมิซูกิ
ผมพรมจูบไปทั่วใบหน้าแสนน่ารักนั้น จนน้องมิซูกิลืมตาขึ้นแล้วยิ้มให้ผมอายๆ ผมกระซิบถามล้อๆ
“สวรรค์เป็นไงบ้างมิซูกิจัง”
น้องมิซูกิดึงศีรษะผมลงไปกดกับหน้าอกน้อยๆ ทุบไหล่ผมเบาๆ
“มันสุขจนไม่อยากลงมาเลยน้าเอก…”
ผมปล่อยกระแสเลือดเข้าสู่ควยเพิ่มขึ้น จนมันขยายตัวยาวออกไปอีกราวหนึ่งนิ้ว เบ่งตัวคับแน่นอยู่ในหลืบหีของน้องมิซูกิ แล้วกดลงไปจนจมลงไปในรูหีที่อบอุ่นจนมิดอีกครั้ง น้องมิซูกิเบิกตาโพลง
“อูยส์..น้าเอก..มันคับไปหมดเลย”
ผมบดส่ายแท่งควยไปมา จนน้องมิซูกิเริ่มตอบสนองแล้วกระซิบข้างหูน้องมิซูกิ
“ถ้ามิซูกิจังไม่อยากลงมา ก็ไม่ต้องลง น้าจะพาขึ้นไปทั้งคืนเลยนะ…”
……………………