XO ตอนที่ 21 – วิถีมารฟ้า

XO ตอนที่ 21 – วิถีมารฟ้า

XO ตอนที่ 21 – วิถีมารฟ้า

                            ……………………………….  เจ็ดนางฟ้าสกุลเทียนแห่งหอโคมแดงนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือด้านความงามที่สามารถล่มเมืองได้ อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญด้านศิลปะดนตรีและการร่ายรำสูงยิ่ง พวกนางเป็นแม่เหล็กชั้นดีให้แก่หอนางโลมโคมแดงในเมืองหลวงแห่งทวีปไชนี่ เรียกได้ว่าไม่มีบุรุษใดที่ได้ยลโฉมแล้วจะไม่หลงไหลไปกับความงาม ไม่มีผู้ใดที่ได้ใกล้ชิดแล้วไม่บังเกิดความต้องการทางเพศ

สำหรับบุรุษผู้หนึ่ง ขอเพียงได้ครอบครองหนึ่งในเจ็ดนางฟ้าสกุลเทียน ก็แทบจะก้มกราบขอบคุณสวรรค์แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการแก่งแย่งยื่นผลประโยชน์เพื่อซื้อใจเหล่านางฟ้าทั้งเจ็ด หากทว่าพวกนางมีนัยย์ตาอันสูง ไม่เคยแสดงท่าทีว่าจะสนใจใคร

แม้แต่ชนชั้นสูงในราชสำนักของทวีปไชนี่ก็มิอาจทำให้พวกนางชายตามองได้ ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสนใจยิ่งว่าบุคคลเหล่านั้นจะเป็นเช่นไรหากได้ทราบว่า เวลานี้
นางฟ้าทั้งเจ็ดได้หมอบราบคาบบังเกิดความลุ่มหลงต่อบุรุษหนุ่มคนเดียวกันเข้าแล้ว

กลิ่นหอมเย้ายวนดุจยืนอยู่กลางทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์แผ่วพลิ้วโชยไปทั่วห้อง ความงามล้ำของใบหน้าสวยหวานทำให้ห้องเล็ก ๆ แห่งนี้สว่างสดใสราวกับสรวงสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใบหน้านั้นแดงก่ำขัดเขิน ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยแรงปราถนาแห่งรักและกามารมณ์ ทั้งยังสวมใส่อาภรณ์รัดสั้นอวดสัดส่วนโค้งเว้าหนั่นแน่นของสตรีออกมาอย่างเต็มที่

อารมณ์ของพวกนางทั้งเจ็ดคล้ายภูเขาไฟที่ใกล้ประทุ ความรู้สึกรักและหลงที่จนล้นอกนั้นพลุ่งพล่านเกินทนไหวอยู่แล้ว แต่เมื่อพากันมาแอบดูบทรักอันเร่าร้อนของชายคนรักและเตียวเสี้ยน พวกนางก็กลายเป็นภูเขาไฟที่กำลังเริ่มระเบิดปะทุส่งความร้อนแรงออกมาในทันที

หลังจากแย่งชิงตำแหน่งแอบดูจากด้านนอกห้องจนประตูพังครืนลงมา พวกนางทั้งเจ็ดต่างก็นั่งส่งสายตายั่วเย้าเว้าวอนโดยไม่คิดปิดบัง พวกนางเพียงต้องการได้ลิ้มชิมความสุขหฤหรรษ์ของรสรักจากบุรุษที่พึงตาบ้าง เพียงแต่ด้วยมารยาทแห่งอิสตรีที่ถูกสั่งสอนมาทำให้พวกเธอไม่ถึงขั้นโผกันเข้าไปยื้อแย่งราวสตรีที่บ้าคลั่ง

การแสดงออกที่สื่อว่ามีความต้องการ หากทว่าโดนความเขินอายกดข่มไว้นั้น นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของสตรีส่วนใหญ่ในโซนเอเซีย ซึ่งแตกต่างจากสตรีในพื้นที่ซึ่งเปิดเสรีมากกว่า ไร้ข้อระแวงมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น สาวชาวเผ่าอย่างคาร่าและมีอา ซึ่งพร้อมจะโผเข้ามายื้อแย่งโดยไม่รู้สึกว่าไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หากไม่นับเตียวเสี้ยนซึ่งเพิ่งได้รับความสุขสมแล้ว สายตาของเจ็ดนางฟ้ากำลังทำให้แม็กเริ่มรู้สึกลำบากใจ แน่นอนว่าในฐานะของบุรุษแล้ว เขาย่อมตื้นเต้นยินดีที่ได้ครองครองสาวงาม หากทว่าในเวลาเดียวกันสัญชาตญานหนุ่มนักรักในสายเลือดก็ทำให้เขารู้สึกเคร่งเครียด ด้วยต้องการแบ่งปันความสุขให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม เพียงแต่ตนเองมีร่างเลือดเนื้อเพียงร่างเดียว จึงไม่ทราบว่าสมควรต้องกระทำเช่นไร

“ชิงอ้าย (親愛) ท่านไปปลอบประโลมพวกนางก่อนเถอะ”

เตียวเสี้ยนเอ่ยขึ้นมาก่อนใครด้วยใบหน้าอันแดงก่ำขัดเขิน ซึ่งนั่นย่อมไม่แปลก เพราะว่าเวลานี้เธอเป็นสตรีเพียงผู้เดียวที่เปลื้องผ้าอยู่กลางสายตาผู้คน อีกทั้งยังอยู่ในท่วงท่าร่วมรักกับบุรุษหนุ่มอย่างจะแจ้งไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิด แม้แต่ตอนนี้มังกรน้อยของเขาก็ยังคงมุดแทรกอยู่ในร่างของเธอ

แม็กหันไปพยักหน้าให้เตียวเสี้ยนแล้วค่อย ๆ ถอนแก่นกายออกจากร่างงาม แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือสะโพกผึ่งผายกลับเด้งร่อนขยับตามพร้อมกับสองขาที่ขยับตวัดรัดเหมือนไม่ยอมปล่อยให้เขาจากไป แม็กจึงก้มลงมองดูในขณะที่เตียวเสี้ยนใบหน้าแดงก่ำใบหน้าร้อนผ่าวกว่าเดิม เธอย่อมมิได้ตั้งใจ หากทว่าร่างกายของเธอไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่ง หรือจริง ๆ แล้วในใจเธอเองก็ไม่ต้องการให้เขาถอนตัวจากไปแม้สักเศษเสี้ยวของวินาที

อย่างไรก็ตามเมื่อหันไปดูสายตาเร่าร้อนของพี่น้องที่เหลือ เตียวเสี้ยนก็ทอดถอนหักใจฝืนบังคับสองขาออกจากการรัดพัน ปล่อยให้เขาถอยกายออกไปจากร่าง และตั้งแต่วินาทีนั้นเธอก็รับรู้ได้ถึงความโหวงเหวงเหมือนขาดสิ่งสำคัญในชีวิตไปสักอย่าง

“เอ๊ะ … เมื่อกี้เรียกผมว่าอะไรนะ ไม่ใช่คำว่าหน้าโง่นี่นา”

“หน้าโง่ เจ้าฟังผิดแล้ว”

“ไม่ใช่มั้ง เมื่อกี้อะไรนะ ชิงอ้าย อะไรสักอย่าง ภาษาจีนเหรอ?”

แม็กทำท่าจะขยับลงจากเตียง แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เตียวเสี้ยนเรียกตนเองด้วยถ้อยคำที่แปลกไป จึงหันหน้ามาถามไถ่ หากทว่าสาวงามกลับทำเป็นไม่รู้เรื่องทั้งยังเร่งรีบคืบคลานไปหยิบเอาผ้าห่มมาปิดคลุมเนื้อตัวจนมิดเสียอีกต่างหาก

“นางพูดว่า ชิงอ้าย แปลว่าคนรัก นางเรียกท่านเป็นคนรัก … ส่วนพวกเราก็จะเรียกเช่นเดียวกัน”

เตียวเสี้ยนคลุมโปงไม่ยอมตอบ แต่เป็นเทียนซูพี่ใหญ่สกุลเทียนเป็นฝ่ายอธิบายให้ด้วยสีหน้ายั่วเย้าเร่าร้อน แม็กจึงหันไปมองดูเตียวเสี้ยนที่แอบอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยความรู้สึกอบอุ่นวาบหวามใจ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะน้ำชาพร้อมกับครุ่นคิดว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้าง จึงจะสามารถตอบสนองความรักให้หญิงสาวทั้งเจ็ดนางได้พร้อมกัน เพราะปัญหาอีกอย่างก็คือตอนนี้เป็นเวลาเกือบเช้าแล้ว และเขามีเวลาออนไลน์ถึงแค่ก่อนเที่ยงเท่านั้น

เขาเลือกถ่วงเวลาด้วยการรินน้ำชาใส่ถ้วยให้ตนเอง ในขณะที่บรรดานางงามทั้งเจ็ดต่างก็จ้องมองมาด้วยความคาดหวัง ว่าตนเองจะถูกรับเลือกไปโอบกอดร่วมรักเป็นคนถัดไป

‘เอาไงดีหว่า เลือกมาจัดการทีละสองสามคนดีมั้ย หรือว่าจะเลือกมาทีละหนึ่ง … ทักษะดี ๆ ที่่น่าจะใช้งานได้ก็ไม่น่าจะมีนะ … ลองดูทักษะที่ได้มาใหม่จากเตียวเสี้ยนก่อนดีกว่า มารฟ้าเจ็ดวิถีอะไรสักอย่างนี่แหะ’

แม็กคิดพลางแอบเปิดหน้าต่างของระบบขึ้นมาในดวงตาของตนเอง จากนั้นจึงค่อย ๆ ไล่อ่านทักษะใหม่ที่ได้มาด้วยหวังว่าจะมีอะไรบางอย่างที่สามารถนำมาแก้ไขปัญหานี้ได้ หรือหากต่อให้ไม่มีอะไรเลย เขาก็คิดว่าคงจะต้องใช้วิธีค่อย ๆ ปลอบประโลมพวกเธอไปทีละคน

‘ปราณมารฟ้าเจ็ดวิถี ปราณระดับแปดดาว ร่ำลือกันว่าเป็นเคล็ดปราณที่มารฟ้าเคยทิ้งไว้ให้มนุษย์เพื่อฆ่าฟันกันตั้งแต่อดีตกาล เคล็ดปราณหลักแฝงพลังอาถรรพ์ของธาตุมืด ทั้งครอบคลุมด้วยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณ ยกเว้นเพียงธาตุแสง’
‘มารหมื่นแปร – ปราณธาตุมืดและธาตุลมเร่งความเร็วของการเคลื่อนไหวในพริบ พร้อมกับสร้างภาพมายาหลอกล่อจนศัตรูแยกแยะไม่ออกติดตามไม่ทัน’
‘จันทราดับสูญ – ปราณธาตุมืด สร้างหลุมดำขนาดเล็กเพื่อดูดสรรพสิ่งให้ดับสูญไปตลอดกาล’
‘ตะวันดำ – ปราณธาตุไฟและธาตุมืด สร้างเปลวอัคคีสีดำจากขุมนรกเพื่อแผดเผาทำลายทุกสรรพสิ่ง’
‘เก้าร่างอวตาร – ปราณธาตุดินและธาตุมืด แบ่งภาคสร้างร่างอวตารของมารฟ้าจำนวนเก้าร่างเพื่อไล่เข่นฆ่าศัตรู โดยแต่ละร่างจะมีค่าพลังเท่ากับครึ่งเดียวของร่างจริง’
‘นรกยะเยือก – ปราณธาตุน้ำและมืด แผ่ไอเย็นเพื่อแช่แข็งทุกสรรพชีวิต’
‘มารฟ้าสูบวิญญาณ – ปราณธาตุวิญญาณ ดูดกลืนพลังงานของสรรพสิ่งรอบกาย เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ตนเอง’
‘สรรพสิ่งดับสูญ – ปราณธาตุมืด วิญญาณ ดิน น้ำ ลมไฟ ระเบิดพลังทั้งมวลเพื่อทำลายล้างในวงกว้าง เมื่อใช้งานพลังชีวิตจะลดลงเหลือเพียงหนึ่งหน่วย’

ดวงตาที่ไล่อ่านรายชื่อทักษะนั้นแสดงอาการฉงนสงสัยระคนยินดีแวบหนึ่ง ก่อนจะขมวดมุ่นหนักใจ แล้วกลับมาเป็นยิ้มกริ่มยินดีย้อนกลับไปกลับมาหลายรอบ เหล่านางงามทั้งเจ็ดที่จับจ้องรอคอยการเลือกเฟ้นจึงพากันฉงนสงสัยตามไปด้วย กระนั้นพวกนางก็มิได้ปริปากเอ่ยถาม เพราะพวกนางต่างเชื่อว่าบุรุษหนุ่มของพวกนางกำลังใช้ความคิดว่าจะเลือกผู้ใดเป็นลำดับแรก

“เอาล่ะ … เราจะเล่นซ่อนหากัน ผมจะแอบแถวนี้ ใครเจอผมก่อนจะมีรางวัลให้”

แต่แล้วขณะที่พวกนางกำลังลุ้นระทึกจนใจเต้นโครมครามนั้น ชายหนุ่มกลับเงยหน้าเผยรอยยิ้มระยิบระยับมากด้วยเล่ห์เหลี่ยม ก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้พวกนางพากันสับสนสงสัย แล้วกระโจนพุ่งร่างออกทางประตูหายวับไปกับความมืด

ความเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงทำให้เหล่านางงามทั้งเจ็ดต่างเหม่อมองออกไปทางประตูห้อง แล้วจึงค่อยหันหน้ามามองกันเองพักใหญ่ ก่อนเทียนซูพี่ใหญ่ซึ่งมีสติปัญญากว่าใครจะได้สติ และเริ่มเคลื่อนไหวพุ่งกายหายออกไปในความมืด วินาทีนั้นเองที่เหล่านางงามที่เหลืออีกหกนางเริ่มตื่นตัวได้สติ รีบสูดลมหายใจแล้วเรียกใช้วิชาตัวเบาพุ่งร่างออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะกระทำได้

พวกนางเพิ่งตระหนักทราบความหมายของบุรุษหนุ่ม แทนที่เขาจะลงมือเลือกเฟ้นด้วยตนเอง เขากลับเลือกเล่นเกมเล็ก ๆ ให้พวกเธอท้าทายแข่งขันกันเอง ซึ่งแบบนี้ก็นับว่าน่าตื่นเต้นเร้าใจยิ่งกว่าแบบแรก ต่อให้เธอพลาดพ่ายแพ้ก็ถือว่าพวกเธอด้อยความสามารถ และสมควรปล่อยให้ผู้ชนะได้รับรางวัลไปก่อน เวลานี้สิ่งที่พวกเธอสมควรกระทำก็คือเร่งรีบตามหาเขาให้เจอก่อนใคร

ห้องนอนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนเมื่อครู่จึงกลายเป็นเงียบงัน หลงเหลือแต่เพียงเตียวเสี้ยนที่นั่งพักเหนื่อยอยู่บนเตียงพร้อมด้วยรอยยิ้มขบขัน เธอหัวเราะคิกคักเหมือนเพิ่งจะคิดเรื่องสนุกสนานอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ จากนั้นร่างงามที่ไร้อาภรณ์ก็เริ่มขยับเขยื้อนหยิบเอาเสื้อผ้าอาภรณ์ขึ้นมาสวมใส่อย่างเชื่องช้า แล้วหยิบเอาขลุ่ยลำนำสวรรค์มาเก็บไว้

“คิก คิก เมื่อครู่พวกเจ้าไม่ได้ห้ามข้าละเล่นด้วย ดังนั้นข้าจึงสมควรละเล่นด้วยอีกสักคน”

เตียวเสี้ยนกล่าวพลางหัวเราะเสียงใด แล้วค่อย ๆ เดินเยื้องย่างออกจากห้องนอนไปโดยไม่เร่งรีบ ซึ่งความจริงแล้วเธอเองย่อมต้องการเร่งรีบ หากทว่าที่กลางหว่างขายังรู้สึกหน่วงระบมอยู่บ้าง จึงไม่สะดวกกับการกระโดดโลดโผน อีกทั้งเธอยังไม่แน่ใจนัก ว่าชายคนรักของเธอไปแอบซ่อนอยู่ที่ใด เธอจึงต้องใช้ความคิดไปก่อน

พื้นที่ในเรือนน้อยแห่งนี้จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก จะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ มันมีพื้นขนาด 4 มู่ (หน่วยวัดของจีน) หรือ 4 ไร่ (1,600 ตารางวา) มีทั้งพื้นที่โล่ง เรือนพัก หนองน้ำ และพื้นที่อุดมด้วยพืชพันธ์ อีกทั้งยังอยู่ในยามมืดค่ำวิกาล การซ่อนตัวจึงกระทำได้ง่าย การค้นหาทำได้ยาก แต่เตียวเสี้ยนเชื่อว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะซ่อนตัวให้ค้นหาไม่เจอ หรือต่อให้คิดจะซ่อนตัวก็มิใช่เรื่องง่าย เพราะพวกเธอทั้งแปดล้วนแล้วแต่เป็นยอดยุทธ์ทั้งสิ้น เธอจึงค่อย ๆ เดินไปพร้อมกับครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งมวล

นี่อาจเป็นภาพที่น่าแปลกประหลาดอยู่บ้าง สาวงามทั้งแปดซึ่งสวมใส่อาภรณ์วาบหวิวยั่วเย้า ต่างแยกย้ายกันเคลื่อนไหวค้นหาฝ่าความมืดในยามวิกาล ต่างคนต่างเร่งเร้าประสาทสัมผัสสอดส่ายสายตามองหาบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเพียงเพื่อปลดเปลื้องเพลิงไฟที่แผดเผาอยู่ภายใน

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่แปดนางงามพยายามค้นหาอย่างละเอียด กลับปรากฎเงาร่างของบุรุษหนุ่มที่มีรูปร่างร่างหน้าตาเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนจำนวนเก้าร่าง แต่ละร่างกำลังกระพือปีกที่เหมือนค้างคาวอยู่บนท้องฟ้ายามราตรี ใบหน้าของทั้งเก้าทอประกายตื่นเต้นสนุกสนานมากเล่ห์เหลี่ยม ไม่มีร่างใดหันมามองหน้าหรือพูดจาสื่อสารอันใด หากทว่าแต่ละร่างต่างก็จับจ้องมองตามเงาร่างของหญิงงามที่ได้จับจองเอาไว้ราวกับแววตาของหมาป่าที่มองดูเหยื่อ

มีเพียงร่างเดียวที่มองภาพรวมเหมือนครุ่นคิดวางแผนและลอยตัวค้างแน่วนิ่งอยู่ที่เดิม ปล่อยให้เงาร่างแปดร่างค่อย ๆ แยกย้ายลดระดับความสูงตรงไปหาสาวงามทั้งแปดที่อยู่เบื้องล่างอย่างลึกลับเงียบงัน

ร่างอวตารมารฟ้าซึ่งเคยเป็นที่หวั่นเกรงของเหล่าเทพสวรรค์กำลังหวนกลับคืนมาอีกครั้ง หากทว่าที่แตกต่างก็คือร่างอวตารในครานี้มิใช่เคลื่อนไหวด้วยสองตาแดงฉานเพื่อเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธ์อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต หากทว่าการเคลื่อนไหวนี้ดูไปแล้วคล้ายจะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อขยายเผ่าพันธุ์เสียมากกว่า

……………………………….

ตำนานของทวีปไชนี่กล่าวไว้ว่า มารฟ้านั้นเป็นเผ่าพันธุ์เทพองค์หนึ่ง ทั้งยังเป็นยอดอัจฉริยะยากหาใครเทียม เชี่ยวชาญในสรรพธาตุ หากทว่าเขากลับฝักใฝ่ในอำนาจของฝ่ายมืด ปฏิเสธไม่แตะต้องพลังแห่งแสงสว่าง เขามากด้วยเล่ห์เหลี่ยมโฉดชั่วและมักมากในกาม เทพองค์นั้นได้แอบกระทำการฉุกลากนางสวรรค์ไปหลายนาง เพื่อทำการปลุกปล้ำข่มขืนจนมีบุตรหลาน สร้างเป็นกองทัพมารฟ้าจนเกือบสามารถยึดครองสวรรค์ได้

ยังดีที่เทพนี่หวาทรงลงมือพิทักษ์สวรรค์ กักขังมารฟ้าเอาไว้ในมิติอันลึกลับที่สุดแห่งหนึ่ง แต่มารฟ้าก็ได้หว่านเมล็ดพันธุ์เผยแพร่เคล็ดปราณเจ็ดวิถีมารฟ้าเอาไว้แก่เหล่ามนุษย์ ด้วยหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีผู้ที่เก่งกล้าพอจะใช้วิชาของตนบุกเข้าครอบครองสวรรค์อีกครั้ง

เมื่อขึ้นชื่อว่าสุดยอดเคล็ดวิชาที่ทำให้เหล่าเทพหวาดกลัวแล้ว การฝึกฝนย่อมไม่อาจกระทำได้โดยง่าย ต่อให้แม็กได้รับเคล็ดวิชานี้มาจากเตียวเสี้ยนโดยอาศัยทักษะพิเศษสุดโกงมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าได้รับมาแล้วจะสามารถใช้งานได้ เพราะเคล็ดมารฟ้าเจ็ดวิถีนั้นมีเงื่อนไขหลายอย่างที่ยากยิ่งอยู่ด้วย

เงื่อนไขแรกสุดที่ถือว่ายากลำบากมาก ก็คือต้องมีสัมผัสของธาตุมืดในระดับ Master (ถ่องแท้) ซึ่งหากให้เรียบเรียงระดับของสัมผัสจากต่ำไปสูงก็คงแบ่งได้เป็น 5 ระดับ ดังนี้ Basic (พื้นฐาน), Expert (ชำนาญ), Master (ถ่องแท้), Natural (เป็นธรรมชาติ) และระดับสุดท้ายซึ่งเป็นระดับที่มีแต่ในตำนานนั้นเรียกกันว่าระดับ Enlightenment (ตรัสรู้)

เตียวเสี้ยนนั้นมีสัมผัสธาตุความมืดอยู่ในระดับ Master ด้วยเหตุผลทางสายเลือดบางประการ จึงสามารถเรียนรู้ได้ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดใช้ได้เต็มที่เพียง 3 จาก 7 เคล็ดความ ส่วนแม็กนั้นมีระดับสัมผัสธาตุถึงระดับ Natural จนเกือบถึงระดับสูงสุดด้วยซ้ำ เนื่องจากได้รับทักษะมาจากแอสโมดิอุสเทพีราคะ ทำให้เขาสามารถใช้งานปราณมารฟ้าทั้งเจ็ดวิถีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเตียวเสี้ยนที่เป็นต้นฉบับให้เขาดูดวิชามาเสียอีก

เพียงเงื่อนไขแรกก็ยากลำบากมากแล้ว แต่ยังมีเงื่อนไขในการใช้งานทักษะที่ยากลำบากอีกอย่าง ก็คือค่าพลังปราณในการเรียกใช้บางทักษะนั้นสูงลิบ ยกตัวอย่างเช่นวิถีเก้าร่างอวตารนั้น ความจริงต้องใช้พลังปราณมากถึงหนึ่งแสนหน่วยในการเรียกใช้ ตามด้วยการสูญเสียพลังปราณอย่างต่อเนื่องนาทีละหนึ่งพันหน่วย

หากเป็นแม็กก่อนนี้คงได้แต่มองทักษะตาปริบ ๆ ไม่สามารถเรียกใช้งานได้ เพราะต่อให้เขาได้รับพลังจากเทพมารโฟร์มดมา แต่ก็ยังมีค่าพลังปราณติดเพดานเลเวล 1 คลาส 0 ที่ 10,000 หน่วย เมื่อรวมกับผลของเรือนจันทราซ่อนที่เพิ่มปราณ 100% ก็ยังคงมีพลังปราณสูงสุดเพียงแค่ 20,000 หน่วย หรือเมื่อผนวกกับทักษะ Ruler ที่เพิ่มค่าพื้นฐานทุกอย่าง 100% ก็ยังมีแค่ 30,000 หน่วย

ด้วยเหตุนี้เขาจึงแสดงท่าทีแปลกพิกลในคราวแรก เพราะคิดว่าเจอทักษะที่ยอดเยี่ยมแล้ว แต่ไม่สามารถใช้ได้ กระทั่งเมื่อลองเปิดดูค่าสถานะตัวเองใหม่เขาจึงค่อยตะลึง แล้วยิ้มกริ่มนึกแผนการบางอย่างออกมาได้

ข้อมูลพื้นฐานของตัวละคร
ชื่อ : Guyver เผ่าพันธ์ : Titan(ไททัน) ระดับ : 1 คลาส: 0
ทรัพย์สิน: 28,980 เหรียญทอง – 10 เหรียญเงิน – 1,000 เหรียญทองแดง
ชื่อเสียง: 53,012 หน่วย (ลำดับที่ 101,402,021 / 1,472,642,201)
พลังชีวิต : 10,000 / 10,000 (class limited)
พลังเวทย์ : 10,000 / 10,000 (class limited)
พลังจิต: 10,000 / 10,000 (class limited)
พลังปราณ: 6,300,000 / 6,300,000 [2,100,000 (Base) + 2,100,000 (Env) + 2,100,000 (Ruler)]
ความแข็งแกร่ง : 100 (class limited)
ความคล่องแคล่ว : 100 (class limited)
ความอดทน : 100 (class limited)
ความฉลาด : 100 (class limited)
ความแม่นยำ : 100 (class limited)
ความโชคดี : 100 (class limited)
อาชีพ : Angelus (นักบวช คลาส 6)
ตำแหน่ง: ตำแหน่งที่ปรึกษาระดับสูงประจำวิหารอำนวยพร

ทาส
– Angie – เผ่าพันธุ์มนุษย์ อาชีพ นักบวชคลาส 3, แม่ครัว คลาส 2, ช่างเสื้อผ้า คลาส 1
– คาร่า – ชนเผ่ากีร่า ลูกครึ่งมนุษย์และเทพ นักพยากรณ์คลาส 6, นักล่า คลาส 4, ชาวประมง คลาส 2
– มีอา – ชนเผ่ากีร่า ลูกครึ่งมนุษย์และเทพ นักล่าคลาส 2, เกษตรกร คลาส 3, ชาวประมง คลาส 2
– เตียวเสี้ยน – เผ่าพันธุ์มนุษย์ นักร้องคลาส 4, นักดนตรีคลาส 4, จอมยุทธ์คลาส 4, นักกวีคลาส 4

จุดน่าสนใจนอกจากรายชื่อเตียวเสี้ยนที่เพิ่มเข้ามาในหมวดทาสแล้ว ค่าพลังปราณของเขากลายเป็นไม่โดนจำกัดไว้เช่นก่อนหน้า ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะขัดกับความสามารถหลักของปราณจักรวาลที่มีสรรพคุณช่วยขยายเปิดกว้างการสั่งสมลมปราณนั่นเอง

เมื่อเป็นเช่นนี้ค่าพลังปราณที่เคยได้รับถ่ายทอดมาจากพลังส่วนหนึ่งของเทพมารโฟร์มด จึงค่อยแสดงค่าออกมาเป็นตัวเลขพื้นฐาน (Base) ซึ่งเท่ากับ 2,100,000 หน่วย จากนั้นยังมีผลจากสถานที่ (Environment) และผลจากทักษะ Ruler อีก ทำให้เขามีค่าพลังปราณพุ่งสูงถึง 6,300,000 หน่วย และเมื่อมีค่าพลังปราณสะสมมากถึงเพียงนี้ การใช้เคล็ดมารฟ้าเก้าร่างอวตารจึงมิใช่เรื่องยากแต่อย่างใด

“คุณชาย ข้าหาท่านเจอแล้ว … หรือว่าท่านตั้งใจมารอในห้องของนอนของข้า”

เทียนซูผู้เป็นพี่ใหญ่ของพี่น้องสกุลเทียนยิ้มปิติยินดี เพราะได้พบเห็นเงาร่างของเขานั่งรออยู่ในความมืดบนเตียงนอนของห้องเธอเอง เธอไม่ทราบว่าเขารู้หรือไม่ว่านี่คือห้องของเธอ ทั้งไม่ทราบว่าเขามีเจตนาเลือกเธอเป็นคนแรกหรือไม่จึงได้มารอคอยในที่แบบนี้ กระนั้นในใจก็อดคิดเข้าข้างตัวเองด้วยความรักลุ่มหลงไม่ได้

“ถอดเสื้อผ้า”

เขาไม่ตอบคำ ทั้งยังสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชาคล้ายนายบงการบ่าว ซึ่งหากเป็นช่วงเวลาปกติเธอคงสงสัยในความเปลี่ยนแปลง และไม่ยอมกระทำตามที่เขาบอกโดยง่าย หากทว่าเธอในเวลานี้กำลังโดนเพลิงไฟแห่งความรักและใคร่แผดเผาจนร่างกายร้อนผ่าว เธอจึงค่อยปิดประตูลงอย่างเงียบงันที่สุด แล้วเดินฝ่าความมืดในห้องหอเข้าไปยืนหน้าเตียง พร้อมกับปลดผ้าแพรสีแดงสดที่รัดพันรอบทรวงอกและรอบเอวรอบสะโพกลงไปกองบนพื้นห้อง

เรื่องร่างเปลือยเปล่างามงดชวนลุ่มหลงยืนแน่วนิ่งอยู่ในแสงสลัว เธอต้องการให้เขาได้ชื่นชมความงามของเธอในทุกสัดส่วน เธอแน่ใจว่าเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แม้แต่ในความมืดสลัวเช่นนี้ และเธอก็คาคคิดไม่ผิด ดวงตาของเขาคล้ายจะวาววับอยู่ในความมืด มันดูทรงพลังอำนาจ น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง หากทว่ามากด้วยเสน่ห์กระตุ้นเร้าจนเธอใจสั่นสะท้าน

“เข้ามา”

เขาพูดเหมือนเจ้านายออกคำสั่งข้าทาสอีกครั้ง น่าแปลกที่เทียนซูไม่ได้รู้สึกคับข้องใจ หากแต่รู้สึกยินดียิ่งที่อีกฝ่ายกระทำกับเธอเช่นนั้น ทั้งยังรู้สึกเบิกบานใจจนต้องขยับเยื้องย่างไปนั่งคร่อมบนตักของเขา คล้ายจะเสนอทรวงอกอวบอิ่มให้เขาดื่มกินก็มิปาน

ในฐานะพี่ใหญ่ของนางงามทั้งเจ็ด เธอไม่ได้เป็นคนเก่งที่สุด แต่ว่ามีความรับผิดชอบและละเอียดรอบคอบที่สุด ทั้งยังมีอากัปกิริยาเทียบเท่ากับสตรีชนชั้นสูงในทุกกระเบียดนิ้ว เหล่าบุรุษที่มาป้อย้อจึงมักแอบเรียกหาเธอว่าองค์หญิงใหญ่ หนึ่งนั้นเพื่อเปรียบเทียบเธอกับสตรีในวังหลวง และสองก็คือเพื่อกล่าวสัพยอกโอ้โล้มขนาดทรวงอกที่อวบอิ่มยั่วน้ำลายซึ่งเหนือกว่าเหล่าพี่น้อง

“หน้าอกสวย สะโพกผึ่งผาย น่าจะเป็นแม่พันธุ์ชั้นดีได้”

บุรุษหนุ่มแสยะยิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงหื่นราคะ แน่นอนว่าท่าทางเช่นนี้ย่อมไม่เหมือนกับท่าทางก่อนหน้า เพราะร่างอวตารของมารฟ้านั้นหากมิใช่สังหารฆ่าฟัน ก็จะเป็นเสมือนปีศาจราคะที่พร้อมจะเสพสมขยายเผ่าพันธ์ุ ถึงแม้จะมีร่างหลักคอยบงการและร่วมแบ่งปันสัมผัส แต่โดยพื้นฐานแล้วร่างอวตารจะถูกควบคุมด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งมอบความดิบเถื่อนไร้เมตตาปราณีและโฉดชั่วให้มาอย่างเต็มเปี่ยม

“คุณชาย … ท่านกล่าวกะไร”

อย่างไรก็ตามถ้อยคำหยาบคายกำลังทำให้เทียนซูพลุ่งพล่าน ถึงแม้ภายนอกจะชอบวางท่าทางเหมือนสตรีชั้นสูง หากทว่าเบื้องลึกแล้วเธอชื่นชอบวีรบุรุษและบูชาความแข็งแกร่งเหมือนสตรีทั่วไปในทวีปไชนี่ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาแห่งสงคราม มีเพียงบุรุษที่เข้มแข็งจึงจะสามารถอิงแอบอาศัยได้

ท่าทีแกร่งกร้าวของเขาทำให้รู้สึกราวกับตนเองอยากเป็นแม่พันธุ์ให้เขาสมสู่เหมือนสัตว์ป่า และเธอได้พบว่าร่างกำยำที่เธอนั่งคร่อมอยู่นั้น ก็เปลือยเปล่าอยู่เช่นกัน ความอบอุ่นและกลิ่นกายของบุรุษกำลังมอมจนเธอหัวหมุนงุนงงหอบหายใจกระเส่า

“นอกจากจะใหญ่แล้ว ยังเนื้อแน่นดีซะด้วย เจ้าช่างเหมาะที่จะมาเป็นมารดาให้กำเนิดลูกหลานเสียจริง”

ริมฝีปากบางเริ่มส่งเสียงอ๊ะสลับกับสูดปากคราง เมื่อฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาตะปบบีบขยำขยี้หนักหน่วงจนสองเต้าบิดเบี้ยว อีกทั้งยังก้มหน้าลงมาที่กลางร่องนมแล้วอ้าปากดูดเลียราวกับทารกที่หิวกระหายนมแม่

เทียนซูที่ไร้ประสบการณ์โดนปลุกเร้าจนร่างอ่อนระทวย ร่างงามสั่นกระตุกสะท้านระริกไปตามจังหวะที่เขาบีบขยี้เนื้อตัว ก่อนจะดิ้นเร่าแอ่นหน้าเริ่ดเมื่อเขาอ้าปากงับที่ปลายถันแล้วดูดเลียอย่างหนักหน่วงไม่ทะนุถนอม

เธอดิ้นพราดส่งเสียงร้องอ๊ะเมื่อเขาออกแรงขบกัดใส่ พร้อมกับละเลงลิ้นเลียระรัวเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง จากนั้นเธอก็ต้องร้องเสียงหลงกระตุกเฮือกใหญ่เมื่อเขาสอดแทรกปลายนิ้วรุกล้ำเข้ามาในร่าง พร้อมกับขยับครูดคราดไปตามโพรงสวาท ขุดเจาะจนส่วนนั้นขมิบน้ำไหลรินออกมาระลอกใหญ่

“อ๊ะ … โอววว คุณชาย … โอยยยย … ข้า … ข้า … อ๊ะ อ๊ายยยยยย”

ลีลานิ้วมือที่จัดเจน และลีลาลิ้นที่ดูดเลียกระหน่ำ ส่งผ่านความเสียวซ่านหฤหรรษ์ร้อนแรงเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง สุดท้ายพี่ใหญ่แห่งนางงามสกุลเทียนจึงผวากอดรัดร่างของชายหนุ่มจนแน่น พลางส่งเสียงหวีดร้องสุขสมเมื่อเขาใช้นิ้วกระตุ้นจนเสร็จสม นั่นคือประสบการณ์แห่งความสุขครั้งแรกของเธอ

ความสุขสมครั้งแรกในชีวิตประทับตราตรึงจนมิอาจลบออก เธอชื่นชอบสัมผัสเช่นนี้ ชื่นชอบให้เขาบีบขยี้เนื้อตัวและสอดแทรกปลายนิ้วเข้ามาสำรวจ ดังนั้นเมื่อเขาขยับจัดแจงท่าทางของเธอ จึงไม่มีท่าทีต่อต้านอันใด เขาจับเธอให้นั่งคร่อมพร้อมกับจับร่างเธอกดลงเพื่ออ้ารับความแกร่งกร้าวให้หยั่งรากลึกลงในร่าง

เสียงสูดปากดังขึ้นพร้อมกับอาการบิดเบี้ยวของใบหน้างาม แรกทีเดียวนั้นเธอรู้สึกเจ็บปวดคับแน่นอยู่บ้าง หากทว่าเมื่อโดนเขาก้มหน้าซุกไซร้โลมเลียทรวงอกอวบอิ่มเพียงครู่เดียวความเสียวก็พลุ่งพล่าน เธอค่อย ๆ พยายามถ่างอ้าขาออกเปิดทางให้เข้าโดยง่ายกว่าเดิม พร้อมพยายามกดขย่มร่างตนเองลงไปอย่างช้า ๆ และเธอก็ไม่ผิดหวัง ความเป็นชายของเขาแข็งแกร่งและใหญ่โตสามารถตอบสนองต่ออารมณ์ดิบเถื่อนของเธอได้เป็นอย่างดี

“จงขยับ กระทำให้ข้าพอใจ เจ้าลูกหลานผู้สืบเชื้อสายแห่งเผ่าเทพ”

เสียงคำสั่งนั้นก้องกังวาลราวกับคำสั่งจากสรวงสวรรค์ เวลานี้หัวสมองของเธอกลายเป็นขาวโพลน เธอไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้ว นอกจากความคับแน่นที่หยั่งลึกเข้ามาจนสุดทาง เธอรับทราบถึงอาการตอดรัดที่ร่างกายตนเองกระทำอยู่ภายใน ความรู้สึกนี้ช่างเปี่ยมสุขจนน้ำลายเอ่อออกมาที่มุมปาก

เธอไม่ทราบว่าเขาพูดเรื่องอะไร แต่ว่าร่างกายของเธอตอบสนอง ทั้งที่นี่เป็นครั้งแรก แต่ร่างกายกลับขยับตามคำสั่ง เธอโอบสองแขนกอดรัดรอบคอของเขาไว้ พลางกดเบียดทรวงอกอวบเข้าหาใบหน้า สะโพกผายยกขึ้นแล้วขย่มลงเริ่มจากเชื่องช้าแผ่วเบา กระทั่งเมื่อเธอได้รับทราบว่าความรู้สึกที่ได้กลืนกินเข้าไปนั้นสุขล้นเพียงใด จังหวะการขยับขย่มก็ยิ่งเร่าร้อนรุนแรงขึ้นทีละน้อย

ตอนนี้เธอเพียงต้องการโอบกอดเขาไว้เช่นนี้ ส่งเสียงร่ำร้องครวญครางขณะโยกขย่มเสพกามราคะ และความต้องการนั้นคล้ายจะไม่มีที่สิ้นสุด เธอส่งเสียงหวีดร้องอย่างหฤหรรษ์ แล้วร่ำร้องบอกรักเขา เธอโอบกอดเขาไว้ด้วยไม่อยากปล่อยให้เขาออกห่างจากกาย

เธอรู้สึกยินดียิ่งที่ได้เป็นคนแรกต่อจากเตียวเสี้ยน และเวลานี้เธอไม่สนใจอีกแล้วว่าพี่น้องของเธอจะหาเขาพบเจอหรือไม่ เวลานี้เธอเพียงต้องการดื่มด่ำเสพความหฤหรรษ์นี้เอาไว้เพียงผู้เดียว เธอจะไม่ปล่อยให้เขาถอนร่างออกไปโดยเด็ดขาด อย่างน้อยก็ไม่ใช่ค่ำคืนนี้

……………………………….

“เวรกรรม ไม่ค่อยทำตามคำสั่งเลยแฮะ สั่งให้ทำแบบนุ่มนวลหน่อย แต่ดันเล่นซะเถื่อน … อืม แต่เหมือนเทียนซูจะชอบแฮะ เอาเหอะ ไม่เป็นไร ยังไงร่างปลอมทำอะไร เราก็รู้สึกเหมือนได้ทำไปด้วยอยู่ดี”

แม็กที่บินลอยตัวอยู่ฟ้าส่งเสียงบ่นพลางขมวดคิ้ว เขาเพิ่งพบว่าเก้าร่างอวตารมารฟ้านั้นแม้จะยอดเยี่ยม แต่ก็มีจุดด้อยเล็ก ๆ อยู่บ้าง ซึ่งก็คือพวกมันมีความคิดเป็นของตนเอง ถึงแม้จะทำตามคำสั่งอย่างดี แต่ก็มีแนวทางของตัวเองที่แตกต่างกันออกไปทั้งแปดร่างโดยไม่นับร่างหลักที่เขาควบคุมได้อย่างเต็มที่

ข้อดีของการมีร่างอวตารก็คือ พวกมันเชื่อฟังเขาทุกอย่าง ทั้งยังแบ่งปันสิ่งที่รับรู้เหมือนกับระบบของพวกฝูงแมลง ทุกสิ่งที่พวกมันมองเห็น ทุกสิ่งที่พวกมันรับฟัง ทุกสิ่งที่พวกมันได้สัมผัส จะถูกส่งตรงมาให้ร่างหลักได้รับรู้ด้วย ยกตัวอย่างเช่นเวลานี้ร่างหลักของแม็กยังรู้สึกสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มของเทียนซู จมูกคล้ายสูดดมได้กลิ่นหอมจากร่างงาม ความเป็นชายที่พองตัวโด่รับได้ถึงสัมผัสตอดรัดหนุบหนับอันเร่าร้อน

ด้วยเหตุนี้ แม็กจึงรู้สึกเหมือนได้กระทำด้วยตนเอง มันเป็นโลกใบใหม่ที่เขาเพิ่งค้นพบ เหมือนก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงนักบินที่ขับเครื่องบินรบเล็ก ๆ แต่เวลานี้เขาได้เป็นกัปตันคุมฝูงบินขนาดใหญ่ นี่เป็นประสบการณ์ใหม่ที่สนุกสนานเร้าใจยิ่ง

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ ร่างอวตารทั้งแปดที่แยกตัวออกไปนั้น ล้วนแล้วแต่มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน พวกมันแม้จะเชื่อฟังคำสั่งทุกอย่าง แต่ในรายละเอียดแล้วพวกมันจะเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น เขาพยายามออกคำสั่งให้กระทำกับเทียนซูเบา ๆ แต่ว่าร่างอวตารนั้นกลับแสดงบทเจ้านายร่วมรักอย่างดิบเถื่อนแทน

แม็กย่อมไม่ทราบว่านี่เป็นเรื่องปกติของทักษะนี้ เพราะมันคือทักษะของผู้ใฝ่ความมืด ผลของมันจึงสะท้อนความดิบเถื่อนออกมามากกว่าด้านสว่าง แต่ละร่างอวตารนั้นมีทักษะย่อยที่ต่างกันออกไป ทั้งมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน ซึ่งนี่นับว่าเป็นข้อดียิ่งเมื่ออยู่ในสงคราม เพราะจะทำให้ไม่มีใครคาดเดาการกระทำได้โดยง่าย

หลังจากได้เปิดซิงเทียนซูพี่ใหญ่ของเหล่านางงามเรียบร้อยแล้ว แม็กก็ละความสนใจจากร่างอวตารนั้น เขาเพียงสั่งให้ร่างนั้นปรนเปรอความสุขต่อไปจนกว่าเทียนซูจะหมดแรง แล้วหันมามองหาเหยื่อรายใหม่ที่กำลังกระจายตัวกันอยู่ ร่างของเหยื่อสาวอีกเจ็ดนางสะท้อนอยู่ในดวงตาของร่างอวตารทั้งเจ็ด เวลานี้เขาเพียงรอคอยเวลาที่พวกเธอออกห่างจากกัน เพื่อจะได้ไม่รับรู้ว่าเขามีร่างแยก

… รายต่อไปจะเป็นใครกันหนอ

………………………………..

Share the Post:

Related Posts

เมียสวิงกับฝรั่ง ควยอันใหญ่เข้าไปอยู่ในจิ๋มเธอทั้งอันเลย

เรื่องเสียว เมียสวิงกับฝรั่ง ควยอันใหญ่เข้าไปอยู่ในจิ๋มเธอทั้งอันเลย คือผมกับแฟนผมเธอชื่อรัตนา เราสองคนมักจะคุยเรื่องเซ็กส์กันเป็นประจำ เพราะเราเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่เป็นแฟนกัน และเราก็มักจะหาโอกาสไปมีเซ็กส์กันตามที่ต่างๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ ลานจอดรถ หรือแม้แต่ในที่ทำงาน โดยเฉพาะตามที่สาธารณะ มันทำให้รู้สึกตื่นเต้นดีเวลาที่มีเซ็กส์กันเพระต้องคอยลุ้นว่าจะมีใครเห็นหรือปล่าว ผมเคยถามแฟนผมว่า รู้สึกอย่างไรกับควยฝรั่ง เธอตอบว่า มันใหญ่และก็ยาวด้วยดูน่ากลัว คิดว่าเอาเข้าจิ๋มเธอไม่ได้แน่นอน ผมถามเธออีกว่าอยากเห็นของจริงๆ มั้ย และถ้าเห็นแล้วจะกล้าจับหรือปล่าว

Read More

เดี๋ยวพ่อจะสอนให้

เรื่องเสียว เดี๋ยวพ่อจะสอนให้  ชีวิตของผม คงเป็นชีวิตที่บ้าจริงๆ อีกคนนึง ครอบครัวผมมีแฟน ผมลูกสามคน หมาตัวนึง วันนึงเมียผมได้รับคนใช้มาเพิ่ม เป็นเด็กสาว 18 น่ารักดีมากเลย แฟนผมว่า เธอน่าสงสารมาก พ่อแม่ตาย ญาติไม่มี คุณช่วยเลี้ยงเด็กคนนี้เถอะ ปกติผมกับแฟนน่ะซาดิสม์ ชอบอะไรๆแบบพิเศษ อิอิได้เด็กมาคนจะเหลือเหรอ

Read More