XO ตอนที่ 42 – สัญญาณรบ
คุยเรื่อยเปื่อย
อันดับแรก ต้องขออภัยแฟนคลับที่ปล่อยให้รอเล่มที่สี่นานแสนนาน
ทั้งนี้เนื่องจากเขียนช้ากว่ากำหนด ก็เลยมาเข้าช่วงงานยุ่งเหยิงของต้นเดือนมีนา
เวลาที่เขียนก็เลยไม่ค่อยมี ความก้าวหน้าเลยช้าเอามาก ๆ
ปัจจุบันเขียนได้ถึงตอนที่ 47 แล้วครับ
เหลือแค่ตอนที่ 48 และตอนพิเศษก็จะจบภาคแรกตามที่เคยตั้งใจไว้
แต่ผมขอปรับเปลี่ยนแผนเล็กน้อย เนื่องจากรู้สึกว่าการจบภาคแรกใน 48 มันรวบรัดไปหน่อย
ผมจะตัดบางตอนในส่วนสงครามไปอยู่ในเล่มที่ 5 ซึ่งเขียนไว้แล้วส่วนหนึ่ง
และจะมีการเขียนเพิ่มเติมรายละเอียดบางอยา่งในเล่มที่สี่
เล่มสี่จะพยายามให้เสร็จในเดือนมีนาคมนะครับ
XO ตอนที่ 42 – สัญญาณรบ
ข้อมูลพื้นฐานของตัวละคร
ชื่อ : Guyver
เผ่าพันธุ์: Titan(ไททัน)
ระดับ : 12 คลาส: 0
ทรัพย์สิน: 48,700 เหรียญทอง – 10 เหรียญเงิน – 1,000 เหรียญทองแดง
ชื่อเสียง: 170,412 หน่วย (ลำดับที่ 25,210 / 1,483,598,308)
พลังชีวิต : 10,000 / 10,000 (CL)
พลังเวทย์ : 0 / 6,400,550 (OT)
พลังจิต: 10,000 / 10,000 (CL)
พลังปราณ: 4,105,500 / 4,105,500
ความแข็งแกร่ง : 100 (CL)
ความคล่องแคล่ว : 100 (CL)
ความอดทน : 100 (CL)
ความฉลาด : 100 (CL)
ความแม่นยำ : 100 (CL)
ความโชคดี : 100 (CL)
CL = Class Limited (ข้อจำกัดของระดับคลาส)
OT = Over Tired (สภาวะเหน็ดเหนื่อย ค่าพลังไม่ฟื้นฟู 24 ชั่วโมง)
“เลเวลสิบสอง คลาสศูนย์ แต่พลังเวทย์หกล้านสี่แสนหน่วย พลังปราณสี่ล้านหน่วย!!! อาชีพคลาสหกสามอาชีพ … ผู้ติดตามคลาสเจ็ด … สัตว์เลี้ยงคลาสเจ็ด … นี่พี่แม็กไปทำอะไรมาเนี่ย!!!”
ภาย
หลังออฟไลน์ออกมาจากเกม แองจี้ก็ยืนอ้าปากค้างมองดูค่าตัวเลขข้อมูลพื้นฐานตัวละครด้วยความแตกตื่น ภาพที่เห็นเห็นนั้นเป็นระบบเชื่อมต่อข้อมูลกับเกม แม็กจัดการลงชื่อเข้าระบบเกม แล้วดึงข้อมูลบางส่วนออกมาให้แสดงผลบนหน้าจอจนแองจี้แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ความแตกตื่นนี้ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากสิ่งที่เธอเห็นอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมากที่สุด สำหรับผู้เล่นทั่วไปแล้วเพียงแค่มีค่าพลังเวทย์ ปราณ หรือจิต อย่างใดอย่างหนึ่งสักหนึ่งแสนหน่วย ก็สามารถถือได้ว่าเป็นผู้เล่นระดับหัวแถวแล้ว แม้แต่ผู้เล่นระดับหัวแถวสิบคนแรกก็ยังมีค่าพลังพวกนี้แต่ละค่าไม่เกินสองแสนหน่วย หากทว่าค่าพลังของแม็กกลับพุ่งทะลุไปที่หลักหลายล้านทั้งค่าพลังเวทย์ และค่าพลังปราณ
อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่ได้เป็นทั้งหมดที่น่าตื่นตกใจ แองจี้ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ไม่ว่าจะมองดูกี่ครั้งค่าพลังเหล่านี้ก็ถูกต้องแล้ว พี่ชายบุญธรรมสุดที่รักของเธอนั้นมีระดับคลาสศูนย์ซึ่งเป็นระดับเริ่มต้นของทุกคน หากทว่าเขากลับมีค่าพลังอื่น ๆ เหนือล้ำ เรื่องค่าพลังพื้นฐานหนึ่งร้อยหน่วยที่ติดข้อจำกัดของคลาสนั้นเธอเคยทราบมาก่อนแล้ว เธอจึงไม่รู้สึกตื่นตกใจในกรณีนี้นัก หากทว่าเรื่องอื่นก็ยังมีให้เธอตื่นตกใจจนสมองหมุนติ้ว
เริ่มต้นจากเผ่าพันธุ์ไททันซึ่งเธอไม่เคยได้ยินมาก่อน แม้จะค้นหาข้อมูลในกระดานข่าวสารก็ยังไม่เจอ เพราะนี่เป็นเผ่าพันธุ์ลับระดับสูงในเกม ยิ่งได้ยินแม็กบอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ระดับสิบดาวเธอก็ยิ่งต้องทึ่ง นี่ยังไม่ได้นับรวมเรื่องค่าชื่อเสียงที่พุ่งขึ้นไประดับหลักหมื่นทั้งที่เขาเพิ่งเริ่มเล่นเกม เรียกได้ว่าสามารถแซงหน้าผู้เล่นที่เล่นมานานเป็นเวลาสองสามปีได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของอาชีพระดับคลาสหกที่มีมากถึงสามอาชีพ ทั้งยังมีตำแหน่งระดับสูงถึงขั้นราชาของเผ่าพันธุ์ และยังมีรายชื่อผู้ติดตามอีกกลุ่มใหญ่ที่เป็นตัวละครระดับสูงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเตียวเสี้ยนที่มีระดับสูงถึงคลาสเจ็ด หรือสัตว์เลี้ยงวิหคเพลิงเฟิ่งหวงที่มีคลาสเจ็ดเช่นเดียวกัน
“หึ หึ คนมันมีฝีมือเสียอย่าง”
แม็กตอบด้วยท่าทีอวดโอ่ แต่ก็แอบสงสัยอยู่บ้างว่าเหตุใดระดับเลเวลตัวละครของเขาจึงเพิ่มจากหนึ่งมาเป็นสิบสอง เพราะเขาจำไม่ได้เลยสักนิดว่าได้ลงมือฆ่าใครไปบ้าง กระทั่งเมื่อนึกได้ว่าวิหคเพลิงที่เขาสร้างขึ้นมานั้นได้เสกพายุเพลิง และดูดเอาพวกอันเดทดวงซวยทั้งสิบแปดตนขึ้นไปเผา เขาจึงค่อยคลายความสงสัย
เขาค่อยนึกได้ว่าเหมือนจะเห็นประกาศว่าเขาได้ลงมือฆ่าซอมบี้และนักรบโครงกระดูกผ่านตาวูบหนึ่ง เพียงแต่เวลานั้นเขาไม่ได้สนใจข้อความของระบบนัก เพราะมัวแต่ลอบมองสนใจท่าทีของสาวงามนามฟลอร่า กระนั้นคำถามถัดมาที่ผุดขึ้นในใจก็คือ หากระบบนับว่าเขาเป็นคนลงมือจัดการอันเดทเหล่านั้น แล้วเหตุใดเขาจึงมีระดับเพิ่มขึ้นมาเพียงแค่สิบสองเลเวลเท่านั้น
แม็กอาจจะไม่มีประสบการณ์เก็บเลเวลมาก่อน เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ได้มันน้อยเกินไปจนน่าฉงน อันเดทเหล่านั้นอยู่ในคลาสสองถึงสาม หรือก็คือมีระดับเลเวลในช่วงสองถึงสามร้อยกว่า และเขาก็จัดการพวกมันไปถึงสิบแปดตน หากทว่าระดับเลเวลเพียงขึ้นมาแค่สิบสองระดับเท่านั้น
นอกจากนี้เขายังรู้สึกเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ระมัดระวังในการใช้พลังเวทย์ และนั่นทำให้พลังเวทย์ของเขาหมดเกลี้ยงจนตกอยู่ในสภาพเหน็ดเหนื่อย ทั้งที่ความจริงแล้วเขามีค่าพลังเวทย์สูงถึงหกล้านหน่วย
ค่าพลังเวทย์ในการเสกสร้างวิหคเพลิงนั้นถือว่าไม่น้อย แต่ก็ยังไม่สูงเกินไปเพราะใช้แค่เพียงประมาณเกือบแสนหน่วยเท่านั้น แม้แต่การเสกพายุ หรือการเสกกามเทพก็มิได้สิ้นเปลืองถึงเพียงนั้น หากทว่าที่สิ้นเปลืองที่สุดกลับเป็นการคืนชีพให้กับเหล่าทหารที่ตายตก การคืนชีพให้ทหารเหล่านั้นกินพลังเวทย์เกือบสองแสนหน่วยต่อคน เมื่อเหล่ากามเทพสำแดงพลังฟื้นคืนชีพให้เหล่าทหารนับสิบราย ตามด้วยการใช้เวทย์รักษา และสนับสนุน ค่าพลังเวทย์ของเขาจึงถูกดูดไปจนเกลี้ยงไม่เหลือหลอ
เขาส่งเสียงด้วยความเสียดายขณะครุ่นคิด ก่อนจะยืนยกมือขึ้นเกาศีรษะอยู่ใต้ฝักบัวซึ่งมีน้ำอุ่นโปรยปรายลงมา เวลานี้คือช่วงเวลาอาบน้ำหลังตื่นนอนเพื่อเตรียมไปทำหน้าที่ของนักเรียนนักศึกษาที่ดี และเขากำลังอาบน้ำอยู่กับแองจี้ในห้องเดียวกันเหมือนหนุ่มสาวในช่วงข้าวใหม่ปลามัน
แม็กเลิกคิดให้เปลืองสมอง เมื่อฟองสีขาวของแชมพูสระผมโดนชะล้างจนสะอาดเอี่ยมเขาเปลี่ยนใจหันมองไปด้านข้าง ที่ตรงนั้นแองจี้กำลังยืนหันหลังให้เขา เธอยืนมองดูค่าสถานะของเขาผ่านจอสามมิติแน่วนิ่ง และเวลานี้เขาก็กำลังจับจ้องมองดูเธอด้วยสายตาแน่วนิ่งเช่นกัน
สายตาของเขามีเพียงเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนซึ่งเปียกปอนไปด้วยหยดน้ำปลุกเร้าอารมณ์ เวลานี้เขารู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งจนความเป็นชายผงกหงึก ผมสีดำยาวสลวยนั้นเปียกลู่ลงมาถึงกลางแผ่นหลัง เอวบางของเธอคอดกิ่ว หากทว่าส่วนทรวงอกและสะโพกนั้นกลับหนั่นแน่นอวบอัดเกินวัย
“พี่แม็กอ่ะ … อุ๊ย … อืม … จะแกล้งหนูอีกแล้วเหรอคะ เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันหรอกค่ะ … อูยยสสส”
แองจี้ส่งเสียงกระเง้ากระงอดใส่ ในขณะที่ดวงตาคู่สวยยังคงจับจ้องมองดูข้อมูลบนหน้าจอติดผนังห้องน้ำ ร่างงามสะดุ้งแผ่วเบาเมื่อร่างกำยำขยับเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาบรรจงซุกไซร้ลงไปที่ซอกคอขาวผ่องจนเธอสั่นสะท้าน ความแกร่งกำยำที่ยังไม่ยอมเหน็ดเหนื่อยอ่อนแรงเบียดสัมผัสเข้ากับสะโพกผึ่งผายราวกับจะสอดแทรกเข้าไปในหนั่นเนื้อเสียตั้งแต่วินาทีนั้น
เสียงครางของสาวสวยดังขึ้นแผ่วเบาภายใต้ละอองน้ำอุ่นที่โปรยปรายจากฝักบัว ทรวงอกอวบอิ่มเกินวัยโดนเคล้นคลึงกระตุ้นสลับกับสะกิดเขี่ยจนเธอตัวอ่อนระทวย ร่างกายที่เพิ่งเสร็จสมอารมณ์หมายเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง
“แองจี้สวยขนาดนี้ใครจะอดใจไหวล่ะ เวลามีถมไป”
แม็กเอ่ยพร้อมกับหอบหายใจแรงด้วยอารมณ์กระสัน เขาก้มหน้าลงไปบดจูบใส่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม พร้อมกับขยับสองมือบีบเคล้นขยี้ไปตามเลือดเนื้อสาวสะพรั่งด้วยความเมามัน และคราวนี้สาวสวยก็ยังคงตอบสนองด้วยรสจูบที่เร่าร้อนไม่แพ้ก่อนหน้า หากทว่าเสริมเติมด้วยลีลาที่ร้อนแรงกว่าเก่า เธอเอื้อมมือลงไปคว้าจับที่ความแกร่งกร้าวของเขาแล้วรูดถอกขึ้นลงจนเขาครางอูว
“เดี๋ยวค่ะ … ตอบคำถามหนูมาก่อน พี่แม็กมีค่าพลังเวทย์ตั้งหกล้านกว่าหน่วย เยอะกว่าพวกบอสในดันเจี้ยนเสียอีก แล้วพี่ใช้พลังไปอีท่าไหนคะถึงได้ใช้พลังหมดจนอยู่ในสภาพเหน็ดเหนื่อยได้แบบนี้”
แองจี้ส่งเสียงถามพร้อมกับหอบคราง ปากของเธอพูดทักท้วงคล้ายห้ามปราม หากทว่ามือนุ่มนิ่มที่ขยับยุกยิกนั้นมีแต่จะเร่งให้เร็วขึ้น
“หือ เรื่องพลังเวทย์เหรอ … ไม่รู้ซิ เอาไว้ค่อยเล่าก็แล้วกัน”
แม็กตอบด้วยท่าทีเหมือนขี้คร้านจะตอบ เขาขยับมือล้วงขยำตะปบปลุกเร้าอารมณ์หนักหน่วงขึ้น หากทว่าในหัวนั้นกำลังครุ่นคิดย้อนกลับไปว่าเหตุใด ค่าพลังเวทย์ของเขาจึงลดฮวบฮาบราวกับน้ำหลากถึงเพียงนั้น
เขาทราบว่าเขาต้องจ่ายพลังเวทย์ให้ศพของเทพสาวทั้งสองจำนวนหนึ่งตลอดเวลา หากทว่านั่นก็ไม่ได้มากมายนัก
ยิ่งเธอตอบสนองเร่าร้อน เขาก็ยิ่งปรนเปรอเธอด้วยความสุขที่ร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม ร่างบางโดนจับพลิกหมุนตัวหันหน้าเข้าหากัน ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปอ้าปากงับทรวงอกอวบอิ่มปลุกปั่นอารมณ์กระสันจนลุกโชน และความสุขหฤหรรษ์เช่นนี้เองที่ทำให้แองจี้แทบคลั่ง เธอส่งเสียงสูดปากครางแข่งกับเสียงของหยดน้ำ สองมือจิกเกร็งกดลงไปบนแผ่นหลังกำยำ พร้อมกับแอ่นทรวงอกเสนอเข้าหาริมฝีปากมากลีลารัก
เสียงดูดดังสะท้านขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่ามือทั้งสองข้างบีบขยำเคล้นจนหนำใจ ก่อนจะขยับใบหน้าต่ำลงไปที่หน้าท้อง เขาละเลงลิ้นวนรอบสะดือสวยรอบหนึ่งเพื่อสร้างความวาบหวิว ก่อนจะจับขาขาวเพรียวขึ้นพาดบ่า แล้วมุดต่ำลงไปใช้ปากกระตุ้นเร้าจุดอ่อนไหวจนเธอตัวกระตุกสะท้านหูพร่าตาลาย
“พี่แม็กคะ … อูยยสสสสส พี่แม็ก … อือออออ”
ลีลารักอันเร่าร้อนช่ำชองของเขาราวกับการสาดน้ำมันเข้าไปในกองเพลิง สาวสวยร่ำร้องออกมาไม่เป็นภาษา สองมือจิกขยี้ลงไปบนหลังศีรษะของเขาพร้อมกับกดเข้าหา ในขณะที่สะโพกผึ่งผายนั้นส่ายเด้งไปหน้าทีหลังที ความเสียวซ่านคล้ายกระแสไฟฟ้าที่แผ่ซ่านสะท้านความหฤหรรษ์กระจายไปทั่วร่าง
เสียงหอบหายใจของแองจี้ยิ่งมายิ่งหนักหน่วง ลีลาชิวหาของเขาทำให้ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวเหยเก ความสุขกระสันที่พรั่งพรูเข้ามานั้นเอ่อล้นอัดอั้นจนแทบขาดใจตาย หากทว่าในความอัดอั้นทรมานนั้นกลับแฝงเร้นด้วยความสุขหฤหรรษ์ที่ใกล้เข้ามา เธอจึงส่ายร่อนสะโพกเสพรับความสุขเสียวสุดแรง ก่อนจะส่งเสียงหวีดร้องบิดตัวเกร็งด้วยถูกนำส่งไปถึงสรวงสวรรค์ชั้นเจ็ดเป็น รอบที่สามของเช้านี้
กระแสแห่งความสุขยังไม่ทันจางหาย สติยังไม่ทันกลับคืนจากสรวงสวรรค์ ร่างงามก็โดนจับหมุนไปยืนโก้งโค้งใช้มือยันอยู่บนอ่างล้างหน้า เพียงพริบตาเดียวเขาก็ขยับมาสวมกอดจากด้านหลังทำการเล็งเป้าหมายเพื่อขยับ สะโพกเดินหน้าสอดใส่ และเพียงแค่สิ่งนั้นสัมผัสที่ปากทางสู่สวรรค์ แองจี้ก็ส่ายสะโพกเด้งเข้าหาด้วยความร้อนร่านแทบจะในทันที
หนุ่มสาวส่งเสียงครางอูวด้วยความเสียวซ่านออกมาพร้อมกัน เมื่อสองแรงแข็งขันร่วมแรงร่วมใจเสนอสนองถึงเพียงนี้ เพียงการเคลื่อนไหวครั้งแรกก็ทำให้สองร่างหลอมรวมกันได้อย่างแนบแน่น และเสียงครวญครางดูจะยิ่งดังกระเส่าขึ้นทีละน้อย เมื่อชายหนุ่มถอนร่างออกมาจนสุดแล้วกดกระแทกกลับเข้าไปใหม่สุดแรง
สาวสวยหลับตาพริ้มใบหน้าเหยเกยิ่งกว่าเดิม และเวลานี้ศีรษะและร่างกายของเธอกำลังเด้งสะท้านโยกคลอนถี่ยิบ ยกเว้นก็แต่เพียงทรวงเต้าที่โดนเขาล้วงมือไปขยำขยี้เอาไว้ สะโพกหยาบหนายิ่งมายิ่งขยับกระแทกหนักหน่วงขึ้น ทั้งยังเร่งความเร็วถี่ยิบราวกับลูกสูบรอบจัด เสียงแห่งความหฤหรรษ์ของสองหนุ่มสาวดังระงมสะท้านก้องไปทั้งห้องน้ำ
ทุกจุดที่ไวต่อสัมผัสโดนกระตุ้นเล้าโลมอย่างต่อเนื่อง ความเสียวที่มาพร้อมกับพลังวัยหนุ่มทำให้เธอสุดจะทานทนไหว เพียงไม่ถึงห้านาทีร่างกายของเธอก็บิดเกร็งอีกครั้ง เธอส่งเสียงหวีดแห่งความหฤหรรษ์ออกมาก่อน หากทว่าร่างกำยำยังคงเดินหน้าปรนเปรอความสุขเสียวให้โดยไม่หยุดยั้ง กระแสแห่งความสุขจึงแล่นพล่านย้อนไปย้อนมาในร่างสาวสะพรั่ง กว่าที่เขาจะอัดกระแทกปิดท้าย และปลดปล่อยความรักอันร้อนผ่าวเข้ามาในร่างสติของแองจี้ก็แทบหลุดลอย
เมื่อพายุรักหยุดยั้งลง ร่างเปลือยเปล่าก็ค่อย ๆ ไหลทรุดลงไปนอนแนบใบหน้ากับพื้นห้องซึ่งเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ในขณะที่ชายหนุ่มก็ทรุดร่างลงไปนั่งหอบเหนื่อยหนักหน่วง หากทว่าความเป็นชายของเขายังคงแข็งขันเปี่ยมเรี่ยวแรง และสะโพกผึ่งผายของเธอเองก็ยังคงส่ายร่อนไปมาคล้ายยังไม่อิ่มเอม ดังนั้นเพียงไม่นานนัก เสียงครวญครางของสองหนุ่มสาวร้อนรักก็แว่วดังสะท้านขึ้นมาในห้องน้ำอีกคำรบหนึ่ง
‘การหมกมุ่นเล่นเกมมากเกินไป จะทำให้เสียการเรียน’
แม็กไม่เคยเชื่อประโยคนี้มาก่อนจนกระทั่งเขาได้ประสบด้วยตนเอง เขาไม่เคยคิดมาก่อน ว่าการเล่นเกมจะทำให้เขาคนเราหมกมุ่นได้ถึงขนาดนั้น หากทว่าเวลานี้เขากำลังเป็นในสิ่งที่เขาไม่เคยเชื่อ
วันนี้เขาแทบไม่มีสมาธิสนใจฟังในสิ่งที่ศาสตราจารย์สอนในชั้นเรียนเลยแม้แต่น้อย เพราะในหัวมัวแต่สนใจเรื่องราวในเกมจนต้องแอบเปิดอ่านกระทู้หาข้อมูลในขณะที่เขาไม่ได้ออนไลน์เกือบตลอดเวลา โดยเฉพาะข่าวในเกม และเปิดดูสารานุกรมสัตว์อสูรธาตุที่แองจี้กำชับให้เขาดู เนื่องจากเธอเชื่อว่าจะมีประโยชน์กับทักษะอาชีพผู้บงการสรรพธาตุ
ความแตกต่างของเวลา นับเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งของการเล่นเกมออนไลน์แบบนี้ เวลาในเกมที่ไหลไปเร็วกว่าภายนอกนั้นทำให้ผู้เล่นมีเวลาอยู่ในเกมมากกว่าปกติ การนอนหลับในแต่ละครั้งนั้นผู้เล่นจะสามารถใช้ชีวิตในเกมได้สองถึงสามวัน ซึ่งนับว่าพอจะทำอะไรได้มากมาย หากทว่านั่นก็นำมาซึ่งปัญหาอีกอย่างหนึ่ง
ปัญหาที่ว่าก็คือคนเราใช้เวลานอนเพียงประมาณหนึ่งในสามหรือแค่หนึ่งในสี่ของวัน นั่นหมายความว่าผู้เล่นจะเข้าไปในเกมได้สองถึงสามวัน จากนั้นก็จะออกมาอยู่นอกเกมอีกราวห้าวันจึงจะกลับเข้าไปใหม่ได้ ถึงแม้จะมีผู้เล่นบางคนที่เล่นเกมวันละสิบสองชั่วโมง แต่ก็ยังถือว่าเวลาในเกมหายไปครึ่งหนึ่งอยู่ดี
เวลาที่หายไปอย่างมากมายนี้เอง ที่ทำให้ผู้คนที่ติดเกมทั้งหลายรู้สึกกระวนกระวายจิตใจไม่ดีนัก เพราะไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง และความต้องการนี้เองที่ทำให้เกิดบริการข่าวแบบทันเหตุการณ์ส่งตรงจากโลกในเกมมาโลกภายนอก
บริการที่ว่านี้ก็คล้ายกับบริการข่าวสารในโลกปกติ หากทว่าข่าวสารในที่นี้จะเน้นไปที่ข่าวสารในตัวเกม โดยจะแบ่งเป็นหลายระดับ ตั้งแต่ภาพรวมทั่วไปในระดับทวีป ระดับอาณาจักร หรือเจาะลึกลงไปในระดับเมืองย่อย ๆ ซึ่งบริการนี้นับได้ว่าทำเงินให้กับอาชีพสายนักข่าวไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่นเกตสาวแว่นเองก็ได้รับประโยชน์ในส่วนนี้มาเช่นกัน
แม็กเป็นอีกคนหนึ่งที่ยินยอมพร้อมใจเสียเงินเพื่อรับข่าวสารในเกม ทั้งยังยินดีจ่ายเงินซื้อบริการที่แพงที่สุดเพื่อให้ได้ข่าวสารที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ค่อยทราบเรื่องราวโดยทั่วไปของเกมนัก แต่การได้อ่านข่าวสารผ่านตานั้นก็ยังดีกว่าไม่ทราบอะไรเลย และสิ่งที่เขาต้องการทราบจริง ๆ ในเวลานี้ก็คือเหตุการณ์ในเมืองเลอองนิสต์หลังจากเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารนักบวชระดับสูง
เขาได้พบว่าสิ่งที่เขาสนใจนั้นกำลังกลายเป็นเรื่องอึกทึกครึกโครมอย่างยิ่ง ช่องทางข่าวสารของเกมแทบทุกช่องต่างกำลังติดตามเจาะลึกเหตุการณ์นี้กันอย่างละเอียด ข่าวสารเรื่องนี้จึงพุ่งขึ้นเป็นข่าวสารเด่นในระดับทวีป และกำลังจะแซงขึ้นไปเป็นข่าวอันดับหนึ่งของทุกทวีปในไม่กี่ชั่วโมงนี้ เพียงแต่ผู้คนไม่ได้สนใจประเด็นการลอบสังหาร หากแต่สนใจเรื่องราวของเทพระดับสูงกันแทบทั้งหมด
หากพูดกันตามความจริงแล้ว การลอบสังหารใจกลางเมืองเลอองนิสต์ถือว่าไม่ได้สลักสำคัญนัก ในยุคที่กำลังเป็นใหญ่เช่นนี้ การลอบสังหารนั้นมีอยู่ทั่วไปในทุกอาณาจักรและมีแทบทุกเวลา เรื่องราวนี้จึงสำคัญแค่ในระดับเมืองเท่านั้น หากทว่าสิ่งที่ผู้คนจับตามองกลับเป็นการปรากฏกายของเผ่าเทพระดับสูงซึ่งมีถึงสี่ปีก รวมไปถึงศพเผ่าเทพที่ถูกผู้บงการศพบงการ
‘ข่าวด่วน เผ่าเทพระดับสูงปรากฏกายที่ทวีปยูโธเปียน (Uthopian)’
‘เทพสี่ปีกแสดงพลังสร้างพายุเพลิงสูงเสียดฟ้าที่เมืองเลอองนิสต์’
‘เกิดเหตุลอบสังหารเทพระดับสูง กองกำลังปริศนาโดนขับไล่กระเจิง’
หัวข้อข่าวส่วนใหญ่ที่เห็นในเวลานี้ไม่พ้นเรื่องราวเหล่านี้ และโดยส่วนใหญ่นักข่าวไม่ได้สนใจเจาะลึกประเด็นของการลอบสังหาร พวกเขาเพียงสนใจในการปรากฏกายของเผ่าเทพระดับสูงเป็นหลัก แต่เนื่องจากข้อมูลไม่เพียงพอ คนส่วนใหญ่จึงไม่ทราบอะไรมากไปกว่านั้น
แม็กเปิดอ่านข่าวสารไปครู่ใหญ่ แต่ก็ยังไม่เจอข่าวสารที่น่าสนใจนัก เขาพบเพียงการคาดเดาสันนิษฐานต่าง ๆ นา ๆ เกี่ยวกับเผ่าเทพระดับสูง จนกระทั่งเขาไปเจอเข้ากับข่าวหนึ่งที่ค่อยดูเข้าท่าอยู่บ้าง ข่าวนี้พูดเรื่องความขัดแย้งในราชวงศ์เลอองนิสต์ รวมไปถึงพยายามเชื่อมโยงการลอบสังหารนักบวชกับความขัดแย้งได้อย่างน่าสนใจ
นักข่าวคนนี้ดูจะพอมีข้อมูลอยู่ไม่น้อย เพียงแต่หลายอย่างก็ยังไม่รู้ลึกและชัดเจนเท่าที่แม็กรู้ บางอย่างจึงเป็นข้อสันนิษฐานจากสิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น นักข่าวคาดเดาว่านักบวชเหล่านี้กำลังจะไปรักษาพระราชา แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนสั่งการ และย่อมไม่ทราบว่าที่แท้แล้วพระราชาป่วยเป็นอะไร รวมไปถึงไม่ทราบด้วยว่ากองกำลังหน่วยสังหารนั้นมาจากที่ใด
“… หือ … Pinky Slime News (สำนักข่าวสไลม์สีชมพู)? นี่มันชื่อสำนักข่าวของเกตไม่ใช่เหรอ? … เขียนข่าวได้ดีทีเดียว แบบนี้ซิถึงค่อยสมกับเป็นข่าวหน่อย”
แม็กเลือกติดตามข่าวสารของสำนักข่าวนี้ทันที เนื่องจากเนื้อหาข่าวที่นำเสนอออกมานั้นตรงใจ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อยู่บ้าง แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นชื่อของสำนักข่าวเขาก็รู้สึกคลับคล้ายขึ้นมา เพราะนั่นคือสำนักข่าวของเกตุเพื่อนสนิทของหมิวนั่นเอง
เมื่อนึกไปถึงสองสาวสวยเขาก็ค่อยนึกขึ้นได้ว่าสองสาวสัญญาจะให้รางวัลกับเขา เนื่องจากเขาได้จัดการช่วยหมิวจนประกาศจับในเกมถูกยกเลิก เพียงแต่น่าเสียดายอยู่บ้างที่เมื่อเช้าเขามัวแต่สนิทสนมกับแองจี้จนสายโด่ง เขาจึงไม่ได้ขับรถไปรับหมิวและเกตที่หอพัก
“อะแฮ่ม นี่พวกคุณมัวแต่จะเล่นเกมกันอย่างเดียวหรือไง”
แม็กสะดุ้งโหยงรีบเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ เพราะศาสตราจารย์ประจำคลาสส่งเสียงกระแอมออกมาพร้อมกับส่งเสียงดุไม่พอใจ แต่ดู
เหมือนว่าเขาจะยังโชคดี เนื่องจากคนที่ถูกดุนั้นไม่ใช่เขา หากแต่เป็นนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้า
จากการสังเกตดู เขาพบว่านักศึกษาร่วมคลาสเรียนกลุ่มนั้นกำลังเปิดข่าวสารของเกม Xtreme Online เช่นเดียวกันกับเขา แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือหากลองมองสำรวจให้ดีแล้ว เขาพบว่านักศึกษาราวเก้าในสิบคนกำลังกระทำแบบเดียวกัน
“โธ่ อาจารย์ครับ ขอดูหน่อยเดียวนะครับ ข่าวนี้กำลังดังเลย เผ่าเทพระดับสูงโผล่ที่เมืองเลอองนิสต์ ตอนนี้ใคร ๆ ก็กำลังตามข่าวอยู่ แถมกำลังจะมีสัมภาษณ์ GM เกี่ยวกับเรื่องนี้ในรายการ XO Live ด้วยนะครับ”
นักศึกษาที่ถูกจับได้นั้นส่งเสียงเจรจา ก่อนจะหันไปมองรอบตัวเพื่อขอแรงสนับสนุน ซึ่งหนุ่มสาวที่กระทำแบบเดียวกันนั้นก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย เนื่องจากนี่คือข่าวสารร้อนฉ่าประจำวันที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงสำหรับคอเกมทั้งหลาย
ศาสตราจารย์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีสามัคคีของเหล่านักศึกษา เขาส่งเสียงเดาะลิ้นด้วยความขัดใจ หากทว่าเพียงครู่เดียวศาสตราจารย์ก็เดินกลับไปที่โต๊ะ เขาเปิดภาพอะไรบางอย่างขึ้นบนจอสามมิติขนาดใหญ่กลางห้องเรียนจนเหล่านักศึกษาพากันส่งเสียงเฮลั่นห้อง
“ได้ อาจารย์เองก็กำลังติดตามข่าวอยากดูอยู่เหมือนกัน แต่ติดที่มีคลาสสอนพวกคุณเลยไม่ได้ดู งั้นเรามาดูพร้อมกัน”
ศาสตราจารย์เปลี่ยนอารมณ์มาเป็นยิ้มกริ่มคล้ายถูกใจ ก่อนจะหันไปมองดูภาพและเสียงที่โลดแล่นอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ ภาพตัวอักษร Xtreme Online Live ลอยเด่นขึ้นมาเป็นอันดับแรก เพราะนี่คือหน้าแรกที่ทุกคนจะได้เห็นเมื่อเปิดรายการนี้
หลังจากนั้นเสียงหวีดร้องของผู้คนก็ดังกระหึ่มผ่านลำโพงของห้องเรียน เสียงเหล่านั้นเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน ในขณะที่ลูกธนูและเวทย์มนต์กำลังพุ่งกระหน่ำเข้าใส่ขบวนรถม้าราวกับห่าฝน นั่นคือการนำเสนอข่าวสารภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาลอบสังหารซึ่งแม็กเพิ่งประสบผ่านเหตุการณ์มาในฐานะผู้ถูกลอบสังหารนั่นเอง
แม็กมองดูภาพเหตุการณ์ด้วยความสนอกสนใจ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในเหตุการณ์ ตกเป็นเป้าหมายของการลอบสังหาร และได้รับรู้เรื่องราวภายนอกรถม้าผ่านทางสัมผัสแห่งกาลเวลาอย่างชัดเจน หากทว่าการได้มองเห็นภาพเหตุการณ์จากด้านข้างนั้นก็ให้อีกความรู้สึกหนึ่ง ภาพเหล่านี้ถูกบันทึกสถานที่ห่างออกไปราวสี่ช่วงตึก แต่ภาพนั้นนับได้ว่าคมชัดจนคนดูรู้สึกราวกับตกอยู่ในพื้นที่ลอบสังหารไปด้วย
ภาพเหตุการณ์ดำเนินไปพร้อมกับเสียงบรรยายของนักข่าว ก่อนจะหยุดลงเล็กน้อยเมื่อมีร่างหนึ่งพุ่งทะลวงหลังคารถม้าขึ้นไปด้านบน ภาพที่นิ่งค้างโดนปรับขยายขึ้นจนเห็นใบหน้าที่มีหน้ากากสีเงินปิดบังครึ่งบนเอาไว้ ผู้ชมจึงพากันมองดูดวงตาสีฟ้ารวมถึงใบหน้าครึ่งล่างกันได้อย่างชัดเจน เวลานี้แม็กจึงเกิดความรู้สึกร้อนตัวต้องยกมือขึ้นปิดบังใบหน้าครึ่งล่างของตนเอง เนื่องจากเกรงว่าจะมีใครจดจำได้
ยังดีที่ไม่มีใครจดจำเขาได้ เพราะภาพในหน้าจอเปลี่ยนไปอีกครั้ง เวลานี้ทุกคนใจจดใจจ่อจ้องมองภาพของวิหคเพลิงอันงามสง่าด้วยความหลงใหล ก่อนจะแสดงท่าทีตื่นตะลึงออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อวิหคเพลิงนั้นกระพือเสกสร้างพายุเพลิงขนาดใหญ่ขึ้นแผดเผาพวกอันเดท
เมื่อภาพบนหน้าจอเดินหน้าต่อไป เหล่าผู้หญิงซึ่งมีมากกว่าครึ่งห้องก็ส่งเสียงอุทานแผ่วเบา แล้วยิ้มด้วยความเอ็นดูเหมือนเห็นเด็กน้อยน่ารักน่าชัง เพราะสิ่งที่ปรากฎออกมานั้นคือเหล่ากามเทพตัวน้อยที่น่ารักน่าชัง ยิ่งเห็นเหล่ากามเทพช่วยคืนชีพผู้ตาย และรักษาเยียวยาฟื้นฟูผู้บาดเจ็บ ดวงตาของพวกเธอก็ยิ่งทอประกายระยิบระยับ ความรู้สึกของพวกเธอในเวลานี้ไม่ต้องบอกออกมาก็ทราบได้ว่าหลงรักกามเทพตัวน้อยเข้าเสียแล้ว และความรู้สึกหลงใหลนั้นก็ได้เผื่อแผ่ไปถึงเทพระดับสูงที่เสกสร้างกามเทพออกมาด้วย
เผ่าเทพระดับสูงกำมะลอนั่งยิ้มกริ่มในห้องเรียนด้วยความพึงพอใจ ยิ่งได้เห็นว่าสาว ๆ ในชั้นเรียนมองดูตัวเขาบนหน้าจอด้วยแววตาระยิบระยับเช่นไร รอยยิ้มนั้นก็ยิ่งฉีกกว้างขึ้นเมื่อได้คิดว่าผู้หญิงทั่วโลกอาจจะกำลังมองดูตัวเขาในเกมด้วยสายตาแบบเดียวกัน กระนั้นเขาก็ยังไม่คิดที่จะเปิดเผยความลับข้อนี้ออกมา เพราะจะอย่างไรเขาก็ได้รับความนิยมมากมายจากสาว ๆ ในมหาวิทยาลัยมากพอดูอยู่แล้ว และการเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาอาจจะทำให้เขาใช้ชีวิตในเกมได้ยากลำบากกว่าเดิม
เมื่อภาพเหตุการณ์จบลง ภาพบนหน้าจอก็เปลี่ยนไปที่พิธีกรสาวสวยวัยสิบแปดสิบเก้า แม็กมองดูเธอด้วยความสนอกสนใจ เพราะความสวยของหน้าตาและเรือนร่างนั้นเทียบเคียงได้กับแองจี้และหมิวของเขา เขาทราบว่าเธอคนนี้เป็นดารานักร้องสาวสวยดาวรุ่งพุ่งแรงในช่วงเวลานี้ เพียงแต่ไม่ทราบมาก่อนว่าเธอจะรับงานพิธีกรด้วย สาวสวยลูกครึ่งเสน่ห์แรงคนนี้มีชื่อแคทเธอรีน หรือเรียกสั้น ๆ ว่าแคทนั่นเอง
“สวัสดีค่ะ วันนี้แคทได้รับเกียรติจากทางคุณ GM ทั้งสองท่านมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองเลอองนิสต์กันนะคะ”
ความสวยของพิธีกรสาวรวมไปถึงเสื้อผ้าที่ขับเน้นรูปร่างทรวดทรงทำให้หนุ่มนักศึกษาทั้งหลายมองดูแบบไม่ยอมกระพริบตา แคทกล่าวด้วยน้ำเสียงฉะฉานชวนฟัง เธอบรรยายสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดออกมารอบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองด้านข้างพร้อมกับกล้องที่ถอยห่างออกจนเห็นชายหญิงใส่เสื้อผ้าและหน้ากากสีขาวล้วน โดยที่บนหน้ากากของผู้ชายนั้นมีหมายเลขหกสิบเก้า ส่วนผู้หญิงนั้นเป็นหมายเลขสามสิบหก
ชายหญิงคู่นี้คือผู้ดูแลเกมหรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า GM และการที่พวกเขาต้องปกปิดใบหน้านั้นก็เป็นกฎเหล็กของบริษัท ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อโกงเกม ผู้ดูแลระดับนี้จะต้องปกปิดว่าตนเองทำหน้าที่อะไร และหากมีการตรวจพบว่าข้อมูลรั่วไหล พวกเขาก็จะโดนไล่ออกจากตำแหน่งทันที เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
“แคทขอย้ำให้เข้าใจกันอีกครั้งนะคะ แคทจะพยายามถามข้อสงสัยของทุกคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคำตอบผิดจากกฎของการเผยแพร่ข้อมูล คุณ GM ทั้งสองคนก็สามารถเลือกที่จะไม่ตอบได้ … เอาล่ะคะ คำถามแรกก็คือ เทพระดับสูงองค์นี้คือใคร และเขามาทำอะไรในเมืองขนาดเล็กอย่างเลอองนิสต์คะ”
พิธีกรสาวหันมายิ้มให้กับกล้องแล้วย้ำเรื่องกฎการเผยแพร่ข้อมูลอีกครั้ง เนื่องจากการสัมภาษณ์แต่ละครั้งนั้นอาจถามไปถึงสิ่งที่ไม่เหมาะสม หรือสิ่งที่เอารัดเอาเปรียบผู้เล่นคนอื่น ดังนั้นบางคำถามจึงอาจจะไม่ได้รับคำตอบ
“สวัสดีครับ ผม GM 069 นะครับ สำหรับคำถามแรก ผมคงบอกไม่ได้ว่าเขาคือใคร และสำหรับคำถามที่สอง ข้อมูลที่ผมบอกได้ก็คือ เขากำลังกลายเป็นกุญแจสำคัญดอกหนึ่งที่เร่งผลักดันเหตุการณ์ภารกิจบางอย่างในเมืองเลอองนิสต์ให้เกิดเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น”
GM ผู้ชายหันมามองดูกล้องและตอบคำถามด้วยคำตอบที่ดูคลุมเครือ และเนื่องจากมีหน้ากากปิดบังเอาไว้จึงไม่สามารถทราบได้ว่าเขาอยู่ในอารมณ์เช่นไร
สำหรับผู้ชมทั่วไปนั้นคงได้แต่บังเกิดความพิศวงงงงวย หากทว่าสำหรับแม็กที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว คำพูดนั้นทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และเวลานี้เขากำลังนั่งขมวดคิ้วด่าทอตนเองที่ประมาทเลินเล่อเกินไป
“คำตอบดูคลุมเครือไปหรือเปล่าคะคุณ GM 069 ขอรายละเอียดให้ผู้ชมทางบ้านอีกหน่อยได้หรือเปล่าคะ”
“ผมตอบได้แค่นี้ครับ”
“ก็ได้ค่ะ งั้นอย่างน้อยพวกเราขอทราบระดับเลเวล หรือระดับคลาสของเทพสี่ปีกนี้หน่อยได้มั้ยคะ จากรายงานดูเหมือนว่าเทพองค์นี้จะมีอะไรบางอย่างปกปิดข้อมูลตัวเองเอาไว้ อาชีพสายนักข่าวที่มีทักษะสำรวจจึงเห็นแค่เพียงว่าเป็นเลเวล 1 คลาส 0 เท่านั้น”
คำถามที่สองของแคทพิธีกรสาวทำให้แม็กต้องกลับไปสนใจภาพบนหน้าจออีกครั้ง เวลานี้ถึงแม้จะมองไม่เห็นสีหน้าของ GM ทั้งสอง หากทว่าแม็กกลับรู้สึกได้แววตาของทั้งคู่กำลังยิ้มขบขัน และแม็กย่อมรู้ดีว่าพวกเขากำลังขบขันเรื่องอะไร
ข้อมูลจากผู้เล่นที่มีทักษะสำรวจนั้นไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากความจริง ตัวเขาที่เป็นเทพกำมะลอมีระดับเพียงแค่นั้นจริง ๆ เพียงแต่สิ่งที่แสดงออกไปนั้นเปี่ยมอานุภาพจนผู้คนทำใจเชื่อไม่ลง
ทักษะสำรวจของอาชีพสายนักข่าวนั้นแม้จะมีประโยชน์ในการค้นหาข้อมูลไม่น้อย หากทว่าตัวเกมยังให้ความสำคัญกับการปกปิดข้อมูลส่วนตัว ดังนั้นในเกมจึงเต็มไปด้วยอุปกรณ์ปิดบังข้อมูลป้องกันทักษะสอดแนมสำรวจอยู่อย่างหลากหลายให้ผู้เล่นเลือกใช้ ทักษะสอดแนมสำรวจนี้จึงมีประสิทธิภาพใช้งานได้จริงเฉพาะกับผู้เล่นใหม่ที่ไม่ได้ป้องกันตนเอง และสัตว์อสูรในเกมเท่านั้น
“เรื่องนี้ผมคงไม่สามารถให้คำตอบได้ครับ ขอโทษด้วย”
GM ผู้ชายหันไปมองหน้าคนที่มาด้วยกัน ก่อนจะหันมาส่ายหน้าให้กับพิธีกรสาว แคทจึงทำแก้มป่องมองค้อนด้วยสายตาตามแบบฉบับของไอดอลสาวยอดนิยม ก่อนจะพยายามป้อนคำถามต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่ถามออกไปมักจะไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนมากนัก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีใครให้คำตอบเลย เพียงแต่น่าเสียดายที่รายการยังไม่ทันจบ ภาพบนจอภาพในห้องเรียนก็หายวับไปเสียก่อน
“อะแฮ่ม เอาล่ะ ผมปิดล่ะนะ พวกคุณดูกันแค่นี้พอแล้ว … และผมก็ไม่เปิดให้พวกคุณดูในคลาสเรียนเฉย ๆ หรอกนะ ผมต้องการให้พวกคุณเขียนรายงานวิเคราะห์เรื่องราวที่พวกคุณเพิ่งเห็นมาตามหลักเศรษฐศาสตร์ พวกคุณจะต้องลองวิเคราะห์จากข้อมูลรอบด้าน และลองคาดเดาดูว่าเรื่องราวที่แท้เป็นอย่างไร และเหตุใดจึงคาดเดาสมมติฐานเช่นนั้น ใครที่เขียนมาได้ดี ผมมีคะแนนเต็มสิบคะแนนให้พวกคุณ แต่ถ้าใครเขียนห่วยก็ศูนย์ จำไว้พวกคุณสามารถคาดเดาได้ แต่ต้องมีเหตุผลประกอบการคาดเดาที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่เดามั่วไปเรื่อย”
ศาสตราจารย์หันมาฉีกยิ้มพร้อมกับสั่งงานในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด เหล่านักศึกษาจึงพากันส่งเสียงร้องโอดโอยประท้วงกันยกใหญ่โต ส่วนแม็กนั้นเพียงแสดงสีหน้านิ่งคล้ายไม่ใส่ใจกับการบ้านที่อาจารย์มอบหมายให้นัก เพราะว่าเวลานี้เขากำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง
‘แองจี้เย็นนี้พี่จะรีบไปรับ เรากลับบ้านเร็วกันหน่อยนะ’
แม็กนั่งขบคิดอีกครู่ใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความไปบอกแองจี้ให้เธอรับทราบด้วย และเขารอคอยเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที อีกฝ่ายก็ส่งข้อความสนทนากลับมา
‘รีบกลับทำไมคะ เย็นนี้หนูมีทำรายงานกลุ่มกับเพื่อนด้วย คงรีบกลับไม่ได้หรอกค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ’
‘เย็นนี้พี่จะรีบออนไลน์เข้าเกม แล้วก็จะเล่นแบบ 48 ชั่วโมงด้วย’
‘เอ๋ พี่จะใช้สิทธิ ET (Extra Time) ที่ใช้ได้เดือนละครั้งเลยเหรอคะ’
‘อืม แต่แองจี้ค่อยตามเข้าไปก็ได้นะ ไม่เป็นอะไรหรอก พี่แค่มีเรื่องที่ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อย’
‘เรื่องอะไรด่วนขนาดนั้นคะพี่’
แม็กเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอแล้วยกมือขึ้นเกาคางเล็กน้อยเพื่อเรียบเรียงความคิดก่อนพิมพ์ตอบ โดยปกติแล้วการออนไลน์จะได้อย่างมากเพียงครั้งละไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพของร่างกาย การนอนนิ่งในแคปซูลนานเกินไปอาจส่งผลต่อกล้ามเนื้อของผู้เล่นได้
อย่างไรก็ตามโลกในยุคนี้มีวิทยาการที่ก้าวหน้าพอจะรองรับปัญหาเหล่านี้ได้ จึงมีกฎยืดหยุ่นให้หนึ่งอย่างซึ่งก็คือกฎที่เรียกว่า Extra Time (เวลาพิเศษ) ผู้เล่นสามารถเลือกใช้กฎนี้ได้เดือนละหนึ่งครั้ง
เมื่อเลือกใช้กฎนี้ก่อนเข้าเกมแล้ว ผู้เล่นจะต้องกินอาหารเม็ด ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถอยู่ในเกมได้ยาวนานสูงสุด 48 ชั่วโมง และนั่นจะทำให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในเกมอย่างต่อเนื่องได้ประมาณสิบวัน เพียงแต่ข้อเสียก็คือเมื่อออกจากเกมแล้ว ผู้เล่นจะถูกห้ามเข้าระบบเกมอีก 24 ชั่วโมง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ และจะสามารถใช้กฎนี้ได้อีกครั้งหลังจากเวลาผ่านไปแล้วอย่างน้อย 28 วัน ดังนั้นโดยส่วน
ใหญ่แล้วผู้เล่นมักจะเลือกใช้ระบบนี้ในช่วงสภาวะสงครามตึงเครียดที่ต้องการความต่อเนื่องในการออนไลน์เท่านั้น
‘แองจี้คิดว่าคนที่ส่งกองกำลังมาฆ่าพวกเราคือใคร’
‘น่าจะมหาอุปราชฟาร์โก้นะคะ’
‘ทำไมถึงต้องฆ่าพวกเราล่ะ’
‘ก็เพราะว่าพวกเราอาจจะรักษาพระราชาได้’
‘ใช่แล้ว เพราะเชื่อว่าพวกเราอาจจะรักษาพระราชาได้ มหาอุปราชถึงต้องเสี่ยงลงมือ เพียงแต่มหาอุปราชคงจะคาดไม่ถึงว่าจะเจอกับเทพระดับสูงทำให้แผนสังหารล้มเหลว’
‘ใช่ค่ะ แล้วยังไงคะ’
‘ก่อนหน้านี้มหาอุปราช แค่คาดว่าพวกเราอาจจะรักษาได้ แต่หลังจากการปรากฏตัวของเทพสี่ปีก แองจี้คิดว่ามหาอุปราชจะยังคิดเหมือนเดิมหรือเปล่า’
‘โหย พี่แสดงพลังโอเวอร์อลังการเสียขนาดนั้น แค่เรื่องรักษาพระราชาหนูยังคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ เลย ตอนนี้มหาอุปราชคงจะเครียดหนักแล้วล่ะ คอยดูเถอะถ้าพระราชาหายดีล่ะก็ มหาอุปราชแย่แน่’
‘ใช่แล้ว ตอนนี้มหาอุปราชกำลังเครียดหนัก เพราะมีโอกาสสูงมากที่พระราชาจะหายป่วย และคำถามก็คือมหาอุปราชจะยอมอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้พระราชาได้รับการรักษา หรือว่าจะเสี่ยงทุ่มไพ่ออกมาจนหมดหน้าตัก’
ข้อความของแม็กทำให้แองจี้นิ่งอึ้งไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกพักใหญ่ ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าแองจี้คงจะกำลังคิดแบบเดียวกับเขา
‘พี่กำลังจะบอกอะไรคะ’
‘บอกอย่างที่แองจี้คิดนั่นแหละ มหาอุปราชมาไกลเกินกว่าจะถอยหลังได้แล้ว พวกทหารของเมืองแบล็คฟอร์ดก็เหมือนกัน พวกเขาเปิดเผยตัวออกมาแล้วคงซ่อนไว้ได้ไม่นาน พี่พนันเลยว่าตอนนี้กองกำลังของฝ่ายมหาอุปราชในเมืองเลอองนิสต์กำลังเตรียมเคลื่อนไหว ส่วนกองกำลังของเมืองแบล็คฟอร์ดที่มีข้อตกลงร่วมกันก็น่าจะเริ่มยกกำลังบีบเข้ามาจากทางด้านนอกเพื่อสร้างแรงกดดัน ตอนนี้พี่ต้องรีบเข้าไปจัดการเรื่องในเกมก่อนแล้ว แองจี้ค่อยตามพี่เข้าไปก็แล้วกันนะ’
……………………………………
ความตั้งใจอันหนักแน่นที่จะรีบเข้าเกมของแม็กพังทลายลงในทันทีเมื่อออกมาจากห้องบรรยาย ที่ด้านหน้านั้นมีนักศึกษาสาวสวยนั่งรอเขาอยู่ ความสวยงามของใบหน้าและเรือนร่างที่ยั่วเย้ากามตัณหากลายเป็นจุดสนใจอย่างช่วยไม่ได้ สายตาหลายคู่จากเพศตรงข้ามต่างจับจ้องมองดูด้วยสายตาเร่าร้อนปรารถนาปานจะจับเธอไปกลืนกิน
หมิวคือคนที่นั่งส่งยิ้มหวานรอคอยเขาอยู่ ผิวของเธอขาวเป็นประกายเปล่งปลั่ง ทั้งยังสวมใส่ชุดตามสมัยนิยมที่รัดสั้นอวดทรวงอกอวบอิ่มของวัยสาว รวมไปถึงส่วนโค้งเว้าอื่นจนหนุ่ม ๆ แถวนั้นน้ำลายหก
แม็กยืนชะงักไปวูบหนึ่งเพราะเสน่ห์ที่เฉิดฉายจากหมิว จากนั้นก็แอบยิ้มกริ่มด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ เนื่องจากสาวสวยคนนี้โดนเขาจับจองเอาไว้แล้ว เพียงแต่เวลานี้เขายังไม่ทราบว่าเธอมาหาเขาถึงนี่ด้วยเรื่องอะไรกันแน่
“หมิว ไม่เห็นบอกก่อนว่าจะมา ตอนบ่ายไม่มีเรียนเหรอ”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่งเบียดไหล่กับหมิวแล้วส่งยิ้มทักทาย สายตาของชายหนุ่มในบริเวณนั้นจึงจับจ้องมองมาด้วยความอิจฉา และเมื่อนึกไปถึงชื่อเสียงทางด้านเจ้าชู้ของแม็กแล้ว ทุกคนก็ยิ่งได้แต่เสียดายที่ตนเองคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับสาวสวยระดับนางฟ้าแบบนี้บ้าง
“บ่ายนี้ว่างค่ะ เมื่อเช้าแม็กตื่นสายไม่มีเวลาไปรับรางวัล แต่สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะให้รางวัลที่ช่วยเรื่องประกาศจับ หมิวเลยเอารางวัลใส่กล่องมาส่งให้ถึงที่เลย”
หมิวยิ้มให้จนเห็นไรฟัน เธอพูดด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าพร้อมกับชี้นิ้วเรียวสวยเข้าหาทรวงอกของตนเอง ท่าทีของเธอนั้นสื่อออกมาอย่างชัดเจนว่าอะไรคือรางวัล ชายหนุ่มซึ่งมองตามปลายนิ้วไปที่ร่องอกขาวโพลนจึงรู้สึกตื่นตัวหัวใจเต้นแรงขึ้น หากไม่นับสาว ๆ ในเกมออนไลน์แล้ว เขารู้สึกได้ว่าหมิวนั้นมีเสน่ห์ร้อนแรงในระดับที่ไม่ต่างอะไรกับแองจี้มากนัก เพียงแต่หมิวจะเร่าร้อนกว่าสักหน่อย
“งั้นเราไปหาที่แกะกล่องรางวัลกันดีกว่า … ที่ไหนดี ห้องหมิวมั้ย”
แม็กยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มละลายใจสาว เขาตอบรับคำเชิญชวนของหมิวโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เสน่ห์ของหมิวในเวลานี้ร้อนแรงเกินกว่าจะปฏิเสธไม่รับเอาไว้ อย่างน้อยเขาก็คงจะเข้าเกมช้ากว่าที่คิดไปสักสามถึงสี่ชั่วโมงก็คงไม่มีปัญหามากนัก
“ที่ไหนก็ได้ค่ะ แต่เร็ว ๆ หน่อยนะคะ หมิวคิดถึงแม็กจนจะทนอารมณ์ตัวเองไม่ไหวแล้ว”
หมิวมองเขาด้วยแววตาหยาดเยิ้ม ก่อนจะกระซิบตอบพร้อมกับขบเม้มริมฝีปากของตัวเองด้วยอารมณ์อัดอั้น เธอวางมือบีบป้วนเปี้ยนลงไปตรงบริเวณหน้าขาของชายหนุ่ม น้ำเสียงยั่วเย้ารวมถึงสัมผัสนุ่มนิ่มหอมกรุ่นจากสาวสวยจึงทำให้ของเขาตื่นตัวขึ้นมาทันที
อารมณ์ของเธอในเวลานี้กำลังพลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากได้รับประสบการณ์วาบหวามหฤหรรษ์มาแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกฝันหาอยากสัมผัสอารมณ์เช่นนั้นอีก ในสายตาผู้หญิงแล้วแม็กเป็นผู้ชายที่ดูเพียบพร้อมยากจะต้านทาน เขาหล่อเหลาแข็งแกร่งมากด้วยคารมและการเจรจา เขาทั้งร่ำรวยอยู่ในตระกูลมีอำนาจ แต่ที่ประทับใจหมิวที่สุดนั้นก็คือการที่เขาช่วยเหลือเธอเรื่องประกาศจับในเกมออนไลน์
สำหรับหมิวแล้ว ชีวิตในเกมออนไลน์ไม่ได้เป็นแค่เกม หากทว่ามันคืออีกชีวิตหนึ่ง บางครั้งเธอยังรู้สึกราวกับว่าชีวิตในเกมเป็นของจริงมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเธอโดนประกาศจับจนไม่สามารถเข้าไปในเกมได้ เธอจึงรู้สึกเคร่งเครียดอย่างหนักหนาสาหัส เพียงแต่เธอเลือกที่จะพยายามเก็บอาการเอาไว้ไม่แสดงออกมา
การที่ใครคนหนึ่งสามารถช่วยเหลือชีวิตในเกมของเธอได้ จึงไม่ต่างอะไรกับบุญคุณอันยิ่งใหญ่ หากจะบอกว่าก่อนหน้านี้เธอแค่เพียงคบหากับเขาเพราะฐานะและเสน่ห์ของบุรุษอันร้อนแรงก็คงไม่ผิดนัก หากทว่าเวลานี้ความสัมพันธ์กับชายหนุ่มดูจะยิ่งถลำลึกจนแทบใช้คำว่ารักหรือลุ่มหลงก็คงไม่ผิดนัก เธอไม่เคยรู้สึกต้องการใครแบบนี้มาก่อนในชีวิต
“ก็ได้งั้นเราไปหาที่แกะกล่องของขวัญแถวนี้กันเลย”
ท่าทีร้อนแรงของหมิวทำให้แม็กตื่นเต้นจนต้องรีบข่มอารมณ์เอาไว้ เขามองซ้ายมองขวาครุ่นคิดวูบหนึ่ง แล้วจึงค่อยจูงมือของหมิวเดินลัดเลาะไปตามทางเดินของสถานศึกษา แม็กเดินนำผ่านประตูเข้าไปยืนชะโงกหน้ามองแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มกริ่มและขยับมาจูงมือสาวสวยเข้าไปในซอกเล็ก ๆ ที่มีป้ายเขียนเอาไว้ ‘ห้องน้ำชาย’
เมื่อประตูห้องน้ำหนึ่งในสิบห้องปิดลง หมิวก็ขยับไปยืนพิงกับผนังห้องน้ำและมองดูเขาด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม ทรวงอกอวบอิ่มที่ซุกอยู่ภายในเสื้อตัวเล็กจิ๋วเด้งสะท้านขึ้นลงเนื่องด้วยกำลังหายใจหนักหน่วง อารมณ์ของเธอกำลังปั่นป่วน และเธอทราบดีว่านั่นคืออารมณ์อันดำมืด
แม็กมองดูสาวสวยอารมณ์ร้อนรักด้วยอารมณ์ตื่นเต้นพลุ่งพล่านอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ไม่มีคำพูดอันใดออกมาจากสองหนุ่มสาว เขาขยับเข้าไปใกล้โอบกอดร่างงามนุ่มนิ่มเอาไว้ ก่อนจะประกบปากจูบที่ริมฝีปากเรียวสวย เขาขบเม้มและดูดดุนแผ่วเบาที่ริมฝีปากล่าง ก่อนจะแหย่ลิ้นที่ปราดเปรียวราวกับมีชีวิตเข้าไปตวัดพัวพันจนร่างงามสั่นสะท้าน
ดวงตาหวานซึ้งหลับพริ้มพร้อมกับส่งเสียงครางอือ ลืมหายใจของทั้งคู่ร้อนผ่าวและหอบถี่ขึ้นทีละน้อยตามจังหวะของอารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยาน มือนุ่มนิ่มของสาวสวยตะปบจิกลงไปบนแผ่นหลังของเขาเพื่อระบายความเสียวซ่าน ในขณะที่ฝ่ามือหยาบกร้านของชายหนุ่มลูบไล้ขยี้เคล้นคลึงไปจนทั่วเรือนร่าง
หมิวส่งเสียงครางอย่างมีความสุขเมื่อเขาปลดกระดุมเสื้อแล้วสอดมือเข้าไปบีบขยี้ทรวงเต้าเต่ง ความซาบซ่านทำให้ร่างบางกระตุกสั่นสะท้าน และเพียงพริบตาเดียวปลายถันสีชมพูอ่อนก็แข็งเต่งขึ้นมาเป็นเม็ด
สติที่หลุดลอยทำให้สาวสวยแทบรู้สึกตัวด้วยซ้ำตอนที่ล้วงมือลอดผ่านชายกระโปรงเข้ามาเกี่ยวกางเกงในจนหลุดลุ่ย เธอรู้ตัวอีกครั้งเมื่อเขาใช้มือช้อนขาของเธอข้างหนึ่งขึ้นมาพาดไว้บนสะโพก จากนั้นความแข็งกระด้างที่เธอโหยหาก็ขยับบดเบียดเข้าใส่จุดอ่อนไหวจนเธอสั่นสะท้าน
เสียงหอบครางของหมิวแผ่วดังขึ้นทีละน้อย ความเสียวซ่านที่แล่นพล่านไปทั่วร่างนั้นเกินจะทานทนไหว เพียงแค่จูบอันดูดดื่มก็สามารถทำให้เธอคลั่งได้แล้ว อย่าว่าแต่สัมผัสที่ป้วนเปี้ยนอยู่ตรงเนินสาว
“อือ … แม็กใส่เข้ามานะ ไม่ไหวแล้ว … อูย … อือ …”
เธอรีบส่งเสียงร่ำร้องอ้อนวอนขอเมื่อเขาปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ ก่อนจะแอ่นเอียงลำคอขาวผ่องเปิดทางให้เขาจูบซุกไซร้จนเป็นรอยแดงจ้ำ ฝ่ามือบอบบางทั้งสองข้างขยับล้วงมาช่วยปลดเสื้อและตะขอกางเกงของเขาออกด้วยท่าทีกระสันร้อนรน
ชายหนุ่มปล่อยให้เธอทำหน้าที่ของเธอ ส่วนเขาก็กระทำหน้าที่ของเขา กระดุมเสื้อนักศึกษาตัวจิ๋วที่ทรวงอกดันจนคับปริโดนปลดออกทีละเม็ด ยกทรงสีดำโดนดึงรั้งขึ้นไปกองเหนือทรวงอก จากนั้นฝ่ามือหยาบใหญ่ก็ขยับตะปบลงไปขยำเคล้นคลึงเสพความหยุ่นแน่นเต่งตึงของวัยสาว
ขนาดที่อวบใหญ่ล้นมือปลุกอารมณ์ดิบกระสันของเขาได้เป็นอย่างดียิ่ง ร่างงามที่โดนบีบขยี้จึงกระตุกสั่นระริกสะท้านตลอดเวลา หากทว่ามือคู่งามนั้นยังคงพยายามขยับปลดเสื้อผ้าของเขาออกโดยไม่ยอมแพ้
“แม็กรีบใส่เข้ามานะคะ หมิวไม่ไหวแล้ว … อืม”
หมิวส่งเสียงร่ำร้องวอนขออีกครั้งเมื่อปลดตะขอกางเกง เธอปล่อยความเป็นชายของเขาออกมาอวดขนาดอันใหญ่โตและแข็งแกร่ง ดวงตาคู่สวยหวานซึ้งกำลังฉ่ำเยิ้มด้วยเพลิงไฟแห่งความใคร่
อารมณ์ของชายหนุ่มเองก็เร่าร้อนไม่แพ้กัน ยิ่งได้ยินเสียงว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำความตื่นเต้นก็ยิ่งพุ่งพรวด เขายกมือขึ้นปิดป้องปากของหมิวเอาไว้เพื่อเตือนไม่ให้เธอส่งเสียง จากนั้นจึงเริ่มขยับสอดแทรกความแกร่งกร้าวรุกล้ำเข้าไปในร่างของสาวสวย
หมิวตัวกระตุกเฮือกแทบจะเผลอส่งเสียงครางออกมา สิ่งที่สอดแทรกเข้ามาในร่างนั้นทั้งเร่าร้อนและกระตุกตุบราวกับมีชีวิต นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด เธอรู้สึกเพียงแค่ความคับแน่นและความสุขหฤหรรษ์ที่ก่อตัวราวกับพายุหมุนที่บริเวณท้องน้อย
เสียงสนทนาของนักศึกษาที่ด้านนอกดังแว่วเข้ามา ที่ด้านนอกนั้นน่าจะมีคนอยู่ไม่ต่ำกว่าสี่คน สองร่างที่อยู่ในสภาวะเสพสมจึงเม้มปากแน่นเพื่อเก็บกักเสียงครางแห่งความหฤหรรษ์ไม่ให้หลุดออกมา หากทว่าในเวลาเดียวกันนั้นหนุ่มสาวกลับเร่งขยับโยกสะโพกเพื่อซ่องเสพความเสียวซาบซ่านเป็นระวิงจนเม็ดเหงื่อผุดออกมาจากร่าง
สองขาขาวเพรียวขยับตวัดอ้ารัดเปิดรับการรุกเร้าอย่างเต็มที่ ในขณะที่ชายหนุ่มเองก็ขยับบั้นเอวเป็นระวิง มือข้างหนึ่งช้อนกระชับบีบขยำที่สะโพกผายได้รูป ในขณะที่อีกข้างนั้นบีบขยี้เข้าใส่ทรวงอกอวบใหญ่จนบิดเบี้ยวแทบแตกสลาย
หมิวไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อยกับการกระทำอันดิบเถื่อนรุนแรง เธอเพียงยิ่งรู้สึกตื่นเต้นซาบซ่านไปกับรสชาติที่เขาปรนเปรอให้ เพราะนี่คือสิ่งที่เธอใฝ่หา มันคือรสชาติแห่งความสุขของชีวิต
สาวสวยโดนกระแทกเพียงไม่นานนักก็เริ่มจะทานทนไม่ไหว เธอเกือบจะเผลอส่งเสียงหวีดร้องออกมา หากทว่ายังดีที่เขาเอื้อมมือมาปิดปากเอาไว้ได้ทัน เสียงหวีดจึงกลายเป็นแค่เสียงแผ่วอยู่ในลำคอ และเธอก็ระบายเอาอารมณ์อันร้อนแรงออกมาด้วยการจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม ในขณะที่ร่างของเธอสั่นกระตุกเกร็งสะท้านอย่างรุนแรง
หมิวหลับตาปี๋โอบแขนกอดรัดและเผยอปากรับจูบของเขา เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวที่ทะลักไหลเข้ามาในร่าง วินาทีนี้เธอรู้สึกราวกับว่าร่างของเธอกำลังผสานเป็นเนื้อเดียวกับชายหนุ่มที่เธอหลงไหล เธอรู้สึกได้ว่าร่างของเธอกำลังตอดรัดดูดใส่ความแกร่งกร้าว ในขณะที่ของเขานั้นเต้นตุบกระตุกสู้โดยไม่ยอมแพ้
“อีกรอบมั้ย”
เมื่อเสียงที่ด้านนอกห้องน้ำเงียบลง แม็กก็ยิ้มกริ่มพูดหยอกเย้าพร้อมกับมองดวงตาคู่สวยที่ฉ่ำเยิ้มด้วยอารมณ์รัก และเมื่อหมิวตอบด้วยการจูบปากเขา สองร่างเร่าร้อนจึงเริ่มขยับเขยื้อนเสพสมกันอีกคราหนึ่ง
………………