XO ตอนที่ 5 – ข้อจำกัด
แวะเวียนกันมาอีกครั้ง สำหรับนิยายแนวแฟนตาซี ไซไฟ เกมออนไลน์ 🙂
ช่วงนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงอารมณ์บ้าแฟนตาซีนะครับ
นิยายที่อัพส่วนใหญ่จึงจะเป็นเรื่อง SOSO หรือไม่ก็เรื่อง XO นี้เสียมาก
สำหรับมิตรรักแฟนเพลงที่ติดตามอ่านเรื่องอื่น ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ 🙂
XO
XO ตอนที่ 5 – ข้อจำกัด
…………………………………………………
แม็กขมวดคิ้วยืนมองมีดสั้นทั้งสองเล่มที่อยู่ในมือ สลับกับก้มลงไปมองดูเรือนร่างงดงามเปลือยเปล่าของอะโฟรไดทีและแอสโมดิอุสด้วยความกังวล หนึ่งนั้นเป็นมีดสั้นตัดวิญญาณของราชานรกฮาเดส ส่วนอีกหนึ่งนั้นคือมีดสั้นสลายพลังของเฮเฟตัสเทพนักประดิษฐ์
มีดเล่มแรกนั้นสามารถตัดกระชาก
วิญญาณออกจากร่างคนเป็นได้ แต่มีข้อจำกัดว่าจะไร้ผลหากมีพลังป้องกันแม้แต่หน่วยเดียว ดังนั้นเมื่อมีมีดสั้นเล่มที่สองมาช่วยเหลือด้วยการสลายพลังป้องกันทั้งหมดออก เขาก็จะสามารถกระชากวิญญาณของใครก็ได้ออกมาจากร่าง … และตอนนี้เขากำลังจะกระชากวิญญาณออกจากร่างของสองสาวสวยสุดที่รัก
“ลงมือเถอะ พวกข้าจะไม่เจ็บปวดหรอก”
อะโฟรไดทีเทพีแห่งความรักราวกับจะอ่านความในใจของเขาได้ เธอจึงปรือตาขึ้นแล้วยิ้มอย่างอบอุ่น ก่อนจะหลับตาพริ้มนอนนิ่งกับพื้น เพื่อรอคอยให้เขาลงมือกระทำอย่างที่ได้ตกลงกันไว้
“ท่านแม็กลงมือเถอะ ข้าต้องการใช้ชีวิตใหม่ร่วมกับท่าน”
แอสโมดิอุสกล่าวให้กำลังใจเขาอีกเสียง พร้อมกับมองสบตาเขาด้วยแววตายั่วยวนป่วนราคะ ก่อนจะหลับตาลงนอนนิ่งเช่นเดิม
“งั้นก็ … จะลงมือล่ะนะ”
แม็กมองดูร่างอวบเปลือยของสองสาวก่อนจะกลืนน้ำลายลงอึกใหญ่ เพียงแค่ได้มองดู เรือนร่างของอันงดงามของพวกเธอก็ทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งตัวโด่เด่ตลอดเวลา และแม้ว่าจะได้ลิ้มรสสวาทจากร่างงามมาแล้วเป็นเวลาสองวันสองคืน หากทว่าเขายังคงไม่รู้สึกอิ่มเอมเบื่อหน่ายแม้แต่น้อย ดังนั้นหากมีเวลาอีกสักหน่อย เขาสาบานว่าเขาจะยังคงร่วมรักกับพวกเธอทั้งสองอีกต่อไปอย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่เวลาหมด และเขาจำต้องออกจากเกมเพื่อกลับไปในชีวิตจริง และเพื่อความสุขในระยะยาว เขาและพวกเธอจึงตกลงใจกันที่จะทำเช่นนี้
แม็กยืนนิ่งทำใจครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดหน้าต่างระบบซึ่งเป็นขึ้นมาสำรวจคร่าว ๆ ก่อนรอบหนึ่ง เพื่อจะได้รู้ว่าหลังจากนี้จะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่เขากลับพบว่าค่าพลังของเขาบางส่วนมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ปกตินั้นค่าพลังจะเพิ่มขึ้นได้จากการต่อสู้ และเก็บเลเวลเท่านั้น
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อ : กายเวอร์ เผ่าพันธ์ : มนุษย์ ระดับ : 1
ทรัพย์สิน: 0 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน 1,000 เหรียญทองแดง
พลังชีวิต : 600 พลังเวทย์ : 280
ความแข็งแกร่ง : 1
ความคล่องแคล่ว : 1
ความอดทน : 40
ความฉลาด : 1
ความแม่นยำ : 1
ความโชคดี : 1
อาชีพ : ยังไม่มี
ค่าพลังที่เขาสนใจก็คือค่าความอดทนที่เพิ่มจาก 1 มาเป็น 40 หน่วยอย่างไม่บอกไม่กล่าว รวมถึงค่าพลังชีวิตที่กระเตื้องขึ้นมานิดหน่อยด้วย ซึ่งความจริงแล้ว นี่เป็นเพราะระบบเกมนี้อนุญาตให้ค่าพลังเพิ่มขึ้นได้ หากกระทำสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นบ่อย ๆ ยกตัวอย่างเช่น หากผู้เล่นยกน้ำหนักบ่อย ๆ เหมือนนักกล้าม ค่าพลังความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
หรือหากผู้เล่นไปเสี่ยงโชคเล่นการพนันชนะบ่อยครั้ง ค่าความโชคดีก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่วนในกรณีนีของแม็กนั้น เขาใช้เรี่ยวแรงร่วมรักกับสองสาวเทพมารจนหมด จากนั้นก็โดนฟื้นฟูพลัง และเร่งอารมณ์ใช้พลังจนหมดแล้วฟื้นฟูซ้ำไปซ้ำมา เมื่อเป็นเช่นนี้ทางระบบจึงมองเหมือนเขากำลังออกกำลังกาย และเพิ่มค่าความอดทนและพลังชีวิตให้เป็นรางวัล
แม็กเป็นมือใหม่ในเรื่องเกมจึงไม่รู้เรื่องนี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจมาก เขาจึงละสายตาจากหน้าจอของระบบแล้วขยับไปนั่งคร่อมบนเรือนร่างอวบอัดน่าฟัดของอะโฟรไดทีเพื่อตระเตรียมลงมือ
อะโฟรไดทียิ้มหวานให้เขา เธอมองดูมีดสั้นทั้งสองเล่มด้วยสายตาแน่วแน่มั่นคงแล้วหลับตาพริ้มลง ก่อนที่ร่างบางจะกระตุกเด้งสะท้านขึ้นเล็กน้อยเมื่อส่วนปลายของมีดสั้นตัดวิญญาณเสียบเข้ามาในร่างบริเวณทรวงอก
มีดสั้นตัดวิญญาณไม่ใช่มีดเพื่อทำร้ายร่างกายทางกายภาพ ผิวขาวนวลเนียนจึงไม่มีแม้แต่ริ้วรอยขีดข่วน มีดเล่มนั้นเปล่งแสงสีขาวนวลออกมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทั่วเรือนร่างงามก็เริ่มทอแสงสีเช่นเดียวกันออกมา
จากการชี้แนะของอะโฟไดรทีเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แม็กคิดว่านี่คือจังหวะที่เหมาะสมแล้ว เขาจึงเริ่มถอนดึงมีดสั้นออกมาจากร่างของเธอ เพียงแต่คราวนี้กลับมีแรงฉุดรั้งอยู่จนต้องเกร็งกล้ามเนื้อออกแรงหนักกว่าเดิม
วูบ วูบ วูบ … สิ่งที่หลุดออกมาจากมีดสั้นไม่ใช่เลือดเนื้อของเธอ หากทว่าเป็นเรือนร่างสีเงินอ่อนจางที่มีลักษณะเหมือนตัวจริงอีกร่างหนึ่ง และร่างสีเงินนั้นก็คือจิตวิญญาณของอะโฟรไดทีเทพีแห่งความรัก
แม็กพยายามออกแรงเพิ่มอีกเล็กน้อย จากนั้นร่างวิญญาณก็หลุดลอยออกมาจากร่าง และวินาทีนั้นเองที่ร่างของอะโฟรไดทีได้หยุดเคลื่อนไหวทุกอย่าง รวมไปถึงการหายใจ ใบหน้าขาวอมชมพูเต็มไปด้วยชีวิตชีวากลายเป็นขาวซีดเหมือนคนตาย เพราะเมื่อวิญญาณหลุดออกจากร่าง เธอก็ถือว่าตายแล้วจริง ๆ
เขาก้มลงมองดูร่างไร้วิญญาณของอะโฟรไดทีด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดูร่างวิญญาณสีเงินที่งดงามเหมือนร่างจริงของเธอ
ร่างวิญญาณของอะโฟรไดทีพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะอ้าแขนโอบกอดเข้ามา และวินาทีนั้นเองที่เขารู้สึกว่า “การถ่ายเทจิตวิญญาณ” ที่พวกเธอพูดถึงได้เริ่มขึ้นแล้ว
พลังงานสีขาวอบอุ่นให้ความรู้สึกสุขสบายไหลเอ่อเข้ามาในร่างอย่างต่อเนื่อง และจากที่เธอเล่าให้ฟัง นี่สมควรจะเป็นพลังงานธาตุแสงซึ่งเป็นของเธอ และที่กำลังไหลเอ่อเข้ามานั้นไม่ใช่เพียงพลังงานแสง หากทว่ายังรวมถึงจิตวิญญาณแห่งเทพส่วนหนึ่งของเธอด้วย
นี่เป็นขั้นตอนหนึ่งเพื่อกระทำในสิ่งที่พวกเธอเรียกว่า ‘การกำเนิดใหม่’ พวกเธอบอกว่าเหล่าเทพและมารสามารถจดจำและค้นหากันเองได้ด้วยคลื่นวิญญาณซึ่งเป็นเอกลักษณ์ สำหรับพวกเธอที่สวยเด่นเป็นที่หมายปองแล้ว ย่อมมีเทพมารจำนวนนับไม่ถ้วนที่จะแอบจดจำลักษณะคลื่นวิญญาณไว้ ดังนั้นหากไม่แก้ไขสิ่งนี้ก่อน พวกเธอคงจะยังไม่มีอิสระที่แท้จริง
เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเธอจึงตกลงใจ ถ่ายเทจิตแห่งเทพและมารส่วนหนึ่งให้กับแม็ก เพื่อถือกำเนิดใหม่และทำให้คลื่นวิญญาณเปลี่ยนไป รวมทั้งยังสามารถแบ่งปันความแข็งแกร่งให้แม็กซึ่งยังคงอ่อนแอได้ด้วยอีกทาง
‘ท่านได้รับจิตแห่งเทพระดับสูง’
‘ความสามารถพื้นฐานเพิ่มขึ้น’
‘เปิดใช้เกจพลังจิต’
‘เปิดใช้เกจพลังปราณ’
‘Class limited – ค่าพลังพื้นฐานติดข้อจำกัดของคลาส 0 ทำให้ไม่สามารถเพิ่มขึ้นเกิน 100 ได้ ค่าพลังจะถูกเก็บไว้ และมีผลอีกครั้งเมื่อท่านทำภารกิจเปลี่ยนไปเป็นคลาส 1’
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อ : Guyver เผ่าพันธ์ : มนุษย์ ระดับ : 1
ทรัพย์สิน: 0 เหรียญทอง – 10 เหรียญเงิน – 1,000 เหรียญทองแดง
พลังชีวิต : 10,000 / 10,000 (class limited)
พลังเวทย์ : 10,000 / 10,000 (class limited)
พลังจิต: 10,000 / 10,000 (class limited)
พลังปราณ: 10,000 / 10,000 (class limited)
ความแข็งแกร่ง : 100 (class limited)
ความคล่องแคล่ว : 100 (class limited)
ความอดทน : 100 (class limited)
ความฉลาด : 100 (class limited)
ความแม่นยำ : 100 (class limited)
ความโชคดี : 100 (class limited)
อาชีพ : ยังไม่มี
คำว่า (class limited) ทำให้แม็กยืนงงอยู่ครู่ใหญ่ นักเล่นเกมมือใหม่อย่างเขาย่อมไม่ทราบว่านั่นคืออะไร รู้แค่เพียงว่าเวลานี้ค่าพลังของเขาเพิ่มขึ้นจนถึง 100 ทุกค่า แม้แต่ค่าพลังชีวิต หรือพลังเวทย์ ก็เพิ่มขึ้นไปด้วยอย่างมหาศาล
นี่เป็นสิ่งที่เรียกว่าการจำกัดความแข็งแกร่งของคลาสที่ระบบเกมสร้างขึ้นมา นอกจากระดับเลเวลแล้วยังมีสิ่งที่เรียกว่าคลาส เมื่อเริ่มต้น ทุกคนจะมีคลาส 0 และมีขีดจำกัดด้านค่าพลังไม่ให้เกิน 100 รวมถึงไม่ให้ค่าพลังชีวิตและเวทย์มนตร์มากกว่า 10,000 หน่วยด้วยอีกทาง
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจะยังคงสามารถฝึกฝนพลังฝีมือตนเองได้ แต่ค่าพลังในส่วนที่เกิน limit จะยังไม่แสดงผล จนกระทั่งผู้เล่นไปทำภารกิจบางอย่างเพื่อเพิ่มระดับคลาสให้สูงขึ้น และเมื่อเลื่อนคลาสได้สำเร็จ ค่าพลัง และค่าประสบการณ์ที่ถูกสะสมไว้เหล่านั้นจึงค่อยแสดงผลให้เห็นออกมา
คำว่าคลาสนั้นจะต้องทำทุกครั้งที่ระดับเลเวลหาร 100 ลงตัว เช่น เมื่อเลเวลถึงระดับ 100 ก็ต้องเปลี่ยนเป็นคลาส 1 เสียก่อนเพื่อที่จะสามารถเพิ่มระดับไปเป็น 101 ขึ้นไปได้ หรือเมื่อถึงระดับเลเวล 200 ก็ต้องทำภารกิจเพื่อเปลี่ยนเป็นคลาส 2 เพื่อที่จะทำให้สามารถเพิ่มระดับเลเวลและเพิ่มความแข็งแกร่งได้ต่อไป
ในส่วนของแม็กนั้น เขายังมีเลเวลแค่เพียงหนึ่ง แต่กลับได้รับจิตวิญญาณแห่งเทพ ทำให้ค่าพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจนเกินขีดจำกัดทุกอย่าง ดังนั้นสิ่งที่น่าสนใจในตอนนี้ก็คือ หากไม่มีลิมิตนี้ ค่าพลังของเขาจะพุ่งขึ้นไปถึงระดับใด
‘ได้รับจิตวิญญาณแห่งเทพระดับแปดดาวซึ่งกำลังถือกำเนิดใหม่ – ยังเรียกใช้ไม่ได้ เนื่องจากจิตวิญญาณยังอยู่ในระหว่างสะสมพลังงานเพื่อถือกำเนิดใหม่ สามารถแบ่งปันค่าประสบการณ์ หรือนำไปอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีธาตุแสงเข้มข้นเพื่อเร่งเวลาถือกำเนิดได้ ระดับพลังงานสะสม 0%’
หลังจากการถ่ายเทพลังจิตวิญญาณแห่งเทพส่วนหนึ่งให้กับแม็ก จิตวิญญาณสีเงินของอะโฟรไดทีก็กลายสภาพเป็นการ์ดใบหนึ่งให้เขาเก็บไว้รอคอยวันที่เธอจะสะสมพลังงานได้มากพอ
“เอาล่ะ คราวนี้ก็ใช้ทักษะที่ได้มาใหม่ซินะ … ‘Eternal Breath (ลมหายใจนิรันดร)'”
แม็กก้มลงมองดูใบหน้าขาวซีดไร้ลมหายใจและเรือนร่างงามซึ่งไร้ชีวิตของอะโฟรไดที แม้ว่าตอนนี้ร่างของเธอจะไร้ชีวิตชีวาหากทว่ายังมีความสวยงามอยู่เต็มเปี่ยม และด้วยเหตุนี้เองที่เธอต้องร้องขอให้เขาเก็บร่างไร้วิญญาณของเธอเอาไว้ก่อน กระนั้นจะให้เก็บในสภาพซากศพก็ไม่เหมาะสม เพราะอาจเกิดการเน่าเปื่อยได้ ดังนั้นอะโฟรไดทีจึงมอบทักษะให้กับเขาอย่างหนึ่ง ซึ่งทักษะนั้นมีประสิทธิภาพในการมอบลมหายใจให้กับซากศพ หรือก็คือทำให้ศพมีสภาพคล้ายมีชีวิตอยู่โดยไม่เน่าเปื่อยเสื่อมสลายนั่นเอง
เมื่อทักษะถูกเรียกใช้ แม็กก็ก้มลงไปจุมพิตปล่อยลมหายใจเข้าไปในปากของร่างไร้วิญญาณนั้น และเพียงไม่นานนัก ร่างที่ไร้ลมหายใจก็เริ่มหายใจอีกครั้ง ใบหน้าที่ขาวซีดเริ่มปรากฎสีชมพูแผ่ซ่านไปทั่ว เรียกได้ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่ต่างจากร่างที่มีชีวิตเลยแม้แต่น้อย
“อะ … อะ …”
ร่างไร้วิญญาณของอะโฟรไดทีเด้งกระตุกเล็กน้อย พร้อมกับส่งเสียงครางแผ่วเบาเมื่อแม็กทดลองเอื้อมมือลงไปบีบขยำสองเต้า ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองที่แทบจะเหมือนว่าเธอเพียงนอนหลับอยู่ก็ทำให้แม็กรู้สึกตื่นเต้นจนเผลอลองก้มหน้าลงไปฟัดกับสองเต้าอวบเพื่อทดสอบดูอีกขั้น และผลก็ช่างน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะร่างของเธอมีการเด้งตอบสนองเบา ๆ ทุกครั้งที่เขาลงมือเล้าโลม แม้แต่ด้านล่างก็มีน้ำหล่อลื่นไหลเอ่อออกมาจนเปียกเต็มร่องด้วยซ้ำ
“สุดยอด!!!”
แม็กส่งเสียงด้วยความยินดียิ่ง ก่อนจะพยายามหักใจลุกขึ้นจากร่างเย้ายวน แล้วหยิบเอาเม็ดยาอะไรบางอย่างที่ได้รับมาโยนเข้าปาก จากนั้นค่าพลังเวทย์มนตร์ที่หายไปห้าพันหน่วยเพราะทักษะลมหายใจนิรันดร ก็ฟื้นคืนกลับมาจนเต็มเปี่ยม
เขาขยับไปนั่งคร่อมร่างของแอสโมดิอุสเป็นลำดับต่อไป แต่ว่าเธอกลับดีดตัวเด้งผึงขึ้นมากอดจูบแลกลิ้นกับเขาเสียก่อน กว่าจะปลอบให้เธอยอมนอนลงไปดี ๆ ได้เขาก็เหลือเวลาออนไลน์อีกเพียงแค่ห้านาที
แม็กลงมือด้วยความคล่องแคล่วกว่าเดิม จิตวิญญาณของแอสโมดิอุสจึงหลุดลอยออกมาด้วยความรวดเร็ว และเธอก็มอบจิตแห่งมารให้เขาเพื่อเสริมพลัง เพียงแต่ยังติดข้อจำกัดอยู่ ค่าพลังที่ได้รับจึงยังไม่แสดงผล แต่สะสมเอาไว้เพื่อรอการเปลี่ยนคลาสในภายหลัง
เขารีบมอบลมหายใจนิรันดรให้กับร่างไร้วิญญาณของแอสโมดิอุส แล้วเก็บไว้ในสภาพการ์ดไอเท็ม จากนั้นก็รีบกดวาร์ปกลับเข้าเมือง ก่อนที่ระบบจะบังคับให้เขาออกจากเกมไป
…………………………………………………
หลังเวลาเลิกเรียนวันนั้น แม็กสาบานได้ว่าเขานั่งเหม่อจนแทบเรียนไม่รู้เรื่อง เพราะในหัวมีแต่ภาพของอะโฟรไดทีและแอสโมดิอุสเต็มไปหมด เพราะความสวยและเสน่ห์ของพวกเธอนั้นข้ามขีดจำกัดของความเป็นจริงไปไกลโข สิวฝ้าสักเม็ดก็ไม่มีให้เห็น สัดส่วนรูปทรงทุกตารางนิ้วล้วนแล้วแต่สวยสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
แม้แต่หมิวนักศึกษาสาวดาวมหาลัยแสนสวย ซึ่งเป็นคู่ควงคนปัจจุบันที่เขาเคยคิดว่าสวยกว่าใครที่เคยเจอก็ยังห่างจากสองสาวโฟร์มดอยู่ไม่น้อย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาเกิดอาการหลงผู้หญิงเป็นครั้งแรก
“ขอบคุณนะคะ แต่หมิวว่าซื้อของพอแล้วมั้งคะ หมิวไม่ได้อยากได้อะไรมากมายขนาดนี้สักหน่อย”
หมิวส่งเสียงคล้ายออดอ้อนขณะยื่นมือไปรับถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมยี่ห้อดังจากพนักงานขาย ในขณะที่แม็กกำลังยืนแสกนม่านตาเพื่อชำระเงินด้วยระบบเครดิตธนาคาร
“รับไปเถอะ แค่นี้จิ๊บ ๆ อยากได้อะไรเพิ่มอีกมั้ย?”
หลังจากการชำระเงินเรียบร้อย แม็กก็เดินมารับถุงเสื้อผ้าจากมือของหมิวมาช่วยถือให้ตามมารยาทอันดีของสุภาพบุรุษ และดูเหมือนว่าตอนนี้สองมือของเขาจะพะรุงพะรังไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมจนแทบไม่มีที่ว่างอีกแล้ว
“พอแล้วค่ะ … แค่นี้หมิวก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
หมิวกล่าวปฏิเสธด้วยรอยยิ้มสดใส ซึ่งความจริงในฐานะสิ่งมีชีวิตเพศหญิงนั้น การช้อปปิ้งย่อมไม่มีเคยมีวันเพียงพอ โดยเฉพาะเมื่อการช้อปปิ้งในครั้งนั้นมีคนจ่ายให้แบบไม่อั้น
อย่างไรก็ตาม หมิวยังคงรู้สึกกระดากอยู่บ้างที่จะต้องทำตัวเหมือนผู้หญิงหากินเกาะคนอื่น ถึงแม้ว่าสถานะความสัมพันธ์ในตอนนี้จะถือได้ว่าเป็นแฟนกันก็ตาม แต่ยุคนี้สมัยนี้การมีเซ็กส์กันมันแค่เรื่องปกติ ไม่ได้มีความหมายทางพันธะอะไรเหมือนอย่างสมัยก่อน เธอจึงทั้งยินดีที่เขาเอาอกเอาใจ หากทว่าอีกทางหนึ่งก็เป็นกังวลว่า เขาจะมองเธอเป็นผู้หญิงที่ซื้อหาได้ด้วยเงินเพียงอย่างเดียวหรือไม่
“อืม จริง ๆ ก็ไม่ต้องเกรงใจหรอก บอกแล้วสบายมาก … แต่ชักจะหิวแล้วหิวแล้วซิ ไปหาอะไรกินกันก่อนมั้ย?”
แม็กหันไปยิ้มให้หมิว แล้วชักชวนเธอไปทานอาหารเย็น ในฐานะเสือผู้หญิงมากประสบการณ์อย่างเขา ย่อมเข้าใจความคิดของหมิวอยู่บ้าง เขารู้ว่าเธอก็เป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นทั่วไปที่ยินดีเมื่อชายคนรักซื้อของให้ และเขารู้ดีว่าหมิวกำลังกังวลเรื่องอะไร เพียงแต่การซื้อของให้ไม่อั้นแบบนี้ก็เป็นการตกผลึกทางความคิดเท่าที่เขาเคยผ่านมาก่อน เขาจึงไม่ลังเลที่จะทำมันต่อไป
การใช้เงินซื้อของให้พวกเธออย่างหนำใจนั้นทางหนึ่งก็เพื่อทำให้เขารู้สึกผิดน้อยลง เมื่อถึงวันที่เขาเบื่อและเขี่ยคู่ควงทิ้ง มันคล้ายกับว่าเขาและเธอได้แลกเปลี่ยนกันแล้วอย่างสมน้ำสมเนื้อ พวกเธอมีร่างกายสดใหม่ให้เขาเสพสม เขาเองก็ตอบแทนด้วยเงินตราที่มีแทบไม่อั้น เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างก็ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แม็กเดินนำหมิวเข้าไปในร้านอาหารบุฟเฟต์ตกแต่งหรูหราแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองต่างก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนเช่นเคย แม็กนั้นหล่อเหลาหุ่นดีจนสาว ๆ แอบทำตาเคลิ้มใส่ ส่วนหมิวนั้นก็สวยเด่นทั้งหน้าตาและบุคลิกจนหนุ่ม ๆ ต้องแอบมองสำรวจเรือนร่างของเธอด้วยความหื่นกาม
โดยเฉพาะวันนี้หมิวเลือกที่จะแต่งตัวเปิดเผยมากกว่าปกติเล็กน้อย เพราะอยากอวดเสน่ห์ให้คนที่เธอมีใจให้ ชุดนักศึกษาที่ใส่นั้นบางเฉียบและฟิตรัดเช่นเดิม หากทว่าเสริมลูกเล่นตามสมัยนิยมด้วยการมัดชายเสื้อด้านล่างผูกไขว้ขึ้นมาด้านบนจนอยู่เหนือสะดือ ส่วนคอเสื้อก็แบะกว้างออกเพราะไม่มีกระดุมเม็ดบน หรือหากพูดให้ถูกก็คือเสื้อตัวนี้มีกระดุมแค่เพียงสองเม็ดตรงบริเวณทรวงอกเท่านั้น
ส่วนยกทรงนั้นก็เป็นสลิมฮาล์ฟบรา หรือยกทรงแบบครึ่งเต้าแบบเนื้อบาง จึงกลายเป็นอวดร่องนมอวบอิ่มของวัยสาวออกมาอย่างเต็มที่ อีกทั้งเมื่อเป็นยกทรงเนื้อบาง ก็ทำให้เห็นเม็ดจุกของหัวนมดันเสื้อนักศึกษาออกมาอวดเสน่ห์ด้วยอีกทาง
ส่วนกระโปรงสีดำนั้นคงไม่มีที่สั้นกว่านี้อีกแล้ว แต่เธอก็ยังสามารถใส่ลูกเล่นได้อีกเล็กน้อย ด้วยการผ่าข้างสูงจนเกือบเห็นขอบกางเกงในจีสตริงสีดำที่สวมใส่อยู่
ซึ่งความจริงแล้วการแต่งกายเช่นนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะสมัยนี้เด็กสาวมหาลัยสิบคน จะแต่งกายเช่นนี้ไม่ต่ำกว่าห้าคน ไอ้ประเภทใส่เสื้อผ้าปิดบังเนื้อตัวมิดชิดเหมือนเมื่อห้าสิบปีก่อนนั้นแทบจะไม่มีแล้ว
แต่ก็มีหนึ่งในสิบที่แต่งกายเปิดเผยเกินไปจนโดนวิจารณ์จากสังคม เพราะพวกเธอบางคนนั้นถึงขนาดไม่ใส่ยกทรงอวดสองเต้าให้เห็นกันเต็มที่ กระนั้นเรื่องความเหมาะสมนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ เนื่องจากมันเป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละตัวบุคคล และกลุ่มผู้ชายก็ไม่ได้ต่อต้านเรื่องนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม วันนี้หมิวกลับรู้สึกขัดใจเล็กน้อย เพราะความโดดเด่นของเธอนั้นดึงดูดสายตาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ได้อย่างชะงัด แต่ละคนล้วนแล้วแต่พากันจ้องมองเธอด้วยความหื่นกลัดมันแทบไม่ปิดบัง หากทว่าคู่ควงที่เธอตั้งใจมาอวดกลับไม่ได้แสดงท่าทีของชายกลัดมันอย่างที่ควรเป็นออกมา
“หมิวขอโทษเรื่องเมื่อคืนอีกครั้งนะ หมิวไปตามนัดแล้ว แต่รอตั้งนานแม็กก็ยังไม่ออกมา แล้วไอ้เจ้าชายบ้านั่นก็มายัดเยียดข้อหาให้อีก หมิวเลยต้องหนีเอาตัวรอดก่อน ไม่งั้นโดนจับได้ล่ะคงแย่”
หมิวรอจนกระทั่งสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย จึงหันไปขอโทษขอโพยแม็กอีกครั้ง เพราะเธอคิดว่าเขาอาจจะกำลังเคืองเธอเรื่องนี้อยู่ก็ได้ เธอเสียสาวให้เขาแล้วก็จริง แต่เพราะน้องสาวของเขาทำให้เขายังไม่ได้ปลดปล่อยสมใจ อีกทั้งเมื่อตั้งใจจะเข้าไปในเกมเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่คั่งค้าง เธอก็ยังสนองให้เขาไม่ได้ เพราะต้องหนีพวกทหารในวังเอาตัวรอดไปก่อน
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องขอโทษ เรื่องแค่นี้เอง”
แม็กส่ายหน้าและยิ้มให้ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกโกรธเธอเลยสักนิด ทั้งยังกลับกันเสียด้วยซ้ำ เพราะเขาอยากขอบคุณที่เธอทำให้เขาเข้าไปเล่นเกม และทำให้ได้เจอกับสองสาวเทพมารแสนสวยในเกมอย่างบังเอิญเหลือเชื่อ
การได้ปลดปล่อยอารมณ์หื่นในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมาทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมทางด้านจิตใจ ทั้งยังติดอกติดใจเรือนร่างสวยสมบูรณ์แบบของสาว ๆ ในเกม จนกลายเป็นไม่ให้ความรู้สึกสนใจต่อเรือนร่างของหมิวเท่าที่ควร
“แม็กเชื่อหมิวจริง ๆ นะ”
“อืม … เชื่อซิ หมิวไม่น่าจะมีนิสัยขโมยของอะไรแนวนั้นสักหน่อย ว่าแต่โดนไอ้เจ้าชายนั่นลูบ ๆ คลำ ๆ แค่นั้นจริง ๆ นะ”
“ค่ะ หมิวไม่ได้โกหกนะ ในเกมหมิวยังไม่เคยโดนใครทำอะไรสักหน่อย”
หมิวตอบด้วยรอยยิ้ม ขณะแอบไขว้นิ้วไว้ด้านหลังตามนิสัยติดตัวที่ทำทุกครั้งเมื่อเธอพูดโกหก ซึ่งความจริงเธอก็บอกตัวเองว่าเธอไม่ได้โกหก เพราะหากพูดกันในแง่เทคนิคแล้ว ต่อให้เธอเคยขึ้นเตียงกับเจ้าชายวิลเลี่ยมในเกม และโดนเขาซอยยิก แต่ว่าไอ้นั่นของเขาทั้งเล็กจิ๋วและอ่อนแอ เธอจึงแน่ใจได้ว่ามันคงไม่สามารถทะลวงม่านบริสุทธ์เข้าไปได้ ดังนั้นในแง่เทคนิคแล้ว เธอก็ยังบริสุทธิ์อยู่
“แล้วยังไงต่อ หมิวต้องหลบพวกทหารอีกนานแค่ไหน?”
“ตอนนี้เพื่อนสนิทชื่อเกตที่เป็นนักข่าวในเกมกำลังสืบเรื่องให้อยู่ แต่ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะหาหลักฐานมาแย้งได้สักแค่ไหน เพราะอีกฝ่ายเป็นเชื้อพระวงศ์ระดับสูง”
“อืม แสดงว่าจะยังไม่ได้เจอหมิวอีกล่ะซิ เพราะว่าอีกเดี๋ยวผมต้องกลับบ้าน พ่อกับแม่อยากทานข้าวมื้อดึกด้วยกัน”
“ถ้าแม็กอยากเจอ เราก็แค่นัดเจอกันในเกมอื่นก็ได้นะคะ หรือเชื่อมต่อแบบหนึ่งต่อหนึ่งเลยก็ได้ แบบนี้สามารถเลือกสถานที่ได้ด้วย จะทะเล น้ำตก หรือที่ไหนก็ได้”
หมิวพยายามเสนอทางออกเพื่อเอาใจแม็กอย่างเต็มที่ เพราะเธอเองก็พร้อมมีอะไรกับเขาอยู่แล้ว แค่เพียงครั้งแรกในค่ำคืนที่ผ่านมาก็ประทับตราตรึงใจจนเธออยากรับรสชาติแบบนั้นอีกครั้ง หากในเกม XO ไม่สะดวก เธอก็แค่ย้ายไปเกมอื่น หรือไม่ก็เชื่อมต่อกันโดยตรงเพื่อมีเพศสัมพันธ์แบบเสมือนอย่างที่คนทั่วไปนิยมกัน
สาวสวยเสนอตัวเต็มที่ แต่แม็กกลับเกิดอาการลังเล เพราะหากให้เลือกระหว่างหมิว และสองสาวโฟร์มด เขาคงขอเลือกอย่างหลัง ดังนั้นคืนนี้เขาจึงวางแผนเอาไว้แล้ว ว่าจะเข้าเกม XO และไปดูความคืบหน้าว่าจิตวิญญาณของสองสาวโฟร์มดจะเติบโตได้ขนาดไหนแล้ว รวมทั้งจะได้หาทางเร่งเก็บประสบการณ์เพื่อให้สองสาวเติบโตเร็วกว่าเดิมด้วย
“แบบนั้นก็ดีนะ … แต่ว่า … เอาแบบนี้ดีกว่า … ผมจะเข้าเกม XO ไปก่อน แล้วจะหาทางช่วยหมิวให้ได้ ถ้าวันไหนช่วยได้ ค่อยขอรับรางวัลหมิวตอนนั้นแทน โอเคมั้ย?”
นั่นคือความรู้สึกลังเลที่ทำให้แม็กหาทางบ่ายเบี่ยงสร้างคำพูดสวยหรู ซึ่งแน่ล่ะว่าไม่มีผู้หญิงคนใดที่ไม่ชอบให้ชายที่ตัวเองชอบทำตัวเป็นฮีโร่ หมิวจึงไม่รู้สึกถึงความลังเล หากทว่ายินดีที่เขาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษอย่างสูงเสียอีกต่างหาก
“แล้วแต่แม็กค่ะ … หมิวยังไงก็ได้”
สาวสวยยิ้มขวยเขินขณะเอื้อมมือไปบีบกระชับฝ่ามือของเขาเอาไว้ ซึ่งแน่ล่ะว่าเธอไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอจะเปราะบางหรือยั่งยืน แต่อย่างน้อยเธอก็ยอมรับว่ามอบใจให้ชายคนแรกคนนี้ไปแล้วมากกว่าครึ่ง และคงเจ็บไม่น้อย หากเขาจะเขี่ยเธอทิ้งอย่างที่ทำบ่อยครั้งกับคู่ควงก่อนหน้า
“อ้าว นั่นมันไอ้แม็กนี่หว่า … ว้าว วันนี้ควงน้องหมิวดาวมหาลัยคนสวยมาซะด้วย”
ขณะที่เธอกำลังส่งสายตาพลอดรัก กลับมีหนุ่มสาวนักศึกษาสองคู่เดินเข้ามาทักทาย หมิวรีบดึงมือตัวเองออกจากมือของเขาตามจริตเคยชิน และเมื่อหันไปมองก็พบว่าสองหนุ่มคือเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับแม็ก ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มหนุ่มฮอตเหมือนกัน เพียงแต่แม็กจะหล่อและรวยกว่า ส่วนนักศึกษาสาวอีกสองคนที่แต่งตัวเปรี้ยวกว่าหมิวเล็กน้อยนั้นเป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกันแต่เธอไม่รู้จักหน้าค่าตา
“เออ สวัสดีไอ้เพื่อนน่าตายทั้งสองคน … แล้วก็สวัสดีน้องเชอรี่ กับน้องปอนด์”
แม็กหันไปทักทายแบบเคือง ๆ เพราะเกรงว่าจะโดนเพื่อนสนิททั้งสองลากยาวจนเสียเวลาเข้าเกม ส่วนหมิวนั้นกลับแอบยิ้มเพราะเข้าใจว่าเขากำลังเคืองที่โดนขัดจังหวะส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็แอบตะหงิดเล็ก ๆ ที่เขารู้จักกับแม่สาวเปรี้ยวไม่ใส่ยกทรงทั้งสองคนนี้ด้วย
“อะไร อะไร อย่าพูดห่างเหินกันขนาดนั้นดิวะ ขอนั่งด้วยได้มั้ยเนี่ย”
ชายหนุ่มคนหนึ่งในนั้นส่งเสียงจุ๊ ๆ พูดกับแม็ก หากทว่าสายตากลับเอาแต่มองสำรวจดูหมิวจนตาลุกวาว ส่วนอีกคนนั้นก็ดูจะกำลังแสดงอาการหื่นออกมาแบบไม่ปิดบังเช่นกัน เพราะถึงแม้ว่าสองสาวโนบราจะสวยเด่นพอดู แต่เมื่อเทียบกับหมิว ก็เหมือนเทียบแม่ไก่กับพญาหงส์อยู่ดี
“ไม่สะดวกว่ะ เกะกะคนกำลังสวีทกัน พวกแกไปหาที่นั่งที่อื่นเลยไป เดี๋ยวกำลังจะกลับบ้านแล้ว”
แม็กพูดจาปฏิเสธด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น ซึ่งความจริงแล้วพวกเขาสนิทกันมากพอที่จะมองว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา แต่หมิวยังไม่คุ้นชินกับการกระทำเช่นนี้จึงแอบยินดีกว่าเดิม ที่เขาให้ความสำคัญกับเธอมากกว่าเพื่อนชายทั้งสองและแม่สาวโนบราคู่นั้น
ในเมื่อสองหนุ่มมองว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา จึงไม่สนใจคำปฏิเสธของแม็ก ทั้งยังถือวิสาสะลากเก้าอี้มานั่งด้วยกันโดยไม่ถามไถ่ โต๊ะขนาดนั่งสี่คนจึงแน่นไปด้วยคนถึงหกคน แต่หมิวก็ยังแอบดีใจที่เธอนั่งคู่อยู่กับแม็กเช่นเดิม
ตอนนี้สามสาวกลายเป็นนั่งเงียบ คอยฟังบทสนทนาของสามหนุ่มแทน ในขณะที่หมิวรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาจากทั้งสองหนุ่มและสองสาว สองหนุ่มนั้นพยายามมองเธอราวกับจะจับไปกลืนกิน ในขณะที่สองสาวนั้นมองดูเธอราวกับว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมาก่อน
แล้วหมิวก็เข้าใจว่าเหตุใดเธอจึงถูกมองเป็นศัตรู เพราะจากบทสนทนานั้นทำให้ทราบว่าสองสาวเคยเป็นคู่ควงของแม็กมาก่อน และแน่นอนว่าพวกเธอถูกเขี่ยทิ้งหลังจากเขาเบื่อหน่าย จึงไม่แปลกเลยที่พวกเธอจะมองหมิวด้วยสายตาอิจฉาตาร้อนเช่นนั้น
“ว่าแต่คราวนี้พี่แม็กตั้งใจจะควงสักกี่วันคะ หนึ่งสัปดาห์ หรือสิบวัน? สถิติสูงสุดของพี่แม็ก เหมือนจะสิบสี่วันใช่มั้ยคะ? เล็งหาคนใหม่ไว้หรือยัง?”
หนึ่งในสองสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชันแกมอิจฉา หากทว่าไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า เพราะกำลังหันไปเอาอกเอาใจคู่ควงคนปัจจุบันของตนเอง
คำถามนั้นทำให้หมิวสะอึกอยู่บ้าง เพราะต่อให้แอบทำใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังแอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะไม่เขี่ยเธอทิ้งเหมือนสาว ๆ คนอื่น เมื่อโดนถามแบบตรงไปตรงมาเช่นนี้ เธอจึงทั้งรู้สึกโกรธคนถาม ทั้งยังเกิดความสงสัยอยากรู้ว่าแม็กจะตอบอย่างไร
“ไม่หาแล้ว ตอนนี้มีคนพิเศษแล้ว”
แม็กตอบเล่นลิ้นตามประสาหนุ่มนักรัก ซึ่งเขาก็ไม่ได้โกหกเสียทีเดียว เพราะเขาหมายถึงสองสาวโฟร์มดในเกมที่เขากำลังติดใจนั่นเอง ส่วนหมิวนั้นเขาก็มองว่าเธอสวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยคบด้วยในโลกแห่งความเป็นจริง เพียงแต่ในอีกแง่หนึ่งนั้นเขาก็เล่นคำพูดเพื่อเอาใจหมิวไปด้วยอีกทาง
หมิวก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มักจะคิดเข้าข้างตัวเอง เธอจึงหน้าแดงซ่านขึ้นมาเพราะคิดว่าเขายกให้เธอเป็นคนพิเศษ ด้วยความที่เป็นคนหน้าบางสักหน่อย เธอจึงเกิดอาการเขินรีบขอตัวลุกขึ้นจากโต๊ะ อ้างว่าจะเดินไปตักอาหาร ด้านสองสาวที่เพิ่งมาร่วมโต๊ะแม้จะขุ่นข้องใจแต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ พวกเธอจึงลุกขึ้นไปจัดการตักอาหารเช่นกัน บนโต๊ะจึงเหลือแต่เพียงสามหนุ่มนักรัก
“ไอ้แม็ก เป็นไงบ้างวะ ได้ข่าวว่าแกเพิ่งจีบน้องหมิวเมื่อวาน ถึงไหนแล้วได้จูบบ้างยัง ข้าก็เคยลองจีบ แต่หวงเนื้อหวงตัวชิบเลยว่ะ ชวนไปไหนก็ไม่ยอมไปคนเดียว แถมห้ามแตะตัวอีก ตามจีบได้สองสัปดาห์ข้าก็ทนไม่ไหวว่ะ อยู่ใกล้สาวสวยน่าฟันขนาดนั้นแต่ไม่ได้ฟัน”
“เออ ข้าเคยจีบ แต่แห้วเหมือนกันว่ะ ไม่รู้จะหวงตัวไปไหน แต่เอ็งก็ร้ายนะเนี่ย เริ่มจีบเมื่อวาน แล้ววันนี้นัดมาเที่ยวกันสองคนได้แบบนี้”
เมื่อเจ้าตัวไม่อยู่ เพื่อนร่วมแก๊งหื่นของแม็กก็รีบถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น เพราะว่าทั้งคู่ก็เหมือนกับหนุ่ม ๆ คนอื่นในมหาลัยที่เคยแห้วจากดาวมหาลัยสุดเอ็กซ์คนนี้กันมาแล้วทั้งสิ้น
คำถามของสองเกลอทำให้แม็กลืมเรื่องสองสาวโฟร์มดไปชั่วคราว แล้วหันมาหัวเราะด้วยความรู้สึกของผู้ชนะ เพราะว่าดาวมหาลัยแสนสวยจอมหยิ่งคนนี้โดนเขาจัดการเรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่ลงมือจีบแล้ว
“เฮ้ย ๆ อย่ามากลบเกลื่อนทำเป็นหัวเราะเว้ย แค่ชวนน้องเค้ามากินข้าวได้แค่นี้ อย่าทำเป็นเหนือเว้ยเฮ้ย”
“หึ หึ ก็ต้องหัวเราะซิวะ เพราะพวกเอ็งมันไร้น้ำยา ข้าลงมือจีบหมิวเมื่อวานตอนเย็น พอตอนกลางคืนน้องหมิวก็หลงเสน่ห์ตามไปที่ห้อง แล้วก็โดนข้าเจาะไข่แดงจนขาถ่างเรียบร้อยแล้วว่ะ”
แม็กส่งเสียงหัวเราะอีกครั้ง แล้วพูดจาด้วยน้ำเสียงอวดโอ่ เพื่อนทั้งสองจึงพากันปากอ้าตาค้างแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะไม่นึกว่าน้องหมิวจอมหยิ่งจะง่ายขนาดนั้น
“เฮ้ย ๆ ไอ้แม็กเอ็งอย่ามามั่ว โม้เกินไปแล้วโว้ย น้องหมิวเค้าไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะโว้ย จีบแวบเดียวถึงจะได้ฟัน แล้วสมัยนี้สาวสวยขนาดหมิวจะยังซิงอีกเรอะ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว”
“ไม่อยากเชื่อก็อย่าเชื่อเว้ย แต่น้องหมิวยังซิงจริง ๆ ข้านี่ผู้ชายคนแรกของเธอเลยว่ะ พวกแกเอ๊ย จะบอกให้นะ นมน้องหมิวนี่ทั้งใหญ่ทั้งเนื้อแน่นเด้งสู้มือสุด ๆ ตรงนั้นก็เอาโคตรมันส์ ตอดแต่ละทีนี่น้ำแทบแตก น้องเชอรี่กับน้องปอนด์ที่พวกมึงควงนี่เทียบไม่ติดฝุ่นเลยว่ะ”
แม็กได้โอกาสจึงรีบเกทับไปอีกรอบ ซึ่งความจริงคำพูดของเขาแม้จะฟังดูเหมือนเกินจริงไปบ้าง เพราะแม็กยังรู้สึกประทับใจโฟร์มดมากกว่า เพียงแต่หากไม่นับสองสาวในเกมแล้ว แม็กก็ยังพบว่าหมิวเป็นผู้หญิงที่เขาอยากมีเซ็กส์ด้วยมากที่สุดคนหนึ่ง
คำอวดโอ่นั้นทำให้สองหนุ่มหันไปมองหน้ากันทำท่าเหมือนไม่อยากเชื่อ แต่ต่างก็ทราบว่าแม็กไม่ได้มีนิสัยชอบพูดปด จึงเริ่มเอนเอียงไปทางเชื่อเสียมากกว่าไม่เชื่อ ยิ่งพอนึกประกอบไปว่าหมิวจะร้อนร่านเอร็ดอร่อยขนาดไหนเมื่ออยู่บนเตียงสองหนุ่มก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมา กระนั้นจะให้ยอมรับเฉย ๆ ก็ดูจะเป็นการเสียหน้าอยู่สักหน่อย จึงยังพากันปากแข็งไม่ยอมรับว่านี่คือความจริง
“ไม่เชื่อว่ะ ไหนวะหลักฐาน”
“อืม … เมื่อคืนลืมถ่ายคลิปไว้ซะด้วยซิ”
“นั่นไง เจ้าพ่อคลิปอย่างเอ็งนี่นะจะลืมถ่าย โกหกแหงเลยเว้ยเฮ้ย”
“เฮ้ย ไม่ได้โกหกนะเว้ย เมื่อคืนสนุกจนลืมตั้งกล้องต่างหาก”
”เชื่อก็บ้าแล้วเว้ย ไม่มีหลักฐาน ก็ถือว่าโกหก”
“… อยากได้หลักฐานใช่มั้ยวะ เออ ได้ ๆ เดี๋ยวให้ดูหนังสดเลยก็ได้”
สามหนุ่มถกเถียงกันอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะไม่มีหลักฐานยืนยัน ด้านแม็กนั้นเพราะเมื่อคืนเขาโดนน้องสาวโผล่มาขัดจังหวะเสียก่อน จึงไม่ได้สานต่อเกมกาม ทั้งไม่ได้จัดการตั้งกล้องบันทึกภาพไว้อย่างที่เคยทำ ดังนั้นจึงไม่มีหลักฐาน กระนั้นด้วยความอยากเอาชนะเขาจึงนึกไอเดียอะไรบางอย่างออกมาได้
“ดูอะไรวะ?”
หนึ่งในสามหนุ่มถามด้วยความสงสัยขณะที่แม็กหันไปล้วงหยิบเอากล่องเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าสะพายหลัง เขาหยิบเอากล่องที่มีคอนแท็คเลนส์ขึ้นมากล่องหนึ่ง แล้วบอกให้เพื่อนทั้งสองรีบใส่คอนแท็คเลนส์ที่ตาข้างหนึ่ง จากนั้นก็รีบหยิบเอากล้องบันทึกภาพสอดมุดผ้าปูโต๊ะเข้าไปด้านล่าง แล้วกดแปะติดยึดเกาะอยู่ใต้พื้นโต๊ะ
สองหนุ่มเหมือนจะรู้แล้วว่าแม็กจะทำอะไร จึงรีบหยิบเอาคอนแท็คเลนส์มาสวมใส่ และเมื่อแม็คจัดมุมกล้องเรียบร้อย ภาพความละเอียดสูงใต้โต๊ะก็ถูกส่งมาให้เห็นผ่านคอนแท็คเลนส์อย่างชัดเจน ซึ่งตำแหน่งที่กล้องส่องอยู่นั้น ก็คือตำแหน่งที่นั่งของหมิวซึ่งนั่งอยู่ข้างแม็ก … นี่แหละพลังแห่งเทคโนโลยี
ไม่นานนักหมิวก็กลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมกับขนมสีสวย สองหนุ่มหื่นที่รอคอยด้วยใจเต้นระทึกจึงพากันเพ่งดูภาพที่ปรากฎในดวงตาของตัวเองด้วยความตื่นเต้นจนแทบลืมหายใจ และไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าสองสาวคู่ควงในวันนี้ได้กลับมานั่งที่ตามเดิมแล้ว เพราะกำลังถลึงตามองดูท่อนขาขาวเนียนและกางเกงในจีสตริงสีดำของหมิวที่ฉายเด่นให้เห็นจนเต็มตาก่อนที่เธอจะหนีบสองขาเข้าหากันนั่งในท่วงท่าเรียบร้อยภายในเวลาอันรวดเร็ว
สามสาวคล้ายรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่างจากสามหนุ่ม กระนั้นก็อธิบายไม่ได้ว่ารอยยิ้มแปลกประหลาดและสายตาที่แอบส่งสัญญาณลับกันไปมานั้นหมายความว่าอย่างไร จึงไม่มีใครรู้ว่าเวลานี้มีกล้องอยู่ใต้โต๊ะและสามหนุ่มหื่นกำลังแอบมองความขาวของหมิวกันตาเป็นมัน
“อะแฮ่ม ไอ้แม็ก จะกินก็รีบกินซักทีซิวะ เอาแต่นั่งมองอยู่ได้”
หนึ่งหนุ่มอดใจรอไม่ไหวจนต้องพูดโพล่งออกมา เพราะตอนนี้เห็นเพียงท่านั่งอันเรียบร้อยสมกับเป็นกุลสตรีของหมิว แต่ก็ยังดีไม่ได้พูดความหมายออกมาโดยตรง เพียงจงใจพูดอ้อมค้อมสื่อความหมายโดยนัย สามสาวที่ไม่รู้เรื่องจึงพากันมองด้วยความงุนงงว่าทำไมต้องเร่งให้แม็กกินอาหารด้วย
“จะรีบร้อนทำไมวะ จะกินก็ค่อย ๆ กินให้มันอร่อย ของกินมันก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว”
แม็กเองก็ยิ้มกริ่มแล้วพูดตอบเป็นนัยด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็ใช่ว่าจะรอคอยให้เสียเวลาต่อไป เพราะกำลังนึกสนุกอยากอวดความเป็นเจ้าของสาวสวย ทั้งยังอยากปั่นอารมณ์เพื่อนเกลอทั้งสองคนให้ปั่นป่วนเล่นไปด้วยอีกทาง เขาจึงเริ่มล้วงมือลอดใต้โต๊ะสอดผ่านผ้าปูลงไปวางแหมะบนขาอ่อนของหมิวอย่างเงียบเชียบ
หมิวสะดุ้งเบา ๆ ตามปฏิกิริยาของสาวรักนวลสงวนตัว เธอไม่ทราบว่าเหตุใดอยู่ดี ๆ แม็กจึงเริ่มลงมือแอบลวนลามเธอเช่นนี้ แต่เนื่องจากจะอย่างไรก็ตกเป็นของเขาไปแล้ว ทั้งยังรู้สึกดีเมื่อเขาแสดงท่าทีหื่นกับเธอแทนที่จะเฉย ๆ เช่นก่อนหน้า หมิวจึงไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านแต่อย่างใด นอกจากแอบชายตามองค้อนเพียงหนึ่งครั้ง
ภาพมือที่กำลังแปะป่ายลูบไล้ไปตามขาอ่อนทำให้สองหนุ่มแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ภาพความละเอียดสูงจากคอนแท็คเลนส์ราคาแพงกำลังทำให้เป้ากางเกงตุงโด่ขึ้นมา เพราะนั่นคือท่อนขาของแม่สาวดาวเด่นประจำมหาลัยที่ใครก็อยากฟันสักครั้งให้สมกับที่ได้เกิดเป็นผู้ชาย
“อะ …”
หมิวส่งเสียงครางแผ่วเบาในลำคอขณะนั่งตัวเกร็งขนลุกซู่ เพราะฝ่ามือหยาบกร้านของเขากำลังกระตุ้นอารมณ์จนรู้สึกพลุ่งพล่าน โดยเฉพาะเมื่อเขาจงใจลากมือเฉียดใกล้เข้าไปที่โคนขาหนีบจนเสียดสีกับขอบกางเกงใน
สาวสวยประสบการณ์น้อยวางช้อนส้อมในมือลงแล้วเอนหลังพิงกับเก้าอี้พยายามสูดลมหายใจเพื่อผ่อนคลาย เพราะหากฝืนพยายามกินต่อไป สองมือที่เริ่มสั่นเทาอาจจะเริ่มแสดงอาการพิรุธอะไรบางอย่างออกมา แต่อย่างน้อยเธอก็ยังรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ที่เวลานี้ไม่มีใครหันหน้ามองมาทางเธอมากนัก
หมิวขบเม้มริมฝีปากเข้าหากัน พยายามปิดกลั้นเสียงครางที่อยากระบายออกมา เธอล้วงมือขวาลงไปจับข้อมือของเขาไว้ด้วยอยากห้ามปราม หากทว่ากิริยาปัดป้องที่ไม่มั่นคงแน่วแน่นั้นย่อมไม่อาจหยุดยั้งมือมารของแม็กได้ แทนที่เขาจะถอยร่น จึงยิ่งบุกประชิดขึ้นไปตะปบกับเนินเสียวอวบอูมเข้าเสียแล้ว
หมิวสะดุ้งโหยงเผลอร้องครางออกมาแผ่วเบา แต่ยังดีที่บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวนั้นมีเสียงสนทนาอยู่เป็นระยะ รวมถึงมีเสียงดนตรีในร้านแว่วอยู่เป็นระยะจึงยังไม่มีใครได้ยินนอกจากตัวเธอเอง และเจ้าของมือมารที่ยังคงล้วงขยำไม่ได้หยุด
สองหนุ่มที่แสร้งเป็นสนทนากับคู่ควงตนเองย่อมไม่ได้ยินเสียงของหมิวเช่นกัน เพราะต้องแบ่งสมาธิแกล้งมองไปทางอื่นไม่ให้หมิวตื่นตัว แต่แม้จะไม่ได้ยินเสียง ก็ยังได้เห็นภาพสองขาที่พยายามหุบหนีบฝ่ามือของแม็กไว้อย่างชัดเจนจนแข็งปั๋งไปทั่วทั้งลำแล้ว
“ถ่างขาออกหน่อยนะครับที่รัก”
ขณะที่หมิวไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรดีนั้น แม็กกลับโน้มหน้าเข้ามากระซิบเสียงแผ่วเบาจนเธอใจอ่อน แม้จะไม่สบายใจนักที่จะกระทำแบบนี้ในที่สาธารณะ แต่เมื่ออีกฝ่ายพูดขอเสียงหวานเช่นนี้ เธอก็ยินดียกให้ สองขาที่พยายามหนีบเข้าหากันจึงเริ่มถ่างอ้าออกทีละน้อยจนสามหนุ่มมองเห็นรายละเอียดของกางเกงในจีสตริงผ่านกล้องได้เต็มตา
สองหนุ่มแอบเป่าปากแล้วกลืนน้ำลายด้วยความกลัดมันลุ้นระทึก แม็กเองก็รู้จักเวลาไม่รีบล้วงมือไปปิดภาพอันสวยงาม ปล่อยให้เพื่อนสองคนมองดูกางเกงในของหมิวให้อิ่มหนำ ในขณะที่เขาเน้นลูบมือไปตามท่อนขาขาวเพรียวและยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นมาพาดบนขาของเขาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของหมิวไปพลาง
“อืมมมมม …”
หมิวผ่อนลมหายใจยาวหนักหน่วงเมื่อเขาเริ่มเปิดฉากลูบมือไปตะปบลงบนเนินเสียว พริบตานั้นดวงตาของเธอเริ่มหรี่ปรือ ใบหน้าแดงซ่าน ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากัน สลับกับแลบลิ้นออกมาเลียรอบปากเพื่อระบายความกระสัน เลือดสาวในกายกำลังสูบฉีดอย่างรุนแรงจนร่างกายเริ่มร้อนขึ้นและร้อนขึ้น
แม้จะสัมผัสจากภายนอกกางเกงใน แต่ลีลาอันพริ้วไหวช่ำชองของแม็กก็ทำให้ร่องรักนั้นเปียกชุ่มฉ่ำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
ขณะที่ฝ่ามือของแม็กลากออกไปลูบไล้ส่วนอื่น สองหนุ่มก็มองเห็นได้ถึงความเปียกชื้นของกางเกงในสีดำ พวกเขาจึงรู้สึกได้เช่นกันว่ากางเกงของตัวเองก็เริ่มเปียกเล็กน้อย เพราะน้ำหล่อลื่นแห่งความเงี่ยนกำลังไหลเอ่อออกมา
หมิวพยายามระบายความเสียวตามสัญชาตญาณ มือข้างที่เกาะกุมข้อมือของเขา เปลี่ยนเป็นคว้าหมับลงไปบนเป้ากางเกงซึ่งกำลังแข็งตัวโด่เด่ของเขาแล้วบีบขยำแผ่วเบาจนแม็กสะดุ้งน้อย ๆ เช่นกัน
สองหนุ่มที่ได้แต่แอบมองเริ่มอดรนทนไม่ไหว พวกเขาหันไปกระทำแบบเดียวกันกับคู่ควงของวันนี้ ล้วงมือข้างหนึ่งลงไปลูบคลำขาอ่อนของพวกเธอ พร้อมกับคว้ามือของพวกเธอมาวางบนเป้ากางเกงของตัวเองเช่นเดียวกับที่แม็กทำกับหมิว แต่ที่แตกต่างก็คือสองหนุ่มกำลังจินตนาการว่าคู่ควงของพวกเขาในเวลานี้คือสาวสวยเสน่ห์แรงอย่างหมิวนั่นเอง
สองสาวที่มาด้วยกันนั้นแม้จะแปลกใจเล็ก ๆ กับท่าทีหื่นกามอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของเพื่อนชาย แต่จะอย่างไรพวกเธอก็ชื่นชอบเซ็กส์แบบตื่นเต้นกันอยู่แล้ว จึงปล่อยให้เขาลูบคลำตามสบาย ทั้งยังช่วยเพิ่มความเร้าใจด้วยการขยำนวดความเป็นชายที่พองตัวอยู่ในมือไปด้วยพร้อมกัน
นี่จึงกลายเป็นว่าหนุ่มสาววัยรุ่นสามคู่กำลังแอบเล่นเสียวกันในร้านอาหารที่มีคนพลุกพล่าน เพียงแต่ทุกคนต่างพยายามเก็บสีหน้าและความเสียวกันได้ดีในระดับหนึ่ง ทั้งยังไม่มีเวลามองสนใจท่าทางของคนอื่น จึงยังไม่มีใครทันสังเกตว่าทุกคนก็กำลังทำแบบเดียวกันอยู่
“พอก่อนนะคะแม็ก หมิวจะไม่ไหวแล้ว”
จะอย่างไรหมิวก็เป็นคนเดียวที่อ่อนด้อยประสบการณ์ที่สุด ยิ่งต้องมาเจอกับหนุ่มลีลาร้อนอย่างแม็กเข้าก็ยิ่งทนทานรับไว้ไม่ไหว เธอรู้สึกได้ถึงคลื่นความสุขเสียวที่แผ่ซ่านไปทั่วกาย ทั้งยังรับรู้ได้ว่าหากปล่อยให้เขาทำต่อไป เธอคงไม่อาจควบคุมร่างกายจนเผลอแสดงปฏิกิริยาบางอย่างออกมาอย่างแน่นอน เธอจึงโน้มเอียงศีรษะไปกระซิบร้องขอความปราณีจากเขา
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ผ่อนคลาย … ยกก้นนิดนึงด้วย ผมจะถอดกางเกงในหน่อย”
แม็กย่อมไม่มอบความเมตตาให้อย่างที่เธอหวัง ทั้งยังบอกให้เธอร่วมมือกับเขาด้วยเสียอีก และไม่ทราบว่าเพราะต้องการให้เขากระทำต่อหรืออย่างไร สะโพกผึ่งผายจึงยกขึ้นเล็กน้อย เปิดทางให้เขาล้วงมือเกี่ยวเอากางเกงในหลุดออกจากการเป็นปราการด่านสุดท้ายได้อย่างสะดวกง่ายดาย
ขณะที่หมิวกำลังใจหายวาบนั้น ความเป็นชายของสองหนุ่มก็กระตุกแรง ๆ ด้วยความงุ่นง่าน เพราะภาพร่องสวรรค์อันสวยงามของดาวมหาลัยคนนี้กำลังปรากฎให้พวกเขาเห็นอย่างเต็มตา แต่สองสาวที่กำลังขยำคลำอยู่กลับเข้าใจว่านี่เป็นเพราะฝีมือของพวกเธอจึงพากันส่งเสียงหัวเราะคิกคักเพื่อกลบเสียงครางของตัวเองเสียยกใหญ่
“อะ … อืมมม … อือออ … อะ … อืออ … อื๊อออ … อื้มมมม”
หมิวยิ่งมาก็ยิ่งสะกดเสียงครางของตัวเองไว้ไม่อยู่ เพราะเวลานี้นิ้วข้างหนึ่งของเขากำลังชอนไชเข้าไปรูดเข้ารูดออกเรียกน้ำรักไหลหลั่งออกมาจนกระโปรงนักศึกษาเปียกชุ่ม เธอพยายามแล้วที่จะสะกดความเคลื่อนไหวของร่างกาย หากทว่าคลื่นแห่งความเสียวที่รุนแรงนั้นก็สุดที่กลั้นรับไว้ได้ไหว
ร่างงามเริ่มเกิดอาการสั่นสะท้านไปตามจังหวะการเคลื่อนไหวของนิ้ว มือข้างหนึ่งของเธอคว้าตะปบเป้ากางเกงของเขาแล้วบีบขยำด้วยกิริยาร้อนร่าน ในขณะที่มืออีกข้างนั้นจิกกำลงไปบนเบาะนั่งหนานุ่มของเก้าอี้หนังสีสวย
หมิวรู้สึกร้อนลวกไปทั่วร่าง อยากให้เขาบีบสัมผัสขยำขยี้ อยากให้เขาบีบตะปบทรวงอกคู่นี้ให้เหลวแหลก อยากให้เขาสอดใส่ความอวบใหญ่ของเขาเข้ามาแล้วกระแทกให้เธอฉีกยับเยิน หากทว่าในสภาวการณ์เช่นนี้ย่อมทำไม่ได้ นี่จึงกลายเป็นความเสียวที่ตื่นเต้นลุ้นระทึกสุดชีวิตอย่างที่เธอไม่เคยคาดฝันมาก่อน
“อ๊อยยย … แม็ก … โอยยย … โอววว … แม็ก … แม็ก … แม็ก …”
สุดท้ายหมิวก็มิอาจต้านทานคลื่นแห่งความเสียวได้ไหว เธอพยายามร่ำร้องเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาที่สุด หากทว่านั่นกลับไม่ง่ายดายเลย เพราะอารมณ์ของเธอกำลังคลุ้มคลั่งจนแทบไม่อยากสนใจสิ่งใดทั้งนั้น และก่อนที่เธอจะสติหลุดลอย เธอจึงตัดสินใจโผร่างเข้าไปหาพร้อมกับเผยอปากประกบจูบแลกลิ้นกับเขา ในขณะที่ร่างงามกำลังสั่นสะท้านกระตุกเกร็งถี่ยิบเพราะถึงจุดสุดยอดคานิ้วมือมาร
การกระทำเช่นนี้พอจะทำให้ปิดบังเสียงครางแห่งความสุขเสียวของเธอได้บ้าง แต่ก็ทำให้คนอื่นมองเห็นเขาและเธอจูบปากกันได้อย่างชัดเจน กระนั้นนี่ก็เป็นเพียงเรื่องปกติในยุคนี้ไปเสียแล้วที่คู่รักจะจูบปากกันในที่สาธารณะ ทุกคนที่มองเห็นจึงเพียงมองด้วยความอิจฉาแวบหนึ่ง และไม่ได้คิดเชื่อมโยงไปว่าคู่รักคู่นี้กำลังกระทำเรื่องราวที่มากกว่านั้นหลายเท่า
อย่างไรก็ยังมีอีกสองหนุ่มที่มองเห็นภาพเบื้องหลัง การได้เห็นภาพร่องรักหลั่งทะลักน้ำแห่งความสุข และขมิบตอดรัดนิ้วมือของแม็กอย่างเต็มตา รวมถึงการโดนกระตุ้นจากคู่ควงนั้นทำให้อารมณ์ของทั้งคู่พุ่งกระฉูดจนสุดทางเช่นกัน พวกเขาทั้งสองจึงพากันนั่งตัวเกร็งเก็บเสียงขณะปลดปล่อยน้ำกามออกมาเลอะเต็มกางเกงใน
หมิวถอนจูบออกแล้วเอนหลังลงไปนอนพิงอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดทั้งสิ้นว่ามีใครแอบดูอยู่ เธอรู้เพียงว่าเธอกำลังหลงรักเขามากขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังยิ่งติดใจกับสัมผัสแห่งรักที่เขามอบให้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่า เวลานี้เธอจึงยิ่งรู้สึกเสียดายมากกว่าเดิม ที่จะไม่ได้ใช้เวลาในค่ำคืนนี้พลอดรักกับเขา
หลังจากพายุแห่งความใคร่ได้พัดผ่านไปโดยที่ทุกคนยังคงงุนงงกับมัน แม็กก็แอบเก็บกล้องเข้ากระเป๋าอย่างเงียบเชียบไม่มีใครรู้ตัว จากนั้นก็นั่งรับประทานอาหารต่อไปอีกช่วงหนึ่ง เพราะอยากให้หมิวได้พักเหนื่อยไปในตัว
บทสนทนาต่อจากนี้ส่วนใหญ่กลับเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกม XO เสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะทุกคนต่างก็เล่นเกมนี้ด้วยกันทั้งสิ้น สองหนุ่มยังรู้สึกแปลกใจด้วยซ้ำที่แม็กเข้าไปเล่นเกมด้วย พวกเขาจึงเสนอตัวว่าจะช่วยเก็บเลเวลให้เพราะเล่นมานานจนเลเวลสูงพอสมควร
แม็กย่อมรับปากเพราะต้องการคนช่วยเก็บเลเวลเพื่อเร่งเวลาฟื้นของสองสาวโฟร์มดอยู่แล้ว แต่เขาย่อมไม่คิดบอกความลับเรื่องนี้ออกไปก่อน
หมิวบอกข่าวเรื่องที่ตนเองโดนประกาศจับ แต่หนุ่มสาวอีกสองคู่ยังไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ได้อยู่ในเมืองเริ่มต้น สองหนุ่มจึงออกปากอาสาว่าจะช่วยเธอในเรื่องนี้ ในขณะที่อีกสองสาวนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจนักที่ทุกคนสนใจหมิวกันหมดจึงพากันเชื่อว่าหมิวอาจจะขโมยของในวังออกมาจริง ๆ ก็ได้
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไป แม็กไปส่งหมิวที่หอพัก โดยที่หมิวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าอยากให้เขาอยู่ต่อกับเธอ แต่ว่าน้องสาวของแม็กก็โทรมาตามให้ไปทานข้าวกับพ่อแม่ตามนัดพอดี หมิวจึงได้แต่สะกดเก็บความต้องการของตัวเองเอาไว้ และปล่อยให้แม็กกลับไปทำหน้าที่ของลูกที่ดีแทน
แม็กย่อมไม่มีอะไรติดใจมากนัก เขาอาจจะอยากระบายอารมณ์ใคร่ใส่หมิวอยู่บ้าง แต่พ่อแม่ก็ย่อมมาก่อน ดังนั้นจึงได้แต่จากไปตามหน้าที่ แต่ที่หมิวเสนอให้เจอกันด้วยการเชื่อมโยงตรงนั้น เขาหักใจปฏิเสธไปด้วยเหตุผลเท่ห์ ๆ เช่นที่บอกไว้ก่อนหน้า แต่แท้จริงแล้วเพราะอยากเจอสองสาวในเกมมากกว่า
เขาวางแผนเอาไว้แล้ว ว่าจะรีบเก็บประสบการณ์ หรือไม่ก็หาแหล่งธาตุแสงและธาตุมืดเพื่อให้สองสาวโคนมสุดสวยได้ซึมซับพลังงานกลายเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาให้เร็วที่สุด … กระนั้นเขาเองก็คงจะคาดไม่ถึงว่า หนทางที่จะเร่งเวลาการตื่นของสองสาวเทพมารนั้นกลับยากลำบากกว่าที่เขาคาดคิดไว้หลายเท่านัก
……………………………….