ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 93

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 93

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 93 “Angels Eye!?”

       …ตามตำนานที่เล่าขานตั้งแต่อดีตเมื่อนานแสนนานมาแล้วปรากฏนามของเทพบดี 2 องค์ที่เป็นปรปักษ์ต่อกันเพียงเพราะต่างถือตนว่าเป็นเลิศกว่าอีกฝ่าย…
(“หญ้าแพรกอย่างพวกเราจะแหลกลาญกันหมด”
“องค์อชินีสุราลัยและองค์ราชหงส์สุรัมภาสู้กันมาเกือบห้าปีสวรรค์(เก้าหมื่นปีมนุษย์)แล้วยังไม่หยุด…เสียง…เสียงร้องดังเหลือเกิน”
“เสียงคำรามขององค์อชินีสุราลัยช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก…สัตว์ป่าน้อยใหญ่แตกตื่นพากันหนีเอาตัวรอดหมดแล้ว”
“ทาง…ทางนี้ก็เสียงร้องขององค์ราชหงส์สุรัมภา…น่าพรั่นพรึงไม่แพ้กัน…ปานแผ่นฟ้าจะถล่มลงมาเลย”
“ตรงนั้น!!”
“!?”
“พยัคฆ์ที่มีร่างสีทอง”
“แล้วก็…”
“หงส์ที่มีกายสีเงิน”
“หยุดสู้กันแล้ว”
“หมดแรงบินแล้วหรือยังไงถึงลงมา?”…พญาหงส์”
“…ข้าเบื่อ
หน่าย”
“หา?”
“เบื่อหน่ายที่จะสู้กับเจ้าแล้ว…นางพยัคฆ์…ตลอดเวลาห้าปีทั้งเจ้าแลข้าหาได้ถูกพระเวทย์ของอีกฝ่ายโจมตีไม่…เปล่าประโยชน์”
“แต่ข้าไม่เบื่อและไม่รู้สึกว่าเปล่าประโยชน์”
“เจ้าหมดแรงแล้ว…อชินีสุราลัย”
“ฮึ!!…เจ้าก็เหมือนกัน…ราชหงส์สุรัมภา”
“ข้าจะมิสู้กับเจ้าอีกต่อไป”
“อะไรนะ?”
“ข้าต้องการเข้าสู่การนิทรา”
“อย่างนั้นเจ้าจงยอมรับว่าข้าเหนือกว่าแล้วข้าจะยอมหยุดเพียงเท่านี้”
“ย่อมได้…ข้ายอมรับ…พอใจหรือยัง?”
“ไม่!!!”
“หยุดเถิด…ข้ายอมรับแล้วว่าเจ้าเหนือกว่าแลยังจะต้องการอะไรอีก?”
“เพราะเจ้าไม่มีความจริงใจ”
“สุดแท้แต่จะคิดเถิด”
“เจ้า…กลายร่างเป็นเทพบดีทำไม?…อั๊ก!!…นี่…นี่มัน?”
“……………………………………………”
“ราชหงส์สุรัมภา…ที่แท้เจ้ายังเหลือพระเวทย์มากขนาดนี้เชียวหรือ?…ปล่อย…ปล่อยข้านะ!!!”
“ทว่าพระเวทย์ของเจ้าหมดไปแล้ว…ขัดขืนมิได้ดอก…อชินีสุราลัยเอ๋ย~~”
“กรอด!!…หลอกลวง!!!…เสแสร้งยอมรับว่าข้าเหนือกว่ารึ?…โกหกทั้งเพ!!!!”
“หุบปาก…ข้าจะนอน”
“นั่นเจ้า!!…เจ้าคายพระเวทย์ทำไมกัน?…หรือว่า…เจ้าคิดจะสูญสลายไป!?”
“ถูกต้อง”
“ขลาดเขลา!!!…คิดว่านอนหลับแล้วจะหลีกหนีได้เหรอ?…ข้าจะปลุกให้เจ้าตื่นขึ้นมาสู้กันอีกจนกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ”
“เช่นนั้นเจ้าจงไปท้าประลองกับหัสดินเทวนาถเถิด”
“ว่าไงนะ?”
“หากเจ้ามีชัยเหนือพญาคชสารผู้นั้นได้ก็หมายความว่าเจ้าสามารถสยบพญาหงส์ผู้นี้ได้เช่นกัน”
“ข้าไม่สนใครอื่น…เจ้าเท่านั้นที่ข้าถือเป็นคู่ต่อกร”
“ช่วยเป็นธุระให้ด้วยเถิด…ทวิเทพ”
“เข้าใจแล้ว”
“เข้าใจแล้ว”
“อุษณรัศมี…สีตลรัศมี…นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้า…อย่ามายุ่งเกี่ยว!!!”
“ข้าจะเข้าสู่การหลับใหล ณ ที่แห่งนี้แลมิลืมตาตื่นขึ้นมาอีก”
“ราชหงส์สุรัมภา…มันจะไม่จบเพียงเท่านี้หรอก”
“แต่ท่านน่ะจบแล้ว”
“ท่านจบแล้วนะ”
“จะ…เจ้าแฝดคู่นี้!!”
“ตราบใดที่อุษณรัศมีผู้นี้ยังอยู่…ไม่มีใครจะมารบกวนการนอนหลับของท่านได้”
“ตราบใดที่สีตลรัศมีผู้นี้ยังอยู่…จงเข้าสู่การหลับใหลอย่างสบายเถอะ…พญาหงส์”)
“โธ่เว้ย!!!”
“หนวกหูจริง”
“วสันตะนุจรินทร์”
“หลับแล้วฝันอะไรเหลวไหลแน่ๆ”
“หุบปาก!!”
“หยุดซะทีเถอะ”
“พี่รีย์…สหายพี่พาลกับหนู”
“เจ้าฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้วหรือ?…อชินีสุราลัย”
“…อืม”
“ฮื่อ~~…จะอะไรกันนัก?…เวลานี้ราชหงส์สุรัมภาสู้ใครไม่ได้อีกและพระเวทย์ของนางก็จวนจะหมดสิ้นเต็มที”
“ข้าไม่เชื่อว่านางจะสูญสลายไป…มันต้องมีบางอย่างแอบแฝง!!…เจ้าไม่สังเกตเจ้าสองเทพแฝดนั่นหรือยังไง?…สหายจะสูญสิ้นแต่กลับไม่รู้สึกยินดียินร้ายสักนิดซ้ำยัง…”
“อะไร?”
“เปล่า”
“จะไปไหน?…เจ้าเพิ่งพ้นโทษออกมานะ”
“ข้าไม่ทำอะไรวู่วามหรอก…หัดเชื่อใจสหายของเจ้าบ้าง…สุริยนนุจรินทร์”
“……………………………………………”
…………………………………………………………………………………………………………………………….

“บอล…อาจารย์เรียกแน่ะ”
“เออ”
“เอกคเชนทร์”
“ครับผม”
“มีคนฝากซองนี่มาให้เธอ”
“ใครครับ?”
“อาจารย์ก็ไม่รู้…ลุงยามเขามาส่งให้อีกที”
(มันคืออะไรหว่า?)
“กุญแจ?”
“น่าจะเป็นของตู้เช่าไปรษณีย์ในมหาวิทยาลัยนี่นะ…อาจารย์เคยเห็น”
(แล้วใครเอากุญแจนี่มาแล้วเอามาให้เราทำไม?)
“ไปไหนวะเพื่อน?”
“ไปรษณีย์ว่ะ”
“อาจารย์จะมาแล้วนะเว้ย!?”
“เออน่ะ!…ฝากบอกด้วย”
(ตอนนี้ความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าชั่วโมงเรียนแล้ว)
“อืม–…ช่องที่ 44”
“………………………………………….”
“ได้ล่ะ…กล่อง?”
(คงไม่ได้มีระเบิดใส่ไว้หรอกนะ)
“…ไม่เห็นมีอะไรเลย…กล่องเปล่าๆ”
(โดนแกล้งป่าว?…อ๊ะ!!…มีกระดาษอีกแล้ว)
“หันหลังไปแล้วจะมีกล่องวางไว้บนม้านั่ง…บ๊ะ!!…คิดว่าเป็นใครกันถึงมาสั่ง?”
(แต่มันมีกล่องวางอยู่จริงๆ)
“…………………………………………..”
“ถ้าเล่นตลกกันล่ะน่าดู…เอ้ย!!…มีด…หรือเปล่า?”
(ทำไมมันเล็กจัง?)
“ฮัลโหล…พี่เซค?”
(เงียบหายไปหลายวันโผล่มาแล้วไง)
“พี่ส่งมาเองเหรอ?”
“ใช่”
“…………………………………………….”
“เห็นมีดในกล่องแล้วใช่มั้ย?”
“หมายความว่าอะไรไม่ทราบครับ?”
“มี 2 วิธีให้แกเลือก…เอามีดเฉือนไอ้หนอนสกปรกทิ้งแล้วก็ไปแปลงเพศซะกับเชือดคอตายไปเลยไง!!!!”
“นี่พี่!!…ผมไม่มีเวลามาล้อเล่นด้วยหรอกนะ…กะอีแค่มีดเล่มเดียวจะทำให้กลัวรึ?…ฝันไปเถอะ!!!”
…ผมชิงตัดบทวางสายเพราะไม่อยากฟังเสียงผู้หญิงร้ายกาจคนนี้อีก…ไอ้กล่องบ้าพวกนี้จะเอาทิ้งลงขยะให้หมดเชียว!!…ใช่…ผมตั้งใจจะทำอย่างนั้นแต่เกิดสะดุดกับข้างในของกล่องแรกด้านหนึ่งที่ดูหนากว่าปกติ…
“ไม่รู้สึกไปเองมั้ง?…นั่นไง!!…มีอะไรซ่อนอยู่?”
(คล้ายจะเป็นหนังสือแต่อยู่ในซองพลาสติคสีดำเลยไม่รู้ว่าคืออะไร)
“สมุด…หัดคัดลายมือ…อีหมอบ้า!!!…มันหลอกด่าเราเป็นเด็กอนุ…เอ้ย!!!!”
“…………………………………………….”
“…………………………………………….”
“ไอ้เชน!!…กู…กูไม่สบาย!!!…ช่วยบอกอาจารย์ว่ากูขอลากลับบ้าน”
“ทำไมมึงไม่บอกเองเล่า?”
“เหอะน่า!!!…กูกำลัง…ไม่สบายมากๆ…แค่นี้นะ!!”
“อ้าวเฮ้ย!?”
“ไม่เข้ารงเข้าเรียนแล้ว!!!…นี่พี่เซคคิดจะทำอะไรกันแน่?”
(ถึงได้ส่งรูปนู้ดของตัวเองมาให้เรา!!!!…แม่คุณเอ้ย~~…แรกๆหล่อนนุ่งชุดชั้นในแต่หลังๆเปลื้องผ้าหมดจด…เห็นแคมเห็นเนื้อในชัดแจ๋วแถมโพสแต่ล่ะท่านางแบบมืออาชีพยังต้องอายเลย!!!!!)
…………………………………………………………………………………………………………………

(“แหม~~…อยากดูฉันแก้ผ้าก็ไม่บอกซะตั้งแต่แรก…ที่ส่งไปให้แกดูเป็นภาพโป๊สุดอล่างฉ่างของฉันเลยนะ”
(ผะ…ผู้หญิงคนนี้บ้าหรือเมากันแน่ที่ส่งอัลบั้มรูปเปลือยของตัวเองมาให้เราชนิดว่าเผยจุดอ่อนอย่างเต็มที่!?)
“รูปในมือถือนั่นมันกระจอกเกินไป…ไม่มีประโยชน์หรอกถ้าแกจะเอามาเล่นงานฉัน…ไอ้หน้าโง่!!!”)
“เออโง่!!!…แต่ไอ้โง่คนนี้แหละกำลังทำให้คนฉลาดอย่างเธอแปดเปื้อนอยู่นี่ไงโว้ย!!!!…ซีดสสสสสสสสส”
(ด้วยรูปญาติสาวผู้พี่สวมเสื้อกาวส์นอนตะแคงโชว์หน้าอกท่อนล่างเปลือยเปล่านี่แหละ)
“อาาาาาาาา”
(มั่นใจตัวเองดีนัก…ฮึ่ย!!!…แต่มั่นใจมากเกินไประวังจะสะดุดล้มไม่เป็นท่า)
“อุ…โออออออออออออออออ…แตกแล้วววววววววว”
(ออกเยอะมาก…ไม่รู้ว่านานๆทีชักว่าวหรือเพราะนางแบบเป็นผู้หญิงจอมหยิ่งอย่างพี่เซค)
…สะใจอย่างบอกไม่ถูก…รู้สึกราวกับตัวเองได้ครองโลกใบนี้…ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่มาเยือนอย่างไม่คาดคิด…มีแต่คนสติไม่ดีเท่านั้นที่จะทำอย่างพี่เซคที่หยิบยื่น “จุดอ่อน” ของตัวเองให้ศัตรู…
“แต่แค่นี้ยังไม่สาสมหรอก…รอให้ไอ้น้องฟื้นตัวซะก่อนแล้วจะเล่นต่อ”
(ยกต่อไปสนุกกับรูปพี่เซคใส่เสื้อเชิ้ตขาวนอนแหกหีเอานิ้วเขี่ยติ่งดีกว่า…เห็นแล้วโคตรเงี่ยนมากมาย)
“หะ…หายไปไหน?”
(ก็ก่อนจะเข้าห้องน้ำเราวางไว้ตรงนี้นี่!?)
“ไม่เจอ”
“………………………………………..”
“ไม่มี”
“………………………………………..”
“เฮ้ย!?…จะหายไปได้ไงก็เมื่อกี้วางไว้บนเตียงกับมือนี่หว่า?”
“………………………………………..”
(หือ?)
“………………………………………..”
“คุณไหม!?”
“ต่ำช้า!!”
“หา?”
“ใช้รูปคุณหนูใหญ่มาเป็นเครื่องมือสำเร็จความใคร่…คุณช่างเป็นคนต่ำช้าที่สุด!!!…ดิฉันรู้สึกผิดหวังจริงๆ”
(สาวคนสนิทของพี่เซคเข้ามาในห้องเราตั้งแต่เมื่อไหร่?)
“ฮึ!!…มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญมากเลยนะครับ…ผู้ชายที่ไหนก็ทำกันทั้งนั้น”
“นี่ยังจะหาเหตุผลทุเรศๆมาเข้าข้างตนเองอย่างมิรู้สึกอาย…คุณชายเอกคเชนทร์”
“ไม่ว่าจะผู้ดีหรือไพร่ต่างก็หนีเรื่องนี้ไปไม่พ้นหรอก…คุณเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น”
“อย่าเหมารวมดิฉันไปด้วย!!”
“คุณนั่นแหละอย่าปากแข็งและก็เอาสมุดนั่นคืนมาครับ”
“ดิฉันจะมิยอมให้คุณนำรูปคุณหนูใหญ่ไปกระทำเรื่องบัดสีอีก”
“พี่เซคต่างหากที่ทำบัดสี”
“ว่าอย่างไรนะ?”
“ถ่ายรูปโป๊ของตัวเองถ่างแข้งถ่างขาอ้าซ่า…โพสแต่ล่ะท่าสุดจะน่าอับอาย…แบบนี้ไม่เรียกบัดสีแล้วให้”เรียกว่าอะไร?”
“นั่นคือเรื่องส่วนตัวของคุณหนูใหญ่ที่หากมิทำให้ผู้ใดเดือดร้อนก็หาได้ต้องไปสนใจใครไม่”
“นี่คุณเห็นว่าเป็นเรื่องปกติเหรอ?”
“ใช่”
(ไม่แปลกใจ…ยังไงลูกน้องก็ต้องเข้าข้างเจ้านายวันยังค่ำ)
“หนอย~~…ยังไม่จบหรอกน่า!!!…ในมือถือของผมก็…”
“โทรศัพท์ของคุณถูกทำลายไปแล้วและดิฉันก็เอาเครื่องใหม่รุ่นเดียวกันมาเปลี่ยนให้”
“ฮ้า!?”
(ที่พื้นมีเศษซากของ…ยัยบ้าเอ๊ย!!!…แบบนี้หลักฐานก็พังพินาศหมดทำไมถึงไม่รีบย้ายรูปลงคอมวะ?…โง่ฉิบหา-เลยกูนี่!!!!)
…ทั้งเจ็บใจและก็สมน้ำหน้าตัวเองแท้ๆ…ลำพังแค่ผมพูดปากเปล่าว่าพี่เซคมีงานอดิเรก “ถ่ายรูปนู้ด” แล้วใครมันจะไปเชื่อเล่าแถมเผลอๆจะถูกชี้หน้าด่าว่าใส่ร้ายญาติพี่น้องตัวเองอีก…
……………………………………………………………………………………………………………………………

“พี่เซคชวนกินไปกินข้าวที่บ้าน?”
“ใช่…เย็นนี้”
“ไม่ไป”
“ทำไมอ่ะ?”
“รู้แล้วยังจะถาม…ฉันเกลียดเธอแค่ไหนฝนก็รู้”
“แหม!…ไม่เอาน่า–”
“อยากไปก็ไปเถอะ”
(ไม่รู้ว่าจะวางแผนชั่วร้ายอะไรไว้อีกหรือเปล่า?)
“พี่เซคก็ชิงชังบอลไม่น้อยเหมือนกัน”
“เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ไปน่ะถูกแล้วไง”
“แต่เธอต้องไป”
“พี่แคทไปกับฝนน่ะแหละ…พี่เซคคงไม่ตั้งใจจะชวนผมด้วยหรอก”
“เธอไม่ได้บอกห้ามไม่ให้บอลไป”
“ลงว่าคนเกลียดขี้หน้ากันก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมานี่ครับ?”
“…ไปอาบน้ำแต่งตัว”
“ผมไม่ไป”
“รึจะให้พี่จัดการทุกอย่าง?”
“………………………………………….”
“ฝน”
“ได้ค่า!!…เค้าจะจับตัวเองแก้ผ้าล่ะนะ…เอาให้ล่อนจ้อนไปเล้ย!!!”
“หา?…เอ้ย!?…ไม่เอา!!”
…ญาติสาวผู้พี่วัย 22 กับญาติสาวผู้น้องวัย 18 จัดแจงจะเข้ามาถอดเสื้อผมซึ่งถ้าว่ากันตามปกติน่าดีใจแต่เวลานี้ผมไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น…
“รู้…รู้แล้วน่า–…ผมทำเอง”
“ฮี่!!…แล้วเค้าจะอาบน้ำให้นะ”
“ไม่เอา!!…น่าอายจะตายชัก”
“โธ่~~…ทำเป็นอายไปได้”
“………………………………………….”
“………………………………………….”
“อ้าว?…ไปสิครับ!!…นี่ใจคอจะยืนดูกันตรงนี้เหรอ?”
“จะให้ดูตรงนี้ก็ได้นะ…หึๆๆ”
“…ทำให้เสร็จในครึ่งชั่วโมง”
“ถ้าหนูช่วยน่ะเสร็จแน่…ว๊า!?”
“เราก็ไปเตรียมตัว”
“ฮื่อ!!”
……………………………………………………………………………………………………………………………..

“อะ…อาหารยังไม่เสร็จเรอะ?”
“ไม่ใช่ไม่เสร็จแต่ยังไม่มา”
“อ้าว?…ไม่ได้ทำเองเหรอคะ?”
“พี่สั่งจากภัตตาคารในโรงแรมน่ะ”
“อีกนานมั้ยอ่ะ?…ฝนหิวจนท้องกิ่วแย้ว~~”
“ครึ่งชั่วโมง”
“โห~~”
“น่า–…พี่มีของว่าง…เข้าไปกินกันก่อน”
“ป่ะตัวเอง!!”
“ฉันไม่หิว”
“บอล”
“พี่แคทกับฝนเชิญเลยครับผมจะไปเดินเล่นแถวๆนี้…อ้อ!!…ถ้าอาหารมาก็กินกันได้เลยไม่ต้องบอกผมหรอก”
“จองหอง”
“พองขนด้วยมั้ยล่ะครับ?”
“………………………………………………”
“………………………………………………”
…ผู้หญิงโรคจิตเอ๊ย!!!…ไว้สักวันจะช่วยสงเคราะห์ล่อให้หายร่านบ้างคงจะดีนะ…ผมเดินออกมาทางด้านหลังตัวบ้านที่อยู่ติดคลองเล็กๆและโดยไม่ตั้งใจสักนิดว่าจะได้เจอพี่ม่อนที่นี่…
(ยิ่งดูก็ยิ่งสวยแต่ภายใต้ใบหน้าอันงดงามนั้นมีความ “น่าสะพรึงกลัว” ซ่อนเร้นอยู่ด้วย)
“………………………………………………”
(ดูท่าเธอจะยังไม่เห็นเรา)
“………………………………………………”
(แต่อย่ารบกวนหล่อนแล้วไปที่อื่นจะดีกว่า)
“อื๋อ!?”
“………………………………………………”
“ตก…ตกใจหมด!!!…อะไรของพี่เนี่ย?”
(เมื่อกี้สาวเจ้ายังอยู่ตรงริมคลองแต่จู่ๆก็มาโผล่ข้างหลังและพอเราหันตัวกลับก็เกือบชนเธอเข้าแล้ว!!!!)
“เจ้าได้รับเชิญจากท่านพี่ด้วยหรือ?”
“ก็…ก็ประมาณนั้นครับ”
…จะว่าผมโอเวอร์ก็ตามแต่น้ำเสียงของพี่ม่อนฟังแล้วให้ความรู้สึกเย็นเยือกถึงไขสันหลังเราะมันช่างไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย…เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต…
“แต่ผมไม่อยากมาหรอก”
“มิได้”
“หืม?”
“หากเจ้ามิยอมมาเราจะเป็นผู้ไปลากเจ้าเอง”
“ทำไมครับ?”
“เพราะท่านพี่เชิญเจ้าเช่นนั้นเจ้าต้องมา”
(วางอำนาจซะจริง…อื๋อ?)
“………………………………………..”
(ญาติสาวผู้พี่ลงนั่งเหยียดขาหลังพิงต้นไม้และก้มหน้านิดนึง…จะหลับรึ?…แต่นี่ใกล้เวลาอาหารมื้อเย็นแล้ว)
“………………………………………..”
“พี่ม่อน”
“…อะไร?”
“ไม่กินข้าวเย็นหรือครับ?”
“เรายังมิรู้สึกหิว”
“ผมก็เหมือนกัน”
“………………………………………..”
“เอ่อ–…ผมขอนั่งตรงนี้ได้มั้ยครับ?”
“…หาได้มีผู้ใดห้ามเจ้าไว้”
(ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ซะเลย)
…ผมอยู่ห่างจากพี่ม่อนเกือบห้าเมตรได้ซึ่งไม่ถือว่าใกล้จนเกินไปหากมีอะไรเกิดขึ้น…เปล่า…แค่ระวังไว้เฉยๆ”เพราะถึงเธอจะเคยช่วยให้รอดพ้นจากการถูกลักพาตัวแต่ก็ไม่ใช่หมายความว่าผมจะวางใจได้สักหน่อย…
“ศิวะบัณฑิตยังมิเลิกราจากเจ้านะ”
“พวกเขาจะมาพาผมไปศรีไตรตรึงษ์อีกเหรอ?”
“มิใช่แค่นั้นดอก”
“ผมบอกแล้วไงว่าถึงเวลาจะไปเอง…ไม่ต้องให้ใครมาชี้นิ้วสั่งหรือเล่นไม่ซื่อ”
“เจ้าไปแล้วอาจมิกลับมาก็เป็นได้”
“หมายความว่าไงครับ?”
“สามดรุณีแห่งศิวะบัณฑิตนั้นแม้ยังเยาว์วัยแต่ก็สวยหยาดเยิ้มสมคำร่ำลือ”
“แต่ผมว่า…พี่ม่อนหรือพี่แคทก็ไม่น่าจะสวยแพ้พวกเธอนะครับ”
“………………………………………….”
(หือ?…เมื่อกี้ตาฝาดหรือเปล่า…คือเราเห็นพี่ม่อน…มีรอยยิ้มที่มุมปาก)
“อย่าเอาเราไปเทียบกับท่านพี่สุรีย์พรรณเลย”
“ทำไมล่ะครับ?…พี่ม่อนก็ได้ความสวยมาจากป้าเอ็มตั้งเยอะนะ”
“คึ”
“แล้วตอนนี้ป้าเอ็มก็ยังสวยอยู่นะครับ…ถ้าอายุเท่าๆกันและไม่ใช่ป้าหลานแล้วล่ะก็ผมจะลองจีบดู”
“!”
“?”

(จู่พี่ม่อนก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองมาที่เรา)
“ถ้าอายุเท่าๆกัน”
“หืม?”
“แลมิใช่ป้าหลานแล้วจะลองจีบดูอย่างนั้นหรือ?”
“เอ่อ–”
“เมื่อกี้เจ้า…เอ่ยวาจาแทะโลมท่านแม่ของเรา?”
“เอ๋?…หา!?…ไม่ใช่ๆ…ผมเปล่านะ!!”
“เราได้ยินเต็มสองรูหูเจ้ายังจะกล้าปฏิเสธอีก!!!”
…ตายละวา!!!…ปากพาซวยแท้ๆที่เผลอชมไปว่าป้าเอ็มสวยเหมือนสาววัยรุ่นและจะจีบแน่ถ้าไม่ใช่ป้าหลานกัน…อะไรเนี่ยๆ…แค่ผมชมเท่านี้พี่ม่อนถึงกับโมโหจนควันออกหูเชียวหรือ?…
(“มีอยู่ครั้งหนึ่งป้าเอ็มเคยโดนลักพาตัวและพอน้องม่อนจับคนร้ายได้ก็เอาซะปางตาย”
“เธอตัดเส้นเอ็นแขนขาทั้งหมดและก็ตัดลิ้นเจ้าพวกนั้นทุกคน…ตอนที่ฝนไปเห็น…ไม่อยากจะบอกว่าสภาพน่าสยดสยองมาก”
“สำหรับม่อน…หนึ่งไม่ตายสองก็ต้องอยู่อย่างทรมานไปชั่วชีวิต”
“แล้วที่ผ่านมาเธอชอบอย่างหลังซะด้วย”)
“…………………………………………….”
(นี่ถ้าพี่ม่อนรู้ว่าเรากับแม่ของหล่อนเคย…ผลมัน…ผลมันจะเป็นยังไง?)
“ผะ…ผมขอโทษ”
“ท่านแม่ของเราหาใช่ผู้ที่เจ้าจะพูดถึงท่านพล่อยๆได้…เจ้าเป็นหลานสมควรที่จะสำนึกไว้”
“ผมขอโทษ!!…ผมผิดไปแล้ว!!!”
“เราจะมิให้ใครหน้าไหนมาดูหมิ่นหรือพูดจาว่าร้ายท่านแม่อย่างเด็ดขาด…หลานชายเช่นเจ้าก็หาได้เป็นข้อยกเว้นไม่!!!”
(ตาพี่ม่อนลุกโพลงเป็นสีแดงราวกับกองไฟ…หนีดีกว่าเราแต่จะไปทางไหน?…ข้างหน้ามีพี่ม่อนยืนขวางอยู่ส่วนข้างหลังก็เป็นคลอง)
“อย่าให้ถึงกับเลือดตกยางออกกันเลยขอรับ”
“หือ?”
“พี่เอ้”
“มิใช่เรื่องของท่านพี่สุริยาวรรณเจ้าค่ะ”
“เรื่องเล็กมิสมควรลุกลามให้กลายเป็นเรื่องใหญ่…ครั้งนี้น้องนางศรมุกดาก็ยกโทษให้เอกคเชนทร์เถิด”
“หากน้องมิยกโทษให้?”
“พี่เชื่อว่าน้องนางศรมุกดานั้นมีจิตใจโอบอ้อมอารีแลมิได้ถือสากับเหตุเพียงเท่านี้ดอก”
“แต่ที่ผ่านมาผู้ใดบังอาจปากพล่อยหรือคิดร้ายกับท่านแม่…น้องหาได้เคยละเว้นให้มันผู้นั้นลอยนวลอยู่ไม่!!”
“ครั้งนี้พี่ขอเถิดขอรับ”
“……………………………………………..”
(พี่เอ้พยายามช่วยเราหรือ?)
“หากมีครั้งหน้าอีกพี่จะมิช่วยเขาอีกแล้ว”
“……………………………………………..”
“……………………………………………..”
“เจ้าค่ะ…เห็นแก่ท่านพี่สุริยาวรรณน้องจะมิเอาความอีก”
“ขอบคุณน้องนางศรมุกดาสิขอรับ”
“คะ…ครับ…ขอบคุณพี่ม่อนจริงๆครับ!!!…ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีกแล้ว”
“……………………………………………..”
…ญาติสาวผู้พี่วัย 21 ไม่พูดอะไรก่อนจะเดินหายเข้าไปในความมืด…ผมเป่าปากหายใจอย่างโล่งอกและไม่ลืมขอบคุณพี่เอ้…
“ครั้งนี้โชคยังดีที่กระผมได้รับเชิญมาด้วย”
“หูย~~…เกือบไปแล้วสิ”
“กระผมเข้าใจว่าท่านป้าศรมรกตเป็นเช่นไรแต่บางอย่างก็มิสมควรจะเอ่ยออกมาดอก”
(ได้ทีสอนเราใหญ่เชียวนะ)
“Angel Eyes”
“เอ๋?”
“ดวงตาแห่งนางฟ้าไงล่ะขอรับ”
(เจ้าหนุ่มหน้าหยกพูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด)
……………………………………………………………………………………………………………………………..

…คืนนั้นผมหลับแล้วก็ได้ฝัน…
(“อื๋อ?”
(หนูหนึ่งกับหนูสองลูกสาวฝาแฝดของเรา!!!)
…พอลูกสาวฝาแฝดเห็นผมก็วิ่งมาหาซึ่งทางนี้อ้าแขนรอกอดอยู่แล้วแต่พวกเธอกลับหยุดนิ่งห่างไปประมาณห้าก้าวเดิน…ทำไมกันล่ะ?…
(ยังทำสีหน้าเหมือนกำลังสงสัยอะไรด้วยนะ!?)
“ผู้ใดเรียกพ่อมาทีนี่?”
“ผู้ใดเรียกพ่อมาหรือ?”
“ไม่…ไม่มี”
“ถ้าไม่มีพ่อจะมาได้ยังไง?”
“มาได้ยังไง?”
“อื้อ!!…จะอะไรก็ช่างเถอะ…ไม่ดีใจที่เจอพ่อเหรอจ๊ะ?”
“……………………………………………”
“……………………………………………”
“นี่พ่อทำอะไรให้พวกหนูไม่พอใจหรือเปล่า?”
“ไม่มี”
“ไม่ใช่”
“!?”
(สองยัยหนูหันหลังวิ่งไปกันคนละทิศคนละทางเลย…ชวนเราเล่นซ่อนแอบหรือเปล่า…เอ้ย!!…ไม่ใช่มั้ง?)
“แล้วจะให้ตามหาใครก่อนล่ะนี่?”
“หนูหนึ่ง”
“………………………………………………”
“หนูสอง…ออกมาหาพ่อเถอะ”
(ไร้วี่แวว)
“ชวนพ่อเล่นซ่อนหาเหรอ?”
“………………………………………………”
“ถ้าหาเจอจะให้รางวัลอะไรดีจ๊ะ?”
“………………………………………………”
…หายังไงก็ไม่เจอจนรู้สึกเหนื่อยและทันใดนั้นผมเหลือบไปเห็นแสงสว่างอยู่บนหน้าผาที่ก็ไม่ถือว่าไกลมากนัก…มันจะเป็นแสงจากอะไรไม่รู้แต่ไม่สว่างสม่ำเสมอบ้างก็สว่างจ้าบ้างก็ริบหรี่…
“อยากรู้ก็ต้องไปดู”
(แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องหาทางปีนขึ้นไปเนื่องจากไม่มีเส้นทางเดิน)
“ตรงนี้พอมีทางไปได้นี่แต่มันแคบไปหน่อย”
“………………………………………………”
“พอได้ๆ…อื๋อ?”
(ระหว่างที่เดินลัดเลาะขึ้นไปเรื่อยๆก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างอยู่ในกอไม้ข้างทางจึงแวะเข้าไปดู)
“ลูกนก?”
(น่าสงสารจัง…ตาแทบจะยังไม่ลืมด้วย)
“ไม่ต้องกลัวๆ…ฉันไม่ทำอะไรหรอก”
(เพิ่งจะมีขนขึ้นซึ่งน่าจะพลัดหลงจากพ่อแม่มา…ไม่สิ…คงตกลงมาจากรังบนต้นไม้ต้นใดต้นหนึ่งแน่ๆ)
“จะทำยังไงดี?…ตกลงมาจากต้นไหนก็ไม่รู้…ดีนะที่ไม่อดตายหรือโดนตัวอะไรคาบไปกินซะก่อน”
(เอาไว้ในอุ้งมือล่ะกัน)
“อยู่นิ่งๆนะหนูน้อย…ฉันจะหาทางช่วยเอง”
(ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันจะไปตามหาพ่อกับแม่มันที่ไหน?)
“ค่อยคิดอีกทีล่ะกัน…ไว้ไปให้ถึงตรงแสงนั่นก่อน…อ้าวเฮ่ย!?”
…ลูกนกตัวจ้อยจู่ๆก็บินออกจากอุ้งมือแล้วไปเกาะที่หัวไหล่ผมและไม่มีทีท่าจะบินไปไหนอีกด้วย…เจอเรื่องแปลกอีกแล้วสิ!?…
“เอาไงล่ะเราน่ะ?”
“…………………………………………”
“ดี…งั้นเราไปตามหาแสงสว่างนั่นด้วยกัน”
“…………………………………………”
(เหนื่อยเอาการแต่ก็จวนจะถึงแล้ว)
“นี่มัน?”
(สวยจังเลย…แสงสีเงินอันเรืองรองที่เปล่งออกจากร่าง)
“นกสีเงินตัวนี้สวยจังเลยแต่เหมือนจะหลับอยู่มั้งนะ?”
“………………………………………………..”
“นี่มันจะใช่…หงส์หรือเปล่า?”
“จงออกไปจากที่นี่!!”
“!!!!”
(เสียงดังมาจากไหน?…รึจะเป็นของหงส์ตัวนี้!?)
“ต้องการจะเผชิญหน้ากับความพิโรธของผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหคเช่นเราหรืออย่างไร?…เจ้ามนุษย์บาปหนา!!!”
“ทะ…ท่าจะไม่ดี…ไปดีกว่า”
…เมื่อรู้แล้วว่าแสงสีเงินคืออะไรงั้นภารกิจ(?)ต่อไปก็คือช่วยตามหาพ่อแม่ของนกน้อยตัวนี้…อา–…ในความรู้สึกของผมดูเหมือนเจ้าหนูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลย…
“พ่อ”
“พ่อ”
“นกนั่น”
“นกนั่น”
“เมื่อกี้ไปไหนมาล่ะลูก?”
“……………………………………………..”
“……………………………………………..”
(ทำไมไม่ยอมพูดอะไรเลย?)
“ช่างเถอะ”
“ปล่อยผ่านไป”
“?”
“เมื่อกี้พ่อขึ้นไปบนผานั่นใช่มั้ย?”
“ขึ้นไปบนผานั่นใช่มั้ย?”
“ใช่แล้วจ้ะ”
“ไปเพื่ออะไร?”
“ไปทำอะไร?”
“พ่ออยากไปดูแสงสีเงิน”
“ไม่เห็นจะต้องขึ้นไปให้ลำบาก”
“ไม่ต้องขึ้นไปให้ลำบาก”
“หา?”
…แล้วผมก็จำอะไรไม่ได้อีกและพอรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านอนอยู่ในห้องตัวเองโดยมีฝนหลับอยู่ข้างๆ…
(เข้ามาในห้องเราตั้งแต่เมื่อไหร่และเวลาตอนนี้…ตีสอง)
“กำลังฝันถึงลูกสาวน่ารักเลยเชียว…เฮ้อ!!…เสียดายจัง?”
“ทำไม?”
“?”
“ทำไมไม่หยุดสักที?”
(ฝนละเมอ…ว่าแต่กำลังว่าใคร?…เอ่อ–…คงจะไม่ใช่เราหรอกนะ?)
“หนูจะวิ่งหนี…ไปถึงไหน?”
“!?”
“เมื่อไหร่จะยอมรับแม่สักทีเล่า?”
(หนูรินไม่ยอมให้ฝนจับตัวรึ?)
“แต่ก็น่ารักดีนะแม่ลูกคู่นี้…อื๋อ?”
“……………………………………………..”
(พี่แคทก็เข้ามาในห้องเราด้วยเรอะ?)
…ไม่สังเกตเห็นจริงๆว่าพี่แคทนอนอยู่อีกฝั่งจนผมจูบที่หน้าผากฝนแล้วจะนอนต่อนั่นแหละ…นี่คงจะตามน้องสาวมาแน่ๆ…
“อย่ากังวลเลยจ้ะลูกรัก”
(เอ๋!?)
“พ่อหนูเจ้าชู้นักจะเจอแม่กำหราบ”
“!!”
“และบรรดาผู้หญิงที่เข้ามายุ่งกับพ่อหนูด้วยแม่ก็จะไม่ปล่อยไว้…จ้ะ…แม่จะทำตามที่หนูขอ”
(หนูรีย์นี่เกลียดผู้ชายเจ้าชู้เหมือนแม่จริงๆแล้วยังกำชับให้มาจัดการกับเราอีก…น่ากลัวฉิบเป๋ง)
……………………………………………………………………………………………………………………………

“ราชหงส์สุรัมภานายเจ้าเป็นผู้ที่เรียกดวงจิตของพ่อมาใช่หรือไม่?”
“พญาหงส์นายเจ้าต้องการอะไรจากพ่อของเรา?”
“ข้าแต่สองเทพบดีผู้เป็นใหญ่เหนือกาลเวลาและห้วงมิติ…ข้าน้อยเป็นผู้ที่เรียกดวงจิตของชายผู้นั้นมาเอง”
“พระเวทย์ของเจ้าไม่มีทางทำได้!!”
“เจ้าไม่มีทางทำได้!!”
“แล้วเราก็สัมผัสได้ว่าพระเวทย์นี้เป็นของราชหงส์สุรัมภา”
“พระเวทย์นี้เป็นของผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหค”
“ทว่าองค์ราชหงส์สุรัมภาไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด…ทุกอย่างเป็นการกระทำของข้าน้อยเพียงผู้เดียว”
“กระทั่งเสียงตวาดพ่อของเราด้วยสิ?”
“เสียงตวาดนั่นเป็นของเจ้าสินะ?”
“เจ้าแอบอ้างตนเป็นนายเจ้าเช่นนี้เห็นทีจะต้องรับโทษหนัก”
“รับโทษหนักแน่”
“มิหนำซ้ำยังเอ่ยวาจาอันเป็นเท็จต่อเทพบดีเช่นเรา”
“เจ้าไปเอาความกล้านี้มาจากไหนกัน?”
“ข้า…ข้าน้อยผิดไปแล้ว!!…ได้โปรดยกโทษให้ด้วยเถิด”
“……………………………………………….”
“……………………………………………….”
“ข้าน้อยจะยอมพูดความจริงทุกอย่าง”
“งั้นจงสารภาพออกมาว่าราชหงส์สุรัมภาต้องการอะไร?”
“สารภาพออกมาให้หมดสิ้นว่าพญาหงส์คิดอ่านแผนการใด?”
“ข้าน้อยได้รับพระเวทย์ส่วนหนึ่งจากองค์ราชหงส์สุรัมภา”
“ในภาวะที่นางหลับใหลอยู่น่ะหรือ?”
“เจ้าค่ะ…องค์อุษณรัศมี”
“เจ้าคือผู้ที่พญาหงส์ไว้ใจ”
“องค์สีตลรัศมีกล่าวถูกต้องแล้ว”
“แต่พระเวทย์ของพญาหงส์นั้นมหาศาลนัก”
“ทว่าเวลานี้หายไปจนเกือบหมดสิ้น”
“………………………………………….”
“หือ?”
“หืม?”
“หรือว่า…”
“จะเป็น…”
“องค์ราชหงส์สุรัมภานายของข้าน้อยฝากคำพูดผ่านพระเวทย์มาถึงองค์อุษณรัศมีและองค์สีตลรัศมี”
“?”
“?”
“แม้เราจะหลับแต่ก็ยังรับรู้”
“!?”
“!!”
“ถึงการกระทำทุกอย่างของพวกท่าน”
“……………………………………………”
“อุษณรัศมี…ชายผู้นั้นดีพอที่จะเป็นบิดาของท่านจริงๆหรือ?”
“เราเชื่อมั่นว่าเขาดีพอ”
“สีตลรัศมี…ชายผู้นั้นดีพอที่ท่านจะเรียกว่าบิดาจริงๆหรือ?”
“เราเชื่อมั่นว่าเขาดีพอ”
“………………………………………….”
“ท่านก็เห็นดีด้วยเถอะนะ”
“เห็นดีและมากับเรา”
“…เป็นสหายกันมาช้านานแต่ยังมิรู้ใจเราอีกฤา?”
“ราชหงส์สุรัมภา”
“เราเกลียดชังมนุษย์ที่สุด…มิต้องการข้องแวะ…มิต้องการข้องเกี่ยว”
“พญาหงส์”
“มนุษย์ที่ดีก็มีอยู่มากมายบนโลกนี้”
“จะมองว่าเลวไปทั้งหมดนั้นไม่ได้”
“มิต้องอื่นไกลดอก…เรายังมองมิเห็นความดีที่ว่าจากชายผู้ที่พวกท่านยกย่องเป็นบิดาแลต่อไปในภายหน้าเขาจะกระทำเรื่องชั่วช้าเกินกว่าที่จะคาดถึง…สหายเราจงอย่างมงายอีกต่อไปเลย”
“…………………………………………….”
“…………………………………………….”
“แม้กระทั่งสุริยนนุจรินทร์แลวสันตะนุจรินทร์ก็ยังเห็นดีไปด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว”
“ไม่ผิด”
“งมงายนัก…หือ?”
“?”
“?”
“อชินีสุราลัย?…หึ!…หึๆๆๆ…พอที”
“หยุดก่อน”
“หายไปแล้ว”
“นายข้าเข้าสู่การนิทราอย่างสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง”
“นางจะตื่นขึ้นมาอีกเมื่อไหร่?”
“จะตื่นขึ้นมาอีกเมื่อไหร่?”
“ข้าน้อยไม่อาจทราบได้แต่นายข้าตื่นขึ้นมาเพื่อเตือนท่านทั้งสองและเพื่อยืนยันว่าไม่เห็นด้วยอย่างแรงกล้า”
“…………………………………………..”
“…………………………………………..”
……………………………………………………………………………………………………………………………..

“ทำไมมึงเดินแปลกๆแบบนั้น?”
“ไม่มีอะไร”
(จะบอกใครได้ยังไงล่ะว่าเมื่อคืนโดนฝนที่นอนละเมอถีบจนตกเตียง!?)
“ผู้หญิงอะไรตีนหนักฉิบ!…อูย~~”
(ยังเคล็ดขัดยอกไม่หาย…จับตัวลูกไม่ได้เลยมาระบายที่เรามั้งเนี่ย?)
“อาทิตย์หน้าก็ปิดเทอมใหญ่…เราใกล้จะขึ้นปีสามกันแล้วนะ”
“เร็วจังว่ะ”
“แล้วสิ้นเดือนนี้เราก็จะไปฝึกงานกัน…ตกลงเลือกที่ไหน?”
“ชะอำสิวะคำตอบสุดท้าย…ได้เที่ยวทะเลได้กินอาหารทะเลสดๆ”
“แต่กูอยากไปทางเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่…แม่คุณเอ้ย!!…มีแต่สาวสวยๆทั้งนั้น”
“มึงจะไปฝึกงานหรือไปจีบสาวกันแน่?…ไอ้เวร!!!”
“เออน่ะ!!”
“งั้นไว้รอลงมติกันแต่มีแววจะเป็นที่ชะอำแน่เลย…นะบอล?”
“สำหรับกูจะที่ไหนก็ได้…อ้าว!?”
“อะไรวะ?”
“รู้สึกเหมือน…”
“……………………………………………..”
“เฮ่ย!?…ใครขโมยโซ่รถกูไปวะ?”
“เออว่ะ!!…แถมลมยางก็โดนปล่อยรั่วหมด…แล้วมึงจะกลับบ้านยังไง?”
“แต่ก่อนอื่นเลยกูอยากรู้ว่าไอ้บ้าตัวไหนมันทำ?”
…ใครกันที่มาเล่นพิเรนทร์กับผมแบบนี้?…ลำพังปล่อยลมยางหรือรั่วก็พอจะไปให้ร้านสูบกับเปลี่ยนให้ได้แต่นี่ขโมยโซ่ไปด้วย…ช่างเป็นการกลั่นแกล้งที่ขำไม่ออกจริงให้ตาย!!!…
“เดี๋ยวกูไปตามช่างที่ร้านมาดูให้”
“ขอบใจ”
(เซ็งชะมัด!!…กะจะกลับไปนอนบ้านก่อนแท้ๆ…กว่าจะรอให้พี่แคทเลิกสอบก็บ่ายสี่โมงเย็นโน่น)
“เธอจะรอให้ฉันสอบเสร็จก่อนไม่ได้หรือไง?”
“โห!?…อีกตั้งหลายชั่วโมงน่ะครับ”
“จะไปเที่ยวที่ไหนก็พูดมาตรงๆ”
“เปล่านะครับ…ผมจะกลับไปนอนบ้าน”
“……………………………………………..”
“จริงๆนะจ๊ะ”
“ไม่ต้องมาจ๊ะจ๋ากับพี่!…แบบนี้มันน่าสงสัย”
“โธ่~~…ผมบริสุทธิ์ใจจริงๆ”
“…อีกสักครู่จะมีคนไปรับเธอ”
“ใครครับ?”
“บอลก็รู้จักดี…เดี๋ยวพี่โทรบอกเขาก่อน”
…แล้วข้อสงสัยของผมก็ได้รับความกระจ่างเมื่อคนที่พี่แคทหมายถึงนั้นก็คือลูกพี่ลูกน้องหน้าหยกจากโยนกประจิมนั่นเอง…
“พี่เอ้?”
“กระผมทราบเรื่องจากท่านพี่สุรีย์พรรณแล้ว…เชิญขึ้นรถขอรับ”
“พี่มาทำอะไรหรือ?”
“ท่านแม่อยากออกมาเที่ยวเปิดหูเปิดตาพี่ก็เลยกลับไปรับมาจากบ้าน…เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่ขอรับ”
“คุณอาก็มาด้วย?”
“แลท่านแม่คงจะต้องขอรบกวนพักที่บ้านสักสามสี่วันนะขอรับ”
(เอ๊ะ?…บ้านพี่เซคก็มีแถมกว้างขวางกว่าเป็นไหนๆแล้วทำไมคุณอาอรศินีย์ถึงจะมาพักบ้านเราล่ะ?)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

…ตัวอย่างในตอนหน้า…ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 94 “อย่าหวั่นไหว!?…นี่ผู้ชายนะ(โว้ย)!!!!”

“ฉันมั่นใจว่าบ้านหลังนี้ต้องยังมีใครอยู่อีกคน!!!”
“เออะ!!…ตัวเองคิดมากไปแล้ว…จะมีคนอื่นอีกที่ไหนนอกจากเรา?”
“ไม่รู้สึกไปเองแน่ๆ!!…ยิ่งพอตอนกลางคืนฉันได้ยินเหมือนเสียงผู้หญิงคุยกันและก็หัวเราะด้วย”
…………………………………………..
“อย่างหมอนั่นน่ะเรอะจะทำให้หวั่นไหวได้?…อยากดูเหมือนกันว่าถ้าแต่งหญิงแล้วจะน่าแหวะขนาดไหน?”
“ขออภัยที่ให้รอนานเจ้าค่ะ”
(ว้าว~~…ผู้…ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเนี่ย?…สวย…สวยสุดยอดไปเลย!!!!)
“………………………………………………..”
“มีอะไรหรือเจ้าคะ?”
“สวย…สวยสุดๆเลย…โอ๊~~…ไม่ใช่!!…ไม่ใช่แบบนี้!!!”
(ไปชมว่าสวยทำไมเล่า!?…ไอ้หมอนี่มันเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ?)

……………………………………………………………………………………………………………

Share the Post:

Related Posts

ครั้งแรกที่โดนเจ้านายเย็ด แลกกับการไม่โดนไล่ออก

เรื่องเสียว ครั้งแรกที่โดนเจ้านายเย็ด แลกกับการไม่โดนไล่ออก ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ทำงานออกมาได้ดีนัก ถูกตำหนิตั้งแต่เบื้องบนลงมากระทั่งพนักงานระดับเดียวกัน การเป็นนักศึกษาจบใหม่ไฟแรงมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ความสามารถของฉันมันไม่ได้เข้าขั้นเลยจริงๆ และการที่จะต้องรับเงินเดือนเท่าๆ กับคนที่ทำงานมากกว่า มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมสำหรับคนเหล่านั้น จึงไม่แปลกที่บ่อยครั้งฉันจะโดนเขม่นมองอยู่บ่อย ๆ สุดท้าย หัวหน้าของฉันก็เรียกฉันเข้าไป พูดอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ก็ลงท้ายด้วยการยื่นข้อเสนอเรื่องหนึ่งให้ฉัน มันคือเรื่องเสียว…และเพื่ออนาคตของฉันแล้ว ฉันไม่มีทางเลือกอะไรเลย ความตื่นเต้น ความกังวลเกิดขึ้นทันที

Read More

ได้คืบจะเอาศอก ได้อมจะเอาเย็ด ลักหลับลูกพี่ลูกน้องควยใหญ่ในงานปีใหม่รวมญาติ

เรื่องเสียว ได้คืบจะเอาศอก ได้อมจะเอาเย็ด ลักหลับลูกพี่ลูกน้องควยใหญ่ในงานปีใหม่รวมญาติ ฉันยังจำเรื่องเสียวที่เกิดขึ้นช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ไม่ลืมเลยจริงๆ ค่ะ เพราะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะใจกล้าและบ้าบิ่นได้มากขนาดนั้น ที่กล้าลงมือลักหลับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองแบบนี้ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นฉันทั้งเมา ทั้งเงี่ยน แถมไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวร้ายก็นอนควยตั้งอยู่ต่อหน้าต่อตาของฉัน มันเหมือนมีอะไรที่ช่างเหมาะเจาะกันมาเจอกันในวันนี้เลยจริงๆ ค่ะ ครอบครัวของเรานั้นเป็นครอบครัวใหญ่ ปีใหม่ที่ก็จะกลับมารวมตัวที่บ้านคุณทวด ซึ่ง “บี” ลูกพี่ลูกน้องของฉันเมื่อสองปีก่อนเขาไม่ได้มาเพราะว่าต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ปีนี้เขาเลยกลับมาเพื่อร่วมงานรวมญาติ

Read More