แก้วกานดา ตอนที่ 11 – อกหัก

แก้วกานดา ตอนที่ 11 – อกหัก

แก้วกานดา ตอนที่ 11 – อกหัก

        ผกายแก้ว นั่งเหม่อลอยครุ่นคิดนิ่งเงียบ เธอแอบชำเลืองมองไปทางขวาแล้วอมยิ้มมีความสุข ‘อาร์ต’ ยามหนุ่มรูปหล่อที่เพิ่งพรากความบริสุทธิ์ของเธอไปเมื่อคืนไม่ได้สังเกตเห็น เพราะว่าเขากำลังขับรถและสอดส่ายสายตามองดูถนนหนทางในยามเช้ามืด แก้วมองเขาด้วยสายตาลุ่มหลง ค่ำคืนที่ผ่านมานั้นถึงแม้ว่าเธอจะต้องอยู่ในเพิงสังกะสีผุเก่าไม่ปลอดภัย หากทว่าอาร์ตได้มอบความสุขหฤหรรษ์ซาบซ่านในแบบที่เธอไม่เคยคิดฝันให้จนเธออิ่มเอม

เขาปลดปล่อยความหื่นกระหายใส่เธอสี่ครั้ง เธอถึงจุดสุดยอดไปราวเจ็ดหรือแปดรอบ ค่ำคืนที่ผ่านมานั้นเธอได้นอนหลับไปจริง ๆ แค่เพียงไม่ถึงสามชั่วโมง
อีกทั้งยังหักโหมออกเรี่ยวแรงทั้งคืน เวลานี้เธอจึงยังรู้สึกง่วงงุนจนแทบทนไม่ไหว สองขาก็ปวดระบมจนเดินแทบไม่ไหว สุดท้ายเธอจึงต้องยอมให้ยามหนุ่มเป็นคนขับรถของเธอมาส่งถึงคอนโด

แก้วยกมือขึ้นแนบทรวงอกอวบอิ่มของตนเอง ความรู้สึกอบอุ่นวาบหวามแปลกประหลาดแล่นพล่านอยู่ในนั้น เธอไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้คือความรักหรือไม่ หากทว่าเธอไม่ปฏิเสธว่ายามหนุ่มคนนี้ได้กลายมาเป็นผู้ชายคนพิเศษในหัวใจเธอไปแล้ว ไม่ว่าเธอจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม

ถัดจากความรู้สึกวาบหวามนั้น แก้วก็แอบถอนหายใจด้วยความเงียบงัน เธอยอมรับว่าเขาปรนเปรอความสุขให้จนเธอแทบสำลัก หากทว่าเมื่อคิดถึงสิ่งที่กำลังจะตามมา แก้วก็เริ่มรู้สึกเคร่งเครียด ความเผลอเรอทำให้เธอลืมการป้องกันโดยสิ้นเชิง ยามหนุ่มปลดปล่อยใส่ตัวเธอถึงสี่ครั้งติดกัน ด้วยความสาวและความหนุ่มแน่นที่แข็งแรงของทั้งคู่ โอกาสที่เธอจะตั้งครรภ์จึงอาจเป็นไปได้

แก้วไม่ได้รู้สึกแย่กับการเสียสาว ยุคสมัยเช่นนี้การเสียสาวไม่ได้เป็นเรื่องต้องห้าม และเธอเองก็อยู่ในวัยทำงานที่สามารถดูแลตัวเองได้ หากทว่าสิ่งที่เธอรู้สึกแย่ก็คือ ความแตกต่างระหว่างตัวเธอและอาร์ต

สาวสวยขยับสายตาลงไปมองที่ชุดเครื่องแบบทำงานของอาร์ต ตอนนี้เขากำลังสวมใส่ชุดเครื่องแบบของพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่ายาม ซึ่งสิ่งนี้เองที่เธอกำลังรู้สึกเป็นกังวล เธอไม่ได้แบ่งแยกชนชั้นรุนแรง เธอไม่เคยพูดดูถูกใครในแง่การงานฐานะ หากทว่าการจะให้ตนเองแต่งงานอยู่กินกับคนที่มีฐานะต่างกันเกินไปนั้น เธอยังไม่พร้อมจะยอมรับความจริงข้อนี้นัก

เธอมีความฝันอยากเป็นที่หนึ่ง เธออยากเป็นผู้นำ ในรั้วโรงเรียน ในรั้วมหาวิทยาลัย เธอล้วนแล้วแต่เป็นที่หนึ่ง เมื่อจบการร่ำเรียนและมาทำงาน เธอก็เริ่มไต่เต้าเป็นผู้บริหารอายุน้อยอย่างรวดเร็ว เธอมั่นใจว่าด้วยความสามารถของเธอ อนาคตในอีกไม่กี่ปีจะต้องสดใสรุ่งโรจน์เหนือล้ำกว่าใคร

กระนั้นหากมีคนรับทราบว่า ผู้บริหารสาวมีสัมพันธ์สวาทกับยามหนุ่มในบริษัท ใครจะทราบว่าคนอื่นจะมองเธอด้วยสายตาอย่างไร ต่อให้ไม่มีใครกล้าพูดอะไร แต่ว่าสายตาของผู้คนก็เพียงพอแล้วที่จะกดดันให้เธอไม่สบายใจ อย่าว่าแต่ข่าวนี้อาจจะทำให้หน้าที่การงานของเธอสั่นคลอน มันจะกลายเป็นจุดอ่อนร้ายแรงที่สามารถโค่นล้มทำลายอนาคตของเธอได้อย่างรวดเร็วยิ่ง

“คุณแก้ว คอนโดนี้ใช่หรือเปล่าครับ”

อาร์ตหันมาส่งเสียงทักโดยไม่ได้ตั้งตัว แก้วจึงสะดุ้งโหยงตกใจ ยิ่งมองเห็นยามหนุ่มหล่อกำลังจ้องมองเรือนร่างของเธอด้วยสายตาแทะโลม เธอก็ยิ่งรู้สึกใจเต้นแรงหน้าแดงก่ำ สายตาของเขาสื่อออกมาอย่างชัดเจนว่า เขายังมีเรี่ยวแรงที่จะปรนเปรอมอบความสุขเสียวให้เธอได้อีก ขอแค่เพียงเธอเปิดทางให้เขาทำ

“… ใช่ … ใช่แล้ว จอดตรงนี้แหละ เดี๋ยวชั้นขับรถเข้าไปเอง”

แก้วรีบเบือนหน้าหลบสายตาชายหนุ่ม ก่อนจะส่งเสียงบอกเขาด้วยความประหม่า เธอเชื่อว่าเขายังสามารถมอบความสุขให้เธอได้อีกหลายครั้ง และเธอเองก็อยากลิ้มรสชาติเช่นนั้นอีก หากทว่าเธอเองที่เป็นฝ่ายบอกปัดปฏิเสธเขา เพราะนึกได้ว่าวันนี้เธอมีประชุมกับลูกค้าคนสำคัญในช่วงบ่าย

“ให้ผมไปส่งในคอนโดก็ได้ครับ คุณแก้วน่าจะยังขับรถไม่ไหว”

“ไม่เป็นไร ชั้นจะพยายาม แค่เจ็บระบมนิดหน่อย เดี๋ยวมีคนอื่นเห็นเข้าจะแย่ จอดตรงนี้เลยอาร์ต”

ชายหนุ่มแสดงท่าทีอยากช่วยเหลือ หากทว่าแก้วกลับรีบยืนกรานปฏิเสธทันที แน่นอนว่าเธอยังไม่อยู่ในสภาพร่างกายที่ดีนัก แต่เมื่อนึกไปว่าจะมีคนระแคะระคายความสัมพันธ์ระหว่างเธอและยามหนุ่ม เธอก็ยิ่งรู้สึกตื่นกลัวไม่กล้าพลั้งเผลอ เธอไม่มีทางยอมให้ใครรับรู้เรื่องนี้และฉุดดึงเธอลงมาจากท้องฟ้าเด็ดขาด

รถคันหรูจอดเลียบเข้าข้างทางโดยไม่เร่งรีบ แก้วหลบสายตาชายหนุ่มอีกครั้งเมื่อเขามองดูเธอ หากทว่าคราวนี้ไม่ใช่ความรู้สึกเขินอายแต่เป็นความรู้สึกตื่นกลัว เธอไม่แน่ใจนักว่าเข้าใจผิดหรือไม่ หากทว่าแววตาที่แสดงความผิดหวังออกมานั้น ทำให้เธอรู้สึกเหมือนว่าอาร์ตสามารถอ่านใจเธอได้ เธอรู้สึกเหมือนเขารับรู้ได้ว่าเธอไม่สะดวกใจที่จะให้ใครรับรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ

“คุณแก้วไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครแน่ ๆ ไม่งั้นเดี๋ยวคุณแก้วจะเสียชื่อเสียงเปล่า ๆ ยังไงไอ้อาร์ตคนนี้ก็เป็นแค่ยาม แต่คุณแก้วเป็นชนชั้นสูง”

อาร์ตพูดเสียงนุ่มก่อนจะจัดการเข้าเกียร์และใส่เบรกมือด้วยความคล่องแคล่ว กระนั้นในน้ำเสียงนุ่มนั้นกลับแอบแฝงไว้ด้วยความรู้สึกผิดหวัง แก้วจึงรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองตกวูบ เธอรีบหันไปมองหน้าชายหนุ่ม ริมฝีปากบางเผยออ้าทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างออกมา หากทว่าเพียงครู่เดียวเธอก็เม้มปากเข้าหากันและไม่ได้พูดสิ่งที่คิดจะพูดออกมา

“… เมื่อคืนคุณแก้วมีความสุขหรือเปล่า”

ชายหนุ่มเห็นสาวสวยนั่งนิ่งไม่พูดจา เขาจึงหันไปกล่าวพร้อมด้วยรอยยิ้ม แก้วซึ่งกำลังสับสนทำตัวไม่ถูกจึงหน้าแดงวูบร้อนผ่าว คำถามของเขาทำให้เธอนึกไปถึงรักเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ลีลารักของชายหนุ่มช่างเร่าร้อนรุนแรงเสียจนเธอแทบคลั่ง คำว่ามีความสุขออกจะน้อยเกินไปด้วยซ้ำ

“… อาร์ตลงไปได้แล้ว ชั้นจะรีบกลับห้อง บ่ายนี้ต้องไปประชุมอีก นายเองก็เถอะ วันนี้ก็ต้องไปทำงานด้วยเหมือนกันนะ”

แก้วไม่ยอมตอบคำ เธอหลบสายตาเขาอีกครั้งแล้วรีบพูดเปลี่ยนเรื่องด้วยท่าทีลนลาน หากทว่าคราวนี้ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยปละละเว้น เขาจัดการปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วรีบโน้มตัวเข้าไปหาโดยที่แก้วได้แต่ลืมตาโตตื่นตกใจ

“ผมรักคุณแก้ว เราแต่งงานกันนะครับคุณแก้ว ผมสาบานว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี ชีวิตนี้ผมจะรักคุณแก้วคนเดียว”

อาร์ตกล่าวเสียงหนุ่มและจ้องมองแก้วด้วยสีหน้าอบอุ่นจริงจัง แก้วรู้สึกหน้าร้อนวูบหัวใจเต้นระส่ำ เพียงครู่เดียวเธอก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขาโถมทับเข้าใส่และประกบปากจูบโดยไม่บอกกล่าว

“อืมมม …”

ความอบอุ่นที่โถมทับเข้าใส่ ความร้อนแรงของคำพูดและลีลารักที่บดบี้ใส่ริมฝีปากทำให้แก้วสติหลุดลอย เธอส่งเสียงครางอืมก่อนจะตวัดสองแขนไปกอดรัดร่างกำยำสมส่วนของอาร์ต ริมฝีปากบางเผยออ้าเปิดทางให้ลิ้นที่ปราดเปรียวราวกับงูของเขาสอดเข้ามาพัวพันแหย่แยงในโพรงปาก ไม่ว่าจะกี่ครั้ง จูบของเขาก็ยังคงร้อนแรงจนเธอหลงใหล

แก้วหลับตาพริ้มรับรสจูบของเขาแต่โดยดี จากนั้นเมื่อเขาเริ่มขยับมือไปขยำหน้าอกอวบอิ่ม ความเสียวซ่านก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างจนขนลุกซู่ เธอส่งเสียงครางในลำคอไม่หยุด ในขณะที่ฝ่ามือของเขายิ่งตะปบขยี้หนักหน่วงรุนแรงขึ้นทีละน้อย ท่าทีของเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเขาชื่นชอบคลั่งไคล้ความอวบหยุ่นในเนื้อตัวของเธอมากเพียงใด

แก้วตัวกระตุกสะท้านไม่หยุด เธอจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังของเขาแล้วลูบไล้ไปมาด้วยอารมณ์อันเร่าร้อน ลีลารักและร่างกายของเขาสามารถกระตุ้นอารมณ์รักของเธอได้เสมอ ยิ่งโดนเขาสอดมือลอดชายเสื้อมาขยี้บีบเคล้นที่ปลายถัน แก้วก็ต้องห่อตัวสูดปากด้วยความเสียวซาบซ่าน

เสียงครางของเธอหลุดออกมาโดยไม่อาจปิดบังเมื่อเขาปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ ใหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนไปซุกไซร้ที่ซอกคอขาวผ่องสลับกับใบหู แก้วรู้สึกร้อนผ่าวตรงท้องน้อย ร่างกายของเธอกำลังเรียกร้องหาความสุขเหมือนเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ดังนั้นเมื่อเขาลูบมือลงไปขยี้เนินสวาทที่ชุ่มชื้น เธอจึงไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านขัดขืนเลยแม้แต่น้อย

สะโพกผายส่ายเด้งตามจังหวะของปลายนิ้ว กางเกงในของเธอยิ่งมาก็ยิ่งเปียกชุ่มเพราะอารมณ์ร้อนรักที่กำลังพุ่งทะยาน แก้วกอดเขาและลูบไล้ฝ่ามือไปทั่วแผ่นหลังของเขา ก่อนจะขยับขึ้นมาจิกลงไปที่หลังศีรษะแล้วกดเข้าหาร่างตนเอง เพราะว่าเสื้อของเธอโดนถลกขึ้นจนเห็นก้อนเนื้อขาวอวบเต่งตึงเด้งทะลักออกมาจากยกทรง และเขาก็กำลังซุกหน้าลงไปอ้าปากงับความขาวอมชมพูจนเห็นเส้นเลือดบาง ๆ ที่อยู่ใต้ผิวหนัง

เรือนร่างบางกระตุกสะท้านเฮือกไม่หยุด ทรวงอกของเธอทั้งโดนขยำขยี้และดูดเลียด้วยความเมามัน เนินสวาทด้านล่างก็โดนเขาสอดนิ้วแหย่แยงเข้าไปขยับยุกยิก ความเสียวแปลบปลาบจึงแล่นพล่านทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับกำลังได้ขึ้นสวรรค์

“แต่งงานกับผมนะครับคุณแก้ว”

ชายหนุ่มละปากจากทรวงอกภูเขาไฟ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตาเธอแล้วถามพร้อมกับลมหายใจร้อนผ่าว อารมณ์ของเขาเองก็กำลังเดือดพล่านไม่แพ้ผกายแก้ว คำขอแต่งงานของเขาฟังดูจริงจังไม่เหมือนหลอกลวง ความอิ่มเอมทั้งทางกายและทางใจทำให้แก้วรู้สึกอยากจะพยักหน้าและรับคำขอแต่งงานของเขา

น่าเสียดายที่เวลานั้นโทรศัพท์มือถือของแก้วกลับส่งเสียงดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน แก้วจึงสะดุ้งโหยงตื่นจากภวังค์ เธอรีบผลักไสอาร์ตออกไปก่อนจะรีบจัดเสื้อผ้าของตนเองพร้อมกับรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับ

“ฮัลโหล … อืม เมื่อคืนงานเยอะ เลยไปนอนบ้านเพื่อนน่ะ กลับใกล้ถึงบ้านแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวเจอกัน … อ้าว จะไปมหาลัยแล้วเหรอ ทำไมรีบออกจังเลย อืม ได้ งั้นเจอกันตอนเย็น … บายนะน้องรัก”

แก้วพยายามปรับอารมณ์และพูดตอบ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ ส่วนอีกข้างนั้นขยับดึงเสื้อผ้าให้ดูเรียบร้อย อาร์ตซึ่งอยู่ด้านข้างจึงได้แต่ส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง เพราะโดนขัดจังหวะในช่วงเวลาสำคัญ และเมื่อแก้วคุยโทรศัพท์เรียบร้อย เธอก็ปรับสีหน้าเป็นเรียบเฉย และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นเชิงคำสั่ง

“… อาร์ต ลงไปก่อนเถอะ”

อาร์ตถอนหายใจอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะขยับลงไปจากรถแล้วเดินอ้อมลงไปยืนบนทางเท้า เขายืนมองดูร่างอวบอิ่มน่าฟัดของแก้วขยับข้ามจากที่นั่งทางซ้ายย้ายไปที่นั่งคนขับซึ่งอยู่ด้านขวา แก้วใช้เวลามากพอควรในการย้ายร่างตนเอง เนื่องจากสภาพร่างกายยังไม่ดีนัก

เมื่อขยับได้เรียบร้อย แก้วก็นั่งเงียบไม่ได้เร่งรีบขับรถออกไป และเธอก็ไม่ได้หันมามองชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ด้านข้าง หากทว่าอาร์ตก็ยังคงยืนรออยู่ตรงนั้นด้วยความอดทน ดูเหมือนเขาจะรับรู้ได้ว่าแก้วมีอะไรบางอย่างอยากพูดออกมา เพียงแต่เธอยังคงคิดตัดสินใจอยู่

“… อาร์ต”

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ แก้วจึงค่อยขยับมือกดเลื่อนหน้าต่างด้านซ้ายลงแล้วหันไปส่งเสียงด้วยน้ำเสียงเหมือนตัดสินใจได้แล้ว อาร์ตก้มตัวลงเล็กน้อยแล้วมองสบสายตากับแก้วทำท่าเหมือนรอคอยคำตอบ แก้วมองเขาแล้วนิ่งเงียบไปอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะแสดงสีหน้าลำบากใจ แล้วตัดสินใจพูดสิ่งที่คิดออกมา

“เรื่องของเรา … มันเป็นไปไม่ได้ … เราแตกต่างกันเกินไป เรื่องเมื่อคืนถือว่าแล้วกันไป แต่เราจะไม่ทำอะไรแบบนี้กันอีก … ลาก่อน”

แก้วพูดทิ้งท้ายไว้เช่นนี้แล้วก็ปิดกระจกหน้าต่างเหยียบคันเร่งพารถคันงามพุ่งไปด้านหน้า อาร์ตซึ่งยืนรอคอยได้แต่ทอดถอนหายใจด้วยสีหน้าปวดร้าวผิดหวัง กระนั้นเขาก็ไม่ได้คิดจะเหนี่ยวรั้งหรือไล่ตามแก้วไป เขาเพียงแค่ยืนมองดูจนรถคันงามเลี้ยวหายลับเข้าไปในตัวอาคารที่พัก จากนั้นเขาจึงค่อยส่ายหน้าและทอดถอนใจ แล้วหันหน้าเดินไปอีกทางหนึ่ง ท่าทีของเขานั้นถึงแม้จะแสดงท่าทีผิดหวัง หากทว่าดูเหมือนว่าเขาจะได้เตรียมใจคาดการผลลัพธ์เช่นนี้ไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว

แก้วนั่งเหม่อลอยนิ่งเงียบเมื่อขับรถจอดเข้าซองเรียบร้อย ดวงตาของเธอกลายเป็นเปียกชุ่ม น้ำตาหลั่งไหลออกมาเป็นสายจนหมดสวย หากทว่าเธอไม่คิดจะเช็ดมันออก เธอเพียงนั่งนิ่งส่งเสียงสะอื้นปล่อยให้น้ำตาไหลพรากออกมาเช่นนั้น

เธอไม่ทราบว่าทางที่เลือกนั้นถูกต้องหรือไม่ เธอทราบแค่ว่าเธอได้ตัดสินใจแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะมีความสุขเมื่ออยู่กับเขา หากทว่าเขาและเธอนั้นแตกต่างกันมากเกินไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะอยู่กินแต่งงานกับเขาในอนาคต … ไม่ว่าจะอย่างไร เธอก็ได้ตัดสินใจแล้ว

……………………………….

กานต์ รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบหัวใจเต้นแรง เธอหยุดยืนนิ่งชะงักอยู่หน้าประตูลิฟต์ ผู้ชายวัยทำงานสองคนที่ยืนอยู่ก่อนต่างพากันเงยหน้าและถลึงตามองดูเธอ สายตานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหายของเพศชายจนเธอรู้สึกประหม่า เธอจึงยืนนิ่งไม่กล้าเดินเข้าไป อีกทั้งยังรีบหมุนตัวหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องพักทันที

โดยปกตินั้นเธอเองก็ขี้อายอยู่แล้ว ความสาวความสวยของเธอทำให้เธอโดนเพศตรงข้ามจ้องมองบ่อยครั้งจนเริ่มเคยชิน หากทว่าสายตาที่จ้องมองดูเธอในวันนี้ร้อนแรงกว่าปกติหลายเท่า กานต์จึงต้องถอนตัวกลับไปตั้งหลักในห้องเพื่อปรับอารมณ์

เธอพยายามครุ่นคิดว่าทำแบบนี้ดีหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็พยายามข่มกลั้นความอาย แล้วเดินไปเข้าลิฟต์ซึ่งโชคดีที่คราวนี้ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง เธอก็ยากจะหลบสายตาของผู้คน เวลานี้เธอจึงรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวราวกับเพลิงไฟ

ฝ่ามือขาวเนียนขยับขึ้นมาทำท่าจะแตะกรอบแว่นที่สวมใส่เป็นประจำเพื่อแก้เขิน หากทว่าคราวนี้เธอควานหาแว่นบนใบหน้าไม่เจอ เธอจึงหลับตาสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อเรียกความกล้า วันนี้เธอได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง เธอไม่ได้สวมใส่แว่นสีชมพูกรอบหนาปิดบังใบหน้าอีกต่อไป แม้แต่เครื่องแต่งกายก็ไม่ได้เป็นแบบหลวมโพรกมิดชิดเป็นป้าเฉิ่มอีก

วันนี้เธอเปลี่ยนมาสวมใส่ชุดนักศึกษารัดสั้นตามสมัยนิยม จากที่เคยสวมใส่เสื้อเนื้อหนาหลวมโพรก เปลี่ยนมาเป็นเสื้อเนื้อบางฟิตจนกระดุมปริ ความใหญ่โตของทรวงอกดันสาบเสื้อจนสามารถมองลอดร่องกระดุมเข้าไปเห็นยกทรงสีดำลายลูกไม้แบบครึ่งเต้าได้ไม่ยาก กระโปรงที่เคยสวมแบบยาวถึงข้อเท้า ก็เปลี่ยนมาเป็นกระโปรงฟิตรัดสั้นเต่อจนเกือบเห็นกางเกงในสีดำลายลูกไม้ และสาเหตุที่เธอเลือกเปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นนี้ ก็เพราะว่าเธออยากทำให้ผู้ชายคนหนึ่งหลงเสน่ห์เธอให้ได้

กานต์สลัดภาพป้าเฉิ่มกลายเป็นสาวเปรี้ยวภายในข้ามคืน ความสวยสง่าที่มีอยู่แล้วจึงยิ่งเฉิดฉายเปล่งประกายจนเพศตรงข้ามที่เดินผ่านแทบลืมหายใจ ไม่ว่าใครเมื่อได้เห็นกานต์ในเวลานี้ ต่างก็ต้องรู้สึกได้ถึงอารมณ์ความต้องการ ไม่ว่าใครก็ต้องแอบนึกฝันว่าหากได้เสพสมกับนางฟ้าแสนสวยคนนี้สักครั้งจะสุขสมหฤหรรษ์ถึงเพียงไหน

“… แย่จัง พี่เขาทำไมไม่รับสายนะ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว … พี่แก้วก็ด้วยโทรหาทั้งคืนไม่รับ เพิ่งมารับตอนเช้า”

นักศึกษาสาวส่งเสียงบ่นอุบขณะก้มลงมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เธอพยายามโทรหาแก้วพี่สาวคนโตตั้งแต่เมื่อคืนเพราะเป็นห่วงที่อีกฝ่ายไม่ได้กลับเข้าห้อง กว่าจะติดต่อพี่สาวได้ก็เป็นเช้าตรู่ของอีกวันแต่ตอนนี้เธอก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาพี่สาว

ส่วนยามหนุ่มหล่อที่เธอหลงรักนั้นเธอยังไม่สามารถติดต่อได้ เธอจึงแอบรู้สึกผิดหวังเกรงว่าวันนี้เธอจะไม่ได้อวดความเปลี่ยนแปลงให้เขาเห็น กานต์เบ้ปากด้วยความผิดหวัง ก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือโยนเข้าไปในกระเป๋าถือ เธอยืนลังเลเล็กน้อยที่ริมถนน เพราะไม่แน่ใจว่าวันนี้ควรนั่งรถแท็กซี่หรืออาศัยรถไฟฟ้าไปมหาวิทยาลัย แต่ระหว่างที่ครุ่นคิดอยู่นั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเงาร่างคุ้นตาของใครบางคนเข้าก่อน

สาวสวยเพ่งตามองแล้วกระพริบตาปริบ ๆ เธอรู้สึกไม่อยากเชื่อว่าเรื่องราวจะบังเอิญถึงเพียงนี้ เธอพยายามติดต่อหาเขาแทบแย่แต่ติดต่อไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ชายคนนั้นกลับมานั่งอยู่ตรงป้ายรถโดยสารประจำทางริมถนนใกล้คอนโด ดูเหมือนว่าสวรรค์จะช่วยให้เธอได้เจอกับเขา

กานต์มองดูเพื่อให้แน่ใจ แล้วอมยิ้มมีความสุข เธอยกมือขึ้นเสยผมเพื่อเรียกความมั่นใจ จากนั้นเธอจึงค่อยก้าวเท้าเดินเข้าไปหาชายหนุ่มด้วยท่วงท่าเจตนาอวดเรือนร่างเหมือนนางแบบ แต่สุดท้ายก็ต้องรู้สึกผิดหวังเพราะชายหนุ่มเหมือนกำลังใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาไม่ได้สนใจมองดูเธอเลยด้วยซ้ำ เธอจึงรู้สึกหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอายขึ้นมา

สาวสวยเดินเข้าไปใกล้มากแล้ว หากทว่ายามหนุ่มยังคงนั่งเหม่อลอยเหมือนผิดหวังโศกเศร้า รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของกานต์จึงเริ่มเลือนหายไป เธอมองดูเขาด้วยความรู้สึกเป็นห่วง แต่ยังไม่ทราบว่าสมควรทำอย่างไร เธอจึงค่อย ๆ ขยับไปนั่งข้างเขา โดยที่เขายังคงไม่ทันรู้ตัว

“พี่อาร์ต … เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

กานต์นั่งมองอาการเหม่อของชายหนุ่มอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจยื่นมือซ้ายไปจับมือของเขาแล้วพูดทัก เวลานี้เธอรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่ทราบว่าทำไม เธอทราบแค่ว่าไม่ชอบที่เห็นเขาทำท่าแบบนี้

“… อ้าว … กานต์เหรอ?”

อาร์ตสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เขาหันไปมองดูใบหน้าของกานต์ด้วยท่าทีงุนงงเหม่อลอย เขาทำท่าครุ่นคิดวูบใหญ่ ก่อนจะเรียกชื่อกานต์ออกมา เพราะว่าวันนี้นอกจากกานต์จะไม่สวมแว่นแล้ว เธอยังแต่งหน้าบาง ๆ เอาไว้ด้วย ความเปลี่ยนแปลงนี้จึงทำให้เขาเกิดความลังเลไม่แน่ใจ

“กานต์เองค่ะ พี่อาร์ตเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”

กานต์ยิ้มยินดีที่อีกฝ่ายหันมาคุยด้วย แต่แค่วูบเดียวรอยยิ้มก็เลือนหาย เพราะว่าเขาแค่มองหน้าเธอเพียงแวบเดียวแล้วก็หันไปนั่งเหม่อลอยเช่นเดิม เสน่ห์และความเปลี่ยนแปลงที่เธออุตส่าห์สร้างมาเพื่อให้เขาชื่นชมนั้นไม่โดนสังเกตเห็นแม้แต่น้อย แต่ความผิดรู้สึกผิดหวังนั้นเพียงแค่เล็กน้อย เวลานี้เธอเริ่มรู้สึกกังวลกับความไม่สบายใจของอาร์ตมากกว่า เธออยากทราบว่าอะไรที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งถึงกับนั่งเหม่อลอยได้ขนาดนี้

อาร์ตนั่งนิ่งอยู่เนิ่นนาน แต่กานต์ก็ใจเย็นนั่งนิ่งรอคอยอยู่ด้านข้างโดยไม่ปริปากบ่นแม้สักครึ่งคำ สุดท้ายอาร์ตจึงค่อยยอมบอกกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด

“… อกหักน่ะ”

กานต์คาดเดาคำตอบร้อยแปดพันเก้า หากทว่าเธอไม่ได้คาดเดาคำตอบเช่นนี้ออกมาจากปากของเขา เธอจึงชะงักเหมือนโดนน้ำเย็ดสาดใส่ ในความคิดของเธอนั้นถึงแม้พี่อาร์ตจะไม่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่ว่าหัวใจของเธอนั้นได้มอบให้เขาไปหมดแล้ว

ในสายตาของเธอนั้นเขาคือคนรักเพียงคนเดียว หากทว่าคำตอบของเขาได้ทำให้เธอตระหนักถึงความจริงที่ว่าเธอกับเขานั้นเพียงคบหากันในลักษณะของคู่นอนเชิงชู้สาวมากกว่าคู่รัก คำว่าอกหักของเขาย่อมไม่ได้หมายถึงเธอ และย่อมหมายถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารัก

“… อก … อกหัก … อกหักเหรอคะ”

นักศึกษาสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเพราะรู้สึกจุกเจ็บ เธอรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลเอ่อออกมา หากทว่าเธอไม่ได้กล่าวโทษเขา เพราะเขายังไม่เคยรับเธอเป็นคนรัก อีกทั้งยังตกลงกันอย่างชัดเจนว่าจะคบหากันในรูปแบบที่เรียกว่ากิ๊ก เป็นเธอเองที่เผลอคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะหลงเสน่ห์และมองเธอเป็นหญิงสาวคนรัก

“อืม … อกหัก … ผมขอแต่งงานไป แต่เธอบอกให้ลืมเรื่องความสัมพันธ์ของเรา … แต่ก็เข้าใจได้นะ ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนจะไปหลงรักไอ้อาร์ต ยามกระจอกคนนั้น”

อาร์ตถอนหายใจแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ กานต์รับฟังด้วยความรู้สึกอิจฉาผู้หญิงคนนั้น เธอคิดว่าหากเขาขอเธอแต่งงาน เธอคงจะรีบตอบรับคำขอของเขาแทบจะในทันที แต่น่าแปลกที่เธอฟังน้ำเสียงของเขาแล้ว เธอรู้สึกเหมือนว่า ‘ไอ้อาร์ต’ ในคำพูดนั้นไม่ได้หมายถึงตัวเขาเอง เขาทำท่าเหมือนกำลังพูดถึงใครอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่ตัวจริงของเขา

“พี่อาร์ต … มีนะคะ ผู้หญิงที่หลงรักพี่อาร์ต หลงรักยามคนนี้ ถึงจะเจอกันแค่ไม่นาน ถึงจะแทบไม่รู้จักกัน แต่อย่างน้อยก็มีผู้หญิงหนึ่งคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างให้พี่อาร์ตนะคะ”

กานต์สลัดความสงสัยนั้นออกไป ก่อนจะบีบกุมมือของชายหนุ่มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแฝงอารมณ์พลุ่งพล่าน อาร์ตซึ่งรับรู้ได้ถึงอารมณ์ร้อนแรงนั้นจึงหันมามองสบตากับเธอ และเมื่อยิ่งสบตากันความเหม่อลอยในดวงตาก็เริ่มเลือนหายไป สติของเขาเหมือนจะกลับคืนมาแล้ว หากทว่าเค้าลางของความโศกเศร้าเสียใจนั้นยังคงอยู่

“… กานต์ … กานต์เป็นผู้หญิงที่ดี กานต์ไม่ควรลดตัวลงมายุ่งกับไอ้อาร์ตยามกระจอกที่ไม่มีอะไรคนนั้นหรอก … กานต์ไปเถอะ”

อาร์ตถอนหายใจออกอีกครั้ง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น เขาย่อมทราบว่าเธอต้องการสื่ออะไรออกมา หากทว่าในเวลาเช่นนี้เขายังไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนทนากับใคร เขาจึงผลักมือนุ่มนิ่มของกานต์ออกและพูดสื่อความหมายขอแยกตัวออกไป

กานต์รู้สึกใจหายวูบที่โดนออกปากไล่ หากทว่าแรงผลักดันจากเบื้องลึกของจิตใจทำให้เธอรู้สึกกล้าบ้าบิ่นขึ้นมา จากเด็กสาวขี้อายที่ไม่กล้าแสดงออก วันนี้เธอยอมสะกดข่มทุกความเขินอาย เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่งลงไปบนตักของเขา ก่อนจะเสนอปากจูบท่ามกลางท่าทีแตกตื่นของผู้คนในป้ายรถโดยสารประจำทาง

สาวสวยหลับตาพริ้มกอดและจูบเขาแนบแน่น เธอทราบว่ามีคนอื่นมองดูอยู่ หากทว่าเธออยากสื่ออารมณ์ความรู้สึกที่อัดอั้นออกไปให้เขารับทราบ ขอเพียงแค่เขาเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการสื่อ ต่อให้ต้องทำเรื่องน่าอับอายมากกว่านี้อีกสักร้อยเท่าพันเท่าเธอก็ยังยินดี

อาร์ตนั่งนิ่งเบิกตากว้างด้วยความตื่นตะลึง เขาไม่คิดว่ากานต์จะกล้าทำเรื่องแบบนี้ในที่สาธารณะ ความรู้สึกแรกของเขาจึงเป็นความแตกตื่นตกใจ หากทว่าเมื่อนักศึกษาสาวสวยยังคงหลับตาพริ้มกอดจูบเขาด้วยความรักต่อไป หัวใจของเขาก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นวาบหวาม เขาทราบแล้วว่ากานต์กำลังต้องการบอกอะไรกับเขาผ่านทางการกระทำ เธอไม่ใส่ใจว่าเขาเป็นเพียงแค่ยามรักษาความปลอดภัย เธอยินดีที่จะกระทำเรื่องน่าอายเพียงเพื่ออยากให้เขาเข้าใจเรื่องนี้

ชายหนุ่มนั่งนิ่งเงียบรับรสจูบหอมหวานของสาวสวย สติของเขาเริ่มแจ่มใสจากความเศร้าอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเขาจึงเริ่มยกมือขึ้นกอดรัดร่างนุ่มนิ่มและเผยอปากจูบแลกลิ้นกับกานต์ สาวสวยครางอืมเผยอปากรับลีลาจูบอันเร่าร้อนของเขา เธอกอดเขาแนบแน่นซึมซับความวาบหวิวที่เขาส่งผ่านมาให้ผ่านรสจูบอีกครู่ใหญ่

“… ขอบใจนะกานต์”

อาร์ตถอนจูบออกและกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามองกานต์ซึ่งกำลังแสดงสีหน้าเคลิบเคลิ้มแดงก่ำ ก่อนจะผลักไสเธอออกจากอ้อมกอด เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะมีใครถ่ายคลิปแล้วไปเผยแพร่ ซึ่งจะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาได้

กานต์ขยับตัวลุกขึ้นด้วยท่าทีเกร็ง ๆ เธอมองไปโดยรอบแวบหนึ่ง และเมื่อเห็นว่าสายตาของผู้คนนับสิบกำลังมองมา ใบหน้าของเธอก็ร้อนวูบจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองสบตากับใคร เธอเองก็ยังไม่นึกว่าตัวเองจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ ตอนนี้พอได้สติขึ้นมา เธอจึงรู้สึกอับอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนีหายไป

“ย้ายที่ก่อนเถอะ”

อาร์ตเกือบหลุดปากส่งเสียงหัวเราะออกมา แต่เขาก็ยังมีสติจับมือกานต์แล้วดึงเธอออกมาจากฝูงชน ตอนนี้ทั้งคู่จึงเดินออกมาจากที่เกิดเหตุและมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าคอนโดของกานต์ ความเขินอายทำให้กานต์เอาแต่ก้มหน้างุดไม่กล้ามองสบตากับเขาไปอีกนานพอดู

“เพิ่งสังเกต … วันนี้กานต์สาวแว่นแต่งตัวเฉิ่มคนเดิมหายไปไหน แปลงร่างกลายเป็นกานต์นางฟ้าสุดเซ็กซี่เสียแล้ว แต่งตัวได้สวยมากเลยนะกานต์ หนุ่ม ๆ มองกันตาเป็นมันเลย”

ชายหนุ่มเริ่มจะหายจากอารมณ์เศร้า เวลานี้เขาจึงมีสติมองดูกานต์อย่างละเอียดกว่าเดิม และภาพที่เห็นก็ทำให้อาร์ตต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เขาแอบมองสำรวจเนินอกขาวเนียนที่ตูมตั้งราวกับภูเขา ก่อนจะมองต่ำลงไปที่ท่อนขาขาวเรียวงาม ความขาวโพลนของผิวพรรณทำให้เขารู้สึกลำคอแห้งผาก ร่างกายนี้เขาเคยสำรวจล่วงล้ำมาแล้วก็จริง หากทว่าเมื่อเธอเปลี่ยนรูปแบบการแต่งกาย เขาก็พบว่าเสน่ห์ที่ทอประกายออกมานั้นดูเหมือนจะเจิดจ้าร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม

กานต์เหลือบขึ้นมองสายตาแวววาวของอาร์ตแล้วแอบยิ้ม เธอรู้สึกอายก็จริง หากทว่าความรู้สึกอยากอวดให้เขาเห็นนั้นรุนแรงกว่า เธอจึงยืนนิ่งปล่อยให้เขามองสำรวจเท่าที่เขาจะพอใจ ก่อนจะพยายามข่มกลั้นความอายพูดสนทนากับเขา

“กานต์ลองเปลี่ยนตัวเองดู … พี่อาร์ตคิดว่ายังไงคะ”

“สวยมาก สุดยอดเลยล่ะ เห็นแล้วรู้สึกอยาก …”

ชายหนุ่มกล่าวชมก่อนจะพูดทิ้งท้ายด้วยประโยคแฝงความหมายลามก กานต์ยิ้มรับคำชมจนเห็นไรฟันขาวสะอาด และพร้อมกันนั้นเธอก็เริ่มหายใจแรงขึ้น เธอทราบว่าเขาเจตนาพูดเรื่องอะไร และเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ภาพฉากรักร้อนแรงวาบหวามก็ย้อนกลับเข้ามาในห้วงความคิดจนรู้สึกขนลุกวูบด้วยความวาบหวิว

“… อยากทำอะไร ก็ทำซิคะ สำหรับพี่อาร์ต กานต์ยอมทุกอย่าง”

กานต์เงยหน้ามองชายหนุ่มตาเยิ้ม เสน่ห์ตามธรรมชาติของเธอเปล่งประกายจนชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เป้ากางเกงของเขาเริ่มพองตัวแข็งเป็นลำยาวขึ้นมาอย่างรวดเร็วทั้งที่เมื่อครู่เขายังอยู่ในห้วงอารมณ์ผิดหวังเสียใจ

“… กานต์ไม่มีเรียนเหรอวันนี้”

“มีซิคะ แต่ว่าโดดเรียนบ้างก็ได้ พี่ล่ะค่ะต้องไปทำงานหรือเปล่า”

กานต์ตอบแล้วแลบลิ้นเหมือนเด็กน้อยที่รู้ตัวว่าทำผิด แต่ก็ยังคิดจะทำต่อไป จากนั้นสายตาของเธอก็มองสำรวจไปที่เครื่องแบบยามของอาร์ต เธอทราบได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเองน่าจะกำลังเดินทางไปทำงานเช่นกัน

“… จริง ๆ ก็ควรจะไปอยู่หรอก แต่วันนี้คงไม่มีอารมณ์ทำงาน โดดสักวันก็แล้วกัน”

“จะดีเหรอคะพี่อาร์ต หัวหน้าพี่จะว่าเอาหรือเปล่า”

กานต์รู้สึกยินดีที่อาร์ตมีท่าทีจะลาเพื่อมาอยู่กับเธอ หากทว่าในเวลาเดียวกันนั้นเธอกลับเป็นห่วง เพราะเธอทราบว่างานระดับล่างนั้นไม่ใช่อยากลาก็ลาได้ ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนปรับเงิน หรือไล่ออกได้

“ลางานพอได้อยู่หรอก … ว่าแต่กานต์แน่ใจแล้วเหรอ”

“แน่ใจอะไรคะ?”

“ก็ … กานต์สวย แล้วก็ดูเป็นลูกคุณหนู กานต์มาเดินกับไอ้อาร์ตที่เป็นยามจน ๆ แบบนี้ไม่รู้สึกอายใครเหรอ”

ชายหนุ่มถามด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ น้ำเสียงนั้นแฝงอารมณ์ความรู้สึกผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด กานต์จึงเข้าใจทันทีว่าเขาคงจะเพิ่งอกหักจากผู้หญิงสักคนเพราะเรื่องศักดิ์ฐานะทางสังคม

เธอมองสบตากับเขาแต่ไม่ได้พูดตอบคำถาม เธอไม่คิดจะตอบด้วยคำพูด หากแต่คิดจะตอบด้วยการกระทำ ตอนนี้เธอจึงขยับเดินเข้าไปหา ก่อนจะเขย่งเท้า แล้วเงยหน้าจูบปากกับเขาแผ่วเบาอีกหนึ่งครั้งท่ามกลางสายตาผู้คน รสจูบในครั้งนี้แม้จะแผ่วเบานุ่มนวล หากทว่าความหมายที่แฝงอยู่ในการกระทำนั้นมีน้ำหนักมากมายจนชายหนุ่มรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ เธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่สนใจเรื่องฐานะของเขา

“เชื่อหรือยังคะพี่อาร์ต ถ้ายังไม่เชื่อกานต์จะพาไปที่ห้องนอนของกานต์ก็ได้”

กานต์พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปฉุดดึงชายหนุ่มให้เดินตามเข้าไปในอาคารที่พัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตัวอาคารต่างพากันมองดูสาวสวยคนนี้ด้วยความงุนงง ก่อนหน้านี้ราวสิบนาทีที่แล้วนักศึกษาสาวแสนสวยคนนี้เพิ่งออกมาเพื่อไปมหาวิทยาลัย หากทว่าสิบนาทีถัดมาเธอเดินกลับเข้ามาพร้อมกับผู้ชายอีกหนึ่งคน และผู้ชายคนนั้นยังแต่งกายเครื่องแบบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคล้ายพวกตนเองเสียด้วย

“ในนี้มีสี่ห้องนอน สามห้องน้ำ กานต์อยู่กับพี่สาวน้องสาวคนละห้อง อีกห้องเอาไว้เผื่อวันไหนพ่อกับแม่มาเยี่ยม ส่วนห้องนี้ก็ห้องของกานต์เองค่ะ”

กานต์พูดแนะนำขณะจูงมืออาร์ตเดินเข้าไปในห้อง ท่าทางเหมือนเด็กขี้อวดของกานต์ทำให้อาร์ตอมยิ้มและทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี เขาเดินเข้าไปในห้องนอนที่ตกแต่งด้วยสีสันโทนสบายตา ภายในห้องค่อนข้างสะเอียดเรียบร้อย บนโต๊ะมีหนังสือเรียน และมีหนังสือทำอาหาร บางจุดในห้องมีกระถางต้นไม้ขนาดเล็กประดับแต่งไว้อย่างสวยงาม

“ห้องสวยดีนะกานต์ สมแล้วกับที่บอกว่าชอบปลูกต้นไม้”

ชายหนุ่มกล่าวชมพร้อมกับขยับเข้าหาใช้มือโอบเอวคอดกิ่วเหมือนนาฬิกาทรายของกานต์ เธอยิ้มรับและโอนอ่อนผ่อนตามปล่อยให้เขารวบร่างเข้าไปโอบกอดแต่โดยดี

“พี่อาร์ตมือซนอีกแล้ว ไหนบอกว่าอกหัก ยังเศร้าอยู่”

“เรื่องเศร้าพักไว้ก่อน ตอนนี้มาทำเรื่องมีความสุขดีกว่า ว่าแต่ห้องติดกันแบบนี้ไม่กลัวพี่สาวน้องสาวได้ยินเสียงครางของกานต์เหรอ”

อาร์ตตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะขยับโน้มหน้าไปกระซิบพ่นลมใส่ใบหูจนสาวสวยขนลุกวูบ กานต์หลับตาพริ้มส่งเสียงครางอืมปล่อยให้เขาจูบใบหูและซุกไซร้ลำคอขาวโพลน ก่อนจะแอ่นอกอวบเข้ารับฝ่ามือที่ลูบสัมผัสลงบนทรวงอกจากด้านนอกเสื้อนักศึกษา

“ถ้ากานต์ส่งเสียงดังจนข้างห้องได้ยิน พี่น่ะแหละจะอดทำต่อ”

“จริงด้วย แต่ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวค่อยหาอะไรปิดปากเอาไว้ก็ไม่มีเสียงดังแล้ว … กานต์นมใหญ่เนื้อแน่นเด้งดีจัง ยิ่งบีบก็ยิ่งมันมือ

“อือ … พี่อาร์ต … เสียวดีจัง … อืม”

เสียงครางเริ่มหลุดออกมาจากปากของนักศึกษาสาว ชายหนุ่มขยับเปลี่ยนท่าไปยืนประกอบกอดจากด้านหลัง ผมยาวสลวยสีดำโดนปัดไปด้านข้าง จากนั้นจมูกโด่งคมสันก็ซุกลงไปจูบสูดดมความหอมของกลิ่นกายสาว สองมือของเขาขยับไปตะปบขยำขยี้ใส่ทรวงอกจนร่างงามกระตุกสะท้าน ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มยุบเข้าตามแรงบีบขยำส่งผ่านความซาบซ่านให้หญิงสาว ก่อนจะเด้งสะท้านด้วยความอวบหยุ่นกลับไปคงรูปเดิมเมื่อเขาปล่อยมือ คงเหลือไว้ก็แต่เพียงรอยยับยู่บนเสื้อนักศึกษาสีขาวเนื้อบางเป็นหลักฐานของการกระทำ

ลีลารักของอาร์ตทำให้นักศึกษาสาวสูดปากครางดังขึ้นทีละน้อย กระดุมเสื้อนักศึกษาโดนปลดเปลื้องออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ฝ่ามือหยาบหนาจะสอดมุดลอดร่องเสื้อเข้าไปบีบขยี้สัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ ปลายถันสีชมพูอ่อนโดนบิดบี้ทึ้งดึงจนแข็งชูชันขึ้นมาเป็นเม็ด กานต์เสียววูบวาบจนขนลุกไปทั่วทั้งตัว ความรู้สึกหฤหรรษ์แบบนี้เองที่เธอหลงใหลจนหัวปักหัวปำ

เพียงครู่เดียวมือปลาหมึกของเขาก็ปลดเปลื้องยกทรงสีดำแบบครึ่งเต้าหลุดลุ่ยออกจากร่างบาง เสื้อนักศึกษายังคงค้างอยู่หากทว่ากระดุมทุกเม็ดโดนปลดออกแหวะอ้าเปิดเผยความงามของทรวงเต้าเร้าเสน่ห์ เนื้อขาวโพลนโดนปลายนิ้วทั้งสิบบีบขยำขยี้รีดเร้นจนทั่วทุกตารางนิ้ว โดยเฉพาะตรงตำแหน่งปลายถันที่โดนเขาเขี่ยเล่นแบบระรัวจนกานต์เด้งสะท้านเฮือกด้วยความเสียวรอบแล้วรอบเล่า

ขณะที่สาวสวยกำลังเสียวซาบซ่านแทบขาดใจ ชายหนุ่มก็อดคิดเปรียบเทียบระหว่างสองสาวแสนสวยไม่ได้ แก้วอาจจะเป็นผู้หญิงในฝันที่เขาหลงรัก แก้วเป็นผู้หญิงที่อาร์ตเคยคิดว่าสวยที่สุด และเขาลิ้มลองความหอมหวานของเรือนร่างไปอย่างอิ่มเอมในค่ำคืนที่ผ่านมา แต่เขาไม่สามารถพูดได้ว่าแก้วนั้นมีเสน่ห์ของเรือนร่างมากกว่ากานต์

สำหรับอาร์ตแล้วกานต์คนนี้มีเสน่ห์ที่ร้อนแรงไม่แพ้แก้ว แตกต่างกันเพียงแค่แก้วนั้นเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่งและฉลาด แต่กานต์ในความคิดของเขานั้นค่อนข้างจะแตกต่างไปจากแก้ว เขามองแก้วเป็นเหมือนนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ที่อยากไขว่คว้ามาครอบครอง หากทว่ากานต์นั้นเขามีความคิดลึก ๆ ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ปล่อยตัวง่ายเกินไป

จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่อยู่ดี ๆ ก็ยอมไปขึ้นเตียงให้ผู้ชายที่แทบไม่รู้จักเปิดบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่ากานต์จะเพิ่งเคยผ่านบอลมาเพียงค่ำคืนเดียว แต่ส่วนลึกของอาร์ตก็ยังสลักลึกความคิดในแง่ลบเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ยิ่งหากเปรียบเทียบกับแก้วที่เขาเป็นคนเปิดคนแรกและคนเดียวก็ยิ่งชัดเจน ในใจของเขานั้นวางแก้วไว้ในตำแหน่งที่สูงกว่ากานต์อย่างชัดเจน เพียงแต่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นทำให้เขารู้สึกว่าตำแหน่งของกานต์ในใจโดนยกระดับขึ้นมาไม่น้อย

“ไปต่อกันบนเตียง”

หลังจากยืนบีบขยำเล้าโลมจนกานต์อารมณ์แทบระเบิด ชายหนุ่มก็ส่งเสียงกระซิบบอกและประคองร่างอ่อนปวกเปียกลงไปนอนหงายบนเตียงนอน เขาขยับตัวถอนเสื้อผ้าชุดทำงานออกอย่างรวดเร็วจนเห็นร่างกำยำเปลือยเปล่า กานต์มองดูร่างกายแข็งแรงสมชายของเขาด้วยดวงตาวาบหวามร้อนแรง โดยเฉพาะความยาวใหญ่ที่กำลังเด้งผงกหัวอวดเรี่ยวแรงความแข็งแกร่งของเพศชายที่น่าหลงใหล

“อืม ซี้ด พี่อาร์ต … เสียวค่ะ … ซี้ด”

กานต์หลับตาปี๋นอนตัวอ่อนระทวยสูดปากครางสุดเสียว ชายหนุ่มเพิ่งขยับลงมานอนแนบทับ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงไปอ้าปากงับดูดเลียปลายถันที่กำลังแข็งเป็นเม็ด ความเสียวแปลบทำให้เธอแอ่นเด้งสะท้าน ยิ่งโดนเขาลากลิ้นเลียไปทั่วเนื้อนิ่มด้วยความเอร็ดอร่อย ความเสียวสยิวก็ยิ่งแล่นพล่านทะลวงไปทั่วร่าง

ชายหนุ่มดื่มกินเสพความหอมหวานของสองเต้าอยู่นานพอดู ก่อนจะเริ่มขยับใบหน้าต่ำลงไปจูบไล้ที่หน้าท้องเนียบเรียบไร้ไขมัน กานต์เผลอส่งเสียงครางออกมาดังลั่นเมื่อเขาลงมือจู่โจมจุดสำคัญ กระโปรงนักศึกษาโดนถลกขึ้นไปที่หน้าท้อง ก่อนที่จมูกโด่งจะซุกลงไปฟอนเฟ้นใส่เนินสาว สะโพกผึ่งผายถึงกับส่ายเด้งกระตุกโดยไม่อาจหยุดยั้ง

“อื้อ … พี่อาร์ต … ซี้ด … ดีจัง … อืม”

กานต์สุดปากส่งเสียงร่ำร้อง สะโพกของเธอยังคงเด้งกระตุกอย่างต่อเนื่อง ความเสียวที่โจมตีอย่างต่อเนื่องทำให้เธอแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเขาปลดกางเกงในออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้เขากำลังซุกหน้าใช้ปากและลิ้นปรนเปรอความซาบซ่านให้เธอราวกับลิ้มลองอาหารเอร็ดร่อย

สมองของเธอกลายเป็นขาวโพลน เธอทราบแค่ว่าตอนนี้ความเสียวกำลังเล่นงานจนปั่นป่วนไปทั่วทั้งท้องน้อย และเมื่อเขาลงลิ้นฉกละเลงใส่อีกแค่ไม่กี่ครั้ง ร่างทั้งร่างก็เสียววาบกระตุกเฮือก สองมือจิกลงไปบนหลังศีรษะของเขาเพื่อกดเข้าหาเนินสาว ส่วนสะโพกนั้นก็แอ่นเด้งเบียดเข้าหาพร้อมกัน

กานต์อยากจะส่งเสียงหวีดร้องออกมา หากทว่าอาร์ตยกมือขึ้นมาปิดปากเธอไว้ได้ทันท่วงที กานต์จึงทำได้แค่ส่งเสียงร้องในลำคอ แล้วดิ้นพราดไปมาด้วยความสุขเสียวขั้นสุดยอดอยู่เนิ่นนาน

สะโพกของเธอเริ่มหยุดเด้งเมื่อความเสียวลดระดับลง เธอในตอนนี้กำลังนอนหอบกระเส่าหน้าแดงก่ำ ร่างกายมีเม็ดเหงื่อผุดออกมาทั่วร่างเพราะเพิ่งถึงจุดสุดยอดไปหนึ่งรอบ แต่ชายหนุ่มเหมือนจะยังไม่คิดอยากจะหยุด

“อูย … ซี้ด … อื๊อ … อือ”

เสียงครางของกานต์แว่วดังขึ้นมาอีกครั้ง อาร์ตเริ่มแหย่นิ้วสอดเข้าไปในร่องสาวจนจมมิดหายไป สะโพกของนักศึกษาสาวสั่นสะท้านและเด้งผวาขึ้นเมื่อเขาถอนรั้งปลายนิ้วออกไป แต่เมื่อเขากดแยงกลับเข้าไป สาวสวยก็สูดปากครางออกมาด้วยความเสียว เขากำลังใช้เพลิงราคะแผดเผาให้เธอกลายเป็นนักศึกษาสาวร่านสวาท

ความคับแน่นของร่องสาวทำให้อาร์ตรู้สึกอยากมุดเข้าไปสำรวจในทันที หากทว่าเขารู้ดีว่าเมื่อคืนเขาเพิ่งหักโผมผ่านเกมกามกับแก้วมาจนแทบหมดเรี่ยวแรง เขาจึงยังพยายามข่มกลั้นอารมณ์และเลือกที่จะปรนเปรอให้สาวสวยถึงสวรรค์ให้มากที่สุดเสียก่อน

นิ้วกลางของมือขวาสอดแยงลากเข้าลากออกไม่หยุด ท้องน้อยของกานต์บิดเกร็งแขม่วเข้าออก สะโพกของเธอส่ายไปมาราวกับคุ้มคลั่ง พร้อมกันนี้เขายังขยับร่างขึ้นมาอ้าปากงับละเลงใส่ทรวงเต้าภูเขาไฟทั้งสองลูกด้วยความเอร็ดอร่อยลิ้น และเมื่อเขากระตุ้นเร้าได้ไม่ถึงสิบนาที เสียงครางของเธอก็หวีดดังลั่นห้องออกมาอีกครั้ง เธอโดนเขาส่งถึงจุดสุดยอดครั้งที่สองติดต่อกันอย่างรวดเร็ว

กานต์นอนตาปรือหอบหายใจกระเส่าระทดระทวย ตอนนี้บนร่างกายของเธอมีเสื้อนักศึกษาที่แหวกอ้าเผยผิวกายขาวเนียน กระโปรงสั้นโดนถลกรั้งขึ้นไปบนหน้าท้อง ยกทรงและกางเกงในโดนปลดเปลื้องทอดทิ้งอยู่บนพื้น

อาร์ตยืนมองความงดงามของกานต์ด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะขยับตัวลงไปเตรียมเสพสม สองขาของเธอโดนถ่างอ้าออกจนสุด ร่างกำยำขยับเบียดเข้าไป ความยาวใหญ่ขยับจ่อปาดไปมาอยู่บนปากร่องสาว และค่อย ๆ ขยับเดินหน้าสู่สรวงสวรรค์ด้วยความเชื่องช้าไม่เร่งรีบ

กานต์หอบหายใจฟืดฟาด เธอถ่างขาอ้ารับความใหญ่โตที่มุดแทรกเข้ามาในร่างด้วยความกระสัน ลีลารักที่ทรงพลังและเร่าร้อนของอาร์ตทำให้เธอยิ่งหลงใหลในตัวเขามากขึ้นแบบทบเท่าทวี สิ่งที่เธอรู้สึกเสียดายที่สุดในชีวิตตอนนี้ก็คือ การที่เธอพบกับเขาช้าเกินไป เธอจึงไม่ได้มอบความบริสุทธิ์อันมีค่าให้กับอาร์ต

อาร์ตเองก็มีความรู้สึกคล้ายกัน ความคับแน่นที่ตอดรัดทำให้เขาเดินหน้าได้อย่างยากลำบาก ถึงแม้ว่าเขาจะเคยมุดเข้าไปสำรวจภายในมาแล้ว หากทว่าความคับแน่นของเธอนั้นนับได้ว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง อาร์ตจึงรู้สึกเสียดายที่เขาไม่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของกานต์

ความยาวใหญ่มุดเข้าไปอย่างเชื่องช้าแต่ต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ความคับแน่นของเส้นทางทำให้เขาต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งนาที และเมื่อเขาเดินหน้าเข้าไปได้จนสุดลำ กานต์ก็รู้สึกเสียวซ่านจุกแน่นที่ท้องน้อย เธอรีบยกมือขึ้นมาป้องปิดปากตนเองเพื่อไม่ให้เผลอส่งเสียงร้องออกมาดังมากเกินไป แต่เมื่อเขาเริ่มขยับสะโพก เสียงครางของเธอก็เริ่มจะคุมเอาไว้ไม่อยู่

อาร์ตเหมือนจะรู้เรื่องนี้ เขาจึงขยับโยกพลางก้มลงไปนอนแนบทับประกบปากจูบเพื่อช่วยปิดเสียง กานต์หลับตาปี๋โอบกอดรัดร่างกำยำแนบแน่น แต่ทุกครั้งที่เขากดกระแทกเข้าหา ความเสียวซ่านสะท้านก็ทำให้เธอดิ้นพราดแทบขาดใจ

เสียงครางของกานต์โดนปิดจนอยู่แค่ในลำคอ เสียงของเธอจึงไม่ดังเกินไป หากทว่าเมื่อเขาเริ่มเคลื่อนไหวขย่มกระแทกหนักหน่วงขึ้น เสียงเนื้อกระแทกเนื้อก็เริ่มดังสนั่นหวั่นไหว แม้แต่เตียงนอนก็ยังเด้งยวบส่งเสียงดังกุกกักเหมือนไม่สามารถรับพลกำลังอันเร่าร้อนของชายหนุ่มได้

ใบหน้าสวยหวานของกานต์บิดเบี้ยวเหยเกส่ายสะบัดไปมาตามจังหวะลีลารัก ยิ่งจ้องมองดูท่าทีของนักศึกษาสาว อารมณ์หื่นกระหายของอาร์ตก็ยิ่งพลุ่งพล่าน กานต์นั้นสวยหวานเร่าร้อนไปเสียทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะใบหน้า ผิวพรรณ ทรวงอก สะโพก ท่อนขา หรือแม้แต่ร่องสาว ทุกสัดส่วนล้วนแล้วแต่เป็นของชั้นหนึ่งยากจะหาใครเปรียบ อย่างน้อยเท่าที่เขาเคยพบเจอมา ก็คงจะมีแต่เพียงแก้วที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

ลีลารักที่กระหน่ำใส่แบบหูดับตับไหม้ทำให้กานต์ไม่อาจจะทานทนได้อีกต่อไป เขามอบรสเสียวให้อีกแค่ไม่ถึงสิบนาที นักศึกษาสาวก็เด้งกระตุกแอ่นผวาถึงจุดสุดยอดเป็นรอบที่สาม เสียงครางของเธอโดนชายหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากอีกครั้ง แต่คราวนี้เขากลับขยับกระแทกเอวอย่างต่อเนื่องแบบไม่ยอมหยุดพัก ความเสียวโดนปลุกปั่นซ้ำไปซ้ำมาในขณะที่ร่างกายยังบิดเกร็งจากจุดสุดยอด รสความหฤหรรษ์ที่ทบทวีเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่าจึงทำให้กานต์แทบจะขาดใจตาย

อาร์ตเองก็กำลังโดนตอดรัดจนเสียวซ่านไม่แพ้กัน เขากระแทกขย่มเอวอย่างต่อเนื่องอีกไม่ถึงหนึ่งนาทีก็สุดจะทานทนไหว ชายหนุ่มกดกระแทกปิดท้ายสุดแรงไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยความหื่นกระสันให้ทะลักหลั่งเติมเต็มเข้าไปในร่องสาวจนเอ่อล้น

สองร่างนอนกอดซึมซาบความสุขนิ่งเงียบ ใบหน้าของสองหนุ่มสาวต่างบ่งบอกถึงความสุขหฤหรรษ์ที่เพิ่งได้รับจากกันและกัน กานต์นอนหอบหายใจกระเส่าใบหน้าแดงซ่านหมดเรี่ยวหมดแรง ส่วนชายหนุ่มนั้นหลังจากได้พักเหนื่อย เขาก็เริ่มขยับตัวขึ้นมามองใบหน้าของสาวสวย แล้วกล่าวหยอกล้อด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“กานต์สุดยอดจริง ๆ ผมยังไม่เคยเจอใครที่เอาแล้วมันสะใจเหมือนกานต์มาก่อนเลยนะจะบอกให้ หน้าสวย ผิวขาวเนียน นมใหญ่ สะโพกใหญ่ เสียงครางน่าฟังโดยเฉพาะตรงนั้นตอดสุดยอดถึงใจ”

คำชมของชายหนุ่มทำเอากานต์เขินจนทำตัวไม่ถูก เธออยากหลบสายตาเขา แต่ในท่วงท่าโดนนอนทับแนบเนื้อเช่นนี้เธอไม่ทราบว่าจะหลบไปที่ไหนได้ สุดท้ายเธอจึงทำได้แค่ยกมือขึ้นตีใส่แผ่นหลังของเขาอย่างแผ่วเบาและส่งเสียงน่ารักออกมาแทนการประท้วง

“พี่อาร์ตอ่ะ กานต์เขินนะ”

“เขินทำไมล่ะ เรื่องจริงนี่นา ตอนนี้ก็ยังตอดไม่หยุดเลย ขนาดแช่ไว้เฉย ๆ ก็เสียวจะแย่แล้ว แต่ถ้ายิ่งเอาก็ยิ่งมันสะใจเข้าไปอีก”

อาร์ตพูดหยอกพลางขยับดันตัวขึ้นเล็กน้อย แล้วเริ่มขยับบั้นเอวกระแทกใส่ร่องสาวที่เต็มไปด้วยความคับแน่นและแรงตอดรัดอีกครั้ง แรงกระเด้าทำให้กานต์หลับตาปี๋จิกนิ้วลงไปบนผ้าปูเตียงเช่นก่อนหน้า คราวนี้ชายหนุ่มโหมเร่งเครื่องตะบี้ตะบันอย่างเมามันพลางใช้มือบีบขยี้ก้อนเนื้ออวบหยุ่นด้วยความสะใจ ก่อนจะหยุดลงดื้อ ๆ เมื่ออารมณ์ของนักศึกษาสาวสวยกำลังปั่นป่วนใกล้ถึงจุดสุดยอดเต็มที

“ซี้ดสสส อืออออ … พี่อาร์ต … อย่าหยุดซิคะ …”

กานต์ซึ่งกำลังใกล้ถึงจุดสุดยอดเต็มทีเอ่ยปากส่งเสียงแหบแห้งออกมา สะโพกของเธอแอ่นเด้งเข้าหาด้วยความกระสับกระส่าย เวลานี้เธอไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เธอเพียงอยากได้รับรสรักที่เขามอบให้เท่านั้นก็มากเพียงพอ

อาร์ตหยุดนิ่งไม่เอ่ยปากตอบ เขาไม่ได้มองดูกานต์เสียด้วยซ้ำ เพราะว่าตอนนี้สายตาของเขากำลังหันมองไปทางฝ้าเพดานด้านบนหัวเตียงด้วยท่าทีเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง

“… ไม่มีอะไร สงสัยจะตาฝาด มองเห็นฝ้าเพดานมันขยับน่ะ ช่างเถอะ คงไม่มีอะไร”

ชายหนุ่มแสดงท่าทีลังเลไม่แน่ใจ กานต์ซึ่งนอนแผ่หราบนเตียงจึงเงยหน้ามองขึ้นไปฝ้าเพดานด้านบน เธอมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวอะไรอย่างที่เขาว่า เธอทราบแค่เพียงว่าด้านนั้นคือผนังห้องนอนของดาริกาน้องสาวจอมซนคนสุดท้อง ขณะที่กานต์เริ่มจะครุ่นคิด เธอก็ต้องหลับตาปี๋ร้องครางกระเส่า เพราะอาร์ตเริ่มขยับกระเด้าเอวขย่มใส่เธอแบบถี่ยิบอีกครั้ง

“อูยย … ซี้ดดสสส … อูยยยย … ซี้ดดสสส”

กานต์ครางแล้วครางอีกด้วยความเสียวกระสัน อาร์ตยิ่งฟังเสียงครางก็ยิ่งเคลื่อนไหวหนักหน่วงราวกับสัตว์ป่า ชายหนุ่มคล้ายกับกำลังระบายความไม่สบายใจจากแก้วทั้งหมดทั้งมวลมาลงไว้ที่กานต์ ไม่ว่าจะความผิดหวัง ความเศร้า ความอัดอั้นคับข้องใจ อารมณ์เหล่านี้แปรเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์ดิบเถื่อนโดยไม่รู้ตัว

ร่างขาวโพลนของนักศึกษาสาวเด้งสะท้านกระตุกเร่ารอบแล้วรอบเล่า ทุกตารางนิ้วบนร่างกายโดนเขาลูบขยำขยี้สำรวจด้วยความกระหาย สุดท้ายใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวอีกครั้งและอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง เขาปลดปล่อยความใคร่ใส่ร่างของเธอจนล้นเอ่อ ในขณะที่เธอเองก็เปิดรับอย่างมีความสุข

ลีลารักเร่าร้อนค่อยเงียบสงบลงหลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านพ้น อาร์ตนอนหลับฟุบหน้ากอดแนบกับร่างนุ่มนิ่มของกานต์เนื่องจากเหน็ดเหนื่อยสะสมมาทั้งคืน ส่วนกานต์นั้นแม้จะนอนหลับมาเพียงพอในค่ำคืนที่ผ่านมา แต่ว่าเกมรักที่เพิ่งจบลงไปนั้นกินเรี่ยวแรงมากพอดู เธอจึงยื่นมือไปกดปิดไฟที่หัวนอนจนห้องอยู่ในความมืดมิด แล้วจึงค่อยนอนหลับตามหลังไปแค่ไม่กี่นาที

หลังจากที่สองหนุ่มสาวนอนหลับด้วยความเหน็ดเหนื่อย ฝ้าเพดานด้านบนก็เริ่มขยับเปิดแง้มออกเล็กน้อยอย่างเงียบงัน จากนั้นเพียงไม่นานนักฝ้าเพดานก็ขยับปิดลงเช่นเดิมราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

Share the Post:

Related Posts

ซั่มกับนักเรียนมัธยม นมใหญ่ หีฟิต

เรื่องเสียว ซั่มกับนักเรียนมัธยม นมใหญ่ หีฟิต ก่อนอื่นขอเล่าว่าผมเป็นครูสอนฟิสิกส์ให้แก่เด็กมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อายุยี่สิบปลายๆ เพิ่งจะเข้ารับราชการได้ไม่นาน เรื่องราวความเสียวสุดซี๊ดกับยัยเพลงนักเรียนมัธยมสาวตัวเล็ก นมใหญ่ หีฟิต เริ่มจากการที่ผมได้รับหน้าที่ติวพิเศษให้กับนักเรียนหัวกะทิ เพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันงานวิชาการระดับภาค เพลง เป็นนักเรียนหญิงที่ดีพร้อมเสียทุกอย่าง ความขยัน ฉลาดหลักแหลม หน้าตาดี หุ่นดี ที่สำคัญขาวจั๊วน่ากิน ขณะนั้นเป็นเวลาเย็นย่ำ

Read More

แอบเย็ดกับพี่เขยในตอนพี่สาวไม่อยู่

เรื่องเสียว แอบเย็ดกับพี่เขยในตอนพี่สาวไม่อยู่ สวัสดีค่ะหนูชื่อแพรนะคะ เป็นนักศึกษาปีสอง อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับพี่สาวและพี่เขยเพราะพ่อและแม่เสียหมดแล้ว ประสบการณ์ที่หนูจะเล่าต่อไปนี้ เริ่มจากบ่ายวันหนึ่งหนูเลิกเรียนก่อนเวลาเลยกลับเข้ามาที่บ้านโดยไม่ได้บอกให้พี่สาวรู้มาก่อน และเดาว่าพี่สาวของหนูคงไม่คิดว่าหนูจะกลับตอนนี้เช่นกัน เมื่อหนูแง้มประตูกำลังเตรียมจะเข้าบ้านก็ต้องชะงักไปชั่วครู่เพราะเห็น พี่สาวและพี่เขยกำลังเอากันอยู่บนโซฟาอย่างดุเดือดชนิดที่ว่าเหงื่อแตกซก ยอมรับว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง และแม้หนูจะพยายามหลีกเลี่ยงขนาดไหนก็ยังต้องเห็นและได้ยินเสียงเขาสองคนเอากันนอกห้องอยู่บ่อยครั้ง เมื่อแอบเห็นหนูจึงไม่วายมีความรู้สึกเงี่ยนขึ้นมา ก็เลยอ้อมเข้าทางหลังบ้านเพื่อเข้าห้องของตัวเอง ด้วยความไม่อยากขัดจังหวะเขาทั้งสอง เมื่อถึงห้องความรู้สึกอย่างว่ายังคละคลุ้งอยู่ในสมองของหนู จึงคิดว่าควรลบล้างด้วยอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าแก้ด้วยการเปิดหนังโป๊ในคอมดูและ ช่วยตัวเองไปพลางๆ นี่คือเรื่องปกติเพราะเมื่อได้ยินได้เห็นพี่สาวและพี่เขยเย็ดกันเมื่อไหร่หนูก็จะเปิดหนังโป๊ดูและเบ็ดหีเพื่อสำเร็จความใคร่

Read More