copy บันทึกคำภีร์มหัศจรรย์ ตอนที่ 6 ความเปลี่ยนแปลง
บทประพันธ์ nookylove
…………………………..ท่าน nookylove บันทึกคัมภีร์มหัศจรรย์ ตอนที่6ความเปลี่ยนแปลง
ที่ม้านั่งหินอ่อนใต้ตึกคณะวืทยาศาสตร์ในตอนเย็น หญิงสาวนักศึกษาสามคนฟังสิ่งที่ชายหนุ่มคนหนึ่งอธิบายอย่างตั้งใจ ซึ่งชายหนุ่มก็ขีดเขียนลงบนสมุดโน้ตเพื่อให้สามสาวเข้าใจมากยื่งขึ้น
“
ไม่ยากหรอก แค่จำสูตรนิดหน่อยแล้วก็แทนค่าลงไปแบบนี้ อือแต่ต้องกลับไปท่องสูตรอันนี้ นี้ แล้วก็นี้ให้จำขึ้นใจเลยนะ รับลองออกสอบชัวร์” ชายหนุ่ม ขีดเส้นใต้ในหนังสือ เขียนอธิบายคร่าวๆในชีทประกอบการเรียน พร้อมเก็งข้อสอบไปในตัว พอเงยหน้าขึ้นก็ พบสีหน้าปั้นยากของสาวทั้งสามคน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นกันล่ะ นี่วิธีลัดสุดๆแล้วนะ เอางี้เราจะอธิบายช้าๆอีกรอบถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามได้เลยนะ ” ชายหนุ่มพูดขำๆ แล้วทำท่าจะเริ่มอธิบายอีกรอบ
“แห่ะๆ ขอบใจนายมากนะ ที่เสียเวลามาติวให้พวกเรา แถมพวกเรายังเข้าใจอะไรยากอีก” สาวหมวยร่างเล็กผู้ร่าเริง นาม หงส์ธิดา หัวเราะเจื่อนๆ
” ก็ไม่เป็นไรนี่ ถือว่าทบทวนไปในตัวด้วย ไม่ต้องเกรงใจ อ้อ แล้วอย่าลืมไปหัดทำโจทย์เยอะๆ เดี๋ยวก็เข้าใจเองว่า ข้อไหนควรใช้สูตรอะไร”ชายหนุ่ม พูดยิ้มๆ
” อือ เจ้าค่ะ ว่าแต่นายไปทำอะไรมาหรือเปล่า ทำไมดูดีขึ้นเยอะเลย แค่ไม่กี่อาทิตย์เอง แอบไปเสริมหล่อที่คลีนิคไหนมารึเปล่าฮะ” คราวนี้ นุ้ย สาวใต้ตาคมถามขึ้นมาบ้างหลังจากจ้องเขาอยู่นาน
” สงสัยเพราะออกกำลังกายตอนเช้าน่ะ ” เขา เพียงตอบสั้นๆ ซึ่งความจริงแล้วชายหนุ่มทำมากกว่านั้น เพราะทุกเช้า ตอนตี3 ตื่นมานั่งกรรมฐานฝึกจิตสมาธิ จนถึงตี5 แล้วดื่มน้ำต้มรากว่านกระทิงหนุ่ม ที่เก็บมาจากเรื่อนเพาะที่บ้านปู่ดา ตามคำสั่งเสียในจดหมาย ว่านชนิดนี้หลังจากดื่มเข้าไปแล้วจะทำให้ร่างกายร้อนผ่าว รู้สึกคึกคักปราดเปรียวไม่อยู่นิ่งคล้ายจะต้องการระบายกำลังที่อัดแน่นอยู่ข้างใน ทำให้ชายหนุ่มต้องออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะกึ่งสนามกีฬาเอนกประสงค์ เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงถึงจะคลายความร้อนในร่างกายลงได้ หลังจากดื่มได้4-5 วันทำให้เขาเริ่มรู้ถึงสรรพคุณของว่านชนิดนี้ว่ามีสารคล้ายกับสเตียรอยด์สังเคราะห์ที่พวกเล่นกล้ามเพาะกายใช้กันแต่มีฤทธิ์มากกว่าหลายเท่า ร่ายกายเร่งการเผาผลาญและสร้างกล้ามเนื้อขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างท้วมสูงใหญ่ของเขา เริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นร่างที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงบึกบึนขึ้นภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์ เค้าโครงหน้าก็ดูเด่นชัดขึ้น แต่ว่านกระทิงหนุ่มก็มีผลข้างเคียงคือ ทำให้เขาเกิดอารมณ์ทางเพศได้ง่าย
กว่าเดิม เพียงแค่เห็นอะไรวับๆแว่มๆ ก็แทบจะอดไว้ไม่ไหว ภาระตกหนักจึงไปตกอยู่ที่สาวงามแสงเดือน ซึ่งต้องรับแรงกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วงทุกวัน หากเป็นหญิงสาวอื่นคงต้านทานไม่ไว้ แต่ถึงจะเป็นแสงเดือนก็ตามความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ายังแสดงให้เห็นชัด จนเขารู้สึกสงสาร บ้างครั้งต้องลดความกำหนัดด้วยการฝึกจิตสมาธิ ซึ่งก็ได้ผลไม่น้อยทำให้ชายหนุ่มเริ่มควบคุมอารมณ์ได้บ้าง ผลดีของการฝึกจิต ยังทำให้ แสงเดือนมีพลังและความสามารถเพิ่มมากขึ้นหลายอย่าง เหมือนที่เธอบอกไว้ว่าทั้งเธอและเขาผูกพันกันด้วยจิตวิญญาณ ตอนนี้แสงเดือนสามรถหยิบจับสิ่งของได้เหมือนคนทั่วไป และ ยังสามารถปรากฏร่างให้คนอื่นเห็นได้อีกด้วยถ้าเธอต้องการ เพียงแต่ไม่มีใครสัมผัสจับต้องเธอได้เหมือนอย่างเขา และทุกเย็นชายหนุ่มทดลองอาบน้ำต้มว่านเกล็ดนาคาที่มีลักษณะเป็นลำต้นยาวคล้ายงู มีเปลือกไม้สีดำเรียงเป็นเกล็ดมันวาว ตามบันทึกสมุนไพรแล้วการอาบว่านชนิดนี้ ควบคู่กับการใช้มนต์เกราะนาคคุ้มกาย ในบันทึกมนตรา ซึ่งหลายสัปดาห์ผ่านไปหลังจากอาบทุกเย็นผิวกายที่หยาบกระด้าง กลับเปลี่ยนเป็นเนียนดุจแผ่นเหล็ก ที่สำคัญต้องปฏิบัติตามบันทึกคือ ห้ามลอดราวตากผ้าที่มีผ้าถุงหรือชั้นในสตรี ห้ามกินข้าวบ้านที่กำลังจัดงานศพ ถือศิลในวันพระใหญ่ ซึ่งก็คือ ขึ้น15ค่ำและแรม15ค่ำ ซึ่งนับว่าไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย
“อื่อ แล้ววันนี้ไม่ไปเข้าชมรมเหรอ” สาวหมวยร่างเล็กถามชายหนุ่ม ชมรมที่ว่าก็คือชมรมมวยสากล ที่เขาเพิ่งสมัครไปเมื่ออาทิตย์ก่อน บังเอิญแฟนของสาวหงส์อยู่ที่ชมรมนั้นพอดีจีงรู้ว่าเขาสมัครเข้าเป็นสมาชิก
“ก็เดี๋ยวติวให้พวกเธอเสร็จ ค่อยไปก็ได้” เขาเอ่ยตอบ พลางชำเลืองไปยัง คุณหนูพลอยสาวสวยที่นั่งมานานยังไม่ส่งเสียงให้ได้ยินสักคำ ก็พบว่าเธอมองเขาอยู่เช่นกัน ตอนนี้หญิงสาวกำลังคิดว่า ผู้ชายตรงหน้าเธอคนนี้ช่างคุ้นตา คล้ายกับเคยพบมานานแสนนาน เมื่อครั้งเพื่อนสาวของเธอพาชายหนุ่มมาแนะนำตัวเข้ากลุ่มทำรายงานแต่ เธอก็ยังไม่รู้สึกคุ้นเท่าตอนนี้ตอนที่เขาเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่เจอ ตอนนั้นชายหนุ่มทำให้เธอรู้สึกรำคาญกับสายตาที่มองมาอย่างหาเหตุผลไม่ได้
เพียงแต่เวลานี้เธอรู้สึกว่าสายตาที่เขามองมาไม่เหมือนเดิมแต่บอกไม่ได้ว่าตรงไหนที่ไม่เหมือนเดิมและมันทำให้หญิงสาวใจหายแปลกๆ คล้ายกับสูญเสียบางอย่างไป “คุณพลอย มองผมมีอะไรหรือเปล่าครับ สงสัยโจทย์ข้อไหน” ชายหนุ่มถามอย่างสุภาพให้ความรู้สึกห่างเหิน ผิดกับเวลาที่เขาพูดคุยกับเพื่อนสาวทั้งสองของเธอ
“เอ่อ..เปล่าไม่มีอะไร” เธอตอบแต่ในใจก็ยังสับสนอยู่ ….’ อืม อนิล ….อะ นิ ละ เหรอ ช่างคุ้นหู ‘ หญิงสาวคิดในใจ เป็นครั้งแรกที่เธอคิดเรื่องของเขาอย่างตั้งใจ ” อะ นิ ละ …สูร ” หญิงสาวพึมพำอย่างแผ่วเบาโดยไม่รู้ตัว จนเธอสะดุ้งเมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในกระเป๋าถือ เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่า พี่เต้ แฟนหนุ่มรูปหล่อโทรมา จึงกดรับ “คะ พี่เต้ พลอย อยู่ที่ม้านั่ง ใต้ตึกคณะวิทย์ อ้อ ค่ะ พี่เต้ซ้อมบาสเสร็จแล้วเหรอคะ พลอยจะรอที่นี่แหละ ค่ะ บาย” แล้วกดวางหู
” ต๊าย แฟนสุดหล่อ จะมารับแล้วเหรอ จะไปเที่ยวไหนกันจ๊า แม่คนสวย” สาวใต้ตาคมเอ่ยแซว ” อืม พี่เต้จะพาไปดูหนังน่ะ งั้นวันนี้ฉันขอตัวนะ พวกแกจะอยู่ติวต่อก็ได้ไม่ต้องรอ” สาวสวยเอ่ย พลางเริ่มเก็บหนังสือ แล้วลุกขึ้น โดยไม่เอ่ยอะไรกับคนติวที่นั่งมองอยู่
จนสาวหมวยตัวเล็กอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “นี่ แล้วแกจะไม่ขอบคุณคนติวหน่อยเหรอยะ เขาอุตส่าห์ มานั่งสอนตั้งนาน”
” เอ่อ …ขอบใจ” หญิงสาวพูดสั้นๆ จนเพื่อนสาวทั้งสองส่ายหน้า ในท่าทางการขอบคุณอย่างเสียไม่ได้ ของเพื่อนสาวคนสวย ชายหนุ่มเพียงยิ้มให้บางๆแล้วก็ไม่ได้สนใจเธออีก แล้วหันไปถามอีกสองสาวว่าจะติวกันต่อไหม สักพัก รถเก๋งคันงามก็ขับเข้ามาจอดที่ริมฟุตบาท ร่างสูง หล่อขาวตี๋ ลงจากรถมาทักทาย สาวสวยพร้อมกับยื่นน้ำอัดลมกระป๋องที่เปิดแล้วให้เธอและเพื่อนๆของเธอ ส่วนอีกหนึ่งหนุ่มที่นั่งอยู่นั้น เพียงแค่ยิ้มให้ …ยิ้มที่คล้ายยิ้มเยาะ จากนั้นจึงเอ่ยขอตัว และจูงข้อมือบางของแฟนสาวสวย เดินไปที่รถ เปิดประตูให้อย่างเอาใจ
“ผู้ชายคนนั้นกับเพื่อนจะรุม ผู้หญิงคนนั้น เขาใส่ยาอะไรไม่รู้ลงในกระป๋องของเธอ เดือนอ่านใจเขาได้” เสียงหวานๆ เอ่ยขึ้นหลังจากรถเก๋งเพิ่งจะขับออกไป
“งั้นวันนี้ พอแค่นี้แล้วกันนะ เราขอไปเข้าชมรมก่อน ” ชายหนุ่มบอกเรียบๆ แล้วลุกขึ้นยืน สองสาวพยักหน้าอย่าง งงๆ ชายหนุ่มจึงเดินไปยังรถปิคอัพที่จอดไว้หน้าคณะ แล้วขับตามออกไป
ภายในรถเก๋งคันงาม สาวสวยรู้สึกร้อนวูบวาบประหลาด เพียงแค่สายลมเย็นๆจากแอร์ที่เป่าออกมากระทบผิว ก็ทำให้สะท้านไปทั้งกาย ซึ่งหนุ่มคนขับก็ชำเลืองมองเป็นระยะ รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่มุมปาก
” น้องพลอยครับ พี่ลืมของไว้ที่คอนโด เดี๋ยวพี่แวะเข้าไปเอาก่อนนะ ” หนุ่มรูปหล่อ แต่ใจทรามหันมาบอกกับสาวสวยข้างกาย ที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำคล้ายเป็นไข้
เริ่มนั่งไม่สุข ซึ่งดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดจึงไม่ตอบ ‘ อือ หือ ยาดีสมราคาจริงๆ เล่นตัวดีนักต้องเจอแบบนี้ ‘ เขาคิดพลางเหลือบมองที่กระโปรงร่นขึ้นมาจนเห็นต้นขาขาวๆ จึงเร่งเครื่องเพื่อจะไปให้ถึงจุดหมายเร็วๆ เพื่อจะได้เสพสุขกับเรือนร่างของสาวสวย……..
ทางด้าน อนิล ที่ขับรถตามมาอย่างไม่มีทีท่ารีบร้อน จนสาวงามที่นั่งข้างๆ เอ่ยขึ้น “ดูพี่ ไม่เดือดร้อนอะไรเลยนะ เดือน คิดว่าพี่ชอบเขาซะอีก ” เธอถามด้วยความสงสัย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่เขากำลังคิดถึงความฝันอันเลือนราง ‘ฝันที่แทบจะไม่ซ้ำกันสักคืนแต่เหตุการณ์เหมือนเดิมทุกครั้ง คือผู้ชายคนหนึ่งที่ไล่ตาม หญิงสาวที่เขาหลงรัก แต่เธอก็ไม่เคยหันกลับไปมองเขาสักครั้ง ชายหนุ่มรับรู้ถึงความเจ็บปวดขมขื่นของผู้ชายในฝัน ราวกับเกิดขึ้นกับตัวเอง เขาจึงสัญญากับตัวเองว่าชาตินี้เขาจะไม่มีวันไล่ตามผู้หญิงคนไหน ‘
เมื่อรถเก๋งคันงามจอดรถในที่จอดใต้ตึกคอนโดมิเนียมหรู หนุ่มหล่อคนขับรถหันมาพูดกับสาวสวยข้าง “พี่ว่าพลอยดูสีหน้าไม่ดีเลย ขึ้นไปพักที่ห้องพี่ก่อนดีกว่าไหม”
ชายหนุ่มถามอย่างใจดี แต่แววตาดูหื่นกระหายยิ่งนัก
“พลอยอยากกลับบ้าน พี่เต้ไปส่งพลอยที่บ้านนะ” สาวสวยอ้อนวอน เพราะร่างกายเริ่มรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว ร่างกายร้อนรุ่ม แผ่นหลังเริ่มมีเหงื่อซึมทั้งๆที่แอร์รถก็เย็นฉ่ำ รู้สึกตึงๆที่สองเต้า ยอดอกชูชันจนดันยกทรงที่เธอสวม เพียงขยับตัวนิดเดียว ปลายยอดก็เสียดสีจนเธออยากจะร้องครางออกมาดังๆ น้ำหล่อลื่นเริ่มขับออกมาจนแฉะชั้นในตัวน้อย
“พลอยไม่ไว้ใจพี่เหรอจ๊ะ พี่แค่อยากให้พลอยพัก พอดีขึ้นเราค่อยไปดูหนังกันไง” ชายหนุ่มพยายามหว่านล้อม ซึ่งก็สำเร็จ สาวสวยพยักหน้าเบาๆ เขาจึงลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ พร้อมกับช่วยประคองร่างงามที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่ มือข้างหนึ่งโอบเอวบาง พาเดินไปที่ทางเข้าลิฟท์ หลังจากสแกนนิ้วมือเรียบร้อยจึงเปิดประตูกระจกเพื่อพาสาวสวยขึ้นไปสู่สวรรค์ของมัน แต่คงจะเป็นนรกของเธอ
อนิล ขับรถปิคอัพ มาจอดที่หน้าคอนโด ที่พลอยชมพูถูกพาเข้ามา พลางถอนใจอย่างระอา ‘ นี่ตกลงแม่คุณหนูพลอยนี่มีดี แค่หน้าตาอย่างเดียวสินะ ไม่มีความคิดเอาซะเลย ยอมตามมาถึงห้องเขาขนาดนี้ รอดก็แปลกแล้ว’ ขณะกำลังคิดว่าจะช่วยดีหรือเปล่า เสียงหวานๆข้างกายก็พูดขึ้นเหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร “เธอ โดนวางยานะพี่ แล้วก็ไม่ใช่แค่ผู้ชายคนเดียว พี่รีบไปช่วยเธอเถอะ” ชายหนุ่มพยักหน้า หันมายิ้มให้สาวงาม “อือ หือ ทั้งสวยทั้งแสนดีขนาดนี้ เหมือนนางฟ้าเลยนะ”
แล้วลงจากรถไป เมื่อเดินเข้าไปแล้วก็ต้องหาหนทางเพื่อที่จะผ่านประตูกระจกเข้าไป “เดือนช่วยพี่หน่อย” เมื่อคิดออกจึงบอกให้แสงเดือนกดปุ่มล็อคเปิดจากข้างใน
ซึ่งยามที่เฝ้าอยู่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะชายหนุ่มไม่ได้มีท่าทางผิดปรกติ ลุกลี้ลุกลนชวนให้สงสัย แต่พอเข้าลิฟท์ไปแล้ว ก็หันมาถามหญิงสาวเบาๆว่า”ชั้นไหนล่ะ”
ใบหน้างดงามค้อนให้วงนึง ก่อนจะหลับตารวบรวมสมาธิ “ชั้น 14 จ้ะ ” เธอเอ่ยเบาๆ สีหน้าดูอ่อนล้า จากการใช้พลังจิต “เป็นอะไรหรือเปล่า จ๊ะเดือน” ชายหนุ่มถามอย่างห่วงใย พลางลูบไล้ที่แก้มเนียนอย่างอ่อนโยน “คงยังไม่ชินน่ะจ้ะพี่” เธอเอ่ยตอบเขาเบาๆ
ทางด้านแฟนหนุ่มของสาวสวยหลังจากประคองหญิงสาวมาถึงห้อง ซึ่งใช้เป็นที่จัดการหญิงสาวมาแล้วหลายคน ทั้งนักศึกษา สาวเที่ยวกลางคืน สาวมัธยม เรียกว่าหลอกใครมาได้ ไม่รอดสักราย จึงเคาะประตูส่งสัญญาณให้คนในห้องเปิดประตู สักครู่จึงมีชายหนุ่มร่างสูงพอๆกับเขา ผิวเข้ม เหมือนคนเล่นกีฬากลางแจ้ง เมื่อหนุ่มผิวเข้มเห็นสาวสวยที่เพื่อนพามา ถึงกับตาลุกวาว ส่งยิ้มอย่างหื่นกระหาย “ไอ้เต้มาช้าจังเลยวะ พวกกูคอยตั้งนาน คอยจนควยแข็งไปหมดแล้วเนี่ย รีบๆเข้ามาเลย” มีเสียงตะโกนมาจากข้างหลังหนุ่มผิวเข้ม ทั้งคู่จึงรีบพาหญิงสาวเข้ามาในห้อง ปรากฏว่าภายในห้อง ยังมีผู้ชายนั่งรอบนโซฟายาว อยู่อีกสามคน บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา มีจานกับแกล้มและแก้วเบียร์วางอยู่ครบคน แสดงว่าตั้งวงรอเหยื่อมาสักพักแล้ว ทั้งคู่พาสาวสวยที่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้สติเท่าไหร่ มานั่งที่โซฟา
โดยมีผู้ชายรุมล้อมอยู่ถึงห้าคน “จุ๊ ๆ ขาโครตขาว น่าเย็ดฉิบหายเลยหว่ะ น้องพลอยมึงนี่” คนพูด เป็นหนุ่มผิวขาวค่อนข้างท้วม เสียงเดียวกับที่เร่งให้พาหญิงสาวเข้ามา “เด็กมึงแต่ล่ะคนสุดยอดเลยหว่ะไอ้เต้ กูว่าคนนี้เด็ดสุด ที่มึงเคยพามาเลยหว่ะ เด็ดกว่าน้องมิ้นท์คนก่อนอีก ” คราวนี้คนผิวขาวออกเหลือง รูปร่างค่อนข้างเตี้ย เอ่ยชมเพื่อน ” รีบจัดการเหอะหว่ะ ตอนนี้กูโคตรเงี่ยนเลย แม่งกูเล็งไว้ตั้งนาน พนันกับไอ้เต้สองหมื่นใครจีบติดได้ไป เหี้ยเอ้ยแม่งหยิ่งฉิบหาย วันนี้กูจะเย็ดให้ขาถ่างเลยดูดิ๊ ว่าแม่งจะยังหยิ่งอยู่ไหม” หนุ่มหล่อเหลาคมเข้มบอกอย่างแค้นๆ ส่วนหญิงสาวที่ตอนนี้ได้ยินสิ่งที่พวกมันพูดมาทั้งหมด ถึงกับน้ำตาไหลพราก แต่ร่างกายกลับตอบสนองกับคำพูดดิบๆนั้น ยิ่งหลั่งเมือกเสียวจนแฉะเปียกกางเกงชั้นในเป็นวง ยิ่งบิดกายเร่าๆ ด้วยความเสียว ตอนนี้สติเริ่มเลือนราง อารมณ์เงี่ยนง่านเข้ามาแทน ถึงกับส่งเสียงครางออกมาเบา “อื้อ หือ ยาพี่แมนแม่งดีจริงๆหว่ะ ดูดิ๊ขนาดยังไม่ทันทำอะไร อีนี่ยังดูร่านเซ็กส์ขนาดนี้ คราวหน้าเดี๋ยวกูลองดูมั่ง มีเล็งๆไว้อยู่เหมือนกัน” ไอ้หนุ่มร่างท้วมพูดขึ้นอย่างกระหาย “อีพวกหยิ่งๆ แม่งต้องเจอแบบนี้แหละ” หนุ่มหล่อเข้มยังไม่หายแค้น “ใครจะเอาก่อนวะ คราวที่แล้วไอ้บอลก่อนนี่หว่า” หนุ่มร่างสูงผิวเข้มที่เปิดประตูพูดขึ้นบ้าง “อ้าว เหี้ยแล้วไง ไอ้วิทย์ คราวที่แล้วไอ้เต้มันเปิดซิงน้องมิ้นท์มาก่อนแล้วค่อยมาให้พวกเรารุม ไม่นับดิวะ”ไอ้หนุ่มร่างท้วมเอ่ยท้วง ทั้งห้าคนชอบหลอกสาวสวยๆมารุมลงแขกแล้วถ่ายวีดีโอเก็บไว้เพื่อปิดปากและเพื่อเรียกให้กลับมาให้พวกมันรุมอีกจนพอใจ ทำแบบนี้จนมีสาวเคราะห์ร้ายนับสิบคนบางรายทนไม่ไหวถึงกับพยายามฆ่าตัวตามก็มี “เถียงกันทำเหี้ยไรเนี่ย ก็จัดการแม่งพร้อมๆกันนี่แหละ ไอ้เต้กุเสียสองหมื่นให้มึงแล้วก็ขอเปิดซิงอีนี่แก้แค้นนะ อีดอกนี่ทำกูเสียเซลฟ์มาก” ไม่พูดเปล่ายังเอื้อมมือไปกระชากกระดุมเสื้อนักศึกษาของหญิงสาวจนกระหลุดกระจาย ส่งผลให้ร่างขาวผ่อง เนินอกอวบปรากฏออกมาท้าสายตา กะดูแล้วสองเต้าน่าจะขนาดพอดีมือ เรียกเสียงครางหืออย่างกระหายของไอ้หนุ่มทรชนทั้งห้า “หน้าก็สวย ผิวอย่างเนียน แบบนี้ต้องเก็บไว้เป็นคอลเล็คชั่นพิเศษ”ไอ้เต้พูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปหยิบกล้องวีดีโอในห้องนอน อีกสี่คนที่เหลือตอนนี้มือเริ่มนัวเนียอยู่ที่ร่างขาวผ่อง ทั้งบีบทั้งเคล้นอย่างหนักหน่วงจนสาวสวยร้องครางอย่างเจ็บปวด แล้วก็มีมือหนึ่งกระชากยกทรงออกจากร่างขาวอย่างแรง จนขาดติดมือเผยให้เห็น สองเต้าขนาดพอดีมือ ยอดอกสีเข้มชูชันด้วยฤทธิ์ยาและการปลุกเร้าจากมือที่นัวเนีย หญิงสาวร้องโอ้ยขึ้นมาดังๆ “ไอ้เหี้ยนพ เบาๆหน่อยดิวะ มึงนี่ก็เถื่อนเกิ….อ้าวทำไมไฟดับวะ” ไอ้บอลร้องขึ้น ทันใดนั้นเองประตูห้องก็เปิดออกเองแล้วปรากฏเงาวูบเข้าห้องมา แล้วก็มีเสียงดังโครมคราม โต๊ะกระจกที่วางแก้วเบียร์แตกกระจาย ไอ้เต้ ที่เดินเข้าไปหยิบกล้องในห้องแล้วไฟเกิดดับพอดี เมื่อได้ยินเสียงดัง จึงเปิดไฟที่กล้องแทนไฟฉายแล้วรีบวิ่งออกมา ทันเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผมยาวระบ่า ไว้หนวดเคราบางๆกำลังช้อนร่างอุ้มพลอยชมพูขึ้นมา “เฮ้ย มึงเป็นใครวะ “ไอ้เต้พูดได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรู้สึกง่วงงุนและหลับทั้งยืนเพียงแค่สบดวงตาสีนิลคมดุคู่นั้น ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปหยิบกล้องวีดีโอ และแลปท็อปของไอ้เต้ ติดมือมาด้วยเพื่อทำลายเครื่องมือแบล็คเมล์หญิงสาวทั้งหลาย ก่อนจะอุ้มร่างบอบช้ำของสาวสวยออกจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดไฟในห้องก็สว่างอีกครั้ง ปรากฏร่างชายหนุ่มสี่คนนอนสลบเหมือดร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์จากเพลงมวยโบราณหมดสิทธิ์คืนสภาพอาจพิการไปตลอดชีวิต กับ อีกคนที่หลับทั้งยืน ด้วยมนต์ไมยราพณ์สะกดทัพ ดูไปคล้ายไอ้เต้จะโชคดีที่สุดแต่ ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะมันต้องติดอยู่ในห้วงฝันที่ไม่มีวันตื่นชั่วชีวิต
ชายหนุ่มเดินออกมาไม่นานก็ซวนเซ เพราะฝืนใช้มนต์ขั้นสูง ทำให้จิตอ่อนล้าร่างกายก็ล้าตามไปด้วย แสงเดือนก็เช่นกันที่ตอนนี้ใช้พลังในการทำให้ไม่มีใครมองเห็น อนิลและพลอยชมพู ทำให้ใบหน้างดงามซีดเซียวดูอ่อนล้ายิ่งนัก เมื่ออุ้มร่างบอบบางมาที่รถเดิมทีชายหนุ่มคิดจะพาหญิงสาวไปที่โรงพยาบาล แต่เมื่อคิดได้ว่าจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายตามมาแน่นอนถ้าพาหญิงสาวไปตอนนี้ทางโรงพยาบาลต้องแจ้งตำรวจเพราะร่องรอยบอบช้ำบนตัวหญิงสาวจึงเปลี่ยนใจขับรถกลับไปที่บ้านของเขาแทน …………………….จบตอนความเปลี่ยนแปลง