หมอผีสีเหียบ ตอนที่ 11 – คับที่

 …………………………………………………………………. “น้องแพร?” หลังจากพยายามผลักไสน้องไอรีนที่กำลังอารมณ์ค้างคาเข้าไปในห้องมืดด้านในได้สำเร็จ ผมก็รีบแต่งตัวแล้วเดินมาเปิดประตูให้ แล้วก็ยิ้มแห้ง ๆ ส่งเสียงทักทายน้องแพรที่ยืนรออยู่หน้าประตู ซึ่งดูไปเธอเองก็ออกจะทำหน้างง ๆ อยู่บ้าง เหมือน
จะไม่รู้ว่ามาที่ห้องชมรมถ่ายรูปนี่ทำไม ซึ่งก็คงมีแต่ผมนี่แหละ ที่รู้ว่าเธอมาที่นี่เพราะมนตร์เรียกเมียที่ผมเพิ่งร่ายไปเมื่อสิบกว่านาทีก่อนนี้เอง “สวัสดีค่ะ … พี่ต้นกล้า?” แม้จะยังงง ๆ แต่น้องแพรก็ยกมือไหว้สวัสดีผมอย่างสวยงาม ส่วนผมน่ะเหรอ พอเธอไม่ได้จ้องตาผม สายตาของผมก็รีบสำรวจร่างกายของน้องแพรอย่างรวดเร็วทันที น้องแพรสวมใส่ชุดนักศึกษาที่ค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อยเช่นทุกที แต่หน้าอกหน้าใจกับสะโพกที่ผึ่งผายเกินตัวก็ยั่วซะจนผมต้องกลืนน้ำลายอึก ๆ ทุกทีที่ได้เห็น ซึ่งเท่าที่ประเมินด้วยสายตา รอบอกของแพรไม่น่าจะต่ำกว่า 38 นิ้วอย่างแน่นอน “แพรมาทำอะไรเหรอ?” ผมกลืนน้ำลายลงคออีกอึกใหญ่ แล้วพยายามกลั้นใจทำทีเป็นถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเธอมาทำไม เพราะตอนนี้น้องแพรกำลังหน้าแดงระเรื่อ หอบหายใจฟืดฟาด ทรวงอกอวบโอฬารของเธอก็เลยเด้งสั่นกระเพื่อมไปตามจังหวะการหอบหายใจของเธอด้วย … ซึ่งตามที่พ่อบอกเอาไว้ ใครก็ตามที่มาเพราะมนตร์เรียกเมีย จะอยู่ในสภาวะมีอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรง เหมือนกับที่หนูไอรีนเพิ่งแสดงให้เห็นมาแล้วหมาด ๆ เมื่อโดนหยอกถามแบบตรงไปตรงมา น้องแพรก็นิ่งเงียบอ้ำอึ้งไปครู่ใหญ่ เธอทำท่าเหมือนจะพูดอะไร แต่อายเกินกว่าจะพูดก็เลยก้มหน้างุดลงไปข้างล่าง แต่วินาทีนั้นตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นมาเหมือนเห็นอะไรบางอย่าง และอะไรที่ว่านั่นก็คือเจ้าน้องชายของผมที่กำลังแข็งตัวเต็มที่ ดันจนกางเกงนักศึกษาตุงขึ้นมาเป็นลำใหญ่ เพราะผมไม่ได้ใส่กางเกงใน และกำลังอารมณ์ค้างที่ยังไม่ได้แตกในใส่ร่องน้องหนูไอรีนนั่นเอง “… คือ แพรกำลังตามหาน้องสาวอยู่น่ะค่ะ แต่โทรเข้ามือถือก็ไม่ยอมรับ … แต่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม … ทำไมแพรมาอยู่ที่นี่ได้ …” “น้องสาว? แพรมีน้องสาวด้วยเหรอ?” “ก็ไม่ใช่น้องสาวแท้ ๆ หรอกค่ะ … เธอเป็นญาติทางแม่ … เป็นลูกครึ่งน่ะค่ะ ชื่อไอรีน เป็นเด็กฝรั่งผมทอง เรียนมัธยมปลายอินเตอร์ข้างมหาลัยของเรา พี่ต้นเห็นบ้างมั้ยคะ? … อุ๊ย!!!” เห็นได้ชัดว่าเธอแค่พยายามหาข้ออ้างมาอธิบาย โดยที่ยังคงแอบ ๆ เหลือบมองลงไปด้านล่างเป็นระยะ ซึ่งหลักฐานชั้นดีก็คือ ตอนที่น้องชายของผมมันกระตุกหงึก ๆ อยู่ข้างในกางเกง เธอก็ส่งเสียงร้องอุ๊ย ยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ด้วยจริตเหมือนสตรีไทยมารยาทงามทั้งหลาย “แพร … แพรยังโกรธพี่อยู่หรือเปล่า เรื่องของพวกเราวันนั้น?” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากพูดโกหกเรื่องน้องไอรีน และเรื่องนี้ก็ทำให้แพรถึงกับนิ่งเงียบไป ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะเหตการณ์ที่ว่านั่น ก็คือตอนที่ผมไปถ่ายรูปลับเฉพาะให้น้องแพรในโรงแรม แล้วก็อดใจไม่ไหวจัดการปลุกปล้ำ จนได้สอดใส่เปิดซิงเข้าไปด้านในแล้ว แต่ยังไม่ทันได้กระเด้า ผมก็หยุดเสียก่อน เพราะเธอร้องไห้ไม่ยินยอม ดังนั้นหากเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ก็คงไม่แปลกอะไร แต่แล้วปฏิกิริยาตอบรับของน้องแพร กลับผิดไปจากที่ผมคิดไว้เยอะทีเดียว เพราะเธอไม่ได้ตอบอะไร เอาแต่ยืนตัวสั่น หนีบสองขาเข้าหากัน ยกสองมือขึ้นมากอดอก แล้วก็หอบหายใจหนักหน่วงขึ้น ดูไปแล้วเหมือนกับว่าคำพูดของผมจะทำให้เธอยิ่งเกิดอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก เห็นอาการเธอแบบนี้ ควยของผมก็ยิ่งลุกขึ้นมาซิครับ เพราะหนูไอรีนก็สวยเฉี่ยวน่าฟันอยู่หรอก แต่ว่าน้องแพรน่ะสวยน่ารักเซ็กส์ซี่กินขาดกว่าเยอะ ผมก็เลยอดจินตนาการไม่ได้ว่า ถ้าหากวันนี้ผมได้สอดใส่เข้าไปในร่องของน้องแพรอีกครั้ง จะเสียวสุดยอดขนาดไหน “มะ ไม่รู้ค่ะ … แพรไม่รู้ … อุ๊ย อืออ …” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แล้วตัวเธอก็สั่นสะท้านเบา ๆ ร้องครางออกมาหนึ่งครั้ง ผมแอบเห็นเธอเม้มปาก และแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากตัวเองแว้บหนึ่งด้วย ตอนนี้ผมเองที่กำลังอารมณ์ค้างอยู่ก็เลยอดใจตัวเองไม่ไหวแล้ว “แพรไม่สบายหรือเปล่า? ตัวร้อนมั้ย?” ผมแกล้งตีเนียนทำสีหน้าเหมือนไม่คิดอะไร แต่พอพูดจบก็เดินเข้าไปหา แล้วก็ยกฝ่ามือขึ้นไปแตะที่หน้าผากของน้องแพร ทำทีเหมือนกับจะวัดไข้ให้เธอ ซึ่งเธอก็สะดุ้งเดินถอยหลังไปจนชนกับราวกั้นระเบียง สุดท้ายก็เลยต้องยอมให้มือของผมวางบนหน้าผากของเธอแต่โดยดี “… พี่ต้น …” เธอพูดเสียงแผ่วพลางยกมือขึ้นมาจับข้อมือของผมเอาไว้ แต่มือของเธอเหมือนกับจะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงต่อต้านอะไรนัก นอกจากยกขึ้นมาพอเป็นพิธีเท่านั้น “ก็ไม่ร้อนเท่าไหร่นี่นา … ที่อื่นล่ะร้อนมั้ย?” หลังจากได้แตะหน้าผากแล้ว ผมก็ทำเนียนต่อด้วยการลากมือลงมาลูบไล้ที่ปรางแก้มขาวอมชมพูของเธอ ทีแรกมือของน้องแพรพยายามฝืนไว้เล็กน้อย แต่เมื่อผมดึงดันต่อ มือของเธอที่จับข้อมือของผมอยู่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าจับกุมข้อมือของผมเอาไว้เฉยๆ เสียงจอแจของนักศึกษาที่อยู่ชั้นล่างดังขึ้นมาให้พอได้ยินว่าพวกเราไม่ได้อยู่กันตามลำพัง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะตอนนี้ระเบียงบนชั้นนี้ยังไม่มีใครเดินมา ส่วนน้องแพรนั้นเมื่อถอยไม่ได้ มือของผมก็เลยได้ทำงานอย่างเต็มที่ จัดการลูบไล้ไปเรื่อย จนน้องแพรเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับ เอียงคอเอียงใบหน้าไปตามการสัมผัส เหมือนกับลูกแมวตัวน้อยในฤดูผสมพันธุ์ “อืมมม … อืออออ … อืมมมม …” น้องแพรเริ่มส่งเสียงครางออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอเริ่มหอบหายใจแรงขึ้น สองขาก็หนีบเข้าหากันแน่นขึ้น แล้วขยับเสียดสีไปมา ดูอาการแล้วสติของเธอเหมือนจะยิ่งจางหายไปเรื่อย ๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังจูบกับนิ้วของผมที่ลูบผ่านปาก ผมก็เลยยิ่งฉวยโอกาสแหย่นิ้วเข้าไปในปากของเธอ ซึ่งเธอก็เผยอปากยอมรับแต่โดยดี อีกทั้งยังฉกลิ้นเลียวนรอบปลายนิ้วเหมือนกำลังกระหายเต็มทีเสียอีกต่างหาก “… อย่าค่ะ … อืมม จ๊วบ อืมมม จ๊วบบบ” น้องแพรดูจะมีความยับยั้งชั่งใจสูงกว่าหนุไอรีนเยอะ เพราะมีบ้างเป็นระยะที่เธอได้สติคืนมาแล้วผลักไสมือผมออก พร้อมกับส่งเสียงห้าม แต่พอโดนผมดันเอานิ้วเข้าไปแตะกับริมฝีปากของเธอใหม่ เธอก็หลับตาพริ้มอ้าปากออกดูดเลียนิ้วของผมเหมือนกับโดนมนตร์สะกด … ซึ่งมันก็คือมนตร์สะกดจริง ๆ นั่นแหละ เธอร้องห้ามสลับกับแลบลิ้นดูดเลียนิ้วผมแบบนี้สลับไปสลับมาอีกสองสามครั้ง จากนั้นเธอก็ไม่ร้องห้ามอีกเลย พอผมเห็นเธอทำแบบนี้ผมก็เลยยิ่งได้ใจ หันไปมองซ้ายมองขวาก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมีใครเดินขึ้นมาบนชั้นนี้ แล้วก็ลงมือเดินหน้าต่อ “ในปากของแพรร้อนจัง สงสัยจะไม่สบาย ไหนขอลองวัดไข้ที่อื่นบ้างดีกว่า” ผมพูดพลางยกมือข้างซ้ายที่ว่างอยู่ขึ้นไปลูบไล้ที่ลำคอขาวเนียนของน้องแพร ซึ่งแรกทีเดียวเธอนั้นสะดุ้งลืมตาขึ้นมามอง แล้วก็ยกมืออีกข้างมาจับข้อมือของผมเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่ในปากน่ะยังดูดนิ้วของผมเสียงดังจ๊วบ ๆ อยู่เลย ท่าทีขัดขืนเล็ก ๆ ของเธอย่อมไม่มีทางขวางอารมณ์หื่นของผมได้อยู่แล้ว ผมลูบมือซ้ายต่ำลงมาจากลำคอ ขยับไปที่กระดุมเสื้อนักศึกษาเม็ดบนสุด ผมปลดมันออกด้วยมือข้างเดียวอย่างไม่ยากลำบากเท่าไหร่ จากนั้นก็ตามมาด้วยกระดุมเสื้อเม็ดที่สอง เม็ดที่สาม จนสาบเสื้อนักศึกษาเนื้อบางเปิดเผยให้เห็นผิวพันธ์ขาวผ่องนวลเนียนของหน้าท้องและทรวงอก “อืมมม อืออออ จ๊วบ … อืมมมม อื๊อออ” เธอเริ่มครางหนักขึ้น ในปากก็ดูดเลียนิ้วของผมแรงขึ้น ตามระดับอารมณ์ที่กำลังพุ่งกระฉูด เพราะตอนนี้มือซ้ายของผมกำลังขยำสองเต้าของเธอสลับไปมาอย่างมันมือ ซึ่งแม้ว่าตอนนี้จะยังมียกทรงสีสวยขวางเอาไว้อีกหนึ่งชั้น แต่มันก็แทบไม่ได้ป้องกันการรุกรานจากมือของผมได้เลยสักนิด “จ๊วบบ … อืมมมม … อืมมมมม … อืมมมมมม” สุดท้ายผมก็อดใจไม่ไหว จัดการถลกยกทรงขึ้นไปด้านบนทรวงอก แล้วใช้ปลายนิ้วทั้งห้าจัดการขยำรีดเร้นไปตามก้อนเนื้อเต่งตูมเต็มไม้เต็มมือ ขณะเดียวกันก็ซุกหน้าลงไปดูดเลียหน้าอกที่ผมหลงไหลที่สุด หน้าอกที่ใหญ่อวบอิ่มไม่แพ้ใคร และเด้งสะท้อนยิ่งกว่าใคร โดยที่ผมเองก็เกือบลืมไปแล้ว ว่ากำลังเล้าโลมเธออยู่ตรงระเบียงอาคารเรียน ที่ซึ่งอาจจะมีใครเดินผ่านไปผ่านมาได้ทุกเวลา … แต่นี่แหละคือความสาแก่ใจในอีกรูปแบบ ยิ่งมาน้องแพรก็ยิ่งครางดังขึ้น ยิ่งมาร่างอวบอึ๋มเปี่ยมเสน่ห์ของเธอก็ยิ่งสั่นกระตุกเร่า ที่ด้านล่างมีเสียงโวยวายโห่ฮาของใครสักคนดังขึ้นมา แต่พวกเราต่างก็ไม่มีทีท่าว่าจะเขินแาย และหยุดการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด และเมื่อไหร่ก็ตามที่ผมอ้าปากงับปลายหัวนมสีชมพูอ่อนของเธอเข้า แพรก็เป็นต้องสะดุ้งโหยงแล้วส่งเสียงร้องอ๊ะเสียงอ่อนเสียงหวานออกมาทุกทีไป … ผมชอบปฎิกิริยาของแพรจัง “อืมมม พี่ต้นกล้า … อืออออ อูยยสสสส” เธอร่ำร้องเรียกชื่อผมทันทีที่ผมดึงนิ้วออก ปลดปล่อยให้ริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ แต่นั่นก็เป็นอิสระที่ไม่ยาวนานนัก เพราะผมรีบจับเธอหมุนตัวหันหลังให้ผม หันหน้าออกไปทางระเบียงอาคาร แล้วประกบกอดจากด้านหลัง จับหน้าของเธอเอียงมาด้านข้าง แล้วประกอบจูบบดเข้าใส่ริมฝีปากของเธอ ขณะเดียวกันมือสองข้างก็จัดการขยี้เคล้นสองเต้าของเธอได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรขัดขวางให้เสียอารมณ์ ที่เร้าอารมณ์ไปอีกแบบก็คือ ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ที่ระเบียงทางเดินของอาคารเรียน ซึ่งถึงจะมีรั้วกำแพงกั้นเอาไว้ แต่ก็เป็นแค่กำแพงสูงแค่ระดับสะโพก ดังนั้นหากมีใครสักคนที่อยู่ด้านล่างเงยหน้าขึ้นมาด้านบน ก็อาจจะได้เห็นร่างสวย ๆ ที่หนุ่ม ๆ ทั้งมหาลัยฝันหาของน้องแพรได้อย่างเต็มตา น้องแพรก็สมควรรับรู้ถึงข้อนี้ แต่การที่เธอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะมนตร์เรียกเมียที่รุนแรงเกินไป เหมือนกับที่พ่อบอกว่าจะรู้สึกเหมือนโดนยาปลุกเซ็กส์เข้มข้นเข้าไปสักขนาน แถมยังต้องมาเจอกับลีลาการเล้าโลมของผมเข้าไปอีกอย่าง “พี่ต้น … อื๊อออออออ อื้มมมมม อื๊ออออออ พะ พี่ อ๊อยยย ตะ อึ๊ยยยย ต้น …. อื๊อออออ” ตอนนี้แพรร้องครางอือ ๆ ดังขึ้น ถี่ขึ้น เพราะผมขยับคลายมือขวา ปล่อยออกจากหน้าอกของเธอ ล้วงลอดกระโปรงนักศึกษา ควานหาเข้าไปในกางเกงในที่เปียกชุ่ม แว้บเดียวก็งอนิ้วสอดใส่เข้าไปได้สำเร็จ แล้วก็เริ่มเร่งจังหวะนิ้วแยงเข้าไปในรูของเธอเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อผมซอยนิ้วไปได้พักใหญ่ แพรก็หลับตาปี๋ หนีบขาเข้าหากันจนแน่น ทำท่าเหมือนใกล้จะเสร็จคานิ้วมือผมไปก่อน “ซี้ดดสสส … พี่ต้น พี่ต้น อย่าเพิ่งเอาออก พี่ต้นคะ อื๊อออ อื้มมมมม อ๊อยยย อึ๊ยยยย ซี้ดดสสส …. อื๊อออออ” ผมตัดสินใจถอนนิ้วออกมาทันที เพราะยังไม่อยากให้เธอเสร็จไปเสียก่อน ไม่งั้นอาจจะเหมือนรอบที่แล้ว ที่เธอเสร็จไปหนึ่งรอบ แล้วก็มีสติแจ่มใสขึ้นมา จากนั้นก็จัดการขยับร่างเธอออกมาทางกำแพงห้องเรียน จับหมุนให้เธอหันหน้าเข้าหา แล้วยืนจ้องตาที่กำลังฉ่ำเยิ้มของเธอ “น้องแพรครับ พี่รักแพรที่สุดในโลก แพรเป็นเมียพี่นะ” ผมพูดบอกรักด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าเปี่ยมด้วยความรัก แต่พอพูดออกมาจากปากไหงมันฟังเหมือนผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังหื่นเต็มทีก็ไม่รู้ … แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ สรุปว่าเธอก้มหน้างุดไม่ตอบตกลง และไม่ตอบปฎิเสธ … แต่แค่นั้นก็ถือว่าโอเคแล้ว ผมขยับเข้าไปจูบปากเธออีกครั้ง ซึ่งเธอก็ยอมรับจูบของผมอย่างว่าง่าย ผมก็เลยเดินหน้าปลดซิปกางเกง ดึงเอาดุ้นที่กำลังแข็งเต็มพิกัดออกมา แล้วจับท่อนขาของเธอขึ้นมาวางพาดบนสะโพกของผมเอาไว้ เพื่อเปิดทางให้สามารถรุกล้ำเข้าไปร่องรักของเธอได้สะดวกกว่าเดิม เมื่อได้จังหวะผมก็จัดการจับดุ้นไปจ่อเอาไว้ที่ปากร่อง แล้วค่อยดันสะโพกกดดุ้นเอ็นดันเข้าไปในร่องของแพรด้วยความเสียวแปลบ เพราะร่องของแพรนั้นคับมาก คับไม่แพ้ร่องเด็กสาวอย่างน้องหนูไอรีนเลยทีเดียว แต่ที่เด็ดกว่านั้นก็คือร่องของเธอตอดได้สุดยอดเอามาก ๆ คราวนี้น้องแพรไม่ทำท่าต่อต้านเพราะเจ็บแบบครั้งแรกแล้ว ซึ่งก็คงเพราะว่าตอนนี้กำลังมีอารมณ์แบบสุด ๆ แถมยังเคยโดนเปิดซิงไปแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วด้วย ก็เลยไม่น่าจะเจ็บอีก เธอเพียงแค่ส่งเสียงครางไม่หยุด แล้วก็แลกลิ้นดูดปากกับผมแรงขึ้น รอจนดุ้นของผมมุดเข้าไปชนกึกเข้ากับส่วนที่ลึกที่สุดของเธอนั่นแหละ เธอถึงค่อยตัวกระตุกเกร็งขึ้นมาอีกรอบ “อูยสสส น้องแพร เสียวสุดยอดเลย อูยยสสส” ผมถอนปากออกมาแล้วร้องครางด้วยความรู้สึกสุดเสียว เพราะมันให้ความรู้สึกที่ดีมาก ๆ แบบไม่มีใครเทียบติด แต่ตอนนี้น้องแพรกลับไม่ได้ส่งเสียงครางออกมา เพราะกำลังหลับตาปี๋เม้มปากแน่น ท่าทางเหมือนจะกำลังทั้งจุกทั้งเสียวจนพูดอะไรไม่ออก “แพรครับ … ขอแตกในนะ?” ผมพูดถามเสียงหื่น เพราะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ไม่มีถุงยาง แล้วน้องแพรก็คงไม่ได้กินยาคุมกันไว้แบบยายดาวอย่างแน่นอน แต่จะว่าไปผมก็ถามไปงั้น ๆ แหละ เพราะต่อให้เธอปฏิเสธ ผมก็เชื่อว่านาทีนี้คงไม่ยอมแตกนอกให้เสียชาติเกิดเด็ดขาด แต่พอลองถามไปแล้ว น้องแพรกลับมองตอบมาด้วยสายตางุนงง เหมือนไม่เข้าใจว่าผมถามอะไรออกไป “เอ่อ หมายถึง ขอปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปในร่องเลยน่ะ อืม ช่างเถอะ” ผมอธิบายซ้ำเพราะนึกขึ้นได้ว่าน้องแพรนั้นถูกเลี้ยงดูมาแบบประคบประหงมขนาดไหน ดังนั้นคำศัพท์ที่ไม่ดีพวกนี้คงไม่น่าจะได้ผ่านหูเธอมาก่อน น้องแพรฟังแล้วก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังทำความเข้าใจ และสุดท้ายเธอก็ให้คำตอบด้วยการยกขาอีกข้างที่ยันพื้นอยู่ขึ้นมาวางพาดบนสะโพกของผม สองแขนก็ขยับขึ้นคล้องรอบคอผมไว้ แล้วเสนอจูบให้ ผมก็เลยจูบกลับไปมาสุดฝีมือจนเธอเคลิ้ม ตอนนี้พวกเราก็เลยอยู่ในท่าที่เรียกว่าลิงอุ้มแตงไปโดยปริยาย นาทีนี้ต้องบอกว่าผมลืมไปแล้วจริง ๆ ว่าพวกเราอยู่ตรงระเบียงอาคารเรียน ผมคิดแค่ว่าต้องจัดหนักใส่น้องแพรให้เสร็จ ก็เลยเอื้อมมือสองข้างลงไปจับล๊อคสะโพกของเธอเอาไว้ แล้วเตรียมแอ่นสะโพกกระแทกใส่แบบเย็ดสดแตกใน … แต่แล้วขณะที่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ผมก็ได้ยินเสียงพุดคุยโขมงโฉงเฉงอันแสนคุ้นหูของ ไอ้เพื่อนที่น่าตายอย่างไอ้โก้กับไอ้ตี๋ดังมาจากทางบันไดเสียก่อน … เวรเอ๊ย!!! …………………………………………………………………. ยังดีที่ได้เพื่อนเวรทั้งสองคุยกันเสียงดัง เสียงจึงมาถึงก่อน แต่พวกมันยังเดินขึ้นมาไม่ถึงชั้นบน ผมก็เลยพอมีเวลารีบอุ้มน้องแพรที่กำลังเงี่ยนสุดฤทธิ์เข้าไปในห้องชมรม แล้วจัดการล๊อคประตูห้องทำทีเหมือนไม่มีใครอยู่ในห้องมาก่อน จากนั้นก็รีบอุ้มน้องแพรเปิดประตูห้องมืดเข้าไป แต่ก็เข้าไปได้แค่ชั้นเดียว เพราะว่าในห้องมืดตอนนี้มีน้องหนูไอรีนซ่อนตัวอยู่ พอพวกมันสองคนเปิดประตูเดินเข้ามา ก็เลยกลายเป็นว่าในห้องชมรมมีคนอยู่ด้วยกันห้าคน โดยที่ไอ้โก้กับไอ้ตี๋อยู่ในห้องส่วนแรก และน้องหนูไอรีนอยู่ในห้องมืด ส่วนผมกับน้องแพรก็กำลังติดอยู่ในความมืด ตรงพื้นที่แคบเล็ก ๆ ระหว่างประตูทั้งสองบาน ในสภาพลิงอุ้มแตง!!! ในความมืดผมไม่เห็นสีหน้าของน้องแพร ก็เลยเดาว่าเธออาจจะกำลังตกใจอยู่ แต่กลายเป็นว่าผมคิดผิด เพราะว่าเธอก้มลงมาจูบปากแลกลิ้นกับผม แล้วพยายามเด้งสะโพกเข้าหา ทำท่าเหมือนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทั้งที่ได้ยินเสียงคุยของไอ้โก้กับไอ้ตี๋ที่ด้านนอกเข้ามาอย่างชัดเจน ผมเองก็คิดจะสนองตอบเธอเหมือนกัน แต่ว่าช่องว่างระหว่างประตูสองบานนี้มันแคบเกินไป จนแทบไม่มีที่ว่างให้ขยับสะโพกกระแทกใส่เธอ ทำได้แค่ลากดุ้นเอ็นถอยออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งเซ็นติเมตร สุดท้ายผมก็เลยได้แค่กระดกก้นซอยยิกเบา ๆ ทั้งที่อยากกระแทกใส่เธอให้สุดตัวใจจะขาด … ให้ตายเถอะ แบบนี้มันโคตรทรมาณเลย!!! “อ้าว ไอ้กล้าไม่อยู่เรอะ เห็นแต่กระเป๋า?” ผมได้ยินเสียงของไอ้โก้เพื่อนจอมหื่นดังขึ้นมาจากด้านนอกแว่ว ๆ ซึ่งน้องแพรก็คงได้ยินเหมือนกัน จากนั้นก็ได้ยินเสียงของไอ้ตี๋เด็กเนิร์ดหนอนหนังสือดังตามมา “เฮ้ย ไอ้โก้ กูเตือนด้วยความหวังดีนะเว้ย กูว่ามึงอย่าไปให้น้องไอรีนหลอกแดกเลยว่ะ ถึงมึงจะรวย แล้วก็อยากฟันเด็กยังไง แต่ก็ต้องรู้จักประหยัดบ้างนะเว้ย” “ไอ้ตี๋เวร น้องไอรีนไม่ได้หลอกกูนะเว้ย น้องเค้าแค่อยากทดสอบความจริงใจของกูเฉย ๆ ” “เฮ้ย ไม่ต้องพูดเข้าข้างตัวเองว่ะ มึงโตแล้ว รู้ว่าอะไรเป็นอะไร กูรู้ว่ามึงเข้าใจว่ากูอยากพูดอะไร” “… เออ กูเข้าใจว่ามึงเป็นห่วง … แต่ทำไงได้วะ ก็กูเห็นน้องเค้าน่ารักนี่หว่า กูก็ต้องทุ่มหน่อย แล้วเงินแค่นี้ก็จิ๊บ ๆ” “เออ กูรู้ว่าน่ารัก ไม่งั้นคงไม่โดนโหวตให้เป็นเด็กสาว ม ปลายที่น่าฟันที่สุดในกรุงเทพหรอกเว้ย แต่มึงก็ต้องรู้จักพอดีบ้าง” “ไอ้ตี๋เอ๊ย เอาเป็นว่ากูเข้าใจที่มึงห่วงกู แต่ว่ากูถามคำเดียว ว่าถ้ามึงมีโอกาสเอาน้องไอรีน มึงจะเอามั้ย?” “เอาซิวะ!!!” ผมชะงักการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ เพราะกำลังอึ้งที่ไอ้ตี๋อุตส่าห์พูดดีในตอนแรก แต่ดันยอมรับหน้าตาเฉยว่าอยากฟันน้องไอรีน ตามที่ไอ้โก้ชี้นำ ตอนนี้ผมถึงค่อยนึกขึ้นได้ว่าน้องแพรจะคิดยังไงกับประโยคคำพูดนี้ แต่ที่ผมเป็นห่วงก็เหมือนจะสูญเปล่า เพราะเธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นอกจากจูบกับผม แล้วก็พยายามเด้งสะโพกอย่างยากลำบากอยู่ในพื้นที่คับแคบ “นั่นแหละ ทุ่มเท่าไหร่กูไม่ว่า แต่ขอให้กูได้ฟัน เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาส กูจะใช้ยา แล้วให้มึงร่วมรุมด้วยเอามั้ย?” “เออ งั้นกูไม่ห้ามมึงแล้ว ถ้าจะได้เอาเด็กสาวหน้าอ้อนควยแบบนั้น ทุ่มแบบจัดเต็มไปเลยไอ้โก้เพื่อนเลิฟ ฮ่า ฮ่า” “นั่นไง ออกลายแล้วไงมึง ไอ้ตี๋แว่น … ว่าแต่มึงไม่สนน้องแพรนางฟ้าสุดสวยแล้วเรอะ เห็นวัน ๆ มึงไม่ยอมจีบสาว เอาแต่ดูรูปน้องแพร แล้วชักว่าวอยู่นั่นแหละ” “เฮ้ย … นั่นมันเป้าหมายสูงสุดของกูเฟ้ย ไอรีนเด็กมึงก็น่าฟัน แต่ว่าน้องแพรนี่สุดยอดกว่าใคร ถ้าได้เป็นเมียนะ พี่จะจับมัดไว้กับบ้านเอากันทั้งวันไม่ต้องไปไหนแล้ว” “หึ หึ ไอ้ตี๋เอ๊ย ฝันอันสูงสุดของมึงนี่มันกระจอกสิ้นดี ต้องฝันของไอ้โก้สุดหล่อคนนี้ต่างหากที่สุดยอด รู้มั้ยกูน่ะฝันอยากสร้างฮาเร็มเล็ก ๆ ให้น้องแพรเป็นเมียหลวง ให้ยัยดาวเป็นเมียน้อย ให้หนูไอรีนเป็นกิ๊ก แล้วก็ถ้าจะให้ดีก็ขอแม่น้องแพรมาเป็นแม่นมให้อีกคน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้เพื่อนเวรทั้งสองคนคุยกันเสียงดัง โดยไม่ได้รู้เลยว่าน้องแพรที่มันพูดถึงน่ะอยู่แค่ประตูกั้นแค่นี้เอง แถมถ้าเปิดประตูถัดไปก็จะมีน้องหนูไอรีนเด็กฝรั่งผมทองอีกคน แต่จะว่าไปที่พวกมันพูดก็น่าสนใจนะ สร้างฮาเร็มที่มีน้องแพร ยัยดาว หนูไอรีน แล้วก็คุณพลอยอยู่ด้วยกัน … ถ้าทำแบบนั้นได้ล่ะก็สวรรค์ชัด ๆ ตอนนี้เสียงคุยของพวกมันสองคนเงียบไปแล้ว ผมก็เลยได้ยินแต่เสียงครางในลำคอของน้องแพร แล้วผมก็ต้องใจหายวาบเพราะนึกได้ว่า ผมได้ยินเสียงของพวกไอ้โก้ ดังนั้นพวกไอ้โก้ก็น่าจะได้ยินเสียงของฝั่งผมเหมือนกัน!!! “เฮ้ย ไอ้ตี๋มึงได้ยินเสียงอะไรมั้ยวะ เหมือนเสียงผู้หญิงคราง” “เสียงอะไรวะ ไม่รู้ว่ะ … เออ กูจะเปิดหนังโป๊ดาราหน้าใหม่ มึงสนมั้ย? รายนี้ขาว นมโต เสปคกูเลย” “เฮ้ย งั้นรีบเปิดเลยเว้ย” ผมถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความโล่งอกที่ไม่ถูกพบเสียก่อน ถัดจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงร้องครางของผู้หญิงดังออกมาจากทางโน้น ซึ่งก็คงเป็นเสียงของหนังโป๊ที่ไอ้ตี๋เปิดนั่นแหละ แล้วอีกไม่นานผมก็ได้ยินเสียงครางของผู้ชายสองเสียง ซึ่งก็คงเป็นเสียงของไอ้โก้ กับไอ้ตี๋ที่กำลังชักว่าวช่วยตัวเองกันอยู่ตามปกตินั่นแหละ เสียงครางจากฝั่งโน้นส่งมาถึงฝั่งนี้ แถมผมว่าผมยังได้ยินเสียงครางของไอรีนดังมาจากทางประตูอีกด้านเสียด้วย ตอนนี้อารมณ์ตกใจของผมก็เลยหายไปหมด เหลือแต่ความหื่นเข้ามาแทนที่ พอหายตกใจสมองก็ค่อยเริ่มทำงาน ถ้ากระแทกเอวไม่ได้ ก็ไม่ต้องกระแทก แต่ใช้วิธีอื่นแทนก็ได้ ผมก็เลยจัดการหมุนวนเอว คว้านดุ้นเอ็นให้ขยับไปมาอยุ่ในร่องของน้องแพร ซึ่งถึงจะไม่สะใจในอารมณ์เท่าไหร่แต่ก็ดูเหมือนน้องแพรจะชื่นชอบไม่น้อย ดาราหนังในเครื่องคอมส่งเสียงคราง พวกไอ้โก้ กับไอ้ตี๋ก็ร้องคราง น้องแพรก็ครางไปพร้อมกับผม ส่วนน้องหนูไอรีนก็กำลังร้องคราง เพราะกำลังตกเย็ดอยู่ที่อีกฟากประตู พวกเราห้าหนุ่มสาวต่างก็ร้องคราง แถมเสียงครางก็ค่อยเร่งเร้าแรงขึ้นทีละน้อยจนผมหัวหมุน น้องแพรเองก็หอบหายใจฟืดฟาดเหมือนใกล้จะเสร็จเต็มที เนื้อตัวของเธอชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อเหมือนกันกับผม เราสองคนขยับร่างบดเบียดเข้าหากันด้วยความยากลำบากเพราะข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ แต่เพียงไม่นานนัก ผมก็ทำหน้าที่ของบุรุษได้สำเร็จ หลังจากพยายามควงบั้นเอวคว้านใส่ร่องรูของน้องแพรได้ราวห้านาที เธอก็กอดผมแน่น ทำท่าจะส่งเสียงหวีดออกมา แต่ผมรีบประกบจูบปากเธอเอาไว้ได้ทันเสียก่อน ก็เลยไม่มีเสียงหลุดออกไปดังมากนัก แล้วก็เหมือนจะนัดกันเอาไว้ ทางด้านหนูไอรีนก็เงียบสงบไป ส่วนไอ้เพื่อนเวรสองคนก็เงียบไป เหลือก็แต่เพียงเสียงครางของดาราหนังโป๊บนจอคอมที่ยังคงดังอยู่ แต่ไม่นานนักเสียงนั้นก็เงียบลง เพราะไอ้โก้กับไอ้ตี๋ปิดคอม ส่วนผมน่ะเหรอ … ยังไม่ได้แตกเลยสักน้ำ!!! “ฟู่วว นางเอกคนนี้เด็ดว่ะ นมขาวจั๊วะ แต่ยังอวบไม่เท่านมน้องแพร” “เออ เด็ดไม่เด็ด ก็ทำมึงน้ำแตกได้ล่ะเว้ยไอ้โก้ … ไปโว้ย ไปหาข้าวกินกัน ทิ้งของไว้ที่นี่ก่อน อีกเดี๋ยวค่อยมาเอา” พอพวกมันพูดจบซักพักก็ได้ยินเสียงเปิดกับปิดประตู แต่ผมยังยืนค้างอยู่ที่เดิมอีกครู่นึงก่อนเพื่อความมั่นใจ รอสักพักก็เปิดประตูห้อง แล้วอุ้มน้องแพรออกไปด้วยความยากลำบาก เพราะยืนรับน้ำหนักน้องแพรนานเกินไปจนตะคริวกิน ผมวางน้องแพรที่กำลังหน้าแดงก่ำลงบนโต๊ะ แล้วก็ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงยืนไม่ไหว และนั่นก็นับว่าผมพลาดอีกครั้ง เพราะตอนนี้น้องแพรเสร็จไปแล้วหนึ่งรอบ ก็เลยได้สติคืนมา แถมผมยังไม่ได้เล้าโลมซ้ำ เธอก็เลยรีบผลุนผลันลุกขึ้นหันหลังให้ แล้วใส่เสื้อผ้ากลับอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นหมายความว่าผมคงต้องอารมณ์ค้าง อดเย็ดสดแตกในใส่น้องแพรอีกรอบ เพราะอารมณ์ของเธอลดลงไปแล้ว แถมอีกไม่นานพวกไอ้โก้ก็จะกินข้าวเสร็จ แล้วกลับมาเอาของในห้องด้วย “พี่ต้น …” เมื่อแต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อย เธอก็เดินแบบเขิน ๆ มานั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เธอมองดุ้นเอ็นที่ยังแข็งปั๋งของผมเล็กน้อย แล้วเรียกผมเสียงอ่อนเสียงหวาน ตอนนี้ผมจึงค่อยรู้สึกใจชื้นที่เธอไม่โกรธผม และมีทีท่าเหมือนจะยอมรับว่าเป็นเมียของผมแล้ว … ซึ่งในทางปฏิบัติก็ควรจะนับเช่นนั้น เพียงแต่ว่ายังไม่สมบูรณ์นัก เพราะผมยังไม่เคยได้กระเด้าใส่จนน้ำแตกใส่เธอเลยสักครั้ง “ครับ … พี่รักน้องแพรนะ น้องแพรรักพี่หรือเปล่า?” ผมพยายามตอบด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าอบอุ่นที่สุด ซึ่งความจริงน่ะผมอยากจะลุกขึ้นไปกอดแล้วจูบเธออีกสักหลายฟอด แต่ว่าขากำลังชาจนกระดิกไม่ไหว ก็เลยได้แต่นั่งนิ่งอยู่แบบนี้ “… แพร … แพรชอบพี่ต้นกล้าค่ะ …” เธอตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ ผมก็เลยยิ้มดีใจจนแก้มแทบปริ … แต่ว่า เธอบอกว่าชอบเหรอ? ไม่ใช่รัก? ผมก็เลยถามย้ำไปให้แน่ใจ “แค่ชอบเหรอ? ไม่ใช่รักเหรอ?” “ไม่ใช่รักค่ะ … แพรชอบพี่ต้นกล้า … เพราะอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าชอบ … แต่นั่นยังไม่ใช่ความรักค่ะ” ผมฟังแล้วอึ้งไปพักใหญ่ ซึ่งความจริงเธออาจจะพูดถูก เช่นผมเองก็ชอบมีเซ็กส์กับดาว กับคุณพลอย กับไอรีน หรือแม้แต่กับน้องแพร … แต่ว่าผมรักน้องแพรแน่เหรอ? นี่เรียกว่ารักหรือเปล่า? “งั้นเราคบกันเป็นแฟนก่อนนะ” ผมรีบเสนอทางออก แต่น้องแพรก็ยังไม่ได้ทำท่าว่าต้องการแบบนั้น เธอเพียงยิ้มเขิน ๆ แล้วก็ยกมือซ้ายขึ้นมาให้ผมดู โดยที่ผมยังคงงง ๆ ว่าเธอต้องการให้ผมดูอะไร “พี่ต้นกล้าเคยเห็นแหวนวงนี้มั้ยคะ?” เธออธิบายพลางกระดิกนิ้วก้อยข้างซ้าย ที่มีแหวนซึ่ทำจากใบหญ้าแห้งสวมใส่อยู่ ผมก็มองดูด้วยความงง ๆ รู้สึกเหมือนจะคุ้นอยู่บ้าง แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน … แต่ว่า เดี๋ยวนะ นิ้วนางข้างซ้าย? หรือเธอจะหมายความว่าเธอมีคู่หมั้นคนอื่นอยู่แล้ว? “แหวนหมั้น? หรือว่าน้องแพรมีคู่หมั้นอยู่แล้ว? … แต่ว่าแม่ของแพรยกเลิกการหมั้นไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” “คู่หมั้นที่แม่เลือกให้โดนยกเลิกไปแล้วค่ะ แต่ว่าคู่หมั้นที่แพรสัญญากับเขาเอาไว้ตั้งแต่เด็ก แพรยังไม่ยกเลิก” เธอหันมาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตาที่สวยประหนึ่งดวงดาวยามค่ำคืนของเธอ ถึงกับเปล่งประกายแวววาวออกมา เมื่อเธอพูดถึงคู่หมั้นคนนั้น แต่ผมล่ะ … ผมได้แต่อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก เพราะว่ากำลังรู้สึกหดหู่เศร้าเสียใจจนสมองเบลอ นี่แสดงว่าเธอมีคู่หมั้นที่เธอรักกันมากอยู่แล้ว ส่วนผมก็เป็นได้แค่ไอ้บ้ากามที่เอาแต่พยายามใช้มนตร์คาถาหวังเคลมสวาทเธอ “ตอนแรกแพรรู้สึกดีกับพี่ต้นกล้า ก็เลยคาดหวังว่าจะใช่พี่ต้นกล้า … แต่ถ้าพี่ต้นกล้าไม่รู้จักแหวนวงนี้ แพรก็ขอให้ความสัมพันธ์ของพวกเราเป็นแค่พี่กับน้องเหมือนเดิมนะคะ … แพรขอตัวก่อนค่ะ” พอเธอพูดจบก็ยกมือสวัสดี แล้วก็เดินเปิดประตูออกไป โดยไม่เหลียวหลังกลับมามองสักนิด ว่าตอนนี้ผมกำลังนั่งซึมทำอะไรไม่ถูกอยู่ ผมนั่งซึมแบบนั้นจริง ๆ เพราะนี่มันเป็นเรื่องที่ช๊อคมาก ผมเพิ่งสานความสัมพันธ์กับเธอจนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นผัวเป็นเมียกัน แต่แล้วเธอกลับหักอกปฏิเสธใส่ผมแบบดื้อ ๆ และผมบอกได้เลยว่า ครั้งนี้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าตอนที่โดนดาวหักอกเป็นครั้งแรกในชีวิตเสียอีก “… ท่อน กล้า … อาร์ ยู โอเค? … ไอ แอฟ ทู โก นาว …” หลังจากนั้นไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ผมค่อยได้สติกลับมาก็อีตอน หนูไอรีนที่สวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วยื่นมือมาแตะหน้าผาก แล้วถามว่าผมโอเคหรือเปล่า เธอต้องไปแล้วนะ เธอทำหน้าเจื่อน ๆ เล็กน้อยขณะมองผม แล้วทำท่าคล้ายจะออกไปข้างนอก แต่ยังไม่อยากออกไป ผมก็มองเธอแล้วยิ้มแห้ง ๆ ให้ เพราะรู้สึกผิดที่เพิ่งเจาะไข่แดงเธอไปหมาด ๆ แต่ดันลืมเธอไปเสียสนิท จึงไม่แปลกเลยที่เธอจะทำท่าเหมือนลูกแมวโดนทิ้งแบบนั้น แต่ถึงจะรู้สึกผิด ผมก็ไม่มีแรงพอจะพูดเอาอกเอาใจ ก็เลยได้แต่นั่งนิ่งเงียบแบบนั้น หนูไอรีนก็เลยยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ “ท่อน กล้า ไม่ ชอบ ฟัค ไอ เหรอ? … แต่ ไอ เลิฟ ท่อน กล้า มาก เลย” ไอรีนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แล้วถามผมแบบเน้นแต่ละคำเป็นภาษาไทย เธอคงกลัวว่าผมจะฟังเธอไม่รู้เรื่อง ผมก็เลยรู้สึกเห็นใจ พยายามรวบรวมสติมาพูดปลอบใจเธอเสียหน่อย “ไม่ใช่หรอก ไอรีนสวยน่ารักมาก ถ้าทำได้ผมอยากเอาทุกวันเลย … แต่ว่าตอนนี้ผมเพิ่งอกหักมา … ก็เลยไม่ค่อยมีแรงทำอะไร …” ผมพยายามพูดอธิบายให้ได้ใจความ ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะทั้งที่ยังไม่ได้แตกเลยสักน้ำ แถมยังมีร่างเล็ก ๆ เซ็กส์ซี่ของน้องหนูไอรีนอยู่ตรงหน้า แต่ว่าดุ้นของผมตอนนี้กำลังแห้งเหี่ยวหมดเรี่ยวหมดแรงไม่สู้เอาเสียแล้ว “ไอ ซี อก หัก .. โบร้ค เค่น ฮาร์ท … ให้ ไอ เป็น แฟน ท่อน กล้า แทนนะ” เธอพยักหน้าเข้าใจ แถมยังยิ้มยินดี พูดตรงไปตรงมา ขอรับช่วงตำแหน่งแฟนต่อหน้าตาเฉย ส่วนผมน่ะยังไม่มีอารมณ์อะไรทั้งนั้น ก็เลยได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ไม่ตอบรับ และไม่ปฏิเสธ ไอรีนก็ดูจะเข้าใจ เธอขยับลงมานั่งบนตักผม หอมแก้มผม แล้วจูบปากผมหลายครั้ง จากนั้นก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของผมออกมาถือในมือ คู่กับโทรศัพท์สีชมพูหวานแหววของเธอ “ไอ ต้อง ไป แล้ว … ขอ เบอร์ โทร” ผมพยักหน้าเห็นด้วย แล้วก็จัดการปลดล๊อคโทรศัพท์ของผมให้ เธอก็เลยจัดการกดโทรไปที่เบอร์ของเธอ เพื่อจะได้จดบันทึกเอาไว้ แต่แล้วจังหวะนั้น เธอก็ขมวดคิ้วมองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผมด้วยความแปลกประหลาดใจ และไม่นานนัก ใบหน้าของเธอก็มีรอยยิ้มยินดีประดับอยู่ ผมก็เลยมองหน้าเธอแบบงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วเมื่อเธอยกหน้าจอโทรศัพท์ของผมที่มีรูปของเธออยู่ให้ผมดู ผมก็เข้าใจ เพราะก่อนหน้านี้ตอนรอไอ้โก้ทำรายงานเก็บตก ผมกับไอ้ตี๋ก็แอบเมมเบอร์ของน้องไอรีนเอาไว้ ตอนนั้นผมกับไอ้ต๊่แข่งกันไปหารูปในเฟซบุ๊คมาใส่ แถมยังแข่งกันตั้งชื่อแปลก ๆ ด้วย ดังนั้นตอนนี้ในหน้าจอโทรศัพท์ของผมก็เลยแสดงเบอร์โทรของน้องไอรีน พร้อมกับรูปตอนเธอก้มหน้าอวดร่องนม และปิดท้ายด้วยชื่อที่ผมบันทึกเอาไว้ว่า ‘เด็กมัธยมนมมหาลัย น่ารักน่าเย็ดที่สุดในสามโลก’ “ยู อาร์ มาย แฟน คลับ!!!” เธอหันมาพูดด้วยน้ำเสียงยินดีมีความสุข แล้วก็กอดจูบกับผมอีกยกใหญ่ เธอปิดท้ายด้วยการขยับตัวลงไปอ้าปากอมดุ้นเอ็นของผม ซึ่งแม้ว่าจะออกลีลาเก้ ๆ กัง ๆ ไปบ้าง และผมก็แทบไม่มีอารมณ์ แต่ความจริงจังของเธอก็ทำเอาดุ้นเอ็นของผมเริ่มแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้งจนได้ น่าเสียดายที่ไอ้โก้โทรมาหาผมเสียก่อน ผมก็เลยรับโทรศัพท์พูดคุยกับมันไปพลาง ปล่อยให้หนูไอรีนที่ไอ้โก้หวังเคลมสวาทดูดควยให้ไปพลาง ยังดีที่ไอ้โก้โทรมาถามว่ากำลังจะมาห้องชมรม อยากให้ซื้ออะไรมั้ย ผมก็เลยรีบบอกให้มันไปซื้ออะไรบางอย่างมาก่อน ทั้งที่ยังไม่หิว แต่แค่อยากซื้อเวลาหาความสุขกับไอรีนอีกสักหน่อยเท่านั้น หลังจากนั้นไอรีนก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เธอใช้ปากปลุกจนอารมณ์ผมกลับมาอีกครั้ง และระเบิดน้ำเงี่ยนที่เก็บกดมานานแสนนานเข้าไปในปากของเธออย่างเต็มที่ จากนั้นผมก็ปล่อยให้เธอกลับบ้านไปก่อน โดยมีสัญญาใจไว้ว่าจะมามีเซ็กส์กับผมให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ………………………………………………………………….