ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61 “ลุ้นระทึกกลางดึก!?…เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผี!!!!” 

“ก่อนที่น้องจะใช้พลังพันธนาการท่านพี่…กรุณาบอกเหตุผลที่น้องรับฟังได้…จะอธิบายว่าอย่างไรเจ้าคะ?”
“พี่ก็บอกแล้วว่ามันเป็นแค่…ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน”
“……………………………………………”
“ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ”
“เท่านี้หรือเจ้าคะ?”
“อืม–…อ๊ะๆ…อย่าเชียวนะ!!…พี่มีออกตรวจตอนบ่ายอีก”

“วานให้หมอคนอื่นทำแทนก็ได้ส่วนท่านพี่จงนอนหลับอยู่แต่ภายในห้องนี้เสียเถิด…ใบหน้ายามหลับนั่นช่างงดงามยิ่งนักเจ้าค่ะ”
“เฮ่ยเอาจริงน่ะ!?…แน่~~…ล้อพี่เล่นใช่ม๊า?”
“…น้องกำลังโกรธอยู่นะเจ้าคะ”
“ไหมๆๆๆ…อย่ามัวอยู่เฉยๆช่วยฉันด้วย!!!”
“คุณหนูรองเจ้าคะ…ดิฉันว่า…”
“หุบปากบัดเดี๋ยวนี้!!…เจ้าก็มีความผิดที่ช่วยท่านพี่ปกปิดเรา…สงสัยอยู่แล้วเทียวว่าทำไมเจ้าถึงพาเราไปโน่นไปนี่ที่แท้ก็เป็นการถ่วงเวลา”
“……………………………………………”
“น่าๆ…อีตาผอ.มะเขือเผานั่นมันแค่การละเล่นฆ่าเวลา”
“น้องเบื่อจะฟังท่านพี่ที่พูดแก้ตัวเช่นนี้มามิรู้กี่ครั้ง…เอาล่ะ”
“?”
“หากยังมิเลิกข้องเกี่ยวกับเฒ่าหัวงูผู้นั้นอีกก็อย่าหาว่าน้องใจร้ายล่ะกัน”
“เฮ่!!”
“……………………………………………”
“โอ๊ะไม่ได้การ!!…ต้องไปออกตรวจแล้ว”
“น้องยังพูดมิจบนะเจ้าคะท่านพี่!!!”
“หนีไวจัง”
“คอยดูเถิดไหม…มันผู้ใดที่จะเข้าใกล้ท่านพี่ด้วยเพราะมีเจตนาสกปรกลามกต้องพบกับจุดจบที่น่าสมเพช…ท่านพี่เป็นของเรา!!!”
“คุณหนูใหญ่ก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองเจ้าค่ะ”
“เหตุผลที่หาได้มีความเข้าท่าแต่อย่างใดไม่น่ะหรือ?”
“……………………………………………”
“เราจะไปเรียนส่วนเจ้าคอยดูแลท่านพี่”
“เจ้าค่ะ”
“……………………………………………”
“……………………………………………”
“ไหมๆ”
“คุณหนูใหญ่!?”
“ม่อนไปแล้วใช่มั้ย?”
“เพิ่งออกไปเมื่อกี้เจ้าค่ะ”
“เฮ้อ~~…ช่วยบอกมันด้วยว่าอย่าไปทำอะไรอีตาผอ.นั่นเลยเพราะตอนนี้แพ้ภัยตัวเองไปนอนในห้องไอซียูเรียบร้อยแล้ว”
“หา?”
“มีประวัติเป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแต่สาเหตุที่แท้จริงก็เป็นเพราะขึ้นเตียงกับฉันนั่นแหละ…เธอเองก็อย่าเอะอะไปเชียวนะ”
“!?”
………………………………………………………………………………………………………………….

“กินข้าวกลางวันมาหรือยัง?”
“…เรียบร้อยครับ”
“นั่งเป็นเพื่อนพี่ก่อน…เดี๋ยวจะไปส่งที่ห้อง”
“…………………………………………..”
…พี่แคทมาอยู่ที่ร้านอาหารหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย?…ไม่แวะก็ไม่ได้เพราะสาวเจ้าผมยาวโทรจี้เข้ามือถือ…
(ไม่รู้ตั้งใจมาดักรอหรือเปล่าเพราะที่นี่มันก็ใกล้อาคารที่หล่อนเรียนอยู่เหมือนกัน!?)
“นายท่านคะ…พวกเราขอตัวกลับนะคะ”
“อืม”
“โอ–…แค่ไปพบกับคุณพัตราครั้งแรกในฐานะ…ว่าที่ผู้นำรุ่นสามก็ดูจะเพลินติดลมบน”
“…………………………………………..”
“หนูจ๊ะ…ข้าวได้แล้ว”
…พี่แคทลุกไปหยิบอาหารที่สั่งไว้ส่วนผมเดินไปซื้อน้ำอัดลมกระป๋องโดยตั้งใจซื้อมาเผื่อเธอด้วยแต่ทว่า…
“ไม่ได้สั่งสักหน่อย”
“งั้นผมเก็บไปฝากฝนก็ได้”
“…………………………………………..”
“ข้าวคะน้าผัดปลาอินทรีย์”
“ป้าเค้าทำอร่อย”
“แต่ผมอยากกินอาหารฝีมือพี่มากกว่า”
“ห๊ะ?”
…อึ้งไปเลยพี่สาวผม…หึๆ…ก็รู้อยู่แล้วว่าเธอทำอาหารไม่ได้เรื่องแต่อยากจะ(เอาคืน)แหย่เล่นเฉยๆ…
“เย็นนี้พี่ทำให้ผมกินนะ”
“พี่ทำเป็นที่ไหน?…ไปขอให้ฝนทำโน่น”
“แย่จัง…ผู้หญิงที่ไม่มีฝีมือปลายจวักใครจะมาขอไปเป็นแม่บ้านแม่เรือน?…น่าขันมากถ้าใครๆรู้ว่าคุณหนูสองผู้สูงส่งแห่งวิษณุมนตรีจะไร้ความสามารถที่ผู้หญิงส่วนใหญ่พึงมี”
“โห~~…แล้วไงต่อ?”
“นี่เรื่องใหญ่ครับ…อย่าล้อเล่น”
…เปรียบเปรยกับน้องสาว,แม่บ้านแม่เรือน,ชีวิตหลังแต่งงาน…ผมสบช่องยกมาถล่มเป็นระลอกทว่าญาติสาวผู้พี่วัย 22 นิ่งสงบกว่าที่คาดทั้งที่จี้แทงปมด้อยของหล่อนเต็มเปา…เอ๋!?…ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเรอะ?…
“…ความเห็นของเธอน่าสนใจทีเดียวแต่มันไม่สำคัญสำหรับพี่”
“เพราะมีฝนหรือ?”
“ไม่ใช่…ถ้าจะไปฝึกทำอาหาร…”
“?”
“พี่ว่าเอาเวลามาคอยจับตาดูคนชอบปิดบังความผิดของตัวเอง…มันน่าสนุกกว่าเยอะเลย”
“!?”
“ไปเอาน้ำให้หน่อยซิ”
“ก็ยังมีอยู่ในแก้ว…”
“…………………………………………..”
“ครับๆๆ”
“ขอบใจ…เอ้า!!…สักคำ”
“ผมไม่หิว”
“สุภาพบุรุษที่ดีไม่สมควรปฏิเสธคำขอของสุภาพสตรีนะจ๊ะ”
“…………………………………………..”
(เออๆ…กินก็ได้ฟะ!!)
“หืม?…โอ้วววววววว…เผ็ด…เผ็ดๆๆๆ…โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย”
…หลงกลพี่แคทที่แกล้งเอาพริกขี้หนูมาให้กินจนผมตาลีตาเหลือกคว้าแก้วน้ำแทบไม่ทัน…
“เห็นมะ?…ดื่มหมดในอึดใจเดียวเลย”
“อะ…อะไรของพี่เนี่ย!?”
“พี่รู้สึกว่าเธอชักจะพูดมากก็เลยอยากให้หุบปากลงซะมั่ง”
“…………………………………………..”
“ไปทำอะไรมาอีกล่ะ?”
“ทำอะไร?…ผมก็บอกแล้วว่าไปพบคุณพัตรา…หากสงสัยนักก็เชิญไปเช็คเลย”
“พี่ไม่ได้สงสัยประเด็นที่ว่าพบจริงหรือเปล่าแต่ไอ้การที่ขับรถผ่านหน้าบริษัทตั้งสามสี่รอบน่ะมันอะไร?”
“!!!”
“อย่าบอกว่าตื่นเต้นที่ไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ครั้งแรกเลยขอเวลาเตรียมใจ”
“…นังปิศาจ!!”
“หึ!”
“ผมว่าพี่ๆยังจะมาหัวเราะเยาะ!!!”
“งั้นบอลก็พูดมา”
“แค่มันยังไม่ถึงเวลานัดหมายเลยสั่งให้ศุกร์ขับรถวนฆ่าเวลาก็เท่านั้น”
“ฆ่าเวลา?…ทำอะไรที่มันดูเด็กๆจัง”
“แล้วอะไรครับที่ดูเป็นผู้ใหญ่?…แกล้งเอาพริกให้คนอื่นกินอย่างนี้ใช่มั้ย?”
(ปากท้าทายแต่ความจริงกลัวแทบหยุดหายใจ…อะไรดลใจให้เรายื่นมือไปจับคางพี่แคทกันนะ?)
“โดนยั่วว่าทำอาหารไม่เป็นเข้าหน่อยก็แอบยัดพริกขี้หนูให้ผมกิน…ใช้วิธีหน่อมแน้มนี่น่ะเหรอ?”
“งั้นบอลจะให้พี่เปลี่ยนไปใช้วิธีโหดๆไหม?”
“………………………………………..”
“…มือสั่นนะ”
“ผมจะไปรอที่รถ!!”
…แสดงว่ามีสาย(ลับ)แฝงตัวอยู่ในบริษัทคุณพัตราซึ่งยัยพี่สาวจอมป่วนประสาทก็คงจะบอกเลขทะเบียนรถที่ผมนั่งไป…รู้ถึงขนาดขับรถวนผ่านหน้าบริษัทถึงสามรอบแต่จะเป็นใคร?…
(มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นยามหน้าประตูเพราะสามารถสังเกตรถทุกคันที่แล่นผ่านหรือวิ่งเข้ามา)
“ยังพอมีเวลาเหลือ…พี่ขอถามอะไรหน่อย”
“ก็พูดมาซะตรงนี้เลยสิครับ”
“ที่นี่ไม่ค่อยเหมาะ”
…พี่แคทเลี้ยวรถเข้าไปในถนนลูกรังสายนอกที่สามารถไปถึงอาคารที่ผมจะเรียนได้ซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครใช้เส้นทางนี้เพราะมันเปลี่ยวกับไม่มีเสาไฟอยู่เลยโดยเฉพาะเวลากลางคืน…หญิงสาวนำรถเก๋งคู่ใจจอดชิดขอบถนนแล้วเปิดประตูออกไป…
(ถึงกับต้องหยุดรถเชียว?)
“…ลงมา”
“มีอะไรจะถามครับ?”
“เธอกับศิมีอะไรกันหรือยัง?
(โอ้โห!?…ช่างไม่รู้จักอ้อมหรือเลี้ยวซะบ้างเลยจ้องจะพุ่งตรงอย่างเดียว!!!)
“ผมคงไม่ต้องตอบมั้งเพราะพี่จะตั้งธงไว้ในใจก่อนเสมอฉะนั้นถึงพูดไปพี่ก็ไม่เชื่อ?”
“ก็ลองพูดมาก่อน”
“มีแล้วครับ”
“!?”
“พี่หูไม่ฝาดหรอก”
…ว่ากันว่าคนที่ฉลาดเป็นกรดมักจะไม่เชื่อคำตอบกับประโยคแรกที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาดังนั้นผมจึงพูด(ความจริง)ทันทีและคอยดูว่าญาติสาวผู้พี่จะมีปฏิกิริยายังไงต่อ…
“เรียกไปปรนนิบัติหรือ?”
“ปรนนิบัติ…ก็ประมาณนั้นแต่ผมไม่บังคับและปล่อยให้ศิตัดสินใจเอาเองครับ”
“ต่อให้เต็มใจแต่หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ…โตป่านนี้แล้วทำอะไรไม่รู้จักคิด”
“ฮ้า!?”
(เฮ้ย!!!…ไหงผลมันถึงออกมาตรงกันข้าม?)
“อย่าโกหก…ฮื่อ~~…ผมรู้ว่าพี่ไม่เชื่อ”
“แต่คราวนี้ฉันเกิดอยากจะเชื่อขึ้นมาน่ะ”
“เหตุผลล่ะ?”
“แววตาที่ศิมองเธอ…”
“แค่นั้นเองน่ะเหรอ?”
“อย่าดูถูก Sense ของผู้หญิงให้มันมากนัก…พี่ไม่เคยพูดว่าตัวเองฉลาดกว่าใครแต่การสังเกตอาการคนอื่นนี่ถือเป็นเรื่องถนัดและเธอน่ะมองออกง่ายมากหรืออีกความหมายคือ…ดูปราดเดียวก็รู้”
“…………………………………………..”
…ประสาทจะกิน!!!…หวังให้สาวเจ้าวัย 22 ตกหลุมพรางเพราะความเฉลียวฉลาดของตนแต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นผมเสียเอง…
“งั้นที่ขับรถวนอยู่หลายรอบก็แสดงว่าเธอกับศิกำลัง…”
“อย่ามาเดาส่งเดช!!”
“แต่ไอ้นี่น่ะ…”
“โอ๊ะ!?…ปะ…ปล่อยนะ!!!!”
“อ่อนยวบยาบแบบนี้…แสดงว่ารีดพิษมันออกไปแล้วสิ?”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่…ปัทโธ่เว้ย!!!…คิดพิเรนทร์อะไรจู่ๆก็มาจับจู๋ผม?”
“แค่ภายนอกเอง…ไม่ได้จับตรงๆสักหน่อย”
“จะตรงหรือจะเลี้ยวมันก็ใช่ที่ๆนึกอยากจับก็จับได้ตามใจหรือไง?”
“จู่ๆก็รักนวลสงวนตัวขึ้นมาซะงั้น?”
“หยุดแดกดันกันซะที!!”
“พี่เปล่านะ…ก็ถ้าเธอไม่ไปมีอะไรกับใครมันจะต้องแข็งตัวนี่?”
“มันใช่ซะที่ไหน?…กรอด!!!”
“น่า–…อย่าลืมว่าพี่นุ่งกระโปรงสั้นแล้วตอนนั่งในรถเธอก็เหลือบมองขาอ่อนพี่ตั้งหลายครั้งฉะนั้นตามความเป็นจริงเธอย่อมเกิดความรู้สึกแล้วไอ้นั่นจะต้องขยายใหญ่ขึ้นบ้างแต่นี่ไม่เลย”
“วิธีพิสูจน์บ้าๆแบบนี้มันไม่ได้ผลหรอก”
“เอ–…มันก็น่าจะช่วยสันนิษฐานเบื้องต้นได้ไม่ใช่รึ?”
“นี่ไม่รู้จริงหรือว่าแกล้งโง่กันแน่?…งั้นผมทำกับพี่บ้างจะเป็นยังไงล่ะ?”
“……………………………………………”
“พี่ยังไม่รู้จักผู้ชายดีพอ…เริ่มมาก็จับไอ้นั่นหมับพี่มั่นใจว่ามันจะต้องแข็งตัวทันทีงั้นเรอะ?…คิดตื้นๆ…นี่ถ้าไม่ใช่ผมล่ะก็น่ากลัวพี่โดนจับข้อหาทำอนาจารไปแล้วแน่!!!”
“งั้นเธอช่วยอธิบายหน่อยถือเป็นการประดับความรู้”
“…ผู้ชายน่ะต่อให้สำเร็จความใคร่มาแล้วแต่ก็ใช่ว่าอวัยวะเพศจะอ่อนยวบยาบไม่หือไม่อือไปหลายชั่วโมงอย่างที่พี่เข้าใจโดยเฉพาะหนุ่มวัยรุ่นความรู้สึกไวจะตาย…ต่อให้เอาผู้หญิงมาแล้วแต่อวัยวะเพศก็สามารถแข็งตัวได้เมื่อหัวสมองคิดกับเห็นสิ่งเร้าอารมณ์”
“แล้วทำไมของเธอไม่แข็งทั้งที่แอบดูขาพี่?”
“ใครว่า?…ผมไม่ใช่อิฐใช่ปูนแต่มันสงบใจได้ต่างหาก”
“สงบใจ”
“แบบพอได้เห็นหน้าของพี่ผมก็แทบจะหมดอารมณ์ทันที…เฮอะๆ”
“อะไร!?…นี่ใบหน้าฉันดูน่าเกลียดขนาดนั้นเชียว?”
“ไม่ใช่ๆ…ความหมายของผมคือพี่ชอบปั้นหน้าบึ้งใส่คนอื่นใครๆก็เลยกลัวจนหดไงครับแล้วอย่างเมื่อกี้ผมก็ตกใจด้วยที่อยู่ๆพี่แคทก็เล่นอะไรสัปดน”
“โอ–…หมายความว่าพี่เข้าใจผิดมาตลอด?”
“ตรงนั้นของผู้ชายไม่ใช่ประเภทจับปุ๊บก็โด่ปั๊บ…ไปศึกษามาใหม่เถอะพี่เป็นคนฉลาดรับรองไม่นานก็เข้าใจ”
“ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก…”
“?”
“ไม่มีอะไร…บอลช่วยขับรถให้ทีสิ”
…อื้อหือ?…ดูคุณเธอทำหน้าเข้า…ท่าทางจะใช้ความคิดเป็นจริงเป็นจังเสียเหลือเกินจนไม่มีกะใจจะขับรถ…
“ช้าๆ…ถนนแถวนี้ไม่ค่อยดี”
“………………………………………….”
“………………………………………….”
“มองหน้าผมทำไม?”
“พี่ยอมรับว่ายิ้มไม่ค่อยเก่งทำตาเซ็กส์ซี่ก็ไม่เป็น…พอจะบอกได้ไหมล่ะว่าพวกเพื่อนๆของบอลเวลาเห็นพี่แล้วเขามีอาการยังไงมั่ง?”
“…ให้พูดจริงๆเหรอ?
“อื้ม!!”
“สัญญามาก่อนว่าพี่อย่าโกรธหรือไปทำอะไรพวกมันนะ”
“ได้”
“พวกมัน…อยากมีอะไรกับพี่มากครับ”
“………………………………………….”
“พี่แคท?”
“พูดต่อ”
“พวก…พวกมันชอบมองตอนที่พี่นั่งกับเดินไปเดินมา…สังเกตดีๆก็จะรู้ว่าแววตางี้หื่นกระหายกันทั้งนั้น”
“ทำไม?”
“เพราะเวลานั่ง…เอ่อ–…อย่างที่เห็นๆกันว่าพี่มักจะใส่กระโปรงสั้นรัดรูป…เอ่อ…”
“ก็มันทำไมเล่า?”
“จะ…จะเห็นขอบกางเกงใน”
“ขอบกางเกงใน!?…ได้เห็นแค่นั้นพวกเพื่อนของเธอก็มีความสุขกันงั้นหรือเนี่ย?…แล้ว…ตอนพี่เดินล่ะ?”
“ก็…ก็บั้นท้ายของพี่ไง…ผมคงไม่ต้องอธิบายนะ”
“…ทะลึ่งกันจัง”
“นี่ยังน้อย…ทุกส่วนสัดในร่างกายพี่แคทล้วนแต่โดนพวกผู้ชายในมหาลัยเก็บเอาไปฝันกันหมดแล้ว…เชื่อมั้ยว่าแม้แต่อาจารย์ผู้ชายก็ชอบมองพี่?”
“หึ!!…ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จะเรียกว่าน่าหัวเราะหรือน่าสงสารดี…อืม–…จะว่าไปพี่เซคก็เคยเปรยๆไว้เหมือนกัน”
“เรียกว่าความบันเทิงใจอย่างหนึ่งจะดีกว่าครับ…พวกผู้หญิงก็ยังชอบพูดถึงร่างกายผู้ชายนี่นา?”
“พี่พูดอยู่หลายครั้งว่าเห็นแล้วยังไงเอาไปก็ไม่ได้ด้วย…แม้แต่หน้าอกพี่ก็เหมือนกันสิ?”
“ก็บอกว่าทุกส่วน”
“แค่เห็นยกทรงหรือกางเกงในวับๆแวมก็ชอบใจกันใหญ่”
“แต่ผมไม่ตื่นเต้นหรอก”
“เพราะเห็นอยู่บ่อยๆใช่มั้ย?”
“หา?”
“นับว่าเธอโชคดีกว่าคนอื่นเพราะไม่ได้เห็นแค่ขอบรางๆแต่มันชัดแบบเต็มตัว”
“แล้วนั่น…พี่…จะปลดกระดุมทำไม?”
“ทำแบบนี้…เธอน่าจะเกิดอารมณ์บ้าง”
…พี่แคทปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสองเม็ดเผยให้เห็นยกทรงสีชมพูอ่อนพลางมองหน้าผมไม่กระพริบ…เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?…มันจะทำให้ผมฟุ้งซ่านจนไม่มีสมาธิขับรถต่อและอาจเกิดอันตราย…
(หูยแม่คุณเอ้ย!!!…นมเต่งเป็นกระเปาะแถมมีตั้งสองเต้า…ว้ากกกกกกกกก~~…นี่ใช่เวลามาดูที่ไหนเล่า!?)
“ผม…ผมขับรถอยู่”
“ก็ถึงบอกให้ช้าๆไง”
“พี่…พี่ตั้งใจ?”
“อ่ะ!…ดูให้ดีๆ”
“ว้าว~~…อุ๊บ!!”
“ชอบหรือเปล่า?”
“ผะ…ผะ…ผม”
“อย่าคิดมาก…เป็นการขอโทษที่พี่ถือวิสาสะจับของเธอ”
…จะไม่ให้คิดมากยังไงไหวเล่า?…สาวเจ้าผมยาวเลิกกระโปรงจีบสั้นขึ้นเกือบครึ่งจนกางเกงในสีชมพูแผลมออกมา…อู๊ย~~…ขนสีดำที่ซ่อนอยู่ด้านหลังผืนผ้าอันบางเบานั้น…บ้าจริง!!!…ตัวของผมร้อนขึ้นเรื่อยๆคล้ายกับเป็นไข้และเหงื่อเม็ดโป้งๆก็ผุดขึ้นทั่วร่างกายทั้งที่ในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ…
“ใหญ่ขึ้นนี่…”
“อย่ามอง!!”
“เธอดูของพี่ซะตาแทบถลนแต่ทีพี่จะมองมั่งทำเป็นห้าม…เอาเปรียบ–”
“ถึง…ถึง…ถึงอาคารแล้ว…ผมลงล่ะ!!!”
(โธ่ว้อยควยแข็งปั๋งเลย!!!!…ถ้าขืนเราขับต่ออีกไม่กี่เมตรมีหวังทั้งคนทั้งรถได้ปีนขอบทางเท้าพุ่งเข้าชนประตูอาคารเรียนแหงๆ)
“แล้วก็อย่าไปบอกฝนนะ…จะหาว่าพี่ไม่เตือน”
“ติดกระดุมเสื้อเถอะ…อยากจะโชว์ไปถึงไหน?”
“พี่กะว่า…จะโชว์ให้ผู้ชายแถวๆนี้น้ำลายหกเล่นอีกสักหน่อย…ดีไหม?”
“………………………………………….”
…พี่แคทเอ่ยพลางมองด้วยแววตาคล้ายๆจะยิ้มเยาะผม!?…ผู้ชายแถวๆนี้ในความหมายของเธอไม่มี “ใครอื่น” หรอก…
(ยิ้มไม่ค่อยเก่งรึ?…ทำตาเซ็กส์ซี่ไม่ค่อยเป็นรึ?…ทว่าไอ้ที่พี่ทำให้ดูเมื่อกี้นี่ถือเป็นอาวุธที่ร้ายกาจขนาดทำให้ชายหนุ่มมากมายคลั่งตายได้เลยนะ!!!!)
…………………………………………………………………………………………………………………….

“ตกลงมึงกับน้องฝนเป็นอะไรกันแน่?”
“เป็นลูกพี่ลูกน้องแน่เรอะ?”
“ถามอะไรไม่เข้าท่า”
“ก็เห็นมาคอยเฝ้าอยู่ทุกวันนี่หว่า…มึงรู้มั้ยว่าเค้าลือกันไปทั่วแล้ว?”
“พวกมึงก็เชื่อ?”
“เปล่า–…กูไม่สงสัยเหตุผลของพี่แคทแต่”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละโว้ย!!!”
“…ทำเพื่อพี่สะใภ้อย่างงั้นเหรอ?”
“……………………………………….”
“พักเบรกสิบนาทีนะครับ…กลับมาอาจารย์จะทดสอบบทเรียนที่สอนไป”
…ฉิบหา-แล้วไง!!…บทเรียนไม่เข้าหัวสมองเลยเพราะมัวแต่ไปคิดถึงซอตเด็ดกระชากใจของพี่แคทซ้ำไปซ้ำมาจนปวดกระดอไปหมดแล้วทีนี้จะทำประการใดดีเล่าไอ้คุณเอกคเชนทร์?…
“ลงไปเดินเล่นข้างล่างกันเถอะ”
“ไม่ล่ะฉันต้องทบทวนบทเรียน…เดี๋ยวจะสอบย่อย”
“แหงะ!!…เวลาเรียนมัวทำอะไรอยู่น่ะ?”
“ก็…”
“?”
…อึ๋ย!!…ฟุ้ง…ผมฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว!!!…เห็นหน้าฝนเป็นพี่แคทไปเสียได้แต่พวกเธอก็พี่น้องกันนี่หว่า…เอ๊ะผมกำลังบ่นบ้าอะไร?…
(ตั้งใจท่องหนังสือสิโว้ย!!!)
“วิ…วิธีที่นิยมใช้กันมากคือ…เฮ้ย!!”
“อะไรอ่ะ?”
“มานั่งใกล้ฉันทำไมเล่า?”
“เอ๋?…ทุกทีเค้าก็อยู่กับตัวเองตลอดนิ”
“ออกไปห่างๆก่อน…ฉันไม่มีสมาธิ”
“แปลกคนจังเลย~~”
…แต่แทนที่จะไปให้ลับสายตาล่ะก็เปล่า…สาวน้อยจอมแก่นแค่ลุกไปนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วก็มองผมตาแป๋วแหวว…ฝนน่ะไม่รู้เรื่องรู้ราวหรอกแต่ผมนั่นแหละที่หยุดคิดไม่ได้และผลของการสอบย่อยก็คือผ่านแบบฉิวเฉียดชนิดเจียนอยู่เจียนไป…
“นี่!!…ที่ตัวเองบอกว่าอยากให้เจ๊ทำคะน้าผัดปลาอินทรีย์ให้กิน…จะบ้าบิ่นไปรึป่าว?”
“แย่มากเลย?”
“ไม่อยากนึกภาพเชียวละ…เจ๊เค้าไร้ทักษะด้านนี้และมือก็หนักเกินไปด้วยคือคุ้นเคยกับดาบมากกว่ามีดทำครัว…ครั้งนึงเค้าเคยให้เจ๊ช่วยหั่นเนื้อแต่เพราะความที่ใช้มีดไม่ถนัดจึงยกแขนขึ้นสูงสับเอาๆจนเขียงขาดเป็นสองท่อนเลยขอบอก”
“ฮะๆๆ…ตลกชะมัด”
“ฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่า…ถ้าบอลอยากกินฝนจะทำให้”
“………………………………………….”
“เลิกเร็วนะ”
(อุ!!…เขินจนไม่กล้ามองหน้าหญิงสาวเจ้าของยกทรงสีชมพูกับหน้าอกขาวอวบและกางเกงในสีชมพูกับเส้นขนดำขลับ…น่าเจ็บใจตัวเองจริงๆทำไมเราถึงไม่ดูให้นานกว่านี้ว๊า!?)
“เจ๊…ไปตลาดซื้อของ”
“อืม”
“ตัวเองเหม่ออะไรอีกน่ะ?…ขึ้นรถสิ”
“อะ…เอ้อ!!”
………………………………………………………………………………………………………………………….

…พวกเราแวะซื้ออาหารสดที่ตลาดนัดใกล้บ้าน…ที่นี่คนไม่เยอะพลุกพล่านและราคาก็ไม่แพงเพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเอาผลผลิตที่ปลูกเองมาขาย…
“หนูเอาไข่มดแดงมั้ยจ๊ะ?”
“โอ้!…น่ากินจัง”
“จะไปทำยังไงล่ะ?”
“ก็แกงผักหวานใส่ไข่มดแดงไง”
“วันนี้พี่สาวไม่มาเหรอ?”
“มาจ้ะมา…เห็นเดินอยู่ตรงนั้น…อ้าว!?”
“หายไปไหนไม่รู้”
“คงจะอยู่แถวๆนี้แหละ…ลุงจ๋า~~…ผักวันนี้สวยมั้ยอ่ะ?”
“ยังสวยสู้หนูไม่ได้ร้อก!!…ฮ่าๆๆ”
“ว้ายตายล่ะ!!…ระวังป้าเค้าได้ยินจะตีหัวแตกนะเออ~~”
“ฮะๆๆ…สำหรับสาวน้อยน่ารักอย่างหนูน่ะลุงเต็มใจ”
…มาอยู่แถวนี้ยังไม่ถึงเดือนแต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างรู้จักฝนกันเกือบหมดแล้วเพราะความที่เจ้าหล่อนมีอัธยาศัยดีชอบพูดชอบคุยและก็ไม่ถือตัวดังนั้นเวลามาซื้อของจึงมักจะได้ของแถมกลับไปด้วย…
“ซื้อปลาเนื้ออ่อนมั้ยเดี๋ยวน้าแถมให้?”
“อืม–…ปลายังสดใหม่…เอาไปทอดก็ดีนะบอล”
“ทำต้มยำก็อร่อย”
“น้าต้องแถมให้หนูจริงๆนา?”
“จะเพิ่มให้เป็นพิเศษเลย…ว่าแต่พี่สาวไม่มารึ?”
“มาจ้ะแต่อยู่ไหนไม่รู้”
“พี่หนูนี่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยยิ้มกับใครเลยนะ?”
“เค้าเป็นแบบนั้นเองจ้ะน้า!…อย่าไปถือสา”
“แต่เธอสวยมาก…มานี่ทีไรคนก็แตกตื่นอย่างกับเห็นดารา”
…เพราะเหตุผลนี้ล่ะมั้งพี่แคทถึงไม่ค่อยอยากมาเดินในตลาด…บางทีคงจะกลับไปรอที่รถแล้วก็ได้…
“จะเยอะไปหรือเปล่า?”
“นี่ยังไม่หมดนะ…เค้ามีของจะซื้ออีก”
“เฮ่ย!…เอาไปทำอะไรนักหนา?…มีกันแค่สามคน”
“เผื่อป้าเอ็มจะมาบ้านไง…ฝากตัวเองไปไว้ที่รถสักรอบล่ะกัน…บอกให้เจ๊มาหาเค้าด้วย”
“………………………………………….”
“………………………………………….”
(นึกว่าหายไปไหนที่แท้ก็กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าทางเข้า)
“หาอะไรครับ?”
“พี่ทำหวีหล่น”
“หาในตลาดหรือยัง?”
“เมื่อกี้ไปหาดูแล้วแต่ไม่เจอ…พี่จะต้องหาให้เจอเพราะหวีอันนี้พี่เซคซื้อให้”
“พี่ไปหาในตลาดอีกทีเถอะส่วนผมจะช่วยหาแถวๆนี้จะได้ไปช่วยฝนถือของด้วย…ขานั้นติดลมบนจะเหมาหมดทั้งตลาดแน่มั้ง?”
“เข้าใจแล้ว…นี่กุญแจ”
“หึ!…แต่แค่หวีอันเดียวก็หาซะขนาดนั้น”
“…………………………………………”
“?”
“ขอเวลาสักครู่จะได้ไหมขอรับ?”
…เอ้ย!?…ไอ้คนนี้แต่งตัวแปลก!!!…อากาศร้อนอบอ้าวแต่ใส่ชุดคลุมยาวเกือบถึงเท้าแถมสวมถุงมือด้วย…
“…มีธุระอะไรกับผม?”
“ในมือซ้ายแลมือขวาของกระผมมีไพ่อยู่ 24 ใบ…คุณช่วยกรุณาเลือกสักหนึ่งใบ”
“อะไร?”
“เชิญเลือกตามใจชอบขอรับ”
“คุณ…เป็นหมอดูเรอะ?”
“…………………………………………”
“ขอโทษที…ผมไม่ค่อยเชื่อถือพวกหมอดูหมอเดาเท่าไหร่นักหรอก”
“…คุณ…กำลังมีเรื่องกลุ้มใจอยู่สินะขอรับ?”
(ฮะ!…มามุกนี้จริงๆด้วย)
“แลก็น่าจะเกิดจากญาติพี่น้องของคุณเอง…ถูกต้องหรือไม่ขอรับ?”
(เฮ้ย!?)
“…คุณรู้ได้ยังไง?”
“กระผมจะตอบคำถามนั่นก็ต่อเมื่อคุณเลือกไพ่หนึ่งในยี่สิบใบนี้ขอรับ”
“…………………………………………”
“…………………………………………”
“เอ้า!!”
…หน้าตาก็ไม่เห็นเพราะใส่แว่นกันแดดกับสวมหมวกปีกกว้างและเป็นคนร้ายหรือเปล่าไม่รู้แต่ผมคอยระวังตัวอยู่แล้วอีกอย่างดูรูปการก็น่าจะเป็นผู้ชายเพราะพูดแทนตัวเองว่า “กระผม” แต่ไอ้ลงท้าย “ขอรับ” นี่มันอะไรกันฟะ?…
(หลุดมาจากลิเกโรงไหน?)
“คุณเกิดช่วงเวลาเจ็ดโมงถึงแปดโมงเช้าใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ฮ้า!!!…ระ…รู้ได้ไง?”
“ก็คุณเลือกได้ไพ่ใบนี้”
“ผมขอดูหน่อย!!!!”
…ไพ่ที่ว่าไม่ใช่ของพิสดารอะไรแต่เป็นแผ่นกระดาษแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวและเขียนเลข “7” แค่ตัวเดียวด้วยหมึกสีแดงพลิกหน้าพลิกหลังก็ไม่มีอะไรที่เป็นพิรุธหรือทำเครื่องหมายพิเศษ…
“แล้วไง?…ผมเกิดตอนเจ็ดโมงเช้าจริงแต่มันก็แค่บังเอิญ”
“เช่นนั้นคุณลองดูไพ่ที่เหลือในมือกระผม”
“เลขศูนย์ถึง…เลขยี่สิบสาม…ยัง…ผมยังไม่เชื่อหรอก!!!”
“งั้นคุณเลือกใหม่”
“ได้”
…ผมส่งไพ่หมายเลขเจ็ดคืนจากนั้นเขาก็กางไพ่ทั้งยี่สิบสี่ใบให้ดูเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีลูกเล่นอะไร…
“คุณจะจับได้เลขเจ็ดอีกครั้ง…อย่างแน่นอน”
“มั่นใจ?”
“ขอรับ…เพราะนั่น…คือชะตาชีวิตของคุณ”
…ชายคนนี้ใช้มือซ้ายและขวาสับไพ่ทั้งหมดอย่างคล่องแคล่วซึ่งผมก็พยายามดูที่มือของเขาเป็นจุดเดียวแต่มันเร็วซะจนมองตามไม่ทันเลย!?…ฮึ!!…ท่าทางมั่นอกมั่นใจมากทีเดียวนะว่าผมจะเลือกได้ไพ่หมายเลขเจ็ดเป็นครั้งที่สอง…
“เชิญขอรับ”
“…จะเลือกล่ะนะ”
“…………………………………………..”
“นี่”
“…………………………………………..”
“ว่าไง?”
“กระผม…หาได้กล่าวผิดแต่อย่างใดไม่”
“เฮ้ยเอามาดูซิ!!!…มันเกิดอะไรขึ้นไพ่มีตั้งเยอะแยะแต่จับได้อยู่ใบเดียว?”
“กระผมก็บอกแล้วว่านี่คือชะตาชีวิตของคุณ”
“ขออีกครั้งๆ”
“หากจับได้หมายเลขเจ็ดอีกล่ะขอรับ?”
“มันจะไม่มีครั้งที่สามหรอก!!”
“……………………………………….”
(เร็วจริงวุ้ย!!!…ตกลงเจ้านี่มันเป็นหมอดูหรือเซียนไพ่กันแน่?)
“สิบสองใบในมือซ้ายแลสิบสองใบในมือขวา…เชิญขอรับ”
“คราว…คราวนี้แหละ!!!”
…ผมใช้วิธีเล็งว่าจะเลือกแต่เปลี่ยนใจไปหยิบอีกใบทันทีและทีนี้ผลมันจะต้องออกมาแตกต่างจากสองครั้งแรกแน่…
“ว่าไงล่ะครับ?”
“………………………………………..”
“บะ…บ้าน่า!!!!”
“สามครั้งผลลัพธ์เหมือนกันทั้งหมด”
“ผมจะต้องเป็นคนโง่ใช่มั้ยถ้ายังดื้อไม่ยอมรับอีก?”
“มิได้…นั่นคือความคิดของตัวคุณเองแลกระผมก็มิได้บังคับให้เชื่อ”
“หาก…ใครไม่เจอกับตัวเองไม่มีทางรู้จริงๆแต่เมื่อครู่คุณพูดออกมาว่าผมมีเรื่องกลุ้มใจที่สาเหตุเกิดจากญาติพี่น้อง”
“ขอรับ”
“ผม…กำลังกลุ้มใจจริงๆ”
“เช่นนั้นกระผมก็อาจช่วยเหลืออะไรได้บ้าง…กระผมรับปรึกษาปัญหาต่างๆและช่วยชี้แนะแนวทางตามสมควรทว่าก็มิได้โน้มน้าวให้ผู้ใดมาเชื่อถือดอก…หากคุณสนใจใคร่รู้ก็ขอเชิญติดต่อมาตามที่เขียนไว้ให้แลกระผมจะแจ้งสถานที่กับนัดหมายวันเวลาอีกครั้ง”
(นามบัตร?…ไม่ใช่…แค่กระดาษจดเบอร์มือถือเท่านั้นแต่ชื่อที่อยู่ไม่มี)
“แล้วคุณชื่ออะไร?”
“…ตะวันอัสดง…สำนักหมอดูประจิมลิขิตขอรับ”
“……………………………………….”
“ถือเป็นกรณีพิเศษ…ช่วงนี้ระวังตัวไว้บ้างก็จะดีนะขอรับ”
“?”
“มันน่ากลัวขอรับ…เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผีน่ะ”
“สาวสวย…น่ากลัวกว่าผี?…เอ่อ–…ผมไม่เข้าใจความหมายเลย”
“ยิ่งเฉพาะยามวิกาล…เรียกว่าต้องลุ้นระทึกกันกลางดึกเชียว”
…ลุ้นระทึกกลางดึก…เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผี…พวกหมอดูหมอเดาชอบพูดคลุมเครืออย่างนี้กันทุกคนหรือเปล่า?…
………………………………………………………………………………………………………………………….

…กลางดึกคืนนั้น…
“หลับไม่เต็มตาโว้ยให้ตายซี่!!…หมอดูคนนั้นถึงจะแปลกๆแต่ก็ทำนายเวลาเกิดของเราได้แม่นยำทั้งที่ไม่เคยบอกด้วยไพ่…ไม่…เรียกว่ากระดาษแข็งทำเองถึงจะถูก”
(สับไพ่เร็วขนาดนั้นสงสัยเคยเป็นเจ้ามือที่บ่อนไหนสักแห่ง!?…ต้องใช่แหงๆ)
“……………………………………….”
“เอ้ย!?…ยัยผีแอบเข้ามานอนกับเราอีกแล้ว?”
“งั่มๆ”
“วา–…ท่าทางจะละเมออยู่เสียด้วย”
“……………………………………….”
“แต่ไม่เข้าใจสักทีว่าทำไมฝนเวลามานอนที่ห้องเราจะต้องสวมผ้าคาดตา?…จะว่าเป็นคนหลับยากก็ไม่ใช่”
“อือออออออออ~~”
“หึ!!…เมื่อก่อนหน้าตามอมแมมผิวดำกร้านหัวหูก็ดูแทบไม่ได้แต่พอโตเป็นสาว…ฉิบ…ฉิบหา-แล้ว!!!!”
“……………………………………….”
…จะอะไรซะอีกเล่าก็ช่วงที่คุณเธอขยับขานั้นกางเกงนอนมันหลุดร่นลงมาได้ไงไม่รู้!?…ในความมืดที่ยังพอมีแสงสลัวๆนี้ผมแลเห็นกลุ่มเส้นผมตรงนั้นเพราะญาติสาวผู้น้องไม่ได้สวมใส่กางเกงชั้นใน…
“ถะ…ถ้าสว่างกว่านี้สักหน่อยแม่งก็เห็นหมดเลยนะโว้ย!!!”
“อื๊ออออออออออ”
“ยัยขี้เซาตื่น!!”
“คิกๆ…ฮื่ออออออออออ”
“ยังจะละเมอหัวเราะแน่ะ!?”
“จั๊บๆๆ”
…พยายามแตะตัวอยู่นานเพื่อจะให้ตื่นแต่สาวน้อยก็หลับสนิท(กัดฟันอีกต่างหาก)อย่างไม่รู้สึกรู้สาเลยต้องคว้าผ้าห่มมาปิด…ไม่…ไม่ได้!!…ผมเป็นหนุ่มสุขภาพดีคิดเรื่องลามกทุกวันนะฉะนั้นจะอยู่ใกล้เชื้อไฟคงไม่ใช่เรื่อง…ออกไปเดินเล่นสงบสติอารมณ์น่าจะดีแม้ยังรู้สึกหวาดๆ(ผี)อยู่บ้างก็เถอะ…
(แต่ขืนอยู่ในห้องต่อไปยังไงมันก็อดจะเหลือบมองไม่ได้และมีแนวโน้มที่จะก่อคดีเพราะหน้ามืด)
“สบายๆนี่บ้านเราเอง…เอ๊ะพี่แคท?”
“…………………………………………”
“ดึกดื่นป่านนี้ยังมีแก่ใจมานั่งดูทีวีอีกแน่ะ…ไฟก็ไม่เปิดด้วย…อุ๊บ!”
(คุณเธอกำลังดูหนังผีญี่ปุ่นที่ฝนซื้อมาจากตลาดนัดเมื่อช่วงเย็น…สองพี่น้องนี่ยังไงชอบดูหนังสยองขวัญทั้งคู่เลย?)
“พี่ช่างเป็นคนจิตแข็งเหลือเกิน”
“…อย่าไปกลัวมันนักเลย”
“!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“…………………………………………”
(หัวใจแทบจะหยุดเต้น…ไม่…มันคงหยุดไปวินึงแล้วล่ะ)
“ฮั่กๆ…ผะ…ผม…ผมเข้าใจความหมายละ!!…อูย~~…ตกใจหมด!!!!”
“เข้าใจอะไร?”
“เมื่อ…สาวสวยน่ากลัวกว่าผีไงครับ”
“เสียมารยาทที่สุด!!!…พี่ทาครีมบำรุงหน้าอยู่ต่างหาก”
…ประโยคที่หมอดูเอ่ยไว้เมื่อตอนเย็นคงจะหมายถึงพี่แคทที่เวลานี้พอกหน้าด้วยครีมบำรุงซะขาววอกไปหมดและดวงตาสองข้างของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยแต่ยังไม่เข้มขลังเท่ากับครั้งอาละวาดที่หอพักเก่า…
“งั้นลูกกะตานั่นมันอะไร?…เข้าโหมดสุริยะโลหิตอีกแล้วเหรอ?”
“ไม่ใช่…หลับสนิทและตื่นนอนใหม่ๆมันก็แดงแบบนี้แหละ…ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หาย…อ้อ!…ไม่เคยสงสัยบ้างรึว่าฝนใช้ผ้าคาดตาทำไม?”
(แสดงว่ายัยจอมแก่นไม่อยากให้เราเห็นดวงตาที่แดงโร่เพราะกลัวเราจะตกใจ!?)
“ตื่นนอนกลางดึกมาดูหนังสยองขวัญ…ผมเพิ่งจะเคยเห็นก็คราวนี้”
“ยกมือไหว้ซะ…สำหรับคนลามกอย่างเธอต้องหนังโป๊ล่ะมั้งถึงจะปกติ?”
…ไม่จริง!!!…ถ้าผมลามกบ้ากามอย่างว่าป่านนี้น้องสาวสุดที่รักของพี่เสียความบริสุทธิ์ให้ผมไปนานแล้ว…
………………………………………………………………………………………………………………………….

…ส่วนอีกด้านหนึ่ง…เมื่อแน่ใจว่านายบอลออกจากห้องไปแล้วสาวเจ้าหยาดฝนก็ดึงผ้าคาดตาออกพลางพูดกับตัวเอง…
“แหม~~…ใจไม่กล้าเอาซะเลยนึกว่าคืนนี้จะมีอะไรดีๆเสียอีกแต่ช่างเหอะ…ฮิๆ…อยากรู้นักว่าจะใจแข็งไปได้ถึงไหน?”
………………………………………………………………………………………………………………………….

…ตัวอย่างในตอนหน้า…

“เธอไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน?”
“จะพูดว่าบังเอิญหรือโชคชะตานำพาก็ได้จ้า!!”
“นั่นคือความสัมพันธ์ต้องห้ามนะ”
………………………………………………
“นี่ตกลงพี่แคทไปทำอะไรมากันแน่?…แล้วจะให้ผมขับไปถึงไหน?”
“…น่าจะอยู่แถวๆนี้…นั่นไง!!…เลี้ยวเข้าไปเลย”
“เอ๊ะนี่มัน?…โรงแรมม่านรูด!!!!”
……………………………………………..
“แกจะมาเป็นคนดีเอาป่านนี้ฉันว่ามันสายไปซะแล้วมั้ง?…ไอ้สุภาพบุรุษจอมปลอม”
“ถ้าผมเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม…งั้นพี่ก็คือสุภาพสตรีขี้เหล้าที่ไม่มีคุณสมบัติจะไปเป็นเมียที่ดีกับแม่ที่ดี”
“โอ้!?…ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครบังอาจจะสบประมาทฉันได้ถึงขนาดนี้…แกกล้ามาก!!!”
…………………………………………………………………………………………………………………………..

…ทีนี้เชื่อกันหรือยังว่าบางครั้งสาวงามก็น่ากลัวกว่าภูติผีหลายเท่านะ?…
………………………………………………………………………………………………………………

Share the Post:

Related Posts

น้องสาวผมอายุ 14 ”หนูเจ็บแสบไปหมดแล้ว พี่ยังไม่พออีก หรอ?”

น้องสาวผมอายุ 14 ”หนูเจ็บแสบไปหมดแล้ว พี่ยังไม่พออีก หรอ?”

เรื่องเสียว น้องสาวผมอายุ 14 ”หนูเจ็บแสบไปหมดแล้ว พี่ยังไม่พออีก หรอ?” เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน พฤษภาคม 2568 นี้เอง ก่อนเข้าเรื่องจำแนะนำตัวน๊ะครั๊บ ผมชื่อเอก อายุ 15 ปี เรียนอยู่ ม.3 ครับ ที่บ้านผมอยู่กัน 4

Read More
เย็ดน้องสาวแตกใน

เย็ดน้องสาวแตกใน

เรื่องเสียว เย็ดน้องสาวแตกใน สวัสดีคับ ผมชื่อ กัน บ้านผมอยู่กรุงเทพคับแต่ว่ามีบ้านพักอยู่ที่ ชลบุรี ผมมีน้องคนนึงไม่ใช่น้องแท้ๆหรอกคับเป็น ลูกของน้องแม่อีกทีเธอชื่อ แคท เป็นลูกครึ่งแต่ผมก็จำไม่ได้ว่าประเทศอะไร ผมมักจะเจอแคท เมื่อไปพักที่ชลบุรี เห็นและเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ช่วนที่ผ่าน 4-5 ปีมานี้ ผมไม่ได้เจอ แคท เลย

Read More