ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 79

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 79

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 79 “8 พี่น้อง!!…8(+1)อัญมณี!!” 

“ฮืมๆ…หึๆ”
“เป็นอะไรของนาย?…ฉันเห็นนั่งอมยิ้มคนเดียวตั้งนานแล้ว”
“ป้อมว่าต้องมีเรื่องดีๆแน่เลยค่ะ”
“ใช่ซะเมื่อไหร่!!”
“พี่ฝนหมายความว่าไงน่ะ?”
“ตั้งแต่เจอพี่ม่อนเมื่อวานตาบ้านี่ก็เป็นแบบนั้นตลอด”
“ว่าไงนะ!?…นี่ยัยซกมกแอบจิตหมายเลขสองได้พบกับบอลแล้วเรอะ?”
“ฮึ๊ย~~…แล้วทำไมพี่ฝนไม่บอก
พวกเราคะ?”
“บอกแล้วจะทำอะไรเล่า!!”
“ซกมกอะไรกัน?…พี่ม่อนเธอก็น่ารักดีไม่ใช่หรือ?”
“นาย!!…อย่าไปหลงใหลกับรูปร่างหน้าตาภายนอกสิ…บ้าเอ๊ย!!!…ทำตัวลับๆล่อๆเหมือนเคยอีกล่ะสิท่า?”
(เปล่า!…เธอมาแบบเปิดเผยต่างหาก)
“จริงด้วย…พี่ม่อนเป็นคนที่น่ากลัวมากเลยค่ะ”
“พลังจิตน่ะเหรอ?”
“มันยิ่งกว่านั้นซะอีกค่ะ!!!…พี่ชายยังไม่รู้จักธาตุแท้ของเธอ”
“ยังไงบ้างนอกจากเงียบขรึมไม่ค่อยเข้าสังคมกับชอบปลอมตัวมาหลอกคนอื่น?”
“ก็แบบว่า…ยังไงดี…จะบอกว่า…วุ้ย!!…ไม่ได้ๆ”
“…ใช้เงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง”
“ใช่ค่ะๆ…พี่อ๋อมพูดถูกต้องที่สุดแล้วก็ยังมี…”
…ทั้งอ๋อมและน้องป้อมพยายามเล่าให้ผมฟังว่าพี่ม่อนมีนิสัยยังไงบ้างเช่นเป็นคนไม่รู้จักคุณค่าของเงินกับชอบประพฤติตัวแปลกแยกจากผู้อื่นแต่ผมเชื่อว่าเธอคงมีเหตุผลส่วนตัวหรอกน่า…
“ที่ว่ามานี่เป็นแค่ตัวอย่าง…เอาล่ะ!!…ทีนี้นายยังจะชื่นชมยัยบ้านั่นอีกมั้ย?”
“…เธอสวยมาก”
“ปะ…ปัทโธ่โว้ย!!…เห็นแค่ครั้งเดียวนายก็จะหลงเสน่ห์ยัยนั่นแล้วเรอะไง?…ไม่…มันไม่มีเสน่ห์เลยสักนิดเดียวต่างหาก!!!…ที่พูดไปนี่ฟังมั่งหรือเปล่ายะ?”
“พี่ชายอย่าไปหลงพี่ม่อนอย่างเด็ดขาดน๊า~~…พี่ฝนก็ช่วยพูดอะไรบ้างซี่อย่ามัวแต่เงียบ!!”
“…จนป่านนี้ยังไม่สำนึก”
“เอ๋?”
“พี่จะไปกินข้าว”
“อ้าวพี่ฝน!?”
“ตอนนี้ไปมุดหัวอยู่ไหนวะ?…ฉันต้องไปบอกกับมันว่าอย่ามาเข้าใกล้บอลอีก!!!”
“ป้อมจะไปด้วย…ให้ตายเถอะ!!…ไม่รู้พี่ม่อนใช้วิธีอะไรกันแน่พี่ชายถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุดแบบนี้?”
“ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องฉันจะจับยัยนั่นแก้ผ้าแล้วก็โยนเข้าไปในห้องน้ำชายแน่ๆ…คอยดูเซ่!!!”
“เฮ้ย!?…อ๋อมอย่าไปทำแบบนั้นเชียวนะ!!!”
“นี่นายออกรับแทนยัยนั่นรึ?”
“ไม่ใช่–…แต่พี่ม่อนไม่ได้ทำอะไรฉันสักหน่อยนี่นา”
“พอแล้ว!!!”
“อ๋อม~~”
“หงึ!!…ทั้งที่เมื่อวานนายยังติดใจฉันอยู่แท้ๆ…เป็นเพราะยัยศรมุกดาคนเดียว…ว้อย!!!”
“หนูจะทำให้พี่ชายตาสว่างให้ได้…ฮึ่ม~~”
…สองคนนี้ชักเป็นเอามากแฮะและฝนก็คนหนึ่งที่ยังไม่ยอมหายงอนผม…จะว่าไปผมก็แค่ตื่นเต้นที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพี่ม่อนเท่านั้นเองยังไม่รู้สึกชอบพอหรือหลงใหลอะไรสักนิด…อืม–…คงจะแสดงอาการออกนอกหน้าเกินไปหน่อยมั้ง?…
(แต่เราว่ามันไม่ค่อยถูกต้องนะที่อ๋อมพยายามบังคับให้คนอื่นไม่ชอบพี่ม่อนเหมือนเธอ)
“ขออนุญาตขอรับ…กระผมจะมาช่วยเก็บสัมภาระของน้องเอกคเชนทร์กลับไปที่บ้าน…บ่ายนี้ก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะขอรับ”
“คุณอาไม่มาหรือ?”
“ท่านแม่กำลังยุ่งกับการเตรียมงาน”
“เตรียมงาน?”
“ก็งานเลี้ยงเล็กๆในหมู่ครอบครัวโดยที่พวกเราแปดพี่น้องจะมาพร้อมหน้ากันไงล่ะขอรับ”
(จริงด้วยสิ…อานีย์พูดไว้ตั้งแต่เมื่อวาน)
“น้องเอกคเชนทร์อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม?”
“ไม่หรอกครับ…อะไรก็ได้”
“เรียบง่ายดี…ว่าแต่เมื่อกี้กระผมเห็นอ๋อมกับน้องนางศรโกเมนรีบวิ่งไปไหนก็มิทราบ…มีอะไรกันหรือขอรับ?”
“คือ…พวกเธอบอกว่าจะไปหาพี่ม่อนเพราะไม่พอใจที่ผมชมว่าพี่ม่อนสวยน่ะครับ”
“ฮะๆๆ…นึกว่าอะไรกันเสียอีกแต่ก็หาใช่เรื่องแปลกดอกเพราะสองคนนั่นมิเคยยอมน้อยหน้าน้องนางศรมุกดาอยู่แล้ว”
“พี่เอ้”
“?”
“ทำไมพี่ไม่เรียกอ๋อมว่าน้องนางศรบุษราคัม?”
“เพราะอ๋อมเกลียดการถูกเรียกอย่างนั้นมาก…หลายปีก่อนกระผมเคยเรียกครั้งหนึ่งแล้วโดนผลักตกสระน้ำโดยหาว่าเรียกเช่นนี้มันทำให้เธอดูอ่อนแอ”
“โห~~”
“ทว่ากระผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของน้องเอกคเชนทร์นะขอรับ…น้องนางศรมุกดาเป็นหญิงสาวที่งดงามมากจริงๆ”
“ใช่มั้ยล่ะครับ…ผมว่าเธอสวยไม่แพ้พี่แคทเลย”
“เอ–…นี่ก็จะเป็นสาเหตุที่น้องนางหยาดฝนหน้าบึ้งด้วยล่ะกระมัง?”
“พี่เจอเธอด้วย?”
“ขอรับ”
“ฝนเขางอนผมตั้งแต่เมื่อวานแล้วน่ะ”
“หึๆๆ…มิเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงหรือไงขอรับ?”
“…พี่ม่อนก็พูดในทำนองนี้”
“ในเมื่อน้องนางหยาดฝนมีความรู้สึกพิเศษต่อน้องเอกคเชนทร์ก็สมควรจะเอาใจใส่นางให้มากกว่านี้สิขอรับ”
“พี่เอ้อยากจะบอกอะไรผม?”
“ความหมายของกระผมคือหาได้มีผู้หญิงคนไหนที่จะทนเห็นชายอันเป็นที่รักละความสนใจไปจากตนแม้จะเป็นเพียงการชื่นชมด้วยถ้อยคำสั้นๆแลจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม…ถึงจะพึงพอใจแต่ก็มิควรแสดงออกจนถูกจับพิรุธได้”
(นี่เขาพูดคล้ายๆพี่ม่อนเลย!?)
“หากเท่านี้ก็ยังมิเข้าใจหรือกระทำมิได้…เช่นนั้นกระผมจะขอรับน้องนางหยาดฝนไปดูแลแทนเอง”
“!!!”
……………………………………………………………………………………………………………………………..

(“น้องเอ้นั้น…เขาเป็น…”
“………………………………………….”
“สุภาพชนที่ตรงกันข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง!!!”)
“เหอะ!!…สุภาพชนตรงไหน?…ก็เป็นคนเจ้าชู้เหมือนกันล่ะว๊า~~”
…ผมมั่นใจว่าสัญชาตญาณของตัวเองไม่ผิดพลาด…พี่เอ้ไม่ได้เลิศเลออย่างที่พี่แคทออกปากชมแต่เนื้อแท้เขาก็คือผู้ชาย “เจ้าชู้” คนหนึ่งและคงจะหลอกใครต่อใครมาเยอะแล้วแน่ๆโดยเฉพาะสูงยาวเข่าดีแถมหน้าอ่อนยังกะผู้หญิงยิ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก…
(“พี่พูดเหมือนกับฝนเป็นสิ่งของที่นึกจะขอก็ขอกันได้ง่ายๆ!?”
“น้องนางหยาดฝนเป็นผู้หญิงที่ดีแลมีความเพียบพร้อม…กระผมรู้สึกเสียดายยิ่งนักหากจะต้องอยู่กับคนที่มิรู้คุณค่าของเธอ”
“หมายถึงผมเหรอ?”
“กระผมคงมิต้องเอ่ยซ้ำ”
“ถามเจ้าตัวหรือยังครับว่ายินดีจะไปกับพี่มั้ย?”
“สีหน้ามั่นใจมากทีเดียว?”
“แน่นอน…ต่อให้พี่เอ้ใช้ความพยายามมากแค่ไหนฝนก็ไม่ตกลงเพราะหัวใจของเธออยู่กับผม!!!”
“มิใช่เรื่องยากเย็น…แม้แต่ท่านพี่สุรีย์พรรณที่ขึ้นชื่อว่าใจแข็งหนักหนากระผมก็ทำสำเร็จมาแล้ว”
“อะ…อะไรนะ?”
“เราทั้งสองมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้งเกินกว่าที่น้องเอกคเชนทร์จะคาดคิดมากมายนัก”
“พี่เอ้จะบอกว่า…”
“ถูกต้อง…กระผมรักท่านพี่สุรีย์พรรณแลจะครอบครองนางให้จงได้”
…ดวงตาของพี่เอ้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นหลังจากจบประโยคที่ผมฟังแล้วรู้สึกมันทิ่มแทงเข้าที่หัวใจคล้ายกับถูกมีดกรีด…ผมอยากให้พี่เซคมาได้ยินจริงๆว่า “น้องชาย” ที่หล่อนชื่นชมนักหนามีความคิดอ่านอย่างไร?…
(จากที่ไม่ค่อยสบอารมณ์อยู่ก่อนและเวลานี้ก็ยิ่งไม่ชอบหน้าญาติหนุ่มผู้พี่คนนี้มากขึ้นกว่าเดิม)
“พี่เอ้ชอบพี่แคทแล้วยังจะมาคว้าฝนไปอีกทำไม?”
“มิเห็นเป็นไรเลยนี่ขอรับเพราะกระผมสามารถมอบความรักให้ทั้งสองคนได้อย่างเท่าเทียม”
“…ผมไม่เชื่อว่าพี่จะทำได้”
“นั่นก็แล้วแต่น้องเอกคเชนทร์ขอรับ”
“งั้นพี่ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผมเลยสักนิด…ใช่!!…ผู้ชายเจ้าชู้ไง”
“กระผมหาได้เหมือนน้องเอกคเชนทร์ซะทีเดียว…แม้ดูจะคล้ายคลึงแต่เราทั้งสองก็ยังมีบางสิ่งที่ต่างกัน”
“ไม่เหมือนยังไง?…ต่างกันยังไง?”
“เพราะกระผมมีเพียงท่านพี่สุรีย์พรรณกับน้องนางหยาดฝนเท่านั้น”
“แล้วเด็กสาวที่ชื่อ…นิดนั่นล่ะ?”
“นิด?…เวลานี้เธอยังเด็กเกินกว่าที่กระผมจะมีใจปฏิพัทธ์แต่ในอนาคตก็มิแน่ดอก”
(อะ…ไอ้หมอนี่–…ยิ่งฟังก็ยิ่งขุ่นเคืองอารมณ์เป็นที่สุด!!!…หมายความว่าต่อไปภายหน้าเขาอาจจะไม่ได้มีแค่พี่แคทกับฝน)
“ทองปลอมลอกออกมาแล้วครับ”
“?”
“ผมนึกว่าพี่เอ้เป็นคนดีมีศีลธรรมอย่างที่ใครต่อใครชื่นชมซะอีก…ถ้าพี่เซคตราหน้าผมว่าเป็นชายชั่วบ้ากามงั้นพี่เอ้ก็คือชายโฉดมักมากเช่นเดียวกัน”
“หึๆๆๆๆๆๆๆ”
(ด่าต่อหน้าแต่ยังหัวเราะออกมาได้อีก!?)
“พูดได้ดีขอรับแต่เท่าที่จำความได้กระผมก็มิเคยพูดเลยสักครั้งนะว่าเป็นคนดี”
“!!!!!”
(เฮ้ย!?…พี่เอ้ชักดาบออกจากฝักมาตั้งแต่เมื่อไหร่?…มะ…มองไม่ทันเลย…พอรู้ตัวอีกทีปลายดาบก็ชี้ตรงมาที่เราแล้ว!!!!)
“ถูกต้อง…กระผมนี่แหละเป็นคนโฉดขนานแท้แลไร้ความรู้สึกยิ่งกว่าผู้ใด”
(ใจดีสู้เสือเข้าไว้สิเอกคเชนทร์!!!…เขาคงไม่กล้าทำอะไรเราที่โรงพยาบาลแห่งนี้หรอกน่า–)
“งะ…งั้นผมขอบอกพี่เอ้ไว้ตรงนี้เลยว่า…อย่างไรผมก็ไม่มีวันเสียพี่แคทกับฝนไปให้ใคร”
“ทั้งที่น้องเอกคเชนทร์มีหญิงอื่นอยู่แล้วน่ะรึ?…เห็นแก่ตัวจริงๆ”
“เห็นแก่ตัวแล้วจะทำไมเล่า?…ผมทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นสองคนนั้นตกไปเป็นของชายอื่น”
“นั่นมิใช่ความรักแต่เป็นความแก่ได้อย่างน่ารังเกียจที่สุด…ความรู้สึกของน้องเอกคเชนทร์มิอาจจะเอามาเทียบกับกระผมได้”
“พี่แคทกับฝนจะผูกพันหรือเคยมีอะไรลึกซึ้งกับพี่เอ้ขนาดไหนผมไม่รู้แต่พวกเธอจะไม่มีทางจากผมไปไหนหรอกครับ”
“เช่นนั้นก็จงมาพิสูจน์กันเถิด”
“โชคดีที่วันนี้ผมได้รู้จักพี่เอ้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะรู้ว่าพี่เป็นคนเหี้ยมโหดไร้ความรู้สึก”
“เช่นนั้นหรือขอรับ”
“นี่พี่…เคยฆ่าคนมาก่อนหรือเปล่า?”
“เหตุใดจึงถามเช่นนี้?”
“ก็แววตาของพี่เมื่อกี้มันเหมือน…พวกฆาตกร”
“นึกกลัวกระผมขึ้นมาแล้วหรืออย่างไร?”
…พูดจบพี่เอ้เดินมาเอามือวางบนไหล่ผม…คิดจะขู่ให้กลัวงั้นรึฝันไปเถอะ!?…ผมขบฟันขณะเอามือจับแขนพี่เอ้ออกจากหัวไหล่พลางกลั้นใจเงยหน้าสบตาและพูดเสียงเข้มว่า…
“ผมไม่กลัวพี่เอ้!!!”
“หึๆๆ”)
“ชักดาบขู่ไม่พอยังมองเราอย่างดูถูกกับหัวเราะเย้ยหยัน…หลงคิดว่าจะเป็นพี่ชายที่ดีให้เราได้แต่มัน…แต่มัน..ฮึ่ม!!!!….เฉพาะเจ้าหมอนี่เท่านั้นที่เราจะยอมแพ้ไม่ได้…อุ!!…มือข้างที่เราจับแขนพี่เอ้ยังสั่นไม่หายเลยเรอะ?”
“ทานอาหารกลางวันค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“ญาติไปไหนกันหมดล่ะคะ?”
“เดี๋ยวก็มาน่ะครับ”
“เอ่อ–…ผู้ชายผมสีเงินๆนั่นเป็นญาติของคุณใช่มั้ยคะ?”
“…ใช่ครับ”
(พี่ชายจอมยียวนของเราเอง…ไม่สิ…ไอ้หมอนี่คือบุคคลอันตราย)
“คนไทยมีผมสีนั้นได้ช่างแปลกจริงๆแถมหล่อมากด้วย”
(แหวะ!!!…ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน)
“ฮึ!!…หน้าอ่อนแบบนั้นเจ้าชู้สะเด็ดเลย…คงหลอกผู้หญิงมาไม่น้อยแล้วล่ะครับ”
“แต่ผู้ชายก็มองตาค้างเชียวนะคะ”
“หา?”
“จริงค่ะ…เมื่อกี้เจ้าหน้าที่กับญาติคนไข้ที่เป็นผู้ชายตรงระเบียงเหลียวคอมองตามกันจนคอแทบเคล็ดแล้วมั้ง?”
(แหงละ!!…ก็หน้าเขาเหมือนพี่แคทยังกับแกะ)
“นี่ถ้าป้ายังไม่มีผัวล่ะก็จะตามไปจนถึงบ้านเชียว”
“ฮะๆๆๆ”
(“เราทั้งสองมีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้งเกินกว่าที่น้องเอกคเชนทร์จะคาดคิดมากมายนัก”
“พี่เอ้จะบอกว่า…”
“ถูกต้อง…กระผมรักท่านพี่สุรีย์พรรณแลจะครอบครองนางให้จงได้”)
“พูดเหมือนกับพี่เอ้กับพี่แคทเคย…ไม่จริงน่า!!!…เขาแค่ข่มเราเท่านั้น”
(“พี่แคทกับฝนจะผูกพันหรือเคยมีอะไรลึกซึ้งกับพี่เอ้ขนาดไหนผมไม่รู้แต่พวกเธอจะไม่มีทางจากผมไปไหนหรอกครับ”
“เช่นนั้นก็จงมาพิสูจน์กันเถิด)
“บ้าๆๆๆ…เราพูดออกไปแบบนั้นได้ไง?…พวกเขายังต้องไม่มีอะไรกันเซ่!!!!”
…จังหวะนั้นฝนกลับมาถึงพอดีแต่ท่าทางของเธอยังมึนตึงกับผมก็แสดงว่ายังไม่หายงอน…จากที่ได้สนทนากับพี่เอ้เมื่อสักครู่นี้เห็นทีผมจะต้องทำอะไรสักอย่างซะแล้ว…
“ฝน…เธอหายไปไหนตั้งนาน?”
“…ไปเดินเล่นในมหา’ลัย…หนุ่มหล่อๆที่นี่มีเยอะดี”
“?”
“ถูกจีบด้วยล่ะ…นี่ๆ…ได้เบอร์โทรมาเพียบเลย!!”
(ยัยผี!!!…บอกจะไปกินข้าวแต่นี่กลับไปเดินโชว์ให้ผู้ชายดูงั้นเรอะ?…มะ…ไม่ได้ๆ…ใจเย็นไว้ๆ)
“เอ่อ–…ฝนจ๋า~~”
“หือ?”
“ป้อนข้าวให้ฉันหน่อยสิ”
“มีมือก็กินเอง”
“โธ่~~…เมื่อไหร่จะหายงอนล่ะจ๊ะ?…ฉันขอยอมรับผิดทุกอย่างเลย”
“กินยาไม่เขย่าขวดหรือไงถึงพูดจ๊ะจ๋ากับฝนได้?…ฮึ!!”
“น่านะคนสวย~~…มะ!…มาพาฉันไปนั่งที่โซฟาหน่อย”
“กินที่เตียงก็ได้ย่ะ!!…คนสวยรึ?…ยังไงฝนก็สู้พี่ม่อนไม่ได้หรอกน่า~~”
“อย่าไปพูดถึงคนอื่นซี่!!…ที่นี่มีเราแค่สองคนเอง”
“………………………………………….”
(จะได้ผลมั้ยเนี่ย?…แต่ก่อนที่จะอธิบายอย่างอื่นก็ต้องทำให้ฝนหายโกรธเราเป็นอันดับแรก)
“…ก็ได้”
(เยส!!!)
“ค่อยๆเอาขาลง”
…ข้าวน่ะเอาไว้ก่อนก็ได้แต่สิ่งที่ผมต้องการสะสางให้เสร็จสิ้นเป็นอันดับแรกคือง้อให้ญาติสาวผู้น้องวัย 18 หายงอน…อาศัยจังหวะที่ฝนพยุงผมนั่งบนโซฟาแล้วหันไปหยิบถาดอาหารรีบชิงสวมกอดสาวเจ้าไว้อย่างรวดเร็ว…ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนฝนจึงดูมีท่าทางตกใจไม่น้อยแต่ผมจะไม่รามือง่ายๆแน่…
“เอ๋!?…บอล…บอลทำอะไรเนี่ย?…ปล่อยนะ!!”
“ไม่!!…จนกว่าเธอจะเลิกงอนฉัน”
“ฝนก็จะบอกว่าไม่เหมือนกัน…ว้าย!!!”
“งั้นฉันไม่ปล่อย!!”
“บอลนี่~~”
“ฝนยกโทษให้ฉันเถอะ…ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก”
“เชื่อได้แน่รึ?”
“ฉันสัญญา”
“เอาไว้กินข้าวเสร็จก่อนคุยกัน”
“เธอต้องยกโทษให้ฉันก่อน”
“แน่ะ!!…มาต่อรองกับเค้าได้ไง?”
(พูดแทนตัวเองว่าเค้าแล้ว!?…แสดงว่าฝนเริ่มใจอ่อนละงั้นจะต้องรุกให้หนักกว่านี้!!!)
“ฝนจ๋า~~”
“นี่!!…เดี๋ยวชามข้าวหกหมด”
“ก็วางก่อนสิจ๊ะ”
“บ้า!!…ตาบ้า~~”
“ขึ้นมานั่งบนตักฉันเถอะ?”
“ไม่เอา!”
“ฉันได้กอดเธอแล้วก็จะไม่มีทางปล่อยง่ายๆแน่”
“นี่คือวิธีง้อผู้หญิงของตัวเองหรือไง?”
“ก็ได้ผลใช่มั้ยล่ะ?”
“ไม่สักนิดย่ะแถมเชยซะไม่มี!!!”
“แต่หน้าเธอแดงมากนะ”
“พะ…เพราะมันร้อนต่างหาก!!”
“แอร์ในห้องออกจะเย็น”
“ไม่รุๆ!!…เอ๊~~…ก็บอกว่าอย่า…อ๊ะ!”
(สบโอกาสตอนฝนเผลอรีบฉกกระดาษที่อ้างว่ามีเบอร์โทรของหนุ่มๆแต่มันกลับไม่มีอะไรเขียนไว้เลย!?)
“หลอกกันนี่นา?…แผ่นกระดาษเปล่าๆ”
“ก็เค้าไม่ใช่คนหลายใจเหมือนใครบางคน”
“แกล้งยั่วอารมณ์ฉันรึ?…ฮะๆๆ…ร้ายนักนะเรา”
“หึงใช่ไหมเล่า?”
“ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะ…ฉันใจหายหมดเลย”
…สาวน้อยพยายามหลบตาเมื่อรู้ว่าผมเห็นเธอแอบยิ้ม…จะว่าเชยก็ตามใจแต่ผมรู้ว่าฝนชอบรูปแบบการง้อแบบนี้และในที่สุดลูกสาวคนเล็กของอานิภาก็แค่ดิ้นรนกับผลักไสพอเป็นวิธีซึ่งทำให้ผมยิ่งได้ใจมากขึ้นแล้วอีกแค่อึดใจฝนก็ยอมนั่งบนตักผม…
“อย่าซี่~~…ขาหักแล้วยังจะคึกอีก?…อุ๊ย!!…น่าเกลียดจังเลย”
“ขาหักแต่ไอ้นี่ยังปกตินะจ๊ะ”
“ลามกที่สุด!!…อ๋า~~…ตัวเองนี่ล่ะก็อย่าล้วงจิ๋มเค้าซี่!!…เดี๋ยวพี่ก็จะมาแล้ว”
“ฉันไม่ปล่อยให้เธอไปเป็นของคนอื่นแน่!!!”
“บะ…บอลพูดอะไร?…โออออออออออออออ…ไม่เอา~~…ที่นี่ไม่ได้!!”
“งั้นจับอย่างอื่น”
“แค่เปลี่ยนไปจับก้นนี่ยะ!!…ทำไมตัวเองถึงดื้ออย่างนี้เนี่ย?…อูยยยยยยยยยยยย…ห้ามแหย่นิ้ว…อื๊ออออออออออออ”
“แสดงว่าเธอก็อยากทำกับฉันใช่ไหม?”
“………………………………………..”
“ยอมรับมาซะดีๆ”
“ไม่เห็นจะต้องถามเลยแต่ยังไงที่นี่ก็ไม่ได้หรอก…เอาไว้กลับไปที่บ้านก่อน”
“ก็ดีเหมือนกัน”
“งั้นตอนนี้ปล่อยฝนได้แล้ว~~…ข้าวน่ะจะกินมั้ยหึ?”
“กินๆๆ…ป้อนให้ด้วย”
“ทำตัวเหมือนเด็ก…ฮิๆ…เอ้า!…ไหนบอกมาซิว่าวันนี้ทำไมถึงมาทำหวานกับเค้าได้?”
“ก็…จะง้อเธอไง”
“ไม่จริง!!…ปกติตัวเองเคยทำกับเค้าแบบนี้ซะเมื่อไหร่ล่ะ?”
“………………………………………”
“มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”
“ฝน…พี่เอ้ชอบเธอและเขาคิดจะครอบครองเธอกับพี่แคทด้วยนะ!!!”
“ฮะๆๆ…รู้มาตั้งนานแล้วจ้ะแต่บอลไม่ต้องไปสนใจหรอก”
“เอ๋?”
“เพราะไม่มีใครบังคับจิตใจฝนได้…ฝนจะอยู่กับคนที่ตัวเองต้องการอยู่และมีความสุขไปพร้อมกับเขา”
“……………………………………..”
………………………………………………………………………………………………………………………………

“คำสุดท้าย…อ้าม~~”
“อะ…อ้าม~~”
(ก็ดีใจหรอกนะที่ฝนหายงอนเราแต่มันก็น่าอายไม่น้อยเลย…กี่ครั้งๆก็ไม่ชินสักที)
“อ่ะ!…ดื่มน้ำหน่อย…มื้อเย็นวันนี้นะบอลจะได้กินอาหารหรูกว่านี้เป็นสิบเท่า”
“น่าสนุกจัง…หือ?…ป้าเอ็มและก็พี่เซค”
“ฉันนึกว่านายเตรียมตัวจะกลับบ้านแล้วซะอีก”
“ยังหรอกครับ…ผมเพิ่งกินข้าวเสร็จ”
“งั้นพ่อบอลแต่งตัวได้แล้วจะได้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน”
“เฮ้บอล!!…ฉันมีของมาฝาก”
(ของฝาก?)
“รับรองพี่ชายจะต้องดีใจแน่ๆ”
“ดีใจอะไรเล่าต้องหัวเราะเยาะซี่!!”
“จริงด้วย!!!…ก๊ากๆๆๆ”
“เข้ามายัยตัวแสบ!!”
(เฮ่ย!?)
“ว้าย!!!”
“ม่อน!?”
“พี่อ๋อม…เจ้าป้อม…นี่…สองคนทำอะไรน่ะ?”
…อ๋อมกับน้องป้อมก่อเรื่องพิเรนทร์อีกแล้วด้วยการจับพี่ม่อนมัดมือทั้งสองข้างด้วยเชือกก่อนจะจูง(ดึง)ให้ “พี่สาวร่วมมารดา” เดินตามเข้ามาในห้อง…ทั้งผมและป้าเอ็มหรือพี่เซคกับฝนต่างอ้าปากค้างมองตาแทบจะไม่กระพริบโดยไม่ได้นัดหมาย…
“ลูกอ๋อม…ปล่อยพี่เขาซะ!!!”
“เรื่องอะไรจะปล่อยง่ายๆล่ะแม่?”
“เธอทำบ้าอะไรอีกห๊ะ?”
“หล่อนสิบ้า!!…อยู่ๆก็มาว่าฉัน”
“ลูกป้อมแก้มัดพี่เดี๋ยวนี้!!”
“ไม่จ้ะ!”
“นี่ลูกป้อมจะไม่เชื่อฟังแม่ใช่มั้ย?”
“ทั้งสองคนมีเหตุผลอะไรหรือ?”
“ฉันจับยัยศรมุกดามาก็เพื่อจะให้นายได้หัวเราะเยาะมันไง”
“ใช่ค่ะ…พี่ม่อนเคยปั่นหัวพี่ชายไว้เยอะเลยนี่นา…นี่เป็นโอกาสเอาคืนแล้ว”
“ม่อน…น้องไปทำอีท่าไหนถึงเสียท่าให้แม่เสือบ๊องสองตัวนี้ได้?”
“…พวกเธอพยายามตามหากับสะกดรอยหนูเจ้าค่ะแลที่ถูกจับกุมก็เพราะจะแวะทำธุระในห้องน้ำ”
“ฮ้า!!…มะ…หมายความว่าพี่ม่อนถูกจับ…ที่ห้องน้ำเรอะ?”
…พี่น้องคู่นี้ชักจะเลยเถิดบ้าบอไปกันใหญ่แล้ว!!…มันน่าภาคภูมิใจตรงไหนกันที่บุกจับเค้าขณะกำลังจะทำธุระส่วนตัว?…ถึงผมจะไม่ค่อยชอบใจกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของพี่ม่อนแต่ก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีที่ดูขี้ขลาดตาขาวของอ๋อมจึงได้เอ่ยถามไป…
“นายอย่าเข้าใจผิด…ต่อให้ไม่ใช่ในห้องน้ำฉันก็มีปัญญาจับตัวยัยนี่ได้อยู่ดีแหละ”
“แต่ที่เราเลือกใช้วิธีนี้ก็เพื่อให้พี่ม่อนรู้สึกอับอายไงล่ะ”
“พอๆๆ…พอได้แล้ว!!!…แม่ไม่มีความสุขเลยนะที่เห็นลูกๆทะเลาะกันอย่างนี้…ทำไมไม่รู้จักรักใคร่สามัคคีกันบ้าง?”
“แม่ดูอยู่เฉยๆน่า–”
“ก็เพราะเป็นซะอย่างนี้ไงยายถึงเรียกไปอบรมสั่งสอน”
“พวกเธอต้องการให้ม่อนทำอะไรก็บอกมาตรงๆ”
“โฮ่–…วันนี้พูดจาภาษาคนรู้เรื่องนี่นะ?…ดี!!…ฉันต้องการให้ศรมุกดาขอโทษบอลต่อหน้าแม่และทุกคนในที่นี้”
“ขอโทษทำไมเหรอ?”
“หยาดฝน…เธอลืมไปแล้วรึว่ายัยซกมกแอบจิตหมายเลขสองมันเคยก่อเรื่องเจ็บแสบอะไรไว้กับบอลมั่ง?”
“ถึงกระนั้นก็…”
“พี่ฝน–…นี่อุตส่าห์ไม่เอาความในส่วนของพวกเราแล้วนะคะ…เอ้า!!…พี่ม่อนรีบขอโทษพี่ชายซะสิ”
“…………………………………………..”
“ทำมาเงียบเรอะ?…เดี๋ยวแม่ก็จับแขวนนอกหน้าต่างซะนี่!!!”
“ม่อนตัดเชือกให้ขาดไปเลย!!!…ไม่ต้องสนใจ”
“ฮ่าๆๆๆๆ…เชือกหลุดก็มัดใหม่ได้โว้ย!!!”
“ขอโทษพี่ชายซะแล้วพี่ม่อนจะไปไหนก็เชิญ”
“ไม่ต้อง”
“นายว่าไงนะ?”
“ฉันบอกว่าไม่ต้องหรอก”
“เฮ่!!…ฉันก็เตือนแล้วว่าอย่าไปหลงกับ…ฮึ่ม!!…หล่อนไม่ต้องมองไปที่บอลเลยนะ…หวังจะให้เขาช่วยหรือไง?”
“…เปล่า”
“มองอยู่เห็นๆยังจะบอกว่าเปล่า!!”
(พี่ม่อนหลับตาอยู่แท้ๆแล้วอ๋อมรู้ได้ยังไงกันนะว่าเธอมองเรา?)
“อ๋อม…ฉันจะบอกว่าเรื่องนี้มันเล็กน้อยเกินไปและไม่ควรฟื้นฝอยหาตะเข็บเลย…ปล่อยพี่ม่อนซะเถอะ”
“แต่ว่าพี่ชายคะ!!!…หนูกับพี่อ๋อมทำเพื่อ…”
“ถ้าขอร้องกันขนาดนี้แล้วยังไม่ฟังกันต่อไปก็ไม่ต้องมาพูดคุยอีก”
“อึ๊ก!!”
“ให้ตายสิอะไรกันก็ไม่รู้?…ฉันไม่ใช่คนใจคอคับแคบและจะมาดีใจกับเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งพรรค์นี้หรอกนะ!”
(แต่ความจริงเราก็นึกขำกับรู้สึกสะใจอยู่บ้างเหมือนกันแหละ…อื๋อ?)
“เห็นทีกระผมจะหลีกเลี่ยงมิได้แล้วสิขอรับ”
“ฮิๆ…เธอหมดสิทธิ์ตั้งแต่แรกแล้วนะจ๊ะ”
…ภาพที่อยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่พออกพอใจพี่เอ้มากขึ้นไปอีกเพราะคุยกันกะหนุงกะหนิงไม่พอเขายังจับมือถือแขนพี่แคทด้วย!!!…หมั่นไส้ไอ้หนุ่มตาคมหน้าหล่อ(สวย)นี่จริงๆ…เอ๊ะเดี๋ยวนะ!?…ในห้องนี้มี…เก้าคน…ถ้าไม่รวมป้าเอ็มก็จะหมายความว่า…
“โอ้นี่มันๆ…วันนี้เป็นวันที่แปดคนพี่น้องได้มาพบกันพร้อมหน้าอย่างนั้นรึ?”
“นะ…น้องม่อนก็อยู่ด้วยเหรอ?…พี่นึกว่าจะไม่มาซะอีกแต่ว่าที่มือ…”
“แล้วเหตุใดจึงถูกพันธนาการด้วยเชือกเช่นนั้นล่ะขอรับ?”
“…ก็แค่เรื่องมิเป็นเรื่องของเด็กบ้าบางคนเจ้าค่ะ”
“หล่อนว่าใครเป็นเด็กบ้าวะ?…เดียะๆ…ได้ถูกจับห้อยหัวนอกหน้าต่างแน่!!”
“เมื่อกี้ก็เพิ่งพูดไปหยกๆ…แล้วงานเลี้ยงเย็นนี้มันจะรอดไหมเนี่ย?”
“หึๆๆ…ทำให้บอลเบื่อหน่ายแบบนี้ฉันก็เข้าเส้นชัยอย่างไร้คู่แข่งน่ะสิ?”
“ฝันไปเหอะ!!…พี่ชายไม่ได้เบื่อหน่ายพวกเราสักหน่อย…พี่ฝนอย่าเพิ่งย่ามใจนักเลย”
“ความจริงมันสมควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆแต่ฉันชักรู้สึกกลัดกลุ้มขึ้นมาซะแล้ว”
……………………………………………………………………………………………………………………….

…ณ แดนดินถิ่นสาวงามหมู่บ้านโยนกประจิม(เขาว่ากันอย่างนั้น)…

“น้องฝันเคยได้ยินที่เขาร่ำลือกันไหม?”
“เรื่องอะไรหรือเจ้าคะ?”
“เกี่ยวกับนายหญิงอรศินีย์น่ะ…คือพี่ได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าความจริงท่านยังมีบุตรสาวอยู่อีกคน”
“เป็นไปมิได้เจ้าค่ะเพราะท่านมีคุณเอ้เพียงคนเดียว!!…พี่ได้ยินมาผิดๆแล้ว”
“จริงเหรอ?”
“อื้อ!…หากนายหญิงมีบุตรคนอื่นอีกพวกเราที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้ก็ต้องเห็นแล้วสิเจ้าคะ”
“แต่พี่เห็นจริงๆ!!!”
“อย่าเสียงดังสิเจ้าคะ!!…เดี๋ยวคุณนิดได้ยิน”
“มีอะไรกันเหรอ?”
“มีน…เธอกับฝันเข้ามาทำงานที่นี่ตั้งนานจะต้องรู้อะไรบ้างแน่ๆ…นายหญิงอรศินีย์มีบุตรมากกว่าหนึ่งคนใช่ไหม?”
“ว้าย!?…พี่นี่เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว!!”
“ก็ชาวบ้านเขาลือกันนี่นาและพี่ก็เคยเห็นเธอด้วย!!!”
“เธอ?”
“เคยเห็น!?”
“ใช่…เมื่อช่วงต้นปีพี่กำลังปัดกวาดที่บันไดใหญ่ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านทางเดินชั้นสองไป”
“ตาฝาดหรือเปล่าเจ้าคะ?”
“ไม่ๆๆๆ…ถึงพี่จะเพิ่งเข้ามาทำงานได้แค่สองเดือนแต่ก็จำได้นะว่าบ้านนี้มีคนอยู่กี่คนและพี่ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นมาก่อนด้วย”
“เธอหน้าตายังไงเจ้าคะ?”
“ไม่ทันเห็นหน้าหรอก…มันแค่แวบเดียวน่ะ”
“งั้นคงเป็นคุณนิดนั่นแหละ”
“บ้าสิ!!…เธอคนนี้รูปร่างสูงเพรียวกว่าคุณนิดเยอะและนุ่งกระโปรงสั้นด้วยล่ะ…นายหญิงอรศินีย์กับคุณนิดเคยใส่แบบนี้เรอะและก็ไม่มีทางใช่คุณเอ้อย่างแน่นอน!!!!”
“ฮึ๊ย!!…พี่คงจำผิดน่า–”
“ชั้นสองของบ้านหลังนี้ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะขึ้นไปนอกจากบรรดาพี่น้องของคุณเอ้ที่แวะเวียนมาก็มีคุณนิดและพวกเธอสองคนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต…แน่ะ!?…เธอสองคนจะต้องมีอะไรปิดบังฉันแน่ๆเลย!!!”
“ชักจะไปกันใหญ่ละ!!…มีนมิรู้เรื่องแลมิเคยเห็นผู้หญิงที่พี่เอ่ยถึงจริงๆ”
“อย่าไปสนใจเรื่องของเจ้านายเลยเจ้าค่ะ…มันมิใช่เรื่องของพวกเรา”
“แต่…”
“เธอสามคนกำลังซุบซิบอะไรกันมิทราบ?”
“คุณนิด!?”
“ซวยแล้ว!!”
“อ่า–…คือเราคุยกันเรื่องผู้หญิงที่ชั้นสองในบ้านหลังนี้เจ้าค่ะ”
“ผู้หญิงอะไร?”
“หนูเคยเห็นน่ะเจ้าค่ะ…นั่นใช่บุตรสาวของนายหญิงอรศินีย์หรือเปล่าเจ้าคะ?”
“เหลวไหล!!!”
“อึ๋ย!!!”
“พวกเธอว่างงานกันนักหรือถึงได้มาจับกลุ่มสนทนากับเรื่องไร้สาระเช่นนี้?…แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว!!!”
“จะ…เจ้าค่ะ!!”
“เห็นไหมล่ะเจ้าคะ?…ถูกดุเลย”
“ก็แหม…”
“มีนไปช่วยงานในครัวส่วนฝันขึ้นไปเช็ดกระจกตรงหน้าต่างชั้นสอง”
“เจ้าค่ะ”
“……………………………………………”
“……………………………………………”
“มิน่าแปลกใจเลยที่ชาวบ้านต่างโจษขานก็เพราะคนในบ้านดันเป็นซะอย่างนี้”
“เริ่มที่จะร่ำลือกันมากขึ้นแล้วด้วยนะเจ้าคะ”
“อุตส่าห์เตือนแล้วแท้ๆ…ฉันจะไปบอกเธอ”
“………………………………………..”
“ขออภัยที่รบกวนเจ้าค่ะ…นิดมีบางอย่างจะแจ้งให้คุณหนูทราบ”
“มี…อะไรจ๊ะ?”
“ต่อไปขอให้คุณหนูระมัดระวังในการปรากฏตัวมากกว่านี้เพราะเริ่มที่จะมีคนในบ้านสงสัยมากขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”
“…ครั้งนี้เป็นใครรึ?”
“พี่สาวของแตงที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้สองเดือนเจ้าค่ะ”
“อ้อ!…คงจะเป็นตอนนั้น…หึๆๆ…แม้นางจะช่างพูดไปบ้างแต่ก็เป็นเด็กดีแลจะดีกว่านี้หากรู้จักสงบปากสงบคำ”
“จะให้นิดทำอย่างไรเจ้าคะ?”
“…แค่ตักเตือนนางก็พอว่าอย่าสงสัยอะไรให้มากนักแล้วจะได้อยู่ในบ้านนี้ไปนานๆ”
“เจ้าค่ะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………………..

“ท่านแม่โทรมาบอกว่างานเลี้ยงเย็นนี้จะเริ่มตอนหกโมงเย็นและขอให้ทุกคนสวมอัญมณีประจำตัวด้วยขอรับ”
“จะต้องใส่ทำไม?…ยุ่งยากว่ะ!!”
“งั้นเธอก็อย่าใส่สิ…กล้าเปล่า?”
“ไม่มีปัญหาหรอกว่าแต่เรากำลังคุยเรื่องอะไรนะ?”
“ผู้ใดจะเป็นคนดูแลเอกคเชนทร์เจ้าค่ะ?…ท่านพี่สุรีย์พรรณ”
“ไม่เห็นจะต้องถามเลยเพราะคนๆนั้นคือหนู”
“พี่ฝนเลิกพูดเองเออเองซะทีเหอะ!!…เบื่อที่จะฟัง”
…นี่เองที่เขาเรียกว่า “มากคนก็มากความ” พี่น้องของผมมาอยู่พร้อมหน้ากันโดยไม่คาดคิดและกำลังถกเถียงว่าใครจะเป็นคนคอยปรนนิบัติจนกว่าขาของผมจะกลับมาเดินได้เป็นปกติ… 8 พี่น้องกับ 8 อัญมณีประจำตัวและถ้ารวมหางศรที่ทำจากมรกตของป้าเอ็มเข้าไปด้วยก็เป็นอัญมณี 8+(1) สินะ?…
“ความจริงผมก็ดูแลตัวเองได้เพราะงั้น…”
“ไม่ได้หรอกจ้ะ…ขาเป็นแบบนั้นพ่อบอลจะทำอะไรได้ถนัด?…เอาแค่อาบน้ำก็ลำบากแล้ว”
“อาบน้ำ!!!”
(ฝน,อ๋อม,น้องป้อมอุทานออกมาเกือบจะพร้อมๆกัน!?)
“ขอ…ขอให้เป็นหน้าที่ของฝนเองค่ะ”
“เธอหลีกไปเลย!!!…ฉันกับป้อมจะทำเอง”
“ใช่!!…ให้ป้อมกับพี่ทำนะคะ”
“พูดบ้าอะไรยะ?…ทั้งสองคนนั่นแหละกลับไปฝึกงานบ้านงานเรือนกับคุณยายซะ”
“ไม่กลับเว้ย!!”
“จะฝ่าฝืนคำสั่งคุณยายรึ?”
“ออกมาได้แล้วเรื่องอะไรจะยอมกลับง่ายๆ?…ไม่มีทางค่ะ!!”
“ยังไงก็ตาม…หน้าที่อาบน้ำให้บอลเป็นของหนูต่างหาก…พี่อ๋อมกับยัยตัวเล็กไม่ต้องยุ่ง!!!”
“หนอย~~…พี่ฝนคิดจะครอบครองพี่ชายไว้คนเดียวหรือไงคะ?…หนูไม่ยอมนะ!!!”
“เธอกับฉันมาตัดสินกันเลยดีกว่าไม่งั้นมันก็ไม่จบเรื่องซะที…คนแพ้ห้ามบ่นห้ามโวยวายจะเอามั้ยเล่า?”
“ตัดสิน?…ก็ได้–”
“เฮ่ยๆๆ…นี่โรงพยาบาลนะพวกเธอไม่ใช่สนามมวย!!”
“และแม่ก็ยังนั่งหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน…หัดเกรงใจกันมั่ง!!!”
“ฉันไม่ต้องลงมือลงไม้ก็ชนะ”
“โฮ่~~…พูดจาใหญ่โตจริงๆ”
…ฝนได้ยินก็ลุกยืนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวซึ่งสำหรับเธอคือ “การท้าทาย” แต่สำหรับผมคือ “การไม่ให้ความสำคัญ” เพราะมีอย่างที่ไหน?…ผมก็นั่งอยู่ที่เตียงคนไข้นี่แต่ไม่ได้ถามกันสักคำเลยว่าจะตกลงเลือกใครหรือเปล่า?…
“เดี๋ยวก่อนสิโว้ย!!…ฉันไม่ได้หมายถึงให้มาซัดกัน”
“แล้วจะตัดสินยังไง?”
“ในเมื่อแม่กับน้านีย์ไม่อยากให้เราสู้กันงั้นก็ใช้วิธีอื่น…มางัดข้อแข่งกัน”
“ว้าว~~…วิเศษไปเลยค่ะพี่!!”
“จะบ้าเรอะ?…เอาเปรียบกันชัดๆ!!!…ฝนจะไปชนะพี่อ๋อมได้ยังไง?”
“เมื่อก่อนเธอแพ้ตลอดแต่ครั้งนี้อาจชนะก็ได้นี่หว่า?”
“ฝนไม่แข่งทั้งๆที่รู้ว่าแทบจะไม่มีหนทางชนะ…จริงด้วย!!!…ให้พี่แคทแข่งแทน”
“ไม่ขัดข้อง!!…อยากจะประลองกำลังกับสุรีย์พรรณมานานละ”
“นี่!…เรื่องอะไรเอาพี่ไปเกี่ยวด้วยล่ะ?”
“ช่วยหนูหน่อยซี่~~…กำลังแขนของเจ๊มหาศาลปานมหิงส์รับรองคว่ำพี่อ๋อมได้แน่!!”
…อุ๊บ!!!…มหาศาลปานมหิงส์…เมื่อกี้ผมแทบจะปล่อยก๊ากลั่นห้องซะแล้วฝ่ายพี่เซคก็รีบหันหน้าไปทางอื่นสงสัยจะแอบขำเหมือนกันส่วนพี่ม่อนนั่งนิ่งเป็นเป่าสากเหมือนเดิม!?…เผลอหลับหรือเปล่าก็ไม่รู้ดูไม่ออกซะด้วย?…
(ที่ขาดไม่ได้คือพี่เอ้ที่เหลือบตามองพลางยิ้มมุมปากด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ตลอดเลย)
“จะขอร้องยังไงพี่ก็ไม่แข่งแล้วกรุณาถอนคำพูดเมื่อกี้ด้วย…มหิงส์บ้าอะไรยะ?”
“โธ่เจ๊~~…”
“เหอะๆๆ…ที่แท้พี่แคทกับพี่ฝนก็ไม่กล้าค่ะ”
“ยัยตัวเล็กปากเก่งนัก!!…ยังไงงัดข้อฝนก็ไม่เอา”
“งั้นเธอจะแข่งยังไงก็ว่ามา?”
“วิ่ง 100 เมตร!!!”
“เฮ้ย!?…เธอหาว่าฉันเอาเปรียบแต่ทีตัวเองล่ะวะ?”
“พี่ฝนขี้โกงที่สุด!!…ก็รู้อยู่ว่าพี่อ๋อมวิ่งสู้ไม่ได้ยังจะเสนออีก…ป้อมจะแข่งเอง!!!”
“ไม่ได้ๆ…น้องก็ไม่เคยวิ่งชนะยัยนี่เลยนะ!!”
“แต่ป้อมมั่นใจมากค่ะว่าครั้งนี้ไม่แพ้แน่”
“ต้องลองถึงจะรู้เฟ้ย!!”
(การทุ่มเถียงของสามสาวยังดำเนินต่อไปจนป้าเอ็มแย้งขึ้นเพราะทนฟังไม่ไหว)
“ทั้งสามคนน่ะหยุดได้แล้ว!!…เอาเป็นว่าแม่จะทำให้เอง…หยุดทะเลาะกันซะที”
“เอ๋ๆๆ…คุณแม่ไม่คิดจะถามหนูกับม่อนก่อนหรือคะว่ายอมตกลงมั้ย?”
“เชิญท่านแม่ตามสะดวกเลยนะเจ้าคะแต่หนูขอบอกเสียก่อนว่ามันคงมิจบเพียงขาขวาเท่านั้น”
…เห็นเอาแต่เงียบนึกว่าหลับ!?…ที่ไหนได้พี่ม่อนฟังอยู่ตลอดเวลาเลยนี่นาแต่ทำไมไม่เรียกให้คนอื่นแก้เชือกที่มัดซะทีหรือว่า?…
(ชอบอะไรๆรูปแบบนี้!?)
“…ฉันกับป้อมไม่มีปัญหา”
“เพ้อเจ้ออะไรของเธอ?…จะปล่อยให้แม่ไปอยู่ในห้องน้ำสองต่อสองกับไอ้จระเข้น้ำเค็มนี่งั้นเรอะ?”
(ช่างเปรียบไปได้นะแม่คุณ~~…เรา…เราน่ะเหรอจระเข้น้ำเค็ม!?)
“ท่านแม่หาใช่ของพวกเธอสองคนเท่านั้นไม่!!!…จะพูดจะเอ่ยอะไรออกมาก็จงใช้สมองตรึกตรองให้ดีซะก่อน”
“มีจิตคิดอกุศลไม่เข้าท่า!!…ใครกันแน่ที่ต้องใช้สมองตรึกตรองก่อนพูดน่ะ?”
“พี่แคทกับพี่ฝนคงไม่มีปัญหาหรอกนะคะ?”
“มันไม่ค่อยเหมาะสม…พี่ไม่เห็นด้วย”
“ใช่…ถ้าบอลยังเด็กอยู่ก็พอว่าแต่นี่โตเป็นหนุ่ม…”
“แล้วจะหน้าแดงทำไมวะนั่น?”
“สงสัยพี่ฝนจะคิดลึกอยู่นะเนี่ย?”
“เปล่าย่ะ!!”
“เห็นมั้ย?…น้องแคทกับน้องฝนยังบอกไม่เหมาะเลย”
“อย่างไรเราก็มิยอมเด็ดขาด…ผู้ใดที่ยังดื้อดึงเป็นได้เห็นดีกับเรา!!!”
“ปัทโธ่ว้อย!!!…คนนี้ก็ไม่เอาคนนั้นก็ไม่ได้…เรื่องมากกันจริงๆ”
“คนที่เรื่องมากมันพี่อ๋อมต่างหาก!!”
“ว่าไงน๊ะ?…นี่พี่ฝนยังว่าคนอื่นได้อีกรึ?”
“อย่างกับเธอว่านอนสอนง่ายนักนี่?…หยาดฝน”
(ก็เรื่องมากกันทุกคนนั่นแหละและไม่ถงไม่ถามเราสักคำบ้างเล้ย~~…แล้วทำไมไม่แย้งมั่งน่ะหรือ?…ก็มีแค่ปากเดียวจะไปเถียงสู้ได้ยังไงล่ะจริงมั้ย?)
“พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยเอ้…กะอีแค่จะอาบน้ำให้บอลก็เกิดปัญหามากขนาดนี้”
“เช่นนั้นกระผมกับท่านพี่สุรีย์พรรณจะรับหน้าที่นี้ไหมล่ะขอรับ?”
“ไม่เอาเด็ดขาด!!!…ผมดูแลตัวเองได้แล้วนี่พี่เอ้อยากให้กองไฟมันมอดดับหรือยิ่งลุกลามไปใหญ่กันแน่ครับ?”
(ไอ้หน้าหล่อนี่คิดอะไรของมัน?…แทนที่จะช่วยหาทางออกให้กันบ้างดันพลอยผสมโรงไปด้วยซะอีก!!!)
“เอ้!…แกลองเสนอมาซิ”
“กระผมหรือ?”
“เออเซ่!!…แต่อย่าบอกนะว่าแกจะเสนอตัวทำเองอย่างที่พูดเมื่อกี้?”
“อืม–…ก็มิเลวนะขอรับ”
“นะ…นี่แก!?”
“พี่เอ้พูดเล่นใช่มั้ยคะ?…พี่เอ้พูดเล่นใช่มั้ยคะ?”
“ฮะๆๆๆ…ขอรับ”
“เฮ้อ~~…โล่ง…โล่งอกไปที!!”
…อย่าว่าแต่ฝนหรืออ๋อมกับน้องป้อมเลยที่ต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก…ไม่ๆๆๆๆๆ…พูดงี้เอามีดมาแทงผมให้ตายจากโลกนี้ไปซะเลยเถอะ!!!…ผู้ชายสองคนอาบน้ำด้วยกันเดี๋ยวฟ้าก็ผ่าพอดี!!!!…
“คุณหนูใหญ่…ได้เวลาออกตรวจคนไข้นอกแล้วเจ้าค่ะ”
“อื้อ!…ฉันก็อยากไปจากที่นี่เต็มที…ไปกันเถอะม่อน”
“เจ้าค่ะ”
(ยังถูกมัดอยู่ไม่ใช่เหรอ?…เอ้ยอะไรนั่น!?…จู่ๆเชือกที่มัดมือสองข้างก็ขาดกระจุยกระจายโดยที่ไม่มีใครสักคนไปแตะต้อง!!!!…เพิ่งได้เห็นใกล้ๆชัดๆก็วันนี้…นี่น่ะหรือพลังจิต?…น่าทึ่งเหลือเกิน)
“เล่นสนุกพอแล้วใช่ไหมนางพญาเสือ?…เช่นนั้นเราขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”
“ฮึ!!…ใช้ได้เลยละ…จะไปไหนก็ไปซี่ใครอยากเห็นหน้าหล่อนเล่า?”
(พี่น้องต่างบิดาพูดจาโต้ตอบโดยที่ไม่มองหน้ากัน…นอกจากคู่ของฝนกับน้องป้อมก็เห็นทีจะไม่มีใครเกินคู่นี้แล้วที่ขบเหลี่ยมชิงไหวชิงพริบกันตลอด)
“เดี๋ยวค่อยพบกันตอนเย็นนะจ๊ะทุกๆคน”
“ใช่แล้ว!!…ให้ไหมทำก็ได้นี่”
“ทำอะไรหรือเจ้าคะ?”
“ฉันไม่ยอมนะแม่!!!”
“ใช่…ป้อมก็ไม่ยอมหรอก!!!”
“เรื่องนี้จบได้แล้วค่ะคุณป้า”
“ป้าเอ็มอย่าโยนฟืนเข้ากองไฟเพิ่มเข้าไปอีกสิคะ”
“แล้วตกลงเป็นใครหรือขอรับที่จะอาบน้ำให้น้องเอกคเชนทร์?”
(ส่วนเจ้าหมอนี่ก็ยังถือแกลลอนน้ำมันอยู่อีกวุ้ย!!)
“ผมก็บอกแล้วไงว่าจะทำเอง!!…ขอร้องล่ะครับ~~…ทุกคนอย่ามาวุ่นวายกะอีแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆนี่เลย!!!”
…อย่างที่พี่แคทว่าไว้…แค่ผมจะอาบน้ำก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ดึงเอาพี่น้องทุกคนมาข้องเกี่ยวเถียงกันหน้าดำหน้าแดง…เกิดคนภายนอกมารู้เข้าผมคงไม่แคล้วถูกนินทาในแง่ลบไปอีกนานทีเดียว…
………………………………………………………………………………………………………………………..

…ตัวอย่างในตอนหน้า…

“ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า?…คือเหมือนทุกๆคนกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่?”
“ฮื่อ–…รู้สึกไปเองแน่ๆ…ไม่ใช่ปิดบังอะไรหรอกแต่แค่บอลยังไม่รู้เท่านั้น”
“นั่นสิ…มนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องมีความลับกันสักอย่างสองอย่างนี่นะ”
………………………………………….
“จันทรกานต์ของเธอนับว่าน่ากลัวแต่เขี้ยวพยัคฆ์ของฉันก็ไม่ใช่จะมาดูถูกกันได้…อย่าลำพองให้มาก!!!”
“หึ!!…เธอต้องการจะบอกอะไรเราอย่างนั้นหรือ?”
“ฉันจะบอกว่าฉันนี่แหละจะเป็นคนปกป้องบอลจากผู้หญิงโรคจิตอย่างพี่ของเธอไง…ศรมุกดา!!!”
………………………………………….
“พี่เซคไม่…โกรธฝนเหรอคะ?”
“ไม่เลยจ้ะเพราะต่อให้น้องฝนเปลี่ยนใจไปเข้าข้างเจ้าจระเข้น้ำเค็มมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมหรอก”
(แทนที่จะโกรธเรากลับยิ้มให้พลางยกแก้วไวน์ดื่มอย่างอารมณ์ดี…พี่เซคจะต้องมีอุบายบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ!?)
………………………………………………………………………………………………………….

Share the Post:

Related Posts

วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่

เรื่องเสียว วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่ วันนี้ละอองฟองถูกเรียกเข้าไปในห้องของหัวหน้าอีกแล้ว เธอรู้ดีว่าเธอต้องทำอะไร ในเมื่อหน้าที่การงานของเธอนั้นไม่ได้ทำมันออกมาดีเหมือนที่เธอคิด แต่เธอไม่ได้ต้องการออกจากบริษัทแห่งนี้ ละองงฟองพยายามที่จะเข้ามาอ้อนวอนคุณภพ หัวหน้าของเธอ บอกกับเขาว่าเธอจะพยายาม ไม่ว่าจะให้ทำอะไรก็ได้ เธอยอมทุก ๆ อย่าง…และใช่ เรื่องเสียวคือเรื่องเสียวที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของคุณภพ วันนี้งานเหนื่อยทั้งวัน ละอองฟองยังคงต้องแก้งานมากมายในเวลานี้ ซึ่งมันไม่ได้น้อยเลย แต่เมื่อมันเสร็จแล้ว ก็ยังต้องมาสรุปรวบยอดใหม่ งานทุก

Read More

ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก

เรื่องเสียว ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก เราเริ่มจูบกันแล้วครับ จะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นหหลังจากนี้ไม่รู้ ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าเราต่างฝ่ายต่างมีความต้องการซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เราเงี่ยน เราอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เรื่องเสียวกลายเป็นเรื่องราวยอดฮิตสำหรับคนรุ่นนี้แล้ว และผมเองก็ไม่อยากจะอายเพื่อน เพราะต้องยอมรับว่าตัวเองยังซิงอยู่ ทั้ง ๆ ที่กำลังจะเรียนจบมอปลายแล้วแท้ ๆ ดังนั้น ในวันที่ผมไปปดูหนังกับแฟนของผมรุ่นน้องมอห้า เธอก็ชวนให้ผมไปนั่งเล่นที่บ้านของเธอก่อน

Read More