ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 58

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 58

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 58 “ผู้กำหนดชะตาชีวิต!?…ป้าของหนูกลายเป็นสาววัย 18 !!!!” 

“จะให้พ่อบอลตายต่อหน้า!!!”
“เธอออกตัวว่าไม่ได้มาคุยกับผมในฐานะหมอครับ”
“ต่อให้ไม่ใช่หมอก็ตาม…ประโยคนี้ไม่สมควรพูดออกมา!!!”
“แต่ฝนว่าไม่น่ากังวลนะเพราะป้าเอ็มกับบอลก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกันสักหน่อย…จริงไหมคะ?”
…ผมอดจะลอบใจหายไม่ได้ทั้งที่อุตส่าห์เตรียมใจกับตั้งสติแล้วว่า
จะต้องถูกเอ่ยถึงแน่…
(ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลก็ตามติดเราทุกย่างก้าวแถมชวนแกมบังคับให้เรากับป้าเอ็มมานั่งรถของพวกเธอ!?)
“แต่เซคไม่มองบอลเป็นน้องเป็นนุ่งเลย…ที่น่ากังวลคือตรงนี้”
“ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกค่ะ”
“?”
“คุณป้าจำได้ไหมคะว่าพี่เซคกับน้องม่อนเคยพบบอลหรือเปล่า?”
“เอ…”
“ไม่เคยครับ”
“ใช่…สำหรับสองคนนั้นบอลก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าที่ไม่มีความสนิทชิดเชื้อ”
“แล้วก็…เอ่อ…”
“หนูฝนมีอะไรก็พูดเถอะ”
“บอล…บอลคบผู้หญิงหลายคนซึ่งเป็นพฤติกรรมที่พี่เซคเกลียดมากๆ…มันก็เลยยิ่งดูแย่ไปกันใหญ่”
“แคทจึงเข้าใจความรู้สึกของพี่เซคและไม่ประหลาดใจเลยที่เธอจะออกมาขู่บอลแรงๆไว้ก่อน”
“แต่มันเกินไป”
“นั่นไง!!”
…พี่แคทขับรถออกจากโรงพยาบาลโดยใช้เส้นทางด้านหลังมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นแหล่งชุมชนขนาดย่อมที่มีทั้งหอพักและร้านอาหารเรียงรายเป็นทางยาว…ที่นี่ผมได้พบพี่ศรเพทายอีกครั้งโดยดวงตาของเธอกลับมาเป็นปกติแล้ว…พี่แคทกับฝนลงจากรถไปทักทายและได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง…
“โอ้!!…อยู่กันพร้อมหน้าเชียว”
“…แม่มีเรื่องจะพูดกับลูก”
“คะ?”
“ทำไมเราถึงใจร้ายใจดำกับน้องเค้านัก?”
…ป้าเอ็มเรียกลูกสาวคนโตไปคุยสองต่อสองส่วนผมนั่งรอในรถ…ศุกร์ที่ขับรถตามหลังก็เดินมาถามด้วยความสงสัย…
“ก็พี่ศรเพทายน่ะสิ”
“คุณ…คุณหนูใหญ่!?”
“เฮ่!!…อย่าทำหน้าตื่นตกใจอย่างนั้นเดี๋ยวก็ถูกจับพิรุธได้หรอก”
“หึๆ…นึกว่าอะไรซะอีก”
“แล้วนี่ทำไมลูกเซคถึงได้มาเดินทอดน่องถือกระป๋องเบียร์ในเวลางาน?”
“แหม~~…หนูมีผ่ากระเพาะตอนบ่ายก็เลยว่าง…ตรวจคนไข้เสร็จเลยออกมาเดินเล่นและก็…”
…พี่ศรเพทายปรายตามองผมก่อนจะเอ่ยทักศุกร์กับศิส่วนเศกรอในรถเพราะเดินเหินไม่สะดวก…
“สบายดีรึ?”
“…ครับ”
“พวกเราสบายดีค่ะ”
“ทำดีนี่?…รับเงินเดือนจากฉันแท้ๆแต่ไปก้มหัวนอบน้อมให้คนอื่น”
“ไม่…ไม่ใช่อย่างที่คุณหนูใหญ่เข้าใจนะคะ!!!”
“คือ…พวกเรา…”
“ฉันไม่มีปัญหาที่พวกนายไปรับใช้คุณแม่แต่ที่เรียกเจ้าหมอนั่นว่านายท่านน่ะมันหมายความว่าอะไร?”
…สองพี่น้องพากันก้มหน้างุดพูดไม่ออกและฝ่ายป้าเอ็มก็แย้งขึ้น…
“แม่สั่งให้พวกเขาพูดเองและพ่อบอลก็ไม่ใช่คนอื่น”
“ท่าทางคุณแม่จะคาดหวังกับผู้ชายคนนี้ไว้ซะสูงปรี๊ดแต่แน่ใจแล้วหรือคะ?”
“หมายความว่ายังไง?”
“พี่เซค?”
“!?”
…พี่ศรเพทายไม่ตอบผู้เป็นมารดาแต่เปิดประตูรถเข้ามานั่งที่เบาะหลังข้างๆพลางวาดแขนโอบไหล่กับมองหน้าผม!?…ทุกคนต่างแปลกใจกับการกระทำที่เจ้าหล่อนแสดงออกมาแม้กระทั่งป้าเอ็มก็ได้แต่นิ่งงันและสำหรับผมน่ะหรือ?…ใจเต้นไม่เป็นส่ำนั่งตัวเกร็งร่ำๆคล้ายจะเป็นไข้…
(ผมของสาวเจ้าคนนี้ก็มีกลิ่นหอมเหมือนพี่แคทกับฝน…มันเป็นของดอกไม้ชนิดไหนอีกนะ?)
“อะ…อะไรครับ?”
“………………………………………….”
“………………………………………….”
“คนอย่างนายนี่เขาเรียกว่า…ไอ้หน้าตัวเมียใช่หรือเปล่า?”
“ว่า…ว่าไงนะ?”
“โดนขู่เข้าหน่อยก็รีบแจ้นไปฟ้องคุณแม่กับน้องๆฉัน…ไม่เรียกหน้าตัวเมียแล้วจะให้เรียกอะไรรึ?”
“ผมไม่ใช่…”
“ไม่!!!…ฉันพูดถูก–”
“!?”
“หลบอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงมีความสุขมั้ย?”
“!!!!!!!!”
“ชอบผู้หญิงนักไม่ใช่เหรอ?…เอ้ามองหน้าสิ!!…สบตากับฉัน!!!”
“ยะ…อย่ามาใกล้!!”
“ทำไมเล่า?…ฉันก็ขาวสวยไม่แพ้ศกุนตลานะ”
“ออก…ออกไป!!!”
“ไม่เอาน่า~~…เลิกทำตัวเป็นคนดีจิตใจสูงซะที…จะกอดฉันก็ได้ไม่ต้องเกรงใจ”
“พะ…พี่เซคทำอะไรเนี่ย?…น่าอิจฉาชะมัด!!!”
“ยังจะอิจฉาลงรึ?…ขืนบอลกอดพี่เซคจริงๆงานนี้ไม่ตายก็คงคางเหลือง”
“ฮะๆๆ”
“ไม่…ไม่เอา!!”
“อื๊อ~~… ไม่สมกับที่ถูกเรียกไอ้บ้ากามเลย…นี่–…หน้าอกฉันก็อวบใหญ่แถมนุ่มมือไม่แพ้พวกสาวๆของนายเลย…ลองจับดูและนายจะต้องติดใจแน่ๆ…มามะ!!”
“ว้ากกกกกก!!!!!!!!”
“อ๊ะ!”
“เลิก…เลิกแกล้งน้องซะที!!”
…ผมพลั้งมือผลักพี่ศรเพทายก่อนจะรีบเปิดประตูออกมายืนใจเต้นโครมคราม…ให้ตาย เถอะ!!!…แค่กระพริบเพียงครั้งเดียวลูกตาดำก็แดงฉานไปด้วยเลือดอย่างรวดเร็ว!!!!…สารรูปอย่างนี้ใครจะไปกล้าแตะต้องได้?…อีกอย่าง…อีกอย่างเสียงของพี่ศรเพทายก็ทุ้มต่ำราวกับเสียงผู้ชาย…
(เสียงของพี่แคทตอนอยู่ในภาวะตะวันเลือดยังจะน่าฟังซะกว่า)
“บอล…บอลผลักพี่เซค!!!”
“ก็…ก็ฉันตกใจ”
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?…เจ็บตรงไหนบ้าง?”
“คุณหนูใหญ่ครับ!!”
“หึๆ…หึๆๆๆ”
(หลังจากถูกเราผลักหญิงสาวก็นอนนิ่งที่เบาะและพอศิกับศุกร์ถามก็หัวเราะในลำคอก่อนที่จะเปิดประตูรถออกมา)
“นอกจากจะขี้ขลาดหน้าตัวเมียก็ยังไร้มารยาท”
…เฮ้ย!?…ตากลับเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วสุ้มเสียงก็ด้วย!!!…สามารถควบคุมเลือดให้เข้าไปอยู่ในตาหรือจะให้ไหลออกไปก็ได้ตามต้องการ…หล่อนเป็นคนบ้าจำพวกไหนวะเนี่ย?…
(อ้า!?…ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ายังมีเลือดหลงเหลืออยู่ในตาดำแต่ไม่มาก)
“เจอแบบนี้เป็นใครก็ตกใจ…ลูกเซคนิสัยเสียไม่เปลี่ยนชอบเอาตะวันเลือดมาหลอกน้องๆ”
“ก็เหมือนคุณแม่สมัยเด็กแหละ”
“อึ๊!!”
“แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ…คุณแม่ต้องการอะไรจากหนูกันแน่?”
“ละ…เลิกจงเกลียดจงชังพ่อบอลสักที”
“หนูทำไม่ได้”
“เพราะอะไร?…พ่อบอลก็เป็นน้องของลูกเหมือนหนูฝนหนูแคท”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ตาหนู?”
“คนเราเมื่อเกลียดขี้หน้ากันแล้วจะให้มาดีกันก็คงทำได้ไม่สนิทใจ…ไม่สู้เปิดเผยความรู้สึกตรงๆออกมาเลยดีกว่า”
“……………………………………………”
“……………………………………………”
“ดี–…ถึงเวลาถอดหน้ากากกันแล้ว…ต้องการรู้สาเหตุที่ฉันเกลียดแกใช่ไหม?”
…ในที่สุดพี่ศรเพทายก็เปลี่ยนสรรพนามกับล้วงหยิบสมุดบันทึกจากกระเป๋าเสื้อกาวส์แล้วส่งให้ผม…พอฝนกับพี่แคทเห็นมันก็อุทานเกือบพร้อมๆกัน…
“นั่น?”
“สมุดที่…”
“เซค!!…ลูกทำอะไร?”
“ทุกคนอย่าเพิ่งตื่นเต้น”
“………………………………………..”
“รับไปซะ…ถือซะว่านั่นคือของขวัญจากฉัน”
“………………………………………..”
“………………………………………..”
“บัดซบ!!!!…ถือวิสาสะอะไรมาล่วงละเมิดสิทธิส่วนตัวของผม?”
…ในสมุดเล่มนี้บันทึกรายชื่อของผู้หญิงที่ผมเคยมี “ความสัมพันธ์สวาท” เอาไว้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นแม้กระทั่ง “ภรณ์” หมอนวดสาวที่ปัจจุบันเปลี่ยนอาชีพไปขายผลไม้ก็ไม่ยกเว้น…บอกหมดว่าชื่อนามสกุลอะไรอาศัยที่ไหนมีญาติพี่น้องกี่คนและที่ร้ายที่สุดคือมันเขียน “วันเวลาสถานที่” ที่ผมเจอกับพวกเธอด้วย…มันสุดจะทนไหวผมจึงปาสมุดลงพื้นพร้อมกับตวาดใส่พี่ศรเพทายดังลั่นที่เธอส่งคนมาแอบสอดแนมการดำเนินชีวิต…ใครที่ไม่โมโหผมว่าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ…โดนล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวกันถึงขนาดนี้มันน่าแจ้งความฟ้องศาลนัก…
“ไอ้หน้าตัวเมียกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันหรือ?”
“เออ!!!…ผู้ชายหน้าตัวเมียคนนี้แหละ!!!!”
“จะเถียงหรือไงว่าข้อมูลนั่นมันเป็นเท็จ?”
“ผมไม่เถียงว่าเป็นข้อมูลเท็จแต่ที่ทนไม่ได้ก็คือพี่ไม่มีสิทธิ์…แค่สามัญสำนึกพื้นฐานของมนุษย์พี่ยังทำไม่ได้ฉะนั้นไม่ต้องมาสั่งสอนคนอื่น!!!”
“บอลพอแล้ว!!…พอ”
“ฉันไม่หยุด!!…นี่เหรอฝนพี่สาวที่เธอเคารพยกย่องนักหนา?…พฤติกรรมอย่างนี้ไม่น่าจะเป็นหมอแต่ไปเป็นหัวหน้าโจรก่อการร้ายจะเหมาะซะกว่า!!!!”
“เก็บ…”
“หา?”
“เก็บขึ้นมา–”
“อย่ามาสั่ง!!!”
“คิกๆ”
“!!!!!!!!!”
“พี่เซค!…ได้โปรดอย่าทำร้ายบอลเลยค่ะ”
“คุณหนูใหญ่!?”
“แกจะทำร้ายฉัน…งั้นฉันก็มีสิทธิ์ป้องกันตัว”
…ลูกสาวคนโตของป้าเอ็มเคลื่อนไหวมาอยู่ข้างหลังผมอย่างรวดเร็วและยิ่งน่าตกใจมากขึ้นเมื่อในมือสองข้างของเธอถือมีดกับกรรไกร…
“ขวาจับมีดซ้ายกุมกรรไกร…ตำแหน่งที่คมมีดจะเฉือนเป็นหลอดลมและปลายแหลมของ กรรไกรก็คือกลางขมับ…ฮึ!!…เลือกซิว่าจะให้เฉือนหลอดลมขาดสะบั้นหรือโดนแทงให้สมองไหลออกมากองข้างนอก?”
“ไม่…ไม่นะ!!…แม่ขอเถอะลูก~~”
“แคทเก็บสมุดให้แล้ว…พี่ยกโทษให้บอลเขาเถอะนะคะ”
“……………………………………….”
“……………………………………….”
“อือ–…เห็นแก่ใบหน้าสวยๆของแคทและแววตาซุกซนน่ารักของฝน…พี่จะทำเป็นมองไม่เห็นความจองหองอวดดีของไอ้นี่สักครั้ง”
…พี่ศรเพทายพูดจบก็ถอยออกไปพร้อมเก็บ “อาวุธ” ไว้ในแขนเสื้อ(?)เป้าหมายของมีดและกรรไกรที่มุ่งตรงไปล้วนเป็น “จุดตาย” ทั้งนั้น…
“ครั้งนี้จะไม่ว่าอะไรแต่ถ้าต่อไปภายหน้า…ฉันจะไม่พูดมาก”
“จะฆ่าผมงั้นเรอะ?”
“สำหรับผู้ชายอย่างแกแค่ตายเฉยๆมันจะสบายไป…จงจำไว้ว่าอย่าให้ถึงวันที่ฉันได้เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของแก…มันมีนรกบนดินที่น่ากลัวซะยิ่งกว่าความตายอยู่…อยากรู้ว่ามันคืออะไรก็จงทำบาปกับผู้หญิงให้มากกว่านี้เหอะ”
“ใจร้ายเกินไปแล้ว!!…ไหนลูกเซคเคยพูดว่าสุริยะโลหิตจะมีไว้เพื่อช่วยชีวิตคนเท่านั้นไง?”
“ถูกต้อง…หนูพูดอย่างนั้นแต่มันขึ้นอยู่กับเจ้าหมอนี่ว่าจะทำให้หนูแหกกฏหรือไม่?…ฝน”
“คะ?”
“เหตุใดเธอจึงไม่ย้ายไปอยู่กับพี่แต่อยากไปอยู่กับไอ้บ้ากามนี่?”
“เพราะ…ทุกคนจะมีแต่ความสบายใจไม่ว่าจะป้าเอ็มหรือพี่เซคไงคะ”
“อะไรนะ?”
“น่าสน…พี่ชักอยากจะรู้แล้ว”
……………………………………………………………………………………………………………………

…ช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน…
“คุณแม่อรนิภาสุดสวยพูดจ้า!!”
“หงะ!…ม๊ามี๊ไปอารมณ์ดีมาจากไหนเนี่ย?”
“ก็จากลูกฝนไงล่ะ…แม่ดีใจมากๆที่ลูกโทรมาหา”
“อยู่บ้านเหรอ?”
“จ้ะ…แต่สักครู่แม่จะออกไปกินข้าวเย็นกับพ่อ”
“ห้องอาหารสุดหรูในโรงแรมสินะ”
“ร้านข้าวต้มริมถนนตังหาก”
“ห๊า!?”
“พ่อเค้าบอกว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ…ฮืม~~…แต่ไม่มีถามกันสักคำเลยว่าจะไปไหม”
“ฮะๆ…สุดท้ายแม่ก็ต้องตามไปอย่างไม่ปริปากแหละเนอะ”
“ทำไงได้…ใช้เงินเขานี่”
“?”
“งงอะไรจ๊ะ?…เงินเดือนแม่ยกให้หนูๆใช้หมดก็เลยต้องพึ่งของพ่อไง”
“ฝนบอกหลายครั้งแล้วว่าจะใช้เงินตาไม่ต้องลำบากแม่”
“อย่าไปรบกวนตาเลยลูก”
“ถึงหนูกับพี่ไม่ขอคนอื่นก็เอาไปใช้อยู่ดียิ่งเฉพาะยัยตัวเล็ก…ไม่รู้จะเอาไปใช้อะไรนักหนา?”
“บ้านเราไม่ได้ขัดสนปานนั้น…ว่าแต่ลูกฝนโทรหาแม่มีอะไรหรือเปล่า?”
“แม่ช่วยอธิบาย…ปรากฏการณ์หวนคืนสู่วัยสาวให้หน่อยค่ะ…เอาแบบจริงๆไม่หลอกเด็กนะ”
“ละ…ลูกฝนจะรู้ไปทำไมเหรอ?”
“น่าช่วยบอกหน่อย…ถามพี่ๆก็ไม่ตอบ”
“…พี่เราก็ไม่ค่อยรู้หรอก”
“งั้นแม่ต้องพูด”
“ไม่!”
“โธ่แม่จ๋า~~”
“ไม่ก็คือไม่”
“ไม่บอกจริงอ่ะ?”
“จ้า!!”
“ได้!…งั้นฝนจะฟ้องพ่อว่าแม่มีหนุ่มมาตามจีบถึงโรงพยาบาล”
“เออะ!?…ลูก…ลูกฝนรู้ได้ยังไงเนี่ย?…ไม่จริงสักหน่อยไม่จริง!!!”
“ฮี่~~”
“แย่แล้ว!!…ตีขลุมหลอกแม่เรอะ?”
“โวยเสียงดังขนาดนี้แสดงว่าเป็นความจริง”
“ใคร…ใครว่า!!”
“เป็นเรื่องปกติของคนสวยน่า–”
“…………………………………………….”
“โอเค๊?”
“แม่…แม่จะพูดก็ได้แต่อย่าบอกพ่อนะ…เอ่อ–…มีผู้ชายมาจีบแม่จริงๆแต่แม่ไม่เคยสนสักนิด”
“เขาเป็นใคร?”
“ญาติของคนไข้ที่เคยนอนโรง’บาล…ยังเป็นนักศึกษาอายุพอๆกับลูกฝนอยู่เลย”
“หวา!!”
“หน้าตาก็ไม่เลวหรอกแต่แม่จะชอบเขาได้ไงในเมื่อมีพ่อกับหนูๆสองคน?”
“หึๆ…แม่ก็เสน่ห์แรงไม่เบาที่มีหนุ่มน้อยตามจีบ”
“ใช่เรื่องน่าดีใจตรงไหนมิทราบเรอะลูกขา?”
“ฮะๆๆ”
“…แล้วไหงถึงไม่ถามป้าของหนู?…กำลังอยู่ในภาวะนั่นพอดีเชียว”
“เอ๋?…ที่วันก่อนแม่ถามป้าเอ็ม”
“นั่นล่ะปรากฏการณ์หวนคืนสู่วัยสาว…ลำพังแค่แต่งตัวเหมือนวัยรุ่นอย่างเดียวไม่มีทางได้ผลเพราะความเปล่งปลั่งสดใสน่ะมันออกมาจากภายใน”
“ตกลงคืออะไรกันแน่?…แม่เคยเป็นบ้างหรือเปล่า?”
“เคยสิจ๊ะ…เดือนหนึ่งก็จะครั้งสองครั้งแล้วแต่โอกาสแต่นี่หมายความว่า…พี่เอ็มยอมให้ผู้ชายหลั่งข้างในแล้วเหรอเนี่ย?”
“หลั่งข้างใน!?”
“ปรากฏการณ์หวนคืนสู่วัยสาวคือการมีเพศสัมพันธ์และได้รับน้ำกามจากผู้ชายผ่านทางช่องคลอด…มันคือผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นได้เฉพาะผู้หญิงในตระกูลของเราและต้องเป็นช่วงวัยของแม่กับป้าด้วย…ลูกฝนพอจะเข้าใจบ้างหรือยัง?”
“เฉพาะทางจิ๋มอย่างเดียว…ทางก้นไม่ได้ใช่มั้ยคะ?”
“จ้ะ…หลั่งน้ำกามเข้าทางประตูหลังไม่มีผลอะไรนอกจากความเสียว…ฮิๆ”
“แหม!!…บรรยายซะหนูเคลิ้มตามอ่ะ”
“เด็กใจแตกนะเรา”
“อืม–…เฉพาะในตระกูลของเราน่ะฝนเข้าใจแต่ทำไมต้องอยู่ในวัย 40 ขึ้นด้วย?
“ก็ไม่เชิงอายุจะต้อง 40 ขึ้นเสมอไป…อันที่จริงแม่เริ่มมีปราฏการณ์นี้ตั้งแต่ 25 แล้วจ้ะ”
“…ช่วงนั้น…ฝนอายุราวๆ 3 ขวบ”
“………………………………………….”
“ปรากฏการณ์นี้เกี่ยวข้องกับแม่ที่ถ่ายทอดสุริยะโลหิตมาให้หนูซึ่งเป็นลูกคนสุดท้อง…ใช่ไหมคะ?”
“ว้าย!!!…ลูกฝนของแม่ฉลาดจังเลย”
“โอ้โฮ!?…นึกไม่ถึงว่าสุริยะโลหิตของตระกูลเราจะยังมีความลับนี้ซ่อนอยู่”
“แต่ช่วงนั้นไม่ค่อยมีใครดูออกเพราะอายุแม่ยังไม่มาก…ที่สังเกตได้ชัดๆคือใบหน้าเต่งตึงผิวพรรณผุดผาดเลือดลมไหลเวียนสะดวกร่างกายมีเรี่ยวแรงคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงเหมือนกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนอายุ 17-18 ยังไงยังงั้น”
“ว้าว!!…นี่มันยอดเยี่ยมยิ่งกว่าได้กินยาอายุวัฒนะขนานเอกสูตรใดๆบนโลกนี้…ถือเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงทุกคนเชียวนะคะ!!!…ปีนี้ป้าเอ็มอายุ 49 ย้อนไปถึง 18 ก็…สะ…สามสิบเอ็ดปี…พอๆกับหนูเลยเรอะ!?…เนื้อหนังมังสาเนียนนุ่มเหมือนสาว 18 แน่นะ?”
“แน่นอน…แต่…แต่ตรงนั้นยังเหมือนเดิมนะจ๊ะ”
“แค่นี้ก็ดีเหลือหลายสุดๆแล้วค่า!!…สรุปป้าของหนูกลายเป็นสาวน้อยวัย 18 ซะแล้วพูดไปใครจะเชื่อเนี่ย?”
“เอ้ออีกอย่าง!!…ปรากฏการณ์นี้จะคงอยู่ได้ประมาณอาทิตย์เดียวเท่านั้น”
“ถ้าอยากเป็นต่อก็ต้องอึ๊บๆกัน”
“ใช่จ้ะ”
“ของดีนี่นา!!…อย่างนี้พ่อก็หลงแม่หัวปักหัวปำสิ”
“เป็นบ่อยๆไม่ค่อยดีเดี๋ยวคนนอกจับได้แล้วจะหาว่าเราเป็นตัวประหลาดแต่ป้าของเราจู่ๆนึกอะไรขึ้นมา?…เปลี่ยนไปจนแม่ตกใจเลย”
“ทำไมเหรอ?”
“ก็แม่จำได้ว่าป้าเค้าเป็นครั้งล่าสุดเมื่อช่วงหกเดือนสุดท้ายก่อนคลอดหนูป้อมและก็ไม่เคยเป็นอีกเลย”
“อ๋อ!!”
“ขานั้นน่ะยืนยันเด็ดขาดว่าแม้จะนอนกับนายเศกกับนายศุกร์แต่ก็ไม่เคยยอมให้พวกเขาหลั่งน้ำอสุจิเข้าในช่องคลอด”
“โอเค!…มีอีกอย่างหนึ่งค่ะ”
“จ๊ะ?”
“หนูอยากย้ายไปอยู่กับบอลเพื่อสร้างโอกาส…น่าจะเป็นสักสองสามวันนี้”
“ตกลงเอาจริงหรือ?…ลูกฝนปรึกษาพี่เค้าหรือยังและไหนจะหนูกุนหนูสาอีก…จะเร็วไปหน่อยมั้ย?”
“ไม่หรอกแม่และบอลก็ตกลง”
“หมายถึงแคท”
“เจ๊ยอมอยู่แล้วค่ะส่วนพี่กุนกับสาน่ะไม่ต่องห่วง…ฝนมีวิธีดีๆ”
“วางแผนเก่งจังนะลูกคนนี้”
“แม่จะเห็นว่าไง?”
“…………………………………………”
“…………………………………………”
“ทำอะไรให้รอบคอบอย่าด่วนใจร้อน…แม่พูดแค่นี้แหละ”
“เฮ!!!…ฝนรักแม่ที่สุดในโลก”
“อ๊ะ!…พ่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว”
“ขอให้มีความสุขนะคะ”
“หงึ!!…แม่กับพ่อแค่ไปกินข้าวกันจะมีความสุขอะไรหึ?…ไม่ใช่จีบกันสักหน่อย”
“อือ–…แต่ฟังจากน้ำเสียงของแม่ไม่น่าจะแค่กินข้าวเย็นกันเฉยๆ…บอกมาซะดีๆว่าพ่อชวนแม่ไปที่ไหนต่อ”
“ไม่…ไม่บอก!!”
“บอก!”
“ไม่พูด!!”
“พูด!”
“โธ่~~…ลูกฝนอย่าแกล้งแม่สิ”
“เปล่านา–…แต่หากแม่ไม่พูดหนูก็เดาได้อยู่ดี”
“ฮึ!!…เรื่องเรียนน่ะขอให้เก่งอย่างนี้เหอะ”
“จะไปสวีทกันต่อใช่ไหมล่า?”
“…………………………………………”
“หืม?”
“หะ…ห้ามเสียงดังไปนะ!…พ่อ…พ่อชวนแม่เข้าม่านรูด”
“วี้ดวิ้ว~~”
“อะไรห๊ะ?”
“นี่แหละการเปลี่ยนบรรยากาศที่แท้จริงละ!!!”
“พอๆ…แม่จะไปสร้างปรากฏการณ์หวนคืนสู่วัยสาวมั่ง”
“คิกๆๆ…ขอให้มีความสุขสมหวังมีน้องให้หนูอีกสักคนนะคะ”
“ทำหมันเรียบร้อยย่ะ!!…แม่มีแค่สองคนก็ปวดหัวพอแรงแล้ว…แค่นี้นะคะลูกรัก”
“บายจ้า!!”
“ขอให้มีความสุขสมหวังอะไร?…คุยกับใครอยู่?”
“โทรหาแม่…กำลังจะออกไปสวีทกับพ่อ…ฮิๆ…กว่าจะกลับก็คงรุ่งเช้าแหละ…อาบน้ำแล้วใช่ป่ะ?…ฝนอาบมั่ง”
“นี่!…จู่ๆก็มาจับนมพี่…ทะลึ่ง!!”
“ฮะๆ…ม่านรูดเหรอ?…ฝนเองก็อยากลองเข้าบ้างจัง”
“เราเนี่ยชอบยุ่งเรื่องผู้ใหญ่เหลือเกินแต่คิดจะเข้ากับใคร?”
“มีแค่คนเดียวแหละ”
“นึกรึว่าพี่จะยอมง่ายๆ?”
“โฮ่~~…ต้องอย่างพี่ใช่ไหม?”
“อะไร?”
“ก็พี่เซคไงจ๊ะ…ฮิๆๆๆ”
“…………………………………………”
“…เจ๊ยังโกรธบอลอยู่หรือเปล่า?”
“ก็โกรธแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?…ตอนนี้พี่สงสารบอลมากกว่า…จากตะวันเลือดของพี่เซคในวันนี้ก็รู้ได้เลยว่าเธอไม่ปล่อยให้เขาลอยนวลไปเฉยๆ”
“แล้วบอลจะต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า…นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หนูขอไปอยู่ที่บ้านหลังนั้น”
“ข้ออ้างที่เธอยกขึ้นมาอธิบายให้คุณป้ากับพี่เซคฟังรวมทั้งน้องสาเมื่อครู่นี้…มองเผินๆก็จะดูมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือแต่พี่รู้ใจน้องดี”
“………………………………………..”
“ฉะนั้นจะปล่อยให้เธอไปอยู่กับบอลตามลำพังสองคนไม่ได้”
“นึกแล้ว–…ฝนก็รู้ใจพี่ดีเหมือนกันค่ะ”
……………………………………………………………………………………………………

“ช่างเป็นวันที่สุดแสนจะเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ…ถูกข่มขืน,ถูกเปิดโปงความ ลับ,ถูกเอามีดกับกรรไกรจี้คอหอยและขมับ…ทำไมกูถึงไม่ตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปซะเลย?…เฮ้อ!!!”
(โดยเฉพาะมีดที่เราโดนจี้ถึง 2 ครั้ง 2 คราแถมคนจี้ยังเป็นผู้หญิงทั้งคู่!?)
…คืนแรกของการย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ผมต้องนอนคนเดียวเพราะป้าเอ็มเกรงว่าพี่ศรเพทายจะยิ่งระแวงหนักขึ้นดังนั้นการอยู่ห่างๆกันไว้ก่อนจึงเป็นหนทางที่เหมาะสมแต่พอนึกถึงใบหน้ากับดวงตาคู่นั้นของเธอทีไรก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าทุกทีไป…
(“จะฆ่าผมงั้นเรอะ?”
“สำหรับผู้ชายอย่างแกแค่ตายเฉยๆมันจะสบายไป…จงจำไว้ว่าอย่าให้ถึงวันที่ฉันได้เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของแก…มันมีนรกบนดินที่น่ากลัวซะยิ่งกว่าความตายอยู่…อยากรู้ว่ามันคืออะไรก็จงทำบาปกับผู้หญิงให้มากกว่านี้เหอะ”
“ใจร้ายเกินไปแล้ว!!…ไหนลูกเซคเคยพูดว่าสุริยะโลหิตจะมีไว้เพื่อช่วยชีวิตคนเท่านั้นไง?”)
…พอตกกลางคืนถนนสายนี้ที่เป็นเส้นทางไปถึงโครงการสร้างเขื่อนจึงไม่ค่อยมีรถวิ่งแถมร้านค้าก็ไม่ค่อยมี…ช่วงเย็นก่อนจะกลับป้าเอ็มสั่งให้ศุกร์ไปซื้อของกินของใช้หลายอย่างมาตุนไว้และห้ามไม่ให้ผมขี่รถออกไปไหนเพราะกลัวจะเกิดอันตราย…
(บ้านกว้างชะมัดยาดและพอไม่ต้องไปทำงานที่ร้านพี่แก้วก็รู้สึกเซ็งจริงๆ…นี่แผ่นอะไร?)
“โอว~~…ที่…ที่เราเคยดูตอนอยู่บ้านพักนี่นา?…ยอดเลย!!!”
(ได้ดูจนจบแล้วแต่ดูอีกก็ไม่เสียหาย…ใครนะเอาไปซ่อนไว้หลังกระจก?…วะ!!…ช่างมันเหอะมีหนังโป๊ไว้ดูแก้เซ็งแล้ว)
…………………………………………………………………………………………………………………..

“อะ…เอาล่ะ…ที…ทีนี้ก็ต้องไปจัดการในห้องน้ำให้สบายตัวก่อนจะเข้านอน”
(TRRRRRRRRRRRR~~)
“บ้าเอ๊ยรังควานไม่เลิก!!…ยังด่าผมไม่พออีกเหรอ?…ยังกระทบกระเทียบแดกดันไม่สะใจใช่มั้ย?…แค่นี้ครับ!!!”
…พี่ศรเพทายคิดจะปั่นหัวผมไปถึงไหน?…ขนาดป้าเอ็มลงทุนซื้อบ้านให้อยู่โดยไม่เกี่ยวข้องกับเงินของตระกูลแต่ก็ยังตามราวีกันอีก…
“แค่นึกก็กระดอหด…คนอะไรตาเปลี่ยนสีแถมเปล่งแสงได้?…มันน่าจับไปออกงานวัดนัก!!!”
(คงจะได้เงินมากโขทีเดียว…เสียงข้อความเข้า?)
“ยะ…ยังจะส่งข้อความด่า?…จะจองล้างจองผลาญกันเกิน…ไฟล์แนบ?”
“…………………………………………”
“เฮ้ย!?…ส่ง…ส่งรูปโป๊มาทำไมวะ?”
(TRRRRRRRRRRRR~~)
“ได้รับแล้วใช่มั้ย?”
“พี่จะเล่นตลกอะไรอีก?”
“แค่ส่งของที่แกชอบเท่านั้นเอง”
“ของชอบ?”
“ก็แกชอบผู้หญิงมากไม่ใช่รึ?”
“เฮอะ!!…ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งแต่หากผมอยากดูก็จะหาในเน็ตเอาเองไม่ต้องรบกวนพี่ให้ยุ่งยากหรอกครับ”
“ผิดแล้ว…รูปนี้ไม่มีทางหาได้ในเน็ตเพราะฉันเพิ่งใช้กล้องของมือถือถ่ายมาเมื่อครู่”
“อะ…อะไรนะ?”
“ฉันคือเจ้าของยกทรงสีเหลืองลายวาบหวิวกับหน้าอกคู่งามนั่น…แกจำสีเสื้อเชิ้ตที่ฉันใส่วันนี้ไม่ได้หรือไง?”
“ฮ้า!!!”
“ทีนี้…แกจะฟังภาษาคนรู้เรื่องและคุยกับฉันได้หรือยัง?”
“รูป…ขะ…ของ…ของพี่!?”
“มีวาสนาได้ดูอะไรสวยๆงามๆของฉันแล้วยังบังอาจตัดสายกลางคันอีกเป็นครั้งที่สองรับรองแกจะซวยสุดชีวิตแน่…คืนนี้ฉันไม่ได้เข้าเวรรู้สึกเซ็งๆก็เลยโทรมาคุยด้วย”
“ระ…ระหว่างเรายังมีอะไรจะต้องพูดครับ?”
“มีสิ…เรื่องสนุกๆน่ะมีเยอะแยะ…ฉันเพิ่งนึกออกเมื่อกี้นี้เอง”
…ที่แท้รูปถ่ายท่อนบนในระดับอกที่ไม่เห็นช่วงศีรษะก็เป็นของพี่ศรเพทาย…เธอปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกหมดเผยให้เห็นยกทรงสีเหลืองอ่อนที่ห่อหุ้มหน้าอกขาวอึ๋ม!!!…ใช่แล้ว!?…วันนี้หญิงสาวผมหยิกสวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้…
(ว่าแต่ถ่ายที่ไหนและใครเป็นคนถ่ายให้?…ไม่สิ!!…จุดประสงค์ที่แท้จริงของหล่อนคืออะไร?)
………………………………………………………………………………………………………………

…ตัวอย่างในตอนหน้า…

“พี่เริ่มจับตาดูผมตั้งแต่เมื่อไหร่?”
……………………………………
“ขอเตือนว่าเลิกซะเถอะ…แกใช้วิธีนี้กับฉันไม่ได้หรอกเพราะคนที่จะล้มในท้ายที่สุดก็คือแกเอง”
……………………………………
“บอลไม่เหมาะที่จะอยู่บ้านหลังใหญ่นี้เพียงคนเดียวจริงๆด้วย…ฝนมาแล้ว!!”
……………………………………
“พบกันครั้งแรกพี่เซคก็ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นศัตรูกับเธอแต่เธอก็ยังคิดจะผลักพี่ให้กลายเป็นศัตรูอีกคนใช่ไหม?”
……………………………………
“บะ…บ้านนี้มีผี!!…ฉะ…ฉันเพิ่งจะเจอเมื่อกี้!!!…ฉันโดนผีหลอกโว้ยยยยยยยยยยยยยย~~”
………………………………………………………………………………………………………………

…แค่เริ่มต้นเซคก็เป็นฝ่ายคุมเกมส์ซะแล้ว…ซื่อๆอย่างบอลจะรับมือได้หรือไม่?…

Share the Post:

Related Posts

วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่

เรื่องเสียว วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่ วันนี้ละอองฟองถูกเรียกเข้าไปในห้องของหัวหน้าอีกแล้ว เธอรู้ดีว่าเธอต้องทำอะไร ในเมื่อหน้าที่การงานของเธอนั้นไม่ได้ทำมันออกมาดีเหมือนที่เธอคิด แต่เธอไม่ได้ต้องการออกจากบริษัทแห่งนี้ ละองงฟองพยายามที่จะเข้ามาอ้อนวอนคุณภพ หัวหน้าของเธอ บอกกับเขาว่าเธอจะพยายาม ไม่ว่าจะให้ทำอะไรก็ได้ เธอยอมทุก ๆ อย่าง…และใช่ เรื่องเสียวคือเรื่องเสียวที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของคุณภพ วันนี้งานเหนื่อยทั้งวัน ละอองฟองยังคงต้องแก้งานมากมายในเวลานี้ ซึ่งมันไม่ได้น้อยเลย แต่เมื่อมันเสร็จแล้ว ก็ยังต้องมาสรุปรวบยอดใหม่ งานทุก

Read More

ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก

เรื่องเสียว ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก เราเริ่มจูบกันแล้วครับ จะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นหหลังจากนี้ไม่รู้ ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าเราต่างฝ่ายต่างมีความต้องการซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เราเงี่ยน เราอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เรื่องเสียวกลายเป็นเรื่องราวยอดฮิตสำหรับคนรุ่นนี้แล้ว และผมเองก็ไม่อยากจะอายเพื่อน เพราะต้องยอมรับว่าตัวเองยังซิงอยู่ ทั้ง ๆ ที่กำลังจะเรียนจบมอปลายแล้วแท้ ๆ ดังนั้น ในวันที่ผมไปปดูหนังกับแฟนของผมรุ่นน้องมอห้า เธอก็ชวนให้ผมไปนั่งเล่นที่บ้านของเธอก่อน

Read More