ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 62

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 62

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 62 “ฉันเกิดมาเพื่อเป็น…สุภาพบุรุษจอมปลอม!?” 

…ควันหลงจากตอนที่แล้ว…เวลาเดียวกันกับที่บอลเจอแคท…
“หมอเซคจะกลับแล้วหรือ?”
“หนูชักจะง่วงนอนแล้วล่ะค่ะ”
“ขับรถไหวแน่นะ?”
“ไม่ต้องห่วงค่ะอาจารย์…หนูจะค่อยๆขับ”
“เออ–…ไปช้าๆอย่ารีบร้อน”
“ค่า!”
“………………………………………..”
“ดื่มซะเยอะเลยเรา…อึม~~…รถจอดไกลจังวุ้ย!!”

“………………………………………..”
“กุญแจๆ…อยู่ไหน?”
“ท่าทางน้องสาวจะเมามาก…พี่ช่วยไปส่งบ้านมั้ยจ๊ะ?”
“เห~~…เรียกฉันว่าน้องสาวเรอะ?…อือ–…แต่ดูยังไงนายก็อายุน้อยกว่าฉะนั้นต้องเรียกพี่สาวสิ…อุ๊บ!!”
“ระวัง…อู้!!…เต็มมือ–”
“แหะๆ…ขอบใจจ้า!!…แล้วจะไปส่งพี่จริงๆเหรอ?”
“จริงสิจ๊ะ…เดินเซขนาดนี้น่ะขับรถไม่ไหวหรอก…รับรองจะส่งถึงเตียงนอนพี่สาวเลย”
“ช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริง…ถ้างั้น…พี่สาวจะยอมให้น้องพาไปส่งบ้านก็ได้แต่…”
“แต่?”
“ถามคนข้างหลังน้องเสียก่อนนะจ๊ะ”
“หือ?…โอ้วววววววววววว…แขน–…แขน!!…โอ้ยยยยยยยยยยยยย”
“…เมื่อกี้มือสกปรกของเจ้าแตะต้องหน้าอกท่านพี่ใช่หรือไม่?”
“โอ๊ย!!!…โอ้ยยยยยยยยยยย”
“ขอตอบแทนล่ะกัน…ตะกี้พี่ถูกจับนมเต็มๆเลยอ่ะ!!”
“…เช่นนั้น…เราขอมือข้างนั้นของเจ้า!!!”
“อ๊ากกกกก!!!!…อ๊ากกกกกกกกก!!!!!!!!”
“วา–…หวาดเสียว!!!…ทั้งห้านิ้วกับข้อมือหักงอหมดเห็นๆ”
“อ๊ากกกกกกกก…นิ้ว…นิ้วกู…ทะ…ทำไม?…มือกูทำไมถึงบิดงอไปหมดแบบนี้…โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เสียใจจริงๆนะจ๊ะ…น้องสาวฉันเค้าไม่อยากให้นายไปด้วยน่ะ”
“อู๊ยยยยยยยย…ชะ…ช่วยด้วย!!…เจ็บ…เจ็บเหลือเกินนนนนนน!!!!!!”
“เดี๋ยวจะมีคนมาช่วยเองแหละไม่ต้องกลัวจ้ะน้อง…ไปก่อนนะพ่อสุภาพบุรุษ…จอมปลอม”
“…………………………………………..”
“หึ!…จะหลอกฉันไปข่มขืนล่ะไม่ว่า?…ไอ้ชั่วเอ๊ย!!”
“เขาเดินตามท่านพี่มาตั้งแต่ออกจากร้านแล้วเจ้าค่ะ”
“คงเป็นพวกขี้ยาแถวนั้น…น่าเกลียดเหลือเกิน…อุ๊ก!!!”
“ท่านพี่!?”
“ไม่…ไม่ไหวแล้ว~~”
“………………………………………….”
“อึม~~…อ๊อก!!!!”
“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?…น้องจะลูบหลังให้”
“เชอะ!…ขยะแขยง…ขยะแขยงไอ้นั่นที่สุด!!!…มันจะลวงฉันไปข่มขืน…มันมีเจตนาชั่วร้าย…มันมีความคิดสกปรกโสมมต่อเพศตรงข้าม…ผู้ชายก็เป็นแบบนี้…ฉัน…ฉันไม่มีทางยอมทอดร่างให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหนได้เชยชมหรอกไม่มีวัน!!!!…แอวะ~~”
“บ้วนปากสักหน่อยเจ้าค่ะ”
“………………………………………….”
“………………………………………….”
“…ผู้ชายที่พี่นับถือมีแค่สองคนคือคุณพ่อโยทะกาและคุณตาเอกบดินทร์เท่านั้น…อ๊ะ!!…ขะ…ขอโทษ”
“มิเป็นไรเจ้าค่ะน้องหาได้เสียใจแต่อย่างใดไม่…แม้จะมิได้เห็นใบหน้าของท่านพ่อเมื่อครั้งยังมีชีวิตทว่าเมื่อน้องได้ยินท่านพี่เอ่ยถึงท่านด้วยความชื่นชมก็ให้รู้สึกปลาบปลื้มทุกคราไป…ท่านพ่อในมโนภาพของน้องคือเอกบุรุษที่ยอดเยี่ยมอย่างหาผู้ใดเปรียบได้”
“ม่อน…”
“แลน้องก็ได้รับสืบสายเลือดผู้ใช้พลังจิตมาจากท่านพ่อเช่นนั้นจึงหาได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเลยสักนิด”
“…นะ…นั่นสินะ…พลังจิตของพี่มันเสื่อมถอยไปหมดแล้วเพราะไม่เคยตั้งใจฝึกฝนฉะนั้นก็มีแต่น้องนี่แหละที่จะเป็นตัวแทนของคุณพ่อได้…กลับกันเถอะพี่ไม่เป็นไรแล้ว”
“เจ้าค่ะ”
“…สุภาพบุรุษจอมปลอม…อืม–…ก็ยังมีอีกคน”
“?”
…………………………………………………………………………………………………………………….

“เมื่อคืนแม่งน่ากลัวสุดๆเลยพวกมึง!!!”
“ก็พูดเกินไป…พี่แคทเป็นผู้หญิงนะเฮ่ย~~”
“ใช่…เพราะงั้นจึงต้องใส่ใจต่อความงามของตัวเองให้มากๆ”
“กูก็ไม่อยากพูดอะไรมากแต่เธอไม่ได้สวยเพราะไอ้ของพรรค์นั้นนี่หว่า”
“ผู้หญิงก็งี้แหละมีเรื่องจุกจิกโน่นนี่ให้ทำตลอด…แม่ยายกูยังทำเล้ย!!”
“เรียกซะเต็มปากเต็มคำเชียวไอ้คุณเชน”
“บอล!!…มึงอย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องคุย…จะให้พวกกูไปฉลองขึ้นบ้านใหม่วันไหนบอกมา?”
“เวร~~…ต้องส่งเทียบเชิญด้วยมั้ยเล่า?”
“รับปากกันแล้วนี่”
“เออได้ๆ…เสาร์นี้เป็นไง?”
“งานนี้เหล้ายาปลาปิ้งไม่อั้น…ใครเสือกทะลึ่งไม่มาจะต้องพาเพื่อนทุกคนไปอาบน้ำกับหมอนวดนะโว้ย!!!”
“ฉิบหา-!!…ไม่เจ๊งตอนนี้จะให้เจ๊งตอนไหน?”
“ก็อย่าเบี้ยวสิวะ…ไม่รู้ละ!!…ใครโดดเจอดีแน่”
“บอกน้องฝนช่วยทำกับแกล้มรสเลิศให้ด้วยล่ะ”
…บ่ายเบี่ยงเจ้าพวกขี้เมามาหลายครั้งแล้วแต่ทีนี้คงจะต้องยอมและป้าเอ็มก็ไม่ได้ห้ามเพื่อนผู้ชายมาสังสรรกันที่บ้านส่วนพี่แคทกับฝนคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่ต้องไม่ส่งเสียงดังเอะอะ…
“เค้าจะทำอาหารให้ก็ได้”
“ขอบใจมาก”
“บอลอยู่นี่เอง!!…วันนี้ไปดูหนังกับบุศนะคะ”
“หนังเรื่องอะไร?…โว้ว!?…นี่ทำภาคต่อแล้วเหรอเนี่ย?”
“ฮึ!!”
“บ่ายนี้เราไปดูกันนะ”
“ฝนก็อยากดูพอดีเลย!!!…ไปด้วย”
“นี่!!…คราวก่อนเธอก็ตามไปเป็นก้างขวางคอมาครั้งนึงแล้วยังจะเอาอีกเหรอ?”
“ก้างขวางคออะไรหนูไม่รู้เรื่อง?”
“บอลกับพี่เป็นแฟนกันส่วนคนนอกอย่างเธอกรุณาอย่ามายุ่งเลยขอร้อง”
“พี่บุศกรุณาอย่าทึกทักเอาเอง…ลืมเงื่อนไขของคุณยายฝนไปแล้วหรือคะว่าจนกว่าเรียนจบจะไม่มีการมาอวดอ้างตัวเป็นแฟนกับบอล?…อยากไปไหนมาไหนด้วยกันก็ไม่ว่าแต่ห้ามไปกันตามลำพังนั่นคือจะต้องมีฝนหรือพี่แคทคนใดคนหนึ่งไปด้วย”
“แล้วกับสาวิตรี…พวกเธอปฏิบัติเหมือนกันหรือเปล่า?”
“เหมือนกันค่ะ”
“แน่ใจนะ?”
“ค่ะ…สาก็มีสถานะเดียวกับพี่คือเป็นแค่เพื่อนบอล…ไม่มีข้อยกเว้น”
“……………………………………….”
“ถ้ารู้สึกอึดอัดหรือรอไม่ไหวก็เชิญถอนตัวออกไปได้ทุกเมื่อเลยนะคะ”
“คนอย่างเธอนี่มัน…”
“ฮิๆ”
“แสบมาก~~…ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกจะบอกให้!!!”
…บุศหันหลังเดินจากไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวส่วนฝนโบกมือบ๊ายบายพลางส่งยิ้มในเชิงเยาะเย้ย…ผมรู้นิสัยหญิงสาวต่างคณะคนนี้ดีว่าที่ยอมถอยไม่ใช่เพราะกลัวฝนแต่มันไม่มีประโยชน์ถ้าจะไปดูหนังกันสามคนไม่ใช่สองต่อสอง…
“ห๊ะคิ้วขมวด!?…เสียดายที่ไม่ได้ไปกับพี่บุศเรอะยะ?”
“เอ้ยเปล่า!!…ฉันเสียดายที่ไม่ได้ดูหนังต่างหาก”
“งั้นเราไปกันแค่สองคนก็ได้นิ?”
“เมื่อกี้ไม่เห็นพูดงี้เลย”
“เฮอะ!!…พี่บุศเป็นใครและฝนเป็นใครเอามาเปรียบกันได้ไง?…เฮะๆๆ”
“…………………………………………..”
“พี่บุศน่ะช่างเขาเถอะ…เย็นวันเสาร์พี่เคย์ไปด้วยใช่มะ?”
“เชนว่าจะชวนมันด้วย…มีอะไร?”
“ฮืม–…ยอมแพ้เรื่องพี่แคทแล้วสินะถึงหันไปจีบคนอื่น?”
“จีบใคร?”
“บอลไม่รู้หรือ?”
“ไม่เห็นมันบอกเลยว่าไปจีบเด็กที่ไหน”
“…ใครว่าเด็ก?”
“หา!?”
“แน่!!…อยากรู้ใช่ม๊าว่าพี่เคย์กำลังปลูกต้นรักกับใคร?…งั้นไปดูกันไม่แน่อาจโชคดีได้เห็นถ้าโชคเข้าข้างเรา”
“ดะ…เดี๋ยว!!”
“เร็วซี่~~”
…ไอ้เคย์จีบผู้หญิงอยู่เหรอ?…ทำไมมันไม่ยอมบอกผมหรือเพื่อนๆบ้างหรือกลัวจะแห้วเลยยังไม่กล้ามาคุยอวด!?…
“ห้องสมุดคณะ…ที่นี่ทำไมรึ?”
“มานี่เร็ว!!”
“…………………………………………..”
“ตรงนี้เป็นมุมอับและมองเห็นโต๊ะทำงานของอาจาอานวิได้น่ะ”
“เฮ้ย!?…เธอกำลังจะบอกว่า…”
“อื้ม!!”
“เธอ…เธอจะบอกฉันว่าผู้หญิงที่ไอ้เคย์จีบอยู่ก็คือ…เป็น…เป็นไปไม่ได้!!!…อาจารย์วิยะดาแต่งงานมีลูกแล้วนะ!!!!”
“แต่งงานแล้วไง?…มีลูกแล้วไง?…ได้ยินว่าสามีอาจารย์อยู่ทางภาคใต้ใช่มั้ย?”
“…มันก็ใช่…แต่…แต่ฉันไม่เชื่อ”
“ทีแรกฝนก็ไม่เชื่อหรอกแต่พอได้เห็นกับตาตัวเอง…ทีนี้จะปฏิเสธก็ตอบไม่ได้แล้ว”
“เห็นกับตา?”
“เย็นวันก่อนพี่เคย์กับอาจาอานกอดจูบกันบนโต๊ทำงานเล้ย!!!”
“!!!!!!”
…ไอ้…ไอ้บ้านี่เหิมเกริมริอาจคั่วครูบาอาจารย์เชียวเหรอเนี่ย?…กรณีของพี่ยุทธกับอาจารย์แอ๊วก็ว่าน่าช็อคสุดๆแล้วนะแต่นี่มันยิ่งน่าตกใจมากกว่าตั้งหลายเท่า…กล้าทำไปได้ยังไงนั่นผู้หญิงที่แต่งงานมีผัวกับมีลูกแล้วแถมเป็นอาจารย์ที่สอนหนังสือตัวเองเสียด้วยและที่สำคัญคือมันเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผม!?…
“เธอไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน?”
“จะพูดว่าบังเอิญหรือโชคชะตานำพาก็ได้จ้า!!”
“นั่นคือความสัมพันธ์ต้องห้ามนะ”
“สัปดาห์ก่อนพวกเพื่อนในห้องฝนเค้าคุยกันว่าหมู่นี้เห็นอาจาอานวิกับพี่เคย์ชอบเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน…น่ากลัวจะแอบเป็นกิ๊กกันมั้ง?…แน่ล่ะ…มันเป็นหัวข้อคุยเล่นๆแต่ฝนรู้สึกติดใจจึงแอบตรวจสอบพฤติกรรมของสองคนนั่น”
“ตามติดฉันแจแบบนี้ยังจะเอาเวลาไหนไปสะกดรอย?”
“ฮี่!!…ใครบอกว่าเค้าไปเอง?…ใช้แหล่งข่าวส่วนตัวไปสืบแทนตังหาก”
“…แล้วไง?”
“มีความผิดปกติเกิดขึ้นจริงๆและวันก่อนฝนก็เห็นสองคนนั้นมีความสัมพันธ์ต้องห้ามกันที่โต๊ะทำงานตัวนี้…พอดีเอาหนังสือมาคืนน่ะก็เลยแอบเห็นเข้า”
“…………………………………………..”
“เย็นนี้ลองมาซุ่มดูกันมั้ย?…เผื่อได้รู้เห็นอะไรดีๆ”
“จะบอกพี่แคทยังไงล่ะ?”
“เจ๊ต้องไปพรีเซนต์รายงานที่ตึกวิทย์และได้คิวคนสุดท้าย…ถ้าโชคเข้าข้างเราคงจะไม่รอคอยอย่างสูญเปล่าแน่”
“บอกพี่แคทไปหรือยัง?”
“หึ”
“ดีแล้ว…อย่าเพิ่งให้รู้เลย”
“ฝนตั้งใจให้บอลรู้คนแรกอยู่แล้วเพราะพี่เคย์เป็นเพื่อนบอลนิ”
“เอา…เอาไงก็เอากัน!!!…ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มันก็ค้างคาใจอยู่นั่นสู้ไปดูให้เห็นกับตาเลยดีกว่า”
…อาจารย์วิยะดาเคยสอนกุนสมัยเรียนมัธยมปลายในฐานะอาจารย์ฝึกหัดและไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยเลย…ต่อให้เห็นกับตาตัวเองก็คงยากที่จะทำใจเชื่อ…ผมแทบจะอดใจรอให้ถึงเวลานั้นไม่ไหวแล้ว…
“เอ๊ะรถคันนั้น?”
(เฮ่!?…ยัยหมอกวนประสาท…เธอมาทำอะไรที่นี่?)
“พี่เซคจ๋า!!…มาหาใครอ่ะ?”
“ก็มาหาน้องสาวที่น่ารักน่ะสิจ๊ะ”
“…………………………………………”
“สวัสดีค่ะนายท่าน…ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่วันนี้ได้พบหน้ากันอีก”
“…เช่นกันครับ”
(ประชดไม่เลิกราซะทีนะแม่คนนี้งั้นก็ขอตามน้ำซะเลย)
“ได้ยินว่าไปพบคุณพัตรามาเป็นอย่างไรบ้างคะ?…คงจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามสมดังความตั้งใจ”
“…ใช่ครับ…แม้จะมีมารร้ายซ่อนอยู่ในมุมมืดและคอยขัดแข้งขัดขาก็เถอะ”
“โอ๋?”
“มารร้ายตัวนี้มันร้ายมากนะครับพี่ศรเพทาย…เบื้องหน้าวางตัวดูดีแต่เบื้องหลังนี่…อ้อ!!…ผมไม่อยากเอ่ยอะไรมากไปกว่านี้เพราะอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิง…สุภาพบุรุษที่ดีจึงไม่ควรพูด”
“……………………………………….”
“เอ่อ–…ทั้งสองคนน่ะ”
“เดี๋ยวก่อนจ้ะน้องฝน”
“……………………………………….”
“เมื่อกี้…พูดคำว่าสุภาพบุรุษเหรอ?”
“…ครับ”
“สุภาพบุรุษๆ…คิก!…ฮะๆๆๆๆๆๆๆ…ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…สุ…สุภาพบุรุษเรอะ?…ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…โอ๊ย!!…ขำ…น่าขำเป็นบ้าเลยว่ะ!!!”
…มันตลกมากหรือไงพี่ศรเพทายถึงกับเอามือกุมท้องย่อตัวหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาแทบไหลแบบนั้น…ยิ่งดูก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าหญิงสาวผู้นี้เป็นคนชนิดไหนกันแน่?…
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…อ๊า~~…มะ…ไม่ไหวแล้ว!!…ฮึๆๆๆๆๆๆๆ…ช่าง…ช่างพูดออกมาได้อย่างไม่รู้จักอายปากซะเลย…แก!!!”
“!?”
“พี่เซค!?”
“ประสาทหรือไงครับ?…หัวเราะอย่างกะคนบ้าแล้วก็โมโหด่าคนอื่น…เอ–…เหมือนได้กลิ่นเหล้าจากพี่?…งั้นผมก็ไม่อยากถือสาหาความกับคนเมาหรอก!!”
“จะบอกว่าตัวเองเป็นคนดี…รึ?…อึ๊!!…ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…นี่…นี่ต้องเป็นแผนจะให้ฉัน…ฮิๆๆๆๆๆๆๆ…ขำ…ขำจนขาดใจตายใช่มั้ยห๊ะ?…คิกๆๆๆๆ”
…ใครก็ได้ช่วยตัดสินทีว่าผมกำลังเสวนากับคนบ้าหรือเปล่า?…จากตลกขบขันเปลี่ยนเป็นโกรธเคืองด่าคนอื่นแล้วก็กลับไปหัวเราะงอหายอีก…ไม่เคยพบเคยเห็นคนพรรค์นี้มาก่อนเลยตั้งแต่จำความได้…
“อุ๊ก!!…พอที…พอซะทีเถอะไอ้เวร!!!!”
(โมโหอีกแล้ว!?)
“แกจะมาเป็นคนดีเอาป่านนี้ฉันว่ามันสายไปซะแล้วมั้ง?…ไอ้สุภาพบุรุษจอมปลอม”
“ถ้าผมเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม…งั้นพี่ก็คือสุภาพสตรีขี้เหล้าที่ไม่มีคุณสมบัติจะไปเป็นเมียที่ดีกับแม่ที่ดี”
“โอ้!?…ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครบังอาจจะสบประมาทฉันได้ถึงขนาดนี้…แกกล้ามาก!!!”
“………………………………………….”
“ไอ้คนสามหาวปากดี!!!…แกไปเอาความกล้ามาจากนรกขุมไหน?”
“ความกล้าจากข้างในนี้ไงครับ”
“หัวใจเรอะ?…ฮื่อ!…ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…ฉัน…ฉันอยากจะเอาหัวฟาดกำแพงให้ตายจริงๆ…ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ…โอ๊ยจุกท้อง!!…ไม่…ไม่เคยหัวเราะสุดขีดขนาดนี้…มะ…มานานแล้ว…หึๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“หยุดได้แล้ว!!…ประเดี๋ยวผมจะเรียกยามมาจับพี่ส่งโรงพยาบาลบ้า…วันนี้พี่จงใจมาหาเรื่องผมเพราะงั้นอย่าคุยกันอีกเลย”
“เฮ้ย!?…สำคัญตัวเองผิดแล้วมั้งหึ?…ฉันไม่ได้มาเพื่อพบแกสักหน่อยแต่มีธุระกับฝนและแคทต่างหาก”
“หนูรึ?”
“เมื่อกี้บอกแคทเรียบร้อยแล้วแต่มาเจอฝนก็ดี”
…เรื่องอะไรไม่รู้หรอกแต่ผมไม่อยากจะยุ่งอยู่แล้วจึงเดินเลี่ยงออกมา…ให้ตาย…ยัยคนนี้โผล่หน้ามาทีไรทำบรรยากาศเสียทุกทีแถมเที่ยวนี้ดันมาแสดงอาการบ้าๆบอๆให้เห็นอีกต่างหาก…
(ความเมานี่มันทำให้คนเปลี่ยนไปได้จริงๆแต่ตอนนี้เรื่องของเจ้าเคย์กับอาจารย์วิยะดาสำคัญกว่า…วันนี้เราจะต้องรู้ความจริงให้ได้!!!)
…………………………………………………………………………………………………………………

“เคย์…มึงยังไม่กลับเหรอ?”
“กูจะเอางานไปส่งอาจารย์โชคก่อนว่ะ”
(โต๊ทำงานของอาจาย์วิยะดาก็อยู่ติดกันด้วย!?)
“…ฮ่าๆๆ…ไปคนเดียวระวังโดนผีหลอกนะ”
“ปากเสียโว้ย!!…ผีบ้าอะไรมาหลอกกันตอนเย็น?”
“จริงๆ…ตึกคณะเก่ามันมักจะมีประวัติอยู่ไม่รู้เรอะ?”
“กูได้ยินเขาลือกันมาตั้งแต่ตึกใหม่ยังไม่เริ่มสร้างเลย…น่าเบื่อว่ะ”
“ถ้าห้องทำงานที่ตึกใหม่เรียบร้อยอาจารย์ก็คงจะย้ายไปกันหมด”
“คงงั้นแหละ…ไปแล้วว่ะ”
“วันเสาร์อย่าลืมนัดนะ”
“กูไปแน่”
…พอเจ้าเคย์เดินไปที่ตึกคณะหลังเก่าแล้วผมก็โทรบอกให้ฝนมาหาที่จุดนัดหมาย…ไม่นานสาวน้อยก็มาถึงโดยถือตำราเรียนมาด้วย…
“เอามาทำไมน่ะ?”
“เนียนไง…ถ้ามีคนเห็นก็บอกว่าเอาหนังสือมาคืน”
“ทางพี่แคทเรียบร้อยหรือเปล่า?”
“อื้อ!!…เหลืออีกสองสามคนก็ถึงคิวของเจ๊แต่กว่าจะพรีเซนต์จบคงเกือบๆชั่วโมง”
…เราสองคนเดินอ้อมไปด้านหลังตึกแล้วแอบเข้าห้องสมุดทางหน้าต่างโดยผมคอยดูเป็นต้นทางให้ฝนปีนเข้าไปก่อนซึ่งหน้าต่างฝั่งห้องทำงานของอาจารย์จะติดลูกกรงเหล็กดัดแต่ฝั่งห้องสมุดไม่ได้ติด…
(ตอนมาครั้งแรกฝนแอบปลดกลอนหน้าต่างไว้แล้ว)
“ยังกะจะมาขโมยของแน่ะ”
“คลานเข่า…ห้ามลุกยืนนะ”
“…อืม”
“……………………………………..”
“……………………………………..”
“หยึย!!”
“อะไร?”
“ปละ…เปล่าๆ”
(ไม่ใช่อะไรคือฝนคลานนำแล้วเราตามก็เลยเห็นบั้นท้ายของเธออยู่ต่อหน้า…โธ่โว้ย!!!…คิดอกุศลไปได้)
…ผมกับฝนมาอยู่ตรงช่องว่างระหว่างชั้นวางหนังสือกับผนังห้องแล้วมองลอดผ่านไปห้องตรงข้าม…แม้จะกั้นด้วยกระจกแต่ก็มีผ้าม่านพอช่วยบังได้และถ้าไม่ขยับตัวมากหรือส่งเสียงดังก็ยากที่คนในห้องนั้นจะมองเห็นหรือรู้สึกผิดปกติ…
“อือ–…คุยอะไรกันก็ไม่รู้”
“คุยเหรอ?”
“ใช่…ท่าทางเป็นการเป็นงานจัง”
“ไหน?”
…ฝนขยับให้ผมดูบ้าง…เจ้าเคย์กำลังนั่งคุยกับอาจารย์วิยะดาจริงๆและไม่เห็นมีทีท่าเกินเลยอะไรสักนิดสงสัยจะมาเสียเที่ยวล่ะมั้ง?…เราสองคนแอบส่องดูจนเหงื่อซึมก็ไม่เกิดเหตุผิดปกติขึ้นแม้แต่น้อย…ไม่สิ…แม้ลึกๆจะอยากรู้อยากเห็นแต่ยังไงก็ขอไม่ให้มันเกิดขึ้นเลยดีกว่า…
“อดทนหน่อย…รับรองคุ้มค่าแน่”
“มั่นใจเหลือเกินนะ?”
“แหม~~…ถึงขั้นแอบเข้าโรงแรมจะไม่มั่นใจได้ไง?”
“ระ…โรงแรมเหรอ?”
“เดี๋ยวจะให้ดูหลักฐานทีหลัง…อ๊ะ!!…ลุกขึ้นแล้วๆ”
…และแล้วสิ่งที่พวกเราคาดหวังว่าจะมีเหตุผิดปกติก็เกิดขึ้นเมื่อไอ้เคย์เดินไปปิดหน้าต่างรอบห้องส่วนอาจารย์วิยะดาเดินไปปิดประตูแล้วกดล็อค…นี่หมายความว่าพวกเขา?…
“ว้าว!!!…มีศิษย์อาจารย์ที่ไหนทำแบบนี้ล่ะ?…อาจารย์ลูบแก้มลูบคางลูกศิษย์ๆก็จับนมจับก้นอาจารย์”
“…………………………………………”
“บอล”
“…………………………………………”
“นี่!”
“อะ…อื้อ!!”
“ดูเพลินเชียวน๊ะ!?”
“สะ…เสียดายที่ไม่ได้ยินเสียง…ดันไปยืนกันตรงโน้น”
“เราเข้าใกล้กว่านี้ไม่ได้หรอก”
“ไม่น่าเลย…อาจารย์วิ…”
…ไม่รู้ไอ้เคย์พูดอะไรบ้างแต่อาจารย์วิยะดาค่อยๆหันหลังพลางส่งยิ้มให้มันและเอามือเลิกกระโปรงสั้นสีดำขึ้นไปกองไว้ที่เอว…ผมเผลอยื่นหน้าเข้าไปจนติดกระจกเลยโดนฝนดึงตัวออกมา…ทำไงได้?…ไม่เคยเห็นนี่หว่า!!…
“…กางเกงในสีเดียวกับของฝนแฮะ”
“วันนี้…เธอใส่สีเหลืองรึ?”
“จ้า!…อยากดูมะ?”
“บ้าเหรอ?”
“ฮิๆ…อุ๊ยพี่เคย์นั่งแล้ว!!!…จะทำอะไรน่ะ?”
“…………………………………………….”
“…………………………………………….”
“ทีนี้…รู้แล้วสิ?”
“อื้อ!!…ที่พี่เคย์ลงนั่งก็เพราะจะเลียจิ๋มอาจารย์วิแต่ทำไมไม่ถอดกางเกงในก่อนล่ะ?”
“จะไปรู้เรอะ?”
“แล้วตัวเองเคยทำแบบนี้ป่ะ?”
“…เคย”
“กับใคร?…สาเหรอ?”
“อืม–”
“มีคนอื่นอีกมั้ย?”
“อย่าถามน่า–”
“เอ๋?…ก็อยากรู้อ่ะ!!”
“…………………………………………….”
“ตัวเองจะต้องบอกเค้าทีหลังนะ”
“ไหงฉันต้องพูดเล่า?”
“ไม่รู้ล่ะ!!…สัญญากันแล้ว”
(ตอนไหนเว้ย!!!)
…นิสัยยังเหมือนเด็กไม่มีเปลี่ยนสำหรับลูกพี่ลูกน้องคนนี้และเธอก็เอาศอกสะกิดผม…อ้าวเฮ่ย!?…ไอ้เคย์เข้าข้างหลังอาจารย์วิซะแล้วไหงถึงเร็วนักล่ะ?…
“นั่น…นั่นเขาเรียกว่าเย็ดกันใช่มั้ย?”
“อะ…อือ”
…เข้าใจว่าเพราะกลัวใครจะมาเห็นไอ้เคย์จึงรีบปราดเข้าประกบบั้นท้ายและเอาดุ้นเนื้อยัดร่องสวาทอาจารย์สาวพร้อมซอยเข้าออกพั่บๆๆเป็นการใหญ่แต่ผมว่ามันรีบร้อนเกินไปนะ!?…
“อาจารย์รีบเอามือปิดปากแทบไม่ทัน…คงจะเสียวเนอะ?”
“…ไม่น่าใช่…ผู้หญิงยังไม่พร้อมเลยไอ้บ้านี่ก็เสียบซะแล้ว…แบบนี้ไปเข้าโรงแรมกันไม่ดีกว่ารึ?”
“หมายความว่าไงอ่ะ?”
“ผู้หญิงน่ะไม่เหมือนผู้ชายเพราะต้องการเวลากับปลุกอารมณ์ให้พร้อมซะก่อน”
“อือ–”
“ถ้าเป็นฉันไม่ทำอะไรเห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอกแต่ก็เข้าใจไอ้เคย์ว่าสภาพแวดล้อมมันไม่ค่อยอำนวย”
“งั้นตัวเองทำแบบที่ไม่เห็นแก่ตัวนั่นกับเค้าสิ”
“จะ…จะบ้าเหรอ?”
“อย่ามาปากแข็งว่าไม่อยากทำนะ!!…ก็อะไรแข็งๆของตัวเองมาดุนตูดเค้าอยู่นี่นา!?”
“ขะ…ขอ…ขอโทษ”
“ไม่!!…ไม่รับคำขอโทษและเค้าต้องการอะไรตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจ…มีอารมณ์เหรอ?”
“ฮึ้ย!!!!”
“น่า~~…เฉยไว้เดี๋ยวดีเอง”
“ไม่ได้!!”
“ทีสายังจับได้เลย”
“เหมือนกันที่ไหนเล่า?”
“อืมมมมมม…ตะ…ตรงเป้ามันเริ่มแฉะแล้ว”
…เห็นมั้ยล่ะเกิดอารมณ์เสี้ยนจนได้แอบดูคนเย็ดกันไม่พอยังจะแหย่มือมาลูบไอ้จู๋เราอีก?…ครั้งก่อนก็พี่แคท…
(สองพี่น้องนี่คงชอบเล็งจุดยุทธศาสตร์เป็นที่แรก)
“ฝน…ฝนขออะไรบอลหน่อยได้หรือเปล่า?”
“อะไร?”
“ช่วย…ช่วยเอาควย…ถูตูดฝนที…ได้โปรดเถอะ”
“เอ่อแต่…”
“ฝนขอร้อง~~”
(เอาไงดีวะเนี่ย?…ความจริงเราก็เงี่ยนเหมือนกันนั่นแหละ)
“เร็วๆเข้า”
(ส่ายก้นเข้าหาพลางส่งแววตาฉ่ำเยิ้มให้ด้วยแน่ะ!?…หูย~~…แม่คุณเอ๊ยโตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว!!!)
…เอาวะ!!!…ผมหน้ามืดรีบปลดกางเกงนอกและดึงกางเกงลิงลงพอให้ท่อนควยมันออกมาหายใจแล้วเอามันถูไถบั้นท้ายญาติสาวผู้น้องที่กำลังชะม้ายมองตาหวานเยิ้มพลางแลบลิ้นเลียแก้มผมจนขนลุกซู่ทั้งตัว…อา–…ก้นเด็กสาวช่างนุ่มเนียนเหลือเกินยิ่งเสียดสีแนบชิดมากเท่าไหร่ควยก็ยิ่งแข็งโด่…
“อาาาาาาา…ควย…ควยแข็งจังเลย…อืมมมมมมมมมมมมม”
“ตูดเธอก็นุ่มมากๆ…อูยยยยยยยยยยยย…ฉัน…ฉันทนไม่ไหวแล้วววววววว…โออออออออ”
“…ดีนะ…ที่วันนี้ฝนนุ่งกางเกงใน”
(ปกติสาวน้อยมักจะนุ่งกางเกงขาสั้นครั้นพอรู้เข้าก็หูผึ่งไม่รอช้ารีบเลิกกระโปรงฝนขึ้นมากองที่เอวทันที…ว้าว~~…ใส่แพนดี้สีเหลืองแบบผูกเชือกซะด้วย!!!)
“อะ…เอาควยเลยสิคะที่รัก…ซีดสสสสสสสสสสส…ฝน…ฝนเสียวก้นจัง…อื้ออออออออออออ…รู้งี้ให้บอล…ทำตั้งนาน…อึ๊ยยยยยยยยย”
…วางตัวเป็นพี่ชายที่ดีมาเสียนานสุดท้ายก็ตบะแตกจนได้…สาวน้อยวัย 18 ชักติดใจเร่งเร้าให้ผมกระเด้าบั้นท้ายเธอโดยสมมติว่ากำลังเย็ดกันอยู่…ผมหน้ามืดตามัวไปหมดไม่สนใจแล้วว่าหญิงสาวตรงนั้นมีฐานะอะไรจัดการสนองให้อย่างเต็มที่แข่งขันกับคู่รักต้องห้ามอีกห้องที่ก็กำลังร่วมเพศกันอย่างดุเดือด…เจ้าเคย์สอดควยเข้าหีอาจารย์วิยะดาทางด้านหลังแล้วอัดไม่ยั้งแรงสักครู่ก็หยุดนิ่งสงสัยจะน้ำแตกแล้วแต่ทางนี้ยัง…
“อืมมมมมมม…เต็มร่องตูดเลยอ่ะ…ควยบอลใหญ่จัง…โออออออออออออ”
“ซีดสสสสสสส…นะ…น้ำเธอออกเยอะแล้ว”
“อย่า…อย่ามัวช้าอีกเลย…ฝนจะดึงกางเกงในลงและบอลก็เอาควยยัดหีเลย”
“หา?”
“มะ…ไม่สนใจอีกแล้ว…พี่น้องกันแล้วยังไง?…ฝนนี่แหละจะเป็นเมียบอลให้ดู”
“อะ…อึ๊ก!!”
“เอ๋!?…บอล…บอลจะไปไหน?”
“ฉันทำไม่ได้…ทำไม่ได้!!”
“เดี๋ยว!!!”
…ผมตาลีตาลานเก็บอาวุธก่อนจะรีบปีนหน้าต่างแล้ววิ่งมาหลังตึกเรียนรวมทั้งที่ยังไม่ได้รูดซิปกางเกงนอก…
(ระยะทางก็ไม่ได้ไกลแต่กลับหายใจหอบเหงื่อแตกเต็มตัว…ประโยคที่ฝนว่าจะเป็นเมียของเราช่วยให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกลับคืนมา…นี่…นี่เรากำลังทำอะไรลงไป?…สติยังดีอยู่หรือเปล่า?)
“เมื่อไหร่…จะยอมรับความจริง?”
“……………………………………………..”
“ฉันน่ารังเกียจนักหรือยังไง?”
(ห๊ะ!!!…ฝนเรียกแทนตัวเองว่า “ฉัน” และสายตาที่บ่งบอกถึงความผิดหวังนั่น!?)
“ไม่…ไม่ใช่นะ!!!…เพราะเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน”
“ผิด!!…เราสองคนไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องกันอีกต่อไปแล้ว…ยอมรับซะทีเถอะ”
“มีหวังพี่แคทได้เอาถึงตายน่ะสิ!!!!”
“ถ้าฉันเป็นของบอลซะแล้วพี่เค้าจะทำอะไรได้นอกจากปล่อยเลยตามเลยและอีกอย่าง…”
“อีกอย่าง?”
“…ในโยนกจัตุรัสลูกพี่ลูกน้องสามารถแต่งงานกันได้…บอลก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“แต่นั่นจะต้องมีความรักต่อกันด้วย!!!”
“ฉันรักบอล…รักมานานกว่าที่ใครๆจะคาดถึง!!!!…แค่นี้ยังไม่เข้าเงื่อนไขอีกรึ?”
“อาทั้งสองไม่ยอมแน่–”
“แม่ไม่ห้าม”
“วะ…ว่าไงนะ?”
“เพราะแม่รักฉันที่สุดจึงรู้ใจว่าคิดอย่างไรส่วนป้อก็ตามใจฉันมาก…ไม่มีปัญหา”
“แต่…”
“แล้วบอลก็รักฉันด้วย…อย่าปฏิเสธว่าไม่ใช่”
“……………………………………………”
“ถูกต้อง!!…หากไม่รักก็ต้องพูดออกมาตั้งแต่แรกไม่ใช่เงียบจนถึงป่านนี้”
(ไม่พูดเปล่าแต่เอานิ้วแตะปากเราด้วย)
“นะ…นั่นเพราะ…”
“เพราะบอลยังมีช่องว่างอยู่ในใจและช่องว่างนั้นก็มีฉันอยู่ไงเล่า!!!…หัวใจของบอลไม่ได้เป็นของพี่กุนหรือสาเสียทั้งหมด…ขอเพียงบอลใจกล้าแล้วทุกอย่างจะดีเอง”
“……………………………………………”
“ฉันเกิดมาเพื่อเป็นคนรักของบอล…อย่าได้ลังเลหรือสงสัยอีกต่อไป”
…จากนั้นญาติสาวผู้น้องก็ไม่เอ่ยคำพูดใดๆออกมาอีก…นี่ใช่หยาดฝนสาวน้อยผู้ร่าเริงแจ่มใสเป็นนิจคนนั้นแน่หรือ?…บรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้เหมือนกับตอนที่เผชิญหน้ากับพี่แคทเลย…
“ขอโทษทีพี่มาช้าไปหน่อย…เย็นนี้กินอะไรกันดีล่ะ?”
“……………………………………………”
“?”
“……………………………………………”
“ทั้งสองคนทะเลาะอะไรกันหรือ?”
“เปล่าครับ”
“……………………………………………”
“หนูไม่มีอารมณ์ทำกับข้าว…ไปหาอะไรกินนอกบ้านดีกว่า”
“…อืม”
…แม้กระทั่งนั่งในรถบรรยากาศอึมครึมก็ยังมาคุไม่หยุดเพราะฝนไม่พูดอะไรเลยเอาแต่พยักหน้ากับมีแววตาเฉยเมยเมื่อพี่สาวถามส่วนตัวผมจะทำอะไรอื่นได้นอกจากหันหน้าดูวิวข้างทางจนเริ่มปวดคอ…
(แผนสูงนัก!!…ทำสงครามประสาทกดดันและแสดงอาการมึนตึงใส่เราซึ่งคนฉลาดอย่างพี่แคทมีรึที่จะมองไม่ออกว่ามันผิดปกติ?)
…………………………………………………………………………………………………………………………..

…ทว่าน่าแปลกมากที่พี่แคทไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อเย็นวานแต่ผมกลับไม่รู้สึกโล่งอกสักนิด…
(เชอะ!!…ยังไงก็เตรียมหาคำแก้ตัวไว้ให้ดีเชียว…ลางสังหรณ์มันฟ้องว่าไม่เกินบ่ายวันนี้หล่อนจะต้องถามเรา)
“แฮ่!!!”
“โอ๊ะ!?”
“มาหลบอยู่นี่เอง…ตามหาตั้งนานแน่ะ”
“ฝน!!…ทำไมเธอ?”
“หืม?”
…มันอะไรอีกล่ะนี่!?…เมื่อวานฝนยังทำเย็นชาใส่ผมอยู่เลยแม้กระทั่งตอนเช้าที่นั่งรถมาเรียนแล้วไหงจู่ๆถึงได้เปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือวิ่งมาโดดขี่หลังผมเช่นนี้?…
“บอลเปลี่ยนไปชอบสาวเย็นชา…ไม่ได้ชอบสาวช่างเอาอกเอาใจแล้วเรอะ?”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“เมื่อวานก็ส่วนเมื่อวานวันนี้ก็ส่วนวันนี้…เราทั้งสองพูดกันรู้เรื่องและต่างรู้ใจของกันและกันแล้ว”
“………………………………………..”
“บอลคือผู้ชายที่ฝนรักเพียงคนเดียวไม่ว่าจะปัจจุบันหรืออนาคต…ความตั้งใจนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
“ทั้งที่รู้อยู่ว่ากุนกับสาน่ะเป็น…”
“ใช่”
“ในอนาคตฉันต้องแต่งงานใช้ชีวิตกับสองคนนั้นแล้วเธอยังจะ…รักฉันหรือ?”
“รัก…ก็บอกแล้วว่าฝนจะไม่เปลี่ยนความตั้งใจ”
“………………………………………….”
“แต่การแต่งงานที่ว่า…มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้”
“ว่าอะไรนะ?”
“อ้า!!…ไม่มีอะไร…พี่แคทบอกให้บอลไปรอที่ตึกแน่ะ…รีบไปเถอะจ้ะ”
“………………………………………….”
…ผมแยกกับฝนที่หน้าตึกเรียนรวมอย่างงงงันด้วยเพราะคำตอบของเจ้าหล่อน…เธอปักใจกับผมมากมายเหลือเกิน!!!…ต่อให้แต่งงานไปกับหญิงอื่นแต่สาวเจ้าก็จะไม่หมดรักในตัวผม?…
(อีกทั้งสายตาที่เป็นประกายแหลมคมประดุจเหยี่ยวออกล่าเหยื่อก่อนที่จะบอกให้เราไปหาพี่แคทนั่นมันอะไรกัน!?)
“โอ้ย!!…กลุ้มๆๆ”
“บอล”
(ไอ้เคย์!!!)
“กูอยากถามมึงหน่อย”
“อะไร?”
“เมื่อวาน…มึงไปที่ตึกคณะทำไม?”
“!?”
(เวรแล้วไง!!!…เห็นเราด้วยเหรอเนี่ย?)
“มึง…เห็นกูรึ?”
“ใช่…กูเห็นมึงอยู่แถวนั้น…หรือว่า?…”
“………………………………………….”
“มึงเห็นกูกับ…อาจารย์วิ…”
“………………………………………….”
“เห็นใช่มั้ย?”
“อื้ม!!…กูรู้ทั้งหมดแล้ว”
“ไอ้บอลกูขอร้องมึงจากใจเลยนะ!!!…อย่าเอาไปบอกใครเด็ดขาดไม่งั้นอนาคตกูจบสิ้นแน่!!!!…กูต้องการให้มึงรู้แค่คนเดียวและก็คนสุดท้าย”
…เอ๊ะ?…งั้นก็แสดงว่าไอ้เคย์มันไม่เห็นฝนน่ะสิถึงพูดว่าขอให้ผมรู้แค่คนเดียว!?…
“รับปากได้มั้ยวะ?…กูกราบมึงเลยก็ได้”
“เฮ้ยอย่า!!!…มึงเป็นเพื่อนสนิทกูนะ…กูจะขายเพื่อนตัวเองได้ยังไงเล่า?”
“………………………………………..”
“แล้วกูก็มั่นใจว่ามึงคงมีเหตุผลกับความจำเป็นใช่มั้ยล่ะ?”
“มัน…มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ…รู้ตัวอีกทีก็ทำลงไปแล้ว…ใน…ในห้องพักของอาจารย์นั่นแหละ”
…ไอ้เคย์ขอให้ผมสัญญาว่าจะเก็บเรื่องของมันเป็นความลับแต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าจะต้องเล่าให้ผมรู้ว่าต้นสายปลายเหตุคืออะไรซึ่งไอ้เคย์ก็รับปากและก่อนแยกกันผมก็บอกให้ทำใจสบายๆอย่าไปคิดมาก…
“เชื่อกูเถอะน่ะ…ใช่อนาคตของมึงคนเดียวซะเมื่อไหร่…ถ้าเรื่องมันแดงออกไปอาจารย์วิก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
“ขอบใจมากว่ะ”
“…………………………………………”
“…………………………………………”
“เพื่อนเอ๊ย!!…มึงมันก็หัวอกเดียวกับกูแหละแต่เรื่องของกูน่ะหนักหนากว่าของมึงหลายเท่านัก”
(ควบสองพี่น้อง,เป็นชู้กับเมียพ่อ,สอยป้าที่มีพระคุณพร้อมลูกสาว,ก่อเหตุกับผู้หญิงอีกหลายต่อหลายคน…ใช่…กระทั่งป้าแท้ๆของตัวเองก็ไม่เว้น…ไม่พอ…ล่าสุดเมื่อวานสดๆร้อนๆก็เกือบมีคดีกับญาติสาวผู้น้องที่ยังเคราะห์ดีเรียกสติกลับมาได้ทันการณ์)
“สรุปแล้วกูคงจะเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอมอย่างที่พี่ศรเพทายว่าไว้จริงๆ”
“เอ้า!…ทำอะไรอยู่วะนั่น?”
“มาพอดีเลย!!…ช่วยอะไรหน่อยเหอะ”
…ผมขออาศัยนั่งซ้อนท้ายเพื่อนที่อยู่ต่างคณะให้ช่วยไปส่งที่อาคารที่พี่แคทเรียนแต่กลับไม่เจอเลยสอบถามรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนของเธอก็ได้ความว่า…
“แคทเหรอ?…ออกไปได้สักครู่ใหญ่แล้ว”
“อ้าว!?…ผมจะทำไงล่ะเนี่ย?…พวกพี่มีเรียนอีกมั้ยครับ?”
“ไม่มีจ้ะ”
“!?”
(พี่แคทโทรมา)
“…รบกวนเธอช่วยนั่งรถเมล์มาลงแถวเชิงสะพานข้ามคลองที”
“ทำไมผมต้องไปที่นั่น?”
“อย่าเพิ่งถาม…พี่จะรอ”
“………………………………………..”
…อะไรของแม่คนนี้ว๊า!?…ออกไปข้างนอกแต่ดันไม่กลับเข้ามาในมหา’ลัยและยังสั่งให้ผมนั่งรถเมล์ไปหาอีก…ทำตามใจตัวเองเหลือเกิน…โชคเข้าข้างจังหวะเหมาะรถเมล์วิ่งผ่านมาพอดีแล้วเมื่อไปถึง…
“รถจอดแต่ตัวไปไหน…อ้าว!?…ไหงนั่งอยู่ตรงนี้ครับ?”
“พี่ให้เธอขับ”
“หา?”
“เร็วๆ”
…ผมจึงต้องรับหน้าที่เป็นนายสารถีอย่างงงๆ…เฮ้ย!!!!…ไหงเสื้อนักศึกษาของพี่แคทถึงได้เต็มไปด้วยรอยเลือดอย่างนั้น!?…
“พี่ไปมีเรื่องกับใครมา?”
“………………………………………”
“บอกไม่ได้หรือ?”
“ขับเร็วกว่านี้อีก”
“………………………………………”
“ไม่เข้าเมืองวิ่งออกเส้นบายพาส…ยืมเสื้อคลุมเธอหน่อยซิ”
…หญิงสาวเอาเสื้อคลุมของผมมาใส่พลางปรับเบาะนั่งและหลับตาลงราวกับจะใช้ความคิดบางอย่าง…พอถามว่าต้องการจะไปที่ไหนหล่อนก็ตอบเบาๆว่า…
“ใกล้ถึงแล้วจะบอก”
“………………………………………”
“………………………………………”
(รถวิ่งมาเกือบจะยี่สิบกิโลแล้วนะ)
“ผมสงสัยมากนะครับ”
“ฮึ!…อยากรู้มากนักเหรอ?”
“ก็…แหงสิครับ…ถึงอย่างไรผมก็เป็นห่วงพี่”
“…ถ้าบอกว่าไปฆ่าคนมา…เธอจะเชื่อมั้ย?”
“ฆะ…ฆ่าคน!!!…พูด…พูดจริงหรือล้อเล่น?”
“…………………………………………….”
“นี่ตกลงพี่แคทไปทำอะไรมากันแน่?…แล้วจะให้ผมขับไปถึงไหน?”
“…น่าจะอยู่แถวๆนี้…นั่นไง!!…เลี้ยวเข้าไปเลย”
“เอ๊ะนี่มัน?…โรงแรมม่านรูด!!!!”
(ไม่ผิดแน่!!!)
“พี่!?”
“เข้าตรงช่องริมสุดข้างในน่ะ”
“เอา…เอาจริงหรือครับ?”
“มาถึงนี่ยังจะล้อเล่นอีกรึ?”
…อูย!!!…พอตั้งสติได้ท้องไส้มันก็ปั่นป่วนไปหมด…ถูกลูกพี่ลูกน้องตัวเองชวนเข้าม่านรูด…รึว่าพี่แคทต้องการจะทำอะไรกับผม?…เราเป็นญาติกัน!!!!…
“ผะ…ผมต้องเข้าไปด้วย?”
“จะให้ฉุดเข้าไปมั้ยล่ะ?…อย่ามัวอ้อยอิ่ง”
“………………………………………..”
“………………………………………..”
(หน้าร้อนผ่าวคล้ายจะเป็นไข้…เมื่อวานเกือบก่ออาชญากรรมกับสาวคนน้องวันนี้ก็เข้าโมเต็ลกับสาวคนพี่…อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ยากที่จะคาดเดาได้)
“อืม–…ดูหรูอย่างที่คิดไว้เลย”
“พี่…เคยมาเหรอ?”
“บ้า!…จะเคยได้ยังไงเล่า?”
(รู้สึกเหมือนพี่เค้าจะอายนิดๆ?)
…สำหรับไอ้ตัวผมน่ะเข้าม่านรูดมาก็หลายครั้งจนแทบจะไม่มีความตื่นเต้นประเภทลนลานมือไม้สั่นอีกแล้วแต่ครั้งนี้มันแปลกประหลาดกว่าที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง…ผมเข้ามาในห้องก็เอาแต่ยืนเซ่อทำอะไรไม่ถูกได้แต่กรอกตามองตรงนั้นดูตรงนี้ส่วนหญิงสาวผมยาวถอดเสื้อคลุมตัวนอกที่ยืมใส่ออกวางและเดินไปดูในห้องน้ำ…
“มีอ่างด้วย…แบบนี้จะอาบคนเดียวหรือสองคนพร้อมกันก็ได้”
“อะ…อาบสองคนเรอะ?”
“ไม่เคยหรือ?…อย่าบอกนะว่าเธอเข้าม่านรูดเพื่อมาตั้งหน้าตั้งตาเอาอย่างเดียวเท่านั้น?”
“ไม่…ไม่ใช่นะครับ!!”
(แต่เพราะพี่พูดว่าอาบสองคนพร้อมกันก็ได้นั่นแหละที่ทำเอาเราคิดมาก)
“ห้ามหันมาล่ะ…พี่จะถอดเสื้อผ้า”
“ผะ…ผมไม่ดูอยู่แล้วครับ…จะหันหน้าไปทางอื่น”
“…บอลเข้าใจผิดแล้ว”
“ครับ?”
“พี่บอกว่าห้ามหันหน้ามาแต่ไม่ได้บอกให้หลับตาเลย”
“!!!!!!!”
…หมายความว่าให้ผมดูผ่านทางกระจกได้แต่ห้ามหันหน้ามาสบตากับเธอตรงๆเท่านั้น!!!…อะ…เอาไงดีเอกคเชนทร์!?…
(ดู…ไม่ดู…ดู…ไม่ดู…โอ้ว!!!…ถอด…พี่แคทถอดเสื้อนักศึกษาออกแล้ว!!!!…อา~~…บราเซียร์สีน้ำตาลอ่อนที่โอบอุ้มสองเต้าสวรรค์นั่น)
“…ก็ผู้ชายนี่นะ”
“หากผมมัวแต่ปิดตาพี่ก็จะได้ดูถูกว่าผมเป็นไอ้โง่ใช่ไหมล่ะครับ?”
“หึๆ”
……………………………………………………………………………………………………………………………..

…ส่วนอีกด้านหนึ่ง…ฝนกำลังคุยกับแม่ของเธอด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง…
“อีกไม่นานแล้วล่ะจ้ะแม่”
“อือ–…แต่เท่าที่ลูกฝนเล่ามานะแม่คิดว่าคงจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควรเลยเพราะบอลยังไม่กล้าพอที่จะทำอะไรกับลูกฝนได้…เขายกเอาแคทมาอ้างใช่มั้ยล่ะ?”
“ห๊ะ!?…หนูยังไม่ได้บอกแท้ๆแล้วแม่รู้ได้ไงเนี่ย?”
“แฮ่ม!!…นั่นก็เพราะ…แม่เป็นแม่ของลูกฝนน่ะสิจ๊ะ”
“แต่…แต่ความสัมพันธ์มันก็คืบหน้าไปมากนะแม่จ๋า!!”
“ไม่อ่ะ!…พวกหนูยังไปไม่ถึงไหนเลย–”
“!?”
…………………………………………………………………………………………………………………………….

…ตัวอย่างในตอนหน้า…
“หากเธอยอมเปิดปากพูดความจริงอย่างที่พี่ได้ทำไปแล้ว…พี่จะมีรางวัลให้”
“รางวัลอะไร?”
“อย่าถามคำถามที่รู้ๆกันอยู่แล้วได้ไหม?…ทำตัวเป็นเด็กอนุบาลขึ้นมาเชียวนะยะ!”
………………………………………
“เอาเถอะน่า–…จู่ๆเธอมาขอให้ทำแบบนี้พี่ก็อายเหมือนกัน”
“ผมมองไม่เห็นอะไรเลยนะ?”
“ดี…จะได้รู้สึกตื่นเต้น”
………………………………………
“เรื่องแรกที่คุณต้องการปรึกษากระผมก็คืออยากผูกมิตรกับญาติพี่น้องของคุณเองหรือขอรับ?”
“น่าจะเป็นสิ่งดีใช่มั้ย?”
“ขอรับ…อย่างน้อยเป็นมิตรก็ย่อมดีกว่าเป็นศัตรู…กระผมเห็นด้วย”
……………………………………………………………………………………………….

…ใครช่วยเอาความกล้าไปยัดใส่สมองนายบอลทีเถอะ…

Share the Post:

Related Posts

วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่

เรื่องเสียว วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่ วันนี้ละอองฟองถูกเรียกเข้าไปในห้องของหัวหน้าอีกแล้ว เธอรู้ดีว่าเธอต้องทำอะไร ในเมื่อหน้าที่การงานของเธอนั้นไม่ได้ทำมันออกมาดีเหมือนที่เธอคิด แต่เธอไม่ได้ต้องการออกจากบริษัทแห่งนี้ ละองงฟองพยายามที่จะเข้ามาอ้อนวอนคุณภพ หัวหน้าของเธอ บอกกับเขาว่าเธอจะพยายาม ไม่ว่าจะให้ทำอะไรก็ได้ เธอยอมทุก ๆ อย่าง…และใช่ เรื่องเสียวคือเรื่องเสียวที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของคุณภพ วันนี้งานเหนื่อยทั้งวัน ละอองฟองยังคงต้องแก้งานมากมายในเวลานี้ ซึ่งมันไม่ได้น้อยเลย แต่เมื่อมันเสร็จแล้ว ก็ยังต้องมาสรุปรวบยอดใหม่ งานทุก

Read More

ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก

เรื่องเสียว ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก เราเริ่มจูบกันแล้วครับ จะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นหหลังจากนี้ไม่รู้ ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าเราต่างฝ่ายต่างมีความต้องการซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เราเงี่ยน เราอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เรื่องเสียวกลายเป็นเรื่องราวยอดฮิตสำหรับคนรุ่นนี้แล้ว และผมเองก็ไม่อยากจะอายเพื่อน เพราะต้องยอมรับว่าตัวเองยังซิงอยู่ ทั้ง ๆ ที่กำลังจะเรียนจบมอปลายแล้วแท้ ๆ ดังนั้น ในวันที่ผมไปปดูหนังกับแฟนของผมรุ่นน้องมอห้า เธอก็ชวนให้ผมไปนั่งเล่นที่บ้านของเธอก่อน

Read More