ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 19

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 19

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 19 “การลองเชิง?…เลขหมายจากปลายปากกา!?”

 “……………………………………………..”
(เราดื่มน้ำเปล่าแก้กระหาย)
“……………………………………………..”
(พี่แคทกำลังส่งข้อความทางมือถือไปถึงใครบางคน?)
“หืมๆๆๆ…ไอ้นี่ก็น่ากินไอ้นั่นก็ไม่น่าพลาด…หลายใจจริงเลยน๊าคนเรา~~”
“?”
“……………………………………………..”
“ดีละ!!…ตัดสินใจแล้ว…เอาปลาหมึกนึ่งมะนาว,ต้มยำปลากระทิง,หมี่ผัดผักรวม,ทอดมันปลากราย…”
(หลังจากที่จ้องเมนูพลางเหลือบตาไป
ทางขวาทีซ้ายทีอยู่นาน…สาวน้อยก็สั่งอาหารเป็นชุดๆรวดเดียวจบ)
“เยอะไปหรือเปล่า?”
“เป็นของที่ฝนอยากกินทั้งนั้นแหละ”
“แต่ถ้าเหลือต้องออกเงินครึ่งหนึ่งกับพี่นะ”
“จ้า!!…เออ–…เอาข้าวเปล่า 3 ถ้วยด้วย”
…จอมเขมือบตัวจริง!!…เจริญอาหารดีมากๆแต่บรรดาของที่ฝนสั่งผมก็อยากกินพอดี…
“ทานมากขนาดนี้ก็หมายความว่าน้องจะไม่เข้าร่วมด้วย?”
“ก็หนูบอกพี่แล้วนิ”
“มีอะไรหรือครับ?”
“โอ—…ใช่ๆๆ…บอลจะไปมหาวิทยาลัย…กับเรามั้ย?”
“หาสาเหรอ?”
(กำลังคิดว่าจะไปหาเธออยู่เหมือนกัน)
“นั่นมันนาย!!!…ฝนกับพี่มีธุระที่ชมรมคาราเต้ต่างหาก”
“?”
…ฝน เล่าให้ฟังต่อไปว่าพวกเธอจะไปฝึกซ้อมร่วมกับชมรมคาราเต้ของมหาวิทยาลัยที่สา เรียนอยู่เป็นกรณีพิเศษเพราะตามปกติจะไม่อนุญาตให้คนนอกฝึกแต่อาจารย์ที่ ปรึกษาชมรมได้รับการฝากฝังมาจากครูฝึกอาวุโสคนหนึ่ง?…เมื่อเธอกับพี่แค ทปรึกษากันแล้วก็ตอบตกลงซึ่งใน 1 สัปดาห์จะมาฝึกทุกเย็นวันจันทร์-พุธ-ศุกร์และหยุดเสาร์อาทิตย์…
“คาดสายสีอะไรแล้วล่ะ?”
…หลัง จากเกิดเรื่องในร้านที่ทำงานพิเศษเมื่อปลายเทอมก่อนผมก็ได้รู้อะไรๆ หลายอย่าง(กุนยอมบอกและสาก็เล่าให้ฟัง)พี่แคทกับฝนฝึกวิชาคาราเต้ไว้ป้องกัน ตัวตั้งแต่ยังเด็กและถ้าดูจากท่วงท่าที่นำออกมาใช้ทำให้ทราบว่าเธอทั้ง 2 มีทักษะการต่อสู้ในระดับสูง…พี่แคทถอดแว่นตาวางบนโต๊ะก่อนจะตอบ…
“สายขาว…”
“เอ๋?…สายขาวนี่…สำหรับพวกฝึกหัดไม่ใช่หรือครับ?”
(จะเป็นไปได้ยังไง?)
“ใช่…พี่กับฝนยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่เลยจ้ะแต่ไม่เคยคิดจะไปสอบเลื่อนดั้งหรืออะไรหรอกนะเพราะพวกเราเห็นตรงกันว่ามันไม่จำเป็น…”
“……………………………………………..”
…ฝ่าย น้องหนูฟันแหลมไม่ว่างจะคุยด้วยแล้วเพราะมีต้มยำปลากระทิงร้อนๆมาเสริฟ์ที่ โต๊ะและยิ่งกินกับข้าวสวยล่ะก็วิเศษอย่าบอกใครเชียว…
“…จ๊าดลำเจ้า!!…นี่มัวทำอะหยังน่ะตั่ง 2 คน?…บ่รีบซดเดี๋ยวชืดหมด”
“…………………………………………….”
…แต่ ฝีมือคงไม่ใช่แค่มือสมัครเล่นแน่นอน!!!…อย่างไรผมก็ไม่เชื่อเพราะ เหตุการณ์ในวันที่กุนกลับมามันยังจำได้ติดตา…ยิ่งซอตที่พี่แคทถูกชกท้อง เต็มๆแต่กลับยืนนิ่งเฉยพลางแสยะยิ้มเย้ยหยันก่อนจะซัดหมัด “ยมทูตขวาเร็ว” อัดสวนไปอย่างรุนแรง(มาทราบเอาทีหลังว่าไอ้นั่นถึงกับกรามร้าว)ส่วนฝนก็ ฝีมือร้ายกาจไม่แพ้กัน…กระโดดตีเข่าและพลิกข้ามหัวไปแทงศอกเข้าที่หลังคอ จนคู่ต่อสู้น็อคกลางอากาศเลือดกระฉูด…
“อร่อยใช่มั้ยล่ะบอล?”
“อืม–”
…ของ เขาดีจริงๆด้วย…ไว้คราวหลังชวนสากับอ้อยแล้วก็แม่กวางมาทานที่นี่บ้างดี กว่า…ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มคุยกับนักสู้ 2 พี่น้องได้สนิทใจขึ้นกว่าเดิมแม้จะยังระแวงอยู่บ้างก็ตาม…
“ฝนกับพี่ชอบมานั่งรับลมเย็นๆที่ร้านนี้เพราะมีเหตุผล…”
“?”
“ข้อหนึ่งคืออาหารอร่อยบริการก็ดี…ข้อสองคือพี่แคทไม่อยากไปอยู่ที่โรงอาหารให้เป็นเป้าสายตาพวกกลัดมัน”
…ว่าแล้ว…ช่วงเวลาพักกลางวันมักจะไม่ค่อยเห็นพวกเธอทั้งๆที่ใครหลายคนต่างมองหาและกล่าวถึง…
“…ไม่โต้แย้ง”
“ฮะฮ่าๆ…ที่นั่นให้พี่บุศเด่นคนเดียวก็พอแล้ว…อย่าไปแย่งความดังกับเธอเลย”
“…อะ…เมื่อกี้ว่าอะไรนะ?”
“……………………………………………..”
“ฝนหมายความว่าเรา 2 คนไม่ต้องการไปแข่งประชันความสวยกับพี่บุศไง”
“รู้จักบุศด้วย?”
“แม่นแย้ว!!…บุศยา สว่างศิลป์…ไฮโซสาวสวยคนเด่นคนดังคณะจัดการใครบ้างจะไม่รู้จักเหยอ?”
“เคยคุยกันครั้งหนึ่ง”
“…………………………………………….”
(ถึง งั้นก็เถอะ…แย่แล้ว!!…ไม่ใช่ว่าบุศหลุดปากออกไปแล้วนะว่ามีความสัมพันธ์ ขั้นลึกซึ้งกับเรา…ตอนนี้ก็ยังงอนๆอยู่ซะด้วยสิ…ถ้าเกิดเธอทำอะไรไม่ ยั้งคิดเพราะความน้อยใจล่ะก็…)
“และพี่รู้มาอีกว่าคุณบุศยาน่ะเป็นเพื่อนของเธอ?”
“ใช่ครับ…เราเป็นเพื่อนกันจริงๆ”
…พี่แคทยกแก้วน้ำดื่มแต่ดวงตาของเธอไม่ได้ละไปจากหน้าผมเลยสักนิดราวกับว่าหญิงสาวผมยาวต้องการรู้คำตอบที่มันชัดเจนกว่านี้…
“พี่บุศเป็นคนสวยมากๆนะ…ฝนน่ะอดทึ่งไม่ได้…ทั้งที่อายุห่างกันแค่ปีเดียวแต่มีความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่…น่านับถือ”
“และคุณบุศยาก็ชื่นชมในตัวเธออย่างไม่ปิดบังด้วย”
(อึ๊ก!!…พี่แคทคิดจะพูดอะไรกัน?)
“…………………………………………..”
…หรือว่าจุดประสงค์ที่ชวนผมมาทานข้าวกลางวันมื้อนี้พร้อมพูดคุยกันตามประสาลูกพี่ลูกน้องก็เพื่อ?…
(ตี๊ดๆๆๆ)
“…ขอตัวก่อนนะ”
“ใครโทรมาอ่ะ?”
…พี่แคทไม่ตอบแต่สบตาน้องสาวซึ่งฝนก็ดูจะเข้าใจอะไรบางอย่าง?…
“อ๋อ!!…งั้นฝากบอกด้วยนะคะว่าฝนคิดถึง”
…พอสาวเจ้าวัย 22 จากไปผมก็รีบถามฝนซึ่งกำลังตักปลาหมึกนึ่งมะนาวและกระเทียมกับพริกคำใหญ่เข้าปาก…
“โอวววว~~…เผ็ดมากๆๆ…แต่ถ้าไม่เผ็ดเลยมันก็ไม่ดับกลิ่นคาว…อูย~~…สะใจ!!…อะไรเหรอ?”
“ใครโทรมาหาพี่แคท…แฟนรึ?”
“โฮ้!!…ถ้าเป็นงั้นได้ก็ดีน่ะสิเพ่~~”
“?”
“อย่าไปสนใจน่า–…เอ้อ!!…ปิดเทอมคิดถึงฝนบ้างป่ะ?”
“ทำไมจะต้องคิดถึง?…เธอไม่อยู่นี่ที่บ้านสงบสุขจะตาย”
“ว่าไงน๊ะ!!!”
“ชู่ว!!…เสียงดังไปแล้ว…เกรงใจคนอื่นบ้าง”
“หงึๆๆ”
“แค่นี้ก็ต้องฉุนด้วย?”
“แล้วนายล่ะไม่โกรธฝนบ้างเหรองาย?…เมื่อเช้าน่ะ”
“ก็แค่การเล่นซนของเด็กๆ…”
“หือ?…การเล่นซนของเด็กรึ?…โฮ่~~…ทั้งที่ฝนอาจฆ่าบอลตายได้ทีเดียวนะ!!”
…พูด จบสาวน้อยก็กางฝ่ามือข้างที่บีบคอผมซึ่งมันทั้งเล็กเรียวและบอบบางตามแบบ ฉบับมือของผู้หญิงแต่ทำไมนะ?…ทำไมถึงเกิดความกลัวเกรง?…
“มองดูให้ดีๆ”
“…………………………………………..”
“…………………………………………..”
“!!!!”
(ตะ…ตาฝาดหรือเปล่าเนี่ย?…ราวกับมีไออะไรสักอย่างพวยพุ่งอยู่รอบๆมือของฝน!!)
“ท่าทางจะพอเห็นนี่!?…สมกับที่เป็นพี่เป็นน้องกันแต่พี่แคทมีมากกว่านี้อีกเพราะเธอถนัดในเพลงหมัดมากกว่าฝน”
“นี่พวกเธอเป็นใครกันแน่?”
“ถามได้!!…ก็…ลูกพี่ลูกน้องแสนน่ารักของบอลไงจ๊ะ…ฮะๆๆๆ”
“………………………………………….”
…แม้ จะยังติดใจแต่ผมก็ไม่กล้าถามต่อ…ช่วงที่พี่แคทยังไม่กลับมาเรา 2 คนพูดคุยกันอย่างสนิทสนมเช่นเดียวกับลูกพี่ลูกน้องทั่วไป…ฝนเล่าให้ฟังว่า ตอนอยู่บ้านในช่วงปิดเทอมเธอทำวีรกรรม(วีรเวร)อะไรบ้าง…ตัวอย่างเช่น…
“โห~~…ไม่นึกว่าจะมีหนุ่มมาตามตื๊อเธอนะเนี่ย?…ไหงบอกปัดเขาซะล่ะ?”
“โฮ้ย!!!…ฝนน่ะน่ารักออกจะตาย…ไม่มีสิแปลกสุดๆ…ยังไงพวกเราก็เสน่ห์แรงไม่ต่างกัน”
“ทำไมต้องเปรียบกับฉันด้วย?”
“อ้าว!!…บอลน่ะมีสาวๆมาชอบเยอะมิใช่หรือ?…ฝนก็เป็นเช่นเดียวกัน…แบบว่าสวยสั่งได้ไง”
“ไม่ใช่สักหน่อย!!”
“ฮิๆๆๆ…อย่างน้อยก็มีพี่บุศคนหนึ่งล่ะ…ผู้หญิงด้วยกันทำไมจะดูไม่ออก?…อย่าดูถูกกันนัก”
(ไม่ธรรมดานี่หว่า–…งั้นก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่พี่แคทจะไม่รู้)
“หรือที่ชวนฉันมากินข้าวก็เพราะจะถามเรื่องนี้แล้วเอาไปบอกกุนกับสาใช่มั้ย?”
“ตายละ!!…คิดตื้นเขินดีจังนะคะพี่ชาย…ถ้าแบบนั้นคงได้ทะเลาะกันเละเทะน่ะซิ…สายิ่งขี้หึงสุดๆด้วย”
“………………………………………………”
“ฝนไม่ถนัดกับบทเสี้ยมให้คนอื่นทะเลาะกันนะจะบอกให้…เพียงแต่เห็นว่าหมู่นี้สาดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่”
“หา?”
“อย่ามาหา!!…บอลน่ะหัดเอาใจใส่สาให้มากๆเข้าใจไหมค๊ะ?…ดีแล้วล่ะที่เย็นนี้จะไปหา…สาจะได้ไม่น้อยใจ”
“……………………………………………..”
“โอ๊ะ!!”
“?”
“สงสัยกินน้ำมากไปแหงๆ”
…สาวน้อยรีบลุกเดินเฉิบๆไปห้องน้ำ…
(นี่ไงเล่า!!…พอพี่แคทกับฝนกลับมาที่นี่เราก็ต้องระวังตัวแจเลย…นี่ถ้าเป็นไปได้ควรจะอยู่ห่างๆพวกเธอไว้ดีกว่า)
…ที่ แน่ๆผมจะต้องไปหาบุศเพื่อปรับความเข้าใจกัน…ทำไมถึงได้ยุ่งยากเช่นนี้?… ทั้งที่เรื่องของเก๋กับสาวก็ยังคาราคาซัง…เรื่องของน้องจอยกับน้องโบว์ก็ อีกเนื่องจากไม่นานมานี้พวกเธอต่างชักชวนไปเที่ยวบ้านเพื่อพบกับผู้ปกครอง โดยที่รู้แก่ใจดีว่าเพื่อนรักอย่างอ้อยน่ะมีความเกี่ยวพันกับผมอย่างไร?…
“หาทางแก้ไขไปทีละเปลาะ…สับรางให้ดีๆ…หือ?”
…ฝนอยู่ในห้องน้ำแต่โทรมาเข้ามือถือเรียกให้ผมไปหา…
“มีอะไร?”
“แย่ชะมัดละ!!…พื้นดันเปียกน้ำและที่แขวนก็ไม่มี”
“แล้วไง?”
“ก็ฝนถอดกระโปรงแล้วมันไม่มีที่พาด…บอลช่วยถือให้หน่อย”
“จะ…จะบ้าเหรอ!!?”
(ถ้าใครเห็นเข้าจะคิดยังไงกัน?)
“เร็วซี่~~…อย่ามัวลีลา!!…ช่วยถือให้แป๊บเดียวจะเป็นอะไรไป?…ลูกพี่ลูกน้องกันแท้ๆ”
“เอ้าๆๆ…ส่งมา”
…สาวน้อยเปิดประตูแล้วโผล่ให้เห็นแค่มือยื่นส่งกระโปรงให้…
“เดี๋ยวๆๆ”
“อะไรอีก?…ฮะ…เฮ้ย!!!…ไอ้…ไอ้นี่ด้วยเรอะ?”
“เออ–…ถือดีๆอย่าให้หล่นนะ!!”
…ไม่ใช่แค่กระโปรงแต่มีกางเกงในด้วย…สีแดงแรงฤทธิ์ตัวที่ผมเห็นเมื่อเช้านั่นแหละ…
“ทำไมไม่รูดลงไปที่หัวเข่า?”
“เกิดเผลอทำเปียกน้ำก็เสร็จกันแล้วฝนจะนุ่งอะไรอ่ะ?…กระโปรงตัวเดียวเหรอ?…คิกๆๆๆ…เย็นหวิวแย่”
…ได้ยินเสียงฉี่ชัดแจ๋วเลย…ฟังแล้วมันให้รู้สึกจั๊กจี้หูยังไงไม่รู้…สาวน้อยคนนี้ก็ช่างพูดช่างคุยนัก…
“นี่!!…ตอนฝนส่งกระโปรงให้นายเห็นใช่มั้ย?”
“อะไร?”
“คิๆๆ…อย่าแกล้งเซ่อถามดีกว่า…นอกจากต้นขาขาวๆของฝนแล้วนายยังเห็นอะไรอีก?…สารภาพมา!!”
“ปละ…เปล่านะ!!!”
“หืม?…เสียงสั่นๆน่าสงสัยซะจริง…คงจะคิดลึกอยู่สิเนี่ย?…ไม่ดีๆ…เราเป็นพี่น้องกันนะเออ–”
“ก็บอกว่าไม่เห็น…มันมืด”
“เอ๋!!…มืดเหรอ?”
“ทะ…ทำไม?”
“นี่นาย!!!…ว้ายๆๆ…เห็นแม้กระทั่ง…ขน…”
“มะ…ไม่ใช่ว้อย!!!”
(ไม่ได้เห็นอะไรสักหน่อย!!!…ยัยนี่แกล้งตีขลุมปั่นหัวเราเล่น)
“…ฝนอยู่ในห้องน้ำหรือ?”
“ค่า~~”
“พี่มาก็ดี!!…ให้ตายสิ”
“?”
…ผมรีบส่งกระโปรงกับกางเกงชั้นในของฝนให้กับพี่แคทแล้วรีบหนีออกมาหน้าร้าน…
“ทำเอาเราจินตนาการตามไปด้วย…ยัยคนนี้นี่…”
…จากที่สาวเขี้ยวนุ่งน้อยห่มน้อยเมื่อเช้าก็ต้องยอมรับว่าสัดส่วนรูปร่างฝนนั้นน่าดูชมเหมือนกัน…
“เราก็ไม่ใช่รูปปั้นที่จะไม่มีความรู้สึก…ทำไมถึงจะไม่เคยคิดแบบนั้นกับฝนหรือพี่แคทเล่า?”
(บวก กับที่ได้เห็นความเซ็กส์ซี่ของพี่แคทตอนอยู่บ้านก็ยิ่งชักนำจิตใจให้ว้าวุ่น แต่ไม่กล้าคิดเป็นอื่นเพราะตัวเรามีแฟนอยู่แล้วอีกทั้งยังเป็นญาติกันด้วย)
“เจอจนได้นะ…”
(ผัวะ!!)
“จี?…โอ๊ย!!!”
…น้องรหัสทอมบอยลงจากรถตรงดิ่งมาหาและไม่พูดพล่ามทำเพลงเหวี่ยงขาเตะแขนของผม…
“ทะ…ทำอะไรเนี่ย?”
“แกทำให้พี่บุศเสียใจ…แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!!”
“…………………………………………….”
…น้องรหัสคนนี้มีอคติกับผมเป็นทุนเดิม…ครั้งนี้เธอก็มองด้วยสายตามุ่งร้าย…
“ฉันไปบ้านพี่บุศแล้วพบเธอร้องให้…ถึงจะยังไม่รู้รายละเอียดแต่ฉันก็เดาออกว่าแกเป็นต้นเหตุ…แกเท่านั้น!!!”
“จี…คือว่าพี่…”
“ไม่ ต้องพูดไอ้ผู้ชายมักมากเอ๊ย!!!…เที่ยวหาเศษหาเลยไปทั่วทั้งๆที่มีแฟนอยู่ แล้ว…กล้าทำกับพี่บุศคนที่ฉันเคารพรักมากเหมือนพี่สาวแท้ๆ…วันนี้แหละ ฉันจะหักแขนแกเป็นท่อนๆ!!!!”
…แต่ก่อนที่จีจะเตะที่สีข้างของผมก็ต้องชะงักเพราะมีวัตถุลึกลับบางอย่างพุ่งตรงมาที่เธอ…
(ปึ๊ก!!!)
“ใครกัน!!!?”
“!!!”
“ลูก…เทนนิส?”
…มันถูกขว้างมาจากไหนและจากใครไม่รู้แต่ทำให้จีต้องรีบกางมือรับก่อนถอยหลังไปเพราะความแรงที่พุ่งมา…
“ทำอะไรพี่ฉัน?”
“ฝน!?”
“เธอเองน่ะรึที่ขว้างไอ้นี่มา?”
“หึ!!…ลำพังหนูฝนขว้างไม่ได้แรงแบบนี้ร้อก~~”
“……………………………………………..”
“พี่แคทงั้นหรือ?…ยอดเยี่ยมมาก…ฉันเกือบจะรับไว้ไม่อยู่ทีเดียว”
…พอจีปล่อยลูกเทนนิสผมได้เห็นว่าฝ่ามือของเธอมีรอยแดงและถ้าตาไม่ฝาดก็รู้สึกจะมีเลือดไหลซิบๆ…
“เหตุผลที่ทำร้ายบอลคืออะไร?…พี่หวังว่าเธอคงมีคำตอบที่ดีนะ”
“ถ้าฉันบอกว่าจู่ๆก็นึกเหม็นขี้หน้าไอ้นี่แล้วอยากอัดมันล่ะ?”
“งั้นจีต้องเจอกับหนูฝน…ชั่วดีถี่ห่างบอลก็เป็นพี่ชายคนหนึ่ง…จู่ๆมาทำร้ายเขาอย่างนี้มันใช้ไม่ได้!!”
“คนอย่างฉันไม่เคยทำอะไรเลื่อนลอยไร้เหตุผลหรอกนะฝน…เหตุผลมีแน่นอนแต่เจอกันที่นี่ก็ดี…หวังว่าคงไม่ลืมสัญญาของเรา?”
“ไม่ลืม…”
“แล้วถ้าคิดจะปกป้องไอ้คนเห็นแก่ตัวนี่ก็ต้องวัดกันสักตั้ง”
“หนูฝนถือว่าบอลเป็นญาติพี่น้องซึ่งย่อมสำคัญกว่าเพื่อนร่วมห้องอย่างจี…ขอโทษทีนะ”
“ฮึ!!”
…จาก นั้น 2 สาวเพื่อนร่วมชั้นก็เข้าห้ำหั่นกันโดยไม่รอช้าและไม่พูดมาก…จีฝึกปรือเท ควันโด้ศิลปะการต่อสู้ที่ใช้ขาเท้าเป็นอาวุธหลักส่วนฝนก็มีวิชาคาราเต้ที่ น่ากลัวและใช้เท้าได้อย่างร้ายกาจเช่นกัน…คนหนึ่งลูกพี่ลูกน้องอีกคนน้อง รหัสซึ่งต่างก็แลกเพลงเตะกันอย่างว่องไว…แข้งปะทะแข้ง…เท้าปะทะ เท้า…ชิงไหวชิงพริบตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเองมีเปรียบเหนือกว่า…นี่เป็น ครั้งแรกที่ผมได้เห็น 2 สาวน้อยคนดังในหมู่น้องใหม่ปี 1 ต่อสู้กันเอง…
“ไหนว่าเปิดเทอมใหม่จะไม่ใช้กำลัง?…จริงๆเลยนะ…บาดแผลก็ยังไม่หายดีแท้ๆ”
“แผล?”
“ที่ข้อเท้าน่ะ”
“ฮึ๊บ!!!”
“ย่าห์!!!”
…แม้ การต่อสู้ดูจะรุนแรงแต่ต่างฝ่ายก็ยังโจมตีไม่ค่อยเข้าเป้าเพราะมีความว่องไว ด้วยกันทั้งคู่…ผลัดกันรุกรับและสามารถหลบหลีกการจู่โจมของฝ่ายตรงข้ามได้ อย่างคล่องแคล่ว…
“ไม่นึกว่าเธอจะเข้าข้างคนผิด!!”
“จะผิดหรือไม่ไว้คุยกันทีหลัง!!”
“…………………………………………………”
“…………………………………………………”
…ฝนกับจีสวนแข้งใส่กันอย่างรุนแรงแล้วก็โดดถอยออกมายืนมองตากัน…หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด…ฝีมือเท่าเทียมกัน?…
“หึๆ…เก่งอย่างที่คิด…ไม่ผิดหวัง”
“อย่าชวนฉันคุยดีกว่า”
“งั้นหนูฝนจะใช้ไอ้นี่พูดแทนละกัน…เทพธิดาโคจร*!!!”
“อื๋อ!!?”
…เร็วมาก!!!…ญาติผู้น้องของผมถอยหลังไป 1 ก้าวก่อนจะวิ่งเข้าหาสาวทอมบอยพลางเงื้อเท้าขวาขึ้น?…
“หยุด!!!”
“!?”
…จีก็ป้องกันตัวอยู่แล้ว…จังหวะที่ฝนยกเท้าคล้ายจะหวดฟุตบอลก็ต้องค้างในอากาศเพราะเสียงของพี่แคท…
“ต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วจะต่อยตีกันไปทำไมอีก?…ฝน…ขาน้องมีเลือดไหลออกมา…ไม่รู้สึกตัวหรือไง?”
“………………………………………………..”
…ไม่น่าจะเกิดจากการสู้กับจี…ผมว่าปากแผลมันเหมือนถูกอะไรคมๆบาดมากกว่า…
“จี…ร่างกายเธอเองก็ยังไม่สมบูรณ์ถ้าคิดจะสู้กับฝนต่อไป…ผลมันก็รู้ๆอยู่…คือเจ็บตัวอย่างไร้ค่าด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ”
“………………………………………………..”
“วิเศษจริง…ไม่นึกว่าจะดูออก…สมกับเป็นนักสู้ผู้แข็งแกร่ง…บางทีพี่อาจจะเก่งกาจพอต่อกรกับคนที่บ้านฉันก็ได้”
(ใครหว่า?)
“เฮ่!!…ไหนลองบอกเหตุผลมาก่อนดิว่าทำไมถึงทำร้ายบอลน่ะ?”
“ก็ถามพี่ชายคนดีของเธอเอาเองซี่~~…เรื่องราวที่มันก่อไว้!!”
“จีนั่นแหละบอก”
“ให้เจ้านี่สารภาพกับพวกเธอดีกว่าเมื่อนั่นก็จะเข้าใจเอง…ครั้งนี้ได้ประลองกับเธอถือว่าไม่เสียเที่ยว”
…สาวทอมถอนตัวออกไปง่ายดายเกินคาด…อย่างนี้ก็ซวยสิ… 2 คนพี่น้องจะต้องไล่เบี้ยผมให้จนมุมแหงๆ…
“เอ้า!!… รีบไปทายาซะ…ดีแล้วที่เย็นนี้น้องไม่ร่วมซ้อมด้วย…ถึงกับจะใช้เทพธิดา โคจร…จีเป็นเพื่อนร่วมชั้นของน้องและไม่ใช่ลูกฟุตบอลนะ”
“ฮ่าๆ…จริงๆฝนก็ไม่ได้คิดสู้กับจีตอนนี้หรอก…ก็แค่การลองเชิงยัยนั่นเท่านั้นเอง”
“ประเมินระดับฝีมือฝ่ายโน้นว่างั้นเถอะ?”
“ถูก…ถูกต้องนะค้า!!”
“จากที่พี่ลองคาดเดา…แม้จะยังไม่เอาจริงแต่ระดับของน้องตอนนี้น่าจะสูสีกับจีเขานะ”
“เย้!!…ฝนตอนนี้ๆ…พี่แคทตาแหลมจัง…ฝนเห็นด้วยๆ”
…คนอย่างสาวจอมแก่นน่าจะดีใจถ้าพี่แคทบอกฝีมือดีกว่าจีไม่ใช่หรือ?…ผิดคาด…
“บอลบาดเจ็บตรงไหนมะ?”
“เจ็บที่ต้นแขนนิดหน่อย”
“ฮืม–…แต่ถ้าพี่แคทเข้ามาขวางช้าอีกนิดเดียว…นายได้โดนยัยจีเตะกลิ้งเป็นลูกบอลสมชื่อแน่…ดังนั้นขอบใจฝนซะ”
“ไหงต้องขอบใจเธอ?”
“ว้าก~~…ฝนยังทำธุระไม่ทันเสร็จก็รีบดิ่งมาช่วยนายเลยนะเฟ้ย!!…อย่างนี้ยังจะไม่ขอบใจกันอีกเร๊อะ?”
“อ่า—…งั้นฉันขอบใจเธอมากนะแล้วอะไรที่ยังทำธุระไม่เสร็จ?”
“ก็ฝนฉี่แล้วยังไม่ได้ล้างปิ๊เลย…แหะๆๆ”
“อึ๋ย!!…ธะ…เธอนี่พูดจาน่าเกลียดจริงๆ!!!”
“น้องนี่!!…เป็นสาวเป็นแส้พูดจาอย่างนี้ได้ยังไง?…รีบๆไปจัดการให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้นะ!!!”
“เฮะๆๆ”
…แต่หลังจากนั้นทั้งฝนและพี่แคทก็ไม่ได้ไต่ถามสาเหตุที่จีมาหาเรื่อง…ที่แท้พวกเธอก็ไม่สนใจจะรู้?…
(โล่งอกไปที!!!)
…………………………………………………………………………………………………….

เทพธิดา โคจร* เป็น 1 ในกระบวนท่าจู่โจมของหยาดฝนคืออาศัยความเร็ววิ่งเข้าไปเตะอย่างแรงคล้ายการ ยิงจุดโทษใน กีฬาฟุตบอลโดยใช้โจมตีท่อนล่างของศัตรูตั้งแต่เอวลงไป…
……………………………………………………………………………………………………………

…ผมติดรถพี่แคทมาถึงมหาวิทยาลัยที่สาเรียนอยู่ก่อนจะแวะไปทำธุระส่วนตัว(โทรคุยกับเก๋และสาว…โดนดุด้วย)…
“พี่…”
“……………………………………………”
…พอก ลับ มาก็เห็นพี่แคทนั่งเป่าใบไม้เป็นเพลงที่ใต้ถุนอัฒจันทน์สนามฟุตบอลทางทิศ เหนือรอเวลาไปชมรมคาราเต้ตามนัดหมาย…อย่างนี้ก็แสดงว่ากำลังอารมณ์ดี สินะ?…อืม–…ว่าแต่มีความสามารถแบบนี้ด้วย?…ฟังจากทำนองแล้วน่าจะเป็น เพลงพื้นเมืองของทางล้านนา…ผมเลยไม่เข้าไปขัดจังหวะยืนฟังอยู่เงียบๆจน กระทั่งเธอหยุดเป่า…
“ว่าไง?”
…ฟันธง!!!…ถ้าบริเวณไหนไม่ค่อยมี ผู้คนหรือเป็นสถานที่สงบร่มรื่นต้นไม้เยอะๆก็เป็นไปได้สูงเลยว่าจะได้พบกับ หญิงสาวดวงตาเย็นชาผมยาวสลวยคนนี้…
“ตอนอยู่ร้านอาหารผมลืมไป…เอ่อ–…คือมีของบางอย่างอยากจะให้พี่ครับ”
“…ในโอกาสอะไร?”
“ก็…ครบรอบวันเกิดพี่ไงครับ”
“ไม่เห็นจะต้องทำให้ยุ่งยาก…หนำซ้ำมันก็ผ่านมาตั้งเดือนนึงแล้ว”
“ไม่ได้หรอกครับ…เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันนะ”
…จาก นั้นก็รีบส่งกล่องของขวัญผูกริบบิ้นสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำวันเกิดของพี่แค ท…นับแต่วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2526 จวบจนวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2548 ที่ผ่านมา…อายุของเธอก้าวขึ้นถึงเลข 22 …
“เปิดได้มั้ย?”
“ครับ”
“………………………………………………..”
“………………………………………………..”
“ปากกา?…อืม–…แต่ว่านะ…”
“?”
“นักศึกษาทำงานพาร์ทไทม์อย่างเธอไม่น่าจะมีเงินซื้อปากการาคาแพงๆอย่างนี้?”
“ถ้าแค่ผมคนเดียวคงซื้อไม่ไหวแต่มีกุนช่วยออกเงินด้วยน่ะครับ”
“พี่กุน?”
…พอ ได้ยินชื่อของผู้มีพระคุณแววตาก็เปลี่ยนไปทันที…ใช่แล้ว…ความจริงกุนออก เงินซื้อเกือบทั้งหมด…แรกๆผมก็ไม่สบายใจเพราะเกรงว่าพี่แคทจะไม่รับ…แต่ ว่า…ดูท่าทางและสีหน้าของเธอก็เบาใจได้ล่ะ…
“ทั้ง 2 คนไม่เห็นต้องลำบากเลยนะ…เอาล่ะ…ไหนๆก็เปิดกล่องแล้วอีกอย่างเห็นแก่บอลกับพี่กุนที่อุตส่าห์มีน้ำใจ…พี่จะรับไว้จ้ะ”
…ค่อยยังชั่วหน่อยของขวัญชิ้นนี้คงจะถูกใจ…เอ๊ะไม่หรอก!!…เพราะรู้ว่าพี่กุนเป็นคนซื้อต่างหากถึงยอมรับง่ายๆ…
“แต่พี่ไม่เคยรับของใครมาฟรีๆ…งั้นก็มีบางสิ่งจะให้เธอด้วย”
“อ๊ะ!!…ไม่ต้องครับ…นี่คือของขวัญวันเกิดพี่…ผมไม่ได้ให้เพราะต้องการสิ่งตอบแทน”
“เอาเถอะ…สิ่งนี้พี่ไม่เคยมอบให้ผู้ชายคนไหนมาก่อน…บอลเป็นผู้ชายคนแรกทีเดียวเชียวนะ…จงรับไว้เถอะ”
…หรือว่าพี่แคทจะ…
“เดี๋ยวนะ…”
(อ้าว!!?)
…หญิงสาวใช้ปากกาที่เป็นของขวัญวันเกิดเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดบันทึกประจำตัวและฉีกกระดาษส่งให้ผม 1 แผ่น…
“นี่คือ?”
“เธอเก็บดีๆล่ะกัน…ไว้ติดต่อคุยธุระตอนไม่อยู่บ้านหรือยามในฉุกเฉิน”
…นี่ เราคิดไปถึงไหนหว่า?…เรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วแต่สิ่งนี้พี่แค ทไม่เคยมอบให้ผู้ชายคนไหนเลยจริงๆด้วยซึ่งมันคือตัวเลข 10 หลัก…ผมแน่ใจว่าผู้ชายคนไหนก็ต้องอยากได้สิ่งนี้…เบอร์โทรศัพท์ยังไงล่ะ ครับ…นี่ต้องถือว่าเป็นเลขหมายจากปลายปากกาของขวัญวันเกิด…
“ขอบคุณมากครับ…ถ้ามีอะไรสงสัยผมจะโทรหาพี่นะ”
“เชิญจ้ะ”
…ที่ จริงผมน่ะรู้เบอร์ของพี่แคทมาตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้าโทรหาหรอก…เมื่อเธอ เขียนเบอร์โทรศัพท์ส่งให้ก็หมายความว่าต่อไปนี้ผมสามารถติดต่อคุยธุระได้ตาม สมควรโดยไม่ถือเป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล…
“แล้ววันเกิดของฝน…บอลจะให้ของขวัญหรูๆแบบนี้ป่ะ?”
“!?”
…อุ๊!!…เสียงยัยผีดังมาจากไหนวะ?…เอ๊ะ?…ไม่เห็นตัวได้ยินแต่เสียง…มองในรถก็ไม่เห็นมี…
“ตาเซ่อจริง!!…อยู่ข้างบนนี้”
“ขึ้น…ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นน่ะ?”
…โอ้โห?…ต้นจามจุรีอย่างสูงแม่นี่ยังทะลึ่งปีนขึ้นไปได้…
(ตุบ!!)
…พูด จบฝนก็โดดลงมาที่พื้น…ไอ้ตรงที่เธออยู่มันสูงขนาดชั้น 2 เชียวนะ!!…ถ้าไม่มั่นใจว่ากำลังขาตัวเองมีมากพอไม่มีทางกล้าทำแบบนี้ แน่…เป็นคนอื่นได้มีแข้งขาเดี้ยงกันบ้างละ…
“กำลังนอนฟังพี่แคทเป่าเพลงใบไม้จนเคลิ้มจะหลับนายดันมาคุยจ๊อกๆแจ๊กๆ…ฉันจึงต้องตื่นเพื่อแอบฟัง”
…ก็ ใครจะไปรู้ล่ะว่ามีเด็กสาวจอมยุ่งอยู่ที่นี่ด้วยแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับที่ ว่าหล่อนขึ้นไปได้ยังไง?…สูงก็สูงแถมนุ่งกระโปรงด้วยหนำซ้ำอีตอนโดดลงมา นี่สิ…เห็นอะไรต่อมิอะไรหมด…
“เอ้าว่าไง!!…วันเกิดฉันก็เลยมาตั้งนานแต่นายไม่เห็นจะให้ของขวัญ…ลำเอียงนี่นา…เอ๊~~…เป็นเพราะพี่แคทสวยน่ารักใช่ม้า?”
“พูดอะไรของเธอ?…ก็หนังสือเล่มนั้นไง…คราวนั้นบอกอยากได้ฉันก็เลยซื้อให้เพราะรู้ว่าใกล้จะถึงวันเกิดเธอ”
“โอ๋!!…บอลจาบอกว่านั่นคือของขวัญวันเกิดของฝนงั้นเรอะ?”
“เออสิ”
“เคะ!!!…ไม่นับอ่ะ”
“อ้าว?”
“ฝน…แต่พี่คิดว่าหนังสือเล่มนั้นมันก็มีคุณค่าพอจะเป็นของขวัญวันเกิดของน้องนะ”
“เธ่อ–…ตะเองได้ชุดปากกา 2 ด้ามราคาเป็นพันๆก็พูดได้ซี่…ของหนูแค่ราคาไม่ถึง 300”
“แต่ก็เป็นคู่มือเล่นเกมส์ที่น้องตามหามาตั้งนานหลายปีไม่ใช่หรือ?…วันนั้นฝนดีใจกระโดดโลดเต้นไปรอบบ้านเชียว”
“มันก็…ใช่ค่ะ”
“สำหรับ ฝน…คุณค่าทางใจของหนังสือเล่มนั้นจะต้องมากกว่าราคาหน้าปกและรูปลักษณ์ภาย นอกอย่างแน่นอน…เป็นของขวัญวันเกิด 18 ปีที่ดีเยี่ยมที่สุดแล้ว”
…ฝนฟังแล้วก็พยักหน้ายอมรับฟัง…พี่แคทสอนได้ดีมาก…ผมนับถือในความเป็นผู้ใหญ่ของเธอจริงๆ…
“อือ–…คงจะได้เวลาแล้ว”
“ส่งผมที่ห้องสมุดนะครับ…นัดกับสาไว้”
“และหลังจากนั้นจะไปที่ไหนทำอะไรกันต่อเหยอ?”
“เรื่องของฉัน…”
“โฮะ!!…แน่ใจรึเจ้าหนุ่มรอบจัด?…ฝนเองก็มีสิทธิ์รู้เหมือนกันนะเพราะเป็นเพื่อนรักของสา…แอ๊!!!”
“!!”
“พี่!!…เอาผมตีหัวหนูทำไมอ่ะ?…โหย~~…ควงฟั่บๆเป็นแส้เชียวนะ”
“หรือจะให้เอารัดคอล่ะหึ!!…ไปยุ่งเรื่องของคนอื่นทำไม?”
…ผมเห็นจะๆกับตาตัวเองเลยครับว่าพี่แคทเอาเส้นผมที่แสนยาวของเธอตีไปบนหัวของฝนราวกับใช้แส้…
“แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง…ยังไงฝนก็ต้องไปเป็นพี่เลี้ยงให้น่า”
“พี่เลี้ยง?”
“ก็พี่เขาจะไปกระทืบคนน่ะซี่~~…นายนี่ไม่น่าเซ่อถาม…โอ้ย!!”
“…กระทืบบ้าอะไร?…ไม่ได้ไปหาเรื่องเขาสักหน่อย…เห็นพี่เป็นเหมือนพวกอันธพาลข้างถนนไปได้ยังไงนะ?”
“งั้นหนูจะเฝ้ารอดูว่าพี่มีความอดทนเล่นตามกติกากับเจ้าพวกนั้นได้นานสักแค่ไหน?…จะคอยนับหน่วยเป็นวินาทีๆเลย…ฮึ!!”
“………………………………………..”
…ครั้ง ที่ 2 พี่แคทสะบัดผมฟาดไปที่ไหล่น้องสาวตัวแสบ…ใช้ผมของตัวเองเป็นอาวุธผมไม่เคย เห็นใครที่ไหนทำแบบนี้มาก่อน…ใช่…เส้นผมอันอ่อนนุ่มยาวสลวยและส่งกลิ่น หอมคล้ายกลิ่นของดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ยังนึกไม่ออกในตอนนี้อาจเป็น 1 ในอาวุธสำคัญที่ฝ่ายตรงข้ามจะคาดไม่ถึง!!!…
……………………………………………………………………………………………….

…ส่วนอีกด้านหนึ่ง…จีกลับมาถึงบ้านก็ตรงดิ่งเข้าโรงฝึกและตรงไปง้างเท้าเตะกระสอบทรายเป็นการระบายความโมโห…
(ตูม!!!!)
“กำพร้า แม่ตอน 8 ขวบรึ?…เพราะอย่างนั้นเลยขาดความอบอุ่น…โตมาถึงได้เที่ยวสีหญิงไป ทั่ว…พี่บุศก็ช่างรู้เรื่องของเจ้านั่นไปซะหมดทุกอย่างเชียวนะ”
“บ่นอะไรเป็นหมีกินผึ้งฟะ?”
“นี่จุน!!…เธอจะไม่ยุ่งกับฉันสักเรื่องได้มั้ยเนี่ย?”
“โฮ้!!…แน่ใจอ่ะ?”
“อะไร?”
“ก็แน่ใจแล้วเร้อว่าจะไม่ให้ฉันยุ่งน่ะ?…หนาย~~…มือข้างนั้นไปโดนอะไรมา?…แบซิจะกำไว้ทำไมเล่า!!!”
“แค่ลูกเทนนิสอัดว้อย!!…ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย?”
“ลำพัง ลูกเทนนิสนุ่มๆหยุ่นๆมันก็ไม่เท่าไหร่แต่นี่แกแกล้งโง่หรือไงวะ?…แรงอัด กระแทกรุนแรงขนาดทำให้เลือดออกยังจะบอกไม่ใช่เรื่องใหญ่อีก…นี่มันเกิดจาก พลังปราณนะโว้ย!!!!…ใคร?…แกไปหาเรื่องใครมา!!?”
“2 พี่น้องนักคาราเต้…”
“นั่น ปะไร!!…ฉันว่าแล้วไง…แกนี่มันชอบหาเรื่องไม่รู้จักหยุดหย่อน!!…ฉันบอก แล้วใช่มั้ยว่าฝีมือแกยังไม่ถึงขั้นไปท้าสู้กับพี่น้องคาราเต้คู่นั้น?”
“รู้ว้อย!!…แค่ลองเชิงกันก็รู้แล้ว”
“มือเลยโดนลูกเทนนิสอาบพลังปราณกระแทกจนผิวแตก…ทำเป็นตีหน้าตายแต่คงเจ็บแทบทนไม่ไหวล่ะสิ?”
“………………………………………”
“นิสัย ฉันชมใครไม่ค่อยเก่งก็น่าจะรู้…แกฝีมือดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนแต่ไม่พอ…ยัง ไม่พอหรอก…วิชาเทควันโด้ที่ถีบเตะตามแต่อารมณ์จะพาไปและขาดความหนัก แน่นอย่างนี้…เอาชนะสาวน้อย 2 คนนั้นหรือคู่ต่อสู้ที่เก่งๆไม่ได้”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงเล่า?…ทุกวันนี้ก็พยายามฝึกฝนเทควันโด้ขัดเกลาฝีมือตัวเองอย่างหนักอยู่แล้ว!!”
“ไม่พอ!!…ก็บอกแล้วไงว่ามันยังไม่พอ!!!…นี่เคยรู้ซึ้งถึงจุดอ่อนของตัวเองบ้างมั้ยวะ?”
“จุดอ่อน…”
“เออ!!!”
“……………………………………..”
“ใบ้แดกอย่างนี้ก็แสดงว่าไม่รู้หรือคิดฟุ้งซ่านว่าตัวเองคงมีจุดอ่อนมากเกินไปล่ะสิ?”
“……………………………………..”
“ดัง นั้นถ้าแกไม่อยากถูกกระทืบเละหมดสารรูปในไม่กี่อึดใจก็จงฝึกให้หนักยิ่งกว่า นี้อีกร้อยๆเท่าซะแล้วก็จะได้รู้ถึงจุดอ่อนของตัวเอง…แกต้องรู้ได้แน่ๆ… ฉันจะเคี่ยวอย่างหนักเลย”
“ก็ได้…ถ้าเพื่อให้เก่งขึ้นจะให้ทำอะไรฉันก็จะทำ!!!”
“ดี!!!!… และจะบอกอะไรให้รู้อย่างหนึ่งนะ…แม้แต่ตัวฉันเองก็อาจจะเอาผู้หญิงที่ชื่อ สุรีย์พรรณไม่อยู่เหมือนกัน…เมื่อดูจากร่องรอยความเสียหายบนมือแก”
“………………………………………”
“ตอน นี้ไม่ว่าใครเจอกับพี่น้องคู่นั้นก็ถือว่าอันตรายมากๆเพราะคาราเต้ของพวกเธอ ไม่ได้มีไว้สำหรับประลองในลานสี่เหลี่ยมแคบๆกับที่ใครได้คะแนนมากกว่าจะชนะ แต่มันเป็นคาราเต้ที่ใช้ต่อสู้ในโลกกว้าง!!!…มีเพียงแค่เอาชีวิตรอดหรือ ไม่รอดเท่านั้น!!!!”
“เธอดูจะรู้จักพี่สุรีย์พรรณกับหยาดฝนดีเหลือเกินนะ…เคยพบกันหรือไง?”
“เปล่า…ไม่เคย…แต่ก็พอจะเดาได้ว่า 2 สาวนั่นฝึกฝนคาราเต้มาจากใครถ้าความคิดของฉันถูกต้อง…ประมาทได้ที่ไหนกันล่ะ?”
“ปกติเธอจะไม่พูดอย่างนี้”
“ก็เร็วๆนี้ฉันเคยเกือบเสียท่าให้คู่ต่อสู้น่ะสิ”
“?”
“เป็นเพียงเด็กผู้หญิงอายุเท่าๆน้องจอยซะด้วย…นี่ก็ยังไม่รู้ว่าจะโดนเล่นเมื่อไหร่เหมือนกัน”
“ฮึๆๆ!!…ถูกหมายหัวเข้าแล้วสิท่า?…น่าตลกนะ…อดีตแชมป์โลกเทควันโด้ 2 สมัยเกือบจะต้องพ่ายแพ้ให้กับเด็กหญิงอายุแค่ 13-14”
“ลำพังเด็กนั่นฉันสามารถรับมือได้สบายแต่อีกคนนี่…โอย~~…ต้องตึงมือแหงๆ”
“ใครกัน?”
“เสือ…ฉันจะต้องสู้กับนางพญาเสือว่ะ”
“หา!?”
…………………………………………………………………………………………………

…การปะทะกันครั้งแรกของฝนและจี!!,เรื่องดีๆของบอลและแคท!?…
……………………………………………………………………..

Share the Post:

Related Posts

วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่

เรื่องเสียว วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่ วันนี้ละอองฟองถูกเรียกเข้าไปในห้องของหัวหน้าอีกแล้ว เธอรู้ดีว่าเธอต้องทำอะไร ในเมื่อหน้าที่การงานของเธอนั้นไม่ได้ทำมันออกมาดีเหมือนที่เธอคิด แต่เธอไม่ได้ต้องการออกจากบริษัทแห่งนี้ ละองงฟองพยายามที่จะเข้ามาอ้อนวอนคุณภพ หัวหน้าของเธอ บอกกับเขาว่าเธอจะพยายาม ไม่ว่าจะให้ทำอะไรก็ได้ เธอยอมทุก ๆ อย่าง…และใช่ เรื่องเสียวคือเรื่องเสียวที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของคุณภพ วันนี้งานเหนื่อยทั้งวัน ละอองฟองยังคงต้องแก้งานมากมายในเวลานี้ ซึ่งมันไม่ได้น้อยเลย แต่เมื่อมันเสร็จแล้ว ก็ยังต้องมาสรุปรวบยอดใหม่ งานทุก

Read More

ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก

เรื่องเสียว ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก เราเริ่มจูบกันแล้วครับ จะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นหหลังจากนี้ไม่รู้ ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าเราต่างฝ่ายต่างมีความต้องการซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เราเงี่ยน เราอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เรื่องเสียวกลายเป็นเรื่องราวยอดฮิตสำหรับคนรุ่นนี้แล้ว และผมเองก็ไม่อยากจะอายเพื่อน เพราะต้องยอมรับว่าตัวเองยังซิงอยู่ ทั้ง ๆ ที่กำลังจะเรียนจบมอปลายแล้วแท้ ๆ ดังนั้น ในวันที่ผมไปปดูหนังกับแฟนของผมรุ่นน้องมอห้า เธอก็ชวนให้ผมไปนั่งเล่นที่บ้านของเธอก่อน

Read More