ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 4

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 4

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 4 “2 พี่น้องเทวกรนันท์…หยาดฝน…ชื่อนี้จงจำไว้ให้แม่น…แสบ!!!”

 26 มิถุนายน 2548 

…ตอนกลางวันผมชวนอ้อยและสานั่งรถเล่นไปมหาลัยหลังจากพาทั้ง 2 ไปซื้อของในตลาด…อย่างน้อยมันก็เป็นการผ่อนคลายอารมณ์ของเราทั้ง 3 ให้แจ่มใสจนสมควรแก่เวลาจึงพากันกลับ…พอถึงประตูหน้าของมหาลัย…มีแสงแตรของรถคันหลังเป็นรถของพี่แคทนั่นเอง…เราไม่ได้แปลกใจเพราะเมื่อเช้าพวกเธอบอกไว้ก่อนแล้วว่าจะมาทำรายงานที่ห้องสมุด…พอลงจากรถเดินมาหาพี่แคทก็ยิงคําถามเป็นคน
แรก…ฝนเอามือเกาะหัวไหล่พี่สาวยืนอมยิ้มหลบอยู่ข้างหลังดูท่าทางดีใจเพราะได้เจอพวกเราที่นี่อีก…เห็นเธอแล้วชวนให้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วว่าเราคิดทำอะไรกันแน่?…นั่นคือลูกพี่ลูกน้อง…ถึงจะมีนิสัยแปลกไปนิด(มาก)แต่เธอก็เป็นสาวน้อยน่ารัก…ถ้าเกิดว่าพี่แคทไม่เข้ามาขัดจังหวะอะไรมันจะเกิดขึ้น?…ผมไม่อยากคิดต่อพร้อมเกิดความละอายในใจจนไม่กล้ามองฝนเต็มๆตา…ว่าไป 5 – 6 วันมานี้ก็พยายามเลี่ยงไม่พบหน้าหรือคุยกับฝนแถมหนีไปนอนหอเกือบทุกคืน…
“ทั้ง 3 คนมาทำอะไรกันหรือจ๊ะ?”
“เฮ้!!…เจอบอลอีกล่ะ…สา…หนูอ้อย…มาทามอารายกานหรอ?”
“อ๋อ!!…สาชวนบอลกับอ้อยออกมาซื้อของน่ะจ๊ะ…พอดีบอลชวนมาที่มหาลัยต่อ”
“เอ่อ…ผมนึกได้ว่าลืมเอกสารไว้ที่คณะน่ะครับพี่…ซื้อของเสร็จผมชวนสากับอ้อยมาที่นี่ด้วย”
…พี่แคทพยักหน้ารับฟังช้าๆดูจากทีท่าแล้วเธอคงเชื่อที่ผมพูดและถ้าไม่แสดงพิรุธอะไรให้ปรากฎก็ไม่มีทางที่พี่หรือน้องคู่นี้จะสงสัยว่าพวกเราทั้ง 3 มาทำอะไรกัน…คือนอกจากนั่งรถเล่นแล้วเรายังมีกิจกรรมสนุกๆร่วมกันด้วย…ผลคือสากับอ้อยรุมผมเละทําเอาเดินขาแทบขวิด…
“อย่างงั้นเองหรือ?…เจอที่นี่ก็ดี…พี่กับฝนจะแวะห้างก่อนกลับบ้าน…ไปด้วยกันเลยสิ”
“ไปกินไอติมๆๆ…ไปกินด้วยกันโลดเลยเร้ว”
…ฝนหน้าเป็นยิ้มระรื่นท่องแต่คำว่าไอติมๆๆๆรีบหันกลับขึ้นรถ…ผมมองเธอขณะถามพี่แคทส่วนในใจคิดว่าฝนไม่เก็บเอามาใส่ใจแล้วมั้งอาจคิดว่าเป็นเพราะแรงโกรธของผมก็เป็นได้ถึงทำกับเธอแบบนั้นแต่ว่าเพิ่งไปกินไม่นานนี่เองไม่ใช่เหรอ?…ไปกันอีกแล้ว…สงสัยฝนอ้อนจนพี่สาวใจอ่อนอีกแน่ซึ่งมันดีหรือเปล่านะถ้าผมไปขัดความเป็นส่วนตัวของพี่กับน้อง…พี่แคทมองนาฬิกาข้อมือดูเวลาแล้วตอบ…
“เถอะน่า…ใช่คนอื่นไกลที่ไหน…ไม่ต้องเกรงใจกันหรอกแถมไปหลายคนสนุกกว่าไปแค่คน 2 คนแน่แต่มันก็ในบางกรณีเท่านั้นน่ะนะ”
…นั่นสิ…ความที่วันหนึ่งๆผมไม่ค่อยได้คุยกับพี่แคทมากอาจทําให้รู้สึกเกรงใจเธอขึ้นมาก็ได้และไม่อยากให้พี่แคทเสียน้ำใจที่อุตส่าห์ชวนจึงตอบตกลงแต่ว่าหญิงสาวก็ทำในสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงเมื่อส่งสัญญาณใช้นิ้วชี้กระดุมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวของตัวเองและขึ้นรถขับออกไปก่อน…การกระทำของพี่เขาเหมือนกับต้องการบอกอะไรผมสักอย่าง?…พอก้มดูเสื้อของตัวเอง…!!!…กระดุมเสื้อเชิ้ตติดไม่ตรงเลยสักเม็ดเดียว…ซีดสิกู…ผมคิดอะไรต่ออะไรเลยเถิดไปซะไกลเชียว…พี่แคทรู้หรือว่าแค่สงสัย?…ไม่สิ…แค่นี้จะรู้ได้ยังไงไม่แสดงพิรุธออกมาให้เห็นเลยนะ…โธ่…คิดมากๆเข้ากลายเป็นวัวสันหลังหวะไปซะแล้ว…สาเห็นผมทำหน้าซีดอย่างกับเนื้อไก่ในหม้อต้มยำจึงรีบพูดปลอบใจ…
“พี่แคทเขาไม่รู้อะไรหรอกน่า…บอลรีบทำให้เรียบร้อยสิจ๊ะ”
…ผมบ่นอุบว่าไม่ช่วยเตือนกันบ้างขณะจัดการกับเสื้อตัวเอง…
“ให้ทำไงได้…สาก็รีบร้อนกลัวคนมาเห็นเหมือนกันนี่”
“ตอนเข้าห้องน้ำพี่ก็ไม่ดูแล้วล้างสะอาดหรือยังคะ?…ถ้ามีกลิ่นติดตัวล่ะแย่เลย”
…ไม่ต้องว่าเลยอ้อย…พอกันแหละ…น้องเองก็เร่งรีบจนไม่เตือนพี่เหมือนกัน…ให้ตายเถอะ…ผมขับตามรถพี่แคทเข้ามาในเมือง…ถึงที่หมายฝนรีบเปิดประตูเข้ามาคล้องแขนสากับอ้อยขนาบซ้ายขวาตรงไปร้าน Swensen`S…พี่แคทล็อคประตูรถเสร็จเดินตามหลังมาเป็นคนสุดท้ายหันไปจึงรู้ว่าพี่เขามองอยู่ดูเหมือนกับกำลังคิดอะไรในใจผมจึงถาม…พี่แคทได้ยินก็เหมือนเธอรู้สึกตัวแต่ยังทำสีหน้าเรียบเฉยตามแบบฉบับเช่นเคยทำและบอกแค่เพียง…
“ไม่มีอะไรจ้ะ…พี่แค่คิดถึงหนังสือที่ยืมมาวันนี้เท่านั้น”
…พูดจบพี่แคทก็เดินนําหน้าผมเข้าไปสมทบกับ 3 สาวที่เดินไปถึงหน้าร้านไอศกรีมแล้วปล่อยให้ผมยืนสงสัยนิดๆ…หนังสืออะไรของพี่เขา??…
……………………………………………………………………………………………………

“ฮ่า!!…อร่อยจังเลยพี่…ฝนขอต่อนะคะ”
…อื้อหือ?…ยัยฝนฟาดช็อคโกซันเดย์ไปตั้งถ้วยเบ้อเริ่มยังไม่สาแก่ใจคิดจะสั่งต่ออีกหรือนี่?…ไอศกรีมเรนโบว์ถ้วยใหญ่ของผมกับสากินด้วยกัน 2 คนยังไม่หมดแต่แม่นั่นกินเกลี้ยงถ้วยเรียบร้อยโรงเรียนหยาดฝนส่วนอ้อยกลับกินน้อยอย่างที่ผมคาดเพราะเธอไม่ค่อยชอบของเย็นๆฝ่ายพี่แคทไม่ได้กินไอศกรีมเพียงแต่สั่งกาแฟมาดื่มเท่านั้น…เธอถอดแว่นตาที่ไม่ค่อยจะถอดให้ใครเห็นง่ายๆออกวางบนโต๊ะก่อนตอบน้องสาว…
“ตามใจ…แล้วอย่ามาบ่นอ้วนให้ได้ยินทีหลังล่ะกัน…ไม่รู้ชอบอะไรกันนักหนา”
“ฮิๆๆ…งั้นไม่เกรงใจล่ะ…อา…ปี้ๆๆ…ปี้ค้า…ขอสตรอเบอรี่ซันเดย์อีกที่หนึ่งค่า”
“สั่งเพิ่มกันได้นะไม่ต้องเกรงใจมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง…อ้อย…ทานให้อิ่มนะจ๊ะ”
…อ้อยเอ่ยขอบคุณอย่างนอบน้อมแต่ไอศกรีมรสเลมอนของเธอยังไม่หมดถ้วยแต่ก็พยายามทานเพราะพี่แคทอุตส่าห์เลี้ยง…ผมมองไปรอบๆร้านในวันหยุดแบบนี้คนจึงเยอะเป็นธรรมดา…ชายหนุ่มไม่เว้นแม้แต่พนักงานทั้งมองแบบตรงๆและแอบมองมาที่โต๊ะของเราเพราะมีสาวสวยงามหยดย้อยนั่งล้อมวงสนทนากันอยู่ตั้ง 4 นางและผู้สาวที่ตกเป็นเป้าสายตาเพศตรงข้ามมากกว่าคนอื่นย่อมต้องเป็นพี่แคทอย่างไม่มีข้อสงสัย…ใบหน้าเธอยามถอดแว่นตาออกช่างสวยคมขำงดงามยิ่งแต่ไม่ใช่ว่าตอนพี่เขาใส่แว่นไม่น่ารัก…ต้องเรียกว่าดูดีต่างสไตล์กันถึงจะถูก…คิดแบบไม่ลำเอียงมานานแล้วคือไม่ว่าดูยังไง…พี่สุรีย์พรรณนั้นเธองดงามสวยเพริดพริ้งยิ่งกว่าศกุนตลาแฟนสาวของผมซะอีกส่วนสาวิตรีตอนนี้…ยัง…สายังไม่อาจเทียบเท่าพี่แคท…มาที่หยาดฝนบ้าง…วุ้ย!!!…แม่นี่ยิ่งไปกันใหญ่แต่ถ้าบอกว่าเธอไม่น่ารักใครได้ยินได้เห็นก็คงว่าผมเป็นคนพูดโกหกแน่ๆ…สำหรับยัยสาวเขี้ยวผีนี่เป็นความน่ารักของสาวน้อยวัยแรกรุ่นทัดเทียมกับสาอันแตกต่างไปจากพี่แคทซึ่งมีรูปโฉมสวยสะคราญตามแบบฉบับของผู้ใหญ่และวรรณลักษณ์น้องสาวผมล่ะ?…อื้ม…เธอสดใสน่ารักตามธรรมชาติเด็กสาวนักเรียนมัธยมต้นอยู่เต็มเปี่ยมเอามาเปรียบเทียบกับ 3 สาวรุ่นพี่นี่ไม่ได้แม้แต่นิด…นั่งนานๆไปผมรู้สึกว่าสายตาเจ้าพวกผู้ชายมองลงต่ำใต้โต๊ะทางพี่แคทนั่งแบบไม่เกรงใจกัน…ใช่จริงๆ…พี่แคทเธอนุ่งกระโปรงสีเทาจีบสั้นเหนือเข่าแถมยังนั่งไขว่ห้างอีก…ขาอ่อนขาวๆสวยๆของเธออวดโฉมเป็นอาหารตาอาหารใจของไอ้พวกทำหน้าหื่นรอบๆโต๊ะพวกเรา…เชอะ!!…เห็นแล้วทนไม่ได้…ยังไงพี่แคทก็เปรียบเสมือนพี่สาวของผมคนหนึ่งต้องรีบกระซิบบอกเธอทันทีพี่แคทเอียงหูมาฟังใกล้ๆ…
“อะไรนะ?…อ๋อ!!…ช่างมันเถอะ…เห็นแล้วก็เอาไปไม่ได้หรอก”
…ดูพูดเข้า…เอาไปได้สิ…จำเก็บไปจินตนาการต่อไงเล่า…ผมอยากบอกแต่มันพูดไม่ได้เพราะมันอายปากตัวเอง…
“ผู้ชายที่เคยเห็นแทบทุกคนวันๆก็คิดแต่เรื่องแบบนี้แหละ…เห็นผู้หญิงไม่ได้ต้องคิดแต่เรื่องต่ำๆ”
…พี่แคทพูดเสียงดังฟังชัดเหมือนให้ผู้ชายในร้านได้ยินไปด้วย…ผมงี้พลอยอึ้ง…หล่อนด่าชิ่งมาถึงเราด้วยหรือเปล่าหว่า?…ฝนละคุยกับอ้อยหันมาถามพี่สาวคนเก่ง…
“พูดว่าใครน่ะพี่?”
“เปล่า…พี่แค่พูดลอยๆ…บอลบอกว่ามีคนแอบมองขาพี่อยู่”
“แหงะ!!…ฝนบอกแล้วว่าอย่าใส่กระโปรงสั้นมา…แต่…ไม่เห็นมามองของฝนเลยนะใส่สั้นเหมือนกันแท้ๆ”
“ฝน!!…เดี๋ยวเถอะ…นิสัยเสีย…พูดจาไม่อายปาก”
…พูดจบพี่แคทเงื้อมือตีแขนน้องสาวเพียะทำเอาฝนโอดครวญ…
“ง่า…อย่าซีเรียสสิจ๊า…ฝนพูดเล่น…พี่นี่ก็”
…และน้องหนูคนสำคัญหันไปคุยกับสาต่อ…
“สา…ฝนว่าวันนี้ท่าทางเดินของสามันแปลกๆ…ขาเป็นอะไรไป?”
…ผมกำลังดื่มนํ้าอยู่แทบจะสำลักพรวดเมื่อได้ยินคำถามนี้…อ้อยเองก็หน้าตาเริ่มไม่ค่อยดี…เธอลอบมองทั้งผมและสา…ฝ่ายพี่แคทยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้แต่ผมรู้ว่าเธอคงตั้งใจฟังคำตอบเหมือนกัน…จากใครเล่า?…ผม?…สา?…หรืออ้อย?…ฮึ่ย!!…ยัยจอมยุ่งเอ้ยมานึกสงสัยทำไมวะ…เรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ…เรื่องของเรื่องคือสาเธอโดนเสกมังกรเข้าถ้ำแค่นี้เองแหละ…
“ไม่มีอะไรหรอก…สาแค่ปวดน่องนิดหน่อย”
“งั้นรึ…แล้วสาไปทําอะไรมาล่ะถึงปวดน่อง?”
“อะ…สาไป…”
…โอ้ย…ลูกอีช่างถามจริงๆ…ผมรีบพูดสอดแทรกกลางคันว่าอยากรู้ไปทําไม?…ฝนหันขวับทําตาลุกวาวพร้อมยิ้มแสยะโชว์ทั้งเขี้ยวแหลมเปี๊ยบทั้งฟันขาวๆชนิดไม่น่าไว้วางใจแถมยังจ้องหน้าผม…
“หึหึ…ทำไม?…ฝนอยากรู้อะไรก็ต้องรู้ให้ได้…ถ้างั้น…บอลหรือเปล่าที่ทำให้สาเจ็บน่อง?”
…เฮ้ย!!…ยัยนี่คิดพูดอะไรกันแน่?…ทำท่าอย่างกับจะรู้เลยว่าผมไปทำอะไร…หัวใจมันชักเต้นแรงส่วนอ้อยคราวนี้ไม่เป็นอันกินไอศกรีมมีใบหน้าแฝงไปด้วยความวิตกกังวลไม่น้อยและเมื่อพี่แคทมองเธอ…น้องสาวผมก็ไม่ยอมสบตาตอบแบบนี้ยิ่งทำให้มีพิรุธไปใหญ่…ทว่า…
“ฝน…อย่าไปสงสัยเรื่องของคนอื่นมากนักเลย…ถ้าเกิดน้องไปทำอะไรที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้และถูกถามเป็นน้องๆอยากตอบมั้ย?…พอได้แล้วล่ะเรื่องนี้…รีบๆกินซะให้หมดจะได้กลับบ้าน”
…โอๆๆ…พี่แคทพูดแทงใจดำเราทั้ง 3 คนเต็มๆ…พี่น้องคู่นี้เป็นยังไงกันนี่…ยิ่งพี่สาวเหมือนกับมีตาทิพย์หยั่งรู้อะไรต่อมิอะไรหมด…ทว่าพี่แคทกลับหยุดการสนทนาไว้แค่นั้น…ผมเดาเอาว่าสงสัยคงทนถูกชายหนุ่มในร้านแอบมองขาอ่อนของเธอต่อไปไม่ได้…พี่แคทคนสวยพูดตัดบทด้วยเสียงและท่าทางอย่างกับอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก…น้องฝนสุดบ๊องซุบซิบผม…
“เฮะๆ…งานกร่อยเลยบอล…พี่เขาเป็นอะไรอีกนะ?”
“เพราะเธอแหละ!!…สงสัยไม่เข้าเรื่อง”
“เฮ่!!…บอลมาโทษฝนได้ไง?…เดี๊ยะ!!…ได้โดนกัดหรอก”
…ว่าแล้วยัยเด็กดื้อก็แยกเขี้ยวขู่เบาๆ…สากับอ้อยคงพอโล่งใจลงได้บ้างที่ไม่ถูกซักถามรีบเรียกพนักงานมาเก็บเงิน…พี่แคทหยิบแว่นตาสวมแล้ววางแบ๊งค์ 500 บนโต๊ะ…เธอบอกพวกเราว่าขอแวะเข้าห้องน้ำก่อนและจะไปรอที่รถ…พูดเสร็จก็สะพายกระเป๋าเดินออกจากร้าน…ผู้ชายทั้งหลายมันยังมองตามกันเป็นแถว…ผมดูพี่แคทจนเธอหายลับตาแล้วย้อนกลับมาคิด….เมื่อกี้พี่เขาว่ากระทบเราด้วยหรือเปล่าเพราะความจริงผมก็มีแอบมองขาอ่อนพี่แคทบ้างเหมือนกัน?…เฮ้อ!!!…ผู้ชายนี่คร้าบ…เพราะพี่เขาสวยออกขนาดนี้ชายหนุ่มหน้าไหนมันจะไม่อยากมองบ้าง?…ต่อให้หนุ่มใหญ่วัยกลางคนมีครอบครัวหรือลุงแก่จูงลูกจูงหลานมาด้วยเอ้า!!…หรือให้เดินมากับเมียกับลูกก็ต้องมีแลดูสาวน้อยลูกพี่ลูกน้องวัย 21 คนนี้บ้างล่ะถ้าไม่ใช่คนตาบอดหรือคนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ…ถ้าพูดผิดแม้สักประโยคเดียวให้ใครในที่นี้ไปเตะไอ้เชนได้…ผมเดินตามหลังสาวๆออกมาเป็นคนสุดท้าย…นั่นไง…มีหนุ่มกำลังชวนคุยและคงอยากขอเบอร์โทรของพี่แคทแต่ท่าทางจะแห้วเพราะลูกพี่ลูกน้องสาวแสนสวยแต่เย็นชายิ่งนักไม่ยอมพูดจาอะไรด้วยรีบเดินลิ่วก้าวเท้าฉับๆจากไป…ช่างไม่ดูตาม้าตาเรือเล้ยไอ้คนนี้…ตอนพี่มาโอนหน่วยกิตย้ายมาเรียนเพื่อนผมชื่อโก๋มันเคยถามชื่อและพยายามจะขอเบอร์แต่ต้องหน้าแตกยับเยิน(ในเมื่อผมมีความสุขตอนที่ 17 องก์ที่ 1) ผมเอาคำพูดของพี่หลังจากนั้นมาบอกให้เพื่อนๆฟังส่วนตัวก็เชื่อได้เต็มสิบตีนถีบว่าถ้าตอนนี้ถามพี่แคทว่าเพราะอะไรถึงไม่ให้เบอร์โทรศัพท์…เธอจะต้องตอบอะไรๆในทำนองนี้อีก…ชัวร์…
“เบอร์ของพี่ไม่ได้มีไว้แจกใครเล่นๆ…ยิ่งกับคนไม่รู้จักคุ้นเคยด้วยแล้วไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้”
………………………………………………………………………………………………………

….คืนนั้นเวลาเกือบ 4 ทุ่มผมไปเที่ยวอาบอบนวดพร้อมเชนแต่ตั้งใจไปเป็นเพื่อนเท่านั้นคือไอ้บ้านี่มานั่งดักรอในร้านตั้งแต่ 2 ทุ่มประจวบเหมาะกับคืนนี้พี่แก้วขอปิดร้านเร็วกว่าทุกครั้งคือปิดตอน 3 ทุ่มกว่าเพราะต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดและพอดีผมนึกเซ็งๆไม่รู้ว่าจะไปไหนดีจึงไปกับเชนด้วย…ไปถึงก็นั่งดื่มเบียร์รอมันเข้าใช้บริการหมอนวดบริเวณด้านหน้ากระจกซึ่งมีหมอสาวๆเกือบ 20 คนนั่งไขว่ห้างประชันโฉมอวดความสวย…รูปร่างหน้าตาก็หลากหลายสไตล์แล้วแต่แขกนักเที่ยวจะชอบ…ว่าไปต้องขอบใจตัวเองเหมือนกันเพราะความเสือกของผมทำให้มีความสุขทุกวันนี้…คงจํากันได้ว่าเมื่อปีที่แล้วผมเคยบุกเข้าห้องพักหรูในโรงแรมแห่งนี้เพื่อช่วยกุนจนรอดพ้นการถูกรุมข่มขืนอันเกิดจากความคิดชั่วร้ายของแฟนเก่าที่ผมเกลียดชังมันมากขนาดไม่อยากเรียกชื่อและจากเหตุการณ์นี้ก็คือจุดเริ่มต้นแห่งความรักในชีวิต…ตอนนี้ได้ข่าวว่าไอ้โอไปทำงานที่อังกฤษเพราะพ่อแม่ฐานะร่ำรวยก่อตั้งบริษัทและให้มันไปฝึกบริหารงานแต่ก่อนหน้าจะออกเดินทาง…ผมขอให้เพื่อนๆนักเลงหัวไม้จากโรงเรียนที่จบมาพร้อมกันช่วยไปรุมกระทืบไอ้สัตว์นรกตัวนี้เป็นการร่ำลาแบบเอาให้พอหอมปากหอมคอแต่ไอ้พวกเพื่อนแสนดี 3 – 4 คนนี้มันเล่นกันหนักไปหน่อย…สรุปสั้นๆ…เจ้าชาติชั่วหน้าตาบวมปูดฟกช้ำดำเขียวปากแตกเหงือกจ๋าฟันลาก่อนไปตั้ง 2 –3 ซี่…พ่วงด้วยแขนหักอีกข้างหนึ่งต่างหากทำให้ต้องเลื่อนการเดินทางโดยปริยายและเพิ่งไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง…ถึงมันจะเกินไปนิดแต่ผมก็สะใจในอารมณ์สุดๆถึงขนาดควักกระเป๋าเหมาเบียร์มาลังหนึ่งยกให้เป็นของรางวัลตามด้วยเงินจํานวนหนึ่งให้ไปซื้อกับแกล้มแบบไม่อั้นนั่งเลี้ยงฉลองด้วยกันและมีทิ้งท้ายว่าคราวหลังผมอาจขอใช้บริการอีก…พวกมันก็รีบขานรับยินดีเต็มที่ขอให้บอกมาได้ทุกเมื่อ…น่าจ้างมาคุ้มกันตัวเองนะเนี่ย…ผมนั่งยิ้มขำคนเดียวขณะจิบเบียร์แก้วสุดท้ายดูสาวนั่งตู้ไปพร้อมๆกันและก็เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวปอนๆอายุคงราว 3 – 4 ขวบเดินเล่นอยู่ไม่ห่างมากนัก…ทำไมดึกป่านนี้ยังมีเด็กอยู่และพ่อแม่ไปไหนซะล่ะ?…กะลุกไปถามอยู่แล้ว…
“มาทางนี้ลูก!!…อย่าไปเล่นซนที่ไหนนะ”
…ผู้หญิงวัยประมาณสัก 30 ต้นๆออกจากตู้กระจกมาหาเด็กคนนั้น…สงสัยคงเป็นแม่…เอ…เป็นหมอนวดแต่พาลูกมาทำไม?…สถานที่แบบนี้ไม่ควรพาเด็กมาแถมลูกเขาจะคิดยังไงถ้ามีแม่ทำอาชีพขายบริการยิ่งคิดผมยิ่งสนใจแม้ว่ารูปร่างหน้าตาผิวพรรณของผู้หญิงคนนั้นไม่ถึงขั้นสวยเด่นน่าดึงดูดใจแขกอะไรมากมาย…เป็นไปตามแบบหญิงสาวชาวบ้านทั่วๆไปคือไม่อ้วนไม่ผอมสีผิวออกจะคล้ำแถมไม่ค่อยแต่งหน้าทาปากอีกต่างหาก…การแต่งกายก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาวธรรมดาๆนี่เองผิดกับหมอนวดคนอื่นๆเขาจะแต่งชุดสั้นๆโป๊ๆเพื่อดึงดูดใจนักเที่ยวกันและสไตล์นี่แหละคือแบบที่ไอ้เชนมันชอบนักชอบหนา…ผมดื่มเบียร์หมดแก้วก็กวักมือเรียกเชียร์แขกมาคุยเกี่ยวกับหมอนวดคนนี้ประมาณ 2 – 3 คำพอรู้รายละเอียดคร่าวๆว่าเธอชื่อ “ภรณ์” เพิ่งมาทำงานได้ไม่นานและไม่ค่อยมีแขกเรียก…ดีสิ…เครื่องเพศคงยังไม่ถูกใช้งานมากและไม่ค่อยอยากเรียกหมอนวดรูปร่างหน้าตาสวยๆเพราะต้องโดนแขกเรียกบ่อยซึ่งอะไรๆมันก็จะไม่กระชับแน่นถึงใจเท่าที่ควร…ผมนั่งดูขนาดหน้าอกซึ่งออกจะเล็กไปนิดและรูปร่างทรวดทรงองค์เอวของเธออีกสักพักหนึ่ง…น่าจะพอใช้ได้นะถึงแม้ตัวหล่อนจะเตี้ยกว่าผมมาก…สุดท้ายก็ตกลงใจจะอาบน้ำ(รู้กันดี)และต้องการเรียกหมอนวดคนนั้นมาใช้บริการ…ตอนเชียร์แขกขานเบอร์ดูเหมือนเธอทําหน้าแปลกใจนิดๆแต่ก็รีบสะพายกระเป๋าเดินออกมายกมือไหว้…อู้ย…อายุต้องมากกว่าผมแน่ๆจะให้คนมีอายุมากกว่ามาไหว้ได้ยังไงถึงรู้ว่ามันเป็นข้อระเบียบของที่นี่ก็ตาม?…ส่วนไอ้เชนมันเรียกหมอนวดสาวสวยหุ่นเช้งกะเด๊ะเข้าห้องไปด้วยกันได้สักครู่ใหญ่แล้ว…เสร็จกิจออกมาทีนี้มันต้องเป็นฝ่ายนั่งรอผมบ้าง…หึๆๆ…ทีแรกตั้งใจว่าจะไม่อาบน้ำยามดึกแล้วเชียวแต่เป็นเพราะคุณแม่หมอนวดคนนี้…หลังจากจ่ายเงินเหยียบพันบาท…แม่บ้าน(มั้ง)ก็เดินนำหน้าเราทั้งคู่เข้าไปในห้องๆหนึ่ง…ภายในมีอ่างอาบน้ำสีขาวนวล…เตียงปูผ้าที่นอนสีขาว…พื้นห้องปูด้วยพรมสีแดง…ชุดโซฟา…ทีวีตั้งบนโต๊ะกำลังฉายหนังเอ๊กซ์…กระจกติดผนังห้องรอบทิศไม่เว้นกระทั่งเพดานก็ยังมีติด…แม่บ้านเดินไปเปิดน้ำลงอ่างและวางขวดเหมือนเป็นน้ำยาอะไรสักอย่างพร้อมผ้าขนหนูจากนั้นก็เปิดประตูออกไป…หมอนวดสาวล๊อคลูกบิดเสร็จเข้ามานั่งข้างๆสบตายิ้มหวานจับมือจับแขนผม…มันตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ…ถึงจะเคยนอนกับผู้หญิงมาหลายครั้งแต่นี่มันเป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวอาบอบนวด…มาแก้ผ้านาบตัวกับหมอนวด…
“พี่ชื่อภรณ์จ้ะ…ไม่คุ้นหน้าเลยนะ…เพิ่งมาเที่ยวใช่มั้ยเอ่ย?”
…พี่ภรณ์คุณแม่หมอนวดถามพลางบีบมือบีบนิ้วเหมือนช่วยนวดเพื่อให้หายตื่นเต้นซึ่งผมก็ผ่อนคลายสบายใจลงไปมากเธอถามต่อไปว่าสั่งอะไรมาดื่มมั้ย?…จะได้โทรสั่ง…ผมบอกไม่ต้องเพราะดวดเบียร์มาขวดหนึ่งเต็มๆแล้ว…อารมณ์คะนองกำลังคึกได้ที่…
“จะว่างั้นก็ได้ครับ…แต่ผมไม่ได้เพิ่งมีอะไรกับผู้หญิงและอยากมาขึ้นครูหรอกนะ…พอดีนึกอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
…ผมตอบไปด้วยความมั่นใจมากขึ้นขณะโอบแขนดึงตัวภรณ์เข้ามาใกล้…
“แล้วนึกยังไงถึงเลือกพี่ล่ะ?…นี่พี่ก็ไม่ได้สวยเลิศอะไรเลยนะ…ขี้เหร่ด้วยซ้ำ”
“ผมลองผู้หญิงสวยๆมามากมันก็อยากเปลี่ยนรสชาติบ้างสิครับแต่พี่ก็น่ารักใช่ย่อยซะที่ไหนไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรสักหน่อย”
“แหมๆๆ…พูดจาหวานจ๋อยแต่แรกเชียวนะ…ฮิๆ…สงสัยคราวนี้เจอเสือผู้หญิงตัวยง…อยากรู้จริงๆว่าจะเด็ดขาดสักแค่ไหน…เมื่อหัวค่ำนี้เจอลูกค้าหนุ่มใหญ่พี่ยังอารมณ์ค้างอยู่เลยนะบอกซะก่อน”
…เป็นอย่างที่เธอพูด…พี่ภรณ์พูดจบก็จับผมนอนและก้มโน้มตามลงไปจุมพิตแก้มขณะมือทำหน้าที่ปลดกระดุมเสื้อแผ่บานออกแลบลิ้นจูบเลียหัวนมและกล้ามเนื้อแผ่นอกโดยทั่วจากนั้นเลื่อนขึ้นมาประกบปากจูบเบาๆ…ไวไฟเหมือนกันนะ…ฝ่ายผมใช้มือบีบขยำบั้นท้ายตอบโต้พยายามปลดตะขอกางเกงยีนส์ของพี่ภรณ์จนหลุด…หมอนวดสาวรู้เข้าจึงเปลี่ยนท่ายกตัวโก้งโค้งมือรูดซิบดึงกางเกงออกไปเผยกางเกงในผ้าฝ้ายสีเทามีขนหมอยแลบออกมาทางด้านข้างของเป้า…ท่าทางจะขนเยอะแบบนี้ร่านดีนักแล…เธอจัดการกับท่อนล่างตัวเองเสร็จก็จัดการกับท่อนล่างของผมบ้างกางเกงตัวนอกและกางเกงตัวในถูกภรณ์ถอดออกไปอย่างรวดเร็ว…ท่อนเนื้อขยายพองตัวใหญ่ตอบรับหญิงสาวซึ่งกำลังมองมันด้วยความสนอกสนใจมากๆ…เมื่อถูกเพศตรงข้ามจ้องนานๆเข้ามันก็ผงาดแข็งตัวเต็มที่แถมยังสั่นหัวหงึกๆ…
“ไม่ทันไรก็สั่นสู้ซะ…ท่าทางพยศนะเนี่ย…สงสัยต้องปราบให้อยู่หมัด”
…พี่ภรณ์เลื่อนตัวลงต่ำคว้ากระบอกควยนวดบีบด้วยท่าทางหมั่นเขี้ยวอยู่ครู่หนึ่งก็ค่อยกระทอกเร็วขึ้นใช้ปลายลิ้นไล่เลียไปตามขอบรอบๆหัวหยักเล่นเอาผมขนลุกซู่ผงกหัวมองหมอนวดผู้เจนจัดทํารักด้วยปากกับอาวุธของผม…นี่ยังไม่ทันจะอาบน้ำเลย…อะไรมันจะขนาดนี้?…
“พะ…พี่ภรณ์ครับ…ยอดมาก…อูยยยยยยยยยยยยยย”
“อาาาา…เรียกภรณ์เฉยๆก็ได้นะ…เพิ่ง 28 เองจ้ะ”
“โอ…ผมก็เพิ่ง 19…อ้า”
…เดาผิดไปหน่อย…ผมนึกว่าเธออายุ 30 แล้ว…โอ้…ภรณ์เลียแลบควยของผมอย่างเต็มปากเต็มคอคราวนี้เธอกลืนมันเข้าไปเกือบหมดท่อนและต้องรีบคายออก…
“อุ๊บ!!…เกือบจะสำลักแน่ะ…ฮิๆ…รีบร้อนไปหน่อย…ไม่ได้เจอหนุ่มน้อยน่ารักซะนาน”
…ภรณ์ยิ้มแหยให้…สงสัยคงยังอารมณ์ค้างจากแขกคนก่อนเธอถึงกระหายใคร่จะดูดควยผู้ชายให้อิ่มเอมเต็มคราบ…ภรณ์เริ่มอมลึกเข้าไปอีกและผงกหัวขึ้นลงเร็วขึ้นผมก็เด้งกระดกควยรับตามจังหวะการดูดอันรุนแรงนั้น…ภรณ์ก้มหน้าดูดสลับเอ่ยปากชมอาวุธประจำตัวของผม…
“อาาาา…อืมมมมมม…ควยแข็งมาก…ขอดูดนานๆหน่อยนะ…ภรณ์จะบริการให้ถึงใจคุณเอง”
…ลีลาการอมดูดควยเธอทำให้ผมตัวเกร็งจนควยแทบพ่นน้ำเงี่ยน…สมเป็นมืออาชีพจริงๆ…ดีนะที่วันนี้พุ่งน้ำออกไปตั้ง 2 ครั้งจากสากับอ้อยคนละทีแล้ว…เหมือนว่าผมจะมีน้ำอดน้ำทนมากขึ้นแต่ก็เริ่มเจ็บพวงป๋องแป๋ง…ใช้งานมากไปล่ะมั้ง?…
“เรียกผมว่าบอลก็ได้ครับ…แต่แบบนี้ผมมีหวังแตกก่อนสิ…ยังไม่ได้อาบน้ำด้วย”
“อุ๊ย!!…ตายแล้ว!!!…ลืมสนิทเลยค่ะ”
…หมอนวดสาวร้องอุทานคายดุ้นเอ็นรีบลุกกระวีกระวาดไปปิดก๊อกในอ่างน้ำอุ่นขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก…น้ำเกือบล้นออกมานอกอ่าง…ยามที่ภรณ์ก้มตัวเทน้ำยาที่ผมมารู้ทีหลังว่าเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อผสมลงในอ่าง…พูก้นเธอสวยและก็เล็กกระทัดรัดดีแฮะ…ใช่สิ…ตัวหล่อนไม่ได้สูงอะไรมาก…น่าจะไม่ถึง 160 ซม.…หน้าอกก็เล็กกะทัดรัดแต่มันกลับช่วยเร้าอารมณ์ของผมให้คุกรุ่นไม่ยอมมอดง่ายๆอย่างน่าประหลาดแม้ว่าจะเทียบไม่ได้กับสาวๆที่เคยผ่านมาก็ตาม…หัวนมสีน้ำตาลเข้มเม็ดใหญ่ตามประสาผู้หญิงมีลูกมันทำให้อาวุธประจำตัวแข็งแกร่งชี้เด่…ผมเอาแต่ดูภรณ์ขณะกำลังถอดเสื้อผ้าตัวเองออกแบบไม่ยอมกระพริบตาจนเธอเห็น…
“บอลเอาแต่มองไม่ยอมถอดเสื้อผ้าแบบเนี้ยแล้วจะอาบน้ำได้ยังไงล่ะจ๊ะ…รีบเข้าเถอะอาบเสร็จจะได้มาล่อกัน…ภรณ์อยากเย็ดควยแทบแย่แล้ว”
…ผมได้ฟังก็รีบลุกถอดเสื้อออกไปจากคอคราวนี้ทั้งบนและล่างไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้น…ภรณ์เห็นก็ลอบแลบลิ้นเลียริมฝีปากแถมทำตาลุกวาวยิ่งกว่าเดิม…
“โอ้โห…ยังไม่ทันเย็ดควยก็ชี้ไม่ยอมหด…อยากขนาดนี้เชียว…อือ…ภรณ์เห็นแล้วเงี่ยนจัง”
…ภรณ์ปลดตะขอยกทรงสีเทาและดึงกางเกงชั้นในออกวางไว้ที่เก้าอี้หยิบกระเป๋าวางทับตามด้วยเปิดฝักบัวฉีดน้ำล้างตัวโดยเฉพาะเนินเนื้อกลางหว่างขาของเธอและฉีดน้ำล้างตัวผมเสร็จสรรพก็ก้าวขาลงในอ่างน้ำอุ่น…แบบนี้หรือที่เรียกว่าการอาบน้ำในอาบอบนวด…ภรณ์ก้าวตามลงไปอีกคนจับขา 2 ข้างของผมวางบนหน้าขาของเธอและเปิดฝักบัวฉีดสายน้ำรดตัวผมก่อนหยิบสบู่เหลวเทลงฝ่ามือลูบไล้ตั้งแต่หน้าอกขึ้นไปถึงหัวไหล่…แอบเขี่ยวนหัวนมนิดๆจากนั้นมือวกอ้อมไปข้างหลัง…ผมดึงตัวเธอเข้าโอบกอดคว้าจับหน้าอกขนาดย่อมๆประมาณผลส้มเช้ง…ถึงจะดูเล็กไปนิดแต่ก็บอกแล้วว่ามันเร้าอารมณ์ผมอย่างมากเพราะมันดูคล้ายคลึงกับนมเด็กสาวๆอย่างของน้องอ้อยและของเพื่อนๆเธอไงล่ะ…นั่นไง…ภรณ์เริ่มครางแล้ว…สยิวล่ะสิก็นิ้วผมเขี่ยบีบหัวนมเธออยู่น่ะ…ภรณ์ยังเทสบู่เหลวลูบไปตามร่างกาย…คราวนี้ยกตัวผมวางบนตัวเธอ…ในน้ำน้ำหนักของคนเราจะเบากว่าปกติ…ภรณ์จับกระบอกลำมาถูทำความสะอาดและฉีดล้างด้วยน้ำจนเอี่ยมแม้แต่พวงสวรรค์และง่ามก้นก็ถูกมือนุ่มๆป่ายเกาะไปถึง…ถัดมาภรณ์บอกให้ผมหันหลังเธอเอาสบู่มาละเลงที่หน้าอกตัวเองและโน้มตัวเข้ามาถูไถกับแผ่นหลังจนแลเห็นฟองจำนวนมาก…โอ้…อะไรมันจะนุ่มนิ่มสบายเนื้อสบายตัวแบบนี้…เนินเต้านมเล็กๆแสนเนียนนุ่มเสียดสีกับผิวกายแผ่นหลัง…หัวนมเม็ดโต 2 ข้างบดบี้ไปทั่วชวนให้ขนในกายทุกสัดส่วนลุกชันขึ้นโดยไม่ได้บังคับ…
“บอลไม่เคยมีสาวมาอาบน้ำให้แบบนี้สิท่า…ชอบมั้ยคะ?”
“ชอบมากครับ…ภรณ์เก่งจังเลย…”
…ใครว่า…เคยสิ…เก๋กับสาวอาบให้ตอนผมไปสวิงกิ้งกับพวกเธอที่บ้านน้าของเก๋ไงล่ะ (ภาค 1 ตอนที่ 11)
“ช่างชมซะจริง…งั้นภรณ์จะให้รางวัลนะคะ…”
…ภรณ์ให้ลุกยืนและฉีดน้ำล้างตัวผม…อยู่ๆก็ต้องตัวร้อนผ่าวเมื่อถูกฟันและลิ้นเปียกๆลื่นๆของหญิงสาวขบกัดเบาๆเข้าตรงติ่งใบหูและเลียไล่ลงมาจนถึงแก้ม…ภรณ์กอดผมอย่างแนบแน่นบดหน้าอกเบียดบี้กับแผ่นหลังเหมือนต้องการให้มันแหลกสลายลงที่นี่…แขนข้างหนึ่งลูบไล้กระทอกควยที่มันสงบไปแล้วกลับทะลึ่งพรวดแข็งตัวอีกครั้ง…มือเธอบีบเอ็นควยหนึบแน่นและรูดมันจนตัวผมงอ…ผมเองก็ยื่นมือลูบคลำหีเธออย่างสนุก…ภรณ์ครางเบาๆตลอดเวลาและพ่นลมหายใจใส่หูกระซิบเบาๆช่างชวนให้วาบหวิวในอารมณ์…
“ได้ที่แล้วนิน้า…ไปต่อบนเตียงกันเถอะ…นี่ค่ะผ้าเช็ดตัว…”
…ผมขึ้นจากอ่างรับผ้าขนหนูมาจากคุณแม่หมอนวดมาเช็ดตัวอย่างเร็วเพราะมันเริ่มรู้สึกหนาว…ภรณ์ยังยืนในอ่างถือฝักบัวฉีดน้ำทำความสะอาดร่างกายตัวเองโดยเฉพาะหน้าอก,ก้นและบริเวณอวัยวะเพศดูจะเน้นล้างเป็นพิเศษ…เช็ดตัวเสร็จเธอก็นุ่งผ้าขนหนูผืนสั้นตามมาที่เตียงผมนอนรออยู่แล้ว…ไม่มัวรออะไรกันอีก…ภรณ์ดึงผ้าเช็ดตัวทั้งของผมและของเธอออกทิ้งและก้มตัวคลาน 4 ขาจูบหัวควยเริ่มอมดูดต่อจากเมื่อกี้…ผมสวนท่อนลำกระทุ้งปากหญิงสาวช้าๆเบาๆ ภรณ์รีบอ้าปากอมแท่งแข็งท่อนนี้ไว้โดยไม่ยอมให้ฟันไปกระทบโดนผิวควยส่วนมือเล็กๆของเธอบีบจับฐานโคนควยไว้อีกด้วยจากนั้นเธอก็กระตุกควยดูดเข้าดูดออกอย่างแรง…ผมตัวงอเป็นกุ้งส่ายหน้าใช้ 2 มือยึดหัวหมอนวดสาวไว้…
“โอววว…ยอดมาก…ภรณ์ดูดได้สุดยอดไปเลย…อูยยยย”
…ยิ่งผมร้องครางด้วยความเสียวแต่เธอเหมือนจะยิ่งชื่นชอบมากตั้งหน้าตั้งตาดูดรูดจนสุดลำควยโดยเฉพาะหัวหยักมันโดนปลายลิ้นและเรียวปากโจมตีอย่างหนักหน่วงทั้งโดนเลีย…โดนแตะ…โดนดูด…โดนละเลงไซร้ไปรอบๆ…ภรณ์แสดงฝีมือของตัวเองอย่างเต็มที่…
“อืมมมม…อือออออ…จ๊วบบบบ”
…ภรณ์ถอนหายใจออกมาทีหนึ่งและแลบลิ้นเลียควยต่อ…เวลาผ่านไปไม่นานดูเหมือนหล่อนจะพอใจกับความแข็งแกร่งในอาวุธประจำตัวของผมที่ทนต่อการเล้าโลมจากเรียวปากและลิ้นน้อยๆแต่ว่องไวเหลือหลายของเธอได้…เห็นน้องสาวตัวน้อยของภรณ์แล้วอยากจูบอยากเลียมันขึ้นมาทันควัน…ภรณ์รู้ความต้องการของผมก็ขมวดคิ้วถาม…
“จะเลียของภรณ์หรอ?…ที่นี่ปกติมีกฏว่าหมอนวดต้องไม่ให้ลูกค้าเลียหีหรอกนะแต่เอาเถอะจ้ะ…สำหรับบอลภรณ์ยกให้…นอนแอ่นหีให้หนุ่มๆเลียสักทีก็ดีเหมือนกัน”
“โอ้…งั้นภรณ์นั่งคร่อมให้ผมเลียดีกว่า…ผมจะเลียให้ถึงใจสุดๆ…รับรอง”
“พูดแล้วต้องทําให้ได้นะ…เอ้า!!!”
…ภรณ์นั่งคุกเข่าจ่อรูหีที่ปากผมดูท่าทางเธอจะยังอายๆอยู่…พอผมมองสบตาด้วยก็ยิ้มเขินหลบหน้าไปทางอื่นแต่จับหัวผมยกเงยขึ้นเข้าหารูเสียว…ผมจับขาของภรณ์แหกกว้างออกจากกันไปอีกจัดการเริ่มจูบเม็ดแตดและกลีบสวาทรอบๆเล่นเอาหมอนวดสาววัย 28 ครางอู้สะดุ้งเฮือกหายใจแรงขึ้น…ผมจูบรูหีปูพรมไปทั่วสลับแลบลิ้นสะกิดจงอยติ่งจนมันเริ่มขยายตัวใหญ่อวดโฉมออกมา…
“อ๊าาาา…เสียว…สะ…เสียวจัง…นานเท่าไหร่แล้วนะ…ที่ไม่โดนใครเลียหีให้…เก่งมากค่ะบอล…ซี้ดสสสสสส…อื๊ออออ…อูยยย”
…ส่วนตัวผมคิด…ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องชอบให้ผู้ชายเลียหีดูดแตดแทบทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่หมอนวดเพียงแต่กลัวว่าจะติดโรคจึงไม่ยอมให้ลูกค้าทำ…ทั้งที่ใจก็คงอยากให้เลียหรือบางทีลูกค้าอาจกลัวซะเองก็ได้…
“อือ…หีภรณ์อุ่นดีจัง…อยากให้ควยเข้าไปเร็วๆ…โออออ”
…ผมเหลือบดูกระจกใกล้เตียงมันสะท้อนใบหน้าที่แสดงออกถึงความสุขของภรณ์…มือเธอเกร็งบีบหน้าอกตัวเองอย่างขะมักเขม้น…ใบหน้าเหยเกร้องครวญครางแบบได้อารมณ์สุดๆ…
“อูวววววว…เดี๋ยวๆ…เลียให้ภรณ์นานๆเถอะ…ดูดเม็ดแตดด้วย…โอวววว…ยอดจริงๆ…บอลเลียเก่งจัง…อ๊ายยย”
…หมอนวดสาวกดแนบเนื้อช่องหีลงมาทับปากผมจนมิด…ขนหมอยแทงเข้ารูจมูกจนเกิดรู้สึกคันแต่ต้องกลั้นไว้…ภรณ์เอามือกดหัวผมซะจนเงยหน้าไม่ได้และลิ้นก็ได้สัมผัสความหอมหวานจากเมือกลื่นที่รูสวาทขับออกมา…ถึงจะเป็นน้ำเสียวของหญิงบริการแต่ผมก็ไม่รู้สึกรังเกียจ…กลับเลียกินมันเข้าไปทุกหยด…ร่างสาวคู่ขาพยายามบดส่ายหนีเพราะชักทนความเสียวซ่านต่อไปไม่ไหวแต่มือผมบีบแก้มก้นของเธอกดล็อคไว้แน่น…หมดสิทธิ์ดิ้นหนีและจี้นิ้วกดรูตูดภรณ์เบาๆ…โดนไม้นี้เข้าคุณแม่หมอนวดร้องครางลั่นห้องและร่างเธอทั้งร่างก็กระตุกเกร็งซึ่งผมรู้ดีว่ามันเพราะอะไร…
“ซีดสสส…นะ…น้ำภรณ์ออกแล้ว…อูยยยยย…บอล…สุดยอดด…อือออออ”
…ภรณ์พลิกขยับตัวไปนอนหอบข้างๆ…หน้าของเธอมีแต่เหงื่อผุดเต็มแต่ก็มีรอยยิ้มแห่งความสุข…
“แบบนี้สิถึงใจดี…ที่เคยเจอมาให้ภรณ์อมแล้วก็เอาใส่รู…พอน้ำแตกก็จบแถมบางคนออกเร็วมากทำให้ภรณ์อารมณ์ค้างไปก็หลายครั้ง…อย่างนั้นมันไม่สนุกเลยสักนิดเดียว”
“เซ็กส์มันต้องแบบนี้แหละครับ…และภรณ์พร้อมจะให้ผมเย็ดหรือยัง?”
…ภรณ์ไม่ตอบแต่พลิกตัวดูดควยเป็นคำตอบ…ผมหลับตานอนหงายให้เธอดูดแท่งอย่างเพลิดเพลินใจแต่พอรู้ตัวอีกทีควยก็มีถุงยางห่อหุ้มเรียบร้อยแล้ว…ผมแทบไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ยว่าโดนหล่อนเอาเสื้อกันฝนใส่ให้ตั้งแต่เมื่อไหร่?…
“ภรณ์ขอนอนแหกหีให้ก่อนละกัน”
…โฮ่?…คงอยากดูฝีไม้ลายควยของเราล่ะสิ…ผมคิดและจับท่อนควยจ่อลงปากรูหีของภรณ์แล้วดันเข้าไป…หมอนวดสาวหรี่ตาข้างหนึ่งลงสูดปากครางเบาๆ…
“อื้มมมม…เข้าง่ายดีใช่มั้ยล่ะ…เพราะลิ้นบอลร้ายกาจจริงๆ…คิกๆ…อือออ…อืมมมม…นะ…นั่นแหละ…เข้ามาลึกๆ…อูยยยย”
…ความหล่อลื่นในช่องเสียวของภรณ์ยามนี้มันทำให้ผมเสือกไสท่อนลำลึกเข้าไปจนมิดลำ…พอชักออกมาผมก็เห็นน้ำหล่อลื่นสีขาวเยิ้มเปื้อนจับที่ผิวถุงยาง…กลิ่นอันยวนยั่วของมันทำให้ผมสอดใส่เข้าไปใหม่คราวนี้กดแช่นิ่งแล้วโน้มตัวลงประกบปากจูบภรณ์หลับตาพริ้มเผยอปากรับรสจูบอย่างนุ่มนวลส่วนท่อนล่างก็กระเด้าเข้าออกๆวนเวียนอย่างนี้เรื่อยไป…ผมถอนปากจูบและก้มลงวนเลียหัวนมทีละข้างสลับกัน…ภรณ์ถอนหายใจหนักๆโอบรัดตัวผมๆก็ออกแรงกระเด้าเร็วขึ้นๆจนกระแทกกับมดลูกดังกึกๆ…
“อ๊าาาาา…ภรณ์เสียว…อูยยยย…แบบนี้แหละคะ…บอลเย็ดแบบนี้ภรณ์ชอบ…อ๊อยยยย…เบาๆหน่อยสิคะ”
…ผมรู้ว่าควยมันต้องคับแน่นเต็มรูหีของภรณ์เพราะร่างของเธอเล็กบอบบางและควยผมก็ใช่ย่อยซะที่ไหนมันต้องมีเจ็บกันบ้าง…มือภรณ์บีบขยุ้มผ้าปูที่นอนหลับตาปี๋ครางโอดแต่ก็ไม่บอกให้ผมหยุดโยกเอว…ภรณ์หน้านิ่วคิ้วขมวดเกร็งฟันหลับตาหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกหนอกเนื้อ…ยิ่งดูกระจกแล้วเย็ดไปด้วยยิ่งได้อารมณ์กามอร่อยดีแท้…
“อุ…เปลี่ยนท่าหมานะภรณ์”
…ผมถอนควยออกแลเห็นรูหีอ้าบานและมีหยาดน้ำเสียวไหลตามมา…หมอนวดสุดน่ารักได้ยินก็จัดแจงโก้งโค้งตูดโชว์แคมหีปลิ้นมาข้างหลัง…ภรณ์เหลียวหน้ามองและก็ส่ายก้นยั่ว…
“ทะ…ท่านี้ภรณ์ก็ชอบ…ควยมันเข้าหีลึกดี…อา…เย็ดมาสิค่ะ…ตอนนี้ภรณ์สนุกที่สุด…ซีดสสส”
…ผมประคองกดหัวควยเข้ารูและเริ่มกระเด้าช้าๆภรณ์ร้องผวาครางดังออกมาผมตั้งใจซอยควยกระเด้า จนร่างสาวน้อย(มั้ง)สั่นเทิ้มไปทั้งตัวสะโพกกลมกลึงส่ายไปมาไม่ยอมหยุดพยายามบดรูหีสู้เหมือนกันคราวนี้ผมไม่กลัวว่าภรณ์จะร้องเจ็บอีกจัดการโหมแรงส่งท่อนควยตะบันโพรงหีอย่างรวดเร็วจนไม่น่าจะมองได้ทัน…เนื้อต่อเนื้อกระทบกันปั๊บบบดังสนั่นไปทั่วบริเวณแข่งกับเสียงหนังลามกในทีวี…
“อาวส์สสส… บอลเย็ดแรงๆ…อูยยย…อะไรมันจะยอดอย่างนี้…อืออออออ…เสียวสุดๆ…อูวววว…กะ…ใกล้แล้ว…ภรณ์จะหลั่งอีกแล้วค่ะบอล…โอยยยยย”
…ภรณ์สะบัดเส้นผมไปมา…มือไม้ปัดป่ายหมอนจนกระเด็นตกจากเตียง…บ้างก็ขยำผ้าปูจนยับยู่ยี่…บ้างก็ตบก้นตัวเองเรียกร้องให้ผมเย็ดหีเธอให้หนักหน่วงไปกว่านี้อีก…ภรณ์ก้มลอดหว่างขามองโคกหีกลืนควยจนบวมปลิ้นของตัวเองและร้องครางอย่างสุดสยิว…ถ้ามองกระจกจะรู้ว่าเธอร่านสุดๆทั้งเด้งก้นส่ายเอวร่อนไปร่อนมาต่อสู้การเย็ดของผมแบบลืมเป็นลืมตายทีเดียวและที่ผ่านมาทั้งหมดเรา 2 คนไม่ได้สนใจหนังเอ๊กซ์เลยว่ามันเป็นไปยังไงบ้างเอาแต่เย็ดกันลูกเดียว…แสดงเองมันส์กว่าเยอะ…
“โอ้ยยย…ภรณ์จ๋า…ผะ…ผมจะไม่ไหวแล้ว…หีภรณ์รัดควยมากเลย…โอ้ววววว…จะ…จะออกแล้ววว…อีกนิดเดียว…ฮึ่ยย”
…ภรณ์เองก็สุขเสียวไม่แพ้ผมเธอเหลียวศีรษะมามองหรี่ตาปรือเยิ้มแก้มแดงซ่านไปถึงหู…
“พะ…ภรณ์ก็ใกล้แตกแล้ว…เร็วๆเข้า…อ๊าาาาา…เร็วๆขึ้นอีก…เอาอีก…อึ๊ยยยย”
“…อูยยยย…ภรณ์…บอลทนไม่ไหวแล้ว…น้ำควยจะแตกแล้วววว…ขอแตกใส่หน้าภรณ์นะจ๊ะ”
“ดะ…ได้…อาาาา…ทะ…ทนอีกนิดค่ะบอล…ภรณ์ก็จะออกแล้ววว…โอ้ยยยย…ไม่ไหววว…ทนไม่ไหวแล้ว…โอวววว…น้ำออกแล้วววว…อื๊ออออออ”
…ภรณ์ร้องได้แค่นั้นก็ทิ้งตัวนอนซบบนที่นอน…เกร็งรูหีบีบตัวขับน้ำเสียวชะโลมควย…มันร้อนฉ่าอยู่ภายในช่องหีจนรู้สึกได้ชัดเจนแม้จะใส่ถุงยางหุ้มก็ตาม…ผมรีบชักควยจากร่องสวาทดึงถุงยางออกเอาท่อนเอ็นไปจ่อหน้าของหมอนวดคุณแม่ยังสาว…ภรณ์เอี้ยวใบหน้าหลับตาพริ้มรอรับอยู่แล้ว…ผมซีดส์ปากมือกำชักกระทอกควยไม่กี่ทีมันก็พุ่งน้ำกามปะทะกับใบหน้าสาวคู่ขาเต็มแก้มเต็มจมูกบ้างก็ไหลย้อยติดริมฝีปาก…มันยังกระฉูดน้ำออกมาเป็นชุดๆบางทีกระเด็นไปติดที่เรือนผมและหน้าผาก…ผมหมดแรงล้มนั่งหายใจหอบ…ภรณ์หยิบทิชชู่มาเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองก่อนเช็ดแท่งรักซึ่งอ่อนตัวพับไปแล้วจากนั้นพลิกตัวโอบกอดเอ่ยชมไม่ขาดปากถึงแม้เธอจะเหนื่อยอ่อนเช่นกันแต่ก็มีแววแห่งความสุขสันต์ไม่ต่างกับผมเท่าไหร่เลย…
………………………………………………………………………………………………………

…เรา 2 คนชำระร่างกายล้างตัวเสร็จเรียบร้อยก็พามานอนเปลือยกายกอดคุยกันบนเตียงตามเดิม…ภรณ์เล่าอะไรให้ผมฟังหลายอย่างหนึ่งในนั้นคือเรื่องสามีของเธอ…
“ผัวของภรณ์ตายไปแล้วทิ้งให้ภรณ์เลี้ยงลูกเพียงคนเดียวตั้งแต่ยังเล็ก…อยู่บ้านเช่าก็ปล่อยเอกไว้คนเดียวไม่ได้ต้องพามาด้วย”
…เอ๊ะ?…เอก…นั่นชื่อลูกชายเธอหรือ?…ผมสงสัยจึงถามภรณ์แถมได้รู้ชื่อจริงของเธออีกซึ่งมันทําให้ผมตกใจ…ลูกชายวัย 4 ขวบชื่อเอกชัยแต่ภรณ์มีชื่อจริงว่า…
“ภรณ์ชื่อจริงชื่อ…รัญภรณ์หรือครับ?”
“ใช่จ้ะ…ทำไมหรือ?…ชื่อไปเหมือนกับชื่อแฟนของบอลหรือไงเอ่ย?”
…อุ…ไม่ใช่แฟนแต่ “รัญภรณ์” เป็นชื่อจริงของคุณแม่ที่เสียไปนานหลายปีแล้วต่างหาก…ผมรีบตอบปฎิเสธ…อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้…ชื่อมีตั้งเยอะแยะแต่ชื่อดันมาเหมือนกับแม่ผม…
“ปะ…เปล่าครับ…แต่ว่า…ภรณ์คงลำบากแย่…แล้วทำมานานแค่ไหน…สมัครใจทำเองหรือครับ?”
“เพิ่งมาทำเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง…เมื่อก่อนเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยแต่ได้เงินแค่ไม่กี่พันเงินไม่พอใช้จ่ายทั้งค่าเช่าบ้านค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่าอยู่…พอดีเพื่อนที่เป็นหมอนวดมาก่อนชวนมา…เฮ้อ!!…ยังไงซะเพื่อชีวิตของลูกก็ต้องยอมทำนี่จ๊ะ…บอลคิดว่าภรณ์สิ้นคิดถึงขนาดยอมทำอาชีพขายตัวหรือเปล่า?”
…ผมฟังแล้วก็สงสารภรณ์อยู่ในใจ…เธอต้องยอมทำอาชีพที่มีแต่คนดูถูกเหยียดหยามเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและลูก…ถ้าให้เลือกได้เธอต้องไม่ยอมมาทำอาชีพขายร่างกายเพื่อแลกเงินหรอก…ผมคว้าตัวภรณ์มากอดและพูดปลอบใจ…
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยสักนิด…คนเราทุกคนต้องมีความจำเป็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง…ไม่มีทางจะมาสุขสมหวังเลือกทางที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ในทุกเรื่องหรอกครับ”
…ภรณ์ซบหน้ากับอกนิ่งเงียบไปพักก่อนตอบด้วยเสียงเหมือนจะร้องให้…เธออาจดีใจที่มีคนมาเข้าใจในความจำเป็นของตัวเอง…
“อื้อ…ไม่ได้คิดจะทำตลอดไปหรอกนะเพราะร่างกายมันก็ต้องเปลี่ยนแปลง…อายุก็ต้องมากขึ้น…ภรณ์คิดรวบรวมทุนสักก้อนอยากเปิดร้านขายอะไรก็ได้…อาหารก็ทำเป็น”
“ดีสิครับ…ถึงเวลานั้นผมจะไปอุดหนุนด้วย”
“คิกๆ…พูดถูกใจภรณ์อีกแล้วนะ…ดีใจที่มีคนเข้าใจภรณ์…งั้นมาต่อกันอีกรอบมั้ยจ๊ะ?”
…ภรณ์รีบลุกนั่งมือคว้าจับควยผมกระทอกอีกครั้ง…จะไหวหรือเปล่าเนี่ย?…ถ้ามีต่ออีกนี่ก็ยกที่ 4 แล้วนะ…หนักหนาเอาการเลยวันนี้แต่เงินผมไม่พอแล้ว…
“อ่า…เงินผมไม่เหลือแล้วครับ…ติดตัวแค่ร้อยกว่าบาทเอง”
“ไม่ใช่จ้า…หมายถึงเรามาเย็ดกันต่อให้เวลามันหมดไปเลยต่างหากหรือว่าบอลสู้ไม่ไหว…คิกๆ”
…โห…ท้าทายกันเห็นๆ…แบบนี้จะยอมเสียเกียรติของลูกผู้ชายได้ยังไงกัน…ถึงควยจะหักคาหีก็เอาล่ะวะ…เป็นไงเป็นกัน…
“ผมยังมีแรงเหลือเฟือพอเอาควยทิ่มหีภรณ์อีกยกแน่ๆ…ท้ากันแบบนี้ต้องโดนเย็ดให้หีบาน”
“เอาซี่…โดนเย็ดจนหีบาน…ภรณ์ชอบอยู่แล้ว”
…ภรณ์เปลี่ยนท่าเป็นนอนหงายยิ้มเม้มปากมือ 2 ข้างหนุนท้ายทอยตั้งเข่าถ่างขาแหกแคมหีรอพร้อมส่งสายตาอันเย้ายวนรอยยิ้มพิมพ์ใจแคมสวาทแดงสดบานอ้ารูต้อนรับ…ผมตรงเข้าบรรเลงเพลงยุทธใต้สะดือโดยในยกนี้ขอไม่สวมถุงยางแต่เอาน้ำควยออกข้างนอก…ผลลัพธ์คือตกเป็นฝ่ายโดนภรณ์แสดงฝีมือหมอนวดมือใหม่ขย่มควยซะเตียงลั่นสนั่นไหว…ตัวงี้แทบติดสนิทกับเตียง…คืนนี้สุดจะโชคดีได้เย็ดเบิ้ลคุณแม่หมอนวดยังสาวผู้แสนใจดีแต่ผลที่ตามมามันทำให้แทบหน้ามืดเดินโผเผออกไปเจอหน้าไอ้เชน…มันเห็นเข้าก็หัวเราะแซวผมยกใหญ่…
“ไหนบอกจะไม่อาบน้ำไงวะไอ้นี่…ปล่อยให้กูนั่งรอซะนาน”
“กูก็เงี่ยนเป็นนี่โว้ย…เรื่องไรจะยอมนั่งแกร่วอยู่คนเดียววะ”
“เข้าใจๆ…เอ…ท่าทางมึงจะเล่นจนหมดเวลาเลยนะ…เบิ้ลล่ะสิท่า?”
…ผมนิ่งไม่ตอบเพราะคิดว่าเพื่อนรักตัวนี้ต้องรู้คำตอบดีอยู่แล้ว…มันพาออกไปกินข้าวต้มรอบดึกในตลาดโต้รุ่งใกล้ๆโรงแรม…ที่นี่ผมก็เจอภรณ์กับเอกลูกชายของเธอมาซื้อของกินด้วยและเหมือนว่าจะกลับบ้านกันผมเลยขออาสาไปส่งทั้ง 2 แม่ลูก…เธอบอกขอบคุณและปฎิเสธ…
“ขอบคุณค่ะแต่บ้านภรณ์อยู่ใกล้ๆนี่เองไม่เป็นไรหรอก…วันหลังมาใหม่นะคะ…แบบบอลน่ะภรณ์ชอบ”
…ประโยคสุดท้ายภรณ์กระซิบให้รู้กันแค่ 2 คน…พอเธอจูงลูกชายเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มไอ้เชนรีบกระซิบถามผมทันที…
“นี่มึงเก่งขนาดหมอนวดยังติดใจเลยหรือเนี่ย?”
“มึงคิดว่ากูเป็นใครล่ะ?”
“เออ…มึงมันแน่ไอ้เสือผู้หญิง…กูไม่สงสัยอะไรแล้ว”
…ผมแสยะยิ้มรับคำชมทั้งที่ในใจไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ขณะนั่งคิด…ผู้หญิงคนนี้ชื่อเดียวกับคุณแม่ “รัญภรณ์” เพราะเธอชื่อเหมือนแม่มั้งผมถึงได้รู้สึกถูกชะตากับหมอนวดสาววัย 28 คนนี้ตั้งแต่แรกเห็นยอมเสียเงินเฉียดพันเพื่อไปขึ้นสวรรค์กับเธอในสถานอาบอบนวดของโรงแรมหรูระดับ4 ดาวใจกลางเมืองยามค่ำคืนที่ไม่มีวันหลับไหล…ชั่วโมงครึ่งผ่านพ้นมันช่างดูเหมือนยาวนานเหลือเกิน…
………………………………………………………………………………………………………

27 มิถุนายน 2548

วันนี้ผมกะกลับหอขอนอนก่อนไปทำงานสักงีบเพราะเมื่อวานทั้งวันและเกือบค่อนคืนสูญเสียเรี่ยวแรงไปเยอะ(สูญเสียอย่างอื่นด้วย)…มือถือดัง?…ไม่น่าจะใช่พี่แก้วเพราะนึกไม่ออกว่าจะโทรมาทำไมและยังไม่กลับมาจากบ้านแต่วันนี้มีพี่จ๊อดมาช่วยดูแลร้าน…ผมหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อออกมาดู…นึกว่าใครคนไหน…เป็นน้องหนูคนเก่งนี่เองจะโทรมากวนประสาทอะไรอีก…
“มีอะไรล่ะถึงโทรมา?”
“ยู้ฮู~~!!!…ฮ่า–ฮ่า–ฮ่า–ฮ่า!!!!…ตัวเองล่ะเก๊าะทำเสียงดุไปได้…เค้ามาดีหรอกจ้า”
“ฮึ!!…ฝน…เธอหัวเราะได้น่าเกลียดไม่เปลี่ยนจริงๆ…เวลานี้มันเวลาร้องเพลงเชียร์ไม่ใช่หรือไง?”
“พักเบรคอยู่จ้า…โอ๊ะ!!…แต่มานไม่สําคัญอารายนิ…นี่ๆๆ…ฝนถามอะไรบอลอย่างหนึ่งดิ…สงสัยมานานแล้ว”
“เออๆ…เธออยากถามอะไรก็ถามมาเร็วๆ…เดี๋ยวฉันไม่ว่างจะรีบไปทำงาน”
“ถ้างั้น…ฝนจะถามจริงๆและบอลต้องตอบจริงๆนะ…วันอาทิตย์วันนั้นบอลคิดจะทำอะไรฝนหรอ?”
…หา!!!!…อึ๊ก…อึ๋ย!!…ยัยนี่?…ไม่เคยฉุกคิดสักนิดเดียวเลยว่าฝนจะถามถึงเรื่องนี้…เอาละสิ…สมองมันคิดอะไรไม่ออก…ยังไงซะต้องรีบหาคำพูดตอบกลบเกลื่อนให้ด่วนจี๋แต่ทำไมเสียงตัวเองสั่นเหลือเกินวะ?…
“กะ…ก็…เธอแกล้งฉันก่อนนี่…ตะ…ตอนนั้น…ฉันว่าจะ”
“โฮะ??…ว่าจะ…จาอารายก๊าน??…อ๋า!!!…หรือว่า…บอลคิดจะปล้ำฝนใช่มั้ย??…กรี๊ดดด!!!”
…เอื๊อก…ทิ่มแทงใจดำเต็มๆ…ไม่…ไม่ใช่…ผมไม่ได้คิดทำแบบนั้นกับสาวน้อยลูกพี่ลูกน้องคนนี้…
“เฮ้ย!!…ร้องแหกปากทำไม?…มะ…ไม่ใช่นะ…พูดจาเหลวไหลเรื่องอะไรฉันจะปล้ำเธอกัน…คิดยังไม่เคยคิด”
“แน้ๆๆ…อย่ามาทำปากแข็ง…ไม่เชื่อๆๆ…จุ๊ๆๆ…เงียบไปๆๆ…เงียบ!!…บอลจะอดใจได้อย่างไรก็ในเมื่อฝนน่ารักออกขนาดนี้…ห้ามเถียงว่าไม่จริงนะ…ฮิๆ”
“ยัยเขี้ยวปิศาจ!!…หลงตัวเองซะไม่มี…เออ!!…ไม่เถียง…แต่ก็ยังห่างไกลจากพี่สาวของเธอ…”
“ง่ะ!!…ใช่แล้ว…ใช่เลย…ตอนนี้ไม่ว่าฝนหรือใครก็ไม่อาจเทียบเคียงพี่แคทได้ง่ายๆ…แต่อนาคต…อื้อ!!…ยังไงซะ…สำหรับบอล…ถ้าเกิดหน้ามืดคิดทำอะไรแบบนั้น…ฝนจะรีบร้องให้คนช่วยเสียงดังเล้ยจากนั้นก็ฟ้องพี่แคท…ฟ้องแม่…ฟ้องพ่อ…ฟ้องป้ากวาง…ฟ้องลุงเอก…ฟ้องสา…ฟ้องพี่กุน…ฟ้องหนูอ้อย…เอ…ฟ้องป้าศรีด้วยล่ะ…อ๊ะ!…ฟ้องแค่นี้ก่อนดีกว่า…คิๆ”
“บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่เซ่!!…เธอฟังคนอื่นเขาพูดบ้าง…ฉันขอย้ำเด็ดขาดตรงนี้ว่า…ไม่ใช่…เล่นถามเองตอบเองแบบนี้ก็แย่สิ”
“หึๆๆๆ…ที่พูดมาทั้งหมดนั้นฝนแค่ล้อเล่นหนุกๆเอง…บอลทำจริงจังไปได้เนาะ…เอาละ!!…สมควรแก่เวลา”
“ยังไงก็ตาม…วันนั้นฉันไม่คิดทําอะไรเธออย่างแน่นอนและอย่าเที่ยวไปบอกคนอื่นให้เข้าใจฉันผิดล่ะ”
“โอ๊ทส์!!…วางใจเต๊อะ…เรื่องนี้ฝนยังไม่ได้เปิดเผย…แต่ต่อไปม่ายแน่…ฮะๆๆๆ…ฮ่าๆๆๆ”
“เดี๋ยวก่อน!!…ยัยเด็กประสาท!!…ยังคุยกันไม่จบ…นี่!!…ยัยเด็กบ้า”
…วางสายไปแล้ว…มันไม่น่าไว้ใจ…เวลานี้หนูฝนจอมแสบกำลังวางแผนร้ายอะไรหรือเปล่านะ?…เดาใจไม่ถูก?…จากเมื่อวานนี้ทําให้ผมคิดจะระมัดระวังพี่แคทเพียงคนเดียวแต่ไปๆมาๆวันนี้กลับต้องมาปวดหัววิตกกังวลกับฝนเพิ่มอีกคน…ลูกพี่ลูกน้องคู่นี้เริ่มสร้างความยุ่งยากใจให้กับผมมากขึ้นทีละนิดๆแล้ว…ชิ!!!…ยังไงเราก็อย่าตีตนไปก่อนไข้ดีกว่า…ทำใจเย็นๆค่อยๆคิดหาวิธีรับมือไปทีละขั้นตอนและจงหุบปากตัวเองให้สนิทเพื่อรักษาความลับสุดยอดนี้ไม่ให้รั่วไหลออกไปได้เด็ดขาด!!!…
……………………………………………………………………………………………………..

17.00 น.

…ผมยืนรับโทรศัพท์คุยกับรุ่นพี่หลังจากกลับมาถึงบ้านไม่นานเพราะคิดว่ามานอนที่นี่จะดีกว่าที่หอ…รู้สึกพี่แคทกำลังอาบน้ำและจะออกไปรับน้องสาวหลังจากซ้อมเชียร์จบ…สายังไม่กลับส่วนอ้อยกลับมาจากโรงเรียนช่วยแม่กวางทำกับข้าวอยู่ในครัว…คุยเสร็จเดินขึ้นบันไดเห็นห้องของกุนซึ่งตอนนี้กลายเป็นห้องของพี่แคทแล้ว…ประตูเปิดแง้มอยู่…พี่แคทคงจะปิดไม่สนิทขอเข้าไปดูเดี๋ยวเดียวน่า…ยังอาบน้ำอยู่คงไม่ขึ้นมาง่ายๆ…รีบเข้าไปดูแล้วรีบเดินออกก็ไม่รู้หรอกคิดแล้วก็เดินเข้าไปซึ่งรู้อยู่แก่ใจดีว่าไม่สมควรแต่มันอยากรู้อยากเห็น…สภาพภายในห้องยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากก่อนกุนจะไปกรุงเทพฯมากเท่าไหร่….พี่แคทพยายามไม่ปรับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายอะไรมากเห็นห้องแล้วคิดถึงสาวเจ้าตัวจริงจัง…บนโต๊ะเขียนหนังสือมีรูปถ่ายของเธอวางอยู่ด้วย…ผมเองก็มีที่ห้องตัวเองอยู่แล้วแต่ยังเข้าไปหยิบกรอบรูปขึ้นมาดูใกล้ๆ…ในใจคิดถึงความหลังเก่าๆอันหวานชื่นที่เรา 2 คนเคยใช้ชีวิตร่วมบ้านชายคาเดียวกันและมีความสุขด้วยกันอย่างเปี่ยมล้น…จังหวะเดียวกับผมเห็นแว่นของพี่แคทวางอยู่…มันเป็นแว่นสายตาน่าจะสำหรับของคนสายตาสั้น…พี่แคทเขาสายตาสั้น?…เคยนึกว่าเป็นแว่นใส่เล่นๆซะอีก…คือไม่ว่าจะเวลาไหนผมแทบไม่เห็นเธอถอดแว่นตาออกเลยคงยกเว้นเวลาอยู่บ้านหรือเวลานอนแต่ผมก็ไม่เคยมาเห็นพี่เขาตอนนั้น…เมื่อวานจึงโชคดีมากที่ได้เห็นใบหน้าจริงๆของหญิงสาวเป้าหมายของชายหนุ่มทุกคนในคณะ…กวาดตาดูไปรอบโต๊ะก็ไม่มีอะไรมากนอกจากตําราเรียน…สมุดโน้ต…นาฬิกาข้อมือ…โทรศัพท์มือถือ…โคมไฟ…โอ๊ะโอ!!…ไดอารี่ด้วย…เป็นของพี่แคทสินะ…อย่าๆๆอย่าเสือก…จะเปิดดูไม่ได้เด็ดขาดของส่วนตัวของพี่เขา…ผมวางกรอบรูปไว้ที่เดิม…ข้างๆแว่นตาและกิ๊บติดผมรูปกากบาทสีส้ม 2 อันซึ่งพี่แคทชอบใช้เป็นประจำมีหนังสือวางอยู่อีกเล่มหนึ่งเหมือนว่ายืมมาจากห้องสมุดของมหาวิทยาลัยจึงลองหยิบขึ้นมาดูชื่อหนังสือ “สารพัดวิธีจับผิดคนโกหก” เห็นชื่อแล้วไม่แปลกใจไม่ได้…นี่คือหนังสือที่พี่แคทยืมมา?…ใช่แน่ๆ…เธอบอกผมเมื่อวาน…พลิกปกในด้านหลังก็มีชื่อคนยืมล่าสุดเป็นชื่อของผมและชื่อของพี่เขาเซ็นกํากับท้าย(นางสาวสุรีย์พรรณ เทวกรนันท์)พี่แคทขอยืมบัตรของผมไปเมื่อวันก่อนเพราะว่าเพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่จึงยังไม่ได้รับบัตรยืมหนังสือห้องสมุดของตัวเธอเอง…ว่าแต่พี่เขายืมหนังสือเล่มนี้มาเพราะคงอยากรู้ไว้เผื่อเวลามีแฟนแล้วจะได้คอยจับผิดละมั้ง…ฮะๆแปลกดี…ชักรู้สึกไม่ค่อยดีแฮะเหมือนมีใครกำลัง…ฉับพลันนั้นผมก็ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งดังใกล้ๆ?…
“เข้ามาทำอะไร!?”
“!!!!”
……………………………………………………………………………………………………

Share the Post:

Related Posts

ถ้าพี่ไม่รู้ พี่เขยก็เป็นผัวหนู ได้อีกคนหนึ่ง

เรื่องเสียว ถ้าพี่ไม่รู้ พี่เขยก็เป็นผัวหนู ได้อีกคนหนึ่ง เรื่องเสียวเกิดขึ้นแทบจะทุกคืน โดยไม่มีความอายหรือความเกรงใจเลยด้วยซ้ำ สำหรับพี่สาวของฉัน และว่าที่พี่เขยของฉัน พี่น้ำ ฉันมาอยู่ที่นี่ ร่วมกันกับทั้งสองคนเพราะว่าต้องเข้ามาเรียนมหาลัย อย่างน้อยก็สักสองสามเดือน เพราะว่ายังจัดการเรื่องหอพักไม่ได้นั่นเอง แต่แล้วเหมือนกับว่าพี่สาวของฉันนั้นอยากให้ฉันได้ยินว่าเธอมีความสุขมากแค่ไหน เลยครางออกมาดังๆ ในทุกๆ คืนที่ทั้งสองคนนั้นเย็ดกัน เพียงเพราะว่าอดีตเราเคยทะเลาะกัน เรื่องที่พี่ของฉันเรียนไม่จบแล้วหนีมาทำงาน แต่ฉันเองกลับตั้งใจเรียนจนจบ

Read More

แอบไปเย็ดกับสาวน้อยข้างบ้านผู้ร่านควย

เรื่องเสียว แอบไปเย็ดกับสาวน้อยข้างบ้านผู้ร่านควย ผมชื่อว่า เติม ครับ อายุ 26 ปี เป็นแค่ผู้ชายบ้านนอกที่เข้ามาตามหาฝันในเมืองกรุง หวังว่าวันหนึ่งจะเรืองรุ่งกับเขาบ้าง แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าอะไรจะซ้ำ จะซัดผม ก็ได้กลายมาเป็นแค่เพียงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่บริษัทแห่งหนึ่งเท่านั้นเอง ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ไม่ค่อยจะมีวันหยุด แต่ก็ยังดีที่พอจะมีเงินเดือนสูงกว่างานอื่นๆ ที่เคยผ่านมาบ้างเท่านั้นเอง แต่ด้วยความที่ยังคงพอมีพื้นฐานที่เป็นคนคมเข้มอยู่บ้าง ก็เลยพอที่จะได้พบเจอกับเรื่องเสียวในเมืองกรุงบ้างนั่นเองละครับ

Read More