เกิดจากใคร ตอน 3

เกิดจากใคร ตอน 3

เกิดจากใคร ตอน 3

“อ้าวน้องมินต์ แล้วกันต์ละค่ะ”
“หลับอยู่ค่ะพี่ปริน…สงสัยคงจะขับรถเหนื่อยนะค่ะ…พี่ปรินเล่นน้ำนานหรือยังค่ะ”
“อืม…สักพักละจ๊ะ…แต่สองคนนี่เขาลงมาก่อน”

ปรินดา ส่งสายตาไปยังลูกๆของเธอทั้งสองคนที่ยังคงสนุกสนานกับการเล่นน้ำภายในสระอยู่กับพี่เลี้ยงและคนขับรถของเธอ 


“น้องมินต์ นี่หุ่นดีจังเลยนะ…ดูซิใส่ชุดนี้แล้วดูเซ็กซี่จัง…สมน้ำหน้าตากันต์อดเห็นน้องมินต์ เลยดูซิ”
“แหม…พี่ปรินก็พูดเข้า… มิ้นต์ ดูเองก็ยังเฉยๆเลยค่ะ…พี่ปรินตาหาก…ดูซิขนาดมีลูกตั้งสองคนยังดูสวยไม่สร่างเลย”
“ไม่หรอกน้องมินต์ …มันก็แค่นั้นแหละ…”

พรรณวดี เห็นสีหน้าของปรินดา ซึมเศร้าลงอย่างฉับพลันก็อดสงสัยขึ้นในใจเล็กๆ…แต่เธอเองก็นึกไม่ออกว่าเป็นเรื่องอะไร…พอดีกับพวกลูกๆของปรินดา ว่ายเข้ามาหาทำให้เธอลืมสิ่งที่กำลังสงสัยหันไปหยอกล้อเล่นน้ำกับเด็กๆอย่างสนุกสนานแทน 

“พี่ปรินค่ะ…แล้วพี่ใหญ่กับพี่แอนมาหรือเปล่าค่ะ”
“อืม…เห็นบอกว่ามากันนะ…แต่พี่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมากันกี่โมง…แอนเขากำลังท้องอยู่ด้วย…ส่วนพี่นิดบอกว่าจะมาถึงเย็นๆละ…นี่ มิ้นต์ เย็นนี้ทานอะไรกันดี…เดี๋ยวพี่จะได้ให้ตาสงค์ไปซื้อไว้ก่อน”

ปรินดา เอ่ยถามแฟนสาวของเพื่อนชาย ขณะที่ทั้งคู่อยู่กันตามลำพังอีกครั้งเมื่อเด็กๆว่ายหนีกลับไปเล่นยังที่ของตน

“อะไรก็ได้ค่ะ…อุ้ยนั่นพี่นิดนี่…พี่นิดค่ะ…พี่นิด”

ปรินดา หันไปมองตามทิศทางที่พรรณวดี ร้องเรียกชื่อญาติสาวผู้พี่ของเธอและรู้สึกแปลกใจที่เห็นณรินทิพย์ หรือพี่นิด มาถึงก่อนเวลาที่เธอเคยบอกเอาไว้

“นี่สองสาว…อย่าไปว่ายน้ำเลยเวลาน้อยมากินเหล้ากันดีกว่า…พี่ซื้อของมาเพียบ”
“โอ้โหพี่นิด…เอาแต่เย็นเลยเหรอค่ะ”
“แน่นอนน้องมินต์ …ไปตามไอ้เจ้ากันต์มาเลย…บอกว่าพี่เปรี้ยวปากเต็มทนและ…ขับรถมาน้ำลายไหลยืดๆๆเลยนี่”

ปรินดา ได้ยินญาติสาวผู้พี่แล้ว ถึงกันส่ายหน้าในทีท่ากวนอารมณ์ของแก…แต่ภาพแบบนี้เธอเห็นจนชินชาซะแล้ว…เพราะพี่นิดของเธอนั้นเวลาอยู่ในสังคมภายนอกหรืออยู่กับครอบครัวซึ่งก็คือ ลุงกับป้าของเธอ พี่นิดจะวางมาดเป็นอิสตรีที่เรียบร้อยพูดจาน่ารักกิริยาอ่อนหวาน…ซึ่งทุกๆคนก็ไม่ได้เอ๊ะใจเลยสักนิดเดียวว่า ธาตุแท้ของณรินทิพย์หรือพี่นิดนั้น จริงๆแล้วตามภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่าหญิงห้าว ด้วยเพราะไม่ว่าการแต่งกาย ดูแลเรือนร่างและรวมไปถึงการแต่งหน้า

ยามปกติพี่นิดก็จัดแจงทุกอย่างได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว แต่จะถามว่าพี่นิดนั้นสวยไหม ปรินดา ก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นพี่นิดทำตัวเองให้สวย…ส่วนใหญ่เมื่อพี่นิดจะไปงานสังคมต่างๆเธอจะแต่งตัวออกไปทางน่ารักแบบแก่นๆซะมากกว่า ใบหน้าทรงเรียวใข่ผมสั้นบ๊อบยาวมาถึงแค่ติ่งหู ดูเก๋ไก๋ไม่หยอกสำหรับพี่นิดของเธอ

“น้องมินต์ ๆ…”
“ค่ะพี่นิด”
“เอ่อ…พี่ว่าน้องมินต์ ใช้ผ้าคลุมสักหน่อยจะดีกว่านะ…ถึงจะเป็นบ้านพักส่วนตัวแต่ยังไงก็ยังมีเจ้าสงค์มันอยู่นะ”
“อุ้ย… มิ้นต์ ลืมไปค่ะพี่นิด”

พรรณวดี ร้อนฉ่าไปทั้งใบหน้าจนผิวแก้มขาวๆของเธอแดงเปล่งปลั่งด้วยความเขินอายเมื่อณรินทิพย์เอ่ยเตือนเธอเบาๆขณะที่เธอเดินมายืนใกล้ๆหล่อนที่โต๊ะหินอ่อนใกล้สระว่ายน้ำส่งเสียงเรียกร้องปรินดา ให้ขึ้นมาจากสระเหย่งๆ

อย่าว่าแต่ณรินทิพย์เลยที่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แม้แต่ปรินดา เอง…ทันทีที่เธอเห็นแฟนสาวของเพื่อนหนุ่มยันตัวขึ้นจากสระว่ายน้ำและหันร่างงามอวบอิ่มขาวโพลนมาบอกเธอว่าจะไปนั่งกับณรินทิพย์ที่โต๊ะหินอ่อนใกล้ๆสระ…

ปรินดา ก็ถึงกับสั่นไหวทั้งๆที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน…เพราะชุดแบบบิกินนี่ตัวจ้อยสีแดงสดที่พรรณวดี สวมใส่เล่นน้ำกับเธอเมื่อชั่วครู่ยามที่มันเปียกน้ำจนชุ่มฉ่ำเนื้อผ้ามันก็หดตัวสั้นลง…ทำให้เห็นเนื้อผ้าแดงสดห่อหุ่มรัดรอบปทุมเนื้อเต้านมอวบกลมขาวผ่องขึ้นเป็นลูกกลมๆอย่างเด่นชัดแถมมันยังเป็นแบบโอบรัดเพียงครึ่งเต้าอีกด้วยมันเลยเน้นเนินถันเต้าเนื้อกลมสวยให้ดันโป่งจนขอบผ้าแทบจะเกาะเกี่ยวปกปิดเม็ดเนื้อหัวนมกลมบนฐานอกทั้งสองข้างไม่อยู่แถมยังเป็นลอยนูนโชว์ความเด่นกลมให้เห็นได้ชัดเจน…

ส่วนด้านล่างนั้นยิ่งทำเอาใจสาวของเธอถึงกับสั่นระทึกเข้าไปอีก เมื่อเห็นโหนกเนื้อเนินอูมกลางหว่างขาขาวๆอวบแน่นอวดโชว์โคกเนื้อเนินหนันอูมมือเป็นทรงสามเหลี่ยมตัดสลับเนื้อผ้าแดงสดเช่นกันผสมขอบขาอ่อนขาวสร้างยั่วตา…กลางเนินโคกเนื้อสาวของพรรณวดีที่ปรินดา เห็นนั้นปรากฎร่องลึกลากเป็นทางยาวหายลับไปทางหว่างขา…ไม่ว่าใครจะได้เห็นก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นร่องรอยของซอกเนื้อที่มีแคมสาวอวบแน่นเบียดชิดกันเอาไว้อยู่ได้ไม่ยาก…

แถมพอร่างงามขาวโพลนของพรรณวดี หันขวับย่างเดินไปยังณรินทิพย์…ปรินดาเองก็ยังแทบจะกลืนน้ำลายไม่ลง…เมื่อเห็นเอวคอดกิ่วกระชับสอดรับกับสะโพกผายโค้งมีเพียงสายผ้าบางๆคาดเกี่ยวเอาไว้ ลอนเนื้อขาวผ่องกลมกลึงอวดโชว์บั้นท้ายสาวอวบอัดกลมแน่น เห็นปรีก้นอวบขาวเลยผ่านขอบขากางเกงตัวน้อยแดงสวยออกมาอย่างน่าหลงไหลรองรับกับต้นขาอ่อนเนียนแน่นอย่างลงตัว…

ยิ่งยาม พรรณวดี เยื้องย่างก้าวขาฉับๆท่วงท่าการเดินเมือนนางแบบยักย้ายส่ายสะโพกจากไป…ปรินดา ก็เห็นบั้นท้ายผายสวยของพรรณวดี แกว่งสะบัดยักย้ายซ้ายขวาๆสะบัดปรีก้นแกว่งไกวไปมายั่วยวนตาและอารมณ์ยิ่งนัก…

“เฮ้อ…ขนาดเจ้าสงค์มันยังมองตาค้างเล้ย…แล้วนี้ตากันต์มิคง…มิน่าถึงกับสลบเหมือดไปเลย…อุ้ยคิดอะไรเนี่ยบ้าจริงเชียวเรา”

ปรินดา นึกขึ้นในใจขณะที่เธอหันไปมองคนรถซึ่งกำลังเผลอมองเพื่อนสาวเจ้านายแบบอยู่ในอาการตกตะลึง…ทำเอาเธอเองก็เผลอคิดไปถึงเพื่อนหนุ่มของเธอที่ยังหลับไหลอยู่ภายในห้องพักว่าจริงๆแล้วเพื่อนสามีเธอนั้นเหนื่อยเพราะขับรถหรือเหนื่อยหมดแรงอันมีสาเหตุมาจากพรรณวดี กันแน่ ถ้าใครมาเห็นคงไม่เชื่อสายตาเป็นแน่ เพราะขณะนี้ที่ม้านั่งโต๊ะหินริมสระน้ำกลับกลายเป็นว่ามีสาวสาวซึ่งหากมองผิวเผินแล้วแต่ละคนก็มีความสวยงามและน่ารักแตกต่างกันไปกำลังนั่งล้อมวงกินสุราและอาหารชั้นดีกันอย่างสนุกสนามภายใตเสียงคลื่นและสายลมอันอ่อนไหว…

คนหนึ่งสวยใสด้วยวัยสาวสะพรั่งเข้าเบญจเพศ…คนหนึ่งงดงามเป็นสาววัยกลางอายุเพียงสามสิบกว่าๆ…แม้จะมีลูกแล้วถึงสองคนแต่เรือนร่างผิวพรรณเต่งตึงกระชับแน่น…และสุดท้ายสาวแก่นแม้จะมีอายุมากที่สุดแต่ก็ยังไม่ถึงสี่สิบ ที่สำคัญเธอยังคงรักษาความน่ารักตลอดจนเรือนร่างไว้อย่างดีแทบจะไม่แตกต่างกับสองสาวที่ได้เอ่ยถึงไปเลยเมื่อช่วงแรกที่ผ่านมา

การเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่มีใครนึกถึง วงเหล้าไฮโซจากสามคนก้เหลือเพียงสองคน…เท่านั้น 

“อ้าว…เริ่มกันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนี่”
“โอ้โห…คุณกันต์…คุณท่านไปเฝ้าพระอินทร์มากี่องค์ละนี่เล่นตื่นมาซะมืดเชียว”
“โถ่พี่นิด…ก็ผมเพลียนี่พี่…แล้วนี่…อ้าว… มิ้นต์ ๆๆ…น้องมินต์ ครับ…โอ้โห…พี่เล่นเอาน้องมินต์ หลับคาโต๊ะเลยเหรอนี่”
“เอ่อ…ก็เพราะเธอละตากันต์ดันขี้เซา…น้องมินต์ เขาเลยกินเป็นเพื่อนพวกพี่…แต่สงสัยคงซัดเข้าไปเยอะก่อนจะหลับลิ้นพันกันนัวเลย”

ทั้ง ณรินทิพย์ และกันต์ ต่างก็มอง พรรณวดี ที่สลบเหมือดไปด้วยฤทธิ์เหล้านอกชั้นดีที่หากใครก็ตามซึ่งคอไม่แข็งจะเมาได้ง่ายเพราะเผลอตัวกินอย่างต่อเนื่อง…ซึ่งแตกต่างจากเหล้าไทยทั่วไปทั้งหลายที่รสชาติมันบาดคอยิ่งนัก 

“พี่เห็นกินเอาๆ แบบลื่นปรื๊ดๆๆเลยจะห้ามก็ห้ามไม่อยู่ไม่รู้ครึ้มอกครึ้มใจอะไร…ฮ่าๆๆ”
“งั้นผมว่า…ผมพาน้องมินต์ ขึ้นไปนอนก่อนดีกว่าพี่…โอ้โห…นี่กินทั้งชุดนี้เลยเหรอนี่…กรรมเวร…ชุดว่ายน้ำก็ยังไม่เปลี่ยนเฮ้อ…”
“เฮ้ย…ตากันต์…พาไปนอนเฉยๆๆนะไม่ต้องอยู่นาน…จะได้ออกมากินกับพี่…อ้าว…เฮ้ยไปส่งเฉยๆๆนะอย่าเพิ่งไปทำอะไรเล่า…ฮ่าๆๆๆ…”

หนุ่มกันต์ ส่ายหัวดิ๊กๆๆกับคำแซวของณรินทิพย์…เขารู้ว่าเธอแซวเรื่องอะไร…แต่ก็ไม่ใส่ใจ…เพราะมัวแต่สนใจประคองร่างงามของแฟนสาวที่ยังไม่ได้สติพาขึ้นไปยังห้องพัก ไอ้ครั้นจะอุ้มหล่อนก็ดูลำบาก…เพราะตัวเขากับแฟนสาวนั้นก็แทบจะไม่ต่างกันเท่าไหร่…รูปร่างของเขาหากจัดลำดับแล้วก็เรียกได้ว่าเป็นหนุ่มร่างเล็ก…เขาสูงพอๆกับแฟนสาวแถมร่างกายก็ไม่ได้กำยำล่ำสันต์อีกตาหาก…เพราะเหตุนี้แหละมั้งที่ใครหลายๆคนชอบสงสัยว่าทำไม่สาวงงามผู้ เพรียบ พร้อมอย่างพรรณวดี ถึงได้ยอมเป็นคู่รักกับเขาได้แบบนี้

“อ้าว…พี่นิดไปไหนว่ะนี่…เฮ้อ…กินคนเดียวก็ได้ว่ะ”

ชายหนุ่มสบทเบาๆเมื่อกลับลงมาไม่เจอญาติรุ่นพี่ของปรินดา …ในใจกำลังก่ำกึ่งว่าจะกินเหล้าต่อหรือจะขึ้นไปสนุกกับแฟนสาว…เพราะหากนับตั้งแต่เขาได้ความบริสุทธิ์จากหล่อนจนถึงเวลานี้เกือบปีครึ่งแล้ว…เขากับเธอเพิ่งมีอะไรกันไปยังไม่ถึงสิบครั้งเลย…ด้วยเหตุที่ทั้งคู่ต่างก็ติดงาน…ครั้นพอมีเวลาหากไปบ้านเธอก้ได้แค่คุยกันที่ห้องรับแขก…หากไปบ้านเขาแม้จะสามารถขึ้นไปบนห้องนอนได้…เขาก็ต้องเปิดประตูห้องทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้เธอเสียหายและครบครัวของเขาคิดไม่ดีกับเธอ…ยกเว้นวันไหนโชคดีไม่มีใครอยู่บ้านก็จะเป็นช่วงพิเศษแต่ก็แทบจะไม่บ่อยนัก…ส่วนเรื่องจะไปเที่ยวลำพังสองต่อสองนั้น ด้วยเวลางานก็แทบจะเป็นไปได้ยาก หรือจะหนีกันไปโรงแรมม่านรูดก็กลัวเรื่องการวางกล้องแอบถ่ายตามที่เป็นข่าว

ขณะที่กำลังชั่งใจแถมลำควยในกางเกงก็เริ่มกระดุกกระดิ๊กไปมาเพราะรสสัมผัสเนียนมือของร่างงามพรรณวดี ที่เข้าได้รับทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งเนินเนื้อเต้านมทุกซอกส่วนมันนุ่มแน่นสร้างอารมณ์ยิ่งนัก…แต่ท่าทางหากเขาทำอะไรตอนนี้แฟนสาวคงเป็นเพียงแค่ท่อนไม้แน่ๆเพราะดูท่าทางเธอจะจมลึงหลับไหลอีกนานจากฤทธิ์เหล้าที่เขาเห็นว่ามันหมดไปเกือบสองขวดแล้ว 

“อ้าววว…เอิ๊ก…ตื่นแล้วเหรอ…กานน” ชายหนุ่มสะดุ้งโหยงหันขวับไปตามเสียงก็เห็นร่างของปรินดา เดินออกมาจากตัวบ้าน 
“เอ่อ…ตื่นนานแล้ว…โอ้โห…ปริน…กินกับพี่นิดแกด้วยเหรอ”
“อืม…น้องมินต์ ด้วย…ไปไหนแล้วละ…เอิ๊ก”
“พาไปนอนแล้ว…แล้วพี่นิดละ…เห็นนัดฉันบอกให้รีบมาๆหายไปเลย”
“พี่นิดดด…ไปนอนและ…มะกี้…เอิ๊ก…เหนน…ค่อยๆๆคลานไปที่ห้องนะกาน…โอ้ย…เมาจิงๆๆเลย”

หญิงสาวพูดจาลิ้นพันกันรัวแถมยอมรับออกมาตรงๆว่าตัวเองเมาทำเอาหนุ่มกันต์ กึ่งยิ้มกึ่งขบขัน 

“หัวเราะอาราย…ปรินรู้น้าาาา…ที่กานหลับเปนตาย…เอิ๊ก…หลับเป็นตายนา…เพราะอาราย…อิอิ”

คำพูดของปรินดา ทำเอาชายหนุ่มหูผึ่งรีบแก้ตัวเป็นพลันวัล

“อะไร…รู้อะไรไหนบอกมาซิปริน”
“เอ้…ไม่บอก…แต่ว่า…น้องมินต์ นี่สวยเนอะ…ไม่น่าเล้ยจะมาชอบกันต์ได้…ไม่เห็นจะเหมาะกันเล้ย”
“เอ้า…แหมคนเราก็ต้องมีดีมั่งแหละปริน…ฮ่าๆๆๆ”
“มีดีอาราย…ตรงหนายเหรอ…อิอิ…เอ่อ…กินๆๆๆ”

ปรินดา หยอกเย้าเพื่อนสามีไปก็กระดกเหล้าเข้าปากไปอย่างไม่ขาดตอนขระที่สายตาของเธอจ้องมองใบหน้าของเพื่อนชายอย่างตั้งใจ 

“เฮ้อ…จริงๆแล้วก็ไม่มีหรอกปริน…ฉันโชคดีมากแค่นั้น…”
“อืม…ม่ายหรอก…จริงๆแล้วน้องมิ้นก็โชคดี…ปรินถามน้องมินต์ หมดแล้วแหละ…อิอิ…เอ่ย…ยิ่งกินยิ่งอร่อย”
“ถามอะไรบอกมั้งซิ…อยากรู้”
“ม่ายบอก…ไปถามเอาเองซิ…แต่ห้ามไปถามตอนนี้นะ…เดี๋ยวกานนนนหลับเป็นตายอีกรอบแย่เลย…ฮ่าๆๆๆ”
“โถ่…ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย…ปรินอย่าคิดไปไกลซิ…ใครได้ยินเข้าน้องมินต์ เสียแย่เลย…จริงๆๆน้า”
“จริงอะ…น้องมินต์ สวยออกขนาดนั้น…กานนนไม่จูดจูดจูด…ม่งเหรอ”
“เอ้ย…ม่ายหรอก…รอแต่งงานดีกว่าตื่นเต้นดี…เอ้ากินๆๆๆ”

ปรินดา เพ่งบอกไปยังเพื่อนชายซึ่งเป็นเพื่อนรักสามี…เธอแอบอิจฉาพรรณวดี เล็กๆที่หญิงสาวโชคดีเหลือเกินที่แฟนเธอพยายามเก็บงำความลับระหว่างเขาและเธอเอาไว้…ไม่พูดจาโออวดโพนธนาเหมือนชายหนุ่มทั่วๆไป…

ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเมื่อตอนเย็นก่อนพรรณวดี จะลงมาว่ายน้ำเธอกับเขากำลังทำอะไร…เพราะไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นไปยังด้านบนเธอก็ตั้งใจจะขึ้นไปหาเพื่อจะไปดูความเรียบร้อยของเครื่องใช้ในห้องอีกครั้งว่ามีครบหรือไม่…แต่พอขณะที่เธอกำลังเดินหาว่าเขาและพรรณวดี ไปพักห้องไหน…เสียงร้องครางกระสันต์อย่างเสียวซ่านใจก็ดังลอดประตูห้องนอนที่เขาและแฟนสาวใช้เป็นห้องพักออกมาให้ได้ยินอย่างถนัดหู…เล่นเอาเลือดกายของเธอฉีดพล่านจนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้ารีบหันหลังกลับลงมาด้านล่างอย่างรวดเร็ว 

กาลเวลาผ่านไปเหล้านอกชั้นดีขวดที่ 3 ก็หายไปอีกครึ่ง…ตลอดเวลาปรินดา ก็ได้แต่แอบชมและนึกถึงสิ่งที่ทำให้พรรณวดี หลงรักเขาซ้ำไปซ้ำมา…แล้วนึกย้อนสัมพันธภาพระหว่างเธอกับเพื่อสามีผู้นี้ย้อนกลับไป…ซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่พรรณวดี บอกไว้…เขาผู้นี้สุภาพ เรียบร้อยเป็นกันเอง…เป็นมิตรที่ดีสำหรับสามีและเธอมาตลอด…นอกจากนั้นเขายังเป็นคนเสมอต้อนเสมอปลายไม่เคยเสแสร้งสร้างมิตรภาพที่ดีระหว่างเธอและสามีเลยสักครั้ง…

เธอรู้ว่าที่ผ่านมาเขามีแฟนมาแล้วหลายคนและเขาก็ปฎิบัติกับแฟนเก่าของเขาด้วยดีตลอด เพียงแต่โชคชะตาอันเลวร้ายต้องทำให้แฟนสาวของเขาเหล่า นั้นเป็นผู้เลิกรากับเขาเองเพราะไปชอบกับหนุ่มอื่นที่เสแสร้งเป็นคนดีและทำท่าทางเหนือกว่าเขา แม้ความเจ็บปวดใจจะถาโถมเข้าใส่เขาอยู่เป็นนิจ…แต่ชายหนุ่มผู้นี้กลับหาทำชีวิตและหน้าที่การงานแหลกลานไปกับมันไม่…คงมีเพียงความเย็นชาในจิตใจเขาเท่านั้นที่มันชาด้านมากขึ้นเท่านั้นเอง…ยิ่งคิดยิ่งชมชอบ…ยิ่งมองยิ่งชื่นชม…

“อ้าวว…ปริน…ปริน…เป็นอะไรนะ”
“ป…เปล่ากาน…สงสายมาวแหละ…เอิ๊กๆ”
“เมาก็ไปนอนซิ…แล้วนี่พอกันเลย…ว่ายน้ำเสร็จแทนที่จะไปอาบน้ำก่อนยังใส่ชุดเดิมซะอีกไม่หนาวหรือไง”
“ม่ายหนาววว…ทามมาย…ปรินใส่ชุดนี้ดูแล้วมานหย่อนมานยานหรืองายฮา”
“เอ้ย…เปล่าๆๆ…ปรินนี่…จะบ้าเหรอ เดี๋ยวไอ้เจ้าสงค์มาเกิดมาแถวนี้ฉันก็ซวยตายโห่งเลย”
“ตาสงค์กาบปายแลวว…เขาขอกาบปายก่อนเห็นเมียโทรมาบอกลูกม่ายสาบาย…ปรินเลจห้ายกาบไปแล้ว”
“อ้าวเหรอ…เอ้อ…ดีและ…”
“ดียางงาย…หา…นี่ๆๆ…ไม่เหนบอกปรินเลยว่าใส่ชุดนี้แล้วมานดูหย่อนยานเหรอ”
“ว้า…ปรินนี่เปล่าๆๆ…ซะหน่อย…แต่เห็นมันดึกไง…ชุดว่ายน้ำมันบางแล้วก้เปียกน้ำไงเดี๋ยวไม่สบายพอดี…เฮ้อจริงๆๆเล้ย”
“กาน…ปรินเบื่อจังเลย” อยู่ๆปรินดา ก็เปลี่ยนเข้าเรื่องที่เขาเองไม่อยากจะได้ยินเพราะเขารู้ว่าเธอหมายถึงอะไร 
“กานนน…ได้ยินเหรอป่าวว…” หญิงสาวยังพยายามสอบถามเขาทั้งๆที่เธอเองก็พุดออกมาแบบเมาแอ๋เต็มที่แล้ว 
“อืม…แต่ว่าปริน…ฉัน…เอ่อ…ฉันก็รู้”
“กานน…หรือเหรอว่าปรินหมายถึงอะไร”
“กันต์คิดว่า…กันต์เดาไม่ผิดหรอก…แต่ไม่รู้จะบอกยังไง…กันต์เข้าใจ…ไอ้รัชย์มันก็เพื่อน…ปรินก็เพื่อน…เรารู้จักกันมานานแล้ว…เอ่อ…พูดลำบาก”

ทั้งปรินดา และกันต์ต่างก็นิ่งเงียบไปทั้งคู่ วงสนทนาและวงเหล้าระหว่างหญิงชายเหมือนกับหยุดนิ่งไปในจังหวะนั้น 

“ช้าวว…ปาย…ส่งลูก…บ่าย…ม่ายย…รู้จะทำอารายก็ว่าง…เย็นปายราบลูก…พอมืดก็ดูหนัง…แล้วก็หลาบ…ช้าวก็เหมือนเดิม…เป็นมาหลายปีแล้ว…เป็นกานต์จะทำยางงาย…”
“เอ่อ…อย่าให้พูดเลยปริน…ปรินหาอะไรทำที่ปรินสบายใจเถอะ…ไม่มีใครว่าปรินผิดหรอก”
“มีชู้มันสะเลยดีม้าย…”
“เอ้ย…จะบ้าเหรอปรินอย่านะ…แล้วลูกๆละ…”
“มีชู้เฉยๆๆ…งาย…ไม่ได้บอกว่าจะเลิก…”
“เฮ้อ…อย่าเลยปริน…ปรินลองปรึกษาพี่นิดหรือยัง”
“ถ้าบอกพี่นี๊ด…เดี๋ยวพ่อก็ต้องรุ…เอาแค่กิ๊กๆก็พอดีไหม”
“เฮ้อ…อย่าคิดบ้าๆนะปริน…ไม่ดีหรอก…ไม่มีความลับในโลกหรอกปริน…เชื่อกันต์เถอะ”
“ม่ายมีฟามลาบในโลก…ง้าน…แสดงว่ากานก็ต้องเอาเรื่องที่ปรินพูดวันนี้ปายบอกราชนะซิ”
“เอ้ย…ไม่หรอกยกเว้นเรื่องนี้ปริน…ปรินใจเย็นแล้วกัน…กันต์เองก็อยากช่วยคิดนะแต่ลำบากใจมันเหมือนน้ำท่วมปากนะ…ยังไงก็เพื่อนด้วยกันทั้งคู่”
“กานน…ปรินเป็นคนนะ…แม้ปรินจะอายุ 35…แล้ว…แต่ปรินก็มีชิวิตจิตใจนะกาน”

ชายหนุ่มเหลือบมองไปยังใบหน้าแฟนเพื่อนก็ได้แต่หดหู่…เขาเห็นหยาดน้ำตาไหลรินลงอาบแก้มขาวๆของเธอลงมาเป็นทาง…แล้วพลันเขาก็เห็นเธอลุกขึ้นยืนหันขวับเดินจากไปมุ่งไปทางชายทะเลที่แม้จะมืดมิด…แต่มีแสงจันทร์ของคืนเดือนหงายเป็นเครื่องชี้นำได้อย่างดี 

“ปริน…ปรินจะไปไหน…มืดแล้ว…อย่า…”
“ม่ายต้องเป็นห่วง…ขอปายเดินเล่นหน่อย…กานกินเหล้าไปเถอะ”

หนุ่มกันต์ ถึงกับอึกอัก…เห็นร่างอวบอิ่มของแฟนเพื่อนเดินโย้ไปเย้มาอย่างน่าเป็นห่วง แม้คืนนี้แสงจันทร์จะสว่างพอเห็นหนทางข้างหน้าแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีใครมาเที่ยวชายทะเลยสักเท่าไหร่เพราะเป็นเริ่มช่วงฤดูฝน นักท่องเที่ยวจากรีสอร์ทใกล้เคียงจึงแทบจะหาไม่เจอ…ความปลอดภัยของเพื่อนสาวเลยเป็นสิ่งที่เขากังวลอยู่ตลอดขณะกระดกเหล้าเพื่อลดความว้าวุ้นใจที่เกิดขึ้นนานเท่าไหร่กันต์เองก็ไม่รู้…แต่ในความรู้สึกมันเหมือนนานนับชั่วโมงๆที่เพื่อนสาวของเขาหายลับไปกับชายทะเลที่มีเพียงเสียงคลื่นซาดซัดกระทบฝั่ง

“หาตั้งนานมานั่งอยู่ตรงนี้เอง…กลับยังปริน”

ชายหนุ่มเดินหาเพื่อนสาวไปตามชายหาดมือนึงถือขวดเหล้าเพื่อมิให้ความเคลิ้บเคลิ้มจางหายมือนึงคีบบุหรี่ที่เพิ่งจุดสูบบรรเทาความสับสน…แต่หาเท่า ไหร่ๆก็ไม่เจอจนว้าวุ้นใจ…

ครั้นพอเข้าตัดสินใจกะว่าจะรีบขึ้นมาตามตัวพี่นิดพลันสายเขาก็เหลือไปเห็นร่างตะคุ้มๆกำลังนั่งอยู่บนชิงช้าไม้ตัวใหญ่ใต้หมู่ต้นลีลาวดีต้นงามใกล้ๆมุมขอบของอณาบริเวณพื้นที่บ้านพักตากอากาศสุดหรูของเธอ…ชายหนุ่มถึงกับถอนใจเฮือกยกเหล้ากระดกเข้าปากเอื๊อกๆอย่างผ่อนคลาย 

“ปริน ปริน…หลับแล้วเหรอ…เอ้ยเดี๋ยวไม่สบายตายหรอกนี่ปริน…”
“ที่นี่สบายดีจังขอปรินนั่งอีกเดี๋ยวได้ไหมกันต์”

น้ำเสียงของปรินดา เริ่มดีขึ้นอาการลิ้นพันเริ่มหายไปทำให้ชายหนุ่มผ่อนครายมากกว่าเดิม…เขารู้ว่าเพื่อนสาวรู้สึกอย่างไรและก็อยากให้เธอลืมความอึดอัดใจให้ลดลงเลยไม่ปริปากเชื้อชวนเธอให้รีบเข้าบ้านเหมือนเมื่อครู่ 

“เอามากินมั่งซิกันต์”
“เอ่อ…เอาอีกเหรอ…เมาหรือยัง…อย่าดีกว่ามั้งปริน”
“ไม่หรอก…กันต์มาขอปรินสักนิด” 

ชายหนุ่มไม่ขัดขืน เขายื่นเหล้าขวดนั้นส่งให้เธอพร้อมกับถือวิสาสะนั่งลงบนชิงช้าไม้ตัวนั้นข้างๆเธออย่างไม่ได้คิดอะไรขณะที่ปรินดา ก็เผยอเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยยื่นท่อนแขนและฝ่ามือรับมันจากเขา 

“กันต์…ปรินเหงามาก”
“อืม…กันต์รู้…งั้นเดี๋ยวเวลาวันหยุดกันจะชวนน้องมิ้นไปเที่ยวบ้านปรินบ่อยๆ หรือไม่ก็มาเที่ยวทะเลกันบ่อยๆดีไม้”

เกิดจากใคร ตอน 4

ชายหนุ่มเอ่ยตอบเรียบๆอย่างระมัดระวังเพื่อให้สถานการณ์ประคองอารมณ์ความรู้สึกของปรินดา เป็นไปอย่างนุ่มนวลและรอบคอบ…เขาไม่ได้ยินว่าเธอพุดอะไรต่อจากนั้นเห็นเธอยกเหล้าที่เขาเพิ่งส่งให้เธอมะครู่ยกขึ้นดื่มลงคออย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนหนุ่มกันต์ ถึงกับนั่งนิ่งตกตะลึง 

“เอ้ยปรินๆๆ…นี่เดี๋ยวก็”

ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรต่อ…ฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของเพื่อนสาวข้างกายเขาก็เอื้อมมาจับที่ฝ่ามือหยาบๆของเขาพร้อมแรงบีบบ่งบอกบางสิ่งบางอย่าง …ชายหนุ่มไม่ทันระวังถึงกับนั่งเกร็งพยายามรวบรวมสติที่แทบจะไม่หลงเหลือซักเท่าไหร่เพราะตัวเองก็เล่นไปหลายดื่มเหมือนกันให้มีมากที่สุด…เขาพยายามดึงมือข้างนั้นออกจากฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของปรินดา แต่กลับกลายเป็นว่าเธอเองที่ไม่ยอมปลดปล่อยมัน 

“ปรินเมาแล้ว…เชื่อกันต์เถอะ…ไป…เรากลับไปนั่งโจ้เหล้ากันดีกว่าเดี๋ยวกันต์ไปลากพี่นิดเอง…”

คำพูดของชายหนุ่มไม่เป็นผล ปรินดา ยังนั่งนิ่งเงียบเกาะกุ่มฝ่ามือของเขาไว้อย่างเนียวแน่นแถมอุ้งมือสวยๆของเธอยังบีบคลึงฝ่ามือสากๆของเขาหนักหน่วงมากกว่าเดิม

“กันต์…”
“ฮืม…”
“ปรินอยาก…” แค่สองคำเท่านั้นที่ปรินดาพูด…แต่ก็ทำเอาชายหนุ่มถึงกับขนลุกซุ่หูผึ่งสิตสตังที่กระจัดกระจายอยู่รวมตัวกลับคืนจิตใจมาอย่างรวดเร็ว 
“ปรินเมาแล้วไปเถอะ”

หนุ่มกันต์ พยายามเอ่ยปากให้ดูเคร่งขรึมมากที่สุดพร้อมกับขยับตัวจะลุกขึ้นดึงฝ่ามือของเขาออกจากการเกาะกุมของเธอ แต่แล้วเขากลับเจอะการยื้อยึดด้วยเรี่ยวแรงของหล่อนซึ่งเขาเองก็ไม่คาดคิดว่าเธอจะมีได้มากถึงขนาดนั้น 

“ปรินไม่ได้เมากันต์…มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่จะพูดอย่างนี้ออกมา”

คำพูดของปรินดา เท่าเอาชายหนุ่มรู้สึกหดหู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างปรินดา …หากเธอจะกล่าวเช่นนี้ออกมานั้น…แสดงว่ามันคงถึงที่สุดแล้ว

“ตั้งแต่มีเอม…รัช…รัชกับปริน…แค่ปีละครั้งเท่านั้น”

หนุ่มกันต์ ถึงกับอาปากหวอความรู้สึกหลายหลายๆอย่างวิ่งกระแทกหัวสมองเข้ามะรุมมะตุ้มจนงุนงง ไม่ว่าเรื่องที่ไม่อยากเชื่อเลยว่าปรินดา จะกล้าเผยเรื่องเซ็กส์กับเขาแบบตรงๆแถมเธอยังเป็นสุภาพสตรี ผู้เพรียบพร้อมไปด้วยกุลสตรีตามฐานะเศรษฐีเก่าแก่มีชาติตระกูล หรือเรื่องที่ หลายๆปีหลังจากมีลูกคนที่สอง ซึ่งก็น่าจะสัก 5-6 ปี มาแล้ว เธอกับเพื่อนรักเขาจะมีอะไรกันเพียง ปีละครั้งเท่านั้น นี่ไม่นับว่าเธอทำยังไงถึงอดทนโดยปราศจากเรื่องเซ็กส์มาได้ทั้งๆหากเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ไม่เคยรู้สรชาติของมันเขาก็ไม่แปลกใจ แต่นี้ทั้งๆที่เธอรู้ถึงความสุขสรรของมันแต่เธอกลับจมอยู่โดยยอมรับมันได้แบบนี้ และอะไรอีกหลายๆอย่าง…

แต่แล้วชายหนุ่มก็แลเห็นน้ำตาของปรินดา อาบทะลักเปลือกตาที่ยังคงหลับสนิทท่วมไหลอาบสองแก้มเนียนสวยด้วยแสงจันทร์คืนเดือนหงายพร้อมกับริมฝีปากบางๆของเธอขบเม้มอย่ารุนแรงสั่นระริกจนเขาเองกลัวว่าจะทำให้เรียวปากของเธอฉีกขาดพร้อมๆกับที่อุ้งมือของเธอที่เกาะยึดฝ่ามือเขาอยู่นั้นก็บีบเกร็งจนเขาอีกปวดหนึบๆไปหมด

ชายหนุ่มจำได้ดีไม่เคยลืมครั้งแรกที่เขาเห็นเธอเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ววันที่เพื่อนรักพามาแนะนำ…ปรินดาแม้จะไม่ใช่สาวสวยเหมือนแฟนคนเก่าๆของรัชย์…แต่ใบหน้าของเธอก็เก๋ไก๋ไม่หยอก…ปากนิดจมูกหน่อยสันจมูกคมสวย เรือนร่างทรวดทรวงสมส่วนไปทุกซอกซอน…สอดรับผิวพรรณขาวผ่องเอิ่มเอมสด เอวคอดสะโพกโค้งบั้นท้ายกลมกลึงแอ่นงอน…เรียวขาและปรีน่องกลมเกี้ลยงยาวสวยไร้ที่ติ…กิริยามารยาทงดงามสมเป็นลูกผู้ดีเก่าอันมีฐานะทางสังคม …การศึกษาสูงจากทั้งในไทยและต่างประเทศ…จนเขาเองช่วงแรกๆก็ยังชอบแอบมองบ่อยๆ…จนถึงกับต้องคอยเตือนตัวเองเสมอๆๆว่าแฟนเพื่อนๆๆๆๆๆซ้ำไปซ้ำมา…ซึ่งก็โชคดีที่เขาไม่ได้มีโอกาสเจอเธอบ่อยเลยไม่ยากนักที่จะหลงลืมเธอไปจากความทรงจำ…

แต่อย่างไรก็ดีแม้ภายหลังจากที่เธอมีลุกแล้วและวัยล่วงเลยมาจน 35 ปี รูปร่างเธอก็แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยมีเพียงความอวบอัดเท่านั้นที่มากขึ้นกว่า เดิมแต่นั้นกลับทำให้เธอดูงดงามมากขึ้นด้วยเป็นคนมีพิวพรรณเนียนขาวละเอียดสวยนั้นเอง…

“กันต์…ปริน…ปรินอยากให้กันต์…เพียงสักครั้งเท่านั้นก็พอ” เสียงสะอื้นเบาของปรินดา มาพร้อมกับเปลือกตาของเธอที่เผยอขึ้นจนเต็มที่…

ชายหนุ่มเหมือนต้องมนต์สะกดขณะที่ประสานกับดวงตาของเธอซึ่งกำลังจ้องมองเขาอย่างอ้อนวอนขอความเมตตา…ร่างกายของเขาหมดเรี่ยวแรงขัดขืนค่อยๆไหลลงๆสู่พื้นสนามหญ้าช้าๆตามแรงดึงจากมือสวยของปรินดา อย่างไม่รู้ตัว…ในมโนจิต…

กันต์ได้ยินแต่เสียงร้องกระซิกๆอ้อนวอนของปริดาสลับกับเสียงหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นระรัวตึกๆๆๆอยู่เท่านั้น ความเหงา ความต้องการ อารมณ์ ความกระสันต์ที่เคยได้รับและกำลังโหยหานานนับปี เมื่อรวมกับเสียงเร่งเร้าอันกระสันต์ซ่านเมื่อช่วงเย็นและแรงกระตุ้นที่หลั่งไหลจากแอลกอฮอล์ชั้นเยี่ยมกว่า 2 ขวดแถมยังได้ดื่มกระตุ้นเข้าไปอีกหลายอึกใหญ่เมื่อชั่วครู่ทำให้ปริดาจะเอ่ยปากร้องขาความเมตตาจากเขาผู้ซึ่งเมื่อช่วงเย็นเธอได้รับรู้เรื่องราวโดยละเอียดจากแฟนสาวของเขาและมีความั่นใจก่อตัวขึ้นน้อยๆภายในใจกับความดีของเพื่อสามีเธอผู้นี้

ปรินดา เองตอนนี้ก็ไม่แตกต่างจากเพื่อนรักของสามีเธอเท่าไหร่นัก หัวใจอันโหยหาเต้นระทึกดังลั่นไปพร้อมๆกับเนินอกทั้งสองข้างที่ขยับไหวกระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลงอย่างถี่เร็ว เป็นตัวเธอเสียอีกที่ร้อนวูบไปทั้งใบหน้าเลือดกายสาววัยเจริญพันธ์เต็มที่ไหลผล่านไปทั่วทุกอณูเนื้อ เรือนร่างอวบอิ่มสมวัยของเธอสั่นสะท้านไปพร้อมกับจังหวะที่มโนสำนึกส่งสัญญาณให้ปลดปล่อยฝ่ามือของเขาแล้วออกแรงดึงร่างที่ยังคุกเข่านิ่งงันส่งสายตาอย่างตกในภวังค์ของหนุ่มกันต์ ให้เข้าใกล้แนบชิดต้นขาวอวบของเธอข้างนั้น แต่มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคาดหวังไว้เขาฝืนกายออกมาพลันที่ร่างของเขาถูกกระตุ้นจากแรงดึง 

ปรินดา เห็นชายหนุ่มออกแรงยันร่างเพื่อจะยืนอีกครั้ง เธอใจหายวูบ หวาดกลัวว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะสูยเสียไป ทั้งๆที่เธอเปิดใจให้กับเขาหมดทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ปรินดา กลั้นใจลืมทุกสิ่งที่ยังหลงเหลือคัดค้านต่อสิ่งเธอจะกระทำ เธอโน้มตัวลงโผเข้ากอดรัดไปยังรอบคอของชายหนุ่มใช้ลำตัวอวบสวยของตัวกดทับรั้งร่างของเขาเอาไว้ไม่ขยับน้ำตาสองข้างหลั่งทะลักอย่างเศร้าเสียในมากกว่าเดิมที่แม้เธอจะยอมเสื่อมเสียเปิดเผยสิ่งที่น่าอายและไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยในชีวิตเธอที่จะกล้าทำและขอร้องเขาถึงเพียงนี้ 

“ก…กันต์…กันต์…กันต์ขา…อย่าเพิ่งไป…ปรินขอโทษ…ปริน…ปริน…ฮือๆๆๆ…”

เรือนร่างช่วงบนและใบหน้าของปรินดาที่ซบลงบนหัวไหล่ภายใต้วงแขนที่กำลังกอดรัดร่างเขาไว้นั้นทำให้ชายหนุ่มจำเป็นต้องหยุดนิ่งอีกครั้งท่าทางสะอึกสะอื้นอย่างสะเทือนใจของร่างงามที่กำลังร้องไห้ต่อสิ่งที่เธอได้กระทำไปนั้นทำเอาหัวใจที่เคยแข็งแกร่งของเขาถึงกับสั่นไหว…

ปรินดา สับสนว้าวุ้นและอายหมดหัวใจที่ปลดตัวและใจให้เขาเห็นถึงเพียงนี้ เธอพยายามกลั้นความรู้สึกไม่ให้มันดูน่ารังเกียจและให้เขาดูถูกอย่างเต็มที่กลั้นใจหยุดร้องจนร่างงามของเธอถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่เพียงไม่นานเธอกับสัมผัสถึงวงแขนอันอบอุ่นจากชายหนุ่มที่ค่อยๆตระกองกอดร่างของเธอเบาพร้อมกันรู้สึกได้ว่าเขากำลังยันกายขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอไม่ฝืนการกระทำใดของเขาเลยปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่เขาต้องการ 

“ปริน…กันต์รู้ว่าปรินเมานะ…หยุดร้องไห้เถอะ เดี๋ยวหมดสวยหมด…”

ปรินดา รู้ว่าเขาพยายามจะเฉไฉไปเรื่องอื่นเพื่อประคองอารมณ์ของเธอเอาไว้ขณะที่เขาและเธอกลับมานั่งเคียงข้างกันอีกหนซึ่งเธอไม่แปลกใจเลยสักนิด เพราะนี้คือสิ่งที่เธอรับรู้มาจากแฟนสาวของเขามาหมดแล้วถึงความดีของกันต์ที่เธอเองไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะเป็นชายหนุ่มที่ดีและวิเศษแบบนี้ เธอรู้สึกอับอายที่ทำตัวน่าทุเรศให้เขาเห็นเป็นยิ่งนักไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ 

“ปริน…รัชย์เป็นเพื่อกันต์มาเป็นสิบปี…เกินซิ…รู้จักตั้งแต่เข้ามหาลัยใหม่ๆ…นี้ก็ 17-18 ปีแล้วมั้ง”

ยิ่งเขาพูดปรินดา ก็ยิ่งอายตัวเองจนอยากจะวิ่งหนี้ไปให้ไกลและทุเรศตัวเองมากขึ้นๆ 

“ในสายตากันต์ที่รู้จักปรินนะ…เอ่อ…ปรินเป็นผู้หญิงที่สวยนะ…สวยมาก…เพรียบพร้อมทุกอย่าง…จนกันต์เอง…”

ปรินดา ตัวชากับสิ่งที่เขาค้างคาคำพูดไว้ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะคิดว่าสิ่งที่เขาพูดค้างไว้นั้นเป็นเช่นเดียวกับที่เธอคาดคิดหรือไม่ ชายหนุ่มก็พูดต่อออกมาเบาๆแต่เธอก็ได้ยินอย่างชัดเจนเต็มสองหู 

“เห็นครั้งแรกก็ชอบมากเลย…อิจฉาไอ้รัชย์มันจะตาย…แต่ว่า…ถ้าเทียบกันแล้วกันต์มันห่างกับปรินหลายขั้นนัก…เอาง่ายๆคือ…เอื้อมไม่ถึงนะ…เฮ้อ…แต่ก็ดีใจที่เราได้เป็นเพื่อนกันนะ”
“กันต์”
“ฮืม”
“ขอบคุณมากนะ”
“ฮืม…ว้ายังพูดไม่หมดเลยขอบคุณซะและ”
“พูดซิกัน…ปรินอยากรู้”
“ก็…ก็อยากบอกว่า…ทุกวันนี้ แม้แต่ตอนนี้…ปรินก็ยังดูสวยในสายตาของกันต์นะ…ดังนั้น”

ปรินดา รู้สึกชาว

Share the Post:

Related Posts

แฟนเก่า “ยอมให้แหย่เข้าไปในรูขนาดนี้…อูยเสียว”

เรื่องเสียว แฟนเก่า “ยอมให้แหย่เข้าไปในรูขนาดนี้…อูยเสียว” “ อย่าเสียงดังคนอื่นได้ยิน” อัครเรศบอกร่างบางเบาๆ เมื่อหญิงสาวเริ่มครางออกมาเสียงดังหลังจากเขากระเด้าร่องเธออย่างแรง “ใครใช้ให้นายเอาแรง…อูยเสียว” “ ก็เธอมันน่าเอา…ตอดก็แรงใครจะทำเบาได้ว่ะ” ” ไม่ต้องพูดมาก…“ ” เบาๆ ละกัน…เสียวก็ทนใครใช้ให้มาเงี่ยนตอนนี้“ ” นายไม่เงี่ยนหรือไง“ ” ยุ่ง…“ เขาตอบนิ่งๆ

Read More

ห้องเช่าเบอร์ 5 กับคุณน้าควยเท่าแขน

เรื่องเสียว ห้องเช่าเบอร์ 5 กับคุณน้าควยเท่าแขน ฉันย้ายจากนครราชสีมา มาทำงานที่ปทุมธานี ที่นี่ทุกอย่างไม่เหมือนกับที่ฉันวาดฝันเอาไว้เลย ฉันเจอกับทุก ๆ อย่างที่ไม่เคยได้เจอ รถยนต์ย้อนศร คนขับรถไร้มารยาท สังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน และใช่ ความเป็นอยู่ที่ไม่เคยจะดีขึ้นมาเลย ฉันมาทำงานที่นี่คนเดียวเท่านั้นเอง เพราะการมาหลายคนมันจะเกิดปัญหา บ้านของฉันค่อยข้างวุ่นวาย แต่แม้ว่าอะไรก็ตามที่มันไม่ได้ดั่งใจเลย ฉันก็เลือกที่จะเมินเฉยไปกับมันเสีย

Read More