ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 98

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 98

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 98 “ผู้ไม่เคยรักใครอย่างแท้จริง!?” 

“ทำนายโชคชะตา?”
“ลองดูมั้ย?”
“นั่นเด็กไม่ใช่รึไง?”
“คงเป็นลูกหมอดูมานั่งเฝ้าร้านแทนมั้ง?”
“แล้วเครื่องมือหนังสือตำราอะไรก็ไม่เห็นมีสักอย่าง”
“แต่ไม่เห็นมีใครอีกเลย…กูว่าใช่เด็กคนนั้น”
“เอาจริงเรอะ?”
“ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร…ให้ทำนายดูว่าช่วงนี้เราจะทำมาค้าขึ้นหรือเปล่าน่าจะดี”
“โจรย่องเบาเนี่ยนะ?…มึงก็พูดให้ดูดี”
“เหอะน่า–…หนู…ที่นี่รับดูดวงใช่หรือเปล่าจ๊ะ?”
“…………………………………………………..”
“ทำไมต้องเอาผ้าปิดหัวด้วยวะนั่น?”
“ชี่!!”
“ท่านเห็นเรา?”
“ก็เห็นน่ะสิ…หนูถามแปลกๆนะ”
“หามิได้…เราเพียงจะบอกว่าท่านทั้งสองนี้โชคดีแล้ว”
“…โชคดี?”
“เมื่อท่านทั้งสองเห็นเราก็ถือว่ามีวาสนาอย่างไรเล่า”
“พูดแปลกแฮะเด็กคนนี้…ตกลงหนูคือหมอดูใช่มั้ย?”

“………………………………………………….”
“เฮ่ย!!…ข้าว่าโดนเด็กหลอกเล่นแล้วว่ะ…ไปกันเหอะเสียเวลา”
“เดี๋ยวๆ”
“การที่เราได้มาพบกันนับเป็นโชคชะตาที่มิอาจจะบังเกิดขึ้นอีกในกาลต่อจากนี้เช่นนั้นจงให้เราทำนายหนทางแห่งชีวิตของพวกท่านเถิด”
“ได้เลยๆ…แล้วจะทำนายยังไง?”
“การทำนายของเราคือท่านจงถามสิ่งที่ต้องการรู้แลเราจะพยากรณ์เหตุการณ์เบื้องหน้า”
“โอ้!!…น่าสนุกดี…ถ้าแม่นจริงรับรองจะจ่ายให้อย่างงามเลย”
“มึงก็เล่นกับเด็กนี่ได้”
“เอาน่ะๆ…ถือว่าฆ่าเวลา”
“เชิญ”
“ต่อไปเราจะมีเงินทองใช้มากกว่าที่มีอยู่นี้มั้ย?”
“หามิได้…ท่านจะมีเพียงเท่านี้”
“อ้าว!?”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะท่านจักมิต้องทำอะไรอีกต่อไป”
“มะ…หมายความว่ายังไง?”
“ก็ท่านมีทรัพย์สินแก้วแหวนเงินทองมากมายแล้วมิใช่หรือ?”
“นี่…นี่หนูรู้ได้ยังไง?”
“ถูกต้องใช่หรือไม่?”
“ถูก…ใช่เลย”
“ทว่าท่านมิอาจใช้ได้หมดดอก”
“ฮะๆๆๆ…เพราะมันมากมายไงเล่า”
“กูถามมั่ง…แล้วครอบครัวของพี่ล่ะจะเป็นยังไง?”
“แม้หาได้มีท่านพวกเขาก็ดำรงชีวิตอยู่ได้…อย่าวิตกไปเลย”
“ฟังแล้วมันทะแม่งๆยังไงไม่รู้”
“คิดมากไปได้ไม่เห็นจะมีอะไรนี่หว่า!!…หนูจ๋า–…แล้วต่อไปการ…อ่า–…การทำมาค้าขายของพี่จะราบรื่นดีหรือเปล่า?”
“เราตอบคำถามนี้แล้ว…ท่านจะทำงานด้วยเหตุใดอีกเล่า?”
“อืม–…ถ้าพูดแบบนั้น”
“เอ่อ–…แล้ว…”
“เมื่อใดที่ท่านจะหยุดประกอบอาชีพแล้วไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข?”
“ระ…รู้ได้ยังไงว่าพี่จะถาม?”
“รู้ได้อย่างไรท่านมิต้องใส่ใจดอกแต่เราจะตอบให้…อีกมินานต่อจากนี้ท่านจะหาได้มีเรื่องต้องกังวลต่อไปไม่”
“………………………………………………..”
“จงจากโลกนี้ไปอย่างหมดห่วงเถิด”
“เมื่อกี้หนูว่าอะไรนะ?”
“เราพูดว่าท่านทั้งสองถามพอแล้ว”
“เอ๊ะเดี๋ยวสิ!!!…พี่ยังถามไม่…”
“………………………………………………..”
“นึกไม่ออกว่ะว่าจะถามอะไร?”
“กูก็ด้วย”
“อะ…อ้าว!?…หนูน้อยคนนั้นหายไปไหนวะ?”
“นั่นสิ”
“ว่าจะให้ตังค์ไปกินขนมสักหน่อย”
“ทายแม่นเหมือนกันนี่”
“อืม–…รู้ด้วยว่าเรามีเงินเยอะ”
“แต่เป็นเงินที่เราขโมยของแล้วเอาไปขาย”
“พวกคุณ”
“หืม?”
“คุณสมพรและคุณชลิตใช่มั้ย?”
“ตำรวจ!!!”
“เหี้ยแล้วไง!!!!”
“รีบจับสองคนนั้น!!!”
“บ้าเอ้ย!!…ตำรวจมาตามเราได้ไงวะ?”
“กูไม่ยอมให้จับหรอกโว้ย!!!”
“หาได้มีทางหนีพ้นไม่…ชะตาชีวิตของท่านทั้งสองถูกลิขิตไว้แล้ว”
“!?”
“จักต้องถึงแก่ความตายเมื่อฟังคำพยากรณ์ของเราจบสิ้น”
“เฮ่ยๆๆๆ…คนถูกรถชน!!!!”
“โอ้โฮคาที่!!…อีกคนมุดอยู่ใต้ท้องโดนลากไปโน่น”
“มันวิ่งข้ามถนนมาไม่ดูเล้ย!!!…รถที่ไหนจะไปเบรกทัน”
“อื้อหือ–…แหวะ!!…ดูไม่ได้ๆ”
“เขาว่าสองคนนี้เป็นตีนแมวว่ะ…นี่ก็วิ่งหนีตำรวจจนโดนรถชนนะ”
“ทรัพย์สินเงินทองล้วนแต่เป็นของนอกกาย…ตายแล้วก็มิอาจเอาติดตัวไปได้”
“งั้นก็สาสมแล้ว”
“ครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังแม้โศกเศร้าเสียใจแต่พวกเขาก็จะต้องมีชีวิตต่อไป”
“หมดเวรหมดกรรม”
“ใช่…มิต้องทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างหวาดระแวงใดๆอีกแล้ว”
“ช่างเถอะยังไงก็ตายโหงไปแล้ว…คนชั่วตายไปสองแผ่นดินจะได้สูงขึ้น”
“เออ!!…มีคนบอกว่าเห็นสองคนนี้ยืนคุยกับใครไม่รู้ก่อนจะถูกรถชน”
“ผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหคทั่วหล้า…พญาหงส์ผู้ไร้ซึ่งจิตสำนึก…เทพบดีแห่งการหยั่งรู้…ราชหงส์สุรัมภาคือนามของเรา!!!!”
…………………………………………………………………………………………………………………….

“เลิกตามตื้อซะที!”
“ไม่!!…จะตามจนกว่าพี่จะหายงอนผม”
“ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น…มีแต่จะน่ารำคาญ”
“ผมทำเรื่องร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ถามตัวเองจะดีกว่า…ทำมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว”
…ลูกพี่ลูกน้องสาววัย 22 ยังไม่หายโกรธผมจากคดีล่าสุดที่ไปเข้าโรงแรมหรูกับอ๋อมแต่วันนี้ยังดีที่พูดด้วยซึ่งผิดจากเมื่อวานที่แม้แต่หน้าญาติสาวผู้พี่ก็ยังไม่แลกันสักนิด…
“นายนี่ชอบทำให้ผู้หญิงโกรธอยู่เรื่อยแต่อย่างว่าแหละนะ…เป็นใครก็โกรธทั้งนั้น”
“…………………………………………………….”
“ไม่คิดจะแก้ตัวสักหน่อยเหรอ?”
“แบบนั้นจะยิ่งแย่ไปใหญ่”
“ดีที่คิดได้…แต่…”
“อุ๊บ!!”
(อานิภากางมือปิดหน้าพร้อมกับแค่นหัวเราะในลำคอ)
“ฮึๆๆ…ทำให้ลูกสาวอาโมโหบ่อยๆเดี๋ยวได้ซวยหรอก!!!”
“ผมคงไม่โดนซ้อมจนช้ำในตายน่า”
“ยังจะมาพูดดีรึ?”
“แหะๆ”
“เฮ่ย!?…หัวเราะอะไร?…นี่อาก็โกรธอยู่เฟ้ย!!…งั้นกลางวันนายไม่ต้องกินข้าว”
“อ้าวๆ…ไหงงั้นล่ะ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………………….

(“…เราทอดไข่กินเองก็ได้”
(แต่จะเผื่ออาด้วยดีมั้ยนะ?)
…ไม่ได้ลงมือทำเองนานมากๆเพราะเรื่องการเข้าครัวจะเป็นหน้าที่ของฝนทุกครั้ง…ยังดีที่มือไม่ตก…
อายังนอนอยู่ในห้องฝนหรือเปล่า?…ใกล้จะเที่ยงแล้วไปปลุกดีกว่า…
“เที่ยงแล้วนะครับ…อื๋อ?”
“……………………………………………….”
“ไม่อยู่?”
“มีอะไร?…อากำลังจะอาบน้ำ”
“ผมจะชวนไปกินข้าว”
“นายทำอะไร?”
“ไข่เจียวกุ้งสับครับ”
“โฮ่~~..ทำเป็นด้วยแฮะ”
“อา–…ผมก็ไม่ใช่คุณชายมาจากที่ไหนนะครับ”
“เรอะ!!…เออๆ…เดี๋ยวตามไป”
“………………………………………………..”
(ความคิดอันชั่วช้าแล่นเข้ามาในสมองฉับพลันเชียวนะเจ้าเอกคเชนทร์)
“………………………………………………..”
(แอบดูอาสาวคนสวยอาบน้ำดีกว่า…วันก่อนเราพลาดไป)
“หือ?”
(ยกทรงกับกางเกงในของอานิภา)
“………………………………………………..”
(ทำไมมันบางอย่างนี้แต่หอมมากเลย!?)
“วางเดี๋ยวนี้–…เจ้าเด็กลามก!!!”
“หวา!!!”
“นี่แน่ะๆๆ”
“โอ้ย~~…เปียกหมดแล้ว”
“สมน้ำหน้า!!!…ใครใช้ให้หยิบเล่า?…เด็กนี่–”
…เล่นเป็นเด็กๆเลย…อานิภาเปิดประตูในสภาพนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอกถือฝักบัวฉีดใส่ผมจนตัวเปียกไปหมดและยังทำให้ภายในห้องเปียกไปด้วย…
“ออกไปนะ!!!…ไม่งั้นอาจะฟ้องแคทกับฝนด้วย”
“ฟ้องที่ผมแอบดูอาน่ะเหรอ”
“เออสิ!!…คราวก่อนก็จะแอบดูทีนึงแล้วทีนี้ยังจะ…”
“?”
(ทำไมหยุด?)
“หยิบกางเกงในอาจะเอามาสำเร็จความใคร่แบบโจรโรคจิตในข่าวใช่มั้ยห๊ะ?”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“ฮึๆๆ…เจตนาของนายมันไม่บริสุทธิ์แล้ว…คิดจะทำมิดีมิร้ายกับอาสิท่า?”
“กับป้าเอ็มผมยังเอามาแล้วเลยครับ”
“แน่ละ!!…แล้วมีอะไรอีกที่นายจะไม่กล้า?”
“…………………………………………………..”
“อาไม่อยากจะเจริญรอยตามพี่เอ็มที่มีอะไรกับหลานชายแท้ๆของตัวเองหรอกจะบอกให้”
“…………………………………………………….”
…อานิภาเปิดประตูเดินออกมานั่งที่เตียงก่อนจะพูดด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความจริงจังอย่างที่ไม่ค่อยเผยให้เห็นบ่อยครั้งนักจากนั้นก็สั่งให้ผมนั่งลง…
“นั่ง”
“ครับ”
“เฮอะ!!…นิดหน่อยก็จะเอานะนาย…ไม่มีทางเห็นหรอกย่ะ!!!”
(นั่งไขว่ห้างซะเลย…แหม~~…รู้ทันซะอีก)
“ไม่รู้ว่าพี่เอ็มคิดยังไงถึงมีสัมพันธ์กับชายคนอื่นและโดยเฉพาะชายคนนั้นคือหลานแท้ๆของเธอเอง…บอล…อาถามจริงๆนะและขอให้ตอบมาตรงๆตามความรู้สึกด้วย”
“ครับ”
“เวลาที่บอล…ร่วมเพศกับพี่เอ็ม…มีความสุขมากมั้ย?”
“เอ่อ…”
“พูดมาเถอะ”
“ครับ…มีความสุขมากครับ”
“ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยหรือ?…แบบว่านี่ป้าแท้ๆของเรานะอะไรประมาณนี้”
“คือ…มันก็มีบ้างแต่เวลานั้นใครจะยั้งใจไหวล่ะครับ?”
“จริงน่ะนะ…มันไม่เข้าใครออกใคร”
“อาครับ”
“หือ?”
“ผมก็มีอะไรจะถามและอยากให้อาตอบมาตามตรงเหมือนกัน”
“ฮะ…มีคำถามด้วยเรอะ?…อ่ะ!…ถามมา”
“อามีอะไรกับอาสนบ่อยมั้ย?”
“ช่างกล้าถาม”
“……………………………………………………”
“…ไม่มีอะไรกันเกือบสี่เดือนแล้ว”
“โอ้โห!!…อัดอั้นแย่–…อาเองก็ยังสาวขนาดนี้”
“หืมๆ…อาพอจะรู้จุดประสงค์ของเธออยู่”
“……………………………………………………”
“แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าอาไม่อยากเจริญรอยตามพี่เอ็มเพราะที่เธอทำทั้งหมดเพราะต้องการจะเอาชนะพี่กวางซึ่งอามองว่ามันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว”
“สี่เดือน”
“?”
“เป็นเวลาที่นานนะครับ”
“…อืม”
“ถ้าเป็นผมทนไม่ไหวหรอก…แค่สามวันก็เต็มที่แล้วต้องหาที่ลง”
“นั่นเพราะนายมันบ้ากาม”
“ไม่ใช่”
“หมกมุ่น”
“เรื่องปกติธรรมดาของวัยรุ่นต่างหากครับ”
“ยังจะเถียง!!”
“ก็จริงนี่ครับ”
“ฮะๆๆๆๆ…ฮ่าๆๆ…เรื่องนี้นายไม่ยอมรับเลยให้ตาย–”
“………………………………………………………”
“ลงไปรอข้างล่าง…เดี๋ยวอาตามไป”
“ครับ”
“เอ้าๆ…ปกติก็ปกติ…แต่ว่า…หลานชายที่มีความคิดจะตีหม้ออาแท้ๆของตัวเองมันไม่ปกติโดยสิ้นเชิงนะจะบอกให้…อ๊า!!”
“!!!!!!!!!!!”
“ตายแล้ว!!!”
…จังหวะที่อานิภากลับเข้าห้องทันใดนั้นผ้าขนหนูก็หลุดออกลงไปกองที่พื้น…ผมงี้ตาแทบถลนเพราะเห็นแผ่นหลังขาวเนียนและบั้นท้ายอันงามงอนเต็มๆ…อาสาวคนสวยรีบหลบเข้าห้องด้วยเรือยร่างที่เปลือยเปล่าพลางโผล่แค่หัวออกมาเอ็ดผม…
“มองอะไรห๊ะ?…ลงไปเลย…บรี่!!”
(หรือ…หรือหล่อนจะจงใจทำผ้าหลุดกันแน่!?)
“อาๆ…ลืมผ้าขนหนู…โอ๊ย!!”)
“…………………………………………………”
“นั่งหลับตรงนี้ไม่ได้นะคะ…ขวางหน้าร้าน”
“เอ๊ะ!?…ขอ…ขอโทษครับ”
(ฝะ…ฝันไปหรอกเหรอ?)
“แต่เหมือนจริงชะมัด…แบบไม่รู้ว่าตกลงอันไหนความจริงอันไหนฝัน…หืม?…นึกออกแล้ว…เราออกมาซื้อของในเมืองนี่นา”
(ชักงงตัวเอง…ความฝันอะไรไม่รู้เหมือนจริงเหลือเกิน)
“…………………………………………………..”
“หนูมีอะไรเหรอ?”
“ช่างเป็นความฝันที่น่าสนใจ”
“นี่หนูเป็นใคร?”
“เรานั้นเป็นเพียงวิหคผู้ต่ำต้อยนามว่าบุหรง”
(เป็นชื่อที่ไพเราะอย่างน่าประหลาด)
“แล้ว…ยังไงจ๊ะ?”
“…………………………………………….”
(เด็กหญิงที่มีลักษณะการพูดคล้ายๆพี่ม่อน)
“หนูบอกว่าชื่อบุหรง”
“โปรดเรียกเราเช่นนั้น”
“พ่อแม่ของหนูอยู่ไหน?”
“หามีไม่”
“อ้าว!?…งั้นหนูมาจากไหนและมากับใคร?…พอจำได้มั้ย?”
(ส่ายหน้า)
“ท่านมิต้องวิตกดอก…เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเราจะกลับเอง”
“เอ่อ–…จนป่านนี้พี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าหนูพูดอะไร?”
………………………………………………………………………………………………………………………………

“นั่นใครนะ?”
“ไม่รู้”
“แม้กระทั่งพี่รีย์ก็ยังมองไม่ออกว่าเด็กผู้หญิงที่อยู่กับพ่อเป็นใคร…แสดงว่า…”
“แต่พี่มั่นใจว่าไม่ใช่อุษณรัศมีหรือสิตลรัศมีเพราะทั้งสองมีพระเวทย์เทียบเท่ากับพี่ซึ่งพี่จะต้องรู้”
“หมายความว่าหากพระเวทย์ของอีกฝ่ายเหนือกว่าก็จะไม่รู้สินะคะแล้วผู้ที่มีพระเวทย์เหนือกว่าพี่รีย์…หัสดินเทวนาถ…ไม่!!…พญาคชสารไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้”
“…………………………………………………..”
“พวกเจ้ายังมองไม่ออกหรือ?”
“อชินีสุราลัย”
“เจ้าพ้นโทษแล้ว”
“น่าเบื่อจริงๆที่ต้องถูกกักตัวในถ้ำที่แสนจะคับแคบอย่างนั้น”
“เพราะอาละวาดจนท้องฟ้าปั่นป่วนแผ่นดินพังพินาศไปหมดไง”
“สองแฝดก็สมควรถูกลงโทษเหมือนกันแต่กลับไม่เป็นอะไรเลย…เจ้าคิดว่ามันยุติธรรมเรอะ?…วสันตนุจรินทร์”
“นั่นเพราะเจ้าเป็นฝ่ายเริ่มต้น”
“เฮอะ!!…ข้าไม่เคยทำอะไรดีหรอก”
“เรากำลังพูดถึงเด็กผู้หญิงที่สนทนากับคุณพ่ออยู่นะ…ทำไมจะต้องมาโต้เถียงกันเอง?”
“จริงด้วย!!…เจ้าดูออกแล้วใช่มั้ย?”
“ฮึ!!…ถ้าข้าไม่รู้จักมันเป็นอย่างดีก็คงเหมือนพวกเจ้าที่ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร?”
“!?”
“อชินีสุราลัย…เจ้าจะพูดว่า…”
“มะ…ไม่จริง!!!…เป็นไปไม่ได้!!!!…ก็…ก็เวลานี้นางยังหลับใหลอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“วสันตนุจรินทร์เอ๋ย!!…เทพบดีแม้จะหลับก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง…แค่ส่งดวงจิตเข้าสู่ร่างผู้อื่นนั้นง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ…เจ้าก็เห็นตัวอย่างจากหัสดินเทวนาถแล้ว”
“ไม่เป็นบริวารอะไรทั้งสิ้น…ชื่อบุหรงก็ไม่ใช่”
“อะไรกัน?”
“น้องดูที่เงาของนาง”
“!!!!”
“เงาที่ทอดยาวออกไปนั้นปรากฏรูปนกยักษ์สยายปีก”
“ก็หมายความว่า…”
“นางผู้นั้นแหละคือราชหงส์สุรัมภา!!!!”
“นาง!!…นางต้องการอะไรกันแน่คะถึงได้ใช้ร่างเด็กผู้หญิงไปพบกับพ่อ?”
“ไม่รู้…ยังไม่รู้อะไรสักนิดเดียว”
“แต่ที่แน่ๆไม่ใช่เรื่องดี…ถ้าพวกเจ้ายังจำได้…เจ้านั่นมีอีกสมญานามหนึ่ง”
…………………………………………………………………………………………………………………………………

“หนูดื่มน้ำสักหน่อยนะ”
“……………………………………………..
“วันนี้อากาศร้อน…ดื่มสักหน่อยจะได้สดชื่น”
“ขอบคุณในความมีน้ำใจของท่าน”
…เด็กหญิงรับมาแล้ววางข้างตัว…ดูไปดูมาใบหน้าของหนูน้อยคนนี้ดำคล้ำซูบซีดราวกับคนป่วยแถมผิวหนังบริเวณแขนก็มีรอยเหมือนเข็มฉีดยาเจาะ…
“หนูบุหรง”
“?”
“ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
“เหตุใดท่านจึงพูดเช่นนี้?”
“พี่สังเกตมาพักหนึ่งแล้ว…ก็ไม่ใช่หมอหรอกนะแต่ร่างกายของหนูดูไม่ปกติเลย”
“…………………………………………………..”
“ถูกมั้ยล่ะ?”
“หึๆ…สายตาแหลมคมไม่เบา…ถูกต้องแล้ว…ร่างกายนี้กำลังป่วยหนัก”
“หา!?…หนูป่วยเป็นโรคอะไรแล้วทำไมมาอยู่ที่นี่?…พ่อแม่หนูอยู่ไหน?…พี่จะพาไปส่ง”
“ท่านรู้รึว่าเราอยู่ที่ใด?”
“ไม่รู้แต่พี่จะปล่อยให้หนูที่ป่วยหนักอยู่ตามลำพังได้ยังไง?”
“ท่านช่างมีน้ำใจนัก”
“ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะ!!”
“บอกแล้วว่าหาได้ต้องกังวลไปไม่…มินานก็จะมีคนมารับเราเอง”
“งั้นพี่จะอยู่เป็นเพื่อนหนูเอง”
“เวลาของท่านมีค่าจะมาเสียอยู่กับเราด้วยเหตุใดเล่า?”
“เพราะพี่ทิ้งหนูไปไม่ได้”
“เรามิเคยรู้จักกันมาก่อน”
“ถึงอย่างนั้นพี่ก็ทิ้งหนูไปไม่ได้จนกว่าจะมีคนมารับ”
“…………………………………………………….”
“…………………………………………………….”
“…มิน่า…พวกนางจึงยอมรับแต่เท่านี้ก็หาได้ช่วยให้หลุดพ้นไม่”
“เมื่อกี้หนูอะไรนะ?”
“น่าสนใจ…เช่นนั้นเราจะตอบแทนในความมีน้ำใจของท่านสักหนึ่งอย่าง”
“?”
…………………………………………………………………………………………………………………………

“เด็กหายไปทั้งคนทำไมไม่มีใครรู้?”
“คุณหมอครับแต่พวกเราตรวจตรากันอย่างเข้มงวดแล้ว”
“เข้มงวดจริงแล้วจะหายไปได้ยังไง?…เด็กผู้หญิงและก็ป่วยหนักด้วย…คนนะไม่ใช่หมาหรือแมวที่จะเล็ดลอดออกไปได้ง่ายๆ!!!!”
“คุณหมอศรเพทายอย่าเพิ่งโกรธเลย…ผมว่าเรารีบติดต่อให้พ่อแม่เด็กรู้ก่อนดีกว่าครับ”
“เรื่องนั้นต้องทำแน่ๆค่ะแต่ก่อนอื่นต้องตามหาหนูอารยาให้เจอ…ดิฉันส่งคนออกไปสืบหาแล้ว…ไม่นานคงได้ข่าว”
“ส่วนเจ้าหน้าที่รปภ.รอให้เจอเด็กก่อนแล้วค่อยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงนะครับ”
“ค่ะ”
“คุณหมอคะ!!…เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว…เมื่อสองชั่วโมงก่อนหนูอารยาเดินออกจากห้องไอซียูไปเพียงคนเดียวค่ะ!!!”
“บ้า–…บ้าไปแล้ว!!!!…คนป่วยโรคไตวายเฉียบพลันและหมดสติไปเมื่อเก้าโมงเช้าแต่พอตกบ่ายกลับมีแรงลุกเดินไปเองเนี่ยนะ?”
“แต่…คุณหมอลองดูนี่ก่อนสิคะ”
“………………………………………………….”
“ในภาพเป็นหนูอารยาจริงๆ”
“เดินเหินเหมือนคนปกติเลย!!!…นี่…นี่ฉันกำลังดูอะไรอยู่?”
“น่าอัศจรรย์เหลือเกิน”
“ตรงไหนกันห๊ะ?…หนูอารยาตอนนี้บอกตรงๆว่าถ้าไม่ได้รับการเปลี่ยนไตโอกาสรอดชีวิตก็มีไม่ถึงครึ่ง…ให้ตายสิ!!!…เธอไปอยู่ที่ไหนนะ?”
“แบบนี้เราจะตอบคำถามพ่อแม่ของหนูอารยาได้ยังไง…ชื่อเสียงของโรงพยาบาลมีหวังเละก็งานนี้”
“กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาแล้ว…ถ้ารู้ไปถึงหูนักข่าวล่ะก็”
“ต้องรีบไปเตรียมจัดแถลงข่าว”
“รอดูก่อนน่า!!…คงจะไม่ร้ายแรงถึงขนาดนั้นมั้ง?”
“ฮัลโหลว่าไง?…หา!?…จะ…เจอแล้ว!!!!”
“!!!”
“!?”
“รีบบอกมาว่าอยู่ไหน?”
“……………………………………………………..”
“เออรู้แล้วๆ!!”
“เจอแล้วใช่มั้ยครับ?”
“ฉันจะล่วงหน้าไปก่อน…ทางนี้เตรียมห้องรักษากับอุปกรณ์ให้พร้อม!!…ไปเตรียมรถพยาบาลเร็วเข้า!!!”
“ครับ”
“ไอ้เอกคเชนทร์!!!…ทำไมหนูอารยาถึงไปอยู่กับแก?”
………………………………………………………………………………………………………………………………………..

“อีกสมญานามของผู้เป็นใหญ่ในหมู่วิหค?”
“ถูกต้อง”
“เหตุที่นางได้รับขนานนามว่าเทพบดีแห่งการหยั่งรู้เพราะ…เพราะ…ใช่แล้ว!”
“…สุริยนนุจรินทร์…เจ้านึกออกแล้วสิ”
“เทพบดีแห่งการทำนาย…”
“อืม”
“หยั่งรู้…ทำนาย…สองสิ่งนี้มักอยู่คู่กันเสมอตั้งแต่โบราณกาล”
“เมื่อหยั่งรู้ซึ่งทุกสิ่งก็ย่อมถ่ายทอดคำทำนายได้แต่เจ้านั่นกลับมีบางสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า”
“คือ?”
“ราชหงส์สุรัมภาไม่เคยสนใจต่อความดีหรือความชั่วใดๆ…ผู้ใดที่เจ้านั่นเห็นสมควรก็จะให้คุณหรือให้โทษโดยไม่แยกแยะอะไรทั้งสิ้น”
“จะบอกว่าทำตามแต่ใจที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนว่าใครจะดีหรือใครจะเลว?”
“ถูกแล้ว…ข้าถึงพูดว่าเจ้านั่นไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอะไรเลยไงเล่า”
“อย่างนี้ไม่ถูกต้องแล้วนางจะทำอะไรกับคุณพ่อ?”
“หากให้ข้าเดา…นางคงจะให้คำทำนายและมันจะส่งผลให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป”
“ทำนาย?”
“และที่ผ่านมาก็ไม่เคยผิดพลาดซะด้วย”
“บ้าน่ะ!!”
“อชินีสุราลัย…ถ้าที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง…คุณพ่อต้องอย่าฟังคำพูดของนางเด็ดขาด!!!!”
“ใช่…แบบนี้อนาคตของพ่อต้องเปลี่ยนแน่!!!!”
“จะไปห้ามรึ?”
“ปล่อยเทพวิหคที่ไร้ซึ่งจิตสำนึกให้คำทำนายบ้าๆกับพ่อไม่ได้!!!”
“นางรู้อยู่แล้วว่าพวกเจ้าจะทำอะไร”
“ส่วนเจ้าก็จะไม่ทำอะไรบ้างหรือ?”
“จะให้ข้าทำอะไรล่ะ?”
“เชิญมาเป็นสักขีพยานในคำทำนายแห่งเราเถิด…สุริยนแลวสันต…”
“!!”
“!?”
“เจ้าจะมาด้วยก็ได้…อชินีสุราลัย”
“ฮึ!!…โผล่หางออกมาจนได้…เจ้านกปิศาจที่เอาแต่ความสะใจของตนเองและไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ”
“ถ้าทำอะไรกับพ่อก็จะได้เห็นดีกัน…ต่อให้สู้ไม่ได้ก็อย่าหวังว่าวสันตนุจรินทร์ผู้นี้จะงอมืองอเท้ายอมให้เจ้าทำตามใจง่ายๆเลย…พญาหงส์!!!!”
“…………………………………………………”
……………………………………………………………………………………………………………………………

“ถึงเวลาที่เราจะต้องไปแล้ว”
“เอ๋?”
“ขอบใจท่านจริงๆ”
“จะขอบใจพี่ด้วยเรื่องอะไร?…มันเล็กน้อยมาก”
“ท่านดูแลเราเป็นอย่างดีเช่นนี้ก็เห็นทีจะต้องได้รับสิ่งตอบแทนบ้าง”
“หนูน้อย…จะตอบแทนอะไรพี่เหรอ?…แต่จริงๆพี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะแค่อยู่เป็นเพื่อนหนูเท่านั้นเอง”
“นั่นก็คือ…วาระสุดท้ายแห่งชีวิตของท่านอย่างไรล่ะ?”
“โอ้โห!!…ขำไม่ออกนะเนี่ย?…จะเล่นแรงไปหน่อยแล้วมั้ง?”
(เด็กเวร!!!…เราอุตส่าห์อยู่เป็นเพื่อนแต่กลับพูดอะไรไม่เป็นมงคล..ถ้าเป็นเพื่อนกันนี่ตบหัวทิ่มไปนานแล้ว)
“ว่าแต่ท่าน…”
“?”
“มิรู้สึกร้อนหนาวบ้างหรืออย่างไร?”
“ร้อน?…หนาว?…เปล่านี่…พี่ปกติดี”
“เปลวเพลิง…สายน้ำ…”
“นี่หนูพูดอะไร?…พี่ไม่เห็นเข้าใจสักนิด”
“………………………………………………..”
“จะบอกว่าวาระสุดท้ายของพี่เป็นยังไงไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่…เราจะบอกท่าน ณ บัดนี้”
“น่าสนุก!…จะฟังหน่อยก็ได้…ว่ามาเลย”
“ท่านมิพอใจ”
“หา?”
“สีหน้าของท่านแสดงออกมาเช่นนั้นแต่จงลองฟังดูเถิด”
“…ก็พูดมาสิ”
“ก่อนหน้าคงมีผู้หนึ่งบอกท่านว่าจะได้รับเคราะห์จนอาจถึงแก่ชีวิต”
“เอ๋?”
(ผู้ใดที่ว่านั่นคือลูกสาวของเราเอง…แล้ว…แล้วแม่หนูคนนี้รู้ได้ยังไง?)
“ถูกต้องใช่หรือไม่?”
“ก็…ก็ใช่”
(เฮ่ย!?…เด็กคนนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับหนูน้อยของเรา?…คำพูดที่มีความเชี่ยมโยงจากในฝันสู่เรื่องจริง)
“หนู…”
“……………………………………………………”
(ไม่ใช่!!…ความรู้สึกมันฟ้องว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของเรา)
“คำพูดนั้นจะเป็นความจริงอย่างแน่นอน”
“อะไรนะ?”
“มิว่าจะหลีกหนีหรือระวังตนมากเพียงไรก็หาได้หนีพ้นไม่”
“หมายความว่า…มัน…มันจะไม่มีทางแก้ไขหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้เลยหรือ?”
(เด็กหญิงส่ายหน้า)
“พี่…จะตายหรือนี่?”
“มนุษย์ทุกผู้ทุกนามย่อมต้องถึงแก่ความตายเพียงจะช้าหรือเร็ว…ท่านจะกลัวไปไยเล่า?”
“แต่มันเร็วไป…แล้วก็”
“?”
“พี่จะมีลูกก่อนแล้วค่อยตายใช่มั้ย?”
“คำถามนอกเหนือจากนี้เรามิขอตอบ”
“บอกไม่ได้?”
“…………………………………………………”
“ถ้างั้น…พี่จะตายยังไงและ…เมื่อ…เมื่อไหร่?”
“หนูอารยา!!!”
“!?”
…พี่เซคเข้ามาขัดจังหวะก่อนที่เด็กหญิงจะตอบว่าผมต้องตายเมื่อไหร่…บ้าเอ๊ย!!!…ทำไมไม่มาช้าอีกสักนิด…
“หนูอารยาๆ”
“พี่เซค…หนูคนนี้ชื่ออารยาหรือ?”
“หุบปาก!!…แกน่ะทำไมมาอยู่กับเธอได้?”
“ผะ…ผมจะรู้ได้ยังไง?…หนูคนนี้เข้ามาคุยกับผมเองและเธอบอกว่าชื่อบุหรงนะครับ”
“บุหรงอะไรกันเป็นไปไม่ได้!!!…หนูอารยาป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังนอนอยู่โรงพยาบาลจะมีเรี่ยวแรงมาคุยกับแกได้หรือ?…แย่แล้ว…หนูอารยาๆๆ…บ้าจริง!!…หมดสติไปแล้ว”
“อะไรกัน?…ก็เมื่อกี้เธอยังคุยกับผมดีๆอยู่เลย”
………………………………………………………………………………………………………………………………….

“มิต้องมองเราด้วยสายตาเคืองแค้นเช่นนั้นแลที่จริงพวกท่านก็หาได้มีสิทธิ์กล่าวโทษเราด้วยซ้ำ”
“จะไม่มีสิทธิ์ได้ยังไง?…หากครั้งนี้ข้าใช้ธารน้ำอันเชี่ยวกรากและแหลมคมดุจคมมีดทำร้าย…เจ้าก็จงมีแต่ต้องยอมรับอย่างไม่อาจขัดขืน…พญาหงส์!!!!”
“เทพบดีแห่งวารี…เรารู้ว่าท่านกล่าววาจาออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวแต่ท่านจะฟังเหตุผลของเราก่อนเป็นแน่แท้”
“อะไรนะ?”
“พระเวทของท่านนั้นยังมินำออกใช้ดอก”
“อย่างนั้นเจ้าก็ต้องรู้ว่าข้าจะทำอะไรต่อไป”
“…………………………………………………….”
“!?”
“แม้ไม่ใช่ร่างจริงของเจ้าแต่ข้าก็รู้สึกสาแก่ใจนัก…ข้าสามารถหักคอเจ้าได้อย่างง่ายดาย…เจ้านกปิศาจ!!!”
“เจ้ามิทำเช่นนั้นดอก…อชินีสุราลัย”
“หึ!!”
“ท่านหยั่งรู้ไปเสียหมดทุกอย่างก็ย่อมต้องรู้ดีว่าพวกเราจะถามอะไรท่าน?”
“เทพบดีแห่งอัคคี…เช่นนั้นจงบอกสหายของท่านให้หยุดกระทำการเสียมารยาทต่อเรา”
“เจ้าใจอ่อนอีกแล้ว–”
“เปล่า…ฉันไม่ได้ใจอ่อน”
“ฮึ!!”
“ทั้งที่อยู่ต่อหน้าฉันและน้องสาว…ฉันอยากรู้เหลือเกินว่าเพราะเหตุใดท่านจึงพูดกับพ่อของฉันอย่างนั้น?”
“เห็นแก่ที่ท่านเป็นผู้มีเหตุผลมากที่สุด…เราจะบอกท่าน”
“นะ…นี่เจ้าหลอกด่าข้า!!!”
“ใช่…เจ้าบังอาจหมิ่นข้าว่าเป็นผู้ไร้เหตุผลรึ?”
“ทั้งสองเงียบสักที!!”
“ฮึ่ย!!!”
“พี่!!”
“ห๊ะ?…เมื่อกี้เจ้ายังมองเย้ยหยันข้า”
“อชินีสุราลัย…เจ้าพอได้แล้ว!!…ไม่มีใครมองเจ้าอย่างนั้น”
“เจ้าไม่เห็นน่ะสิ!!…ไม่เห็นเจ้านกบ้านี่มองข้าด้วยแววตาหยามเหยียด…ปัทโธ่เว้ย!!…ข้าไม่รู้ด้วยแล้ว!!!”
“ราชหงส์สุรัมภา…คำพยากรณ์ของท่านนั้น”
“เราขอถามว่าคำพยากรณ์นี้ต่างจากที่พวกท่านรู้มาหรือไม่?”
“…ไม่”
“หมายความว่าหาได้มีสิ่งใดผิดเพี้ยนไปแม้แต่น้อย…บุรุษผู้นั้นจะถึงแก่ความตายภายใน 90 วันของโลกมนุษย์ซึ่งเป็นไปตามชะตาชีวิตของเขาแลตรงตามที่พวกท่านรู้”
“เจ้ามีจุดมุ่งหมายอะไรถึงมายุ่งเกี่ยวกับพ่อของข้า?”
“เรามีความสนใจว่าพวกท่านที่ดำรงฐานะเทพบดีเหตุใดจึงให้ความสำคัญต่อบุรุษผู้นั้นที่เป็นเพียงมนุษย์?…แม้กระทั่งอุษณรัศมีแลสีตลรัศมีก็เช่นเดียวกัน”
“ไม่เกี่ยวกับข้า!!!”
“แต่สำหรับเรานั่นคือสิ่งที่มิสมควรจะเกิดขึ้น…เราหยั่งรู้ว่าพวกท่านมีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของบุรุษผู้นั้นเพื่อมิให้ถึงแก่ความตาย”
“!?”
“!!!!”
“ใช่แล้ว…นี่คือความตั้งใจที่แท้จริงแต่พวกท่านมิอาจเปลี่ยนแปลงได้…ความตายของเอกคเชนทร์จักบังเกิดขึ้นอย่างแน่นอนภายในเวลาเก้าสิบวันของโลกมนุษย์…ด้วยแสงจันทร์”
“ท่านก็เลย…ทำให้มันชัดเจนโดยใช้พลังอำนาจของเทพบดีแห่งการพยากรณ์”
“เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเราเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของพ่อ”
“ในนามผู้เป็นใหญ่แห่งหมู่วิหค…เราขอเตือนพวกท่านด้วยความปรารถนาดีว่าอย่าพยายามกระทำการที่ไร้ประโยชน์อีกต่อไปเลย”
“ดวงจิตหายไปแล้ว!!”
“ตอนนี้ที่อยู่ต่อหน้าเราก็เป็นได้เพียงนกตัวหนึ่งเท่านั้น”
“เราจะทำยังไงดีคะพี่?”
“…………………………………………………..”
“พวกท่านหมดหนทางจะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมแล้ว”
“ใช่…ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง”
“เจ้าแฝดนรก…สหายของพวกเจ้าเพิ่งมุดหัวหนีไปเมื่อกี้นี้ไงเล่า!?”
“เสียมารยาทจริง”
“เสียมารยาทนัก”
“ข้ากำลังอารมณ์ไม่ดี…จะมาหาเรื่องอีกใช่มั้ย?”
“เราไม่ได้มาหาเรื่องใครทั้งนั้น”
“ไม่ได้มาหาเรื่อง”
“พวกท่านมาด้วยเหตุใด?”
“การจะปล่อยให้พ่อมีความทรงจำนี้เหลืออยู่ไม่ใช่เรื่องดี”
“ไม่ใช่เรื่องดีอีกต่อไป”
“จงทำให้ลืมไปเสียเถอะ”
“ลืมไปเสียเถอะ…แม้กระทั่งแม่ของท่านด้วย…สุริยนนุจรินทร์”
“…………………………………………………….”
“เพราะจะมีแต่ทุกข์ทรมานใจเปล่าๆ”
“ทุกข์ทรมานใจเปล่าๆ”
“แลอันที่จริงมนุษย์ไม่ควรล่วงรู้จุดสิ้นสุดของตน”
“ไม่ควรล่วงรู้จุดสิ้นสุดอันเป็นข้อห้ามแห่งกฎธรรมชาติ…เราสองพี่น้องจะเป็นธุระให้เอง”
“และต่อไปนี้เราจะทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขที่สุด”
“ท่านทั้งสามคงจะยินดีนะ”
“ก็บอกแล้วว่าข้าไม่เกี่ยว…อยากทำอะไรก็เชิญเถอะ!!!”
…………………………………………………………………………………………………………………………………..

Share the Post:

Related Posts

ได้ลูกเลี้ยงเป็นเมีย

เรื่องเสียว ได้ลูกเลี้ยงเป็นเมีย ผมชื่อก้อง ติดตามอ่านเรื่องเล่าจากเพื่อนๆ มานานแล้วครับ แต่ยังไม่มีมีโอกาสมาเล่าประสบการณ์ประสบการณ์ของตัวเอง เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี เรื่องของผมอาจจะดูผิดศีลธรรมไปนิด แต่มันคือเรื่องจริงที่ไม่อยากให้เกิด แต่ก็เกิดเกิดขึ้นแล้ว และยังคงประทับใจ หากท่านผู้อ่านจะด่าก็ด่าได้ แต่อย่าแรงนะครับ ผมเป็นคนจังหวัดตรัง อยู่ทางภาคใต้ ติดชายทะเลอันดามันครับ ภรรยาเก่าเสียไปสี่ปี ก็แต่งงานใหม่กับแม่หม้ายลูกติดสองคน เป็นคนเชียงใหม่ ลูกคนโตอายุ

Read More

นัดเจอเมียครั้งแรกได้เย็ดทั้งเมียทั้งพี่สาวเมีย

เรื่องเสียว นัดเจอเมียครั้งแรกได้เย็ดทั้งเมียทั้งพี่สาวเมีย เรื่องที่ผมจะมาเล่าวันนี้เป็นเรื่องจริงของผมเองที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วครับผมทำงานในบริษัทรถยนต์ยี่ห้อนึงครับแผนกช่างเทคนิคชำนาญการพิเศษ ตอนนั้นผมอายุ 27 ปีครับ เพิ่งคบกับแฟนที่รู้จักกันผ่านทางเพื่อนที่เป็นแม่สื่อให้ครับ ซึ่งเพื่อนคนนี้ก็เป็นพี่สาวของแฟนผมนั่นเองครับ ผมชื่อจักร แฟนชื่อกวาง อายุ 28 ส่วนพี่แฟนชื่อนิดอายุ 30 นิดกับผมค่อนข้างสนิทกันมาก ผมกับแฟนนิดก็รู้จักสนิทสนมกันพอสมควรครับ เวลามีปัญหาอะไรผมจะเป็นคนแรกๆ ที่คิดถึงและขอความช่วยเหลือ

Read More