คืนหนาวของพี่สาวกับผม

ผมและพี่สาว เป็นคนที่มาจากต่างจังหวัด ทางภาคตะวันออก เข้ามาศึกษาระดับอุดมศึกษาใน ทกม. ทางบ้านของเรา มีฐานะพอควร พี่ก้อยเป็นคนรูปร่างสวย แม้ไม่สูงนัก เพราะว่าตัวผมนั้นสูง 171 ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้วพี่สาวจึงตัวเล็ก กว่าผมมากๆ แต่พี่ก้อยมีข้อเด่นคือผิวขาว ส่วนผมนั้นออกคล้ำๆ พี่สาวอายุห่างผม 3 ปี คือผม 18 พี่ก้อย อายุ 22 ในขณะที่พี่ก้อยเรียนอยู่ปี 2 ผม “เล็ก” ผู้เป็นน้องชายก็ได้เข้ามาเรียนด้วย ผมเลือกที่จะในมหาลัยเดียวกันกับพี่ เพราะ จะได้อยู่ช่วยเหลือและดูแลกันและกันได้ ห้องพักที่พี่สาวเช่าไว้นั้นเป็นห้องธรรมดาทั่วไป มีห้องน้ำในตัว เมื่อผมมาอยู่ ด้วยจึงค่อนข้างแคบไป ดังนั้นเพื่อให้ห้องไม่คับแคบไปมากกว่านี้ เราจึงตกลงกันว่าต้องนอนเตียงเดียวกัน

แต่เรากำหนดแบ่งเขตแดนกันโดยหมอนข้าง ความที่เราเป็นพี่น้องกันที่สนิทสนมกันมาแต่เด็ก จึงไม่ตะขิดตะขวงใจในยามที่จะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือเลือกใส่ชุดที่จะอยู่กับบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานอน ความที่เป็นคนขี้ร้อน ผมจึงชอบนอนแบบใส่กางเกงในตัวเดียวมานาน ไม่ห่มผ้า ขอเพียงมีผ้าเช็ดตัวหรือผ้าห่มบางๆ ห่อมปิดช่วงบนไว้เท่านั้น เมื่อต้องนอนห้องเดียวกันวันแรก ผมได้ขอพี่สาวในเรื่องนี้ ซึ่งพี่ก้อยก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องนอนห่มผ้า ห้ามโผล่ขาออกมาโชว์ หมายถึงห้ามเห็นกางเกงในนั่นเอง วันหนึ่งในขณะที่เราสองพี่น้องนอนหลับสนิทบนเตียงเดียวกันนั้น คืนนั้นฝนตกหนัก อากาศจึงหนาวเย็นมากกว่าปกติ ด้วยความหนาวและหลับไม่รู้ตัว ผมได้เบียดกระแซะเข้าผ้าห่มของพี่ก้อย พร้อมกับโอบกอดพี่ก้อยที่นอนหันหลังให้ผมอยู่ในตอนนั้น ด้วยความที่พี่ก้อยตัวเล็กกว่าผม ตัวพี่จึงขดงออยู่ในอ้อมแขนผมพอดีๆ แต่ที่ไม่พอดีคือ ในขณะที่ผมไม่รู้สึกตัวนั้น พี่สาวได้งัวเงียตื่นขึ้น และหยิกแขนผมจนเจ็บแปล็บ พร้อมกับโวยวายว่า “นี่ ๆ ไม่เอาน่ะเล็ก พี่อึดอัด ถอยออกไป นอนมุมตัวเองสิ” ด้วยความที่ง่วงจัด และบวกกับผมขี้เกียจตื่นจึงขืนตัวเอง กอดพี่ให้แน่นขึ้น “น่าพี่ ผมหนาวคร้าบ… ขอห่มผ้ากับพี่ก่อนน่า…” เสียงพี่เงียบหายไป แต่ว่าผมได้ยินเสียงหายใจของพี่ก้อยแรงถี่ขึ้น

ผมซึ่งในตอนนั้นตื่นแล้ว และคิดว่าคงโอบมือรัดพี่แรงไป จึงคลายวงแขนออก แต่เสียงหายใจพี่ยังถี่ๆ และขัดๆ จึงถามไปว่าแบบงัวเงียว่า “พี่ก้อยเป็นอะไรคร้าบ” “พี่ไม่เป็นอะไร แต่เล็กสิเป็นอะไร และเอาอะไรมาดุนที่ก้นพี่” พี่สาวตอบ ผมจึงรู้ตัวว่าเวลานี้ “เจ้าชายน้อย” ของผม ที่นอนขดอยู่ในกางเกงในตัวบาง มันได้ตื่นตัวเต็มที่ ตามแรงขับของวัยหนุ่ม และมันกำลังเบียดพาดลำตัวอัดแน่นเข้ากับตะโพกกลมกลึงของพี่ก้อยอยู่พอดี และที่ไม่พอดีคือ คนนี้พี่สาวผมเข้านอนในชุดน่งลมห่มฟ้า เช่นเดียวกับผม แต่ของพี่ก้อยเด็ดกว่า คือมีแต่เสื้อคลุมอาบน้ำ ที่มีเนื้อผ้าคล้ายกับผ้าเช็ดตัวห่อกายของพี่ไว้เท่านั้น ส่วนท่อนล่างและท่อนบนนั้นเปลือยเหล่า ผมจึงรู้ที่มีของการตื่นตัวของเจ้าหนูของผมว่าคงเป็นเพราะมันได้กลิ่นสาปสาวของพี่ผมนั้นเอง ไม่ถามเปล่าๆ พี่สาวได้เอื้อมมือมาทางด้านหลัง ควานหาเจ้าสิ่งที่มาดุนตูดตัวเองอยู่ ครู่เดียวจึงพบว่าเจ้าตัวร้าย มันซ่อนตัวอยู่ในกางเกงในของผม มืออวบนิ่มของพี่ควานบีบที่นอกผ้า “อะไรกันนี่เล็ก” ผมตอบไปว่า “ไม่เล็กแล้วครับพี่” พี่อ้อยจึงบีบมือหนักขึ้นเป็นการลงโทษในที และบ่นว่า “ให้มันตื่นมาทำไมหือ” แต่มือยังคงเกาะกุมเจ้าตัวน้อยของผมไว้ไม่ปล่อย จึงทำให้อารมณ์ผมเตลิดขึ้นมาอย่างสุดยั้งใจ จีงโอบมือผ่านวงแขนพี่ก้อยที่เอื้อมมาคว้าเจ้าหนูผมอยู่

ผมควานมือตัวเองเลาะเข้าไปกลางลำตัวของพี่ เสื้อคลุมตอนนี้มันคลายตัวเพราะสายรัดหลุดลุ่ยอยู่ก่อนแล้ว ผ่านหน้าท้องที่แบบเรียบไร้มัน มือผมที่อยู่ไมมีเป็นสุขได้ลูบไล้ขี้นไป จนได้พบกับดอกบัวตูมที่อวบหยุ่น แต่แฝงด้วยความแน่นแข็งเป็นไตอยู่ในตัว เพราะยังไม่ผ่านการใช้งานจากชายใดมาก่อน พี่สาวซึ่งยังคงนอนตะแคงอยู่นั้นได้หันหน้าเอียงมาหาผม เราสองพี่น้องมองตากันในความสลัวๆ นั้น มือที่เกาะกุมยอดปทุมถันของพี่อยู่ ผมรู้ว่าหัวใจพี่เต้นถี่แรงขึ้น พอๆ กับผมที่มือสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นพอกัน ไม่ต้องพูดอะไรกัน ผมได้ก้มหน้าลงไปพร้อมกับใช้ปากตัวเองประกบเข้ากับปากของพี่ก้อยที่เม้มปิดแน่นในตอนแรก แต่เมื่อความต้องการแห่งสัญชาตญาณของธรรมชาติพาไป และภายในที่ครุกรุ่นด้วยอารมณ์พิศวาส ได้ทำให้เราพี่น้อง บดขยี้ริมฝีปากเข้าหากัน แม้จะต่างฝ่ายต่างไม่เคยมาก่อน แต่ธรรมชาติได้สอนไห้เราทั้งคู่รู้เองว่าจะต้องทำอย่างไร พี่ก้อยได้เผยอปากตัวเองออกร้บรอยจูบผมที่เป็นน้องอย่างเต็มที่ ผมได้ควานลิ้นตัวเองเข้าไปในโพรงปากของพี่ ดูดเซาะริมฝีปากที่อวบอิ่มนั้นอย่างไม่รู้เบื่อ ยิ่งเมื่อลิ้นเราสองกระทบกัน ได้พัวพันตัวเข้าหากันด้วยแล้ว ทำให้เกิดความเสียวซาบซ่านมากขึ้นๆ พี่สาวผมคงเช่นเดียวกัน เพราะว่ามือของเธอนั้น ควานเลาะไปที่ซอกขาผม งัดเอาเจ้าหนูผมให้ชูคอออกมาแผ่หราอยู่นอกกางเกงแบบไม่ต้องถอดเลย

และเริ่มกระถอกหัวของมันขึ้นลง ยิ่งทำให้ผมใจเตลิดมากขึ้น จึงละมือจากบัวงามอร่ามตาคู่นั้น ฉกลงไปที่ข้างล่าง พร้อมกับใช้เข้าซ้ายด้นตัวพี่ออกห่างนิดหนึ่ง และใช้มือขวาจับขาขวาของพี่ก้อยวางทับไปบนขาซ้าย พร้อมกับดันขาซ้ายพี่ให้แบะออกไปและรั้งขาขวาจองพี่สาวขึ้นมา ทำให้นาผืนน้อยกลางลำตัวของพี่ที่มีหญ้าบางๆ คลุมอยู่นั้น โชว์ความโหนกของมันอย่างเต็มที่ ไม่รอช้า ผมละปากจากปากพี่ โน้มตัวลงไปที่ยอดดอกบัวงามคู่นั้น พร้อมกับสูดดมความหอมกรุ่นอย่างชื่นปอด พร้อมกับอ้าปากงับเข้าที่ยอดอกนั้นและดูดดุนเข้าหาลิ้นตัวเอง “อ้าส์ ๆ อย่าเล็ก พอแล้ว เล็ก อืยส์ ซีด” พร้อมกับใช้มือซ้ายที่ว่างอยู่นั้นตวัดมาโอบรัดคอผม พร้อมกับเถีอกไถและแอ่นตัวขึ้น เมื่อมือขวาของผมฉกลงไปในกลางรอยผ่าที่นาผืนน้อยนั้น นิ้วกลางที่งอตัวเล็กน้อย ลากผ่านขึ้นตามรอยฝีเย็บ และกดบุ๋มเข้ากลางรอยผ่าที่มีตาน้ำออกมาเจิ่ง นิ้วชี้กดอยู่แคมซ้าย นิ้วนางกดอยู่ที่แคมขวา ผมลากมือขึ้นลงไปมา พี่สาวผวาแอ่นตัวเด้งมารับมือในยามที่นิ้วไปกระทบเม็ดเสียวของพี่เข้า “เล็ก พี่ทนไม่ไหวแล้ว เล็ก อืยส์ เล็ก ทำไมทรมานพี่อย่างนี้เล็ก อืยส์ๆ ซีดๆ ” พร้อมกระเด้งตัวสู้มือ และแอ่นตัวสู้ปากผมอย่างสุดยั้งใจไม่รอช้า ผมละปากจากหน้าที่ชิวหาพาเพลินบนเนินอก และดูดดุนยอดดอกบัวของพี่ชั่วครู่ ประคองตัวให้ลุกขึ้นคร่อมไปบนตัวพี่ โดยที่มือของพี่จับเจ้าหนูของผมแน่นไม่ปล่อย

แม้ว่าท่อนลำนั้นมันจะร้อนฉ่ามาพี่ก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือ ผมเองก็ไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านไป ผมค่อยๆ หย่อนกายลงไม่ห่างจากกลางลำตัวพี่สาว พร้อมกับแบะขาทั้งสองข้างที่ตั้งชันเข่าของพี่ก้อยออกไปอย่างสุดหล้า นาผืนไม่น้อยแล้วในตอนนี้ ที่เจ้าตัวปล่อยน้ำออกมาเจิ่งนองแบะออก พี่ผมทำหน้าที่จุงเจ้าตัวน้อยที่ไม่น้อยเช่นกันเข้าหานาตัวเอง เสมือนหนึ่งเชิญชวน ผมจับมือพี่ออกไปให้พ้นทาง เมื่อจัดที่จัดทางให้เข้าที่ดีแล้ว เจ้าควาย (ควย) ตัวน้อย เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระเสรีเป็นครั้งแรก ก็กระโดดผลุงเข้าสู่ท้องร่องของนาผื่นนั้นอย่างสุดยั้งใจ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะเจ้าตัวน้อยไปติดหนึบอยู่กับบางอย่างที่ขวางกั้นอยู่ แม้จะมีน้ำมาก แต่ความที่เป็นนาใหม่ ท้องร่องจึงคับแคบ “โอย…. เบาๆ หน่อยเล็ก พี่เจ็บจัง” ผมจึงเพลาๆ แรงหนุ่มของตนลงบ้าง แต่ยังคงกดท่อนเอ็นเข้าหาท้องนานั้นอยู่ พี่ก้อยเถือกไถตัวเองขึ้นไปในขณะที่ผมกำลังกระเด้าตัวเข้าหา การลนลานหนีของพี่ที่ผมไม่ทันตั้งตัวเกือบทำให้เจ้าตัวน้อยหลุดออกจากร่องจนผมต้องใช้สองมือประคองรั้งเอวของพี่ไว้ และกดแก่นกลางลำตัวเข้าใหม่ ผมกดแช่ไว้ชั่วครู่ รู้ว่าพี่ผมเจ็บ แต่ด้วยสัญญาณที่ส่งผ่านมาทางปากรูนั้น คือมันขมิบรับท่อนเอ็นของผมแบบหนึบหนับๆ ผมรู้ว่าพี่ก้อยมีแรงปรารถนามากกว่ากลัวเจ็บ จงออกแรงกดเต็มที่สุดลำ จนหำไปชนหับง่ามตูดพี่ที่ผวาแอ่นตัวขี้นมารับ ผมสุดระงับใจ กระเด้าตัวเข้าออกๆ จนหัวกระถอกนั้นแสบๆ แต่ความเสียวมีมาก หากพี่ไม่ส่งเสียงผมคงลืมตัวมากกว่านี้

“โอย อืยส์….เล็ก ๆ โอ้ว พี่ ๆ ” เสียงครางของพี่ผสมกับเสียงเจาะแจะของน้ำคลั่งของเราสอง ผสานเข้ากับเสียงกระทบกันของหัวเหน่าและเนินโนกดังพลั่กๆ สลับไปมา ผมก้มตัวลงนอนทอดยาว ไปบนตัวพี่ พร้อมกับบดขยี้ปากแลกลิ้นกับพี่อย่างเมามัน พร้อมกันกับส่วนล่างที่เราต่างส่งตัวเข้าหากันอย่างลืมตัว ในที่สุดดเราพี่น้องที่ท้องต้องมากระทบกันวันนี้ก็ถึงฝั่งฝัน ….ผมนอนซบตัวบนตัวพี่ชั่วครู่ พี่รู้สึกตัวและหนักมากจึงผลักผมออก พร้อมกับร้องไห้กระซิก “เล็กไม่น่าทำพี่เลย… แล้วถ้าพ่อกับแม่รู้ล่ะ…” ผมต้องตะแคงตัวเข้ามากอดและปลอบพี่และขอโทษพี่ และในที่สุดพี่ก็เข้าใจและโอนอ่อนผ่อนตาม เมื่อผมเริ่มเกมส์ใหม่อีกหลายยกในคืนนั้น.. คืนแห่งความหนาว ที่ความสาวและความหนุ่มของเราเปิดตัว…. หลังจากเหตุการณ์คืนอันเหน็บหนาวได้ผ่านพ้นไป พี่ก้อย และผม ยังคงพักอยู่ห้องเดียวกัน เพียงแต่เราทั้งคู่ต่างก็ระมัดระวังตัวกันมากขึ้น เพราะไม่อยากจะให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก ผมรู้สึกเห็นใจพี่ก้อยมากๆ เพราะดูเหมือนพี่สาวผมจะซึมๆ ไป ไม่ค่อยพูด ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม ส่วนผมนั้นไม่เป้นไร แต่ว่าในใจของผมนั้นยังคงติดใจในรสสวาทในคืนนั้นไม่ลืม

วัยสิบแปดของผมจะร้อนรุ่มทุกครั้งที่ได้ยินเสียงพี่สาวอาบน้ำ ผมจินตนาการถึงรูปร่างอันสวยสดของพี่เสมอๆ ดังเช่นในวันนี้ ที่พี่สาวผมเข้าอาบน้ำ ผมได้ไปเคาะที่ประตู ” ก็อก ๆ ” พร้อมกับตะโกนว่า “พี่ก้อย เปิดประตูหน่อยครับ ” เสียงพี่สาวตะโกนมาจากข้างในว่า “จะอาอะไร ประเดี๋ยวก่อน เล็ก รอหน่อยได้ไหม พี่ยังอาบไม่เสร็จ” พี่สาวเงียบไปชั่วครู ผมยืนพิงผนังรออยู่ พร้อมกับใจที่คิดเตลิด หวนคิดถึงคืนก่อนโน้น ที่ผมและพี่ก้อยเริงสวาทด้วยกัน ผมจินตนาการถึงรูปร่างและรสวาทที่แสนประทับใจนั้น ทำให้เจ้าหนูของผมมันตื่นตัวทันใด เสียงเปิดปผระตูห้องน้ำ ปลุกให้ผมตื่นจากภวัง พี่ออกมาจากห้องน้ำ โดยร่างกายมีเพียงผ้าขนหนูที่สั้นเต่อพันกายอยู่ หยดน้ำเกาะเป้นเกร็ดพริ้วบนท่อนแขนและไหล่อวบ เนินนมที่ถูกผ้ารัดแน่นนั้นชวนมองยิ่งนัก ท่อนขาขาวอวบโผล่ออกมาจากชายผ้า โชว์ความขาวอวบที่มีเส้นขนบางๆ ขี้นประปราย แรงขับดันในกายหนุ่มร้อนรุ่มเพ่มขึ้นมาอีกจนสุดยั้งใจ แก่นกายของผมตื่นตัว ผงกหัวใต้ร่มผ้าเช็ดตัวที่ผมนุ่งอยู่ เมื่อพี่พ้นประตูออกมา ผมจึงรวบตัวพี่เข้ามาอยู่ในก้อมกอด พร้อมก้บหอมฟอดไปที่พววงแก้มงามนั้น พี่สาวตาโบกโพรง พร้อมกับพูดว่า “อย่านะเล็ก มันไม่ดี พี่ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นอีก” ผมกอดพี่นิ่งๆ กดหัวของพี่ ที่ตัวเตี้ยกว่าให้ซบกับแผ่นอกกว้าง “ผมรักพี่ก้อยน่ะ ผมไม่สบายใจ ที่เห็นพี่มึนตึงกับผม ผมขอโทษน่ะพี่ก้อย” พี่ก้อยเงยหน้าขี้นมามองหน้าผม สายตาเราทั้งคู่สบประสานกัน เรามองหน้ากันนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเราก็สุดห้ามใจ ผมก้มลงไปประกบปากเข้าหาปากที่อวบนิ่มของพี่ที่เผยออ้ารอรับ

สองมือผมกอดรัดรอบเอว ปลายมือลูบไล้ผ่านชายผ้าขึ้นมาที่ตะโพกอวบหนาที่หยุ่นตัวยามกระทบ แก่นกายที่แข็งชูชันของผม มันดันออกไป กระทบ กระแทก กระทั้นเข้ากับหน้าท้องของพี่ พอดีๆ กับรอยบุ๋มของสะดือ เราสองประคองกอดกันอยู่อย่างนั้น อารมณ์มันเตลิดไปไกลและไฟราคะในกายเราได้คุโชน ลืมสนิทในชั่วดี “อ้าส์ ซีดๆ เล็กๆ อย่าทำพี่ พอแล้ว” เสียงพี่สาวที่สั่นเครือดังขึ้นมา ในทันทีที่ปากเป็นอิสระจากการดูดดุนของผม ผมรั้งตัวพี่ขึ้นมา พร้อมกับย่อตัวลดลงไป แก่นกายจึงเงยตัว โผล่หัวเสยงัดขึ้นไปกระทบกับ โหนกนูนของพี่อย่างเต็มกลืน นาผืนไม่น้อยนั้นมันยังชื้นแฉะเต็มด้วยหยดน้ำ ผมดันหลังพี่ไปยินพิงผนังห้อง พร้อมกับลดตัวลงไป จนใบหน้าเสมอกันกับนาผืนน้อยของพี่ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้า ในเวลาเดียวกันกับที่มือผมได้กระชากผ้าเช็ดตัวที่พันกายพี่ให้หลุดออก ร่างสวยสมส่วนได้โชว์ความอวบขาวให้ปรากฏแก่สายตาน้องชายอารมณ์หื่นอย่าง ผมจีงไม่รอข้า ยื่นหน้าเข้าหานาผืนงามนั้นในทันที พร้อมกับใช้สองมือโอบรัดไปที่สองขา ทันทีที่ริมฝีกปากกระทบเข้ากับเนินโหนก ที่มีหญ้าบางคลุมประปรายนั้น พี่สาวของผมคงจะเกิดความเสียวสุดกลั้น หลับตาพริ้มเงยหน้าขึ้นไป พร้อมกับแบะขาตัวเองอออก เพื่อให้สอดรับกับหน้าของผมผู้เป้นน้องชายที่มุดเข้าไป เมื่อผมมุดหน้าเข้าไปใต้ง่ามขาของพี่ ผมเริ่มต้นการเล่นชิวหากับพี่ด้วยการเลาะเล็มลิ้นหนา กวาดเข้าไปกลางสองกลีบพูที่เบียดตัวแน่นนั้น เพียงสองครั้ง ที่กวาดลิ้นไปบนรอยผ่า ผมได้พบว่าตาน้ำของพี่เริ่มไหลออกพร้อมกับแผ่อ้าแบะตัวแยกกลีบออกจากัน โชว์ความสดใสที่ซ่อนตัวไว้กว่า 22 ปีนั้น ผมเห็นเม็ดละมุดสั่นระริก พร้อมๆ กับสองกลีบบางที่แผ่ขยายตัวออกรับลิ้นที่ซอกซอนเข้าหา น้ำหอยพี่ก้อยได้หลั่งออกหมาปะปนกับน้ำลายที่ปลายลิ้นขอผม

“อืยส์ๆ ซีดๆ เล็กจ๋า พี่ไม่…..โอ๊วะ พี่ไม่น่ะเล็ก อูยส์…พ…พ พอ แล้ว” เสียงครางกระเส่าของพีก้อยดังระงม พร้อมกับสองมือกดหัวผมเข้าหาหน้าขาตัวเองให้แน่นขึ้นๆ ผมใช้สองมือที่โอบจับกับตะโพกงาม รั้งเข้าหา พร้อมกับฉกลิ้นเข้าไปใต้หว่างขาของพี่อย่างหิวกระหาย ไม่รังเกียจสายน้ำที่หลั่งออกมาเลอะหน้าและจมูก กลิ่นคาวของสาบสาวอบอวนชสนอารมณ์ยิ่งนัก น้ำรักของพี่หลั่งล้นออกมาดุจน้ำล้นสันเขื่อนในฤดูน้ำหลาก มือสากหยาบกร้านของผมสอดเข้ามาทางด้านหลัง คลำคลึงผ่านรอยฝีเย็บของพี่ ลากมือหนีรูตูดเลื้อยผ่านเข้าหารอยผ่าของนาผืนงาม ในขณะที่ลิ้นผมดูดดุนอยู่กับเม็ดละมุดของพี่ นิ้วอวบกลมกลึงของผมซอกเซาะเข้าไปในซอกหลืบของรอยผ่า วอกวอน งัดแงะขึ้นไป พี่สาวอัดโคกหนาเข้าหาหน้าผมอย่างสุดเสียว จนผมแทบหายใจไม่ออก “เล็ก พอแล้ว เล็ก พ…พ…พี ไม่ไหว ล แล้ว เล็ก พอ เถอะ…อูยส์…” ผมใช้มือซ้ายปลดผ้าเช็ดตัวออก ในขณะที่ชันกายตัวเองให้ยืนขึ้นมา ผมรั้งขาซ้ายพี่ยกขึ้นมา พร้อมกับย่อตัวจ่อเจ้าตัวน้อยเข้าหารอยผ่าที่แผ่อ้าของพี่ หัวบานที่ผงกหัวหงึกหงัก กระทบเข้าปากถ้ำที่ชื่นแฉะนั้น ผมค่อยๆ เสียบหัวบานเข้าไป แม้จะคับแน่นมากในตอนแรกๆ แต่ด้วยความที่ผ่านศึกมาแล้วเมื่อครั้งก่อน บวกกับน้ำลายและน้ำรักของพี่ที่หลั่งออกมาผสมเข้ากันอย่างดีแล้วนั้น ทำให้หัวบานของเจ้าตัวน้อยเลาะผ่านเข้าไปไม่ยากนักพี่สาวหดตัวกระเถิบขึ้นไปในตอนแรก เพราะหอยงามถูกแหกออก แต่เมื่อหัวถอกได้ผ่านพ้นซอกหลืบหนาวเย็นชื้นเข้าไปจนสุดลำ พี่ก้อยได้ทอดตัวลงมา ปล่อยให้หน้าขาของตัวเองที่แบะออกกว้างกดทับเข้าหาแก่นกายของผมที่ตั้งลำรออยู่ เสียงกระทบกันดังฉึก !!

พี่ก้อยผวาขึ้นอย่างสุดตัวอีกครั้งเมื่อเม็ดแตดกระทบเข้ากับท่อนลำที่ดำเมี่ยมของผม พี่ยกตัวขึ้นหลบอย่างสุดเสียวและปล่อยตัวทอดหอยลงมา สองมือโอบรัดรอบคอผม พร้อมกกับเหนี่ยวรั้งเข้าหา พร้อมกับควานปากเข้าหาปากผมและบดขยี้ ดูดดุนแลกลิ้นกับผมผู้เป็นน้องชายอย่างลืมตัวผมปล่อยให้แก่นกายที่ร้อนฉ่าให้ความอุ่นแก่โตรกถ้ำที่เย็นชื้นของพี่ก้อยของผมอยู่ชั่วครู่ แต่เมื่อท่อนลำของผมได้ถูกโตรกถ้ำของพี่ก้อยที่ตอดงับด้วยความเสียวนั้น เข้ามาหาท่อนที่อวบหนาแบบหนึบๆหนับๆ ผมไม่รอช้าจึงเริ่มขยับตัว ถอดถอนแก่นกายออกมาเกือบสุดลำ พี่ก้อยแอ่นตัวผวาตาม ผมกดสอยขึ้นไปจนหัวบานกระทบภายในสุดดังฉึกๆ เสียงครางพี่ก้อยดังระงม น้ำที่หอยพี่ย้อยหยดราดรดบนโคนลำของผมจนเปียกชุ่ม ผมใช้สองมือโอบอุ้มไปที่ตะโพกอวบหน้าของพี่ พร้อมกับยกตัวพี่ให้ลอยขึ้น และพาเดินจากหน้าห้องน้ำมาที่เตียงนอน โดยที่ส่วนกลางลำยังสอดเสียบกันอยู่ ในจังหวะเดินทำให้ตัวพี่ก้อยโยกขึ้นและหย่อนลงมาตามจังหวะ สองขาพี่ตวัดโอบรัดรอบเอวแน่นกาบหอยได้อ้างับท่อนลำของผมพร้อมกับตอดงับ ขบกัดดึบดับจนรู้สีกได้ ผมวางพี่ก้อยลงที่นอนกว้าง หัวอย๋กลางเตียง แต่ตะโพกงามวางพาดที่ขอบเตียง ทำให้โหนกนูนลอยตัวเด่นขึ้น พี่สาวปล่อยมือจากรอบคอผม ปล่อยแขนสองข้างลงข้างตัว ผมโยกขยับท่อนล่างเข้าหาเป้นจังหวะ พร้อมกับก้มหน้าลงไปหาดอกบัวตูมที่ชูชันท้าสายตานั้น ผมควานปากเข้าหายอดปทุมถันเม็ดเล็ก สีชมพูระเรื่อนั้นพร้อมกับดันลิ้นกวาดกระทบไปที่ตุ่มไตสลับไปมา

พี่ก้อยผวา ยกตัวขึ้นสู้ลิ้นสลับกับเสียงครางที่ดังถี่ขึ้นๆ ผมยกตัวขึ้นมาอย่างสุดฝืน สองมือจับไปที่ลำแข้งของพี่ทั้งสองข้างให้ชูชันขึ้นมาพาดบนสองไหล่ของตัวเอง สองขายืนกับพื้นข้างเตียง แต่ไม่ถนัด จึงขยับตัวพี่เข้าไปกลางเตียงอีกนิด พร้อมกับประชัดตัวเข้าหา สองเข่าดนบนที่นอนที่อ่อนนุ่ม ขยับแก่นกายของความเป็นชายหนุ่ม ที่ตั้งลำแข็งปั๋งเข้าหาโพรงถ้ำอันโหนกนูนของพี่กระชั้นถี่ขึ้นๆ ในที่สุดผมก็ถึงฝั่งฝัน ปล่อยขาพี่ให้เป็นอิสระวางลงข้างกาย พร้อมกับซบตัวลงไปนอนคลุกเคล้ากับตัวพี่ บดขยี้อกเข้าหายอดอกที่อวบหยุ่นของพี่ก้อยไปมา ธารน้ำพุจากแก่นกายที่แข็งขึ้นลำได้ฉีดพวยพุ่งสู่โตรกถ้ำอวบหนานั้น “…งืด ๆ ” ผสานรับกับเสียงครวญครางของพี่ “อ้าๆ ซีด เล็ก ๆ อูวส์ พ … พี่ จะ จะ ถึงแล้ว อ้า….ซูด….เล็ก ..” พร้อมกับสองขาที่ววัดโอบรัดรอบเอวผมอีกครั้ง ซึ่งพี่ก้อยคงถึงฝั่งฝันเช่นเดียวกันผมเป็นแน่ เพราะหอยพี่ก้อยตอดรับกับท่อนลำของผมหงึบหงับจนรู้สึกได้ ผมกระเด้าเอวเข้าหาหีที่เนินโหนกของพี่เป็นการส่งท้ายเพื่อสั่งลา และแช่นิ่ง ด่ำดิ่งสู่ความหฤหรรษ์อีกครั้ง……

หลังจากนั้นเราส่งสัญญาณรักให้แก่กันโดยพี่ก้อยสุดรักของผมใช้วิธีการตอดดูดอยู่ภายใน ผมรับส่งโดยการบีบแก่นกายที่ยังคงแข็งตัวให้เต็นหงึกหงักเป็นจังหวะ กว่าที่เราจะผละตัวแยกออกจากกันได้นั้น เวลาก็ผ่านไปดึกโข…. คืนนั้น พี่สาวไม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว ผมดีใจจริงๆ