เมื่อริสาตกเป็นของภุชงค์จนหนำใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ชายหนุ่มจึงตกลงจะพาริสาไปที่วังวารีอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านั้นริสาก็ได้แวะเข้าตัวจังหวัดเพื่อหาร้านบริการ internet เพื่อส่งต้นฉบับตอนต่อไป และขากลับเธอก็พบเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อมีชายสูงวัยคนนึงเกิดอาการโรคหัวใจกำเริบกะทันหัน แต่ด้วยไหวพริบและน้ำใจของพลเมืองดีอย่างเธอจึงช่วยชายคนนั้นเอาไว้ได้ทัน ริสาได้มารู้ตอนหลังว่าชายคนนั้นคือ “นายหัวโชติ” คนดังประจำจังหวัด ซึ่งกำลังขอซื้อวังวารีจากภาดลผ่านทาง “หมอสุนัย” หมอประจำตัวของเขาซึ่งเป็นหมอประจำตัวของน้องเล็กด้วยเช่นกัน บ่ายวันนั้นภุชงค์ก็พาริสาไปที่วังวารี โดยริสาบอกภาดลว่าเธอจะขอมาพักอยู่ที่เกาะนี้เพื่อสืบเรื่องราวการหายตัวไปของจงจิตต์ ซึ่งภาดลก็ตัดสินใจยอมทำตามความต้องการของริสา เพราะเขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าผู้หญิงทั้งสองคนหายไปไหนทั้งที่เขาเองก็ตามหาแทบพลิกแผ่นดินแล้ว ซึ่งก็ทำให้มยุรี คุณพัชรินและคุณปรีดาไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่กับฉัตรชัยแล้ว เขากลับดีใจอยู่ลึกๆที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับริสามากขึ้น เย็นวันนั้นทั้งภุชงค์ ริสา และธารทิพย์ก็จัดงานเลี้ยงเล็กๆฉลองกันที่งานสำเร็จไปขั้นนึงแล้ว ซักพักก็มีคนของนายหัวโชติมาหาและบอกว่านายหัวโชติต้องการเชิญคุณริสาไปเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อตอนกลางวัน ริสาจึงไปตามคำเชิญแต่เพียงลำพัง และที่บ้านของนายหัวโชตินี่เอง ริสาก็ได้เล่าเรื่องการหายตัวไปของจงจิตต์ที่วังวารีให้นายหัวโชติฟัง แต่ขณะที่เล่านั้นเธอเองก็เริ่มมึนๆเพราะดื่มไวน์เข้าไปพอสมควรแล้ว แถมยังเพิ่งจะกินเบียร์มาจากบ้านของภุชงค์อีกด้วย ทำให้หญิงสาวเริ่มพูดอ้อแอ้ไม่รู้เรื่อง นายหัวโชติเลยให้ลูกน้องจัดที่นอนให้ริสานอนพักเสียก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ หญิงสาวเมื่อหัวถึงหมอนก็ทำท่าจะหลับแต่ยังพอมีสติอยู่ เธอรู้สึกว่าในห้องนอนมีเพียงเธอกับนายหัวโชติที่อุ้มเธอมานอนบนเตียงเท่านั้นเท่านั้น ซักพักตอนเธอกำลังสลึมสลือก็ได้ยินเสียงนายหัวโชติบอกให้ลูกน้องออกไปให้หมดอย่ามารบกวน แล้วก็ตามมาด้วยเสียงปิดประตูเบาๆ ริสาพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้อะไรได้อีกแล้วด้วยความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอถูกปลดออกไปทีละชิ้นๆโดยมีเสียงเรียกชื่อเธอเป็นระยะๆแต่เธอก็ไม่ได้ขานรับ ทำให้นายหัวโชติย่ามใจเริ่มลูบคลำเรือนร่างของเธอโดยเริ่มที่หน้าอกคู่งามทั้งสองข้างก่อน ความที่ริสาเป็นคนผิวขาวจึงทำให้ยอดอกของเธอออกสีชมพูระเรื่อ รูปทรงของเต้านมก็เป็นทรงกระเปาะสวยงามยิ่งนัก สร้างความกระชุ่มกระชวยให้แก่นายหัวจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปดูดเม้มเนินเต้าของเธอสลับไปมาทั้งสองข้าง “นายหัวขา..นายหัวจะทำอะไรคะ สา…อูยยย…สาเสียวค่ะ” หญิงสาวครางแผ่วๆเหมือนคนละเมอ แต่นายหัวก็ปลอบประโลมว่า “เด็กดี..อยู่เฉยๆนะเดี๋ยวผมจะทำให้คุณมีความสุข หลังจากนั้นผมจะคอยหนุนหลังคุณในการสืบหาตัวน้องสาวเพื่อนของคุณในวังวารีเอง ได้ผมออกหน้าให้รับรองว่าคนในวังวารีไม่มีใครกล้ามาทำร้ายคุณแน่ แค่ยอมมีอะไรกับผมซักครั้งนะริสา คุณสวยถูกใจผมเหลือเกิน” ริสาได้ฟังดังนั้นก็คิดว่าคงจะไม่ดีแน่ถ้าเธอจะบุกเข้าไปสืบหาความจริงตามลำพัง ยอมให้นายหัวซักครั้งแลกกับความปลอดภัยในวังวารีคงจะไม่เสียหายอะไรนัก เธอจึงโอนอ่อนผ่อนตามปล่อยให้นายหัวล้วงควักไปทุกซอกหลืบของเรือนร่างเธอตามสะดวก นายหัวโชติเห็นริสาไม่ขัดขืนจึงละจากเนินอกคู่งามลงไปที่โคกสวาทโหนกนูนด้านล่าง จัดการถอดกางเกงที่หญิงสาวใส่มาแล้วเขวี้ยงออกไปอย่างไม่ไยดี เหลือเพียงชั้นในตัวจิ๋วที่แทบจะปกปิดเนินนูนของเธอไม่มิด ซึ่งในที่สุดมันก็ถูกรูดออกไปจากเรียวขาขาวๆของเธอ บัดนี้จึงเหลือเพียงกลุ่มไหมสีดำบางๆเท่านั้นที่ยังปกคลุมรอยแยกกลางหว่างขาของเธอเอาไว้ นายหัวโชติไม่รอช้า ก้มลงไปซูกไซร้ตามร่องหลืบที่มีจนริสาดิ้นบิดเอวส่ายสะโพกไปมาร้องครวญครางฟังไม่ได้ศัพท์ นายหัวโชติช่างเร่าร้อนอะไรเช่นนี้ โหมบุกอย่างรวดเร็วจนเธอแทบตั้งตัวไม่ติดเลยทีเดียว แต่ซักพักเดียวริสาก็เริ่มจะกลับมาคุมเกมได้เมื่อใช้มือจับศีรษะของนายหัวโชติกดเข้ากับเนินหน้าขาของตัวเองจนทำให้เขาเกือบหายใจไม่ออก แต่ริสาก็เพลิดเพลินอยู่กับความเสียวที่ถูกลงลิ้นให้เพียงไม่นาน เพราะครู่เดียวนายหัวโชติก็ลุกขึ้นมาพร้อมด้วยท่อนรบแข็งโด่ดำเมื่อมปลายชี้มาทางหว่างขาของเธอราวกับว่ามันรู้เป้าหมายที่ควรจะเข้าไปอยู่แล้ว ริสาเองลืมตาขึ้นมาดูก็ถึงกับตะลึงอุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ตายแล้ว..ใหญ่อะไรอย่างนี้ น่ากลัวจังเลยค่ะนายหัว..ของนายหัวมันบานอย่างกับเห็ดโคนแน่ะ” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เพราะขนาดของท่อนลำนายหัวโชตินั้นมันใหญ่กว่าของภุชงค์ที่เป็นคนเปิดบริสุทธิ์เธอมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ซะอีก สงสัยว่าถ้าเธอโดนแท่งรักอันนี้เข้าไปคงจะเดินไม่ได้ไปอีกหลายวันเหมือนครั้งแรกที่เธอเสียความสาวให้กับภุชงค์แน่ๆเลย แต่แล้วความคิดของเธอก็หยุดลงเมื่อปลายแท่งลำอันเขื่องมาจ่ออยู่หน้าปากประตูสวรรค์ของเธอแล้ว ฉับพลันนั้นเรียวขาของเธอก็ถูกยกขึ้นพาดบ่าของนายหัว สะโพกของเธอจึงลอยขึ้นมานิดหน่อยได้ระดับเดียวกับสะโพกของนายหัวพอดี หัวบานมู่ทู่ของแท่งรักก็ทิ่มๆตำๆอยู่กับกลีบเนื้อของเธอแล้ว และเพียงนายหัวจับสะโพกของริสายึดเอาไว้แล้วออกแรงดันนิดหน่อย ก็ทำให้แท่งรักแข็งโป๊กมุดแหวกเข้ามาในโพรงสวรรค์ของเธอแล้วโดยที่นายหัวแทบไม่ต้องใช้มือช่วยด้วยซ้ำ ส่งผลให้หญิงสาวหน้าเบ้ทันทีเพราะความจุกเสียวมันขึ้นมาถึงหน้าท้องจนริสาแทบหายใจไม่ออกต้องเป่าลมออกปากไปหลายที นายหัวก็เหมือนรู้ทันจึงผ่อนแรงกดลงไป เว้นช่องว่างให้หญิงสาวได้หายใจหายคอมากขึ้น จังหวะการทำรักของนายหัวนั้นรู้หนักรู้เบาไม่หักโหมเหมือนภุชงค์ที่เหมือนม้าหนุ่มคะนองศึก นายหัวโชตินั้นเปรียบเหมือนม้าแก่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ไม่ต้องเน้นแรงมากแค่ควบคุมจังหวะนิดเดียวก็ทำให้ริสาเสียวจนร้องครวญครางไม่รู้เรื่องแล้ว หลังจากที่ซอยกระเด้าอยู่นานจนริสาเสร็จไป 3-4 รอบแล้ว นายหัวจึงพลิกเปลี่ยนท่าโดยจับตัวของหญิงสาวให้ลุกขึ้นมานั่งตักหันหน้าเข้าหากัน จากนั้นก็กระดกเอวใส่กันต่อโดยที่นายหัวซุกไซร้ที่หน้าอกทั้งสองข้างของหญิงสาวไปด้วย ฝ่ายริสาเองก็ไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่ากอดนายหัวให้แน่นๆแล้วก็ขย่มร่างขึ้นๆลงๆโดยมีแก่นกายของนายหัวเสียบแทงอยู่ที่ร่องกลางหว่างขาไปพร้อมกันจนน้ำเสียวของเธอล้นทะลักออกมาเปียกหน้าขาของนายหัวจนแฉะชุ่ม กว่าคืนนั้นจะผ่านพ้นไป ริสาต้องรับศึกแบบมาราธอนจนเสร็จแล้วเสร็จอีกไม่รู้กี่ครั้ง เพราะนายหัวโชติรู้จักควบคุมอารมณ์ได้ดีมากโดยไม่มีการหลั่งออกมาซักครั้งแม้ว่าเธอจะพยายามขมิบร่องเสียวบีบรัดท่อนรักของเขาไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว นับว่านายหัวมีน้ำอดน้ำทนมากกว่าหนุ่มๆบางคนซะอีก เล่นเอาเธอหอบแฮ่กๆต้องเป็นฝ่ายร้องขอให้เขาหยุดซะเอง ริสาแทบจะคลานเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ แต่แล้วนายหัวก็ตามเธอเข้ามาถึงในห้องน้ำแล้วจับสะโพกของริสาซึ่งยังอยู่ในท่าคลานสี่ขา จากนั้นก็สอดกระแทกท่อนรักอันเขื่องกลับเข้าไปใหม่ ริสาถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วสะบัดหน้าร้องครางด้วยความเสียวอีกครั้ง ร่องรักของเธอหลั่งน้ำออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบจะไม่มีเหลือออกมาอีกแล้ว ยิ่งถูกกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างนี้อีกเธอก็ดิ้นไปมาอย่างทุรนทุรายจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ซึ่งในจังหวะสุดท้ายนั้นริสาเผลอหนีบขาเข้าหากันเพราะไม่อยากให้แท่งรักของนายหัวสอดกระแทกเข้ามาอีกแล้ว แต่นั่นกลับทำให้ร่องรักของเธอหนีบรัดท่อนเสียวของนายหัวมากขึ้นจนเขาทนไม่ไหว ปล่อยน้ำรักกระฉูดเข้าไปในร่องเสียวของริสาทันทีอย่างมากมายจนล้นทะลักไหลกลับออกมาตามซอกขาเป็นทาง แล้วริสาก็ฟุบไปในห้องน้ำนั่นเอง เกมรักครั้งนี้ทำให้ริสาอิ่มไปอีกหลายวันโดยไม่รู้สึกอยากจะเล่นรักกับใครอีกเลย ส่วนนายหัวเองก็เอ็นดูริสามาถึงขนาดออกปากว่าถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยได้ขอให้เธอพูดมาคำเดียวเท่านั้น แม้จะต้องบุกน้ำลุยไฟเขาก็พร้อมจะช่วยเธอทุกสถานการณ์ ทำให้หญิงสาวรู้สึกขอบคุณนายหัวเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอก็บอกไปว่าขอเพียงใช้ชื่อของนายหัวเป็นเกราะคุ้มครองอันตรายไม่ให้ใครมาทำร้ายก็พอ