เรื่องเสียว เอาสดๆเลยนะ แอบเอากับพี่สาวของภรรยา ต้องยอมรับว่าชีวิตคนเรานั้น สิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันและเหมือนกันก็ตรงคำว่า ความต้องการทางอารมณ์ บางคนต้องการความอบอุ่น บางคนอาจจะมากกว่า และผมเองแม้ว่าจะมีภรรยาที่รักมากแค่ไหน แต่ความต้องการของผู้ชายที่คิดจะอึ๊บหญิงอื่น นอกจากภรรยา มันก็ยังมีแอบซ่อนอยู่ในใจ ซึ่งหญิงสาวที่คาดหมายไว้ก็คือ พี่สาวของภรรยา ซึ่งมีอายุห่างกว่ากัน 2 ปี ชื่อเจ๊ดวงใจ สาวสวยในฉบับคนจีน ดูแลกิจการกงสีให้ที่บ้าน ส่วนภรรยาผมนั้นเป็นข้าราชการใกล้ๆบ้าน เริ่มแรกเดิมที เจ๊ดวงใจ เธอไม่ค่อยชอบผม เพราะความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติ แต่ระยะเวลาพิสูจน์ว่าเรามีความจริงใจกับน้องสาวเขา ทำให้ผ่านจุดนี้ไปได้ และด้วยนิสัยผู้ชาย จึงมีบ้างที่ผมจะแอบส่งสายตา บอกความนัยของผู้ชายแกล้งให้เจ๊แกได้รับรู้ เพียงแต่ไม่พูดอะไรออกมา ซึ่งภรรยาเองก็สงสัยและจับผิดบ่อยๆ ตามประสา บางครั้งผมจะต้องขับรถยนต์ไปกับเจ๊ดวงใจ เพื่อไปซื้อสินค้าต่างจังหวัด แบบไปกลับ ตลอดเวลา เธอจะคอยเอาใจ ในฉบับว่า วานมาขับรถให้ เลยต้องดูแลคนขับรถ หารู้ไม่ว่า ผมเองนะ คิดฟันเจ้าตัวแบบสุดยอดมานาน แต่ที่ทำได้เพียงแค่หยอดคารม ประมาณหมาหยอกไก่ก็เท่านั้น และต้องยอมรับในที่นี้ว่า ผมเคยแอบเอากางเกงชั้นในตัวสวยของเจ๊ดวงใจ ที่ใส่แล้ว มาสำเร็จความใคร่ บ่อยครั้งมาก บางครั้งเผลอปล่อยน้ำเลอะเป้าเป็นวง (ใครจะว่าโรคจิตก็ได้ แต่ขอยอมรับตรงๆ ว่าได้อารมณ์มาก) และแล้วพัฒนาการของสัมพันธ์ก็มาถึงจุดเหมาะสมแห่งโอกาส เนื่องจากภรรยา ต้องไปอบรมที่กรุงเทพฯ เป็นเดือน ซึ่งเราเองก็ต้องคอยวิ่งไปหาทุกเสาร์อาทิตย์ และนั่นคือโอกาสที่จะได้จังหวะเหมาะ ในคืนเกิดเหตุนั้น เราสองคนชวนกันไปทานข้าวนอกบ้าน ซึ่งปกติจะไปด้วยกันเสมอ เพราะเธอเองก็ไม่ได้มีใคร ตามประสา สาวขึ้นคาน แต่ในอดีตแม้จะเคยมีคนรักมาแล้วแต่ก๊อกหัก ฝังใจจำ อีกทั้งหน้าที่ในการดูแลกงสี ทำให้เจ๊เธอไม่มีใคร เป็นอันว่า เมื่อไปทานข้าวแล้วผมก็ขับรถมาส่งที่ร้าน ก่อนเพราะเจ๊ดวงใจคนสวยของผม นั้น บอกว่าจะขอไปอาบน้ำที่ร้านก่อน แล้วจะให้ไปส่งที่บ้านพัก อีกหลัง ผมก็เลยนั่งรออยู่ที่ชั้นล่าง ปล่อยให้เธอขึ้นไปชั้นบน พอได้ยินเสียงว่าเจ๊ดวงใจกำลังเข้าห้องน้ำอาบน้ำ ผมเองก็แว๊ปคิดโรคจิตเหมือนเคย คือ ย่องไปเอากางเกงชั้นในสีชมพู ทรงสวย ไร้คราบสกปรกเพราะเธอใช้แคร์ฟรี อยู่แล้ว จัดการทำธุระอย่างด่วน จนน้ำแตกหยดลงพื้น ผมต้องรีบเอาทิชชูมาเช็ดก่อนโยนทิ้งถังขยะ เสียงเจ๊แกยังอาบน้ำไม่แล้วเสร็จ ผมจึงกลับมานั่งดูทีวีพักกาย สบายใจ ประมาณว่าตื่นเต้นมาก ที่ได้ชักว่าวกลับสาวสวยคนใกล้ตัวที่อยากเย็ดมานาน แต่ก็ไม่กล้า ว่า 20 นาทีที่รอคอยคนสวย เจ๊ดวงใจก็ลงมา แล้วก็ส่งน้ำอัดลมให้ผมกิน ก่อนที่จะไปนั่งอีกฟากของโซฟา ชวนกันคุยไปหลายเรื่อง คนกะทั่งมาถึงเรื่องของอดีต ก็คือเรื่องแฟนในสมัยวัยรุ่น ผมเองก็หมาหยอกไก่ไปเรื่อย เธอเองก็ตอบแบบปรับทุกข์ ในฉบับไม่แคร์อดีต จนไม่รู้ว่า เราทั้งสอง มานั่งใกล้กันตอนไหน มองเวลา เกือบ สี่ทุ่ม ละครทีวีก็เล่นไป ใจผมเองก็ตุ๊บตั๊บๆ รวบรวมความกล้า และขี่ม้าเลียบค่ายด้วยการ จับมือ ให้ความอบอุ่น และพอขยับใกล้โอบกอดช้าๆ กลัวว่าจะไม่เป็นผล แต่กระนั้นคิดว่า ใจของเราทั้งสองคงตรงกัน ด้วยที่ว่า เธออาจเพียงต้องการความอบอุ่นของผู้ชาย แค่นี้ แต่ผมสิ แทบจะแก้ผ้ากระเด้ารัวเลย ในอาการนี้ เราโอบกอดกันนานมาก นานจนเธอนั้นบอกว่า ไม่กลับบ้านล่ะ นอนที่ร้านดีกว่า และก็ไล่ผมกลับบ้านของผม ซึ่งนั่นก็เพียงมารยาหญิงเท่านั้น เรื่องไรจะกลับให้โง่ ผมคิดในใจ จากแค่โอบกอด ก็เริ่มมีหอมปลายผม ดมซอกคอ ป้อหน้าขา หน้าแนบหู กระจู๋เบียดกาย มือป่ายคลำ และแน่นอน เธอต้องปัดป้อง และเราเองก็คอยประโลมด้วยคำพูด และชวนกันขึ้นไปห้องข้างบน เพราะเหมาะสมกว่า หากพลาดมีใครแอบเห็น และทันทีที่ขึ้นมาในห้องชั้นบน ก็ต้องเริ่มบทที่ 1 กันใหม่ เวลาเกือบเที่ยงคืนครึ่ง เสื้อผ้าของสองเราหลุดหายไปเหลือแต่ชุดชั้นในของเธอ ส่วนผมนั้นกระดอนตั้งเด่ ลองนึกภาพตามนะครับ ในสภาพเช่นนี้ เราสองคนทำอะไรกันบ้าง ปากจูบ แลกลิ้น มือขยำหน้าอก บ้าง ล้วงจิ๋มสุดสวย ที่ฉ่ำด้วยน้ำอยาก ที่ในอดีตกว่า 15 ปี เคยมีใครคนหนึ่งทะลวงมาแล้ว และได้ใช้รูนี้นาน เป็นปี แต่ก็ไม่รักดี ไปมีหญิงใหม่ ทำให้เจ๊ดวงใจซึ่งนาทีผมกำลังจะได้เธอ อีกไม่นาน ผมกำลังจะเอาดุ้นสวาท ของผม ใส่เข้าไปในรูของเธอ ซึ่งจะเป็นดุ้นที่สองในชีวิตของเธอ ซึ่งเราเองไม่ควรใจร้อน หักหาญน้ำใจ เพราะการเอากันแบบความรักมันอบอุ่นกว่าเอากันแบบขอน้ำแตกแล้วแยกทาง มือเธอจับที่ดุ้นผม และปากร้องขอไม่ให้ทำแบบนี้ โดยเธอจะขอช่วยผมแทนได้ไหม ..แหม่ มาถึงขั้นนี้ ใครจะโง่ แต่เธอก็ลดตัวลงต่ำไปเบื้องล่างของตัวผม มือที่กำดุ้นสวาท ของผม ถูกดึงเข้าไปดูด เรียกความเงี่ยนสุดๆ จากการโอ้โลมด้วยวาจา เธอบอกว่า ไม่เคยทำมาก่อนแม้กับคนนั้น ……… แม้เขาจะขอให้ทำ แต่เธอไม่ยอมใช้ปากทำให้แบบนี้ แต่ทำไมคืนนี้เธอกล้า ทำให้ผม ในช่วงเวลาต่อมา เราทั้งสองพลิกท่าทางจนกายเป็นท่า 69 สุดยอดครับ จิ๋มที่เราเคยแอบเอากางเกงในมาดม อยู่ตรงหน้าเรา อยู่แค่ปลายลิ้นจะเลียถึง น้ำเยิ้ม เลอะปากไปหมด และผมก็ขอเธอ ผมขอเถอะนะ และปากเธอก็ตอบปัดว่าไม่ เจ๊กลัวท้อง อย่าเลยนะ ผมก็เลยบอกว่า เจ๊ก็รู้ว่าผมทำหมันแล้ว ตามคำสั่งน้องสาวเจ๊ไง แกก็ยังบอกว่าไม่รู้ล่ะเจ๊กลัวท้อง ผมก็ว่าไม่ต้องกลัวจ๊ะที่รัก เพราะที่ผ่านมาผมเอาก็ น้องสาวเจ๊ ประจำ มาเป็นปีแล้ว เอาสดๆเลยนะ ปล่อยน้ำเต็มรูเลย ไม่ท้องหรอกจ๊ะ ปากเธอก็พูดปัดไม่ควรเอากัน แต่กายมันไม่ใช่ ในที่สุด ดุ้นของผมก็มาจ่อที่รูหอยที่ฉ่ำเยิ้ม และดันเข้าไป แม้ไม่ฟิตเหมือนสาวบริสุทธิ์ แต่ก็คับรัดดุ้น ในชนิดที่ว่าสุขสุดๆ แม้อยากกระเด้าให้ถี่ยิบในพริบตาก็ต้องหยุดไว้ค่อยบรรจง เนิบนาบ ท่วงที พลิกแปรไปตามบทรักเหมือนทั่วไป ซึ่งเธอเองก็สอดรับกับท่วงท่า เสมือนผู้เปี่ยมสุขที่โหยหา เฉกเช่นปกติชนทั่วไป การปลดปล่อยความสุขของเธอ มีขึ้นหลายครั้งติดกัน จนกระทั่งผมอัดอั้นต่อไปไม่ไหว รัวเอวครั้งสุดท้ายชุดใหญ่ ท่ามกลางเสียงสุขของเธอและผมระคนกัน จนกระทั่งถึงจุดหมาย เราทั้งสองนอนกอดก่ายกันอยู่พักใหญ่ให้เหงื่อหาย นี่ถ้าไม่ได้แอร์ช่วยไว้ คงเหงื่อท่วมห้อง คืนนั้นเราไม่ได้นอนหลับกันเลย เพราะต่างก็กอดก่ายพูดคุยกัน ทั้งในสุข ทุกข์ และความผิดถูกที่ได้ทำลงไป ทำเอาน้ำตาเธอไหล เพราะแอบกินของน้อง ผมเองต้องประโลม และสัญญาว่า นอกเหนือจากภรรยาและเธอ จะไม่มีใครอีก ในทุกวันนี้ เรายังคงมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันบ่อยครั้งตามแต่โอกาส ซึ่งแม้ว่า จะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับคำว่าผิดถูก ชั่วดี แต่นี่ก็คือ ชีวิตของคนที่ได้กระทำไปแล้ว ไม่อยากให้ใครเป็นแบบนี้เลย