ผ่านไปผ่านมา อ่านเรื่องราวของคนอื่นอยู่เงียบ ๆ มานาน คงถึงเวลาของผมบ้างที่ผมก็ได้พบเจอมากับสายตาของตัวเอง ที่แม้จะได้รู้เห็นเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งมันก็เกินพอแล้ว สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคนที่ผมรักและเคารพท่านเสมอมาที่การบอกเล่าในครั้งนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาอะไรใด ๆ ทั้งสิ้นเพียงแต่เห็นว่า มันก็เป็นเพียงประสบการณ์หนึ่งในอดีต ที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่ถ้าให้คนอื่นได้รับรู้ไว้บ้าง ก็อาจจะเป็นสิ่งเตือนสติ ให้ระแวดระวัง ต้องรู้ทันคน และภัยอันตรายต่าง ๆจะได้ไม่ต้องเกิดความสูญเสียใด ๆ ทั้งกับคนที่เรารัก และตัวของเราเองโดยเรื่องราวของผมนั้นเกิดขึ้นตอนที่ครอบครัวผม ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ภาคใต้ ที่ผมตอนนั้นกับน้องชายอีกคนสองพี่น้องก็ยังเด็ก ๆ ที่ผมน่าจะอยู่ประมาณ ป.2-ป.3 ส่วนน้องผมนี่ห่างกับผมหลายปี เพราะจำได้น้องผมยังไม่เข้าโรงเรียนเลย ซึ่งครอบครัวเรา ในการเดินทางครั้งนั้น ก็ไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่พ่อกับแม่ผมท่านก็ตั้งใจ จะมาพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ เพราะปกติพวกเราไม่ค่อยได้ออกต่างจังหวัดกันซึ่งการเดินทางครั้งนั้น ก็มีปัจจัยอื่นด้วย นั่นคือ การไปร่วมงานแต่งงานของญาติห่าง ๆ ฝ่ายพ่อผมด้วยที่แม้ไม่ได้ติดต่อกันมานาน แต่จุดหมายที่เที่ยวพอดีมันคงใกล้กัน พ่อผมเลยกะจะเข้าไปร่วมพิธีด้วยโดยหลังจากเดินทางกันมายาวนาน ครอบครัวผมก็เข้าพักที่โรงแรมธรรมดา ๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งพ่อผมไม่อยากจะไปรบกวนบ้านญาติท่านนั้น ทั้งครอบครัวเราเองพอเห็นชายหาดขาว ๆ ใกล้โรงแรมก็ตัดสินใจลงเล่นน้ำ กับนอนค้างคืน จนอีกวันหนึ่งพ่อผมถึงได้ขับรถ พาครอบครัวเราไปร่วมในพิธีแต่งงานที่ญาติฝ่ายพ่อก็ต้อนรับพวกเราอย่างดี จนออกปากชวนให้อยู่พักที่บ้านพวกเขา แต่พ่อผมท่านเกรงใจอีกแม่ผมดูท่านก็ไม่อยากจะอยู่บ้านพวกญาติฝ่ายพ่อเท่าไหร่ เพราะถ้าผมจำไม่ผิดเหมือนจะมีญาติผู้ชายอยู่กันเยอะแล้วแม่ผมท่านเองคงรู้สึกแปลกถิ่น แปลกคน ไม่คุ้นหน้าคุ้นตากัน จนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ที่พ่อผมท่านก็รู้พวกเราเลยต้องกลับมาพักที่โรงแรมตามเดิม โดยระหว่างทางขับรถกลับ ผมจำได้เหมือนแม่ผมท่านจะกระซิบคุยอะไรกับพ่อ ประมาณว่ามีญาติผู้ชายคนหนึ่งของพ่อ เข้ามาชวนพูดคล้ายจะมาก้อร่อก้อติกแม่ผมตอนที่อยู่บ้านญาติกัน ซึ่งพ่อผมก็ฟัง ๆ ไป ท่านก็ยิ้ม พูดเหมือนว่า แม่ผมเขาขาวสวยน่ารัก ใครมันก็อยากมาคุยด้วยแต่ดูแม่ผมเหมือนท่านจะงอน ๆ ยังพูดบอกลักษณะรูปร่างญาติคนนั้นให้พ่อผมฟัง คล้ายดูท่านจะเป็นกังวลอะไรสักอย่าง ส่วนพ่อผมยิ่งฟังก็ยิ่งดูไม่ค่อยจะสนใจเพราะท่านคงจำได้ว่าไอ้คนนั้นมันรุ่นคุณน้า คุณลุงแล้ว คงไม่มีพิษสงอะไร จนถึงที่พักโรงแรม คืนนั้นพวกเราก็พักผ่อนกันตามปกติเป็นคืนที่สอง ซึ่งคืนพรุ่งนี้พวกเราก็จะเดินทางกลับกันแล้ว ซึ่งในวันถัดมานี่เอง เรื่องราวที่ผมไม่เคยลืมก็ได้เกิดขึ้นเพราะในตอนเช้าน่าจะประมาณเก้าโมงสิบโมง น้องชายของผมเกิดไม่สบายปวดท้องขึ้นมาซึ่งพ่อกับแม่ผมดูอาการแล้ว ก็คิดว่าให้หมอที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ ดูเสียหน่อยก็ดี พ่อผมเลยจะขับรถพาไป ที่ตอนแรกแม่ผมท่านก็จะไปด้วย แต่พ่อผมท่านท้วงไว้ เพราะที่จริงอาการน้องชายผมไม่น่าจะหนักหนาอะไรนักคงไม่จำเป็นต้องตามไปดูกันหมด ทำให้ผมกับแม่ต้องเหลือกันอยู่สองคน ที่พวกเราแม่ลูก ก็เดินเล่นเที่ยวแถวชายหาดกันสักพัก ก็กลับขึ้นห้องพักที่โรงแรม เพราะเหมือนแม่ผมเขาจะรอพ่อกลับมา จะได้ไปเล่นน้ำด้วยกันพร้อมหน้าอีกครั้งก่อนกลับบ้านซึ่งในช่วงเวลานี้เอง พอดีผมตอนนั้นก็งอแงเหมือนจะอยากลงเล่นน้ำไว ๆ ตามประสาเด็ก ๆ เลยอ้อนแม่ผมจะลงข้างล่างไปเล่นน้ำ แม่ผมก็เอ็ดผม จนผมก็เห็นคงไม่มีทางแน่ ก็เลยนอนดูทีวีอยู่กับแม่ผมที่ห้องพักจนผ่านไปสักพักพ่อผมก็ยังไม่กลับมาเสียที เด็กอย่างผมก็ร้อนลน แต่แม่ผมท่านกลับงีบหลับไปเสียอย่างนั้นผมเลยรอดูแม่ผมว่าหลับจริงหรือเปล่า ก็เห็นท่านนอนเงียบ รับลมทะเลที่โชยเข้ามาทางระเบียงสบาย ๆเด็ก ๆ แบบผมตอนนั้น เลยคึกคะนอง คิดจะหลบแอบลงไปเล่นสนุกอยู่ข้างล่างคนเดียว ผมเลยเปิดประตูห้องเบา ๆ เดินออกมา ซึ่งตอนที่ผมออกมานั้นเอง ผมก็ได้เห็นใครบางคนรูปร่างหนาใหญ่ มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวหน้าห้องพักผม ที่ตอนแรกผมนึกไม่ออก เพียงแค่ว่าคุ้น ๆ หน้ามันซึ่งไอ้คนนั้น คนที่ทำให้ผมต้องจดจำมันไปอีกนาน ซึ่งตอนนั้น พอมันเห็นผมเดินออกมามันก็รีบเข้ามาทำกระซิบถามผมเบา ๆ ว่าหนูจะไปไหน คุณพ่อหนูอยู่หรือเปล่า คุณแม่หนูล่ะซึ่งตอนนั้นมันก็ถามเซ้าซี้ เด็กอย่างผมก็ตอบตรง ๆ ไปด้วยความซื่อ ไม่ได้คิดอะไรเลย คิดแต่เพียงว่าจะรีบลงไปเล่นน้ำทะเล ซึ่งผมยังจำได้ กับคำพูด ใบหน้าเยิ้มมัน ๆ หนวดเคราเฟิ้มของมันที่มันบอกว่าเมื่อวานแม่ผม ท่านลืมของเอาไว้ที่บ้านมัน มันเลยจะเอาของมาคืนแม่ผมผมก็งง แต่ก็ทำเป็นพยักหน้า ไม่รู้ว่าแม่ผมท่านไปลืมของอะไรไว้ แต่พอมันพูดมา ผมก็เริ่มจะนึกออกบ้างว่าเพิ่งจะเจอมันที่งานแต่งของญาติพ่อผมเมื่อวาน ที่ผมมารู้ทีหลังว่าไอ้ญาติผู้ชายที่มันมายุ่มย่ามแม่ผมที่ท่านบ่นให้ฟังในรถ ก็คือมันนี่เอง แต่ในหัวผมตอนนั้นกลับไม่ได้คิดและไม่ได้สนใจอะไรมันเลยซึ่งพอมันบอกผมแบบนั้นเสร็จ มันก็ยิ้ม ๆ ทำทีเป็นล้วงกระเป๋ามัน เหมือนจะควานหาของกับทำชื้มือ บุ้ยปาก กระซิบกระซาบว่ามันจะขอเข้าไปคืนของให้แม่ผมในห้องสักครู่หนึ่งผมก็ไร้เดียงสาไม่ได้พูดตอบอะไรมัน ได้แต่ยืนมองดูมันแอบทำเงียบ ๆ ถือวิสาสะเดินย่องเข้าไปในห้องพักผม พร้อมกับแง้มปิดประตูเบา ๆ โดยผมเองพอเห็นมันเข้าไป ก็ยังจะเดินลงไปข้างล่าง จะเล่นน้ำเอาสนุกให้ได้อีกแต่พอเดินไปได้นิดเดียว ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนแม่ผมท่านสะดุ้ง ร้องเอะอะอยู่ในห้องอะไรสักวูบเดียว ทุกอย่างก็เงียบสนิทลงไป ทำเอาเด็กอย่างผมต้องยืนงง ซึ่งไม่รู้ยังไง ผมยืนนิ่งอยู่แถวนั้นสักพัก ก็เกิดนึกกังวลขึ้นมา เหมือนจะสงสัยว่าไอ้ญาติพ่อคนเมื่อกี้ มันเอาของอะไรมาคืนแม่ผมกันแน่ ผมเลยต้องเดินกลับมาที่ห้องพัก ซึ่งพอมาถึงหน้าห้อง ผมก็เห็นประตูห้องมันแง้ม ๆ เหมือนไอ้น้าผู้ชายนั่นมันปิดไม่สนิท จนผมได้ทำยื่นหน้าเข้าไปดู แล้วสิ่งที่ผมเห็น ก็ทำเอาเด็กอย่างผมตอนนั้น ต้องยืนตัวแข็ง ปากแข็งไปหมด เมื่อสภาพภายในห้อง เป็นไอ้น้าผู้ชายคนนั้น ที่มันคงกำลังคืนของให้แม่ผมอยู่ ในแบบที่เด็ก ๆ อายุน้อย ๆ ก็ไม่เข้าใจเพราะผมเห็นทั้งสองคนแม่ผมกับไอ้น้านั่นเล่นแก้ผ้า โดยเฉพาะไอ้น้าผู้ชายคนนั้น มันเล่นโป๊หมดทั้งตัวทั้งทำคุกเข่า นั่งจ่อกระดกตูดของมันไหว ๆ เป็นจังหวะใส่เป้าเปลือยเปล่าของแม่ผม ที่เห็นแม่ผมท่านต้องนอนหงาย แถมยังถูกถกเสื้อยืดขึ้นมาเหนือเต้านมสองเต้าขาว ๆ ขนาดพอดีมือของท่าน ที่ผมเองหน้าแดงก่ำ เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็นแม่ผม ท่านมาถูกใครก็ไม่รู้ มาจับท่านปลอกเปลือกล่อนจ้อน แถมให้ท่านอยู่ในท่วงท่าที่ดูประหลาด ลามกเสียเหลือเกิน กับสภาพที่แม่ผมท่านต้องถูกจับเอาสองขาสวยชี้ฟ้า นอนแอ่นสะโพกอ้าซ่า อวดเบ้าจิ๋ม ความเป็นลูกผู้หญิงตรงหว่างขาของท่าน จนผมตาค้างทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ดูไอ้น้าผู้ชายคนนั้น มันมาทำให้แม่ผมต้องตัวไหวโยก ๆ ช้า ๆที่ผมเห็นบรรยากาศในห้อง ก็ดูเป็นปกติเสียเหลือเกิน กับอากาศเย็น ๆ ลมทะเลพัดโกรกผ้าม่านปลิวเอื่อย ๆ น่านอนจนผมยังเข้าใจ ว่าแม่ผมท่านคงกำลังรับของคืนอยู่ อีกทั้งมุมมองที่ผมดูตอนนั้น ผมก็ดันไม่เห็นใบหน้าของแม่ผม ผมเห็นแค่เพียงเรือนร่างขาว ๆ ของแม่ผม ที่เห็นท่านนอนนิ่งเฉยดูสบาย ที่ไอ้น้าผู้ชายก็ยิ่งดูมันสบาย ๆ ใหญ่ เห็นมันตัวโค้งตัวงอ ก้มหน้าผิวดำแดงของมัน ไปจูบอม ดูดเอาหัวนมแม่ผมหนัก ๆจนมันเองเห็นหยุดกระเด้า หยุดบดสักพัก มันก็จับแข้งขาแม่ผมให้พลิกนอนไปอีกด้านหนึ่ง ที่จังหวะมันจับแม่ผมให้ท่านต้องนอนหันก้นอวบ ๆ มาทางผม ผมก็ตาลุกตาเหลือก เมื่อผมมองดี ๆ ตอนที่มันกำลังขยับตัว ผมก็เห็นตรงนั้น ตรงหว่างขาขนดำครึ้มของมันกับดุ้นเนื้อความเป็นชาย ที่ขนาดดูหนาน่ากลัวแถมแข็งเขม็ง กำลังเสียบปักคาอยู่ในจิ๋มแม่ผม ที่พอเริ่มเข้าที่เข้าทางกัน แม่ผมก็ตัวไหวโยก ๆ อีกครั้ง ที่คราวนี้ผมเห็นชัดเจนเหลือเกิน จนภาพการกระทำนั้นยังติดตา ติดค้างอยู่ในหัวผม กับสภาพที่แม่ผมท่านต้องมานอนตะแคงตูดขาวกลม ๆ ต้องเกยกันโด่ง แถมถูกไอ้น้าผู้ชายนั่นนั่งทำกระแทกกระทั้น อัดช่วงล่างของท่าน จนเกิดเสียงดังตับ ๆ ที่เห็นมันกระเด้าท่านอยู่นาน มันก็จับแม่ผมให้ท่านมานอนหงาย รับการกระทำของมันอยู่ในท่าเดิม ที่ผมเองต้องสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ดี ๆ ผมก็เห็นแม่ผม ที่ท่านกำลังนอนเฉย ๆ รับของคืนสบาย ๆ อยู่แบบเดิมเสียนาน แต่แค่พริบตา แม่ผมท่านกลับดีดตัว ทำพรวดพราดเหมือนจะลุกขึ้นจากเตียง ที่เห็นท่านทำเด้งเอวเหวี่ยงเอาท่อนล่างขาว ๆ ของท่าน พุ่งตีเข้าใส่เบ้าของไอ้น้าผู้ชายนั่น ที่ผมเองก็เห็นมันหงายผงะ ที่ดุ้นเดือยของมันนี่ เกือบจะงัดหลุดออกมาจากเบ้าจิ๋มแม่ผม ที่เห็นแม่ผมท่านก็ทำยันตัว จะดึงสะโพกกลับ เหมือนท่านพยายามรีบถอยเบ้าจิ๋มของท่าน ให้ได้หลุดลอยออกมา จากการเสียบอยู่ของดุ้นเดือยไอ้น้าผู้ชายนั่นแถมท่านยังจะส่งเสียงร้องอะไรมานิดหน่อย ที่ผมก็ฟังไม่ทัน เพราะไอ้น้าผู้ชายนั่นผมเห็นมัน รีบก้มหน้ามันไปซุกหน้าอยู่ตรงหน้าแม่ผม ที่หลังจากผมเห็นมันเนิบนาบมานานในตอนแรก แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็ดูเร่งร้อนไปเสียหมด เพราะไอ้น้าผู้ชายนั่น มันเล่นทำกระเด้าแม่ผมแบบรัว ๆ แรง ๆ ที่คราวนี้ผมเห็นแม่ผมท่านไม่ได้นอนนิ่งอีกต่อไป เพราะผมเห็นอย่างกับว่า ท่านอยากจะรีบยุติการกระทำ การมาคืนของของไอ้น้าผู้ชายนั่นที่ท่านมีบิดขา พร้อมทำขาหงิก จะจิกดีดใส่ร่างไอ้น้าผู้ชายนั่น ทั้งท่านยังทำแอ่นร่างกายขาว ๆ ของท่านให้ดีดเด้งไปมา แต่ก็ทำอยู่ได้ไม่นาน ผมก็เห็นท่านได้แต่นอนนิ่งตามเดิม แถุมผมยังเริ่มได้ยินเสียงแม่ผมชัดขึ้น ๆ กับเสียงร้องคล้ายท่านจะครางมันขาด ๆ หาย ๆ เหมือนคนกำลังหายใจไม่ทัน ที่คงเข้าจังหวะกับการกระเด้าหนัก ๆ ถี่ ๆ ของไอ้น้าผู้ชายนั่น จนเสียงเนื้อร่างกายคนเปล่า ๆ ตีกันดังสนั่นลั่นห้อง จนผมนี่จำได้ว่าผมเหงื่อออกเต็มหน้า แถมยังน่าอายแสนอาย ละอายใจตัวเองทุกครั้งในตอนหลังที่ผมนึกถึงเพราะจำได้ ว่าจังหวะนั้นตอนนั้น ตรงทางเดินหน้าห้องพักผมที่แม่ผมกับไอ้น้านั่นกำลังส่งของรับของคืนกันสนั่นอยู่ ตามความเข้าใจของผม ดันกลับมีคู่ชายหญิงเป็นฝรั่งหัวทองสองคน มาเดินผ่านหน้าห้องพักผม จนฝรั่งทั้งสองคนเขาคงเห็นผมที่ดูอะไรอยู่ ทั้งคู่เลยทำชะโงกหน้า ทำชะเง้อผ่านรอยแง้มประตูส่องเข้ามาดูสภาพภายในห้องด้วย ซึ่งพอผมเห็นพวกเขา ผมก็เงยหน้าขึ้นไปดูก็เห็นฝรั่งผู้ชายทำหน้ายิ้ม ๆ ให้ผม ก่อนจะกระซิบอะไรกับแหม่มผู้หญิง ที่เห็นแหม่มนี่หน้าแดงคิ้วย่น ยืนยื่นหน้าชิดประตูดูเหตุการณ์ที่แม่ผมท่านกำลังรับของคืนอยู่ จนแม่ผมท่านร้องเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ในห้องพัก ที่แหม่มคนนั้นก็ยืนดูไม่เลิกรา ก่อนจะหันหน้ามาอย่างกับจะค้อนฝรั่งผู้ชายกับผม ที่ทั้งคู่เห็นยังกระซิบหัวเราะกันเบา ๆ ก่อนทั้งคู่จะเดินยิ้มเงียบ ๆ เลยผ่านไป ที่ผมก็สนใจฝรั่งได้ไม่นาน ผมก็ต้องหันกลับมาดูในห้องพัก เมื่อผมได้ยินเสียงไอ้น้าผู้ชายนั่นมันลากเสียงครางยาว ๆ พร้อม ๆ กับแม่ผมกลับหวีดร้องเสียงดังลั่นสุดลำคอท่าน มาเรียกชื่อพ่อผมชัด ๆ คำหนึ่ง ก่อนที่ท่านจะตัวสะบัด เห็นแข้งขาท่านสั่นหงึกหงักไร้ทิศทาง บั้นท้ายเบ้าจิ๋มท่านที่โดนคืนของรัว ๆ อยู่ ก็เนื้อสั่นเต้นวูบวาบแถมตูดแอ่นชักกระตุกขึ้นลงดูน่ากลัว เหมือนท่านจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ที่ไม่นานไอ้น้าผู้ชายนั่นเห็นมันโยกตัวกระเด้าแม่ผมแบบสุดแรงอยู่อีกทีสองที มันก็ปากเสียงสั่นทำตูดกระดกไม่แพ้แม่ผม ที่เห็นลำเดือยของมันนี่เสียบค้างคาอยู่ในเบ้าจิ๋มแม่ผมสักครึ่งลำ ที่คราวนี้ทั้งสองคนที่เห็นโหมกันอยู่เมื่อครู่ ก็กลับอยู่นิ่ง ๆ เฉยสนิท รับลมทะเลโกรกเย็น ๆ เหมือนกับผมตรงหน้าห้องที่ไม่มีท่าทีว่าจะมีใครขยับตัว จนกลายเป็นว่า ไอ้น้าผู้ชายคนนั้น ผมเห็นมันที่ยังค้างอยู่ในท่าเดิม มันก็ยังมีก้มหน้ามันไปดูดเต้านมแม่ผมอยู่สักพัก ผมก็เห็นมันรีบลุกขึ้นเดินหลบลึกเข้าไปตรงมุมห้อง จนผมมองไม่เห็นมัน ที่พอมันลุกจากเตียงไม่ได้คร่อมร่างแม่ผมอยู่ ผมก็ถึงจะได้เห็นว่าแม่ผม ท่านหน้าแดงคิ้วขมวด ดูแก้มท่านก็ชื้น ๆ น้ำตาจนผมเองตอนนั้น ก็รู้สึกยังไงบอกไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งเห็นแม่ผมท่านยังนอนขาถ่าง แถมพอมองดี ๆ ตรงของลับท่านกลับมีน้ำขาว ๆ มาล้นเคลือบอยู่เต็ม ตรงรูจิ๋มของท่าน ที่ผมเหม่อมองไม่นานอยู่ดี ๆ ประตูห้องพักผม ก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับไอ้น้าผู้ชายนั่น ที่ผมเห็นหน้ามันนี่เหวอตกใจที่มันคงไม่นึกว่าจะเห็นผมยืนอยู่ตรงหน้าห้อง แต่คราวนี้มันไม่พูดอะไรกับผมสักคำ ที่ผมจำได้ไม่ลืมว่ามันเพียงแค่อมยิ้มให้ผม ก่อนที่มันจะรีบปิดประตูห้อง กับกึ่งวิ่ง กึ่งเดินรีบผ่านตัวผม ลงไปยังชั้นล่างของโรงแรมที่เหตุการณ์หลังจากนั้น ผมเองที่ยังยืนอยู่ข้างนอกห้อง ก็ยังมีเดินไปตรงระเบียงทางเดินด้านนอก จนผมเห็นไอ้น้าผู้ชายนั่น ก็ขึ้นนั่งมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ข้างโรงแรม ก่อนจะเห็นมันขับบึ่งออกไปที่สักพัก ก็พอดี คุณพ่อผมกับน้องชายที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล ก็เดินขึ้นบันไดมาพอดี แล้วก็เลยจะเดินเข้าห้องพักกัน ที่พอเข้าห้องไป ผมก็เห็นแม่ผมท่านกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ที่พอแม่ผมท่านออกมา ที่จำได้ว่าท่านก็เข้าห้องน้ำครั้งนั้นนานมาก จนพ่อผมท่านก็ดูแปลกใจอยู่แต่แม่ผมท่านก็ยังพูดตอบโต้ ทำปกติ ที่พอจัดแจงแต่งตัวอะไรกันเสร็จ พวกเราก็ลงไปหาข้าวกินกันก่อนจะลงเล่นน้ำ แล้วก็เดินทางกลับบ้าน ที่นับจากเหตุการณ์นั้น แม่ผมท่านยังมีมาแอบถามผมอ้อม ๆ อยู่ตอนนั้นที่ท่านถูกไอ้น้าผู้ชายนั่นมาคืนของ ผมไปอยู่ที่ไหน ซึ่งผมก็บอกแม่ผมว่าผมลงไปเดินเล่นข้างล่างซึ่งแม่ผมท่านก็ทำเป็นฟัง ๆ ไป แต่ท่านก็ตามมาแอบถามผมหลายรอบ ซึ่งผมก็ไม่ยอมบอกความจริงท่านว่าผมเห็นเหตุการณ์นั้นทุกอย่าง ที่ผมก็สังเกตว่าแม่ผมนับจากวันนั้น ท่านก็ดูซึม ๆ ลงไปบ้างทั้งผมยังเข้าใจแน่ว่าท่านไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้พ่อผมรู้ ซึ่งที่จริงตอนที่พ่อผมกลับมาที่ห้องพักโรงแรมพ่อผมก็บอกว่าเจอไอ้น้าผู้ชายนั่นที่ชั้นล่างโรงแรม ที่ยังทักกันคำครึ่งคำ ที่พ่อผมท่านก็งง ๆ ว่ามันมาจากไหน มาทำอะไรที่ผมจำได้ว่าแม่ผมท่านก็บอกพ่อว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่เห็นเลย ทำให้เด็กอย่างผมตอนนั้นก็เข้าใจว่าเรื่องนี้แม่ผมคงไม่อยากให้พ่อรู้ ซึ่งพอผมอายุมากขึ้น ๆ แม่ผมก็ไม่ถามอะไรผมอีก ทั้งที่ผมคิดว่าแม่คงไม่เชื่อคำตอบผมแน่ เพราะเห็นท่านดูเหมือนยังมีอะไรในใจทุกครั้งที่ท่านถามผมที่ผมก็เข้าใจ ว่าผมนี่เอง ที่ทำให้เหตุการณ์ที่ไม่น่าจดจำเลย ได้เกิดขึ้นกับบุคคลที่ผมเคารพท่านมากมายซึ่งผมเองก็เสียใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ผ่านไปแล้ว ทั้งแม่ผม ครอบครัวผมในปัจจุบันก็ร่มเย็มอยู่กันไม่เดือดร้อนที่ผมก็คาดหวัง และก็เชื่อมั่นอยู่แล้ว ว่าใครที่ทำคนอื่นเดือดร้อน ต้องได้รับผลกลับคืนแน่นอนซึ่งไอ้น้าผู้ชายนั่นถึงแม้ผมจะไม่ได้ข่าวอะไรถึงมันอีก ที่แม้หลังจากนั้นแรก ๆ ก็ยังได้ยินจากพ่อมาบ้างว่ามันก็ย้ายถิ่นไปทำมาหากิน อยู่จังหวัดอื่นบ้าง แต่ผมก็เชื่อว่าผู้ชายอย่างมัน ต้องไม่มีชีวิตที่ดีแน่และในสุดท้ายนี้ ผมหวังเพียงว่าประสบการณ์ของผม คงพอจะเป็นข้อคิดอะไรให้กับทุกท่านได้บ้างที่อย่าได้เสียรู้ หรือได้อบรมลูกหลานของท่าน จะได้ไม่ต้องพบเจออะไรแบบที่ผมได้เจอกันเลย