เรื่องเสียว บันทึกลับ
เมื่อสองเดือนก่อน สามีดิฉันได้รับจดหมายจากญาติว่า ขอฝากลูกชายคนนึงให้มาอยู่ด้วย แกชื่อ เอส อายุ 24 ปี แกต้องการเข้ามาสอบบรรจุในกระทรวงต่างประเทศ และก็เหมือนกับจะฝากเพราะดิฉันกับสามีก็ทำงานที่กระทรวงต่างประเทศ วันแรกที่เจอกับเอส ดิฉันมีความรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้มาก อาจจะเพราะเราสองคนไม่มีบุตร พอแกเข้ามาอยู่ในบ้าน ก็ทำให้บ้านดูไม่เงียบเหงา ดิฉันอายุ 44 สามีอายุ 50 เราสองคนใช้ชีวิตอยู่กันเพียงสองคนจะมีก็หลานสาวลูกของน้องชายซึ่งนานๆ จะมา อยู่ด้วยทีนึง เราสองคนสามีภรรยาจะไปวัดทุกเสาร์อาทิตย์ สามีเป็นคนธรรมะธรรมโม ตอนหลังๆ นี่สามีถือศีลแปด เราสองคนไม่ได้มีอะไรกันมานานร่วม 6 ปีแล้ว แม้บางครั้งดิฉันจะมีความรู้สึกตามประสา แต่ก็ยับยั้งชั่งใจได้ เอสเข้ามาอยู่ที่บ้าน เขาก็ตามประสาเด็กวัยรุ่น บางทีก็ดื่มเบียร์บ้าง เที่ยวบ้างแต่ก็ไม่เหลวไหล เอสเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างดี ดิฉันเริ่มจะดูแลตัวเองให้ดีขึ้นเพราะไม่อยากจะให้เอสดูว่าดิฉันแก่จนเกินไป ไม่รู้สิอาจจะเพราะดิฉันวางตัวไม่ถูกหรือเพราะดิฉันห่างจากเรื่องทางโลกมานาน เพราะนอกจากทำงานก็ไม่ได้ไปเที่ยวสังสรร ส่วนมากก็อยู่บ้าน อ่านหนังสือธรรมะ สามีดิฉันจะหมกอยู่กับหนังสือธรรมมะ หรือไม่ก็ต้นไม้กล้วยไม้ต่างๆ
คืนนั้นเป็นคืนที่ดิฉันจำได้แม่นยำเพราะเป็นคืนที่ทำให้ชีวิตของดิฉันต้องทุกข์ทรมานแสนสาหัส
วันนั้นเอสกลับมาบ้าน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเราสามคนกินข้าวกันคุยกัน เอสมีเรื่องต่างๆ มาเล่าให้ฟังอย่างสุนกสนาน พอสัก 3 ทุ่มดิฉันกับสามีก็เข้านอน เอสยังคงนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ดูรายการต่างๆ ไปเรื่อยๆ จนล่วงเข้า 5 ทุ่มดิฉันตื่นขึ้นมา ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าประตูหน้าต่างยังได้ได้ปิด เลยลงมาดูความเรียบร้อย โทรทัศน์เปิดทิ้งเอาไว้เอสยังนอนอยู่บนโซฟา แต่ก็หลับสนิท ดิฉันเดินไปปิดโทรทัศน์ แล้วก็เดินมาจะปลุกให้เอสขึ้นไปนอน แต่ภาพที่ดิฉันเห็นก็คือ เอสนอนขาพาดกับขอบโซฟา กางเกงบอลของแกซึ่งขามันบานออก ทำให้ดิฉันเห็นภาพที่ไม่ควรเห็น สิ่งนั้นของเอสมันเลยออกมาจากกางเกง ดิฉันพยายามข่มใจไม่มองแต่ก็บังคับใจกับสายตาตัวเองไม่ได้ ดิฉันเดินออกไปกำลังจะขึ้นบันได ภาพที่เห็นเมื่อกี้ก็ยังติดตา มันเหมือนมีผีมาดึงให้ดิฉันกับไปหามันอีกครั้ง
ดิฉันเดินไปทางด้านปลายเท้าของเอส มองภาพนั้นอย่างบอกไม่ถูก นานแสนนานที่ดิฉันไม่ได้พบกับสิ่งนี้ เพราะเราสองคนสามีต่างก็ถือศีลด้วยกัน ดิฉันพยายามยืนข่มใจแต่สายตามันไม่ยอมขยับเขยื้อนไปจากตรงนั้น ดิฉันเห็นมันได้ชัดเพราะไฟในห้องยังไม่ได้ปิด บางทีมันก็เหมือนขยับได้ ดิฉันใจเต้นแรงพยายามข่มใจเอื้มมือไปดึงกางเกงของเอสให้ปิดลงมา แต่อนิจา ยิ่งใกล้มันก็ยิ่งชัดเจนดิฉันได้แต่บอกตัวเองว่า ต้องตัดภาพที่เห็นออกไปจากใจให้ได้ ดิฉันกลับขึ้นมาบนห้องหลังจากปิดไฟข้างล่างและปิดประตู หน้าต่างแล้ว ดิฉันนอนเท่าไหร่ก็ไม่หลับ ภาพสิ่งนั้นของเอสมันวนเวียนหลอกหลอน อารมณ์เหมือนเมื่อตอนสาวๆ มันกลับมาอีกครั้ง ดิฉันนึกรังเกียจตัวเองเหลือเกินที่จะกล่าว มองไปที่สามีดิฉันก็อยากจะให้สามีตื่นขึ้นมาแล้วก็กระทำกามกริยาต่อดิฉัน เหมือนเมื่อยังหนุ่มสาวกัน ดิฉันยังหวลคิดไปถึงเพื่อนชายสมัยเรียน ทั้งฝรั่งและไทย เราอาจจะเคยมีอะไรกันนั่นก็สมัยนานมาแล้ว แม้แต่สามีดิฉันเราไม่ได้หลับนอนกันมานานแล้ว ดิฉันนอนไม่หลับพยายามสวดมนต์เท่าไหร่ก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ดิฉันเดินลงมาข้างล่างอีกหน ความพยายามส่วนเลวมันบังคับให้ดิฉันเดินตรงไปที่เอสซึ่งนอนหลับอย่างสบาย เอสหลานชายของสามี บันนี้นอนอยู่ในท่าที่สองขาพาดยาวบนโซฟา แต่สิ่งที่มันนูนๆ อยู่ในกางเกงบอลต่างหากคือสิ่งที่ดิฉันอยากสัมผัส ดิฉันต้องยืนต่อสู้กับจิตใจตนเองอีกครั้ง แต่ก็ยังพ่ายแพ้
ดิฉันเอื้อมมือไปสัมผัสกับสิ่งนั้นของเอส เลือดในกายดิฉันสูบฉีดแรง หัวใจเต็นไม่เป็นส่ำ จะเป็นลมให้ได้ ดิฉันค่อยล้วงมือเข้าไปด้านใน ความอุ่นของบริเวณท้องน้อยของเอสสัมผัสกับแขนและมืออันเย็นเฉียบของดิฉัน ดิฉันกำเจ้าก้อนเนิ้อของเอสเอาไว้ในมือ และจับลูบไล้แบบถนุถนอม หลายครั้งที่ดิฉันจะดึงมือออก แต่ก็ไม่สำเร็จ นานๆ ไปขนาดของมันก็ขยายขึ้นและเริ่มแข็งตัว ดิฉันค่อยๆ ดึงกางเกงของแกออกช้าๆ เจ้าสิ่งนั้นปรากฏแก่สายตาดิฉันอีกครั้ง แต่คราวนี้มันใกล้จนสัมผัสได้ถึงไออุ่น ดิฉันค่อยๆ ประคองสิ่งนั้นให้มันตั้งขึ้น ดิฉันได้ทำสิ่งที่ไม่ได้ทำมานาน ลิ้นเปียกๆ ของดิฉันสัมผัสกับก้อนเนื้ออันแข็งแกร่งของเอส กลิ่นหนุ่มของเอสทำให้ดิฉันหลงไหล ยิ่งนานไปยิ่งถลำลึก มันช่างหอมหวานเหลือเกิน ดิฉันอ้าปากค่อยๆ อมท่อนสวาทของเอสอย่างช้าๆ ความหยุ่นปนแข็งของมันสัมผัสกับริมฝีปากเพดานลิ้นของดิฉัน มันช่างเย้ายวน นานเท่าไหร่ไม่รู้จนดิฉันได้ยินเสียง
“น้าพิมพ์ครับ”
ดิฉันหยุดชะงักในใจวาบหมือนคนโดนผีหลอก รีบดึงปากออกจากสิ่งที่ดิฉันอมเอาไว้ น้ำลายไหลยืดติดริมฝีปาก ดิฉันรีบเช็ด ขณะที่ลุกขึ้นกำลังจะเดินหนีด้วยความอาย
“น้าพิมพ์ทำต่อสิครับ นะครับ ผมมีความสุขมาก”
ดิฉันไม่กล้าสบตาของเอส หลานชายของสามี ยืนตัวสั่นอยู่อย่างนั้น จนเอสดึงให้ดิฉันั่งข้างๆ แกบนโซฟา
“น้าพิมพ์ มีอารมณ์เหรอครับ ผมช่วยนะ”
ขาดคำดิฉันยังไม่ทันจะตอบ เอสใช้จมูกของแกไซ้รตามซอกคอดิฉัน มือสองมือของเอสประคองสองเต้าของดิฉันเอาไว้ในมือ แล้วแกก็ลูบคลำ ดิฉันอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว บัดนี้ไม่มีแม้แต่แรงจะขยับปากพูด เอสรุกเร้าดิฉันจนดิฉันตั้งตัวไม่ติด ดิฉันพูดออกไปแต่ก็แหบแห้งแทบไม่มีเสียง เมื่อเอสดึงกางเกงในดิฉันออกและจับขาดิฉันแยกออก สัมผัสของลิ้นของเอส ดิฉันเสียววาบลงไปถึงปลายขา ต่อจากนั้นความรู้สึกเก่าๆ ที่เคยได้รับเมื่อสักยี่สิบปีก่อนก็กลับมามา เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
“เอส……..อูวววววว์ เอส……น้าๆๆ……อา….ว์ อูยๆๆ….”
เอสทั้งดูดทั้งเลียตรงนั้นของดิฉัน เสียงดังเหมือนคนดูดไอสครีม ดิฉันผวาทุกครั้งที่เอสใช้นิ้วไชชอนเข้ามาและดูดตรงติ่งสวาททุกครั้ง ดิฉันกำลังจะถึงฝั่งแห่งความสุข มันใกล้อยู่ตรงนี้เอง
“เอส…..อูวววววววว์ น้าๆๆ จะ…จะ..แล้วเอสๆๆๆโอยๆๆๆ น้าไม่ไหวแล้ว….เอสสสสสส” เสียงอันแหบแห้งของดิฉันเงียบลงไปพร้อมกับความสุขที่ได้รับจากลิ้นและนิ้ว ของเอส หลานของสามี
“น้าพิมพ์ครับ”
เอสเรียกชื่อดิฉันเพียงแค่นั้น แต่ร่างกายของแกไม่หยุดการเคลื่อนไหว แกค่อยๆ คร่อมร่างดิฉันเอาไว้ หน้าอกทั้งสองข้างโดนเอส ดูดเลียสลับไปมา ดิฉันเสียววุบวาบที่ท้องน้อยอีกครั้ง เมื่อสิ่งนั้นของเอสมาชนๆที่ปากทางสวาทของดิฉัน
“น้าพิมพ์ผมขอนะครับน้า”
“โอวๆๆๆ เอส….น้าๆๆๆๆ อ๊าๆๆๆๆๆๆ เบาๆ นะจ๊ะอูยๆๆ…….” เกือบสิบปีที่ไม่มีอะไรแบบนี้ผ่านเข้ามา ดิฉันแทบจะสำลักความสุขลืมทุกอย่างไปจนหมดสิ้น ความเสียวความสุขมันประดังถาโถมเข้ามาหาดิฉันจนแทบสำลับความสุขนั้น
“เอสๆๆๆๆ น้าเสียวจังเลย อูยยยยยยย……”
ดิฉันไม่อยู่ในภาวะที่ควบคุมอะไรได้ แม้จิตใต้สำนึกรู้ผิดชอบจะมีแวบมาให้นึกถึงบ้างแต่ก็เลื่อนลอยและมีอิธิพล ไม่พอ หากแต่ด้วยว่าต้องต่อสู้กับสิ่งที่ขาดหายไปนานและฝังอยู่ภายในส่วนลึกที่สุด ของจิตใจ ดิฉันมีความสุขกับการที่ได้มีอะไรกับผู้ชายคนนึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ใช่ สามีของดิฉันก็ตาม
“อูวว์ๆๆๆๆๆ น้าพิมพ์ครับ ผมไม่ไหวแล้วครับ ผมจะออกแล้วครับโอววววววน้าพิมพ์………”
“เอสน้าก็ไม่ไหวแล้ว อูยๆๆ เอสน้า…น้า..น้า….”
ดิฉันกับเอสกอดกันแน่เหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน เราเสร็จสมไปพร้อมๆ กันอย่างมีความสุข
“น้าพิมพ์ครับ น้ามีความสุขไม๊ครับ”
“เอส…น้ามีความสุขที่สุดเลย น้า..น้า..”
ดิฉันต้องหยุดพูดเพียงแค่นั้นเพราะริมฝีปากของเอสหลานชายของสามีมาสัมผัสกับปากของดิฉัน ลิ้นอันอ่อนนุ่มชอนไชเข้ามาในปากของดิฉัน มันทำให้ดิฉันเสียวซ่านจนขนลุก เราสองคนแลกจูบกันอย่างลืมสิ่งรอบข้างไปหมด จนกระทั่งดิฉันมีความรู้สึกว่า เจ้าก้อนเนื้อของเอสมันเริ่มขยับตัวและมาป้วนเปี้ยนแถวตรงนั้นของดิฉันอีกครั้ง
“น้าพิมพ์ครับ..ผมเอ่อ…ผมขออีกทีนะครับ”
ยังไม่ทันขาดคำ ดิฉันก็ต้องสะดุ้งวาบอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ความเสียวเสร็จสมเมื่อครู่ยังไม่จางหายไป นี่กระมังที่ดิฉันเคยได้ยินว่าเด็กหนุ่มๆ มักจะมีไฟในเรื่องอย่างว่าอยู่ มากกว่าคนสูงอายุ
“โอวๆๆๆ เอสเธอ..อูยๆ น้าๆๆ โอว น้าๆๆ เอส………………”
ดิฉันไม่มีโอกาศที่จะพูดหรือบังคับตัวเองได้เลยเพราะในระหว่างที่เราสองคน กำลังทำอะไรกันนั้น เอสเป็นฝ่ายควบคุมเกมส์ทุกสิ่ง แม้ในตอนนี้ดิฉันก็ต้องพลิกตัวคุกเข้าอยู่ที่โซฟา เอสอยู่ด้านหลังของดิฉัน มันเป็นท่าที่ดิฉันคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้เจออีกแล้ว เอสหลานชายของสามีดิฉันกำลังใช้ท่าเสพย์สุขในท่าเดียวกันกับที่เรียกว่าท่าสุนัข ดิฉันเสียววาบไปถึงเนื้อในเมื่อท่อนสวาทของเอสครูดกับฝนังด้านใน ความเสียวมากขึ้นทวีคูณ เอสยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว ยิ่งเร่งความเร็วและแรงมากขึ้น เสียงเหมือนคนย่ำน้ำแฉะๆ ดังมาตลอด คงจะเป็นเพราะน้ำของดิฉันและเอสผสมกัน โอวววว…พระเจ้า…เอสบีบสะโพกของดิฉันแล้วก็กดท่อนสวาทของแกเสยขึ้นและลง
“เอสจ๋า…น้าพิมพ์เสียวเหลือเกิน อูวว์ๆๆๆ เอส………….อา………….ซ๊ดส์สสสสสสสสสส เอสเธอทำไมเก่งอย่างนี้..อูยยยยยยย…….ดีจังงงงงง…เลยยยยยย….โอวววววววว…..เอสจ๋าาา…เป็นผัวน้าทุกวันเลยนะ..โอวววววว…อ่าซี๊ดส์สสสสสสสสสสสส ”
เอสจับดิฉันพลิกอีกครั้ง แต่คราวนี้เอสเป็นฝ่ายนอนข้างล่างบ้าง ดิฉันเข้าใจได้ดี ว่าตอนนี้ดิฉันจะต้องทำยังไงบ้าง ดิฉันถึงแม้จะเหนื่อย แสนเหนื่อยเพียงใด แต่ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ดิฉันโยกเอวถูกับหัวเหน่าของเอส ดิฉันยิ่งบดส่วนนั้นของดิฉันเข้าไปแน่นเท่าไหร่ ก้อนเนื้อของเอสก็จะดันกับส่วนที่ลึกที่สุดของดิฉัน มันทั้งเสียวทั้งบอกไม่ถูก ทำนบของดิฉันกำลังจะแตกอีกครั้งนึงแล้ว
“โอวววว….เอสๆๆ น้าๆๆ ไม่ไหวแล้ว น้าๆๆ จะๆๆ อีกแล้ว……โอววววว…เอสจ๋าาาาา…. น้า น้า น้าส..เสร็จ..จแล้ว…ววว”
ดิฉันนอนหมอบอยู่บนลำตัวของเอสผู้มีศักดิ์เป็นหลาน ร่างกายของดิฉันเหมือนจะแตกแยกออกเป็นส่วน แต่ก็เป็นอาการที่มีความสุขปนเสียวอย่างที่สุดที่สาวรุ่นดิฉันจะมีได้
“น้าพิมพ์ ผมขออีกนิดนะครับน้า อูยย….ผมกำลังจะออกแล้วครับ….โอยๆๆๆๆ”
เอสจูบกับดิฉันอีกครั้ง แล้วกระซิบกับดิฉันเบาๆ
“น้าพิมพ์ ช่วยผมหน่อยนะครับอูย…..น้าพิมพ์ครับน้ำหล่อลื่นมันเยอะครับ มันลื่นไปหมด น้ำของผมที่ออกมาก็เยอะครับ มันลื่นไปหมด น้าช่วยผมหน่อยนะครับน้าพิมพ์”
ดิฉันคิดว่า มันคงจะหลวมเพราะหล่อลื่นมากอย่างที่เอสบอก ดิฉันก็ไม่รู้ว่าเอสจะให้ช่วยยังไง แต่ก็มาเข้าใจเมื่อเอส นั่งตัวตรงแล้วจับหัวดิฉันกดลงไปที่ตรงนั้นของแกช้าๆ ดิฉันไม่ปฏิเสธเพราะสิ่งที่ดิฉันชอบมันก็คือสิ่งนี้นั่นเอง แม้แต่ว่าคราวนี้มันจะมาอยู่ในปากดิฉันแทนที่จะเป็นร่องสวาทของดิฉันเอง ดิฉันดูดกลืนท่อนสวาทของเอสอย่างมีความสุข โหยหากลิ่นหนุ่มหอมจางๆ โชยมา ดิฉันอยากจะสัมผัสกับสิ่งนี้มานานแสนนาน ท่อนสวาทของเอส เข้ามาลึกจนสุดคอหอยของดิฉัน มันสัมผัสกับลิ้น กระพุ้งแกม และฟันของดิฉัน ริมฝีปากของดิฉันเม้มเอาไว้จนแน่น
“น้าพิมพ์….อูยๆๆ ดีจังเลยครับ…โอยๆๆ อาว์วววว ผมออกๆๆ แล้ววว า………………..
ดิฉันฟังอะไรไม่ได้ใจความจากปากของเอส รับรู้เพียงแต่ว่า น้ำอุ่นๆ เหนียวๆ จำนวนมาก หลั่งไหลเข้ามาที่ปากของดิฉัน มันร้อนวาบผ่านลิ้นลำคอไหลลงไปไหนต่อไหน ดิฉันยังคงดูดกินอย่างเอาใจเจ้าของน้ำ ที่อุตส่ามอบให้ดิฉัน กลิ่นคาวหอมสัมผัสปลายประสาททำให้ดิฉัน มีความสุขอย่างประหลาด ดิฉันดูดเลียจนท่อนสวาทของเอส สะอาด โอววว…มันยังแข็งตัวอยู่ได้อย่างน่าฉงน ดิฉันยังคงดูดกินน้ำสวาทจนหยดสุดท้าย แม้เจ้าของจะร้องเสียงหลงด้วยความเสียวสุดยอดก็ตาม
“น้าพิมพ์..อูยๆๆๆ น้าเก่งจังเลยครับ โอววว …น้าใช้ปากได้ดีมากๆ เลยครับ”
“ถ้าเอสชอบน้ายินดีจ๊ะ ที่จะทำให้เอสมีความสุข”
เราสองคนกอดกันอย่างไม่อยากจะจากกัน ดิฉันไม่ได้นึกถึงผิดชอบชั่วดี แต่ดิฉันอยากจะมีเพียงเราสองคนคือเอสกับดิฉันเท่านั้นในโลกใบนี้ ดิฉันกับเอสพยายามหาทางออกสำหรับเราสองคน แน่ละเราสองคนก็ยังมอบความสุขให้กันและกันต่อไป
ติดตามอ่านเรื่องเสียวได้ทุกวันได้ที่เรื่องเสียวๆ ยอดฮิตจาก SAWSTORY.COM