ตำนานนักรัก ตอนที่ 29
จวบจนเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว คุณเจนกับพวกเพื่อนๆก็ยังไม่กลับมา ผมสังเกตุได้ว่าคุณดาเริ่มกระวานกระวายใจ ผุดลุกผุดนั่งไม่เป็นสุข เรื่องอารมณ์พิสวาทนั้นไม่ต้องไปพูดถึงมันเลยครับ เพราะภายในใจเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวของเธอ จึงไร้อารมณ์แม้กระทั่งผมพยายามเข้าไปหยอกล้อ จนถึงขั้นเล้าโลม คุณดาก็ยังเฉยๆ ไม่มีอารมณ์ตอบสนอง จนผมคิดว่าปล่อยให้เธออยุ่ตามลำพังสักพักดีกว่า จึงเดินเข้าไปในห้องของลุงเสงี่ยม เพื่อดูว่าแกตื่นแล้วหรือยัง
พอผมเปิดประตูห้องเข้าไป ลุงแกก็ร้องทักขึ้นมาทันที แสดงว่าแกตื่นนานแล้วเป็นแน่ หลงจากพูดคุยถามเรื่องของคุณเจนอีกสักครู่ ว่ากลับมาแล้วหรือยัง พอผมตอบว่า
“คุณเจนกับเพื่อน..ยังเลยไม่กลับมาเลยครับ…” ลุงเสงี่ยมแกได้ยินก็ขมวดคิ้วที่เหลือเพียงเส้นบางๆ อยู่ไม่กี่เส้นเข้าหากัน ก่อนจะรำพึงออกมาเบาๆ
“หรือว่ามันพากันกลับกรุงเทพไปแล้วนะ…”
“ผมก็ไม่ทราบครับ..ลองให้คุณดาโทรหาดีมั๊ยครับลุง..เอ๊ย..พ่อ…”
ผมเผลอเรียกลุงเสงี่ยมจนติดปาก แกได้ยินก็หัวเราะหึๆๆ แล้วเร่งให้ผมไปตามคุณดาเข้ามาหา ผมจึงออกไปจากห้องนอนของแก มองเห็นคุณดานั่งเหม่อมองไปทางประตุรั้วหน้าบ้าน ก็นึกรู้เลยว่าเธอคงเป็นห่วงคุณเจนยิ่งนัก
“คุณดาไม่ลองโทรหาคุณเจนเล่าครับว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน..” ผมเดินเข้าไปจนหยุดอยู่อยู่ด้านหลังคุณดาโดยที่เธอไม่รู้สึกตัว พอพูดออกไปเบาๆ คุณดาถึงกับสะดุ้งตกใจ
“ดาโทรหาหลายครั้งแล้วค่ะ..แต่ลูกเจนไม่ยอมรับสาย” น้ำเสียงของคุณดาดูกังวลจนเห็นได้ชัด ผมเลยทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง แล้วยื่นมือไปโอบไหล่ลูบต้นแขนเบาๆ
“คุณพ่อให้มาตามหาน่ะครับ..” ผมลูบต้นแขนไปมาจนคุณดารู้สึกดีขึ้น จึงบอกจุดประสงค์ที่ผมเดินมาหาเธอ
“คุณพ่อให้ทองดีมาหาดาหรือคะ..รู้มั๊ยว่าเรื่องอะไร..” คุณดารีบถามกลับเสียงตื่นๆ
“ผมคาดว่าคงจะถามคุณดาว่าโทรไปหาคุณเจนหรือยังน่ะครับ…ไปกันเถอะครับ…”
ผมบอกไปตามที่ตนเองคาดเดา แล้วผุดลุกขึ้นฉุดแขนจนคุณดาลุกตาม แล้วพากันเดินจับมือไปหาลุงเสงี่ยมพร้อมกัน แล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาดเดา ว่าลุงเสงี่ยมคงจะต้องถามเรื่องนี้ พอแกรู้ว่าคุณดาโทรไปแล้วหลายครั้งแต่คุณเจนไม่รับสาย แกก็อึ้งไปชั่วครู่
“ปล่อยมันไปแม่ดา ลูกหล่อนก็อายุยี่สิบแล้วไม่ใช่รึ…มันโตพอที่จะดูแลรักษาตัวเองได้ แม่ดาไม่ต้องคิดมากให้เสียสุขภาพจิตหรอก..พ่อว่า ถ้ามันไม่ขับรถไปเที่ยวต่อที่อื่น ก็คงขับรถกลับบ้านที่กรุงเทพแล้วละ…”
ผมฟังแล้วได้แต่คิดอยู่ในใจ ที่ลุงแกพูดแบบนี้ได้ คงเพราะไม่รู้เรื่องเมื่อคืนว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพื่อนทั้งสองของคุณเจนก็หาใช่เพื่อนดี เพื่อนแท้เสียที่ไหน คนหนึ่งก็ทรยศเพื่อนยอมให้แฟนเพื่อนเย็ด อีกคนก็เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว จ้องจะหาโอกาสล่วงเกินเธอเสมอเท่าที่โอกาสอำนวย
“คิดอะไรอยู่คะทองดี…”
คุณดาถามจนผมสะดุ้ง รีบตอบปฏิเสธว่าไม่ได้คิดอะไร แค่เป็นห่วงคุณเจนเท่านั้น พอลุงเสงี่ยมได้ยินเสียงผมตอบ แกก็หัวเราะหึๆ
“เอ็งจะเป็นห่วงไอ้เจนมันทำไมรึ..รึอยากให้มันรีบกลับมาอาระวาดใส่อีก ฮ่าๆๆๆ”
ผมได้ยินแกพูดก็นึกขำ มันจริงอย่างที่พ่อตาผมพูดเลยไม่มีผิด จึงไม่ตอบกลับได้แต่ยิ้มแล้วหัวเราะขำๆ ตามแกไป จนหยุดหัวเราะจึงร้องถามข้อข้องใจกับคุณดาถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“เอ้อ…คุณดาครับ..เมื่อคืนตอนที่คุณดาออกมาจากห้องนอนน่ะ..ไม่รู้เลยหรือครับ ว่าคุณเจนยังตื่นอยู่..”
“ไม่ค่ะ..ดาดูแล้วว่าลูกเจนหลับจึงกล้าเข้ามาหา ดายังเขย่าตัวเธอด้วยซ้ำ…”
คุณดาตอบเสียงอุ๊บอิ๊บเบาๆอายๆ ผมได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง ถ้าเป็นไปตามนั้นจริงๆ แสดงว่าคุณเจนก็ยังไม่รู้เรื่องของเพื่อนทั้งสองคนของเธออย่างแน่นอน
“ลูกเจนบอกว่า..แกตกใจตื่นเพราะเสียงทองดีนั่นแหละ…แล้วพอไม่เห็นดานอนอยู่ในห้อง เลยคาดเดาว่าดาอยู่กับทองดี เลยมาแอบดู ก็เลยเห็น…เรา..นั่นแหละค่ะ…”
คุณดารีบโยนความผิดให้ผมทันที ว่าเป็นเพราะผมทำเสียงดังจนคุณเจนตื่นมาเห็น ทั้งๆที่จริงแล้ว คนที่ร้องครางเสียงดังเป็นเธอต่างหาก แต่ใครเล่าจะไปกล้าโยนกลับไปโทษเธอได้
“ฮื๊ยยยย..พ่อว่าไม่ใช่ละมั้ง เสียงแม่ดาต่างหากที่ดังจนพ่อตกใจตื่นเหมือนกัน..ฮ่าๆๆๆ”
เดชะบุญที่ผมยังมีพ่อตาช่วยยืนยันได้ว่า คุณดาต่างหากที่ส่งเสียงดังหาใช่ผม เล่นเอาคุณดาหันขวับไปค้อนพ่อของเธอ แล้วส่งเสียงงอนๆอายๆกลับไป
“คุณพ่อเนี่ยะ…เข้าข้างทองดีจนลืมลูกสาวตัวเองเลยนะคะ…” คุณดาพูดจบก็ล้มตัวซ่อนหน้าซุกลงมาที่ตักผมด้วยความอาย เล่นเอาทั้งลุงเสงี่ยมและผมหัวเราะขำๆกันลั่นห้อง
“เอ้อ..คุณดาครับ..เมื่อคืนตอนออกมาจากห้อง..เห็นอะไรมั่งหรือเปล่าครับ…” พอหยุดเสียงหัวเราะ ผมก็เลียบเคียงถาม ไม่อยากพูดตรงๆว่าเธอเห็นคุณอรเย็ดกับใครบ้าง
“เมื่อคืนดาก็บอกแล้วนี่คะว่าเห็นพี่ชิตกับเพื่อนลูกเจน..เอ้อ..ทำอะไรกัน…”
“เห็นแค่เพียงสองคนเองหรือครับ…” ผมรีบถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง จนลุงเสงี่ยมแปลกใจ
“เอ็งรุ้อะไร เห็นอะไร ก็เล่ามาให้หมดสิวะทองดี….”
เมื่อลุงเสงี่ยมถามตรงๆมาดั่งนี้ ผมก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่าผมเห็นอะไรบ้าง โดยไม่สนใจเลยว่ายัยเด็กอรนั่นจะบอกให้ผมปิดเรื่องไว้ แล้วจะให้รางวัลด้วยเรือนร่างของเธอ ซึ่งขอบอกตรงๆเลยว่า แม้ยัยเด็กอรจะยังดูสาว ดูสวยและหุ่นดี แต่ให้ผมฟรีๆ ผมยังไม่สนใจเลย เพราะผมมีคุณดาเป็นคนรักอยู่แล้ว
“ตายละ…ลูกเจนรู้เข้าจะทำยังไง…” คุณดาถึงกับผุดลุกขึ้นมาพูดด้วยความตกใจ หลังจากฟังเรื่องราวจบ
“ไอ้เด็กผู้ชายคนนั้น มันไม่น่าไว้วางใจนะแม่ดา..หาทางกันยัยเจนออกห่างๆจากมันเสียเถอะ…”
เสียงลุงเสงี่ยมคราวนี้เจือแววกลัดกลุ้มอย่างชัดเจน เมื่อพูดกับคุณดาเสร็จ ก็หันมาร้องบอกให้ผมช่วยด้วยอีกแรง…ผมนี่หรือจะช่วยอะไรได้ ลำพังจะเข้าใกล้หรือมองหน้าคุณเจน เธอยังไม่รุ้จะยินยอมแค่ไหน ดีไม่ดี จะคิดว่าผมใส่ร้ายแฟนเข้าละจะยิ่งยุ่งกว่าเดิม แต่ผมก็เก็บความคิดนี้ไว้ในใจคนเดียว ปากกลับพูดว่าจะคอยดูแลคุณเจนให้ เพื่อให้ผู้มีพระคุณของผม และคนรักของผมสบายใจ
หลังผมรับปากออกไป ดูเหมือนทั้งลุงเสงี่ยม และคุณดาจะสบายใจขึ้น ผมก็ไม่ทราบเลยว่าทำไมทั้งสองจึงเชื่อมั่นว่าผมจะสามาถทำได้ ทั้งๆตัวผมเอง ยังมืดแปดด้าน ไร้หนทางที่จะปกป้องลูกสาวของคุณดาให้คลายปมในใจ และรอดพ้นจากมือมารสังคม แต่พอมีคนมายอมรับและเชื่อมั่นว่าเราทำได้ มันเหมือนเป็นแรงภูมิใจให้ผมเกิดความเชื่อมั่นตาม ว่าตนเองทำได้แน่ แต่จะทำแบบใดเท่านั้นแหละที่ยังไม่รู้ ระหว่างที่ผมนั่งครุ่นคิด ทั้งลุงเสงี่ยมและคุณดาก็พลอยเงียบกันไปด้วย จนกระทั่งลุงเสงี่ยมพูดขึ้นมา
“เห้อออ…ตอนนี้ไอ้เจนก็ไม่อยุ่ พ่อก็อยากจะพัก ทองดี เอ็งพาเมียเอ็งออกไปจู๋จี๋กันเถอะ…ฮ่าๆๆๆๆ..”
ลุงเสงี่ยมแกเล่นพูดตรงๆ จนคุณดาได้แต่ร้องเรียคุณพ่อเสียงสั่นๆอายๆ แล้วผมก็นึกว่าคุณดาจะอายจนไม่กล้าลุกไปไหน แต่กลับตรงกันข้าม พอลุงเสงี่ยมแกเปิดโอกาสให้แบบนี้ คุณดารีบลุกขึ้น พร้อมจูงมือผมออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว เล่นเอาผมตั้งตัวไม่ทัน ได้แต่เดินตามเธอออกมาจากห้อง แต่คงไม่กล้ากลับเข้าไปในห้องที่คุณดานอนกับลูกสาวเป็นแน่ เพราะเผื่อว่าคุณเจนกลับมาไว คงได้เจอภาพบาดตาบาดใจอีกเป็นแน่
“จะไปที่ไหนดีครับ..”
ผมแสร้งถามเสียงหื่นๆ พร้อมกับเดินประชิดจนติดตัว เอากึ่งกลางลำตัวแนบไปที่ก้นงอนๆของคุณดา แล้วพากันเดินลงบันไดมาที่ลานดินหน้าบ้าน สายตาผมจับจ้องมองศาลาหน้าบ้านเป็นเป้าหมายอีกครั้ง
“อื้อออ…จะเอาจริงหรือคะ..ดาแค่พาทองดีออกมาจากห้องคุณพ่อเฉยๆ…” แต่คุณดากลับทำไขสือตอบอุ๊บอิ๊บแก้มแดงๆ ยิ่งเมื่อผมแอ่นเอวเข้าไปเน้นๆ เธอก็โก่งร่องก้นเข้ามาปะทะจนแนบสนิท
“อ่ะ..น้องดากับคุณทองดีจะไปไหนกันหรือครับ…”
ผมยังไม่ทันคิดและตัดสินใจเลยว่าจะพาคุณดาหลบไปแอบจู๋จี๋กันที่มุมไหนดี ก็เผอิญพี่ชิตเดินออกมาจากห้องเก็บของที่อยู่ชั้นล่างใต้ถุนเรือน พร้อมแบกแหปากใหญ่อยู่บนบ่า
“เดินเล่นน่ะครับ..แล้วพี่ชิตจะแบกแหไปไหนหรือครับ…”
ผมรีบหันกลับมาตอบ และร้องถาม ต้องยอมรับเลยว่าพี่ชิตแกช่างขยันเสียจริง เมื่อคืนก็โดนยัยเด็กอรรีดน้ำออกไปเกือบรุ่งเช้า แกยังมีแรงทำโน่นทำนี่ได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่นิด
“อ๋อ…ผมจะไปทอดแหหาปลาที่บ่อท้ายที่น่ะครับ…” พี่ชิตร้องบอก พร้อมชี้มือไปยังหลังบ้าน ที่มีบ่อขุดขนาดเนื้อที่กว่าไร่อยู่
“ปลาชุมหรือครับ…” ปากผมถามพี่ชิตไป แต่เอวก็ยังแอ่นเอาลำพองๆซุกส่ายเข้าไปในร่องก้นของคุณดา ที่เธอยืนนิ่งแอ่นก้นให้นิดๆ พร้อมกอดรัดลำแขนทั้งสองของผมที่กอดมาด้านหน้าวางมือใกล้ๆหน้าท้องของเธอ
“ชุมสิครับคุณทองดี…ผมขุดบ่อแล้ววางท่อเชื่อมกับแม่น้ำ ลูกปลามันหนีเข้ามาเจริญเติบโตในบ่อเยอะแยะ เมื่อวานปลาตะเพียนตัวใหญ่ๆที่ผมทำกิน ก็เพิ่งจับมาจากบ่อนี้แหละครับ…”
พี่ชิตอธิบายเสียงยืดยาว แต่ตากลับมองจ้องกึ่งกลางลำตัวของผมที่ซุกแนบไปกับก้นงอนๆของคุณดา แทนหน้าที่จะมองหน้าผู้พูด จนคุณดาต้องแอบจิกเล็บใส่แขนผมเบาๆด้วยความอาย
“ไปดูพี่ชิตทอดแหจับปลาดีมั๊ยครับ…” ผมก้มหน้าลงไปถามคุณดาทางด้านหลังเสียงเบาๆ
“แต่ตรงนั้นมันร้อนนะคะ..ดาเคยเดินไปมาหลายปีแล้ว…” คุณดาเอียงหน้ามาตอบเสียงเบาๆ
“หุยยย..ไม่ร้อนแล้วละครับน้องดา..พี่ปลูกกระต๊อบไว้นอนเล่นที่ท้ายบ่อมาตั้งนานแล้วครับ…”
เมื่อพี่ชิตยืนยันว่าที่ตรงนั้นมันไม่ร้อนแล้ว ผมกับคุณดาเลยเดินตามพี่ชิตไปทางหลังบ้าน พอพ้นก็มองเห็นบ่อน้ำขุดขนาดใหญ่กว่าไร่ ที่มีน้ำสีนำตาลอ่อนๆ พริ้วไหวเป็นคลื่นเล็กๆตามแรงลม พร้อมกับเห็นปลาน้อยใหญ่ขึ้นมาฮุบเอาอากาศ บ่งบอกว่าพี่ชิตแกไม่ได้โม้เลยแม่แต่นิดเดียว