ตำนานนักรัก ตอนที่ 33
“อย่าดื่มให้บ่อยนักนะลูกเจน..เดี๋ยวเมาเสียก่อน..” คุณดาเอ่ยปากเตือนเบาๆด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นลูกสาวเธอยื่นแก้วชน
แก้วคนนั้นคนนี้จนผ่านไปสามสี่รอบแล้ว เสียงที่พูดจาออกมาก็อ้อแอ้เต็มทน
“ม่ายมาวหรอกค่า..คุณแม่..ถึงจะมาวราวก็ดื่มในบ้าน จริงม๊ายวะพวกแก…” เสียงคุณเจนบ่งบอกว่าขณะที่เธอเริ่มมึนเมาเต็มที่แล้ว
ผมจึงสะกิดเตือนคุณดาเบาๆ ให้เธอรุ้ตัว พร้อมกับประหลาดใจเหลือเกินที่คุณเจนเมามาย ความคิดว่าเธอกำลังวางแผนร้ายอะไร
อยู่ตามคำเตือนของลุงเสงี่ยม ทำให้ผมลืมไปหมดสิ้น เพราะดูๆไปแล้ว เด็กหนุ่มสาวกลุ่มนี้ ไม่น่าจะมีเลห์เหลี่ยมอันใดเลย
“แม่ว่าลูกเจนไปนอนพักก่อนดีกว่ามั๊ยคะ..เดี๋ยวแม่พาไป…” คุณดาถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
“ม่ายนอนค่า..เจนยางม่ายมาว..เอิ๊ก…ซักหน่อย” คุณเจนพูดไปทำท่าขย้อนจะอวกไป จนผมอดรนทนไม่ไหว
“ผมว่าคุณเจนไปพักล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่าครับ ส่างกว่านี้ ค่อยมานั่งทานต่อ…” ผมยังไม่ทันพูดขาดคำ คุณเจนก็ฟุบหัวลง
ไปกับโต๊ะ
ทานข้าวเสียแล้ว เดือดร้อนให้คุณดาและเพื่อนสาวต้องช่วยกันพยุงหิ้วปีกพาไปนอน ก่อนที่คุณอรจะเดินกลับมาตาม
ลำพัง ด้วยท่วงท่าเซเล็กน้อย แต่เธอคงคอแข็งกว่าคุณเจนเป็นแน่ เพราะผมเห็นว่าเธอดื่มไปแล้ว
ร่วมสิบแก้วเช่นกัน
“อ่ะ..น้องดาไม่กลับมาด้วยหรือครับคุณอร…” พี่ชิตกลับชิงเป็นฝ่ายร้องถามขึ้นมาเสียก่อน เมื่อเห็นว่าคุณอรเดินกลับมาร่วมวง
ตามลำพัง
“ค่ะ..คุณน้าดาคงไม่กลับมาแล้วค่ะ…” คุณอรตอบยิ้มๆ แล้วทรุดตัวลงนั่งตามเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือเธอเปลี่ยนไปนั่งข้าง
ติดตัวพี่ชิต ส่วนไอ้เจก็เริ่มเมา จนหัวแทบไม่สามารถเงยขึ้นมาจากโต๊ะ ผมก็รู้สึกมึนนิดๆ เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว เตรียมที่จะ
บอกลาทุกคนในวงเหล้า กลับไปนอนเช่นกัน แต่พี่ชิตกลับชิงพูดขึ้นมาก่อนอีกครั้ง
“ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ..อย่าเพิ่งเลิกกันเสียก่อนล่ะ..” พี่ชิตพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน ถ้าผมตาไม่ฝาดไป ผมคิดว่าตนเอง
เห็นฝ่ามือเล็กๆของคุณอร เพิ่งละออกมาจากเป้ากางเกงตุงๆของพี่ชิตเป็นแน่
“ให้อรพาไปส่งมั๊ยคะน้า…” เสียงคุณอรพูดยิ้มๆขำๆ พร้อมส่งสายตาหยาดเยิ้มให้พี่ชิต อย่างมีความหมาย แต่พี่ชิตกลับร้องบอก
ว่าไม่ต้อง จากนั้นก็ลุเดินเลี่ยงออกไปจากโต๊ะ เดินตรงลิ่วไปเข้าห้องน้ำ คงปวดท้องฉี่จัดเป็นแน่
“พี่ทองดีดื่มไหวมั๊ยคะ..ชนแก้วกับอรสักแก้วนึงก่อนค่ะ…เฮ้ยไอ้เจ ตื่นสิวะ…” พอพี่ชิตลุกออกไปจากวงเหล้า คุณอรก็ยื่นแก้วของ
เธอที่มีน้ำสีเหลืออัมพรรณยื่นมาตรงหน้าผม เพื่อขอชนแก้ว แล้วหันไปเรียกไอ้เจที่ตอนนี้มันหัวทิ่มลงไปกับพื้นโต๊ะเสียแล้ว
ผมนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ยังไม่รีบยกแก้วขึ้นชนกับแก้วของคุณอร จนเธอต้องท้าทายย้ำมาอีกครั้ง แม้ผมจะเริ่มมึนเล็กน้อย แต่มันเป็น
เรื่องของศักดิ์ศรี เรื่องอะไรจะมาให้ผู้หญิงท้าชนแก้ว โดยที่เราไม่สู้ จึงยกแก้วขึ้นไปชนดังกริ๊ก แล้วดื่มพรวดลงไป รู้สึกว่าเหล้า
แก้วนี้ขมปากกว่าทุกแก้ว คงเพราะคุณอรชงแก่เกินไปเป็นแน่ ขณะที่ผมกำลังวางแก้วลง สายตาก็มองไปทางห้องครัว เห็นพี่ชิต
กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วประตูห้องนอนของลุงเสงี่ยม ก็เปิดอ้าออกมารอจนพี่ชิตเดินมาถึง ก็คล้ายถูกเรียกให้เข้าไปหา
เพราะผมเห้นพี่ชิตยืนลังเลเพียงครู่เดียว ก็ผลุบตัวเข้าห้องไปอยางรีบร้อน โดยที่คุณอรและไอ้เด็กเจ ไม่มีทางเห็น เพราะพวก
เขาต่างนั่งหันหน้าออกไปทางหน้าบ้าน สักครู่เดียว ผมก็เห็นพี่ชิตเดินออกมาจากห้องลุงเสงี่ยม แล้วเดินลิ่วๆ กลับมาที่วงเหล้า
อีกครั้ง
“ไปเสียนานเลยนะคะน้า…ทิ้งให้อรนั่งคิดถึง…” คราวนี้ผมเห็นเต็มสองตา เมื่อพี่ชิตเดินกลับมานั่งร่วมวง ฝ่ามือเล็กๆของคุณอร
ที่เอื้อมไปคว้าฉุดดึงให้พี่ชิตรีบนั่งนั้น มันหาได้ฉุดไปที่แขนของพี่ชิตแม้แต่นิด แต่มือของคุณอรกลับไปคว้าที่ควยพี่ชิต แล้วฉุด
ดึงลงมานั่ง ข้างตัวเธอ เล่นเอาพี่ชิตส่งยิ้มแหยๆ หัวเราะแหะๆ มาให้ผม เมื่อแกรู้ว่าผมมองดูอยู่
ผมเลยขี้เกียจนั่งเป็นก้างขวางคอพี่ชิต พอด่มแก้วสุดท้ายจบ ผมก็ลุกขึ้นขอตัวไปนอนเช่นกัน ดูเหมือนไม่มีใครทักท้วง
ผมก็ยังมีสติครบถ้วน จนคิดว่าเหตุร้าย ที่ลุงเสงี่ยมเตือนว่ามันจะเป็นการวางแผนของคุณเจน แต่กลับไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น แม้
สักนิด คุณอรก็สนใจพี่ชิตเสียมากกว่า ไม่ได้มีทีท่ายั่วยวนผมแต่อย่างใด สงสัยว่าลุงเสงี่ยมคงคิดมากเกินไปอย่างแน่นอน ผม
รีบเปิดประตูห้องนอนลุงเสงี่ยมออกอย่างรวดเร็ว แล้วผลุบหัวเข้าไปนอน ทั้งๆที่ยังคงไม่ได้อาบน้ำเลยแม้แต่นิด
“อ้าว..จะไม่อาบน้ำอาบท่าให้หายเมาก่อนรึทองดี…. ” พอผมล้มตัวลงนอน พ่อตาผมก็ทักขึ้นมาทันที แสดงว่าแกยังไม่ทันหลับ
“ขอสักวันครับพ่อ..ทำไมคืนนี้ผมรู้สึกง่วงเหลือเกิน..” ผมจำได้ว่าพูดยังไม่ทันขาดคำ สติผมก็ดับวูบนอนหลับสนิทไปด้วยความ
ง่วง จะนานเท่าใดไม่รู้สึกตัวเลยจนกระทั่งได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังลั่นๆอยู่หน้าห้อง ผมจึงรีบลืมตาตื่น เตรียมจะลุกขึ้นไป
เปิดประตูห้อง แต่มือเหี่ยวย่นของลุงเสงี่ยมกลับเอื้อมมือมาจับยึดข้อมือผมไว้แน่น จนผมสะดุ้งตกใจ ยกมือขึ้นขยี้ตาอย่างรวดเร็ว
พร้อมสลัดหัวขับไล่ความมึนงง แล้วก็ประหลาดใจ ว่าผมขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกับลุงเสงี่ยมได้อย่างไร ทั้งที่จริงที่นอนของ
ผมนั้นอยู่ด้านล่างข้างๆเตียงแก
แล้วยิ่งตกใจเป็นทวีคูณ เมื่อชะโงกข้ามตัวลุงเสงี่ยมไปมองยังที่นอนของตนเอง กลับเจอพี่ชิตนอนเปลือยกายกกกอดร่างเปลือย
ขาวผ่องของคุณอรไว้ ด้วยท่าทางเป็นสุขยิ่งนัก ทันใดประตูห้องนอนของลุงเสงี่ยมก็เปิดผางออกมา ด้วยแรงดันของคุณเจนที่
ยืนจังก้า ทำหน้าเยาะเย้ยอย่างผู้ชนะ
“นั่นไงคะคุณแม่..ผัวตัวดีของคุณแม่ไม่ใช่หรือคะที่นอนอยู่กับเพื่อนของเจน…” คุณเจนพูดเสียงดัง พร้อมชี้มือไปที่ร่างเปลือย
ของพี่ชิต อย่างไม่ยอมลืมหูลืมตา
“ไอ้คนสันดานเลว ยังไงเสียมันก็ส่อสันดานขึ้นมาสักวันแหละค่ะคุณแม่ เห็นมั๊ยคะว่าเจนพูดถูก… ”
คุณเจนยังคงพร่ำพูดทั้งๆที่มือยังคงปิดตา คงไม่อยากดูภาพอุดจาดตา ที่คิดว่าร่างเปลือยที่นอนกกกอดเพื่อนสาวของตนเองนั้น
คือผม จนกระทั่งคุณดาต้องพูดเสียงเข้มๆ ขัดขึ้นเสียก่อน
“พี่ชิตกับหนูอร แต่งตัวให้เรียบร้อยกันก่อนสิ..”
สิ้นเสียงสั่ง ผมเห็นพี่ชิตควานมือหากางเกงขาก๊วยตัวเก่งของแกขึ้นมาสวมพรวดเข้าไปอย่างรีบร้อน ส่วนคุณอร ตอนเข้ามาใน
ห้อง เธอคงเปลือยกายเป็นแน่ เพราะผมไม่เห็นมีเสื้อผ้าของเธอสักชิ้น จึงต้องรีบคว้าผ้าห่มผืนบางๆ มาคลุมปกปิดร่างเปลือย
จนแล้วเสร็จ คุณดาจึงหันไปบอกลูกสาวบ้างว่า
“ลูกเจน คราวนี้ลืมตามองดูสิว่า ที่ลูกบอกแม่ว่าทองดีกับเพื่อนของลูกมีอะไรกันนั้น มันใช่หรือเปล่า…”
น้ำเสียงของคุณดายังคงแข็งกระด้างเย็นเฉียบ จนคุณเจนค่อยๆลืมตาขึ้นมอง ผมแทบอยากจะหัวเราะออกมาจริงๆ เมือแลเห็น
หน้าขาวๆของคุณเจนเปลี่ยนสีได้อย่างรวดเร็ว คราวแรกก็ตกใจจนซีดขาว เมื่อเห็นว่าผู้ชายคนนั้นแทนที่จะเป็นผม กลับเป็น
พี่ชิต แล้วต่อมาก็แดงกร่ำด้วยความอาย ที่รู้ตัวเองแล้วว่าแผนที่วางขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายผมนั้น ไม่ได้ผล
“ว่าไงคะ..นั่นเป็นลุงชิตของลูกนะคะ..ไม่ใช่ทองดี ดูเสียใหม่สิ..แล้วตอบมาว่าทำไมถึงมาใส่ร้ายทองดีแบบนี้” คุณดาถามคาดคั้น
คราวนี้คุณเจนเริ่มอึกอัก พูดไม่ออก ได้แต่อื้อๆอ้าๆ จนกระทั่งลุงเสงี่ยมเป็นผู้พูดแก้สถานการณ์ให้
“ไอ้เจนมันก็คงเข้าใจผิดแหละแม่ดา เห็นเพื่อนแก้ผ้าเข้ามาในห้องนี้ ก็คงคิดว่าจะมาทำอะไรกับทองดีมัน..แม่ดาอย่าไปคาดคั้น
ลูกมันเลย…”
“ขอบคุณค่ะคุณตา…เจนขอโทษคะแม่..เจนคิดว่าเพื่อนเจนกับทองดีมีอะไรกัน..”
คุณเจนตอบรับสมอ้างอุ๊บอิ๊บๆ แล้วสบัดหน้าหันกลับเดินออกไปจากห้อง แต่ก่อนที่จะไป ยังหันตามาจิกใส่ผม เหมือนจะบอกว่า
ฝากไว้ก่อนเถอะ..ครั้งนี้นายโชคดีที่มีคนช่วย จากนั้นคุณอร ก็หอบผ้าห่มคลุมตัววิ่งตามเพื่อนสาวออกไปจากห้อง
“ขอบใจว่ะไอ้ชิต…ถ้าแกไม่บอกแผนการณ์ของไอ้เจนให้ชั้นรู้ ป่านนี้ไอ้ทองดีคงซี้แน่ๆ..ฮ่าๆๆๆๆ..” ลุงเสงี่ยมพูดกลั้วเสียงขำๆ
หัวเราะฮ่าๆๆ หลังจากที่ทั้งหลานสาวและเพื่อนของเธอออกไปจากห้องหมดแล้ว
“เรื่องมันเป็นยังไงคะคุณพ่อ…” คุณดาร้องถามขึ้นด้วยความสงสัย
“คือยังงี้นะแม่ดา..พ่อน่ะสงสัยตั้งแต่ตอนเย็นแล้วว่า ไอ้เจนมันต้องวางแผนอะไรสักอย่าง ถึงได้มาทำดี ขนาดย่อมนังร่วมโต๊ะกิน
ข้าวกับทองดีมันได้ โดยไม่ทะเลาะกัน จนกระทั่งเริ่มแน่ใจเมื่อพวกเด็กๆมันตั้งวงกินเหล้าปาร์ตี้กัน พอไอ้ชิตเดินมาเข้าห้องน้ำ พ่อเลยออกไปดักเรียกมันเข้ามาในห้อง ตอนนั้นแม่ดากับไอ้เจนเข้าห้องนอนไปแล้วน่ะ..ไอ้ชิตมันก็เล่าให้พ่อฟังว่า ไอ้เจนมันวางแผน
มอมเหล้าใส่ยานอนหลับให้ทองดีดื่ม แล้วให้เพื่อนสาวของมันเข้าหาในตอนดึก พ่อก็เลยซ้อนกล วางแผนให้ไอ้ชิตเอาบันไดมา
ปีนขึ้นทางหน้าต่าง แล้วจับทองดีมันมานอนบนเตียงกับพ่อ ให้ไอ้ชิตไปนอนแทนที่ พอตกดึก เพื่อนไอ้เจนก็มาเข้าหาตามแผน
แต่คนที่มันทำอะไรด้วยนั้นคือไอ้ชิตต่างหาก ฮ่าๆๆๆๆ…”
ทั้งคุณดาและผมต่างก็รู้ข้อเท็จจริงจากปากลุงเสงี่ยมขึ้พร้อมๆกัน ผมถึงกับก้มลงไปกราบที่ตักแก เพราะซาบซึ้งในบุญคุณของลุงเสงี่ยมแกจริงๆ ถ้าไม่ได้แกช่วยไว้ ป่านนี้ผมคงเสร็จคุณอร ตามแผนที่คุณเจนวางไว้เป็นแน่
“แต่คุณหนูเจนคงโกรธผมเป็นแน่เลยครับท่าน…” พี่ชิตพูดเสียงเศร้าๆอย่างน่าเห็นใจ เพราะถ้าแกไม่ปูดแผนร้ายออกมา ลุงเสงี่ยม
ก็ไม่สามารถวางแผนซ้อนกลได้แน่นอน
“จะเป็นไรไปล่ะไอ้ชิต..เดี๋ยวบ่ายๆพวกชั้นก็กลับกรุงเทพกันแล้ว พอนานๆไปไอ้เจนมันก็ลืมเองแหละ ยอมหน่อยไม่ดีรึ ได้มีอะไรกับเพื่อนสาวๆของไอ้เจนมัน..น่าจะคุ้มนะชั้นว่า..ฮ่าๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะขำของลุงเจ้าเล่ห์เล่นเอาผมพี่ชิต และคุณดาต่างก็ขำกันออกมา ลืมเลือนเรื่องร้ายที่เกือบจะเกิดขึ้นไปได้หมด จน
กระทั่งถึงเวลาร่ำลาพี่ชิต ต่างเดินทางกลับกรุงเทพ โดยมีคุณเจนรีบบึ่งรถนำออกไปก่อนอย่างรวดเร็ว คงเพราะเธอไม่กล้าสู้หน้า
ผมเป็นแน่
ส่วนรถของคุณดาไม่สามารถขับออกตามไปด้ทันที เพราะพี่ชิตมัวแต่ร่ำลาขอบอกขอบใจลุงเสงี่ยมและพวกเรา พร้อมเชิญให้กลับ
มาเยี่ยมได้บ่อยๆตามที่เราต้องการ ถือเสมือนว่าบ้านหลังนี้ยังคงเป็นของครอบครัวคุณดาเช่นเคย
กว่าคุณดาจะขับรถกลับมาถึงบ้านก็ร่วมเย็นแล้ว เห็นคนงานช่างสมยังคงก่อสร้างห้องพักให้ผมอยู่ แต่ก็ใกล้จะแล้วเสร็จเต็มที เหลือเพียงแต่งสี อะไรอีกนิดหน่อยก็เรียบร้อย
ผมจึงเดินเข้าไปสำรวจตรวจดูภายในห้อง เห็นว่ามันมีประตูทางเข้าถึงสองทาง ทางแรกเชื่อมอยู่กับห้องลุงเสงี่ยมเป็นประตูไม้สัก
ครึ่งบาน ด้านบนเป็นกระจกใส ทำเอาไว้แบบนี้ เพื่อให้ผมสามารถลุกขึ้นมามองดูลุงเสงี่ยมได้ในเวลาค่ำคืน โยไม่จำเป็นต้องเปิด
ประตูเข้ามา ส่วนอีกบานอยู่ที่ผนังอีกด้าน สามารถเปิดออกไปนอกบ้าน แล้วเดินไปสระน้ำหรือที่ไหนๆได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่าน
ห้องรับแขก ภายในห้องโล่งกว้างขนาดพื้นที่ไม่ต่ำกว่า40ตารางเมตร ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆลง แต่กลับไม่มีห้องน้ำ คงให้ผมใช้
ห้องน้ำร่วมกับห้องนอนลุงเสงี่ยมเป็นแน่
“พอใจห้องใหม่มั๊ยคะทองดี…” คุณดาที่เดินตามมาสำรวจตรวจงานของช่างสม กระซิบถามผมเบาๆ
“สวยมากเลยครับ..ปรกติผมอยู่ห้องเช่าเล็กกว่านี้ตั้งครึ่ง..แค่นี้ผมก็พอใจ และขอบคุณคุณดามากแล้วครับ..”
“อย่าพูดแบบนี้สิทองดี..ดาต่างหากที่รู้สึกเสียใจ ที่ยังไม่สามารถให้ทองดีขึ้นไปนอนบนตึกกับดาได้…แต่ดาจะแอบลงมาหาเอง
นะคะ…” คำพูดของคุณดา หมายความว่าอย่างไรผมทราบดี
“ดีแล้วละครับ ผมขึ้นไปบนตึก ก็ดูแลพ่อได้ไม่สดวกเหมือนกัน…แต่คงอีกหลายวันกว่าห้องจะเรียบร้อย แล้วกว่าจะหายเหม็นสี
คุณดากับผมคง..เอ้อ…” ผมพูดเสร็จก็จ้องมองคุณดาด้วยสายตาแววาวหื่นๆ จนคุณดาอายหน้าแดงที่รู้ความหมายว่าผมหมายถึง
อะไร
“อื้ออ…ดาพูดว่าทองดียังขึ้นไปนอนข้างบนไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะห้ามไม่ให้ขึ้นไปเยี่ยมดานี่คะ…”
คุณดาตอบยิ้มๆอายๆ ขำๆ แล้วรีบผลุนผลันออกไปจากห้องเสียก่อนที่ผมจะคว้าตัวเข้ามากอด โดยเดินผ่านประตูที่ทำเชื่อไว้
ระหว่างห้องของผมกับของลุงเสงี่ยม จนเดินมาถึงเตียงนอนของผู้เป็นพ่อ แก็ร้องถามเหมือนเดิม คือผมพอใจห้องที่สร้างขึ้น
ใหม่มั๊ย เมื่อผมยิ้มแล้วตอบรับวามันเกินความคาดหมายด้วยซ้ำ แกก็หัวเราะหึๆๆ แล้วนิ่งเงียบไป คงอยากจะพักผ่อนแล้ว เพราะ
เพิ่งเดินทางกลับมาจากอยุธยา คุณดาเลยขอตัวออกไปโทรหาลูกน้องที่ออฟฟิสบ้าง ทิ้งให้ผมนั่งนิ่งๆมองดูลุงเสงี่ยมนอนบน
เตียงตามลำพัง จนกระทั่งแกร้องถามผมขึ้นมาว่า
“เอ็งยังอยากฟังเรื่องของลุงกับแม่หนูยิ้มอีกมั๊ยวะทองดี….”