ตำนานนักรัก ตอนที่ 25
คุณดาอยู่คุยกับลุงเสงี่ยมอีกพักใหญ่ จนก่อนได้เวลาอาหารเย็น ผมก็จัดเตรียมยาก่อนอาหารให้ลุงแกทานจนเรียบร้อยแล้ว
คุณกานดาจึงเดินออกไปจากห้อง ก่อนออกไปยังทิ้งสายตายั่วยวนผม จนลุงเสงี่ยมแกสังเกตุเห็น พอลับร่างคุณกานดา ลุงแก
ก็หัวเราะฮาๆๆอย่างมีความสุข แล้วแซวผม
“เอ็งต้องเหนื่อยหน่อยละวะ ทองดี..แม่ดานี่เหมือนกับแม่หนูยิ้มไม่มีผิด…ลองเธอรักใครละก็ ยั่วยวนได้บ่อยๆไม่เลือกเวลาเล้ย..
ฮ่าๆๆๆ”
ลุงเสงี่ยมพูดยิ้มๆขำๆ แสดงว่าตอนสมัยที่แกยังหนุ่ม คงโดนป้าหนูยิ้มยวนยั่วเย็ดทั้งวันเป็นแน่ แล้วแบบนี้ แกจะมีเวลาไปหา
ความสุขกับสาวคนอื่นๆได้ยังไง เมื่อเกิดคำถามขึ้นในใจผม จึงรีบเร่งให้ลุงเสงี่ยมแกเล่าเรื่องต่อด้วยความอยากรู้
“อย่างนี้ลุงจะเอาเวลาไปหาสาวคนอื่นๆได้หรือ
ครับ หรือว่าตลอดเวลาลุงมีป้าหนูยิ้มคนเดียว…”
“มีสิวะ…ก็ตอนที่ลุงเรียนจบครูแล้วนะ..ลุงกับแม่หนุยิ้มต้องเลิกลากันไประยะหนึ่ง ตอนนั้นแหละ ลุงเสียใจเมาหัวราน้ำแทบทุกวัน
แล้วก็เที่ยวเอาสาวไปเรื่อยๆ ไม่เว้นลูกเขาเมียใคร…”
“จริงหรือครับ..ทำไมต้องเลิกกับป้าหนูยิ้มด้วยล่ะครับ..” ผมรีบซักถาม แม้มันจะข้ามขั้นตอนแรกตั้งแต่การเย็ดป้าหนูยิ้มไปก็ตาม
แต่ด้วยความอยากรู้จึงรีบถามขึ้นเสียก่อน
“ก็ช่วงหลังๆ หลานๆคนอื่นน้องแม่หนูยิ้มนั่นแหละ ที่รู้ว่าลุงกับแม่หนูยิ้มเย็ดกัน จึงเอาไปพูดเข้าหูผู้ใหญ่ในบ้าน..ลุงเลยตัดสินใจ
จะขอแม่หนูยิ้มเอาทำเมียจริงๆ แต่โดนขัดขวาง แยกเราสองคนออกจากกัน ทั้งๆที่เราสองคนรักกันมาก จนลุงต้องมาอยู่กรุงเทพ
ส่วนแม่หนูยิ้ม พี่สาวลุงให้คบกับผู้ชายอื่น…”
แม้ผมจะเริ่มงงๆ แต่น้ำเสียงของลุงเสงี่ยมฟังแล้วเหมือนแกยังรันทดเสียใจกับเรื่องในอดีต จนน้ำเสียงสั่นเครือ ผมเลยรีบดึง
อารมณ์แกกลับเข้ามาสู่เรื่องในคราวแรกทันที
“ลุงเล่าเรื่องที่ได้เย็ดกับป้าหนูยิ้มครั้งแรกก่อนดีกว่าครับ ตกลงเย็ดกันที่ลานอาบน้ำริมตุ่มใส่น้ำฝนเลยหรือเปล่าครับ”
“อืมมมใช่..ครั้งแรกของลุงกับแม่หนูยิ้มเกิดขึ้นที่ริมโอ่งใส่น้ำฝนนั่นแหละ…พอลุงก้มหน้าลงไปเลียปิ๊แม่หนูยิ้มจนตัวเธออ่อน
ระทวย ครางอิ๊ๆอือๆ บอกลุงว่าน้าเหงี่ยมๆ หนูยิ้มเสียวปิ๊ ทนไม่ไหวแล้วนั่นแหละ..ลุงเลยลุกขึ้นนั่งยองๆ จับควยใส่ลงไปที่รูปิ๊
เล็กๆของแม่เลย..แต่ดันยังไงมันก็เข้าไปในรูไม่ได้สักที ปลิ้นหลุดออกข้างๆบ้าง เลยพรวดขึ้นไปด้านบนบ้าง จนลุงต้องเอา
น้ำสบูมาละเลงที่เนินปิ๊ และควยลุง จากนั้นเสียบนิ้วเข้าไปตรึงไว้ในรูปิ๊ ทีแรกก็นิ้วเดียว เสียบๆแยงๆจนแม่หนูยิ้มดิ้นพล่าน ลุง
ก็เลยเพิ่มขึ้นเป็นสองนิ้ว ลองดูว่าแม่หนูยิ้มจะร้องเจ็บมั๊ย..เธอก็ร้องนะ แต่ไม่มากเท่าความเสียว คราวนี้ลุงเลยเอาควยไปจ่อ
ตรงรูปิ๊ แล้วชักนิ้วออกมา ดันควยสวนพรวดเข้าไปแรงๆ จนแม่หนูยิ้มร้องโอ๊ย หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ลุงก็รุ้สึก
เจ็บควยเหมือนกัน แต่มันเข้าไปแล้วแค่เงี่ยง เลยไม่ดึงออก ยังคงค่อยๆกระเด้าเข้าไปเรื่อยๆ แม่หนูยิ้มก็ร้องโอยๆอูยๆ..ด้วย
ความเจ็บ ลุงไม่ได้มองหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับปิ๊แม่หนูยิ้ม จนดันควยเข้าไปสุดนั่นแหละ ถึงได้โก่งตัวก้มลงไปมอง แล้วก็ใจ
หายวาบ เมื่อเห็นเลือดแม่หนุยิ้มออกมาอย่างมากมาย ลุงก็ใจเสีย รีบดึงควยออกมา แม่หนูยิ้มก็ร้องไห้โฮๆๆ คงทั้งเจ็บ ทั้งเสียใจ
ลุงได้แต่กอดปลอบ จนแม่หยุดร้องไห้ แล้วเลยรีบอาบน้ำล้างตัวพากันกลับขึ้นเรือน….”
“แล้วยังไงอีกครับ..”
“จะยังไงล่ะ..ลุงก็เย็ดแม่หนูยิ้มได้แค่นั้น แล้วไม่ได้ทำกันไปอีกหลายวัน รอจนแผลที่ปิ๊แม่หนูยิ้มหายนั่นแหละ..”
ลุงเสงี่ยมพูดจบก็ถอนหายใจเฮือก แล้วบอกกับผมว่าวันนี้เล่าแค่นี้ก่อน จากนั้นแกก็นอนนิ่งเงียบไป จนได้เวลาอาหารมื้อเย็น
โดยที่พี่ชิตเป็นคนมาเคาะประตูเรียก ผมจึงประคองพาลุงเสงี่ยมออกมาจากห้อง เห็นคุณดานั่งรอยิ้มๆอยู่ ผมเลิกคิดระแวง
แคลงใจไปแล้วว่า ที่ปล่อยให้คุณดาอยู่นอกห้องตามลำพัง แกจะไปทำอะไรกับพี่ชิตบ้างหรือเปล่า เพราะผมมั่นใจว่าคุณดา
แกไม่ทำแบบนั้นแน่นอน
“เชิญคุณท่านกับน้องดาแล้วทองดี ทานกันตามสบายเลยนะครับ…”
พี่ชิตรีบร้องบอกเมื่อผมและลุงเสงี่ยมเข้านั่งประจำที่บนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว ส่วนพี่ชิตก็ตามเคย เดินเลี่ยงไปหยิบเหล้า
ยาดองของแกรินดื่มคนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งพวกเราทานข้าวกันจนอิ่ม ก็มีเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าดังขึ้นจากเครื่องของคุณดา
เธอรีบหยิบมาเปิดดูผู้ที่โทรเข้ามา แล้วก็รำพึงเบาๆให้ผมและลุงเสงี่ยมได้ยินว่าเป็นยัยเด็กเจน
“ว่าไงคะ..ลูกเจน..” ผมได้ยินเสียงคุณดากรอกเสียงลงไป แล้วคุยอะไรกับลูกสาวอยู่แป๊บหนึ่งก็วางสาย แล้วหันมาพูดกับผม
“พี่ชิตคะ..พาทองดีไปรับยัยเจนกับเพื่อนๆที่หน้าวัดป่าโมกข์ได้มั๊ยคะ..เธอเข้ามาบ้านไม่ถูกค่ะ..” คุณดามองหน้าผม แต่กลับไป
พูดกับพี่ชิตเสียแทน
“ผมไปคนเดียวก็ได้ครับน้องดา..” พี่ชิตรีบรับอาสา ผมคิดว่าดีเหมือนกัน เพราะใจจริงยังไม่ค่อยอยากเจอหน้ายัยเด็กเจนวาย
ร้ายหยิงยะโสคนนี้สักเท่าไหร่นัก
“แล้วพี่ชิตจะจำยัยเจนได้หรือคะ..เธอไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ให้ทองดีซ้อนรถเครื่องไปด้วยแหละดีแล้ว..”
จริงแบบที่คุณดาพูด พี่ชิตกับยัยเด็กนั่นไม่ได้พบเจอกันมาหลายปีแล้ว จนยัยเด็กเจนเป็นสาวสะพรั่งขนาดนี้แล้ว คงจำกันไม่ได้
แน่ แม้ผมไม่อยากไป แต่ก็จำต้องลุกขึ้นพร้อมๆกับพี่ชิต นั่งซ้อนรถเครื่องกันออกไปรอที่หน้าวัดป่าโมกข์ตามที่คุณดาบอก
นั่งรอกันสักพัก คุยนั่นนี่กับพี่ชิตที่ดูดยาผ่านไปสองมวน ยัยเด็กเจนก็ขับรถสปอร์สีขาวของเธอเข้ามาจอดอยู่หน้าประตูทางเข้า
วัด ผมเลยสะกิดแขนพี่ชิต แล้วให้แกลุกเดินไปหา เห็นสองคนคุยกันเพียงไม่กี่คำ ยัยเด็กนั่นก็มองมาที่ผม แล้วพยักหน้า ก่อน
สตาร์ทรถขับเข้ามาหา
“พาชั้นกับเพื่อนไปหาคุณแม่สิ..นายทองดี..”
ยัยเด็กเจนพูดห้วนๆไม่มีหางเสียง โดยมีเพื่อนสาวนั่งคู่อยู่ตอนหน้ารถมองมายิ้มๆ ส่วนเพื่อนชายอีกคนนั่งซุกตัวมองมาอยู่ด้าน
หลังของรถ ผมไม่ตอบอะไร เพราะขี้เกียจพูดด้วย เร่งให้พี่ชิตออกรถเครื่องขับนำรถสปอร์สีขาวมาจนถึงบ้านพักที่ลุงเสงี่ยมและ
คุณดารออยู่ แล้วเดินเลี่ยงไปนั่งกินเหล้ายาดองเป็นเพื่อนพี่ชิต ปล่อยให้ครอบครัวเขาทักทายกันไปจนเสร็จ ได้รุ้คร่าวๆว่า
ยัยเจนพาเพื่อนทั้งสองมาพักค้างด้วย
“คืนนี้คงอดเย็ดคุณดาเลยนะครับ…” เสียงพี่ชิตพูดเบาๆ จนผมต้องหันกลับมาสนใจสนทนาด้วย
“นั่นสิครับ คุณดายังไม่พร้อมให้ผมบอกคนอื่น ว่าเราเป็นอะไรกัน..ฮ่าๆๆๆ..” ผมตอบพี่ชิต พร้อมหัวเราะกลบเกลื่อนเบาๆ จนเรา
สองคนสะดุ้ง ที่จู่ๆ ก็มีเสียงใสๆทักทายทางเบื้องหลัง
“ดื่มอะไรกันอยู่คะ..อรขอนั่งคุยเป็นเพื่อนด้วยได้มั๊ยคะ…”
ผมและพี่ชิตรีบหันกลับไปทางเบื้องหลัง เห็นเพื่อนสาวของยัยเจนคนนั้นเดินเข้ามาทักทาย และขอร่วมวง ก็รุ้สึกแตกตื่นตกใจ
กับคำพูดและกิริยาที่ไม่ถือตัวดูเป็นกันเองกับพี่ชิตและผมต่างจากเพื่อนชายอีกคนหนึ่ง ที่ยืนติดชิดหลังยัยเจนไม่ไปไหน
“เอ้อ..ยาดองเหล้าน่ะครับคุณหนูอร..”
พี่ชิตตอบเบาๆ พร้อมจ้องมองขาขาวๆเรียวยาวแบบเด็กสาวรุ่นใหม่ของเพื่อนยัยเจนเขม็ง เพราะแม้น้ำเสียงของเธอจะราบเรียบ
ใสๆ แต่การแต่งเนื้อแต่งตัวกลับตรงกันข้าม มันเปรี้ยวจนเข็ดฟัน ด้วยเสื้อยืดสีขาว และกางเกงยีนส์ขาสั้น ที่สั้นจนกุดแทบ
จะรัดง่ามขา อวดเรียวขาสวยๆให้พี่ชิตมองจ้องอยู่สักครู่ จึงทรุดตัวลงนั่งข้างๆวงเหล้า
“แล้วอร่อยมั๊ยคะ..ท่าทางคงอร่อยเพราะเห็นพี่กับน้าสองคนดื่มกันติดๆตั้งหลายแก้ว..อิอิ..”
เด็กสาวชื่ออรร้องแซวเราทั้งสองคนอย่างเป็นกันเอง แม้จะได้ยินเสียงเรียกชื่อจากยัยเจนเพื่อนสาว เธอก็เพียงหันไปตอบว่า
ขอคุยกับน้าสองคนนี้ก่อน ไม่ยอมลุกไปหา ซ้ำยังร้องบอกพี่ชิตหน้าตาเฉยเลยว่า
“ขออรลองชิมบ้างได้มั๊ยคะ…”
พี่ชิตถึงกับหันมามองหน้าผม เหมือนถามว่าจะให้ทำยังไง เมื่อผมพยักหน้า พี่ชิตก็ค่อยๆรินยาดองสีแดงเข้มใส่แก้วใบใหม่ แล้ว
ยื่นส่งให้ เด็กอรยกขึ้นมาจ่อริมฝีปาก จมูกสูดลมหายใจเอากลิ่นเหล้ายาดองเข้าไป แล้วจิบทีละนิด ก่อนจะทำหน้าเหยเก ด้วย
ความเผ็ดร้อนจากดีกรีในเหล้า
“อื้อ…บาดคอจังค่ะ…แต่รสชาตแปลกดี อรไม่เคยดื่มแบบนี้มาก่อนเลย อิอิ…”
เด็กสาวบอกเสียงใสๆ ทำหน้าทะเล้นก่อนจะยกแก้วจิบอีกครั้ง แต่คราวนี้คงเริ่มชินกับกลิ่นและรสชาตของเหล้ายาดองได้แล้ว
เธอเลยไม่ทำหน้าเหยเกแบบตอนแรก แล้วทำท่าจะติดลมนั่งอยู่ด้วยนานๆ จนยัยเจนต้องเดินมาตาม
“นี่อร..ไปจัดห้องกับเจนก่อน…” ยัยอรจึงลุกจากวงไปอย่างเสียดาย ก่อนจะเดินตามยัยเจนออกไป ยังหันกลับมาทำปากขมุบ
ขมิบบอกว่า เดี๋ยวจะออกมาร่วมวงด้วย
ผมหันไปมองคุณดา แต่ไม่เห็นเธออยุ่ที่โต๊ะอาหารเสียแล้ว คงรีบไปจัดห้องหับเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่แน่ เพราะของเก่าถูกคราบ
น้ำกามจากผมและตัวเธอละเลงเลอะเป็นหย่อมๆไปแล้วนั่นเอง ผมจึงลุกเดินไปหาลุงเสงี่ยม เพื่อถามว่าแกอยากนั่งอยู่ที่นี่หรือ
อยากกลับห้องพัก
“พาลุงกลับห้องดีกว่าทองดี เดี๋ยวเด็กๆพวกนั้นจัดห้องหับเสร็จ คงออกมาคุยเล่นหนวกหูกันข้างนอก..” ผมเลยจำต้องพยุง
ประคองแกเดินไปส่งที่ห้องพัก แล้วจัดให้แกล้มลงนอน
“ทองดี.เอ็งออกไปข้างนอกเถอะ….ระวังตัวอย่าเพิ่งให้ไอ้เจนมันรู้เรื่องเอ็งกับแม่ดาล่ะ…”
ลุงเสงี่ยมกำชับผมอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะเดินกลับออกมานั่งดื่มกับพี่ชิตต่อ ที่ตอนนั้นแกย้ายวงเหล้าที่พื้นเรือนมานั่งบนโต๊ะอาหาร
เรียบร้อยแล้ว
เมื่อมีผู้มาเยือนเพิ่มขึ้นอีกสามคน จึงจำต้องจัดห้องพักกันใหม่ สรุปว่าผมย้ายไปนอนร่วมกับลุงเสงี่ยม คุณดากับลูกสาวคือยัยเจน
พักอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนไอ้หนุ่มนั่นที่ผมรุ้ชื่อตอนหลังว่าขื่อเจ พักอยู่กับพี่ชิต มียัยอรคนเดียวที่นอนตามลำพังในห้องเล็กๆข้างครัว ผ่านไปจนฟ้าเริ่มมืด วงปาร์ตี้เล็กๆในเรือนไทยร่วมสมัยก็เริ่มขึ้นสุราเหล้ายาดอง ถูกเปลี่ยนมาเป็นเหล้าฝรั่งที่ไอ้เจนำติดตัวมา
ส่วนพี่ชิตก็เข้าครัวไปทำกับแกล้มง่ายๆออกมาสองสามอย่าง
ตัวผมกับคุณดาก็แทบจะไม่ค่อยได้พูดจากันเลย ได้เพียงสบตากันแว๊บๆ ยามที่ยัยเจนเผลอหรือมัวแต่คุยกับไอ้เจเพื่อนชาย
ของเธอ ซึ่งผมพอดูออกว่ามันกำลังจีบเธออยู่ แต่มีความสัมพันธ์กันไปถึงขั้นไหนแล้วไม่แน่ใจ พี่ชิตกับเด็กสาวชื่ออรดูเข้าขากัน
ได้ดี เล่นคุยเล่นหยอกล้อกันจนลืมวัยไปเลยว่าทั้งสองคนอายุห่างกันจนเป็นลูกกับพ่อได้แล้ว
ยิ่งเวลาผ่านไปจนมืด คุณดาก็เป็นคนแรกที่มึนเมา จนต้องขอตัวไปนอนพัก สักครู่ยัยเจนก็เดินตามผู้เป็นแม่เข้าไปในห้อง คงมี
เหลือแต่ผมพี่ชิต และเพื่อนทั้งสองของยัยเจน ที่ยังนั่งดื่มนั่งคุยกันจนวัยไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ดูๆไปแล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้
ถือเนื้อถือตัวแต่อย่างใด ต่างกับยัยเจนที่นั่งร่วมวงด้วยก็จริง แต่เธอจะพูดจะคุยเฉพาะกับเพื่อนของเธอเท่านั้น ไม่มีคำพูดหลุด
ปากออกมาต่อผมแม้สักคำเดียว มีคงสายตาที่ยังดูเหยียดๆ อยู่เท่านั้นเอง
“อ้าวคุณเจ..ไม่ไหวแล้วหรือครับ….” ผมร้องถามเมื่อเห็นว่าเพื่อนชายของยัยเจนก้มหน้าฟุบลงไปกับพื้นโต๊ะ จึงเอื้อมมือไปเขย่า
เรียกเบาๆ
“ม่ายหวายแล้ว..พี่ทองดี..โผมขอตัวปายนอนก่อนคร๊าบบ…เอิ๊ก..” ไอ้เจร้องตอบเสียงอ้อแอ้ แล้วเลอทำท่าจะขย้อน
จนพี่ชิตหัวเราะฮาๆ แล้วตรงเข้าไปหิ้วประคองปีก พาไปนอนยังห้องพักของแก ในวงเหล้าจึงเหลือเพียงผมกับอรเพียงลำพัง
สองคน
“พี่ทองดี..มีเมียแล้วยังคะ…” จู่ๆ เด็กนั่นก็ร้องถามเสียงเมาๆขึ้นมา จนผมสะดุ้ง
“เอ้อ..มีแล้วครับ..” ผมรีบตอบไปโดยไม่ทันคิด ได้ยินเสียงเด็กอรพรึมพรำเบาๆว่าน่าเสียดาย แล้วย้อนถามกลับมาใหม่อีกครั้ง
“แล้วน้าชิตล่ะ..เมียมีม๊าย…”
“เอ้อ…คงไม่มีหรอกครับ…” ผมไม่รู้ว่ายัยเด็กอรจะอยากรู้ไปทำไม จึงตอบไปตามความจริงที่รู้มา
“ดีจัง…อรไม่อยากนอนคนเดียว..มีน้าชิตนอนเป็นเพื่อนบ้างสักคนก็ดีเลย..”
ผมว่ายัยเด็กนั่นคงพูดเพราะความเมาเป็นแน่ มีอย่างที่ไหน ที่จะให้ผู้ชายวัยคราวพ่อไปนอนเป็นเพื่อน ผมไม่อยากคิดเลยว่า
พี่ชิตแกจะนอนเฉยๆทั้งคืนได้อย่างไรกัน ในเมื่อตอนนี้แกรู้ตัวแล้วว่าแกหมดโอกาสเย็ดคุณดาไปแล้ว แต่ผมก็คิดได้เพียงเท่านั้น เพราะพี่ชิตเดินกลับเข้ามาร่วมวงอีกครั้ง
“เอิ๊กกก…” เวลาผ่านไปได้เพียงครู่เดียว ยัยเด็กอรก็ทำท่าขย้อน จะอ๊วก เดือดร้อนพี่ชิตที่นั่งอยู่ใกล้เธอ รีบยื่นมือไปลูบหลัง
ขึ้นๆลงๆ
“ม่ายหวายแล้วน้า..อรจะอ๊วกแล้ว…”
ยัยเด็กอรพูดจบก็รีบผุดลุกขึ้นเดินโซเซๆ ไปโก่งคออวกแตกออกนอกชานเรือน พี่ชิตเลยรีบลุกขึ้นตามไปลูบหลัง พร้อมพาเธอ
เดินไปล้างหน้าล้างปากที่ห้องน้ำ เหลือผมนั่งดื่มไปตามลำพัง กะว่าคืนนี้จะดื่มให้เมาจะได้เข้านอนแล้วหลับไปเลย ไม่ต้อง
คิดถึงคุณดาให้อึดอัดใจ
“อ๊วกกกก…”
ผมยังได้ยินเสียงอ๊วกของยัยเด็กนั่นเป็นระยะๆ ในห้องน้ำ จนสักครู่ก็เงียบไป แต่รอตั้งนานพี่ชิตก็ยังไม่พาเธอกลับมาร่วมวง จน
ผมนึกสงสัย เลยเดินย่องไปยังห้องน้ำ ที่ประตูเปิดแง้มๆอยู่ จนเข้าไปใกล้แล้วก็ยังไม่ได้ยินเสียงอ๊วกจากเด็กนั่นอีกเลย แต่กลับ
กลายเป็นเสียงจ๊วบจ๊าบ คล้ายๆเสียงคนจูบกันเข้ามาแทน จนผมต้องรีบขยับเข้าไปเอียงหูแนบกับบานประตู จึงได้ยินเสียงพูด
คุยกันเบาๆระหว่างพี่ชิตกับสาวคนนั้น “ซี๊ดดดด..น้าขา…ทำไมควยน้าใหญ่ขนาดนี้คะ…”