ก้อย 37.0
โดย ท่านukisa
เช้านี้ผมมีความสุขจนลืมไปว่า วันนี้ผมจะได้เจอกับคนที่ผมเคยสอนผมว่าความรักมันก็แค่ส่วนประกอบ ฐานะกับหน้าที่การงานต่างหากที่สำคัญ แต่ผมก็รู้สึกสบายใจจนลืมเรื่องนี้ไปหมด วันนี้มีประชุมตอน 10 โมง ประมาณ 9.45 พี่นุ่นก็โทรมาหาผมบอกว่าให้ขึ้นไปประชุมด้วยอย่าลืม ผมทำงานต่อจนลืมรู้ตัวอีกทีก็ 10 โมงแล้ว เลยต้องรีบวิ่งออกจากห้องขึ้นไปที่ห้องประชุมโดยไม่ทันได้ถือเสื้อสูทไปด้วย
พอออกจากลิฟท์ผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องประชุม พี่ผมยืนอยู่หน้าห้องพอดี แสดงว่าผมยังมาทัน
“เห้ย อะไรวะให้นุ่นโทรตามตั้งนานแล้ว เสือกเพิ่งขึ้นมาหรอ” พี่คม
“ขอโทษครับพี่พอดีผมลืมดูเวลาทำงานเพลินไปหน่อย”
“อ้าวนี่ประชุมระดับผู้บริหารไม่ใช่หรอค่ะทำไมมีพนักงานธรรมดาขึ้นมาด้วยหละ” เสียงเย็นชาของผู้หญิงคนนึงดังขึ้น
ผมมองไปที่เสียงดังขึ้น มิ้นยืนกอดอกมองผมด้วยสายตาดูถูก มันเป็นสายตาแบบเดียวกันกับเมื่อครั้งที่เธอบอกเลิกกับผม สมัยนั้นผมเองเป็นแค่พนักงานธรรมดา ส่วนมิ้นเป็นนักศึกษามาฝึกงาน เธอเป็นคนสวยกระตือรือล้นที่จะเรียนรู้งาน สมัยนั้นผมเป็นคนดูแลและสอนงานให้เธอทำให้เราสนิทกัน พอนานๆ เข้าก็เริ่มกลายเป็นแฟน มิ้นมักจะบอกผมบ่อยว่าให้ทำตัวเด่นเสนองานให้ผู้ใหญ่ดูบ่อยๆ จะได้เลือนต่ำแหน่งเร็วๆ เธอจะได้มีหน้ามีตาไปด้วย แต่ผมเองไม่อยากทำแบบนั้นเพราะว่ามันจะเป็นการข้ามหน้าข้ามตาผู้จัดการ แถมเค้าก็เป็นคนที่ชวนผมมาทำงานที่นี่ด้วย ผมกับมิ้นคบกันได้ไม่นาน ผมก็รู้สึกว่าเธอเริ่มไม่ชอบใจที่ผมเป็นคนเรื่อยๆ ไม่ทะเยอทะยาน ในที่สุดเธอก็ทนไม่ได้และบอกลากับผม ผมยังจำได้เธอพูดว่า “แค่รักกันมันไม่พอหรอก มันต้องมีเงินมีฐานะ มีหน้าที่การงานด้วย มิ้นทนอายเพื่อนไม่ได้หรอก เราเลิกกันดีกว่า ยังไงพี่บีก็ไม่มีทางจะทำได้อยู่แล้ว และจำไว้ด้วยนะค่ะไม่มีผู้หญิงที่ไหนเค้าอยากคบคนกระจอกๆ หรอกค่ะ อายเพื่อนตายเลย”
“บีเค้าเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อครับคุณมิ้น” พี่คมกู้หน้าให้ผม
“หรอค่ะ นึกว่าเดี๋ยวนี้เค้าให้พนังงานขึ้นมาประชุมด้วยซะแล้ว” มิ้นยังคงน้ำเสียงดูถูกผม
ผมเองไม่อยากพูดอะไร ความรู้สึกดีๆ เมื่อเช้าเริ่มหายไปหมด เฮอนี่ถ้านึกเรื่องนี้ได้ก่อนจะขึ้นมาผมคงหาเรื่องโดดประชุมนี้แน่ๆ
“นี่โครงสร้างกรรมการบริษัทครับ คุณมิ้นเอาไปดูก่อนไหมครับจะได้รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง” พี่คม
“ก็ดีค่ะ จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร” มิ้นพูดเสียงแข็งและมองผมด้วยหางตา
“เข้าประชุมกันดีกว่าครับ” พี่คมบอกมิ้น
พี่คมกับมิ้นเดินเข้าห้องประชุม ผมเดินตามเข้าไป คนอื่นๆ เข้าห้องมาจนครบคุณไพศาลก็เริ่มแนะนำตัวผู้จัดการฝ่าย Internal Audit คนใหม่ ผมได้ยินชื่อแล้วก็ต้องตกใจ ไอ้บิ๊กศัตรูคู่แค้นของผมตั้งแต่สมัยเรียน ตามมาจนถึงบริษัทฯ ก่อนหน้าที่ผมจะมาทำงานที่นี่
สมัยเรียนมหาลัยผมกับไอ้บิ๊กเรียนที่เดียวกัน มันไม่ได้เป็นเพื่อนผมหรอกแต่ว่าบังเอิญลงวิชาเดียวกันทำให้ได้เจอกับมัน และก็เป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดสำหรับผม ไอ้บิ๊กมักจะอวดรู้ในเรื่องต่างๆ ทำตัวเป็นกูรูเพื่อให้คนอื่นสนใจ แต่จริงๆ มันมักจะรู้งูๆ ปลาๆ แต่ก็ไม่มีใครรู้ทันมันนอกจากผม ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ไอ้บิ๊กไม่ค่อยชอบหน้าผมเท่าไหร่ เพราะผมมักจะรู้ทันมันและทำมันเสียหน้าบ่อยๆ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีคนอื่นอีกเยอะที่เชื่อว่ามันเก่งเรื่องโน้นเรื่องนี้อย่างที่มันโม้จริงๆ มีอยู่ครั้งนึงที่ผมกับมันตั้งตัวเป็นศัตรูกันจริงๆ จังๆ คืออาจารย์วิชาคอมพิวเตอร์ให้พวกผมทำรายงานและโปรแกรมจำลองส่ง พวกเพื่อนๆ ผมทำกันไม่ค่อยได้ แต่ไอ้บิ๊กบอกว่ามันทำได้สบายมากและจะช่วยคนอื่นๆ ทำ ผมเองก็ไม่สนใจผมทำโปรแกรมขึ้นจำลองร้านให้เช่าวีดีโอขึ้นมา พอใกล้เวลาจะส่งก็มีเพื่อนที่ยังทำไม่ได้มาให้ผมช่วย ผมก็ช่วยทำและก็ให้โปรแกรมที่ผมทำให้เค้าดูเป็นตัวอย่าง พอถึงวันประกาศคะแนน ผมก็ต้องตกใจอาจารย์ให้ผมตก ผมถามเหตุผลอาจารย์ก็บอกว่าผมเอางานคนอื่นมาส่ง ผมโมโหมากคิดว่าต้องเป็นเพื่อนคนที่มาขอให้ช่วยแน่ๆ ผมรีบไปหาเพื่อนคนนั้นและถามเรื่องโปรแกรมที่ส่งเค้ายืนยันว่าเค้าทำคนละอย่างกับผมและให้ผมดูด้วยว่าเค้าส่งโปรแกรมอะไร ซึ่งมันก็ไม่ใช่ของผมจริงๆ แล้วใครกันหละที่เอางานผมไปส่ง ผมเค้นเอากับเพื่อนว่าได้ให้ใครดูโปรแกรมผมบ้างแล้วก็รู้ว่าเค้าให้ไอ้บิ๊กดูและมันขอ copy บอกว่าจะไปศึกษา สรุปมันเอางานผมไปส่งแถมยังเอางานผมไปให้คนอื่นๆ ดูเป็นตัวอย่างว่ามันทำเองก่อนวันส่งเพื่อให้เพื่อนเป็นพยานฝั่งมัน ผมไปโวยอาจารย์แต่ก็ไม่เป็นผล อาจารย์ยอมแค่ให้ผมส่งใหม่แล้วจะแก้เกรดให้ ผมเองก็ต้องยอมทำเพราะว่ามันมีพยานมากกว่า
พอเรียนจบเริ่มทำงานไอ้บิ๊กดันมาทำงานที่เดียวกับผมอีก แต่มันมักจะทำเป็นสนิทสนมกับผมบอกใครๆ ว่าเป็นเพื่อนกันมาสมัยเรียนแต่ผมเองไม่เคยนับมันเป็นเพื่อนตั้งแต่รู้นิสัยมัน ถึงจะเป็นแบบนี้มันก็ยังแทงข้างหลังผมอีกครั้ง โดยมันแอบเอาโปรเจค Paperless ที่ผมศึกษาจะเอามาใช้ที่บริษัทไปเสนอผู้ใหญ่ก่อนและเอาเป็นผลงานของตัวเอง นี่เองที่ทำให้ผมทนทำงานอยู่ที่เก่าไม่ได้ และย้ายมาทำงานที่นี่ตามที่รุ่นพี่ชวน
ผมได้แต่นั่งเซ็งไม่ได้สนใจว่าจะมีใครพูดเรื่องอะไรบ้างในที่ประชุม นานๆ ที ผมจะหันไปสบตากับมิ้น ซึ้งท่าทีเธอแปลกไป มิ้นยิ้มให้ผม ผมคิดว่าผมคงจะตาลายมากกว่า คนที่ดูถูกผมอยู่ๆ จะมายิ้มให้ผมทำไม พอประชุมเสร็จ บิ๊กมันรีบเดินมาหาผม
“เฮ้ยมึงทำงานที่นี่ด้วยหรอ” บิ๊ก
“อืม” ผมตอบสั่นๆ
“เดี๋ยวไปกินข้าวที่ไหนหละ ร้านแถวนี้ซิ เดี๋ยวกูต้องไปกินเลี้ยงตอนรับไว้ว่างๆ ค่อยไปกินด้วยกันนะ” บิ๊ก
“อืม” ผมเซ็งมาก เพราะรู้ว่ามันไม่ได้จริงใจที่จะมาชวนผม และผมเองก็ไม่อยากเป็นเครื่องมือให้มันแล้ว
“อ้าวรู้จักกันด้วยหรอค่ะ” มิ้นทำเสียงหวาน
“ไอ้บีเนี่ยเพื่อนผมสมัยเรียนแล้วยังเคยทำงานที่เดียวกันด้วย” บิ๊ก
“หรอค่ะ อืมพวกเราไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวผู้ใหญ่คอย” มิ้น
“อืม งั้นไปก่อนนะแล้วจะแวะไปหาที่แผนก” บิ๊กบอกผม
“อ้าวพี่บีไม่ไปด้วยหรอค่ะ” มิ้น
“ไม่ครับพอดีผมมีธุระ”
บิ๊กกับมิ้นเดินจากไปพี่คมรีบเดินมาหาผม
“เห้ยเอ็งไม่ไปหรอ” พี่คม
“ไม่ครับพี่ ไม่นึกว่าจะมาเจอโจทย์พร้อมกันสองคน”
“เห้ย เรื่องมิ้นมึงสบายใจได้ กูเอาโครงสร้างกรรมการบริษัทให้ดู พอเห็นว่ามึงมีชื่อเป็นตัวแทนกรรมการผู้ถือหุ้นด้วย ถามกู้ใหญ่เลยว่ามึงเป็นได้ยังไง” พี่คม
“อ้าวพี่ผมบอกแล้วว่ายังไม่อยากรับ”
“เออแต่ไอ้ซาโตชิเพื่อนมึงก็สั่งมาว่าต้องใส่ซื่อมึงเป็นกรรมการไว้ก่อนแล้วจะทำงานเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน “ พี่คม
“ถึงว่าทำไมมิ้นถึงยิ้มให้ผม ทั้งๆ ที่ก่อนประชุมแทบจะเหยีบผมติดดิน”
“เห้ยอย่าคิดมาก แล้วตกลงไม่ไปกินเลี้ยงจริงๆ หรอ” พี่คม
“ครับพี่ไม่อยาก กินไม่ลง”
“เออ กูไปแล้วเดี๋ยวกูบอกคนอื่นๆ ให้ว่ามึงมีธุระ” พี่คม
“ขอบคุณครับพี่”
ผมลงลิฟท์มาที่ชั้น 1 และออกไปทานข้าวเลย ขากลับผมก็แวะมาหาลิซ ผมนั่งคุย บ่ายโมงผมก็ขอตัวกลับขึ้นมาบนออฟฟิต โชคดีจริงๆ ที่วันนี้ไอ้บิ๊กจะยังไม่มาเริ่มงาน แต่ว่าข่าวของผู้จัดการฝ่ายใหม่เป็นนักเรียนนอกจบปริญญาเอก แคทเจอหน้าผมก็รีบเข้ามาถาม
“พี่บี พี่บี ผู้จัดการใหม่หล่อเปล่า เป็นนักเรียนนอกด้วยคงเท่มากเลยใช่มะ” แคท
“อืม”
“อะไรพี่ตอบแค่อืม” แคท
“อยากรู้พรุ่งนี้ก็ได้รู้แล้วหละ เดี๋ยวเค้าก็มาทำงานออฟฟิตข้างๆ เนี่ย”
“จริงหรอพี่ว้ายต้องรีบไปบอกจอยกับหมวยแล้ว” แคท
ผมเข้าไปนั่งในห้องทำงานแล้วก็เริ่มคิดถึงคำพูดที่มิ้นเคยพูดกับผม ถ้าผมไม่มีอะไรเลยคงไม่มีใครอยากคบกับผม ผมสงสัยกับคำพูดนี้มากๆ ผมเลยเรียกแนนเข้ามาหา
“มีอะไรค่ะพี่บี” แนน
“พี่ขอถามอะไรหน่อยซิ”
“ค่ะพี่ ถามมาซิ”
“ถ้าวันนึงพี่เหลือแต่ตัวไม่ได้มีต่ำแหน่งใหญ่เงินเดือนเยอะแบบนี้ พี่อยากให้แนนไปหาคนที่ดีกว่าซะ”
“อะไรพี่บี นี่พี่บีอยากเลิกกับแนนหรอ”
“เปล่าพี่แค่บอกไว้เพื่อวันนั้นมันเกิดมีขึ้นมากจริงๆ”
“พี่บีดูถูกแนนหรอ แนนไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบผู้ชายที่เงินนะ”
“พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอนวันนึงพี่อาจจะไม่มีอะไรเลยจริงๆ ก็ได้ พี่ก็อยากให้แนนเลือกทางที่แนนจะมีความสุขไม่จำเป็นต้องแคร์พี่” ตอนนี้ผมคิดว่าไอ้บิ๊กมันต้องทำผมกระอักอีกครั้งแน่ๆ เลยบอกแนนไปแบบนี้
“แนนไม่รู้นะว่าพี่เป็นอะไร แต่แนนไม่เคยคิดว่าจะมาเกาะพี่ แล้วถ้าพี่คิดว่าพี่เบื่อแนนก็บอกมา แนนจะไปทันที”
“พี่ไม่ได้อยากเลิกกับแนน อย่าเข้าใจผิดซิ ถ้าพี่ขาดแนนพี่คงทนไม่ได้ แต่….อืมไม่เป็นไรพี่ก็แค่พูดเรื่อยเปื่อยนะไม่มีอะไรแล้วไปทำงานเถอะ”
“ค่ะ”
แนนออกจากห้องไป ผมนั่งทำงานต่อหัวก็คิดแต่เรื่องนี้ ครั้งนึงผมเคยถึงกับเกือบเสียคนเพราะผู้หญิงคนนี้ หลังจากมิ้นบอกเลิกผมเองก็แทบไม่เคยคิดถึงอนาคตเลยเอาแต่เที่ยวเอาแต่กินเหล้ากว่าจะคิดได้ก็เกือบจะสายเกินไปแล้ว ตอนนี้คำพูดเธอกลับมารบกวนผมอีกครั้ง ผมนั่งคิดไปซักพักโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น
“พี่บีก้อยนะค่ะ”
“ครับมีอะไรหรอก้อย”
“วันนี้ก้อยไปค้างด้วยซิ ก้อยคิดถึงพี่บี”
“ครับได้ซิเดี๋ยวเลิกงานพี่ไปรับนะ เดี๋ยวไปหาอะไรทานกันด้วยก็ได้ พี่เพิ่งทำตัวเล็กโกรธอยากแก้ตัวอยู่เหมือนกัน”
“ค่ะ เดี๋ยวพี่มารับก้อยนะ”
“ครับแล้วเจอกันบาย”
เลิกงานผมก็ไปรับก้อย แล้วก็พาพวกเธอไปกินข้าวกัน แนนน้อยใจผมจริงๆ ด้วย ก้อยเองก็ช่วยผมง้อแนน ทานข้าวเสร็จเราก็กลับห้องกัน เราอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จก็มานั่งดู TV ด้วยกันสามคน ดูไปซักพักแนนก็ขอตัวไปนอนก่อน พอแนนเข้าไปนอนแล้วก้อยก็ตีแขนผม
“พี่บีพูดอะไรกับน้อง ดูซิน้องงอนไม่หายเลยเห็นไหม” ก้อย
“คือพี่แค่อยากรู้”
“อยากรู้อะไรค่ะก้อยถามแนน แนนก็ไม่ยอมบอก บอกแต่ว่าพี่บีมีอะไรแปลกๆ น้องเค้าเลยอยากให้ก้อยมาค้างวันนี้” ก้อย
“คือพี่อยากรู้ว่าถ้าพี่เหลือแต่ตัวไม่รวยไม่มีเงินไม่มีต่ำแหน่งใหญ่ จะยังมีใครอยากคบพี่อยู่หรือเปล่า”
“บ้าพี่บี ถามแบบนี้ก้อยก็โกรธเหมือนกันนะ แนนไม่ใช่เด็กแบบนั้นหรอก แนนอยู่กับพี่ก็เพราะรักพี่ที่เป็นคนใจดี อบอุ่นและห่วงใยเค้า” ก้อย
“แล้วก้อยหละถ้าพี่ไม่เหลืออะไร ก้อยจะยังรักพี่หรือเปล่า”
“พี่บีนี่ถ้าก้อยเพิ่งคบกับพี่ ก้อยคงไม่ตอบแล้วเลิกกับพี่แน่ๆ ก้อยไม่รู้นะค่ะว่าใครทำให้พี่คิดเรื่องนี้ แต่ก้อยไม่ใช่ผู้หญิงที่รักเงินหรือชื่อเสียงนะ ก้อยรักที่พี่เป็น ไม่ใช่พี่รวยหรือต่ำแหน่งใหญ่ แล้วก้อยก็คิดว่าแนนเองก็รักพี่เพราะพี่เป็นคนใจดีอบอุ่นและห่วงใยคนอื่น ชอบช่วยเหลือคนอื่น” ก้อยเสียงแข็ง เธอคงเริ่มโมโหผมอีกคน
“พี่ขอโทษนะ พี่โง่เอง พี่โง่ที่ยังยึดติดกับคำของคนคนนึงที่ไม่มีค่าจนทำให้คนที่พี่รักทั้งสองคนต้องเสียใจ” ผมดึงตัวก้อยมาไว้ในอ้อมกอด
ผมนี่โง่จริงๆ ก้อยแนนและเจนไม่เคยบอกผมเลยว่าต้องทำแบบนั้นแบบนี้เพื่อให้เลื่อนต่ำแหน่งหรือเอาผมไปอวดกับเพื่อนๆ ผมมัวแต่คิดถึงแต่คำของคนที่ไม่มีค่า
ผมทำผิดต่อก้อยทำผิดต่อแนนที่คิดแบบนี้ ผมเลยต้องชดเฉยให้เธอซะหน่อย ผมหอมแก้มก้อยซ้ายทีขวาที ก้อยเอียงแก้มหนีผม
“ขอหอมหน่อยซิ จะหลบทำไมหละครับ”
“ไม่ให้หรอก นี่งอนอยู่นะ” ก้อยแกล้งผม
“ไม่ให้หอมดีๆ เดี๋ยวปล้ำเลยนะ”
“ใครเค้าจะยอมให้ปล้ำหละ” ก้อยดิ้นหนีผม
ผมซุกหน้าไปตามลำคอและเนินอกก้อย ก้อยเองก็แกล้งดิ้นหนีผมแต่ซักพักก็เอามือมาลูบหัวผมครางเสียวเบาๆ ผมกดก้อยให้นอนลงบนโซฟาแล้วปรับพนักพิงให้กลายเป็นเตียงนอน
“นี่ คนงอนเค้านอนอยู่ในห้องนะ มาง้อผิดคนหรือเปล่าค่ะ” ก้อย
“เดี๋ยวของ้อคนสวยคนนี้ก่อน แล้วค่อยไปปล้ำคนในห้อง”
“บ้าจังพี่บีเนี่ย ไม่เอาแล้วก้อยไปนอนดีกว่า” ก้อย
“มาให้พี่กอดก่อนซิพี่ พี่ก็คิดถึงก้อยนะ”
“อืม อืม เร็วๆ นะง่วงแล้ว” ก้อย
“ง่วงก็หลับไปซิเดี๋ยวพี่ทำเองก็ได้”
“หลับไงไหวหละ โดนแทงก็ต้องร้องซิ หลับไม่ลงหรอก” ก้อยทำหน้าทะเล้น
“แหมเซี้ยวนะเรา”
ผมระดมจูบไปตามลำคอก้อยจนเธอกอดคอผมแหง่นหน้าร้องอู้ยยย อู้ยยยย ชุดนอนก้อยบางมาก หัวนมเธอแข็งเป็นไตดันชุดนอนผ้ามันของเธอ ผมจูบเลียไปทั่วแล้วก็ก้มดูดไปที่หัวนมก้อยที่กำลังชูชัน ก้อยแอ่นอกร้องซีด ผมดูดเลียจนชุดนอนเธอเปียกไปด้วยน้ำลายผม ก้อยทนไม่ไหวเธอถลกชุดนอนขึ้นให้ผมดูดหน้าอกเธอตรงๆ ผมก้มลงไปดูดเลียไปตามสองเต้ากลมสีน้ำผึ้งของก้อย หัวนมก้อยชูแข็งมาก ผมเอามืออีกข้างช่วยบี้ให้เธอ ก้อยร้องครางเสียงดังก่อนจะกัดฟัดแน่น
“อย่าบี้แรงค่ะ ก้อยเสียว อู้ยยยยย” ก้อยแอ่นอกดิ้นไปมา
ผมเปลี่ยนไปดูดหัวนมก้อยอีกข้าง แล้วก็เอามือบี้หัวนมอีกข้างที่ว่าง มันทั้งแข็งทั้งเปียก ก้อยได้แต่ดิ้นร้องคราง ควยผมเองตอนนี้ก็แข็งเป็นแท่งดันกางเกงนอนออกมาแล้ว ผมเลยเอาควยไปดันที่เปากางเกงนในก้อยทำเอาก้อยร้อง
“อู้ยยยย อู้ยยยย พี่บี ก้อยเสียว อู้ยยยย อย่าทรมานก้อยเลย”
ผมถอดกางเกงนอนออกแล้วเอาหัวบานไปจ่อที่เป้ากางเกงในก้อยแล้วดันเล่นจนน้ำรักก้อยไหลออกมาเปียกกางเกงนในไปหมด
“ถอดเธอค่ะ ก้อยเสียวทำแบบนี้” ก้อยพยายามจะช่วยผมถอดกางเกงใน
ผมถอดกางเกงนในก้อยออก ผมเงยหน้าขึ้นแต่ยังเอามือขย้ำหน้าออกก้อยไว้ ผมก้มลงดูที่รูสวาทก้อย ตอนนี้มีน้ำรักไหลเยิ้ม แคมสั่นระริกเหมือนกำลังกระสันเต็มที่ ผมค่อยเอานิ้วชี้แหย่เข้าไปในรูสวาทก้อย ก้อยรีบหมิบหีบีบรัดมันอย่างแรง ผมเลยแทงนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ
“โอ้วววว ผัวขา โอ้วววว ใส่มาเถอะค่ะ โอ้ยยยย ก้อยไม่ไหวแล้ว”
ก้อยแอ่นหีใส่มือผมเหมือนจะทนรอให้ผมสอดควยต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมก้มไปประกอบปากกับก้อย แล้วเอาควยจอที่รูหีเธอ ก้อยแอ่นหีไปมาสีกับควยผม ผมจับเอวเธอให้อยู่นิ่งๆ แล้วดันควยเข้าไปครั้งเดียวมิดด้ามสุดลำ ก้อยร้องอืมมมม เอามือจิกหลังผมแน่น ผมค่อยสาวควยกระทุ้งใส่หีก้อยแรงๆ เน้นๆ ผมรู้สึกถึงแคมก้อยที่ลู่ตามควยผมเวลาผมดันควยเข้าและชักควยออก ขอบหัวบานผมครูดกับผนังช่องคลอดก้อยแรงมากเพราะก้อยขมิบหีอยู่ตลอด ผมสาวควยจนน้ำรักก้อยไหลออกมาเต็มหน้าขาทำให้เกิดเสียง แจ๊ะ แจ๊ะ แจ๊ะ ผมจับก้อยแยกขาให้ผมเย็ดได้ถนัดขึ้นแล้วผมก็เริ่มกระทุ้งควยใส่ก้อยเร็วขึ้น หน้าอกก้อยสั่นกระเพื่อม ผมกระทุ้งเร็วจนก้อยทนไม่ไหวผละปากจากผมแล้วร้องคราง โอ้ยยย โอ้วววว โอ้ยยย อู้ยยยย ก้อยร้องเสียวซ่านและแอ่นหีส่วนกับควยผมไปด้วย ผมเร่งกระแทกจนก้อยแหง่นหน้าร้องอู้ยยยยยยย แอ่นหีอัดกับควยผมแน่น ผมหยุดกระเด้าควยให้ก้อยปลดความเสียวเสร็จก่อน ก้อยแอ่นและขมิบหีจนน้ำรักเธอไหลออกมาจนหมดแล้วก็นอนลงบนโซฟาเหมือนเดิม
ผมจับก้อยให้ตะแคงตัวแล้วยกขาขึ้นข้างนึง หีก้อยอ้ารอควยผมน้ำรักไหลเยิ้ม ผมกดควยเข้าไปในหีก้อยอีกรอบ ก้อยสะดุ้งตัวร้องซีด ผมเริ่มกระทุ้งควยช้าๆ ปากก็ดูดกัดเรียวขาก้อยข้างที่ผมยกขึ้นมา ก้อยเสียวสะท้านขนอ่อนบนตัวเธอลุกซู่ ผมนั่งขนเข่าเพื่อให้สามารถขยับเอวได้ถนัดขึ้น ผมจับขาก้อยเป็นหลักแล้วก็กระเด้าเอวเอาควยใส่หีเธอไม่ยั้ง ก้อยร้องครางเสียงดัง ท่านี้ทำเอาโซฟาสั่นไปด้วย น้ำรักก้อยไหลทะลักออกมาไม่หยุด ก้อยหน้าแดงกล่ำสะบัดหน้าไปมาผมเธอสยายดูเซ็กซี่มากยิ่งกระตุ้นให้ผมเย็ดเธอแรงขึ้น ก้อยต้องซูดปากทุกครั้งที่ผมดันควยจนกระทบมดลูกเธอ ผมเย็ดจนก้อยเหงื่อท่วมตัวไปหมด ผมเลยดูดกินเหงื่อเธอตามเรียวขาไปด้วย ผมเย็ดท่านี้จนรู้สึกว่าก้อยน่าจะเมื่อเลยเป็นให้เธอโก้งโค้งแทน
ผมจับเอวก้อยแล้วดันควยเข้าไปแล้วเริ่มกระแทกดัง พับ พับ พับ ก้นก้อยกลมกลึงมากมันยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์กระแทกควยใส่เธอแรงขึ้นพร้อมทั้งขย้ำมันไปด้วย ก้อยร้องครวนครางสะบัดหัวไปมา ผมพยายามกดควยให้ต่ำๆ เพื่อให้มันได้ครูดกับพนังหีก้อยเยอะ ผมเสียวจนน้ำแทบแตกก้อยเองก็ร้องครางสุดเสียง ผมกระแทกควยเร็วขึ้นจนเสียวไปหมดทั้งลำควยก้อยเองก็พยายามขยับก้นสู้ ในที่สุดผมก็ทนกลั้นน้ำกามต่อไปไม่ไหว ปล่อยมันพุ่งใส่หีก้อยเป็นจังหวะ ผมกระทุ้งตามจังหวะที่ควยผมปล่อยน้ำกามใส่หีก้อย ก้อยร้องครางระงมก่อนจะเอาหน้าไปซุกกับหมอนบนโซฟา ผมรอจนควยผมมันกระตุกเสร็จแล้วค่อยชักมันออกจากหีก้อย พอควยหลุดจากหีก้อยก็ล้มลงนอนบนโซฟาหายใจระรั่ว
ผมกับก้อยเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ ก้อยล้างควยให้ผมเสร็จแล้วเธอก็บอกให้ผมไปง้อแนนส่วนเธออยากจะขอนอนแช่น้ำอุ่นซักหน่อยเพราะว่าเหนื่อยและเหงื่อออกมาก ผมรู้ว่าก้อยอยากให้ผมอยู่กับแนนแบบส่วนตัวบ้าง ผมใส่เสื้อผ้าแล้วออกจากห้องน้ำแวะกินน้ำก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน
ผมเข้าไปในห้องนอนไฟปิดมืดสนิท ผมยืนอยู่ซักแป๊บรอให้ม่านตาปรับตัว แล้วผมก็เริ่มมองเห็นแนนนอนกอดหมอนข้างอยู่ที่นอน ผมนึกขำในใจ สงสัยจะทั้งงอนทั้งเหงาแอบมานอนกอดหมอนข้างอยู่คนเดียว ผมเข้าดึงผ้าห่มขึ้นแล้วนอนด้านหลังแนน ผมกอดแนนเบาๆ เธอไม่รู้สึกตัว ผมหอมแก้มเธอ แนนเอามือมาเหมือนละเมอเอามือมาปัดแล้วทำหน้ายู่ยี่ ผมเลยแกล้งหอมไปอีกหลายทีแนนก็ปัดทุกที ผมแกล้งแนนจนตัวเองเกิดอารมณ์ขึ้นมา ควยผมแข็งปักอีกรอบ ผมเลยถอดกางเกงออก ผมกอดหอมแนนต่อ ควยผมมันก็ไปถูกกับร่องก้นแนนนอนชุดนอน แนนนอนท่านี้ก้นเธอยิ่งเป็นร่อง ผมยิ่งถูยิ่งเสียว ซักพักแนนก็เริ่มครางเบาๆ ทั้งๆ ยังหลับอยู่ ผมถลกชุดนอนเธอขึ้นแล้วถอดกางเกงนในเธอออก แนนหลับไม่รู้เรื่อง ผมเอาควยไปถูกับร่องก้นแนนต่อ ตอนนี้เนื้อโดนเนื้อทำเอาผมเสียวมาก แนนก็แอ่นก้นตอบเริ่มมีน้ำไหลซึมออกมาจากหีเธอ ผมอดใจไม่ไหวเลยเอาควยกดเข้ารูหีแนน แนนสะดุ้งตื่นทำท่าตกใจก่อนจะร้อง อู้ยยย เพราะผมดันควยเข้าไปจนมิดด้าม
“อู้ยยย อย่านะ เบื่อแนนแล้ว ก็อย่ามาทำแนน” แนนโกรธผมอยู่
“พี่ขอโทษนะพี่รักแนน พี่ไม่มีวันยอมให้แนนไปอยู่กับคนอื่นหรอก”
“ไม่จริงหรอก เบื่อแนนแล้วซิ ถึงได้หาเรื่องมาไล่แนน”
“ไม่นะพี่รักแนนไม่เบื่อ จะรักตลอดไปด้วย” ผมเริ่มสาวควยเข้าออกหีแนน
“อู้ยยยยย อย่านะ แนนไม่เชื่อหรอก อย่าทำแนนนะ” แนนบอกห้ามแต่หีเธอน้ำรักกับเริ่มไหลเยิ้ม
ผมเริ่มกระเด้าควยใส่หีแนน โดยเธอนอนตะแคงกอดหมอนข้างอยู่ แนนร้องครางด้วยความเสียว
“แนนหายโกรธพี่นะพี่รักแนนนะ”
แนนไม่ตอบแค่พยักหน้า ผมเลยดันควยไปด้านขวาทีซ้ายทีบ้างครั้งก็ขยับเอวเป็นวงกลม แนนกัดหมอนครางครางอู้อี้ ผมพยายามดันควยไปสัมพัสให้ทั่วภายในหีแนน แนนขยับเอวเอาแตดถูกับหมอนข้างไปด้วยเด้งสวนควยผมไปด้วย ผมอยากให้แนนน้ำแตกก่อนซักรอบเธอจะได้อารมณ์ดีขึ้น ผมกอดแนนแน่นแล้วเร่งกระเด้าควยใส่แนนดิ้นไปมาร้องครางเสียงลั่นแล้วเธอก็แหง่นหน้าร้องเสียงลั่น น้ำรักแนนทะลักออกมาจากหีเธอ แนนนอนหอบหายใจระรัว ผมหอมแก้มเธอแนนพูดกับผมเสียงกระเส่า
“อย่าถามแบบนี้อีกนะค่ะ ถ้าถามอีกครั้งพี่จะไม่ได้เจอแนนอีก”
“ครับพี่สัญญา พี่จะไม่ถามแนนแบบนี้อีกแล้ว”
ผมกอดแนนแน่น แนนนอนพักแป๊บนึงก็บอกให้ผมนอนหงาย แนนขึ้นมานั่งคล่อมบนตัวผม
“มาให้แนนลงโทษบ้าง”
แนนค่อยๆ หย่อนหีลงมาหาควยผมเธอนั่งทับมันจนมิดด้าม เสร็จแล้วแนนก็เริ่มโยกเอวไปด้านหน้าทีหลังทีเหมือนกำลังควบม้า แนนหลับตาพริ้มเอามือท้าวที่นอนแล้วควบเอวเร็วจี๋ หน้าอกเล็กๆ ของเธอสั่นไปมา แนนเองก็เสียวมากเธอก้มลงมาประกบปากจูบกับผมเพื่อช่วยลดความเสียวที่รูหี ผมปล่อยให้แนนควบขย่มตามที่เธอต้องการ แนนก้มหน้ามาซบอกผมเอวยังคงควบควยผมไม่หยุด แนนร้องโอ้ยย อู้ยย ตลอดเหมือนเธอใกล้จะขึ้นสวรรค์อีกรอบแล้ว แนนควยอีกไม่นานก็แอ่นตัวขึ้น หีเธอบีบรัดควยผมแน่นร้องโอ้ยยยยย ก่อนจะหมดนั่งหมดแรงบนตัวผม
ผมลุกขึ้นนั่งโดยมีแนนนั่งคล่อมตัวผม ผมเริ่มขยับเอวกระแทกเธอท่านั่งโดยเอามือจับเอวเธอไว้ ผมกระแทกจนแนนต้องแอ่นตัวเอามือยันที่นอน ผมเองก็นั่งบนเข่าจับเอวแนนไว้แล้วกระเด้าควยใส่ แนนเสียวมาก เธอทั้งเกร็งทั้งเสียว ผมจับเอวแนนเข้ามากระแทกสวนควยผม ทำเอาแนนร้องไม่เป็นภาษา ผมเองก็เสียวมากเหมือนกันจนทนไม่ไหวหลับตาปล่อยให้ควยกระตุกฉีกน้ำกามใส่หีแนนไปสี่ห้าครั้ง ก้อยเปิดประตูเปิดไฟในห้องพอดี
“อู้ยย พี่น้องดีกันแล้วซิ แหมพี่บีเอาซะน้องร้องลั่นห้องเลยนะ” ก้อย
แนนอายไม่พูดอะไร
ผมค่อยๆ ถอนควยออกแล้วอุ้มแนนให้นอนปรกติ ก้อยเข้ามากอดแนนแล้วซุบซิบอะไรกันไม่รู้ แล้วก้อยก็เริ่มจูบกับแนน ผมเองจะทนดูเมียสองคนเล่นดนตรีไทยได้ยังไงเลยแจมด้วย คืนนี้ผมเล่นก้อยกับแนนหนักมากพอตอนเช้าสองสาวบอกว่าลุกไม่ไหว ผมเลยต้องทำข้าวต้มให้พวกเธอทาน แล้วก็มาทำงานคนเดียว
ผมมาถึงออฟฟิต แคทจอยหมวยก็มากรี๊ดกร๊าดเรื่องบิ๊กที่หล่อเรียนนอก ผมก็ไม่ว่าอะไรผมเข้าห้องไปทำงานตามปรกติพอ 10 โมงผมเดินออกจากห้องมา ไอ้บิ๊กเดินมาพอดี
“เห้ยอยู่ห้องนี้หรอวะ แหมมีห้องด้วย ขอกูดิให้เค้าทำให้ใหมแม่งก็ยังไม่เห็นได้เรื่อง สงสัยต้องให้ทำใหม่ซะแล้ว” บิ๊กคุยข่มผม
“อืมก็บอกธุรการซิ”
“เห้ยมึงเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อหรอวะ แบบนี้ก็แดกกระจายซิ ดูมีฐานะขึ้นนี่หว่าตอนเรียนกับตอนทำงานที่บริษัทเก่ามึงกระจอกจะตายนี่” บิ๊กมันข่มผมไม่เลิก
“แดกอะไรหละ มึงเป็นตรวจสอบก็มาตรวจสอบซิว่ากูแดกหรือเปล่า”
แคททำหน้าตาไม่ดีคงรู้แล้วว่าผมเริ่มโมโห
“เออ ตอนแรกกูขอทำตำแหน่งมึงแต่พ่อมิ้นเค้าบอกว่ามีคนทำแล้ว กูบอกว่าให้ย้ายเค้าก็บอกว่าคนเก่าเก่งอยู่แล้วให้กูมาทำอย่างอื่นที่ยังไม่ดี ดีกว่า” บิ๊ก
“อืม” ผมเริ่มเซ็ง
“นี่มิ้นก็บอกนะว่ามึงเคยจีบเค้า แต่ว่าเค้าไม่ได้ชอบใช่ไหมวะ” บิ๊กหัวเราะ
“เออ คงงั้น” ผมอยากจะตะบันหน้ามันจริงๆ ตอนนี้
“ลูกน้องมึงสวยเยอะนี่ ฝ่ายกูยังขาดคนขอยืมไปบ้างได้ไหม” บิ๊ก
“มึงก็ไปบอกพ่อมิ้นแล้วให้ออกหนังสือมาแจ้งกูแล้วกัน” ผมเริ่มใช้น้ำเสียงไม่ดี
“เออได้ แล้วก็เรื่องตรวจสอบนะมึงเตรียมไว้เลย เหอๆ สงสัยกูคงได้ทำหน้าที่แทนมึง” บิ๊กหัวเราะแล้วเดินกับออฟฟิตมันไป
“พี่บีเพื่อนพี่จริงๆ หรอค่ะ” แคท
“มันบอกว่าเป็นเพื่อนพี่แต่พี่ไม่ใช่เพื่อนมัน”
“จริงๆ เลยเนอะ การศึกษามันไม่ช่วยให้คนมีสามัญสำนึกขึ้นมาเลย” แคท
ผมแอบดีใจที่น้องผมก็เห็นเหมือนผม ผมจะได้สบายใจไม่ต้องกลัวว่ามันจะมาหลอกพวกนี้ไปฟัน
“น่าเสียดายนะพี่ หน้าตาก็ดีการศึกษาก็ดีแต่นิสัยแบบนี้ ผู้หญิงดีๆ เค้าคงไม่เอาทำพันธุ์ไม่รู้คุณมิ้นเค้าชอบได้ไง” แคท
“เรื่องของเค้า”
แคททำหน้าไม่ดีคงจำได้ว่าผมเคยเป็นแฟนกับมิ้นดันมาพูดตอกย้ำผมอีก แต่ผมไม่รู้สึกอะไรหลังจากคุยกับแนนกับก้อยอธิบายให้พวกเธอฟังเรื่องที่ผมเครียด ตอนนี้ผมก็สบายใจแล้ว ผมเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วก็ต้องเห็นกับภาพที่บาดตา ไอ้บิ๊กกำลังคุยกับน้องหงส์ ที่สำคัญมันยังถูกเนื้อต้องตัวหงส์ด้วยโดยที่หงส์ไม่ได้ขัดขืนอะไรมันเลย พวกหงส์เห็นผมก็รีบขอตัวกลับไปทำงาน แต่ผมก็แอบได้ยินไอ้บิ๊กพูดว่าเย็นนี้เจอกัน
ผมเดินไปเข้าห้องน้ำหัวก็คิดไปว่าเจอกันตอนเย็นแปลว่าอะไรหงส์จะยอมไปกับมันหรอ แล้วทำไมหงส์ถึงได้ยอมมันง่ายแบบนี้ ถึงผมจะเคยบอกหงส์ว่าถ้าเจอคนที่ดีกว่าผม ผมก็ยินดีให้เธอเลือกทางที่ดีกว่า แต่สำหรับไอ้บิ๊กมันก็แค่หลอกฟันแน่นๆ มันหรือจะมาเลือกเด็กสาวที่ไม่มีอะไรเลย ยังไงมันก็ต้องเลือกลูกสาวประธานบริษัทอยู่แล้ว