แฝดอันตราย ตอนที่36

แฝดอันตราย ตอนที่36

แฝดอันตราย ตอนที่36
ชัดชายค่อยๆปิดประตูอย่างเงียบกริบ ในสมองครุ่นคิดถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของตนกับแอนนี่ ซึ่งดูเหมือนจะเริ่มรู้สึกตัว
แล้วว่า ที่แอนนี่ยอมเป็นของชัดชายง่ายๆนั้นหาใช่เพราะรักในตัวบอสของเธอแม้สักนิด เธอคงต้องมุ่งหวังสิ่งใดในบริษัท
ของพี่ชายตนเองเป็นแน่ แม้ชัดชายจะไม่เคยรู้สึกรักหรือชอบพี่ชายตนเองสักนิด แต่การที่จะให้บริษัทของพี่ชายซึ่งมันก็
คือตัวเขาต้องตกอยู่ภายใต้การบงการของแอนนี่
นั้น เมินเสียเถอะ…ในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นเข่นนี้ ชัดชายจึงเริ่มระวังตัว
มากขึ้น ในขณะที่ยังไม่รู้ว่าแอนนี่ต้องการเข้ามาพัวพันกับตนด้วยเรื่องอะไร จึงจำต้องยอมนิ่งเฉยปล่อยเรื่องบาดตาบาดใจ
เสียศักดิ์ศรีของลุกผู้ชายให้ผ่านไปก่อน รอวันเวลาและโอกาสที่เหมาะสม แอนนี่กับนายเทวัญจะต้องชดใช้ให้มากกว่านี้
หลายร้อยเท่า

เมื่อชัดชายคิดและตัดสินใจได้ดังนี้แล้วก็เดินออกจากคลับหรูแห่งนั้น ทิ้งร่างเปลือยของแอนนี่กับนายเทวัญไว้เบื้องหลัง
ตนเองรีบยกโทรณศัพท์กดหมายเลขหาคุณหมิวคู่หมั้นของพี่ชายทันที เสียงสัญญาณเรียกดังอยู่สองสามครั้ง แล้วสาย
ก็โดนตัด

ชัดชายลองพยายามติดต่อใหม่ แต่ผลลัภพ์ก็เป็นเช่นเดิม คือคุณหมิวตัดสายของชัดชายทิ้งไม่ยอมรับโทรศัพท์ จนเขา
เริ่มอารมณ์เสีย ถึงกับเขวี้ยงโทรศัพท์ลงกับเบาะที่นั่งในรถเบ็นซ์ และถ้าชัดชายมีตาทิพย์คงจะเสียวสันหลังวาบที่รู้ว่า
สาเหตุที่คุณหมิวคุ่หมั้นของพี่ชายไม่ยอมรับสายนั้น เพราะเธอกำลังนั่งเผชิญหน้าฉัตรชัยตัวจริงในคราบกับแฝดผู้น้อง
รวมทั้งหวานและป้าแจ่ม ในห้องพักฟื้นของคุณนายแจ่มจรัสนั่นเอง

“คุณฉัตรโทรมาค่ะ….” คุณหมิวกล่าวขึ้นเมื่อทั้งสามคนที่นั่งเผชิญหน้ากันพากันนิ่งเงียบ

“แล้วทำไมคุณหมิวไม่รับสายล่ะครับ….” ฉัตรชัยถามขึ้นเมื่อเห็นคุ่หมั้นกดสายของน้องชายฝาแฝดทิ้งถึงสามครั้ง

“ไม่รุ้สิคะ…มันมีบางสิ่งบางอย่างที่หมิวข้องใจ ต้องได้รับความกระจ่างก่อน ช่วงนี้เลยยังไม่อยากติดต่อกับคุณพี่…”

คุณหมิวพูดเรียบๆ แต่ตาคู่สวยของเธอทั้งสองข้างจับจ้องมองหน้าของคุ่สนทนาจน เขารุ้สึกอึดอัด ป้าแจ่มกับหวานเลี่ยง
ไปยืนอยู่ด้านหลังด้วยความรุ้สึกที่ถูกกดดดันจนไม่กล้าเผชิญหน้าตรงๆกับมล.ลาวัลย์

“สรุปที่หมิวถามว่าคุณคือใครกันแน่…คุณยังยืนยันว่าเป็นคุณชัดชายสามีของคุณหวาน ใช่มั๊ยคะ…” เสียงพูดคุณหมิวดู
ราบเรียบก็จริงอยู่ แต่สีหน้าท่าทางเธอกลับตรงกันข้ามกับน้ำเสียง

“ใช่ครับ…ผมคือชัดชาย น้องชายฝาแฝดของพี่ฉัตรคู่หมั้นของคุณหมิวครับ…” ฉัตรชัยตอบเสียงเย็นๆยืนยันคำตอบอีกครั้ง
อย่างหนักแน่น ด้วยเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า ตราบใดที่ยังไม่รุ้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับแม่ตนเองนั้น คุณหมิวและน้องชาย
ฝาแฝดมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แค่ไหน เขาก็จะไม่ตอบยอมรับความจริงว่าตัวเขานั้นคือฉัตรชัย

“ค่ะ…เป็นอันว่าหมิวรับทราบว่าคุณคือคุณชัดชายนะคะ..ทีนี้คุณอยากทราบเรื่องคุณป้าใช่มั๊ยคะว่าทำไมจึงประสพอุบัติเหตุ.”
เสียงคุณหมิวเย็นเฉียบอย่างน่ากลัว จนฉัตรชัยรู้สึกหนาวยะเยือก จ้องมองใบหน้าสวยหวานของคุ่หมั้น ก็เห็นเธอเม้มปาก
บางเรียวสนิทแน่น

“ใช่ครับ….คุณหมิวพอจะได้บอกได้มั๊ยครับ….”ฉัตรชัยถามเสียงเบาๆ พยายามจ้องสบตาคู่หมั้นสาวแต่เธอไม่ยอมสบตาด้วย

“ได้สิคะ…ก่อนที่คุณป้าจะตกบันไดลงมา คุณป้าโทรหาหมิว..เอ่อ…ซึ่งขณะนั้นหมิวอยู่กับคุณพี่ฉัตร..” คุณหมิวตอบกลับ เล่า
ช้าๆ แต่ไม่กล้าสบตากับฉัตรชัย

“อยู่กันที่ไหนคะ….” ฉัตรชัยซักถามอย่างเร็วด้วยความอยากรู้ พร้อมภาวนาขออย่าให้คำตอบของคุณหมิวเป็นไปในแบบที่
ตนเองสันนิษฐานเลย

“อยู่ใน..โร…..รถค่ะ…” คุณหมิวเกือบพลั้งปากออกมา แต่รีบกลับคำเสียก่อนทันท่วงที

“พอหมิวคุยกับคุณป้าสักครุ่ พี่ฉัตรก็เอาโทรศัพท์ไปคุยกับคุณป้าเสียเอง…ตอนนั้นหมิวไม่ได้ยินหรอกค่ะว่าคุณพี่พูดอย่างไร
สักครุ่ก็ได้ยินเสียงเหมือนคุณป้าพลัดตกบันไดลงมา แล้วโทรศัพท์ก็สายหลุด พอหมิวโทรไปหาคุณป้าก็เจอป้าแจ่มรับสาย
จึงทราบเรื่อง แค่นี้แหละค่ะ….”

คุณหมิวเล่าจบก็ถอนหายใจดังเฮือก ด้วยความโล่งอก แต่ฉัตรชัยกลับไม่โล่งอกตามไปด้วย เพราะรู้สึกว่าคุณหมิวคู่หมั้นของ
ตนเองปิดบังเรื่องบางเรื่องกับเขา ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีงาม เธอจึงไม่เล่ารายละเอียดทั้งหมดให้กับเขาทราบ

หลังจากฉัตรชัยได้ฟังเรื่องจากปากคุ๋หมั้นจบก็นิ่งเงียบ ครุ่นคิดหาทางออกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี จะบอกไปตามตรง
ว่าคนที่คุณหมิวอยุ่ด้วยนั้นคือนายชัดน้องชายฝาแฝด ฉัตรชัยก็ไม่มั่นใจว่าขณะที่คุณหมิวกับนายชัดอยู่กันสองต่อสองนั้น
เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ถ้านายชัดทำให้เธอเสียหายล่วงเกินเธอไป เธอคงอับอายและเสียใจจนเข้าหน้ากันไม่ติด

ครั้นจะไม่บอก ให้เธอหลงเข้าใจผิดอีกต่อไป ฉัตรชัยก็เกรงว่านายชัดจะฉวยโอกาสนั้นมาหาเธอ และล่วงเกินเธออีกครั้ง
แต่จากคำพูดของคุณหมิวเมื่อสักครุ่ที่บอกว่า จะยังไม่ติดต่อพบกับคู่หมั้นจนกว่าเธอจะหายข้องใจนั้น ก็ทำให้ฉัตรชัยใจชื้น
ขึ้นมาบ้าง จึงตัดสินใจที่จะทำให้คุณหมิวสับสนงุนงงในสถานนะของตนเองต่อไปอีกสักพัก ด้วยการพยายามมองสบตากับ
คุณหมิว แล้วเผยความรุ้สึกรักและเป็นห่วงออกมาทางสายตา แต่คุณหมิวก็ยังไม่ยอมสบตากับฉัตรชัยเลยแม้สักครั้ง

“พี่จ๊ะ…เย็นแล้วเราจะเอาไงดีจ๊ะ….” หวานเดินมากระซิบถามฉัตรชัยเบาๆ เมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยมาจนเย็นมากแล้ว มารดา
ของสามีก็ยังไม่มีทีท่าจะฟื้นขึ้นมาเสียที

“ทิ้งบ้านสักวันเป็นไรมั๊ยครับ…” ฉัตรชัยกระซิบถามเสียงเบา ด้วยเกรงว่าคุณหมิวที่นั่งอยู่ห่างๆจะได้ยินการสนทนาของทั้งคู่

“วันเดียวไม่เป็นไรหรอกค่ะ…” หวานตอบกลับด้วยเสียงกระซิบเช่นเดียวกัน
“แล้วเราจะไปพักที่ไหนจ๊ะ…” หวานถามต่อด้วยความสงสัยเนื่องด้วยทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้เตรียมตัวมารับสถานการณ์แบบนี้

“ไม่ต้องกังวล..ปล่อยให้พี่จัดการเอง…”

ฉัตรชัยตอบเสร้จแล้วก็เงียบ หวานจึงหันหลังเดินกลับไปนั่งรอที่เดิม พยายามก้มหน้าไม่กล้าเงยหน้าด้วยเกรงจะเจอสายตา
สวยหวานของคุณหมิวที่หาทางมองมาทางเธอบ่อยครั้ง เหมือนจับผิด

เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ๆ คุณหมอกับพยาบาลชุดเดิมก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ตรงเข้าไปตรวจดูอาการของคุณนายแจ่ม
จรัส สีหน้านายแพทย์ขณะที่ตรวจดุอาการของมารดาตนนั้นดูดีขึ้นกว่าเมื่อช่วงเช้า เป็นสัญญาณว่าอาการของมารดาคงดี
ขึ้นตามลำดับแม้จะยังไม่ฟื้นคืนสติก็ตาม ทำให้ฉัตรชัยใจชื้นขึ้น และก็เป็นดังคาดเมื่อนายแพทย์มาแจ้งอาการของมารดาว่า
ไม่ต้องห่วงแล้ว รอแค่ให้ฟื้นจากการวางยาสลบเท่านั้นเอง พร้อมกับบอกให้ฉัตรชัยและคณะทั้งหมด ให้กลับไปพักผ่อนได้
ตามสดวก จากนั้นนายแพทย์กับพยาบาลก็เดินออกไปจากห้องเพื่อตรวจคนไข้รายอื่น

“ป้าขออยุ่เฝ้าคุณท่านนะคะคุณ….ชัด…” ป้าแจ่มต้องตั้งสติสักครุ่ก่อนจะหลุดชื่อชัดออกมา แต่คุณหมิวที่คอยลอบสังเกตุ
อยู่นั้นหันกลับมามองอย่างสงสัยแต่เธอก็นิ่งเงียบเก็บข้อมูลทุกอย่างลงในหัว

“ครับ….งั้นผมจะพาหวานไปหาที่พักก่อนนะครับป้า…” นี่ก็อีกคำนึงที่คุณหมิวติดใจ ปรกติคนเป็นผัวเมียกัน ควรจะพูดว่า
งั้นผมพาเมียไปหาที่พักก่อนนะครับ แต่ผู้ชายคนนี้กลับเรียกชื่อเมียว่าหวานแทนเสมอๆ ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ในห้องนี้ เธอ
ไม่เคยได้ยินผัวเมียคู่นี้คุยกันแบบผัวเมียชาวบ้านทั่วๆไปแม้สักครั้งเดียว

“งั้นหมิวขอตัวลากลับเหมือนกันนะคะ…ป้าแจ่มคะ…ถ้าคุณป้าฟื้น ช่วยโทรบอกหมิวด้วยได้มั๊ยคะ….”

คุณหมิวชิงลากลับเหมือนกัน จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องพักฟื้นของคุณนายแจ่มจรัส โดยที่ไม่ได้บอกลาผัวเมียทั้งคุ่
แม้แต่คำเดียว แม้จะดูเหมือนเป้นการเสียมารยาท แต่ใครเล่าจะรุ้ว่าภายในใจของคุณหมิวนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ หลังจาก
ที่เธอออกจากห้องพักฟื้นไปแล้ว แทนที่คุณหมิวจะกลับบ้าน เธอกลับแอบเข้าไปนั่งหลบมุมสังเกตุการณ์ตรงล็อบบี้ชั้น
ล่างอย่างเงียบๆ รอจนฉัตรชัยและหวานพากันออกมาจากลิฟท์ และออกไปหน้าโรงพยาบาล คุณหมิวก็กลับขึ้นไปบน
ห้องพักฟื้นของคุณนายแจ่มจรัสว่าที่แม่สามีในอนาคตอีกครั้ง

Share the Post:

Related Posts

หนูโดนคุณตาเลียหี

เรื่องเสียว หนูโดนคุณตาเลียหี บ้านนกเป็นหมู่บ้านจัดสรรค่ะ ข้างบ้านก็มีคุณตาใจดีคนนึงเมียแกก็เสียไปนานแล้ว คุณตาแกเป็นคนมีฐานะคนนึงเลยมีคนใช้สองคน มีหมาตัวหนึ่ง นกชอบไปเล่นที่บ้านคุณตาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะบางทีก็ไปอ่านหนังสือในห้องสมุดของคุณตา ไปเล่นกับหมา วันนึงนกก็เกิดเรื่องเสียวจนได้ เพราะนกไปอ่านหนังสือเล่นที่ห้องสมุดของคุณตาซึ่งคุณตาเองก็กำลังนอนกลางวันอยู่ คุณตาขอให้นกอ่านหนังสือให้ฟังค่ะ เพราะตาของแกก็ไม่ค่อยดีคุณตาให้นกเลือกหยิบหนังสืออะไรก็ได้ นกเองก็ดันไปหยิบหนังสือนิยายรัก แปลนะคะเป็นแนวรักโรแมนติก อ่านไปสักพักก็เจอฉากที่พระเอกปล้ำนางเอกค่ะ นกอ่านเสียงสั่นเลยเพราะเค้าเขียนว่าพระเอกผลักนางเอกลงบนเตียง แล้วก็เริ่มละเลงลิ้นตรงปุ่มสวาทของนางเอกอย่างหื่นกระหาย นกอ่านเสียงสั่นเลยค่ะ เค้าเขียนว่าเลียตรงปุ่มของนางเอกอย่างหื่นกระหายนกเองก็คิดภาพแล้วก็อยากช่วยตัวเองเลยค่ะ

Read More

เปิดประสบการณ์เสียวใหม่ เจอควยใหญ่แบบคูณสอง

เรื่องเสียว เปิดประสบการณ์เสียวใหม่ เจอควยใหญ่แบบคูณสอง ถ้าฉันเป็นวัยรุ่นสักตอน 20-30 ปีก่อน ฉันอาจจะโดนคนทั้งเมืองสาปแช่งไปแล้วเพราะว่าฉันคือผู้หญิงที่ไม่ใช่กุลสตรีอะไร เพราะว่าชอบท่องราตรี ชอบเรื่องเสียว และเสาะแสวงหาประสบการณ์เสียวให้ตัวเองแบบไม่มีวันหยุดเลยทีเดียว จนเพื่อน ๆ ที่รู้ว่าฉันนั้นขาดเรื่องเสียวเสียวไปสักวัน มันอาจจะขาดใจตายเลยก็ได้ แน่นอนว่ามันอาจจะดูแรง แต่วันไหนฉันไม่โดนเย็ดหี มันเหมือนกินข้าวไม่อร่อยเลยจริง ๆ นะ และเพราะแบบนั้น

Read More