แฝดอันตราย ตอนที่39
หลังจากบทรักที่เร่าร้อนและอ่อนหวาน เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นที่มนุษย์ชายหญิงพึงมอบให้แก่กันจบลงแล้ว
ฉัตรรีบอาบน้ำล้างตัวและออกไปจากสังเวียนรักห้องแคบๆ ที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำพร้อมกับแต่งตัวใหม่ อย่างเร่งรีบ จนเสร็จ
หวานจึงตามออกมา ร่างเพรียวแต่สัดส่วนเรือนร่างแสนงดงามของเธอ ถูกห่อพันด้วยผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่ของโรงแรม
เธอเดินเข้ามากอดเบื้องหลังฉัตรชัยไว้อย่างแสนรัก ซบหน้าแนบกับแผ่นหลังแกร่งของเขา
“พี่จะไปหาคุณหมิวหรือคะ…” หวานถามเสียงเรียบเบาๆ
“เปล่าครับ….พี่จะไปพบ..เอ่อ…นายชัดน่ะ…” ฉัตรชัยตัดสินใจบอกให้หวานรับทราบ ด้วยเกรงว่าเธอจะ
น้อยใจคิดว่าเขา
จะกลับไปพบคุ่หมั้น
“ให้หวานไปด้วยมั๊ยคะ…” เธอกระซิบถามพร้อมรัดวงแขนกระชับร่างเขาแน่นขึ้น
“อย่าเลยจ๊ะ…พี่ไปคนเดียวดีกว่า…พี่มีเรื่องที่จะคุยกับนายชัดหลายเรื่องครับ…”
ฉัตรชัยตอบกลับพร้อมยื่นมือแกะวงแขนของหวานออกอย่างวแผ่วเบา แล้วหมุนร่างหันกลับมาเผชิญหน้า ก้มมองจ้องเข้า
ไปในดวงตากลมโตใสซื่อของน้องสะใภ้
“พี่..เอ้อ…พี่จะพูดเรื่องของหวานกับพี่ชัดเขาหรือเปล่าคะ…”
หวานถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิวเหมือนกระซิบ หลุบตาลงมองพื้น ใบหน้าเจื่อนลง เมื่อรู้ว่าฉัตรชัยจะไปพบกับสามีของเธอ
ตามลำพัง
“ใช่ครับ…เป็นหนึ่งในเรื่องที่พี่จะต้องคุยกับนายชัดให้รู้เรื่อง…แต่ตอนนี้พี่ยังบอกหวานไม่ได้นะครับว่า…เรื่องจะลงเอยเป็น
อย่างไร…แต่หวานไม่ต้องคิดมากนะครับ…พี่รักหวาน..พี่สัญญาว่าพี่ไม่ทิ้งหวานแน่ๆ…” ในที่สุดฉัตรชัยก็เผยความรุ้สึก
ส่วนลึกที่ตนเองมีต่อหวานน้องสะใภ้ผู้น่ารัก ใสซื่อ และอ่อนหวานออกมาจากใจ
“ค่ะ….หวานจะรอพี่กลับมานะจ๊ะ…”
หวานช้อนตาเงยหน้ามองชายที่เธอหลงรัก พร้อมเขย่งปลายเท้าขึ้นจุ๊บปลายคางของเขาเบาๆ แล้วยิ่งกระชับวงแขนรัด
ร่างเขาแน่นขึ้น เมื่อได้ยินสัญญาจากปากของฉัตรชัยที่บอกว่า เขาจะไม่ทิ้งเธออย่างแน่นอน แม้หวานจะเพิ่งรุ้จักฉัตรชัย
เพียงไม่กี่วัน แต่เธอก็เชื่อคำพูดคำสัญญาของเขาว่ามันจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ฉัตรชัยแยกจากหวานหลังจากที่เขาพาเธอไปนอนรออยู่นเตียง แล้วสัญญาว่าจะรีบกลับมาเอาความรักจากเธออีกหลายๆ
ครั้ง เพราะเขาหลงรักหลงลีลาที่หวานมอบความสุขให้เขา จนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว หลังจากที่ฉัตรชัยลงมาจากห้องพัก
เขากลับเรียกรถรับจ้างให้ไปส่งที่โรงพยาบาล กว่าจะไปถึงก็เลยเวลานัดหมายไปกว่ายี่สิบนาที
ฉัตรชัยมาถึงโรงพยาบาลก็เดินตรงไปร้านกาแฟที่อยู่มุมด้านหนึ่งของล็อบบี้ทันที แล้วเขาก็แทบผงะเมื่อแลเห็นชัดเจน
ว่าชัดชายน้องฝาแฝดตนเองนั้น ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หันหลังให้ มีสาวสวยนั่งอยู่ตรงกันข้าม สาวสวยที่ใบหน้าคุ้นตาฉัตรชัย
เป็นอย่างยิ่ง จะเป็นใครเล่าถ้าไม่ใช่คุณหมิวคุ่หมั้นของตัวเขาเอง ฉัตรชัยเตรียมจะหันหลังกลับ แต่ทว่าคุณหมิวเห็นเขา
เสียก่อน จึงบอกให้นายชัดชัยรับรู้ ซึ่งแฝดผู้น้องของเขาก็หันกลับมาพร้อมเรียกชื่อเขาเสียงดังพอให้ได้ยิน
“พี่ฉัตร….”
ฉัตรชัยได้ยินเต็มชัดสองหูว่าแฝดผู้น้องเรียกชื่อเขาออกมา ต่อหน้าคุณหมิว ซึ่งเท่ากับยอมรับความจริงเปิดเผยให้คุ่หมั้น
ของเขารับทราบแล้วว่า เขากับน้องชายฝาแฝดสลับตัวกันในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉัตรชัยจึงจำใจเดินเข้าไปสมทบ
พร้อมทรุดตัวนั่งลงข้างๆคุณหมิวคุ่หมั้นของตนเอง ด้วยสีหน้าที่ปั้นยาก
“น้องหมิว…เอ่อ…ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วใช่มั๊ยครับ…”
ฉัตรชัยสอบถามคู่หมั้นด้วยเสียงเบาๆ ด้วยจิตใจที่หวาดหวั่นว่าคุณหมิวคุ่หมั้นนั้นจะมีปฎิกิริยาตอบโต้ประการใด เมื่อเธอรู้
ว่าตนเองโดนตบตาเช่นนี้
“ค่ะ…คุณพี่….หมิวทราบตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว จากปากป้าแจ่ม…เผอิญตอนจะกลับบ้าน แวะเข้ามาที่ร้านกาแฟ แล้วเจอคุณ
ชัดชายนั่งรอคุณพี่อยู่ หมิวเลยรอจะถามคุณพี่เหมือนกันว่า ทำไมถึงไม่บอกให้หมิวทราบเรื่องบ้าง…”
คุณหมิวถามยืดยาว ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่แสดงออกด้านอารมณ์ใดๆ จนฉัตรชัยก็นึกไม่ออกว่าตอนนี้คุณหมิวเธอโกรธ
เกลียด หรือโมโหเขาแค่ไหน อย่างใด
“พี่ขอโทษครับ…มันเป็นเรื่องที่พี่ก็ไม่คาดคิดว่าจะทำแบบนี้…”
แล้วฉัตรชัยก็เล่าเรื่องการสลับตัว เพราะเหตุผลอะไรให้คุ่หมั้นของตนเองทราบ โดยมีนายชัดชายเสริมบ้างเป็นบางจังหวะ…
คุณหมิวได้แต่รับฟังไม่ได้พูดออกความเห็นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
“ผมก็ต้องโทษคุณหมิวที่ทำแบบนั้นลงไป ทั้งนี้เพราะความโกรธแค้นที่ผมเป็นคนโดนปฎิเสธ จากแม่…” ชัดชายระบาย
ความรุ้สึกที่อยู่ในใจออกมาบ้าง
“ชัด..พี่อยากจะบอกว่านายเข้าใจแม่ผิดแล้วละ…แม่ไม่ได้ทิ้งนาย…แม่รักนายกับพี่ไม่ต่างกัน…แม่เป็นคนดี แม่ไม่มีเล่ห์
เหลี่ยมอะไรหรอก ถ้านายได้ยินมาว่าแม่ทิ้งนายแล้วเลือกพี่ ไม่ว่าจากปากใครก็ตาม ขอให้รับรู้ไว้เถอะว่า นายโดนคนนั้น
หลอกเสียแล้ว…” ฉัตรชัยไม่อยากเจาะจงชี้เฉพาะลงไปว่าชัดชาย โดนผู้เป็นบิดาของทั้งสองฝาแฝดหลอกเอาแล้ว
“คุณชัดคะ…หมิวขอยืนยันอีกคนหนึ่งว่า เท่าที่หมิวรุ้จักคุณป้ามาหลายปี…คุณป้าเป็นคนดี เป็นผุ้ใหญ่ที่น่าเคารพรักค่ะ…
และหมิวก็รักคุณป้าไม่ต่างอะไรจากแม่ของตนเอง..ไม่เช่นนั้นหมิวจะโกรธคุณชัดมากมายถึงเรื่องที่คุณป้าประสพอุบัติ-
เหตุ แล้วคุณไม่ใยดีหรือคะ…”
คุณหมิวพูดแทรกขึ้นมาบ้างเพื่อยืนยันในสิ่งที่ชัดชายเข้าใจแม่ผิด เมื่อชัดชายได้รับฟังคำพูด พร้อมเห้นการกระทำของ
คุณหมิวเรื่องความเป็นห่วงใยในตัวของมารดาตน แม้เธอยังไม่อยู่ในฐานะลูกสะใภ้ แต่เธอก็ห่วงใยจนแสดออกมาให้เห้น
ชัดเจนเช่นนี้ แสดงว่ามารดาของตนคงไม่ได้ร้ายกาจ แบบที่พ่อเป็นคนบอก เป็นคนพูดกรอกหูสร้างความเกลียดชังฝัง
ในใจตนเองมาตั้งแต่เด็กๆอย่างแน่นอน
“ผมขอโทษ….”
พื้นฐานของชัดชัยหาใช่คนเลวร้ายกาจโดยสันดานแต่ประการใด เมื่อรู้ว่าตนเองผิดพลาดก็ยอมยกมือไหว้ขอโทษฉัตรชัย
ผู้เป็นพี่ แล้วเลยไปขอโทษคุณหมิวที่ตนเองล่วงเกินไปด้วยความสำนึกผิด
ฉัตรชัยยิ้มแล้วลุกขึ้นไปโอบไหล่น้องชายฝาแฝดตบเบาๆ เป้นทำนองให้อภัยทุกเรื่อง ส่วนคุณหมิวก็ยิ้มรับ ก้มหน้าอาย
หน้าแดงกล่ำ เมื่อเธอหวนระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวันวานที่อยุ่กับชัดชายเพียงลำพัง ว่าเธอโดนเขาทำอย่างไรบ้าง ใน
ใจเธอนั้นหาได้โกรธเกลียดการกระทำของเขา เธอแค่รุ้สึกอายเขิลเมื่อตระหนักได้ว่า เธอเองแหละที่ยินยอมพร้อมใจกับ
การกระทำที่ตื่นระทึกของเขา
“แต่พี่…ผมถลุงเงินพี่ไปหลายแสนแล้วนะครับ…” ชัดชายอ้อมแอ้มพูดออกมา
“เรื่องเล็กน้อย…เงินของพี่ที่หามาได้ เพราะพี่มีโอกาสมากกว่าชัด…ฉนั้นเงินของพี่ก็เหมือนของนาย ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้…”
ฉัตรชัยตอบไปตามความรุ้สึกที่แท้จริง
“ตะ…แต่ว่า…มันยังมีเรื่องอีกครับ….” ชัดชายอ่ำอึ่ง
“เรื่องอะไร ร้ายแรงนักรึ…เล่ามาให้พี่ฟัง เราจะได้ช่วยกันจัดการ…”
“คือ…ว่า..เมื่อเช้านี้..ผมเพิ่งโดนบังคับให้ไปจดทะเบียนสมรสกับแอนนี่ครับ…”
ชัดชายพูดจบก็เป่าลมออกจากปากเหมือนโล่งอกที่สามารถบอกเรื่องหนักใจนี้ออกมาได้ แต่ฉัตรชัยพอได้ยินเรื่องถึงกับ
หน้าซีด ด้วยความตกใจ
“นายชัด..นายเอาชื่อพี่ไปจดทะเบียนสมรสกับแอนนี่ ที่เป็นผุ้ช่วยเลขาของพี่งั้นรึ…ตายละเว๊ย….เวรกรรมละ..ปัญหาช้าง
เชียวละนี่…”
ฉัตรชัยเผลอตัวสบถออกมาด้วยความตกใจ ด้วยตนเองรู้จักแอนนี่และพ่อของเธอเป็นอย่างดีว่ามีธุระกิจสีเทาซ่อนไว้อยู่
เบื้องหลัง ตนจึงพยายามหลีกเลี่ยงแม้จะโดนแอนนี่อ่อยให้ท่าจ้องจะจับตนเองมาทำสามีแล้วหลายครั้ง แต่ก้รอดตัวมาได้
โดยตลอด นึกไม่ถึงว่าน้องชายฝาแฝดที่ท่าทางเชียวชำนาญเรื่องผู้หญิง แต่กลับมาตายน้ำตื้นให้กับแอนนี่ได้อย่างไร
“นายรุ้มั๊ยว่าแอนนี่กับพ่อของเธอน่ะร้ายกาจแค่ไหน มีอิทธิพลด้านมืดแค่ไหน..” ฉัตรชัยถามอย่างเร็วด้วยความรุ้สึกที่กังวล
“ตอนแรกก็ไม่รุ้ครับ…นึกว่าเธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มาแอบชอบพี่ ผมเลย..เอ่อ..อยากแก้แค้น…กับผุ้หญิงของพี่ทุกคน..
แต่เมื่อตอนบ่ายวันนี้ถึงได้รู้ว่าเธอคงวางแผนการอะไรบางเรื่องในการเข้ามาพัวพันกับพี่…”
ชัดชายสารภาพความจริงเสียงอ่อยๆ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้พี่ชายฝาแฝดกับคุณหมิวฟัง ฉัตรชัยฟังเรื่องราว
จากปากน้องชาย แต่มาสะดุดกับประโยคแรกที่ออกจากปากน้องว่า ตอนที่โดนคุณหมิวทิ้งไว้ที่โมเต็ล..ก่อนจะได้พบกับ
แอนนี่ เพียงแค่ประโยคเดียว ก็เหลือบตาไปมองหน้าคุณหมิว ที่ตอนนี้เธอนั่งหน้าแดงกล่ำ สองมือบีบกระชับกันแน่นซุก
วางไว้บนตัก
“น้องหมิวกับนาย….เอ่อ…”
ฉัตรชัยอยากถามว่าไปทำอะไรกันในโมเต็ล แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้…เพราะเกรงใจคุณหมิวที่ตอนนี้นั่งหน้าแดงกร่ำ
ด้วยความอาย
“ก็หมิวไม่ทราบนี่คะ…ว่าไม่ใช่คุณพี่…” คุณหมิวพูดแทรกขึ้นด้วยเสียงสั่น
“แต่ผม..กับคุณหมิว…ยะ…ยังไม่มีอะไรกันนะพี่…”
ชัดชายบอกแทรกขึ้นมา เพื่อให้พี่เบาใจ แต่ฉัตรชัยกลับคิดว่า ถึงแม้น้องชายตนเองกับคู่หมั้นจะมีอะไรกันมากกว่านี้ ตน
เองก็หาได้โกรธเคืองแต่อย่างใด เพราะสิ่งที่ตนเองทำกับหวาน เมียของน้องชายนั้นมันมากกว่าหลายเท่า เขาจึงผ่าน
เรื่องนี้ไปก่อน รอให้สถานการณ์เรื่องแอนนี่เรียบร้อยเสียก่อน จึงค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง
“นายชัด….พี่ว่าช่วงนี้นายต้องสลับเป็นตัวพี่ไปก่อนชั่วคราวแล้วละ…รอจนแอนนี่เผยวัตถุประสงค์ของเธอมาก่อนว่า เธอ
ต้องการอะไรกันแน่ แล้วเราค่อยมาหาทางรับมือสองพ่อลูกนี้กัน…” ฉัตรชัยคิดอย่างรอบคอบแล้วจึงบอกน้องชายออกไป
“บริษัทพี่ เงินของพี่ ก็เหมือนทุกอย่างของนาย…เราพี่น้องกัน ขอให้นายนึกไว้แต่เรื่องเท่านี้พอ….” ฉัตรชัยบอกกับน้อง
ชายฝาแฝดด้วยความรุ้สึกที่จริงใจ แล้วก็จบการสนทนาเรื่องเครียดๆ นั่งดื่มกันอยู่สักครุ่ ก็ลุกเตรียมที่จะแยกย้ายจากกัน
“คุณพี่สองคนยังกลับไม่ได้ค่ะ…”..
เสียงคุณหมิวแทรกเข้ามา เมื่อเห็นว่าสองพี่น้องฝาแฝดพูดคุยตกลงกันรุ้เรื่อง แต่เป็นเรื่องของเขาทั้งสองคน หาใช่เรื่อง
ที่เกี่ยวกับตนเองแม้สักนิด
ทั้งสองพี่น้องฝาแฝดต่างสงบนิ่งเมื่อได้ยินคำสั่ง เสียงเฉียบขาดของมล.ลาวัลย์ จนฉัตรชัยรุ้สึกแปลกใจที่แต่ก่อนนั้น
ไม่เคยได้ยินเสียงเฉียบขาดเฉกเช่นนี้มาจากคุ่หมั้นลูกคุณหนู ผู้เรียบร้อยคนนี้มาก่อนเลย