แฝดอันตราย ตอนที่24
ตลอดเวลาจากช่วงบ่ายๆมาจนจรดเย็น ฉัตรชัยรู้สึกหงุดหงิดกังวลใจห่วงพะวงถึงเหตุการณ์ที่ตนเองไม่มีโอกาศล่วงรู้ว่า
เกิดอะไรขึ้นบ้างกับคุ่หมั้นของตน อีกทั้งมารดาก็ยังไม่โทรศัพท์กลับมา จึงใช้เวลาที่ให้ผ่านไปด้วยการติดตั้งทีวีที่ซื้อมา
พร้อมกับจ้างบริษัทที่ติดจานดาวเทียมสีดำที่ซื้อขาดให้มาติดตั้ง จนเย็นจึงเปิดทีวีดูได้
หวานตื่นเต้นมากที่เธอได้รับของขวัญชิ้นนี้จากสามีกำมะลอ จึงนั่งติดหน้าจอเปลี่ยนทีวีช่องนั้นช่องนี้ดูอย่างเพลิดเพลิน
จนฉัตรชัยสามารถปลีกตัวไปโทรหามารดา สัญญาณเรียกติด แต่รอ
จนสายถูกตัดมารดาก็ไม่ยอมรับสาย ฉัตรรุ้สึกเขม่นที่
ตาขวา ใจคิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรงกับคุ่หมั้นของตนบ้างมั๊ย จวบจนค่ำมือตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้วจนบรรยากาศ
เริ่มสลัว ก็ได้ยินเสียงหวานร้องเรียกหา
“พี่จ๋า…ทานข้าวกันเถอะ…วันนี้หวานทำน้ำพริกมะขามด้วยน๊า…รสแซบถูกปากพี่แน่ๆ…”
หวานทั้งส่งเสียงเรียกเมื่อเห็นฉัตรชัยยังไม่ขยับก็ลุกขึ้นมาตาม ทั้งฉุดทั้งดึงจนชายหนุ่มต้องลุกตามแรงดึงของน้องสะใภ้
เดินไปนั่งกับพื้นกระดานเบื้องหน้ามีสำรับกับข้าวอยู่สองสามอย่าง ทั้งแกงจืดฟัก ผัดผักรวมที่ตัดมาจากสวนครัว แล้วก็
น้ำพริกมะขามรสจัด มีจานกระเบื้องใส่ข้าวสวยร้อนๆส่งควันหอมกรุ่น แต่กลับไม่มีช้อนสักคัน
“อ่ะพี่…น้ำล้างมือจ๊ะ..”
หวานส่งขันทองเหลืองใบใหญ่ ข้างในบรรจุน้ำใสสะอาดเกือบค่อนวางลงข้างตัว แล้วเธอก็จุ่มมือลงไปล้างก่อน จากนั้นก็
ใช้มือเปิบข้าวน้ำพริกมะขามอย่างเอร็ดอร่อย แต่ฉัตรชัยกลับเก้ๆกังๆ เอามือจุ่มน้ำล้างตาม แต่พอจับข้าวจะเปิบเข้าปาก
ตามที่หวานทำเป็นตัวอย่างให้เห็น ข้าวสวยร้อนๆก็ล่วงหล่นออกจากปากจนหมด หวานแอบชำเลืองมองตามแล้วซ่อนยิ้ม
อย่างเต็มที่ ค่อนแคะในใจว่าเชอะ…ทำมาปลอมตัว โดนจับเปิบข้าวด้วยมือก็ไปไม่รอดซะแล้ว แต่เธอกลับแก้สถานการณ์
ให้สามีกำมะลอว่า
“อ้าว…ข้าวมันร้อนไปหรอจ๊ะพี่…งั้นหวานหยิบช้อนมาให้นะจ๊ะ..”
พูดจบก็ลุกขึ้นไปหยิบช้อนสแตนเลสมาส่งให้สามี ฉัตรชัยนึกขอบใจน้องสะใภ้ในใจ แต่กลับไม่เฉลียวใจแม้สักนิดว่าบัดนี้
น้องสะใภ้ล่วงรู้ความลับของตัวเขาหมดแล้ว
หลังจากได้ช้อนสแตนเลสมาฉัตรชัยก้ตักน้ำพริกมะขามใส่ปาก แล้วแทบจะสำลักพรวดออกมาด้วยความเปรียวความเผ็ด
แต่กลั้นใจกลืนเข้าไปได้เสียก่อน ความเผ็ดร้อนของรสชาดน้ำพริกมะขามทำให้ฉัตรชัยถึงกับเหงื่อตก ไหลพรวดๆมาตาม
ข้างแก้ม รวมทั้งน้ำมูกน้ำตา จนไอแคกๆ หวานต้องรีบส่งน้ำดื่มมาให้ แล้วลอบมองด้วยความสงสารที่เธอไม่น่าจะทำน้ำ
พริกรสจัดขนาดนี้เลย สามีตัวจริงของเธอน่ะชอบรสเผ็ดจัดแบบนี้ แต่คู่แฝดของเขาน่าจะไม่เคยกินอาหารรสจัดได้ ทำ
ให้ไอแคกๆจนน้ำมูกน้ำตาไหล หวานขยับเข้าไปลุบหน้าลูบหลังฉัตรชัยด้วยความรู้สึกผิด
“มันเผ็ดไปหรอจ๊ะพี่….หวานขอโทษ…สงสัยจะใส่พริกเพลินไปหน่อยตอนทำก็มัวแต่ดูหนังน่ะจ๊ะ…”
หวานสารภาพอ่อยๆ แก้ตัวไปตามที่นึกได้ แล้วจัดการเลื่อนชามใส่น้ำพริกมะขามออกจากวง ไม่อยากเห็นสามีกำมะลอของ
เธอต้องฝืนใจกินมันอีก จนสองคนผัวหนุ่มเมียสาวเอ๊ยพี่ผัวกับน้องสะใภ้ทานอาหารกันจนเสร็จ หวานก็เก็บสำรับล้างจาน
ชามคว่ำใส่ตู้เรียบร้อย ก็เดินไปนั่งประจำที่หน้าจอทีวีแบนๆขนาด32นิ้ว แล้วเปิดละครดูของเธอเงียบๆ
“หวานจ๋า…พี่เดินลงไปย่อยอาหารหน่อยนะจ๊ะ..เดี๋ยวมา…”
ฉัตรชัยขยับตัวเดินลงจากเรือน พอพ้นสายตาของหวานก็รีบกดโทรศัพท์หามารดาตนอีกครั้ง แล้วก็เหมือนเดิม มารดาตน
ไม่รับสาย มันผิดปรกติจนใจฉัตรชัยว้าวุ่น นึกถึงแต่เรื่องร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้น ตัดสินใจลองเสี่ยงอีกครั้งด้วยการโทรไปหา
คุณหมิว แต่สายไม่ว่าง คราวนี้ฉัตรชัยแทบอยากจะเป็นบ้า ที่ติดต่อใครไม่ได้สักคน สองขาก้าวเดินไปตามทางเดินที่เป็น
พื้นดินชื้นๆจากฝนตกเมื่อคืน จนไปถึงเพิงท้ายสวน
ก้าวเท้าขึ้นไปแล้วก็นั่งกอดเข่าครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ตั้งแต่วันแรกที่ปั้มน้ำมัน จนตามหาน้องชายพบ แล้วเก็บตัว
เพื่อสลับกัน จวบจนมาถึงคืนนี้ ฉัตรชัยไม่เคยคิดที่จะหลอกลวงใครสักคนโดยเฉพาะน้องสะใภ้ชื่อหวาน ที่แสนซื่อบริสุทธิ์
เขารู้สึกถูกชะตากับเธออย่างบอกไม่ถูก คิดว่าพอหมดเรื่องราวเขาจะช่วยเหลือหล่อนเต็มที่ ไม่อยากเห้นเธอต้องมาใช้ชีวิต
ทนลำบากอยู่ในชนบทแบบนี้ ทั้งๆที่มารดาของสามีเธอก็มีทรัพย์สินเหลือเฟือที่จะเลี้ยงดูทั้งลูกสะใภ้กับหลานสาวได้อย่าง
ดี หรือเขาควรจะบอกความจริงกับหวาน แล้วรีบเข้าไปกรุงเทพดูให้รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทั้งกับมารดา และคุ่หมั้น ขณะที่
ครุ่นคิดจนเผลอตัว ก็เห็นแสงไฟฉายวับแวมจากเรือนไทยเดินตรงมาที่เพิงพัก จนใกล้พอมองออกว่าหวานเดินมาหา
“พี่จ๊ะ…เดินออกมาทำไมทีนี่ มืดค่ำแล้วเดี๋ยวงูเงี้ยวเขี้ยวขอก็ขบกัดเอาหรอก…ป่ะกลับเรือนกัน มานั่งคนเดียวมืดๆค่ำๆยุงกัด
เอาละป่าวจ๊ะ…”
หวานพูดไปมือที่ถือพัดมาด้วยก็โบกปัดไล่ยุงไปมาด้วยความเป็นห่วง ภาพของหวานสาวชาวชนบทที่โบกพัดไล่ปัดป้อง
ยุงดูวุ่นวาย แต่กลับทำให้ฉัตรชัยมองเพลินจนลืมเลือนเรื่องทุกข์ใจไปชั่วขณะ
“ป่ะกลับกันจ๊ะ…” ฉัตรชัยฉวยจับข้อมือหวานยึดไว้แล้วจุงมือกันเดินกลับมา จนถึงหลังบ้าน หวานก็บอกว่า
“มาอาบน้ำกันก่อนจ๊ะ มะคืนพี่ก็ไม่ได้อาบน้ำ ตัวงี้เหม็นเชียว..” หวานไม่พูดเปล่าๆ กลับยื่นหน้าทำจมูกฟิตๆ สูดดมไปตาม
เนื้อตัวเสื้อผ้าของฉัตรชัย จนเขาต้องถอยหลังพิงตุ่มน้ำใบใหญ่
“คืนนี้หวานจะอาบน้ำให้พี่นะจ๊ะ…” พูดจบก็ใช้สองมือจับชายเสื้อยืดของฉัตรชัยถลกขึ้น แล้วเขย่งขาขึ้นสูงจนดึงเสื้อยืด
ตัวนั้นออกมาทางหัว จากนั้นก็เอื้อมมือไปคว้าขอกางเกงของฉัตรชัย ทำท่าทางจะปลดถอดมันออกมาด้วยมือของเธอ จน
ฉัตรชัยต้องเบี่ยงตัวหนี แล้วร้องบอกหวานว่าตนทำเองดีกว่า
ก่อนที่หวานจะออกเดินตามฉัตรชัยไปที่เพิงท้ายสวน เธอได้จัดเตรียมอุปกรณ์เสื้อผ้า รวมทั้งผ้าขาวม้าของฉัตรชัยเอามา
วางไว้เรียบร้อยแล้ว พอฉัตรชัยหันไปเจอผ้าขาวม้าก็หยิบขึ้นมานุ่งขมวดปมที่ด้านหน้าจนแน่น แล้วค่อยๆถอดกางเกง
ออกมา เพียงตัวเดียว
“เอ้าพี่…ถอดชั้นในออกมาด้วยสิจ๊ะ..หวานจะได้ซักให้…”
[post]หวานร้องบอก แต่ฉัตรชัยกลับทำเฉย จนหวานแอบนึกหมั่นใส้อยากแกล้งจึงทำท่าจะคว้าถอดให้ ฉัตรชัยถอยหลังกรูด
หวานหัวเราะเยิ้วๆชอบใจที่แกล้งสามีกำมะลอจนเค้าอายได้อีกครั้ง
“พี่ถอดเองก็ได้จ๊ะ…หวานอยู่เฉยๆ..”
ฉัตรชัยจำเป็นต้องถอดชั้นในสีขาวออกมา หวานก็แบมือขอ แล้วเทผงซักฟอกลงมือซักให้จนสะอาด จากนั้นเธอก็จัดการ
ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าถอดออกช้าๆ มันเชื่องช้าจนฉัตรชัยรู้สึกอึดอัดเหมือนหวานจงใจยั่วเขา แต่พอคิดกลับว่ามันก็ไม่เห็น
แปลกตรงไหน หวานนึกว่าเขาเป็นสามี เมียจะทำท่ายวนยั่วก็ไม่น่าแปลกอะไรนัก ในเมื่อเธอก็ยังสาว ยังสวย หุ่นก็ยังยั่ว
ยวนตารัดรึงใจได้ขนาดนี้
หวานจงใจถอดเสื้อผ้าออกมาอย่างเชื่องช้าจนหมด ก็ดึงผ้าถุงขึ้นมากระโจมอกขมวดปมที่เหนือราวนม จากนั้นก็กงักมือ
เรียกฉัตรชัยให้เดินเข้ามาหา ท่าทางการกวักมือมันดูยวนยั่วจนใจสั่น แต่เขาต้องจำใจเดินเข้าไปหา หวานก็ใช้ขัน
พลาสติคตักน้ำจากตุ่มใบใหญ่ ราดซู่ลงมาที่ตัวเขา น้ำที่ขังในตุ่มเย็นยะเยือกจนฉัตรชัยขนลุก จากนั้นก็ถือขันน้ำไว้
แล้วบอกให้เขาวักน้ำมาลูบหน้า ล้างตา พอฉัตรชัยทำตามหวานก็เอามือถูสบูก้อนจนฟองฟอด แล้วมาละเลงลูบหน้า
ลูบตาเขาจนดูสะอาดจากนั้นก็ตักน้ำเทราดลงมาช้าๆให้เขาใช้มือล้างฟองสบูด้วยตัวเอง
พอทำความสะอาดใบหน้าเสร้จ หวานก็สั่งให้ฉัตรชัยยื่นแขนออกมาแล้วจัดการขัดถูเอาขี้ไคลออกทีละแขน แล้วก้มตัว
ลงนั่งยองๆเพื่อขัดถูลำขาใหญ่แข็งแรงของสามีกำมะลอ ฉัตรชัยพยายามชักขากลับ ด้วยความรุ้สึกแปลกๆแต่ก็โดน
หวานดุเอ็ดเบาๆ แล้วเธอก็ทำหน้าที่ของเธอจนเสร็จ ราดน้ำให้ทั่วตัวอีกสองสามขัน แล้วเอามือกำสบู่ก้อนมาละเลงที่
แผงอกของเขา นิ้วเล็กๆ ลูบปราดโดนหัวนมจนฉัตรชัยสะดุ้งวูบ สยิวๆจนขนลุกเกลียว
หวานหัวเราะคิกๆ อย่างชอบใจ ยิ่งเน้นย้ำจนหัวนมของเขาตั้งชี้เด่ แม้ฉัตรชัยจะพยามบิดตัวดิ้นหนี แต่ก็ไปไหนไม่พ้น
มือเล็กๆเรียวๆ ที่ไล่ตามลูบไล้ จากนั้นลื่อนมือลูบสบูไปตามแขนจนทั่ว พอก้มต่ำลงมาที่ขาอีกครั้ง สายตาของหวานก็
ประสบกับความแข็งขันที่กึ่งกลางลำตัวของสามีกำมะลอว่าตอนนี้มันเริ่มพองขยายจนดันผ้าขาวม้าเปียกๆออกมาเป็น
ลำแข็งโด่ หวานทำไม่รุ้ไม่ชี้ แต่ก็ก้มหน้าแอบซ่อนรอยยิ้มไว้มิดชิด ละเลงสบู่ที่ขาจนถ้วนทั่ว
“พี่จ๊ะ…หันหลังหน่อย หวานจะถูสบู่ให้..”
เสียงเธอทั้งหวานทั้งไพเราะ จนฉัตรชัยไม่กล้าขัดขืน นึกแต่ว่าดีเสียอีกที่ตนหันหลังแบบนี้ หวานจะได้ไม่เห็นว่ากึ่ง
กลางลำตัวของเขากำลังขยับขยาย หวานทำแบบเดิมคือละเลงสบู่ก้อนใส่มือถุๆจนเกิดฟอง แล้วนำมาละเลงที่แผ่น
หลังกว้างของเขา จนเกิดฟองลื่นไปทั่ว แต่แล้วฉัตรชัยก็สะดุ้งเฮือกยืนตัวแข็ง เมื่อรู้สึกว่าหวานแนบตัวลงมาหา ความ
รู้สึกว่าแผ่นหลังกว้างของตนกำลังสัมผัสความอ่อนหยุ่นนุ่มนิ่ม ของอกเปลือยเต้าตูมเต่งเสียดสีส่ายไปส่ายมาช้าๆ
เท่านั้นยังไม่พอ มือเล็กๆของหวานวกวูบเข้ามาที่ลำลึงที่กำลังเริ่มแข็งตัว เธอคว้าเอาไว้แล้วแล้วถอกรูดละเลงสบู่
จนหัวบานเงี่ยงหยักนั้นแดงกล่ำ
“หวาน….ยะ…อย่าทำแบบนี้…” ฉัตรชัยทนกลั้นต่อไปไม่ไหว รีบร้องบอก
“ทำไมล่ะจ๊ะ..เมียทำให้ผัวแบบนี้ไม่ชอบหรอจ๊ะ…” หวานจ่อปากมาใกล้หูกระซิบเสียงแผ่ว แต่สำเนียงดูยวนยั่วยิ่งนัก
“มะ…มัน..ไม่ใช่อย่างนั้นจ๊ะ…พี่มะ..ไม่…”
ฉัตรชัยยังไม่ทันพูดจบคำ หวานก็เอามือที่ยังเลอะสบูปิดปากเขาไว้ เธอพลิกตัวฉัตรชัยหันกลับมา จ้องมองเข้าไปใน
ดวงตาของเขา สายตาหวานเชื่อมหวานใสจนฉัตรชัยสะอึก มองสบตาด้วยความเผลอไผล จนหวานค่อยๆเอามือที่ปิด
ปากออกแล้ววักน้ำจากตุ่มมาล้างคราบสบู่ที่ปากเขาอย่างรวดเร็ว
“พี่จ๋า….ยังไม่ต้องพุดนะคะ…”.
พอหวานพูดจบก็เขย่งตัวเงยหน้าเอาปากมาประกบปากฉัตรชัยแน่น เธอจูบเขาอย่างเร่าร้อน ลิ้นเล็กๆสอดส่ายควานหา
ลิ้นอ่อนนุ่มในปากของเขา อกเปลือยยิ่งเบียดส่ายเสียดสีกับแผงอกกว้าง มือล้วงลงไปจับลำลึงของฉัตรชัยลูบช้าๆรูด
เบาๆ จนเขาเสียวสยิว มันยิ่งลุกยิ่งแข้งจนเต็มอุ้มมือเล็กๆของหวาน
“หวาน..ฟะ…ฟังพี่ก่อน….ดะ..ได้มั๊ยจ๊ะ…”
ฉัตรชัยเสียวสยิวจนปากสั่น พูดติดๆขัดๆ กว่าจะจบประโยค แต่หวานกลับไม่ยอมฟัง เธอยกนิ้วชี้มาแตะปาก แล้วทำเสียง
จุ๊ๆ ให้เขาเงียบเสียง จากนั้นเธอค่อยใช้ปลายลิ้นละเลงเลียไปจนทั่วแผงอกกว้าง ไม่ใส่ใจว่าสบู่จะเข้าปาก เธอละเลง
เลียมาจนถึงท้องน้อยของฉัตรชัย จากนั้นก็กระตุกผ้าขาวม้าของเขาออก ลำยาวกว่าสามีตัวจริงของหวานเกือบสองนิ้ว ก็
ดีดเค้งออกมาเป็นคืบ หวานก้มมองพร้อมกลืนน้ำลายก่อนจะวักน้ำมาล้างลำลึงอย่างรวกๆ แล้วแลบลิ้นละเลงที่ขอบเงี่ยง
จนฉัตรชัยตะลึงตัวแข็งค้างนิ่ง ทำได้เพียงแอนเอวผวา ร้องครางอูย ด้วยความเสียวซ่าน
ลีลาชิวหาของหวานสร้างความเสียวสยิว และประทับใจจนฉัตรชัยหลับตาไม่อยากรับรู้ ว่าเธอกำลังทำอะไร หรือเธอเป็น
ใครทั้งสิ้น แม้เขาไม่อยากทำผิดกับลูกกับเมียของน้อง แต่ในสถานการณ์ที่เขาพยายามพูด แต่เธอกลับไม่ยอมฟัง แล้ว
จะให้เขาทำอย่างไรได้ คงทำได้เพียงปล่อยกายปล่อยใจไปกับความรุ้สึกเสียวซ่านที่หวานมอบให้ช้าๆ ลำยาวของตนก็
อุ่นวาบเมื่อหวานค่อยๆอ้าปากอมเข้าไป ปากเล็กๆค่อยขยับอมรูดลงไปช้าๆ ลำยาวเกือบ7นิ้วของเขาก็จมหายเข้าไปใน
ปากของหวานได้อย่างไม่น่าเชื่อ
………………………………………………
ย้อนกลับมาที่กรุงเทพมหานคร คุณหมิวนั่งรอมารดาของคุ่หมั้นจนจรดเย็น คุณหมอก็ยังไม่ออกมาจากห้องไอซียู เธอ
พยายามโทรหาฉัตรชัยแทบจะตลอดเวลา แต่เขากลับไม่ยอมรับสาย จนเกือบ6โมงเย็น พ่อกับแม่ของคุณหมิวจึงเดิน
ทางมาถึงโรงพยาบาล พอคุณหมิวเห็นหน้าพ่อกับแม่ เธอก็ผวาไปกอด พร้อมร้องไห้ออกมาอย่างขวัญเสีย จนมารดา
ต้องปลอบใจกันอยู่พักใหญ่เธอจึงเงียบเสียงลง พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟัง แต่เธอปิดบังเรื่องในโมเต็ล
ไว้ไม่กล้าเล่า
“เอ๊ะ….ทำไมพ่อฉัตรถึงเป็นยังงี้…” คุณหญิงสรวงสุดามารดาของคุณหมิวรู้สึกแปลกใจ ปรกติว่าที่ลูกเขยคนนี้ของเธอ
นั้น เธอเล็งสืบประวัติชีวิตเขามานานจนแลเห็นว่าเขาเป็นคนดี จึงเต็มใจให้มล.ลาวัลย์ ลูกสาวคนเดียวของเธอหมั้น
หมาย แต่การกระทำครั้งนี้ยังความประหลาดใจให้ท่านทั้งสอง จนต้องออกปากตำหนิให้บุตรสาวได้ยิน
…………………………………………….
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่คุณหมิวขับรถสปอร์ตออกไปทิ้งให้ชัดชายยืนคว้างด้วยความรุ้สึกโกรธ แต่เขาหาได้โกรธว่าที่
คุ่หมั้นของพี่ชายแม้สักนิด คนที่ชัดชายโกรธคือมารดาของตนเองที่มาเป็นมารขัดขวางความสุขของเขา ถ้าเธอไม่
โทรเข้ามา ป่านนี้คุณหมิวคงจะเสร็จเป็นเมียเขาแล้วอย่างแน่นอน
เมื่อชัดชายโดนทิ้งไปเช่นนั้น แม้จะรุ้ว่ามารดาเกิดอุบัติเหตุ ก็หาได้ใส่ใจ คิดแบบลูกอกตัญญูว่า ถ้ามารดาตายไปเสีย
คน ความลับเรื่องการสลับตัวก็จะหมดประจักษ์พยาน มันย่อมเป็นผลดีกับตัวของเขา หลังจากเดินออกมาจากโมเต็ล
ก็มองหารถรับจ้าง เรียกให้ไปส่งสถานบริการอาบอบนวด จะที่ไหนก็ได้ในขณะนี้ ชัดชายไม่ใส่ใจ ขอเพียงแค่ได้ระบาย
ความอัดอั้นที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงเช้าให้ออกไปจนตัวเบาได้แค่นั้นก็เพียงพอ