ความรักของผม ตอนที่ 25
เป็นเวลากว่า3วันแล้วครับที่ผมกับพี่พลอยเราได้มาเที่ยวทะเล ซึมซับบรรยาการอันแสนน่าประทับใจและเราก็ได้ร่วมรักกันอย่างถึงใจ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วครับ ที่เราจะได้อยู่ที่นี่เพราะพอถึงประมาณเที่ยงเราก็จะเดินทางกลับบ้านกันแล้วครับ
“บ้าน”หรอ พอผมได้ยินคำนี้ทีไร ผมอยากจะหัวเราะมันให้ฟันหักหมดปากไปเลยล่ะครับ สำหรับผมน่ะ บ้านของผม มันตายจากผมไปพร้อมกับแม่ของผมเมื่อหลายปีก่อนนี้แล้วล่ะครับ ตอนนี้ สถานที่ ที่ผมใช้ซุกหัวนอนอยู่ทุกวันนี้ถึงมันจะเคยเป็นบ้านที่แสนสุขของผมเมื่อตอนที่แม่ของผมท่านยังอยู่ก็ตาม แต่ตอนนี้ มันกลายเป็นบ้านของคนอื่นไปแล้วล่ะครับ ผมจากฐานะเจ้าบ้านก็กลายเป็นผู้อาศัยไปโดยไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกัน แต่ก็ช่างมันเถอะครับ ผมน่ะมันเป็นลูกที่คุณพ่อของผม ท่านไม่ได้ต้องการอยู่แล้ว ผมเกิดมาเพราะความผิดพลาดของคุณพ่อของผม ตอนนั้น ท่านไม่
ได้อยากจะมีลูกกับคุณแม่ผมหรอกครับ แต่ที่คุณแม่ก็เกิดตั้งท้องผมขึ้นมา นั่นมันก็เพราะความไม่ได้ตั้งใจของคุณพ่อของผมต่างหากล่ะครับ เพราะฉะนั้น ผมมันก็แค่ส่วนเกินที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดมา
ผมพยายามมาตลอดเวลาครับ ผมพยายามที่จะลืมเรื่องความเจ็บปวดใจนี้ซะ แต่ว่า เมื่อผมพยายามที่จะลืมมัน มันกลับยิ่งฝังลึกลงไปในใจของผม จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้วล่ะครับ ตั้งแต่สมัยเด็กๆทุกครั้งที่ผมได้เห็นเด็กคนอื่นๆมีพ่อแม่จูงมือข้ามถนนระหว่างทางกลับจากโรงเรียน หรือคนใกล้ตัวผมอย่างแม่ฝ้าย กับลูกๆของเธอทั้ง3คน พวกเธอทั้ง3คนได้รับความรักความอบอุ่นจากแม่ฝ้ายทุกวัน ทุกครั้งที่ผมได้เห็นภาพเหล่านั้น ผมมีความรู้สึกแปลกๆในใจของผม มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้ผมต้องแอบไปร้องไห้อยู่หลายครั้ง แต่ผมก็บอกไม่ถูกครับ ว่าความรู้สึกของผมมันเรียกว่าอะไรกันแน่!!
“เหลียงจ้ะ!! มานั่งด้วยกันสิ” เสียงเรียกชื่อผมแว่วมาตามสายลมที่กำลังพัดเข้าหาชายหาดครับ มันเป็นเสียงที่ไพเราะและนุ่มนวลของเธอคนนั้นนั่นเองครับ “พี่พลอย”
ผมรีบหันมองพี่พลอยในทันที และผมก็เห็นว่า พี่พลอยเธอกำลังนั่งกอดอกอยู่บนโขดหิน เธอดูหนาวสั่นสะท้านไปทั้งกายจากลมทะเลยามเช้ามืดอันแสนหนาวเย็นครับ ผมเห็นดังนั้น จึงรีบเข้าไปนั้งข้างๆเธอในทันที
“พี่หนาวหรอครับ? งั้นเอานี้ห่มคลุมไว้นะครับ “ ผมรีบถอดเสื้อแจ๊กเก็ตของผมแล้วคลุมไหล่ให้เธอพร้อมทั้งโอบไหล่เธอไว้อย่างแนบแน่น
“แล้วเหลียงไม่หนาวหรอ? ถอดเสื้อให้พี่แบบนี้น่ะ” พี่พลอยหันมาถามด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน
“นิดหน่อยครับ แต่ผมจะไม่ยอมให้พี่ต้องทนหนาวหรอก”
“เด็กโง่! หนาวแล้วยังถอดเสื้อให้พี่อีก “ พี่พลอยต่อว่าผมด้วยความเป็นห่วงครับ
“….” ผมไม่พูดอะไรต่อ นอกจากยิ้มและโอบเธอเข้ามาซบไหล่ผมครับ
“ก็เพราะผมรักพี่ไงครับ” ผมกระซิบตอบเธออย่างแผวเบาในขณะที่โอบกอดเธออยู่
สาเหตุที่ผมกับพี่พลอยแล้วก็ทุกคนต้องมาทนหนาวตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ก็เพราะ พี่โยนั่นเองครับ ถ้าจะถามว่าทำไมน่ะหรอครับ เหตุผลมันก็ง่ายนิดเดียวครับ นั่นคือ พี่โยเธอต้องการมาดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่แหลมแถวๆชายหาดน่ะสิครับ แต่เธอดันไม่กล้ามาคนเดียวและเธอก็อยากให้พวกเราทุกคนเห็นความงามของพระอาทิตย์ยามเช้าด้วยกันครับ พวกเราทุกคนก็เลยต้องมานั่งทนหนาวกันแบบนี้ (ซวยฉิบเป่ง)
“พี่พลอยครับ อุ่นมั๊ย” ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง
“อุ่นสิ พี่อยากให้เหลียงกอดพี่แบบนี้ ทุกวันเลย” พี่พลอยหลับตาและซบผมอย่างอบอุ่น
ไม่นานหลังจากนั้น เริ่มมีแสงสว่างรำไรอยู่ที่ขอบฟ้า แสงทองอะหร่ามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเช้าวันใหม่เริ่มสาดส่องเข้าหาชายหาดพร้อมกับดวงไฟสีแดงเพลิงกลมโตที่กำลังเคลื่อนคล้อยขึ้นจากขอบฟ้า มันคือพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจากปลายขอบฟ้านั่นเอง มันช่างเป็นภาพที่ มันช่างสวยงามจริงๆ พี่พลอยค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาชมความงามของธรรมชาติอย่างที่เธอชอบชมอยู่บ่อยๆ สายลมที่พัดกระโชกแรง ตอนนี้มันเริ่มพัดเอื่อยๆ พาให้กลิ่นกายของเธอที่มันช่างหอมหวนชวนโหย โชยมาตามสายลม กลิ่นแป้ง กลิ่นครีมนวดและยาสระผมของเธอมันช่างหอมยั่วยวนอารมณ์ผมเป็นยิ่งนัก ผมจ้องมองใบหน้าอันแสนงดงามของเธอ มันช่างไร้ที่ติ ไม่มีแม้แต่สิวฝ้า หรือรอยขีดขวนแม้แต่นิดเดียว เหมือนว่าเธอจะรู้ว่าผมจ้องมองเธออยู่ครับ เธอจึงหันหน้ามามองผมบ้าง เราสองคนสบตากันอย่างรู้ใจ ไม่มีคำพูดหรือเสียงใดๆทั้งนั้น เราค่อยๆเข้าหากัน เธอหลับตาพริ้มเพื่อรอรับการประทับรอยจูบจากผม ผมค่อยๆประกบปากจูบเธออย่างแผ่วเบา เราสองคนจูบกันโดยไม่ใช้ลิ้นหรือจูบกันอย่างเร้าร้อน แต่การประทับริมฝีปากเพื่อแสดงความรักที่เรามีต่อกันครับ ตอนนี้ เราสองคนเหมือนกับพระเอกกับนางเอกในซีรี่เกาหลีไม่มีผิด เราจูบกันโดยไม่สนใจสายตาของพี่ๆคนอื่นๆเลยครับ
“โห โรแมนติกจังเลยอ่ะ นน เราทำแบบนั้นกันมั่งได้ป่ะ” พี่ข้าวซึ้งกับการกระทำของคู่เราครับ
“รักกันจริงๆด้วยสิ” พี่โยพูดขึ้นบ้าง
“แล้วนี่ โยจะมาถ่ายรูปไม่ใช่หรอ แล้วไม่ถ่ายแล้วหรอไง” พี่ตั้มพูดเตือนพี่โยครับ
“อึ๊ย!! แย่แล้วๆ ลืมไปเลยอ่ะ ไปถ่ายก่อนดีกว่า” พี่โยพูดจบก็รีบวิ่งไปถ่ายรูป พวกเราที่เหลือก็ตามพี่โยไปครับ ปล่อยให้เราได้อยู่แสดงความรักกันอยู่แค่สองคน
“พี่พึ่งนึกขึ้นได้ เราก็ถ่ายรูปกันบ้างดีกว่านะ” พี่พลอยพูดจบก็ลุกขึ้นจูงมือผมตามพวกพี่โยไปครับ
พวกเราต่างถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน โดยรูปถ่ายเกือบทั้งหมด เป็นฝีมือของพี่โยครับ พี่พลอยเล่าให้ผมฟังว่า พี่โยเธอรักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่เด็กๆครับ เธอจึงมีความใฝ่ฝันเป็นอย่างยิ่งว่า เธอจะต้องเป็นนักถ่ายภาพมืออาชีพที่มีชื่อเสียงให้ได้ เธอจึงไปเรียนวิชาการถ่ายภาพกับนักถ่ายภาพชื่อดังมากมาย ซึ่งด้วยฐานะของครอบครัวเธอแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยกับเงินค่าเรียนชั่วโมงละไม่กี่พัน ผมเห็นเธอแล้วมันก็เกินความรู้สึกแปลกๆขึ้นครับ เธอมีทั้งพ่อและแม่ที่คอยสนับสนุนเธอ ถึงแม้พ่อของเธอจะเป็นถึงนักธุรกิจใหญ่อันดับต้นๆ แต่พ่อของเธอก็ไม่เคยบังคับให้เธอต้องมาสืบทอดกิจการของเขาเลย แต่กลับกัน พ่อแม่ของเธอกลับสนับสนุนให้เธอเรียนในสิ่งที่เธอชอบ ผมได้แต่ยืนมอง ขณะที่พวกเขากำลังสนุกกับการถ่ายภาพ ผมจ้องมอง ด้วยความรู้สึกแปลกๆนั่นอีกแล้วครับ มันเป็นความรู้สึกที่ผมบอกไม่ถูก แต่ผมบอกได้แค่ว่าผมรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ผมเห็นคนอื่นๆได้รับความรักจากพ่อแม่ ผมได้แต่คิดอย่างเจ็บใจว่า โลกนี้มันไม่มีความยุติธรรมเลยจริงๆ ทำไมคนอื่นๆ ถึงมีทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ครอบครัว ญาติพี่น้อง แต่ทำไมผมถึงไม่มีอะไรเลยซักอย่าง แม้แต่บ้าน ผมก็ไม่มี ทำไมต้องเป็นผม ผมทำผิดอะไร? ผมผิดที่เกิดมาเป็นส่วนเกินของคุณพ่อใช่มั๊ย? ทำไมผมถึงไม่มีในสิ่งที่คนอื่นๆเค้ามีกัน ผมรู้สึกได้ถึงหยดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากตาของผม ผมร้องไห้เพราะความรู้สึกแปลกๆนั่นเองครับ แต่ผมก็ยังบอกไม่ถูกครับ ว่ามันคือความรู้สึกที่เรียกว่าอะไร ความรู้สึกแบบนี้ผมไม่ชอบมันเลยจริงๆ แต่ผมก็ทำเหมือนเดิมที่ผมเคยทำครับ นั่นคือ ทำเป็นลืมๆมันไปซะ ไม่นานพวกเราก็ต่างแยกย้ายกันไปเก็บข้าวเก็บของเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ เมื่อผมเปิดประตูห้องเข้าไป ผมก็พบพี่พลอยกำลังยืนเกาะราวระเบียงอยู่ที่ระเบียงห้อง ผมเห็นดังนั้นก็เดินออกไปหาเธอครับ
“อ้าวเหลียง!! เก็บของเรียบร้อยแล้วหรอ?” พี่พลอยเอ่ยปากถามผม เมื่อเห็นผมเดินมาหาเธอ
“ครับ…” ผมตอบสั้นๆ
“พี่พลอยทำอะไรอยู่หรอครับ?” ผมถาม
“พี่กำลังซึมซับความรู้สึกดีๆ ที่เราสองคนได้อยู่ด้วยกันไง” พี่พลอยตอบผมพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนสดใส
“….” ผมไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากโอบกอดเธอไว้จากด้านหลัง
“อุ่นจัง…เหลียงจ้ะ เอาไว้เรามาที่นี่กันแค่สองคนนะ พลอยอยากให้เรามามีความสุขที่นี่ด้วยกันอีกค่ะ” พี่พลอยหหันมาพูดกับผมอย่างหวานซึ้ง
“ครับ” ผมยิ้มก่อนจะตอบเธอสั้นๆ และค่อยๆก้มลงประทับจูบเธออย่างแผ่วเบา เมื่อเราถอนริมฝีปากออกจากกัน เราสองคนมองตากันอย่างเข้าใจในความต้องการของอีกฝ่าย พี่พลอยยกแขนขึ้นโอบคอผมพร้อมกับบดเบียดหน้าอกอันอวบอั๊นของเธอเข้ากับหน้าอกของผม ผมรู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มและยอดถันที่ชูชัน สายตาอันยั่วยวนของเธอที่มองผม ทำให้ผมเกิดอารมทางเพศอย่างรุนแรงแบบที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ผมค่อยๆย่อตัวรวบขาเธอขึ้นและอุ้มเธอเดินเข้าห้องไปยังเตียงนอนของเรา ผมคงไม่ต้องบอกนะครับว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เวลาผ่านเกือบๆชั่วโมง ผมเปิดประตูเดินออกมาจากห้องเหมือนคนไร้วิญญาณ ผมหันมองกลับเข้าไปในห้อง พี่พลอยยังนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างมีความสุข ความสุขที่ผมเป็นผู้ปรนเปรอให้เธออย่างถึงใจ ผมรู้สึกเหนียวตัวเหลือเกิน จนทนไม่ได้ต้องหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าห้องน้ำชั้นล่างเพื่อไปอาบน้ำชำระล้างสิ่งสกปรกให้สะอาด ผมอาบน้ำอย่างสบายตัว ถูเจ้าน้องชาย(ควย)ให้สะอาดหมดจด ผมอาบเสร็จก็นุ้งผ้าเช็ดตัว เมื่อผมจับลูกบิดและเปิดประตูออกมาผมก็ต้องตกใจ เพราะมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าประตู ผมสะดุ้งด้วยความตกใจอย่างแรง
“อะ…เอ่อ…คือ.พี่พรจะใช้ห้องน้ำหรอครับ…เชิญครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเมื่อเห็นพี่พร เป็นพี่พรครับที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ผมรู้สึกขนลุกทันทีที่เห็นเธอ เธอนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวเองครับ ท่าทางเธอคงจะยืนรอจะอาบน้ำต่อจากผม แต่ทำไมเธอต้องมายืนซะชิดติดประตูเลยละ ไปนั่งรอก็ได้ ? หรือว่าเธอจะแอบดูผมอาบน้ำ? โอ้ไม่นะ!! ผมได้แต่คิดในใจ
“อาบช้าจังเลยนะ…พ่อหนุ่มหล่อ” อึ๊ยยย!! ผมต้องขนลุกอีกครั้งเมื่อพี่พรยื่นหน้าเข้ามาหาผมจนริมฝีปากของเธอแทบจะสัมผัสกับแก้มของผม ก่อนที่เธอจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูผม กลิ่นกายของเธอมันช่างยั่วยวนให้หลงใหล มือไม้ของผมเริ่มสั่นเทาเพราะความประหม่าและคะเขิน
“ว่าไง…เขินพี่หรอไง?” พี่พรยิ้มก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ตัวผมมากยิ่งขึ้นจนผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเธอที่รดบริเวณต้นคอของผม จนผมขนลุกซู่
“พ..พี่พรจะอาบน้ำไม่ใช่หรอครับ..ห้องน้ำว่างแล้วไงครับ” ผมตอบเสียงสั่นนิดๆด้วยความตื่นเต้น หัวใจผมเต้นรัว
“ใครว่าพี่จะอาบน้ำกันละจ๊ะ…” พี่พรขยับเข้ามาใกล้ผมมากกว่าเดิม จนหน้าอกอันมโหราฬของเธอสัมผัสกับท่อนแขนของผม ถึงจะมีผ้าเช็ดตัวปิดบังอยู่แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มและความใหญ่โตของมัน ใบหน้าของผมแดงซ่านด้วยความเขินอาย
“พี่บอกแล้วไง…ว่าพี่ชอบเอาชนะ เมื่อคืนพี่ไม่คิดว่าพี่ชนะหรอกนะ พี่จะต้องเอาชนะเธอให้ได้ พ่อหนุ่มน้อย” พี่พรมองผมด้วยสายตาอันยั่วยวนและกระซิบข้างหูของผมก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งผมไว้กับคำพูดปริศนา
“เฮ้อออ…” ผมถอนหายใจอย่างแรงเมื่อเธอเข้าห้องน้ำไป เธอต้องการจะสื่ออะไรกันแน่นะ? ผมชักจะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมได้แต่ถามตัวเองว่า “ต่อไป..มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเรานะ?”
“เย้..เย้..ถึงบ้านแล้ว!!” เสียงพี่โยพูดอย่างดีใจเมื่อรถของเราเข้ามาจอดหน้าบ้านของเธอ
หลังจากการผจญภัยอันแสนน่าประทับใจถึง3วัน ในที่สุดพวกเราก็กลับถึงสถานที่ที่เรียกว่าบ้านกันแล้วครับ
“เป็นไงบ้างลูก…เที่ยวสนุกมั๊ย?” เสียงคุณแม่ยังสาวของพี่โยถามพี่โยด้วยความรักและเป็นห่วง
“สนุกสุดๆเลยค่ะ…แล้วก็คิดถึงแม่ที่สุดในโลกเลย” พี่โยพูดจบก็โผลเข้ากอดแม่ของเธอด้วยความคิดถึง
“อุ๊ยยย!!…แหมลูกคนนี้นิ..ไม่ยอมโตซะทีนะ” คุณแม่ยังสาวต่อว่าพี่โยด้วยความเอ็นดูแล้วก็กอดพี่โยด้วยความรักของคนเป็นแม่
“เป็นไงบ้างทุกคน แม่ขอบใจที่ช่วยดูแลโยแทนแม่น่ะ” คุณแม่แสนใจดีของพี่โยพูดกับพวกเราอย่างเป็นกันเอง ไม่ถือตัวแต่อย่างใด เมื่อผมได้เห็นแบบนี้แล้ว ไอ้ความรู้สึกเดิมๆ มันก็บังเกิดขึ้นในใจผมอีกแล้วครับ
“อ้าว! พลอย เปนไงบ้างจ๊ะ เหนื่อยมั๊ย?” คุณแม่คนสวยพูดทักทายพี่พลอยอย่างสนิทสนม
“ก็นิดหน่อยค่ะ…แต่ว่าแม่หนูสิค๊ะ ป่านนี้แล้วยังไม่มารับเลย” พี่พลอยพูดประชดแม่ฝ้ายอย่างน่ารัก
“เดี๋ยวเถอะ!!…แอบว่าแม่อยู่หรอ?” เสียงของหญิงสาวอันแสนจะคุ้นหูของผมกับพี่พลอยดังออกมาจากประตูบ้านทำให้ผมและพี่พลอยต้องหันไปมองที่ต้นตอของเสียงนั้น ไม่นานก็ปรากฏร่างของหญิงสาวแสนสวยวัย37 ก้าวย่างเดินลงจากขั้นบันไดห้องรับแขก ใบหน้าของเธอช่างดูงดงามและคุ้นตาผมเป็นยิ่งนัก ใช่แล้วครับ เธอผู้นี้ก็คือ คุณแม่ของบรรดาสุดที่รักของผมครับ เธอคือ “แม่ฝ้าย” ที่ผมเคารพรักนั้นเอง
“เป็นไงเรา…เที่ยวสนุกจนลืมแม่ไปเลยละสิเนี่ย” แม่ฝ้ายเอ่ยปากพูดกับพี่พลอยแบบประชดเล็กน้อย
“เปล่าน๊าาา…หนูคิดถึงแม่ที่สุดเล้ยยย” พี่พลอยพูดจบก็เข้าไปกอดแม่ฝ้ายเหมือนไม่ได้พบกันมานานมาก ทั้งสองแม่ลูกแสดงความรักกันอย่างอบอุ่น ผมรู้สึกเจ็บแปล๊บๆในใจ
“เป็นไงบ้างเหลียง…คงเหนื่อยสินะ..แม่ขอบใจมากนะ” แม่ฝ้ายหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงอบอุ่นที่ผมคุ้นเคย
“เหลียงเค้าดูแลหนูดีมากๆเลยค่ะ…ดีจนหนูรักพ่อน้องชายคนนี้มากๆเลย” พี่พลอยพูดชื่นชมผมให้แม่ฝ้ายฟังอย่างร่าเริง เล่นเอาผมหน้าแดงเลยละครับ
“หรอจ้ะ…เอางี้..เดี๋ยวแม่จะเลี้ยงของอร่อยเป็นการตอบแทนนะเหลียง” แม่ฝ้ายหัวเราะเบาๆก่อนจะพูดกับผม
“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ฝ้าย…”
“ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกเหลียง…เอางี้..เรากลับบ้านเรากันก่อนแล้วค่อยว่ากันนะ พวกคุณเธอทั้งหลายบ่นคิดถึงพวกลูกทุกวันเลยจ้ะ” แม่ฝ้ายคงจะหมายถึง น้องหลิน น้องพิมแล้วก็ยัยแพ็ทแน่ๆ แต่อย่าว่าแต่พวกเธอคิดถึงผมเลยครับ ผมเองก็คิดถึงพวกเธอใจจะขาดอยู่แล้ว
ในที่สุดพวกเราก็กลับมาถึงแล้วครับ กลับมาถึงสถานที่ที่เรียกว่าบ้าน ทันทีที่ผมเปิดประตูลจากรถ
“พี่เหลียง!!” เสียงอันแสนสดใสของเด็กหญิง2คน มันช่างเป็นเสียงที่คุ้นหูที่ผมไม่มีวันจะลืมได้ และไม่กี่วินาทีต่อมาร่างของเด็กหญิงทั้งสองก็โถมเข้าใส่ตัวผมอย่างเต็มๆ
“หนูคิดถึงพี่ที่สุดในโลกเลยค่ะ…” เสียงน้องหลิน เจ้าหญิงของผมพูดกับผมขณะกอดผมอยู่
“หนูก็คิดถึงพี่ไม่น้อยกว่าหลินนะค๊ะ” เสียงน้องพิม นางฟ้าของผม พวกเธอคงจะคิดถึงผมมาก ผมก็เลยหอมแก้มพวกเธอคนละฟอดเป็นการตอบแทน
“เอ้านี่เด็กๆ พี่เค้าพึ่งจะกลับมานะ ให้พี่เค้าพักเหนื่อยก่อน” แม่ฝ้ายพูดกับเด็กน้อยทั้งสอง
ในที่สุดผมก็กลับถึงบ้าน ไม่ใช่สิ ที่นี่น่ะมันไม่ใช่บ้านของผมตั้งนานแล้ว
ผมเดินเข้ามาในบ้าน ผมก็พบหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ผมไม่ได้เห็นหน้าเธอถึง3วันเต็มๆ มันเป็นเวลา3วันที่เหมือน3ปีเหลือเกิน ผมเห็นแพ็ทกำลังยืนเกาะราวบันได้อยู่ เหมือนเธอพึ่งจะเดินลงมาจากห้องของเธอ
“กลับมาแล้วหรอ?” เธอยิ้มให้ผมก่อนจะถามคำถามสั้นๆ
“กลับมาแล้ว” ผมตอบสั้นๆพร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความคิดถึง เราไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันมากมายเพราะเราเข้าใจกันดี แพ็ทส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง รอยยิ้มนั้นมันช่างเป็นรอยยิ้มพิมใจที่ผมไม่ได้เห็นมานานถึง3วัน มันคือรอยยิ้มแห่งความปลื้มปิติที่ได้เห็นคนรักกลับมา
ผมกะว่าจะเดินเข้าไปหาแพ็ทและกอดเธอให้หายคิดถึง แต่ผมก็ต้องชะงักเพราะทุกคนเดินเข้าบ้านมาพอดี
แพ็ทเองก็เข้าใจครับ เธอจึงเลี่ยงเดินไปคุยกับพี่สาวของเธอแทน
เวลา18นาฬิกา
“กินข้าวกันได้แล้วเด็กๆ!!” แม่ฝ้ายตะโกนเรียกพวกเราเมื่อถึงเวลาทานข้าวเย็น
“อ้าว เหลียงยังไม่ตื่นอีกหรอ?” แม่ฝ้ายถามทุกคน
“สงสัย คงกำลังนอนไม่ตื่นมั้งค๊ะ” พี่พลอยตอบพร้อมกับหันไปมองนาฬิกา
“งั้นทุกคนรอก่อนนะจ้ะ..เดี๋ยวแม่ไปตามเหลียงก่อน” แม่ฝ้ายพูดจบก็ลุกจากเก้าอี้และเดินขึ้นบันไดมาที่ห้องผมครับ ผมกำลังงีบหลับอย่างสบายเพราะความอ่อนเพลีย
“เฮ้ออ..ลูกคนนี้ คงจะเหนื่อยมากสินะ” แม่ฝ้ายพูดกับตัวเองเมื่อเห็นผมนอนยังไม่มีวี่แววว่าจะตื่น
“แม่..แม่ครับ..อย่าทิ้งผมไป!” ผมเรียกหาแม่โดยไม่รู้ตัวขณะที่ผมกำลังหลับไม่ได้สติ
“ทำไมพ่อไม่รักผม..ผมผิดตรงไหน” ผมยังละเมออย่างไม่ได้สติ แม่ฝ้ายต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว
“โถ่…..เหลียง!” แม่ฝ้ายรู้สึกเศร้าใจแทนผมจนต้องพูดกับตัวเอง
แม่ฝ้ายนั่งลงข้างๆผมบนเตียงและลูบศรีษะผมอย่างเอ็นดูก่อนจะพูดว่า “พอลูกโตขึ้นแล้วมีครอบครัว…ลูกก็จะเข้าใจเองนะ” แม่ฝ้ายพูดจบก็โน้มตัวมาหอมหน้าผากผมด้วยความรักก่อนที่เธอจะตัดสินใจปลุกผมให้ตื่น
“เหลียงลูก…ตื่นได้แล้ว..ไปกินข้าว ทุกคนรออยู่” แม่ฝ้ายปลุกผมที่หลับไม่รู้เรื่องให้ตื่นขึ้น
ณ โต๊ะอาหาร
“ตื่นแล้วหรอจ้ะ..พ่อหนุ่มขี้เซา” พี่พลอยพูดแซวผมเมื่อผมมานั่งที่โต๊ะอาหาร
ผมยิ้มให้เธอแทนคำตอบ ก่อนจะทานข้าว
ทานข้าวเส็ดแล้วผมก็ขึ้นมานอนคิดเรื่องนึงอยู่ครับ มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก
ตอนที่ผมนอนหลับอยู่บนห้องนั้น ในตอนแรก ความทรงจำอันแสนเจ็บปวดสมัยเด็กๆของผมมันย้อนกลับมาอีกครั้ง มันเหมือนเป็นความฝันลางๆแต่ภาพทุกอย่างที่ผมเห็น มันช่างเหมือนตอนเด็กๆเหลือเกิน ทั้งตอนที่แม่จากผมไปต่อหน้าต่อตาของผม ทั้งตอนที่พ่อไม่เคยสนใจผมเลย มันเหมือนกับว่าผมได้ย้อนเวลากลับไปรับรู้ความเจ็บปวดสมัยเด็กอีกครั้ง แต่แล้วจู่ๆผมก็รู้สึกว่าความทุกข์ทุกอย่างเลือนหายไปความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเข้ามาแทนที่ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า คุณแม่มานั่งอยู่ข้างๆผมบนเตียงที่ผมนอน เหมือนกับว่าคุณแม่ลูบหัวผมและผมรู้สึกว่าคุณแม่จูบหน้าผากผม มันเป็นความอบอุ่นที่ผมไม่ได้สัมผัสมานานมาก ความทุกข์ต่างๆที่ผมได้เจอมามันก็หายเป็นปริบทิ้งเลยครับ
ผมไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่ลูบหัวผม คนที่จูบหน้าผากผมคือ แม่ฝ้าย
ตอนนี้5ทุ่มกว่าๆแล้วครับ ทุกคนคงจะนอนหลับกันหมดแล้ว ผมจึงค่อยๆย่องออกมาจากห้องตัวเองและเดินไปยังห้องของเธอคนนั้น ทันทีที่ผมเดินเข้าไปและปิดประตู เธอก็โผลเข้ามากอดผมในทันที
“ทำไมมาช้าจัง แพ็ทรอเหลียงทั้งคืนเลยนะ” แพ็ทกับผมด้วยน้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อย เป็นยัยแพ็ทครับ ที่ผมมาหาในคืนนี้ เพราะผมทั้งคิดถึงและอยากจะมีอะไรกับเธอมักๆ
“มาช้าดีกว่าไม่มานะจ๊ะ..งั้นเรามาเริ่มกันเถอะนะ”
“บ้า..พูดอะไรอ่ะ…แพ็ทเขินนะ” แพ็ทหันหน้าหนีด้วยความเอียงอาย ผมจึงจูงมือเธอมาที่เตียงและดึงเธอเข้ามากอดจูบและไซร้ตามซอกคอ จนเธอครางด้วยความเสียว
“อืมม…อืออ…ซนนักนะ…เดี๋ยวได้เจอดีทั้งคืนแน่!!…อ้าาาส” แพ็ทขู่ผมซะน่ารัก
“โถ่…อย่าพึ่งขู่กันซิ..มาให้เหลียงทำแพ็ทให้หายคิดถึงหน่อยนะ” ผมไม่รอคำตอบ จับเธอนอนลงกับเตียงและเข้าไปนอนคร่อมอยู่บนตัวเธอ ผมเลื่อนตัวลงไปค่อยๆดึงกางเกงนอนของเธอออก แพ็ทให้ความร่วมมือกับผมอย่างเต็มที่โดยการแอ่นตัวขึ้นเพื่อให้ผมสามารถจัดการกับกางเกงของเธอได้สะดวก เมื่อผมถอดมันออกมาได้ก็โยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี เผยให้เห็นกางเกงในสีครีมอ่อนๆของแพ็ทที่ สีครีมเป็นสีที่เธอชอบที่สุด และแน่นอนเมื่อเธอใส่กางเกงในสีครีม ชุดในของเธอก็ต้องสีครีมด้วย ผมแกะกระดุมเสื้อเธออย่างร้อนรน และก็โยนมันไปกองอยู่กับกางเกง เธอใส่ยกทรงสีครีมอย่างที่ผมกะเอาไว้ หน้าอกหน้าใจของเธอมันช่างอวบอิ่มเรียกได้ว่าพอๆกับพี่สาวของเธอเลยก็ว่าได้
“มองอะไรอยู่น่ะ…จะทำก็รีบทำสิ..มองแล้วมันจะหายเงี่ยนหรอไง” แพ็ทพูดกับผมอย่างไม่อายปาก เธอก็คงเกิดอารมณ์อยากมีเพศสัมพันธ์แล้วเหมือนกัน
“แพ็ทเงี่ยนแล้วใช่มั๊ย?” ผมคิดพิเรนขึ้นมาได้ ก็เลยถามเพื่อยั่วเธอ
“ถ…ถามอะไรน่ะ…แฟ็ทเป็นผู้หญิงนะ” แพ็ทค้อนผมอย่างน่ารักก่อนจะหลบสายตาผมด้วยความเขินอาย
“ตอบมาก่อนสิ..เงี่ยนหรือไม่เงี่ยน?” ผมย้ำเธออีกครั้ง
“แพ็ท…แพ็ท…แพ็ทเงี่ยนจะตายอยู่แล้ว!!…เงี้ยนตั้งแต่เห็นหน้าเหลียงน่ะแหละ!!…แล้วตกลงจะเย็ดได้หรือยัง!!” แพ็ทตอบผมอย่างจริงจัง
“จร้าๆ…เดี๋ยวเหลียงจะทำให้หายเงี่ยนเดี๋ยวนี้แหละ” ผมพดจบก็ดึงแกะบราของเธอออกแล้วก็โยนมันไปรวมกับพี่น้องของมัน(เสื้อกับกางเกง) ผมต้องตะลึงเมื่อได้เห็นเต้านมอันมโหฬารของเธอ มันใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้แฮะ มันขาวเนียนน่าสัมผัสน่าซุกไซร้ ยอดถันสีชมพูอ่อนๆน่าดูดจริงๆ แสดงว่าเธอคงจะดูแลมันเป็นอย่างดีสิเนี่ย
ผมก้มลงซุกไซร้ดังใจคิด ผมแลบลิ้นเลียบริเวณรอบยอดปทุมถันของเธอ จนเธอต้องร้องพร่ำเพ้อเพราะความเสียวสยิว
“ซีสสส…อ้าาา…ห…เหลียงงเสียวจัง..อือออ…อย่างนั้น..อ้าาา” แพ็ทเคลิบเคลิ้มกับการปลุกอารมณ์ใคร่ของเธอให้ลุกโชนเพื่อความมันในการร่วมเพศ
ผมเปลี่ยนมาใช้ปลายลิ้นเลียยอดปทุมถันของเธอและดูดมันอย่างคนหื่นกระหายอยากในกามอารมณ์
“คนบ้า…ซี๊สสสส…ไปตายอดตายอยากมาจากไหน..อ้าาาา..โอ้วววว” แพ็ทถึงกับต้องแอ่นตัวขึ้นเพราะความเสียวสยิวที่ผมปรนเปรอให้ ผมเลื่อนตัวลงมาจนหยุดอยู่ตรงกางเกงในตัวน้อยๆ ผมค่อยๆรูดมันลงจนผมพบกับเนินสวาทอันขาวเนียนสะอาด มีขนขึ้นแค่พองาม เธอคงจะดูแลมันเป็นอย่างดี ผมเริ่มจูโจมลงลิ้นในทันที
“อูวว..อ้าา…ล..เล่นแตดก่อนเลยหรอ…โอ้วววว…เสียวนะ…อ๊อยย…เหลียงจ๋าาา” แพ็ทถึงกับสะดุ้งเมื่อผมลงลิ้นที่เม็ดแตดของเธอเป็นที่แรก เสียงเธอฟังดูรวยรินแสดงถึงความเสียว
“อ..อืมมม…อ..อย่าเลียตรงนั้น..โอ้วววว…ซี๊สสสส… อ้าาา” ถึงปากเธอจะบอกห้าม แต่มือของเธอกลับกดหัวผมแน่น แถมเธอยังแอ่นเนินหีของเธอขึ้นมาป้อนถึงปากผมโดยที่ผมไม่ต้องก้ม เล่นเอาหน้าผมเปรอะไปด้วยน้ำเสียวของเธอ แพ็ทดูเหมือนว่าเธอจะติดอกติดใจลิ้นของผมเอามากๆเลยครับ ถึงขนาดกดหัวผมจ่อหีเธอไม่ยอมปล่อยมือเลย ผมชักจะหายใจไม่ค่อยสะดวกแล้วสิครับ ขืนปล่อยไว้แบบนี้ผมตายแน่ๆ ผมจึงลุกขึ้น
“เหลียงง..หยุดทำไมล่ะ..ซี๊สสส…กำลังเสียวหีเลยอ่ะ..ทำ…อุ๊บบบ!!…อืมมม..อืมมมมม…” แพ็ทพูดไม่ทันจบก็โดนอวัยวะขนาดใหญ่ของอุดเข้าไปเต็มๆปาก ผมนึกว่าเธอจะตกใจและคายมันทิ้ง แต่คราวนี้มันไม่เป็นอย่างที่ผมคาดไว้ครับ
“อ้าาา…อู้ววว…แพ็ทจ๋าา..ซี๊สสสส….อื้ออออ…ทำไมเก่งอย่างนี้…อ้าา” แพ็ทเธอกลับอมมันเข้าปากใช้ลิ้นเร็วเหมือนงูเลยครับ เล่นเอาผมเสียวสันหลังวาบจนต้องครางออกมา
“จ๊วบบบ…อืมมม…ใหญ่..ถึงใจ…อืมมม…จ๊วบบบๆ” แพ็ทไม่สนอะไรทั้งนั้น ตั้งหน้าตั้งตาโม๊กควยให้ผมอย่างสุดฝีปาก
“อ้า…พอก่อนเถอะแพ็ท..ซี๊สสสส…เดี๋ยวน้ำจะแตกซะก่อน…อ้าาาส” ผมต้องบอกให้หยุดใช้ปากกะทันหันครับ ไม่อย่างนั้นน้ำของผมคงแตกคาปากเธอแน่ๆ
“ฮิฮิ..ร้องอย่างกับจะโดนเชือด..” แพ็ทหัวเราะและพูดกับผมอย่างน่ารัก
“แพ็ทมาให้เหลียงลงโทษซะดีๆ…โทษหนักจะได้กลายเป็นหนักขึ้นไปอีก”
“ตาบ้า…เค้ามีแต่โทษหนักจะเป็นเบา..เหลียงกะจะเอาแพ็ททั้งคืนเลยหรอเนี่ย”
“ทำไมล่ะจ้ะ…แพ็ทไม่ชอบหรอที่จะโดนเหลียงเอาทั้งคืน” ผมพูดยั่วอารมณ์เงี่ยนของเธอ
“เหลียงจะเอาแพ็ททั้งคืนแพ็ทก็ยอม…มาซิคะ…หีสดๆรอผัวมาหลายวันแล้วนะ” แพ็ทนอนถ่างขาออกกว้าง และเธอค่อยๆใช้นิ้วแบะรูหีของเธอออก ก่อนที่จะส่งสายตายั่วยวนให้ผม ผมขยับเข้าไปอยู่ในตำแหน่งหว่างขาของเธอและจับเจ้าท่อนควยของผมจ่อที่ปากรูโยนีและเขี่ย2-3ทีก่อนที่จะขยับเอวไปข้างหน้า กดท่อนเนื้อที่กำลังแข็งได้ที่ สอดใส่เข้าไปในรูหีของเธอ
“ซี๊สสส…อืมมม..รอมาหลายวัน…อื้อออ…ด…ได้สมหวังก็วันนี้…โอ๊ยยย” แพ็ทร้องครางเพราะความเสียวที่ค่อยๆทะลวงผ่านรูหีเธอ ปากโยนีของเธอค่อยๆบานออกรับอวัยวะเพศชายขนาดใหญ่ ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความคับแน่นภายในโพรงหีของเธอ มันเป็นความรู้สึกที่ผมไม่ได้สัมผัสมานานหลายวัน ผมจึงแช่ท่อนควยของผมไว้ในโพรงหีของเธอสักพักก่อนที่จะออกแรงซอยเอวเนิบๆ เป็นการวอร์มเครื่องเพศของเราทั้งสองคน
“โอ้วววว…แรงๆ…อื้ออออ…แรงเลยค่ะ…อ๊อยยย…เย็ดแรงๆเลย..อ๊อยย” แพ็ทเร่งเร้าด้วยไฟแห่งกามอารมณ์ที่มิอาจจะควบคุมได้ ผมเริ่มเร่งจังหวะขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความเงี่ยนของเราทั้งคู่
“ฟิต…อื้อออ…ฟิตฉิบหาย…อึกกก!…อ้าาา…เย็ดมันควยจริงๆเว้ยยย!!” ผมเผลอสบถคำหยาบออกมาเพราะความมันจากการร่วมเพศอันแสนวิเศษ ผมยิ่งซอยเอวเร็วขึ้นไปอีก
“อ..อย่างนั้น…อ๊อยยย…โอ๊ยย…ล..ลืมให้เหลียงใช้ถุงยาง…มันถึงใจจัง…อ๊อยยย…เสียว” แพ็ทพูดพร้อมกับโน้มคอผมลงมาประกบปากกับเธออย่างเร่าร้อนที่สุด เธอถ่างขาออกกว้างมากขึ้นเพื่อให้ผมได้ทำรักเธอได้อย่างสะดวก
“อ๊อยยย…โอ้ยย…หีแพ็ท…อ๊อยยย…บานแน่แล้ว…อ๊อยยยย” แพ็ทแหงนหน้าหลับตาครางไม่เป็นภาษา ขาเธอเกี่ยวรัดเอวผมแน่นเหมือนไม่อยากให้ผมไปไหน มือของเธอจับหัวไหล่และจิกจนผมเจ็บ ผมเลื่อนลงมาจู่โจมดูดเลียยอดปทุมถันของเธออย่างเมามันกับความนุ่มนิ่ม ขณที่ท่อนล่างก็ยังคงกระหน่ำซอยเอวเย็ดเธอไม่หยุดยั้ง