น้องผิง ตอนที่ 9

น้องผิง ตอนที่ 9

น้องผิง ตอนที่ 9 – หวาน
…………………………..
Assasin008

 “ผิงตื่นได้แล้ว ตีห้าแล้วนะ กลับช้าเดี๋ยวแม่ผิงตื่นขึ้นมาก่อนหรอก”

ผมกดปิดนาฬิกาปลุก แล้วหันไปหอมแก้มนุ่ม ๆ ของน้องผิงเพื่อปลุกเธอ แต่แม่เด็กสาวมัธยมนมโตในอ้อมกอดผมส่งเสียงงึมงำเหมือนไม่อยากตื่น เธอยังกอดผมไว้แล้วซุกหน้าลงมาไหล่หลับตาพริ้มเหมือนเด็กสาวที่ไม่อยากตื่นจากฝันหวาน

ผมมองน้องผิงแล้วก็ยิ้มกริ่ม เมื่อคืนเธอแอบออกจากบ้านมาหาผมโดยที่แม่เธอไม่รู้ แล้วผมก็ได้เป็นผัวของเธอโดยสมบูรณ์ อืม ผมหมายถึงได้เย็ดสดแตกในนั่นล่ะครับ

เมื่อคืนผมกับน้องผิงเหมือนกับคู่รักในช่วงฮันนี่มูน ผมขย่มเธอบนโซฟาหน้าทีวีไปหนึ่งรอบ พาเธอไปล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำแล้วจัดไปอีกรอบ จากนั้นก็มาจบลงบนเตียงนอนนุ่ม ๆ อีกสองรอบ สรุปว่าผมแตกในใส่น้องผิงไปสี่รอบ ส่วน
เธอเสร็จคาควยผมไปประมาณแปดหรือเก้ารอบเห็นจะได้

ดีที่เด็กแก่นเซี้ยวอย่างน้องผิงบอกผมไว้ก่อนว่าเธอกินยาคุมเผื่อไว้ตั้งแต่วันแรกก่อนโดนผมเจาะไข่แดงแล้ว ผมก็เลยไม่ห่วงเรื่องท้องป่องสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าปล่อยสดแตกในได้เต็มที่นั่นแหละ

“ถ้ายังไม่ยอมตื่น เดี๋ยวพี่ก็ปล้ำอีกรอบซะหรอก เค้าว่ากินตับเด็กตอนเช้าแล้วสุขภาพดีซะด้วย”

เห็นเธอยังนอนนิ่งไม่ยอมตื่น ผมเลยขยับตัวจับเธอถ่างขาออกกะว่าจะกินเด็กอีกสักรอบ เพราะควยกำลังแข็งโด่เด่ตามปกติของตอนตื่นนอนพอดี โดนขู่เข้าแบบนี้ น้องผิงเลยลืมตาตื่นแล้วส่งเสียงร้องวี้ดว้ายประท้วงออกมา

“ว้าย ไม่เอาแล้ว เดี๋ยวผิงก็กลับบ้านไม่ไหวหรอก เมื่อคืนกระแทกจนผิงระบมไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ย พี่ยังมีแรงหื่นได้อีกเหรอ”

“ก็ผิงอยากสวยน่ารักทำไมล่ะ เห็นผิงทีไรพี่ก็ควยแข็งโด่ตลอดน่ะแหละ ขออีกรอบนะ”

ผมไม่สนเสียงประท้วง จัดการจูบไซร้ซอกคอน้องผิงจนเธอตัวอ่อนระทวย เธอเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรมากมาย ปล่อยให้บีบขยำเคล้นสองเต้าของเธอไปเรื่อยจนหัวนมเธอเริ่มแข็งขึ้นมาอีกรอบ ผมรู้ว่าในขณะที่ผมต้องการเธอ เธอก็ต้องการผมเหมือนกัน

“… พี่อ่ะ ชอบขี้โกง ปากหวานตลอด … อืมมม … พี่กายคะ … อูยยสสส เสียว … ถ้าจะทำก็รีบ ๆ ทำเหอะ”

ผมกระตุ้นจนเธอร้องครางขึ้นมาอีกรอบ ซึ่งจะว่าไปน้องผิงเป็นพวกไวต่อสัมผัสมากกว่าใครที่ผมเคยเจอมา เรียกได้ว่าแค่แตะนิดแตะหน่อยอารมณ์ของเธอก็พุ่งปรี๊ดเหมือนโยนถังแก๊ซเข้าไปในกองไฟแล้ว

พอเธอออกปากว่ายอม ผมก็เริ่มจับเธอไปอยู่ในท่าหมาคลานสี่ขา แล้วผมก็สอดใส่เข้าไปจากด้านหลัง พร้อมกับยื่นมือไปขยำเต้าอวบ ๆ ของเธอแล้วบีบจนเธอตัวกระตุก

ปั้ก ปั้ก ปั้ก เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังขึ้นเป็นจังหวะ เสียงน้องผิงร้องครางก็ดังออกมาพร้อมกัน เธอเริ่มเรียนรู้เด้งสะโพกเข้าสู้ แถมยังเริ่มเกร็งกล้ามเนื้อตอดเก่งขึ้นมาอีกหน่อย ผมก็เลยยิ่งเอายิ่งมัน ยิ่งกระแทกแรงขึ้นน้องผิงน้ำลายไหลย้อยออกจากปาก เธอคงจะเสียวมากทีเดียว เพราะท่านี้มันทะลวงลึกเข้าไปคนละแบบกับตอนเอาทางด้านหน้า

ยิ่งมองอาการตอบรับของน้องผิงผมก็ยิ่งหื่น ผมยอมรับเลยว่ารูเสียวของเด็กมัธยมปลายคนนี้สุดยอดมาก มันตอดสุด ๆ รัดสุด ๆ เสียวจนแทบลืมสาวคนอื่นไปเลย แถมน้องผิงเธอยังตอบสนองได้เร้าใจที่สุด โดนกระตุ้นหน่อยเดียวน้ำหล่อลื่นก็ไหลออกมาเยอะแยะ ได้เย็ดเธอคนเดียวนี่เสียวกว่าได้ลุยสาว ๆ สักสี่ห้าคนด้วยซ้ำ

ผมกระแทกใส่รัว ๆ อีกราวสิบนาที น้องผิงก็ส่งเสียงหวีดเสร็จนำไปก่อน ส่วนผมพอเริ่มโดนตอดหนักเข้าได้ไม่นาน ผมก็ตัวเกร็งกระฉูดน้ำเงี่ยนเข้าไปในร่องของน้องผิงตามไปติด ๆ

“เย็ดมันขนาดนี้ชักจะไม่อยากปล่อยให้กลับบ้านซะแล้วซิ จับขังไว้ในบ้านซะเลยดีกว่ามั้งเนี่ย พี่จะได้จับเย็ดเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน วันละสี่รอบ รอบละสี่ยก เอาซะให้หายอยาก”

ได้ปลดปล่อยแล้วผมก็โน้มตัวไปกอดน้องผิงที่นอนคว่ำหน้าบนเตียง ผมจูบแก้มที่ชุ่มเหงื่อของเธอแล้วพูดหยอกเล่นไปตามประสา

“แหวะ จะไหวเหรอคะ วันละสิบหกครั้งน่ะ หนูไม่เชื่อหรอก เดี๋ยวก็โดนหนูดูดน้ำหมดตัว ฟ้าเหลืองอ๋อยตัวซีดหรอก”

น้องผิงเบะหน้าพูดท้าทายทั้งที่ยังนอนหอบกระเส่าขยับตัวไม่ไหว ผมเลยหอมแก้มเธอแรง ๆ หนึ่งฟอด แล้วช่วยพยุงตัวเธอขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า เพราะดูเหมือนว่าตรงนั้นของเธอจะระบมจนเดินแทบไม่ไหว

“ไม่ต้องเช็ดออกก็ได้ค่ะ หนูอยากให้น้ำของพี่อยู่ในตัวหนูนาน ๆ”

เธอร้องห้ามตอนที่ผมหยิบเอากระดาษชำระมาเช็ดน้ำที่เพิ่งปล่อยเข้าไปออกมา แต่เธอปัดมือผมออกแล้วยิ้มเขิน จากนั้นก็หันไปพยายามใส่กางเกงด้วยตัวเอง สลับกับสูดปากร้องซี้ดเบา ๆ เพราะเจ็บที่กลางหว่างขา

ผมเห็นแล้วสงสารก็เลยช่วยใส่ให้ แล้วอุ้มเธอลงไปชั้นล่าง ประคองไปจนถึงประตูรั้ว แล้วค่อยให้เธอเดินกระโผลกกระเผลกเข้าบ้านไปด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากเสี่ยงให้แม่ของเธอเห็นเข้า

ผมยืนลุ้นมองน้องผิงเดินเข้าไปในบ้านอยู่พักใหญ่ ก่อนจะค่อยโล่งใจตอนที่เธอปิดประตูบ้านข้างในลงโดยที่แม่ของเธอน่าจะยังไม่รู้ตัว แล้วจังหวะนั้นเองที่ลุงดำยามประจำหมู่บ้านได้ปั่นจักรยานเข้ามายิ้มให้ผมแบบมีความนัย

“โอย คุณ เด็กสาวสมัยนี้ร้อนแรงจริง ๆ พับผ่าซิ ย่องไปหาผู้ชายกลางดึก แล้วออกมาตอนฟ้าสาง … จัดไปกี่ยกล่ะคุณ อย่าลืมกินยาคุมด้วยนะ เดี๋ยวท้องป่องล่ะแย่เลย นี่ถ้าเป็นผมสมัยหนุ่ม ๆ นะ น่าจะสิบยกขั้นต่ำ”

เจอหน้าปุ๊บลุงดำแกก็พูดเหมือนเพื่อนสนิททันที ผมฟังแล้วจะให้พูดตอบก็กะไรอยู่ แต่จะให้โกรธก็คงไม่ใช่เรื่อง

“สิบยกเหมือนกันนั่นล่ะลุง แต่ผมเห็นน้องเค้ายังเด็กอยู่ หอยยังไม่ค่อยแข็งแรง เลยจัดแตกในไปแค่นั้นก่อน ไม่งั้นวันนี้คงขาถ่างไปเรียนไม่ไหว”

ผมยืมคำพูดของลุงดำมาใช้ แถมยังพูดอวดโอ่ไปเรื่อย สำหรับผมคืนละสี่ห้าครั้งนี่พอไหว แต่ถ้าจะให้ครบสิบครั้งสงสัยจะได้หน้าซีดฟ้าเหลืองแน่ ๆ

“อูยยสส ฟังแล้วก็ยิ่งอิจฉานะคุณ หนูผิงแกสวยยังกะนางฟ้าตัวน้อย ๆ ผิวก็งาม นมก็ใหญ่ ผมว่าแกสวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นแล้วเนี่ย ขอถามหน่อย เย็ดมันมั้ยคุณ”

“… อะแฮ่ม เรื่องนี้ผมว่าลุงถามมากเกินไปแล้วนะ”

“งั้นลุงก็ขอโทษล่ะกัน ก็นะคนแก่อย่างลุงมันก็อยากรู้ไปเรื่อยแหละ อยากรู้ว่าเด็กสาวสมัยนี้มันเป็นยังไงกันบ้าง แต่ลุงดูโหงวเฮ้งแล้วท่าทางของหนูผิงแกจะโหนกนูนเย็ดมันน่าดู … เอาเถอะ ถ้าคุณไม่อยากคุยงั้นลุงก็ขอตัวล่ะ”

ลุงดำแสดงสีหน้าผิดหวังแต่ยังยิ้มจนเห็นฟันเหมือนเดิม จากนั้นแกก็ปั่นจักรยานจากไปพร้อมกับส่งเสียงฮัมเพลง … ผมรู้สึกเหมือนลุงแกจะคอยจับตาดูผมกับน้องผิงมากเกินไปสักหน่อยแล้วซิ

…………………………..

หลังจากส่งน้องผิงเรียบร้อย ผมก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปทำงาน เพราะตื่นขนาดนี้แล้วคงนอนไม่หลับอีก ผมนั่งรอดูจนกระทั่งเห็นมิ้งกับน้องผิงเดินกระเผลกออกมาจากบ้านก็แอบหัวเราะเบา ๆ ที่ริมหน้าต่าง

มีจังหวะหนึ่งที่น้องผิงมองค้อนมาทางผม แถมเธอยังเชิดหน้าใส่แล้วยกนิ้วกลางให้ผม เหมือนเธอจะรู้ว่าผมกำลังแอบดูและหัวเราะเธออยู่ ยัยตัวแสบรู้ดีไปซะทุกเรื่องเลยจริง ๆ

ผมรอจนสองแม่ลูกออกจากบ้าน แล้วผมก็เดินลงไปขับรถไปทำงานด้วยอารมณ์ดีสุด ๆ วันนั้นผมนั่งทำงานไปยิ้มไปทั้งวันจนมีคนทัก ผมก็เลยได้แต่หาข้ออ้างไปเรื่อย ไม่กล้าบอกหรอกว่าเพิ่งฟัดกับเมียเด็กมาทั้งคืนจนเต็มอิ่ม

ที่น่าหงุดหงิดหน่อยก็คือตอนบ่าย ๆ เสี่ยอ้วนโทรมาเจรจากับผมเรื่องมิ้ง ดูเหมือนเสี่ยจะยังพยายามไม่เลิก แต่ก็น่าแปลกที่เสี่ยพูดเหมือนไม่รู้ว่าเรื่องว่าผมรู้เรื่องที่เสี่ยร่วมมือกับเชอรี่มาหลอกผมแล้ว

แถมเสี่ยเหมือนจะยังไม่รู้เรื่องที่ผมได้เปิดซิงเชอรี่ไปเรียบร้อยแล้วด้วย เพราะเสี่ยยังพยายามเสนอตัวเชอรี่มาแลกกับมิ้ง ผมก็เลยได้แต่สงสัยว่าเชอรี่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเสี่ยหรือว่าอย่างไร

ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องราวเป็นยังไง แต่ผมก็ตอบปฏิเสธไปอย่างสุภาพ แล้ววางโทรศัพท์ ตอนนี้ผมกำลังคิดว่าอาจจะต้องทำอะไรสักอย่างให้มิ้งปลอดภัยกว่านี้ เพราะถ้าเสี่ยมันบ้าขึ้นมาจริง ๆ อาจจะทำเรื่องที่คาดไม่ถึงได้

ระหว่างที่กำลังคิดอยู่เพลิน ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกรอบ คราวนี้ผมมองชื่อคนโทรแล้วก็ตัดสินใจไม่รับ เพราะนั่นเป็นชื่อของเชอรี่ จิ้งจอกสาวจอมหลอกลวงที่ผมเกือบจะพลาดท่าให้นั่นเอง

ผมกดปิดเสียงโทรศัพท์ แล้วทำงานไปเรื่อย ๆ ไม่สนใจรับอีก จนกระทั่งตอนเย็นผมมาหยิบโทรศัพท์อีกรอบก็ต้องอึ้ง เพราะมีรายการบอกว่าเชอรี่โทรมาหาผมประมาณห้าสิบกว่าครั้ง แถมเธอยังส่งข้อความมาหาผมแบบซ้ำ ๆ อีกหลายสิบข้อความว่า ‘ขอโทษ’

ผมนั่งอึ้งไปพักใหญ่ แต่ตัดสินใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับเชอรี่จะดีกว่า ผมไม่รู้ว่าเธอจะมาไม้ไหน เธออาจจะหลอกอะไรผมอีกก็ได้ ซึ่งผมไม่อยากจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง ถึงเชอรี่จะสวยน่าฟัดขนาดไหน แต่ผมยังไม่อยากเล่นกับไฟ แถมช่วงนี้ผมยังมีมิ้งกับน้องผิงอยู่แล้วจึงไม่ขาดแคลนสาว ๆ … ผมตัดสินใจแล้ว ว่าจะไม่สนใจเชอรี่อีก

ตอนบ่ายผมนัดกับมิ้งไปทานข้าวเดินช้อปปิ้งในห้างไปตามเรื่องตามราว ผมดูแลเธอเหมือนกับแฟนสาวคนหนึ่ง ซื้อโน่นให้ซื้อนี่ให้ พาเธอไปกินของอร่อย ๆ มิ้งก็ดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด เธอคงจะโหยหาสิ่งนี้มานานพอดู

ตกเย็นผมให้มิ้งไปรับลูกสาวกลับบ้าน เธอขอนัดเจอกับผมตอนกลางคืน แต่ผมปฏิเสธบอกเธอไปว่าคืนนี้ผมมีนัดแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ได้โกหกผมมีนัดกับน้องผิงลูกสาวของเธอนั่นแหละ คู่รักในช่วงฮันนี่มูนอย่างผมกับน้องผิงนัดเจอกันอีกครั้งคืนนี้โดยที่แม่เธอไม่รู้

……………………………

“คืนนี้หนูไม่ไปหานะ หนูยังระบมอยู่เลย”

น้องผิงเด็กสาวมัธยมปลายพูดเสียงออดอ้อนผ่านสัญญาณโทรศัพท์มา ส่วนตัวเธอนั้นกำลังนั่งอยู่ในสวนหน้าบ้านมองผมที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่จากหน้าต่างชั้นบน

“อ้าว เป็นอะไรมากมั้ย กินยาหรือยัง?”

“ก็ระบมนิดหน่อย มันบวม ๆ นิดนึง แต่หนูถามเพื่อนแล้ว เพื่อนก็หายาแก้อักเสบมาให้กิน เพื่อนบอกว่าสักวันสองวันน่าจะหายดี”

“ถามเพื่อนเนี่ยนะ?”

ผมฟังน้องผิงเล่าแล้วก็เกิดอาการสงสัย ไม่คิดว่าน้องผิงจะกล้าคุยกับเพื่อนเรื่องโดนเปิดซิง แถมเพื่อนยังให้คำปรึกษามาเรียบร้อยอีกต่างหาก

“ค่า เพื่อนผิงเค้าโดนเปิดซิงเมื่อปีที่แล้ว ไม่ให้ถามเพื่อนแล้วจะถามใครล่ะคะ? … แต่เพื่อนบอกว่าเค้าโดนของไม่ใหญ่เท่าหนู แล้วก็โดนเปิดแค่ครั้งเดียว ก็เลยไม่ระบมเท่าของหนู”

“เอ่อ ก็ดีมั้ง … เด็กสมัยนี้ แก่แดดรู้ดีกันจริงเชียว”

“ฮึ ถ้าไม่แก่แดด ชาตินี้พี่ก็ไม่ได้เจาะไข่แดงหนูหรอก คงได้แต่แอบดูหนูเล่นน้ำแล้วชักว่าวช่วยตัวเองไปตลอดชาติ”

น้องผิงพูดใส่โทรศัพท์แล้วเชิดหน้าเล็กน้อยพองาม ผมฟังไปก็อมยิ้มไปกับความแก่นเซี้ยวของเธอ ซึ่งเธอก็พูดถูก หากว่าเธอไม่ได้เปิดทางให้ ผมก็คงไม่กล้าลงมือจีบ จนได้กินตับเด็กแบบนี้แน่ ๆ

“ฮ่า ฮ่า โอเค พี่ยอมรับ ถ้าผิงไม่ยั่วพี่ พี่ก็คงไม่กล้าจีบจริง ๆ นั่นแหละ”

“หนูไม่ได้ยั่วซะหน่อย พี่หื่นเองตะหาก โรคจิต ชอบแอบดูหนูอาบน้ำ”

“เอ้า ผิงก็รู้ว่าพี่แอบดู แล้วยังจะอาบน้ำให้ดูอีก แบบนี้เรียกว่าตั้งใจยั่ว”

“ไม่รู้ล่ะ สรุปว่าความผิดพี่นั่นแหละ ที่ทำให้หนูเป็นเด็กใจแตก ฮึ”

“แล้วไม่คิดว่าเป็นความผิดผิงบ้างเหรอ ที่มาอาบน้ำอวดขาอวดนมจนพี่ใจแตกน่ะ”

“ไม่รู้ไม่ชี้”

ผมพูดไปหัวเราะไป น้องผิงก็เถียงกลับมาแบบดื้อแพ่งไม่ยอมรับว่าเธอยั่วผม แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะรู้ว่าเธอก็แค่อยากเอาชนะสักหน่อย ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น

“แล้วผิงเริ่มชอบพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ไม่เห็นรู้ตัวเลย”

“ไม่รู้ค่ะ หลายอย่างมั้ง อยู่ ๆ ก็นึกชอบขึ้นมาเอง พอชอบแล้วโดนมองบ่อย ๆ หนูก็เลยมีอารมณ์ สรุปว่าความผิดพี่นั่นแหละที่ทำให้หนูใจแตก”

“โอเค สรุปว่าพี่ผิดเองที่ทำให้น้องผิงใจแตก งั้นคืนนี้ก็มาหาพี่อีกนะ พี่คิดถึง”

ผมยอมถอยให้เด็กสาวนมโตก้าวนึง เธอถึงค่อยยิ้มออกแล้วเชิดหน้ามามองผมที่หน้าต่าง

“หนูบอกพี่แล้วนี่นาว่าหนูยังระบมอยู่เลย วันนี้หนูก้าวขาเดินแต่ละครั้งนี่เจ็บจนน้ำตาแทบไหล ถ้าไปหาพี่มีหวังโดนเอาจนระบมหนักกว่าเดิมอีกแน่”

“มาเถอะนะ พี่แค่อยากนอนกอดเฉย ๆ ไม่ทำอะไรมากกว่านั้นหรอก”

ผมพูดเสียงออดอ้อน จนน้องผิงยิ้มแป้นดีใจ ตอนนี้ผมคิดแค่ว่าหลอกให้เธอมาหาก่อน หลังจากนั้นเธอก็เหมือนหมูในอวย ผมเล้าโลมสักหน่อยอ้อนเธอสักนิด เธอก็คงอ่อนระทวยปล่อยให้ผมทำอย่างที่ผมอยากทำเอง

“ไม่เอา พี่จะหลอกให้หนูยอมไปก่อน แล้วค่อยหาทางปล้ำหนูใช่มั้ยล่ะ หนูรู้ทันหรอก”

ผมแอบยิ้มไม่ทันไร ก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน เพราะยัยตัวแสบรู้ใจผมอีกแล้ว เธอเดาตรงเผงจนผมต้องยกมือเกาหัวแกรก ๆ เริ่มไม่แน่ใจว่าเธออ่านใจคนได้หรือยังไงกัน

“พูดอะไร พี่บอกว่าไม่ทำก็ไม่ทำซิ แค่อยากนอนกอดเฉย ๆ ”

“งั้นหนูไปหาก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาก่อน ว่าจะไม่แตะต้องตรงนั้นของหนูแม้แต่นิดเดียว”

“… เอ่อ ก็ได้ สัญญาก็ได้”

ผมอึ้งไปพักใหญ่ เพราะไม่อยากสัญญาด้วย แต่พอคิดไปว่าอย่างน้อยผมก็คงได้กอดจูบได้ลูบคลำเต้าใหญ่ ๆ ก็คงดีกว่านอนอย่างเดียวดาย … อ๊ะ … จะว่าไป ผมไม่ต้องแตะต้องตรงนั้นของผิงก็ได้นี่นา ยังมีที่อื่นให้เล่นอีก

“แอบยิ้มแบบนี้แสดงว่ามีแผนอะไรอีกแล้วใช่มั้ยคะ … หนูเดาว่าพี่คงวางแผนให้หนูใช้ปากโม้กควยให้ใช่มั้ยล่ะ”

“โธ่ ใช้ปากก็ไม่ได้เหรอ?”

“หนูไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย เราแค่สัญญาว่าห้ามแตะตรงนั้นของหนูเฉย ๆ ที่เหลือพี่อยากจะทำอะไรก็ทำซิคะ”

เธอพูดเจื้อยแจ้วเหมือนรู้ทันอีกครั้งจนผมสะอึก แล้วเธอก็วางสายโทรศัพท์วิ่งสะบัดก้นงอน ๆ เข้าบ้านไป ผมจึงแอบหัวเราะหึหึอย่างมีเลศนัย เธอไม่คัดค้านเรื่องให้เธอใช้ปาก ผมก็ยินดี แต่ว่าผมไม่ได้วางแผนไว้แค่นั้นหรอก ผมยังมีอะไรอย่างอื่นที่ทำได้อีก แต่เด็กสาวแก่นเซี้ยวอ่อนประสบการณ์อย่างเธอคงคาดไม่ถึง … คืนนี้สนุกแน่

………………………………..

Share the Post:

Related Posts

พรที่ขอในคืนวันลอยกระทง หลังโควิดระบาด

เรื่องเสียว พรที่ขอในคืนวันลอยกระทง หลังโควิดระบาด เขาเป็นผู้ชายที่เห็นหน้าครั้งแรกฉันก็มองได้อย่างไม่มีเบื่อเลยด้วยซ้ำ มันเป็นอะไรที่น่าประหลาด ที่ฉันจะชอบเขาขนาดนั้น และแสดงท่าทีออกไปเลยว่าต้องการ อยากได้ อยากเย็ด มันก็ไม่แปลกนี่ สมัยนี้ผู้หญิงมันก็ต้องลุกก่อนบ้าง ไม่มีใครอยู่เฉยๆ แล้วเรื่องเสียวๆ มันจะเกิดขึ้นเองหรอก งานลอยกระทงปีนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่เข้ามาร่วมเทศกาล หลังจากที่ไม่มีการจัดเทศกาลมาหลายปีแล้ว เพราะโควิดและ มาตรการจากทางรัฐบาล และชั้นที่โสดมานาน ก็ไม่คิดเลยว่าจะไปแอบติดใจผู้ชายที่คอยรับกระทง

Read More

นวล

เรื่องเสียว  นวล เรื่องที่แม่จะมีอะไรกับลูกชายน่ะนวลก็เคยนะจ๊ะ ตอนนั้นนวลอายุ 42 สามี 50 เรื่องของเรื่อง… ก็คือระยะหลังสามีนวลเริ่มมีปัญหา กำลังทดถอย อ่อนตัวไว แล้วก็หลั่งเร็ว ทำให้นวลก็รู้สึกเบื่อๆ ไม่ถึงใจ พอกำลังอารมณ์ดีๆ สามีก็มาชิงหนีนวลไปก่อน ปล่อยให้นวลค้าง ซึ่งสามีนวลคงรู้ แต่เขาก็ไม่ค่อย ที่ได้จะพยายามแก้ไขอะไร

Read More