จอมแพทย์นิรนาม ภาค 2 ตอนที่ 6
โดย ท่านกระปี่หัก
ภาพที่ไพลินเห็นพลอยเปลือยเปล่าอวดร่างที่อวบอิ่มขาวโพลนนอนหงายถ่างขา
ให้บ่อเมี้ยทำอะไร
บางอย่างหน้าของบ่อเมี้ยซุกไซร้ไปที่ระหว่างขาของพลอยนั้นสีหน้าของพลอยเต็มไปด้วยความ
เสียวซ่านกัดฟันหลับตาพริ้มหน้าแดง พลอยใช้มือกดไปที่หัวของบ่อเมี้ย
บ่อเมี้ยก็จับขาของนางถ่าง
เสียงที่ดังเบา ๆ แผลบ แผลบ แผลบ แผลบ ไพลินไม่คิดว่าพลอยจะใจกล้าขนาดนี้
แต่พวกนางคือคู่
แฝดสิ่งที่พลอยรู้สึกเธอก็รับรู้แม้จะไม่เท่ากับความรู้สึกจริงก็เถอะ
ตอนนี้ดอกไม้ของไพลินเปียกชุ่ม
อีกครั้งไพลิน
มือข้างซ้ายปิดปากตัวเองมือข้างขวาเขี่ยขึ้นลงที่ดอกไม้ของตนเองอีกครั้ง
ตาก็ดูไปที่
พลอย ซักพักบ่อเมี้ยเลื่อนตัวแทรกกลางเข้าไปดูดนมพร้อมใช้ลิ้นไปด้วย
เห็นพลอยกอดที่บ่อเมี้ยเงย
คออ้าปากร้องครางเบา ไพลินเห็นมือบ่อเมี้ยทั้งบีบทั้งเขี่ยวุ่นวายไปหมด
ซักพักไพลินเห็นบางอย่าง
ในตัวบ่อเมี้ยกำลังนำบางสิ่งที่ดูเหมือนแข็งเป็นลำเขี่ยไปที่ดอกไม้ของพลอยเขี่ยขึ้นเขี่ยลงไพลินคิด
ในใจมันจะเข้าไปได้หรือนี่ แต่สิ่งที่เห็นเจ้าแท่งนั้นค่อยๆ
เข้าความรู้สึกเจ็บแปลบสู่ร่างของไพลิน
ไพลินคิดว่าพลอยเองก็ต้องรู้สึกเจ็บแน่แต่จะเจ็บขนาดไหนนะแล้วความรู้สึกเสียวสะท้านแบบนี้อืม
รู้สึกแปลกๆจริงเลย ไพลินเห็นพลอยกัดไปที่ไหล่ของบ่อเมี้ยจนเลือดไหลซึมออกมา
เจ้าแท่งนั้น
ค่อยๆผลุบเข้าผลุบออกจากดอกไม้ของพลอย จากช้าๆเป็นเร็วจนได้ยินเสียง พับ พับ
พับ พลอยจาก
จิกและกัดเปลี่ยนเป็นกอดและคราง ไพลินเองก็เร่งที่นิ้วตัวเองจนไม่ไหว
อาเสียวจนเหมือนมีอะไร
มาช๊อตทั่วร่าง มีบางสิ่งบางอย่างหลุดเบาโหวง อือ
เสร็จไปอีกรอบล่ะแต่ตายังดูภาพข้างหน้าอย่าง
ไม่วางตา บ่อเมี้ยยังเร่งความเร็วไพลินรู้ได้ทันทีว่าพลอยเองก็ถึงแล้ว
บ่อเมี้ยชักเจ้าแท่งนั้นออกมา
ภาพที่ไพลินเห็นดอกไม้งามดอกนั้นเป็นรูโบ๋วมีน้ำผสมเลือดไหลออกมาด้วย
แต่เห็นบ่อเมี้ยจับ
พลอยหันหลังคุกเข่าคลานสี่ขา แล้วบ่อเมี้ยก็นำเจ้าแท่งนั้นเข้าข้างหลัง อา
เสียงของพลอยเต็มไป
ด้วยความเย้ายวนมือของพลอยขยุ้มไปที่หญ้าไพลินเองก็รับรู้ถึงความเสียวของแฝด
ไพลินเองก็ตื่น
ตาตื่นใจเพราะสิ่งที่เห็นไม่เคยเห็นมาก่อนสร้างความเสียวซ่านแก่นางอย่างบอกไม่ถูก
และไม่รู้ตัว
มือนางกลับไปที่ดอกไม้เริ่มลูบและเขี่ยอีกครั้ง เสียงการกระแทกกระทั้น พับ พับ
พับ พับ ดังอยู่เพื่ม
อรรถรสในการดูเป็นอย่างมากยิ่งไพลินดูจากด้านหลังที่บ่อเมี้ยและพลอยประกอบกิจภาพการผลุบ
เข้าออกจึงชัดเจนขึ้น
ซักพักเห็นบ่อเมี้ยเงยหน้าจับเอวเร่งความเร็วมากขึ้นไพลินรับรู้ด้วยสัญชาติ
ญาณว่าต้องมีบางสิ่งใกล้จุดสิ้นสุดแล้วรวมทั้งไพลินด้วย
แล้วทั้งคู่ก็หยุดลงเหมือนปลดปล่อยอะรัย
บางอย่างทั้งคู่ดูผ่อนคลายแต่ยังคงค้างท่านั้นไว้ไพลินเห็นพลอยหันหน้ามาดูแต่ทั้งคู่ยังคงค้างท่านั้น
ซักพักก็มีไอควันขึ้นจากร่างทั้งสองไพลินไม่เข้าใจแต่คิดว่าเหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นเสียวได้ผ่านพ้น
ไปแล้ว ไพลินจึงค่อยๆถอยออกมาไม่ให้มีเสียง
ค่อยๆกลับไปที่นอนข้างๆมุกหงส์อย่างอ่อนเรี่ยว
อ่อนแรงและหลับไปโดยปล่อยให้กางเกงเปียกชุ่มอย่างนั้น
ตอนเช้ามุกหงส์ตื่นมาแต่เช้าด้วยความเคยชินที่ถูกฝึกตั้งแต่เล็กเมื่อคืนทั้งความหวาดกลัว
ความตื่นเต้น และความรู้สึกนานาประการ
ทำให้มุกหงส์รู้สึกเพลียจึงหลับแต่วันไม่รับรู้เรื่องราว
ใดๆเมื่อลุกขึ้นนั่งเห็นไพลินนอนข้างยังหลับสนิท
แต่กลิ่นไพลินมีกลิ่นแปลกๆแต่ก็ช่างเถอะในป่า
ในเขาหาใช่ในเมืองจะได้มีกลิ่นหอมตลอดเวลา มุกหงส์มองหาน้องสาวอีกคน
แต่พลอยหาอยู่แถวนี้
ไม่
เป็นไปได้ว่าอาจไปดูแลท่านหมอ ศิษย์พี่ ก็ได้ มุกหงส์จึงเดินเปิดม่าน ภาพที่พบ
…………พลอย
นั่งขัดสมาธิ โดยมีบ่อ บ่อเมี้ยนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงกันข้ามเสื้อผ้าพลอยมีรอยยับ
บ้าง คงเป็นการนอน
การดินกลางทรายก็แบบนี้
แต่ที่น่าแปลกใจที่พลอยไม่มีพลังวัตรทำไมถึงมานั่งสมาธิเดินลมปราณ
นางหยุดดูซักพักก็ออกไปเพื่อไปทำกิจวัตรประจำวัน
นางที่ไม่ร้องเรียกเพราะคนเดินลมปราณถือสา
การรบกวนเป็นอย่างมากเพียงรู้สึกอิจฉาแต่ก็ดีใจกับน้องที่สามารถเดินลมปราณได้คงได้รับความ
ช่วยเหลือจากศิษย์พี่แน่นอน มุกหงส์
คิดถึงชายหนุ่มรูปงามที่เข้ามาในชีวิตของนาง ท่าทางเรียบร้อย
หน้าตาดี แต่ถ้าเมื่อใดที่ยิ้ม
สิ่งใดใดในหล้าลืมเลือนหมดสิ้นจะจำได้แต่รอยยิ้มของเขาเท่านั้น มุก
หงส์ล้างหน้าตาเสร็จก็ยืนยิ้มคนเดียวข้างทะเลสาบนั้น
จนมีเสียงหนึ่งที่ทำให้นางสะดุ้งจนตัวลอย
“ม่วย ม่วย ตื่นแต่เช้าจังน่ะ” “อ้าวศิษย์พี่ ค่อยยังช่วยแล้วหรือค่ะ
เมื่อคืนม่วยใจไม่ดีเลยเห็นศิษย์พี่
สลบไปอย่างนั้น”มุกหงส์หลังจากหายตกใจจึงตอบบ่อเมี้ยไป
“จริงๆศิษย์พี่ก็ไม่รอดแล้วละ แต่โชด
ดีที่พลอยช่วยไว้จึงรอดกลับมาหาม่วยได้อ่ะ” (รอดกลับมาหาม่วย
แค่ฟังคำนี้มุกหงส์ก็หน้าแดง
ทำไมต้องกลับมาหาเราด้วยล่ะ) ”
เอ่อ….แล้วพลอยเขาช่วยยังไงไว้คราวหน้ามุกหงส์จะได้จำเอาไป
เผื่อช่วยใครบ้าง”
“ก็การเช็ดตัวของพลอยทำให้จุดที่คั่งค้างของศิษย์พี่คลายโดยไม่รู้ตัว”
“ศิษย์พี่
เลยถ่ายทอดลมปราณแก่พลอยเป็นการตอบแทน”น้ำเสียงของมุกหงส์มีร่องรอยของการงอนๆ
เล็กน้อย บ่อเมี้ยได้แต่ยิ้ม
แค่ยิ้มมุกหงส์ก็ลืมคำถามที่มากมายมองอย่างตะลึงตะลานจนต้องก้มหน้า
หน้าแดงไม่รู้ตัว “เอ่อ..
..ตามตำราที่ซือแป๋ศิษย์พี่บอกว่าการถ่ายพลังจะทำให้ผู้ที่ถ่ายพลังวัตรจะลด
หายไปตามพลังวัตรที่ถ่ายไปและเมื่อถ่ายพลังเสร็จสิ้นการฟื้นตัวต้องใช่เวลาถึงสามวันแต่ศิษย์พี่…..”
มุกหงส์พูดจบก็ชำเลืองตากลมโตมองมาที่ชายหนุ่มที่ยังยืมยิ้มอยู่อย่างอยากรู้คำตอบ
เพราะชายหนุ่ม
นอกจากไม่อ่อนแรงจากถ่ายทอดพลังยังดูคึกคักแจ่มใสกว่าเดิมเสียอีก “หึ หึ
ไม่รู้จะบอกมุกยังไง
ข้าพเจ้ามีลมปราณสองสายร้อนและเย็นผิดแปลกชาวบ้านมาตั้งแต่เกิด
กระบวนการถ่ายทอดพลังก็
ไม่ต้องทำอย่างนั้นซึ่งเป็นการถ่ายทอดฝ่ายเดียว
แต่ต้องร่วมกันเดินลมปราณต่างหาก” “ข้าพเจ้าไม่
เข้าใจจากที่ศิษย์พี่กล่าวมาการเดินลมปราณร่วมกัน
นับว่าเป็นการฉีกตำราที่ข้าพเจ้าเคยอ่านมาโดย
สิ้นเชิง ศิษย์พี่พอจะถ่ายทอดลมปราณให้ม่วยม่วยได้ไหม
การเดินทางจะได้สะดวกไม่เหน็ดเหนื่อย
แบบนี้อีก” มุกหงส์ร้องขอในสิ่งที่ตัวเองปรารถนามานานแล้ว
นางมีความเฉลียวฉลาดรู้ถึงวิทยา
ยุทธ์ทั่วแผ่นดินแต่นางหามีลมปราณพอที่จะฝึกไม่เปรียบเป็นลิงได้แก้วจริงๆ
และมีชายหนุ่มที่มี
คุณสมบัติในการที่ทำให้เธอสมหวังมีหรือที่เธอจะไม่คว้าเอาไว้
“เอ่อ….เอ่อ…ยัง…เอ่อ ยังไม่ถึงเวลา
ของมุกไว้ให้มุกแน่ใจแล้วกอกอจะให้ไม่เก็บรั้ง….”บ่อเมี้ยตอบตะกุกตะกัก
ถ้ามุกหงส์รู้ว่าวิธี
ถ่ายทอดพลังที่มีแต่บ่อเมี้ยทำได้จะทำหน้ายังไง
มุกหงส์ทำสีหน้าไม่พอใจแต่แวบเดียวก็กลับเป็น
เหมือนเดิมในใจคิดว่าต้องมีเรื่องบางอย่างปิดบังแน่ๆแล้วทำไมพลอยถึงได้ช่างไม่น่าเข้าใจจริง
“มุก
หงส์ ท่านเคยเรียนรู้เรื่องความเหมาะสมของเวลาไหม
แม้บางทีเราพร้อมทุกอย่างแต่เมื่อเวลาไม่
เหมาะสมแทนที่จะเป็นเรื่องดีกับถูกขัดขวางนานาประการ”บ่อเมี้ยรีบตอบทันทีที่เห็นสีหน้าของมุก
หงส์
นั้นแหละสีหน้าของมุกหงส์จึงพยักหน้าอย่างเข้าใจแต่ก็อดเสียดายไม่ได้เท่านั้น
นางคิดว่าคง
เป็นเรื่องที่ซือแป๋อบรมไว้ว่าการถ่ายทอดพลังไม่สามารถทำในเวลาใกล้เคียงกันมั้ง
“งั้นในโอกาส
หน้าศิษย์พี่จะยอมถ่ายทอดให้ข้าพเจ้าหรือไม่”นางมองด้วยสายตากลมโตสีหน้าเต็มไปด้วย
ความหวัง
“ได้ซี…..เพียงแต่ลมปราณจะถ่ายทอดสำเร็จหรือไม่ผู้ถูกถ่ายทอดต้องรู้สึกดีกับผู้ถ่ายทอด
ด้วยนะ…แล้วตอนนี้รู้สึกดีกับคนที่จะถ่ายทอดหรือยังล่ะ”
เล่นถามกันตรงๆแบบนี้มุกหงส์ก็ก้มหน้า
หน้าแดงปากพึมพำเบาแต่ไม่อาจรอดพ้นจากบ่อเมี้ยได้ว่า ไม่รุ้
บ่อเมี้ยจึงได้แต่หัวเราะออกมา
มุกหงส์ยิ่งหน้าแดงสักพักเดินหนีเข้าที่พักไปปล่อยให้บ่อเมี้ยยืนอยู่ลำพัง
“กอกอ อารมณ์ดีเชียวน่ะ
ไปแหย่เจ้เจ้เห็นหน้าแดงยิ้มไปตลอดเลย” บ่อเมี้ยหันไปตามเสียงอือชุดเขียว
พลอยนี่เอง “อือ ที่รัก
มาให้กอกอกอดที”
นางทำหน้าลังเลวูบหนึ่งแต่ก็เดินไปให้บ่อเมี้ยกอดบ่อเมี้ยก็จูบไปที่ซอกคอ
พลอยดูสั่นเล็กน้อย “พลอยยังเจ็บอยู่รึเปล่า”
“กอกอปล่อยก่อนเดี๋ยวไพลินกับเจ้มาเห็นเค้า” “งั้น
บอกมาก่อนซี” “ก็นิดหน่อยแต่….แต่…..”
นางหน้าแดงบ่อเมี้ยคิดว่านี่ละมั้งที่เรียกว่าน้ำผึ้งพระจันทร์
แต่ไม่คิดว่านางจะมีความต้องการเร็วขนาดนี้
“ท่านคิดไปไหนนี่ข้าพเจ้าอยากให้ท่านสอนวิธีการ
ดำรงชีวิตในป่า….” “อ้าวแล้วไม่บอก กอกอก็คิดว่าพลอยคิดถึงกอกอนะซี ..” “บ้า
กอกอลามก”
บ่อเมี้ยหัวเราะนางดิ้นหนีในอ้อมกอดและเร่งรัดให้บ่อเมี้ยช่วยสอนเร็วๆ
บ่อเมี้ยบอกว่าได้แต่ต้อง
ถามอีกสองสาวก่อนทั้งสองเดินเข้ามาที่พักและบอกว่าจะพาพลอยไปสอนวิธีการดำรงชีวิตในป่า
สองสาวสนใจจะไปด้วยหรือไม่ ไพลินมองหน้าบ่อเมี้ยแล้วส่ายหน้าบอกอยากนอนต่อ
ส่วนมุกหงส์
ยังไม่หายหน้าแดงเลยไม่กล้าไปบอกจะอยู่เป็นเพื่อนไพลินให้บ่อเมี้ยสอนพลอยก็เหมือนสอน
ทั้งหมดอยู่แล้ว
บ่อเมี้ยเลยสอนการวางค่ายกลแก่มุกหงส์นางก็เรียนรู้อย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็ใน
ช่วงเวลานี้ก็ปลอดภัยจากสัตว์ร้ายและคนในช่วงเวลาหนึ่งแน่
ตลอดเดินทางไปกับพลอยบ่อเมี้ยก็
สอนโดยไม่ออมรั้งผมไม้ไหนกินไหนกินไม่ได้ ต้นไม้ดูแล้วมีแหล่งน้ำ
ต้นไม่ที่มีเถาวัลย์ไหนที่มีน้ำ
สัตว์แมลงแบบไหนใกล้มันแล้วมันมีพิษ แบบไหนไม่เป็นอันตราย
พลอยก็สามารถเรียนรู้ได้อย่าง
รวดเร็วบ่อเมี้ยนึกในใจว่าจริงๆแล้วสามสาวมีความเฉลียวฉลาดเพียงแต่สนในเรื่องไหนเท่านั้นมุกนี่
สนในในวิชายุทธ์
พลอยนี่สนในการดำรงชีพในป่าแล้วไพลินสนอะไรคงต้องถามเมื่อมีโอกาสซักที
ระหว่างเดินชมดูอยู่พลอยก็เห็นดอกไม้สวยงามมาเป็นสีเหลืองทั้งดอกนางจึงหยุดมองและเดินเอื้อม
มือไปคว้าดอกนั้น “พลอยนั้นไม่ได้”
ช้าไปซะแล้วพุ่มไม้นั้นบังหน้าผาทำให้พลอยตกลงไป…กรี๊ด
………บ่อเมี้ยคว้าเถาวัลย์กระโดดตามไป ควับ บ่อเมี้ยคว้าเอวของนาง
นางพอรู้ว่าบ่อเมี้ยตามมาช่วย
นางสีหน้าที่ตระหนกของนางค่อยสงบลงกอดไปที่คอของบ่อเมี้ยปากพร่ำร้อง กอกอ กอ กอ
บ่อเมี้ย
กระซิบที่ข้างหูนางบอกไม่เป็นไรมีกอกออยู่ด้วยไม่ต้องกลัว
บ่อเมี้ยค่อยสาวเถาวัลย์ไปตำแหน่ง
ชะง่อนผาพอเหยียบได้
พลอยก็ไม่ปล่อยมือกับหันหน้ามาหาบ่อเมี้ยและจูบไปที่ปากของบ่อเมี้ย
แบบแมงปอเกาะแผ่วเบานิ่มนวล
หน้าอกและสะโพกของพลอยก็เสียดสีที่ร่างกายของบ่อเมี้ย
บ่อเมี้ยจึงจูบตอบโดยการส่งลิ้นเข้าไปในปากนางนางได้แต่ร้องอืมในลำคอ
บ่อเมี้ยค่อยจูบไปที่ซอก
คออันขาวละมุนของนางมืออีกข้างลูบไปที่สะโพงอันผายอวบอิ่มนิ่มมือนางได้แต่หลับตาพริ้มร้อง
อา
บ่อเมี้ยใช้ลูบเบาๆที่ก้นอันงามงอนวกมาข้างหน้ามาดอกไม้ที่งดงามขนาดเต่าย่อมๆ
จนนางต้อง
เงยหน้าสูดปากร้องซีดด้วยความเสียวซ่าน
กางเกงของพลอยถูกปลดจากสายรัดบ่อเมี้ยถอดออกจาก
ขาของพลอยเพียงข้างเดียวเพื่อไม่ให้กางเกงตกหน้าผาไป
จากนั้นมือปีศาจได้เข้าไปสำรวจถ้ำ พลอย
สะดุ้งร้องซีดเล็กน้อยจากสิ่งที่ลุกล้ำเข้ามาแม้เพียงแค่ปากถ้ำก็ตามบ่อเมี้ยบอกเจอของวิเศษอีกแล้ว
ทั้งๆทีเมื่อคืนทำการเบิกถ้ำแล้วแต่วันนี้กลับสนิทแน่นเหมือนไม่เคย
บ่อเมี้ยก็เขี่ยขึ้นทั้งแหย่ไปที่
เกสรของนางอย่างมีจังหวะนางได้แต่ร้องซีด ซาด ตามจังหวะ บางครั้งยังเผลอร้องอา
อา ออกมา
เสียงนางช่างเย้ายวนจริงจนร่างนางกระตุกปากร้องอาดังๆ
มือข้างหนึ่งของนางมาจับมือบ่อเมี้ยไว้
แสดงว่านางเสร็จนิ้วไปแล้ว
บ่อเมี้ยจึงปลดกางเกงของตนจับขานางกอดที่เอวจากนั้นก็ใช้แท่งหยก
ค่อยๆกดรูถ้ำที่เคยเข้าไปเมื่อคืนอีกครั้ง
…….แต่แค่เข้าไปที่เงี่ยงแท่งหยกนางร้องโอ้ยพร้อมมากัด
ไหล่ข้างขวาดันตัวเหมือนจะหนี
บ่อเมี้ยเลยค้างไว้นิดแล้วค่อยแทงเข้าไปจากน้ำหนักของตัวพลอย
ท่าลิงอุ้มแตงนี้จึงเป็นท่าที่เข้าลึกที่สุดแต่ถ้ำที่คับแน่นยังไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดเข้ามา
ทำให้บ่อเมี้ยรู้
ทันทีว่านางไม่ใช่พลอย “ไพลิน” “กอกอ ซีด กอกอซีด” อูย นางครางน้ำตาไหล
ทั้งเจ็บทั้งเสียว
เข้าใจผิดส่วนเข้าใจผิด บ่อเมี้ยตอนนี้เด้งซอยเข้าจากช้าๆก็มาเร็ว
นางเองเมื่อบ่อเมี้ยเด้งขึ้นลงน้ำหนัก
ตัวของนางเป็นส่วนช่วยในการเด้งซอยครั้งนี้เป็นอย่างมากนางจึงคราง อา อา อา
อย่างไม่หยุด ซัก
พักนางก็ร้องดังหมายถึงนางถึงแล้วแต่การซอยหน้าผาเหมือนอยู่ในอากาศบ่อเมี้ยก็ยังไม่หยุดซอย
แต่เร่งจังหวะสุดท้ายบ่อเมี้ยก็ถึงจึงฉีดพุ่งเข้าถ้ำอย่างแรงไพลินก็เผลอสะดุ้งเสร็จอีกครั้ง
คราวนี้
บ่อเมี้ยใช้ลมปราณร้อนเย็นถ่ายทอดเพื่อไปคลายจุดที่คั่งค้างของไพลินดั่งที่เคยทำกับพลอยมาแล้ว
ถ้ามองไกลภาพที่เห็นมีชายหญิงห้อยจากหน้าผารอบร่างเต็มไปด้วยควันไอสีขาวพวยพุ่งเต็มไปหมด