หนูกับน้องชายจอมทะลึ่ง ตอนที่ 13/1

หนูกับน้องชายจอมทะลึ่ง ตอนที่ 13/1

หนูกับน้องชายจอมทะลึ่ง ตอนที่ 13/1

     หนูกลับไปทำงานได้ 2 วันหนูก็ถูกเรียกเข้าที่ประชุมคณะผู้บริหาร แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรหนูจัดเตรียมข้อมูลที่จะต้องรายงานตามปกติ แต่การประชุมครั้งนี้บรรยากาศเปลี่ยนไป เมื่อประธานที่ประชุมกล่าวเปิดก็เข้าวาระการประชุมตามปกติ ก็ว่ากันไปตามเนื้องาน พอมาถึงเรื่องเกี่ยวกับเครื่องจักรหนูก็รายงานพร้อมด้วยสถิติ
ต่างๆที่ดำเนินการอยู่ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
ประธานแจ้งที่ประชุมว่าปีหน้าเราจะสั่งเครื่องการผลิตชุดใหม่ที่ทันสมัยมาก หนูก็รับฟังพร้อมดูรายละเอียดที่ขึ้นบนจออย่างตื่นเต้น ท่านกลับหันมาถามหนู
“ชลธิชา..ดูรายละเอียดบนจอแล้วคิดว่าไง..” ท่านเรียกชื่อจริงของหนู สายตาผู้เข้าประชุมทั้งห้องจ้องหนูเป็นตาเดียว
“เท่าที่เห็นคร่าวๆเป็นรุ่นล่าสุด มีประสิทธิ์มากกว่าที่เราใช้อยู่เกิน 5 เท่า” ท่านประธานพยักหน้ายิ้มๆ
“ก็ตามที่ชลธิชาบอก การลงทุนครั้งนี้เรามีเป้าหมายที่การตลาดในเออีซี อย่างที่เราผลิตกันอยู่นี่ขายในประเทศก็แทบจะผลิตไม่ทัน ถ้าไม่เอาเครื่องจักรและเทคโนโลยีมาใช้ เห็นทีเราจะเสียการค้าให้กับเวียตนามที่กำลังมาแรง” ทุกคนต่างเห็นด้วยและสนับสนุน

“ในกระบวนการสั่งซื้อ
เครื่องจักรมีการพ่วงการอบรมเวลา 18 เดือนที่ศูนย์ฝึกอบรมบริษัทแม่ที่โตเกี่ยว ญี่ปุ่น…”
“ท่านประธานมีใครในใจหรือเปล่า…” ผู้เข้าประชุมท่านหนึ่งถาม
ท่านประธานส่ายหน้า แล้วหันไปถาม
“ฝ่ายบุคคลจะเสนอใครหรือเปล่า…”
“ไม่ทราบเราจะส่งไปจำนวนกี่คนคะ…” หัวหน้าฝ่ายบุคคลถาม
“คนเดียว..แล้วค่อยกลับมาถ่ายทอดให้ผู้ร่วมงาน เรียนจบกลับมาพอดีกับการติดเครื่องจักรเสร็จหรือใกล้เสร็จ…”
“ถ้างั้นขอเสนอ 2 คน วินัย กับ ชลธิชา ให้ท่านประธานพิจารณาค่ะ”
“งั้นคุณเอาแฟ้มของทั้ง 2 คนนี้ส่งให้ผมหลังการประชุมนะ…”
หนูตะลึงซิอยู่ๆก็ถูกเสนอชื่อเข้ารับการอบรม คนควรไปน่าจะเป็นพี่หนึ่งหรือพี่วินัยหัวหน้าหนูมากกว่า พอดีวันนี้พี่หนึ่งลา ไม่งั้นคงมาร่วมประชุมพร้อมกับหนู

หลังประชุมเสร็จหนูกลับมาตรวจงาน เดินดูความเรียบร้อยแล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงาน พอนั่งได้ซักครู่เสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังขึ้น หนูยื่นมือไปรับ
“สวัสดีค่ะ ชลธิชาพูดสายค่ะ..”
“ผม…นะ…”
“ค่ะ..ท่านประธาน…”
“ผมเลือกคุณไปเข้าอบรมนะ..” หนูอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพี่หนึ่งละหนูสงสัยจนต้องถาม
“ท่านประธานหนูเรียนถามเหตุผล คนที่ควรจได้รับการพิจารณาน่าจะพี่วินัยอีกอย่างพี่วินัยเป็นหัวหน้าหนู”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมโทรไปคุยกับวินัยแล้ว เค้าก็สนับสนุนคุณให้คุณไป ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกไม่มีปัญหาอะไรแน่…”
“ค่ะ…คือหนูตกใจนะคะ…”
“มันกระทันหันไปหน่อย ทางฝ่ายบุคคลจะจัดการเรื่องการเดินทางให้เรียบร้อย รายละเอียดและค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางบริษัทจะออกให้ เงินเดือนและโอทีเฉลี่ยทางเราจะจ่ายให้ด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายที่ระหว่างอบรมบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ยกเว้นแต่ค่าช๊อปปิ้ง รับรองว่าหนูไม่เดือดร้อนแน่นอน” เสียงท่านพูดอย่างมีเมตตา โห..หนูอุทานในใจ นี่ประกันโอทีหนึ่งปีครึ่ง
“ชลธิชามีปัญหาอะไรหรือเปล่า…”
“ไม่มีค่ะ..แต่มันตกใจ ไม่ได้เตรียมตัว…”
“ดิวนี้พึ่งคุยจบเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ทางโน้นเสนอการอบรมเพิ่มมาให้ แต่ช่วงแรกจะมีผู้เชี่ยวชาญทางเขามาประจำอยู่ประมาณ 6 เดือน เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องห่วงว่าจะโดดเดี่ยว”
“ค่ะ..หนูกังวลนิดหน่อย…”
“สบายใจได้…ขอเพียงหนูเก็บเกี่ยวความรู้มาทำงานได้เต็มที่…โทร.หาผมได้ตลอดนะหนู..”
“หนูกราบขอบคุณท่านมากค่ะ…”
“ไม่ต้องกังวลนะ ผลการเรียนหนูอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม ภาษาก็ดีนี่นา”
“ค่ะ…”
“กังวลจะต้องไปอยู่เมืองนอกหรือเปล่า…”
“ก็มีบ้าง แต่หนูเป็นคนสู้ค่ะ…”
“หนูร่วมกับวินัยแก้ปัญหาเรื่องแรงงาน ยอดเยี่ยมมากเลย ทำบริษัทเราผ่านพ้นวิกฤตไปได้ด้วยดี ผมขอบคุณหนูอีกครั้งนะ…”
“ค่ะ..ก็พยายามกันเต็มที่ละ บริษัทอยู่ได้พวกเราก็อยู่ได้พวกเค้าก็พอเข้าใจ…ตัวปัญหามีไม่กี่คนหรอกค่ะ…” เรื่องงานแล้วหนูพูดได้เสียงใส
“เตรียมตัวได้เลยนะ..ผมจะส่งเลขาของผมไปช่วยหนูเรื่องรายละเอียดต่างๆนะ…”
“ค่ะ..กราบของคุณท่านมาก…”
“ไม่เป็นไรหนู…อยู่กับผมนานๆนะ…”
“ค่ะ…” หนูถึงกับเบลอไปเลย

ไหนจะงาน ไหนจะต้องเตรียมตัวไปอบรมเรียกว่ายุ่งสุดๆ หนูไม่ได้กลับบ้านเลย เจ้าแสบและพี่เทพโทรมาคุยบ่อย พอได้ข่าวว่าหนูจะต้องไปอบรมที่ญี่ปุ่นต่างก็ดีใจด้วยแต่พออยู่ไปนานปีครึ่งทุกคนร้องว้ากันหมดแม้แต่พ่อหรือแม่ก็เหมือนกัน เจ้าตัวแสบยิ่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งโทรมาออดอ้อนกวนตีนตลอด จนหนูชักรำคาญลูกงอแงของมัน
“พี่ว่าแกหาแฟนซักคนเหอะ….”
“ผมยังไม่ชอบใครซักคน…” มันเสียงอ่อย
“มินท์ไง…ขอมินท์จากพี่เทพซิ…”
“ม่ายละ…”
“แกจะติดอยู่กับพี่ไม่ได้นะแกก็รู้ เราสนุกกันพอประมาณนะได้ พี่ต้องทำงานแกก็ต้องเรียนต้องมีอนาคตเพื่อตัวเอง”
“พี่พูดถูกนะ…” เสียงมันน่าสงสาร
“เวลาของเรามันก็พอสมควรแล้ว ตอนพี่ไปเรียนแกก็ปรับตัว ทำในสิ่งที่ควรทำ พี่เองก็เหมือนกัน”
“ผม..คงคิดถึงพี่มาก…ตั้งปีครึ่ง…”
“พี่ก็คิดถึงแกนะ…”
เราต่างเงียบกันไปครู่หนึ่งแล้วมันถามขึ้นว่า
“ไปอยู่ญี่ปุ่นเวลาพี่ต้องการขึ้นมาละ…”
“ไอ้บ้า..มันมีปัญหามันก็ต้องมีทางออกเยอะไป….”
“ผมสั่งไข่สั่นให้พี่ดีปะ…” อาการทะลึ่งเริ่มมาแล้ว
“เป็นไงไข่สั่น…” หนูไม่เคยได้ยิน
“แสดงว่าพี่ไม่เคยดูหนังเอวี…”
“แบบที่พี่ดูวันนั้นเหรอ…”
“ใช่..แต่เรื่องนั้นไม่ได้ใช้…”
“มันเป็นเครื่องกระตุ้นเป็นแท่งรีๆมีทั้งกลมและยาว…”
“แบบช่วยตัวเองนั่นเหรอ…” หนูชักสนใจ
“ใช่พี่..ช่วยแบบนั้นแหละ…”
“พี่ลองค้นในยูทูปซิ มีนางแบบสาธิตเยอะ..ชอบแบบไหนผมจะหามาให้…”
“แบบเอาไว้แทนตัวแกดิ…” หนูดักคอมัน
“แหม..รู้ทันเกลียดเชียว…”
“กลัวพี่ไปเสร็จหนุ่มๆญี่ปุ่น…” มันพูดจนทั้งขำทั้งหมั่นไส้
“ไอ้บ้า…อยู่บ้านก็จะหาผัวให้พี่ ไปเมืองนอกจะกลัวว่าพี่จะไปมีผัวญี่ปุ่น…”
“เออแก..ผู้ชายญี่ปุ่นน่ารักนะเว้ย…”

“ถ้าพี่ดูเอวี..มันชอบทรมาณผู้หญิงน เอาสารพัดของเล่นยัดผู้หญิง บางทีเอาเชือกมัดด้วยนะ…ไม่ไหวหรอก”
“แกยิ่งพูดเยอะนี่ชักทำให้พี่สนใจ ปีครึ่งนี่ลองหาผัวญี่ปุ่นชัก 2 คนคอยดู…”
“หา…เล่นแซนวิสเลยเหรอพี่ เอาทีกับผู้ชาย 2 คน”
“ไอ้บ้า…” มันหัวเราะมาตามสายหนูเองก็พลอยหัวเราะกับพาโลโฉเกของมัน
“เท่านี้นะ…พี่นอนเหอะ 5 ทุ่มแล้ว…”
“เออ..พรุ่งนี้พี่เข้ากะตี 5 ด้วย…นอนละบาย…ฝันถึงมิ้นท์นะ…”
“ไม่เอา…ฝันถึงพี่ออยดีกว่า…” มันพูดงอนๆ

คุยกับมันแล้วหนูชักอารมณ์ดี ปิดไฟเตรียมนอนพี่เทพแวปเข้ามาในหัวแป๊บหนึ่งแล้วความกังวลเรื่องไปอบรมที่ญี่ปุ่นทำให้ภาพพี่เทพหายไปจากสมอง แล้ววนไปคิดถึงหนุ่มญี่ปุ่นที่พูดเล่นกับเจ้าแสบน้องชายหนู แล้วตามติดมาด้วยเครื่องช่วยตัวเองที่มันเรียกว่าไข่สั่น จะหยิบสมาร์ทโฟนมาค้นอากู๋ก็คิดได้ว่าพรุ่งนี้ต้องไปเข้ากะตี 5 นอนดีกว่า หนูนอนนับลมหายใจเข้าออกช้าๆไปเรื่อยๆ ไม่นานหนูก็หลับสนิท

ตอนเที่ยงมีเด็กมาตาม บอกว่าเลขาบอสใหญ่มาขอพบ หนูเลยเดินขึ้นไปสำนักงาน พี่หนึ่งอยู่อีกด้านหันมาแล้วพยักหน้า
“ไปเหอะ..พี่ดูพวกนี้ให้เอง…” หนูพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ

เลขาประธานมาอธิบายรายละเอียดต่างๆมากมาย แต่ที่สำคัญเลขาบอกว่าท่านประธานให้เงินขวัญถุงพิเศษก้อนหนึ่งเป็นพิเศษด้วยก็เยอะอยู่เหมือนกัน ทุกอย่างเลขาจัดการทั้งหมด กำหนดออกเดินทางของหนูคือวันที่ 1 เดือนหน้า
พอทราบกำหนดอดก็ใจหายอยู่เหมือนกัน แต่ไงละชีวิตและหน้าที่มันต้องดำเนินของมันต่อไป เรื่องแบบนี้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน หนูจำคำที่พ่อสอนเสมอตอนนั้นแม่ไม่อยากให้ไปเรียนที่ต่างจังหวัดเป็นห่วง แต่พอสอนให้หนูสู้และเป็นที่พึ่งของตนเอง จังหวัดไม่คุ้นเคย ผู้คนไม่คุ้นเคย อาหารความเป็นอยู่ก็ไม่คุ้น แต่หนูก็ปรับตัวได้ดีไม่ต้องท่านทั้งสองเป็นห่วง ขยันเขียน ขยันทำกิจกรรมจนได้รับผลการเรียนดีเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้วยเฉลี่ย 3.95 ขึ้นบอร์ดเคียงคู่กับอันดับหนึ่งตลอดของคณะ

เมื่อยุ่งสมองก็ไม่ว่างคิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ หนูลืมเรื่องไข่สั่นไปเสียสนิท มานึกได้เมื่อสายเจ้าแสบโทรเข้ามา
“โหลๆ 2 โหล 24” มุกควายมันมาอีกแล้ว
“โหลจ้าโหล…” หนูบ้าไปกับมันมั่ง จริงคุยกับมันนี่หนูอารมณ์ดีนะ แต่ก็แกล้งโมโหบ้างไรบ้างตอนมันกวน
“โหลไม่โหล ไม่โหล…”
“อ้าวจะโหลไปถึงไหน…มีไร…เจอมิ้นท์ยัง…” หนูแหย่มัน
“มิ้นท์..แมนท์ไร…พูดเรื่อยพี่เรา…”
“ก็อยากให้แกได้ ยอ..นะ…”
“ไม่พูดเรื่องนั้นแล้ว มาพูดเรื่องไข่สั่นดีกว่า…พี่ดูยัง…”
“เออ..ยังไม่ว่างเลยยุ่งมาก ไหนจะไปอบรม ไหนงานประจำ…”
“เค้าบอกยังว่าจะไปเมื่อไหร่…”
“วันที่ 1 เดือนหน้าขึ้นเครื่อง…”
“อีก…อีกแค่ 5 วันเองนะพี่ ยังไม่ได้พักเตรียมตัวอีกเหรอ…”
“วันนี้พักแระ…”
“กลับมาหรือเปล่า…”
“กลับซิ…ที่เก่าเวลาเดิม…”
“บอกพี่เทพไหมละ…”
“ไปกวนเค้าทำไม..ไม่ต้องบอกหรอกพี่กลับเอง…”
“ถามถึงพี่ทุกวันเลย…”
“แกบอกว่าพี่ไปญี่ปุ่นปะ…” หนูกลัวมันไปปากโป้ง
“ปล่าว…จะบอกให้พี่บอกเองเหอะ ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว…”
“หึงมิ้นท์ดิ…” พูดจบหนูหัวเราะเยาะมัน
“หึงพี่มากกว่า…” โห..มุกนี้มันทำเอาหนูอึ้งไปเลย

“พี่…วันนี้ผมให้พี่ลองไข่สั่นนะ…”
“แกไปซื้อมาแระ…”
“อึม…สั่งทางเน็ต…น่าเล่นมาก เดี่ยวผมเปิดสวิตช์ก่อน” แป๊บหนึ่งก็ปรากฎเสียงครางคล้ายระบบสั่นของโทรศัพท์แต่แรงกว่ามาก
“ให้ผมสงภาพไปให้ดูปะ….”
“ไม่ต้องหรอก…เย็นนี้จะไปดู…”
“ซื้อให้พี่เอาไปใช้ญี่ปุ่น…”
“พี่ไม่เอาหรอก พี่จะไปเอาผู้ชายญี่ปุ่น…หล่อๆ ขาวๆ…” หนูยั่ว
“เหอะ..แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง…”
“นรกซิเพื่อนเยอะ สวรรค์เพื่อน้อยเพราะไม่มีใครไป…” ได้กวนมันแล้วอารมณ์ดี๋ดี 555
“เย็นนี้ผมขี่มอไซด์ไปรับปะ…”
“พี่นั่งเข้าไปเองก็ได้…”
“เอางั้น…หรือให้ผมบอกพี่เทพ…” พูดแล้วมันหัวเราะหึๆ
“เออ..แกมารับก็ได้วะ…ไอ้น้องเฮงซวย…”
“ไอ้พี่ขี้โกง…”
“เฮ้ย..เฮ้ย..พี่ไปโกงไรแก…”
“โกงความเสียวผมไง….” ไอ้นี่กวนตีนอีกแระ
“แกก็ชักของแกทุกวัน พี่โกงไรวะ” หนูแกล้งใส่มันเสียงขุ่น
“ดูด…อยากให้ดูด…นี่แหละขี้โกง…”
“ไอ้เลว ไปหามิ้นท์ไปๆๆๆๆๆๆ” หนูรัวถี่ๆ
“ไม่พูดละ…เย็นนี้ผมไปรับ…” มันเสียงอ่อนลง
“แกอย่าเล่นไข่สั่นเพลินละ…ของพี่นะเว้ย…” หนูยังยั่วมันไม่พอ
“แนะ..ขี้่โกงอีกแล้ว ยังไม่ได้ส่งมอบเลย ยึดเป็นเจ้าของซะแล้ว…คนขี้โกง….” ตอนท้ายมันพยายามส่งเสียงสูง แล้วมันก็หัวเราะ
“มาเหอะ..มาดูด้วยตัวเอง…วางหูแระคนขี้โกง…” หนูไม่ทันพูดไรมันรีบวางหูหนีทันที
หนูยิ้มกับโทรศัพท์ ยั่วใครก็ไม่สนุกเหมือนยั่วเจ้าแสบ มันทันกันทุกมุม อีกอย่างใยไม่โกรธพี่สาวมัน และพี่สาวมันก็ไม่เคยโกรธมัน ไม่ว่าจะเล่นแรงแค่ไหนก็ตาม

รถมาส่งที่ปากซอยช้ากว่ากำหนดเกือบชั่วโมง รถมันเกิดติดขึ้นมา เขาชอบว่ากันว่ารถมันชอบติดวันศุกร์ เหตุผลไรไม่รู้
พอลงจากรถพร้อมกระเป๋าใบเขื่อง เจ้าแสบก็เดินเข้ามาสะกิด
“พี่..อยู่นี่…” หนูเห็นมันยิ้มหน้าบาน หนูจึงเดินตามมันไปที่รถ
“รถติดเหรอพี่..วันนี่ช้าเชียว…”
“ไม่รู้มีไร…ติดมาก จริงๆพี่ใกล้ถึงแล้วค่อยโทรบอกแกดีกว่า แกไม่ต้องมารอ” มันหันมามองค้อนประหลับประเหลือกเชียว
“นี่พี่แกล้งผมปะ..รถติดไม่โทรบอก….” หนูทุบหลังมัน
“ไม่ได้แกล้ง พึ่งคิดได้ไง…แต่วันนี้คิดถึงแกเลยหลับเพลิน…”
“คิดแล้ว…หลับเอาแรง…” มันหยุดให้หนูทุบอีก
“ทีเสียวแล้วเร็วเชียว….” หนูขึ้นซ้อนท้ายแล้วหัวเราะปากติดใบหูมัน เจ้าแสบถึงกับคอย่น
“จั๊กจี้พี่….โห…ขนลุก” หนูจับจุดอ่อนได้ละ
“แค่นี้จั๊กจี้ ซุกจั๊กแร้พี่เป็นนาน พี่ยังต้องทนแกเลย….อิอิ..รู้แระ”
“รู้ไร…จุดเอ๋ย..จุดอ่อน…”
“อาวเข้าไป…” เสียงมันมีแววกังวลอยู่นะหนูว่า

ยังไม่ทันออกรถมันหันมาถามหนู
“พี่ซื้อไรกินปะ…”
“ที่บ้านมีไร…”
“มาม่าต้มยำกุ้ง…”
“เออ…พี่ไม่ได้กินนานแระ…ไปกินกันเหอะ….”

มันบึ่งรถไม่กี่นาทีก็ถึงบ้าน พี่เทพไปไหนไม่รู้ไม่อยู่บ้าน กับพี่เทพนี่บอกไม่ถูกนะ จะสนใจหรือไรก็ตอบตัวเองไม่ได้ มันคอยเห็นภาพพวกนั้นกับฝันที่พี่แกแอบมาอยู่สมองเรื่อยเลย

เข้าบ้านเรียบร้อยมันรีบถามหนูทันที
“พี่จะกินเลยปะ ผมจะไปต้มให้ผมมีกุ้งจริงๆใส่บำรุงให้ด้วยพี่ด้วยนะ…” หนูพยักหน้า จริงเจ้าแสบนี่ทำอาหารเก่งเหมือนพ่อ หนูนั่งแล้วรื้อเอาเอกสารที่เลขาสรุปสิ่งที่ควรรู้เวลาอยู่ญี่ปุ่นมาอ่าน หลายๆอย่างมันก็ไม่เหมือนกับเรา พรุ่งนี้หนูจะไปซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หน่อย เตรียมเสื้อผ้าและของใช้จำเป็น บริษัทโอนเงินค่าใช้จ่ายมาให้เรียบร้อยแล้ว ถึงวันไปสนามบินบริษัทจะส่งรถมารับที่บ้านหรืออาจไปเองไปเจอกันสนามบินสุวรรณภูมิเลย
พักใหญ่เจ้าแสบน้องหนูก็ยกชามมาม่าต้มยำกุ้งอันหรูหราของมันออกมาวางตรงหน้า
“พี่..เรียบร้อยละ…ชิมได้เลย…” กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ผ่ากลางวางบนเส้นบะหมี่ดูหรูมีระดับมาก
“ทำซะน่ากินเชียว…”
“ชิมซิ…รับรองหากินที่ไหนไม่ได้…”
“แล้วแกละ…ผมกินก๋วยเตี๋ยวปากซอยไปแล้ว…”

หนูกินมาม่าของมันอย่างรวดเร็ว ฝีมือมันเยี่ยมจริงๆกลมกล่อมรสพอดี หนูซดน้ำจนเกลี้ยงชาม
“เอาอีกปะ น้ำยังไม่เหลือซักหยดแบบนี้…”
“ไม่ละ อิ่มแล้ว…อร่อยมาก…แกนี่ทำเก่งเหมือนพ่อเลย…”
“ก็ผมช่วยพ่อทำตลอดเลยได้วิชามา…” สายตามันภาคภูมิใจสุดๆ
“พี่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน เลยทำกับข้าวไม่เก่ง…”
“ไม่หรอก…พี่ทำลาบอะไรพวกนี้อร่อยกว่าผมอีก….” มันยกนิ้วโป้งให้หนู
“พอทำได้บางอย่าง..แต่ไม่เก่งเหมือนแก…” หนูชมมันด้วยใจจริงไม่ได้ยั่ว

มันหยิบเอกสารที่หนูเปิดดูไปพลิกๆ
“เขามีคำแนะนำดีจังเลย…”
“เค้าคงกลัวพนักงานจะอยู่ไม่ได้ละมั่ง…” หนูพูดเล่นไปงั้น
“ดีจังเลยพี่…บริษัทพี่นี่…”
“อึม..ให้ค่าใช้จ่ายครบทุกอย่าง ค่ากระเป๋า ค่าเสื้อผ้า แถมคิดโอทีเฉลี่ยให้ตอนให้ด้วย….”
“กลับมาก็รวยดิ….”
“เก็บเงินไว้แต่งงานกับหนุ่มญี่ปุ่นซักคน….”
“บ้า..นี่จะเย็ดกับไอ้ยุ่นจริงอ๊ะ…” มันค้อนหนู
“อย่ายุ่งน่า…ไหนไปเอาของเล่นแกมาดูดิ๊….” มันทำท่าขัดใจ เดินเข้าไปหยิบกล่องในห้องมันออกมาวางตรงหน้าหนู
“เออ..ที่แกห่อไว้เอาทิ้งยัง…”
“ไร่..ถุงที่ใช้แล้วไง…”
“จัดการเรียบร้อยเช้าวันนั้นแล้วละ ทำไมอ๊ะ…”
“กลัวแกลืม…” พูดไปก็พลิกกล่องไปด้วย
“ของญี่ปุ่นนี่….”
“ใช่ของดีต้องญี่ปุ่น ผมจัดมาเป็นชุดนะ ไข่สั่น กับลิ้นปลอม…”
“หา…ลิ้นปลอม…ไรรึ….”
“เปิดดูซิ…”

หนูเปิดกล่องเห็นเจ้าแท่งใหญ่ ครึ่งหนึ่งเป็นซิลิโคนออกจะแบนๆเรียวแหลมหน่อย อีกส่วนแท่งสีเงินมีปุ่มหมุนปิดเปิดและหมุนปรับได้ ด้านล่างสำหรับใส่ถ่าน ส่วนที่น่าจะป็นซิลิโคนสีเนื้อออกชมพูนิดๆ จะบอกว่าเหมือนลิ้นคนก็คงจะใกล้เคียง บนผิวเจ้าลิ้นเทียมนั้นมันตุ่มเล็กๆเป็นจงอยเต็มไปหมด หนูแตะดูมีสากๆ แต่ตรงที่ประมาณว่าลิ้นนั้นนุ่มมาก
“พี่กดสวิตช์เปิดซิ….” เจ้าแสบบอก หนูเลยหมุนเปิด โห..ตรงส่วนที่น่าจะเรียกว่าปลายสิ้นมันกระดกขึ้นลงแล้วหมุนซ้ายหมุนขวา หนูลองปรับปุ่มไปทางขวามากขึ้น มันยิ่งกระดกแรงและเร็วขึ้น แถมการสั่นสะเทือนของมันนี่แรงกว่าโทรศัพท์เยอะเลย

“เอาไว้ทำไร…” หนูหันไปมองมัน มันมองตอบเหมือนเห็นหนูคนปัญญาอ่อน หนูก็ขำ เออ..คงจริงแหละ ไม่น่าถามโง่ๆเลยเรา มันก็เอาไว้ให้ผู้หญิงช่วยตัวเองแหงแซะ

“เออ..ไม่ต้องดูถูกว่าพี่แกโง่หรอก…” หนูค้อนมัน
ดูในกล่องมีแท่งกลมวงรี ยาวประมาณซัก 4 นิ้วเห็นจะได้ ตรงปลายด้านหนึ่งมีสายคล้องเอาไว้
“ในกล่องมีรีโมทสำหรับใช้กับเจ้านั่นนะพี่…” มันบอก
หนูควานหามันซุกอยู่มุมด้านข้างจึงไม่เห็นปุ่มเปิดปิดแบบเดียวกัน หนูลองหมุนเปิดเจ้าไข่สั่น มันสั่นค่อนข้างแรง จะบอกไงดี เหมือนเราเอาโทรศัพท์ตั้งสั่นใส่กระเป๋ากางแกง พอมีสายเข้ามันจะสั่นโดนหน้าขาเรานั่นแหละ แต่นี่มันสั่นแรงกว่าเยอะแรงกว่าลิ้นปลอมเมื่อตะกี้อีก
หนูลองวางบนโต๊ะมันกระเทือนดิ้นไปดิ้นมา หนูลองปรับให้เบาให้แรง เจ้าสิ่งนี้หนูว่ามันคงทำเสียวจริงแหละ อาจเสียวใจขาดก็ได้ แต่เจ้าลิ้นปลอมนี่ซิ ชักไม่แน่ใจ
“บางทีเขาเรียกลิ้นสั่น..อันที่วางบนโต๊ะ…”
“คนเรานี่มันช่างคิดแปลกๆดี..” หนูบ่นเฉยๆจับมันยกดู

“อยากทดลองยัง…” หนูมองสบตามันแล้วส่ายหน้า
“เอาไว้คืนนี้ก่อน…ตอนนี้ยงไม่มีอารมณ์…”
“แปลก…” มันส่ายหน้า
“แปลกไง….”
“มาทุกทีก็เงี่ยนกลับมาเลย วันนี้บอกเอาไว้คืนนี้…”
“เออน่า…พี่อยากอ่านเอกสารนี่ให้จบก่อน แกอยากดูอะดิ…” มันตาวาว
“แน่นอน….”
“งั้นยังไม่ให้ดู….”
“เฮ่อ..อดเลย…”
“น่าเอาไว้คืนนี่ดิ..ได้ดูพี่สาวแกพะงาบๆจนแกสะใจละ…” มันหัวเราะร่วน
“ถึงพะงาบๆเลยเหรอพี่…”
“ไม่รู้สิก็ว่าไป….ให้แก่ฝันหวานคิดมากไปก่อน…” มันหัวเราะหึๆยียวนในคอแล้วเดินไปหน้าบ้านพอมันจะปิดประตูก็หันกลับมาสั่งหนู
“ห้ามแอบเล่น….”
หนูยกมะแหงกให้มันพร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาด่ามัน
“ไอ้เฮงซวย…”
“ไอ้พี่ขี้โกง….”
มันปิดประตูปล่อยให้หนูหัวเราะคนเดียว

…..

หนูนอนอ่านเอกสารในมือที่อธิบายรายละเอียดโน่นนี่ในการใช้ชีวิตให้กลมกลืนกับวัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่น มีคำง่ายเช่นขอบคุณ หรือการสั่งอาหาร อะไรพวกนี้อยู่หลายหน้า แต่หนูขี้เกียจจำ จึงอ่านแค่ผ่านๆ แม้ญี่ปุ่นจะไม่ค่อยนิยมใช้ภาษาอังกฤษ แต่หนูมั่นใจว่ายังไงก็เอาตัวรอดได้ อีกอย่างทุกอย่างบริษัทแม่เจ้าของเครื่องส่งคนมาคอยดูแล จึงไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่
หนูลุกขึ้นเดินมาที่หน้าต่างมองไปยังบ้านของพี่เทพ บ้านปิดเงียบมองหาเจ้าน้องชายก็ไม่เจอสงสัยออกไปข้างนอกเพราะรถมอไซด์ไม่อยู่แล้ว เดินไปเดินมามันก็เบื่อเลยเข้าไปในห้องกะจะหลับซักงีบ จึงไปเปิดแอร์ นอนพลิกไปพลิกมาก็คิดถึงเจ้าลิ้นปลอมกับไข่สั่น จึงลุกขึ้นไปหยิบมาจากบนโต๊ะเมื่อครู่

หนูหยิบลิ้นปลอมหรือลิ้นสั่นออกมาเปิดสวิตช์ลองปรับระดับความแรงจากเบาไปแรงสุด จากแรงก็ค่อยลดมาจนเบาสุด แล้วความเปิดอยากลองมันก็พุ่งขึ้นมา หนูเร่งความสั่นมันตรงเบาก่อนแล้วเอไปเตะที่หน้าเนินน้องสาวตัวลิ้นมันดิ้นกระดกๆ ชักรู้สึกเข้าท่าเหมือนกัน เลยปิดสวิตช์เดินถือไปกดล๊อคห้องแล้วไปหยิบเจลหล่อลื่นติดมือมาด้วย วางเจลกับลิ้นปลอมลงจัดการถอดกางเกงชั้นนอกชั้นใจออก นั่งลงที่โซฟาขณะกำลังกดสวิตช์เปิดเจ้าลิ้นปลอมก็อดคิดถึงเจ้าน้องชายไม่ได้ เลยนุ่งกางเกงออกมาหยิบสมาร์ทโฟนกดไปหามัน รอพักใหญ่มันถึงรับสาย
“เหวย…”
“มีไรพี่…”
“อยู่ไหน….”
“ปากซอยกำลังซื้อสปาร์เก็ตตี้ขี้เมาไปฝาก…”
“ไม่ต้องซื้อกลับมาเหอะ…”
“อ้าว…สั่งแล้ว…”
“กลับมา..พี่รอ…”
“อะไรพี่…” หนูไม่ฟังมันต่อรีบตัดสายทันที กลับไปเก็บอุปกรณ์ของเล่นเข้ากล่องแล้วมาวางบนโต๊ะเหมือนเดิม มันจะได้ไม่รู้ว่าไปยุ่งอะไรกับของเล่นนี้ตอนที่มันไม่อยู่

“หนูกลับไปนอนที่ห้องหลับคิดไรเพลินๆ อยากดูหนังก็ขี้เกียจเปิด หยิบสมาร์ทโฟนมาเปิดเพลงตามเพลย์ลิสต์ที่มีคนทำไว้ เพราะบ้างไม่เพราะบ้างก็ช่างเหอะ ไม่ได้เสียเงินซื้อ”
นอนฟังเพลงเพลินๆพักใหญ่เจ้าน้องชายตัวแสบก็เดินเข้ามาหา
“เป็นไรพี่…” หนูปรือตามองดูมัน มันนั่งลงข้างๆเอามือแตะหน้าผาก
“ตัวก็ไม่น้อนนี่นา…พี่เป็นไร…” หนูดึงมันลงมาแล้วเป่าหูมัน คราวนี้เจ้าแสบสะดุ้งโหยง
“ไม่ได้เป็นไร…” มันไม่กล้าเข้าใกล้
“ทำเอาผมตกใจ…นึกว่าเป็นไร…” มันมองหนูด้วยความเป็นห่วง
“ก้มลงมาซิพี่จะบอก…” หนูอยากแกล้งมันอีก
“พี่อย่าเป่าหูผมอีกนะ จั๊กจี้ขนลุกไปหมดเลย…”
“ลุกหมดเลยเหรอ…” มันพยักหน้ายื่นแขนให้หนูดู แหมขึ้นเป็นผื่นเลย 555
“ควยลุกด้วยปะ…” หนูมองหน้ามันยิ้ม
“พี่ก้อ…นั่นมันลุกโดยไม่ต้องเป่าหูก็ได้อยู่แล้ว…ตกลงเป็นไร…” มันพูดยิ้มๆ
“ก้มลงมาซิแล้วพี่บอก…”
“อย่าเป่าอีกนะ…” หนูพยักหน้า มันยื่นหน้าลงมาหา หนูโดยโน้มคอมันลง
“พี่เป็นไรแน่…”
“พี่เป็น..พี่เป็น…หึๆ…” มันฟุบตัวลงทับตัวหนู
“อ้าวเป็นไร…ไม่บอกงั้นผมฟันนมแล้วนะ…” หนูเชิดหน้าใส่ แล้วดึงหน้ามนลงมาจูบปาก
“แสดงว่าเป็นหงี่ใช่ปะ…”
“แหม..ทำเป็นไง่เน๊อะ…น้องชายตัวดีของพี่….” แล้วหนูก็หัวเราะ
“พี่จะลองใช้เจ้าลิ้นปลอมนั่นหน่อย ตอนแรกจะแอบทำแล้วละ แต่สงสารแก..เลยโทรไปเรียก…”
“นั่นซิ..ผมสงสัยทุกทีมาถึงก็หงี่มา แต่วันนี้มาสายใส…เลยงง…”
“ไปเอาลิ้นปลอมมาทำให้พี่ซิ…ไปญี่ปุ่นพี่จะได้เอาไปใช้…” มันเดินออกไปเอาแล้วหยิบลิ้นปลอมส่งให้หนู
“ไม่อันตรายนะ…”
“ไม่หรอก..มันได้มีสารเคมีไร อีกอย่างของญี่ปุ่นคุณภาพไว้ใจได้อยู่แล้ว…”
“พี่เอาแรงปะ…” หนูส่ายหน้ายื่นมือไปรับลิ้นปลอมมา แล้วลองปรับโดยใช้มือเป็นตัวทดลอง คิดว่ากำลังเหมาะแล้วจึงยื่นส่งให้เจ้าแสบ
“พี่ถือไว้ก่อนเดี่ยวผมถอดกางเกงให้” หนูรับลิ้นปลอมมาถือไว้ปล่อยให้ปลดตะขอถอดกางเกงแล้วรูดไปที่ปลายเท้า มันหันมามองเนินน้องสาวหนู
“อ้าว..พี่ไม่ใส่กางเกงในมาเหรอ…” หนูหัวเราะ
“ทำไมละ…”
“ไมใส่ตั้งแต่ที่ทำงานนะ…” หนูทำเสียงอื้อในคอ
“โหพี่..ใจกล้ามาก….” มันทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ
“ไอ้บ้า…เชื่อเหรอว่าพี่ไม่ใส่ พี่พึ่งถอดนี่แหละ อยากลองเองแล้วคิดถึงแกเลยไม่ได้ใส่…”
“เฮ่อ..สบายใจหน่อย…ชักใจไม่ดีตะกี้…” มันจับขาหนูอ้าวออก
“ต้องใช้เจบปะ…”
“เค้าไม่บอก ไม่น่าจะต้องใช้หรอก…เดี่ยวลองดูถ้าพี่แสบหรือไงก็บอก…” หนูพยักหน้า
น้องชายหยิบลิ้นที่ดิ้นอยู่ข้างตัวหนูขึ้น ขยับลงนั่งที่หว่างขาหนู แล้วเอาปลายลิ้นแตะที่กลางร่อง พอลิ้นปลอมดุ๊กดิ๊กสั่นรัวๆหนูสะดุ้งเลย
โห..มันเสียวจี๊ดพูดไม่ออกเลยค่ะ
“เป็นไงพี่…”
“อูยยยย…แกปรับให้เบาๆหน่อย…เสียวมาก…”
“ผมดูก่อน….” มันแหวกแคมเพื่อดูหล่อลื่นว่าเยิ้มออกแค่ไหน
“แป๊บเดียวแฉะเลยพี่….”
“มันดุ๊กดิ๊กเกินไปออฟ…เอาเบาๆก่อนนะ…ให้พี่คุ้นก่อน…” มันพยักหน้าปรับให้ลิ้นมันดิ้นช้าลง
เจ้าตัวแสบเอาลิ้นปลอมมาแตะตรงร่องเสียวของหนูอีกครั้ง การดุ๊กดิ๊กมันก็เสียวอยู่แล้ว เพราะบนลิ้นมันเป็นตุ่มแหลมเล็กๆตอนมันรูดถูกเนื้ออ่อนสีชมพูของหนูมันอธิบายถูกแต่มันสั่นสะท้านจนเนื้อตัวหนูสั่นรัว เจ้าแสบลากลิ้นปลอมลงไปยังปากรูแล้วเอาปลายลิ้นแหย่ตรงปากรู
“อูววววว…อี้ยยยยยย….” หนูถึงกับดิ้นร่อนก้นลอยไม่ติดพื้น ยกลอยไม่พอยังเด้งเนินไม่หยุดจนมือของเจ้าแสบที่ถือลิ้นปลอมแทบหลุดมือ เจ้าแสบเห็นหนูผงาบๆขนาดนั้นก็ดึงออก หนูทิ้งตัวลงนอนหอบหายใจ หน้านิ้วคิ้วขมวด ภายในน้องสาวกระตุกขมิบรัวๆ ขับน้ำเสียวออกมาจนเจ้าแสบตาโต
“พี่น้ำเงี่ยนออกเยอะมาก…” มันปาดนิ้วที่ซอกขายกให้หนูดู โห..มันไหลเยิ้มลงไปขนาดนั้นเลย
“ทำอีกปะ…” หนูพยักหน้า
“แก..แก..อย่ากดแรงๆนะ พี่ยงไม่อยากน้ำแตก…” มันพยักหน้าสายตากรุ้มกริ่มเหมือนสะใจที่ได้ทำให้หนูชักดิ้นชักงอ
มันเปิดเครื่องแล้วเอาปลายลิ้นปลอมไปแตะที่เม็ดแตดของหนู มันแค่แตะแผ่วความสั่นกระเทือนของมันส่งผ่านไปยังเม็ดจิ๋วทำให้หนูสะท้านรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาทันที เจ้าแสบคงรู้จังหวัดมันกดแนบกับเม็ดแตดหนูแล้วเหมือนปรับความแรงให้มากขึ้น ตูดหนูเด้งกระเด้าผมเยิบๆแบบลืมโลกภายในระเบิดวามสุดเสียวซานอย่างรุนแรงออกมาทันที สุดขีดแล้วหนูทิ้งก้นลงมาอย่างไม่สนใจไรอีก นอนแผ่แน่นิ่งเหมือนวิญญาณออกจากร่าง มันเสียวยิ่งกว่าลิ้นจริงซะอีก โห..อะไรของมันกันนี่
เจ้าแสบเอียงตัวลงนอนหนูเอาไว้แน่น หนูกอดมันแน่นยื่นปากจูบดูดลิ้นอย่างรุนแรง มันจูบตอบอย่างรุนแรงเช่นกัน หนูไม่จะลืมตายังลืมไม่ขึ้นเลย ถอนปากแล้วเอาหน้าซุกแนบอกมัน เนื้อตัวเบาว่องเหมือนลอยอยู่บนอวกาศ มันดึงผ้าห่มมาคลุมแล้วหนูก็ผลอยหลับไปทันที เสียวจริงๆ

หนูหลับลึกแบบไม่รู้สึกอะไรเลย มาตื่นอีกทีจะกี่โมงกี่ยามก็ไม่รู้ สบายจนไม่อยากพลิกตัว แขนขาก็ไม่อยากขยับ รอบข้างไม่รู้สึกถึงเจ้าตัวแสบของหนู มันไม่อยู่ในห้อง อยากรูดควยให้มันซักรอบ แต่เรี่ยแรงไม่รู้ไปไหนหมด หนูชักชอบเจ้าลิ้นปลอมอันนี้ซะแล้ว แป๊บเดียวมันทำให้หนูน้ำแตกได้เลยง่าย เอาไว้เล่นแก้เหงาที่ปุ่นได้ดีเลย 555
หนูนอนนิ่งให้เวลาผ่านไป เนื้อตัวหนูไม่อยากขยับเขยื้อน มีแต่สมองที่ทำงาน นอกนั้นอยากให้หยุดนิ่ง เออ..เจ้าน้องตัวแสบหนูไปไหนนะ
หนูนอนบ่นถึงมันครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่สนใจ แล้วหนูได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนของหนู หันก็ไม่อยากหันจะมีใครเจ้าน้องชายหนูแน่นอน มันเดินมาหยุดข้างเตียง จะกินสปาเก็ตตี้ขี้เมาไหม พอได้ยินมันพูดก็ชักหิวขึ้นมา จึงกระพริบตารับ แค่พยักหน้ายังขี้เกียจเลย 555
“เดี่ยวผมไปอุ่นให้จะกินในห้องหรือข้างนอก…” หนูขยับตัว
“ข้างนอกดีกว่าเดี่ยวกลิ่นมีอบในห้อง พี่อยากอาบน้ำด้วย…” มันมาช่วยดึงให้หนูลุกขึ้น
“สบายแล้วซิ…” หนูพยักหน้า
“คุ้มค่าใช่ไหม…” หนูทุบไหล่มัน เดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้และพันตัวเดินเข้าห้องน้ำ พอออกจากห้องน้ำจานสปาเก็ตตี้บางอยู่บนโต๊ะแล้ว หนูรีบไปใส่ชุดนอนออกมาโซ้ยอย่างอร่อย
“เจ้านี้อร่อยนะ..พึ่งมาเปิดใหม่เลย… อีกอย่างลูกสาวปิ้งมาก…หุ่นแบบพี่เลย หึๆ” เสียงหึๆมันฟังหื่นๆพิกล
“ไปอุดหนุนบ่อยๆซิ จีนให้ติดแกเป็นพ่อครัวมือดีอยู่นี่นา…”
“พี่ก้อ…”
“รู้ทันใช่ไหมละ…” มันค้อนหนู เออ..ไอ้นี้ค้อนเก่งกว่าผู้หญิงซะอีก มันรีบดึงจานไปจากหนู
“พี่ล้างเองก็ได้…”
“ไม่เป็นไรเมื่อกี้คิดว่าน๊อคไปแล้ว….”
“บ้างจัง..” หนูพูดเขิน
“เด้งซะตูดไม่ติดที่นอนเลย…”
“ก็มันเสียวนี่หวา…”
“ผมเอาขนชุบน้ำไปเช็ดให้รู้ตัวปะ…” หนูส่ายหน้า
“นี่ถ้ามีผู้ชายคนไหนเข้ามาลักหลับพี่ไม่แย่หรือไง หลับเป็นตายขนาดนั้น…”
“มีแกคอยดูแลพี่อยู่นี่นา…”
“ตอนอยู่ญี่ปุ่น..อย่าปล่อยเป็นแบบนี้นะ…” หนูมองหน้ามัน เออ..จริงซิถ้าแบบนี้แล้วไม่ปิดห้อง มิกลายเป็นมีผัวโดยไม่เจตนาไม่ได้กลับเมืองไทยแน่เลย
“เออ..พี่ต้องระวังตัวแล้วต้องล็อคห้องให้แน่นหนาด้วย อยากจะร้องก็อย่าร้องดังมาก เดี่ยวห้องข้างๆเขาจะมาร่วมสนุกด้วย…” มันพูดจบก็ตบกระโหลกตัวเองไปมา
“บ้าไง….” หนูถลึงจ้องตามัน
“ก็เป็นห่วงนี่นา….พี่สาวทั้งคน….” มันทำเสียงอ่อย
“ทีงี้เป็นห่วงพี่สาวขึ้นมาเชียว…” หนูค้อนมัน
“ก็ห่วงตลอดแหละ..พี่มองไม่เห็นความดีของผมต่างหาก…”
“เออ..ห่วงมากซิ พยายามจะเอาพี่ใส่พานไปให้พี่เทพของแก…เชียร์จัง….” มันมองหนูตาโต
“หวังดี…” มันหัวเราฮิฮะ
“พรุ่งนี้พี่จะไปซื้อกระเป๋าเดินทาง กับของจำเป็น แกว่างปะ…” หนูมองหน้ามัน
“ไปซิ..ผมไม่มีเรียน..”
“เออ..ไปช่วยพี่เลือกของหน่อย…” มันพยักหน้า
“เสร็จแล้วไปกินชาบูกันนะพี่…”
“เออ..พี่ก็อยากกินเหมือนกัน…ใช้แรงไปเยอะ…” มันทำสายตากรุ้มกริ่ม
“คิดไร..ไปน้องเฮงซวย…”
“คิดไร…ม้ายยยยย…..ม้ายยยแน่นอนนนน”
“อ้าว..พูดมา…เร็ว…ทำหน้าทะเล้นอีก…” หนูต้อนมันแต่มันตาวาวเชียวละ
“จะให้พูดจริง….” หนูพยักหน้า
“ก็เด้งตูดลอยจะถึงเพดานขนาดนั้น มันไม่มีแรงเหลือก็แปลกเกินไปละ…”
“ฮาาาาาาา….แกก็พูดเว่อเกินไป…ใครจะร่อนลอยได้ขนาดนั้น…” หนูหัวเราะความเว่อของมัน
“ก็พี่นี่แหละ…ตั้งแต่ทำเสียวให้พี่มาตะกี้นี่ร่อนตูดสูงสุดๆ” มันพูดซะหนูเขินหน้าร้อนเลย มันมามองแล้วเอานิ้วจิ้มแก้มหนูแล้วพูดปมหัวเราะ
“แน๊ะ..หน้าแดงเล้ยยยยย….มีเขิน…” โห..โดนมันกัดจมเขี้ยว
“ก้ออออ…ก้ออออ…มันเสียววววว…”
“บอกเลยว่าเจอลิ้นปลอมเข้าไปโคตรเสียวซิ….” มันหัวเราะ หนูไม่กล้าสบตามัน
“ทำไมมันเสียวกว่าลิ้นแกอีกออฟ….” น้องชายตัวแสบเดินไปหยิบลิ้นปลอมแล้วมาชี้ให้หนูดู
“พี่เห็นหรือเปล่าว่ามันหนามเล็กๆอยู่เต็มไปหมดทั้งอันเลย พอมันสั่นหนามมันก็ไปบดกับนั่นๆแบบจัดเต็มดิ….” มันหัวเราะร่วนแล้วพูดต่อว่า “ดีกว่าลิ้นใช่ปะ…”
“ไม่รู้ดิ…แต่มันเสียวกว่า คงสากตรงตุ่มหนามนั่นละ…” มันพยักหน้า
“ถ้าผมบดร่องแรงๆจะเสียวกว่าตะกี้อีก…” มันพูดซะหนูนึกภาพเสียวออกเลย
“ยิ่งถ้าผม…ผม….” มันเว้นช่วงต้องให้หนูถาม แต่หนูไม่ตกหลุมมันหรอก หนูก้มหน้าลงมองเจ้าตุ่มเล็กๆมันสากมาก นั่นซิมันสากกว่าลิ้น นี่ถ้ามันขยี้ตรงเม็ดแตดหนูแรงๆนี่ถึงตายเชียว
“ไม่ถามละ…”
“ถามก็ได้…ไร…”
“ถ้าผมเอาลิ้นบดเม็ดพี่รับรองพี่ร่อนหีทะลุหลังคาแน่…” แล้วมันหัวเราะตาวาว หนูก็อายดิ หน้างี้งุดเลย 555555
—————–

Share the Post:

Related Posts

ซั่มกับนักเรียนมัธยม นมใหญ่ หีฟิต

เรื่องเสียว ซั่มกับนักเรียนมัธยม นมใหญ่ หีฟิต ก่อนอื่นขอเล่าว่าผมเป็นครูสอนฟิสิกส์ให้แก่เด็กมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อายุยี่สิบปลายๆ เพิ่งจะเข้ารับราชการได้ไม่นาน เรื่องราวความเสียวสุดซี๊ดกับยัยเพลงนักเรียนมัธยมสาวตัวเล็ก นมใหญ่ หีฟิต เริ่มจากการที่ผมได้รับหน้าที่ติวพิเศษให้กับนักเรียนหัวกะทิ เพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันงานวิชาการระดับภาค เพลง เป็นนักเรียนหญิงที่ดีพร้อมเสียทุกอย่าง ความขยัน ฉลาดหลักแหลม หน้าตาดี หุ่นดี ที่สำคัญขาวจั๊วน่ากิน ขณะนั้นเป็นเวลาเย็นย่ำ

Read More

แอบเย็ดกับพี่เขยในตอนพี่สาวไม่อยู่

เรื่องเสียว แอบเย็ดกับพี่เขยในตอนพี่สาวไม่อยู่ สวัสดีค่ะหนูชื่อแพรนะคะ เป็นนักศึกษาปีสอง อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับพี่สาวและพี่เขยเพราะพ่อและแม่เสียหมดแล้ว ประสบการณ์ที่หนูจะเล่าต่อไปนี้ เริ่มจากบ่ายวันหนึ่งหนูเลิกเรียนก่อนเวลาเลยกลับเข้ามาที่บ้านโดยไม่ได้บอกให้พี่สาวรู้มาก่อน และเดาว่าพี่สาวของหนูคงไม่คิดว่าหนูจะกลับตอนนี้เช่นกัน เมื่อหนูแง้มประตูกำลังเตรียมจะเข้าบ้านก็ต้องชะงักไปชั่วครู่เพราะเห็น พี่สาวและพี่เขยกำลังเอากันอยู่บนโซฟาอย่างดุเดือดชนิดที่ว่าเหงื่อแตกซก ยอมรับว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง และแม้หนูจะพยายามหลีกเลี่ยงขนาดไหนก็ยังต้องเห็นและได้ยินเสียงเขาสองคนเอากันนอกห้องอยู่บ่อยครั้ง เมื่อแอบเห็นหนูจึงไม่วายมีความรู้สึกเงี่ยนขึ้นมา ก็เลยอ้อมเข้าทางหลังบ้านเพื่อเข้าห้องของตัวเอง ด้วยความไม่อยากขัดจังหวะเขาทั้งสอง เมื่อถึงห้องความรู้สึกอย่างว่ายังคละคลุ้งอยู่ในสมองของหนู จึงคิดว่าควรลบล้างด้วยอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าแก้ด้วยการเปิดหนังโป๊ในคอมดูและ ช่วยตัวเองไปพลางๆ นี่คือเรื่องปกติเพราะเมื่อได้ยินได้เห็นพี่สาวและพี่เขยเย็ดกันเมื่อไหร่หนูก็จะเปิดหนังโป๊ดูและเบ็ดหีเพื่อสำเร็จความใคร่

Read More