ต้นขึ้นครูกับแม่

สวัสดีครับ ผมได้อ่านประสบการณ์เสียวของเพื่อนมาเยอะแล้ว จึงอยากเล่าประสบการณ์เสียวของผมให้เพื่อนๆ ได้อ่านบ้าง ประสบการณ์เสียวของผมอาจจะยาวสักหน่อยจึงขอแบ่งเป็นหลายภาค เรื่องเกิดขึ้นตอนผมอายุ 15 ปี ซึ่งตอนนั้นผมขึ้น ม.ปลายพอดีผมจึงได้ย้ายบ้านจากต่างจังหวัดแถบภาคกลางตอนเหนือมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ครอบครัวผมประกอบด้วยผมชื่อต้น คุณแม่ชื่อ ตุ๊ และน้องสาวชื่อตาล โดยมีน้องสาวฝาแฝดของคุณแม่ของผมชื่อต๊ะซึ่งเป็นน้ามาเยี่ยมเมื่อมีเวลาว่าง

ที่บ้านของผมไม่มีคนใช้เนื่องจากคุณแม่ชอบทำเองทั้งหมด น้องสาวอายุ 14 ปี ย้ายมาเรียน ม. 3 ต่อที่กรุงเทพฯ ส่วนคุณแม่ของผมเป็นแม่บ้านอยู่แล้วเพราะท้องผมตั้งแต่อายุ 16 ปี จึงเรียนไม่จบ ม. 6 จึงไม่มีปัญหาอะไร บ้านที่ผมย้ายมาอยู่นั้นเป็นบ้านมีบริเวณมีสระว่ายน้ำ แถมยังซื้อเครื่องออกกำลังกายมาเยอะแยะยังกับฟิตเนสเพราะคุณแม่ของผมชอบออกกำลังกาย ดังนั้นคุณแม่ผมจึงมีรูปร่างดีดูเหมือนอายุราวๆ 25 ปี ไม่ใช่ 32 ปี ตามจริง เพื่อนๆ ของผมตอน ม. ต้น นึกว่าเป็นพี่สาวผมทุกทีที่มาเที่ยว

บ้านคุณแม่ของผมมีหน้าตาที่ดีมากคล้ายๆ อุ้ม สิริยากร น้องและผมจึงได้เชื้อ จึงมาหน้าตาค่อนข้างดี ผม ? และดีมาก-น้องสาวผมซึ่งมีหน้าตาเหมือนกันกับคุณแม่ของผมยังกับแกะ จึงมีคนทักบ่อยๆ ว่าเป็นน้องสาวของคุณแม่ผม เนื่องจากคุณแม่ไม่ค่อยออกมีเพื่อน และไม่ได้ทำงานจึงไม่ค่อยออกนอกบ้านนอกจากเวลาไปซื้อของกับเช่าวีดีโอ (เนื่องจากคุณแม่ชอบดูภาพยนตร์มาก) จึงมีเวลาให้กับเราสองพี่น้องเต็มที่ ส่วนผมก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบศึกษาสรีระเพศตรงกันข้าม จึงได้มีทั้งวีดีโอและวีซีดี ตั้งแต่ Rate NC-17 อเมริกา Grade 3 ฮ่องกง Rate R ญี่ปุ่น ขึ้นไป อยู่ในครอบครองมากมาย ซึ่งมีทั้งซื้อ ยืมจากร้าน แถมโรงเรียนผมยังเป็นโรงเรียนชายล้วนอีกจึงมีเพื่อนให้ยืมมากมาย ซึ่งวีดีโออย่างนี้ผมจะดูในห้องและซ่อนไว้ในตู้โดยเอาแผ่นเกมบัง แต่ไม่ได้ล็อกกุญแจ กลัวคุณแม่สงสัยเพราะคุณแม่จะช่วยทำความสะอาดห้องให้ทุกวัน

วันหนึ่งตอนเทอม 2 ผมได้กลับบ้านตั้งแต่เที่ยงเพราะเกิดเบื่อโลกตามภาษาเด็กเรียน (แบบโดดทั้งโรงเรียนและที่เรียนพิเศษ) ขึ้นมาปรากฏว่าคุณแม่อยู่ในห้องแล้วมีเสียงดังประหลาดๆ ออกมาคล้ายคนกำลังทำกิจกรรมกันอยู่ ผมรู้สึกแปลกใจ เพราะไม่มีรถอื่นจอดในบ้าน ไม่น่าที่แม่จะมีพ่อเลี้ยงให้ผม ผมจึงเข้าห้องผมแล้วค้นดู Collection ของผมดูปรากฏว่าหายไป 5 แผ่นใหม่ล่าสุดที่ยืมเพื่อนมา ผมจึงตรัสรู้ ณ บัดนั้นเองว่าอะไรเกิดขึ้น แล้วในคืนนั้นประมาณเที่ยงคืนผมเกิดเบื่อๆ จึงจะออกมาว่ายน้ำ เมื่อเดินมาถึงประตูเลื่อนซึ่งเป็นกระจกทึบแสง ปรากฏว่ามีจิ้งจกเผือกว่ายอยู่ในน้ำ และจิ้งจกตัวนั้นคือคุณแม่ของผมเพียงแต่ไม่ได้สวมชุดว่ายน้ำ ผมจึงปลดปล่อยอารมณ์ในตอนนั้นเองโดยเพียงแค่ดึงกางเกงว่ายน้ำลงเสร็จสมอารมณ์หมายไป 2 ยก

ตั้งแต่วันนั้นโลกของผมก็เปลี่ยนไป ผมได้วางแผนโดยสั่งซื้อวีซีดีทางอินเตอร์เนต แล้วให้ส่งไปให้เพื่อนที่อยู่อพาทเมนต์ วีซีดีนั้นถือได้ว่าคลาสสิกคือเรื่อง Taboo เป็นเรื่องที่แม่ทนความเร้าอารมณ์ไม่ได้จนต้องมีความสัมพันธ์กับลูก ผมนำมาวางไว้ในตู้ แล้วแกล้งกลับบ้านตอนเที่ยงอีกวัน (แบบโดดทั้งโรงเรียนและที่เรียนพิเศษอีก) ปรากฏว่าเป็นผล ตอนเที่ยงคืนผมลงมาที่สระโดยมีเพียงเสื้อคลุมคลุมเอาไว้ และเป็นไปตามคาดคุณแม่กำลังเปลือยกายอยู่ในสระ กำลังพิงขอบสระดูท้องฟ้าอยู่ ผมจึงรีบปลดเสื้อคลุมหย่อนกายลงน้ำข้างๆ คุณแม่ คุณแม่ตกใจหันมา เมื่อเห็นว่าเป็นผมก็ถามว่า “ลูกมาทำอะไร” ผมจึงพิจารณาสังขารอันไม่เที่ยงของคุณแม่ของผม หน้าอกของคุณแม่มีขนาดใหญ่มาก มารู้ตอนหลังว่าคับ D 38 นิ้ว เรือนร่างที่สูง 166 ซม. ผมที่ยาวสลวยถักเป็นเปียแล้วพันไว้รอบคอ รูปร่างสวยงามยังกับรูปปั้นวีนัส ตรงใต้ท้องน้อยเมื่อมองเหนือผิวน้ำเป็นเงาลางๆ เป็นภาพที่ผมประทับใจชั่วชีวิต แต่เพียงไม่นานคุณแม่ก็เอามือทั้งสองปิดหน้าอกหันหลังให้

“ผมมาว่ายน้ำเป็นเพื่อนครับ” แล้วผมก็กอดคุณแม่ทางด้านหลังเอาท่อนเนื้อซึ่งครึ่งหลับครึ่งตื่นถูที่ก้นกบ เอาจมูกไซร้ซอกคอ พร้อมทั้งพยายามสอดมือเข้าไปแทนที่มือคุณแม่ คุณแม่ของผมไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมไซร้สัก 2 นาทีคุณแม่ก็พูดว่า “แม่รู้ว่าลูกต้องการอะไร และลูกก็รู้ว่าแม่ให้ไม่ได้ แต่แม่จะช่วยลูก” ผมเงียบและหยุดปฏิบัติการณ์ “ลูกไปนั่งบนโต๊ะซิ” ผมทำตามทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณแม่ขึ้นจากสระคลายเปียออก ใบหน้าแดงก่ำไม่ทราบเกิดจากความอายหรือมีอารมณ์ แล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้โดยหันหน้ามาที่ผมพร้อมกับจับท่อนเนื้อแล้วรูดขึ้นรูดลง “ใหญ่จังเลย ทำไมใหญ่กว่าพ่อของเราอีก สงสัยได้เลือดคุณตาคุณยายมา” (ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมคุณแม่ไม่พูดว่าได้เลือดคุณแม่มา) ท่อนเนื้อของผมในตอนนั้นยาว 7 นิ้ว กำได้ไม่รอบ “พ่อของเรายาวไม่ถึง 5 นิ้วแถมผอมกว่านี้ตั้งเยอะ” พร้อมกับโน้มตัวมาใช้ลิ้นเลียรอบๆ ท่อนเนื้อ แล้วใช้ปากรูดขึ้นรูดลง

พระเจ้าผมเกือบถึงสวรรค์ตั้งแต่คุณแม่ใช้ลิ้นเลียผม “คุณแม่เทคนิคดีจังเลยครับ” เริ่มทนไม่ไหวใช้มือจับศีรษะคุณแม่ขึ้นลง อีกมือล้วงไปคลำหน้าอกคุณแม่ “ก็จากวีซีดีของลูกนั่นแหละ” คุณแม่พูดพร้อมเอามือรูดท่อนเนื้อไปด้วย แล้วกลับมาใช้ปากอีกครั้ง ไม่นานนักผมก็ถึงสวรรค์ น้ำแห่งความรักของผมพุ่งเข้าสู่ปากคุณแม่จนหมด หลังจากคุณแม่กลืนจนหมดก็พูดว่า “ในอินเตอร์เนตบอกว่าน้ำของลูกมีประโยชน์ แถมน้ำเยอะจังเลย มากกว่าพ่อเราตั้งแยะ” คุณแม่ลุกไปเอาเสื้อคลุมผมสังเกตเห็นตรงหว่างขาคุณแม่สะท้อนแสงจันทร์เป็นมันวาว “แม่ครับ ให้ผมช่วยนะครับ” “ไม่เป็นไรหรอก ไปนอนเถอะ เราน่ะโดดโรงเรียนหลายวันแล้ว พรุ่งนี้เดี๋ยวก็ไม่ตื่นอีก” “ให้ผมช่วยเถอะครับ เดี๋ยวคุณแม่หลับไม่สนิทนะครับ ทำคนเดียวมันจะสนุกได้ยังไง ผมสัญญาพรุ่งนี้จะไม่โดดอีก” ใจผมเต้นรัวเพราะความหวัง “เข้าใจพูดนะ แต่เออออ…” “นะครับ ผมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนครับ” “ตั้งใจเรียนจริงๆ นะ งั้นขึ้นไปที่ห้องนอนลูกแล้วกัน ถ้าที่ห้องแม่เดี๋ยวน้องได้ยิน” เพราะห้องคุณแม่ผมติดกับห้องน้องสาวผม อยู่ซีกสระน้ำส่วนห้องผมอยู่อีกซีกของบ้านหันไปที่ประตูรั้ว

และแล้วคุณแม่ก็หยิบผ้าเช็ดตัวเข้าบ้านเดินนำขึ้นบันไดไปห้องของผม เมื่อคุณแม่ถึงห้องผมแล้วก็ปลดเสื้อคลุม “แม่จะสอนลูกเองว่าจะทำยังไงให้ผู้หญิงพอใจ” ผมถอดเสื้อคลุมตาม แล้วคุณแม่นั่งที่ขอบเตียง ผมเลยเข้าไปกราบลงที่ตัก (เห็นทางสู่สวรรค์เต็มๆ แม้มันจะมืดไปหน่อย) “ขอบคุณมากครับ” “ตกลงกันก่อนนะ ว่าแม่ไม่อนุญาตให้เข้าไปข้างในนะ” “ครับ” แล้วผมก็จูบคุณแม่นานมาก นานจนเหมือนลิ้นของคุณแม่กับผมเกือบละลายรวมกัน มือของผมก็ไม่ว่างต้องคอยลูบไล้หน้าอกและเนินพระจันทร์ ส่วนคุณแม่ก็ตอบโต้โดยการรูดชะโดขึ้นๆ ลงๆ “คราวนี้ก็จูบตามตัวแม่ซิลูก” แล้วผมก็เลื่อนตัวลงมาคลุกเคล้ากับเต้าทั้งสองของคุณแม่ “อยากกลับไปเป็นเด็กเหรอ” ผมคิดในใจอยากกลับไปเป็นตอนแรกเกิดต่างหาก ผมใช้ลิ้นไล้ที่ปลายถันทั้งสองแล้วกัดเบาๆ “อุ๊ย เสียวจัง ดีมากลูก” แล้วเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงจุดหมาย คุณแม่ล้มตัวลงนอน “ผู้หญิงชอบให้สัมผัสติ่งที่ยื่นออกมา แต่ต้องเบาๆนะ” คุณแม่ของผมให้บทเรียนอีกครั้ง

ผมทำงานของผมไปเรื่อยๆ จนก้นของคุณแม่ไม่ติดเตียง ผมเลยใช้นิ้วเข้าไปที่ก้น “อย่า… เสียวจังลูก อูยยยยย” ผมหยุด “ผมมีอารมณ์อีกแล้วคุณแม่ ขอผมซอยตรงหว่างขานะครับ” “ห้ามเอาเข้านะ” คุณแม่เอา Baby oil ทาที่ท่อนเนื้อของผมแล้วจัดตัวเองให้อยู่ใน Doggy Style “ซอยตรงหว่างขานะ” ผมซอยไปเรื่อยๆ คุณแม่ผมก็เสียวเพราะท่อนเนื้อจะเสียดสีกับติ่งบางเวลา ผมเห็นว่าสมควรแก่เวลาจึงนำทางตัวเองสู่สวรรค์ “อย่า! อย่าเอาเข้านะ” แม่ผมร้องเสียงหลง แต่ผมทำไม่สำเร็จ “ดูซิครับคุณแม่ ขนาดคุณแม่มีอารมณ์ขนาดนี้แล้ว ผมยังเอาเข้าไม่ได้ อาวุธของผมใหญ่ไปหรือเปล่า แล้วถ้าผมมีแฟนผมจะทำยังไงครับ” ผมทำฟอร์มร้องไห้เอามือปิดหน้า คุณแม่เข้ามากอด “ไม่เป็นไรหรอก มาเดี๋ยวแม่สอนให้” คุณแม่ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง “ตามปกติต้องทำให้ผู้หญิงเกิดอารมณ์ก่อนนะ แต่ตอนนี้แม่พร้อมแล้วล่ะ” ว่าแล้วคุณแม่ก็นำทางจรวดทางเรียบเข้าสู่ถนน

ผมค่อยๆ ดันเข้าไป คุณแม่ครางไม่เป็นภาษา “อูย ลูกแม่ไม่ได้ทำกับใครมาตั้งแต่พ่อเราตาย ช้าๆหน่อยซิ” ผมได้ฟังยิ่งเกิดอารมณ์ ผมใช้เวลากว่าสองนาทีจึงทำให้จรวดเข้าไปเกือบครึ่ง ระหว่างนั้นเสียงครางของคุณแม่ก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จากกระซิบ กลายเป็นอาจารย์พูดหน้าชั้น แต่แล้วคุณแม่คงรู้สึกผิด “เอาละพอแล้วลูก เห็นไหมแม้ของลูกจะใหญ่แต่ก็เข้าได้ เอาออกซิแล้วแม่จะช่วยให้” ไม่ทันแล้วครับ ผมตอบในใจ ผมจึงช้อนก้นคุณแม่ขึ้นพร้อมกับดันไปสุดแรง คุณแม่ร้องลั่นบ้าน ผมได้แต่หวังว่าน้องคงไม่ได้ยิน ในที่สุดอาวุธของผมก็หายเข้าไปในโพรงสู่สวรรค์ ทางที่ผมออกมาเมื่อกว่า 16 ปีที่แล้ว ข้างในทั้งบีบทั้งรัด ราวกับจะทำให้ของผมขาด “คุณแม่ครับนี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีเซ็กส์กับผู้หญิง ผมดีใจจังเลยครับที่มีกับคุณแม่ ข้างในคุณแม่ร้อนจังครับ” ผมละล่ำละลักจนไม่แน่ใจว่าคุณแม่จะฟังเข้าใจหรือเปล่า

คุณแม่ไม่ตอบ มารู้ตอนหลังว่าทั้งเจ็บทั้งเสียวจนพูดไม่ออก แล้วผมก็เริ่มซอยจากช้าไปเร็ว แต่แปลกผมไม่ยักกะเสร็จง่ายๆ คงจะเป็นเพราะคุณแม่ช่วยมาครั้งหนึ่งแล้ว ผมจึงเปลี่ยนเป็น Doggy Style ซึ่งเมื่อผมซอยจนสุดจะดัง กึก กึก เพราะอาวุธไปชนมดลูก ในที่สุดคุณแม่ก็เสร็จ ตัวเกร็งน้ำตาไหล “แม่พักก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยช่วยผม” “ไม่เป็นไรเพื่อลูกแม่ทนได้ นอนลงซิ” แม่ผมก็ใช้ท่า Women on top ซึ่งผมชอบมากที่สุดรองจาก Doggy Style แม่ผมขยับตัวขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะจะโคน จากช้าไปสู่เร็วขึ้นเรื่อยๆ “แม่จะไปอีกครั้งแล้ว ถ้าลูกจะเสร็จบอกก่อนนะ อย่าหลั่งข้างในล่ะ” ไม่มีทางครับ แล้วผมเริ่มสวนคุณแม่ทุกครั้งที่คุณแม่ทิ้งตัวลงมา “โอ๊ย โอ๊ย ไปแล้วลูก” ผมก็เสร็จน้ำแตกใส่ร่องของคุณแม่พอดี คุณแม่สะดุ้ง ขยับตัวหนี แต่ไม่สำเร็จหรอกครับ ผมรั้งเอวคุณแม่ไว้

“ขอบคุณมากครับแม่” ผมพูดเมื่อคุณแม่ทิ้งตัวลงซบกับแผ่นอกผม คุณแม่ยันตัวขึ้นมา ตบหน้าผมเบาๆ “ที่รับปากน่ะ เราทำตามบ้างหรือเปล่า พรุ่งนี้ถ้าไม่ตั้งใจเรียนแม่จะทำโทษให้เข็ด” “ทำโทษให้ทำแบบคืนนี้หรือครับ” “งั้นเราก็ดีใจแย่ซิ นี่เราวางแผนหรือเปล่า วีซีดีแผ่นใหม่เข้าเค้าเหลือเกิน ปกติเราเวลามีแผ่นใหม่จะมาที ละหลายแผ่น คราวนี้มาแค่แผ่นเดียว” ในที่สุดคุณแม่ก็เริ่มผิดสังเกตผมก็ตอบตามความจริง “ไม่ครับ ผมยืมเพื่อนมา ผมได้ดูหรอกจึงกล้าขอคุณแม่” ฝรั่งบอกการโกหกถ้าไม่ทำให้ใครเจ็บปวดจงทำ “เป็นไงครับของผมสั้นกว่าพระเอกหน่อย แต่ใหญ่เท่ากันไหมครับ” “จ๊ะ แถมเรามีน้ำอดน้ำทนจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นครั้งแรกที่ลงมือทำจริงๆ ไม่เหมือนพ่อเราทำเดี๋ยวเดียวก็จอดแล้ว” เข้าเรื่องซะที พลังฮึดของผมก็เริ่มมีอีกครั้ง “ของของเราทำแม่ซะเจ็บไปหมดเลย”

“ตรงไหนครับขอดูหน่อย” “ตรงนี้จ๊ะ เห็นไม๊แดงหมดเลย” “อย่างงั้นต้องซ้ำอีกทีครับคุณแม่ แบบถอน” “ไม่ไหวมั้ง” แล้วคุณแม่ก็เปลี่ยนจากพูดเป็นครางเพราะผมไม่พูดเปล่า แต่ลงมือลงไม้ด้วย คุณแม่กับผม เปลี่ยนท่าตามที่เคยดูวีซีดีไปเรื่อยๆ ครั้งที่สองของผมกินเวลานานมากกว่าชั่วโมง คุณแม่เสร็จไป 4 ครั้ง และผมก็หลั่งข้างในตามเคย แล้วผมก็สลบไปแต่ต้องสะดุ้งตื่นตอนตี 5 (ตามปกติผมตั้งนาฬิกาปลุกไปโรงเรียนช้ากว่านั้นครึ่งชั่วโมง) เพราะมีได้ยินเสียงสะอื้น คุณแม่ยังนอนเปลือยกายข้างกายผม แต่หันหลังให้ ผมจึงกอดแล้วถาม “มีอะไรหรือครับ” “ไม่มีอะไรหรอก” “บอกผมนะครับ ตอนนี้เราเป็นแม่กับลูกที่สนิทที่สุดในโลกแล้วนะครับ” “ก็เพราะเหตุนี้นะซิ แล้วเราจะทำยังไง” “ผมยังเคารพแม่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแน่นอนครับ ต่อหน้าคนอื่นเราก็ทำตัวตามปกติ แค่นั้นเองครับ” ดึกๆเราก็มาทำอย่างนี้อีกนะครับ ผมได้แต่พูดในใจ

“แล้วเราต้องบอกน้องไหม” เห็นไหมครับผู้หญิงคือผู้หญิงต้องการผู้นำเสมอ “ไม่ต้องหรอกครับ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างคุณแม่กับผมเท่านั้น” “แม่จะทำยังไงดี ครั้งต่อไปแม่คงต้องป้องกัน แต่เมื่อคืนเราขี้โกงหลั่งข้างในตั้งสองครั้งแน่ะ แถมน้ำเยอะมาก” แม่หันหน้าหาผมแล้วแกล้งกัดจมูกของ
“ผมอยากมีน้องอีกคนครับ” “บ้าเหรอ แล้วน้องจะคิดยังไง” “ถึงตอนนั้นค่อยคิดนะครับ” “เอาล่ะ ไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน แม่จะไปทำครัวให้นะ” แม่ยันตัวขึ้น แต่ผมรั้งแขนไว้ “ผมยังหนุ่มอยู่นะครับ อีกครั้งนะครับ” “อีกแล้วเหรอ ไม่ได้ แม่เจ็บไปหมดแล้ว แล้วก็เดี๋ยวแม่ต้องไปส่งน้อง เราเดี๋ยวก็ไม่ไปโรงเรียนอีก ลูกสัญญาไว้แล้วนะ” โรงเรียนผมกับน้องอยู่คนละทางกัน ผมจึงต้องไปโรงเรียนเอง (คุณแม่บอกตอนผมตอนย้ายบ้านว่าจะให้รถ ถ้าผมสอบเข้ามหาลัยได้ครับ)

“คุณแม่ดูซิครับ ผมพร้อมแล้ว ผมจะรีบครับ” พูดอย่างเดียวไม่ได้แล้วครับ ต้องเผด็จศึกเลย คราวนี้ผมใช้ Missionary Style รวดเดียวจบ คุณแม่ต้องแอบๆ เข้าห้องเพื่อเปลี่ยนชุดทำครัว ผมต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว วุ่นวายไป วันนั้นผมได้ไปนั่งสัปหงกที่โรงเรียนแบบเฉียดสาย คุณแม่เล่าว่าน้องก็เกือบสายเช่นกัน แต่แปลกที่น้องไม่สงสัยว่าทำไม่วันนี้แม่ตื่นสายเหมือนผม (ไอ้ผมน่ะประจำ แต่แม่ไม่เคย)