เรื่องผมเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน ผมเรียนจบแล้วกำลังรองาน เพ็ญสาวปี 2 นักกิจกรรมรุ่นน้องเกิดปัญหาที่บ้านโทร.มาขอความช่วยเหลือ เธอกับแม่โดนตามล่าเพื่อปิดปากหลังพ่อโดนยิงเสียชีวิต ผมจึงขับไปรับเพ็ญกับแม่มาพักที่บ้านในกรมทหาร กรุงเทพฯ พ่อผมไปขอให้เพื่อนตำรวจช่วยเร่งคดีของพ่อเพ็ญ ได้ความว่าพ่อเพ็ญกับเพื่อน 3คนรวมทุนค้าขายแถวชายแดน ต่อมาเพื่อนไปค้ายา พ่อเพ็ญขอแบ่งทุนแยกทาง แล้วเกิดเหตุตำรวจจับยาของเพื่อนทำให้คิดว่าพ่อเพ็ญหักหลังจึงตามมาฆ่า เพ็ญกับแม่จำหน้าคนยิงได้ถูกตามเก็บด้วยต้องหนีหัวซุน ก่อนขอให้ผมช่วยเพราะผมเป็นลูกทหารมีบ้านพักอยู่ในกรมทหาร ระหว่างรอคดีผมต้องรับส่งเพ็ญไปมหา’ลัยด้วยจึงสนิทกันมากเช่นเดียวกับแม่เอ๋แม่ของเพ็ญไม่กล้าไปไหนกว่าจะจับคนยิงได้ก็หลายเดือน
กลุ่มเพื่อนพ่อเพ็ญยิงสู้กับตำรวจตายไป 1 สาหัส 1 อีกคนหนีได้ แม่เอ๋จึงขายที่และบ้านจว.เดิมย้ายไปอยู่กับน้องสาวส่วนเพ็ญยังอยู่บ้านผม เสร็จคดีไม่นานผมจึงได้งานเงินเดือนออกผมพาเพ็ญกับเพื่อนไปเลี้ยงเป็นเรื่องเลยครับ เพ็ญกับเพื่อนท้าผมชนแก้วเล่น 2 รุม 1 ผมเมาแบบกลับบ้านไม่ถูก ไปส่งเพื่อนเพ็ญที่บ้านแถวปทุมฯ แล้วขับรถกลับไม่ไหวจึงจอดนอนข้างทาง “ไปนอนโรงแรมดีกว่าพี่สันต์ตรงนี้กลัวโดนจี้” ผมฝืนขับรถไปโรงแรมเข้าห้องได้คิดว่าบ้านตัวเองจึงถอดชุดโยนทิ้งเหลือกางเกงในตัวเดียวก็ตะกายขึ้นเตียงหลับแบบปิดสวิตช์รู้สึกตัวหนาวมากมือควานเจอผ้าห่มก็ซุกเข้าไปแต่พอเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มดันไปเจอร่างนุ่มๆ แต่ร้อนผ่าวของเพ็ญเข้าจึงกอดหมับ “พี่สันต์..อย่ากอดเพ็ญ” เสียงอู้อี้ของเพ็ญทำให้ผมรู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่คนเดียว แต่มือกอดร่างอุ่นๆ น่ารักแล้วใครอยากปล่อยล่ะ “ขอกอดแก้หนาวหน่อย” ปากพูดไปอย่างนั้นแต่ใต้ผ้าห่มมือผมกอดล้วงไปโดนอกหน้าซุกเข้าหาซอกคอเพ็ญ “อย่าค่ะ..พี่สันต์..อย่ารังแกเพ็ญ” เสียงเพ็ญสั่นระริก “ไม่ได้รังแก..พี่ทำเพราะรักเพ็ญ..รักมากอยากใกล้ชิด..น้องเพ็ญจ๋า” ผมพล่ามออกไปตามสันดานเจ้าชู้ประสบการณ์สอนสั่งให้พูดรักหวานๆ กับหญิงแล้วหล่อนจะใจอ่อน หากไม่เอ่ยคำรักอย่าหวังจะได้เสพสม “ไม่..ไม่..ไม่..ไม่ค่ะ..พี่สันต์ไม่ได้รักเพ็ญ..พี่สันต์รักคนอื่นเพ็ญรู้” เพ็ญเถียงเสียงสั่น “เพ็ญรู้ดีกว่าพี่ได้ยังไง..พี่รักเพ็ญบอกเพ็ญอยู่นี่ยังจะให้พี่ไปรักคนอื่นทำไม” ผมยืนยันยื่นหน้าเข้าหาเพ็ญหลบปากไม่ยอมให้จูบแต่อาการดิ้นรนผลักไสไม่แข็งแรงเท่าตอนแรก เมื่อไม่ยอมจูบปากผมจึงไซ้ต้นคอแก้มกับใบหู มือเคล้าเนินอกล้วงไปจนเจอเม็ดบัวจึงบีบบี้เบาๆ “พี่สันต์ขา..อย่าทำค่ะ..ปล่อยเถอะ..เพ็ญกลัว” เสียงเธอขาดเป็นช่วงๆ “กลัวอะไรหรือเพ็ญ” “กลัวพี่สันต์ไม่รับผิดชอบ..กลัวพี่….” ผมไม่ปล่อยให้เธอพูดจบประกบดูดปากทันทีเพ็ญบิดหน้าหนีแต่ไม่พ้นจึงเม้มปากแต่ผมแหย่ลิ้นซอกซอนไม่นานปากเธอก็ยอมให้ลิ้นล่วงล้ำเข้าไป ที่สุดก็ได้ดูดลิ้นเธอ
ผ่านไปสักพักเพ็ญเริ่มดูดลิ้นผมตอบโต้ “พี่รักเพ็ญ..ขอรับผิดชอบทุกอย่างที่ทำลงไป” ผมกระซิบข้างหูขณะดึงกางเกงในเพ็ญออก มือได้สัมผัสกับอารมณ์รักของเธอที่ฉ่ำเยิ้มทั่วบริเวณปากร่องกลางเนินเนื้ออวบอูมเพ็ญตัวสั่นผวากอดเมื่อผมแทงนิ้วกลางช้าๆจนสุดนิ้วมือ ร่องเนินของเพ็ญเต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่น เธอพร้อมแล้ว… ผมคิดจับเพ็ญนอนหงายจ่อหัวสูบเข้าปากท่อกดสะโพกเข้าไป “โอ้ย..เบาๆ พี่สันต์เพ็ญเจ็บ” เธอร้องยกสองขาแยกห่างกันมากขึ้น ผมก้มลงจูบดูดดุนเม็ดบัวกลางเนินนมปลุกเร้าอารมณ์ให้เพ็ญเกิดความต้องการรุนแรงยิ่งขึ้น โดยคาหัวสูบไว้แค่ปากทางเพ็ญหายใจแรงเหมือนกับว่าออกกำลังวิ่งไกลมาจนเหนื่อย ผมจึงกดสะโพกใส่อีกนิด หัวสูบดับเพลิงมุดลึกกว่าเดิมมากขึ้นและมากขึ้น แต่ไม่ทันสุดสายสูบ “โอ้ยยย..พี่สันต์ขา..พอแล้วค่ะ..เอาออกก่อนเพ็ญเจ็บ..เจ็บมากจริงๆ” เสียงร้องของเธอน่าสงสาร “เพ็ญขึ้นมานอนทับพี่จะได้ไม่เจ็บ” ผมไม่ยอมเอาออกแถมพลิกตัวให้ให้เธอขึ้นมาอยู่ข้างบน ผมลูบหลังเธอเบาๆ เป็นการปลอบโยนให้คลายความหวาดกลัวอย่างหนึ่งที่อาจารย์จิตวิทยาเคยสอน “หายเจ็บแล้วใช่ไหม” ผมรู้สึกเธอเกร็งตัวไม่ให้หัวสูบของผมมุดลึกเข้าไป “มันยังตึงอยู่ค่ะพี่สันต์” น้ำเสียงของเพ็ญดีขึ้น “ครั้งแรกก็เป็นแบบนี้แหละ..เพ็ญของพี่เก่งจะตายเดี๋ยวก็หายเจ็บ” “เพ็ญไม่เคยนะคะ..พี่สันต์เป็นคนแรกของเพ็ญ..อย่าทำให้เพ็ญเสียใจนะคะพี่สันต์” ผมไม่อยากเชื่อเพ็ญไม่เคยมีประสบการณ์เพราะท่าทีเธอเต็มใจสนุกกับผม “พี่รักเพ็ญ..ไม่ทำให้เพ็ญเสียใจ” สันดานเจ้าชู้ทำให้ผมรับปากไปก่อนแล้วค่อยหาทางแก้เอาข้างหน้า “เพ็ญก็รักพี่สันต์ค่ะ..เพ็ญแอบรักมานานแต่ไม่คิดว่าพี่จะรักเพ็ญ” คิดไว้แล้วเพ็ญต้องมีใจให้ผม “เพ็ญจ๋าวันนี้เรามีความสุขด้วยกันนะ” “ค่ะพี่..เราจะมีความสุขด้วยกัน” เพ็ญตอบรับผมแล้วค่อยหย่อนก้นลงมาหูผมแว่วได้ยินเธอกัดฟันกระทั่งหัวสูบผมมุดเข้าไปจนหมด ผมให้เธอขยับตัวยกก้นขึ้นให้หัวสูบวิ่งเข้าวิ่งออกแต่เพ็ญทำได้ไม่ดีนักจึงจับเธอกลับลงไปนอนหงายแล้วเริ่มชักสายสูบเข้าๆ ออกๆ เนินเนื้อของเพ็ญอย่างเมามันร่องรักของเพ็ญฟิตแน่นรัดหัวสูบของผมตลอดเวลา ผมชักสายสูบเข้าๆ ออกๆไม่นานก็เสียวสุดทานทนปล่อยความรักพุ่งเข้าใส่แตกในเป็นระลอก
เพ็ญผวาเข้ากอดผมตัวสั่นระริกเมื่อความสุขพุ่งผ่านเข้าหาเพื่อนสาวรุ่นน้องหมดแล้วผมจึงชักหัวสูบออกเพ็ญรีบลงจากเตียงเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมจึงเปิดไฟสว่างทั้งห้องแล้วก็ตกใจเมื่อเห็นสีแดงดวงใหญ่บนผ้าปูที่นอน และเมื่อรูดหัวสูบของตัวเองก็ได้พบว่า มีสีแดงๆ ติดมือออกมาด้วย..เพ็ญมีประจำเดือน..ผมคิดง่ายๆ แต่ความจริงคืออะไร ”พี่สันต์..เพ็ญเลือดออกไม่หยุด” เพ็ญเปิดประตูห้องน้ำออกมาหน้าซีดเสียงสั่น ”ประจำเดือน” ”ไม่ใช่….ประจำเดือนหมดไปสิบวันแล้ว” ”ไปหาหมอกัน..” ผมหาทางออก ”ตอนตีสี่เนี่ยะนะ..ให้เพ็ญบอกหมอว่าไง” ”บอกว่านอนกะผัว” ”นอนกะผัว..ผู้หญิงไม่ได้แต่งงานไปบอกหมอว่านอนกะผัว..พี่สันต์บ้าไปคนเดียวเถอะ” ”พี่นี่ไงผัวเพ็ญ” ผมผูกมัดตัวเองมากขึ้น ”มานั่งตรงนี้ซิ..ขอดูแผลหน่อย” ”บ้า..บ้า..พี่สันต์บ้า..เพ็ญอายนะ” เธอร้องลั่นท่าทางมีความสุขคลายตระหนกจากการตกเลือด ‘พี่นึกว่าประจำเดือนของเพ็ญ” ผมชี้ให้ดูรอยเลือดบนผ้าปูที่นอน ”หมดไปตั้งนานแล้ว” เธอยืนยัน ”งั้นพี่รู้แล้ว..” ผมดึงเพ็ญเข้ามากอด ”รู้อะไรคะ..” ตาใสซื่อคู่นั้นทำให้ผมสงสารเธอยิ่งขึ้น ”รู้ว่าเพ็ญรักพี่มาก ถึงขนาดพี่บอกรักคำเดียวเพ็ญก็มอบความบริสุทธิ์ให้” ”พี่รักเพ็ญมากไหม” ”รักมากกว่าเพ็ญรักพี่” เธอซุกอกกอดผมแน่น ”พรุ่งนี้ไปหาหมอกัน..ตรวจให้รู้ทำไมเลือดสาวออกเยอะนัก” ”เพ็ญไปวันจันทร์แต่คนเดียว พี่ไปทำงานเถอะ” ผมซุกไซ้ดมกลิ่นแก้มหอมๆ ”จะกลับหรือยัง” ”แล้วแต่พี่ค่ะ” เพ็ญยังไม่อยากกลับ ส่วนผมอยากกอดต่อเราจึงนัวเนียกันด้วยความสุข
ผมดึงหัวสูบออกมาให้เพ็ญจับต้องให้คุ้นเคย แรกๆ เธอไม่กล้า แต่ที่สุดก็ยอมนวดหัวสูบแข็งจึงถูกส่งเข้าไปในร่องเสียว ผมซอยอย่างมีความสุข แต่เพ็ญตัวเกร็งแข็งทื่อเหมือนเจ็บปวดตลอดเวลา รุ่งขึ้นเพ็ญนอนจับไข้อยู่ในห้อง ผมส่งข้าวส่งน้ำเงียบๆ ไม่ให้พ่อรู้ ตอนเย็นนั่นจึงออกมาเดินไม่ค่อยถนัด วันจันทร์เพ็ญไล่ผมไปทำงานเย็นเจอกันจึงรู้ ”หมอว่าเยื่อสาวของเพ็ญหนามาก มีเลือดค้างอยู่ด้วย พอขาดเลือดค้างผสมออกมาจึงดูว่ามากกว่าปกติ” ”หมอห้ามไม่ให้ยุ่งกับแฟนพักหนึ่ง” กลางดึกผมแฉลบเข้าไปหา เพ็ญอ้างคำสั่งหมอไม่ยอมให้ผมล่วงเกินถึงเจ็ดวัน แต่พอวันที่แปดเธอเรียกผมเข้าไปซักไซ้เรื่องข้อสอบ นั่งเอานมเบียดแขน ผมทำเป็นไม่รู้เท่าทันอธิบายเธอเข้าใจแล้วก็จะออกจากห้อง ”พี่ไม่กินบัวลอยไข่หวานก่อนหรือจ๊ะ” ”ไหนล่ะ” ”เพ็ญกำลังอุ่นให้พี่” เธอประคองถ้วยขนมโปรดมาวางตรงหน้า เพ็ญใช้วิธีก้มตัวลงวาง แทนการนั่งแล้ววางอย่างเคย เสื้อคอกระเช้าที่สวมแม้เป็นผ้าหน้า แต่เพ็ญไม่สวมเสื้อในนมสองเต้าจึงออกมายั่วตา ”เพ็ญ..” ”จ๋า..” เพ็ญขานรับเหลือบตามองผม ”พี่อยากกินเม็ดบัว” ”พรุ่งนี้เพ็ญจะซื้อให้” ”อยากกินวันนี้” ”พี่สันต์ก้อ..บอกล่วงหน้าซีค่ะ ..ดึกป่านนี้ร้านขนมปิดแล้วค่ะ” ”ไม่ต้องไปซื้อที่อื่นหรอก พี่อยากกินเม็ดบัวของเพ็ญ” ”อุ๊ย..” เพ็ญอุทานมือดึงเสื้อคอกระเช้าให้บังนมสวยๆ ให้พ้นจากสายตาหื่นๆ ”ไม่ต้องปิดพี่อยากกินบัวสองเม็ดในเสื้อคอกระเช้าของเพ็ญนี่แหละ” ”ไม่ค่ะพี่สันต์” เธอหลบ แต่ผมรวบเข้ามาจูบเท่านั้น ตัวเพ็ญก็ลอยพ้นพื้นไปหล่นโครมบนเตียง เพ็ญไม่อิดออดแล้วยังตอบโต้ประสานจังหวะผมได้คล้องจอง เราสองสอดประสานเด้งรับกันอย่างรู้ใจจนเหงื่อกาฬไหลพร่างพรูก่อนพบกับความสุขสันต์บนแดนสุขาวดีพร้อมกัน ”เพ็ญทำข้อสอบได้ทุกข้อเลยพี่สันต์” เธอยิ้มร่าวิ่งเข้ามากอดเมื่อผมกลับถึงบ้านใกล้ค่ำวันต่อมา ”เห็นมั้ยมีความสุขกับพี่แล้วสมองปลอดโปร่ง ความจำดีจำตำราได้ทุกบทตอน” ”เพ็ญเหนื่อยแทบตื่นไปสอบไม่ทัน..พี่ยังว่าดีอีก” เธอตัดพ้อ ”งั้นคืนนี้ต้องซ้ำจะได้หายเหนื่อยหายเพลีย” ”ไม่ไหวพี่..รอไปก่อนเถอะ..เพ็ญระบมทั้งตัว..ยังกะคราบของพี่ตามไปสอบด้วยเลย” ”นึกว่าพี่ตามไปให้กำลังใจถึงห้องสอบซี..จะได้มีความสุข” ”นึกแบบนั้นเพ็ญคงเพลียไม่มีแรงสอบแน่ๆ” เธอหัวเราะเสียงใส
ผมสนุกกับเพ็ญคืนเว้นคืนจนเธอสอบเทอมสุดท้ายเสร็จทุกวิชา ”รู้ผลเมื่อไหร่” ”เดือนหน้าค่ะ” จังหวะนั้นผมมีงานมากจนไม่ค่อยได้สัมผัสกัน สิบกว่าวันผมกลับบ้านค่ำเพ็ญไม่อยู่บ้านจึงออกตามหาไปเจอนั่งชิงช้าที่สนามเด็กเล่นคนเดียวกลางความมืด ”ไม่สบายหรือเปล่าเพ็ญ” ”เปล่าค่ะ” เธอให้ผมจูงมือกลับบ้าน ”กลัวสอบไม่ผ่าน” เพ็ญสั่นหัว ”งั้นก็บอกพี่มาว่าไม่สบายใจเรื่องอะไร” ”เพ็ญสบายดีค่ะพี่” เธอรีบเดินนำผมถึงบ้านก็จัดหาข้าวให้ทันที ”พ่อล่ะ” ”ท่านไปทานเลี้ยงค่ะ” ”คืนนี้พี่นอนด้วยนะ” ”ค่ะ..” สี่ทุ่มกว่าพ่อถึงบ้านเรียกผมไปคุย ”ท่าทางเพ็ญมีปัญหาเอ็งสังเกตไหม” ผมสั่นหัว ”เอ็งปล้ำเพ็ญหรือเปล่า?” ผมสั่นหัวอีก ”เออดี แต่ถ้าเอ็งปล้ำพ่อก็ไม่ว่าอะไร เพ็ญมันเด็กดี ขยัน ช่วยเอ็งทำมาหากินได้” ”พ่อคิดว่าเพ็ญมีปัญหาเรื่องผู้ชาย” ผมแข็งใจเอ่ยปากถามพ่อ ”เออใช่..คิดว่าเป็นเอ็งด้วย..เพราะเอ็งเจ้าชู้นัก..เอ็งไม่ทำก็แล้วไป แต่ลูกผู้ชายทำอะไรต้องรับผิดชอบนะโว้ย..เดี๋ยวพ่อจะไปคุยกับเพ็ญสักพัก” พ่อแยกจากเพ็ญห้าทุ่มกว่า ผมแกล้งสนใจหนังคาวบอยเก่าในทีวี ”ได้เรื่องไหมพ่อ” พ่อส่ายหัวเดินเข้าห้องนอนแล้วไม่ออกมาอีก ผมนั่งดูหนังอีกครึ่งชั่วโมงไม่มีความเคลื่อนไหวของพ่อและเพ็ญจึงปิดทีวีปิดไฟ เข้าไปแปรงฟันเปลี่ยนชุดนอนแล้วจึงไปห้องเพ็ญประตูไม่ได้ล็อก เพ็ญนอนมองผมไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ”คิดถึงพี่ใช่ไหม..หรืองอนพี่” ผมแกล้งหยอก ”ไม่ทั้งสองอย่างค่ะ” ”พี่คิดถึงเพ็ญเหลือเกิน” ผมล้มตัวลงนอนกอดเธอ ซุกไซ้ปากแก้ม เพ็ญรับจูบไม่ขัดขืน..แต่ไม่มีอารมณ์จนผมรับรู้ได้ ”เพ็ญเป็นอะไรไป..บอกพี่ซิ” ”พี่สันต์..” แววตาเซื่องซึมไร้ชีวิตชีวาจ้องผม ”เพ็ญสงสัยท้องค่ะ..” ”เพ็ญท้อง” ผมครางยาวในใจปั่นป่วนไปหมด ”ยังไม่แน่นะคะพี่สันต์ ประจำเดือนหายไปสิบวันเท่านั้น แต่ถ้าท้องจริงเพ็ญจะจัดการเอง พี่สันต์ไม่ต้องห่วง” น้ำเสียงเธอแหบแห้ง ”เพ็ญจัดการอะไร..จัดการยังไง” ผมถามเสียงดัง ”เบาๆ ซีคะเดี๋ยวท่านได้ยิน..เพ็ญปรึกษาเพื่อนแล้วพรุ่งนี้เพื่อนจะพาไปปรับ” เสียงเพ็ญแหบแห้งแต่มั่นคง ”เพ็ญจะฆ่าลูก” ”เปล่าค่ะ..เพ็ญยังไม่ท้อง..แต่เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำให้พี่สันต์ยุ่งยากเท่านั้น” ”พรุ่งนี้เพ็ญไปกับพี่” ผมกอดเธอแน่น ”ไปไหนคะ” ”ไปหาแม่เอ๋..พี่จะไปขมาแม่เอ๋ สารภาพว่าพี่รักเพ็ญแล้วทำเพ็ญท้อง..พี่ต้องการแต่งงานกับเพ็ญเร็วที่สุด” ”พี่สันต์ไม่หลอกให้เพ็ญดีใจคืนเดียวนะคะ” ”ไป..ไปหาพ่อกันเดี๋ยวนี้” ผมพาเพ็ญไปเคาะเรียกพ่อสารภาพเรื่องทั้งหมด ”แบบนี้ค่อยสมกับเป็นลูกพ่อ..เพ็ญสบายใจได้แล้วลูก..” ผมกราบเท้าพ่อแล้วกอดเพ็ญเข้าห้องตัวเอง ”เฮ้ยๆ ไม่ได้เพ็ญยังไม่ใช่เมียเอ็ง..ปล่อยให้เพ็ญกลับไปนอนห้อง” ผมไม่สนล็อกประตูห้องให้พ่อบ่นพึมพำคนเดียว
ผมลางานขับรถพาเพ็ญไปพบแม่เอ๋ สารภาพกับแม่ยายเหมือนที่บอกพ่อ ”สันต์รักลูกสาวแม่หรือเปล่า” ”รักครับแม่เอ๋” ”เพ็ญล่ะรักพี่สันต์เค้ามั้ย” ”รักมากจ้ะแม่” ”แม่ยินดีด้วยทั้งสองคน..ดีเหมือนกันแม่จะได้อุ้มหลานทันใจ” แม่เอ๋กอดลูกสาวคู่กับผมแนบแน่น ”แม่เอ๋หาฤกษ์แต่งเลยนะครับ ศุกร์นี้ผมกับพ่อจะมาขออีกหน” ”ไม่ต้องแล้วสันต์..ได้ฤกษ์เมื่อไหร่แม่จะโทร.ไปบอกแล้วมาทำพิธีที่บ้านนี้ตอนเช้า..ค่ำๆ ก็เลี้ยงเพื่อนๆ แบบกันเองในบ้านนี่แหละไม่ต้องมากพิธี ส่วนสินสอดพอใจให้เพ็ญเท่าไหร่ก็เท่านั้นแม่ไม่เรียกร้อง” แม่ยายจัดการเรื่องแต่งงานได้รวบรัดภายในสองอาทิตย์ต่อมาด้วยเหตุผลเดิม ”ไม่ต้องเอิกเกริกให้รู้ทั่วเมืองแม่ยังระแวงไอ้หลองที่ยังหนีไปอยู่นะ..” แม่เอ๋แต่งตัวสวยเหมือนเพื่อนเจ้าสาวราวไม่ใช่แม่ ส่วนน้าแอ๊วไม่โผล่มาจนเพ็ญเอ่ยถาม ”น้าแอ๊วไปไหน ป่านนี้ยังไม่มา” แม่เอ๋ดึงเพ็ญเข้าไปกระซิบ เจ้าสาวของผมหัวเราะคิก เมื่อเสร็จเรื่องราวผมพาเพ็ญกลับกทม. น้าแอ๊วของเพ็ญก็ยังไม่มา ”น้าเค้ายกที่ท้ายสวนให้ 2 งาน แม่จะออกเงินปลูกบ้านให้ เดือนหน้าช่างนัดมาดูแบบอย่าลืมล่ะ” ผมแยกไปอยู่คอนโด ชีวิตคู่มีความสุขดี เพียงแต่ห่างเรื่องบนเตียงด้วยเมียท้อง ผมจึงต้องอดทนเพื่อลูก คิดในใจนับวันอดอยาก คลอดเมื่อไหร่ผมจะเรียกดอกทบต้นคืนจากเพ็ญ แล้วผมก็ได้ลูกชาย ”ภรรยาคุณมดลูกไม่แข็งแรง 2-3 ปีนี้อย่าเพิ่งมีลูกอีกนะครับ” เพ็ญกินยาคุมตามคำแนะนำของหมอเมื่อมดลูกเข้าอู่ ”อย่าแรงนะพี่สันต์ เพ็ญยังเสียวข้างใน” คำขอร้องของเพ็ญทำผมหายคึกไปเกือบครึ่ง ส่วนเพ็ญเกร็งตัวไม่ปล่อยอารมณ์สนุกกับผมเหมือนก่อนแต่ง ยาคุมทำให้หุ่นที่อวบอัดของเพ็ญเป็นสาวบอบบาง แค่ปีเดียวเมียหุ่นอวบอั๋นกลายเป็นผอมบางไม่สะใจ ผมเริ่มหงุดหงิด เมื่อเพ็ญไม่ค่อยมีอารมณ์ผมอยากมากๆ ก็ต้องใช้กำลัง แทนที่จะได้รับความสุขกลับกลายเป็นทุกข์ เพ็ญโดนข่มขืน 2 ครั้ง เธอขอแยกห้องไม่ยอมให้ผมร่วมรัก สรุปอยากมีความสุขผมต้องใช้กำลัง
ผมแก้ปัญหาด้วยการออกไปปลดปล่อยข้างนอก แต่พอกลับดึกหรือมีกลิ่นพิเศษติดตัวมาก็เกิดวิวาทกัน แล้วเพ็ญก็อุ้มลูกขวบครึ่งหนีไปอยู่กับแม่เอ๋ ผมตามไปงอนง้อเท่าไหร่เพ็ญไม่ยอมกลับ ”ขออยู่รักษาตัวกับแม่สักพักนะคะพี่สันต์..ถ้าไม่ดีขึ้นเพ็ญยอมให้พี่มีคนอื่น” เพ็ญไปนอนห้องแม่เอ๋ล็อกประตูไม่เปิดรับ ผมเรียกจนท้อ ”ไปหาข้าวกินก่อนเถอะสันต์” แม่เอ๋มาให้สติ ”ผมอยากกินเหล้า” ”ไปรอที่บ้านเดี๋ยวจะให้เด็กเอาไปส่ง” ผมอยู่บ้านใหม่คนเดียวไม่นานก็มีสาวสักสามสิบถือเหล้ากับแกล้มมา ”พี่เอ๋ให้เอามาส่งคุณสันต์” ”วางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ” ผมกำลังเซ็งมองแวบเดียวว่าคนใช้บ้านนี้สวยดีแต่ไม่มีอารมณ์จะจ๊ะจ๋าจึงหลับตาคิดถึงปัญหาชีวิต ”รินเหล้าให้แล้วนะคะคุณสันต์” เธอพูดขณะเดินผ่านตัวออกจากบ้านไปผมขยับไปยกเหล้าแก้วนั้นดื่ม แล้วดื่มติดๆ กันจนหมดไปครึ่งขวด กินเหล้าแล้วผมร้อนเมื่ออยู่คนเดียวจึงถอดเสื้อกางเกง คว้าผ้าเช็ดตัวมานุ่งทับกางเกงลิงฝืนกินเหล้าต่อจนเมาหลับบนเก้าอี้ยาว รู้สึกตัวปวดฉี่มากเข้าห้องน้ำแล้วอาบน้ำเสร็จออกมาจึงเห็นว่าแก้วเหล้าจานใส่กับแกล้มบนโต๊ะถูกเก็บเรียบร้อยหมดแล้ว …เพ็ญคงมาเก็บ… ผมคิดในใจเดินเข้าห้องนอนเปิดไฟแต่ไม่ติดสักดวงจึงปิดประตูห้องกระชับผ้าขนหนูแน่นแล้วขึ้นเตียงนอน ฤทธิ์เหล้ายังเหลืออีกหลายก๊งผมจึงหลับตาก่อนพลิกมือควานหาหมอนข้างแต่ไปกระทบร่างใครคนหนึ่งในผ้าห่ม ”เพ็ญ..เพ็ญจ๋า..เพ็ญมานอนกับพี่คิดถึงพี่ใช่ไหม” ผมเชื่อมั่นว่าร่างในผ้าห่มนั้นเป็นเมียรักจึงสอดมือเข้าไปกอดลูบไหล่เธอปากก็พร่ำพรรณนาบอกถึงความรักเมียมากมายมหาศาลปานใด ไม่มีเสียงตอบจากเพ็ญมีแต่เสียงถอนหายใจยาวๆ ติดต่อกัน ”พี่รักเพ็ญมากนะจ๊ะ..ต่อไปพี่จะไม่ขัดใจเพ็ญอีกแต่เพ็ญก็ตามใจพี่บ้างนะ” มือที่ลูบแขนเลยไปถึงอก เพ็ญซูบไป แต่ยังมีก้อนเนื้อให้เคล้าคลึง ผมเคล้นนวดเต้าตึงต่อไปเพ็ญถอนหายใจหนักๆ อีกหลายครั้งผมจึงใช้สองนิ้วบีบบี้เม็ดบัวกลางอก ”ซี้ดดด…” เพ็ญครางหันตัวกลับมาซุกหน้ากับอกผมอย่างเคยชิน แต่มือเธอล้วงจับหัวสายสูบที่แข็งตัวอยู่
เพ็ญถลกกางเกงลิงดึงหัวสายสูบของผมออกมารูด ผมจึงล้วงเนินรักของเธอบ้าง เพ็ญมีอารมณ์มากจนนิ้วผมเปียกเลยครับ ไม่ต้องเสียเวลาอีกแล้ว ”เพ็ญจ๋าพี่จะทำเบาๆ นะ เจ็บเมื่อไหร่รีบบอกพี่” ผมกระซิบถือโอกาสไซ้ลิ้นตวัดเลียใบหูเธอไปพร้อมกัน ”ฮืออ..ฮือออ…ซี้ดดด..” เสียงเพ็ญอู้อี้เมื่อหัวสายสูบผมเริ่มมุดเข้ากลางเนินรัก น้ำหล่อลื่นมากมายของเพ็ญทำให้มันหายเข้าไปหมดสายในเวลาไม่นานนัก ”ไม่เจ็บแล้วนะจ๊ะ” ผมถามให้แน่ใจเพราะไม่อยากวิมานทลายอีก ”ฮืออออ..” เพ็ญตอบรับด้วยเสียงคราง ”พี่ซอยเลยนะเพ็ญ..รับรองว่าเบาๆ เบาที่สุด” ผมซักหัวสูบออกมาซอยเข้าออกช้าๆ และนิ่มนวล ไม่นานสะโพกของเพ็ญก็ส่ายรับการซอยของผมได้คล่องแคล่ว ”เพ็ญไม่เจ็บแล้ว..พี่ดีใจที่สุด” ผมเสียงดังซอยกระแทกใส่เพ็ญรุนแรงไม่ยั้งอย่างที่เคยทำ เพ็ญก็ตอบสนองสุดเหวี่ยงไม่เกรงกลัวความเจ็บปวด และส่งเสียงร้องครางดังกระหึ่มขึ้นทุกขณะ ป้าบๆ ป้าบๆ ผมซอยหัวสูบใส่เพ็ญไม่บันยะบันยังด้วยความเสียวกระสันอย่างที่สุด เพ็ญก็ร้องครางตอบรับ ”เสียว…เสียวววว…เสียวจังเลยสันต์ขา..” เสียงเพ็ญแปร่งไปจากปกติ ”พี่เสียวแล้วนะเพ็ญเกือบหรือยัง..เราเสร็จพร้อมกันนะเพ็ญจ๋า” ”เสียว..เสียวแล้วค่ะ..เสียววว..เหลือเกินไม่ไหวแล้ว..เสียวเหลือเกินสันต์ขา..เสียวที่สุดเลย” ”พี่..” ผมรู้แล้วว่ากำลังนอนกับใครจึงหยุดชะงัก ”อย่าหยุด..อย่าหยุดนะ…เอาอีก..เอาพี่แรงๆ เอาต่อไป..พี่กำลังมันเอาต่อไปเร็วๆ..เร็วๆ…พี่กำลังจะออก…ออกกก…แล้วสันต์ขา” คนที่ผมเข้าใจว่าสาวที่เด้งรับหัวสูบอยู่นั้นเป็นเมียรักจะส่งเสียงร้องครางด้วยความเสียวกระสัน เธอได้พลิกตัวจากการนอนหงายขึ้นมาอยู่เหนือผมทำตัวเป็นจ็อกกี้ม้าขี้โขยกอย่างเมามันพร้อมกับเสียงเร่งเร้าตลอดเวลา ผมจึงเด้งใส่เธอรุนแรงโดยไม่สนว่าใครคือเธอ ”พี่ออก. ..ออกแล้ว.. .สันต์ขา” เธอกระแทกหอยสู้ผมอย่างรวดเร็วปากก็ร่ำร้อง.. .ออกแล้วๆๆๆ. ..ติดๆ กันไม่หยุด เพ็ญเคยเสียวสะท้านกับผมมาก่อน แต่เสียงและลีลาเมียผมไม่ได้ครึ่งของเธอผู้นี้
เธอมีความสุขสองครั้งติดๆ ก็เริ่มอ่อนแรงไม่มีแรงกระแทกเนินสู้ ผมจึงพลิกตัวเธอกลับลงไปนอนยกสองขาเบื้องล่างแล้วทำตัวเป็นคนขี่ม้าโขยกใส่บ้าง คราวนี้เธอกระเส่าเสียงครวญครางเสียงเร่งเร้าให้ผมขึ้นถึงสรวงสวรรค์ด้วยความเสียวสุดยอดยิ่งกว่าครั้งใดๆ ป๊าบๆ ป๊าบบบ…ผมกระแทกหัวสูบใส่อย่างรุนแรงติดต่อกันเกือบยี่สิบทีแล้วปล่อยความสุขพุ่งเข้าใส่ เธอแอ่นเนินขึ้นรับลาวาร้อนๆ ของผมพร้อมกับบิดตัวไปมาครางเสียงสั่น…สันต์จ๋าดีเหลือเกิน…สันต์จ๋าพี่มีความสุขมาก…สันต์จ๋าๆๆ เสียงครางของเธอเบาลงทีละน้อยกระทั่งเงียบไป เหลือเพียงเสียงหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยของเราสองดังแข่งกัน ”เข้ามาอยู่ในห้องผมได้ไง…พี่…” ผมถามประโยคแรกเมื่อหายเหนื่อยแต่ถูกใช้มือปิดปากไว้ก่อนพูดจบ ”ไม่ต้องถามอะไร…ตอบพี่มาก่อนว่ามีความสุขกับพี่หรือเปล่า” ”มีครับ…มีมาก” ”รังเกียจพี่ไหม…ถ้าพี่จะขอความสุขจากสันต์อีก” ”แล้วเพ็ญล่ะพี่…” มือเธอปิดปากผมพูดย้ำอีกหน ”ตอบอย่างเดียวไม่ต้องถาม” ”เมื่อทำให้พี่มีความสุขได้ผมก็ยินดีทำให้ครับ” ”ดีมากน้องรัก…” เธอจูบปากสอดลิ้นเข้ามากอดกระหวัดลิ้นผม ”พี่…” ผมจูบกันอย่างเร่าร้อนรุนแรงด้วยความต้องการของเรานั้นคล้องจองกันเมื่อถอนปากออกผมจึงเอ่ยแต่ถูกมือประกบปิดไว้ ”บอกแล้วไงว่าฟังกับตอบเท่านั้นไม่ต้องถาม…ไม่ต้องสงสัยทุกอย่าง” ”แต่..” ”ไม่ต้องมีแต่ด้วย..มีพี่..มีสันต์และมีความสุขระหว่างเราสองคนเท่านั้น..ไม่เกี่ยวกับใครทั้งสิ้น..สันต์ทำได้ไหม” ”แต่ผม…” ผมไม่รับคำ ”สันต์สงสัย..กลัวพี่จะทำลายความรักของสันต์กับเพ็ญหรือเปล่า?” ”แต่พี่มา..” เธอไม่ยอมให้ผมถามจบ ”ใช่พี่มาเสนอตัวให้..ถ้าสันต์ไม่รังเกียจ ช่วยพี่ให้มีความสุขบ้างตามวาระ โดยสันต์ยังรักเพ็ญกับลูกมากๆ..ไม่รังแก ไม่ทิ้งเพ็ญ… สันต์ทำได้ตามนี้ พี่ก็สัญญาจะส่งเสริมสันต์กับเมียให้รักมั่นยืนยาว” ปากพูดมือไม่อยู่นิ่งไต่ไล่จากอกลงไปท้องแล้วขยุกขยิกที่ลำสายสูบ ”ผมไม่เคยรังแกเพ็ญและไม่เคยคิดทิ้งเพ็ญ” ผมเถียง ”เรื่องนี้ไว้ทีหลัง” สาวในความมืดตัดบท ”ผมรักเพ็ญอยากมีความสุขด้วยโดยไม่นอกใจเพ็ญ”
เธอขยับขึ้นมาจูบปิดปากไม่ให้พูดต่อ มือเกาตามลำสายสูบทำให้มันตื่นตัวร้อนแล้วตั้งขึ้นเป็นลำ ”มหึมาเกินกว่าพี่คาด” มือเธอลูบลำสายสูบส่งเสียงพึมพำ ”ตอนได้ยินนึกว่าสักห้าหกนิ้ว..แต่นี่มันเจ็ดนิ้วกว่ามั้งเลยคืบไปตั้งเยอะ” เธอยืดนิ้ววัดความยาวลำสายสูบของผมแล้วดึงหนังหัวเขี่ยนิ้วไปตรงร่องเส้นสองสลึง ”เสียวนะพี่..” ผมตัวเกร็งร้องบอกไป ”ก็เสียวน่ะซี…ไม่เล่นให้เสียวแล้วจะเล่นทำไม” เธอย้อนแล้วจากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกเพราะเธอดูดหัวสูบของผมเข้าไปไว้เต็มปาก ตอนนี้พูดอธิบายอะไรต่อก็คงไม่รู้เรื่องผมจึงสนองตอบแทนการเสนอยกที่สองของเธอ เนินเนื้อด้านนอกของเธอแห้งแล้วแต่ภายในยังฉ่ำไปด้วยความสุขทั้งของเราที่คลุกเคล้ากัน สองนิ้วผมแทรกเข้าไปเธอคายหัวสูบออกมือจับลำแน่นแตะปลายลิ้นวนไปบริเวณเนื้อหน้าประธานที่อ่อนไหวด้วยปลายเส้นประสาท เพิ่มความกระสันเสียวทวีคูณ ผมพยายามมุดเข้าไปใช้ปากแต่โดนห้าม ”อย่าเพิ่งเลยวันนี้พี่ไม่พร้อม..เดี๋ยวได้กลิ่นแล้วบ่นว่าพี่เหม็น” เธอดันหน้าผมพลิกตัวกลับมาประกบอยู่เบื้องบน มือจับหัวสูบตั้งตรง กางขายกก้นสูงให้หัวสูบปักกลางเนินเนื้ออูมแล้วปล่อยน้ำหนักตัวลงหัวสูบผมมุดเข้าไปเกลี้ยง ”ซี้ดดดด…ทำเถอะ..พี่เสียวแล้ว” เธอซี้ดดด…ดังอื้ออึง ผมเสียวตามเสียงขณะหัวสูบโดนกลีบเนื้อในร่องรักของเธอขมิบบีบรัด กล้ามเนื้อข้างเธอแข็งแรงมากขยับบีบรัดให้ผมเสียวจนต้องวนสะโพกเป็นก้นหอยให้หัวสูบควานร่องรักตอบโต้บ้าง ”มันดีเหลือเกินสันต์..ของเธอมันดีจริงๆ” เธอพึมพัมเป็นฝ่ายหมุนวนสะโพกสลับยกสูงขึ้นก่อนซอยกดลงต่ำให้กลีบเนื้อร่องรักบีบรัดขมิบ
ผมใช้การเด้งเบาๆ ตอบรับเธอไปพร้อมกับการวนสะโพก ”เสียว…พี่เสียว…ไม่ไหวแล้วสันต์ทำเถอะพี่เสียวเหลือเกิน” เธอพลิกนอนหงายสองขายกลอยอย่างว่องไวบ่งบอกว่ามีประสบการณ์มากมาย ผมจึงกระแทกหัวสูบเข้าใส่แบบไร้ความปรานี เธอร่อนเนินสู้แบบไม่เกรงกลัวร่องรักพัง ผ่านไปเกือบห้านาทีเธอก็ออกอาการรัดสองขากับเอวผมแน่นไม่ยอมให้เคลื่อนไหว ”ดีไหมพี่..” ”ดี..ดีที่สุด..” คำตอบของเธอบอกแล้วว่าเธอมีความสุข เมื่อเธอคลายแรงขาผมจึง..ซอย..ซอย..ซอย..ใส่เธอแบบไม่ซ้ำท่าเหงื่อไหลเป็นทางทั่วหลัง คราวนี้เธอทั้งกอดและรัดขา ”เกือบหรือยังสันต์จ๋า” ”เสียวมากแล้วครับ..” ”ออกพร้อมกันนะ..ซอยพี่แรงๆ” ไม่ต้องย้ำหรือเร่งให้ซอยเร็วๆ อีก ผมจ้วงกระแทกหัวสูบอัดใส่เธออย่างไม่กลัวหัก ซอย..ซอย..ซอย..ผ่านไปหลายนาทีพลังในตัวผมที่อัดแน่นมานานจึงระเบิดเป็นลาวาร้อนพุ่งออกจากหัวสูบเข้าใส่เธออย่างรุนแรงในจังหวะที่ผมกระแทกเข้าไปสุดตัวพอดี ”กรี๊ดดด สันต์จ๋า เสียว เสียวเหลือเกิน เสียวววว..” เธอลืมตัวกรี๊ดเสียงออกมาสองขาถีบที่นอนอย่างแรงเหมือนจะหนีหัวสูบของผมให้พ้นจนหัวเธอกระแทกกับพนักหัวเตียง ”…….” เธอพึมพำคล้ายบ่นคล้ายร้องฟังไม่รู้เรื่องแล้วเงียบลงแต่เหงื่อแตกพรั่งพรูมากมาย ความสุขที่พุ่งออกจากหัวสูบเข้าใส่เธอเป็นจังหวะ ทุกครั้งที่มันพุ่งเข้าไปเธอก็จะขมิบกล้ามเนื้อข้างในรัดผมเหมือนกับจะรีดพิษรักของผมให้หมดตัว ความสุขหลั่งทะลักหมดแล้วเรี่ยวแรงก็สูญสิ้น ผมนอนกอดเธอนิ่งๆ จมูกได้กลิ่นเหมือนครั้งแรกที่ได้เพ็ญเป็นเมีย กลิ่นคาวเลือด ผมสูดจมูกฟุดฟิดให้แน่ใจกลิ่น ”สงสัยเมนพี่มา” เธอขยับตัวพูดเบาๆ ลงจากเตียงเดินตรงไปเปิดไฟห้องน้ำสว่างวาบขึ้นมา ”พี่เอ๋” เธอไม่หันมาแต่แสงไฟห้องน้ำสว่างพอให้เห็นชัด ”เธอไม่ใช่พี่เอ๋ครับ”
”พี่เอ๋คือใคร” ผมไม่ได้ตั้งใจปิดบัง แต่คืนนั้นมืดมากและผมเมา…เมื่อเมาแล้วผมยึดเรื่องบนเตียงสำคัญกว่าอื่นใด มีผู้หญิงมานอนรอในห้องนอน คนอื่นอาจปฏิเสธแต่ไม่ใช่ผม แถมบทเพลงบนเตียงของเธอแสนสะใจสุขสมปานนั้น ผมไม่ทำ 3-4 ยกถือว่าแย่ คืนนั้นแค่เสร็จสองยกก็มีอุบัติเหตุ ผมรอหน้าประตูเมื่อเธอเปิดก็ดันสวนเข้าไป “เธอเอง…” เห็นชัดเธอคือคนยกเหล้ามาส่ง “ใช่…” เธอสู้ตาไม่มีแววหวาด “ทำแบบนี้…ถ้าเพ็ญรู้??” ผมเกิดกลัวเมียรู้เรื่อง “ไม่ได้ตั้งใจ…แต่เห็นแล้วอยากพิสูจน์ความจริง…” “พิสูจน์ความจริง…มีด้วย” ผมทวนคำ “มีซี…แม่น้องเพ็ญบังคับลูกให้มานอนกับผัวน้องมันไม่ยอมเอาแต่ร้องไห้…เลยอยากรู้ว่าเพราะอะไร” “ทำแบบนี้แล้วรู้?” ผมสับสนสงสัย เธอเป็นใครจึงเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ จึงกวาดตามองเธออย่างตั้งใจ “สงสัยมากนักเหรอ…ไปคุยกันข้างนอก” เธอดันผมไปนั่งบนเตียง เดินไปมุมห้องแล้วไฟในห้องก็สว่าง “พี่เป็นใคร?” คะเนอายุเธอน่าจะเกิน 30 สูงเกือบเท่าผมแต่ผ้าขนหนูกระโจมอกทำให้เห็นรูปร่างไม่ชัดเจน รู้ว่าสะโพกผายใหญ่ นมเต็มมือหน้าสวยปากบางตาคมเข้ม “เด็กส่งเหล้าไงลืมแล้วหรือ?” เธอหัวเราะไม่สนใจว่าผมจะหน้านิ่วคิ้วขมวดปานใด “สี่ทุ่มกว่าไม่ได้ยินเสียงตั้งใจมาเก็บถ้วยจาน…แต่มาเจอคนเมานอนกำจรวดลำใหญ่เลยอยากพิสูจน์ ไม่คิดจะเจอจรวดข้ามทวีปสมใจอยากพี่เลย…เรื่องมีแค่นี้”
“พี่เป็นใคร?” ผมย้ำอีกครั้ง “อย่าเครียดน้องสันต์…ถ้าน้องสันต์ให้สัญญากับพี่ตามที่ขอไว้ก็จะรู้ว่าพี่เป็นใคร” “ถ้าผมไม่สัญญา” “แล้วแต่ใจสันต์” เธอลูบขาอ่อนผมก่อนเลยไปโดนหัวสูบที่นอนในกางเกง “ถ้าสันต์ไม่…พี่ก็ได้แต่เสียดายสิ่งดีๆ ที่เราให้กันในคืนนี้อย่างที่สุด” “พี่ทำเพื่ออะไร” ผมซักไซ้ต่อ “เพื่อความสุขของทุกคนในบ้านนี้รวมทั้งพี่และสันต์” “ถ้าเพ็ญรู้เรื่องบ้านผมแตกแน่… พี่จะช่วยอะไรได้” “เราช่วยกันได้ดีที่สุด… ช่วยกันปิดความลับเอาไว้ไม่ให้เพ็ญกับพี่เอ๋รู้เรื่องนี้” “พี่เป็นน้องพี่เอ๋…เป็นน้าแอ๊ว…” “สันต์ตัดสินใจได้หรือยัง” เธอไม่ตอบแถมมือหันไปนวดหัวสูบผมหนักขึ้น “สันต์นี่ไฟแรงสูงเหลือเกินนะแค่แตะนิดเดียวขึ้นลำแล้ว” ผมยังตัดสินใจไม่ถูก จะรับสัญญาหรือปฏิเสธ ผมนั่งนิ่งปล่อยให้เธอลูบสัดส่วนสำคัญต่อไปจนแว่วเสียงไก่ขันมาแต่ไกล “เมื่อตัดสินใจไม่ได้พี่ก็ไปก่อนนะสันต์ขอบใจที่คืนนี้ทำให้พี่มีความสุขที่สุดในชีวิต” เธอปล่อยมือจากหัวสูบที่กำลังขึ้นลำลุกขึ้นยืน ผมดึงข้อมือไว้ “น้าแอ๊ว…” “อย่าขี้ตู่เรียกพี่แบบนั้น..พี่ไม่ใช่น้า…” ผมดึงเธอลงนั่งบนตัก “ถ้าผมสัญญาพี่จะทำยังไงให้ทุกคนพอใจ” “พี่รู้ว่าจะทำยังไง…ข้อสำคัญอยู่ที่สันต์ต้องอยู่ในสัญญา…ถ้าสันต์ทำได้พี่จะมีของแถมให้พิเศษ” “เป็นอะไรครับ” ผมไซ้ซอกหูเธอกระซิบถาม “ถึงเวลาก็รู้เอง…ปล่อยพี่เถอะ…ใกล้สว่างแล้ว” “ขอล้างหน้าไก่อีกรอบนะพี่” ผมห้ามใจไม่อยู่เธอส่งยิ้มให้เอนตัวหงายลงบนเตียง