ทุ่มเศษ ๆ ที่ป้อมยามของอาคารหลังใหญ่หลังหนึ่ง ในขณะผู้ที่ทำหน้าที่ยามรักษาความปลอดภัยผลัดกลางคืนเพิ่งรับเวรมาจากผลัดกลางวัน แล้วนั่งไม่ทันหายเหนื่อยด้วยซ้ำที่ประตูเหล็กด้านหน้าก็มีเด็กสาววัยไม่เกินสิบห้ามายืนเกาะชะเง้อมองมาที่ป้อม ผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบยามในชุดสีกากีเห็นแล้วรีบกุลีกุจอออกมาถามไถ่วัตถุประสงค์ เนื่องจากเวลานี้อาคารแห่งนี้ได้ปิดทำการไปแล้วและจะไม่มีคนอื่นอยู่เลยนอกจากยามที่อยู่เป็นจุด ๆ แค่ 3 คนเท่านั้น
“น้อง ๆ ..มาหาใครเหรอ” เด็กสาวคนนั้นรู้สึกมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมาเล็กน้อยเพราะเท่าที่ดูจากการแต่งตัวและสัมภาระที่ติดตัวมาแสดงให้เห็นถึงผ่านการเดินทางไกลมาแน่นอน “หนูจะมาขอความช่วยเหลือจากพี่หน่อยค่ะ” เด็กสาวบอกวัตถุประสงค์ “มีอะไรเหรอน้อง” “คืออย่างนี้ค่ะ หนูมาจากหนองคายมาตามหาพ่อหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลยจะมาขอให้พี่ช่วยหนู เพราะตอนนี้หนูมืดแปดด้านแล้วค่ะ” “แล้วจะให้พี่ช่วยได้ยังไงเนี่ย..” ยามหนุ่มเกาหัวยิก “พี่เป็นตำรวจต้องช่วยได้สิค่ะ ญาติ ๆ หนูเขาบอกว่าถ้าเดือดร้อนอะไรก็ให้เข้าหาตำรวจได้เลย” เด็กสาวพูดออกไปตรง ๆ โดยไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเข้าใจผิดคิดว่าผู้ชายคนที่อยู่ในเครื่องแบบยามรักษาความปลอดภัยเป็นตำรวจและคำพูดด้วยความซื่อตามแบบฉบับของคนชนบททั่ว ๆ ไป นั่นเกิดไปสะกิดความคิดวูบหนึ่งของยามหนุ่มคนนั้นเข้าโดยบังเอิญ มันรีบหันขวางมองไปรอบ ๆ ด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยลับลมคมในแล้วรีบเดินไปที่ประตูเล็กไขกุญแจออกกวักมือเรียกเด็กสาวอย่างรีบเร่ง “เข้ามาในนี้ก่อนสิน้องสาว” เด็กสาวเดินตามมันเข้ามาในป้อมยามโดยไม่มีอาการอิดเอื้อมแต่ประการใดหนำซ้ำเธอยังรู้สึกว่ามีความหวังที่จะได้พบพ่อขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยมอีกด้วย
ยามหนุ่มวัยฉกรรจ์เลื่อนเก้าอี้ให้เด็กสาวนั่งแล้วเริ่มใช้สายตาสำรวจเรือนร่างก่อนที่จะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาและสัดส่วนที่อวบอัดเกินวัยของเด็กสาวแม้จะดูหน้าตาท่าทางซื่อ ๆ แต่ถ้าลองได้ขัดสีฉวีวรรณเสียหน่อยรับรองได้ว่าสู้สาว ๆ วัยรุ่นในเมืองกรุงได้อย่างสบาย “พี่ค่ะ …แล้วหนูจะได้พบพ่อมั้ย.?” เด็กสาวอดถามไม่ได้เมื่อเห็นว่าคนที่เธอฝากความหวังเอาไว้ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน “ได้สิ..ใจเย็น ๆ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้ว่าแต่ตอนนี้น้องนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนก็ได้แล้วกัน” มันบอกแล้วเดินหายไปจากป้อมแห่งนั้นปล่อยให้เด็กสาวรู้สึกกระวนกระวานนานนับสิบนาทีมันจึงกลับมาแล้วเอ่ยปากถามเรื่องราวของเธอคร่าว ๆ เด็กสาวก็เลยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังพร้อมยื่นกระดาษยับย่นที่ในนั้นเขียนที่อยู่ของผู้ที่เธอกำลังตามหาไปให้ “พ่อหนูหนีมาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่หนูยังเล็ก ๆ อยู่หนูอยู่กับแม่เพียงสองคนเท่านั้น” “แล้วทำไมถึงต้องมาตามหาพ่อคนเดียวแบบนี้” มันถามเหมือนว่ากำลังสอบปากคำ “ก็แม่หนูสิค่ะมีพ่อใหม่แล้ว..เอ้อ..คือ..หนูไม่อยากพูดเลยค่ะ..” เด็กสาวทำอึกอัก “พูดมาเถอะน้องเพราะถ้าพี่ไม่รู้แล้วพี่จะช่วยตามหาพ่อให้น้องเจอที่ไหน..” “เมื่อสองวันก่อนค่ะ..แม่ไม่อยู่หนูนอนคนเดียวในบ้านกำลังหลับอยู่ดี ๆ พ่อเลี้ยงมันก็มาปล้ำหนู..มนจับหนูถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ตัวมันเองก็แก้หมดเหมือนกันหนูกลัวมากแต่ไม่กล้าร้องเพราะมันขู่ว่ามันจะฆ่าหนู” เด็กสาวหยุดนิดหนึ่งเหมือนไม่อยากพูดอะไรต่อแต่คนฟังชักติดลมเสียแล้วเพราะเรื่องที่เด็กสาวกำลังเล่าให้มันฟังอยู่นี้กำลังสร้างอารมณ์ให้มันอย่างไม่รู้ตัว “เล่าต่อสิน้องว่าเป็นยังไง..พ่อเลี้ยงมันทำยังไงบ้าง” “พอหนูหยุดร้องเพราะกลัวมันจะฆ่า มันก็เข้ามากอดจูบหนูใหญ่เลย..” “เดี่ยว ๆ ” ยามหนุ่มร้องห้าม “อย่าเพิ่งเล่าเลยเพราะเดี๋ยวมันไม่เห็นจริงน้องไปนั่งที่ม้านั่งตัวนั้นดีกว่า” ยามเจ้าเล่ห์บอกให้เด็กสาวไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาวที่เป็นคล้าย ๆ เตียงนอนเอาไว้สำหรับยามที่ออกเวรแล้วนอนพักผ่อน
พอเด็กสาวปฏิบัติตามมันก็บอกว่า “เอาล่ะทีนี้เล่าให้ละเอียดทุกขั้นตอนเลยนะ..แล้วดีไม่ดีพี่จะไปจับมันเข้าคุก” เด็กสาวรู้สึกใจชื้นเพราะแค้นพ่อเลี้ยงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเธอยังนึกไปถึงวันที่เธอโดนแม่ตีเพราะไม่ยอมไปซื้อเหล้าให้พ่อเลี้ยงไม่หายถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะให้ตำรวจจับมันติดคุกเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเธอจะได้กลับไปอยู่กับแม่อีกครั้ง “ถึงไหนแล้วล่ะค่ะ” “ถึงตอนที่พ่อเลี้ยงกอดจูบน้องน่ะ ..เล่าให้ละเอียดนะว่าทำยังไงบ้าง” ยามเจ้าเล่ห์พูดย้ำจุดอ่อน “มันจูบปากหนูค่ะ หนูก็ดิ้นไม่ยอมมันเอามือจับหนูไว้แล้วมันก็ดูดนมหนู มันทั้งดูดทั้งกัดหนูเจ็บจนน้ำตาไหล..” “หยุด…หยุดก่อน..น้องถอดเสื้อออกก่อนนะพี่ขอดูอะไรหน่อย” มันบอกด้วยแววตาที่แสดงถึงอาการหื่นกระหายเต็มที่ “ถอดทำไมคะ..” “จะได้ดูรอยกัดยังไงล่ะ ถ้าเราจะกล่าวหาใครก็ต้องมีหลักฐานนะ” เด็กสาวรู้สึกอาย ๆ แต่เมื่อตำรวจบอกให้เธอทำยังไงเธอก็ทำเสื้อยืดตัวนอกจึงถูกถอดออกไปเหลือเสื้อในไว้เพียงตัวเดียวยามเจ้าเล่ห์เห็นความอวบอัดกลมกลึงที่ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในยกทรงตัวน้อยแล้วถึงกับใจสั่นระรัว “ถอดออกให้หมดเลยสิ” เมื่อโดนคะยั้นคะยอเด็กสาวก็ปฏิบัติตามอีกครั้งพอปลดตะขอเสื้อชั้นในได้เต้านมขนาดลูกซาลาเปาลูกจัมโบ้สองลูกก็ผงาดออกมาโชว์ความอวบอัดเต่งตึงเต็มที่เม็ดเนื้อเล็ก ๆ ที่อยู่บนปลายสีชมพู่ระเรื่อ “พี่ขอดูหน่อยสิ..มีรอยกัดตรงไหน” ไอ้ยามเจ้าเล่ห์รีบขยับเข้ามาใกล้ ๆ แล้วสอดส่ายสายตาเพ่งมองสองเต้าอย่างเป็นงานเป็นการมันพยายามอดทนเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยให้ความอยากมาทำแผนให้แตกมันนึกในใจตลอดว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า เด็กสาวเอียงอายจนหน้าแดงซ่านเมื่อคนที่เธอคิดว่าเป็นตำรวจเอามือมาจับเต้านมพลิกไปพลิกมาเมื่อตรวจหาร่องรอยซึ่งมันก็มีจริง ๆ ตรงใกล้ ๆ หัวนมมีรอยซ้ำเป็นจ้ำ ๆ “เจอแล้วนี่ไงเขียวเลย” มันบอกแล้วใช้นิ้วเขี่ยหัวนมของเด็กสาวเล่นไปมาทำให้หัวนมข้างนั้นลุกชูชันขึ้นมาเหมือนมีสปริง “อุ๊ยย…อย่าเขี่ยซิค่ะพี่หนูจั๊กจี้” “เอ้อ..พี่ขอโทษทีจ้ะน้องพี่แค่อยากดูร่องรอยเท่านั้นเอ้าน้องเล่าต่อเลยว่ามันทำยังอีก” “พอมันดูดนมหนูเสร็จมันก็เลื่อนตัวลงไป มันบอกให้หนูถ่างขา..” “เดี่ยว ๆ หยุดก่อนน้องจะเล่าอย่างเดียวไม่ได้น้องต้องทำอย่างที่มันทำให้พี่ดูด้วย..ไม่งั้นพี่ไม่มีหลักฐานไปจับมันหรอกนะ” “ทำยังไงอีกล่ะค่ะ ..” เด็กสาวงุนงงสงสัย “ก็ถอดกางเกงออกแล้วก็นอนถ่างขาให้พี่เห็นว่าน้องถ่างในลักษณะไหน” “ต้องทำอย่างนั้นด้วยเหรอคะ” “ใคร ๆ เขาก็ต้องทำแบบน้องทั้งนั้นแหละ..” มันอ้างไปเรื่อย ๆ
เด็กสาวหันรีหันขวาง แต่ในที่สุดก็ลุกขึ้นยืนถอดกางเกงนอก กางเกงในออกหมดแล้วมานอนถ่างขาให้ยามเจ้าเล่ห์มองโคกโหนกเนื้อที่เริ่มสมบูรณ์พูนผลไปด้วยกลีบเนื้ออวบอิ่ม เส้นขนอุยเพิ่งเริ่มขึ้นมาไม่กี่เส้น ยามหนุ่มเห็นแล้วแทบอดใจเอาไว้ไม่อยู่แท่งเนื้อเจ้ากรรมดันทะลึ่งเด้งตัวดันกางเกงในจนตุงไปหมด “นี่ค่ะ…หนูนอนแบบนี้แหละ..” “อือ..นอนเอาไว้แบบนี้นะ..แล้วเล่าต่อไป…” “พอมันเอาหน้าลงไปตรงนั้นเสร็จมันก็ใช้ลิ้นเลีย..แล้วก็กัดด้วย” เด็กสาวบอกหมดเปลือก “แล้วตอนที่มันเลียน้องรู้สึกเป็นไงบ้าง” “มันเสียวจี๊ด ๆ ขึ้นสมองเลยค่ะ” “เดี๋ยวพี่จะลองเลียแบบมันทำนะ แล้วน้องช่วยบอกพี่ด้วยว่ารู้สึกเหมือนกันมั้ย” “แต่พี่อย่ากัดนะหนูเจ็บ” “ไม่หรอกพี่รับรอง พี่ไม่กัดหรอกเดี๋ยวรอยฟันมันของพี่จะไปทับรอยของมันทำให้หลักฐานไม่ชัดเจน” ยามเจ้าเล่ห์ใช้อุบายหลอกล่อเด็กสาวเต็มที่ก่อนที่จะลงไปข้าง ๆ แล้วก้มหน้าลงไปที่โคกอวบอูมของเด็กด้วยความระทึกใจกลิ่นธรรมชาติอันเร้าใจของร่องหลืบทำให้มันหมดความอดกลั้นเลยแลบลิ้นออกไปเลียที่ร่องเสียวของเด็กสาวด้วยความเร่าร้อนเท่านั้นเองเด็กสาวแสนซื่อก็ร้องครางออกมาแล้วทำท่าว่าจะขยับหนี “อูยย…ซี๊ดด” ยามหนุ่มเลียต่อไปไม่ยอมหยุดเพราะกำลังอร่อยลิ้นแถมยังใช้นิ้วมือช่วยแหวกสองแคมให้เผยออกจากกันอีกด้วยลิ้นสาก ๆ ของมันจึงทำงานได้สะดวกขึ้นปากรูที่ยังมีอาการบวม ๆ ของเด็กสาวจึงเริ่มฉำเยิ้มขึ้นมาอีกอย่างช่วยไม่ได้ “โอย..ย..พอ..พอแล้วค่ะ..หนูเสียว..ซี๊ด” นั่นแหละไอ้ยามหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นมาแม้จะเสียดายแต่แผนของมันยังไม่หมด “เป็นไงมั่งน้อง..มันเสียวเหมือนกันมั้ย” “เหมือนกันเลยคะพี่” “ถ้างั้นเล่าต่อไปว่ามันทำยังไงอีก” “มันเลียแล้วก็เอาปากกัดเสร็จแล้วมันก็จับแท่งใหญ่ ๆ ของมันยัดเข้ามาในรูหีของหนู..”
ถึงตอนนี้ยามหนุ่มรีบลุกขึ้นถอดเกางเกงของตัวเองออก ท่อนเนื้อแข็งปั๋งโชว์ความใหญ่โตเต็มที่ “ของมันใหญ่เท่านี้ได้มั้ย” “เอ้อ..คือ..พอ ๆ กันคะ” เด็กสาวตอบด้วยอาการเอียงอาย “เดี๋ยวพี่จะลองเอามันยัดเข้าไปในรูหีของน้องนะ ..น้องไม่ต้องกลัวพี่อยากรู้ว่ามันทำยังไงบ้างเท่านั้นน้องคอยบอกพี่ก็แล้วกันพี่จะเป็นคนทำตาม” “ได้ค่ะ” เด็กสาวพาซื่อเสียจนไม่รู้ว่าเธอกำลังโดนหลอกเย็ดร่องเสียวไอ้ยามเจ้าเล่ห์มันรีบเข้าไปคุกเข่าที่หว่างขาแล้วจับหัวเอ็นแดงกำจ่อให้ตรงรูทันทีก่อนที่จะออกแรงดันเข้าไปช้า ๆ เด็กสาวทำหน้าเบ้เพราะรู้สึกเจ็บเหลือกำลัง “โอยย..เจ็บ.ซี๊ดด..เจ็บค่ะพี่..หนูไม่ไหวแล้ว..โอยยย” “ทนเอาหน่อยสิไม่ทนแล้วจะรู้ได้ยังไง” มันบอกแล้วเดินหน้าต่อไปอีกเรื่อย ๆ อากาศที่อบอ้าวอยู่แล้วก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่เหงื่อแตกโทรมเต็มหน้าร่องเสียวของเด็กสาวที่เพิ่งถูกทะลวงเยื่อพรหมจรรย์เมื่อไม่กี่วันโดยยังไม่หายจากอาการบอบช้ำเสียด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้กลับถูกแท่งใหญ่ทะลวงซ้ำเข้าไปอีกปากรูแบะปลิ้นจนบวมตุ๋ยเมือแท่งเอ็นของไอ้ยามกลัดมันทะลุเข้าไปในรูมิดด้าม “โอยย..เจ็บจังเลย..ซี๊ดด..อาาา” “เดี๋ยวก็หายแล้วน้องอูยย..ของน้องยังใหม่ ๆ อยู่ก็แบบนี้แหละว่าแต่พ่อเลี้ยงของน้องทำยังไงต่ออีก” “พอมันดันเข้ามาสุดแล้วมันก็เอาคาไว้แบบนี้แหละมันบอกว่าเสียวแล้วก็ครางเสียงดัง พอสักพักมันก็เริ่มเอาของมันกระแทกรูของหนู “แบบนี้ใช่มั้ย” ยามเจ้าเล่ห์ค่อย ๆ ซอยแท่งเอ็นช้า ๆ ด้วยอาการเสียวจนตัวสั่นไปเหมือนกันเพราะว่า โดนร่องเสียวที่แสนฟิตกระชับของเด็กสาววัยกำดัดบีบรัดจนเสียวไปทั้งลำ “ใช่ค่ะ..อูยย…ซี๊ดด..” “แล้วมันทำยังไงต่ออีกล่ะ” “มันกระแทกไปเรื่อย ๆ แล้วเอามือมาบีบนมหนู..มันบีบแรงมากค่ะ” “พี่จะลองบีบดูนะ..แต่พี่จะบีบเบา ๆ น้องจะได้ไม่เจ็บ” “อูยย..ซี๊ดด…” เด็กสาวครางอย่างลืมตัวโดยไม่รู้ว่านั่นคืออาการซ่านเสียวเพราะไอ้ยามเจ้าเล่ห์มันชั้นเชิงดีเหลือเหลาย มันค่อย ๆ โยกคลึงแท่งเอ็นจนเด็กสาวไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเธอกลับมีอาการที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเหมือนกับคนกำลังกระหายหิวคอแห้งผากแถมยังหนาว ๆ ร้อน ๆ ไปทั้วตัวยิ่งเมื่อโดนฝ่ามือคลึงสองเต้าด้วยความนุ่มนวลเข้าอีกด้วยแล้วเธอยิ่งเตลิดไปใหญ่ “อาาาา….ซี๊ดด..พี่ค่ะ..ทำไมไม่เจ็บเหมือนตอนที่พ่อเลี้ยงหนูทำเลยค่ะ” “ก็มันทำไม่เป็นนะสิซี๊ดด..น้องช่วยถ่างขากว้าง ๆ อีกนิดสิจ๊ะ…อาาา..ซี๊ดด…เสียวดีเหลือเกิน..น้องเป็นไงบ้าง..” “เสียวค่ะ..อูยย..เหมือนจะขาดใจ..ซี๊ดด..”
“พ่อเลี้ยงมันทำยังไงต่อไปอีก..” “มันยังไม่ได้ทำอะไรมากเลยมันกระแทกไม่กี่ทีมันก็ร้องเสียงดังแล้วก็ฟุบลงมาเสร็จแล้วมันก็รีบกลับออกไป” “ตายเลย…มันทำอย่างนี้ได้อย่างไร..อย่างนี้ไม่ถูกต้อง” “ไม่ถูกยังไงค่ะ..” เด็กสาวสงสัย “น้องรู้มั้ยถ้าหากมันทำต่อไป
เรื่อย ๆ น้องจะเป็นยังไง..” “ไม่รู้ค่ะ..” “ถ้าอย่างนั้นพี่จะลองทำให้ดูนะ…น้องทำใจให้สบาย ๆ เดี๋ยวน้องจะรู้ว่าสวรรค์มันมีจริง..” เด็กสาวเริ่มเออออห่อหมกกับมันไปด้วยเพราะเธอรู้สึกเสียวสบายอย่างไรบอกไม่ถูก ไอ้ยามเจ้าเล่ห์มันค่อย ๆ ซอยแท่งเอ็นเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อนจนเกินไปนัก แต่ก็เรียกน้ำเมือกหล่อลื่นจากร่องหลืบของเธอให้ออกมาจนชุ่มฉ่ำชโลมเต็มลำเอ็น “อูยย..ย..รูน้องน้องคับดีจริง ๆ ซี๊ดด..ดด..เสียวมั้ยจ๊ะ..อูยย..พี่เสียวใจจะขาดอยู่แล้ว” “เสียวค่ะ…อูยย..ย..พี่ทำเร็ว ๆ กว่านี้อีกหน่อยสิจ๊ะ…ซี๊ดด..หนูรู้สึกยังไงก็ไม่รู้..ซี๊ด..ด” มันเริ่มซอยแท่งเอ็นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ฝ่ายเด็กสาวก็ตอบโต้ด้วยการกระดกก้นโยกส่ายโดยอัตโนมัติสองมือก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันชุลมุนเสียงลมหายใจเริ่มหอยถี่กระชั้นขึ้นเรื่อย ๆ “โอยย..เสียวเหลือเกิน..ซี๊ดด..ด..หนูจะทนไม่ไหวแล้ว…อูยยย..” “ทนไม่ไหวก็ปล่อยออกมาเลยน้อง..เดี๋ยวพี่จะกระแทกให้เต็มที่เลย..ซี๊ดด..ด” “มันเข้าลึกจังเลยพี่..เจ็บท้องน้อยเหลือเกิน..ซี๊ดด..” ไอ้ยามกระแทกเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเริ่มโยกคลึงเน้น ๆ จนปากรูของเด็กสาวบิดเบี้ยวไปมา เสียงกระแทกดังพั่บ ๆ อยู่ตลอดเวลา ตอนนั้นมันไม่นึกอะไรอีกต่อไปเพราะว่าอาการเสียวซ่านมันพุ่งเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวจะกลั้นเอาไว้ก็ไม่ทันการเสียแล้ว “น้อง..ง..น้องจ๋าาาา…เร็วววว..ซี๊ดด..ด..พี่..พี่จะออกแล้ว ..อูยยย..ไม่ไหวแล้ว..” น้ำเสียวของทั้งสองฝ่ายต่างพุ่งทะลักเข้าใส่กันอย่างรุนแรงเด็กสาวเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าสวรรค์มีจริง เธอหอบหายใจตัวโยนเมืออาการเกร็งหายไปแต่ร่องเสียวของเธอนั้นยังตอดหัวเอ็นของไอ้ยามหื่นอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งมันชักแท่งเนื้อออกจากรูเธอ “เป็นไงบ้างน้อง…ชอบมั้ย” “ดีจังเลยพี่..เดี๋ยวเอาอีกนะ” “ได้เลย..แต่ว่าพี่มีเพื่อนอยู่สองคนเดี๋ยวให้เพื่อนมาทำให้น้องบ้างก็แล้วกัน” “จะดีหรือพี่” “เอาเถอะน่า..แล้วพรุ่งนี้พี่จะพาน้องไปตามหาพ่อ” เมื่อได้ยินดังนั้นมีหรือที่เด็กสาวจะไม่ตกหลุมพรางของไอ้ยามกลัดมัน ไม่นานจนเกินไปนักเธอก็ต้องรับชะตากรรมจากพวกมันทั้งสามคนที่เฝ้าวนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาขย่มเธอตลอดคืนจนเธอสลบคาป้อมยามอยู่ตรงนั้นเอง