เจาะเวลาหาฉิมพลี (ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 40

เจาะเวลาหาฉิมพลี (ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 40

เจาะเวลาหาฉิมพลี (ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 40 ไพ่ตาย

        สาวงามจากหมู่ตึกชบาถูกนำตัวออกไปจากห้องทั้งๆที่เพิ่งผ่านไปไม่เท่าไร ยูอันเองพอมี
ช่วงเวลาที่รอสาวงามคนต่อไปจะเข้ามา ก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกัน วันนี้วันเดียวตนเองร่วมรักกับหญิง
สาวสี่นางเข้าไปแล้ว และคงจะเพิ่มอีกในไม่ช้า – –

ผู้สังเกตการณ์ลึกลับสองคนยังคงสนทนากันอยู่เช่นเคย คราวนี้ดูน้ำเสียงจะหนักใจขึ้นบ้างแล้ว

“ตึกชบาไฉนส่งศิษย์สาวที่ไม่เอาไหนเช่นนี้มา ไม่ทันไรก็เสร็จเรียบร้อยไปเสียแล้ว -*-”

เสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“ใช่ แทนที่พวกนางจะส่งผู้ที่อดทนอดกลั้นมากกว่านี้มา อย่างน้อยก็จะได้ทำให้เจ้าหนุ่มผู้นี้
ได้เปลืองเรี่ยวแรงบ้าง”

อีกเสียงกล่าวอย่าง
หงุดหงิดเช่นกัน

“คนต่อไปของตึกเราใช่ไหม ท่านจะส่งผู้ใดเข้าไป? หากมันผ่านรอบนี้ไปได้ อย่างน้อยมัน
ก็จะกลายเป็นบุรุษพู่กันไม้แล้ว…”

อีกฝ่ายจ้องมองยูอันที่อยู่ในห้องทดสอบแล้วเอ่ยตอบว่า

“คอยดูไปเถอะ ความเก่งกาจของมันจะทำให้มันเองต้องลำบาก”

อีกฝ่ายฟังแล้วก็ไม่เข้าใจอะไรนัก ขณะที่กำลังมึนงงอยู่นั้น เสียงประกาศก็ดังขึ้น

“คนที่สาม จากหมู่ตึกเบญจมาศ”
[post]
สิ้นเสียง สาวงามนางหนึ่งก็เดินเข้ามายังห้องทดสอบ แต่ดูท่าทางไม่ค่อยปรกตินัก สีหน้า
นางดูอ่อนล้าอิดโรย ขณะก้าวเดินก็ดูไม่ค่อยมั่นคง ทำเอาผู้สังเกตการณ์คนอื่นๆพากันสงสัยว่าหมู่ตึก
เบญจมาศไฉนส่งสาวงามนางนี้มา ที่จริงอย่าว่าแต่ผู้สังเกตการณ์จากหมู่ตึกอื่นเลย กระทั่งผู้สังเกต
การณ์คนหนึ่งจากหมู่ตึกเบญจมาศเองยังร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ที่แท้…ท่านถึงกับส่งนางออกไป…”

ยูอันเองก็ประหลาดใจ

“ที่แท้เป็นท่าน…”

ยูอันร้องออกมาเบาๆ

หญิงสาวนางนี้ ไม่ใช่คนแปลกหน้า

คนที่เคยร่วมรักกันมาแล้วย่อมไม่ใช่คนแปลกหน้าอย่างแน่นอน

ที่แท้ศิษย์สาวจากหมู่ตึกเบญจมาศคนนี้ก็คือหนึ่งในสองสาวที่ช่วยยูอันอาบน้ำมาเมื่อก่อนการ
ทดสอบนี่เอง และแน่นอนว่ายูอันได้ร่วมสัมพันธ์กับนางมาสองสามยกแล้ว

แต่ถึงจะแปลกใจอย่างไร พอยูอันเห็นศิษย์สาวค่อยๆปลดเสื้อผ้าออกจากร่าง เจ้ายูน้อยก็
แข็งขันขึ้นมาทันที…

“นางเพิ่งผ่านการร่วมรักมานี่นา…”

เสียงจากอีกห้องสังเกตการณ์หนึ่งเอ่ยขึ้นมา หลังเห็นร่างเปลือยของศิษย์สาวจากตึก
เบญจมาศ และคาดว่าห้องสังเกตการณ์อื่นๆก็น่าจะดูออกเช่นกัน

“คงไม่ใช่แค่ร่วมรักธรรมดาๆกระมัง ดูกลีบรักของนางมีร่องรอยฉีกขาดบอบช้ำ หน้าอกก็มี
รอยแดงเป็นจ้ำๆเช่นนี้”

อีกเสียงเอ่ยขึ้นบ้าง

” หึ หมู่ตึกเบญจมาศถึงกับใช้ไม้นี้ ช่างไม่รักหน้าของตนเลยจริงๆ”

“ต่ำช้ายิ่งนัก”

เสียงท่านอาอี้ร้องออกมาจากห้องสังเกตการณ์ มือทั้งสองกำแน่นด้วยความขุ่นแค้น ที่จริง
คนจากหมู่ตึกโบตั๋นเองก็ไม่พอใจพฤติกรรมของหมู่ตึกเบญจมาศอยู่แล้วจากเหตุที่ถูกแย่งชิงสวนดอกไม้
ยิ่งมาเจอเรื่องนี้อีก ยิ่งทำให้ท่านอาอี้ ผู้อาวุโสของหมู่ตึกโบตั๋นแทบคลั่ง

คุณหนูรองที่นั่งชมอยู่บนเก้าอี้ก็ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยริ้วรอยความกังวล สตรี
ที่เพิ่งผ่านการร่วมรักมา ย่อมมีความอิ่มเอมใจและกายอยู่ส่วนหนึ่งแล้ว การจะกระตุ้นให้ถึงจุดสุดยอด
อีกย่อมต้องใช้เวลามากกว่าปรกติ และดูจากสภาพร่างกายที่เหมือนจะบอบช้ำ อิดโรย ก็พอดูออกว่า
ศิษย์สาวจากหมู่ตึกเบญจมาศผู้นี้คงเพิ่งผ่านการร่วมรักและขึ้นสู่จุดสุดยอดมาแล้วหลายครั้งอย่างแน่นอน
ตอนนี้คงอยากจะหลับสักตื่นใหญ่ๆ มากกว่าจะอยากร่วมรักกับใครอีก แถมช่องทางรักที่เหมือนมีร่อง
รอยการฉีกขาดนั่นยิ่งไม่เหมาะที่จะถูกสอดใส่ด้วยพู่กันยักษ์ของยูอัน แค่สะกิดก็คงทำให้เกิดความเจ็บ
ปวดแล้ว จะทำให้นางขึ้นสู่จุดสุดยอดสักครั้งแทบเป็นไปไม่ได้ อย่าว่าแต่ต้องทำถึงสองครั้ง และที่
สำคัญยังมีกำหนดเวลาชั่วธูปไหม้หนึ่งดอกนั้นอีก[/post]

หรือยูอันจะต้องถูกตอนกลายเป็นขันทีแล้วจริงๆ

หมิงเยี่ยนฟางยืนควบคุมลูกจ้างให้ช่วยกันปิดร้าน

วันนี้ขายผ้าเนื้อดีได้หลายพับ มาตรว่าจะไม่ขายดีแบบเทน้ำเทท่าเหมือนช่วงแรกๆ แต่ก็นับ
ว่าได้กำไรไม่น้อย

กระแสของ นางงามหมิง เริ่มซาลงแล้ว อาจเพราะว่าข่าวที่อ๋องยู่ซัว บุตรชายของท่าน
เจ้าเมืองมาติดพันหมิงเยี่ยนฟาง ทำให้ชายคนอื่นๆ เกิดถอดใจ หรืออาจเพราะว่าการวางตัวของหมิ
งเยี่ยนฟางที่รักษาระยะห่างระหว่างผู้ขายและลูกค้าทำให้หลายๆ คนยอมวางมือ

หลังลูกจ้างพากันทยอยกลับ หมิงเยี่ยนฟางยังคงนั่งตรวจทานบัญชีและสินค้าอยู่ภายในร้าน
เพียงลำพัง เวลาผ่านไปอีกประมาณครึ่งชั่วยามก็เสร็จเรียบร้อย สาวสวยต้องชูกำปั้นเหยียดแขน
เรียวงามขึ้นเพื่อคลายความปวดเมื่อย แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นว่ามีคนแอบมายืนมองอยู่

“คุณชายยู่ซัว”

สาวสวยร้องขึ้น

“เยี่ยนฟางทำงานเสร็จแล้วใช่หรือไม่?”

อ๋องยู่ซัวเอ่ยถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

หมิงเยี่ยนฟางพยักหน้าตอบเล็กน้อยก่อนจะนำสมุดบัญชีสองสามเล่มใส่เข้าไปในลิ้นชัก อ๋อง
ยู่ซัวมองดูอิริยาบถของสาวสวยอย่างพึงพอใจ ถึงแม้หมิงเยี่ยนฟางจะเป็นเพียงลูกสาวของพ่อค้าฐานะ
ปานกลางคนหนึ่งแต่ทว่ากิริยามารยาทงดงามไม่แพ้คุณหนูในตระกูลใหญ่เลยทีเดียว จะว่าไปนี่ก็เกือบ
เดือนแล้วที่ตนตามพัวพันแต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะใจนางได้ อย่าว่าแต่จะพาขึ้นเตียง กระทั่งจูบสัก
ครั้งก็ยังไม่สำเร็จ

หมิงเยี่ยนฟาง ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วตั้งใจจะเดินออกมาจากร้าน เห็นอ๋องยู่ซัวมองตนอย่าง
ไม่วางตา ทำเอาสาวสวยหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ต้องรีบก้าวเท้าออกมาจากร้าน อ๋องยู่ซัวเดินตามร่าง
งดงามออกมาไม่ห่าง ปากก็เอ่ยขึ้นว่า

“เยี่ยนฟางหิวหรือไม่ เมื่อเที่ยงข้าพเจ้าทานอาหารไปเพียงเล็กน้อย ตอนนี้หิวขึ้นมาอีกแล้ว”

สาวสวยไม่ได้พูดตอบแต่ใบหน้างดงามยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“พวกเราแวะหาอะไรทานกันสักนิดดีหรือไม่?”

อ่องยู่ซัวถามขึ้น

“อื้มม…”

หมิงเยี่ยนฟางตอบ อ๋องยู่ซัวเดินเข้ามาใกล้ ยื่นแขนหวังจะจับมือสาวสวยแล้วเดินไปคู่กัน
แต่ทว่าหมิงเยี่ยนฟางรู้ทันก้าวเท้าเดินนำไปอีกก้าว ถึงแม้ว่าจะเคยเดินจับมือกันมาบ้างแล้ว แต่ทว่านี่
เป็นย่านชุมชน สาวสวยรู้สึกยังไม่สะดวกใจ

เหลาพิราบแดง นับเป็นเหลาที่มีชื่อเสียงของลี่เจียง นอกจากจะมีอาหารรสโอชาสุราลือ
ชื่อแล้วยังเพราะทำเลที่ตั้งด้วย

เหลาแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านการค้า ถัดออกไปเพียงไม่กี่ก้าวเป็นโรงเตี้ยมผู้กล้า โรงเตี้ยมที่
ใหญ่ที่สุดของลี่เจียง ที่สำคัญยังตั้งอยู่ตรงข้ามกับถนนที่ทอดไปสู่สำนักคุ้มกันภัยตระกูลจาง

ซึ่งก็หมายถึงคนในสำนักคุ้มกันภัยตระกูลจางต้องเดินผ่านเหลาพิราบแดงอยู่เป็นประจำนั่น
เอง ดังนั้นหากผู้ใดต้องการจะรอชมความงามของสะคราญแห่งลี่เจียงจางซินถง ก็มักจะมานั่งดื่มสุรา
เฝ้ารอที่เหลาพิราบแดงแห่งนี้

โดยเฉพาะชั้นสองและชั้นสามฝั่งเดียวกับถนน ยิ่งเป็นจุดที่เหล่าชายทั้งหนุ่มและไม่หนุ่มต้อง
การมาจับจองทำให้โต๊ะบริเวณนี้แทบจะไม่เคยว่าง

วันนี้ก็เช่นกัน

“นี่ก็ผ่านไปสองวันแล้วพี่ลี้ ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคุณหนูจาง หรือว่าระหว่างนี้นางไม่ได้
อยู่ในลี่เจียง?”

กระบี่ไล่ลม กิมกงติก เอ่ยถามขึ้นก่อนจะกระดกเหล้าในจอกขึ้นดื่ม

“มิใช่เช่นนั้น เราผู้พี่สอบถามคนของสำนักคุ้มกันภัยแล้ว นางยังอยู่ เพียงแต่มิได้ออกจาก
บ้านมาหลายวันแล้ว…”

หมัดทลายภูผา ลี้น่ำคุนเอ่ยตอบ แต่ไม่ทันจะขาดคำ ชายหนุ่มอีกคนที่ร่วมโต๊ะก็ละล่ำละลัก
พูดขึ้นว่า

“พี่ลี้ พี่กิม นั่นใช่คุณหนูจาง ใช่หรือไม่?”

ทำเอาทั้งหมัดทลายภูผาและกระบี่ไล่ลมรีบมองตามทันที เห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลากับ
หญิงสาวสวยสะคราญก้าวเท้าเดินเคียงคู่ขึ้นมาบนชั้นสองของเหลา ทั้งคู่ย่อมตกเป็นเป้าสายตาของผู้
ดื่มกินทั้งหมดในทันที

 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คุยกันท้ายตอน
        เริ่มเขียนตอนนี้ประมาณ ตีสี่ครับ แต่ไม่รอด ไม่ทันจบก็ฟุบหลับไปก่อน มาต่ออีกทีก็หลัง
เที่ยง – –

ขณะที่กำลังจะเขียนต่อให้ยาวกว่านี้ เกิดความคิดแวบเข้ามา เนื้อหาที่จะเขียนเลยเปลี่ยน รู้สึกชอบ
ไอ้ที่แวบเข้ามาใหม่มากกว่า เลยตัดสินใจตัดจบตอนนี้เพียงเท่านี้

สปอยไว้ก่อนเลยว่าตอนหน้าชื่อตอน เทพธิดาน้ำแข็ง

พักสักหน่อย เดี๋ยวมาเขียนต่อครับ

ยู

Share the Post:

Related Posts

ครอบครัวเจ๊

ครอบครัวเจ๊

เรื่องเสียว ครอบครัวเจ๊ แกชื่อเจ๊เล็กเป็นลูกจีนที่พ่อแม่เป็นคนจีนที่เกิดในเมืองไทยแต่ตัวแกใหญ่โตไม่สมชื่ อเป็นลูกจีนแต่รักษารูปร่างได้ดีแม้จะมีลูกสามคนแล้วอายุเพิ่งสามสิบกลางๆผัวแกก็คนจ ีนร่างกายแกร่งเกร็งอายุไล่เลี่ยกัน สองคนผัวเมียทำมาหากินปากกัดตีนถีบจนเก็บเงินซื้อถึกแถวสามคูหาค้าขายสารพัด หนักไปทางยี่ปั๊วขายเครื่องดื่มถือว่าขายดิบขายดีเพราะอัธยาศัยของแกผัวเมียและลูกทั ้งสามคน ใครๆในละแวกนั้นก็รู้จักเจ๊เล็กโกเฮงกันทั้งนั้นรวมทั้งลูกสาวสองคนและลูกชายหนึ่งคน คนโตอายุสิบแปดเป็นสาวอวบไม่สุงสิงกับใครมากนักแต่ยิ้มแย้มแจ่มใส รูปร่างอวบใหญ่เหมือนแม่ ตี๋เป็นคนกลางเพิ่งเรียนจบมัธยมปลายไม่คิดจะเรียนต่ออยากช่วยเตี่ยแม่ค้าขาย หมวยเล็กรูปร่างแบบางแต่ซ่อนรูปอกใหญ่สะโพกงอนเรียนมัธยมปลายชั้นสุดท้าย ตึกแถวสามคูหาสามชั้นโกเฮงแกจัดแบ่งสัดส่วนอย่างดีชั้นล่างสามคอหาทะลุถึงกันหมดเป็น ที่เก็บที่ขายรับส่งสินค้า ขั้นสองเป็นห้องครัวห้องพักผ่อนห้องทำงานกว้างขวางมีเครื่องอำนวยความสะดวกตามสมัยนิ ยมครบถ้วน ชั้นสามจัดเป็นห้องนอนสามห้องห้องหนึ่งเป็นของผัวเมียอีกสองห้องเป็นของลูกสาวสองคนห นึ่งห้อง อีกห้องหนึ่งเป็นห้องนอนของลูกชายหน้าห้องนอนทั้งสามเป็นห้องโถงตั้งชุดพักผ่อนเอนนอ

Read More
โดนรุม เพราะ “ผัว” ไม่อยู่

โดนรุม เพราะ “ผัว” ไม่อยู่

เรื่องเสียว โดนรุม เพราะ “ผัว” ไม่อยู่ สวัสดีค่ะ ชื่อปรางค่ะ อายุก็วัยสาวใหญ่แล้ว แต่ ใคร ? ที่ไม่รู้จัก จะคิดว่า ปรางคงอายุสัก 20 ปี ต้น ๆ เท่านั้นเอง ปรางเป็นคน

Read More