เจาะเวลาหาฉิมพลี(ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 26
หอเบญจมาศ เป็นหอคณิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดของกุ้ยหยาง
ที่นี่ไม่ใช่มีคณิกาในสังกัดมากที่สุด แต่ทว่า กลับมีความสวยงามโดดเด่นกว่าที่อื่นๆ
แน่นอนว่า ค่าบริการที่นี่ก็แพงกว่าที่อื่นๆด้วยเช่นกัน
บางครั้งความ แพง ก็ไม่ได้ทำให้ความนิยมลดลง
เหล่าเศรษฐีมีทรัพย์ที่มั่งคั่ง ลูกหลานขุนนาง เชื้อพระวงศ์ ต่างนิยมมาใช้บริการที่นี่
เพราะราคาที่แพง ทำให้บุคคลสามัญธรรมดา ยากที่จะมาได้ ดังนั้นเหมือนกับ
เป็นการคัดกรองลูกค้าไปในตัว
กระทั่งจอมยุทธที่มีชื่อเสียงหลายคน ก็ไม่ใช่จะมาที่นี่ได้
เพราะจอมยุทธที่มีชื่อเสียง ใช่ว่าจะมีเงินเสมอไป
วันนี้หอเบญจมาศ ปิดบริการตั้งแต่หัวค่ำ เนื่องจากถูกวังร้อยบุปผาเหมาสถานที่ไว้จัดการในคืนพรุ่งนี้
แม่บ้าน คนงานหลายคนต่างพากันทำความสะอาดจัดสถาณที่กันขวักไขว่
ส่วนมากเป็นคนของหอเบญจมาศเอง อีกส่วนเป็นคนของวังร้อยบุปผา
การดูแลรักษาความปลอดภัย หรือความสงบเรียบร้อย ก็ถูกจัดเสริมอย่างรอบคอบ
รอบๆบริเวณในหอเบญจมาศ ต่างมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจอยู่เป็นระยะๆ
ทั้งมีอีกหลายจุดที่มีเจ้าหน้ายืนเฝ้าอยู่
ตัวตึกรับรองด้านในเป็นที่พักของคนจากวังร้อยบุปผา
ณ. ห้องพักที่สวยงามที่สุด มีการสนทนากันอยู่
” สืบได้ความแล้วหรือไม่ ? ”
” เรียนคุณหนูรอง สองปู่หลาน คาดว่าเป็นยอดขโมยมือพิศดารกับหลานสาว ”
” ยอดขโมยมือพิศดาร ? ”
” ยอดขโมยมือพิศดาร ตั้งแกหู เป็นยอดฝีมือเมื่อยี่สิบปีก่อน แต่แปดเก้าปีมานี้ไม่ได้ปรากฏตัว
ในยุทธจักร คุณหนูย่อมไม่คุ้นหู ” หญิงวัยกลางคนตอบ
” ระดับฝีมือเป็นอย่างไร ? ”
” เฒ่าแซ่ตั้ง มีความสามารถด้านวิชาลักขโมย วิชาตัวเบา ปลอมแปลงโฉม ส่วนระดับฝีมือในการต่อสู้
บ่าวไม่มั่นใจนัก ”
” ให้คนจับตาดูไว้ หากมันไม่มารบกวนพวกเรา ก็ไม่ต้องลงมืออันใด ” เสียงคุณหนูรองตอบ ก่อนจะพูดต่อว่า
” ให้คนส่งเทียบใบใหม่ไปให้มือทลายภูผา คนผู้นี้ถึงฝีมือจะไม่โดดเด่นแต่ก็ฐานะมั่งคั่ง ทั้งยังสนับสนุนวังเราด้วยดีมาตลอด ”
” บ่าวทราบแล้ว ” หญิงวัยกลางคนรับคำพร้อมรายงานต่อว่า
” ส่วนชายหนุ่มชุดขาว พักที่โรงเตี้ยมผวนหลง มีเด็กรับใช้ติดตามมาด้วยหนึ่งคน
ชื่อแซ่ ยังไม่ทราบชัด แต่ดูจากเครื่องแต่งกาย ม้า อาหารที่มันสั่งแต่ละมื้อ คาดว่าเป็นคนจากตระกูลใหญ่ ”
” มันสยบกระบี่ไล่ลมได้ในกระบวนท่าเดียว ?”
” เรียนคุณหนู สยบกระบี่ไล่ลมไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ แต่ที่น่าตกใจคือมันไม่ได้ลุกจากเก้าอี้เสียด้วยซ้ำ
องครักษ์หมายเลข 38 ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า นอกจากมันจะมีรูปร่าง หน้าตาที่งามสง่าสะดุดตาแล้ว
ระดับฝีมือมันอาจพอๆกับยอดมือกระบี่รุ่นใหม่ทั้งห้า ”
” อืมม…”
หญิงกลางคนเห็นคุณหนูรองไม่ได้สั่งอะไร จึงรายงานต่อว่า
” มีผู้พบเห็นมารกระบี่ ปรากฏตัวแถวๆนอกเมือง ”
คุณหนูรองขมวดคิ้วหยุดคิดชั่วครู่จึงพูดว่า
” จากที่ได้ยินมา มันปรากฏตัวครั้งล่าสุดที่ลี่เจียง ”
” ใช่แล้วคุณหนู ”
” มันอยู่ในรายชื่อ บุคคลห้ามตอแย ที่ประมุขวังกำหนดไว้ จากนิสัยของมัน คงไม่มาวุ่นวายกับพวกเรา ” คุณหนูรองพูด
” จะให้คนติดตามดูมันไว้หรือไม่ ?”
คุณหนูรองส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า
” ไม่ต้อง ด้วยระดับฝีมือของมัน ในหมู่พวกเราไม่มีใครสามารถ ติดตามดู มันได้ ”
หญิงกลางพูดต่อว่า
” ส่วน สินค้า ที่เก็บได้ระหว่างทาง ตอนนี้ร่างกายมันดูฟื้นตัวจนเกือบเป็นปรกติแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้สติ
จากที่หมอรายงาน คาดว่ามันจะตกลงมากระแทกอย่างแรง ไม่น่าจะรอดชีวิตเสียด้วยซ้ำ
แต่น่าแปลกที่ถึงกับไม่มีส่วนใดบุบสลายสักนิด ”
” อืมม…”
” จนถึงวันนี้คาดว่ามันจะหมดสติรวมแล้ว 7-8 วัน ”
” หากหลังจากงานเลี้ยง มันยังไม่ฟื้นก็ทิ้งมันไว้ ไม่ต้องนำกลับวังไปให้ไปเป็นภาระแล้ว ”
เสียงคุณหนูรองยังเย็นชาเช่นเดิม
” ทว่า พู่กันของมัน ยาว ห้านิ้วเศษ ” หญิงกลางคนพูด
” นั่นก็ไม่ได้หายากอะไรมากมาย พู่กันในวังเกินกว่าครึ่ง ล้วนแล้วแต่มีขนาดเกินห้านิ้ว ”
เสียงคุณหนูรองตอบอย่างไม่ได้สนใจอะไรนัก
” แต่…ตอนที่วัด มันยังไม่ได้สติ…” หญิงกลางคนพูด
คุณหนูรองเงยหน้าขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนจะถามว่า
” ท่านหมายถึง ขณะที่วัด พู่กัน ของมันยังไม่ตื่นตัว ?”
” ใช่แล้วคุณหนู ”
คุณหนูรองลุกขึ้นจากเก้าอี้ พร้อมพูดว่า
” นำเราไปชมดู ”
…………………………………………………….
ร่างชายหนุ่ม ที่นอนอยู่บนเตียงผ้าขาวสะอาด ไม่ใช่ใครอื่น เป็นยูอันนั่นเอง
ที่จริงยูอัน หลังตกลงมาพร้อมสายน้ำในถ้ำของสามมาร ร่วงลงสู่โขดหินเบื้องล่าง
น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว
แต่ทว่าร่างกายของยูอันหลังดื่มเลือดของตะพาบพันปีลงไป กลับแข็งแรงและมีพลังฟื้นตัวที่สูงยิ่ง
ดูได้จากการที่ยูอันเคยแบกอ๋องไต้อี้เดินทางได้อย่างสบายๆไม่รู้สึกหนัก กระทั่งยอดฝีมือระดับมารหัตถ์มรณะ
ยังคิดว่ายูอันเป็นผู้ฝึกวรยุทธ
แต่ถึงจะมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนปรกติ ถึงจะมีระดับการฟื้นตัวดีเช่นไร
แต่การตกลงมาในที่สูงขนาดนั้นยังไงก็ไม่ใช่จะหายได้ง่ายๆ
ยังต้องใช้เวลาในการรักษาตัวเอง
ถ้ายูอันฟื้นขึ้นมาตอนนี้ คงต้องร้องลั่นไปแล้ว
เนื่องเพราะ
ตอนนี้ร่างของยูอันถูกเปลื้องจนเปลือยเปล่า ไม่มีอะไรติดกายสักชิ้น
มิหนำซ้ำ ยังมีหญิงสาวที่ เพ่งมอง ร่างกายของยูอันในห้องอีก เจ็ดแปดนาง
สองในนั้นเป็นคุณหนูรองกับหญิงกลางคน
” ร่างกายของมันกำยำแข็งแรง สวยงามดีทีเดียว ” เสียงหญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้น
” อืมม ถ้าวัดตรงรูปร่าง ไม่แพ้พู่กันหมายเลขสามของตึกเหมยเลย ” อีกนางนึงพูด
” แต่หน้าตาของมันธรรมดาเกินไป ” อีกนางหนึ่งพูด
” หน้าตาดีหรือไม่ดี ไม่ได้มีส่วนช่วยในการ ฝึกวิชา ของพวกเรา ” เสียงคุณหนูรองเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก
” แต่ก็มีส่วนตรง ทำให้เราอยากฝึกหรือไม่นี่นา ” อีกคนพูดบ้าง
คุณหนูรอง หันมาพูดกับหญิงกลางคนว่า
” ท่านอาอี้ ลองใช้ยากระตุ้น มันดูหรือยัง ”
” บ่าวได้ให้หมอทดลองแล้วแต่แรก แต่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ บางทีมันยังบาดเจ็บเกินไป ” ที่แท้หญิงกลางคนถูกเรียกว่า
ท่านอาอี้ น่าแปลกที่อีกฝ่ายเรียกท่านอา แต่อีกฝ่ายแทนตัวว่า บ่าว
” หากว่ายามตื่่นตัว พู่กันของมันขนาดเกินหกนิ้ว นับแต่นี้ตึกโบตั๋นเราก็มิต้องไปหยิบยืมพู่กันของตึกอื่นแล้ว ”
” ใช่แล้ว ตึกเบญจมาศกับเหมย ถือดีว่ามีบุรุษพู่กันเหนือกว่าของตึกอื่น จะหยิบยืมแต่ละคราต่างอ้างโน่นอ้างนี่ ”
สองหญิงสาวในห้องพูดกันขึ้น
” เราจะลองกระตุ้นชีพจรของมันดู ” คุณหนูรองเอ่ยขึ้น ก่อนจะจิ้มนิ้ว ถ่ายถอดพลังปราณลงไป
การกระตุ้นชีพจรบริเวณต้นขาด้านใน หน้าท้อง เอว สามารถกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปตามบริเวณที่ต้องการได้
” ใช้ได้แล้วพี่รอง ” หญิงสาวนางหนึ่งร้องขึ้น หลังจากเห็น พู่กัน ของยูอัน ค่อยๆขยายตัวตั้งขึ้นๆ
” นี่มัน….”
” ….”
” เป็นไปไม่ได้กระมัง…”
” ท่านอาอี้ ท่าน ลองวัดดู ” คุณหนูรองสั่ง
ในห้องต่างเงียบเสียงกันไปชั่วครู่ หลังจากดู อ่านอาอี้ ใช้สายวัดค่อยๆวัด พู่กันของยูอัน
ราวกับเป็นของวิเศษชิ้นหนึ่ง
” เรียนคุณหนู วัดโดยรอบ เจ็ดกับอีกสี่ส่วน ( 7.4) วัดตามยาว เจ็ดกับอีกแปดส่วน ” หญิงกลางคนตอบ
ทุกคนในห้องในฟังถึงกับถอนหายใจกันเฮือกหนึ่ง ก่อนจะมีนางหนึ่งพูดว่า
” พี่สี่ ได้ยินมาว่า เมื่อเดือนก่อน ท่านหยิบยืมบุรุษพู่กันหมายเลขสอง ของตึกเบญจมาศมาได้คืนหนึ่งใช่หรือไม่ ?”
หญิงสาวงามสะคราญที่ถูกเรียกว่า พี่สี่ หน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า
” อื้มม…”
” แล้วเป็นเช่นไรบ้าง ?” หญิงสาวคนเดิมถามต่อ
” มัน..ยอดเยี่ยมยิ่ง ” คุณหนูสี่อ้อมแอ้มๆตอบ
” ที่แท้ท่านถึงกับหยิบยืม มาได้จริงๆ ได้ยินมาว่าคิว หยิบยืมของมันหนาแน่นยิ่งกว่าอะไร ” หญิงสาวสวยอีกคนกล่าวขึ้น
” น้องสี่ ลองเปรียบเทียบกับหนุ่มผู้นี้ดู ว่าเป็นอย่างไร ?” คุณหนูรองเอ่ยขึ้น ก่อนจะพูดต่อว่า
” นี่นับเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง ขอให้พิจารณาให้ดี อาจบางทีตึกเราจะได้ขึ้นอยู่เหนือตึกอื่นก็คราวนี้ ”
คุณหนูสี่ ขยับเข้าไปนั่งที่ข้างเตียง ก่อนจะใช้มืออันขาวสะอาดอ่อนนุ่ม จับ พู่กัน ของยูอัน สำรวจไปอย่างช้าๆ
ปากก็ตอบว่า
” ด้านความยาว ยังเหนือกว่า บุรุษพู่กันหมายเลขสอง ของตึกเบญจมาศสักนิ้วเศษ
ส่วนขนาด ก็เหนือกว่าสักสามส่วน ( 30เปอเซ็นต์) ”
” ถ้าเช่นนั้น หนุ่มผู้นี่ก็ ขนาดเหนือกว่าชายทุกคนในวังของเราแล้ว ” สาวนางหนึ่งพูด
” แต่ใช่ว่า มีดีที่ขนาดแล้ว จะโดดเด่นได้ หากไม่มีพรสวรรค์ ก็ไร้ประโยชน์ ” อาอี้พูด
หลายคนพยักหน้า เหมือนเห็นด้วยกับอาอี้
” เช่นนั้นจะเรียกมันว่าอย่างไรดี เรียกชายหนุ่มผู้นี้ หนุ่มคนนี้ ดูไม่สะดวกนัก ”
สาวสวยนางหนึ่งที่มีใบหน้าคลับคล้ายกับคุณหนูสี่พูด
ก่อนจะร้องล้อเลียนว่า
” พี่สี่ ยังไม่ปล่อยมือจากพู่กันของหนุ่มผู้นี้อีก ยังจะสำรวจกระไรกัน ”
คุณหนูสี่ หน้าแดงด้วยความอาย ก่อนจะพูดว่า
” น้องห้าท่านลองมาลูบคลำดู มัน..แปลกๆอยู่บ้าง ”
คุณหนูห้า เดินมานั่งตรงขอบเตียง ใช้มือขาวสะอาดลองลูบคลำดูบ้าง
มือเล็กๆสั่นบ้างเล็กน้อย ใช่ว่าไม่เคยหลับนอนกับผู้ชายมา แต่ทว่า
ไม่เคยเห็น พู่กัน ที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
พอมือเล็กๆขาวสะอาดได้สัมผัส ก็รับรู้ถึงความขรุขระของ พู่กันยูอัน
เส้นเลือดที่พองเต่ง ขดอยู่รอบๆกลับแข็งแกร่งราวกลับเป็นเชือกที่ม้วนพันอยู่
พอสัมผัสก็รับรู้ได้ทันที แถมกลิ่นกายอ่อนๆที่ระเหยออกมาจากร่างกายของยูอัน
ยังทำให้สูดเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่น สบายยิ่งนัก
” พวก พวกท่านเป็นใครกัน ? ” เสียงอ่อนระโหยเล็กน้อยของชายหนุ่มดังขึ้นมา
ทำเอาเหล่าหญิงสาวหลายคนในห้องถึงกับสะดุ้งโหยง
ยูอัน ฟื้นแล้ว
คุณหนูสี่กับคุณหนูห้ายิ่งตาค้าง ทำอะไรไม่ถูก
ในมือยังกำ พู่กัน ของยูอันแน่น
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ติดตามตอนอื่นได้
ภาคแรก http://uuuu69.blogspot.com/ ลงครบ 20 ตอน ของภาคแรกแล้ว
ภาคสอง http://story.niyay.com/story.php?story_id=54253
……………………………………………………
คุยกันท้ายตอน
ที่จริงกะว่า อีกสองสามวันถึงจะได้ลงตอนนี้ แต่ว่า พอเข้ามาอ่านเจอคอมเม้นท์หลายๆคนก็นึกฮึด
เกิดแรงขยันเขียนต่อจนจบตอน
คนเขียนก็อยากอ่านคอมเม้นท์น่ะครับ ถ้าเขียนๆไป ไม่มีใครเม้นให้เลย มันเหมือนเขียนอยู่คนเดียว อ่านอยู่คนเดียว
ก็เลยไม่มีแรงบันดาลใจในการเขียน บางทีก็เลยหายไปเป็นเดือนๆ(หรือหลายๆเดือน-.-)
ยู