Lolita Mansion ตอนที่ 12.1
……………………
ผมยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าอยู่ที่ระเบียงห้องนอนทั้งที่ยังเปลือยกาย ภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผ่านโค้งคุ้งน้ำท่ามกลางแสงแดดยามเช้าเป็นประกายระยิบระยับ แสงแดดอ่อนที่กระทบร่างผมไม่เพียงแต่ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นร่างกายเท่านั้น แต่ดูราวกับว่าความอบอุ่นของมันผ่านะลุเข้าไปยังหัวใจสร้างความสดชื่นแจ่มใสให้ผมใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบในวันใหม่อีกครั้ง
แมนชั่นใหม่ของผมที่โค้งน้ำบางกระเจ้าสร้างเสร็จและตกแต่งเรียบร้อยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา แม้จะเป็นแมนชั่น 3 ชั้นขนาดเล็กเพียง 30 ห้องแต่ทุกห้องก็มีขนาดใหญ่และตกแต่งอย่างดีที่สุดเท่าที่อำนาจเงินจะบรรดาลให้ได้ ตัวอาคารล้อมรอบไปด้วยพรรณไม้จำนวนมากจนเขียวครึ้มราวกับป่า ห่างไกลจากชุมชนรอบข้าง ทำให้มันเป็นสถานที่ที่สงบสำหรับการใช้ชีวิตร่วมกับน้องทุกคนในความดูแลของผม
เมื่อวานเป็นวันเกิดครบ 36 ปี
ของผม ซึ่งผมก็ถือเอาเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายที่พักของผมและน้องทุกคนมารวมกันที่นี่ น้องทุกคนมีห้องของตัวเอง โดยที่พักของผมอยู่ชั้นบนสุดเพียงห้องเดียวเนื่องจากบนชั้นนี้ยังเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ผมสร้างไว้เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ร่วมกัน
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น เสื้อคลุมนอนผ้าฝ้ายสีขาวถูกยกขึ้นคลุมร่างผมและผู้ที่คลุมให้ก็สวมกอดผมไว้ทางด้านหลัง กริยาแบบนี้ผมรู้ดีว่าเป็นใครโดยไม่ต้องหันไปดูแม้แต่น้อย
“น้าเอกตื่นเช้าจัง”
เสียงแผ่วเบาแต่กังวานใสของน้องซูกุมิทักทายผมจากด้านหลัง ผมหันไปดึงร่างน้องซุกุมิให้พลิกตัวมาด้านหน้าผมแล้วกอดร่างเมียตัวน้อยๆ ที่ผมแสนรักไว้หลวมๆ จูบประทับปากนิ่มนวลแผ่วเบาเป็นการทักทาย
“ซูกุมิจังไม่เพลียหรือ เมื่อคืนไม่ได้นอนกันเลยนะ”
น้องซูกุมิส่ายหน้าเล็กน้อย
“ง่วงนิดหน่อยน่ะน้าเอก แต่อยากอยู่ใกล้ๆ น้าเอกมากว่า”
“แล้วคนอื่นๆ ล่ะ ตื่นกันหรือยัง”
“ตอนซูกุมิลุกมายังนอนกันเต็มห้อง เสื้อผ้าก็ไม่ใส่สักคนเดี๋ยวเป็นหวัดกันหมดแน่เลย”
ผมยิ้มในใจเมื่อนึกถึงการฉลองย้ายเข้าที่พักใหม่เมื่อคืนที่ราวกับเป็นมหกรรมการร่วมรักในห้องนอนของผม น้องทั้งแปดคนปล่อยใจไปกับอารมณ์รักที่ระเบิดอย่างต่อเนื่องทั้งคืน ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงยังคงหลับเป็นตายเพราะแม้กระทั้งผมเองก็ยังแทบจะรับเกมส์รักที่ยาวนานและมากครั้งกับน้องทั้งหมดไม่ไหว
น้องซูกุมิผละจากร่างผมไปจับราวระเบียงเพื่อชมทิวทัศน์ของแม่น้ำเบื้องหน้า แล้วส่งเสียงอุทานออกมา
“สวยจังเลยน้าเอก…”
ร่างน้องซูกุมิที่อยู่ในชุดนอนแบบปิจาม่าดูสดใสท่ามกลางแสงแดดยามเช้า สองเท้าผมขยับเข้าประชิดน้องซูกุมิทางด้านหลังแล้วกอดร่างน้อยไว้แนบแน่น ผมดึงเอวอ้อนแอ้นของน้องซูกุมิเข้ามากอดสองมือไล้ผ่านปกเสื้อนอนปิจาม่าสีขาว ซึ่งผมจำได้ดีว่ามันเป็นเสื้อนอนตัวเดียวกันกับที่น้องซูกุมิใส่ในคืนแรกที่น้องซูกุมิร่วมรักและมอบร่างกายให้ผม มือข้างหนึ่งสอดผ่านปกเสื้อนอนไปกุมเต้านมคู่งามเต่งตึงไว้ลูบไล้อย่างแผ่วเบาจนผมรู้สึกถึงหัวนมที่เริ่มชูชันแข็งตัวจากการสัมผัส น้องซูกุมิเอนตัวพิงหลังของผมปล่อยให้มือผมซุกซนกับความนุ่มนวลของทรวงอกโดยไม่ขัดขืน แต่ส่งเสียงเชิงบ่นเบาๆ
“น้าเอกนี่ ใจคอจะไม่ให้ซูกุมิพักบ้างเลยหรือ”
ผมเอนร่างลงนอนที่ก้าอี้พักผ่อนโดยประคองร่างบอบบางให้นอนหงายอยู่บนตัวผม แล้วซุกหน้าลงกับซอกคอหอมกรุ่น
“ซูกุมิจังน่ารักขนาดนี้ น้าไม่อยากให้ห่างไปไหนหรอก”
น้องซูกุมิครางเบาๆ เมื่อมือผมเริ่มลูบไล้ผ่านหน้าท้องไปยังเนินหีที่เริ่มมีน้ำรักซึมออกมา
“ซูกุมิมีความสุขที่สุดเวลาอยู่กับน้าเอก ชีวิตของซูกุมิตอนนี้เหมือนอยู่ในความฝันเลย มีความสุขจนบางทีซูกุมิก็กลัวว่าความสุขจะสิ้นสุดลง..โอวส์..”
นิ้วผมซุกลงไปรับแรงบีบรัดของหลืบหีน้อยๆ จนน้องซูกุมิครางออกมา ผมพลิกใบหน้างดงามนั้นมาประทับจูบหนักแน่นครั้งหนึ่ง แล้วบอกอย่างจริงจัง
“ตราบใดที่น้ายังอยู่ ความสุขของซูกุมิจังจะต้องคงอยู่ตลอดไป น้าสัญญา”
น้องซูกุมิพลิกตัวมากอดผมไว้ ซบหน้าลงกับอก สะโพกกระทัดรัดขยับขึ้นลงรับการสอดใส่ของนิ้วมือในร่องหีส่งเสียงแผ่วเบา
“ซูกุมิรู้ว่าน้าเอกรักซูกุมิ เพียงแต่ทุกอย่างมันดูดีเกินไปราบรื่นเกินไป จนซูกุมิกลัวว่ามันจะเป็นเพียงความฝันและจะหายไปในที่สุด”
ผมถอนนิ้วออกจากรูหีที่ฉ่ำเยิ้มของน้องซูกุมิ ยกสะโพกน้อยๆ ขึ้นประคองให้แท่งควยที่อยู่เบื้องล่างจรดกับปากทางเข้า แล้วกดลงมาช้าๆ ด้วยความร่วมมือของน้องซูกุมิ ควยยาวเหยียดเคลื่อนเข้าสู่ความอบอุ่นรัดรึงภายในร่างกายน้องซูกุมิจนสุด ผมกอดร่างเมียรักไว้แน่นแล้วเริ่มขยับสะโพก
“ซูกุมิจังไม่ได้ฝัน ทุกอย่างจะต้องคงอยู่ตลอดไป อย่างกังวลนะคนดีของน้า”
น้องซูกุมิกัดฟันรับแรงกระเด้า แต่พยักหน้ารับคำพูดของผม ผมเอื้อมมือขึ้นถอดชุดนอนออกจากร่างที่กำลังส่ายไปมาด้วยความเสียว น้องซูกุมิยันร่างขึ้นกับอกผมแล้วขย่มสะโพกขึ้นลง ชุดนอนเลื่อนลงไปกองรวมกันที่เอว ทรวงอกคู่งามแกว่งไกวอยู่เบื้องหน้าล่อตาจนผมต้องกุมมันไว้ทั้งสองมือ นิ้วบดบี้เม็ดสีชมพูที่แข็งตัวจนน้องซูกุมิร้องคราง
“อูย น้าเอก..บี้อีกอย่าหยุด มัน สะ เสียว..”
ผมหยุดการใช้นิ้วแต่กลับใช้ปากอมเม็ดน้อยน่ารักนั้นไว้แทน ปลายลิ้นผมกดอัดหัวนมพร้อมกับดูดและขบฟันเบาๆ น้องซูกุมิเร่งขย่มสะโพกถี่ยิบ แรงขมิบของหลืบหีอัดแท่งควยผมแน่นราวกับจะบดบี้ให้มันแหลกอยู่ภายใน หัวควยผมเริ่มพองตัวจากน้ำรักมารวมกัน ผมจับสะโพกน้องซูกุมิยกขึ้นเพิ่มแรงกระเด้าให้หนักขึ้น ร่างงามบิดส่ายไปมา
“อะ..อะ อ๊าวส์…..”
น้องซูกุมิร้องยาว รูหีตอดหัวควยผมตุบๆ ถี่เร็ว จนผมต้องระเบิดน้ำรักรอบที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ขึ้นไปสู่ร่างที่กำลังทิ้งตัวลงซุกหน้ากับแผ่นอกผมอย่างหมดแรงน้องซูกุมิถอนใจยาวเหยียด
“โอย ..น้าเอก..ซูกุมิถึงจนนับไม่ไหวแล้วนะ”
ผมจูบเรือนผมหอมกรุ่นของน้องซูกุมิ ลูบไล้แผ่นหลังนวลเนียนให้ผ่อนคลาย
“ไม่ต้องนับหรอกคนดีของน้า หลับซะนะ น้าจะกอดซูกุมิจังไว้อย่างนี้”
น้องซูกุมิพยักหน้าน้อยๆ สองแขนกระชับรองเอวผม เพียงครู่เดียวเสียงลมหายใจของเด็กสาวก็ผ่อนยาวเป็นจังหวะ น้องซูกุมิหลับไปแล้วทั้งที่ควยผมยังฝังอยู่ในร่างกาย คงเป็นเพราะความอ่อนเพลียจากการอดนอนและการร่วมรักปิดท้ายยามเช้าที่ทำเอาน้องซูกุมิไม่สามารถฝืนร่างกายได้อีกต่อไป ผมกระชับร่าง อบอุ่นให้แน่นขึ้น แต่ใจคิดไปถึงคำพูดของน้องซูกุมิ
จริงทีเดียวที่ชีวิตของผมตอนนี้ดูราวกับเป็นความฝันที่สวรรค์บรรดาลขึ้นทดแทนให้ผม จากชีวิตที่ไม่มีผู้เคียงข้างมากว่า 35 ปี ตอนนี้ผมกลับมีเมีย 8 คนที่รักผมและพร้อมที่จะสนองความต้องการของผมได้ตามที่ผมต้องการโดยไม่บ่ายเบี่ยง และที่น่าประหลาดใจกว่านั้นก็คือการขอรับตัวน้องๆ ทุกคนมาอยู่ในความดูแล ซึ่งนอกจากน้องซูกุมิ น้องโทโมเอะ และน้องมิซูกิ ที่อยู่ในการดูแลของผมโดยตรงแล้ว พ่อแม่ของน้องริโฮ น้องทากาโอะ น้องเทนกะ น้องรินะ รวมทั้งคุณสุพจน์พ่อของน้องพิงค์ ต่างมอบลูกสาวแสนรักมาให้เป็นเมียผมอย่างเต็มใจราวกับว่าการที่ผมให้ทุกคนลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเรียนกับครูพิเศษที่ผมจ้างให้มาสอนที่บ้านพักใหม่ และเป็นสามีของเด็กหญิงอายุเพียง 8-13 เป็นสิ่งที่ปกติธรรมดา จริงอยู่ที่ผมใช้อำนาจจิตช่วยในการโน้มน้าวทัศนคติพ่อแม่ของน้อง ริโฮ น้องทากาโอะ น้องเทนกะ และน้องรินะ ให้มอบลูกสาวมาอยู่ในความดูแลของผมก่อนหน้านี้ แต่การขอให้มาอยู่ในฐานะภรรยาผมแทบจะไม่ได้ใช้อำนาจจิตช่วยเหลือเลย ดูราวกับว่าทุกคนทราบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับกลุ่มเด็กหญิงนี้อยู่แล้วและเต็มใจจะให้ผมเป็นสามีของลูกสาวทุกคน
น้องพิงค์เป็นกรณีที่ผมประหลาดใจที่สุด เพราะคุณสุพจน์พาน้องพิงค์กับน้องอิงค์มาหาผมด้วยตัวเอง และบอกว่าจะแต่งงานใหม่กับสาวญี่ปุ่นที่ไม่ใช่น้องรีน่า หลังจากนั้นจะย้ายไปอยู่ที่ญี่ปุ่นโดยขายกิจการรีสอร์ทให้ผมในราคาที่น่าตกใจและขอให้ผมดูแลเด็กหญิงทั้งสองแทนน้าสาว ทำให้เด็กหญิงทั้งแปดคนได้มาอยู่กับผมในบ้านใหม่แห่งนี้และใช้ชีวิตร่วมกันกับผมนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ความจริงผมยังมีเด็กหญิงในความดูแลอีกสองคนคือน้องมายุน้องสาวน้องริโฮ และน้องอิงค์น้องสาวน้องพิงค์ ซึ่งมาพักรวมกับพี่สาว และทั้งสองคนก็รับรู้ดีว่าว่าอยู่ที่นี่ในสถานะอะไร เพียงแต่ว่าผมยังไม่ได้ร่วมรักกับน้องมายุและน้องอิงค์เท่านั้น
สถานะทางการเงินของผมเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ดูราวกับว่าทุกสิ่งที่ผมจับต้องจะงอกเงยทวีผลกำไรมหาศาลในทันที ไม่ว่าจะเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นหรือการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผมไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและทุ่มเทชีวิตอยู่กับความสุขจากเรือนร่างอ่อนเยาว์ของเมียทั้ง 8 คนได้อย่างเต็มที่
บางขณะผมก็เกิดความรู้สึกเช่นเดียวกับน้องซูกุมิ สภาพชีวิตเช่นนี้ดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้แต่มันก็ไม่ใช่ความฝันอย่างแน่นอน บ่อยครั้งที่ผมต้องลุกขึ้นมาหยิกแขนตัวเองอย่างแรงเพื่อย้ำให้รู้สึกว่าผมกำลังตื่นอยู่และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง และบ่อยครั้งเช่นกันที่ผมก็กังวลเช่นเดียวกับน้องซูกุมิว่าสภาพเช่นนี้จะดำรงไปได้ตลอดไปหรือเพียงชั่วครู่เท่านั้น
“โอ้โฮ..น้าเอกเย็ดซูกุมิจังหลับคาอกเลยหรือเนี่ย”
เสียงใสแจ๋วของน้องเทนกะดังขึ้นข้างๆ ปลุกผมจากภวังค์การครุ่นคิด ร่างน้องเทนกะเดินออกมาจากห้องนอนใหญ่หยุดอยู่ข้างๆ แล้วก้มตัวลงจูบแก้มผมเบาๆ สาวน้อยคลุมร่างตัวเองในชุดนอนแบบเดียวกันกับน้องซูกุมิ การก้มลงทำให้หน้าอกที่อวบสมบูรณ์ของน้องเทนกะหลุดออกมาจากปกเสื้ออวดความงามเปล่งปลั่งต่อหน้าผมท่ามกลางแสงแดดยามเช้า ผมเอื้อมมือไปลูบไล้มันเบาๆ น้องเทนกะหน้าแดงแต่ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ แอ่นอกให้มือผมนวดเฟ้นตามใจชอบ
“เทนกะจังจะต่อกับน้าอีกรอบหรือเปล่า”
ผมถามแบบล้อๆ น้องเทนกะหน้าแดง ก้มลงจูบปากผมทีหนึ่งแล้วสั่นหน้า
“เอาไว้ก่อนนะน้าเอก เทนกะจะมาบอกน้าเอกว่าทางครัวโทรมาว่าอาหารเช้าเสร็จแล้ว อยู่ที่ห้องอาหารไปกินกันได้เลย เดี๋ยวน้าเอกไปกินข้าวเช้าก่อนนะ เสร็จแล้วน้าเอกอยากเย็ดเทนกะเมื่อไหร่ก็บอก เทนกะพร้อมเสมอ”
ผมลูบไล้สะโพกอวบตึงของน้องเทนกะวกมือเข้าสู่เนินหีที่เป็นที่ตั้งของร่องหลืบแนวคลื่นภายใน ที่ทำเอาผมแทบทะลักอย่างควบคุมไม่ได้ทุกครั้งที่ได้สอดใส่ ผมบีบมันเบาๆ จนน้องเทนกะสูดปาก แต่ดึงมือผมออกจากเนินหี
“เทนกะจังสัญญาแล้วแล้วนะ..เดี๋ยวกินข้าวเช้าเสร็จต้องมาหาน้าเป็นคนแรกด้วย”
น้องเทนกะพยักหน้ารับอายๆ แล้วลุกขึ้นยืนก่อนบอกผมอย่างล้อๆ ก่อนวิ่งกลับเข้าห้อง
“น้าเอกถอนควยออกจากซูกุมิจังก่อนเถอะแล้วรีบไปอาบน้ำซะ ทุกคนตื่นหมดแล้ว น้าเอกรู้ไหมว่าเมื่อกี้ตอนน้าเอกเย็ดซูกุมิจังน่ะ ทุกคนมามุงดูกันหมดเลย”
ผมหัวเราะลั่นจนน้องซูกุมิสะดุ้งลืมตามองรอบข้าง ผมอุ้มร่างน้อยขึ้นเดินเข้าไปในห้องพักเพื่อสมทบกับเมียทุกคนที่กำลังรอจะลงไปกินอาการเช้าพร้อมกัน
——————————
บทแทรกที่ 3
มันเป็นร่างของชายหนุ่มวัยประมาณ 30-35 ร่างเปลือยเปล่าถูกแช่อยู่ในของเหลวสีทับทิมที่สงบนิ่งมีฟองผุดขึ้นมาจากด้านล่างของหลอดแก้วเป็นระยะ ทุกส่วนของร่างกายจมอยู่ในของเหลว ศรีษะของชายหนุ่มมีสายคาดโลหะคาดทับอยู่และเชื่อมโยงสายไปที่ขั้วของหลอดแก้ว อาการขยับขึ้นลงของหน้าอกบอกให้รู้ว่าร่างนั้นยังคงมีชีวิตอยู่
ดร.นาโอมิขยับเข้าใกล้หลอดแก้วเพื่อพิจารณาใบหน้าชายหนุ่มอย่างใกล้ชิด ร่างสูงโปร่งของหญิงสาวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ริมฝีปากอ้าออกราวกับจะอุทานคำใดออกมา กริยาของหญิงสาวทำให้ พ.อ.สมิธ ที่ยืนอยู่ด้านข้างจับจ้องด้วยความสงสัย
“มีอะไรหรือครับ ดร.นาโอมิ”
เสียงของผู้บังคับบัญชาสถานที่ดังขึ้น ปลุก ดร.นาโอมิให้รู้ตัวทันที หญิงสาวรีบสั่นหน้าปฏิเสธ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ดิฉันตกใจที่เห็นคนๆนี้ยังหายใจอยู่เท่านั้น”
พ.อ.สมิธหัวเราะเบาๆ
“ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ ในหลอดแก้วพวกนี้มีคนอยู่ทุกหลอด และทุกคนยังมีชีวิตสมองยังทำงานปกติเพียงแต่ไม่รับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้างเท่านั้น”
หญิงสาวตัวแข็งอุทานออกมา
“แพนโดร่าซินโดรม”
พ.อ.สมิธพยักหน้ารับ และชี้ไปที่หลอดแก้วของชายหนุ่มเบื้องหน้า
“และนี่คือคนแรกที่เกิดอาการนี้โดยอยู่รอดมาเป็นเวลาปีครึ่งแล้วครับ”
“ปีครึ่ง ไม่เคยมีใครอยู่ได้เกินอาทิตย์นี่ค่ะ”
ดร.นาโอมิ อุทานออกมาอย่างเหลือเชื่อ
“แต่คนนี้ และทุกคนในหลอดแก้วเหล่านี้อยู่มาเป็นเวลานานแล้วครับ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงสารละลายสีแดงที่บรรจุไว้ในหลอดเป็นสารอาหารพร้อมออกซิเจนที่ถูกดูดซึมผ่านเข้าสู่ร่างกายโดยตรง นอกจากนี้ทุกคนดูจะมีสุขภาพสมบูรณ์เพียงแต่ไม่ตอบสนองสิ่งเร้ารอบตัวทุกกรณีเท่านั้น นับถึงตอนนี้มีหลอดทั้งหมด 487 หลอดและน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกไม่ถึงสองเดือน The Cave จะไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไปแล้ว”
พ.อ.สมิธ อธิบายยาวเหยียดในขณะที่ ดร.นาโอมิก้าวตรงไปพิจารณาจอภาพด้านหน้า เส้นสีเขียวพุ่งขึ้นลงเป็นจังหวะ ซึ่ง ดร.นาโอมิทราบดีว่ามันเป็นเครื่องวัดกิจกรรมการทำงานของสมอง จากสายตาของหญิงสาวที่ค้นคว้าเรื่องการทำงานของจิตมาตลอดทราบดีว่าเป็นสัญญานบอกถึงการทำงานของสมองที่ราวกับว่าเจ้าของที่นอนอยู่ในหลอดแก้วนั้นกำลังตื่นและใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
ดร.นาโอมิหยิบแฟ้มโลหะสีเงินที่ตั้งอยู่ตรงหน้าขึ้นมาแล้วจ้องดูตัวอักษรที่ปรากฏหน้าปกด้วยแววตาสับสน มันเขียนว่า
เอกราช ทาคายาม่า A1
อาการเริ่มต้น 1 ม.ค.2005
————————–
หลังอาหารเช้าที่ห้องอาหารราม เมียน้อยๆ ของผมทั้งแปดคนขอตัวกลับไปนอนพักที่ห้องของตัวเองก่อน เนื่งจากเมื่อคืนที่ผ่านมาทุกคนร่วมรักกันแบบไม่ได้พักผ่อนเพื่อฉลองบ้านแห่งใหม่ แต่ก็นัดกันว่าเวลาบ่ายจะลงมาว่ายน้ำด้วยกันที่สระน้ำ ระหว่างเดินกลับห้องพักผมได้ยินเสียงบ่นกระปอดกระแปดว่าห้องครัวทำอาหารไม่อร่อยเลย ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยและตั้งใจที่จะหาคนครัวที่มีฝีมือมาให้บริการโดยเร็วที่สุด ใจหนึ่งผมคิดถึงน้องยูโกะที่มีฝีมือทำอาหารเป็นเยี่ยม แต่ตอนหญิงสาวคงจะใช้ชีวิตครอบครัวกับชายผู้โชคดีที่ญี่ปุ่นแล้ว ผมจึงได้แต่เสียดายและทำได้เพียงรำลึกถึงรสรักที่แสนประทับใจกับน้องยูโกะที่มอบความบริสุทธิ์ให้ผมไว้ในความทรงจำเท่านั้น
ผมกลับเข้ามาที่ห้องพักคนเดียว ตั้งใจที่จะพักผ่อนในช่วงเช้าสักครู่เพื่อฟื้นฟูพลังงานที่สูญเสียไปกับเมียทั้งแปดเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อผมกลับเข้ามาในห้องที่แม่บ้านทำความสะอาดคราบไคลจากการร่วมรักที่กระจายไปทั่วห้องเรียบร้อยแล้ว ผมก็พุ่งตัวขึ้นเตียงหลับเป็นตายแทบจะทันที
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อมีเสียงกริ่งกดเรียกที่หน้าห้องพัก นาฬิกาแขวนที่ผนังตรงข้ามบอกเวลา 10.30 แสดงว่าผมหลับไปได้เพียงสองชั่วโมงแต่นั่นก็เพียงพอแล้ว ผมลุกขึ้นอย่างกระเฉงคิดว่าผู้ที่มาเรียกน่าจะเป็นน้องเทนกะที่สัญญากับผมไว้ในตอนเช้าว่าจะมาใช้ร่องหลืบแนวคลื่นดูดกลืนน้ำรักของผมหลังอาหาร แต่เมื่อผมเปิดประตูก็ต้องแปลกใจเล็กน้อยเมื่อพบว่ามีร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงสองคนยืนเคียงกันอยู่ที่หน้าห้อง น้องมายุกับน้องอิงค์
“ว่าไงพวกเรา มีธุระอะไรกับน้าหรือ”
ผมทักทายสองเด็กหญิง น้องมายุสั่นหน้า
“มายุกับน้องอิงค์อยากคุยกับน้าเอกน่ะ เข้าไปได้ไหมน้าเอก”
ผมพยักหน้า สองเด็กหญิงซึ่งเป็นเพียงสองคนในบ้านใหม่แห่งนี้ที่ผมยังไม่ได้เย็ดเดินเข้ามา ผมมองตามร่างทั้งสองที่กำลังไปที่โซฟาแล้วต้องกลืนน้ำลายเพราะแม้จะเป็นเวลาสายมากแล้ว แต่น้องมายุและน้องอิงค์ยังคงสวมชุดนอนสั้นผ้าชีฟองบางๆ อวดเรียวขาที่เรียวตรงสมบูรณ์อย่างเต็มที่ร่างที่เดินสวนกับแสงแดดที่ส่องเข้ามาทำให้แสงส่องทะลุเนื้อผ้าจนดูราวกับไม่ได้สวมอะไรเลย ทำให้ผมรู้ว่าไม่มีชุดชั้นในใดๆ ทั้งสิ้นอยู่ภายใต้เนื้อผ้าชุดนอนของเด็กหญิงตัวน้อยๆ ทั้งสอง
ผมเดินตามมานั่งที่โซฟายาวซึ่งน้องทั้งสองนั่งอยู่คู่กัน น้องมายุรีบกระเถิบตัวแยกจากน้องอิงค์เป็นสัญญานให้ผมนั่งตรงกลางระหว่างทั้งสอง ผมทรุดตัวลงนั่งแล้วดึงน้องทั้งสองมากอดไว้ทางด้านข้างหลวมๆ น้องมายุเอนตัวมาแนบร่างกับผมโดยไม่ขัดขืนในขณะที่น้องอิงค์เกร็งตัวครู่หนึ่ง ก่อนปล่อยร่างให้เข้ามาชิดผมเช่นเดียวกับน้องมายุ
“ว่าไง..มีอะไรจะคุยกับน้าหรือ”
ผมถามด้วยเสียงร่าเริง
น้องอิงค์ที่เงียบมานาน พูดเสียงเบาอย่างอายๆ
“อิงค์กับพี่มายุจะมาขอบคุณน้าเอกน่ะ”
ผมหันไปมองร่างน้อยที่ผมกอดไว้ด้านซ้าย น้องอิงค์ดูจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะมีวัยเพียง 8 ขวบ แต่รูปหน้าที่เคยแป้นกลมแบบเด็กๆ เริ่มสอบตัวลง เค้าหน้าที่ดูจะงดงามไม่แพ้น้องพิงค์เริ่มปรากฏขึ้นลางๆ ตาผมเหลือบต่ำลงไปที่ช่องว่างของชุดนอน หน้าอกแบนราบของน้องอิงค์ยังไม่มีพัฒนาการใดๆ ให้เห็นแต่หัวนมเล็กๆ สีชมพูก็เผยตัวเองให้ผมเห็นอย่างเต็มที่ ลำขาที่พ้นจากชายเสื้อนอนสั้นร่นขึ้นสูงจากท่านั่งทำให้แก้มก้นกลมสวยเปิดเผยออกมาทั้งหมด มีเพียงระบายเสื้อที่ปกปิดเนินหีเอาไว้จากสายตาของผม น้องพิงค์สานสายตาผมแว่บหนึ่งแล้วรีบหลบตาใบหน้ามีสีแดงระเรื่องที่แก้ม ผมกอดร่างน้อยให้กระชับขึ้น
“ขอบคุณน้าเรื่องอะไรล่ะ”
เสียงน้องมายุทางด้านขวาตอบแทนน้องอิงค์
“ขอบคุณที่น้าเอกให้มายุกับน้องอิงค์มาอยู่กับพวกพี่ๆ ด้วย”
ผมหันไปทางเด็กหญิงด้านขวา น้องมายุจ้องตาผมโดยไม่หลบสายตา ผมพิจารณาใบหน้าที่ดูจะสวยแบบโฉบเฉี่ยวต่างกับน้องริโฮพี่สาวด้วยความเอ็นดู น้องมายุเป็นเด็กหญิงที่ค่อนข้างกล้าพูดคุยต่างกับน้องอิงค์ที่ขี้อาย แม้อายุจะห่างกับน้องอิงค์เพียงปีเดียวแต่น้องมายุก็ดูจะมีการพัฒนาการของร่างกายที่รวดเร็วกว่าน้องอิงค์อย่างเห็นได้ชัด มโนภาพของผมปรากฏร่างเปลือยของน้องมายุที่ผมเห็นในคืนวันที่ร่วมรักกับน้องริโฮที่ห้องในแมนชั่นเก่า ที่ความเปล่งปลั่งสมบูรณ์เกินวัยของร่างเปลือยน้องมายุทำเอาผมต้องเพิ่มแรงกระแทกเนินหีของน้องริโฮอย่างไม่รู้ตัวผมสูดลมหายใจลึกๆ พยายามปัดภาพเปลือยนั้นออกจากสมองแล้วยิ้มให้น้องมายุ
“มายุจังชอบที่นี่ไหมล่ะ”
น้องมายุยิ้มรับพร้อมผงกหัว
“ชอบมากเลยน้าเอก บ้านสวย ห้องของมายุกับอิงค์ก็สวย มีเครื่องเล่นทุกอย่างพร้อมหมดเลย”
ผมดึงร่างน้องมายุมากระชับร่าง
“น้าดีใจที่มายุจังกับน้องอิงค์ชอบนะ น้าอยากให้ทั้งสองคนทำตัวตามสบาย ตั้งแต่นี้ไปที่นี่เป็นบ้านที่น้าจะดูแลทั้งสองคนตลอดไปไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ขอให้ตั้งใจเรียนกับครูที่น้าจ้างมาสอนให้อย่างเต็มที่ อีกหน่อยจะได้ทำงานกับน้าและพี่ๆ ทุกคน เข้าใจนะ”
น้องมายุกับน้องอิงค์ผงกหัวรับพร้อมกัน เสียงน้องอิงค์หายใจลึกยาว แล้วถามผมเบาๆ
“เมื่อไหร่น้าเอกจะรับอิงค์กับพี่มายุเป็นเมียเหมือนพวกที่พี่ๆ ทุกคนล่ะ”
ผมพยายามสะกดความพลุ่งพล่าน ร่างเด็กหญิงอายุ 8 และ 9 ปีที่ผมกอดอยู่เป็นร่างของเด็กหญิงที่กำลังรอการเจริญเติบโตให้พร้อมรับการร่วมรัก คำถามของน้องอิงค์บอกให้รู้ว่าน้องทั้งสองต้องการที่จะมาร่วมครอบครัวนี้โดยสมบูรณ์เช่นเดียวกับพี่ๆ ทั้งแปด ที่ผ่านมาผมพยายามระงับความต้องการเอาไว้เพราะยังไม่ต้องการทำลายดอกไม้แรกตูมทั้งสองดอกนี้ทั้งที่ยังไม่พร้อม แต่ในขณะเดียวกันผมก็เข้าใจความรู้สึกของน้องทั้งสองที่ต้องเห็นการแสดงความรักของผมกับเมียทั้งแปดตลอดเวลา ความต้องการทางเพศของเด็กหญิงทั้งคู่จึงถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร ผมสูดลมหายใจอีกครั้งแล้วพูดเบาๆ
“น้ารักทั้งสองคนและอยากเย็ดทั้งคู่ แต่ตอนนี้มายุจังกับน้องอิงค์ยังเด็กเกินไปถ้าน้าเย็ดมันจะเจ็บมาก น้าอยากให้หีของทั้งสองคนพร้อมก่อน … เข้าใจน้านะ”
น้องมายุสั่นหน้า
“มายุไม่เด็กแล้วนะน้าเอก พี่พิงค์อายุมากกว่ามายุไม่ถึงปีน้าเอกยังเย็ดได้ ทำไมน้าเอกจะเย็ดมายุไม่ได้”
เสียงน้องอิงค์เสริมขึ้น
“หีพี่พิงค์ก็ไม่ได้ใหญ่กว่าอิงค์มาก ไม่เชื่อน้าเอกดูนะ”
น้องอิงค์ขยับร่างออกจากอ้อมกอดผมลุกขึ้นยืน สองมือดึงชุดนอนขึ้นไปทางศีรษะแล้วถอดมันออกทิ้งลงกับพื้น ร่างเปลือยของน้องอิงค์ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นชัดๆ นอกจากในชุดว่ายน้ำแบบเด็กๆ ปรากฏอยู่กลางแสงสว่างชัดเจนทุกขุมขน น้องอิงค์มีรูปร่างค่อนข้างไปทางอวบผิวกายทุกส่วนจึงดูนุ่มนวลไม่เก้งก้างแบบเด็กหญิงวัยเดียวกันหน้าอกแบนราบประดับด้วยเม็ดยอดสีชมพูเข้มที่ยังไม่เติบโตเป็นเม็ดกลม แต่ก็เริ่มดุนดันตัวเองเป็นรูปร่างของหัวนมเด็กสาวอย่างชัดเจน หน้าท้องนูนออกเล็กน้อยต่ำลงไปเป็นเนินหีที่ทำให้ผมแปลกใจ เพราะมันค่อนข้างมีขนาดใหญ่แทบจะเท่ากับน้องพิงค์ เพียงแต่ความโหนกนูนเท่านั้นที่ยังคงเป็นเพียงเนินน้อยๆ รอยผ่าระหว่างสองแคมแนบสนิท กลีบแคมเปล่งปลั่งเป็นสีชมพูสดใส แม้จะเป็นหีของเด็กหญิงวัย 8 ขวบที่ยังไม่พร้อมสำหรับการเย็ด แต่ผมก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นหีที่น่าลิ้มลองลงลิ้นเป็นที่สุด
น้องมายุดูจะแปลกใจเล็กน้อยที่น้องอิงค์ซึ่งปกติจะขี้อายกลับเป็นคนแรกที่เปิดเผยร่างเปลือยให้ผมเห็น น้องมายุรีบลุกขึ้นแล้วถอดชุดนอนอย่างรวดเร็วก่อนไปยืนเคียงข้างน้องอิงค์ ภาพร่างเปลือยของน้องมายุเทียบไม่ได้เลยกับภาพเปลือยที่ผมเคยเห็นในห้องน้องริโฮ มันงดงามกว่ามากเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงสว่าง ทรวงอกน้อยๆ ที่เบ่งบานออกมาเท่าผลล้มเล็กๆ เป็นก้อนกลมที่ไม่ต้องสัมผัสก็รู้ถึงความเต่งตึงที่แข็งเป็นไต ปลายยอดสีน้ำตาลอ่อนงอนเช้งขึ้นตามรูปร่างของนมที่ชี้ขึ้นด้านบนเล็กน้อย เนินหีงดงามเบียดตัวกันเหนือโหนกหน้าท้องผอมบาง ลำขายาวเรียวเป็นเส้นตรงที่แม้จะไม่เรียบเนียนนุ่มนวลเหมือนน้องอิงค์ แต่กล้ามเนื้อที่ปรากฏแสดงให้รู้ถึงความแข็งแรงที่เกิดจากการออกกำลังกายจนเกิดเป็นแนวเส้นของกล้ามเนื้อบนลำขาอ่อนสีแทน ที่ทำให้ผู้ได้เห็นอดคิดไปถึงรสชาติยามที่ขาคู่นี้กระหวัดรัดเอวเมื่อถึงจุดสุดยอดของการร่วมรักไม่ได้
ภาพเปลือยของสองเด็กหญิงเบื้องหน้ากระตุ้นความต้องการผมจนแทบคุมไม่ได้ ผมสูดลมหายใจหนักๆ ลุกขึ้นยืนแล้วตัดสินใจบอกน้องทั้งสอง
“ดูควยของน้าก่อนนะ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะให้น้าเย็ดเดี๋ยวนี้หรือจะรอจนกว่าจะพร้อมกว่านี้”
ผมกระตุกเชือกผูกกางเกงชุดนอนออก กางเกงตกลงไปกรอมเท้าด้วยน้ำหนักของเนื้อผ้า ควยยาวเหยียดแข็งปั๋งขนาด 7 นิ้ว ปรากฏต่อสายตาสองเด็กหญิงที่กำลังจับตามองอย่างตกตะลึง น้องอิงค์อ้าปากกว้างในขณะที่น้องมายุอุทานออกมา
“มัน ยะ ยะ ใหญ่จังเลย”
ผมก้าวเข้าไปดึงน้องทั้งสองมากอดแล้วนำไปนั่งที่เตียงใหญ่ น้องมายุและน้องอิงค์ปล่อยให้ผมดึงร่างเดินตามมาราวกับถูกสะกดจิต สายตายังคงจับจ้องที่แท่งควยเบื้องล่างไม่กระพริบ ผมบอกน้องทั้งสองเมื่อนั่งลงพร้อมกันบนเตียง
“มายุจัง น้องอิงค์ ลองจับควยน้าดูนะ ถ้าคิดว่ารับมันเข้าในหีได้ น้าก็จะเย็ดทั้งคู่เดี๋ยวนี้เลย”
มือเรียวเล็กบอบบางของน้องมายุจับส่วนหัวควยผมอย่างกลัวๆกล้าๆ แล้วลูบไล้ไปมา ส่วนน้องอิงค์กำโคนของมันบีบแน่นราวกับจะทดสอบความแข็งแกร่ง เสียงน้องมายุดังพึมพัมขึ้น
“มันใหญ่จังเลย ถ้าเข้าไปหีมายุแหกแน่”
“หีอิงค์ก็รับไม่ไหว พี่พิงค์บอกว่าหีอิงค์รับควยน้าเอกได้แล้ว แต่ถ้าควยขนาดนี้เข้าไม่ได้แ น่แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่อิงค์จะได้เป็นเมียน้าเอกสักที”
“พี่ริโฮก็บอกมายุว่ามายุเย็ดน้าเอกได้แล้ว ไม่นึกเลยว่าควยน้าเอกจะใหญ่ขนาดนี้”
เสียงสองเด็กหญิงแสดงความผิดหวังออกมาอย่างชัดแจ้ง ผมแอบยิ้มในใจเมื่อรู้ว่าพี่สาวที่แสนน่ารักของน้องทั้งสองเป็นคนส่งน้องสาวให้มาเป็นเมียผมอย่างเต็มรูปแบบ ผมคว้าเอวคอดกิ่วของมายุให้พลิกร่างลงกับที่นอนแล้วซุกหน้าลงกับหน้าท้องแบนราบ
“ถ้ายังไม่ไหว เดี๋ยวน้าจะสอนให้มายุจังรู้จักสวรรค์เหมือนริโฮจังนะ”
“อุ๊ย..น้าเอกทำอะไรมายุ..ว๊าย…”
ผมประกบปากเข้ากับเนินหีน้องมายุแล้วไล้ลิ้นเกลี่ยตามร่องแคมเปลือยของน้องมายุ ลิ้นผมรับรู้ด้วยความประหลาดใจถึงความแข็งของกลีบเนื้อน้องมายุที่แม้จะดุนดันลิ้นลงไปก็แทบไม่สามารถแทรกผ่านร่องหลืบเข้าไปได้มันเต่งตึงและสะท้อนแรงกลับเมื่อผมขบฟันลงกับสองแคมเบาๆ ผมนึกถึงที่น้องริโฮเคยเล่าถึงน้องมายุว่าเป็นเด็กหญิงที่ชอบออกกำลังกายและพยายามรักษารูปร่างให้ผอมเพรียวตามสมัยนิยม กล้ามเนื้อแคมหีของน้องมายุบอกให้ผมรู้ว่านอกจากการออกกำลังกายแล้วน้องมายุน่าจะขมิบหีเป็นประจำจนทำให้แคมทั้งสองมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ ผมเริ่มลังเลที่จะรอการเย็ดน้องมายุออกไปเพราะสัมผัสของเนินหีที่ปากผมแสดงให้เห็นว่าบางทีหีน้อยๆ อันนี้อาจจะรับควยขนาดเล็กสุดของผมได้แล้วโดยที่ไม่ฉีกขาด ผมกระตุ้นลิ้นต่อเนื่องจนร่างบอบบางบิดไปมา เสียงร้องครวญครางดังไม่ขาดสาย
“โอย น้าเอก..ทำไมมันเสียวอย่างนี้”
สะโพกน้อยๆ แกว่งส่ายตามการลงลิ้น ติ่งเสียวน้องมายุแข็งตัวขึ้นจนสิ้นผมสัมผัสได้ และเมื่อละเลงลิ้นหนักๆลงไปที่ติ่ง สะโพกน้องมายุก็ยิ่งยกขึ้นสูงรับความเสียวที่เพิ่มขึ้น ผมเปลี่ยนท่าเป็นคุกเข่าทั้งที่ยังกวาดลิ้นชิมน้ำรักแรกหลั่งของเด็กหญิงเพื่อใช้มือกุมเคล้นสองเต้าที่แข็งปั๋งไปมา ลิ้นผมค่อยๆ ผ่านสองแคมเข้าไปสัมผัสความอบอุ่นภายในร่องหลืบน้อย รสัมผัสรสของน้ำทิพย์อย่างชื่นใจ
ร่างกายส่วนล่างผมรับรู้ความเคลื่อนไหวของน้องอิงค์ สองมือน้อยๆ กุมแท่งควยผมแน่นบีบแล้วปล่อยราวกับจะรีดนมวัว ผมนึกขำในใจแล้วกระเด้ามือเรียวเล็กนั้นสามสี่ครั้ง น้องอิงค์ดูจะเป็นเด็กหญิงที่หัวไวง่ายต่อการสั่งสอน เพราะการกุมแล้วบีบเปลี่ยนเป็นการชักขึ้นลงตามการกระเด้าของผมทันที แม้จะไม่ชำนาญเหมือนเมียคนอื่นๆ ของผม แต่การสัมผัสของเด็กหญิงก็ทำให้ความเสียวของผมก่อตัวขึ้นมาเรื่อยๆ
เม็ดยอดสีชมพูแข็งปั๋งของหน้าอกน้องมายุดิ้นไปมาบนฝ่ามือที่เคล้าคลึงเนื้อก้อนงามอย่างหนัก น้ำรักน้องมายุทะลักเข้าปากผมราวกับไม่มีวันหยุด ร่างน้อยสั่นระริก
“น้าเอก…ว๊ายยยยย….ละ ไหลแล้ววว”
ลิ้นผมที่ฉกเข้าไปฝังตัวในร่องหลืบน้องมายุถูกแคมทั้งสองข้างกระตุกบีบถี่ยิบ สองแขนน้องมายุจิกไหล่ผมแน่นขาอ่อนเกร็งตัวจนกล้ามเนื้อแข็งแรงปรากฏให้เห็นเป็นลูกคลื่น น้องมายุนิ่งไปราวกับจะหยุดหายใจก่อนทิ้งสองแขนลงกับเตียง ครางออกมา
“โอว..น้าเอก…”
ผมหันไปให้ความสนใจน้องอิงค์ที่ยังคงกระตุกควยผมอย่างต่อเนื่อง ก่อนคว้าเอวนำร่างน้อยยกขึ้นแล้วพลิกตัวเองให้นอนหงายเคียงข้างน้องมายุ ผมดึงร่างเปลือยของน้องอิงค์ให้ขึ้นคร่อมบนร่างผม ดึงสะโพกน้อยๆ เข้ามาหาปากแล้วฉกลิ้นเข้าหากลีบเนื้อไร้ขนที่งดงามราวกุหลาบแรกแย้มเบื้อหงหน้า น้ำรักที่ซึมเอ่ออยู่เต็มร่องหลืบน้องอิงค์บอกให้ผมรู้ว่าเด็กหญิงกำลังมีอามรณ์เต็มที่จากการที่เห็นผมใช้ลิ้นส่งน้องมายุไปสวรรค์มาแล้วรอบหนึ่ง และพร้อมที่จะรับการลงลิ้นของผม
กลิ่นหอมของเนินหีน้องอิงค์พลุ่งเข้าปะทะจมูกผมอย่างเต็มที่ มันเป็นกลิ่นที่แปลกกว่าเด็กหญิงทั่วไปที่ผมเคยได้ร่วมรักซึ่งแม้จะหอมหวานแต่จะแทรกด้วยกลิ่นคาวอ่อนๆ แต่กลิ่นหีของน้องอิงค์กลับหอมบริสุทธิ์ราวกับเป็นดอกไม้แรกแย้ม แคมบอบบางทั้งสองแยกตัวรับลิ้นผมอย่างเต็มใจ รสของน้ำรักน้องอิงค์ก็เช่นเดียวกับกลิ่น มันหวานน้อยๆและสดชื่นราวกับผมกำลังดูดดื่มสายน้ำบริสุทธิ์ ที่ผมได้ค้นพบเป็นคนแรก น้องอิงค์กระตุกควยผมไม่ยั้งจนร่างสั่น
“น้าเอก..อิงค์…มันเสียว… อื้อ…”
เสียงน้องอิงค์ครางมือปล่อยจากควยผมแล้วกลายเป็นเสียงจูบอย่างเร่งร้อน ผมชำเลืองมองเห็นน้องมายุพลิกร่างขึ้นมานั่งอยู่บนหนอกควยผม เนินหีน้อยๆ อัดแน่นกับควยที่แข็งเป็นลำ น้องมายุแอ่นสะโพกถูลำควยเข้ากับร่อง หลืบที่ชุ่มโชกแล้วดึงร่างน้องอิงค์มาจูบอย่างรุนแรง ก้นกลมของน้องอิงค์สั่นระริกผิวขาวเนียนเริ่มเป็นสีแดงระเรื่อ น้องมายุถอนปากจากน้องอิงค์ออกแล้วยกสะโพกขึ้นพยายามกดหีน้อยๆลงมาหาปลายควยยักษ์ที่แข็งปั๋งเบื้องล่าง มันทำได้เพียงแหวกแคมออกจนบิดเบี้ยวแต่ไม่สามารถผ่านเข้าไปในรูหีแคบเล็กได้ทั้งที่มีน้ำหล่อลื่นไหลมาโชลมจนชุ่ม แต่น้องมายุก็ยังพยายามกดหีน้อยๆลงไปอย่างไม่ย่อท้อ ผมพยายามสะกดกั้นความเสียวที่ปลายควยจากการสัมผัสความนุ่มนวลของปากทางเข้าหลืบหีน้องมายุแล้วกำหนดใจปิดกั้นกระแสเลือดที่ลำควยทันทีจนมันลดขนาดลง แรงกดของสะโพกอย่างแรงน้องมายุทำให้มันผลุบเข้าไปในร่องหลืบทันที น้องมายุอุทานออกมาเมื่อแคมหีถูกแหวกจากควยที่ลดขนาดลงโดยไม่ทันตั้งตัว ลำควยแหวกผ่านเยื่อพรหมจรรย์ที่ขาดออกจากกัน จมลงไปจนมิดโคนทันที กล้ามเนื้อรอบปากหีฉีกออกเล็กน้อยจนผมรู้สึกได้ เสียงน้องมายุร้องลั่น
“โอ๊ย…นะ น้าเอก ทำไมมันเล็กลง มันเข้าไปแล้ว..”
สองมือน้องมายุจิกสะโพกผมแน่น ร่างเกร็งนิ่งอยู่บนสะโพกผม ริมฝีปากกดเม้มเข้าหากัน น้ำตาซึมออกมาจากหางตาเป็นสาย แต่ผมไม่สามารถปลอบได้เนื่องจากร่องหีของน้องอิงค์กำลังสั่นกระตุกบีบลิ้นผมเป็นจังหวะ เสียงร้องของน้องอิงค์ประสานกับน้องมายุแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน
“อ๊าว…น้าเอก อิงค์..ฉะ ฉะ ฉี่ราดแล้ว….”
ควยผมสัมผัสความอบอุ่นดูดรัดภายในรูหีน้องมายุ ผมรีบยกสะโพกของน้องอิงค์ออกจากใบหน้าแล้วปล่อยให้ฟุบอยู่ด้านข้าง ก่อนที่จะดึงร่างน้องมายุที่กำลังเกร็งตัวลงมากอดไว้
“มายุจังเจ็บมากไหม”
น้องมายุพยักหน้าส่งเสียงสะอื้น..
“เจ๊บจังเลยน้าเอก เมื่อกี้มายุไม่รู้ตัวว่าควยน้าเอกจะเล็กลง เลยกดลงมาแรงๆ ควยน้าเอกฉีกหีมายุขาดเลย”
ผมลูบไล้แผ่นหลังน้องมายุแล้วปลอบเบาๆ
“ไม่เป็นไรนะมายุจัง เจ็บหนเดียวเท่านั้น มายุจังเป็นเมียน้าอีกคนหนึ่งแล้วนะ..”
น้องมายุซุกหน้ากับอกผม น้ำเสียงสงบลงเล็กน้อยแต่ยังคงสะอื้นเบาๆ
“มันเจ็บจริงๆ น้าเอก แต่มายุก็ดีใจที่เป็นเมียน้าเอกได้แล้ว น้าเอกต้องรักมายุมากๆ นะ”
ผมเชยคางเด็กหญิงขึ้นแล้วประทับจูบแรกให้กับน้องมายุ ร่างน้อยกอดผมแน่นและจูบตอบผมอย่างเต็มใจ ลิ้นเรียวเล็กค่อยๆ เรียนรู้การเคลื่อนไหวจากการหยอกล้อของลิ้นผมแล้วขยับตามไม่นานนักก็เกี่ยวกระหวัดแลกความหอมหวานจากจูบที่เริ่มเร่าร้อนขึ้น สะโพกน้อยๆ ของน้องมายุเริ่มเคลื่อนไหว ผมลองขยับควยที่ยังฝังแน่นอยู่ในรูหีของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ และรับรู้ว่าน้ำหล่อลื่นของน้องมายุเริ่มไหลออกมาอำนวยความสะดวกให้กับแท่งควยแล้ว ผมค่อยๆ ยกสะโพกน้องมายุขึ้นแล้วปล่อยลงช้าๆ
“อูย..นะ น้าเอก..มันแสบ..”
น้องมายุถอนปากครางออกมาเมื่อรับรู้ว่าควยผมกำลังเคลื่อนไหว
“น้าจะขยับช้าๆ นะ มายุจังกอดน้าไว้แน่นๆ”
น้องมายุกอดผมไว้ ริมฝีปากกัดแน่นเมื่อควยเริ่มเคลื่อนไหวขึ้นลง เสียงสูดปากดังขึ้นราวกับน้องมายุกินพริกเข้าไปทั้งกำมือ
“ซีดส์..อูยส์…โอ้ว…”
สองมือผมออกแรงยกสะโพกของน้องมายุขึ้นลงท่ามกลางเสียงคราญครางของเด็กหญิง แรงยกที่ผมใช้ค่อยๆ น้อยลงเพราะน้องมายุเริ่มเป็นฝ่ายโยกสะโพกขึ้นลงเองจากช้าๆ เริ่มเร็วขึ้น ความเสียวจากแท่งควยเริ่มก่อตัวขึ้นจนบดบังความเจ็บปวด น้องมายุกัดฟันแน่นความเร็วในการกระเด้าเพิ่มขึ้นทีละน้อย จนในที่สุดก็กลายเป็นถี่ยิบ
“นะ น้าเอก..สะ เสียว….”
ผมดันร่างน้องมายุให้ขึ้นมานั่ง สองมือกุมเต้าคู่งามบี้คลึงไปมา น้องมายุนั่งอยู่บนสะโพกผมยกร่างขึ้นลงอย่างไม่สนใจทุกสิ่งรอบข้าง ผมดึงร่างเด็กหญิงให้พลิกลงมานอนหงายแล้วกระเด้าอัดใส่เนินหีน้อยๆ ที่อมแท่งควยไว้แน่นปริถี่ยิบ เลือดจากเยื่อพรหมจรรย์และการฉีกขาดของกล้ามเนื้อรอบปากรูหีไหลซึมออกมาโชลมแท่งควย แต่น้องมายุดูราวกับลืมเลือนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น สะโพกน้อยๆ กระเด้งรับการเย็ดอย่างลืมตัว ใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับถูกทรมานอย่างหนัก ส่งเสียงหอบกระเส่า
“โอ้วส์ โอ้วส์ ..อะ อะ อ๊าส์ นะ นะน้าเอก…มัน..มา ละแล้ววว”
สะโพกน้อยๆยกขึ้นค้างอัดแน่นกับหนอกควย ผมเองก็สุดกลั้นความเสียวที่ถูกร่องหลืบคับแน่นของน้องมายุตอดรัดได้ น้ำรักกระหน่ำออกไปอย่างแรงเข้าไปในมดลูกที่ยังไม่พร้อมรับการสืบพันธ์ เอ่อล้นทะลักออกมาเป็นสายจนที่นอนเปียกชุ่ม ผมฟุบร่างลงกอดน้องมายุดูดดมหน้าอกน้อยๆ แข็งเป็นไตอย่างชื่นใจ
“มายุจังเป็นไงบ้าง….”
น้องมายุยิ้มอย่างอ่อนระโหย แต่มองหน้าผมด้วยแววตาสุขสม
“มายุมีความสุขที่สุดเลย น้าเอกล่ะตอนนี้ยังคิดว่ามายุเด็กเกินไปหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้า…
“มายุไม่เด็กแล้วจริงๆ ด้วย”
เสียงใสๆ ดังขึ้นข้างหูผม
“แล้วอิงค์ล่ะน้าเอก”
ผมหันไปพบใบหน้าน่ารักของน้องอิงค์อยู่ข้างๆ แววตาของเด็กหญิงแสดงความคาดหวังออกมาอย่างชัดเจน น้องมายุสูดปากถอนควยผมออกจากรูหีแล้วมากอดน้องอิงค์ไว้ ก่อนบอกผม
“น้าเอกเย็ดน้องอิงค์ด้วยนะ..”
ผมนึกถึงกลีบกุหลาบหอมหวานของน้องพิงค์ที่ผมใช้ลิ้นส่งให้เจ้าของไปถึงจุดสุดยอด มันเป็นหีที่งดงามจนแทบไม่น่าจะถูกทำลายก่อนวัยอันควร แต่แววตาของน้องอิงค์บอกให้ผมรู้ว่าน้องอิงค์ต้องการรับรู้ความรู้สึกสุดยอดเช่นเดียวกับน้องทุกคนในบ้าน ผมคว้าร่างน้องอิงค์มากอดในท่าตะแคงตัวแล้วประทับจูบหนักๆ ลงบนริมฝีปากอ่อนบางนั้น
“ถ้าน้องอิงค์ต้องการ น้าก็จะเย็ดน้องอิงค์เลยนะ”
น้องอิงค์พนักหน้าหลับตาปี๋ ริมฝีปากน้อยๆ ยื่นมาจูบปากผมเบาๆ แต่ผมกลับประกบจูบอย่างหนัก ลิ้นแทรกผ่านเข้าไปในช่องปากหอมกรุ่นของเด็กหญิงที่เบิกตากว้างเมื่อลิ้นถูกสัมผัส แต่ก็ปิดตาลงเพื่อซึมซับความรู้สึกจากสัมผัสของลิ้นอย่างเต็มใจ ผมลูบคลำหัวนมเล็กๆ ที่ยังไม่เติบโตจนมันแข็งตัวเป็นตุ่มอยู่ใต้ฝ่ามือ ก่อนเลื่อนมือลงไปเพื่อกระตุ้นเนินหีน้อยๆที่แสนงดงามเบื้องหน้าให้พร้อมสำหรับรับควยแท่งแรกในชีวิต แต่มือผมกลับผมกับผมนุ่มสลวยของน้องมายุที่กำลังฝังใบหน้าเข้ากับเนินหีของน้องอิงค์และใช้ลิ้นทำหน้าที่แทนมือผมอย่างตั้งอกตั้งใจ
น้องอิงค์บิดร่างในอ้อมกอดผมราวกับงูส่ายรับเสียงดนตรี ผมรู้สึกถึงมือของน้องมายุที่กุมควยผมกระทอกขึ้นลงเบาๆ จนทำให้มันแข็งตัวขึ้นอีกครั้ง ผมกลั้นกระแสเลือดจนมันหดตัวลงมาพร้อมสำหรับการบุกเบิกรูหีน้อยของเด็กหญิงวัย 8 ขวบที่กำลังรอการเย็ดในอ้อมแขน เสียงน้องอิงค์ครวญครางในลำคอแต่ไม่สามารถส่งเสียงได้เนื่องจากกำลังแลกลิ้นกับผมอย่างเร่าร้อน
มือน้อยๆของน้องมายุดึงควยของผมเข้าไปหารูหีน้องอิงค์ ก่อนถอนปากออกจากการดูดดื่มน้ำรักที่ชุ่มโชก น้องมายุขยับปลายควายของผมไปจ่อเข้ากับปากทางเข้าโดยที่ผมก็ส่งสะโพกตามไปอย่างเต็มใจ ปลายควยถูกมือน้องมายุลากขึ้นลงตามร่องหีฉ่ำเยิ้ม ผมยกขาข้างหนึ่งของน้องมายุขึ้นมาก่ายสะโพกผมไว้เปิดทางให้ควยที่จ่อกับแคมหีค่อยๆ ผ่านเข้าไป โดยมีน้องมายุช่วยกระตุ้นติ่งเสียว และแหวกแคมน้อยทั้งสองออกเพื่อรับการเย็ด
น้ำหล่อลื่นทำให้หัวควยแทรกตัวผ่านลงไปช้าๆ กล้ามเนื้อที่ไร้เรี่ยวแรงของหีน้องอิงค์พยายามขยายตัวอย่างเต็มที่แต่หัวบานของควยผมยังคงไม่สามารถผ่านลงไปได้ น้องอิงค์หยุดแลกลิ้นกับผม ถอนจูบแล้วครางออกมาเบาๆ
“อูยน้าเอก..มันปริแล้ว…”
ผมกระชับอ้อมกอด จูบแก้มนวลเนียน
“น้องอิงค์ไหวไหม ถ้าไม่ไหวรอก่อนก็ได้นะ”
น้องอิงค์สั่นหน้า
“อิงค์ไม่รอแล้ว มายุจังก็เป็นเมียน้าเอกแล้วอิงค์ต้องเป็นเมียน้าเอกให้ได้วันนี้ น้าเอกเอามันเข้ามาเถอะ”
ผมจูบน้องอิงค์อีกครั้ง ก่อนส่ายหัวควยวนบนแคมหีที่กำลังอ้าออกอย่างเต็มที่ แต่ก่อนที่ผมจะกดลงไป สะโพกของน้องอิงค์ก็อัดเข้ามาหาควยผมด้วยตัวเอง ควยผมรู้สึกถึงการฉีกขาดของแคมหีอย่างชัดเจน น้องอิงค์เกร็งร่างแน่นเมื่อหัวควยผลุบเข้าไปในแคมจนมิดปลายของมันพร้อมที่จะบุกเบิกต่อเพื่อผ่านเยื่อขวางกั้นความสาวตรงหน้า ผมกระเด้าสั้นๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยก่อนตัดสินใจกดควยผ่านลงไปจนฉีกม่านพรหมจรรย์ออกจากกัน ร่างน้องอิงค์กระตุกด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลออกมาเป็นสายแต่ยังคงกัดฟันแน่นโดยไม่ยอมส่งเสียงร้องออกมา ผมรีบอัดควยลงไปจนสุดแล้วแช่นิ่งอยู่ในความรัดรึงที่สุดบรรยายของหลืบหีน้องอิงค์
ผมรีบถอนปากออกจากการจูบแล้วถามน้องอิงค์ด้วยความเป็นห่วง
“น้องอิงค์เจ็บมากไหม…”
น้องอิงค์พยักหน้าแต่ไม่ยอมตอบเป็นคำพูด กัดฟันกับริมฝีปากแน่นจนเป็นรอยชัดเจน ผมลูบไล้ร่างน้อยไปมาให้น้องอิงค์ถ่ายเทความสนใจมาที่การสัมผัสเพื่อลดความเจ็บปวดจากเบื้องล่าง
“น้องอิงค์เป็นเมียน้าเอกอีกคนแล้วนะ…”
เสียงน้องมายุกระซิบข้างหูน้องอิงค์ ทำให้น้องอิงค์ลืมตาขึ้นและพยายามยิ้มกับน้องมายุ
“มันเจ็บขนาดนี้เลยหรือพี่มายุ”
น้องมายุลูบไล้หน้าอกแบนราบของน้องอิงค์ไปมาก่อนตอบ
“มันเจ็บทีแรกนะน้องอิงค์ แต่เดี๋ยวพอน้าเอกกระเด้ามันจะค่อยๆ หายเจ็บแล้วจะเสียวจนเหมือนขึ้นสวรรค์เลยแหละ”
น้องอิงค์พึมพัมคำ “สวรรค์’ เบาๆ แล้วลองขยับสะโพกน้อยๆของตนเอง
“อูย…มันยังเจ็บอยู่เลยนี่พี่มายุ”
น้องมายุหัวเราะเบาๆ ก้มลงจูบปากเด็กหญิงแล้วกระซิบข้างหู
“ทนอีกนิดเดียวเชื่อมายุเถอะ รับรองหลังจากนี้น้องอิงค์จะวิ่งมาหาน้าเอกให้เย็ดทุกวันเลยแหละ”
ผมเอื้อมมือไปเขกหัวน้องมายุเบาๆ ด้วยความเอ็นดูในความทะเล้นของเด็กหญิง
“‘งั้นเดี๋ยวน้าเย็ดน้องอิงค์เสร็จ น้าจะซ้ำน้องมายุอีกทีนะ”
น้องมายุผวาเข้ามากอดผม ยิ้มอายๆ
“ถ้าน้าเอกต้องการ มายุก็พร้อมแต่ตอนนี้น้าเอกช่วยน้องอิงค์ก่อนนะ ”
น้องมายุพลิกร่างลงไปตะแคงกอดน้องมายุทางด้านหลัง สองมือกุมเต้าราบเรียบเอาไว้แล้วใช้นิ้วบี้หัวนมไปมา แผ่นหลังน้องอิงค์อัดแน่นอยู่กับร่างน้องมายุ ความเคลื่อนไหวของมือน้องมายุทำให้น้องอิงค์ส่ายร่างไปมา
“พี่มายุ..ยะ อย่าบี้ตรงนั้น มัน สะ เสียว”
ผมลูบไล้สะโพกอวบตึงของน้องอิงค์บีบเน้นรับรสสัมผัสที่หยุ่นตึงอย่างละลานใจ รูหีน้องอิงค์ซึ่งบีบรัดควยผมแน่นเอี๊ยดแต่คลายตัวเล็กน้อยเปิดทางให้ควยผมเคลื่อนไหวได้บ้าง ผมซึมซับความรู้สึกสุดยอดภายในรูหีของเด็กหญิงอายุน้อยที่สุดที่ผมเคยได้เย็ดเอาไว้ในใจแล้วเริ่มลากควยออกมาช้าๆ ก่อนกดกลับเข้าไปที่เดิม มือผมแทรกผ่านร่องก้นอวบเพื่อใช้นิ้วสัมผัสรูทวารของเด็กหญิงแล้วแทรกนิ้วชี้ผ่านลงไปจนจมข้อ กล้ามเนื้อด้านหลังของน้องอิงค์ขมิบรัดนิ้วชี้ผมอย่างแรง เสียงน้องอิงค์อุทานอย่างตกใจ
“นะ น้าเอก นั่นก้นอิงค์นะ..”
ผมไม่ตอบแต่เคลื่อนไหวนิ้วชี้ไปมาเพื่อแยกความสนใจน้องอิงค์ออกมาจากการเคลื่อนไหวในรูหี ซึ่งก็ได้ผลเพราะไม่นานนักผมก็สามารถชักแท่งควยออกมาได้ยาวขึ้นเรื่อยๆ และกดกลับเข้าไปโดยไม่มีเสียงร้องแสดงความเจ็บปวด มีแต่เพียงเสียงครางสลับเสียงสูดปากของน้องพิงค์เป็นระยะ
“โอ็วส์ อ๊าวส์ .. นะ น้าเอก ทำไม มัน สะเสียวอย่างนี้…”
ผมกระซิบข้างหูน้องอิงค์
“น้องอิงค์ยังเจ็บอยุ่หรือเปล่า”
น้องอิงค์สั่นหน้าน้อยๆ
“ยังเจ็บนิดๆ น่ะน้าเอกแต่ไม่เป็นไร น้าเอกอย่าหยุดนะ อิงค์เสียว..อุ๊ยพี่มายุอย่าบีบตรงนั้น”
น้องมายุที่อยู่ด้านหลังน้องอิงค์เอื้อมมือมาประกบบีบสองแคมเนินหีน้องอิงค์ที่กำลังถูกควยผมเย็ดเข้าออกอยู่ สะโพกน้องอิงค์ส่ายโต้ตอบการโจมตีทุกด้านพร้อมกันส่งเสียงหอบออกมาพร้อมกับที่ผมเร่งความเร็วในการกระเด้าถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนน้องอิงค์กระเด้งสะโพกสวนผมโดยลืมความเจ็บทั้งหมด ความเสียวของน้องอิงค์เพิ่มสูงขึ้นพร้อมๆ กับความเสียวหัวควยของผมที่ใกล้ทะลักออกมาเต็มที ผมเร่งกระเด้าถี่เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อรับรู้ว่าร่างน้องอิงค์กำลังเริ่มเกร็งตัว ภายในรูหีกระตุกเป็นจังหวะ
“อุ๊ย…อะ อะ อ๊าส์…นะ น้าเอก เร็วอีก อย่าหยุดนะ..โอ๊วส์….อิงค์..ม่าย…ไหว แล้ว…..”
ร่างน้อยในอ้อมกอดของผมและน้องมายุดิ้นไปมา น้องอิงค์อัดร่างเข้ากอดผมแน่นเมื่อผมเกร็งตัวฉีดน้ำรักเข้าสู่โพรงหีอ่อนเยาว์แล้วซบหน้าลงกับอกผมอย่างสิ้นแรง ผมจูบเรือนผมน้องอิงค์อย่างชื่นใจก่อนถอนควยออกจากร่างน้องอิงค์แล้วก้มลงดูการฉีกขากของหีน้อยๆ ด้วยความห่วงใย หีของน้องอิงค์ส่งน้ำรักย้อนออกมาพร้อมกับเลือดที่ผสมกันจนเป็นสีชมพูจางๆ ส่วนล่างของกล้ามเนื้อด้านล่างฉีกขาดและยังคงมีเลือดซึมออกมาบางๆ ผมรีบคว้ากระดาษทิชชูหัวเตียงกดเข้าปิดปาดแผลเพื่อให้เลือดหยุดไหล ในใจนึกตำหนิตัวเองที่ไม่สมารถยับยั้งความต้องการจนเป็นเหตุให้ต้องทำลายหีที่งดงามราวกับกลีบกุหลาบทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเบ่งบานของมัน
น้องอิงค์ขยับร่างลุกขึ้นแล้วโผเข้ากอดผมแน่น ผมรีบถามด้วยความกังวล
“น้องอิงค์ทนได้ไหม ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
น้องอิงค์สั่นหน้าไปมา ซุกเข้ากับอกผม
“ยังเจ็บอยู่เหมือนกันน้าเอก แต่อิงค์ดีใจที่สุดที่ได้เป็นเมียน้าเอกเหมือนพี่ๆ ทุกคน”
น้องมายุขยับร่างมากอดผมไว้อีกคนหนึ่ง
“มายุก็ดีใจที่ได้เป็นเมียน้าเอกพร้อมกับน้องอิงค์”
“น้าจะรักและดุแลมายุจังกับน้องอิงค์ตลอดไป”
ผมบอกและจูบน้องทั้งสองหนักๆ ด้วยความรัก ในใจผมรับรู้ความประทับใจที่ผมได้รับความบริสุทธิ์ของเด็กหญิงที่แสนน่ารักสองคนพร้อมๆ กันในวันนี้ ผมดึงร่างทั้งสองให้ลงนอนเคียงผมทั้งสองด้าน แล้วกดปุ่มปิดม่านทั้งห้องจนอยู่ในความมืดก่อนที่จะผล็อยหลับไปพร้อมเมียคนใหม่ทั้งสองในอ้อมแขน
——————————-
บทแทรกที่ 4
“อรุณสวัสดิ์ครับ ดร.นาโอมิ”
พอ.สมิธ ทักทายหญิงสาวทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องปฏิบัติการพิเศษ มันเป็นห้องซึ่งได้จัดไว้ให้ ดร.นาโอมิเป็นพิเศษภายใน The Cave โดยเชื่อมข้อมูลทั้งหมดจากศูนย์ปฏิบัติการด้านนอกเพื่อให้ ดร.นาโอมิใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ดร.นาโอมิ เงยหน้าขึ้นยิ้มรับการทักทายของผู้บังคับบัญชาสถานที่อย่างเหนื่อยอ่อน ขอบตาดำคล้ำของหญิงสาวบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นการทำงานจนไม่ได้พักผ่อน ซึ่ง พอ.สมิธ ก็ไม่แปลกใจอะไรเพราะตั้งแต่ ดร.นาโอมิ มาถึง The Cave เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาก็ไม่เคยออกไปจากสถานที่แห่งนี้เลย และหมกมุ่นทำงานจนแทบไม่ได้พักผ่อน จนกระทั่งเช้าวันนี้จึงได้ ดร.นาโอมิจึงได้ติดต่อทางโทรศัพท์สายตรงไปหา พอ.สมิธ แจ้งว่าพบข้อมูลสำคัญที่น่าจะตอบปัญหาทั้งหมดได้
พอ.สมิธ ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆโต๊ะทำงาน ชำเลืองมองหญิงสาวด้านข้างด้วยความชื่นชม แม้จะอยู่ในภาวะเหนื่อยอ่อนจากการทำงานมาตลอด แต่ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าจะไม่สามารถปิดบังความงามของนักค้นคว้าทางจิตที่มีชื่อเสียงก้องโลกคนนี้ได้ ใบหน้าหวานที่ประดับด้วยดวงตากลมโตกระตุ้นความสนใจของผู้ที่ได้พบเห็น ยิ่งเมื่อหญิงสาวทำงานอยู่ในชุดเสื้อยืดรัดรูปรัดรึงหน้าอกขนาดใหญ่ที่ปราศจากชั้นในจนเห็นหัวนมกลมสวยเป็นรูปร่างชัดเจน ทำให้ พอ.สมิธต้องถอนหายใจยาว พยายามระงับความรู้สึกทางเพศที่ถูกกระตุ้นจากเรือนร่างงามเบื้องหน้าอย่างยากเย็น ในขณะที่เสียงหวานใสของ ดร.นาโอมิดังขึ้น
“ตอนนี้ดิฉันทราบแล้วว่าทำไมที่นี่ถึงเรียกว่า The Cave เพราะคนที่อยู่ที่นี่ไม่มีโอกาสได้เห็นแสงอาทิตย์เลย”
พอ.สมิธยิ้มรับประโยคที่คล้ายคำบ่นนั้น ใจนึกถึงคำสั่งเร่งด่วนจากหน่วยเหนือที่ต้องการทราบข้อมูลการวิเคราะห์โดยเร็วที่สุด
“ดร.พบอะไรที่น่าสนใจหรือครับ”
ดร.นาโอมิกด รัวนิ้วป้อนคำสั่งชุดหนึ่งลงไปที่คีย์บอร์ด กราฟชุดหนึ่งปรากฏขึ้นมา พอ.สมิธ มองดูด้วยความสนใจ มันเป็นกราฟลายเส้นแสดงการทำงานของสมองที่ทุกคนใน The Cave รู้จักดี แต่ก่อนที่ พอ.สมิธจะถามต่อไป เสียงหญิงสาวก็ดังแทรกขึ้นมา
“รู้ไหมค่ะว่ากราฟตัวนี้หมายถึงอะไร”
พอ.สมิธดูเส้นกราฟที่ยกตัวเองขึ้นสูงจากระดับปกติแล้วขยับขึ้นลงในระนาบสูงระยะหนึ่ง ก่อนพุ่งขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้วทิ้งตัวดิ่งตกลงมาอยู่ที่ระดับปกติ พอ.สมิธส่ายหน้าเล็กน้อย
“มันก็ดูเหมือนการทำงานปกติของสมองไม่ใช่หรือครับ”
ดร.นาโอมิยิ้มเล็กน้อย
“รูปแบบของกราฟนี้เป็นรูปแบบเฉพาะของการที่สมองถูกกระตุ้นจากการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น เป็นรูปแบบที่เหมือนกันในทุกคนไม่มีข้อยกเว้น”
พอ.สมิธ จ้องเส้นกราฟบนจออย่างแปลกใจ ก่อนถามอย่างไม่แน่ใจนัก
“หมายความว่าเจ้าของเส้นกราฟนี้กำลังฝันว่าตัวเองมีเพศสัมพันธ์หรือครับ”
หญิงสาวสั่นศีรษะ กล่าวอย่างจริงจัง
“การฝันว่ามีเพศสัมพันธ์จะมีรูปแบบการทำงานของสมองอีกอย่างหนึ่งค่ะเพราะมันเป็นการสร้างมโนภาพขึ้นมาเอง แต่กราฟรูปแบบนี้จะเกิดเฉพาะเมื่อจิตใจเจ้าของกราฟถูกกระตุ้นทางเพศจากบุคคลที่สอง และร่วมเพศสัมพันธ์กันจนบรรลุถึงความต้องการสูงสุดหรือไคลแมกซ์เท่านั้น”
ดร.นาโอมิอธิบายยาวเหยียด พอ.สมิธพึมพัมออกมาอย่างสับสน
“แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ ทุกคนไม่มีการสัมผัสกับบุคคลที่สองนี่ครับ”
ดร.นาโอมิกดชุดคำสั่งอีกชุดหนึ่ง หน้าจอปรากฏตารางขนาดเล็กจำนวนมากโดยแต่ละตารางบรรจุเส้นกราฟลักษณะเดียวกันเอาไว้
“ดิฉันใช้ฟิลเตอร์กรองบันทึกการทำงานของสมองพี่ ..เอ้อ..คุณเอกราช เฉพาะส่วนที่แสดงรูปแบบของการมีเพศสัมพันธ์ เห็นอะไรไหมค่ะ”
พอ.สมิธ จ้องดูตารางเบื้องหน้าอย่างสับสน ตัวเลขบอกวันเวลาและจำนวนหน้าที่แสดงบอกให้รู้ว่านี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูลทั้งหมดเท่านั้น
“ผมงงไปหมดแล้ว ดร.นาโอมิ ช่วยอธิบายสรุปให้ผมฟังอย่างง่ายๆ ได้ไหมครับ”
ดร.นาโอมิเหยียดร่างงามลงพิงเก้าอี้ สองมือประสานเหนือท้ายทอยโดยไม่สนใจว่าท่านั่งแบบนี้จะทำให้หน้าอกพุ่งดันเสื้อยืดเป็นรูปร่างชัดเจนราวกับไม่ได้สวมสิ่งใดไว้ ก่อนหลับตาแล้วเริ่มอธิบาย
“บันทึกที่เห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของบันทึกการทำงานของสมองคุณเอกราช จากการติดตามข้อมูลของดิฉันพบว่าการทำงานของสมองแบบนี้มีขึ้นทุกวันและวันละหลายครั้ง ราวกับไม่มีเวลาหยุดเพศสัมพันธ์เลย คลื่นสมองแบบนี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 21 มกราคม 2005 ซึ่งตามบันทึกแล้วเป็นเวลา 3 อาทิตย์หลังจากที่คุณเอกราชตกลงมาจากตึกที่พักพร้อมเด็กหญิงอายุ 12 ปีชื่อซูกุมิ ที่น่าสนใจก็คือในวันที่ 5 มกราคม ซึ่งเป็นวันที่เด็กหญิงซูกุมิเริ่มเข้าสู่อาการแพนโดร่าทั้งที่ไม่ปรากฏว่าเกิดการกระแทกใดๆ คลื่นสมองคุณเอกราชก็สัมพันธ์กับเด็กหญิงซูกุมิทันทีราวกับว่าทั้งสองมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องโดยตลอด หลังจากห้าอาทิตย์กราฟแสดงความสัมพันธ์ทางเพศของนายเอกราชก็เกิดในเวลาเดียวกันกับเด็กหญิงซูกุมิ และหลังจากนั้นก็เกิดพร้อมกันราวกับว่าคุณเอกราชกับเด็กหญิงซูกุมิมีเพศสัมพันธ์กันมาตลอดเวลาเกือบ 1 เดือน ”
ดร.นาโอมิลืมตาขึ้น หยิบกาแฟขึ้นจิบก่อนยื่นแฟ้มขนาดเล็ก 13 แฟ้มให้ พอ.สมิธ แล้วลุกขึ้นยืน
“ตามดิฉันมาทางนี้ได้ไหมค่ะ”
หญิงสาวก้าวเดินไปที่แท่นวงกลมกลางห้องซึ่งเป็นเครื่องควบคุมกลาง แล้วคีย์ข้อมูลชุดหนึ่งลงไป ที่หน้าจอปรากฏกราฟรูปแบบเดิม หญิงสาวป้อนข้อมูลซ้ำอีกชุดหนึ่งแล้วชี้ให้ พอ.สมิธดูที่แถวของหลอดแก้ว ซึ่งขณะนี้หลอดแก้วจำนวนหนึ่งปรากฏแสงไฟสีเขียวกระพริบถี่ๆ ที่ส่วนบนของแผงควบคุม เสียงที่ไร้อารมณ์ของคอมพิวเตอร์ดังขึ้น
“ผลการค้นหาคลื่นสมองรูปแบบ Alpha9 เทียบกับตัวอย่างหลักหมายเลข A1 พบ 13 ตัวอย่าง”
————————————————-
ติดตามตอนจบบริบูรณ์ในตอนหน้าครับ