แก้วกานดา ตอนที่ 12 – ต่างแผนการ

แก้วกานดา ตอนที่ 12 – ต่างแผนการ

แก้วกานดา ตอนที่ 12 – ต่างแผนการ

      เวรเอ๊ย โทรไปหาเป็นสิบครั้งแล้ว ทำไมไม่ยอมรับสายวะ”

สิงห์ ชายหนุ่มร่างกำยำส่งเสียงสบถไม่สบอารมณ์ออกมาด้วยน้ำเสียงอันดังลั่นในรถคันหรู ก่อนจะเหวี่ยงโยนเอาโทรศัพท์มือถือสีดำทิ้งลงไปบนเบาะหนังสีน้ำตาลด้านข้างเพื่อระบายความหงุดหงิด

เขานั่งบ่นพึมพำอยู่ในรถหรูหราอีกครู่ใหญ่ ก่อนจะขยับตัวเปลี่ยนเกียร์เหยียบคนเร่งขับเคลื่อนรถคันโตวิ่งไปบนท้องถนนตามสัญญาณไฟจราจรซึ่งเพิ่งเปลี่ยนจากสีแดงมาเป็นสีเขียว ยามเช้าตรู่เช่นนี้รถรายังมีไม่มากนัก เขาจึงสามารถเหยียบเร่งความเร็วได้อย่างเต็มที่

ดวงตาสีทองแดงนั้นแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เพราะดูเหมือนว่า
เหตุการณ์จะไม่เป็นไปตามที่เขาคาดคิดเอาไว้ เมื่อสองคืนที่แล้วเขาได้เปิดบริสุทธิ์ดาริกา เธอเป็นหญิงสาวที่สวยเหมือนนางฟ้ามากด้วยเสน่ห์จนเขาลุ่มหลงในรสราคะ ช่วงเช้าของเมื่อวานเขาพาเธอไปส่งที่พัก และปล่อยให้เธอได้พักฟื้นร่างกายไปหนึ่งวันเต็ม

สิงห์โทรศัพท์ไปหาดาริกาตั้งแต่เมื่อคืนด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม เขาเชื่อว่าดาริกาจะต้องเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่น ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ติดใจลีลารักของเขา เขาจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าอีกฝ่ายจะต้องคิดถึงโหยหา หากทว่าเขาอาจจะคาดเดาผิดไป

ดาริกาหญิงสาวคนนี้มีความสวยสมบูรณ์แบบจนเขาไม่ปฏิเสธว่าลุ่มหลงในร่างกายของเธอ เรียกได้ว่าแค่นึกถึงตอนได้ขึ้นขย่มขยี้เสพกามกับเรือนร่างงามประหนึ่งนางฟ้าของดาริกา ยิ่งนึกไปถึงนมเต้าอวบอิ่มเต่งตึงและร่องสาวที่คับแน่น ร่างกายท่อนล่างก็ถึงกับเกร็งเขม็งจนปวดหนึบขึ้นมาแทบจะในทันที ความรู้สึกแบบนี้เขายังไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน และยิ่งเวลาผ่านไปโดยที่เขาไม่ได้ระบายอารมณ์ อารมณ์ของเขาก็ยิ่งหงุดหงิดกราดเกรี้ยวอย่างเห็นได้ชัด

ชายหนุ่มเจ้าของเครือร้านนวดและธุรกิจอีกหลากหลายนั่งเงียบไปครู่ใหญ่ เขาเปิดกระจกรถออกเล็กน้อย แล้วหยิบเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบพ่นควันฉุยเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ที่กำลังเคร่งเครียด ตั้งแต่เป็นหนุ่มเต็มตัว เขาก็ไม่เคยห่างจากผู้หญิงมาก่อน เรียกได้ว่ามีให้นอนกอดทุกค่ำคืน และเขาเองก็มีผู้หญิงที่เต็มใจขึ้นเตียงกับเขาอยู่หลายคน เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมานั้นเสน่ห์ของดาริกาทำให้เขารู้สึกเหมือนเสน่ห์ของสาว ๆ คนอื่นกลายเป็นจืดชืดน่าเบื่อจนขี้คร้านจะเรียกพวกเธอเหล่านั้นมาสนองอารมณ์

จนกระทั่งวันนี้สิงห์จึงค่อยรู้สึกว่าคงไม่สามารถอัดอั้นอารมณ์ได้อีกต่อไป ปกติแล้วเขาจะไม่ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้ หากทว่าอารมณ์กระสันทำให้เขาหลับไม่ลง สมองของเขามัวแต่คิดถึงรสสวาทจากดาริกา และหากจะมีใครสักคนแทรกเข้ามาในความคิด ก็คงจะเป็นนักศึกษาสาวแสนสวยที่เขาได้ลวนลามบนรถไฟฟ้า หากทว่ายังไม่ได้มีโอกาสปิดเกม เขารู้สึกว่านักศึกษาสาวคนนั้นกับดาริกามีเสน่ห์ที่มากล้นไม่แพ้กัน เพียงแต่ปัญหาก็คือเขาไม่ทราบว่านักศึกษาสาวคนนั้นอยู่ที่ไหน หรือต่อให้เขาเจอก็ไม่แน่ว่าจะได้ทำอย่างที่อยากทำ

“… ไปหานกล่ะกัน เช้าแบบนี้น่าจะยังอยู่ที่ห้องนะ … ถ้าอนงค์อยู่ด้วยก็คงดี … หึ หึ”

สิงห์นั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นรถคันหรูหักเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางไปอีกเส้นทาง จุดหมายปลายทางในครั้งนี้คือคอนโดห้องชุดที่เขาซื้อไว้ให้หญิงสาวในสังกัดอยู่อาศัย ชื่อของเธอคือกนกกร เธอมีชื่อเล่นว่านก นกเป็นสาววัยทำงานเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เท่าที่เขารู้นั้นครอบครัวของเธอเป็นชนชั้นกลางไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้ยากจน

เขาได้เจอกับนกผ่านทางแม่เล้าเด็กขายตัวตั้งแต่สมัยเธอยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย จากนั้นเขาก็ได้เป็นคนเปิดบริสุทธิ์และถูกอกถูกใจจนต้องเลี้ยงดูนกเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ สามปีแล้วที่เขาเลี้ยงเธอไว้เป็นที่ระบายความใคร่ แต่ว่าเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกเบื่อ

กนกกรเป็นสาวสวยระดับดารานางแบบวัยยี่สิบสาม เธอมีนิสัยใฝ่สูงวางตัวเหมือนไฮโซร่ำรวย เขารู้ว่าเธอหมายมั่นจะจับเขาซึ่งมีฐานะร่ำรวยให้อยู่หมัด และเขาก็ยอมรับว่าติดอกติดใจลีลาร่านสวาทของเธอมากพอสมควร ยิ่งคนภายนอกที่ไม่รู้อะไรมองว่าเธอคนนั้นเป็นไฮโซสาวสวยคนหนึ่ง เขาก็ยิ่งรู้สึกดีตอนควงแขนเธอไปงานเลี้ยงต่าง ๆ โดยไม่เคยคิดจะแฉความจริงเรื่องที่ว่าเธอคนนี้เป็นแค่ที่ระบายความใคร่ส่วนตัว

นอกจากนี้กนกกรยังมีน้องสาวหน้าตาสวยน่ารักวัยนักศึกษาอายุยี่สิบปีอยู่อีกหนึ่งคน น้องสาวของนกชื่ออรอนงค์ เธอมีชื่อเล่นว่าอนงค์ ความสวยน่ารักของสองพี่น้องนี้เรียกได้ว่าใกล้เคียงกัน สิงห์จึงรู้สึกคันหัวใจยุบยิบอยากครอบครองอนงค์ให้ได้แบบเดียวกับพี่สาว เพียงแต่ดูเหมือนว่าอนงค์จะวางตัวออกห่างไม่เข้ามาใกล้ชิดกับเขาอย่างที่เขาอยากให้เป็น

“อ้าว อนงค์ จะไปมหาวิทยาลัยแล้วเหรอ ไปเรียนเช้าเชียว”

สิงห์ส่งเสียงร้องทักด้วยดวงตาลุกวาวทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องพัก สายตาหื่นกลัดมันของเขากำลังจับจ้องมองดูนักศึกษาสาวซึ่งกำลังแสดงท่าที่ตื่นตกใจออกมา เขากำลังจับจ้องมองดูความสวยน่ารักของใบหน้า เขามองดูทรวงอกอวบที่เด้งสะท้านขึ้นลง แล้วไล่ลงไปมองดูท่อนขาขาวเรียวด้วยลมหายใจที่ร้อนผ่าวกว่าเดิม เธอคนนี้คืออนงค์น้องสาวคนเดียวของนก ผู้หญิงที่สิงห์วางแผนอยากจะครอบครอง

“… พี่สิงห์นั่นเอง … อนงค์ตกใจหมด … ไม่เห็นพี่นกบอกเลยว่าพี่สิงห์จะมา”

อนงค์ถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นใบหน้าผู้บุกรุกเข้ามาในห้องได้ชัดเจน แต่นักศึกษาสาวสวยก็ยังยืนมองร่างสูงกำยำของสิงห์ด้วยท่าทีไม่ค่อยไว้วางใจนัก เพราะสายตาหื่นกระหายกลัดมันของเขากำลังโลมเลียไปทั่วเนื้อตัวของเธอ อนงค์ทราบดีว่าเขาคิดอยากมีอะไรกับเธอจะแย่

“พอดีไม่ได้นัดล่วงหน้า นกทำอะไรอยู่ ตื่นหรือยัง”

“พี่นกไม่ได้บอกไว้เหรอคะว่าไปธุระต่างจังหวัด … อนงค์เองก็กำลังจะไปมหาวิทยาลัยแล้ว … อุ๊ย พี่สิงห์จะทำอะไรคะ”

อนงค์ตีหน้านิ่งและพูดเพื่อหาข้ออ้างแยกตัวจากไป หากทว่านายสิงห์กลับไม่ปล่อยปละละเว้น ยิ่งได้ยินว่านกไม่อยู่ในห้อง เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าตอนนี้คือโอกาสทองที่ไม่ได้หากันง่าย ๆ เขาจึงขยับตัวไปยืนขวางทางของอนงค์ ก่อนจะรุกไล่ให้นักศึกษาสาวถอยกรูดจนแผ่นหลังไปชนกับผนังห้อง

“พี่จะให้สองเท่าที่ให้นก อนงค์ยอมเป็นของพี่นะ ถ้าไม่สะดวกใจ เราแอบมีอะไรกันเงียบ ๆ ก็ได้ รับรองว่าพี่สาวของอนงค์ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ พี่รับรองได้”

สิงห์รุกไล่เข้าไปจนแผงอกกำยำเบียดเข้ากับทรวงอกอวบ ลมหายใจของเขาถี่กระชั้นด้วยความกระหาย หากทว่าเขายังยอมหยุดไม่รุกล้ำมากเกินกว่านี้ เพราะทราบดีว่าหากอนงค์ไม่ยินยอมและส่งเสียงโวยวาย เรื่องราวอาจจะกลายเป็นยุ่งยากขึ้นมาได้

ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยของอนงค์ เธอคนนี้อาจจะไม่ได้สวยเท่าดาริกา แต่ก็เป็นรองกว่าไม่มาก ทรวดทรงองค์เอวและผิวพรรณอาจจะด้อยกว่าหนึ่งขั้น แต่ก็มีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้ผู้ชายรักผู้ชายหลงได้ง่าย ๆ สิงห์จึงอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของ เขาทราบว่าอนงค์ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง และเขาอยากจะเป็นคนแรกที่ได้เสพสัมผัสกับสิ่งนั้น

“… พี่สิงห์ … อย่าค่ะ เราเคยคุยกันเรื่องนี้แล้ว … พี่นกรักพี่สิงห์มากนะคะ แล้วอนงค์เองก็มีแฟนแล้ว”

อนงค์รีบกล่าวปฏิเสธด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว ท่าทางของเธอนั้นน่าสงสารเวทนาอย่างยิ่ง และเมื่อเห็นเช่นนั้นอารมณ์ของสิงห์ก็เย็นลงด้วยความสงสาร แต่ว่าเขายังไม่ยอมแพ้และยังคงยืนประกบเธอเอาไว้เช่นนั้น ก่อนจะกัดฟันยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้เธอ

“สามเท่า … พี่จะซื้อรถหรูให้หนึ่งคัน แถมเงินพิเศษสำหรับครั้งแรกด้วย … รับเถอะนะอนงค์”

ข้อเสนอนี้ทำให้นักศึกษาสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แววตาของเธอปรากฏเค้าความลังเลออกมาวูบหนึ่ง หากทว่าสุดท้ายเธอก็ส่ายหน้าปฏิเสธและทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา สิงห์จึงขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดขัดใจ เขาไม่เชื่อว่าเขาทุ่มขนาดนี้แล้วอนงค์จะยังไม่สนใจ

“อนงค์ได้โปรด พี่อยากได้อนงค์ใจจะขาด … ถึงยังไงวันก่อนอนงค์ก็เพิ่งใช้ปากทำให้พี่ไปครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าจะไปให้ไกลกว่านี้หน่อยก็คงไม่เป็นอะไรหรอก”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงพลุ่งพล่าน เขาพยายามตะล่อมทุ่มซื้ออนงค์มานานเป็นปี หากทว่าอนงค์ไม่เล่นด้วย นกพี่สาวของเธอก็ไม่แสดงทีท่า จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อน นกจึงค่อยยอมถอยหนึ่งก้าวให้อนงค์ใช้ปากทำให้เขาจนเสร็จโดยแลกกับเงินก้อนโต

เขาเชื่อว่านั่นคือครั้งแรกที่อนงค์ใช้ปากทำให้ผู้ชาย และยิ่งเชื่อว่าเธอน่าจะยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เวลานั้นเขาคิดว่าอีกไม่นานเขาคงจะได้ครอบครองอนงค์แล้ว หากทว่าเขาคิดผิด เพราะหลังจากนั้นอนงค์ก็ตีตัวออกห่างจนเขาแทบไม่ได้เห็นหน้าเธอเลยสักครั้ง

“พี่สิงห์คะ เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก … ตอนนั้นอนงค์กับพี่นกยอมทำไปก็เพราะร้อนเงิน พวกเราต้องหาเงินก้อนใหญ่ไปรักษาผ่าตัดพ่อ”

อนงค์ใช้ดวงตาที่เปียกชื้นด้วยน้ำตามองเขา ก่อนจะส่งเสียงตอบสะอื้นน่าเวทนา ท่าทีของอนงค์ทำให้สิงห์ซึ่งไม่ค่อยสนใจความรู้สึกคนอื่นถึงกับใจสั่น เขาขมวดคิ้วบิดเบี้ยว ก่อนจะตัดสินใจถอยหลังมาหนึ่งก้าว ปลดปล่อยให้อนงค์เป็นอิสระ

สิงห์มองดูนักศึกษาสาวสวยคนนี้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ในความคิดของเขานั้นอนงค์แตกต่างจากพี่สาวราวฟ้ากับเหว นกพี่สาวของเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่ซื้อได้ด้วยเงินและของมีค่า หากทว่าอนงค์นั้นกลับวางตัวต่างออกไป เธอไม่เคยแสดงท่าทีสนใจเงินตราที่เขามี เธอไม่เคยแสดงท่าทีหวั่นไหวไปกับข้อเสนอของเขา ยกเว้นเพียงแค่ตอนที่เธอต้องการเงินก้อนใหญ่ไปผ่าตัดพ่อ เธอจึงยอมใช้ปากทำให้เขามีความสุข

“ขอบคุณค่ะ พี่สิงห์”

อนงค์ก้มหน้างุดกล่าวขอบคุณที่เขายอมปลดปล่อยด้วยน้ำเสียงหวานน่าฟัง สิงห์จึงรู้สึกคันหัวใจยุบยิบยิ่งเกิดความรู้สึกอยากครอบครองอนงค์ให้ได้มากกว่าเดิม แต่เขาทราบว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพี่สาวของเธอคอยระวังป้องกันเอาไว้ตลอดเวลา จนเขาไม่มีโอกาสใช้แผนร้ายเลยสักครั้ง

“ขอบคุณทำไม พี่ต้องขอโทษมากกว่า … เอานี่ไป ถือเป็นคำขอโทษของพี่”

สิงห์เปลี่ยนมาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม เขาควักเอาธนบัตรแบงค์พันออกมาฟ่อนใหญ่แล้วยื่นให้ นักศึกษาสาวมองดูเงินหลักหมื่นแวบหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธไม่รับไว้ แต่สิงห์คาดการเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาจึงจัดการจับเงินฟ่อนนี้ยัดใส่กระเป๋าถือของอนงค์ จะอย่างไรเงินจำนวนนี้ก็ไม่ได้มากมายนักสำหรับเขา และเขาเชื่อว่าการทำเช่นนี้จะช่วยซื้อใจและเพิ่มโอกาสสำเร็จให้เขาได้

“รับไว้ แล้วไปเรียนเถอะอนงค์ แต่จำไว้นะ พี่รักอนงค์ อยากได้อนงค์เป็นเมียจริง ๆ ขอแค่อนงค์ยอมเปิดใจสักครั้ง”

ชายหนุ่มยิ้มให้แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นพร้อมกับจ้องมองเธอด้วยสายตาร้อนแรง ท่าทางของเขาในเวลานี้ราวกับชายแสนดีที่หลงรักหญิงสาวด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากทว่าภายในนั้นเขากำลังแอบหัวเราะด้วยเสียงของปีศาจร้าย เขาย่อมไม่ใช่พระเอกแสนดี แต่เขาเป็นนักแสดงที่ดี และเขาทราบว่าควรต้องทำเช่นไรเพื่อทำให้ผู้หญิงรู้สึกปลาบปลื้มและยอมเปิดใจ

“ขอบคุณค่ะพี่สิงห์”

อนงค์มองสบตากับเขา ก่อนจะรีบก้มหน้างุดลงด้วยท่าทางเขินอาย ท่าทีของเธอนั้นเหมือนกับหญิงสาวอยู่ต่อหน้าชายคนรัก

“ไม่เป็นอะไรหรอก … พี่หิวน้ำจัง อนงค์ช่วยหาน้ำให้สักแก้วได้หรือเปล่า”

สิงห์กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม อนงค์เงยหน้ามองดูเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า แล้วเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นในห้องครัว แทบจะในทันทีที่อนงค์หันหลังให้ ใบหน้าอบอุ่นแสนดีของชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้ม เขารีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบอะไรบางอย่างออกมา ความจริงแล้วเขาย่อมไม่ได้กระหายน้ำ หากทว่าเขาต้องการเวลาเพื่อใช้แผนร้าย

เขามียาปลุกอารมณ์ทางเพศแบบรุนแรงอยู่หนึ่งขวด มันเป็นหลอดยาเหลวใสไร้สีไร้กลิ่นขนาดเล็กจิ๋วพกพาในกระเป๋าเงินได้ หากผู้หญิงดื่มยานี้เข้าไปแค่เพียงอึกเดียว เธอจะมีอารมณ์ทางเพศรุนแรงแต่สติยังอยู่ครบถ้วน ไม่เหมือนกับยาที่เขาใช้กับดาริกาเมื่อสองคืนที่แล้ว ซึ่งทำให้สติปั่นป่วนสับสนจำอะไรแทบไม่ได้

เขาวางแผนจะแอบหยอดยาให้อนงค์ดื่ม จากนั้นก็จะซื้อเวลาอาสาพาเธอไปส่งที่มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นอนงค์ย่อมไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือเขาไปได้โดยเด็ดขาด หรือหากเธอไม่ยอมดื่มแต่โดยดี เขาก็จะใช้กำลังทำให้เธอกลืนยาเข้าไป ภายในสถานการณ์เช่นนี้ แผนของเขามีความเป็นไปได้อย่างสูง หากทว่าปัญหาก็คือหลอดยาที่ว่านั่นกลับหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย

“… เฮ้ย หายไปไหนวะ เวรเอ๊ย”

สิงห์แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวหงุดหงิด เขาสบถด่าอยุ่ในใจและพยายามนึกย้อนว่าหลอดยาหายไปที่ใด เขาแน่ใจว่าตอนไปส่งดาริกากลับห้องพัก หลอดยายังอยู่กับเขา เพราะว่าตอนนั้นเขามีความคิดอยากจะวางยาดาริกาอีกรอบ แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนใจ จึงเก็บหลอดยานั้นกลับคืน แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นมันอีก

“พี่สิงห์หาอะไรหรือเปล่าคะ”

ขณะที่สิงห์กำลังหายาปลุกสวาทด้วยความร้อนรน ร่างบอบบางของอนงค์ก็เดินมาหาพร้อมกับแก้วน้ำเย็นฉ่ำในมือ ชายหนุ่มจึงได้แต่รีบปั้นสีหน้าเก็บอาการ เขาแอบส่งเสียงสบถด่าอยู่ในใจที่พลาดโอกาสงามนี้ไป โอกาสที่จะได้อยู่สองต่อสองกับอนงค์นั้นใช่ว่าจะหากันได้โดยง่าย

“อืม พี่หากุญแจห้องทำงานน่ะ ไม่รู้ไปวางไว้ที่ไหน”

สิงห์พูดสร้างเรื่องโกหก ก่อนจะยื่นมือไปรับแก้วน้ำใบนั้นขึ้นมาดื่มอึก ๆ เพื่อแก้เก้อ อนงค์ยืนรอจนเขาดื่มน้ำหมด จึงค่อยยื่นมือไปรับแก้วน้ำอันว่างเปล่า และกล่าวขอตัวไปมหาวิทยาลัยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว อนงค์ไปเรียนก่อนนะคะพี่สิงห์”

“เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งนะอนงค์”

“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ พอดีอนงค์นัดกับเพื่อนไว้ เดี๋ยวเพื่อนจะมารับที่หน้าคอนโด อนงค์ไม่อยากรบกวนด้วย”

“โอย ไม่รบกวนอะไรหรอก พี่พร้อมทำให้อนงค์เสมอ แต่ถ้านัดกับเพื่อนแล้วก็ไม่เป็นอะไร อนงค์ไปเรียนเถอะ เดี๋ยวจะสาย พี่จะปิดห้องให้เอง”

สิงห์กล่าวเสียงนุ่มเหมือนพระเอก อนงค์จึงส่งยิ้มหวานพร้อมกับยกมือไหว้ขอตัว เธอเดินอ้อมตัวเขาแล้วเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง และไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มให้ชายหนุ่มที่ยืนรออยู่ในห้องอีกครั้ง

ทันทีที่ประตูห้องปิดลง สิงห์ก็แสยะยิ้มให้กับความสามารถในการแสดงละครของตนเอง ถึงวันนี้เขาจะพลาด แต่เขาไม่เชื่อว่าหากเขาแสดงเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ แล้วอนงค์จะไม่ใจอ่อน

เมื่อนึกจินตนาการไปว่าร่างขาวโพลนของอนงค์และพี่สาวของเธอต้องดิ้นพราดอยู่ใต้ร่างของเขา ชายหนุ่มก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงหื่นกามก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักที่ไร้ผู้คน เขากำลังคิดอ่านวางแผนว่าจะไประบายอารมณ์หื่นที่อัดแน่นเต็มอกกับผู้หญิงในสังกัดคนไหนจึงจะดี กระนั้นเมื่อได้นั่งใช้เวลาคิดถึงเรื่องราว สิงห์ก็เริ่มขมวดคิ้วและส่งเสียงบ่นพึมพำออกมาด้วยความไม่ค่อยสบายใจนัก

“… ว่าแต่ยาปลุกมันหายไปที่ไหน … ไม่น่า … เราคงไม่ได้เผลอใส่ไว้ในถุงยาของน้องดาหรอกมั้ง”

…………………………………………….

“เฮ้อ … รอดมาได้แฮะเรา นึกว่าจะโดนปล้ำจนต้องใช้ไม้แข็งป้องกันตัวเสียแล้ว”

อรอนงค์ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเธอลงลิฟต์โดยสารมาถึงชั้นแรก จากนั้นริมฝีปากบางก็เบะด้วยอารมณ์รังเกียจ ท่าทีของเธอในเวลานี้ไม่ได้เป็นสาวไร้เดียงสาเช่นก่อนหน้า หากแต่กำลังแสดงความรู้สักหงุดหงิดรังเกียจและรำคาญออกมาอย่างเห็นได้ชัด

เธอเดินออกมาแล้วเหลียวมองกลับไปแวบหนึ่ง ก่อนจะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กมาเช็ดเจลสีใสบนนิ้วมือออกไป เจลสีใสนี้มีสรรพคุณคล้ายกับสเปรย์พริกไทยหากแต่รุนแรงกว่า เธอคิดว่าสิงห์จะต้องลงมือทำอะไรบางอย่างกับเธอในสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนั้น เธอจึงเตรียมความพร้อม หากโดนปลุกปล้ำ สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่ป้ายยานี้ใส่ตาของสิงห์ จากนั้นเธอก็จะปลอดภัย

“แต่ก็แปลก ทำไมพี่สิงห์ไม่ทำอะไร”

อนงค์ส่งเสียงพึมพำไม่เข้าใจ ถึงแม้ว่าเวลาอยู่ต่อหน้าพี่สิงห์ เธอจะสวมบทสาวหวานไร้เดียงสาไร้พิษภัย หากทว่าที่แท้แล้วเธอรู้และเข้าใจโลกมากพอควร อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าพี่สิงห์นั้นไว้ใจไม่ได้ และเธอคิดว่าเธอควรจะโทรศัพท์บอกเรื่องนี้กับกนกกรพี่สาวของเธอ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกทันที

“… ฮัลโหล พี่นก … ตื่นหรือยังคะนั่น

“อืมม … ทำไมโทรมาเช้าจังเลยอนงค์ พี่ยังง่วงอยู่เลย”

“มีเรื่องต้องบอกค่ะ ว่าแต่พี่อยู่ที่ไหนเนี่ย”

“… เดี๋ยวนะ … ขอพี่เดินออกมาข้างนอกก่อน …”

เสียงปลายสายงึมงำงัวเงียท่าทางเหมือนยังง่วงนอน แต่เธอก็พอฟังออก อรอนงค์เดาได้ไม่ยากว่าพี่สาวขี้เซาคงจะยังไม่ได้ลุกจากเตียงนอน

“อืม ออกมาที่ระเบียงห้องแล้ว … ตอนนี้พี่อยู่โรงแรมที่บางแสน มากับเสี่ย เสี่ยหมดแรงนอนสลบอยู่บนเตียงโน่นแน่ะ”

“พี่นกระวังเถอะ สักวันเสี่ยเขาจะหัวใจวายตายคาอกพี่”

“คิก คิก ไม่ตายหรอกน่า เสี่ยแกแก่แล้ว นกเขาก็ไม่ค่อยแข็ง พี่ดูดให้จนเสร็จหนึ่งรอบ แล้วปล่อยให้เสี่ยขึ้นคร่อมหนึ่งรอบ แค่นี้อารมณ์ดีหมดแรงสลบไปล่ะ แต่พี่นี่ซิทั้งขยะแขยงทั้งอารมณ์ค้าง นี่ถ้าไม่ได้เงินดีพี่ไม่ยอมมากับไอ้เสี่ยนี่เด็ดขาด”

“พี่ขา แบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ ร่างกายจะได้ไม่สึกหรอ วันไหนเสี่ยแกยอมหย่ากับเมีย แล้วแต่งพี่เป็นเมียแทน พี่นกก็สบายแล้ว”

“เหอะ ไม่เอาหรอก จะให้แต่งเป็นเมียไอ้แก่อ้วนลงพุงไร้น้ำยาเนี่ยนะ ฆ่าพี่ให้ตายดีกว่า ”

“อ้าว พี่ไม่ได้หวังเอามรดกหรอกเหรอ”

“มรดกน่ะเอา แต่พี่แต่งเด็ดขาด รอให้พี่ได้จนพ่อใจแล้วค่อยเฉดหัวไอ้แก่นี่ทิ้งไป … ว่าแต่เราเถอะ ตกลงโทรมามีเรื่องอะไรกันแน่”

“อ๊ะ ลืมไปเลย … คืองี้ค่ะพี่ เมื่อกี้ตอนที่หนูกำลังจะออกจากห้อง พี่สิงห์ของพี่ก็เข้ามาในห้องพอดี หนูตกใจแทบแย่”

“ตายแล้ว นี่แกโดนเขาทำอะไรหรือเปล่า”

“แหม มือชั้นนี้แล้ว รอดมาได้ค่ะ หนูโกหกพี่สิงห์ว่าพี่ไปทำงานต่างจังหวัดนะคะ”

“เอ๋ แล้วเขาไม่ทำอะไรแกเหรออนงค์ เขาอยากฟันแกจะแย่ ถ้าเขาจะปล้ำแกพี่ก็ไม่แปลกใจเลยนะ โอกาสทองขนาดนั้น”

“อนงค์ก็แปลกใจค่ะ แต่สรุปคือพี่สิงห์ไม่ได้ทำอะไร แต่พี่สิงห์ยื่นข้อเสนอว่าถ้าอนงค์ยอม จะให้เงินสามเท่าของพี่นก ให้รถหรูหนึ่งคัน แล้วก็ให้เงินพิเศษด้วยอีกก้อน”

“… ฮึ … เลวจริง ๆ … อย่าบอกนะว่าแกรับข้อเสนอน่ะ”

“โอย พี่นกขา ไม่หรอกค่ะ อนงค์ไม่รับอยู่แล้ว วันก่อนที่ยอมใช้ปากทำให้ถ้าไม่ใช่เพราะพี่นกสนับสนุน หนูคงไม่ยอมหรอก”

“คิก คิก พี่ไม่ได้สนับสนุนเสียหน่อย แกเองแหละที่อยากได้เงินไปเที่ยวต่างประเทศ พี่ก็เลยช่วยกุเรื่องว่าพ่อป่วยต้องใช้เงินผ่าตัด แล้วก็เป็นโอกาสดีที่พี่จะได้สอนวิธีทำให้ผู้ชายถูกใจให้แกด้วย อย่าลืมฝึกปากกับลิ้นเอาไว้ล่ะ ผู้ชายหน้าไหนก็ต้องหลงกันทั้งนั้นแหละ แต่อย่าเผลอหวั่นไหวเชียวนะ พี่สิงห์คงไม่ยอมเลิกง่าย ๆ ”

“ค่า ไม่ยอมหรอก เรื่องอะไรจะยอมเสียแผนใหญ่”

“คิก คิก นั่นซิ สิงห์เขาแค่ระดับเศรษฐีร้อยล้าน จะไปเทียบกับคุณอาทิตย์ ทายาทคนเดียวของเครือตะวันกรุ๊ป มหาเศรษฐีหลักแสนล้านได้ยังไง แกคิดถูกแล้วล่ะ เก็บความบริสุทธิ์ไปให้คุณอาทิตย์ดีกว่า แล้วแกจะมีโอกาสมากกว่าเดิม แต่หลังจากนั้นก็แล้วแต่แก”

“ค่ะพี่นก”

“อืม แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ แกกับคุณอาทิตย์น่ะ ไปถึงไหนกันแล้ว”

“ก็ยังเรื่อย ๆ ค่ะ แต่ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะเขาไม่ค่อยว่าง ตั้งแต่วันนั้นที่อนงค์แกล้งเดินไปชนก็ได้เจอกันอีกแค่สองครั้ง”

“เล่าละเอียดหน่อยซิ ว่าทำอะไรกันบ้าง ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาช่วยวางแผนเธอเลย”

“ค่ะ ก็ครั้งแรก อนงค์ไปดักรอเจอที่หน้าสำนักงานของพี่เขา อนงค์แกล้งเดินไปชนจนล้มแล้วทำเป็นเจ็บขาให้พี่เขาประคอง พี่เขาเลยประคองอนงค์ไปนั่งพัก เราเลยได้นั่งคุยกันหลายชั่วโมง แล้วพี่เขาก็ไปส่งอนงค์กลับห้อง”

“ส่งเฉย ๆ ใช่หรือเปล่า แกอย่าเผลอรีบอ่อยมากเกินงามล่ะ”

“พี่คะ หนูรู้หรอกน่า ครั้งแรกหนูให้พี่เขาส่งแค่ชั้นแรก … ครั้งที่สองไปดูหนัง ทานอาหารค่ำ หนูให้พี่เขาขึ้นมาส่งที่หน้าห้อง แต่ยังไม่เปิดโอกาสให้เข้าห้อง”

“แบบนั้นล่ะดีแล้ว แค่แสดงท่าทีว่าสนใจ แต่อย่าปล่อยตัวเกินงาม”

“ครั้งที่สาม หนูชวนพี่เขาไปดูงานศิลปะ อย่างที่พี่แนะนำ หนูดูไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกนะ แต่พี่เขาดูจะชอบมาก คืนนั้นหนูให้พี่เขามาส่งถึงในห้อง เรานั่งคุยกันนานพอสมควร ทีแรกหนูตั้งใจจะทำตามที่พี่บอก แต่ว่าหนูเผลอหอมแก้มพี่เขาเข้า เราก็เลย …”

“ตายแล้ว เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าแกทำไปแล้ว พี่อุตส่าห์กำชับห้ามไว้แล้ว”

“เปล่า เปล่าค่ะพี่นก … คือ … หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูเผลอจริง ๆ พี่เขาหล่อ น่ารักมาก ยิ่งคุยหนูก็ยิ่งชอบ หนูเลยเผลอหอมแก้มเขา พี่เขาก็เลยหอมแก้มกลับ … แล้วพี่เขาก็รวบหนูไปกอดจูบปาก … จูบแรกของหนู … มันสุดยอดมากเลยนะ …”

“แล้วยังไงต่อ เล่ามาให้ละเอียดเลยนะ”

“… ก็มันสุดยอดมาก หนูเบลอไปหมด พี่เขาทั้งจูบ ทั้งลูบไปทั่วตัว หนูเสียวมากจนตัวอ่อนระทวย รู้ตัวอีกทีก็โดนถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงในแล้ว”

“ว้าย … นี่แก … ไหนแกบอกว่ายังไม่มีอะไรกันไง ทำกันขนาดนี้คงไม่รอด”

“ก็ … จริง ๆ ก็คงไม่รอดน่ะแหละค่ะ หนูเองก็อยากให้พี่เขาทำต่อ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าโชคดีหรือโชคร้าย เพราะว่าประจำเดือนหนูมาพอดี พี่เขาเลยไม่ได้ทำต่อ”

“โอย … รอดมาได้หวุดหวิดเลยนะน้องชั้น … คราวหน้าแกต้องจำไว้นะ อย่ายอมให้เขาได้ง่ายเกินไป อะไรที่ได้ง่าย ๆ ผู้ชายจะไม่ค่อยเห็นคุณค่า ถ้าอยากเป็นนางบำเรอเหมือนพี่ แกอยากทำอะไรก็ทำไป แต่ถ้าแกอยากเป็นลูกสะใภ้เครือตะวันกรุ๊ปล่ะก็ แกต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้”

“… พี่นกพูดง่าย แต่หนูทำยาก คุณอาทิตย์เขาหล่อ นิสัยดี แล้วก็น่ารักมาก หนูยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งหลง หนูคิดว่าหนูคงหลงรักเขาจริง ๆ แล้วนะพี่ … ถ้าเจอกันอีก หนูคิดว่าคงจะห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้ว”

“ฮึ เป็นเอามากนะแก เอาเถอะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่คงห้าม แต่กับทายาทของเครือตะวัน แกอยากจะทำอะไรก็ทำ ถ้าได้แต่งก็จะดีมาก แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่ามัวแต่รักจนลืมเรียกผลประโยชน์ก็แล้วกัน”

“… พี่นกว่า คุณอาทิตย์จะยอมแต่งงานกับหนูหรือเปล่า … หนูรู้สึกอยากแต่งงานกับเขาจริง ๆ นะ”

“ไม่รู้ซินะ ผู้ชายระดับนี้จับยากพอควร เราเองก็ไม่ได้เป็นชนชั้นสูง พี่ดูแล้วคุณอาทิตย์เขารักอิสระมีอารมณ์ศิลปินมากทีเดียว … พี่ว่าถ้าแกอยากมีโอกาส แกก็อาจจะต้องยอมเสียสละสักหน่อย”

“เสียสละยังไงคะ”

“ก็นะ ลองนึกซิ ถ้าเขาแต่งงานกับลูกหลานชนชั้นสูง เขาจะกระดิกตัวยาก ไม่มีอิสระ แล้วถ้าแกแสดงให้เขารู้ว่าแกจะไม่เหนี่ยวรั้งเขา เช่นยอมให้เขาหาความสุขกับผู้หญิงอื่น หรือแกอาจจะช่วยร่วมสนุกหาให้เขาด้วย พี่แกว่าแกจะมีโอกาสดีกว่านี้”

“… พี่หมายความว่าอะไร”

“พี่หมายความว่า แกต้องตามใจเขา แค่เก็บตำแหน่งเมียหลวงเอาไว้ แล้วปล่อย ๆ ให้เขาได้เที่ยวเล่นบ้าง ผู้ชายส่วนใหญ่ก็เจ้าชู้กันทั้งนั้นแหละ ถ้าเหนี่ยวรั้งมาก ๆ เขาจะยิ่งหนี แต่ถ้ารู้จักปล่อย รู้จักเล่นสนุกด้วย เขาก็จะยิ่งสนิทสนมกับเรา ถ้าได้แกเป็นเมีย แล้วสนุกกับคนอื่นได้ด้วยใครจะไม่สน … ถ้ายังไงพี่ก็พอจะช่วยได้นะ เราสองพี่น้อง ช่วยกันทำให้คุณอาทิตย์หลงเสน่ห์พวกเรา”

รับฟังถึงตรงนี้อรอนงค์ก็นิ่งเงียบไปวูบหนึ่ง เธอขมวดคิ้วแสดงท่าทีขุ่นข้อง อนงค์ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่ทราบว่าพี่สาวของเธอกำลังวางแผนอะไร พี่สาวของเธอกำลังวางแผนอยากมีส่วนแบ่งด้วย หากทว่าน้ำเสียงที่เธอตอบกลับไปนั้นไม่ได้มีน้ำเสียงไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย จะอย่างไรการเสแสร้งคือสิ่งที่อนงค์ถนัดอยู่แล้ว

“… ฟังดูดีนะคะพี่นก เอาเป็นว่า ถ้าถึงตอนนั้นหนูคงต้องรบกวนพี่นกให้ช่วยด้วย”

“เพื่อน้องสาวคนนี้พี่ยินดีอยู่แล้วล่ะจ้ะ … อืม ว่าแต่ … เรื่องคู่แค้นของเธอน่ะ ตกลงว่ายังไงกันแน่ ตกลงว่าไอ้บอลมันโกหกหรือเปล่า มันได้เปิดซิงนังกานต์จริงหรือเปล่า”

“เรื่องนี้หนูก็งง ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ บอลมันดูไม่เหมือนคนโกหก แต่มันก็ไม่มีหลักฐาน ส่วนนังกานต์ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรเลย หนูไม่เชื่อว่ากานต์มันจะเก็บอาการแกล้งแสดงอะไรได้ขนาดนั้น หนูเลยงง ๆ ไม่แน่ใจ”

“อืม อืม ถ้าไม่มีหลักฐานก็ช่างเถอะ ชิ เสียดายจริง ๆ พี่นึกว่าจะมีของดีไปเล่นงานนางผกายแก้วคู่แค้นของพี่เสียหน่อย น่าเสียดาย”

“เอาไว้ถ้าหนูมีอะไรเพิ่มจะรีบบอกพี่ก็แล้วกันค่ะ … แล้วเรื่องโทรศัพท์มือถือของพี่ที่หายไปล่ะคะ พี่ตามเจอหรือยัง ในนั้นมันมีคลิปอันตรายอยู่ด้วย”

“ยังไม่เจอน่ะซิ พี่แน่ใจว่าลืมไว้ในงานสัมมนา แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ อาจจะมีคนเก็บไปขายแล้วก็ได้ … ตอนนี้พี่ก็แค่หวังว่านางแก้วคงไม่ได้เป็นคนเก็บไป”

“ถ้าแบบนั้น หนูคงแย่แน่ค่ะพี่ พี่คงไม่เท่าไหร่ แต่หนูยังเรียนอยู่ แล้วถ้าคุณอาทิตย์เห็นเข้าล่ะก็ …”

“เอาน่า ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน เรื่องนี้พี่จะพยายามจัดการให้”

“ค่ะพี่นก งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ หนูกำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ไปมหาวิทยาลัยแล้ว”

“จ้า ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะอนงค์ บาย”

“บายค่ะ”

อนงค์กดวางสายโทรศัพท์แล้วเบะปากด้วยความไม่พอใจ เธอไม่พอใจการกระทำของพี่นกหลายอย่าง หากทว่ายังไม่สะดวกที่จะแสดงออกมา จะอย่างไรพี่นกก็ยังเป็นคนให้เงินเธอใช้จ่าย เธอจึงไม่อยากแตกหักจนตกอยู่ในสถานะลำบาก

ความสัมพันธ์ระหว่างอรอนงค์และกนกกรนั้นไม่ได้เป็นแค่พี่น้องตามปกติ ทั้งคู่ต่างมุ่งหวังหาผลประโยชน์ต่อกัน อย่างตอนที่หลอกพี่สิงห์เรื่องเงินผ่าตัดพ่อ ความคิดนี้ก็ออกมาจากนก และเงินที่ได้มานั้นก็ถูกแบ่งครึ่งหนึ่งไปให้นก ส่วนอนงค์ที่ยอมสูญเสียศักดิ์ศรีตัวเองนั้นกลับได้มาแค่ครึ่งเดียว แต่อนงค์ยังไม่กล้าพูดอะไรออกมา

อนงค์ทราบดีว่าหากเธอไม่บังเอิญไปเจอปลาใหญ่อย่างคุณอาทิตย์เข้าเสียก่อน พี่สาวของเธอจะต้องจับเธอใส่พานถวายให้พี่สิงห์เพื่อแลกกับเงินก้อนโตอย่างแน่นอน แต่เมื่อเธอมีเป้าใหญ่ พี่สาวของเธอจึงพยายามช่วยปกป้องเอาไว้เพื่อหวังผลระยะยาว เธอแน่ใจว่าพี่นกจะต้องแอบเล็งหว่านเสน่ห์ใส่คุณอาทิตย์ของเธอเป็นแน่

เมื่อนึกถึงคุณอาทิตย์ อรอนงค์ก็รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นแรง เขาหล่อ เขารวย เขาคุยเก่ง เพียงแค่สามข้อนี้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้เธอรู้สึกรักผู้ชายคนนี้ ยิ่งได้ใกล้ชิดสัมผัสลีลารักอันช่ำชองของเขา เธอก็ยิ่งรู้สึกลุ่มหลงรอคอยวันที่จะได้มอบความสาวให้เขา

เธอได้สาบานกับตนเองเอาไว้แล้วว่าจะต้องสยบเขาเอาไว้ใต้ชายกระโปรง เธอจะทำให้เขากลายเป็นผู้ชายคนเดียวของเธอให้จงได้ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนที่มาขวางทาง เธอจะต้องกำจัดทิ้งไปให้หมด ต่อให้ใครคนนั้นเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของเธอเอง เธอก็จะไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

………………………………………

ดาริกา ขยับมือวางแผ่นฝ้าเพดานให้เข้าที่ด้วยความระมัดระวังสุดชีวิต เธอถึงกับกลั้นหายใจไปวูบหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะทำให้เกิดเสียงแปลกประหลาดออกมา ไม่เช่นนั้นแล้วพี่กานต์ซึ่งอยู่อีกด้านของผนังกั้นห้องอาจจะได้ยินเสียง รวมถึงอาจรู้ตัวว่าน้องสาวคนนี้ได้แอบรับรู้ฉากรักร้อนแรงตั้งแต่ต้นจนจบ

สาวน้อยวัยสิบแปดในชุดเครื่องแบบนักเรียนปล่อยมือจากแผ่นฝ้าเพดาน แล้วถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อพบว่าเธอปิดบังเรื่องราวได้เงียบกริบไม่มีใครรับทราบ จากนั้นเธอจึงค่อยขยับตัวปีนป่ายลงมาจากโต๊ะอ่านหนังสือที่อาศัยเป็นฐานเหยียบ ก่อนจะทรุดร่างปราดเปรียวลงไปนั่งบนเก้าอี้แล้วส่งเสียงหอบหายใจออกมาด้วยอารมณ์ตื่นเต้นลุ้นระทึก

เธอนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ ดวงตาคู่สวยจับจ้องมองตรงไปที่ผนังห้องอันว่างเปล่า จิตใจของเธอย่อมไม่ได้จรดจ่ออยู่กับผนังห้อง หากทว่ากำลังจินตนาการไปถึงภาพของหนุ่มสาวที่กอดรัดฟัดเหวี่ยง ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนรสรักกันอย่างถึงพริกถึงขิง

ก่อนหน้านี้ไม่นาน ดาริกาเพิ่งจะอาบน้ำแต่งตัว เธอสวมใส่เครื่องแบบตระเตรียมเดินทางไปโรงเรียนตามปกติ ถึงแม้ว่าเธอยังไม่อยากไปเรียนในวันนี้ แต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งขาดเรียนไปหนึ่งวันเต็ม ทั้งนี้ก็เนื่องจากโดนยาปลุกสวาทจนเสียสาวให้พี่สิงห์ในค่ำคืนก่อนหน้า และตอนนี้สภาพร่างกายของเธอก็ดีขึ้นมากแล้ว เพราะได้นอนพักไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็ม

ใครจะคิดว่าระหว่างที่เธอเข้าไปในห้องครัวเพื่อหาอะไรรองท้อง เธอก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตู ดาริกาจึงรีบขยับหลบซ่อนเพราะยังไม่อยากเจอหน้าพี่สาวทั้งสอง หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงกานต์พี่สาวคนรองดังขึ้น

ความแปลกใจระลอกแรกก็คือดาริกาคิดว่าพี่สาวของเธอน่าจะเพิ่งออกไปมหาวิทยาลัย การกลับมาในเวลานี้จึงเป็นเรื่องแปลก แต่ความแปลกใจระลอกสองที่รุนแรงกว่าก็คือ เธอได้ยินเสียงของผู้ชายอีกหนึ่งคนดังขึ้นมาด้วย พี่กานต์ที่สุดแสนจะเรียบร้อยและขี้อายของเธอพาผู้ชายเข้ามาในห้องเวลาแบบนี้เพื่ออะไร

ดาริกาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ได้แสดงตัวออกไปมอง เธอยืนแอบแบบเงียบ ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเสียงประตูห้องพี่กานต์ปิดลง เธอจึงค่อยก้าวออกมาจากที่ซ่อนแล้วยืนงุนงง ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องตัวเองแล้วปิดประตูแบบเงียบกริบ เธอพยายามคิดในแง่ดีว่าพี่กานต์ไม่น่าจะแอบทำเรื่องราวอะไรไม่ดีงาม แต่ความอยากรู้ทำให้ดาริกาเดินตรงไปที่ผนังห้องซึ่งติดกับห้องพี่กานต์ เธอปีนขึ้นไปยืนบนโต๊ะอ่านหนังสือ แล้วเขย่งตัวยกแผ่นฝ้าเพดานขึ้นเพื่อแอบสอดแนม

ผนังเพดานนั้นสูงเกินไป และเธอก็ไม่มีที่เหยียบที่เหมาะสม เธอจึงทำได้แค่แง้มแผ่นฝ้าออกจนได้ยินเสียงสนทนา แต่ว่าไม่สามารถปีนขึ้นไปมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องกานต์ได้ กระนั้นแค่เพียงเสียงที่ลอดผ่านเข้ามาก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้ดาริการับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

กานต์พาผู้ชายมาเข้าห้องเพื่อร่วมรักกัน นั่นคือความจริงที่เธอไม่อยากเชื่อ หากเธอไม่ได้รับรู้เหตุการณ์นี้ด้วยตนเอง ต่อให้ใครมาบอกเธอก็คงไม่ยอมเชื่อ แต่เมื่อได้รับรู้ด้วยตนเองดาริกาจึงได้แต่ต้องทำใจยอมรับความจริงข้อนี้ พี่กานต์ที่สวยหวานแสนจะเรียบร้อยและขี้อายคนนั้น ที่แท้กลับทำตัวเหมือนผู้หญิงใจแตกคนหนึ่ง

ดาริกายืนรับฟังเสียงของเกมกามด้วยความตื่นตกใจในคราวแรก แต่เมื่อยิ่งรับฟังใบหน้าของเธอก็ปรากฎริ้วรอยแดงซ่าน เธอเริ่มหอบหายใจกระเส่า หากเป็นเมื่อสามวันก่อนดาริกาอาจจะไม่รู้สึกเช่นนี้ เธออาจจะรีบหลบออกไปไม่อยากรับฟังเรื่องน่าอับอาย แต่ว่าวันนี้โลกของเธอเปลี่ยนไปแล้วโดยที่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ตัว

หลังจากที่ต้องเสียสาวโดยไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ เธอก็เริ่มก้าวเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่ เธอเริ่มเรียนรู้รสชาติของสิ่งที่เรียกว่าความใคร่ ถึงแม้เธอจะไม่เต็มใจมีอะไรกับพี่สิงห์ แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของเธอตอบสนองลีลารักของเขาราวกับน้ำมันที่โดนเชื้อไฟ เธอในตอนนี้ได้เรียนรู้แล้วว่าการร่วมรักกันนั้นเต็มไปด้วยความหฤหรรษ์ถึงเพียงไหน

เสียงครวญคราง เสียงหัวร่อต่อกระซิก เสียงกระทบกระแทกแห่งเกมกามที่แว่วดังเข้ามาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง ถึงแม้จะไม่ได้มองเหตุการณ์โดยตรง แต่ในหัวสมองของเธอก็ได้ปรากฏภาพแห่งจินตนาการวาบหวามขึ้นเป็นฉาก ๆ ดาริกาถึงกับยืนหนีบสองขาเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว

หลังจากรับฟังจนเสียงเงียบไป ดาริกาก็ลงมานั่งหอบหน้าแดงก่ำ เธอเริ่มเรียนรู้ว่าร่างกายวัยสาวสะพรั่งของเธอกำลังเกิดความต้องการ หากทว่าเธอไม่คิดจะยอมรับ ดาริกาเดินจ้ำไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาเรียกสติ เธอพยายามสลัดภาพจินตนาการวาบหวามทิ้ง แล้วเดินไปจัดกระเป๋าเพื่อเดินทางไปโรงเรียน

“จริงซิ ลืมกินยา … เอ๊ะ … อันนี้แก้อักเสบ ยาคุม ยา … แล้วอันนี้ยาอะไรทำไมไม่เขียนอะไรไว้”

ระหว่างที่กำลังเก็บของเพื่อไปโรงเรียน ดาริกาก็สังเกตเห็นถุงยาที่พี่สิงห์ตระเตรียมเอาไว้ให้ บนซองยาจะมีรายละเอียดกำกับว่าเป็นยาอะไร ต้องรับประทานอย่างไร แต่ว่าหลอดยาใสแจ๋วขนาดเล็กจิ๋วนี้กลับไม่มีอะไรเขียนกำกับเอาไว้

ดาริกาพลิกมองไปมาอยู่หลายรอบ ก่อนจะหันมองดูโทรศัพท์มือถือ บนหน้าจอแสดงรายการสายโทรเข้าที่ไม่ได้รับอยู่หลายสาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสายของพี่สิงห์ และเบลล์ ดาริกายังไม่มีอารมณ์อยากคุยกับพี่น้องคู่นี้ เธอจึงไม่อยากโทรกลับไปถามพี่สิงห์เรื่องยาที่เขาจัดไว้ให้

เธอเลิกคิดมาก เธอไม่คิดว่าพี่สิงห์จะใส่ยาแปลก ๆ อะไรมาให้ และเธอก็กลัวว่าหากกินยาไม่ครบแล้วเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ เธอจึงจัดการหยิบเทยาในหลอดกลืนเข้าปากไปพร้อมกับยาตัวอื่น หลังจากทานยาเรียบร้อยดาริกาก็ตระเตรียมข้าวของอีกราวสิบห้านาที แต่เมื่อเธอกดปิดไฟทำท่าจะเปิดประตูห้องนอนออกไป ร่างกายของเธอก็กลายเป็นร้อนวูบวาบแปลก ๆ จนเธอตัวสั่นสะท้านระริก

สาวน้อยผมสั้นยืนตัวสั่นหน้าแดงก่ำอยู่ตรงประตู เธอยืนหนีบสองขาเข้าหากันพร้อมกับขยับถูไถไปมา ลมหายใจของเธอกลายเป็นร้อนผ่าวราวกับเพลิงไฟ ลำคอของเธอแห้งผาก หากทว่าตรงกลางหว่างขากลับมีความชุ่มฉ่ำเอ่อทะลักออกมา แม้แต่เต้านมก็รู้สึกได้ถึงความเต่งคัดแน่นเหมือนอยากได้รับการบีบนวด

“อื๊ออ … อือออ … อืมมม … อูยยย”

ดาริกาส่งเสียงครางวาบหวิว เธอรู้สึกร้อนวูบใจเต้นโครมคราม ความรู้สึกแปลกประหลาดทำให้เธอก้าวถอยหลังมานอนแผ่หลาบนเตียง เธอเผลอเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นมาบีบเคล้นคลึงใส่เต้านมอวบเกินวัยแล้วสูดปากคราง ส่วนอีกมือหนึ่งนั้นตะปบขยำลงไปบนกระโปรงนักเรียนตรงกลางหว่างขา

“ซี้ดดสสสส”

สาวน้อยสะดุ้งเฮือกสูดปากซี้ดทันทีที่สัมผัสจุดอ่อนไหว เพียงแค่สัมผัสความเสียวซ่านก็เล่นงานจนเธอสั่นสะท้านระริก ร่างบางในชุดนักเรียนดิ้นพราดไปมาบนเตียงนอน ก่อนจะพลัดตกลงไปนอนตะแคงบนพื้นตรงข้างเตียงนอนอย่างไร้เรี่ยวแรง

แรงกระแทกจากการตกไม่ได้รุนแรงนัก เธอจึงไม่รู้สึกเจ็บ แต่ความรู้สึกพลุ่งพล่านอยู่ภายในต่างหากที่ยากจะทานทน ความรู้สึกนี้คล้ายคลึงตอนที่เธอเสียสาว หากทว่าตอนนี้รุนแรงกว่าหลายเท่า มันรุนแรงเสียจนดาริกาอดไม่ได้ต้องบีบเคล้นทรวงเต้าเพื่อระบายความอัดอั้น ในขณะที่มืออีกข้างนั้นกำลังตะปบขยี้ลงไปบนเนินสาวด้วยความเมามันในอารมณ์

“โอย … เสียว … ซี้ดดสสส … อูย … ซี้ดดสสส”

ใบหน้าของดาริกาแดงก่ำ เธอหอบหายใจฟืดฟาด ลิ้นสีชมพูอ่อนเลียวนไปมารอบปาก เธอกำลังนอนตะแคงช่วยตัวเองอยู่บนพื้นข้างเตียงด้วยสุดจะทานทน ทางเดียวที่จะหยุดความอัดอั้นทรมาณก็คือการบีบขยี้เนื้อตัวให้หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม ร่างบางสวยจึงดิ้นพราดไปมาอยู่บนพื้นพร้อมกับส่งเสียงครวญครางอย่างมีความสุข

ดาริกาขบเม้มริมฝีปากตัวเองขณะเร่งขยับนิ้วกระตุ้นความเสียวถี่ยิบ เธอไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตนเองสอดมือมุดกางเกงในเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอทราบแค่ว่าเวลานี้นิ้วกลางของเธอกำลังแหย่แยงวิ่งเข้าวิ่งออกร่องสาวอย่างเมามันสะใจ และเมื่อเธอขยับนิ้วบิดคว้านไปมาได้ไม่ถึงห้านาที ดาริกาก็มองเห็นสรวงสวรรค์อยู่รำไร

เสียงหวีดร้องดังขึ้นพร้อมกับอาการกระตุกเฮือก เธอกดนิ้วสอดลึกพร้อมกับหนีบสองขาเข้าหากันสุดแรง ร่างบางที่นอนอยู่ข้างเตียงกระตุกเกร็งถี่ยิบเมื่อถึงจุดสุดยอด ในห้วงแห่งความหฤหรรษ์นั้น ดาริการู้สึกเหมือนได้พบความสุข และหลุดพ้นจากความอัดอั้นทรมาณ หากทว่าน่าเสียดายที่มันเป็นแค่ความรู้สึกเพียงวูบเดียว

“อื๊อออ … อืมมมม … อือออ …. ซี้ดสสส …”

ความร้อนแรงนั้นจางหายไปวูบเดียวก็วกกลับมาใหม่ ดาริกาเพิ่งเสร็จสมไปหนึ่งรอบ แต่ว่าอารมณ์ของเธอกลับยังหิวกระหาย เธอนอนอยู่ในท่าเดิมและเริ่มสอดแหย่แยงปลายนิ้วในร่องสาวอีกครั้งด้วยความหื่นกระสัน พร้อมกันนั้นเธอก็ยกมืออีกข้างแหย่นิ้วเข้าปากไปดูดเลียด้วยลีลาร้อนร่าน

ดาริกาดูดเลียนิ้วพลางปรือตาหวานเยิ้มขึ้นมา เวลานี้เธอกำลังคิดถึงพี่สิงห์ผู้ชายคนแรกของเธอ เธอแน่ใจว่าพี่สิงห์จะต้องช่วยเธอได้ และหากเธอสามารถไปหาเขาได้ เธอก็คงจะรีบไปทันที แต่น่าเสียดายที่เธอตระหนักได้ว่าเธอคงทนรอไปหาพี่สิงห์ไม่ได้ เธอต้องการใครสักคนที่สามารถช่วยเธอได้ที่นี่และตอนนี้

สาวน้อยนอนตะแคงข้างใช้นิ้วมือช่วยตัวเองอย่างน่าเวทนาอย่างเดียวดาย เธออยู่ในท่านี้มาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง เธอถึงจุดสุดยอดไปแล้วสามครั้ง หากทว่าอารมณ์ร้อนร่านในร่างกลับไม่ลดทอนลงไปเลยแม้แต่น้อย เธอไม่ทราบว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไรในกรณีนี้ เธอได้แต่ร่ำร้องภาวนาขอใครก็ได้สักคนให้มาปลดปล่อยความอัดอั้นออกไปเสียที

อย่างไรก็ตามระหว่างที่เธอกำลังนอนพักเหนื่อยหอบหายใจจากการถึงจุดสุดยอดครั้งที่สี่นั้น ประตูห้องนอนของดาริกาก็ถูกเปิดออก ดาริกาได้ยินเสียงคนหากทว่าไม่มีเรี่ยวแรงและไม่กล้าลุกขึ้นไปมองดู ตอนนี้เธอมองไม่เห็นอีกฝ่าย และอีกฝ่ายก็มองไม่เห็นเธอเพราะเธอนอนขดตัวอยู่ข้างเตียง

“… อืม ดาก็ไม่อยู่ น่าจะไปเรียนแล้ว พี่แก้วก็เพิ่งออกไป … น่าจะปลอดภัยล่ะมั้ง … ปล่อยให้พี่อาร์ตนอนพักไปก่อน ส่วนเรารีบไปส่งรายงานแล้วรีบกลับมาน่าจะไม่เกินสามชั่วโมง … เฮ้อ เราก็ลืมไปว่าต้องส่งรายงานกลุ่มวันนี้ เกือบแย่แล้วซิ”

เสียงบ่นพึมพำที่ดังขึ้นตรงหน้าประตูทำให้ดาริกาทราบว่าผู้มาเยือนคือกานต์พี่สาวคนรอง และดาริกายังทราบด้วยว่าพี่แก้วออกไปทำงานแล้ว ส่วนพี่กานต์นั้นกำลังจะเดินทางไปมหาวิทยาลัยเพื่อส่งรายงานโดยไม่รู้ว่าน้องสาวคนเล็กยังอยู่ในห้อง ซึ่งนั่นหมายความว่า

อารมณ์เร่าร้อนทำให้ดาริกาเกิดความคิดอุตริขึ้นมาวูบหนึ่ง เธอไม่ทราบว่าทำไมเธอถึงเกิดอาการแบบนี้ แต่เธอทราบว่าร่างกายของเธอต้องการการร่วมรักอย่างรุนแรง เธอต้องการผู้ชายสักคนที่สามารถช่วยเธอได้ และตอนนี้ก็มีผู้ชายวัยแข็งแรงหนึ่งคนนอนอยู่ในห้องพี่กานต์

Share the Post:

Related Posts

ครั้งแรกที่โดนเจ้านายเย็ด แลกกับการไม่โดนไล่ออก

เรื่องเสียว ครั้งแรกที่โดนเจ้านายเย็ด แลกกับการไม่โดนไล่ออก ฉันรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนที่ทำงานออกมาได้ดีนัก ถูกตำหนิตั้งแต่เบื้องบนลงมากระทั่งพนักงานระดับเดียวกัน การเป็นนักศึกษาจบใหม่ไฟแรงมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ความสามารถของฉันมันไม่ได้เข้าขั้นเลยจริงๆ และการที่จะต้องรับเงินเดือนเท่าๆ กับคนที่ทำงานมากกว่า มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุติธรรมสำหรับคนเหล่านั้น จึงไม่แปลกที่บ่อยครั้งฉันจะโดนเขม่นมองอยู่บ่อย ๆ สุดท้าย หัวหน้าของฉันก็เรียกฉันเข้าไป พูดอะไรต่อมิอะไรมากมาย แต่ก็ลงท้ายด้วยการยื่นข้อเสนอเรื่องหนึ่งให้ฉัน มันคือเรื่องเสียว…และเพื่ออนาคตของฉันแล้ว ฉันไม่มีทางเลือกอะไรเลย ความตื่นเต้น ความกังวลเกิดขึ้นทันที

Read More

ได้คืบจะเอาศอก ได้อมจะเอาเย็ด ลักหลับลูกพี่ลูกน้องควยใหญ่ในงานปีใหม่รวมญาติ

เรื่องเสียว ได้คืบจะเอาศอก ได้อมจะเอาเย็ด ลักหลับลูกพี่ลูกน้องควยใหญ่ในงานปีใหม่รวมญาติ ฉันยังจำเรื่องเสียวที่เกิดขึ้นช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ไม่ลืมเลยจริงๆ ค่ะ เพราะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะใจกล้าและบ้าบิ่นได้มากขนาดนั้น ที่กล้าลงมือลักหลับลูกพี่ลูกน้องของตัวเองแบบนี้ แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ ตอนนั้นฉันทั้งเมา ทั้งเงี่ยน แถมไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวร้ายก็นอนควยตั้งอยู่ต่อหน้าต่อตาของฉัน มันเหมือนมีอะไรที่ช่างเหมาะเจาะกันมาเจอกันในวันนี้เลยจริงๆ ค่ะ ครอบครัวของเรานั้นเป็นครอบครัวใหญ่ ปีใหม่ที่ก็จะกลับมารวมตัวที่บ้านคุณทวด ซึ่ง “บี” ลูกพี่ลูกน้องของฉันเมื่อสองปีก่อนเขาไม่ได้มาเพราะว่าต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ปีนี้เขาเลยกลับมาเพื่อร่วมงานรวมญาติ

Read More