รักยม ตอนที่ 71 หวนคืน

รักยม ตอนที่ 71 หวนคืน

รักยม (ภาค 2 ภาคนักรบที่หวนคืน) ตอนที่ 71 หวนคืน

คุยเรื่อยเปื่อย

นิยายนานทีปีหน ขอมารายงานตัวนะครับ
คาดว่าพอกดอ่าน น่าจะงงกันพอสมควร
เพราะเว้นวรรคทางการเมืองไปนาน บวกกับตั้งใจเขียนให้สลับซับซ้อน

อย่างที่เคยบอกนะครับ ว่าตอนที่ 1 – 70 ผมนับเป็นภาคที่ 1
ส่วนตั้งแต่ตอนที่ 71 ขึ้นไป ตอนนี้จะเป็นภาคสอง ชื่อว่าภาคนักรบที่หวนคืน
การเดินเรื่อง ผมจะทดลองบรรยายในลักษณะที่มีย้อนอดีต (ตอนฝึกฝน)
และวกกลับมาปัจจุบัน (กลับโลกปกติ) เป็นระยะ

ถ้าถามว่าทำไมถึงแยกภาค
นอกจากเหตผลเกี่ยวกับ theme ของเรื่องแล้ว

ก็ขอตอบตามตรงว่าในช่วงตอนที่ 70 นั้น ผมรู้สึกเบื่อ ๆ
และอยากเว้นวรรครักยมสักช่วงหนึ่ง
จึงตัดจบภาคไปซะ จะได้เว้นวรรคได้ไม่โดนบ่นมาก
(แต่ก็ยังโดนทวงอยู่ดี )

 รักยม ตอนที่ 71 – หวนคืน

 ชายหนุ่มสะดุ้งโหยงตื่นขึ้นจากห้วงแห่งการหลับไหล เขาเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานสีขาวหม่น แล้วมองดูจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานด้วยความมึนงง เขาพยายามกระพริบตาปริบ ๆ ไล่ความง่วง และหันมองไปรอบกายด้วยความรู้สึกคล้ายคุ้นเคยคล้ายแปลกตา

นั่นเป็นความรู้สึกแปลกประหลาดคล้ายจริงคล้ายหลอน บนโต๊ะทำงานมีจอคอมพิวเตอร์สองจอ ด้านขวามือเป็นต้นกระบองเพชรขนาดเล็กที่เขาปลูกไว้
ด้านซ้ายมือเป็นเอกสารเกี่ยวข้องกับงานที่ประทับตราว่าเร่งด่วน โทรศัพท์มือถือของเขาตั้งอยู่บนโต๊ะที่ประจำ ที่มุมหนึ่งใต้กองเอกสารมีหนังสือปกขาวเล่มหนึ่งของรุ่นพี่ในที่ทำงานวางแอบซ่อนไว้

‘ที่ทำงานเหรอ? …’

ชายหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ บ่นพึมพำบอกตัวเองในใจ พลางยกมือขึ้นเกาศีรษะคราวหนึ่ง เขาย่อมรู้จักสถานที่แห่งนี้ เพราะเขาคือพนักงานบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ และนี่คือโต๊ะทำงานที่เพิ่งมาอยู่ได้ไม่กี่เดือน เพียงแต่อะไรบางอย่างที่นึกไม่ออกกำลังรบกวนจิตใจ และเขาไม่ทราบว่ามันคืออะไร เขาเพียงรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง บางอย่างที่เขาหลงลืมเลอะเลือนไป

อย่างไรก็ตามในความรู้สึกไม่ถูกต้องนั้น เขาก็รู้สึกทุกสิ่งอย่างถูกต้องตามที่ควรจะเป็น เขาชื่อเอก เพิ่งเรียนจบมหาลัยได้ไม่นนาน นี่เป็นที่ทำงานที่แรกและที่ปัจจุบันของเขา เขาเพิ่งออกจากห้องพักมา และเผลองีบหลับไป จากนั้นก็ฝันถึงอะไรวุ่นวายไปหมดจนจดจำไม่ได้

“สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่เอก เป็นไงบ้างคะ เหมือนอารมณ์จะไม่ค่อยดี?”

เสียงหวานใสเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เขาสะดุ้งและเริ่มได้สติกลับคืนมาบ้าง เขาจึงรีบหมุนเก้าอี้หันขวับไปด้านหลัง หากทว่าภาพที่เห็นกลับทำให้สติล่องลอย เขารู้สึกเลอะเลือนงมงายราวกับอยู่ในความฝันอีกครั้ง

เจ้าของเสียงในชุดนักศึกษาสาวคนนั้นสวยหวานละลานตาเสียจนเขาแทบนึกว่ากำลังฝันไป ใบหน้าของเธอสวยปานนางฟ้าเทพธิดา ในขณะที่ทรวดทรงองค์เอวเปี่ยมล้นทะลักไปด้วยความหนั่นแน่นเสน่ห์ยั่วใจชาย

น่าแปลกที่อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกโหยหาปวดแปลบโดยไม่รู้สาเหต เขารู้สึกเหมือนตัวเองหลับฝันหวานไปเนิ่นนาน แล้วค่อยลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับความจริงอีกแบบหนึ่ง เขาจึงรู้สึกโหยหาราวกับว่าไม่ได้เจอกับเธอคนนี้มานานแสนนาน

เขาอยากปรี่เข้าไปกอดประคองและประทับรอยจูบให้สาสมแก่ความคิดถึง หากทว่านั่นคล้ายไม่ถูกต้อง เพราะว่าในความทรงจำนั้น เขารู้สึกเหมือนเพิ่งเจอกับเธอเมื่อวานตอนเลิกงาน และที่สำคัญก็คือเขาและเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรที่จะทำให้เขาสามารถกอดเธอได้

“ดีคับน้องหญิง เมื่อเช้าฝันดีน่ะ เลยอารมณ์ไม่ดี”

เอกยกมือขึ้นมาจับกุมศีรษะตนเองอีกครั้ง แล้วพยายามพูดให้ขบขันเพื่อแก้เก้อตนเอง ตอนนี้เขาคิดว่าเขากำลังอยู่ในที่ทำงาน และเบื้องหน้าก็คือน้องหญิง นักศึกษาสาวฝึกงาน เธอเป็นลูกคุณหนูครอบครัวไฮโซเจ้าของบริษัทที่เขาทำงานอยู่ หรือถ้าพูดให้ถูกก็คือเธอเป็นลูกของเจ้านาย เพียงแต่เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง

“อ้าว ทำไมฝันดีแล้ว อารมณ์ไม่ดีล่ะคะ”

น้องหญิงทำหน้าสงสัย พร้อมกับเอานิ้วชี้ไปแตะที่ริมฝีปากสีชมพูสด เอกจึงเผลอนึกถึงภาพขณะที่หน้าสวยหวานปานนางฟ้านี้กำลังอ้าปากดูดอมความเป็นชายของเขาขึ้นมา หากทว่าเพียงวูบเดียวเขาก็รีบส่ายหน้าไปมาเพื่อสลัดความคิดบ้า ๆ เพราะเขาและเธอต่างกันราวฟ้ากับดิน เธอเป็นเหมือนดอกฟ้า ส่วนเขานั้นคงไม่ต่างอะไรกับหมาวัดขี้เรื้อนตัวหนึ่ง ไม่ต้องมองไปไหนไกล แค่เพียงในที่ทำงาน หนุ่ม ๆ ก็แทบจะฆ่ากันตายเพราะแย่งจีบเธออยู่แล้ว

“ก็ฝันดี แต่ฝันไม่จบไงล่ะครับ เลยอารมณ์ไม่ดี ส่วนฝันเรื่องอะไรไม่เล่าดีกว่า ฮ่า ฮ่า”

เอกตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เพียงแต่ยังนึกไม่ออกว่าเขาฝันเรื่องอะไรกันแน่ ทุกอย่างมันดูสับสนไปหมด เขารู้สึกเหมือนเขาฝันว่าได้รับพลังอำนาจบางอย่าง ได้เป็นแฟนกับน้องหญิงคุณหนูไฮโซคนนี้ แถมยังมีสาวสวยกลุ่มใหญ่มาอยู่ในฮาเร็มเสียด้วย เพียงแต่เขายังนึกไม่ออกว่าเขาอาศัยอะไรถึงฝันเพ้อเจ้อได้ขนาดนั้น

“อ่ะนะ ไม่ต้องเล่าหรอกค่ะ เรื่องฝันดีของพี่เอก คงหนีไม่พ้นเรื่องลามกแหง ๆ”

น้องหญิงตอบค้อนพร้อมกับชำเลืองมองด้วยสายตาที่สามารถหลอมละลายใจชายได้ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เขาคนนี้ เอกจึงทำตาหวานแล้วตอบด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ ออกไป

“เรื่องลามก จริง ๆ น่ะแหละ แถมยังฝันเกี่ยวกับน้องหญิงด้วยนะ”

“บ้า พี่เอกพูดอะไรก็ไม่รู้”

น้องหญิงมองค้อนใส่อีกรอบ แล้วเดินสะบัดก้นงอน ๆ ไปอีกทางหนึ่ง เอกจึงได้แต่นั่งมองดูเธอด้วยสายตาละห้อย เธอและเขาอยู่กันคนละสังคม เธอสวย เธอรวยล้นฟ้า

หากจะมีใครสักคนที่จะเหมาะสมกับเธอก็คงไม่ใช่เขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไม เมื่อเธอหันหลังมองมาพร้อมกับแลบลิ้นใส่ เขาจึงมองเห็นภาพเขากำลังจูบปากดูดลิ้นกับริมฝีปากสีชมพูสดนั้น … นั่นคล้ายเป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน … แต่เป็นเพียงแค่จินตนาการความฝันเท่านั้นจริง ๆ หรือ?

……………………………………….

เวลาไหลผ่านไปราวกับสายน้ำไหลจนเขาไม่รู้เนื้อรู้ตัว เอกไม่แน่ใจว่าเขากำลังทำงานหรือกำลังนั่งเหม่อครุ่นคิด หากทว่าเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นทีหลังพร้อมกับคำเชิญชวนไปทานข้าวเที่ยงเสียแล้ว

“ไปทานข้าวเที่ยงกันมั้ยคะ พี่เอก”

“อ้าว น้องหญิงนี่เอง … เอ๋ ปกติหญิงไปกับพวกพี่ ๆ เค้าไม่ใช่เหรอครับ”

“อ๋อ พอดีวันนี้พี่ ๆ เค้ามีคุยกับลูกค้ารายใหญ่นอกบริษัทน่ะค่ะ เลยออกไปกันหมดเลย”

“อ้อ ถ้าอย่างงั้นก็ไปกันเลย อ้าวเหลือกันแค่สองคนเหรอ”

“ค่ะ คนอื่นไปกันหมดแล้ว เหลือน้องหญิงกับพี่เอกนี่แหละ วันนี้หญิงอยากทานอาหารอิตาเลียนไปกันมั้ยคะ”

“โห พี่จ่ายไม่ไหวหรอกครับ ไปทานทีคงไม่ต่ำกว่าพันบาทต่อมื้อ”

“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ให้หญิงเลี้ยงพี่เองนะ”

“งั้นก็ไปกัน ฮ่า ฮ่า”

เอกพูดตอบรับพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ เพราะรู้ว่าลูกสาวเจ้าของธุรกิจหมื่นล้านจ่ายเงินแค่นี้ได้สบายมาก ๆ เพียงแต่ไม่คิดจะให้เธอจ่ายให้จริง ๆ ไม่เช่นนั้นคงเสียหน้าไม่น้อย เรียกว่าต่อให้ต้องควักเงินเดือนทั้งเดือนไปจ่ายเขาก็จะยอมกัดฟันทน

โดยไม่รู้ตัว เขาลุกขึ้นเดินตามน้องหญิงไป แอบมองดูสายรัดของยกทรงสีดำแบบคล้องคอที่ปิดรัดหน้าอกงามขนาดไม่ต่ำกว่า 36 นิ้ว แล้วหันไปจ้องมองเอวคอดกิ่วได้รูป ก่อนจะสอดสายตาลงไปถึงกระโปรงสีดำที่ปกปิดก้มงามงอนไว้ เอกจ้องเหมือนโดนมนต์สะกด และแล้วภาพอะไรบางอย่างก็ลอยวูบเข้ามาในหัวอีกครั้ง และภาพนั้นก็คือตอนที่เขากำลังกระแทกใส่น้องหญิงแสนสวยจากด้านหลังจนเธอร่ำร้องระงม

‘บ้าแล้ว ทำไมวันนี้ฟุ้งซ่านอะไรขนาดนี้’

เอกบ่นพึมพำกับตัวเอง จึงไม่รู้ตัวเลยว่าน้องหญิงหยุดเดิน ทำให้เขาเผลอชนเข้ากับด้านหลังของเธออย่างเต็ม ๆ และความเป็นชายที่กำลังแข็งตัวเบียดอยู่ในเป้ากางเกงก็กระแทกแนบเข้ากับสะโพกงามงอนของเธออย่างพอดิบพอดี

น้องหญิงเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อยด้วยแรงกระแทก เขาจึงรีบคว้าจับตัวน้องหญิงไว้เพื่อไม่ให้เธอล้มลงไป แต่ว่ามือเจ้ากรรมกลับไปคว้าหมับเข้ากับสองเต้าอวบจนเต็มมือ!!!

“อ๊า…….”

น้องหญิงส่งเสียงร้องคราง ตัวกระตุกสั่นเบา ๆ แต่ไม่ดิ้นรนหลบหนี และยังดีที่ตอนนี้ใน Office ไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว ไม่เช่นนั้นคงจะมีพยานเห็นภาพพนักงานหนุ่มกำลังเล้าโลมลูกสาวเจ้าของบริษัทอย่างแน่นอน

ที่น่าแปลกใจก็คือน้องหญิงกลับไม่ดิ้นรนหลบหนี และน่าแปลกที่เอกกลับหาญกล้าโอบบีบขยำหน้าอกอวบอูมของเธอไว้แน่น อีกทั้งยังแนบร่างซุกจมูกลงบนต้นคอขาวผ่องสูดดมความหอมหวานของสาวสวยด้วยความโหยหาลืมตัว … และที่น่าแปลกก็คือเขารู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกแบบนี้ราวกับว่าเคยทำเช่นนี้มาแล้วนับร้อยครั้ง ทั้ง ๆ ที่มันไม่ควรเป็นเช่นนั้น

ไม่ทราบว่าสองหนุ่มสาวหยุดค้างไว้ที่ท่วงท่าเช่นนี้นานเท่าไร แต่เมื่อเธอไม่ขัดขืน เขาจึงยิ่งรู้สึกราวกับฝันไป จากนั้นจึงเริ่มเคลื่อนไหวตามความเคยชิน ขยับฝ่ามือทั้งสองข้างไปเคล้นคลึงหนีบบีบปลายถันจนสาวสวยส่งเสียงครางแผ่วเบา ร่างงามกระตุกแผ่วเล็กน้อย ใบหน้าของเธอกลายเป็นแดงซ่านขวยเขิน ยืนนิ่งไม่ปัดป้องต้านทานการรุกเร้าอยู่เนิ่นนานพอดู

“อย่าค่ะพี่เอก … อื๊อ”

สุดท้ายเมื่อเขาทำท่าจะสอดมือเข้าไปในร่องกระดุมเสื้อนักศึกษา สาวสวยจึงค่อยส่งเสียงร้องห้ามพร้อมทั้งแกะมือที่คลึงเคล้นเต้าอวบราวกับหนวดปลาหมึกออกไป

เขาปลดมือออกจากเต้างามอย่างเสียไม่ได้ ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะมีคนมาเห็นแล้วลูกเจ้านายจะเสียหาย แต่ใจหนึ่งก็อยากจะทำอะไรให้เกินเลยกว่านี้ สุดท้ายจึงยอมปล่อยมือจากเต้าอวบมากอดที่เอวคอดกิ่วของเธอแทน พร้อมขยับเบียดท่อนเอ็นที่กำลังพาดกับร่องก้นงามของเธอให้แน่นมากขึ้น

“พี่เอก!!!”

เธอส่งเสียงร้องห้ามพร้อมทั้งตีมือเขาเบา ๆ และเหมือนฟ้าจะช่วยไว้ เมื่อมีคนเดินผ่านเข้ามาพอดี จึงไม่ได้เห็นฉากเด็ด ๆ ของลูกสาวเจ้าของบริษัทและพนักงานกระจอกคนหนึ่ง

“พี่ขอโทษ”

เอกมองหน้าหวาน ๆ ของเธอ แล้วพูดขอโทษ แต่สายตายังคงไม่วายแอบชำเลืองมองดูสองเต้าอวบที่เขาเพิ่งได้แตะสัมผัส ความรู้สึกนุ่มนิ่มละมุนคล้ายกับจะยังติดค้างอยู่ในมือ

“….”

น้องหญิงคล้ายจะอ่านสายตาของเขาออก เธอไม่พูดอะไร แต่ก้มตาลงต่ำแบบเขินอาย หน้าสวยแดงระเรื่อ หายใจหอบเบา ๆ

“ทำไมพี่ไม่จับหญิงที่เอวล่ะคะ”

“เอ่อ คือ … พี่ขอโทษครับ มันไปเอง พี่แค่กลัวว่าน้องหญิงจะล้มแล้วเจ็บ”

“แล้วทำไมชนน้องล่ะ”

“พี่มองก้นเพลิน เอ้ย กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ น่ะครับ”

“พี่เอกลามก งั้นวันนี้พี่ต้องเลี้ยงข้าวหญิงเลย ไม่งั้นหญิงจะไม่ยกโทษให้”

เธอตอบพร้อมกับทำหน้ามุ่ยใส่ เอกจึงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ และตอบรับคำขอของเธอ

“โอเค ครับ งั้นพี่เลี้ยงเอง ค่าอาหาร สองสามพัน ถ้าทำให้หญิงหายโกรธได้ พี่ยอม”

“งั้นไปกันเลยค่ะ คราวนี้พี่เอกเดินนำนะ เพราะหญิงไม่อยากให้มีคนฉวยโอกาสอีก”

“… ได้ครับ”

เอกตอบเสียงละห้อย เพราะว่าการเดินนำหน้านั้นทำให้เขาไม่สามารถมองสำรวจความงามของน้องหญิงได้ แต่ก็ยังดีที่เธอไม่ได้แสดงอาการโกรธออกมา … และเมื่อนึกถึงตอนนี้ เขาก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง เพราะรู้สึกคลับคล้ายคลับคราว่าเหมือนเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว

……………………………….

นั่นเป็นมื้อเที่ยงที่เอร็ดอร่อยที่สุดสำหรับชายหนุ่ม แต่ไม่ใช่เพราะรสชาติอาหาร แต่เป็นเพราะวันนี้เขาได้นั่งกินข้าวท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของคนรอบข้าง เขาจึงแอบเชิดหน้ารู้สึกเหมือนได้รับชัยชนะเล็ก ๆ ที่ได้ควงสาวสวยไฮโซสุดเซ็กซี่แบบนี้ต่อหน้าคนอื่น

กระทั่งเมื่อทานเสร็จเห็นรายการค่าอาหารเขาจึงค่อยเริ่มหน้าซีด เพราะอาหารมื้อเล็ก ๆ ที่ไม่พออิ่มท้องนี้ปาเข้าไปครึ่งหมื่น แต่ก็ยังดีที่เมื่อเขาทำท่าจะจ่ายเงิน น้องหญิงกลับรีบชิงจ่ายเองไปเสียก่อน โดยบอกว่าค่อยให้เขาเลี้ยงในครั้งถัดไปแทน

ระหว่างทางเดินกลับ น้องหญิงแวะดูซื้อของจิปาถะตามนิสัยผู้หญิงทั่วไป เอกจึงเดินแยกตัวออกมาเล็กน้อย และพบเจอเข้ากับยายแก่คนหนึ่งท่าทางน่าสงสาร

ยายแก่คนนั้นหน้าซีดเดินโซซัดโซเซเหมือนจะเป็นลม เขาจึงรีบเข้าไปช่วยประคอง และพายายแก่คนนั้นเข้าไปนั่งในร้านอาหาร ตามด้วยการสั่งอาหารให้ เพราะยายบอกว่าหิวแต่ไม่มีเงิน จากนั้นจึงให้เงินยายส่วนหนึ่งเป็นค่ากลับบ้านต่างจังหวัด ทั้งนี้เขาทำไปด้วยความเห็นใจส่วนหนึ่ง และแอบทำเพื่อเรียกคะแนนจากน้องหญิงที่แอบมองอยู่ห่าง ๆ อีกส่วนหนึ่ง

น่าแปลกที่สายตาของน้องหญิงที่มองมายังยายแก่คนนั้นกลับกราดเกรี้ยวผิดปกติ หากทว่าเมื่อเธอเห็นว่าเขามองเธออยู่ แววตาน่ากลัวที่ไม่เข้ากันกับใบหน้านั้นก็เลือนหายไป และกลับมาเป็นแววตาเป็นประกายสวยงามน่ามองเช่นเดิม

“หลานเป็นคนดีนะ ยายไม่มีอะไรจะให้นอกจากของนี้ ยายเลี้ยงมา …”

ท่ามกลางความงุนงงสงสัยนั้น ยายยื่นซองกระดาษซองหนึ่งมาให้เขา พร้อมกับพยายามจะบอกอะไรบางอย่าง แต่ว่ายังพูดไม่ทันจบ น้องหญิงก็โผเข้ามาจับแขนของเขาแล้วลากไปทางอื่น

ถึงแม้ว่าเขาจะแปลกใจในท่าทีของน้องหญิงที่ทำท่าเหมือนไม่อยากให้เขาพูดคุยกับยายแก่คนนั้น แต่ว่าเขาก็รับซองมาแล้ว และตอนนี้แขนข้างหนึ่งของเขากำลังเบียดอยู่กับสองเต้าของน้องหญิงโดยที่ไม่แน่ใจว่าเธอเจตนาหรือไม่ แต่ว่านี่เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกเหมือนกำลังฝันไป

“… หลานเอย รีบตื่นจากความฝัน แล้วกลับบ้านได้แล้ว”

น่าแปลกที่ขณะเดินห่างออกมา เขากลับได้ยินเสียงของยายแก่คนนั้นดังก้องอยู่ในหัว และเมื่อหมุนตัวกลับไปมอง ยายแก่คนนั้นกลับหายสาปสูญไปเสียแล้ว เขาจึงได้แต่นึกว่าเขาหูแว่วไปเอง และที่น่าแปลกอีกอย่างก็คือเขารู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างในซองกระดาษนั้นขยับไปมาแผ่วเบา แต่เมื่อเขาทำท่าจะเปิดดูทีไร เป็นต้องโดนน้องหญิงเรียกร้องความสนใจจนไม่ได้เปิดดูทุกครั้งไป

เมื่อกลับไปถึงแผนกที่ไร้ผู้คน เขาก็ยังไม่มีโอกาสเปิดซองนั้นดู เพราะคุณหนูไฮโซเอาแต่ตามประกบติดเขาอย่างน่าประหลาด เพียงแต่ในฐานะผู้ชายแล้วเขาย่อมไม่ได้ครุ่นคิดในเรื่องนี้ เขาเพียงแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอกำลังหาข้ออ้างให้เขาสอนงานให้ และแอบทอดสะพานให้เขาเสียมากกว่า

“ขอบคุณค่ะ พี่เอกอธิบายเก่งมาก ๆ เลย รอบเดียวหญิงก็เข้าใจแล้ว”

คุณหนูสุดสวยพูดขอบคุณขณะนั่งอยู่ด้านข้างของชายหนุ่มโดยไม่ได้หันไปมอง และไม่ทราบว่าเธอตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หากทว่าท่วงท่าที่เธอนั่งนั้นทำให้ร่องระหว่างกระดุมบนเสื้อนักศึกษาเปิดอ้าออกจนเผยให้เห็นความขาวละลานตาด้านใน แม้แต่ด้านล่างที่นั่งสลับขาไขว่ห้างก็ทำให้กระโปรงร่นขึ้นไปจนเห็นกางเกงในอยู่วับแวม หนุ่มหื่นที่อยู่ด้านข้างจึงได้โอกาสนั่งจ้องตาเป็นมันจนเป้ากางเกงแข็งแล้วแข็งอีก

“ไม่เป็นอะไรหรอก ถามอีกเยอะ ๆ เลยก็ได้”

เอกตอบพร้อมกับแอมสูดลมหายใจดมกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากร่างงามที่อยู่ใกล้จนไหล่แทบชนไหล่

“แหม แค่นี้ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้วล่ะคะ … พี่เอกอยากให้หญิงตอบแทนยังไงดีล่ะคะ?”

คราวนี้เธอหันหน้ามาคุยด้วย เอกจึงต้องรีบถอนสายตาออกจากทรวงอกแล้วยิ้มกลบเกลื่อนแต่ดูเหมือนว่าการแอบดูของเขาจะไม่พ้นไปจากสายตาของเธอ

“สงสัยจะไม่ต้องตอบแทนแล้วมั้งคะ เพราะว่าพี่เอกแอบมองจนอิ่มแล้วนี่นา แถมตอนก่อนไปกินข้าวยังแกล้งหญิงซะขนาดนั้นด้วย”

เธอหันมาพูดด้วยใบหน้าอันแดงซ่านเล็กน้อย เอกจึงสะอึกไปวูบหนึ่ง เพราะไม่แน่ใจว่าเธอจะเอาเรื่องที่เขาแอบดูหน้าอก และเรื่องที่เขาขยำนมเธอหรือไม่ แต่เมื่อมองดูแววตาที่วิบวับฉ่ำเยิ้มแปลก ๆ ของคุณหนูไฮโซคนนี้แล้ว เขาจึงเริ่มคิดไปไกลกว่าเดิม ว่าเธอจะต้องกำลังเปิดโอกาสให้เขาอย่างแน่นอน

“โธ่ ทำดีไม่ได้ดี เศร้าจัง”

เอกทำทีตีหน้าเศร้าเรียกร้องความเห็นใจ เธอจึงส่งเสียงหัวเราะคิกคักถูกอกถูกใจจนหน้าอกกระเพื่อม จากนั้นจึงค่อยหันไปพูดเสียงหวานกับเขา

“คิก คิก น่าสงสารจัง … งั้นก็ได้ค่ะ พี่เอกอยากให้หญิงตอบแทนยังไงดีคะ? ถ้าทำได้หญิงจะให้ค่ะ”

“ให้ทุกอย่างจริง ๆ นะ?”

“ไม่ค่ะ หญิงไม่ได้บอกว่าจะให้ทุกอย่างซะหน่อย ถ้าขอเรื่องลามก หญิงไม่ให้หรอกนะ”

เธอตอบเหมือนรู้ทันว่าเขาจะขออะไร เอกจึงได้แต่ลอบถอนใจไม่พูดอะไรออกมา แต่ก็ยังแอบชำเลืองสายตามองดูหน้าอกและท่อนขาของน้องหญิงด้วยสายตากลัดมันเป็นระยะ

“แอบมองอีกแล้ว พี่เอกไม่เบื่อบ้างเหรอคะ เอาแต่แอบมองแบบนี้ หญิงก็นึกว่าพี่เอกจะไม่หื่นเหมือนคนอื่นซะอีก ที่แท้ก็หื่นเหมือนกันหมด”

“แหะ แหะ ขอโทษครับ ไม่มองก็ไม่มอง … อ๊ะ นึกได้แล้ว ขอพี่เปิดซองดูหน่อยนะ อยากรู้ว่ายายคนนั้นให้อะไรมา”

เอกเร่ิมไม่แน่ใจว่าเขาพูดเกินเลยไปหรือไม่ จึงรีบพยายามเปลี่ยนเรื่องด้วยการเอื้อมมือไปหยิบซองกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะ และนั่นคือซองที่เขาได้รับมาจากคุณยายที่เขาได้ให้ความช่วยเหลือเอาไว้เมื่อตอนเที่ยงนั่นเอง

“อย่าค่ะ!!!”

ทันใดนั้นน้องหญิงกลับรีบยื่นมือมาจับแขนของเขาไว้ แล้วส่งเสียงร้องห้าม พร้อมกับมองมาด้วยสายตาเกรี้ยวกราดอย่างที่เขาเคยเห็นในตอนเที่ยง เขาจึงตกใจสะดุ้งโหยงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ทำไมเหรอครับน้องหญิง?”

เมื่อเขาละความสนใจจากซองกระดาษนั้น แล้วหันไปถาม แววตาเกรี้ยวกราดก็ค่อย ๆ เลือนหายไป หลงเหลือแต่ประกายตาอันงดงามชวนฝันให้เห็น เธอก้มหน้าลงต่ำเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดตอบด้วยน้ำเสียงเบาหวิว แต่น้ำเสียงเบาหวิวนั้นเองที่ทำให้ความหาญกล้าของเขากลับคืนมาอีกครั้ง

“เปล่าค่ะ … คือหญิงคิดว่า … พี่เอกช่วยหญิงตั้งเยอะ งั้นเอาเป็นว่าพี่เอกอยากได้อะไร หญิงก็จะพยายามทำให้ค่ะ … ต่อให้เป็นเรื่องลามก … ก็ได้ค่ะ …”

“งั้นขอทำแบบเมื่อตอนกลางวันต่อได้มั้ย”

เอกย่อมลืมเลือนซองกระดาษนั้นโดยสิ้นเชิง และเผลอพูดโพล่งออกไปโดยไม่ทันคิด ซึ่งแน่นอนว่าเขาย่อมหมายความถึงเหตุการณ์ตอนที่เขาชนเธอ และคว้าจับขยำหน้าอกของเธอ แต่เมื่อพูดออกไปแล้วก็เอากลับคืนไม่ได้ จึงได้แต่นั่งนิ่งมองดูว่าน้องหญิงจะโกรธหรือไม่ และที่น่าแปลกก็คือเธอไม่แสดงท่าทีขุ่นข้องโกรธเคืองอันใด ทั้งยังใบหน้าแดงซ่าน ชายตามองดูเขาด้วยแววตาระยิบระยับคล้ายกับจะเห็นดีเห็นงามไปกับข้อเสนอของเขาด้วย

“ว่าแล้วเชียว สุดท้ายไม่พ้นเรื่องลามกจริง ๆ ด้วย”

“แหะ แหะ ก็น้องหญิงบอกว่าเรื่องลามกก็ได้นี่นา พี่ก็เลยลองหน้าด้านขอดูน่ะซิ”

เอกพยายามพูดทีเล่นทีจริงด้วยน้ำเสียงติดตลก แต่น้องหญิงเหมือนจะไม่คิดเช่นนั้น เพราะเธอเริ่มตีหน้านิ่งไม่พูดอะไรไปพักใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นยืนจนเอกใจหายวาบ เกรงว่าตนเองจะเล่นเกินเลยจนพลาดไปแล้ว

แต่แล้วน้องหญิงกลับเพียงยืนอยู่ที่เดิม เธอชะเง้อคอพ้นจากแผงกั้นที่นั่ง แล้วหันมองไปรอบด้านรอบหนึ่ง ก่อนจะทรุดตัวลงมานั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม แล้วพูดเสียงอ่อนหวานออกมาว่า

“ในแผนกไม่มีใคร แต่แผนกข้าง ๆ มีคนอยู่ … งั้นก็ได้ค่ะ แต่ต้องระวังไม่ให้คนอื่นเห็นนะคะ”

“… หา!!!”

เอกย่อมไม่ได้ตั้งใจว่าน้องหญิงจะยอมทำตาม ทั้งยังใจหายวาบเพราะกลัวโดนโกรธ แต่กลับกลายเป็นว่าที่เธอยืนขึ้นนั้นเพียงเพราะเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยว่าไม่มีใครเห็นเข้า แถมยังตอบรับคำขอร้องของเขาหน้าตาเฉย เขาจึงชะงักนิ่งอึ้งทำตัวไม่ถูกไปครู่ใหญ่

“เมื่อกี้น้องหญิงว่าอะไรนะ?’

“ก็อนุญาติแล้วไงคะ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวหญิงจะเปลี่ยนใจแล้วนะ”

เธอพูดย้ำพลางนั่งแอ่นตัวตรงทำท่าเหมือนจะเสนอความอวบอิ่มให้ถึงมือเขา เอกจึงจับจ้องกวาดตามองดูทรวงอกอวบอูมที่ซุกซ่อนอยู่ใต้เสื้อนักศึกษารัดติ้วด้วยลมหายใจร้อนผ่าวรอบหนึ่ง แล้วรีบเอื้อมมืออันสั่นเทาเข้าไปหยุดใกล้กับสองเต้าเพื่อดูท่าทีของเธอ แต่เมื่อเธอไม่มีท่าทีจะขัดข้อง สองมือจึงค่อยขยับเข้าไปคว้าหมับเข้ากับสองเต้าในฝัน

“อ๊ะ … อือ …”

น้องหญิงส่งเสียงครางแผ่วเบาขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านน้อย ๆ ทรวงอกที่ใหญ่ล้นมือขยับเด้งไหวไปมาแผ่วเบา เพราะโดนฝ่ามือขยำเบา ๆ จากด้านนอกเสื้อนักศึกษา

เอกกลืนน้ำลายลงคออีกอึกใหญ่ด้วยความหื่นที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง ไม่ใช่แค่ขนาดที่ใหญ่โตโอฬาร แต่ว่ามันทั้งนุ่มนิ่มและหยุ่นเด้งสู้มือจนแทบไม่อยากปล่อยมือออก

“… ขอขยำแรงอีกหน่อยได้มั้ย?”

เอกส่งเสียงราวกับละเมอ ความหื่นพุ่งทะยานขึ้นจนไม่อาจหื่นได้มากกว่านี้อีก หากทว่าสองมือยังคงเพียงลูบไล้แผ่วเบาทะนุถนอม ไม่กล้าเร่งเร้ารุนแรงคล้ายเกรงว่าจะทำให้เธอเปลี่ยนใจ

“… ค่ะ … อืมม … อ๊ะ … อืมมม …”

เธอตอบเสียงแผ่วเบาแล้วส่งเสียงครางเป็นระยะ สองมือเหยียดตรงจิกใส่เบาะเก้าอี้ตัวที่เธอนั่งอยู่ เพราะเริ่มโดนเขาบีบขย้ำใส่ทรวงหนักหน่วงขึ้นทีละน้อย เสื้อนักศึกษาที่โดนบีบขยำจึงเริ่มปรากฎรอยยับยู่ขึ้น

“… เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยว หยุดก่อน”

ขณะที่เขากำลังเริ่มเมามันต่อเนื้อสาวอยู่นั้น เธอกลับส่งเสียงร้องห้ามและผลักไสมือของเขาออก เอกจึงใจหายวูบคิดว่าเธอคงเปลี่ยนใจแล้ว แต่เหมือนจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิด เพราะว่าเธอยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม มองเขาด้วยดวงตาหวานฉ่ำ แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเอียงอายว่า

“หญิงกลัวเสื้อยับค่ะ …”

เอกได้ยินดังนั้นก็ดีใจจนแทบบินได้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่ก็พอจะแปลความหมายอันอ้อมค้อมนั้นได้ เธอเพียงแค่กลัวว่าเสื้อจะยับ แต่ไม่ได้บอกให้เขาหยุดทำ และไม่กล้าบอกเขาโดยตรงว่าต้องการให้เขาทำสิ่งใด ดังนั้นสิ่งที่เขาควรทำก็คือกำจัดอุปสรรคนี้ออกไปซะก็จบเรื่อง

“งั้นถอดออกก่อนนะ”

“เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอกค่ะ …”

เธอไม่ปฏิเสธ เขาจึงรีบลุกพรวดขึ้นมองไปรอบด้านอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้ และเมื่อเห็นว่าหนทางยังสะดวกปลอดภัย ก็รีบทรุดตัวลงนั่ง แล้วเอื้อมมือไปปลดกระดุมบนเสื้อนักศึกษาสีขาวออกทีละเม็ดอย่างเชื่องช้า

จากนั้นสาบเสื้อนักศึกษาก็โดนแบะอ้าออกท่ามกลางเสียงหัวใจที่เต้นตูมตาม ความขาวละลานตาของสองเต้าอวบอูมที่ซุกอยู่ในยกทรงสีสวยช่างงดงามกระตุ้นอารมณ์กลัดมันจนเขาไม่อาจอดใจได้อีกต่อไป

สองมือขยับวูบถลกยกทรงขึ้นไปกองอยู่เหนือเต้า จากนั้นสองมือก็เลื่อนลงมาเกาะกุมบีบขยำเคล้นคลึงเสพความอวบหยุ่นด้วยความหื่นกระหายจนคุณหนูไฮโซตัวกระตุก ส่งเสียงครวญครางร่ำร้องแทบไม่ได้หยุด

“น้องหญิงสวยมาก ๆ นมก็ใหญ่ บีบมันมือเลย”

เอกส่งเสียงหื่นกามพยายามใช้ปลายนิ้วทั้งสิบรีดเร้นเสพความเนียนนุ่มเด้งสะท้อนให้ครบทุกตารางนิ้วบนผิวกาย สองเต้ากลมโดนขยำขยี้รีดเร้น ปลายถันสีชมพูอ่อนโดนสะกิดบดคลึงทึ้งเล่นไม่หยุด

คุณหนูไฮโซมองมาตาฉ่ำเยิ้ม ความหมายที่แอบแฝงมาหากไม่โง่ก็คงจะแปลความหมายได้ว่าอารมณ์ใคร่ของเธอกำลังคุกรุ่น ดังนั้นถึงแม้ว่าสำนึกตัวว่าศักดิ์ฐานะทางสังคมต่ำต้อยกว่าจนเทียบไม่ได้ แต่เวลานี้คุณหนูไฮโซที่มีแต่คนหมายปองกำลังอยู่ในกำมือให้เขาตีตราจองแล้ว

“ขอดูดนมได้มั้ย?”

เอกถามด้วยน้ำเสียงแห้งผาก น้องหญิงจึงมองมาด้วยสายตาฉ่ำเยิ้มกว่าเดิม แล้วพยักหน้าแผ่วเบาแทนคำตอบ เขาจึงถือวิสาสะโน้มตัวก้มหน้าลงไปอ้าปากงับปลายถันของน้องหญิง และเธอเองก็มิได้ขัดขืนป้องกัน ทั้งยังโอบแขนกอดรัดรอบศีรษะของเขาเอาไว้ด้วยอีกทางหนึ่ง เอกจึงทั้งดูดทั้งเลียและบีบขย้ำได้อย่างเมามันในอารมณ์

สัมผัสแรกที่อ้าปากงับปลายถันของสาวสวยนั้น อารมณ์ของเขากลายเป็นเดือดพล่านขึ้นมายิ่งกว่าเดิม นั่นเป็นสัมผัสนุ่มละมุนที่เอร็ดอร่อยรสเลิศยิ่งกว่าสิ่งใด ยิ่งได้ดูดเลียกับเม็ดสีชมพูอ่อนก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความหอมหวานโอชาของเนื้อนาง

เขาดูดทึ้งเต้าข้างหนึ่งพร้อมกับบีบขยี้เต้าอีกข้างหนึ่ง แล้วจึงค่อยขยับสลับไปอ้าปากงับดูดเลียใส่เต้าอีกข้างหนึ่ง เต้านมกลมกลึงโดนขบกัดดูดเลียจนเจ้าของตัวอ่อนระทวยเอนหลังพิงกับเก้าอี้ เธอส่งเสียงร้องครางสลับกับสูดปาก ร่างอวบอัดกระตุกเป็นระยะทุกคราที่เขาฝากรอยจ้ำแดงเอาไว้บนผิวกายขาวผ่อง

“อ๊ะ พี่เอกคะ … อืมมม … อูยยสสส … หญิงเสียว … อืมมม ซี้ดดดสสส”

ปลายถันสีชมพูอ่อนทั้งสองข้างโดนสลับทั้งดูดทั้งเลียจนแข็งเป็นเม็ดชูชัน เธอเริ่มเด้งแอ่นทรวงอกเข้ารับ เขาก็ปรับลีลาเป็นเร่าร้อนกว่าเดิมด้วยการขบกัดปลายถันแล้วดึงทึ้งเบา ๆ จนสาวสวยร่ำร้องแทบขาดใจ

เธอร้องครวญครางพลางแอ่นศรีษะเยื้องไปด้านหลัง เปิดทางให้จมูกโด่งคมสันของชายหนุ่มขยับขึ้นมาซุกไซร้ขยี้สูดดมความหอมหวานของซอกคอ สองมืออันหยาบกระด้างยังคงบีบเคล้นขยำอยู่บนสองเต้าอวบ

“อูยยยย พี่เอก … ซี้ดดสสสสส”

สาวสวยหุ่นนางแบบส่งเสียงร้องครางดังขึ้นและดังขึ้น คล้ายกับไม่คิดสนใจว่าพวกเธอยังอยู่ในที่ทำงานซึ่งอาจจะมีใครผ่านเข้ามาได้ทุกเมื่อ นิ้วอันเรียวสวยทั้งสิบจิกขยี้ลงไปบนหลังศรีษะของชายหนุ่ม ร่างของเธอกำลังบิดเกร็งไปด้วยความหฤหรรษ์แสนหวาน

ทุกสุ้มเสียงที่เธอเปล่งออกมาจากปาก ล้วนแล้วแต่ปลุกเร้าอารมณ์ดิบเถื่อนของเอกจนแทบระเบิด เขารู้สึกคล้ายกับตัวเองฝันไป เขาแทบไม่อยากเชื่อว่ากำลังมีเซ็กส์กับน้องหญิงลูกสาวเจ้าของบริษัทที่หนุ่มทั้งบริษัทอยากร่วมรัก อีกทั้งยังมีอะไรกับเธอในที่ทำงานอย่างโจ่งแจ้งเสียด้วย … แต่เมื่อนึกไปอีกครั้ง เขากลับรู้สึกเหมือนว่าเขาเคยมีอะไรกับเธอมาแล้ว เพียงแต่นึกได้แค่นั้นก็ไม่สามารถนึกต่อได้อีก

อารมณ์เริ่มถลำลึกไปอีกขั้น เมื่อเขาตะปบฝ่ามือข้างหนึ่งลงบนขาอ่อนของสาวสวย แล้วล้วงมุดเข้าไปในกระโปรงนักศึกษาเพื่อแตะสัมผัสเข้ากับความโหนกนูนที่ซุกซ่อนในร่มผ้า

“อ๊ะ … อืมม …”

น้องหญิงตัวกระตุกสะท้านส่งเสียงครางดังกว่าเดิมออกมา ขณะที่สองขายาวเรียวขยับถ่างอ้าออกเปิดทางให้เขารุกล้ำอย่างสะดวกง่ายดาย และที่ตรงนั้นเขาก็ได้พบว่าคุณหนูไฮโซคนนี้กำลังชุ่มฉ่ำเต็มที่แล้ว

มือหยาบตะปบขยำอยู่บนเนื้อผ้าเรียบลื่นของกางเกงในพักใหญ่ ก่อนจะเริ่มสอดมุดเข้าไปงอนิ้วสอดเกี่ยวแยงสู่ความคับแน่นอันลึกล้ำ เธอสะดุ้งโหยงจิกมือลงบนหลังศีรษะของเขาจนเจ็บแปลบ เสียงครางเริ่มขาดหายกลายเป็นเสียงหอบหายใจหนักหน่วงระรัว

เอกเคลื่อนไหวปลายนิ้วด้วยลีลาอันช่ำชอง เขารู้สึกเหมือนตนเองรู้ดีว่าจุดกระสันที่ซุกซ่อนในส่วนเร้นลับของเธออยู่ที่ไหนบ้าง จึงเคลื่อนไหวกระตุ้นจนเธอตัวอ่อนระทวย ทั้งที่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงรู้ซึ้งถึงรายละเอียดในร่างกายของเธอราวกับเคยร่วมรักกันมาก่อนได้

ปลายนิ้วที่แหย่แยงล้วงควักฝ่าอาการตอดรัดเข้าไปในความคับแน่นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง เพียงแค่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น คุณหนูไฮโซก็ถึงจุดสุดยอด ร่างของเธอกระตุกอย่างรุนแรงจนแทบพลัดตกจากเก้าอี้ เธอทำท่าจะส่งเสียงหวีดร้องแห่งความหฤหรรษ์ออกมา แต่ยังดีที่เอกรีบขยับตัวขึ้นไปประกบปากกับเธอเอาไว้ เสียงนั้นจึงไม่หลุดออกมาให้คนอื่นในแผนกข้างเคียงได้ยิน

หลังจากส่งเธอถึงสรวงสวรรค์ไปแล้วหนึ่งรอบ ความกลัดมันที่อัดแน่นอยู่ตรงเป้ากางเกงทำให้เขาอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป เอกถอนปากออกจากเรือนร่างอันหอมหวานชั่วคราว แล้วพูดขออนุญาตด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“น้องหญิงครับ พี่ขอนะ”

โดยไม่รอว่าเธอจะอนุญาติหรือไม่ เขารีบหันไปมาเพื่อมองหาท่วงท่าร่วมรักที่เหมาะสม ในคอกทำงานนี้ไม่กว้างขวางพอจะให้นอนราบบนพื้น แต่หากจะกระทำในท่ายืนก็สุ่มเสี่ยงที่จะมีใครมาพบเห็นเข้า เพราะว่าผนังกั้นทั้งสามด้านนั้นสูงเพียงแค่ระดับหัวไหล่

สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจจับประคองน้องหญิงลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วผลักดันให้เธออยู่ในท่ายืนโก้งโค้งฟุบหน้าลงบนโต๊ะทำงานของเขาในสภาพเกือบเปลือย

เสื้อนักศึกษาโดนถอดถลกออกมาแทบจะพร้อมกับยกทรง เรือนร่างท่อนบนผุดผ่องขาวโพลนจึงปรากฎสะท้อนแสงไฟนีออนอยู่เบื้องหน้า เขาชะงักชมดูความงามของแผ่นหลังเรียบลื่นครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มดำเนินการถลกชายกระโปรงขึ้นไปด้านบน แล้วรูดเอากางกางในจนหลุดลุ่ยลงไปกองบนพื้น เวลานี้คุณหนูไฮโซแสนสวยจึงอยู่ในสภาพยืนโก้งโค้งสวมใส่เพียงกระโปรงและรองเท้านักศึกษาเท่านั้น

เอกก้มลงชมดูร่องรูที่ปิดสนิททั้งสองซึ่งลอยเด่นหราอยู่เบื้องหน้าแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสำรวจไปรอบด้านและพบว่าในแผนกยังคงไม่มีใครอยู่เช่นเดิม แต่หากมองข้ามผนังกั้นไปยังแผนกข้างเคียงแล้วจะพบเห็นเงาหลังของพนักงานบางส่วนกำลังนั่งทำงานอยู่ตรงนั้น

ความรู้สึกที่ต้องแอบกระทำ คล้ายกับเกรงว่าจะมีคนอื่นร่วมรู้เห็นด้วยยิ่งทำให้เอกรู้สึกคึกคับเข้มแข็งอีกเท่าตัว เขารีบปลดตะขอเข็มขัด ปลดกางเกงรั้งลงไปด้านล่างเล็กน้อยพร้อมกับกางเกงในลงที่ระดับเข่า ปลดปล่อยดุ้นเอ็นที่แข็งแกร่งดั่งทวนเหล็กออกมาสัมผัสกับโลกภายนอก

แม้ว่าด้านล่างจะอยู่ในสภาพอนาจาร แต่ว่าด้านบนที่โผล่พ้นผนังกั้นคอกขึ้นมานั้นไม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงยังใจเย็นยืนกระทำเรื่องบัดสีได้โดยไม่ต้องเกรงว่าใครจะเห็น

“พี่เอกจะทำอะไรคะ?”

น้องหญิงถามเสียงหวานขณะแนบหน้าอยู่กับโต๊ะทำงาน แต่เขาทราบดีว่านั่นไม่ใช่คำถาม เอกจึงตอบด้วยการกระทำแทนที่จะตอบด้วยคำพุด เขาขยับตัวเข้าไปหาเรือนร่างอ่อนปวกเปียก จับเอาดุ้นเอ็นเขี่ยปาดไปบนแก้มก้นกลมกลึงผึ่งผาย เปะป่ายสัมผัสไปตามร่องก้น ก่อนจะมุ่งเป้าต่ำลงไปที่กลีบสวาทโหนกนูนด้านล่าง

ดุ้นเอ็นสีคล้ำขนาดใหญ่เบียดเสียดสีป้วนเปี้ยนอยู่ที่ปากร่องขาวสะอาดจนเธอร่ำร้องครวญครางด้วยความเสียวสยิว ซึ่งตามทฤษฏีแล้ว การสอดใส่ในตอนนี้เลยอาจจะรวดเร็วเกินไปอยู่บ้าง แต่ว่าการควบคุมอารมณ์ต่อหน้าความงามดั่งสวรรค์สร้างนี้ช่างยากยิ่ง เขาจึงเริ่มเดินหน้ากดท่อนเอ็นอันใหญ่โตเข้าไปในร่องรูที่ปิดสนิท

“โอ๊ยย พี่เอก … เจ็บค่ะ … โอ๊ยย”

สาวสวยสะดุ้งเฮือกส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างที่เขาคาดคิดเอาไว้ แต่ยิ่งได้เห็นใบหน้าที่สวยดุจเทพธิดากลับกลายเป็นบิดเบี้ยวเหยเก อารมณ์หื่นก็ยิ่งพุ่งกระฉูดรุนแรงจนฉุดไม่อยู่ เขาไม่สนเสียงคัดค้าน แต่เดินหน้าค่อย ๆ ขยับดันสะโพกเข้าไปทีละน้อย

เขาจับจ้องมองดูอาการกระตุกราวกับโดนไฟฟ้าช๊อตของเธอด้วยความสะใจในอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องกัดฟันกรอดเพราะแรงต้านของร่องสวรรค์ที่ใหม่สดซิงไม่เคยโดนรุกล้ำ

เอกทราบว่าเขากระทำเร็วเกินไปจึงพยายามข่มใจให้เย็นลง บั้นเอวหยุดเดินหน้าเปลี่ยนไปเป็นส่ายบดคลึงอยู่กับปากร่องที่ปิดสนิทแน่น ส่วนสองมือก็ล้วงช้อนลอดใต้ราวแขนเข้าไปบีบขยี้สองเต้าที่กดแนบอยู่กับแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์

เสียงแกร๊ก ๆ ดังออกมาจากแป้นพิมพ์พร้อมกับการปรากฎขึ้นของตัวอักษรที่เด้งขึ้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ทีละตัว และแน่นอนว่าตัวอักษรเหล่านั้นล้วนแล้วแต่สับสน หาได้มีความหมายอันใด เพราะมันเกิดจากการขยับมือขยำเคล้นคลึงสองเต้าอยู่

เอกมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความตื่นเต้น ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าจะได้ทำเรื่องราวสุดระทึกแบบนี้กับผู้หญิงที่สวยเด่นที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา

เขาเริ่มก้มโน้มลงไปกอดแนบกระชับกับร่างงาม แล้วก้มหน้าซุกไซร้สูดดมความหอมหวานไปตามพวงแก้ม ใบหู และซอกคอของคุณหนูไฮโซแสนสวยด้วยความหื่นกระหาย ในขณะที่สองมือหยาบกร้านยังคงทำหน้าที่ตะปบบีบเคล้นไปตามเนื้อตัวอันอวบอัดของเธออย่างเมามันส์ในอารมณ์

“อา …. อา …. พี่เอก … อูยยยย … ซี้ดดดสสสส อูววววว … เสียว …. พี่เอก หญิงเสียว ซี้ดดดสสสส”

การกระตุ้นอารมณ์ในครั้งนี้ได้ผลดียิ่ง เพราะเพียงไม่กี่นาทีคุณหนูคนสวยก็เริ่มกลายเป็นฝ่ายเด้งสะโพกเสนอร่องรูเข้าหาดุ้นเอ็นที่บดคลึงอยู่ด้านนอก เอกจึงรีบลุกขึ้นยืนกดเอวยัดเยียดความใหญ่โตใส่เข้าไปในร่องรูซึ่งเปียกฉ่ำแฉะ และเขาใช้ความพยายามอีกเพียงครู่เดียว ส่วนปลายหัวบานก็หลุดพรวดทะลวงเข้าไปในความคับแคบได้สำเร็จ

เรือนร่างงามที่ยืนโก้งโค้งก้มหน้าแนบกับโต๊ะทำงานสะดุ้งโหยงหอบหายใจฟืดฟาด ก่อนจะส่งเสียงร่ำร้องซี้ดซ้าดออกมาไม่ขาดปาก จากนั้นร่างบางก็กระตุกสะท้านอีกครั้งเมื่อเขาออกแรงกระแทกเอวส่งดุ้นเอ็นมุดหายเข้าไปในร่องรูได้จนสุดลำ

เอกหยุดค้างบั้นเอวไว้เช่นนั้น แล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปขยี้เต้านมอวบเต่งพลางสูดปากส่งเสียงครางออกมาด้วยความมันสะใจในอารมณ์ ก่อนจะลงมือบีบขย้ำสุดแรง จับยุดเต้านมไว้แน่นจนเนื้อหน้าอกอวบสวยบุบบู้บี้แทบปริแตก

คุณหนูไฮโซถึงกับสะดุ้งโหยงร้องครวญครางด้วยน้ำเสียงแฝงความเจ็บแปลบและความเสียวซ่าน แต่เพียงแค่วินาทีถัดมาก็ต้องสะดุ้งโหยงด้วยความเสียวซ่านที่ร้อนแรงกว่าเดิมนับสิบนับร้อยเท่า เพราะเขาเริ่มเดินเครื่องกระดอกเอวซอยยิก

ท่อนเอ็นสีคล้ำดุ้นใหญ่วิ่งเข้าวิ่งออกผลุบโผล่ทะลวงร่องสวาทขาว ๆ ราวลูกสูบเครื่องยนต์รอบจัด จนกลีบสวาทสะอาดสวยยับย่นยู่ยี่ ขนาดที่ไม่ธรรมดาเบียดเสียดคับอยู่ในร่องจนกลีบสวาทปริแทบฉีกขาด

เสียงเนื้อกระแทกเนื้อ ปั้ก ปั้ก ดังขึ้นพร้อมกับธารน้ำรักที่หลั่งไหลออกมาจากจุดเชื่อมต่อของทั้งคู่ ย้อยลงไปตามง่ามขาขาวเรียวของหญิงสาวอย่างไม่ขาดสาย

เสียงแกร๊ก แกร๊ก ของแป้นพิมพ์ที่ถูกทรวงอกอวบบดทับดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง รูปแบบตัวอักษรอันแปลกประหลาดจึงถูกส่งไปขึ้นปรากฎบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างสับสนไร้ความหมาย

แรงกระแทกส่งผ่านร่างงามไปยังโต๊ะ จากโต๊ะส่งผ่านไปยังผนังกั้นที่เชื่อมติดกัน ผนังกั้นของแผนกจึงเริ่มสั่นคลอนน้อย ๆ ราวกับบังเกิดแผ่นดินไหวขึ้น แต่ยังดีที่ไม่มีใครอยู่จึงยังไม่มีใครแตกตื่นคิดว่าเกิดมหันตภัยแผ่นดินไหวขึ้น

น้องหญิงส่งเสียงร่ำร้องไม่เป็นภาษาในขณะที่ร่างอวบอัดกำลังกระเด้งกระดอนบนโต๊ะทำงาน ด้วยพื้นที่อันจำกัดทำให้ศีรษะของเธอกระแทกกับผนังกั้นหลายครั้ง โต๊ะทำงานที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รับน้ำหนักคนและแรงกระแทกก็เริ่มส่งเสียงประท้วงดังเอี๊ยดอ๊าดใกล้หักพังทลาย

“พี่เอก พี่เอก อื๊อออออ ซี้ดสสสส พี่เอก อึ๊ยยยย ไม่ไหว แล้ว อะ อูยยยย อ๊ายยยยยยย”

เอกรับฟังเสียงร่ำร้องด้วยความสะใจยิ่ง แต่เขารู้แล้วว่าเธอกำลังจะถึงจุดสุดยอด จึงเริ่มเร่งฝีมือขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เขาเดินเครื่องกระแทกกระทั้นเข้าใส่ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดเท่าที่พึงมี

กลีบกุหลาบโดนกระแทกวิ่งเข้าวิ่งออกจับพลิกปลิ้น สองเต้าโดนขยำแล้วขยำอีกด้วยความดิบเถื่อนกระหาย หากทว่าเสียงร้องและปฏิกิริยาตอบรับทำให้รู้ว่าเธอเองก็มีอารมณ์ดิบหื่นไม่แพ้กัน ความหฤหรรษ์ที่รุกเร้าจึงฉุดลากคู่หนุ่มสาวขึ้นไปบนสรวงสวรรค์อย่างพร้อมเพรียง

“อะ อะ ซี๊ดสสสสสสส….อา…อี๊ยย … ไม่ไหวแล้ว”

ความกระสันที่แผ่ซ่านทำให้เธอส่งเสียงหวีดร้องแว่วหวาน ก่อนจะฟุบร่างลงแป้นพิมพ์และโต๊ะทำงาน ในขณะเดียวกันนั้นร่องรักที่ตอดดูดแรงขึ้นก็ทำหน้าที่ของมันได้สำเร็จ ดุ้นเอ็นลำใหญ่ไม่อาจทานทนต่อความหนุบหนับ กระตุกหงึก ๆ แล้วระเบิดเอาน้ำกามหลั่งไหลทะลักเข้าไปในร่องรูของเธอ พร้อมกับการหยุดเคลื่อนไหวของทั้งคู่

“พี่รักน้องหญิงที่สุดเลยรู้มั้ย … เราแต่งงานกันนะ”

เอกฟุบร่างลงไปกอดแนบและจูบพรมไปทั่วใบหน้าที่มีเม็ดเหงื่อผุดซึมขึ้นมา แล้วพูดบอกรักเสียงหวาน เพราะว่าเธอคนนี้คือคนที่เขาแอบหลงรักตั้งแต่แรกเห็น หากทว่าได้แต่เก็บกดเอาไว้ในใจเนื่องจากความแตกต่างทางชนชั้นในสังคม

ที่เขาบอกรักออกไปในครั้งนี้ก็เป็นเพราะท่าทีฉ่ำรักของเธอ การได้ครอบครองและเป็นคนแรกของผู้หญิงคนหนึ่งย่อมทำให้เขาแซงหน้าคู่แข่งคนอื่นจนแทบเข้าใกล้เส้นชัย ดังนั้นแม้จะทราบว่าหนทางยังเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ว่าเขาก็ตัดสินใจที่จะลองดูสักตั้ง

“พี่เอกได้หญิงไปแล้ว อีกหน่อยพี่เอกจะเบื่อหรือเปล่าคะ?”

“ไม่หรอก ไม่มีทาง น้องหญิงเป็นรักแรกของผมเลยนะ ตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นก็ต้องเก็บน้องหญิงไปฝันถึงแล้ว”

“ผู้ชายทุกคนก็พูดแบบนี้หมดแหละค่ะ”

“ก็จริงนี่นา พี่ไม่ได้โม้นะ แต่ว่าพี่น่ะ แอบเอาน้องหญิงไปช่วยตัวเองวันละตั้งสามครั้งแน่ะ ก่อนนอนรอบนึงไม่งั้นนอนไม่หลับ ตอนเช้าตื่นมาก็ย้ำอีกหนึ่งรอบไม่งั้นมันไม่สงบ ส่วนตอนกลางวันพอเห็นน้องหญิงก็อดใจไม่ไหวต้องไปปลดปล่อยในห้องน้ำอีกรอบ”

“พี่เอกลามก … แบบนี้ถ้าแต่งกับพี่เอก หญิงมีหวังโดนรังแกทั้งวันซิคะ”

เอกพูดเรื่องน่าอายด้วยน้ำเสียงจริงจัง น้องหญิงจึงส่งเสียงหัวเราะคิกคักแล้วด่าทอด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจนเอกแทบตัวลอยละลิ่วขึ้นสวรรค์

“ไม่ทั้งวันหรอก แค่วันละสามครั้งเป็นอย่างน้อย”

“คนบ้า!!! หญิงยังเรียนอยู่เลย”

“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่นา อย่างดีก็อุ้มท้องไปเรียน … เอ๊ะ!!”

เขายังคงพูดจาลามกสองแง่สามง่ามตามปกติวิสัย และนั่นควรจะเป็นบรรยากาศแห่งความสุขสมของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน หากทว่าในเวลานั้นเองที่เอกเริ่มรู้สึกผิดปกติอะไรบางอย่าง

ดุ้นเอ็นที่สอดใส่ค้างคาอยู่กับแรงตอดหนุบนั้นโดนดูดตอดอย่างแรงทีหนึ่ง จากนั้นความรู้สึกและเรี่ยวแรงของเขาก็เลือนหายไปวูบหนึ่งราวกับโดนอะไรดูดออกไป เอกจึงรู้สึกเหมือนแข้งขาอ่อนจนแทบยืนไม่อยู่

“พี่เอกสาบานก่อนซิคะ ว่าเราจะไม่ทิ้งกัน พวกเราจะอยู่ที่นี่ด้วยกันตลอดไปชั่วกาลนาน”

น้องหญิงคล้ายไม่รับรู้สนใจต่อเสียงอุทานและท่าทีของเขา เธอเริ่มส่ายสะโพกวนไปมาเหมือนเรียกร้องให้เขากระทำกับเธอต่อ อีกทั้งยังพูดบอกรักเสียงหวานฉ่ำ

แม้คำพูดของเธอจะฟังแปลกประหลาดอยู่บ้าง เพราะแทนที่จะบอกว่าอยู่ด้วยกันตลอดไป เธอกลับใช้คำว่าอยู่ที่นี่ด้วยกันตลอดไป แต่วินาทีแห่งความสุขเช่นนี้จะมีใครสักคนที่สังเกตสนใจ

แต่ที่น่าแปลกก็คือยิ่งเธอขยับเคลื่อนไหว แรงดูดนั้นก็เหมือนจะยิ่งรุนแรงกว่าเดิม พละกำลังหนุ่มแน่นที่มีอยู่ในร่างคล้ายลูกโป่งที่โดนเจาะรูจนรั่วไหลออกไปไม่ขาดสาย

แม้จะไม่เข้าใจต่ออาการของตนเอง แต่ว่าสาวสวยในฝันทั้งยั่วยวนทั้งบอกรักถึงเพียงนี้ แล้วมีหรือที่ชายอกสามศอกเช่นเขาจะถอยหนีได้

เอกเข้าใจว่าเขาคงจะหักโหมเกินไปสักหน่อยจนเหน็ดเหนื่อย จึงพยายามสูดลมหายใจเรียกสติตนเอง เริ่มขยับสะโพกเข้าหาร่างของสองสาวอีกครั้งแทนคำตอบ แต่คราวนี้ดุ้นเอ็นของเขากำลังโดนบีบตอดตุบหนักหน่วงกว่าเดิมจนต้องครางอู้แทบทานทนไม่ไหว

“อาา พี่เอกคะ หญิงเสียว … หญิงรักพี่เอก … ได้โปรด พี่เอกสาบานซิคะว่าจะอยู่กับหญิงที่นี่ตลอดไป … ได้โปรด หญิงรับรองว่าจะทำให้พี่เอกมีความสุขยิ่งกว่าใคร ได้โปรด”

เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เธอร่ำร้องครวญครางเสียงหวานฉ่ำ และพูดทักท้วงทวงขอคำสัตย์สาบานอีกครั้ง ต่อให้หัวใจของชายชาตรีจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ต้องพ่ายแพ้หลอมละลาย เอกจึงอ้าปากหมายจะตอบรับคำสาบานรักอันแปลกประหลาดนี้ หากทว่าในวินาทีนั้นเองที่เขาได้ยินเสียงอันแหบแห้งของคุณยายคนนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง

‘ตื่นจากความฝันเสียทีเถอะพ่อหนุ่ม รีบกลับบ้านได้แล้ว’

เสียงนั้นคล้ายกับน้ำเย็นที่ราดลงบนหัวจนสติอันสับสนเลอะเลือนกลับคืนมาส่วนหนึ่ง เขาเริ่มฉุกคิดได้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ น้องหญิงคนนี้อาจไม่ใช่คนที่เขาคิดว่าใช่ ที่แห่งนี้อาจไม่ใช่สถานที่ที่เขาคิดว่าใช่ แม้แต่ช่วงเวลานี้ก็ไม่แน่ว่าจะใช่ช่วงเวลาที่เขาคิด ทุกอย่างที่นี่อาจเป็นเพียงภาพมายาฉากหนึ่ง เพียงแต่เขายังไม่มั่นใจ ไม่ทราบว่าสิ่งใดเป็นสิ่งใด

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายจนหัวสมองแทบแตกระเบิดนั้น อะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกว่าควรหันไปสนใจกับซองกระดาษที่ได้มาจากคุณยายคนนั้น มือข้างหนึ่งจึงขยับล้วงเข้าไปในซองแล้วคว้าเอาสิ่งที่อยู่ด้านในออกมาถือไว้ และเขาก็ได้พบว่าสิ่งที่อยู่ในมือคือตุ๊กตาไม้รูปร่างเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ สองคน

‘รักยม!!!’

ชื่อเรียกของตุ๊กตาไม้ผุดขึ้นมาในหัวพร้อมกับแสงสว่างวาบที่ขับไล่เงามืดจนสติสมาธิกลับกลายเป็นปลอดโปร่งอย่างที่ควรเป็น เวลานี้เขาทราบแล้วว่าสิ่งใดคือความจริง สิ่งใดคือมายา

“พี่เอกหยุดทำไมคะ?”

สาวสวยที่ยังคงอยู่ในท่วงท่ายืนโก้งโค้งส่งเสียงอ่อนหวานถามไถ่ แต่ว่าใบหน้าของชายหนุ่มที่ร่วมรักอยู่ด้านหลังกลับแปรเปลี่ยนไปเป็นใบหน้าอันเคร่งขรึมจริงจังใบหน้าหนึ่งโดยที่เธอไม่อาจสังเกตเห็น

ใบหน้านั้นยังคงอ่อนเยาว์และหล่อเหลาเฉกเช่นก่อนหน้า หากทว่าแววตากลับแปรเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แววตานั้นกลายเป็นสีดำเข้มคล้ายทะลักไปด้วยพลังอำนาจอันแข็งแกร่งขุมหนึ่ง ทั่วร่างก็เริ่มแผ่ซ่านด้วยกลิ่นอายแห่งมนตราโบราณอันลึกล้ำ พนักงานธรรมดาคนหนึ่ง กลับแปลงร่างกลายเป็นสุดยอดนักรบผู้หนึ่งแล้ว

เอกไม่ได้ส่งเสียงตอบรับอันใด เขาเพียงก้มมองแผ่นหลังของสาวสวย แล้วแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะยกสองมือขึ้นพนมขมุบขมิบปากร่ายมนตราขึ้นมาบทหนึ่ง จากนั้นยันตร์อักขระสีดำมืดที่ไม่ทราบความหมายก็ผุดโผล่ปรากฎขึ้นมาบนร่างกำยำราวกับรอยสัก เพียงแต่นั่นเป็นรอยสักที่เคลื่อนไหวได้

สาวสวยที่ฟุบหน้าบนโต๊ะยังคงไม่รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ ทั้งไม่รับรู้ด้วยว่าอักขระสีดำมืดส่วนหนึ่งได้เคลื่อนไหวลงไปยังบริเวณแก่นกายของชายหนุ่มจนทำให้สีคล้ำกลับกลายเป็นสีดำเข้มประดุจความมืดที่สามารถดูดกลืนซึ่งทุกแสงสี

“พี่เอกคะ ได้โปรด อย่าแกล้งหญิงแบบนี้ซิคะ … อ๊ะ … อ๊ะ … อ๊าา …. อ๊ายยยยยยยย”

โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว สาวสวยเอ่ยปากยั่วเย้าอีกครั้ง และคราวนี้เธอก็ได้รับมันตามคำขอ เพียงแต่อาจจะมากกว่าที่เธอคาดคิดอยู่บ้าง เพราะว่าสิ่งนั้นที่อัดแน่นอยู่เต็มร่องเริ่มขยับขยายจนใหญ่ขึ้นมาอีกส่วนหนึ่งจนเธอจุกเสียดร่ำร้องเสียงหลง

จากนั้นอาการหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวของเขา ก็กลับกลายเป็นการเคลื่อนไหวที่เหมือนกับพายุหมุนลูกหนึ่ง ดุ้นเอ็นขนาดใหญ่ยักษ์โหมกระแทกใส่ร่างบอบบางดังปั้กปั้กสนั่นหวั่นไหว

นั่นเป็นความเมามันที่กระตุ้นจนสาวสวยหัวหมุนติ้ว เธอเริ่มซบหน้าลงบนพื้นโต๊ะแล้วหลับตาปี๋จิกมือเกร็งแน่น ใบหน้าสวยหวานกลายเป็นบิดเบี้ยวเหยเก ริมฝีปากสวยอ้าเหวอปล่อยให้น้ำลายไหลย้อยลงไปเปรอะเลอะนพื้นโต๊ะ

ขณะที่เธอร่ำร้องครวญครางปริ่มจะขาดใจนั้น เรือนร่างงามก็แทบไม่มีส่วนใดเลยที่ไม่โดนฝ่ามือหยาบกร้านบีบขยี้ โดยเฉพาะที่สองเต้าอวบนั้นล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยริ้วรอยแดงจ้ำ

“พี่เอก … อ๊ะ … อ๊ะ … ไม่ใช่ … นี่เจ้ารู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน … อ๊ะ อ๊ะ อ๊ายยยยย”

เธอร่ำร้องครวญครางเสียงแว่วหวาน หากทว่าเมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง สาวสวยก็เหมือนจะเริ่มรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง น้ำเสียงจึงกลายเป็นเกรี้ยวกราดคลั่งแค้น หากทว่าในสภาพที่โดนเขาจับกระทำชำเราเช่นนี้ เสียงนั้นจึงค่อยอ่อนลง และกลายเป็นเสียงครางอย่างมีความสุขในที่สุด

แรงกระแทกแฝงพลังอาคมปลุกสวาทรอบแล้วรอบเล่า ทำให้เธอหัวสมองมึนงงเฉกเช่นเดียวกับที่เธอเคยทำให้เขาเป็น เธอคล้ายลืมไปแล้วว่าเธอกระทำเช่นนี้เพื่อสิ่งใด ในหัวสมองเพียงรู้สึกได้ถึงความสุขสมที่เปี่ยมล้นทะลักทะลายราวน้ำหลาก

“คืนร่างเดิมได้แล้วล่ะ ราตรี”

ขณะที่ใช้เรี่ยวแรงร่วมรักกับสาวสวยปริศนา เอกร่ายคาถาและใช้ปลายนิ้วขีดเขียนอักขระมนตราลงบนแผ่นหลังเรียบเนียนนั้นอย่างคล่องแคล่ว กระทั่งเมื่ออักขระนั้นเสร็จสมบูรณ์ เรือนร่างอันงดงามของสาวสวยคนนั้นก็กระตุกสะดุ้งโหยงราวกับโดนไฟฟ้าช๊อต

เรื่องราวแปลกประหลาดเกิดขึ้นมาอีกครั้ง เรือนร่างอันขาวผ่องงดงามมิได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่ส่วนสูงของเธอลดลงไปเล็กน้อยกลายเป็นเด็กสาววัยมัธยมปลาย สะโพก และทรวงอกที่อวบอิ่มเกินตัวก็ยุบหดลงไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าลดลงไปมากนัก เพราะรูปร่างทรวดทรงยังคงดูอวบอิ่มเกินใบหน้าสวยใสนั้นอยู่ดี

ที่แปรเปลี่ยนไปมากที่สุดนั้นคงจะเป็นใบหน้าที่สวยหวานดุจเทพธิดา ความสวยและเสน่ห์นั้นดูจะด้อยลงไปเล็กน้อย แต่ว่าเค้าหน้าแปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นั่นเป็นความสวยที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งที่ไม่เคยหลอมละลาย

“เราทะเลาะกันในโลกความฝันนั่นตั้งสองปีกว่าแล้ว ยังไม่เบื่ออีกเหรอราตรี? สงครามก็จบลงไปแล้ว เจ้านายของเธอก็สูญสลายไปแล้ว … อีกอย่างเหตการณ์จริง ๆ มันก็ผ่านไปหลายพันปีแล้ว เธอจะปล่อยวางแล้วไปสู่ภพภูมิใหม่ไม่ดีกว่าหรอกหรือ?”

เอกพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มสุขุมทรงพลังเสียงหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันนั้นบั้นเอวก็ยังคงเร่งกระเด้าใส่แบบไม่ยั้ง ราวกับว่าอยากทำให้หญิงสาวชื่อราตรีสำลักความสุขตายไปข้าง

“เจ้า!!! อ๊ะ อ๊ะ … โอววว … เจ้า … ครั้งนี้ถือว่าเจ้าชนะ แต่ข้าไม่มีวันหยุด ข้าตั้งสัตย์สาบานแล้ว ว่าจะตามล้างตามรังควาญเจ้าทุกชาติไป เจ้าชายเอกาวายุ นั่นเป็นความแค้นที่เจ้าทำลายล้างเจ้านายของข้า เจ้าทำลายล้างผู้ที่เป็นเหมือนบิดาแห่งข้า หนี้แค้นนี้ข้าไม่มีวันลืม แม้จะผ่านพ้นไปอีกกี่หมื่นกี่แสนปีก็ตามที”

ราตรีพูดตอบด้วยน้ำเสียงขุ่นแค้น แต่รสเสียวที่โดนมอบให้นั้น ได้ทำให้มันกลายเป็นเสียงที่ฟังดูอ่อนหวานราวกับหญิงสาวที่บอกรักสามีก็มิปาน

“ซี้ดดดสสส ข้าจะไม่มีวันหยุดแค้นเจ้า ข้าจะตามล้างตามผลาญเจ้าทุกชาติไปโอ๊ววววววววววววววว อะ โอออวววววววววว เจ้า … เจ้าชาย … ไม่ … ไม่ … ข้าไม่มีวันยอมรับเจ้า … อ๊ายยยย”

ภายหลังเสียงขุ่นแค้นไม่นาน รสกามก็นำพาจนร่างงามของหญิงสาวที่ยังโตเต็มที่กระตุกเฮือก ๆ อย่างรุนแรงอีกรอบหนึ่ง และคราวนี้ดุ้นเอ็นของเขาก็เป็นฝ่ายแฝงแรงดูดอันลึกล้ำ ดึงดูดเอาพลังมนตราที่เธอดูดเอาไปในคราวแรกกลับไปจนหมด อีกทั้งยังดูดเอาพลังมนตราที่เป็นของเธอไปด้วยอีกส่วนหนึ่ง ราตรีจึงกลายเป็นหมดเรี่ยวแรงนอนหอบเหนื่อยไม่สามารถกระดุกกระดิกได้อย่างแท้จริง

“เฮ้อ … เอาเถอะ … แต่ครั้งนี้เธอฉลาดมากราตรี เธอเป็นภูตความฝันที่ร้ายกาจที่สุด … เธออดทนรอคอยอยู่ในนั้นจนผมกลับเข้าไปอีกครั้ง อดทนรอคอยจนถึงเวลาที่ผมผ่อนคลายที่สุด รอคอยกระทั่งตอนที่ผมกลับจากมิตินั้นเพื่อกลับไปสู่โลกของกายหยาบ รอคอยช่วงเวลาที่ผมเต็มไปด้วยความหวังว่าจะได้พบเจอผู้หญิงที่ผมรักที่สุด”

เอกพูดพลางถอนกายออกจากเรือนร่างสาววัยมัธยมปลาย เขาจับประคองเธอขึ้นมาโอบกอดไว้จนให้ความรู้สึกแปลกประหลาดไม่คล้ายว่าทั้งคู่เป็นศัตรูที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกได้อย่างที่เธอสื่อ จากนั้นเขาก็กวาดมือซึ่งมีอักขระมนตราสีดำมืดไปทางซ้ายทีขวาที และผลก็คือภาพสถานที่ทำงานนั้นเริ่มบิดเบี้ยววูบไหว ก่อนจะสั่นพร่าและแตกสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลงเหลือไว้เพียงความมืดที่ห้อมล้อมทั้งคู่เอาไว้

“ใช่แล้ว ถ้ายายแก่น่ารังเกียจนั่นไม่มาช่วยเจ้าล่ะก็ เจ้าจะต้องพลาดท่ากลายเป็นทาสของข้าอย่างแน่นอน เจ้าขี้โกง ทุกครั้งที่ข้าใกล้ลงมือสำเร็จ จะต้องมีคนมาช่วยเหลือเจ้าทุกคราไป”

“ราตรี เธอรู้เหรอว่ายายคนนั้นคือใคร?”

“เฮอะ เจ้าชายเอกาวายุที่กำราบอริราชศัตรูทั้งสามโลกเอย อะไรที่เจ้าอยากรู้ อะไรที่เจ้าอยากได้ ข้าไม่มีทางบอก ไม่มีทางมอบให้เด็ดขาด ไม่มีทางแม้แต่จะฝันถึง”

ราตรีมองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว เธอพยายามฝืนพูดให้แลดูเข้มแข็ง ทั้งที่เรี่ยวแรงนั้นโดนเขาดูดกลืนไปจนแทบหมดสิ้น

เอกก้มลงมองดูสาวสวยด้วยแววตาอบอุ่น ก่อนจะก้มลงไปประกบปากจูบครั้งหนึ่ง เด็กสาวคล้ายคาดไม่ถึงว่าเขาจะทำเช่นนี้จึงเบิกตาค้างตื่นตะลึงตัวแข็งทื่อ แต่เมื่อโดนเขาสอดลิ้นเข้าไปพัวพัน อารมณ์ของเธอก็กลายเป็นปั่นป่วน ลมหายใจหนักหน่วงสับสน อารมณ์ใคร่ที่ใกล้มอดดับคล้ายโดนน้ำมันไวไฟสาดเข้าใส่จนลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

“เอาเถอะ … เธออาจจะตั้งสัตย์สาบานกับปีศาจตัวนั้น แต่ผมขอบอกไว้เลย ว่าผมไม่เคยคิดว่าเธอเป็นศัตรู เราจะเลิกอาฆาตกัน แล้วมาดีต่อกันบ้างได้มั้ย?”

หลังมอบรสจูบอันลึกล้ำจนเด็กสาวเคลิบเคลิ้ม เขาก็จ้องมองเธอด้วยแววตาอบอุ่นอ้อนวอน เด็กสาวก็คล้ายสตรีไร้เดียงสาคนหนึ่งที่โดนคนที่ชอบพอบอกรัก เพียงแต่นั่นเป็นเวลาเพียงแค่วูบเดียว เพราะถัดจากนั้นเธอก็ออกแรงผลักไสเขาออกห่าง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดอาฆาตแค้น

“ไม่มีวัน!!! ข้าจะติดตามเจ้าไป แม้ว่าคราวนี้ข้าจะพลาด แต่ข้าจะติดตามเจ้าไปยังโลกกายหยาบอีกครั้ง และจะรอคอยโอกาสในห้วงความฝันของเจ้า เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าผ่อนคลายพลั้งเผลอ ข้าจะฉวยโอกาสนั้นทำให้วิญญาณเจ้ากลายเป็นทาสของข้าไปตลอดกาล หากเจ้าอยากหยุดสิ่งนี้ เจ้ามีทางเลือกเดียว คือทำลายวิญญาณของข้าซะ”

“ราตรี … เธอก็รู้ว่าผมไม่มีทางทำแบบนั้น”

เอกพูดตอบน้ำเสียงเกรี้ยวกราดนั้นด้วยน้ำเสียงร้องขอ แววตานั้นทอประกายอบอุ่นน่าเวทนา และนั่นทำให้แววตาที่แดงฉานของราตรีทอประกายสับสนวุ่นวายกว่าครั้งใด แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ยังไม่ยอมรับคำร้องขอของเขา เธอเพียงส่งเสียงเฮอะ แล้วเลือนหายไปในความมืด

เขารู้ดีว่าเธอไม่ได้หายไปไหน แต่ยังคงเกาะอยู่กับจิตของเขาราวกับกาฝาก เขาไม่มีทางสลัดหลุดเธอได้พ้น นอกจากทำลายล้างจิตวิญญาณของเธอให้สิ้นซาก แต่ว่าเขากลับไม่อาจทำใจทำเช่นนั้นได้ กระนั้นก็ยังดีที่ต่อให้ราตรีตามกลับไปยังโลกของกายหยาบ เธอก็มิได้มีอำนาจอะไรพิเศษ นอกจากคอยสร้างสถานการณ์ล่อลวงยามที่ดวงจิตของเขาผ่อนคลายหรืออ่อนแอเท่านั้น

“เอาเถอะ อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดอยู่วันยังค่ำ รีบกลับไปหาน้องหญิงดีกว่า อยู่ในนี้มาสองปีกว่า ไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นเวลาผ่านไปแค่ไหนแล้ว”

เอกส่ายศีรษะไปมาด้วยความจำยอม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอคิดดูดพลังของเขา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอพลาดท่า และนี่ย่อมไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เธอจะกระทำ

เขาพยายามปลงตกต่อความโชคร้ายของตนเองอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ เมื่อนึกถึงสิ่งที่รอคอยอยู่ในโลกแห่งกายหยาบ เขารีบพนมมือร่ายบริกรรมคาถาหนึ่ง ก่อนที่ร่างเหมือนมนุษย์จะเลือนสลายหายไปเป็นดวงวิญญาณสีดำมืดดวงหนึ่ง จากนั้นดวงวิญญานก็เริ่มเคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่มีจุดแห่งแสงสว่างเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปจนประมาณระยะทางไม่ได้

เขากลับมาแล้ว!!!

…………………………

Share the Post:

Related Posts

ก็รปภ. เขาควยใหญ่นี่คะ

เรื่องเสียว ก็รปภ. เขาควยใหญ่นี่คะ ทักทายทุกคนค่ะ ชื่อ นุ่น นะคะ วันนี้ก็มีประสบการณ์เซ็กที่อยากจะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังค่ะ เป็นเรื่องราวของตัวนุ่นเอง กับยามประจำคอนโดที่นุ่นอาศัยอยู่ค่ะ ตัวของนุ่นเอง เป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองพัทยาค่ะ ที่คอนโดของนุ่นเป็นคอนโดที่อยู่ลึกมาก กลางคืนจึงค่อนข้างดูอันตรายค่ะ ถึงอย่างนั้นแล้วก็ไม่เป็นปัญหากับนุ่นเท่าไหร่ เพราะแถวนั้นก็พอมีชาวบ้านอาศัยอยู่ ด้วยความที่ตัวของนุ่นทำอาชีพเป็นเด็กเอ็นน่ะค่ะ เลยทำให้ในทุก

Read More

รสสวาทหนุ่มโรงงานสุดเงี่ยน

เรื่องเสียว รสสวาทหนุ่มโรงงานสุดเงี่ยน ฉันชื่อ “มะนาว” ค่ะ เด็กบ้านนอกที่หมายมั่นอยากมาเห็นเมืองกรุงฯ ที่แสนศิวิไลซ์ ดังนั้น พอจบ ม.6 ที่บ้านนอกแล้ว เลยไม่ได้เรียนต่อ ประกอบกับ ป้าของฉันที่เปิดร้านอาหารตามสั่งอยู่แถวๆ สามโคกที่ปทุมก็อยากให้มาขายของด้วย เพราะที่นี่มีโรงงานและค่อนข้างขายดีมากๆ จนบางครั้งแกก็ขายไม่ทัน เลยอยากให้ฉันมาขายก๋วยเตี๋ยว โดยให้เงินลงทุน ที่หลับที่นอน

Read More