รักยม ตอนที่ 34 แมวเฝ้าปลาย่าง

รักยม ตอนที่ 34 แมวเฝ้าปลาย่าง

รักยม ตอนที่ 34 แมวเฝ้าปลาย่าง

      ในห้องพักฟื้นคนไข้ ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใจกลางเมืองหลวง 


………………………………………………………….. 

ภาพที่ปรากฎอยู่ในห้องพยาบาลขณะนี้ค่อนข้างดูแปลกตาไปซักหน่อย เมื่อชายหนุ่มในชุดแพทย์สีขาวที่ควรจะทำหน้าที่ตรวจอาการคนไข้ 
กลับนอนนิ่งสลบไสลอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้อง ปล่อยให้ ปู สาวสวยในชุดคนไข้นอนหลับนิ่งหายใจราบเรียบสม่ำเสมอ อยู่บนเตียงพักฟื้น โดยมี 

เอกนั่งคร่อมที่บริเวณเอวของเธออยู่ เขาหลับตาพนมมือบ่นพึมพัมอะไรบางอย่างอยู่ในลำคอเบา ๆ ซุ้มเสียงทุ้มต่ำเป็นภาษาแปลกหูที่ยากจะทำ 
ความเข้าใจได้ หากแต่มันกลับแฝงไปด้วยพลังอำนาจบางอย่าง ที่รู้สึกสัมผัสได้อบอวลอยู่รอบ ๆ ตัว ที่ด้านข้างของเขาฝ้ายพยาบาลสาวสวยนั่ง 
มองดูเหตการณ์ด้วยความสงสัยใคร่รู้ โดยที่ด้านก็มีเก่งนั่งกุมมือของปูอยู่อย่างเป็นห่วงเป็นใย 

ฝ้าย พยาบาลสาวดูจะมีท่าทีงง ๆ และยังไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องผีสางวิญญาณที่เอกเล่าให้ฟังมากนัก ชีวิตของเธอเรียกว่าได้สัมผัสอยู่กับความเจ็บ 
ป่วยความตายแทบจะตลอดเวลา แต่ก็ไม่เคยเจอะเจอกับอะไรที่เข้าข่ายจะเรียกได้ว่าภูติผีวิญญาณเลยแม้แต่ซักครั้งเดียว หากแต่เธอเองก็ไม่ 
อาจจะหาเหตผลกลใด มาอธิบายสิ่งที่ทำให้เธอเผลอตัวเผลอใจ ยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้นายเก่งเชยชมร่างงามของเธอไม่ได้เลย อีกทั้งยังดวง 
ตา สีเขียวแวววาวน่ากลัวราวผีนรกของปูคนไข้ที่นอนหลับไม่ได้สติมาหลายวันนั่น อีก แม้จะไม่อยากเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก แต่เหตการณ์ที่เกิด 
ขึ้นก็ทำ ให้เธอรู้สึกว่าเรื่องราวลี้ลับที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ดูจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้เป็นอย่างดีที่สุด 

เอกที่นั่งคร่อมอยู่บนร่างของปูกำลังบริกรรมคาถาอะไรบางอย่าง ตามเสียงบอกของรักยมที่แว่วดังบอกไว้ในโสตประสาทอย่างมีสมาธิ สีหน้า 
ทะเล้น ขี้เล่นที่ปรากฎอยู่เสมอ ๆ กลับเป็นสีหน้าเอาจริงเอาจังอย่างที่ไม่อาจจะได้พบเห็นบ่อยเท่าไหร่นัก ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนทั่วร่างมีพลังบาง 
อย่างไหลเวียนไปมาอย่างรวดเร็ว ไปพร้อมกับกระแสเลือด และเมื่อพลังสมาธิก่อเกิดมากยิ่งขึ้น เขาก็รับรู้ได้ถึงพลังมากมายมหาศาลที่ไหลเวียน 
อยู่รอบตัวอย่างไม่หยุด ยั้งเหมือนยืนอยู่ท่ามกลางพายุลมอันเชี่ยวกรากรุนแรง ใบหน้าคมสันนั้นขมวดคิ้วแน่นด้วยกริ่งเกรงว่าตนเองจะล่องลอย 
หายไปตามกระแสพลังอันรุนแรงที่ไหลเวียนไม่รู้จบ เม็ดเหงื่อไหลซึมที่หน้าผากจนชุ่มทั้ง ๆ ที่อากาศในห้องนั้นกำลังเย็นชุ่มฉ่ำสบาย 

แม้จะไม่เข้าใจนักว่าเอกกำลังทำอะไร แต่ฝ้ายพยาบาลสาวสวยก็ถึงกับต้องเพ่งมองใบหน้าชู้รักของตัวเองอย่างชื่นชมและหลงไหล เธอรู้สึกว่า 
ใบ หน้าที่กำลังเคร่งเครียดเอาจริงเอาจังของเอกช่างดูมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอเองก็กำลังตกเป็นเป้าสายตาของนายเก่ง แฟน 
หนุ่มของปูคนไข้สาวไปพร้อมกัน เก่งที่จับมือของแฟนสาวตัวเองแน่นด้วยความรักและเป็นห่วง กลับอดใจไม่ได้ที่จะต้องเผลอมองตามเรือน 
ร่าง สวยของพยาบาลสาวที่เค้าเกือบจะได้ชื่อว่าเป็นผัวของเธออยู่รอมร่อ เขานึกไปก็รู้สึกเสียดายไม่น้อยเลยทีเดียว ขณะที่เหม่อมองดวงตากลม 
โต จมูกโด่ง ๆ ปากเรียวงามได้รูปของเธออย่างว้าวุ่นใจ ไหนจะทรวงอกอวบอิ่มที่ดันเอาชุดพยาบาลสีขาวนั้นออกมาเป็นก้อนกลมสวยอีก เสน่ห์ 
อันร้อนแรงของฝ้ายพยาบาลสาวสวยทำเอาเก่งใจเต้นแรง อารมณ์ปั่นป่วนอยู่ตลอดเวลา เมื่อชำเลืองมองเทียบกับปูแฟนสาวของเขาแล้ว 

พยาบาลสาวคนนี้ดูจะมีเสน่ห์ยั่วยวนเพศตรงข้ามมากกว่า เขารู้สึกผิดที่แอบคิดนอกใจแฟนสาวของตัวเองแบบซึ่ง ๆ หน้า ทั้ง ๆ ที่เธอยังนอน 
สลบ ไสลไม่ได้สติอยู่ และยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าแอบคิดมิดีมิร้ายกับแฟนของเอกชาย หนุ่มที่คิดจะช่วยเหลือแฟนสาวของเขา เก่งพยายาม 
ตั้งสติเพื่อหยุดคิดฟุ้งซ่าน หากแต่เสน่ห์อันล้นเหลือของพยาบาลสาว และความต้องการทางเพศที่ยังไม่ได้ระบายออก ก็ยังคงทำเอาเค้าต้องแอบ 
เผลอมองตามเป็นระยะอยู่ดี 

เวลาผ่านไปเกือบ 15 นาทีแล้วที่เอกร่ายบริกรรมคาถา อยู่ ๆ เขาหยุดการร่ายคาถานั้นและลดมือลงวางบนต้นขาตัวเอง พร้อมกับลืมตาตื่นขึ้น 
ด้วย ประกายตาสดใสเจิดจ้า ทั่วร่างราวกับเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจแห่งมนตรา ฝ้ายที่เพ้อมองตามใบหน้าหล่อคมสันนั้นอยู่ เมื่อสบตาเข้ากับสาย 
ตาคมกริบ แฝงแววจริงจังที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนนั้น ก็ทำเอาเธอรู้สึกวูบวาบใจหวิวสั่นสะท้าน เธอไม่เคยรู้จักชายหนุ่มชู้รักของตัวเองในแง่มุม 
นี้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย ภาพที่เธอคุ้นชินคือชายหนุ่มนักรักขี้เล่น เธอคิดว่าเค้าช่างดูดีมีเสน่ห์ไปอีกแบบเมื่อทำอะไรเป็นจริงเป็นจังแบบนี้ 

” คุณเอก ผมคิดว่ามันอันตรายเกินไป มีหมอผีหลายคนแล้วที่เป็นอันตรายเพราะวิธีนี้” เก่งหน้านิ่วคิ้วขมวดร้องเตือนเอก เมื่อเห็นว่าเอกลืมตาตื่น 
ขึ้นมา เก่งก็พอจะมีความรู้ในเรื่องไสยศาสตร์พวกนี้อยู่มิใช่น้อย ศาสตร์การถอดจิตนั้นเป็นวิชาขั้นสูงมาก แต่การเข้าไปในจิตใจคนอื่นนั้นกลับ 
ยิ่งสูงกว่า หมอผีจำนวนน้อยคนนักที่จะมีความสามารถในระดับนี้ได้ ความจริงเค้าควรจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มที่อายุแค่ 20 กว่า ๆ จะ 
สามารถทำได้ หากแต่มีอะไรบางอย่างในตัวเอกที่ทำให้เค้ารู้สึกเชื่อว่า ชายหนุ่มคนนี้สามารถทำได้หากเค้าต้องการทำ และยิ่งเมื่อเห็นเอก 
สามารถ ร่ายบริกรรมคาถายาก ๆ ได้อย่างคล่องปาก และไหนจะพลังมนตราที่ไหลเวียนไปทั่วร่างของเอกจนเขารู้สึกสัมผัสได้อีก ก็ยิ่งทำให้รู้สึก 
มั่นใจว่า เขาสามารถเชื่อใจผู้ชายคนนี้ได้ แต่ถึงกระนั้นความกังวลใจก็ยังคงรบกวนเค้าอยู่ตลอดเวลา ความจริงแล้วเขาก็เคยพาแฟนสาวไปหา 
หมอผีชื่อดังมาแล้ว และผลก็คือหมอผีคนนั้นสลบเหมือดไม่ได้สติอีกเลย หลังจากที่ถอดจิตเข้าไปในใจของแฟนสาว แม้ว่าเขาอยากจะให้แฟน 
สาวฟื้นขึ้นมาเพียงใด แต่เค้าเองก็ไม่อยากให้คนที่เค้าเพิ่งจะรู้จักวันแรกต้องมาเสี่ยงตัวเองเพื่อช่วยแฟนของเค้าขนาดนี้ 

“ผมคิดว่ามันคงเป็นวิธีเดียวครับ และเราคงรอเวลาไม่ได้ อีกอย่างผมก็ตัดสินใจแล้วด้วย” เอกตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่กลับบ่งบอกได้ถึง 
ความมุ่งมันอย่างที่สุด สายตาจริงจังของเขาบ่งบอกเจตนาอย่างชัดเจนแล้ว ว่ายากที่จะเปลี่ยนใจเขาได้ 
” พี่เอก …” ฝ้ายพยาบาลสาวชู้รักของเอกพอจะเข้าใจสิ่งที่เอกพยายามพูดอยู่บ้าง แม้เธอจะยังไม่ปักใจเชื่อไปซะทั้งหมด แต่ก็รู้สึกกลัวทันที 
เมื่อเก่งเอ่ยปากเตือนถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ 
“ไม่เป็นไรหรอกฝ้าย มีแฟนสวยขนาดนี้ ไม่ยอมเป็นอะไรง่าย ๆ อยู่แล้ว” เอกมองไปทางฝ้ายอย่างรักใคร่ 
“แต่ฟังดูแล้ว มันอันตรายมากเลยนะ พี่เอกแน่ใจแล้วเหรอ” เธอใจชื้นขึ้นนิดหน่อยที่เห็นคนรักยังคงแฝงไปด้วยความทะเล้นเหมือนเดิม แต่ 
กระนั้นก็ยังคงรู้สึกกังวลใจในสิ่งที่เขากำลังจะทำอยู่ดี 
“มันอันตรายครับ และออกจะเป็นการกระทำที่โง่มากด้วย …. แต่หากไม่ทำผมก็จะเสียใจไปตลอดชีวิต” เอกตอบน้ำเสียงหนักแน่น 
” พี่เอก …” ฝ้ายพูดเสียงอ่อน เมื่อรับรู้ได้ว่าคงไม่อาจที่จะเปลี่ยนใจชู้รักคนนี้ได้ แต่นั่นก็ทำให้เธอก็รู้สึกดีเหมือนกันที่ชายหนุ่มคนนี้มีจิตใจที่จะ 
ช่วยเหลือคนอื่นอยู่ไม่น้อย เธอได้แต่บีบมือของเอกจนแน่น เธออยากจะไปช่วยแฟนหนุ่มของเธอเหลือเกินไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม 
” ถ้าอย่างงั้นพี่เอกระวังตัวด้วยนะคะ” ฝ้ายพูดต่อพร้อมกับใบหน้าสวยนั้นเข้าไปจูบแก้มของเอกเบา ๆ อย่างรักใคร่ ทำเอาเก่งที่มองอยู่ใกล้ ๆ 
รู้สึกได้ถึงไฟแห่งความอิจฉาในใจที่กำลังลุกโชนขึ้นมาช้า ๆ โดยไม่อาจควบคุม 
“อืม พี่จะกลับมาให้ได้อย่างปลอดภัยที่สุด” เอกตอบกลับพร้อมด้วยรอยยิ้มอันแสนอบอุ่น 

” งั้นผมไปล่ะนะ คุณเก่งฝากดูทางนี้ด้วยนะครับ” เอกหันไปมองทางเก่งที่พยักหน้าตอบรับ ก่อนที่จะหลับตาทำสมาธิให้นิ่งตามที่รักยมได้บอกไว้ 
ถึงแม้ปกติแล้วเอก ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการทำสมาธิวิปัสณาอะไรมากนัก หรือเรียกได้ว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความที่เคยผ่าน 
ประสบการณ์ เฉียดตายมาแล้ว เมื่อผนวกกับจิตใจแห่งความแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือนั้น ก็ทำให้ตัวเค้าเริ่มเข้าสู่โลกแห่งสมาธิขั้นสูงได้โดยไม่ยาก 
นัก เขานั่งทำสมาธิเพียงไม่นานนักก็รู้สึกได้ว่าเสียงต่าง ๆ เริ่มหายไปจากโสตประสาทเรื่อย ๆ เสียงดังหึ่งเบา ๆ ของเครื่องปรับอากาศที่ทำ 
งานอยู่ได้เงียบลง รอบตัวนั้นดูจะเงียบกริบราวกับไร้ซึ่งสรรพสิ่งใด ๆ สัมผัสอุ่น ๆ นุ่ม ๆ ของมือพยาบาลสาวที่บีบอยู่แน่นนั้นก็เริ่มจางหายไป 
เอกรู้สึกราวกับ ร่างกายกำลังล่องลอยเบาหวิวไร้น้ำหนัก เขาเริ่มสัมผัสได้ถึงพลังที่อาจอธิบายได้ไหลเชี่ยวกรากอยู่รอบตัวอีกครั้ง และเมื่อเขา 
บริกรรมคาถาจนจบ ก็เหมือนมีแสงสว่างวาบไปทั่วในห้วงแห่งความคิด และเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเขากำลังลอยล่องอยู่ในที่อันมืดมิดไร้ซึ่ง 
แสงสว่าง สิ่งมีชีวิต และสรรพสิ่งใด ๆ 

” พ่อจ๋า” เอกหันไปมองด้านข้างตามเสียงเรียก ก็เห็นเด็กน้อยสองคนหน้าตาน่ารักน่าชังยืนยิ้มรออยู่ รักยมนั่นเอง เอกรู้สึกได้ว่ารูปลักษณ์ของ 
เด็กสองคนนี้ดูจะแปลกตาไปกว่าครั้งล่าสุด ที่เคยเห็นไม่น้อย ครั้งก่อนนั้นเด็กสองคนผิวกายดูซีดเซียวราวกับเป็นภูติผีวิญญาณ หากแต่วันนี้ดู 
พวกเค้ามีน้ำมีนวลขึ้นมาแลดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ จนดูเหมือนเด็กน้อยที่มีชีวิตอีกทั้งยังจ้ำม่ำน่ารักน่าชังไม่น้อย 
“เจอกันอีกแล้วนะเรา นี่แสดงว่าพ่อทำสำเร็จล่ะซิ” เอกก้มลงดูร่างที่ดูเหมือนจะโปร่งแสงของตัวเอง นี่มันเหมือนกับประสบการณ์เฉียดตายใน 
ครั้งที่ช่วยน้องหญิงแล้วโดนยิงจนตัวเองเกือบตายเลยทีเดียว 
“ใช่จ้ะ พ่อทำสำเร็จไป 1 ขั้นแล้ว พวกหนูยังรู้สึกแปลกใจเลยว่าพ่อทำได้ค่อนข้างง่ายกว่าที่คิด” เด็กน้อยสองคนพูดตอบเสียงใส 
“พ่อเป็นคนเก่งอยู่แล้วนี่ เรื่องแค่นี้สบายมาก … เอ้าไปกันเถอะ” เอกตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้สองเด็กน้อย 

” พ่อจ๋า แต่ต้องระวังผีสาวนั่นด้วยนะ มันยังไม่หมดฤทธิ์ซะทีเดียว มันยังคงอยู่ในร่างของพี่สาวคนนั้น จนกว่าพี่สาวจะกลับมาควบคุมร่างอีกครั้ง” 
“แต่ไม่ต้องกลัวอะไร พวกหนูอยู่ด้วย ผีสาวตนนั้นทำอะไรพ่อกับพี่สาวคนนี้ไม่ได้แน่” 
“อ้าว พ่อนึกว่าปราบไปแล้วซะอีก” เอกถามสีหน้าสงสัย และออกแนวกังวลเล็กน้อย 
” แค่ทำให้มันหมดฤทธิ์เฉย ๆ จ้ะ แต่มันยังคงอยู่ในร่างของพี่สาวคนนี้ ถ้าใครที่ถอดจิตเข้ามาโดยไม่ระวัง อาจจะโดนเล่นงานได้” รักยมพูดต่อ 
“อืม ก็มีแค่พวกเรานี่นา งั้นคงไม่มีอะไรมั้ง งั้นก็ไปกัน” 
“พ่อจ๋า …..” รักยมดึงมือของเอกไว้ มองหน้าผู้เป็นพ่อเหมือนไม่อยากจะให้ไปเสี่ยงเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้พูดห้ามออกมา 
“มีอะไรล่ะลูก หือ …” 
“พ่อจะไปจริง ๆ เหรอ ถ้าพ่อเป็นอะไรไปแล้วพวกหนูจะอยู่ยังไงล่ะ” รักยมพูดน้ำเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้ออกมา 
” พ่อไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าเป็นอะไร ก็ไปอยู่กับแม่นะ แล้วก็ฝากดูแลแม่ด้วย …. ฝากบอกด้วยล่ะว่าพ่อรักแม่ที่สุด” เอกพูดยืนยันเสียงแข็ง 
ทำเอาเด็กน้อยสงคนมองหน้ากันตาละห้อยเหมือนไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่นัก 

“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน … รักยม” เอกพูดพลางมองหน้าเด็กน้อยทั้งสอง 
“พ่อเปลี่ยนใจเหรอจ๊ะ” รักยมพูดเหมือนจะรู้สึกดีใจเล็กน้อย พวกเค้าเองก็ไม่อยากจะให้พ่อตัวเองไปเสี่ยงซักเท่าไรนัก 
” เปล่าหรอก พ่อแค่จะบอกว่า พ่อดีใจนะ ที่มีโอกาสได้พบกับลูกทั้งสองคน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ชาติหน้าขอให้เราได้พบกันใหม่ พ่อรักลูกทั้งสอง” 
เอกก้มตัวลงไปสวมกอดร่างวิญญาณของเด็กน้อยทั้งสองคนอย่างแนบแน่นและอบอุ่น แม้จะเพิ่งเจอะเจอกันมาไม่นานนัก แต่ความผูกพันของ 
เด็กน้อยสองคนนี้สำหรับเค้าซึ่งอยู่คนเดียวแบบไร้ญาติมิตรมาตลอดแล้ว ก็เทียบได้เหมือนพ่อกับลูกแท้ ๆ เลยทีเดียว 
“พ่อจ๋า ฮืออ ฮือออ” สัมผัสอบอุ่นแห่งความรักความห่วงใยที่พวกเค้าโหยหาและไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนานจนแทบจะจำไม่ได้ ทำเอาเด็กน้อยทั้ง 
สอง ถึงกับน้ำตาซึมออกมาจนต้องร้องไห้โฮอย่างไม่อาจจะอดกลั้นต่อไปได้อีก มันเป็นความรู้สึกที่พวกเค้าไม่เคยได้รับสัมผัสมานานมากแล้ว 
ความ จริงแล้วหากไม่นับที่พวกเค้าเป็นวิญญาณและมีอิทธิฤทธ์มากมายแล้วล่ะก็ พวกเค้าก็มีอารมณ์ความรู้สึกเฉกเช่นเดียวกับเด็กน้อยทั่วไปที่ 
ต่างก็ต้องการคนดูแลที่มอบความรักความอบอุ่นเหมือน ๆ กัน พวกเค้ากอดร่างวิญญาณของพ่อของพวกเค้าจนแนบแน่น ถึงแม้ร่างวิญญาณจะ 

ไร้ ซึ่งความอบอุ่นดั่งที่มีในร่างเนื้อ แต่พวกเค้าก็กลับสัมผัสได้ถึงกระแสความอบอุ่นแห่งความรักที่มีอยู่อย่าง เหลือล้นจากดวงวิญญาณเบื้องหน้านี้ 
“ไว้ถ้ากลับไปได้ พ่อจะซื้อพิซซ่าของโปรดมาให้ลูก ๆ กินกันนะ” เอกลูบหัวของเด็กน้อยสองคนอย่างรักใคร่ที่สุด 
“พ่อจ๋า ……” เด็กน้อยสองคนยังคงกอดร่างวิญญาณของพ่อตัวเองไว้แน่น 

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ” เอกลูบหลังเด็กน้อยสองคน ก่อนที่จะปล่อยมือที่สวมกอดอยู่แล้วลุกขึ้นยืน 
” พ่อจ๋า … ” เด็กน้อยสองคนเอามือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะหันมาจับมือของเอกจนแน่น เพียงชั่วครู่ร่างวิญญาณของทั้งสาม 
ก็ โดนแรงดึงดูดจากหลุมลึกที่มองไม่เห็นดูดเข้าไปอย่างรุนแรง เมื่อร่างจิตนั้นเข้าไป ณ จุดหนึ่ง เอกก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังหมุนคว้างท่าม 
กลางกระแสอันเชี่ยวกรากรุนแรง มันหมุนวนราวกับพายุไต้ฝุ่นจนเค้าไม่สามารถจับภาพรอบข้างใด ๆ ได้แม้แต่น้อย ที่รู้สึกได้ก็มีเพียงแต่ 
สัมผัสของมือทั้งสองข้างที่มีเด็กน้อยสองคนจับกุมไว้จนแน่น แรงดึงอันบ้าคลั่งนี้ทำเอาสติของเค้าหายไปทีละเล็กละน้อยอย่างช้า ๆ 
” พ่อจ๋า พวกหนูก็ดีใจ ที่ได้มาอยู่กับพ่อนะ และพวกหนูก็ภูมิใจในตัวพ่อด้วย” เอกได้ยินเสียงเด็กน้อยทั้งสองพูดขึ้นมาก่อนที่สติจะวูบหายไป 
“พี่เอก” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาจากที่ที่ไม่ไกลนัก หากแต่เสียงนั้นไปไม่ถึงผู้ที่เธออยากจะเรียกหา เพราะคนที่เธอเรียกได้หมดสติไปซะ 
ก่อนหน้าแล้ว 

…………………………………………………… 

อีกด้านหนึ่งที่ห้องพยาบาล 

” คุณฝ้ายทำไมนิ่งไปล่ะครับ คุณฝ้าย” เก่งเขย่าตัวฝ้ายที่นั่งฟุบหน้านิ่งอยู่กับขอบเตียง ทั้ง ๆ ที่ยังกุมมือของเอกไว้แน่น เธอหายใจสงบนิ่ง 
ราวกับว่ากำลังหลับอยู่ หากแต่เก่งเขย่าตัวเธอเท่าไหร่ เธอก็ไม่ฟื้นขึ้นมา 
“อย่าบอกนะว่า … ฝ้ายตามเอกไปด้วย !!!” เก่งหันหน้ามามองดูร่างของเอกที่นั่งปิดตานิ่งสนิทอยู่บนร่างของปูแฟนสาว 

………………………………………………….. 

” อูยยยย …. ปวดหัวชะมัด” เอกร้องครวญครางเบา ๆ เมื่อเริ่มได้สติอีกครั้ง เค้ายันร่างของตัวเองขึ้นมายืน สองมือกุมศรีษะที่รู้สึกปวดร้าวราว 
กับจะ แตกระเบิดออก แค่ประสบการณ์เข้าสู่จิตคนอื่นครั้งแรก ก็ทำเอาเค้ารู้สึกหวาด ๆ จนไม่อยากจะให้มีครั้งต่อ ๆ ไปอีกแล้ว เขาต้องใช้เวลา 
อยู่ครู่ใหญ่กว่าที่จะสามารถเรียกสติตัวเองกลับมาได้ ระดับหนึ่ง ก่อนที่จะพบว่าเค้ายืนอยู่พื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำเหนียว ๆ ที่สูงระดับตาตุ่ม มันดู 
เหนียว ๆ แหยะ ๆ ยังไงชอบกล แถมยังมีกลิ่นคาวชวนอ้วกแปลก ๆ เมื่อมองไปรอบ ๆ ตัว ก็พบเพียงแต่ความมืดมิดจนมองไม่เห็นขอบฝั่ง 
ภายในนี้มันมีแรงกดดันหนักหน่วงบางอย่างที่ชวนให้รู้สึกหดหู่ซึมเศร้าอย่างรุนแรงแฝงตัวอยู่ในอากาศอย่างอธิบายไม่ถูก 
” นี่เราเข้ามาในจิตแล้วเหรอเนี่ย รักยมเอ้ย อยู่ไหนลูก” เอกก้มลงมองร่างวิญญาณของตัวเอง ก็พบว่าเค้ากำลังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไร้สิ้นซึ่ง 
อาภรเครื่องนุ่งห่มปก คลุมเหมือนปกติที่เค้าเคยถอดวิญญาณออกมา ต่างกันตรงที่ตอนนี้ร่างวิญญาณของเขามิได้โปร่งใสอย่างที่เคยเป็น แต่กลับ 
มี ทุกอย่างเหมือนร่างเนื้อตามปกติ จนเขาเริ่มไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่านี่คือโลกจริง ๆ หรือโลกของจิตวิญญาณกันแน่ เอกลองร้องตะโกนเรียกหารักยม 
ไปรอบทิศ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากอะไร จากตรงไหน และอย่างไร 
“…..” แต่ไม่ว่าเขาจะร้องตะโกนเท่าไหร่ก็มีแต่สุ้มเสียงแห่งความเงียบงันที่ ตอบกลับมา ราวกับว่าเค้าเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเพียงสิ่งเดียวที่หลงอยู่ 
ในภพมิติแห่งนี้ 

” ฮือ ฮือ ฮือ ….” ขณะที่เอกกำลังวุ่นวายใจว่าจะต้องทำอย่างไร ก็พลันได้ยินเสียงร้องไห้สะอื้นของหญิงสาวดังขึ้นอย่างแผ่วเบาจากที่ไม่ไกล นัก 
“ใครน่ะ …. นั่นคือปูหรือเปล่า” เอกหันไปมองทางต้นเสียงพยายามเพ่งมองไปไกล แต่ก็ยังคงมองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความมืดมิด 
“….. ฮือ ฮืออออ ….” ไม่มีเสียงตอบรับจากเข้าของเสียงร่ำไห้ เสียงสะอื้นไห้นั้นหยุดไปชั่วครู่ แล้วก็เริ่มต้นใหม่อีกรอบเหมือนไม่สนใจอะไร 
“…..” เอกตัดสินใจเดินไปตามต้นเสียงร้องไห้ที่ได้ยินอย่างช้า ๆ รู้สึกหวาดหวั่นในใจลึก ๆ การที่ต้องหลงอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดมิดนี้ ไม่ 
ว่าใครจะหาญกล้าเพียงใดก็ต้องรู้สึกหวาดหวั่นบ้างไม่มากก็น้อย 

…… ท่ามกลางความเวิ้งว้างอันมืดมืด มีเพียงเสียงร้องไห้ และเสียงจ๋อม ๆ ดังขึ้นตามจังหวะการก้าวย่ำเท้าของเขาลงไปในน้ำเท่านั้น 

“…. นั่นคุณปู หรือเปล่า” เอกที่เดินตามต้นเสียงไปซักระยะ ร้องถามเมื่อเค้าพบเห็นอะไรบางอย่างปรากฎอยู่รางเรือนในมุมแห่งความมืดมิด นั้น 
“….. ฮืออออ ฮืออ ….” ยังคงไม่มีเสียงตอบจากต้นเสียง แต่เค้ารับรู้ได้ว่าเค้ามาถูกทางแล้ว เพราะเสียงร้องไห้ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ นั้นบ่งบอกได้ว่า 
ระยะห่างของตัวเค้ากับต้นเสียงนั้นเริ่มลดลงเรื่อย ๆ 
” คุณปู …” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เค้าเดินเข้าไปใกล้ร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งกอดเข่าซุกหน้า ร้องไห้อยู่ที่มุมห้อง 
เนื้อตัวของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำเหนียว ๆ เต็มไปหมด 
“………….” หญิงสาวไม่ตอบ เธอเพียงแต่เงยหน้าขึ้นมามองผู้มาเยือนด้วยความสงสัย แม้ใบหน้าจะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา แต่เธอก็ยัง 
คงความสวยใสน่ามองตามแบบฉบับสาวบ้านนาไว้เป็นอย่างดี หากแต่แววตาของเธอดูเฉยฉาไร้สิ้นซึ่งชีวิตชีวาราวกับไร้ซึ่งเป้าหมายแห่งชีวิต 
” คุณปูจริง ๆ ด้วย” เอกรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย ใบหน้าของหญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่เบื้องหน้านี้คือใบหน้าเดียวกับคนไข้สาว สวยที่เขาเพิ่งจะ 
ได้ลิ้มชิมรสสวาทมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน เค้ามาได้ถูกทางแล้ว …. ปัญหาก็คือจะต้องทำอะไรต่อไป ….. 

“คุณปู กลับกันเถอะครับ ทุกคนรออยู่นะ” เอกนั่งลงที่เบื้องหน้าของหญิงสาว พยายามเอ่ยปลอบใจ 
“… ใครรอปูอยู่ล่ะ .. ก็ทุกคนตายกันหมดแล้ว … ดูซิ เลือดนองเต็มพื้นเลย ฮือ ฮือออ” ปูมองไปรอบข้างอย่างหวาดกลัวแล้วก็ฟุบหน้าลงไป 
ร้องไห้ต่ออย่างหมดอาลัยตายอยาก 
” เลือดเหรอ …. เฮ้ยย ….” ชายหนุ่มลองเอื้อมมือลงไปแตะของเหลวที่นองเต็มไปทั่วพื้นขึ้นมาดู ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อพบว่าที่จริงแล้ว ของ 
เหลวที่เค้าเดินเหยียบย่ำไปมานั้นคือเลือดสีแดงสดปริมาณมหาศาลที่เจิ่งนองอยู่ 
“ฮืออ พ่อ แม่ พี่ชาย … ทุกคน ตายหมดแล้ว ฮือออ” ปูก้มหน้าลงไปร้องไห้ราวกับจะขาดใจตายตามครอบครัวเสียให้ได้ 
“…….” เอกพยายามตั้งสติ นึกถึงคำพูดของรักยมที่บอกว่า สภาพภายในจิตใจของคนนั้นจะแปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์และความคิดของเจ้าของ 
ร่าง จิตอย่างคล้องจองกัน และเมื่อมาเห็นสภาพทะเลเลือดแบบนี้ ก็บ่งบอกได้ถึงความเศร้าและหดหู่ของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี เค้าเอื้อมมือจะไป 
จับมือของปูเพื่อให้กำลังใจ แต่ …. 

“อย่ามาแตะปู นะ กรี๊ดดดดดดดดด ออกไป ออกไปปปปป” หญิงสาวราวกับจะหวาดกลัวมือของชายหนุ่ม เธอสะดุ้งขยับตัวถอยหลังหนี พร้อม 
กับกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันร่างของเอกก็โดนพลังมหาศาลของอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น อัดกระแทกใส่จนกลิ้งกระเด็นออก 
มาไกลจากร่างของปู 
” แค่ก ๆ โอยยยย” เอกที่ล้มกลิ้งไปตามแรงกระแทกที่มองไม่เห็น ยันตัวขึ้นสำลักด้วยความรู้สึกจุกแน่น เค้ารู้ดีว่าภายในจิตแห่งนี้ หญิงสาวเจ้า 
ของจิตมีอำนาจอย่างเต็มที่ ที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการ และดูท่าทางเธอจะหวาดกลัวเพศตรงข้ามอย่างรุนแรง ซึ่งก็ไม่ผิดเมื่อเธอนั้นโดน 
ทำร้ายซะจนยับเยินขนาดนั้น ไหนจะโดนข่มขืนต่อหน้าคนรัก ไหนจะโดนฆ่าล้างครัว ความทรงจำเหล่านี้หากจะทำให้เธอหวาดกลัวผู้ชายมันก็ 
ไม่ ได้แปลกอะไรเลย เอกรู้สึกอับจนปัญญา ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ รักยมก็ไม่อยู่ซะด้วย แต่ขณะที่กำลังคิดหาทางออก ก็กลับได้ยินเสียงคุ้นหู 
ดังขึ้นมาจากด้านหลัง 
“พี่เอก … นั่นพี่เอกหรือเปล่าคะ” 

………………………………………………….. 

ตัดกลับไปที่ห้องพยาบาล 

” ฝ้ายครับฝ้าย” เก่งยืนจับแขนของฝ้ายแล้วเขย่าไปมาเบา ๆ เค้าไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดี ๆ ฝ้ายถึงได้หลับไป ที่เค้าพอจะนึกออก ก็มี 
เพียงแค่เหตผลเดียว นั่นคือฝ้ายได้ถอดจิตตามเอกไปแล้ว เค้าเชื่อว่าอย่างนั้น แต่มือยังคงเขย่าร่างไร้สติของฝ้ายต่อ สัมผัสนุ่มนิ่มของเรือนร่าง 
พยาบาลสาวสวยสะพรั่งทำเอาเค้าแทบไม่อยากจะถอนมือออกจากเนื้อแขนขาวเนียนแน่นมือนั้น เค้าก้มลงบรรจงมองสาวสวยที่นอนหลับตา 
พริ้ม และมองดูทรวงอกอวบที่สะท้อนขึ้นลงเบา ๆ ตามจังหวะการหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ริมฝีปากสวยเผยออ้าออกเล็กน้อย และกลิ่น 
หอมรัญจวนใจของเธอ ทำเอาท่อนลำของเก่งเบ่งขยายจนคับแน่นเต็มกางเกงอีกครั้ง 

” คุณฝ้าย ตื่นเถอะครับ …” ราวกับอยู่ในภวังค์ ชายหนุ่มไม่สามารถสะกดกลั้นความต้องการของตัวเองได้อีกต่อไป เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าสาวสวยเจ้า 
เสน่ห์คนนี้ เค้าเลื่อนมือขึ้นไปลูบไล้ทั่วใบหน้าสวยหวานอย่างไม่เกรงใจเจ้าของร่าง โดยหากฝ้ายตื่นขึ้นมากลางคนก็จะอ้างบอกว่าต้องการปลุก 
ให้ตื่นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด มือหยาบกร้านที่ผ่านงานใช้แรงงานในทุ่งนามาตลอดชีวิตนั้นสัมผัสเข้ากับความ เนียนนุ่มของผิวสาวชาวกรุง 
ก็ทำเอาเขาใจเต้นแรงอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าคิดนอกใจปูแฟนสาวของเค้า แน่นอนว่าเค้ายังคงรักปูอยู่ หากแต่ก็มิอาจจะ 
ปฎิเสธเพลิงไฟแห่งความต้องการเบื้องลึกในใจที่อยากจะเชยชมร่างงามเบื้องหน้านั้นเหมือนชายหนุ่มทั่วไปได้ ความต้องการมันล้นเหลือซะ 
จนทำให้เค้าลืมเหตและผลไปอย่างสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงไปจูบพรมไปทั่วพวงแก้มนวลนิ่ม ใบหู และลำคอขาวผ่องของฝ้ายอย่างตื่นเต้น ความ 
หอมหวลของกลิ่นกาย และความเนียนนุ่มของเนื้อสาว ทำเอาอารมณ์ของเค้ากระเจิดกระเจิงไปถึงเหตการณ์ก่อนหน้านี้ ตอนที่ฝ้ายและเค้าอยู่ 
ในมนต์สะกด สาวสวยส่งสายตาหวานเยิ้ม นอนทอดร่างยอมรับลีลารักจากเค้าทุกท่วงท่าอย่างร้อนร่าน เสียงร้องโอดโอยครวญครางกระเส่าด้วย 
ความเสียวซ่านของเธอยังคงแว่วสะท้อนไปมาในโสตประสาทของเก่งอย่างไม่หยุดยั้ง เขารู้สึกได้ว่าเขาคลั่งไคล้และหลงไหลในตัวพยาบาลสาว 
คนนี้ซะจนหัวปักหัวปำซะแล้ว แม้นี่จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการทำเรื่องแบบนี้ แต่นี่อาจจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในชีวิตก็เป็นได้ 

“คุณฝ้าย ขอโทษนะครับ ผมทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ” เก่งมองริมฝีปากบางอันแสนเย้ายวนนั้นอย่างหื่นกระหาย เค้าอดใจไว้ได้ไม่นานนัก ก็ต้องก้ม 
ลงไปบดจูบอย่างเมามันส์ แม้จะไม่มีการตอบรับจากเจ้าของร่าง แต่ความนุ่มนิ่มหอมหวานของริมฝีปากเปียกชื้นนั้นก็เพียงพอที่จะสร้างความ 
กระสันซ่านให้จนขนของเค้าลุกซู่ ริมฝีปากบางสวยโดนบดจูบอยู่เนิ่นนานกว่าที่เขาจะรู้สึกพอใจ เค้าถอนปากออกมาแล้วเลื่อนไประดมจูบซุก 
ไซร้ไปทั่วซอกคอขาวผ่องอย่างหื่นกระหาย มือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของฝ้ายอย่างระรานใจ 
” อืม ฝ้ายสวยจัง” เค้าลุกขึ้นขยับร่างของฝ้ายที่อยู่ในท่าฟุบหน้านอนกับเตียงขึ้นมาอิงกับเบาะ พิงของเก้าอี้แทน แล้วขยับมืออันสั่นเทาด้วยความ 
ตื่นเต้นขึ้นไปปลดกระ ดุมเสื้อเชิ๊ตพยาบาลสีขาวออกอย่างช้า ๆ ทีละเม็ด ๆ จนหมด ไม่นานนักผิวกายขาวสะอาดผุดผ่องที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน ก็โผล่ 
แสดงตัวออกมายั่วยวนสายตาที่เต็มไปด้วยความกำหนัดของเค้าแบบเต็ม ๆ ร่องอกที่เบียดแนบชิดด้วยสองเต้าอวบเต่งโดนห่อหุ้มด้วยยกทรง 
ลวดลายสวยงามตามแบบฉบับของสาวชาวกรุง ที่ผิดกับยกทรงถูก ๆ ของสาวบ้านนอก ระดับความกระสันพุ่งปรี๊้ดลงไปที่ท่อนเนื้อส่วนล่าง ทำ 
เอา มันเบ่งพองตัวคับแน่นจนเค้ารู้สึกปวดหนึบ เขารีบก้มลงไปลากลิ้นเลียชิมรสเนื้อสาวที่ร่องอกขาวผ่องนั้นอย่างอร่อยในรส ชาติแห่งความหอม 
หวาน ขณะที่สองมือหยาบกร้านก็บีบขยำเคล้นสองเต้าไปด้วยพร้อมกันอย่างหิวกระหาย 

ชาย หนุ่มเสียเวลาหาตะขอยกทรงอยู่นาน กว่าที่จะพบว่ากุญแจสวรรค์สู่สองเต้าอวบนั้นอยู่ด้านหน้ามิใช่ด้านหลัง เหมือนยกทรงทั่วไป เมื่อค้นพบ 
เป้าหมายแล้ว เพียงพริบตาเดียวตะขอเกี่ยวที่พยายามปกป้องร่างเจ้าของไว้ก็โดนปลดออก เต้านมขาวสวยได้รูปเด้งผึงออกมาโชว์แบบเต็มตา 
หัวนมงามงอนสีชมพูนั้นแข็งขึ้นมาเป็นเม็ดเหมือนกับว่าพร้อมที่จะให้เขาได้ลิ้มชิมรสได้ทุกเมื่อตามแต่จะต้องการ 
“นมสวยจัง อืมมม” เก่งหอบหายใจกระเส่า ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอ้าปากงับที่ตรงหัวนมไว้ แล้วออกแรงเลียดูดดุนไปทั่วอย่างหิวโหย เต้านมอีก 
ข้าง ก็อยู่ภายใต้การฟอนเฟ้นของมือหยาบที่บีบขย้ำใส่อย่างมันส์มือ ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนลงไปที่ท่อนขาขาวเนียนสวยของฝ้าย ขยับเลิกชายกระ 
โปรง พยาบาลขึ้นไปจนถึงเอว จากนั้นจึงล้วงมือลงไปที่เป้ากางเกง เค้าชะงักเล็กน้อยเมื่อพบว่ามือของเค้าสัมผัสเข้ากับเนินนูนที่มีขนอุยนุ่ม ๆ 
แบบเต็มมือ ๆ เพราะตอนนี้ฝ้ายไม่ได้ใส่กางเกงในอยู่ 
“อืออ” ร่างฝ้ายกระตุกไหวเบา ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สติ เมื่อโดนสัมผัสเสียวรุกล้ำไปถึงจุดที่สำคัญที่สุด ปลายนิ้วของเก่งกรีดไล่ไปตามร่องอันเปียก 
ชื้น แล้วสะกิดเข้ากับเม็ดติ่งเสียวแบบเน้น ๆ หลายครั้ง ไม่นานนักน้ำรักของพยาบาลสาวก็หลั่งไหลทะลักออกมาจนเปียกชุ่มร่องเสียวอีก ครั้ง 

“หีสวยจัง ขอชิมหน่อยนะครับคุณฝ้าย” เก่งก้มลงมองร่องเสียวที่ฉ่ำเยิ้มอย่างระเริงใจ เค้ากล่าวขออณุญาติจากเจ้าของร่างที่ยังคงไม่ได้สติ เก่ง 
เพ่งมองอย่างหื่นกระหาย กลีบแคมของพยาบาลสาวเมืองกรุงคนนี้ดูสวยงามอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นสีแดงอมชมพูสลับกับสีขาวผ่องดูสะอาดตา 
ไม่ เหมือนกับของพวกอีตัวที่เค้าเคยไปขึ้นครูกับรุ่นพี่ในงานรับน้องแม้แต่น้อย ของพวกอีตัวกรำสวาทเหล่านั้นดูมันยับยู่ยี่ เป็นสีดำคล้ำ และ 
กลวงโบ๋ จนไม่สามารถที่จะคาดเดาได้เลยว่าพวกเธอได้ผ่านเกมสังวาสมาอย่างมากมายขนาดไหน ตอนนั้นเขาอยากจะลองทำเหมือนกับที่เห็น 
ใน หนังโป๊ดูเหมือนกัน เขารู้สึกตื่นเต้นที่เห็นสาวสวยดาราหนังโป๊ดิ้นพล่าน ๆ อย่างลืมตาย เมื่อโดนชายหนุ่มดูดเม้มที่เนินสวรรค์ แต่เขาก็ไม่กล้า 
ที่ จะทำแบบนั้นกับอีตัวที่เขาพาไปนอนด้วยได้ มาบัดนี้ร่องหีที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้าทำเอาเขาอยากลิ้มชิมรสอย่างสุด ๆ แม้ว่าจะเป็นร่องหีที่เขา 
เคยลิ้มชิมรสมาแล้วก็ตาม แต่ในตอนนั้นเขาอยู่ภายใต้ความควบคุมของวิญญาณร้าย ไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเช่นในตอนนี้ 

” อืออ …” ร่างไร้สติของฝ้ายสั่นกระตุกพร้อมกับร้องครางออกมาเบา ๆ เมื่อลิ้นสาก ๆ ลากเลียไปที่ร่องเปียกชื้นนั้นอย่างสะใจ รสชาติหอมหวาน 
ของ น้ำรักที่หลั่งไหลออกมา และปฎิกิริยาตอบสนองของหญิงสาวทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สติ ทำให้เก่งยิ่งรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่สุด เขาลากลิ้นโลมเลียไปทั่ว 
ร่องเสียวนั้นอย่างไม่รู้จักเบื่อ มันเหมือนน้ำทิพย์ที่ไม่มีวันหมด ยิ่งเขาโลมเลียมากเท่าไหร่ น้ำรักก็ยิ่งหลั่งไหลออกมาให้เขาได้ลิ้มชิมรสมากขึ้น 
เท่านั้น เสียงดูดเลียดัง ซ๊วบ ซ๊วบ ลั่น อย่างไม่สนใจว่าใครจะได้ยิน ความเสียวซ่านเล่นงานหญิงสาวจนตัวแอ่นกระตุกเกร็งทั้ง ๆ ที่ยังหลับไหล 
ไม่ ได้สติ อาการตอบรับของหญิงสาวยิ่งทำให้ เก่งรู้สึกสะใจยิ่งขึ้น เขาก้มหน้าก้มตาอ้าปากงับเนินเนื้อแบบเต็มปากเต็มคำ พร้อมกับตวัดลิ้นโลม 
เลียบดบี้ไปที่ติ่งเสียว สองมือหยาบเอื้อมข

Share the Post:

Related Posts

ลองของสาวแก่ เสียวๆ แบบสุดๆ

ลองของสาวแก่ เสียวๆ แบบสุดๆ

เรื่องเสียว ลองของสาวแก่ เสียวๆ แบบสุดๆ คือ ผมได้รับคำแนะนำจากเพื่อนทางการแชทคนนึงว่ามีสาวแก่สูงวัยขายบริการอยู่ที่ …..ขอสงวนสถานที่นะครับ เป็นวงเวียนแห่งหนึ่ง ผมก็แสนจะอยากลอง ทั้งที่บ้านไกลมาก แต่ก็ดั้นด้นไปจนได้ แล้วก็ได้จริงๆ ครับ ตอนแรกเลยก็ไปพบคนหนึ่งแก่แล้วแถมดำอีกต่างหาก สูบบุหรี่ ถุยน้ำลาย โหย อึบไม่ลงเลย ก็เลยเดินตรงไปเรื่อยๆ ก็พบพวกเขาทั้งหลายนั่งอยู่ริมข้างทาง

Read More
เล่นเสียวกับเพื่อนลูก ถูกหีเด็กรุ่นลูกตอดตุบๆ เสียวควยจริงๆ

เล่นเสียวกับเพื่อนลูก ถูกหีเด็กรุ่นลูกตอดตุบๆ เสียวควยจริงๆ

เรื่องเสียว เล่นเสียวกับเพื่อนลูก ถูกหีเด็กรุ่นลูกตอดตุบๆ เสียวควยจริงๆ ผมชื่อป๋อ อายุปีนี้ก็ก้าวเข้าไป 42 แล้วแต่ยังดูดีครับ มีภรรยาแล้วอายุ 38 ปี มีลูกชายชื่อ ต๋อง ซึ่งตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้วอายุ 18 ปี วันเสาร์วันหนึ่งเมียผมไม่อยู่ออกไปทำธุระอะไรก็ไม่รู้บอกจะกลับดึกๆ ต๋องพาเพื่อนนักเรียนสาวสองคนมาที่บ้านมาแนะนำให้รู้จัก ผมเพ่งพิจารณาดู 2

Read More