รักไม่นับตัวเลข ตอนที่ 12

รักไม่นับตัวเลข ตอนที่ 12

รักไม่นับตัวเลข ตอนที่ 12

 รักไม่นับตัวเลข ตอนที่ 12 “ความจริงที่ปกปิด!?…เรียกพี่ได้มั้ย?”

“เราคบหากันมานานมาก…แค่สีหน้าท่าทางทำไมจะไม่รู้…ที่เธอชวนฉันมาคุยด้วยวันนี้ก็คงจะเกี่ยวกับเคน”
“…ใช่”
“งั้นคำถามของฉันก็ยังเป็นคำถามเดิม…บรีนมั่นใจในตัวเขาแค่ไหน?”
“วันนี้ฉัน…มั่นใจในตัวเขามากกว่าเมื่อวานและหวังว่าพรุ่ง
นี้จะมั่นใจยิ่งกว่าวันนี้…”
“โอ้!!…คำตอบต่างจากครั้งก่อน”
“อย่างน้อยๆก็มั่นใจแล้วว่าเขาคิดกับฉันมากกว่าคนรู้จัก…ผู้อาศัยกับเจ้าของหอ…หรือตามประสาพี่น้อง”
“แต่เขาจะมีความจริงใจกับเธอสักแค่ไหนก๊าน~~…นายเคนนั่นน่ะเชื่อใจได้แน่เหรอ?…อย่าลืม!!…ขึ้นชื่อว่าผู้ชาย…มีน้อยนักที่จะคบกับผู้หญิงอย่างเราๆโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไร…ไม่หวังเงิน…ก็ต้องการอำนาจวาสนา…หรือไม่ก็อยากเชยชมร่างกายกับความสาวซึ่งพอเบื่อก็เขี่ยทิ้ง…ส่วนสำหรับหนุ่มรุ่นน้องคนนี้…กรรณคิดว่าเขาคงมุ่งหวังอย่างหลังมากทีเดียวนะ”
“………………………………………………..”
(เอิ๊ว!!!…ไหงพี่กรรณพูดแบบนี้ล่ะ?…จะเอาการกระทำของผมในคืนนั้นมาตัดสินไม่ได้เลยนะครับ!!…ผมรักพี่บรีนด้วยความจริงใจไม่หลอกลวงและคาดหวังอย่างยิ่งว่าจะได้ใช้ชีวิตคู่กับเธออย่างมีความสุขเยี่ยงคู่สามีภรรยาทั่วไป…ส่วนที่มีอะไรกับ…พี่…นั่นเพราะ…ความอยากรู้อยากลองตามประสาวัยรุ่น…)
“แต่เธอไม่รู้จักเคนดีไปกว่าฉันหรอก…ส่วนเรื่องพรรค์นั้นมันเป็นธรรมดาของมนุษย์”
“หึ!!…ใครว่า?…ฉันรู้จักเขาพอสมควรทีเดียวจ้ะ…เป็นเด็กหนุ่มที่นิสัยภายนอกก็พอใช้ได้แต่จริงๆน้ำนิ่งไหลลึกไม่เบา…”
(เฮ้ย!!!!…ยะ…ยะ…อย่านะพี่กรรณ!!!…อย่าเปิดเผยเรื่องในคืนนั้นเด็ดขาดนะ)
“คิดจะพูดอะไรกัน?”
“อ่า…ฉันก็แค่เตือนด้วยความหวังดี…คบกับผู้ชายอายุน้อยกว่าตอนนี้ก็คงไม่คิดมากเพราะเธอยังสาวยังสวยอยู่แต่ในอนาคตล่ะ?…ตั้ง 8 ปีเชียวนะ”
“………………………………………………….”
“อ่ะ!!!…ช่างเถอะๆ…ความสัมพันธ์ของเธอ 2 คนก้าวหน้าไปเร็วมากๆนั่นก็ถือเป็นเรื่องดีแล้วนี่นา”
…โอ๋ย~~…ค่อยยังชั่วหน่อย…เล่นเอาใจหายวาบเสียวแปล๊บแต่ยังไงซะผมก็คิดถูกจริงๆที่มาแอบฟัง…ถึงจะว่าเป็นการไม่สมควรแต่ก็ทำให้ได้รู้อะไรดีๆหลายอย่าง… 8 ปีแล้วยังไงครับพี่กรรณ?…ผมมั่นใจว่าตัวเองมีความเป็นลูกผู้ชายพอ…ชีวิตคนไม่ใช่สิ่งของที่จะทิ้งขว้างกันง่ายๆไม่ใช่หรือ?…
“แต่บางครั้งฉันก็ยังไม่เข้าใจในความคิดของเขาซึ่งเรื่องเมื่อวันนั้นน่ะไม่โกรธเขาแล้ว…วัยหนุ่มก็ใจร้อนอย่างนี้แหละ…เพียงแต่มันมีเรื่องที่สำคัญมากกว่านั้น”
“…เรื่องทางบ้านของบรีน…พ่อเธอดุมากซะด้วยและท่านต้องไม่ยอมให้บทเรียนซ้ำๆเกิดขึ้นมาแน่”
…ก็รู้สึกดีใจเหมือนกันที่สาวเจ้าออกปากเองว่าไม่โกรธแล้วแต่กลับมีสิ่งที่ทำให้ผมเริ่มมีความไม่สบายใจคือ…ทางครอบครัวของพี่บรีนคงยังไม่ทราบเรื่องที่เราคบกันและจะทำประการใดดีถ้าพ่อแม่ของเธอเกิดไม่ยอมรับผมขึ้นมา?…โฮ~~…ลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท…
“เคนเขาจำเป็นต้องรู้…บรีนคิดจะบอกเมื่อไหร่?”
“ยังไม่ตัดสินใจแน่นอนหรอกว่าควรจะบอกดีมั้ย?…ความลับที่ปกปิดอยู่ในใจนี่”
“มีอะไรให้ต้องลังเลอีกรึ?…รีบบอกความจริงจะดีกว่านะเผื่อเขาจะได้ทำใจในกรณีที่เหตุการณ์มันเลวร้ายลงและพวกเธอทั้ง 2 จะได้ไม่ถลำลึกลงไปมากกว่านี้”
“ก็อย่างที่พูดไปไงล่ะกรรณ…บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจว่าเคนกำลังทำอะไร…ทั้งๆที่ฉันไม่เคยแสดงท่าทางรังเกียจเขาเลย”
“เธอคงรอให้เคนบอกรักอยู่ใช่ม้า~~”
“………………………………………………….”
“ว่าไงจ๊ะ?”
“…มั้ง”
“!!!!”
…ตกใจ!!!…ได้ยินความลับที่สำคัญเข้าแล้วล่ะครับ…นี่พี่บรีนเฝ้ารอให้ผมบอกรักเธออย่างนั้นหรอกรึ?…ไม่มีอะไรจะน่ายินดีไปกว่านี้จริงๆ…งั้นเราจะมัวทำตัวเฉื่อยชาป้อไปป้อมาอย่างกับพ่อไก่แจ้ไม่ได้แล้ว…อารามดีใจจนแทบเก็บอาการไม่อยู่จึงรีบผละจากมาแอบปลื้มเพียงคนเดียวโดยไม่สนใจว่าพี่บรีนกับพี่กรรณคุยอะไรกันต่อ…ที่จริงอีก 6 วันข้างหน้าผมก็สืบรู้มาว่า 14 ตุลาคมจะเป็นวันเกิดของพี่บรีน (น้าจี๊ดบอก) …เยี่ยม!!!…วันนั้นเป็นวันดีที่ผมจะสารภาพรักขอคบเป็นแฟนกับพี่บรีนอย่างจริงๆจังๆซะที…
……………………………………………………………………………………………………………………..

“ไปก่อนนะ”
“อืม…”
…พี่บรีนออกมาส่งพี่กรรณถึงหน้าบ้านแล้วเดินกลับซึ่งผมกำลังถอนหญ้าอยู่แถวนั้นพอดี…
“………………………………………………”
“เดี๋ยวครับ!!”
…พี่กรรณเหล่ตามองและหยุดร่างกายอันอวบอัดสวยสดที่ผมได้เคยลิ้มลองมาแล้ว…
“เคนอย่าทำเหมือนบรีนเป็นของเล่นเด็ดขาด…ชีวิตของเธอผ่านเรื่องเศร้ามามากเกินพอแล้ว”
“หมายความว่า…ยังไงครับ?”
“อย่างที่บอก…ตรงตัวไม่ต้องแปล”
…ช่างดูสุขุมเยือกเย็นยิ่งกว่าเมื่อคืนนั้นซะอีก…ในฐานะคนเคยมีอะไรกันก็อาจทำเจ้าชู้ใจกล้าตรงเข้าไปกอดเธอแต่ว่า…ผมไม่อาจจะกระทำอะไรแม้เพียงขยับขาเพราะราวกับมีอำนาจบางอย่างแผ่ออกมาจากร่างหญิงสาวพร้อมทั้งตรึงร่างผมไว้…
“บรีนเขาจะบอกเธอเองและเมื่อนั้นความจริงมันก็จะปรากฏออกมา…อดใจรอถึงตอนนั้นเถอะ”
…ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่เข้าใจแฮะ…พยาบาลสาวผมทองผู้นี้ชักนำปริศนามาให้ครุ่นคิดตั้งแต่แรกพบจนลาจาก…
“สบายใจได้…เรื่องในคืนนั้นพี่จะไม่บอกบรีน…ขอให้ถือซะว่านั่นคืออดีตที่ไม่มีทางหวนกลับ…ตกลงนะ?”
“ตัวผมไม่เคยเชื่อว่าเราจะได้พบกันอีกและยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าแท้จริงแล้วพี่กรรณจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่บรีน…หญิงสาวที่ผมรัก”
“…………………………………………….”
“…เมื่อกี้…พี่พูดอะไรน่ะครับ?”
“หึ!!…เคนอย่ามัวสนเรื่องของคนอื่นให้มากนัก…โอเค?…ก็ในเมื่อเธอมีสตรีที่คู่ควรกับตัวเองอยู่ใกล้ๆแล้ว…นี่!!…อีก 6 วันข้างหน้าคือวันเกิดของบรีน”
“…ผมทราบแล้วล่ะครับ”
“ฮะๆๆ…ใช้ได้ๆ…แต่ถ้าหัวไว…กว่านี้…อื้ม!!…ช่างเถอะๆ…”
…จากนั้นคุณ “อุณากรรณ” นางพยาบาลในชุดขาวบริสุทธิ์ก็ก้าวขึ้นรถและขับออกไปโดยทิ้งแววตากับรอยยิ้มที่ยังเป็นปริศนาเหมือนเช่นเคย…โดยเฉพาะประโยคที่ว่า “ผ่านเรื่องเศร้ามามากเกินพอแล้ว” ผมเริ่มอยากรู้แล้วว่าในอดีตเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรกับพี่บรีนกันแน่?…
“ถ้าเราไปถามหล่อนตอนนี้…ไม่!!…ไม่ดีๆ”
… 14 ตุลาคมที่จะมาถึง…ผมเชื่อมั่นว่าจะต้องได้รับรู้ความจริงบางอย่างที่สำคัญมากแน่นอน…ดังนั้นจำเป็นต้องมีแผนการสักอย่างเตรียมพร้อมไว้…
……………………………………………………………………………………………………………………….

13 ตุลาคม 2548

“บ้านนี้เงียบจังเล้ย~~”
“?”
“ไม่มีใครอยู่หรือไง?”
…นั่นคือเสียงของคุณ “อัจฉรา” หรือ “จุน” เจ้าสำนัก “ชองมิน” เป็นทั้งคุณแม่และอาจารย์สอนเทควันโด้ของจี…เห็นรูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นแบบนี้ก็อย่าเพิ่งคิดว่าเธอคือผู้หญิงธรรมดาๆนะครับเพราะแท้จริงคุณจุนผู้นี้เป็นถึงอดีตแชมป์โลกเทควันโด้หญิง 2 สมัยซ้อน!!!…ดังนั้นไม่ต้องบรรยายให้มากความเลยว่าฝีมือหล่อนจะเก่งกาจมากสักแค่ไหนถึงแม้จะถอนตัวมากว่า 6 ปีแล้วก็ตาม…
“เคน…พี่จี๊ดอยู่ป่าว?”
“ไม่อยู่ครับ”
“อ้าว?…ไรฟระ!!…ปกติเวลานี้น่าจะอยู่นี่น๊า~~”
“……………………………………………….”
…คุณแม่ของเพื่อนสนิททำหน้าผิดหวังว่าแต่ทำไมแต่งตัวล่อตะเข้แบบนี้ล่ะเนี่ย?…คือคุณจุนเธอใส่เสื้อสายเดี่ยวสีดำโชว์สะดือแต่ไม่ได้สวมยกทรงนุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้นจุ๊ดจู๋ (ขาอ่อนขาวสวยชิบ) …
“คุณน้ามีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่าครับ?”
“เปล่า…กะมาชวนพี่จี๊ดไปสระว่าย…น้ำ…”
“??”
“เมื่อกี้…เธอเรียกฉัน…ว่าอะไรนะ?”
“ครับ?”
“เรียกฉันว่า…อะไร?…”
“!!!!”
…กอดอกคุยโดยอยู่ห่างตั้งเกือบๆ 4 เมตรแท้ๆแต่จู่ๆคุณจุนก็ขยับตัวเข้ามาใกล้ผมชนิดที่เรียกว่าหายใจรดกันได้ในเพียงชั่วกระพริบตาครั้งหนึ่งเท่านั้น!!!…นี่มันเกิดอะไรเนี่ย?…มนุษย์…สามารถทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างนี้ได้ด้วยเหรอ?…
“ตกใจรึ?…นี่ยังซอฟส์ๆ…ถ้าเอาจริงต่อให้อยู่ไกลกว่านี้ก็ทำได้…นี่แน่ะ!!”
“น้า?…โอ้ย!!…ผมเจ็บ”
“ยังอีก!!…น้าอะไรของเธอ?…บอกหลายครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่น่ะหา!!…เรียกพี่ได้มั้ย?”
“อือ~~…อย่าบีบจมูก…ผมเจ็บครับ!!”
“เสียมารยาทจริง…ฉันเพิ่ง 27 เองนะ…มาเรียกน้าเรียกป้าได้เร๊อะ!!…ประเดี๋ยวตีตาย”
“ขอ…ขอโทษครับ…พี่…พี่จุน”
“เออ!!…ค่อยรื่นหูหน่อย…จำไว้ซี่จำไว้~~…เรามันคนวัยเดียวกัน”
“………………………………………………..”
…อู๊ย~~…เจ็บจมูกเป็นบ้า…เอ้อ!!…หลายคนเมื่อถึงตรงนี้คงเกิดความสงสัยแต่ต่อให้อ่านกี่รอบๆก็ไม่ผิดหรอกครับ…น้า…เอ้ย!!…พี่จุนเธอเพิ่งอายุ 27 ปีจริงๆซึ่งอายุแค่นี้ไม่น่าจะเป็นแม่ของจีที่มีอายุ 18 เท่าผมได้…เอาเป็นว่าเรื่องนี้มันมีเหตุผลอยู่…
“เคนอยู่คนเดียวเหรอ?”
…ความจริงมีพี่บรีนอยู่อีกคนแต่ออกไปซื้อของ…ตั้งแต่ผมบอกว่าวันเกิดของเธอจะมีเซอร์ไพรส์ก็อารมณ์ดีมากๆเลย…ขนาดผมบุกเข้าสวมกอดดื้อๆพี่บรีนก็ไม่ว่าได้แต่ยิ้มอายๆและตัดพ้อพอเป็นพิธี…นอกจากนี้ผมยังกล้าหยอกเย้าด้วยถ้อยคำหวานๆมากขึ้น…เรา 2 คนยามนี้อย่างกับคู่รักหนุ่มสาวแต่งงานใหม่ทีเดียว…
“โฮะ!!…มีอะไรน่ายินดีหรือนั่น?…ยืนยิ้มคนเดียวก็ได้เนอะ…อืม–…ดีละ!!…งั้นเคนไปกับพี่หน่อยล่ะกัน”
“ไป?”
“ว่ายน้ำไง…ว่ายน้ำ”
…วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนเลยอยากไปสระว่ายน้ำสินะ…เอาไงดี?…พี่จุนอุตส่าห์ออกปากชวน…
“ไป 2 คนหรือครับ?”
“อื้อ!!…น้องจอยไปไม่ได้เพราะต้องเรียนพิเศษ…เอาน่ะ…ไหนๆมาถึงนี่แล้วชวนเธอไปด้วยก็ไม่ถือว่าเสียเที่ยว”
… “จอย” ลูกสาวคนเล็กของพี่จุนวัย 14 ปี…ผมเองก็ไม่ค่อยสนิทกับเธอเท่าไหร่หรอกครับซึ่งขานั้นน่ะเด็กเรียนเต็มขั้นจึงไม่ได้มีความคล้ายกับจีเลยสักนิดแต่ 2 คนพี่น้องนี้กลับเข้ากันได้ดีมาก (จีหวงสุดๆด้วย)…
“เอ้า!!…นี่ตกลงจะไปหรือไม่ไป?”
…มือข้างหนึ่งของพี่จุนหมุนแกว่งถุงเล็กๆส่วนอีกข้างท้าวสะเอวร้องเตือนทวงคำตอบ…แหม~~…ไม่ไปก็โง่หลายตายซะ…จิตใจชักเกิดกิเลสอยากเห็นนักสู้สาวอดีตแชมป์โลกสลัดชุดเทควันโด้เปลี่ยนมาใส่ชุดว่ายน้ำเหมือนกัน…
“ไปครับ”
“งั้นพี่จะรอ…”
………………………………………………………………………………………………….

…สระที่ไปเป็นของคลับฟิตเนสแห่งหนึ่งที่หล่อนเป็นสมาชิกอยู่…ผมเองก็เคยไปเมื่อนานมาแล้ว…
“??”
“อ๋อ!!…พี่จุนเป็นแม่ของจีเพื่อนเคนหรือคะ?”
“จ้า~~…ก็ไม่ค่อยอยากให้ใครรู้หรอกนะว่าเป็นแม่ลูกกัน…ราคาตกหมด…ฮ่าๆๆ”
“แหม~~…แต่พี่จุนอายุมากกว่าฉันแค่ปีเดียวเองค่ะ”
“โอ๊ะๆ…จริงน่ะ?…นี่บรีนอายุ 26 หรือจ๊ะ?…ฮิๆๆ…ก็พี่ยังเป็นสาวอยู่นี่นา…งั้นเรามาเป็นพี่น้องกันเลยดีมั้ย?”
…พี่บรีนกลับมาพบพี่จุนพอดี…ท่าทางคุยกันถูกคอดีซะด้วยก็พื้นฐานนิสัยพี่จุนเป็นคนร่าเริงอยู่แล้วน่ะ…
“ว่าไงจ๊ะบรีน…ไปว่ายน้ำกับพี่และเคนมั้ย?”
“เอ่อ…ก็อยากไปแต่ยังมีงานค้างอยู่ค่ะ…พี่จุนไปกับเคน…แล้วจีเธอไม่ว่าหรือคะ?”
“ฮ่าๆๆๆ…จะว่าอะไรได้เล่าก็ตัวมันไม่อยู่ที่นี่สักหน่อย…ไปเข้าค่ายกับชมรมที่ราชบุรีโน่น…ไว้กลับมาก่อนเถอะ…พี่จะอัดให้น่วมเลย”
“หา?”
“คือพี่อยากทดสอบว่ามันกลับมาจะเก่งขึ้นสักแค่ไหน?…ยัยทอมบ้านั่นไม้อ่อนไม่ชอบต้องเล่นแรงๆ”
“……………………………………………………”
…พี่บรีนได้ฟังถึงกับอึ้งไปเลยแต่ผมไม่แปลกใจเนื่องจากทราบดีว่าจีกับพี่จุนมักมีเรื่องกระทบกระทั่งกันแทบทุกวี่ทุกวันและบ่อยครั้งอาจถึงขั้นลงไม้ลงมือซึ่งจีก็จะตกเป็นฝ่ายแพ้อยู่ร่ำไป…จำได้แม่นว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งผมแวะไปเที่ยวบ้านแต่กลับต้องช่วยพาร่างอันสะบักสะบอมของจีไปหาหมอเพราะเธอกำลังโดนพี่จุนซ้อม (น่าจะใช้คำว่าลงโทษนะ?) ข้อหามีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนนอก…ผมเห็นเต็มๆตาตอนจีถูกเตะจนตัวปลิวกระเด็นออกจากประตูโรงฝึก…ผมถึงได้กล่าวเตือนไว้ในตอนต้นแล้วซึ่งเมื่อรู้ดังนี้ก็อย่าริอาจไปทำล้อเล่นกับพี่จุนเด็ดขาดเพราะมันจะมีโทษอย่างแรงถึงรุนแรงมาก…
…………………………………………………………………………………………………

…ระหว่างทางผมถามคำถามที่อยากรู้มานาน…
“ทำไมพี่ถึง…ซ้อมจีอยู่เรื่อยล่ะครับ?”
“ก็ยัยนั่นมันชอบเถียงข้างๆคูๆแถมพูดจากวนประสาทให้พี่ยัวะอยู่เรื่อย…แต่ไม่เรียกว่าซ้อม…เรียกว่าชี้แนะต่างหาก”
“………………………………………….”
“…คนอื่นน่ะพูดจามีสัมมาคารวะด้วยได้แต่ทีกับแม่ตัวเองเถอะ…ก็นะ…จีเคารพรักพ่อของเธอมากและไม่ค่อยชอบหน้าพี่มาตั้งนานแล้วรวมทั้งหาว่าพี่เป็นพวกครูพักลักจำจนได้ดิบได้ดีถึงขั้นคว้าแชมป์โลก”
…ตั้งแต่ร่ายมา…ทุกคนน่าจะรู้แล้วว่าจีไม่ได้มีเชื้อสายไทยเต็มร้อย…เธอเป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลีครับ…คุณ “ชอง-มินฮุย” เป็นชาวเกาหลีที่มาประกอบอาชีพในไทยก็คือตั้งโรงฝึกสอนเทควันโด้นั่นเอง…พี่จุนก็พลอยได้ฝึกฝนวิชาไปด้วยจนมีฝีมือเข้าขั้นและติดทีมชาติไปแข่งขันในระดับนานาชาติเมื่อ 7 ปีก่อนซึ่งสามารถคว้าแชมป์โลกเทควันโด้หญิงมาครองเป็นสมัยแรกแล้วในปีต่อมาก็ยังไปป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง…ทว่า…ต่อจากนั้นไม่นานพี่จุนก็ประกาศรีไทร์ท่ามกลางความเสียดายของทุกคนในวงการโดยสิ่งที่เธอยังเสียใจอยู่จนถึงบัดนี้ก็คือสามี…คุณชอง-มินฮุยไม่อาจจะได้อยู่ชื่นชมกับเหรียญรางวัลแชมป์โลกที่คล้องคอของภรรยาทั้ง 2 สมัยเพราะได้ล้มป่วยและเสียชีวิตไปตั้งแต่จีกับจอยยังเล็ก…ท่านจากไปเกือบๆ 12 ปีแล้ว…ตอนนั้นจีอายุ 6 ขวบและจอยเพิ่งจะ 2 ขวบ…
“…สิ่งที่พี่ทำลงไปทั้งหมดไม่ใช่เพื่อตัวเองเลยแต่เพื่อยัยนั่นทั้งนั้นแหละ”
…พอสิ้นคุณชองไปพี่จุนต้องรับภาระทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโรงฝึกหรือความเป็นแม่…เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งอย่างแท้จริง…ขนาดสูญเสียสามีแต่พี่จุนก็ยังบากบั่นพากเพียรฝึกฝนเทควันโด้จนมีวันนี้ได้…
“สักวันจีต้องเข้าใจในความปรารถนาดีของพี่นะครับ”
“ให้มันจริงตามที่เคนพูดเถอะน่า”
“ฮะๆ…อะ?…โอ้ว!!!…พี่~~…ขี่ช้าๆหน่อยครับ…ว้าก!!…เล่นแซงซ้ายสิบล้ออย่างนี้ก็แย่สิครับ”
“หูย~~…กลัวไปด้าย~~…ผู้ชายอาไร๊!!…ถ้ากลัวนักก็กอดพี่ไว้”
…คิดถูกหรือเปล่านะเนี่ยที่มาด้วย?…อูย~~…ลืมซะสนิทว่าพี่จุนเป็นนักซิ่งเก่า…
“โอ๊ะ!!”
“อะไร?”
…พี่จุนเอวเล็กจัง…โอบได้รอบเลยและเพราะความสั้นของเสื้อสายเดี่ยว…ไอ้ตรงที่ผมกำลังกอดอยู่จึงเป็นบริเวณสะดือและเนื้อหนังมังสานุ่มๆ…มีกลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาด้วยล่ะ…
(เฮ้ย!!!…นี่แม่จีนะเว้ย~~…คุณแม่ของเพื่อน~~…คิดอกุศลอะไรอยู่เนี่ย?)
“ฮึ!!…นี่มันตามมาจริงๆรึ?…เคนกอดเอวพี่แน่นๆ!!!”
“อะไร…จริงๆนะครับ?…หวา~~”
…ไม่ค่อยได้ยินเสียงพี่จุนเพราะเสียงลมที่ดังอื้ออึงข้างหูและจู่ๆเธอก็บิดคันเร่งบึ่งแมงกะไซด์คู่ชีพโกยอ้าวอย่างไม่มีสาเหตุเล่นเอาผมหลับตาปี๋เอาแขนโอบกอดสาวซิ่งอย่างแน่นหนาจนถึงจุดหมาย (นึกว่าจะซี้ซะแล้ว) …
“ถ้ายังตามมาได้อีกล่ะก็…ตายแหงๆ”
“อะไรนะครับพี่?”
“อ๋อ!!…ไม่มีจ้ะ…เข้าไปกันเถอะ…เวลานี้คงมีคนมาน้อย”
“……………………………………………”
……………………………………………………………………………………….

…เงยหน้าดูท้องฟ้าสีครามซึ่งมีหมู่ปุยเมฆล่องลอยสลับกับมองผืนน้ำในสระสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็ให้รู้สึกรักชีวิตขึ้นมาทันทีทันใด…
“เมื่อกี้หวิดไปโลกหน้า…อยู่ๆพี่เขาเป็นอะไรนะถึงได้อัดสุดเหยียดชนิดประตูนรกเปิดอ้ารับแบบนั้น?”
…ผมออกปากพึมพำด้วยความโล่งใจอยู่ที่ขอบสระ…มีบุญได้กอดอดีตแชมป์โลกสาวโดยไร้ความผิดก็จริงแต่ถ้าได้รับประสบการณ์หวาดเสียวเฉียดนรกมาด้วยแบบนี้ก็ขอบายซะดีกว่า…
“โย่ว!!…สาวสุดสวยและเก่งสุดยอด…มาแล้วจ้า~~~”
“!!!”
…พี่จุนในชุดทูพีชสีเขียวเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆมือซ้ายท้าวเอวส่วนอีกข้างถือผ้าเช็ดตัวทำเอาคอผมแทบเคล็ดเพราะจู่ๆก็หันขวับอย่างกระทันหัน…ขอเปลี่ยนความคิด!!!…เมื่อกี้สุดจะคุ้มค่าที่เสี่ยงตาย…
“…………………………………………………”
“…………………………………………………”
“เฮอะๆๆๆ…ถึงกับพูดไม่ออกเชียวนะน้อง…ไง!!…สวยมั้ย?”
“สวย!…พี่สวยมากครับ!!”
“ฮะๆๆๆ”
…นี่ไม่ได้แกล้งชมเพื่อเอาใจแต่พี่จุนในชุดว่ายน้ำทูพีชสีเขียวมรกตช่างสวยสะดุดตาอะไรอย่างนี้หนอ?…หน้าอกไม่ถึงกับอวบอึ๋มมากแต่ก็น่าดูใช่เล่นและขนาดคงจะพอๆกับลูกสาวคนโต…ยิ่งตอนชูแขนเพื่อรวบมัดผมก็ยิ่งดูงามหยดเข้าไปใหญ่เพราะดอกบัวจะตั้งเต้าสวยได้รูป…รวมทั้งสะโพก…เอว…ต้นขา…ปลีน่อง…แก้มก้นงามงอนที่ไม่มีโอกาสได้เห็นบ่อยนัก…โดยรวมแล้วพี่จุนก็มีรูปกายที่เซ็กส์ซี่ไม่แพ้สาวคนไหนเลยทีเดียว…
“นี่คือตุ๊กตามรกต…คิกๆๆ…ก็พี่ชอบสีเขียวน่ะนะ”
… (ชอบใส่ชุดชั้นในสีเขียวด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ?) คุณแม่วัยสาวของจียังไม่ลงสระแต่นั่งข้างๆผมเอาขาแช่น้ำร้องเพลงอย่างสบายอกสบายใจ…ยิ่งดูใกล้ๆก็ยิ่งน่ารักเป็นบ้าเลยให้ตายเถอะวุ้ย!!…ถ้ารุ่นราวคราวเดียวกันจะจีบซะให้เข็ด (ว่าไปนั่น) …ผมชักเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นในหัวสมองแล้ว…ยิ่งตอนนี้บรรยากาศเป็นใจเพราะมีแค่เรา 2 คนเท่านั้นที่มาใช้บริการที่สระว่ายน้ำแห่งนี้…
“………………………………………………..”
“เคน”
“คะ…ครับ!!!”
…ผมสะดุ้งเพราะเสียงของพี่จุนที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมา…ช่วยไม่ได้…คือกำลังแอบพิจารณาส่วนสัดต่างๆไม่ว่าจะเป็นส่วนเว้าหรือนูนของนักเทควันโด้สาว…คุณแม่ยังสาวคนนี้น่ะก็สูงไล่เลี่ยกับจีนั่นแหละครับโดยแม้รูปร่างอาจจะดูบางกว่าลูกสาวแต่เทควันโด้นี่คนละเรื่องเดียวกัน…ฝีมือพี่จุนเหนือกว่าจีมากนัก…
“ระหว่างพี่กับจี…ใครเซ็กซ์ซี่กว่ากัน?”
“เอ๋?”
…คำถามนี้ตอบยากมากเพราะทั้ง 2 คนต่างมีดีกันไปคนละแบบ…จีน่ารักแบบห้าวๆไม่ชอบแต่งตัวยั่วยวนอวดใครยกเว้นเวลาอยู่บ้าน (โดยเฉพาะเมื่อคืนนั้น…นึกแล้วให้ความดันมันพาลพุ่งปรี๊ดทุกที) …ส่วนพี่จุน…ถึงจะเป็นคุณแม่ลูก 2 แต่เธอก็ยังดูสวยราวกับสาววัยรุ่นอยู่เสมอซึ่งอาจเป็นเพราะหล่อนชอบแต่งตัวด้วยผ้าน้อยชิ้นเน้นโชว์สัดส่วนอย่างที่ใส่มาบ้านผมวันนี้ก็ได้มั้ง…ดังนั้นจะให้ตอบว่าใครสวยเซ็กส์ซี่กว่ากัน…ไม่ขอตอบดีกว่ามั้ย?…
“เอ้า!!…มองพี่ให้ชัดๆดิ…แอบชำเลืองอย่างนั้นแล้วมันจะรู้ได้ยังไง?…เดี๋ยวก็ตาเขจนได้”
…ไม่ไหวมั้งครับ?…ขืนดูมากๆเข้าเดี๋ยวจะมีคดีอนาจารเกิดขึ้น…
“อ๋อๆๆ…นี่คงตอบไม่ได้เพราะพี่ไม่เปลือยชนิดเห็นหมดแบบจีสิท่า?”
“หา!?”
“ไม่ต้องมาหา!!!…คืนนั้นพี่เห็นหมดนะว่าเคนทำอะไรกับยัยนั่นบ้าง”
“วะ…วะ…ว่า…ว่าอะไร…นะครับ?…พี่…”
…ความแตกงั้นรึเนี่ย?…โอ๊วววววว~~~…ตายแน่!!!…ตายห่าแน่ๆ…พี่จุนจับได้ว่าผมกับลูกสาวของเธอทำ…ระ…เรื่องซวยมาเยี่ยมเยือนถึงตัวเพราะการกระทำของตนเองแท้ๆ…
“พี่…พี่…เห็นตั้งแต่…ตอนไหน?”
“…ตอนไหนเหรอ?…อืม–…ก็ตั้งแต่พวกเธอเล่นท่า 69 ไง”
…จ๊ากๆๆๆ…น่าอับอายยิ่งนัก!!!…พี่จุนดันมาเห็นช่วงเวลาไคลแมกซ์ซะด้วย…หมดกัน!!…หมดกัน~~…
“คืนนั้นพี่กลับมาตั้งนานแล้วแต่ไม่นึกเลยว่าเคนกับจีจะทำลามกกันได้ลง…เป็นเพื่อนเล่นหัวมาแต่เล็กแต่พอโตกลับเล่นเสียวกันซะได้…ให้ตายเถอะเด็กสมัยนี้”
“ผม…ผม…”
…ความรู้สึกตอนนี้คงไม่ต้องบรรยายว่ากำลังหวาดกลัวสุดๆ…พี่จุนคงรู้จึงพูดปลอบใจและลูบหัวผม…
“ไม่ต้องกลัวๆ…พี่ไม่คิดจะดุด่าหรือลงโทษอะไรเธอ 2 คนหรอกแต่เคนต้องรับผิดชอบสิ”
“รับผิดชอบ?”
“บอกคุณโมให้มาสู่ขอลูกสาวพี่ซะ”
…เฮ้ย!!…จะทำแบบนั้นได้ไงกัน?…ผมกับจีไม่ได้มีความรักแบบนั้นและขืนแม่รู้มีหวังลมใส่…
“พี่เห็นเธอ 2 คนมาแต่เล็ก…รักใคร่สนิทสนมกันดีจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“คือ…คือ…”
“……………………………………………”
…พี่จุนกำลังเข้าใจผิด…ผมจึงตัดสินใจเล่าเรื่องของตัวเองกับพี่บรีนให้เธอฟัง…
“เฮ่!!!…พูดให้มันสวยๆหน่อย…จีสู้บรีนไม่ได้ตรงไหน?…คิดจะชิ่งปัดความรับผิดชอบรึไง!!”
“ไม่ใช่ครับ!!…แต่…”
…เอาล่ะวะ!!…งานนี้ไม่โดนแข้งมหากาฬก็ต้องถูกส้นมหาประลัยของพี่จุนตอกเข้ากลางกบาลแหงๆ…
“มีอะไรเกินเลยกันถึงขนาดนั้นแต่เคนยังกล้าพูดออกมาว่าเป็นแค่เพื่อน…แย่ที่สุด!!!…ถึงยัยนั่นจะมีนิสัยชอบขวางโลกหรือพูดจาภาษาคนไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ก็เป็นลูกสาวพี่!…เป็นลูกผู้หญิง!!…เป็นฝ่ายเสียหายมากกว่า!!!”
“…………………………………………..”
…คุณแม่สาวสวยวัย 27 ลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งส่งสายตามองผมด้วยความไม่พอใจและกำหมัดแน่น…ผมอาจจะโดนเธอซัดจนนอนสลบพังพาบคาสระว่ายน้ำก็เป็นได้…
“ยืนขึ้น!!…ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็จงกล้าสบตาพี่!!”
…ผมเตรียมใจไว้แล้ว…คราวนี้คงรอดยาก..คุณแม่ของเพื่อนสนิทสั่งให้หันหน้าไปทางสระแล้วหลังจากนั้น…
“และนี่คือการลงโทษ…ย้าก!!!”
(ตึง!!)
(ตูมมมมม~~~)
“หวา~~~”
“สำเร็จ!!!…อะ…ฮะ~ฮะ~ฮะ~ฮะ…ฮ่า~ฮ่า~ฮ่า~ฮ่า~ฮ่า”
“??”
…อะไรกันเนี่ย!!…แกล้งโมโหนี่นา…พี่จุนยกเท้าถีบผมตกไปในสระแล้วยกมือชี้หน้าหัวเราะเยาะลั่น…
“คิกๆๆๆ…กลายเป็นหมา…ฮะๆๆ…ตกน้ำ…ไปเลยว่ะ…ฮ่าๆๆๆๆ”
“…………………………………………….”
“เรื่องนั้นรู้หรอกเฟ้ย!!…เมื่อเร็วๆนี้พี่จี๊ดเล่าให้ฟังหมดแล้วว่าเคนคบกับบรีนอยู่และเรื่องของเธอกับจีก็รู้มาตั้งนานนมแล้วย่ะ!!”
“ตกลงนี่…พี่ไม่ได้โกรธผมหรือครับ?”
“ฮิๆๆ…เอ้า!!…ส่งมือมาสิ”
…เจ็บทั้งตัวทั้งใจมิใช่น้อย…อย่างนี้ต้องเอาคืน…ผมแกล้งส่งมือให้พอพี่จุนไม่ทันระวังก็ออกแรงดึงเต็มที่จนนักเทควันโด้สาวเซถลาตกลงมาในสระด้วย…
“โย่ว!!…ว้าย~~~”
(ตูมมมมมม)
“แค่ก!!…ฮ่า~~…เดี๋ยวเถอะเคน!!!…กล้าแกล้งพี่เชียวรึ?…หนอยแน่ะ!!”
…พี่จุนวักน้ำสาดใส่ผมใหญ่แต่เธอคงจะรู้อยู่ก่อนแล้วแน่ๆ…สาวเจ้าว่ายน้ำหนีผมก็ว่ายตามโดยในใจลึกๆหวังจะขอกอดสักครั้งและก็หัวใจเต้นตึกตักเมื่อนิ้วผมไปโดนหน้าอกพี่จุนเข้า…
“จุ๊ๆๆ…คิดจะทำอะไรกันจ๊ะ?…แต๊ะอั๋งแม่ของเพื่อน…ไม่ดีนะไม่ดี”
“…ขอโทษครับ”
“หึๆๆ…เตือนไว้ซะก่อน…พี่ไม่ได้ง่ายเหมือนจีนะจะบอกให้…นายถั่วงอก”
…อ้าว!!…พี่จุนรู้จักฉายาผมด้วยแฮะ…ก็คืนนั้นนั่นปะไร…
“ที่จริงคืนนั้นพี่เชียร์เคนให้เอาจีให้รู้แล้วรู้รอดไปซะเลยน่ะ”
“เฮ้ย!!”
“ไม่เฮ้ยละ!!…ก็มันจะได้เลิกเป็นทอมซะที…เชื่อซี่~~…ลองของจริงเข้าไปสักครั้งมันต้องติดใจจนเลิกพึ่งของปลอมแน่ๆ…เหลือเกิน…มีโอกาสทั้งทีแต่ไม่ยอมคว้าไว้…เจ้าลูกบ้าคนนี้”
…ใบ้แดก…แม่เชียร์ผู้ชายให้ล่อลูกสาวตัวเอง…มันมีแบบนี้ด้วยหรือ?…
“ผมทำไม่ได้…ไม่อยากผิดต่อพี่บรีนและกลัวจีอัดด้วย”
“จะไปกลัวมันทำไมนักหนาเล่า!!…นี่เคยคิดบ้างป่ะ?…คืนนั้นถ้าเธอต้องการจะเย็ดให้ได้…จีขัดขืนเธอไม่ได้ร้อก!!!”
“จะ…จริงหรือครับ?”
…แค่ได้ยินคำว่า “เย็ด” เท่านั้นไอ้ที่อยู่ในกางเกงว่ายน้ำพองตัวขึ้นทันควัน…พี่จุนช่างกล้าพูดตรงๆแฮะ…
“เออซิ…ก็ยัยนั่นน่ะมันหมดแรงแล้วจะไปสู้เคนไหวได้ยังไง?…ปากร้องห้ามแต่ถ้าเอาเข้าจริงมีรึที่จะไม่แหกหีให้เธอเชยชม…จีน่ะแอบชอบเคนมาตั้งนานแล้ว…พี่รู้”
“……………………………………………”
…เป็นความโชคดีมหาศาลที่มาว่ายน้ำในครั้งนี้เพราะได้รับรู้ความจริงที่สำคัญจากปากพี่จุนว่าจีแอบชอบผม…งั้นที่เธอพูดก่อนจากลากันในคืนนั้นก็ไม่ใช่การล้อเล่นแต่อย่างใด…
“เนะ!!…ตอนที่จีดึงมือเคนออกจากหน้าอก…นั่นเป็นแรงเฮือกสุดท้ายของเธอก็ว่าได้มั้ง…แหมๆๆ…เคนนี่น๊า~~…ดูแค่ภายนอกก็จะประมาทไม่ได้เลย..ริเป็นเพลย์บอยตั้งแต่ตอนไหนกันนะเธอ?”
…อูว~~~…ก้นสวยชะมัดยาด…ไม่ใช่ๆ…พี่จุนกำลังก้าวขึ้นบันไดสระต่างหาก…จงคิดเอาเองล่ะกันว่าผมมองอะไร?…
“เดี๋ยวเถอะ!!…เรื่องอะไรมาจ้องตูดพี่ยะ?…รู้นะคิดอะไร…แล้วนั่นคงจะแข็งจนไม่กล้าขึ้นสิท่า?…คิกๆๆ”
“…………………………………………..”
…สงสัยจำบทพูดมาจากลูกสาวแหงๆ…พี่จุนเวลาเขินแล้วก็น่ารักมีเสน่ห์เหลือล้น…สมแล้วล่ะที่มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ถึงมาคอยตามจีบเธอไม่เว้นวัน…
“เคน…ขอเวลาพี่สัก 15 …ไม่!!…สัก 10 นาที”
“ทำไมหรือครับ?”
“เอาน่า–…ขอไปทำธุระสักแป๊ป…เดี๋ยวค่อยมาสนุกกันต่อ…เอ้อ!!…โทรตามบรีนมาที่นี่ด้วยสิ”
“พี่บรีนบอกมีงานครับ”
“เฮ่ย~~…ให้โทรก็โทรเซ่!!…รับรองเธอต้องมาแน่”
“………………………………………..”
…พี่จุนสั่งเสร็จก็หยิบผ้าขนหนูเช็ดตัวก่อนจะเดินไปที่ประตูทางออก…
“ลืมของล่ะมั้งนั่น?…เอาละ!!…ลองโทรหาพี่บรีนก็ได้…อืม–…ครับผม!!…เอ่อ–…พี่มาว่ายน้ำด้วยกันเถอะนะครับ”
“…………………………………………”
“น่านะ…ว่ายกับใครก็ไม่มีความสุขเท่ากับว่ายกับพี่บรีนหรอกครับ”
“…………………………………………”
“ถึงไม่เคยแต่ผมก็มั่นใจ…ได้โปรดเถอะ~~”
“…………………………………………”
“ครับๆๆ…ดีใจจัง…ผมจะรออย่างใจจดใจจ่อชนิดไม่เห็นพี่บรีนก็ไม่ยอมกลับแน่”
“…………………………………………”
…สำเร็จๆๆๆ…พี่จุน…ผมทำได้แล้วครับ!!!…เออ…ไม่อยู่นี่หว่า…จะว่าไปวันนี้พี่จุนก็มีอาการแปลกๆเหมือนกันนะ?…
…………………………………………………………………………………………………
…คุณจุนสาวยอดนักสู้หายไปไหน…อ่านต่อไปสิ…ตรงนี้มีคำตอบ…

“………………………………………….”
“แกนึกรึว่าจะหนีพวกข้าพ้น?”
“เปล่า…ก็ไม่คิดว่าจะหนีพ้นนิ…ฉันแค่อยากรีบมาว่ายน้ำสนุกๆก่อนจะพบพวกแกก็เท่านั้น”
“สนุก?…พาเด็กหนุ่มมาพลอดรักกันที่นี่เป็นความสนุกของแกงั้นรึเนี่ย?…ถ้าอีนั่นมันรู้เข้าคงปลื้มใจว่ะ…ก็แม่ของมันทำตัวร่านแอบควงผู้ชายรุ่นลูกไปเที่ยวกัน 2 ต่อ 2…จริงมั้ยพวกมึง?”
“ฮ่าๆๆๆๆ…ถูกของพี่ครับ”
“………………………………………….”
…ฟังดูก็รู้ว่าเป็นการยั่วยุแต่อดีตแชมป์โลกอย่างจุนยัง “นิ่ง” …เธอเสยผมพร้อมมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า…
“แล้วไง~~…แกมีธุระอะไรกับฉันล่ะ?”
“ข้ามาคิดบัญชีที่ลูกสาวแกพาพวกไปเล่นงานลูกน้องข้าถึงถิ่น”
“โย่ว!!!…ผิดๆๆๆ…ผิดแล้ว~~…ในเมื่อแกมีหนี้แค้นกับยัยนั่นก็ไปตกลงสะสางกับมันเองเซ่!!…มายุ่งกับฉันทำโรคระบาดอะไรเล่า?…ฉันไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย”
“แกต้องเกี่ยวเพราะแกเป็นแม่มัน!!!”
(อื๋อ!!…พาลนี่หว่า?…เจ้าหัวโล้นนี่ต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ…จีนะจี~~…หาเรื่องมาให้ฉันจนได้…นี่แกจะรู้บ้างมั้ยเนี่ยว่ากำลังทำให้แม่ซวย?…ซวยชนิดที่ต้องกระอักเลือดเลยล่ะ!!!)
“ตกลงพวกแกจะหาเรื่องกันให้ได้ใช่มั้ย?…อ้อ!!…มิน่าถึงพยายามตามรอยฉัน…นี่ไอ้เหม่ง!!!…แกกลัวลูกสาวฉันใช่มั้ยล่ะ?”
“พูดหมาๆ…กูไม่เคยกลัวมัน!!”
“อ๊าว!?…เร๊อะ!!”
“กูมาครั้งนี้เพื่อจะทำให้อีจีมันเจ็บใจและอับอายขายหน้าที่แม่มันถูกรุมโทรม…กูตัดสินใจอะไรแล้วจะยกเลิกไม่ได้…ลูกแกพาพวกไปเหยียบถึงถิ่นตอนที่กูไม่อยู่แล้วเล่นงานพรรคพวกกูซะเจ็บไปตั้งหลายคน…อย่างนี้มันเรียกว่าขี้ขลาดไม่ใช่หรือไง?”
“โฮะ!!…พูดไปพูดมาก็เพราะหื่นอยากจะรุมโทรมฉัน…ว้าว~~…เป็นเกียรติมาก…แต่พวกแกมากันแค่ 4 คนจะรับมือฉันไหวเร้อ?…ฉันอึดนะจะบอกให้”
“พี่เขียว…ผมขอคนแรกเลยนะพี่…เห็นนมเห็นหีของอีนี่แวบๆจนทนไม่ไหวแล้ว”
“โฮ่~~”
(เปรี้ยงงงงงง!!!!)
“โอ๊ยยยยย…อ๊ากกกกก”
“ถ้าทนไม่ไหวก็อย่าทนเลยจ้ะ…เอาล่ะ!!…เหลือแค่ 3 แล้วนะ…อย่างงี้พวกแกยิ่งแย่เข้าไปใหญ่”
“ตั้ง…ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!!”
…จุนใช้กระบวนท่าลึกลับ “สลายเงา” เคลื่อนตัวไปใกล้ชาย 1 ใน 4 เพียงชั่วพริบตาและเหวี่ยงเท้าเตะที่บริเวณกระดูกสะบ้าสุดแรง…จะไปเหลือรึ?…
“มึง!!”
“หยุดนะ!!…ถ้าไม่ฟังที่ฉันพูดพวกแกจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
“??”
“จากที่ทนฟังแกโม้เหม็นขี้ฟันมาตลอดเนี่ยก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวข้องกับฉันตรงไหนเลยนา–…อีกอย่าง…ฉันไม่เคยยุ่งเรื่องของจีด้วย…มันจะไปก่อเรื่องทะเลาะจนหัวร้างข้างแตกที่ไหนก็ช่างหัวมัน…ชื่อเขียวใช่มั้ย?…แกพาลูกน้องไปหามดหาหมอซะเถอะ…เวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนส่วนตัวของฉัน…อย่ามาทำให้เสียอารมณ์…ชิ่วๆๆ”
…จุนยั่วยุกลับไปบ้าง…พูดจบก็โบกมือไหวๆส่งสัญญาณไล่ราวกับไล่หมูไล่หมา…ทำร้ายฝ่ายตรงข้ามอย่างนี้เขาคงจะไปหรอกนะเจ๊…นอกจากไม่ไปแล้วยังช่วยเพิ่มเชื้อไฟให้ปะทุเอาง่ายๆด้วย…
“พี่…อีนี่มันเก่ง”
“ช่าย~~…ฮะๆๆ”
“เฮ้ย!!!”
“อะไร?”
“จะหยามกันเกินไปแล้วว้อย!!!…เล่นมัน!!!”
…สถานการณ์เรียกว่าคับขันก็ได้แต่จุนยังเห็นเป็นเรื่องปกติ…ท่าสลายเงาคือศาสตร์ลับแขนงหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างว่องไวประดุจหายตัวโดยไม่ทิ้งเงาหลงเหลือไว้เพียงชั่วกระพริบตาครั้งเดียว…อย่างเมื่อสักครู่จีแกล้งเข้ามาอยู่ข้างหลังพวกมันแต่กว่าจะรู้เธอก็ขยับตัวหนีออกไปอยู่อีกทางซะแล้ว…
“โอ๋ย~~…ตายละ!!”
“…………………………………………..”
“ฮะ!!…เฮ้ย~~…เดี๋ยวก่อน~~”
…จุนยกมือห้ามขอเวลานอกแต่ไร้ผล…ชาย 3 คนตรงเข้ากลุ้มรุมทำร้ายหญิงคนเดียว…สาวเจ้าต้องหลบหมัดปัดป้องลูกเตะเป็นพัลวันเนื่องจากดันทะลึ่งสลายเงาไปอยู่ตรงมุมอับ…
(แย่แล้ว!!!…ปมชุดว่ายน้ำมันจะ…)
“เฮ่ๆๆๆ…เอาจริงหรือเนี่ย?…ฉันผู้หญิงนะเว้ยเฮ้ย!!!”
…สาวจุนร้องเอะอะแต่ก็ยังก้มหัวหลบหมัดได้ทั้งๆที่บางจังหวะหล่อนหันหลังให้คู่ต่อสู้…
(บ้าฉิบ!!…ตัวมันไปอยู่ไกลถึงราชบุรีแต่ยังเสือกหาเรื่องเดือดร้อนมาให้แม่…ลูกห่าลูกเหวอะไรวะนี่?…ชักโกรธแล้วนะ…เอาคืนไปบ้างซิ!!)
“ฮึ!!”
(เปรี้ยงงงงง!!!)
“อั๊ก!!!…อ๊าาาาาา…”
“นี่เขาเรียกว่าเนริจากิ…ท่าตอกส้นของเทควันโด้…จำไว้จน…วันตายนะ”
(ตูม!!!)
(โครม!!!)
…ชายคนที่ 2…จุนตอกส้นซัดที่ดั้งจมูกและตวัดเตะกลับหลังซ้ำถูกที่แก้ม…ฟันร่วง…กระดูกขากรรไกรหัก…ล้มแผ่อย่างกับตายที่พื้น…
“…ไปแล้ว 2 …ฮิๆ”
…เมื่อครั้งจุนยังโลดแล่นในการแข่งขันระดับโลก…เธอได้รับฉายาจากกลุ่มนักกีฬาต่างประเทศว่า “TORNADO JUN” เนื่องเพราะการเต้นฟุตเวิรค์ที่งดงามพลิ้วไหวแปรเปลี่ยนไม่อยู่นิ่งตลอดเวลาและ…
“ไฮ๊ย่าห์~~~”
(พล่อก!!!)
“โอ๊กกกก!!!!”
…ชายคนที่ 3โดนจุนโหมเตะซ้ายหวดขวาอย่างไม่นับเข้าที่ซี่โครงและถีบกลางแผงอก…กระเด็นไปกระแทกกระถางต้นไม้…หมดสติ…
“ทอร์นาโดคือพายุที่หมุนวนด้วยความเร็วและรุนแรง…ดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าใกล้และ…ทำลาย!!!”
…ไม่ว่านอกหรือในสนามแข่ง…ศัตรูคนแล้วคนเล่าจะย่อยยับลงในชั่วอึดใจเมื่อเจอกับจุน…ในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีใครสักคนเดียวที่จะคว้าชัยชนะจากเธอได้…
“เหลือแกคนเดียวแล้วนะไอ้โล้น…โคตรโง่เลยที่บังอาจมาท้าทายฉัน”
“ฮึ่ม!!!”
“นอกจากเป็นแม่แล้วฉันยังเป็นอาจารย์สอนเทควันโด้ของจี…แกอาจสู้ลูกสาวฉันได้…แต่ว่า!!…ฝีมือศิษย์กับอาจารย์มันต่างกันไกล…”
“ยังไม่จบว้อย!!”
“หือ?”
…ไอ้เขียวชักปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวชี้ไปที่หญิงสาว…เขาไม่มีทางเลือกเนื่องจากรู้แจ้งแล้วว่าสู้ด้วยมือเปล่านั้นไม่มีทางเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้าได้และคิดในใจว่ามันน่าขายหน้าที่ผู้ชายอย่างเขาจนตรอกถึงขนาดควักปืนออกมาขู่ผู้หญิงตัวเล็กกว่าอย่างจุน…มันจนตรอกแล้วจริงๆ…
“………………………………………….”
“ฮ่าๆๆๆ…ไง!!…เริ่มกลัวแล้วล่ะสิ?…กลัวเข้าไป…คุกเข่าร้องขอชีวิตจากกูซะเซ่!!!…ไม่งั้นกูยิงมึงไส้แตกแน่”
“…งี่เง่า”
“!!!!”
…จุนไม่เซ่อพอที่จะหันหลังวิ่งหนีหรือยืนนิ่งเป็นหุ่นรอให้ถูกยิง…เธอชิงลงมือก่อนด้วยท่วงท่าสลายเงาที่จีลูกสาวยังไม่อาจเรียนรู้ได้…กว่าเจ้าเขียวนักเลงต่างถิ่นจะรู้ตัวก็โดนบิดข้อมือจนปืนร่วงและถูกเตะเข้าที่แขน…หญิงสาวเอาเท้าเขี่ยปืนกระบอกนั้นหายไปในพงหญ้า…
“ความจริงน่าจะเอาออกมาใช้ตั้งนานแล้วนะแต่ถึงกับเล่นปืนผาหน้าไม้เชียวรึ?…งั้นชั่วชีวิตนี้แกก็อย่าใช้มันอีกเลย…ไอ้แขนสกปรกนี่!!!”
(กร๊อบบบ!!!!)
“อ๊ากกกก~~~…โอ้ยยยยย~~~…ไหล่…ไหล่กู”
“กระดูกไหปลาร้าหัก 2 ข้าง…แค่นี้แกก็ไม่มีปัญญาจะทำร้ายใครไปอีกนาน…นี่แหละ…โทษฐานที่ไม่รู้จักประมาณตัวเอง…ริอ่านคิดต่อกรกับอดีตแชมป์โลก”
“อดีต…แชมป์…โลก”
“อ้าว!!…จีมันไม่ได้บอกแกเหรอว่าฉันเป็นใคร?…อย่างว่า…ถ้ารู้ก็คงจะไม่บ้าบิ่นมาหาเรื่องฉัน…คือยัยนั่นน่ะถึงจะมีพรสวรรค์แต่ตอนนี้เปรียบเหมือนม้าหนุ่มเพิ่งเข้าคอกยังวิ่งได้ไม่สม่ำเสมอหรอก…ประสบการณ์การต่อสู้ในชีวิตจริงๆก็ยังน้อย…ไม่เหมือนฉันหรอกนะ”
“…………………………………………..”
“อืม–…มีมือถือด้วยแฮะ…พอดีเลย…โรงพยาบาลก็อยู่ไม่ไกลจากนี่ซะด้วย”
…สาวจุนกดเบอร์ของโรงพยาบาลและแจ้งว่าตอนนี้มีคนกำลังจะได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 คน(?)โดย 1 ในนั้นอาการจะสาหัสเป็นตายเท่ากันขอให้ส่งรถมารับตัวโดยด่วนที่บริเวณหลังสระว่ายน้ำของคลับฟิตเนส…
“หึๆๆๆ…ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวแกเองว่าจะอดทนจนถึงมือหมอได้มั้ย?…ถ้าโชคดีแกก็รอด…อย่าถือโทษโกรธกันเลย…ฉันทำไปเพื่อความปลอดภัยของลูกสาวสุดที่รักและเป็นไปตามคำสั่งเสียของสามี”
“…แก…คิดจะทำอะไรข้า?”
…ถึงคู่ต่อสู้คนสุดท้ายจะพ่ายแพ้ไปแล้วแต่จุนยังไม่ยอมหยุดเพียงแค่นี้…
“เพราะแกมันอันตรายเกินไป…ในฐานะคนเป็นแม่ฉันจะต้องจัดการศัตรูของลูกสาวโดยเด็ดขาด”
…สิ้นประโยคสุดท้ายจุนก็ยกขาขวาขึ้นสูงจนตั้งฉากเกือบ 90 องศากับพื้นดิน (สวมชุดว่ายน้ำอยู่มันเลยคล่องตัวมาก) …จุดมุ่งหมายคือตอกส้นเข้าที่ตำแหน่งอกซ้ายของเจ้าเขียวเพื่อหยุดการเต้นของหัวใจอันหมายถึงการดับเพลิงชีวิต…
“อือ~~…อึ๊ก!!!”
“อโหสิเถอะ”
(ตูม!!!…ตึง!!!)
“โอ๊กกกกก…โอ๊ยยยยยยย…ไอ้!!!…อี…ฆาต…กร…อ๊ากกกกก~~~~”
…กระดูกมือหักสะบั้น!!!!…ท่าเนริจากิแนวดิ่ง 90 องศาที่มีอานุภาพรุนแรงกระแทกถูกมือของเขียวซึ่งพยายามยกป้องกันเพื่อรักษาชีวิตตนเอง…ทว่า!!…มันกลับไร้ผลเมื่อส้นเท้ายังพุ่งผ่านมือข้างที่หักไปปะทะกับแผ่นอกใกล้ตำแหน่งของหัวใจและมีโลหิตจำนวนหนึ่งทะลักออกจากปากจนกระเด็นถูกตัวจุน…
“โย่ว!?”
…ปมชุดว่ายน้ำที่ห่อหุ้มหน้าอกไว้มันได้หลุดร่วงลงสู่พื้น…เต้าสวรรค์คู่งามจึงเป็นภาพสุดท้ายที่เขียวได้เห็นก่อนจะแน่นิ่งไป…
“วา~~…ถือเป็นของขวัญสั่งลาก็แล้วกัน…ได้เห็นหน้าอกขาวๆสวยๆของฉันถือเป็นบุญมหาศาลนะรู้มั้ย?”
…จุนก้มหยิบบราสีเขียวมรกตที่อาบย้อมไปด้วยเลือดเดินกลับเข้าตัวอาคารสระว่ายน้ำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่นานก็ได้ยินเสียงหวอของรถพยาบาลดังมาแต่ไกล…
“ถ้าไม่ยกมือขึ้นมากันจนลดแรงกระแทกไปได้เกือบครึ่ง…ฉันจะเรียกรถเก็บศพมาแทน…”
(ดังนั้นไอ้โล้นบ้านี่ยังไม่ถึงฆาตแน่นอนเพราะมีคำกล่าวที่ว่าคนชั่วช้าสารเลวมักจะอายุยืนเสมอ)
………………………………………………………………………………………………………………………

“อึ๋ย!!…ตาเคนเห็นเราซะแล้ว…ว้าย~~…หมดเลยนมฉัน”
…จะเอาบราที่ถืออยู่ปิดหน้าอกก็ไม่ได้เพราะมันมีแต่คราบเลือดของพวกชั่ว…จุนเลยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำโดยด่วนเพื่อหลบสายตาของเพื่อนลูกสาว…
“เอาจนได้มั้ยล่ะ”
“พี่จุนเป็นอะไรไปครับ?…ทำไมตัวพี่มีคราบเลือด”
“เอ้ย!!…ไม่มีอะไรๆ…อย่าเข้ามาเด็ดขาดนะ”
…แต่แล้วจุนก็นึกอะไรได้บางอย่าง…
(เดี๋ยวสิ!!…แล้วทำไมเราไม่ใช้โอกาสนี้หาพยานล่ะ?…เอาเคนเป็นพยานให้เราดีกว่า…เกิดมีใครหรือมีเจ้าหน้าที่มาถามก็จะบอกได้ว่าเราอยู่กับเคนตลอด)
“ฮะ…แฮ่ม!!…เคนจ๋า~~…เข้ามาหาพี่หน่อยซิจ๊ะ”
“เอ๊ะ?…มัน…มันจะดีหรือครับพี่”
“เอาน่า!!…บอกให้เข้าก็เข้ามา…พี่มีอะไรให้เคนช่วยสักนิด”
…สักครู่เคนก็ค่อยๆเดินแบบกล้าๆกลัวๆเข้ามาแต่แล้วเขากลับตกใจจนตาค้าง…
“อุ!!…พี่จุน…พี่”
“อะไรเหรอ?”
“ขะ…ข้าง…ข้างล่าง”
“เห~~…ข้างล่าง?…ว้าย!!!”
(เหวอ!!!…โล่งเลยอีจุนเอ้ย~~…ลืมไปว่าเรารูดกางเกงว่ายน้ำไปอยู่ตรงหัวเข่า…หมดกัน~~…เคนเห็นหีเห็นหมอยเราหมดแล้ว!!!)
“ขอ…ขออภัยครับ”
“เดี๋ยวเถอะ!!!…นั่นนายจะไปไหนยะ?…ห้ามไปไหนนะ!!…เข้ามานี่”
(อายก็อายวุ้ย!!…แต่ลงว่าเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้…ฉันคงต้องปิดปากนายถั่วงอกนี่ซะ…หึๆๆๆ…ถึงลูก 2 แล้วแต่ก็มั่นใจว่าเนื้อหนังมังสายังสุดยอดและอะไรๆก็ยังฟิตเปรี๊ยะอยู่นะ…เจ้าเคนต้องปิดปากสนิทแน่ๆ)
……………………………………………………………………………………………

Share the Post:

Related Posts

แฟนโดนรุมเย็ด(ผมมันเลว)

แฟนโดนรุมเย็ด(ผมมันเลว)

เรื่องเสียว แฟนโดนรุมเย็ด(ผมมันเลว) เหตุเกิดเมื่อปี 63-44 ตอนนั้นผมกับแฟนยังคบกันอยู่ เราคบกันมาตั้งแต่อยู่ ม. ปี 1 ผมติดยาซึ่งแฟนผมก็รู้แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เรื่องมาเกิดเมื่อตอนเราเรียนจบเมื่อปี 62 เราก็กลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ แฟนผมเรียนต่อ ป.โท เราเจอกันที่บ้านผมบ่อยๆ เวลาเธอมาส่วนใหญ่ผมก็จะเล่นยาอยู่กับเพื่อนๆ มีเพื่อนผมที่สนิทอยู่คนหนึ่ง ปรกติมันก็จะไปๆมาๆบ้านผมอยู่เป็นประจำ และก็รู้จักกับแฟนผมดี

Read More
เปิดซิงเด็ก ม.ต้น

เปิดซิงเด็ก ม.ต้น

เรื่องเสียว เปิดซิงเด็ก ม.ต้น ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้พบกับประสบการณ์เสียวๆ นะครับ ผมชื่อต้น ผมได้พบกับหลินครั้งแรกตอน ม.3 ส่วนหลินก็อยู่ ม.1 ครับ ที่ได้รู้จักก็เพราะพ่อของผมเป็นเพื่อนกับพ่อของหลิน ก็คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนนั่นแหละครับ ทำให้ผมเป็นคนที่สนิทกับหลินที่สุด เราคบกันเล่นด้วยกันมาตลอด หลินเป็นคนที่จัดว่าน่ารักมากคนนึงครับ ผิวขาวค่อนข้างอวบ หน้าตาน่ารัก ตาเล็กๆ ยิ้มหวานตามระสาลูกครึ่งจีนครับ

Read More