อาถรรพ์ปลัดขิก ตอนที่ 17 คลายความทุกข์ให้พยาบาลสาว Part 1

อาถรรพ์ปลัดขิก ตอนที่ 17 คลายความทุกข์ให้พยาบาลสาว Part 1

อาถรรพ์ปลัดขิก ตอนที่ 17 คลายความทุกข์ให้พยาบาลสาว Part 1
โดย Kamen Rider V-3

นิสาอดไม่ได้ที่จะเบะปาก แล้วเอ่ยตอบ

“เชอะ….ข้ออ้างของผู้ชายเจ้าชู้…..เธอก็เหมือนผู้ชายเจ้าชู้คนอื่นๆนั่นแหละ ทำเป็นพูดดีจีบผู้หญิงไม่เลือก
พอได้สมใจแล้วก็หาทางตีจากผู้หญิงไป……….พี่ล่ะเกลียดจริงๆคนแบบนี้”

“อ้าว…..อย่าเหมาผมไปรวมกับพวกที่พี่เกลียดสิครับ ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นนะ”

“แล้วมันต่างกันตรงไหน รักผู้หญิงทีละหลายๆคนอย่างเนี้ย ในที่สุดพอผู้หญิงเขารู้ความจริงเธอก็ต้อง
ถูกบังคับให้เลือกคนใดคนหนึ่ง และเธอก็ต้องทอดทิ้งผู้หญิงคนอื่นๆที่เธอเจ้าชู้ด้วยอยู่ดี”

นิสาพูดเสียงแข็งอย่างมีอารมณ์ร่วม จนป๊อดรู้สึกแปลกใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตอบโต้

“พี่นิสา พี่จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ผมจะไม่ทอดทิ้งผู้หญิงที่ผมรักไม่ว่าจะเป็นคนไหน ถ้าจะต้องให้ผมเลือก
คนใดคนหนึ่งโดยต้องทอดทิ้งคนอื่นๆให้ต้องเสียใจ ผมจะยอมเป็นฝ่ายถูกพวกเธอทอดทิ้งซะดีกว่า”

นิสานิ่งฟังแล้วจ้องหน้าป๊อดเขม็ง ใบหน้าของเธอเจือไปด้วยอารมณ์โกรธอย่างเห็นได้ชัด แล้วดวงตาทั้งสองของเธอ
ก็เริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา จนป๊อดมองดูแล้วอดใจหายไม่ได้

“พี่นิสา…ผมขอโทษ…ไม่ว่าผมจะพูดอะไรออกไปก็ตาม หากเป็นการทำร้ายจิตใจพี่ ผมต้องขอโทษด้วยครับ”

นิสาหันหน้าหลบไปทางอื่นแล้วล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบกระดาษขึ้นมาซับน้ำตา

“มันไม่เกี่ยวกับเธอหรอกป๊อด….เพียงแต่คำพูดของเธอมันเหมือนกับผู้ชายคนหนึ่งที่พี่รู้จัก”

ป๊อดรู้สึกสนใจคำพูดของนิสา จึงคิดที่จะถามเธอเพิ่มเติม แต่ก็เกรงจะไปทำให้เธอเสียใจอีก จึงเอ่ยออกมา
แบบเรียบเคียง

“ผู้ชายคนนั้นเป็นแฟนพี่เหรอครับ………….เอ่อ…ถ้าพี่ไม่อยากพูดถึงก็ขอโทษด้วยนะครับ”

นิสาสบตาป๊อดนิ่งเหมือนชั่งใจ แล้วพูดขึ้น

“ใช่ แฟนของพี่เคยพูดทำนองเดียวกับป๊อดนี่แหละ ก่อนที่เราจะเลิกกัน เพราะว่าพี่จับได้ว่าเขาคบผู้หญิงคนอื่น
พี่เลยบังคับให้เขาต้องเลือกแค่เพียงคนเดียว”

ป๊อดฟังมาถึงตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจสาเหตุที่เธอร้องไห้ออกมา เมื่อได้ฟังคำพูดเมื่อสักครู่ของเขา

“เขาก็เลยพูดกับพี่ เหมือนกับที่ผมพูดเมื่อสักครู่ใช่ไหมครับ”

นิสาเริ่มมีน้ำตาไหลเอ่อออกมาอีกครั้ง แทนคำตอบ

“พี่นิสา ผมเข้าใจนะว่าพี่ไม่ชอบคนหลายใจ แต่ผมขอถามพี่ข้อหนึ่ง ระหว่างที่พี่คบกัน เขาเคยทำไม่ดีกับพี่มั่งไหม”

“ไม่…ไม่เคยเลย…เขาดีกับพี่มากจนพี่ตายใจ”

“ทำไมพี่ไม่คิดบ้างว่าอันที่จริง เขาอาจจะไม่ได้หลอกให้พี่ตายใจ แต่เป็นเพราะว่าเขารักพี่มากจริงๆ”

“ถ้ารักจริง แล้วทำไมต้องมีคนอื่นด้วยล่ะ”

“พี่จะโกรธ จะด่าว่าผมอย่างไรก็ได้นะ ผมแค่จะขอบอกว่า ผมเองก็อยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกับแฟนของพี่
และขอสารภาพจากใจของผู้ชายหลายใจเลยนะ ถ้าจะให้ผมไปบอกเลิกผู้หญิงที่ผมรัก เพื่อไปเลือกอีกคนหนึ่งที่ผมก็รักเหมือนกัน
ผมก็คงทำไม่ได้ มันเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดมาก เลือกก็ทำไม่ได้ ไม่เลือกก็ต้องเลิกลากับคนที่เรารัก ผมเข้าใจแฟนของพี่
เป็นอย่างดีเลยว่า เขาเองก็คงเป็นทุกข์ไม่น้อยไปกว่าพี่หรอก”

นิสายิ่งฟังป๊อดพูดก็ยิ่งมีน้ำตาไหลพรากลงอาบแก้ม ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ใครฟังแม้แต่เพื่อนพยาบาลด้วยกัน
หน้าที่อันยุ่งเหยิงของเธอ ทำให้เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเธอไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องเหล่านี้ แต่มาในวันนี้
เธอได้มีโอกาสคุยกับป๊อด ก็เหมือนกับไปสะกิดแผลเก่าให้ประทุขึ้น ความน้อยใจ เสียใจก็เต็มตื้นขึ้นในอกจนเธอร้องไห้
ออกมาไม่หยุด

“พี่นิสา ที่พี่ยังเสียใจอยู่ในตอนนี้ เพราะว่าพี่ยังรักเขาอยู่ ก็ในเมื่อพี่ยังตัดใจจากเขาไม่ได้ ผมว่าทำไมพี่ไม่ลองปล่อยให้เวลา
มันจัดการเรื่องราวของมันไป พี่จากเขามาแบบนี้ก็เท่ากับพี่บีบบังคับให้เขาไปเลือกผู้หญิงอีกคนแทนพี่เลยนะ
มันจะไม่ยิ่งทำให้พี่เป็นทุกข์ไปมากกว่านี้อีกเหรอ

ถึงตอนนี้ นิสาก็ร้องไห้โฮดังมากกว่าเก่า แล้วก็พูดสิ่งที่ป๊อดไม่คาดคิดออกมา

“เขาตายแล้ว….ป๊อด……..ฮือๆๆๆ”

ป๊อดตกตะลึง ตาเบิกกว้าง

“อะไรนะ…พี่นิสา….พี่ว่าอะไรนะ”

“วันนั้นพี่บอกเลิกกับเขา ต่อว่าเขาอย่างรุนแรงจนเขาทนฟังไม่ได้ ต้องขับรถหนีออกไป พี่ไม่นึกเลยว่าวันนั้นจะเป็นวัน
ที่พี่ได้พูดกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย เขาประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถในคืนวันนั้น ฮือๆๆ

พี่อยากจะพบหน้าเขาอีกครั้ง อยากบอกให้อภัยเขา อยากบอกว่าพี่รักเขามาก ฮือๆๆๆๆ”

ป๊อดมองนิสาก้มหน้าร้องไห้อย่างซึมกระทือ เขารู้สึกสงสารเธออย่างจับใจ จนอยากจะเข้าไปปลอบประโลมใกล้ๆเธอ แต่จนใจที่
ยังไม่สามารถช่วยตัวเองได้ เขาตั้งใจไว้แล้วว่าไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีใด เขาจะหาทางให้เธอได้พูดคุยกับคนรักของเธอให้ได้

คืนนั้นหลังจากสามทุ่มไปแล้ว พยาบาลนิสาก็ลาป๊อดออกไปจากห้องด้วยใบหน้าที่ยังแฝงไปด้วยความเศร้าเสียใจ
ป๊อดนอนลืมตาโพลงครุ่นคิดแต่เรื่องของนิสาจนนอนไม่หลับ แต่แล้วเขาก็นึกถึงน้าขิกขึ้นมาได้ ทุกครั้งที่เขามีปัญหา
น้าขิกมักจะมีวิธีดีๆที่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้หมดไปได้ทุกครั้ง

เมื่อคิดได้ดังนั้น ป๊อดก็หันไปรอบห้องเพื่อมองหาปลัดขิกของเขาแต่ก็ไม่พบ จึงพยายามตั้งสติคิดว่าทางโรงพยาบาลจะเก็บ
เครื่องใช้ของคนไว้ที่ใด แล้วจึงทดลองเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักเก็บของที่ข้างเตียงออกดู ก็พบกับเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เมื่อคืนก่อน
ถูกซักทำความสะอาดแล้วพับไว้อย่างเรียบร้อย โดยมีปลัดขิกสีดำมันที่เขาคุ้นเคยตาวางอยู่บนกองผ้านั้น

ป๊อดยิ้มออกมาอย่างดีใจ เหมือนกับได้เจอเพื่อนสนิท

“น้าขิก….อยู่นี่เอง…”

แล้วป๊อดก็หยิบปลัดขิกนั้นมากำไว้ พร้อมกับร่ายคาถาปลดปล่อยภูตแห่งปลัดขิกทันที

“กันหะ เนหะ…..กันหะ เนหะ…….กันหะ เนหะ”

พลันปลัดขิกในมือของป๊อดก็สั่นขึ้นคล้ายกับเป็นสิ่งมีชีวิต ก่อนที่จะเลือนหายเข้าไปในร่างของป๊อด พร้อมกับปรากฎเสียงทักทาย
ที่เขาคุ้นเคยอย่างที่สุดดังขึ้นในหัวของเขา

“เป็นไงบ้างวะไอ้หนู…..คราวนี้หนักเลยนะเอ็ง”

“ไม่เท่าไหร่….ไม่มีน้าขิกผมก็สู้ได้อย่างสบาย”

“คุยเลยนะเอ็ง….หมั่นไส้ว่ะ…ถ้าเก่งนัก งั้นเรียกข้าออกมาทำไมวะ”

“แหม…..ผมพูดเล่นน่า…..น้าขิก……ถ้าน้าขิกไม่สั่งสอนผมไว้ ป่านนี้ผมคงตายไปแล้ว”

“เออ…พูดอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย…..ไหน..แผลของเอ็งเป็นยังไงบ้าง”

“หมอเขาผ่าตัด แล้วก็เย็บให้เรียบร้อยแล้ว นอนพักซักสองสามวันเดี๋ยวก็หาย”

“เฮ้ยยย….หมอของเอ็งจะสู้ข้าได้ยังไงวะ….ข้าจะสอนให้ ตอนนี้…เอ็งสามารถเข้ากสิณดินได้แล้ว
ดินเป็นต้นธาตุของหนัง เนื้อ กระดูก ในร่างกายมนุษย์ เอ็งจงเข้าสู่กสิณดิน จนจิตของเอ็งทรงอยู่ในฌาน
แล้วร่ายคาถาประสานกาย ตามที่ข้าบอก 3 ครั้ง ตามนี้

วะโลวะลัน โยวะละโต วะลาหะโล

แล้วแผลของเอ็งก็จะประสานกันจนสนิท เหมือนกับไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน ”

“โห…น้าขิก รู้งี้ผมเรียกน้าออกมานานแล้ว เจ็บแทบตาย”

“เออ….เจ็บก็รีบทำซะสิ”

แล้วป๊อดก็เริ่มทำตามวิธีที่ภูตแห่งปลัดขิกแนะนำไว้ทุกประการ เขาปิดตาลงจนสนิท แล้วภาวนาจิตเข้าสู่ฌานแห่งกสินดินทันที

“ปัฐวี……ปัฐวี…….ปัฐวี……ปัฐวี…….ปัฐวี……………..”

ในที่สุดจิตของเขาก็นิ่งสงบ ดิ่งลึกลงสู่ระดับฌาน เขาจึงเริ่มร่ายคาถาประสานกายตามที่ภูตแห่งปลัดขิกได้สอนไว้
พร้อมกับลูบฝ่ามือไปที่บาดแผล จนเมื่อร่ายคาถาครบสามรอบ อาการเจ็บตึงๆที่บริเวณช่องท้องก็สลายหายไปอย่างน่าอัศจรรย์

ป๊อดทดลองเอี้ยวตัวไปมา ก็สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว เหมือนกับว่า เขาไม่เคยเกิดบาดแผลที่ช่องท้องมาก่อน

“โห…..วิเศษสุดๆไปเลยน้าขิก……”

“เป็นไงล่ะฝีมือข้า …ฮ่าๆๆๆ………ทีนี้เอ็งก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วสินะ”

“ยังน้าขิก ผมยังไม่อยากออก ผมมีเรื่องที่ต้องทำ”

“เรื่องอะไรวะ”

“ผมอยากจะช่วยพยาบาลคนที่คอยดูแลผม น้าขิก…พอจะมีวิธีเอาคนตายมาพูดกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ไหม”

“ได้..ถ้าไอ้คนที่ตายมันยังไม่ไปผุดไปเกิด….แต่ถึงเรียกได้ร่างของมันก็เน่าเปื่อยไปแล้ว ไม่น่าดูหรอก
ทำไม…..เอ็งจะให้นังพยาบาลนั่นพูดคุยไปกับแฟนของมันเหรอ”

“ใช่..น้าขิก ผมสงสารเธอ อยากจะให้เธอได้พูดคุยดีๆกับคนรักของเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอจะได้สบายใจซะที”

“อย่าเลย…ข้าว่า ถ้าเกิดได้คุยกันจริงๆ แล้วจิตเกิดผูกพันธ์กันขึ้นมา นังพยาบาลนั่นจะไม่เป็นสุขเอานะ
เพราะวิญญาณผีตายโหงมันจะตามติดไม่ไปผุดไปเกิด เหมือนกับที่เอ็งกำลังเจออยู่ในตอนนี้”

“อะไรน้าขิก…ผมเจออะไร”
ป๊อดถามขึ้นอย่างงสัย

“อ้าว….นี่เอ็งยังไม่รู้เหรอ ว่าไอ้โหงพรายมันตามเอ็งไปทุกที่เลย ที่โรงพยาบาลนี่มันก็มา เอ้าไอ้โหงพราย เอ็งออกมา
แสดงตัวหน่อย”

สิ้นคำของภูตแห่งปลัดขิก ก็ปรากฏเงาดำขึ้นที่เบื้องหน้าของป๊อดแล้วค่อยๆชัดขึ้น จนเห็นเป็นร่างของโหงพรายอย่างชัดเจน

“อ้าว…โหงพราย…นี่แกยังไม่ไปผุดไปเกิดอีกเหรอ…แกตามฉันมาทำไม…แกไม่ได้ถูกสะกดไว้แล้วหนิ”

“นาย…ข้าไม่มีที่ไป…ข้าไม่รู้จะไปไหน…..ขอข้าอยู่กับนายนะ”

“เอายังไงกับมันดีล่ะ….น้าขิก”

“เอ็งก็เลี้ยงมันไว้ใช้สิวะ มันยังไปผุดไปเกิดไม่ได้หรอก ก็เหมือนกับข้านี่แหละ มันยังไม่หมดกรรม”

“เลี้ยงเหรอ….เลี้ยงยังไง”

“ก็เครื่องเซ่น คาวหวานทุกวัน อย่างละนิดหน่อย แล้วจุดธูปเรียกมันมากิน”

“แล้วทำไมน้าขิกไม่เห็นต้องกินเลย”

“เฮ้ย….อย่าเอาข้าไปเทียบกับมัน….ข้าไม่ใช่วิญญาณชั้นต่ำอย่างมันนะเว้ย”

ป๊อดหันไปยังโหงพราย แล้วเอ่ยขึ้น

“ก็ได้…แกอยู่กับฉันก็ได้….แต่แกห้ามสร้างความเดือดร้อนให้กับคนรอบข้างฉันเป็นอันขาด เข้าใจไหม”

“จ้ะนาย…..นายมีอะไรจะให้ข้าทำ…ก็เรียกข้าได้เลย”

“ได้…งั้นแกไปได้แล้ว”

แล้วร่างของโหงพราย ก็ค่อยๆจางหายไป

“น้าขิก…เรามาคุยกันต่อ…เรื่องพยาบาลนิสา น้าขิกพอมีวิธีอื่นไหม”

“มี……แต่เอ็งต้องทำเอง”

“งั้น…น้าขิกบอกมาว่าต้องทำยังไง”

“เอ็งก็แปลงโฉมเป็นคนรักนังนั่นซะเลยสิวะ”

“เฮ้ย……..แล้วผมจะไปทำได้ยังไงเล่า”

“เอ….ก็ข้าพึ่งบอกเอ็งไปเมื่อครู่ ว่าธาตุดินเป็นต้นธาตุต้นกำเนิดของ เนื้อ หนัง กระดูก ของร่างมนุษย์ เอ็งก็เข้ากสินดิน
แล้วอธิษฐานจิตแปลงโฉมเป็นคนรักของนังนั่นซะ เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง”

“อ๋อ……แต่เอ แล้วผมไม่เคยเห็นหน้าแฟนเขาเลย แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ”

“เอ็งนี่นะ บทจะโง่ก็โง่เป็นวัวเป็นควายเลย จะไปยากอะไร เอ็งก็ไปขอดูรูปถ่ายจากนังนั่นสิวะ”

“เออ จริงด้วย…ขอบคุณมาก น้าขิก”

ในคืนนั้น ป๊อดก็หลับสนิทลงอย่างไร้ความกังวล ทั้งด้วยไม่มีอาการเจ็บปวดที่ช่องท้องเหลืออยู่อีก ทั้งด้วยความอิ่มใจ
ที่มีวิธีช่วยพยาบาลนิสาให้คลายทุกข์ได้แล้ว

จนเวลาล่วงสู่เช้าวันใหม่ ป๊อดก็ลืมตาขึ้นด้วยความสดใสแล้วลุกลงจากเตียงคนไข้ เดินไปไปที่หน้าต่างห้องของโรงพยาบาล
เพื่อดูทัศนียภาพภายนอกอย่างแช่มชื่น ในระหว่างนั้นเองประตูห้องก็เกิดเสียงดังขึ้น

“ก๊อก….ก๊อก……”

ป๊อดหันกลับมาแล้วพุ่งตัวไปยังเตียงคนไข้อย่างว่องไว แต่ก็ขึ้นไปได้เพียงครึ่งตัวแล้วก็แกล้งค้างนิ่งไว้อย่างนั้น
ประตูถูกเปิดออกมาแล้วปรากฏเป็นร่างของพยาบาลนิสา ถือถาดอุปกรณ์ทำความสะอาด เดินฉับๆเข้ามาในห้องเหมือนอย่างเคย
พอเธอเห็นร่างของป๊อดค้างคาอยู่ที่เตียงเพียงครึ่งตัวเท่านั้น เธอก็วางถาดลงแล้วรีบถลันร่างเข้ามาประคองป๊อดไว้เหมือนเช่นเมื่อวาน

แต่คราวนี้ดูเหมือนป๊อดจะรู้ซะแล้วว่าต้องเจอกับอะไร เขาแกล้งยื่นหน้าเข้าไปจนติดกับใบหน้าของนิสา แล้วสูดกลิ่นแก้ม
หอมอ่อนๆของเธอเข้าไปจนเต็มปอด นิสารู้สึกตัวว่าใบหน้าของเธอเข้าไปใกล้ใบหน้าของป๊อดมากเกินไป ก็พยายามจะเบี่ยงหลบ
แต่ก็ทำได้ยากเมื่อต้องประคองร่างของป๊อดที่แกล้งฝืนให้หนักขึ้นกว่าเดิม จนเธอต้องปล่อยให้มันเลยตามเลยแล้วใช้แรงทั้งหมด
ดันร่างของป๊อดขึ้นเตียงจนสำเร็จ แต่ป๊อดก็ยังถือโอกาสตามนิสัยเจ้าชู้ ทั้งสูดดมและพ่นลมหายใจอุ่นๆของเขาออกมารดต้นคอหญิงสาว
จนเธอรู้สึกขนลุก

“พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพยายามลงมาจากเตียง เธอเนี่ย…เล่นเอาพี่เหนื่อยเลย”

ป๊อดยิ้มทำหน้าทะเล้น แล้วแกล้งพูดขึ้น

“ก็ผมชอบไอ้พี่นิสามาประคองผมนี่ ตัวพี่นิสา ห๊อมหอม”

นิสาหันไปมองเด็กหนุ่มรุ่นน้อง ที่กำลังทำหน้าทะเล้นใส่เธอ จนทำให้เธอโกรธเขาไม่ลง ทั้งเรื่องที่พูดคุยกับเขากันเมื่อคืนที่มาผ่านมา
ก็ทำให้เธอได้ระบายความทุกข์ จนเธอรู้สึกสนิทสนมกับป๊อดมากยิ่งขึ้น

“เดี๋ยวเถอะ…ตาป๊อดนี่…ทะลึ่งใหญ่แล้วนะเรา”

“พี่นิสา….”

ป๊อดแกล้งเรียกชื่อลากเสียงยาว ให้เธอหันมาจากการง่วนอยู่กับการเตรียมแปรงสีฟันให้เขา

“หือ…มีอะไร”

“ถ้าผมอายุเท่าพี่ พี่จะเปิดโอกาสให้ผมจีบพี่ไหม”

“ทะลึ่งแล้ว….ทะลึ่งแล้ว……..”

“จริงๆนะ….ผมอยากจะจีบพี่ พี่จะได้ลืมแฟนของพี่ซะที แล้วพี่ก็จะมีแต่ความสุข ถ้าได้ผมเป็นแฟน”

นิสาเบะปากอย่างหมั่นไส้

“แหวะ…..เจ้าชู้ซะขนาดนี้ จะทำให้ใครมีความสุขได้ ไม่เอาหรอกพี่เข็ดแล้วคนเจ้าชู้ เอ้า…แปรงฟันซะ”

แล้วนิสาก็ยื่นแปรงสีฟันที่เตรียมเสร็จแล้วส่งให้ป๊อด พร้อมกับกะลังมังรองใบเล็ก ป๊อดรับมาสีฟันจนเสร็จ
แล้วรับแก้วน้ำมาบ้วนปาก จากนั้นก็เริ่มพูดเข้าเรื่องตามที่ตนเองวางแผนไว้

“พี่นิสา…พี่พอจะมีรูปแฟนของพี่ติดตัวมาบ้างไหม….ผมอยากจะเห็นหน้าเขา”

“มี….แต่จะดูไปทำไม”

“ก็ผมอยากรู้อ่ะ ว่าจะหล่อซักแค่ไหน เห็นร้องไห้ซะตาบวมเลยเมื่อคืนนี้”

“นี่…หยุดเลยนะ”

นิสาดุเสียงเขียว

“ห้ามไปเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด พี่ไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้คนที่นี่ฟังเลยนะ”

“งั้นก็เอารูปมาดู….ไม่งั้นผมจะป่าวประกาศให้รู้กันทั้งโรงพยาบาลเลย”

นิสารู้สึกถูกชะตากับเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่พึ่งรู้จักกัน ถึงแม้จะกวนประสาทอยู่บ้างก็ตาม ยิ่งเธอคุยด้วยเธอก็ยิ่งรู้สึก
สนิทสนมกับป๊อดมากขึ้นเรื่อยๆ

“เอ้า…..เอาไปดูซะ….ยังไงก็หล่อกว่าเธอแหละ พี่ว่า”

ป๊อดรับไปดูอยู่ครู่หนึ่ง จนจดจำใบหน้าได้แล้ว ก็แกล้งทำเป็นเบ้ปากใส่จอโทรศัพท์

“เนี่ยนะหล่อ โคตรเก๊กเลย”

นิสาอดที่จะหัวเราะกับท่าทีของป๊อดไม่ได้ เธอหวดฝ่ามือไปที่หัวไหล่ของป๊อด 1 ที

“เอาคืนมาเลย…ไม่หล่อเท่าเขา แล้วยังไปอิจฉาเขาอีก”

เธอดึงโทรศัพท์คืนจากมือของป๊อด แล้วหันไปหยิบกะละมังกับผ้าขนหนูเข้ามาวางแทน

“เอ้า..ทีนี้พี่จะเช็ดตัวให้นะ”

“เอาอีกแระ….พี่ชอบแกล้งผมอ่ะ พี่มาแก้ผ้าผมแล้วเช็ดตัวให้ผมเนี่ย พี่รู้มั่งป่าวว่า มันทำให้ผมนอนไม่หลับนะ”

“ขนาดนั้นเชียว”

นิสาพูดพร้อมกับเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อของป๊อดจนหมดแล้วถอดออก ตามติดด้วยการดึงผ้านุ่งที่ผูกไว้หลวมๆ
เตรียมจะคลี่ออก แต่ป๊อดรีบใช้มือรวบรั้งมันเอาไว้

“พี่นิสา….พี่รู้ไหมผู้หญิงไม่ควรมาถูกต้องตรงจุดนั้นของผู้ชาย เพราะมันไวต่อความรู้สึก ”

“ทำไมพี่จะไม่รู้ พี่เป็นพยาบาลนะ แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา พี่ไม่ถือหรอก”

ป๊อดยังคงใช้มือยึดผ้านุ่งเอาไว้

“แต่ผมมีอารมณ์นะพี่ พี่เสร็จธุระแล้วก็จบ แต่ผมน่ะนอนไม่หลับ”

นิสาถอนหายใจอย่างรำคาญ แล้วพูดเสียงดุ

“เอามือออกไปเดี๋ยวนี้….ป๊อด”

ป๊อดเห็นนิสาเอาจริง ก็ค่อยๆคลายมือออก นิสาไม่รอช้าแบะผ้านุ่งของเขาออกจนกว้างอย่างหมั่นไส้
แต่แล้วพอเธอมองเห็นท่อนเอ็นที่กำลังแข็งตัวอย่างใหญ่ยาวของป๊อด เธอก็ถึงกับสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะบิดผ้าที่เตรียมมา
แล้วเช็ดไปตามลำคอของป๊อด แล้วทำทีเหมือนเธอไม่รู้สึกอะไร แต่ที่จริงแล้วเธอรู้แก่ใจตัวเองดีว่าใจของเธอกำลังเต้น
ทั้งเร็วและแรง

“เห็นไหม…พี่อ่ะ…..มันตั้งเด่อย่างนี้ทั้งคืนเลยเนี่ย”

“เดี๋ยวเถอะนะ…เจ้าเด็กทะลึ่ง…เธอนี่มัน….”

Share the Post:

Related Posts

แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู

เรื่องเสียว แท็กซี่เขาอ่อย หนูเลยให้เขาเล่นของหนู เอิร์นนะคร้า เป็นสาวมหาลัยในเชียงใหม่นี้เองค่า เอิร์นเป็นสาวมหาลัยปีสองแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้ชายเลย ยุคนี้แล้วเนอะ ไม่ใช่แค่ผู้ชายนะคะที่ล่าแต้ม เอิร์นเองก็กินมาเยอะเหมือนกันค่ะ สูงยาว ลำอวบ ใหญ่ยาว กินมาหมดแล้วค่า ชีวิตครั้งนึงเนอะ เรื่องพวกนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ต้องมีบ้างอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ และแน่นอนว่าเอิร์นเลยกินแต่วัยเดียวกัน รู้ตัวอีกทีได้แอบกินรุ่นใหญ่พี่แท็กซี่ซะอย่างนั้นเลยค่ะ ที่สำคัญไม่เคยเจอมังกรที่ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้มาก่อน มาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ ด้วยความที่อยู่เชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะ

Read More

จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว

เรื่องเสียว จากทำอาหาร ทำไมโดนเขาทำเสียว “ตั้งกล้องเรียบร้อยแล้ว มึงพร้อมยังจะได้กดเริ่ม” วันนี้เรามีถ่ายคลิปวิดีโอทำอาหารที่คอนโดของพวกเราสองคนที่เป็นเพื่อนกัน เรามองเม็กที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดจนเห็นแผงอกที่เป็นมัดกล้าม กางเกงขาขั้นสั้นสบาย ๆ แต่พอมาอยู่บนร่างกายของเม็กแล้วมันดูดีไม่น้อยเลย ถึงแม้เราทั้งสองจะเป็นเพื่อนกัน แต่พอมาเจอมันในลุคนี้ก็ทำให้เราใจสั่นไม่น้อย “มึงกูสวยยัง” “สวยแล้ว” พอได้รับคำตอบที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองแล้ว เราก็พยักหน้าให้มันเริ่มกดบันทึกภาพวิดีโอทันที การถ่ายทำดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นตอนการชิมอาหาร “อะ

Read More