เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 2
แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างภายในห้องสวีทสุดหรูชั้นบนสุดของโรงแรมห้าดาวติดชาดหาดหัวหินนั้นจับต้องไปยังผิวแก้มใสราวกับทารกของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของจนเป็นประกาย แสงสีทองที่ลอดเข้ามานั้นอาบไล้ผิวพรรณผุดผาดขาวผ่องที่พ้นร่มผ้าอันเป็นชุดนอนสีขาวบริสุทธิ์ยาวกรอมเท้านั้นตรงบริเวณช่วงคองามระหงและลำแขนบอบบางที่งามปานสลักเสลาจากช่างฝีมือเทพ ดูไปแล้วมันช่างสวยงาม อ่อนหวาน อ่อนนุ่ม สูงส่ง ชวนฝัน และชวนให้ผู้คนพบเห็นต้องรู้สึกประหนึ่งว่าหัวใจละลายไปตามๆ กัน
ยิ่งในเวลาอันอ้อยอิ่งงดงามนั้น ขณะนี้มีสายตาของชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งตื่นและพบว่าที่นอนด้านข้างนั้นว่างเปล่า รีบผุดลุกขึ้นอย่างโหยหาจับจ้องมองมา แววตาของชายหนุ่มคนนั้นระอุเต็มไปด้วยความโหยหา รักใคร่ ลุ่มหลงอย่างสุดหัวใจโชนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ร่างสมส่วนกำยำได้รูปของปานเทพเคลื่อนเข้าไปแนบชิด กับร่างงามราวกับสวรรค์บรรจงสร้างมาของอรชาภรรยาของเขา แล้วกอดร่างบางงามของเธอเอาไว้อย่างหวงแหน กล่าวเสียงหวานกระซิบเคลียที่ข้างแก้มใส
“ทำไมรีบตื่นล่ะอร นี่มัน
หกโมงกว่าเองนะ”
อรชาเบือนหน้ามา วงหน้ารูปไข่นั้นงดงามอ่อนหวาน ดวงตาดำขลับนั้นกระพริบขนตางอนยาวให้ จมูกที่ได้รูปเป็นสันนั้นสอดรับริมฝีปากบางรูปกระจับที่เต่งตึงราวกับกลีบกุหลาบที่กำลังแย้มยิ้มให้จนเผยให้เห็นฟันซี่เล็กๆ ขาวสะอาดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบงดงามราวกับสายไข่มุก ปานเทพมองไปพบแล้วหัวใจแทบขาดห้วงไปด้วยความพิศวาส ต้องก้มหน้าลงไปหมายจะจูบให้สมรัก
“อุ๊ย…หน้าตาก็ยังไม่ล้าง..ไม่เอาค่ะ…คิกๆ…”
วงหน้าหวานงามนั้นบ่ายเบี่ยงหลบ และผละตัวออกมาจากวงแขนของสามีที่เธอมอบกายมอบใจให้ ย่นจมูกที่โด่งเป็นสันนั้นอย่างสุดแสนจะน่ารัก พร้อมกับการหัวเราะให้เสียงใสราวกับระฆังทิพย์
“แน๊ ทำเป็นลืม อรต้องไปซานฟรานเช้านี้นะคะ เครื่องออกเก้าโมง นี่ก็สายมากแล้วล่ะ”
ปานเทพหน้านิ่ว กล่าวด้วยเสียงแสดงออกถึงความรู้สึกโหยหา
“โธ่ นี่ใจคออรจะให้ผมคลั่งใจตายเพราะคิดถึงคุณหรืออย่างไรกันครับ อะไรกัน แต่งงานกันได้ไม่ถึงสองอาทิตย์อรก็จะหนีผมไปต่างประเทศแล้วตั้งเดือน…”
อรชายิ้มหวาน รับรู้ถึงกระแสแห่งความรักใคร่ใหลหลงของอีกฝ่ายที่มีต่อตนเองด้วยหัวใจพองฟูด้วยความสุข เดินเข้ามาใกล้ แล้วใช้มือขาวบางของตัวเองจัดผมหยักศรกของสามีที่ปรกหน้าผากเขา แกล้งลากเสียงล้อๆ
“แค่สามอาทิตย์เองค่า….คุณเทพ”
“ไม่รู้ แค่อาทิตย์ก็ยาวเกินไปแล้ว ผมยังน้อยใจไม่หายเลยนะ เราวางแผนฮันนีมูนที่สก๊อต์แลนด์ แต่อรก็ต้องรีบกลับก่อนกำหนด แล้วนี่ไม่ทันไรเลย…”
อรชารับรู้ถึงอาการน้อยใจจริงๆ ของปานเทพ จึงซบวงหน้าหวานใสตรงบ่าหนาของชายหนุ่มผู้เป็นสามี
“โธ่ เรื่องยายษามันร้อนนี่คะ ส่วนทริปไปซานฟรานนี้ก็กำหนดล่วงหน้ามาตั้งนานแล้ว…”
ทีท่าอากัปกิริยาของภรรยาสาวแสนสวยที่เข้ามาออดอ้อนนั้นทำให้หัวใจของปานเทพแทบละลายด้วยความเสน่หา ส่งเสียงอ่อนลงด้วยความรู้สึกที่บอกกับตัวเอง ไม่มีอะไรที่เขาจะทำให้กับภรรยาสุดที่รักคนนี้ของเขาไม่ได้
“ครับ…ผมขอโทษ ที่แสดงอารมณ์ไปหน่อย….”
อรชาใบหน้าแดงระเรื่อเมื่อยื่นหน้า จรดริมฝีปากงามของตัวเองจุ๊บที่แก้มของปานเทพอย่างแสนรัก
“อรกลับมา แล้วจะลาพักร้อนสองอาทิตย์ ดีไหมคะ?”
ชายหนุ่มยิ้มกว้างรับคำอย่างชุ่มชื่นหัวใจ และตวัดร่างงามนั้นเข้ามา และประกบจูบลงไปบนกลีบกุหลาบแสนสดคู่นั้น โดยคราวนี้เจ้าของสาวแสนสวยไม่หลีกหนี พริ้มตารับการจุมพิตนั้นอย่างอ่อนหวานนิ่งนาน ปานเทพรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน อยากจะยืดเวลานี้ออกไปชั่วกาลนาน แต่ในความเป็นจริงนั้น ร่างบางงามในอ้อมแขนเขาขยับเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอก ชายหนุ่มก็ต้องคลายวงแขนของตัวเองอย่างสุดแสนจะเสียดาย ก่อนที่อรชาจะยิ้มหวานให้ แล้วเดินผละเข้าไปในห้องน้ำ
หลังจากบิดาผู้เป็นคนก่อตั้งกิจการโรงแรมอันมีเครือข่ายเกือบทั่วประเทศเสียไป อรชาในฐานะบุตรสาวคนโตของสามสาวพี่น้อง ก็ต้องรับภาระดูแลธุรกิจของบิดา ซึ่งหญิงสาวผู้ซึ่งไม่เพียงแต่จะเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติอันงดงามตระการตา แต่ยังทรงไว้ซึ่งความเฉลียวฉลาดรอบรู้เป็นที่ยกย่องเลื่อมใสของคนที่รู้จัก
อรชาเรียนจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง และกำลังศึกษาต่อปริญญาโทด้านการบริหารจัดการการโรงแรมอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งหญิงสาวใกล้จะจบการศึกษาด้วยคะแนนที่เยี่ยมยอดอยู่แล้ว แต่การถึงแก่กรรมของบิดาทำให้เธอต้องตัดใจละจากศึกษาแต่กลางคันกลับมารับช่วงงาน ซึ่งด้วยความรู้ความสามารถที่ยอดเยี่ยมและความที่มีนิสัยอ่อนน้อม อ่อนหวานหากแต่คล่องแคล่วในเชิงธุรกิจ ก็สามารถใช้ปมเด่นของเธอทั้งรูปลักษณ์และความรู้ที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมประสานเข้าการดำเนินกิจการโรงแรมหรูที่เธอเป็นประธานผู้อำนวยการบริหารเต็มตัว ทำให้การเจรจาการค้า การติดต่อธุรกิจ การประสานกับเครือข่ายด้านสมาคมโรงแรมการท่องเที่ยวต่างๆ นั้นเต็มไปด้วยความราบรื่น สะดวกสมประสงค์ กิจการโรงแรมภายใต้การนำของอรชานั้นยิ่งเจริญรุดหน้าเฟื่องฟูมากกว่าสมัยบิดาผู้เป็นคนก่อตั้งเสียอีก
หญิงสาวผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานตั้งแต่อายุยังน้อยมาก แต่ก็ไม่หยิ่งยโสในความสำเร็จ ให้ความเป็นกันเองน่ารักน่าคบหากับหมู่เพื่อน ก็เป็นที่รักของเพื่อนฝูงแทบทุกคน โดยเฉพาะกับน้องสาวทั้งสอง อรนุชและอรอุษาที่ทั้งรักทั้งเคารพทั้งเลื่อมใสในตัวของพี่สาวคนโตที่บัดนี้เป็นทั้งพี่สาว และผู้ปกครองของพวกเธออย่างสุดหัวใจ โดยอรนุชนั้นเป็นนักศึกษาปีสองคณะนิเทศศาสตร์มหาลัยชื่อดังแถบสามย่านที่เป็นดาวเด่นจรัสแสงในคณะไม่ต่างอะไรกับสมัยตอนที่พี่สาวเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยชื่อดังแถวย่านรามคำแหง ขณะที่น้องสุดท้องอรอุษาเรียนกำลังเรียน ม.ห้า ที่คอนแวนต์แห่งหนึ่งนั้นเล่าก็น่ารักสดใสอ่อนหวานบอบบางน่าทะนุถนอมไม่ต่างอะไรกับดอกกุหลาบตูมที่กำลังจะขยายตัวผลิบาน เติบโตเจริญรอยตามพี่สาวทั้งสอง
ซึ่งอรอุษาน้องสาวสุดท้องคนนี้เองที่เกิดเป็นไข้หวัดใหญ่ขนาดหนักต้องพาตัวเข้าโรงพยาบาล พอทราบเรื่องทำให้อรชาที่รักน้องสาวทั้งสองยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดต้องรีบร้อนใจกลับมาจากการฮันนีมูนแต่กลางคันเพื่อดูแลอาการของน้องสาวสุดที่รัก ทั้งๆ ที่อรนุชน้องสาวคนกลางพยายามเฝ้าหว่านล้อมรับประกันเสียงแข็งว่าจะดูแลน้องสาวคนเล็กของพวกเธอให้เป็นอย่างดี รวมไปถึงอรอุษาคนป่วยเองที่บอกกับพี่สาวสุดที่รักของเธอว่าเธอไม่เป็นไรมาก แต่อรชาที่ตอนนี้คิดว่าตัวเองไม่เป็นเพียงแค่พี่เท่านั้นแต่เป็นผู้ปกครองเพียงคนเดียวที่น้องสาวทั้งสองมีอยู่ไม่อาจจะทนวางใจเที่ยวอยู่ได้ ต้องบินกลับประเทศไทยโดยทันทีทั้งๆ ที่อยู่ในช่วงฮันนีมูน และนี่เพราะถ้าไม่ใช่อาการของน้องสาวคนสุดท้องดีขึ้น อรชาก็อาจจะยกเลิกการเดินทางไปต่างประเทศคราวนี้ก็ได้
ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลลึกๆ ในใจที่ทำให้ปานเทพอดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ว่าทีเขาไม่อยากให้เธอไป แต่อรชาก็เห็นว่าการออก Road Show นิทรรศการด้านการโรงแรมที่ซานฟรานนั้นสำคัญกว่าความต้องการของเขา แต่อย่างไรก็ตามเมื่อใคร่ครวญดูดีๆ ชายหนุ่มก็ต้องด่าตัวเองว่าเห็นแก่ตัวที่เอาความต้องการในเชิงราคะของตัวเองไปเปรียบกับความรักความผูกพันอันบริสุทธิ์ของสามสาวพี่น้องที่เขารู้จักดีและเขาเองก็รักเอ็นดูอรนุชกับอรอุษาไม่ต่างอะไรกับน้องสาวของเขา
ในเวลานั้นเองที่ปานเทพพยายามกล่าวปลอบใจตัวเองว่าอีกไม่กี่อาทิตย์ภรรยาสุดที่รักก็กลับมาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาค่อยใช้เวลากับเธอให้มีความสุขตามลำพังให้เต็มที่ คิดได้ดังนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ยิ้มออกมาได้ ดวงตาฝันล่องลอยไปกับจิตนาการที่หลั่งไหลวาบเข้ามาในห้วงความคิด ความอ่อนหวานบอบบางและหอมกรุ่นของเรือนกายเนียนนุ่มสมบูรณ์แบบไปทุกส่วนสัดที่เขาได้เชยชมสมใจ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาแค่สั้นๆ จากวันแต่งงานและช่วงฮันนีมูนที่ถูกยกเลิกกระทันหัน แต่ความรู้สึกอันหอมหวาน เต็มอิ่มไปด้วยความหฤหรรษ์นั้นยังตลบอลอวลราวกับกำลังสัมผัสดื่มด่ำได้อยู่ตรงหน้า กลิ่นกายสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องที่อยู่ภายใต้การประคองกอดของเขานั้นประหนึ่งว่ากำลังรวยรินแตะจมูกอยู่ตรงหน้านี้ตลอดเวลา
อาการสั่นสะท้านหวั่นไหวจากเรือนกายที่บอบบางราวกับกล้วยไม้ล้ำค่าในยามที่ถูกเขาลูบไล้สัมผัสไปตามผิวเนียนกระจ่าง ประทุมถันที่แม้ไม่ใหญ่โตมหึมาแต่ทว่าเต่งเต้าเป็นฐานกลมสวยคู่ที่เชิดชูปลายสีชมพูอ่อนเนียนตา ที่มันช่างหอมหวานและเนียนลิ้นประหนึ่งกับจะละลายไปในปากยามเขาประกบสัมผัสอย่างดูดดื่ม ผิวพรรณที่ขาวใสผุดผ่องเปล่งปลั่งไปด้วยเลือดสาวทั้งอุ่นทั้งเรียบเนียน สองแขนบอบบางยามทอดชูไปทางศีรษะเผยให้เห็นผิวสาวที่เนียนใต้สองวงแขนที่รวยรินกลิ่นหอมหวานออกมาแตะจมูกโดยตลอด และเสียงครางครวญดังสะท้านแผ่วทุกครั้งที่เขาใช้ลิ้นลากโลมลงไปตรงเนื้อเนียนขาวทั้งสองด้านนั้นดูเหมือนคล้ายๆ จะกระซิบแผ่วล้อโสตประสาทของเขาอยู่ตลอดเวลา
ช่วงหน้าท้องแบนราบที่อ่อนหยุ่นที่เรียบเนียนไปกับมือเขายามลูบสัมผัสลากไล้ไปมา ช่วงขาที่เรียวงามเป็นลำหยกที่เขาพรมจูบตั้งแต่ช่วงลำขาอ่อนที่อวบสวยเป็นท่อนงามเรื่อยไปกับความยาวเรียวสมบูรณ์แบบของปลีน่องจนถึงปลายนิ้วเท้าที่ตัดเจียนไว้อย่างสะอาด รสสัมผัสที่แสนหวานนั้นพลุ่งพล่านย้อนทวนขึ้นมาในห้วงคำนึงของชายหนุ่ม
และ…. อา….และเหนือสิ่งอื่นใด โพรงสวาทที่สุดบอบบางอ่อนนุ่ม อบอุ่นแนบแน่น ร่องสวาทที่สวรรค์บรรจงสร้างที่ส่งมอบความสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ราคีคาวใดๆ ให้กับเขา หล่อเลี้ยงให้ความสุขสุดยอดให้เขาจนแทบจะสำลักกับความหฤหรรษ์นั้น ความคับแน่น ตอดรัดของโพรงสวาทที่โอบรัดความเป็นชายของเขาอย่างแนบแน่น ความรู้สึกเสียวกระสันตรงปลายถอกบานที่ยังคงค้างกรุ่นอยู่ในใจ ยิ่งคิดๆ ไปโดยเรื่อยเปื่อย ภายในจินตนาการจากเหตการณ์ที่ผ่านพ้นไปอย่างสุดแสนจะหอมหวาน ที่พรั่งพรูเข้ามาราวกับกำลังย้อนกลับบังเกิดขึ้นใหม่จริงๆ ตรงหน้า ทำให้ปานเทพต้องรู้สึกขนลุกซู่ด้วยความเสียวซ่านอย่างไม่อาจจะข่มเอาไว้ได้ ท่อนเนื้อของชายหนุ่มก็กระดกวาบขึ้นด้วยความรู้สึกที่พลุ่งพล่าน
ชายหนุ่มอดไม่ได้ ต้องใช้มือเข้าไปล้วงท่อนเอ็นที่แข็งตัวนั้นออกมาจากกางเกงนอนขายาว และจับครูดไปมากับมือ ปากกัดฟันแน่น ส่งเสียงครางในลำคอ ฮึด ฮึด
อูยยยยย อรจ๋า…..ผม….อูยยยยย…ผม…โอย…คุณ.ช่าง…สวย…ช่าง..บอบบาง …โอย….อูยยยยยยยยยยย..
ขณะที่มือของชายหนุ่มที่กำท่อนกายของตัวเองแน่น กำลังเร่งกระตุกด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไต่ระดับขึ้นอย่างรุนแรง แต่ฉับพลันความครุ่นคำนึงที่เพริดแพร้วไปกับจิตนาการนั้นต้องรีบชะงักงันราวกับคนที่ควบม้าตะบึงด้วยความเร็วสูงต้องหยุดยั้งเอาไว้สุดตัวเพราะพบว่าทางเบื้องหน้าเป็นหน้าผาสูงชัน
อูยยยยยยยย….
ชายหนุ่มกัดฟันแน่นอย่างเจ็บแสบ เพราะต้องพยายามกดท่อนเห็นที่กำลังขยายตัวใหญ่นั้นซุกกลับเข้าไปในกางเกงนอน การกดแรงๆ อย่างกระทันหันทำให้ปลายท่อนเนื้อของปานเทพรู้สึกปวดตุ้บๆ
เหตุที่ชายหนุ่มผู้หล่อเหลาต้องกระชากอารมณ์ตัวเองกลับมาอย่างสุดๆ ก็เพราะเสียงใสของอรชาดังแว่วมาก่อนที่ตัวของเธอจะก้าวออกมาจากห้องน้ำ
“อรเสร็จแล้วค่ะ..”
ปานเทพรีบหันหลังให้กับภรรยาคนสวย จนแน่ใจว่าทุกอย่างกลับเก็บเข้าที่ไม่มีร่องรอยพิรุธ จึงค่อยหันมายิ้มแบบกร่อยๆ เหมือนกับเด็กกลัวครูจับผิดได้
ภรรยาสาวสวยที่เขารักสุดหัวใจเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อคลุมขนหนูสีขาวสะอาด วงหน้าหวานนั้นล้อมกรอบด้วยผมดำขลับที่เปียกชื้นลู่ไปโครงหน้าอันงามเรียวรูปไข่สมบูรณ์แบบ ดวงตากลมโตคู่สวยส่งประกายพราวมาให้เขาพร้อมกับรอยยิ้มอันกระจ่างสดใสอ่อนหวานน่ารักแบบสุดขีด
ปานเทพเห็นภาพตรงหน้านั้น ก็แทบใคร่จะเข้าไปดึงร่างงามนั้นลงไปบนเตียงและโหยหาความหอมหวานกับเรือนกายของภรรยาสุดรักให้ฉ่ำอารมณ์
แต่ชายหนุ่มก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น เพราะความรักถนอมหวงแหนในตัวของภรรยายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เขาไม่ต้องการแสดงอาการใดๆ ก็ตามที่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้อรชามีความรู้สึกในทางลบแบบว่าเขาเป็นบ้ากำหนัดในเรื่องราคะอย่างเด็ดขาด
ความหวาดหวั่นเกรงเช่นนั้นทำให้ชายหนุ่มได้แต่เก็บกดความรู้สึก พาตัวเข้าห้องน้ำและใช้มือของตัวเองช่วยเหลือท่อนเอ็นที่แข็งตัวสุดๆ ด้วยเพลิงเสน่หาให้รอดพ้นความสุดเงี่ยนในใจไปให้พ้นๆ หน้าก่อน
ภาพความงามสมบูรณ์แบบที่เขาได้ประคองก่ายกอดปฏิบัติกามกิจที่อบอวลไปด้วยความสุข ช่วยกระตุ้นและส่งอารมณ์ของร่างกำยำสมชายนั้นจนสั่นกระตุกและในที่สุด ก็แหงนหน้าสูดปากแรงๆ และพุ่งน้ำเมือกขาวพรวดออกมาจากปลายเอ็นแข็งของเขา ซี๊ดดดดด……อร…..อร…จ๋า…..อ๊าซซซซซซ..
ปานเทพราดรดน้ำอุ่นชำระล้างคราบเมือกที่กระปริดกระปรอยออกมาตามหัวถอกบาน แล้วครุ่นคำนึงด้วยความหวังว่าอีกสามอาทิตย์ข้างหน้า ความสุขกระสันต์ที่เขาจะได้รับนั้นจะไม่ต้องผ่านมาจากการใช้มือช่วยตัวเองอีกแล้ว
“อร..จ๋า..สุดที่รักของเทพ…อีกสามอาทิตย์..ผมจะคอยคุณนะที่รักของผม..”
หลังจากนั้นพักใหญ่ เมื่อแต่งตัวเสร็จ ชายหนุ่มและหญิงสาวที่สมกันราวกับกิ่งทองใบหยกก็ก้าวออกจากห้องพัก เตรียมพร้อมออกเดินทาง โดยที่คณะของอรชานอกจากตัวเธอแล้วยังมีคนร่วมทางไปด้วยอีกหลายคน ซึ่งต่างก็รอคอยเธออยู่แล้วที่ล็อบบี้โรงแรม ซึ่งคนที่มารอคอยนั้นยังรวมไปถึงบรรดาพนักงานต้อนรับ คนถือกระเป๋าต่างๆ ที่ยืนเรียงแถวรอคอยอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งทุกสายตาของคนในบริเวณนั้นจับจ้องมองมายังความสวยกระจ่างของหญิงสาวผู้ซึ่งเป็นประธานกรรมการบริหารของโรงแรมด้วยประกายตาแห่งความชื่นชมเลื่อมใสอย่างสุดหัวใจ
แต่ในเวลาที่หลายๆ สายตากำลังแสดงประกายชื่นชม กลับประกอบด้วยสายตาสองคู่ ที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยเพลิงกระหายร่านราคะและอีกหนึ่งเต็มไปด้วยความริษยาคั่งแค้น
บ๊ะ บังเอิญจริง แม่ง ยิ่งดูก็ยิ่งสวย ขาวไฮโซโคตรๆ รูปร่างสุดยอดไม่มีที่ติเลยเว้ย ถึงแม้นมจะเล็กกว่านังรสคนสวยนิดหน่อยก็เหอะ โคตรอิจฉาไอ้หน้าโง่นั้นจริงๆ ไม่รู้ตอนนี้แม่งถล่มจนหีกลวงไปรึยัง แต่ว่าก็ว่านะ ถ้าขอให้มีโอกาสได้ผ่านควยไอ้ศัก รับรองร้องซี๊ดดดดดดดดจนลืมควยไอ้ผัวหน้าโง่นั้นแน่ คนสวย..ฮ่ะ ฮ่ะ
เจ้าของแววตาหื่นกระหายร่านราคะนั้นคือศักดานั่นเอง ชายหนุ่มครุ่นคิดอย่างชั่วช้าตามกมลสันดาน ขณะมองตามร่างบางของอรชาจนหญิงสาวเดินหายเข้าไปในรถคันงามที่เคลื่อนมาจอดรอรับอยู่หน้าโรงแรมหรูที่เขามาจองพักโดยไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้มาพบกับเจ้าของสาวสวยในวันนี้ ขณะที่คันธรสที่มากับคู่สวาทของเธอนั้นใบหน้างามนั้นบึ้งตึง ริมฝีปากเม้มด้วยอารมณ์แค้นที่พลุ่งพล่านขึ้นมาระอุอก
แต่อย่างไรก็ตามใบหน้าอันงามบึ้งตึงของคันธรสก็ค่อยๆ คลายไป เพราะหลังจากที่จิ้งจอกสวาทพาขับรถออกจากโรงแรม ก็จับท่าทีของสาวสวยได้ รีบกล่าวเสียงเวทนาปานเทพให้หญิงสาวฟัง
“ไอ้ปานเทพมันโง่จริงๆ ที่ไปเลือกผู้หญิงหน้าตาเรียบๆ ไม่มีเสน่ห์ สู้คุณรสของผมไม่ได้เลยแม้แต่น้อยนิด”
พร้อมๆ กับคำพูดนั้น ศักดาใช้สายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมองมายังคันธรส สร้างความพึงพอใจให้กับหญิงสาวจนใบหน้างามนั้นแดงเรื่อ ค้อนคมให้อย่างมีจริต ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าคำพูดของศักดานั้นจงใจพูดเพื่อเอาใจเธอ เพราะถ้าผู้หญิงที่มีความงดงามแบบอรชาอยู่ในข่ายเรียบๆ แล้ว ก็คงหาคนสวยไม่โลกไม่เจอ แต่คำพูดหวานหูเอาใจนั้นมันทำให้คันธรสรู้สึกพออกพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้อารมณ์ขุ่นแค้นที่มีอยู่ค่อยๆ คลายไป
ในเวลานี้นั้นถึงแม้คันธรสยังคงมีความแค้นอันเกิดจากการตีตัวออกห่างของปานเทพอดีตแฟนหนุ่มที่เธอพึงใจไปหาอรชา แต่ก็เป็นความแค้นอันเนื่องมาจากความคิดที่เธอรู้สึกว่าเสียหน้าเท่านั้น เพราะตอนนี้รสสวาทที่ชายหนุ่มที่นั่งเคียงข้างเธออยู่ปรนเปรอให้นั้นมันเกาะกินฝังรากลึกลงไปในจิตวิญญาณของสาวสวย จนความรู้สึกแต่เดิมที่คันธรสเคยมีต่อปานเทพนั้นเจือจางไปจนแทบหมด และที่แทรกเข้ามาแทนที่ก็คือความลุ่มหลงไปกับเพลิงราคะที่ศักดาป้อนให้อย่างเต็มอิ่ม
ศักดาหัวเราะ เหยียบคันเร่งพารถคันงามที่เพิ่งถอยมาจากโชว์รูมไม่กี่วันพาคันธรสมุ่งตรงไปยังที่หมายที่เขาวางแผนเอาไว้แล้วในวันนี้อย่างสบายอารมณ์ไปกับความพอใจในสมรรถภาพของรถคันงามที่เนรมิตได้ด้วยอำนาจเงินที่เขาไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้มา แค่ต้องทำหน้าเศร้า ตีบทแตกกระจุย ให้คันธรสเอ่ยถามเสียงหวานว่า
“ศักเป็นอะไรไปคะ รสเห็นทำหน้าไม่สบายใจ”
ศักดาถอนหายใจ ใบหน้านั้นเศร้าหมอง
“ผมกำลังมีความสุขกับคุณรส ไม่อยากให้คุณรสไม่สบายใจจริงๆ”
“อะไรคะ..ศัก..บอกรสเถอะ”
หลังจากทำเป็นอิดออดช่วงใหญ่ ตีบทชายหนุ่มผู้อยู่ในห้วงรัก แสดงทีท่าว่าไม่อยากพูดเรื่องไม่สบายใจเป็นการรบกวนจิตใจของคันธรส การแสดงนั้นสร้างความซาบซึ้งใจให้เกิดแก่สาวสวยอย่างยิ่ง รีบรบเร้าอ้อนวอนให้เขาพูด จิ้งจอกสวาทค่อยทำเป็นยอมพูดอย่างตัดใจ
“ก็เรื่องธุรกิจส่งออกของผมแหล่ะครับ…”
จากนั้นเรื่องโกหกคำโต เกี่ยวกับการขาดสภาพคล่อง เกิดปัญหากระทันหันกับคู่สัญญาที่เบี้ยวเงินของเขา ก็พรั่งพรูออกมาอย่างเชี่ยวชาญตามบทที่ศักดาแต่งเรื่องผูกเอาไว้ก่อนแล้ว เท่านั้นเอง เช็คเงินสดกับตัวเลขงามๆ ที่คันธรสเขียนให้เขาก็ตกอยู่ในอุ้งมือของจิ้งจอกโหยสวาททันที
ซึ่งศักดาไม่ชักช้าในการตักตวงโอกาสอันงาม เหตุผลคล้ายๆ กันที่ถูกยกออกมาอ้างต่อเนื่องอีกหลายครั้งก็ทำให้ตัวเลขในบัญชีของชายหนุ่มเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความฉลาดเป็นกรดตามสัญชาติของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ที่ในอีกร่างหนึ่งก็คือแมงดาโฉด ทำให้ศักดาเจียดเงินที่ตักตวงมาได้ส่วนหนึ่งนำออกมาเป็นค่าใช้จ่ายในการนำพาคันธรสไปยังสถานที่หรูหราต่างๆ เพราะรู้ดีว่าเป็นที่ชื่นชอบของสาวสวยรสนิยมสูง โดยที่คันธรสที่หลงใหลได้ปลื้มไปกับการเอาอกเอาใจของศักดาที่ปรนเปรอให้นั้นหารู้ไม่ว่า สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เกิดจากเงินที่เขาได้มาจากเธอทั้งสิ้น
แต่อย่างไรก็ตามแม้ในช่วงสั้นๆ นับจากค่ำคืนที่ศักดาเคลมความสาวบริสุทธิ์ของคันธรสมาเป็นของตัวเอง และสามารถตักตวงได้ทั้งรสสวาทและเงินทองจากหญิงสาว แต่ตัวเลขที่เพิ่มพูนในบัญชีของเขานั้นก็ยังช้าไม่ทันใจของแมงดาโฉด ทั้งๆ ที่จำนวนเงินนั้นเพิ่มด้วยอัตราที่สูงมาก คือในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์เงินที่สมทบเข้าไปนั้นจ่อเลขเกือบเจ็ดหลักแล้วก็ตามที และจำนวนนั้นยังไม่รวมไปถึงบ้านหลังงามในแถบชานเมือง และรถยุโรปหรูที่คันธรสซื้อให้กับคู่สวาทที่เธอลุ่มหลงในเพลงกามที่เขาป้อนให้อย่างโงหัวไม่ขึ้นอีกต่างหาก
เพราะหญิงสาวรังเกียจคอนโดที่ศักดาเช่าและหลอกว่าเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ที่ส่งมาติดต่องานในกรุงเทพ ดังนั้นหลังจากค่ำคืนยาวนานที่ถูกชายหนุ่มตะบันสวาทในคืนนั้น คันธรสก็ลงทุนหาซื้อบ้านหลังหนึ่งที่ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ได้ทันทีให้กับศักดา และไว้เป็นรังรักรังสวาทที่เธอจะได้ปล่อยอารมณ์ให้เพลิดแพร้วไปกับเพลงกามอันเร่าร้อนของเขาโดยที่ห่างไกลและปลอดภัยจากสายตาของคนที่อาจจะรู้จักเธอ
เหตุผลที่จิ้งจอกสวาทแมงดาโฉดอย่างศักดาไม่พอใจในเงินทองที่ตักตวงได้นั้น ก็เป็นเพราะตอนนี้ชายหนุ่มล่วงรู้ฐานะของคันธรสแล้วว่า หญิงสาวเป็นบุตรสาวคนเดียวของนักธุรกิจชื่อดัง เป็นลูกรักหัวแก้วหัวแหวนของพ่อแม่ ที่อยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่างดั่งใจ ทำให้ศักดาคิดอย่างงุ่นง่านใจว่าเงินที่เขาควรจะหาได้จากสาวสวยมันควรจะได้มากกว่านี้อีกเยอะ
มันต้องมีทางสิวะ แม่ง โชคดีสุดๆ ที่คว้าอีรสคนสวยนี่มากกทำเมียได้ แต่ไอ้ศักเว้ย มึงจะทำอะไรก็ต้องระวังๆ หน่อย ถึงแม้อีนี่จะเชื่องควยมึงแล้ว แต่ก็ประมาทไม่ได้ ถ้ามันรู้ไส้ที่แท้จริงแล้วอาจจะพลิกโผก็ได้นะเว้ย อีนี่มันประเภทไฮโซหัวสูงอยู่ด้วย
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์พยายามบอกกับตัวเองให้ระมัดระวังไม่ผลีผลามเร่งร้อนอะไรไป ก่อนที่จะในที่สุดชายหนุ่มก็พบกับลู่ทางในการสูบเงินอีกก้อนใหญ่จากคันธรส
ลู่ทางนั้นเกิดจากวันหนึ่งที่ศักดาไปหาเพื่อนเก่าในการทำธุรกิจซื้อขายของ ซึ่งธุรกิจของจิ้งจอกสวาทก็คือการมาติดต่อซื้อยากับเพื่อนคนนั้นที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในจำนวนนับตัวคนได้ไม่กี่คนที่เขายังคบหาอยู่
เชิดเอเย่นต์ค้ายานรก มียาในเครือข่ายของเขาทุกประเภทชนิด และยาที่ศักดามาขอใช้บริการและทดลองสูตรใหม่ ๆ ก็คือยาปลุกสวาทนั่นเอง
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ศักดาไม่จำเป็นต้องใช้ยากับคันธรสแล้ว แต่จิ้งจอกโหยสวาทก็ต้องการได้ของใหม่ ๆ เอาไว้เตรียมพร้อมกับสถานการณ์ ที่ชายหนุ่มรู้ดีว่าโอกาสงาม ๆ ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าคืนนั้นเขาไม่ได้มียาสวาทเอาไว้พรักพร้อมในลักษณะเตรียมใช้งานได้ตลอดเวลา ก็คงไม่สามารถเผด็จสวาทรวบรัดจนสาวสวยรวยเสน่ห์อย่างคันธรสตกเป็นสมบัติชิ้นงามของเขาอย่างแน่นอน
หลังจากซื้อขายกันเสร็จในวันนั้นเผอิญมีตัวแทนของลูกค้าอีกรายมาใช้บริการของเชิดเช่นกัน ศักดาความจริงไม่ได้สนใจอะไรแต่พอคุย ๆ กันไป แล้วเพื่อนชั่วที่ขายยานรกบอกว่าเป็นตัวแทนของเสี่ยค้าเพชรคนหนึ่ง ชื่อเสี่ยเซี้ยงโดยบอกว่า
“ไอ้พวกที่โง่ ๆ ดูเพชรไม่เป็น แต่ริอยากเล่นเพชร ถูกเสี่ยเซี้ยงหลอกตุ๋นเอาเพชรปลอมมาขายไปเยอะแล้ว”
แนวทางหนึ่งนั้นวาบขึ้นมาในความคิดของสมองชั่ว ๆ ที่คุ้นเคยกับการวางเล่ห์ร้ายของศักดาทันที
ชายหนุ่มเริ่มเป่าหูคันธรสเกี่ยวกับการทำธุรกิจซื้อขายเพชรพลอย โดยหลอกหญิงสาวว่าเป็นการค้าขายที่ทำกำไรงาม โดยไปกว้านซื้อเพชรในราคาถูกและเอาไปปล่อยขายในราคาแพง ความจริงคันธรสผู้เพียบพร้อมไปด้วยเงินทองที่มีใช้อย่างฟุ่มเฟือยไม่สนใจเรื่องเงินนัก แต่ก็ยอมทำตามเพราะต้องการเอาใจศักดา ทั้ง ๆ ที่ตัวของหญิงสาวไม่มีความรู้เรื่องเพชรพลอยเลยแม้แต่น้อยนิด แม้ว่าเธอจะชอบใส่เครื่องประดับสุดแพงเหล่านั้นเวลาออกงานหรู ๆ แต่ก็ล้วนแล้วแต่เกิดจากการที่นำมาจากชุดเครื่องเพชรของมารดาที่สะสมเอาไว้ทั้งนั้น ไม่เคยมีความคิดที่จะซื้อเก็บเอาไว้ใช้เองมาก่อนเลย
ดังนั้นจิ้งจอกสวาทจึงทำการติดต่อไปยังเสี่ยเซี้ยง และเจรจาต่อรองในการเป็นตัวแทนนำหมูมาให้เสี่ยค้าเพชรปลอมเชือด โดยการแบ่งเปอร์เซ็นต์กันห้าสิบห้าสิบ ซึ่งทีแรกเสี่ยเซี้ยงไม่ค่อยวางใจ แต่พอศักดาบอกว่าติดต่อมาเพราะรู้เรื่องมาจากเอเยนต์ยานรกที่ทั้งสองใช้บริการคนเดียวกัน และเมื่อเสี่ยเซี้ยงสอบทวนไปกับเชิดแล้วก็ค่อยทำให้เสี่ยเซี้ยงค่อยคลายใจ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงตกลงกันไม่ได้เรื่องเปอร์เซ็นต์
แต่ทว่าหลังจากวันหนึ่งที่ศักดาติดต่อเสี่ยเซี้ยงพา “หมู” ซึ่งก็คือคันธรสไปเลือกซื้อเพชรที่ร้านของเสี่ยเซี้ยง พ่อค้าโฉดชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบปี ร่างใหญ่กำยำหนาไว้หนวดเรียวที่ริมฝีปาก ก็ต้องกวาดดวงตาจัดจ้านที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลนั้นมองไปทั่วเรือนกายสุดงามของคันธรสอย่างมีประกายโชนโดยทันที และหลังการเจรจาซื้อขายเพรชรปลอมล๊อตแรกนั้น เสี่ยเซี้ยงก็ตกลงกับข้อเสนอของศักดาทันที
จากวันนั้นเป็นต้นมา เพชรเก๊จำนวนมากจึงถูกเปลี่ยนเป็นเงินสดที่คันธรสเซ็นจ่าย และศักดาที่ถูกอุปโลกว่าเป็นพ่อค้าเพชรชั้นเซียนจะนำไปปล่อยต่อให้ในราคาอันงาม โดยที่หญิงสาวผู้ไม่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับการดูเพชรเลยแม้แต่น้อยนิดหลงเชื่อสนิทใจ เงินในบัญชีของศักดาจึงเพิ่มจำนวนพรวดๆ ขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่ต้องแบ่งรายได้ให้กับเสี่ยเซี้ยงไปด้วยครึ่งหนึ่ง
ทั้งเสี่ยเซี้ยงและศักดาเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ยอกย้อนพอกัน พอสุมหัวด้วยกันก็รู้ดีว่าต้องทำอะไรในการล่อหลอกให้เหยื่อทุ่มเงินลงมามากๆ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เหยื่ออันโอชะตื่นตัว “ของแท้” บางชิ้นจึงถูกนำมาขายให้กับคันธรสในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง พอศักดาทำทีเป็นพาหญิงสาวไปยังห้างขายเครื่องเพชรชั้นนำเพื่อตีราคา คันธรสก็ดีอกดีใจที่ตนเองสามารถซื้อเพชรน้ำงามมาได้ในราคาที่ถูก ทำให้ยิ่งถลำตัวหลงเชื่อไปกับการลงทุนการค้าเพรชกับศักดาและเสี่ยเซี้ยงอย่างสนิทใจ แต่พอลับหลัง “ของแท้” ชิ้นนั้นก็ถูกสับเปลี่ยนกลับไปเป็นของปลอม เพราะเพชรทุกชิ้นที่คันธรสลงทุนซื้อผ่านศักดานั้นจิ้งจอกสวาทเป็นคนจัดเก็บไว้ทั้งหมด
และในวันนี้ก็เช่นกัน เมื่อศักดาพาคันธรสไปที่สถานที่นัดพบซึ่งเป็นรีสอร์ทหรูของเสี่ยเซี้ยง เช็คเงินสดจำนวนหนึ่งจึงถูกส่งให้กับคันธรส พร้อมๆ กับเสียงเคล้าหัวเราะของเสี่ยจอมโฉด
“จำได้ไหมครับ ต่างหูเพชรที่คุณรสเคยซื้อไป ตอนนี้ปล่อยของได้แล้วนะครับ คุณรสลงทุนไปแค่ห้าแสน ขายได้ตั้งล้านห้า กำไรเนื้อ ๆ ตั้งล้าน ลงทุนแป๊ปเดียวเอง ผมบอกแล้วว่าคุณศักดาน่ะตาถึง เป็นพ่อค้าเพชรชั้นเซียนจริงๆ”
ถึงแม้จะร่ำรวยอยู่แล้ว แต่คันธรสก็อดที่จะอุทานอย่างดีใจไม่ได้ หันไปแสดงสีหน้าตื่นเต้นยินดีกับศักดา
“อุ๊ยตาย..ศักขา..คุณเก่งจริงๆ….”
จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ทำเป็นรับสมอ้างด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“ของอย่างนี้ต้องใจเย็นครับ ผมบอกแล้ว ของที่เหลือ รออีกไม่นาน พอปล่อยได้ก็คืนทุนแน่นอน…กำไรอีกเยอะด้วยซ้ำไปครับ”
คันธรสหัวใจพองโตอย่างตื่นเต้น โดยเธอไม่ได้ตระหนักว่าเช็คเงินสดล้านห้าในมือนั้นมันเทียบไม่ได้ กับเงินที่เธอลงทุนไปกับของเก๊ที่เสียให้คนทั้งสองเบื้องหน้าแล้วร่วมสิบล้าน
พอหลงคิดว่าสามารถกำไรเงินได้ง่ายๆ กับเพชรเก๊ที่เรียงรายตรงหน้า เมื่อศักดาทำทีเป็นเลือกๆ อย่างพิจารณา และเสี่ยเซี้ยงทำเป็นชมเชยว่าอีกฝ่ายตาถึง มีฝีมือการเลือกที่สุดยอด เช็ดเงินสดอีกห้าล้านบาทก็ถูกหญิงสาวเซ็นส่งไปให้เสี่ยเซี้ยง ที่มองตากันกับศักดาอย่างยินดีปรีดาในใจ ต่างคนต่างอ่านสายตากันออกทำนองว่า
ฮะ ฮะ หวานหมู คืนไปล้านห้า ได้กลับห้าล้าน ฮ่ะ ฮ่ะ
“อย่างนี้ต้องฉลองกันหน่อยแล้ว จริงไหมครับคุณคันธรส”
เสี่ยเซี้ยงพูดเสียงเคล้าหัวเราะ คันธรสยิ้มหวานให้อย่างแพรวพราว จากนั้นสองหนุ่มก็ซดเบียร์เย็นเฉียบ ขณะที่ไวน์แดงถูกรินลงในแก้วทรงสูงของหญิงสาวพราวเสน่ห์
“หมดแก้วเลยครับ”
เสี่ยเซี้ยงชูแก้วในมือ ศักดาเองก็ชนแก้วพร้อมๆ กับคันธรสที่ยกแก้วบางใส ส่งน้ำสีแดงสดล่วงพ้นริมฝีปากสวย ดื่มด่ำกับรสชาติที่หอมหวานของไวน์รสหวานที่ทำจากผลไม้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะนั้น เสี่ยโฉดมองไปยังลำคอขาวระหงที่กำลังกลืนเครื่องดื่มด้วยประกายแวววาว และรอยยิ้มที่ริมฝีปากหนานั้นก็ยิ่งฉีกออก เมื่อแลเห็นแก้มเป็นพวงสวยนั้นแดงก่ำขึ้นเป็นทางอย่างน่าดู
ทันทีที่คันธรสวางแก้วเปล่าลง มือหยาบของเสี่ยโฉดก็หยิบขวดไวน์เทลงไปอีกจนเต็ม
“อีกแก้วครับ เพื่อความสำเร็จที่รอเราอยู่…”
ศักดาจิ้งจอกสวาทชูแก้วตัวเองขึ้นเป็นทีเห็นด้วยสบทบ คันธรสมองตามแล้วจึงยกแก้วตัวเองขึ้นบ้าง ริมฝีปากงามที่ตอนนั้นมีร่องรอยของไวน์ที่เอ่อซาบอยู่นั้นเป็นประกายวาวน่าบดขยี้จูบเป็นอย่างที่สุด ดวงตาหลุกหลิกของเสี่ยเซี้ยงเริ่มทอประกายร้อนแรง และส่งเสียงหัวเราะกระเส่าเมื่อแลเห็นเครื่องดื่มอันร้อนแรงนั้นล่วงผ่านลำคองามระหงเข้าไปจนหมดอีกแก้ว และสีแดงที่จับตรงพวงแก้มนั้นแผ่ซ่านไปจนถึงใบหูที่จำเดิมขาวใสจนเปล่งปลั่งไปด้วยสีเลือดสาวอันสมบูรณ์ไปด้วยวัยสะพรั่ง
“คุณคันธรส..นี่โชคดีจริงๆ ที่ได้คู่คิดอย่างคุณศักดา…อย่างกับคำที่เขาว่า โฉมสะคราญก็ต้องมีคนรู้ใจใช่ไหมครับ”
เสี่ยเซี้ยงกระซุ่นเสียงเย้า รินไวน์แดงลงไปอีกจนเต็มปรี่ คันธรสหัวเราะคิก ดวงตาพราวเสน่ห์นั้นส่งประกายเชื่อมหวานให้กับคำพูดนั้น ศักดาก็หัวเราะให้กับคำพูดของเสี่ยเซี้ยง หนุนเสริม
“ถ้าโฉมสะคราญมีผู้รู้ใจจริง ก็คงจะไม่ใช่มีผู้รู้ใจคนเดียวแน่ใช่ไหมครับเสี่ย..”
เสี่ยเซี้ยงหัวเราะชอบใจ กล่าวยิ้มๆให้กับหญิงสาวสวยที่นั่งหน้าแดงตรงหน้า
“ครับ ผมยินดีรับใช้คุณคันธรสในทุกที่และทุกเวลา..”
หญิงสาวที่ชอบใจในการยกยอปอปั้นมาตลอดชีวิต ได้ยินคำพูดที่หวานหูแต่ถ่ายเดียวก็รู้สึกเบิกบานใจจนหัวเราะเสียงใส ยิ้มหวานหยดย้