โอ้…พี่สาวที่รัก ตอนที่ 5 สุขสมกับปรียานุช
ไกรวิทย์ลืมตาตื่นขึ้น เวลาได้ผ่านไปหลายชั่วโมงนับตั้งแต่เขากับสาวิตรีและวิภาวรรณสนุกด้วยกัน ในขณะนี้ไม่มีวี่แววของพี่สาวทั้งสองในห้องเลย
เขาจำได้ว่าวิภาวรรณหลับพร้อมกับเขาแต่ในตอนนี้เหลือเขานอนห่มผ้าอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว วิภาวรรณคงจะห่มให้เขาก่อนเธอออกไป
สาวิตรีอยู่ในห้องกับภาวิณีในขณะที่วิภาวรรณกับน้องชายหลับอยู่ในห้องเดียวกัน
“จริงเหรอคะ” ภาวิณีถามพี่สาวคนโตแล้วรอคำตอบอย่างใจจรดใจจ่อ
“จริงซิจ๊ะ ก็พี่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยนี่ ได้เห็นสองคนนั้นเขามีความสุขด้วยกัน มันเป็นภาพที่น่าดูจริง ๆ” สาวิตรีตอบยิ้ม ๆ
“หนูอยากอยู่ที่นั่นด้วยจังเลย คงจะน่าดูทีเดียวนะคะ” ภาวิณีทอดถอนใจเมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาที่เธอได้อยู่ร่วมกับไกรวิทย์ ช่างเป็นอะไรที่วิเศษสุดจริง ๆ
“ครั้งหน้าหนูอยากจะร่วมสนุกด้วยไหมล่ะ” สาวิตรีถามในขณะที่เธอขดตัวบนเตียงเบือนสายตาไปจากน้องสาวคนเล็กเมื่อประตูเปิดออกและวิภาวรรณเดินเข้ามา
“หลับสนิทดีมั้ยคะ” ภาวิณีถามพร้อมรอยยิ้มรู้ทันขณะที่วิภาวรรณเดินอย่างไม่ค่อยสะดวกนักไปที่เตียงของเธอ
วิภาวรรณพยักหน้ารับ
“พี่คิดว่าเธอสองคนหมดแรงไปแล้วซะอีก แปลกนะที่ยังขยับตัวได้อยู่” สาวิตรีสัพยอกน้องสาวขณะที่เธอนั่งลงบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหงายพร้อมรอยยิ้มอย่างสุขสม
“เหนื่อยแต่ก็คุ้มเกินคุ้มล่ะค่ะ” เธอตอบอย่าง
เคลิ้มฝัน สีหน้าเธอเปี่ยมด้วยความสุขสมหวัง
“จ้า พี่เข้าใจดี” สาวิตรีพูดพร้อมกับบีบคลึงเต้านมตัวเองไปด้วย “ยัยภาก็เหมือนกัน”
ภาวิณียิ้มสดใสเมื่อถูกพาดพิงถึง
ไกรวิทย์ลุกจากเตียงแล้วมองนาฬิกาที่อยู่ข้าง ๆ
ตัวเลข 9:30 กำลังกะพริบวาบ ๆ เขานอนไปนานทีเดียว อีกเดี๋ยวคนอื่น ๆ ในบ้านคงจะแวะมาที่เตียง เขาจะต้องแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดีหน่อยเดี๋ยวมีคนสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น
ขณะที่กำลังคิดเพลิน ๆ อยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แม่เขาเข้ามาก่อน ตามด้วยปรียานุช พรรณวดี กุลธิดา วิภาวรรณ ภาวิณีและสุดท้ายคือสาวิตรี ทุกคนกล่าวราตรีสวัสดิ์และจูบแก้มเขาเบา ๆ ตามประเพณีของที่บ้านที่มีมาช้านาน วิภาวรรณ ภาวิณีและพรรณวดีให้มากกว่าจูบราตรีสวัสดิ์ โดยแต่ละคนจูบแล้วใช้ลิ้นนุ่ม ๆ ชื้น ๆ แยงเข้าไปในปากเขาด้วย
สาวิตรีถ่วงเวลาอยู่ในห้องจนคนอื่น ๆ บอกราตรีสวัสดิ์แล้วออกไป ทิ้งให้เธอกับไกรวิทย์อยู่กันเพียงลำพัง
“สองสามวันมานี้ยุ่งมากเลยล่ะสิจ๊ะ” สาวิตรีถามยิ้ม ๆ ขณะที่กอดน้องชายแนบแน่น
“ครับ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต” ไกรวิทย์อธิบายขณะที่รู้สึกว่าหัวนมพี่สาวเริ่มชูชันขึ้นมาใต้ชุดนอนบาง ๆ
“แล้วเราจะแบ่งสรรปันส่วนกันยังไงดีจ๊ะ ทำตารางเวรดีมั้ย” สาวิตรีพูดกึ่งล้อเล่น
“ก็ไม่เลวนะ แต่ผมคิดว่าแค่พี่สาคนเดียวก็พอแล้วล่ะ ผมไม่คิดว่าพี่ ๆ คนอื่น ๆ จะอยากนอนกับผมอีก” ไกรวิทย์ตอบขณะที่พี่สาวคลายการสวมกอดแล้วเดินไปปิดประตูห้อง
“อ้าว ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะจ๊ะ”
“ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากนะครับ มันก็ดีมาก ๆ เลยแต่ผมสงสัยพวกพี่ ๆ เขาจะคิดว่าเขาทำผิดไปรึเปล่า เพราะยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน” ไกรวิทย์อธิบาย
“เชื่อพี่เถอะ พวกนั้นเขาไม่คิดแบบนั้นหรอกจ้ะ” สาวิตรียิ้มขณะที่เดินกลับมาหาน้องชายแล้วจูบเขาฟอดใหญ่
“แล้วพวกพี่ ๆ เขาคิดยังไงกับเรื่องนี้ละครับ” ไกรวิทย์ถามพี่สาวสุดเซ็กซี่
“ราตรีสวัสดิ์จ้ะ วิทย์” สาวิตรีจูบเขาอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยวก่อนครับพี่สา ยังไม่ได้บอกผมเลยว่าพวกนั้นเขาคิดยังไง” ไกรวิทย์ถามซ้ำแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ได้แต่มองตามพี่สาวเดินยักย้ายส่ายสะโพกออกจากห้องก่อนจะหันกลับมาส่งจูบให้เขา
“เอ แล้วพวกนั้นเขาคิดยังไงกับเรื่องนี้กันนะ” ไกรวิทย์ถามตัวเองขณะที่เอนตัวลงนอนบนเตียง คลุมผ้าห่มก่อนจะล่องลอยสู่ห้วงนิทรารมย์
วันรุ่งขึ้น ไกรวิทย์ตื่นเสียสายโด่ง เมื่อหันไปมองนาฬิกาก็พบว่า 11.30 น.เข้าไปแล้ว เขารีบกระโจนลงจากเตียงแล้วรื้นค้นหาเสื้อผ้าในลิ้นชัก จนในที่สุดก็ได้กางเกงยีนส์สีซีดและเสื้อยืดสีดำ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ครัวแล้วมองหาคนอื่น ๆ แต่ก็เห็นแต่เพียงกระดาษโน้ตแผ่นเดียว
วิทย์ พี่ไปช็อปปิ้งแล้วจะกลับมาบ่าย ๆ
แล้วพี่จะให้รางวัลพิเศษนะจ๊ะ แม่ นุช วิ พรรณไปทำงาน ส่วนดากับภาไปมหา’ลัย เหลือเธอเฝ้าบ้านคนเดียวจนกว่าพี่จะกลับ
รักมาก ๆ จ้ะ
พี่สา
นั่นคือข้อความในกระดาษโน้ต
ดีตายเลยล่ะ อยู่บ้านคนเดียวเนี่ย ไกรวิทย์คิดขณะที่มองหาเครื่องดื่มในตู้เย็นก่อนจะออกไปวิ่ง เมื่อเจอแล้ว เขาก็ปลดล็อคประตูแล้วออกไป หันมาล็อคไว้เหมือนเดิมแล้วเอากุญแจไปด้วย จากนั้นก็เริ่มออกวิ่งช่วงเช้า (ซึ่งก็สายกว่าปกติเยอะ)
เมื่อไกรวิทย์กลับมาที่บ้านก็พบว่าประตูไม่ได้ล็อค ถึงเขาจะวิ่งนานกว่าปกติแต่ตอนนี้ก็ยังแค่เที่ยงสิบห้า นอกจากเขาแล้วไม่น่าจะมีใครอยู่บ้าน
เขาเปิดประตูเข้าไปในบ้านหยิบเครื่องดื่มแล้วเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นดูว่ามีใครอยู่ แต่ก็พบความว่างเปล่า
เขาได้ยินเสียงใครอยู่ชั้นบน ก็เลยรีบเดินไปที่บันไดแล้วตะโกนขึ้นไป
“ผมเองครับพี่นุช ไม่ใช่โจรที่ไหน” เป็นเสียงของปรียานุชจริง ๆ ที่ตอบเขา
“พี่กลับมาทำอะไรที่บ้านเหรอครับ” เขาถามขณะที่เธอเดินลงมาจากบันไดเข้าไปในครัวโดยยังสวมชุดทำงานอยู่ (เป็นเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินรัดรูปมีชื่อและยี่ห้อร้านที่เธอทำติดอยู่และกางเกงยีนส์สีดำ)
“พักกินข้าวเย็นนะซิ ทำไม มีปัญหาเหรอน้องชาย” เธอสวนกลับแต่น้ำเสียงไม่ได้ดุร้ายอะไร “พี่คิดว่าเธออยากมีเพื่อนซะอีก”
“เอ่อ ก็ขอบคุณครับพี่นุช อยู่คนเดียวบางทีมันก็เหงาเหมือนกัน” ไกรวิทย์ตอบขณะที่ดื่มเครื่องดื่มไปด้วยแล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อบนหัว
“พี่ว่าพี่เข้าใจเธอนะ บางทีที่ร้านก็เงียบจนพี่เบื่อสุด ๆ เหมือนกัน” ปรียานุชเออออกับน้องชายขณะที่เธอกินแซนด์วิชที่เพิ่งทำเสร็จ
“ปกติพี่สาจะอยู่กับผมแต่วันนี้เขาออกไปช็อปปิ้งหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ คงอีกนานกว่าจะกลับ” ไกรวิทย์พูดขณะดื่มเครื่องดื่มอีกและเริ่มวอร์มหลังออกกำลังกาย
“ถ้างั้นเรา…เอ่อ เธอก็ต้องอยู่คนเดียวอีกนานเลยซิ” ปรียานุชถามขณะที่จ้องมองน้องชายถอดเสื้อยืดที่ชุ่มเหงื่อออกแล้วหยิบเสื้อยืดอีกตัวที่เขาเตรียมไว้ใส่หลังวิ่งเสมอ
“ครับ” เขาตอบพร้อมกับสวมเสื้อยืดสีขาวตัวใหม่
“การวิ่งช่วยเธอได้มากจริง ๆ นะ วิทย์ หุ่นเธอกำลังดีเลยแหละ” ปรียานุชให้ความเห็นขณะมองน้องชายแต่งตัว
“ขอบคุณครับ” ไกรวิทย์ยิ้มแป้น เขาค่อนข้างภูมิใจกับหุ่นของตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่ถึงกับล่ำบึ้กชนิดมีกล้ามเป็นมัด ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับมีไขมันส่วนเกินมากเกินไป
“เธอน่าจะไปฟิตเนสกับพี่ซักครั้งนะ พี่จะได้สอนท่ากายบริหารให้” ปรียานุชชวน พร้อมกับกัดแซนด์วิชอีกคำ
“ม่ายเอาล่ะครับ แค่นี้ก็ดีถมแล้ว ขอบคุณครับ” ไกรวิทย์ตอบขณะกุมมือตัวเองยกขึ้นสูงและส่ายหน้าปฏิเสธ
ไม่ใช่แค่เพราะวิ่งหรอกแต่เพราะได้ทำกิจกรรมพิเศษกับพี่สาและพี่สาวคนอื่น ๆ ตะหากที่ช่วยเอาไขมันส่วนเกินออกไปน่ะ ไกรวิทย์คิดในใจขณะมองพี่สาวกินแซนด์วิช
“โธ่เอ๊ยพ่อหนุ่มตาขาว พี่ยังหลงคิดว่าเธอน่าจะมีน้ำอดน้ำทนกว่านี่ซะอีก” ปรียานุชหยอกขณะที่เธอกินแซนด์วิชเสร็จและดื่มน้ำ
“ผมอึดพออยู่แล้วครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง” ไกรวิทย์ตอบ เคาะหลังพี่สาวเบา ๆ
“จ้าเชื่อแล้วจ้ะ ดูตัวเธอสิ ไหนล่ะไม่เห็นมีกล้ามเลย แย่จังนะ” ปรียานุชพูดแล้วจิ้มท้องเขาเล่น หัวเราะกิ๊กกั๊ก
“ว้า พี่นุชนี่ เลิกแหย่ผมซะที ได้แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว อีกอย่างผมแข็งแรงกว่าที่พี่เห็นนะ” เขาแกล้งตีมือปรียานุช
“แบบนี้ต้องพิสูจน์กันหน่อยละมั้งไอ้น้อง” ปรียานุชท้าทายและกระดิกนิ้วชี้เรียก สีหน้าเธอท้าให้เขากดตัวเธอลง ถ้าทำได้
“ก็ยังด้าย แต่ผมเตือนพี่แล้วนะ” ไกรวิทย์ตอบขณะเตรียมพุ่งเข้าใส่พี่สาว เธอยิ้มแล้วแลบลิ้นใส่เขา
“เริ่มล่ะนะ” ไกรวิทย์ร้องบอกก่อนจะจับเอวพี่สาวแล้วยกตัวเธอขึ้นวางบนไหล่ น้ำหนักของปรียานุชไม่มากนัก ราว ๆ 45 กิโลกรัมรวมเหงื่อและอาหารกลางวัน ไกรวิทย์สามารถยกตัวเธอขึ้นได้อย่างไม่มีปัญหา ปรียานุชขยับตัวยุกยิกเมื่อรู้สึกมือของน้องชายยึดลำตัวท่อนล่างของเธอให้อยู่กับที่ในขณะที่เขาพาเธอเดินไปรอบ ๆ ห้องครัวแล้วเข้าไปในห้องนั่งเล่น
“โอเค โอเค พี่เชื่อแล้วจ้ะ ขอโทษที่สบประมาทเธอนะจ๊ะ” ปรียานุชหัวเราะไม่หยุดเมื่อโดนมือของน้องชายลูบตัวตอนที่เธอพยายามจะบิดตัวจากการยึดของเขา
“เห็นมั้ย ผมบอกพี่แล้ว” ไกรวิทย์ตอบขณะที่ยึดพี่สาวไว้แน่นแล้วแกล้งหมุนตัวเธอไปรอบ ๆ
“จ้ะ พี่ก็เชื่อเธอแล้วไง พอๆ หยุดหมุนได้แล้ว พี่เริ่มมึนหัวแล้วจ้ะ” ปรียานุชตอบ ยังคงหัวเราะไม่หยุด
ไกรวิทย์ปล่อยตัวเธอลงจากไหล่ไปนอนบนโซฟาแต่ปรียานุชกลับเหนี่ยวคอเขาแล้วดึงตัวเขาลงไปทาบทับบนตัวเธอ ไกรวิทย์รีบยันแขนดันตัวออกห่างพี่สาว แต่เต้าอวบที่มีขนาดย่อมกว่าของสาวิตรีเพียงเล็กน้อยยังคงแตะอยู่กับหน้าอกเขา มือเธอยังคงรั้งคอเขาไว้แน่น ตาจ้องสบกับตาเขา ไกรวิทย์จ้องกลับ ไม่มีเสียงพูดใด ๆ ออกจากปากขณะที่เขาลดหัวลงแล้วประกบริมฝีปากกับเธอ ปรียานุชกอดคอเขาแน่นขึ้นและจูบตอบ
มีบางสิ่งบางอย่างอุบัติขึ้นโดยที่ทั้งคู่ไม่สามารถอธิบายได้ ถ้ามองด้วยตาเปล่าก็คือทั้งสองแลกจูบกันแต่มันเป็นอะไรที่มีความหมายมากยิ่งไปกว่านั้น เขาทั้งสองรู้สึกว่าทำแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว ราวกับว่าในช่วงเวลานั้นไม่มีอะไรที่มีความหมายสำหรับทั้งคู่มากไปกว่าสิ่งนี้ การจุมพิตยุติลงและไกรวิทย์ถอยตัวออกจากปรียานุช เขามองลึกเข้าไปในดวงตาเธอพร้อมส่งยิ้มให้ ปรียานุชยิ้มตอบและดึงตัวเขากลับเข้าไปหา คราวนี้เธอเป็นฝ่ายรุกบ้างโดยใช้ลิ้นแทรกผ่านริมฝีปากเขาเข้าไปด้วยความรุนแรงในอารมณ์ ไกรวิทย์แลกลิ้นโต้ตอบและลิ้นของทั้งคู่ก็สัมผัสกันเป็นครั้งแรก เป็นสัมผัสที่วาบหวามที่สุด
จูบนี้ยาวนานเหมือนชั่วนิรันดรเพราะไม่มีฝ่ายไหนอยากเป็นคนยุติก่อน ในที่สุดไกรวิทย์ก็เป็นฝ่ายยุติการจูบก่อน โดยลุกจากตัวพี่สาวแล้วยืนอยู่ข้างโซฟามองลงไปที่เธอ
“มีอะไรเหรอจ๊ะ” ปรียานุชถามไกรวิทย์ที่ยืนอยู่หน้าเธอ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่พี่นุชแน่ใจเหรอครับว่าพี่อยากทำแบบนี้” เขาถามแบบไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“ตาเซ่อ พี่อยากทำแบบนี้ตั้งแต่ตอนเธออายุ 15 แล้ว” ปรียานุชตอบพร้อมยิ้มหวานให้น้องชาย
เอ ตอนเราอายุสิบห้านี่มันเป็นยังไงเหรอ ทำไมทั้งพี่นุชกับพี่สาถึงได้อยากมีอะไรกับเราขนาดนั้น สงสัยจริง เขาคิดในใจขณะที่ได้ยินถ้อยคำเหล่านั้นพรั่งพรูจากปากของปรียานุช
“วิทย์ เป็นอะไรไปรึเปล่า” ปรียานุชถาม
“เปล่าครับพี่นุช” เขายิ้มให้ เพิ่งรู้ว่าตัวเองอึ้งไปพักใหญ่ “ผมแค่อยากรู้เท่านั้นแหละครับ พี่นุชมานี่สิครับ”
“ก็ดีแล้วจ้ะ” ปรียานุชตอบพร้อมกับยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาน้องชาย เธอจูบเขาอีกครั้งก่อนหมุนตัวเขาแล้วดันให้ถอยหลังเข้าหาโซฟา
ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้หย่อนก้นนั่ง ปรียานุชก็จับเสื้อยืดเขาแล้วดึงมันขึ้นไปตามหน้าอกจนหลุดออกไปทางหัว เธอแลบลิ้นเลียริมฝีปากเมื่อได้เห็นหน้าอกและหน้าท้องเขา
ไกรวิทย์ยิ้มให้ขณะที่เธอปลดขอยีนส์เขาออกแล้วรูดมันลงไปตามขาพร้อมกับกางเกงชกมวย ท่อนควยที่แข็งขันดีดตัวขึ้นมาจนเกือบชนหน้าปรียานุชที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าน้องชาย
“อุ๊ยตาย” เธออุทานเสียงแผ่วโหยเมื่อได้เห็นลำควยเขาเด้งไปมาต่อหน้าต่อตา
ไกรวิทย์มองขณะพี่สาวจ้องควยเขาแล้วอดยิ้มไม่ได้ เธอตื่นเต้นเหมือนกับไม่เคยเห็นมาก่อนทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าเธอเคยเห็นควยผู้ชายมาแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ใช่สาวเปรี้ยวที่ชอบเที่ยวเตร่ แต่ปรียานุชก็ไม่ใช่คนเก็บตัว เธอเคยมีเพื่อนชายมาหลายต่อหลายคน ไกรวิทย์ทำเธอตื่นจากภวังค์เมื่อเขาสลัดรองเท้าทิ้งไปเพื่อจะได้รูดกางเกงออกไปได้ ปรียานุชสะบัดหัวแล้วช่วยน้องชายถอดกางเกงยีนส์และกางเกงชกมวยก่อนจะดันตัวเขาให้นั่งบนโซฟา เขาเงยหน้ามองพี่สาว ลำควยเขาเต้นกระดุ๊บ ๆ ตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ปรียานุชมองตามการเคลื่อนไหวของร่างกายเขาทุกลมหายใจเข้าออก เขาช่างน่ารักเสียจริง ๆ ยิ่งเปลือยด้วยแล้ว ก็ยิ่งดูเปราะบางชวนให้เธอคอยปกป้อง และนั่นคือสิ่งที่เธอกำลังคิดจะทำ
ขณะที่ปรียานุชกำลังจะเริ่มถอดเสื้อผ้า เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างโซฟาก็ดังขึ้นจนทั้งคู่สะดุ้งตกใจ
ทั้งคู่มองไปที่โทรศัพท์แล้วหันกลับมามองตากัน แล้วหันกลับไปที่โทรศัพท์อีกครั้ง
“รับซิจ๊ะ” ปรียานุชพูดเสียงละห้อย ไกรวิทย์พยักหน้าแล้วเอี้ยวตัวไปยกหูโทรศัพท์
“สวัสดีครับ” ไกรวิทย์พูดขณะยกหูโทรศัพท์
“หวัดดีจ้าที่รัก นี่พี่เอง กำลังคิดถึงเธออยู่พอดีก็เลยโทรมาพร้อมรางวัลที่สัญญาไว้”
“พี่สาครับ” ไกรวิทย์บุ้ยปากบอกปรียานุช เธอยิ้มแล้วมองสำรวจร่างกายน้องชายต่อ
“หวัดดีครับพี่สา นี่พี่อยู่ที่ไหนเหรอครับ” ไกรวิทย์ถาม
“ก็อยู่ในที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่านคนเดียวกับโทรศัพท์มือถือแล้วก็กำลังคิดถึงเธออยู่นะสิจ๊ะ” สาวิตรีพูดเนิบ ๆ
“ผมก็คิดถึงพี่ครับ” ไกรวิทย์ตอบพร้อมกับมองไปที่ปรียานุชซึ่งกำลังถอดเสื้อยืดออกทำให้เห็นจะจะว่าเธอไม่ได้ใส่บราเพราะเต้าคู่งามหลุดลงมาเด้งดึ๋งดั๋งต่อหน้าต่อตาเขา ยอดถันชูชันและดูน่าลิ้มลองเป็นที่สุด
ดวงตาไกรวิทย์แทบถลนออกจากเบ้าขณะที่จ้องมองเรือนร่างอันงดงามของพี่สาวเมื่อเธอวางมือลงบนสะโพกแล้วเริ่มถอดขอกางเกงยีนส์รูดมันลงไปกองกับพื้น เหลือแต่เพียงกางเกงในลายลูกไม้สีขาวแนบเนื้อตัวเดียวเท่านั้น
“บังเอิญจังเลยครับ ผมก็กำลัง…คิดถึงพี่อยู่พอดี” ไกรวิทย์พูดกับสาวิตรีแต่ตาของเขากลับจ้องมองเรือนกายของปรียานุชผู้เป็นพี่สาวราวกับจะกลืนกินในขณะที่เธอเริ่มบิดสะโพกส่ายพลิ้วเบื้องหน้าเขาเพื่อเพิ่มดีกรีความเงี่ยน
แล้วเธอก็ทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงเมื่อเธอกล่าวว่า
“พี่รู้เรื่องระหว่างเธอกับพี่สา”
ไกรวิทย์ตกใจมากที่เธอรู้
“พี่นุชรู้ได้ไงน่ะ” เขาโพล่งออกมา
“รู้ก็แล้วกันล่ะน่า คุยกับพี่สาต่อไปสิ มันน่าตื่นเต้นดีออก” เธอกระซิบกับน้องชายที่ยิ้มออกมา เขาฟังสาวิตรีพูดในขณะที่ตาก็มองปรียานุชถอดกางเกงในไปด้วย
“อันที่จริงผมกำลังคิดถึงปากของพี่สาครับ” ไกรวิทย์พูดกรอกหูโทรศัพท์ เขายิ้มให้ปรียานุชที่กำลังบิดสะโพกอย่างยั่วยวนอยู่ตรงหน้า
“เธอก็มีสิ่งที่พี่อยากเอาเข้าปากเหมือนกัน” สาวิตรีพูดยิ้ม ๆ แล้วหันไปมองรอบ ๆ ว่ามีคนอยู่หรือไม่
“ในปากพี่มันอุ่นสบายจังเลยครับ” ไกรวิทย์ยิ้มออกมาหลังพูดจบ ปรียานุชยังคงยืนส่ายสะโพกอยู่ข้างหน้าเขา มือไม้เธอลูบไล้ไปทั่วเรือนกาย สัมผัสไปทุกที่ที่สร้างความเสียวซ่านให้แล่นไปทั่วร่างเธอได้
“พี่กำลังนั่งคุกเข่าลูบไล้มือไปตามขาอ่อนเธอ” สาวิตรีส่งเสียงที่เร้าอารมณ์ผ่านสายโทรศัพท์ไปยังน้องชายที่กำลังจ้องมองปรียานุชไล้มือไปมาบนโคกสวาทและวนนิ้วรอบเม็ดเสียวของตัวเอง
“แล้วมือพี่ทำอะไรต่อครับ” ไกรวิทย์ถามสาวิตรีทางโทรศัพท์ขณะที่ตาก็มองมือของปรียานุชเล่นกับตัวเอง
“ตอนนี้พี่กำลังจับควยเธอไว้ในอุ้งมือ” สาวิตรีพูดหร้อมกับเลื่อนมือลงไปตามหน้าท้องจนถึงขอบกางเกงยีนส์แล้วต่อลงไปจนถึงขอบกางเกงใน แล้วหันมองรอบข้างเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นขณะที่เธอกระซิบเข้าไปในโทรศัพท์มือถือ
ไกรวิทย์รู้สึกเงี่ยนจนแทบจะน้ำแตกให้ได้ตรงนั้นขณะที่มองปรียานุชพี่สาวเขายืนเปลือยกายลูบคลำสัมผัสตัวเองและสาวิตรีพี่สาวอีกคนเล่นโฟนเซ็กส์กับเขา
“พี่คลานขึ้นไปบนตัวเธอแล้วจับควยเธอยัดใส่ตัวพี่” สาวิตรีพูดพร้อมกับแยงนิ้วเข้าไปในร่องหลืบและวนนิ้วไปรอบ ๆ ปลุกเร้าตัวเองขณะที่คุยกับน้องชายไปด้วย
“โอวว์ ดีจังเลยครับ” ไกรวิทย์ครางขณะมองปรียานุชนวยนาดเข้ามาหา เธอช่วยตัวเองจนเบื่อแล้วและกำลังต้องการน้องชาย
เธอค่อย ๆ ปีนขึ้นไปบนตัวเขาจนกระทั่งท่อนเอ็นเขาจ่อตรงกับปากรูเธอแล้วก็ค่อย ๆ หย่อนตัวลงบนลำควย
“อูยย์ ซี๊ดดดด อือม์ม์” ไกรวิทย์ครวญครางเมื่อรู้สึกถึงความอบอุ่นของโพรงหีพี่สาวโอบรอบลำควยเขา น้ำเสียวของเธอช่วยให้เขาชำแรกควยเข้าไปได้ง่ายขึ้น
“อ๊าวว์ อู๊ยยย์” สาวิตรีครางกระเส่าเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของน้องชายโดยเธอเข้าใจว่าเขาครางเพราะเธอแต่ที่จริงเขาครางออกมาเพราะหีปรียานุชกำลังกลืนลำควยเขาเข้าไปตะหาก
เมื่อควยเขาเข้าไปลึกสุดแล้ว ปรียานุชก็หยุดนิ่งแล้วแหงนหน้าไปข้างหลังแอ่นเต้านมคู่งามใส่หน้าเขา
“โอวว์ อืมม์ ควยเธออยู่ในหีพี่รู้สึกดีจัง” สาวิตรีเพ้อครวญพลางใช้นิ้วตกเบ็ดในที่สาธารณะไปด้วย ในขณะเดียวกันน้องชายเธอที่อยู่ทางปลายสายก็กำลังจูบไซ้เต้าอวบของปรียานุช ฟอนเฟ้นอย่างเมามันแล้วเลียหัวนมสลับไปมา
“เอาซิจ๊ะ บอกพี่มาสิว่าเธอต้องการอะไร” สาวิตรีพูดในเวลาเดียวกับที่น้องชายเธอจ้องเต้าอวบตรงหน้ากระเพื่อมขึ้นลงขณะที่ปรียานุชเริ่มเลื่อนตัวรูดขึ้นลงกับท่อนควยเขาโดยปล่อยให้มันออกมาจนเกือบหมดแล้วกดตัวให้มันกลับเข้าไป
“บอกมาซิจ๊ะ ไม่ต้องอายหรอก” สาวิตรีเตือนในขณะที่ได้ยินไกรวิทย์ครางผ่านสายโทรศัพท์
ตอนนี้ปรียานุชยึดไหล่เขาไว้แล้วซอยสะโพกสั้น ๆ กระเด้าลำควยทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เพราะรูหีที่คับตีบของเธอบีบรัดลำควยอวบอ้วนของเขาไว้แน่น
“ก็ พี่สากำลังทำอยู่นี่ไงล่ะ” ไกรวิทย์ตอบ ตาจ้องตาปรียานุชแต่ปากพูดกับสาวิตรี ปรียานุชยิ้มหวาน เธอกำลังมีความสุขอย่างที่สุดที่ได้เย่อน้องชายในเวลาเดียวกับที่เขาเล่นโฟนเซ็กส์กับพี่สาวของทั้งคู่
“โอวว์ พี่เงี่ยนเหลือเกินจ้ะวิทย์” สาวิตรีครวญครางพร้อมแยงนิ้วลึกเข้าไปอีก ในเวลาเดียวกันที่บ้าน ปรียานุชโน้มตัวจูบน้องชาย เขาเผลอมือปล่อยหูโทรศัพท์ขณะที่จูบไซ้เต้าคู่งาม ดูดดุนหัวนมแต่ละข้าง ทำให้ปรียานุชครางออกมาดังกว่าปกติ
“อูยย์ เธอกำลังทำให้พี่เสียวแทบขาดใจตาย” สาวิตรีสูดปากครางกระเส่าในขณะที่เธอเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกนิ้วหนึ่ง
“อูยย์ โอวว์ อูยย์ อาวว์ว์” ปรียานุชครวญครางขณะที่เร่งจังหวะซอยกระเด้าเข้าใส่ท่อนควยของน้องชายอย่างบ้าคลั่ง
“มีใครอยู่ที่นั่นกับเธอเหรอ” สาวิตรีถามเมื่อได้ยินเสียงครางอีกเสียงเต็มรูหู
“เอ่อ ครับ” ไกรวิทย์รับสารภาพ เขาจ้องตาปรียานุชขณะที่เธอเริ่มลดความเร็วในการเด้งกระเด้าลงเล็กน้อย
“เธอน่าจะบอกพี่ว่ามีคนอื่นอยู่กับเธอ” สาวิตรีกระชากเสียงพร้อมกับดึงมือออกมาจากกางเกงใน
ปรียานุชเริ่มเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้งในขณะที่เธอฟังเสียงสาวิตรีทางโทรศัพท์
“ใครอยู่กับเธอน่ะ” เธอถาม ไกรวิทย์มองปรียานุชที่ยิ้มแล้วพยักหน้าอนุญาต
“พี่นุชครับ”
“ยัยนุชเหรอ กะแล้วว่าเธอสองคนต้องมีอะไรกันจนได้” สาวิตรีพูดแล้วหันมองรอบตัวว่ามีใครมาหรือเปล่า “เดี๋ยวพี่จะกลับแล้ว”
“ครับ ผมดีใจที่พี่ไม่โกรธที่ผมอยู่ที่นี่กับพี่นุช ไม่ใช่…” ไกรวิทย์พูดไม่ทันจบ ปรียานุชก็แย่งหูโทรศัพท์ไป
“หวัดดีค่ะพี่สา ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูจะดูแลนายวิทย์ให้เองค่ะ บ๋ายบาย” เธอพูดแล้วก็เอาหูโทรศัพท์ไปวางบนแคร่
เมื่อวางโทรศัพท์แล้ว เธอก็จับหน้าน้องชายให้หันกลับมาดูดเลียเต้าอวบของเธออีกครั้ง เธอชอบให้คู่สวาททำแบบนี้ที่สุดเพราะเต้านมเธอไวต่อการสัมผัสมาก การที่ถูกดูดเลียทำให้เธอมีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์
ไกรวิทย์จูบไซ้เต้านมพี่สาวอย่างเต็มฝีมือในขณะที่พี่สาวเขาก็สาวลำควยเข้าออกรูหีเธอเร็วขึ้นอีก ทำให้ทั้งคู่ครวญครางออกมาด้วยความมันส์ในอารมณ์
จังหวะที่เร็วขึ้นนี้ทำให้ลำควยของไกรวิทย์ไวต่อความรู้สึกมากขึ้นและเขารู้ว่าคงจะทนได้อีกไม่นานขณะที่พี่สาวจับใบหน้าเขาแล้วเริ่มจูบแผ่วเบาแล้วก็ค่อย ๆ เร่าร้อนรุนแรงขึ้นเมื่อเธอรู้สึกว่าท่อนควยที่อยู่ในตัวเธอกำลังพองตัวใหญ่ขึ้นพร้อมที่จะคายน้ำรักออกมา
“อาวว์ว์ ผมกำลังจะถึงแล้วครับพี่นุช” ไกรวิทย์ร้องลั่นเมื่อรู้สึกน้ำอสุจิเคลื่อนไปตามลำควยจนถึงหัวเงี่ยงหยัก
ปรียานุชหยุดการกระเด้าเพื่อให้แน่ใจว่าลำควยของน้องชายฝังลึกอยู่ในตัวเธอขณะที่น้ำรักข้นเหนียวของเขาฉีดพุ่งออกมา มันร้อนจนเหลือเชื่อขณะที่น้ำควยของน้องชายพุ่งกระฉูดเข้าไปในโพรงหีเธอ
“อาวว์ วิทย์จ๋าเก่งจังเลยจ้ะ” ปรียานุชพูดหอบ ๆ เมื่อรู้สึกว่าท่อนเอ็นน้องชายกำลังหดตัวลงภายในร่องหลืบที่เปียกแฉะของเธอ
เธอค่อย ๆ โหย่งตัวลุกขึ้นขณะที่ลำควยน้องชายลื่นหลุดออกมา น้ำควยน้ำหีของทั้งคู่ไหลรินลงไปตามขาอ่อนเธอ เธอขยับตัวมายืนอยู่หน้าน้องชายที่ยิ้มด้วยความพอใจอย่างคล่องแคล่ว
“ดีจนไม่น่าเชื่อเลยครับ” ไกรวิทย์พูด ตามองพี่สาวหุบขา หยดน้ำเสียวเม็ดน้อยเริ่มไหลลงไปตามด้านในขาอ่อนเธอ
“พี่ก็เหมือนกันจ้ะวิทย์ พี่จะต้องไปอาบน้ำแล้ว เธอเองก็น่าจะรีบแต่งตัวนะ” ปรียานุชบอกขณะที่เธอเดินขึ้นบันไดไปอาบน้ำ
ไกรวิทย์พยักหน้าแล้วมองท่อนเอ็นของตัวเองที่มันปลาบไปด้วยน้ำแห่งความเงี่ยนของทั้งคู่
“มันดีเกินไปจนไม่น่าเชื่อ” ไกรวิทย์พูดซ้ำขณะที่มองหาเสื้อผ้าตัวเอง
เพิ่งจะเริ่มวันใหม่ได้ไม่ทันไร เขาก็ได้เย็ดพี่สาวคนที่สี่เสียแล้ว แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคตนะ ความคิดเรื่องเสียว ๆ มันวิ่งวุ่นในจิดใจเขา