ความสุขของกะทะ ตอน 1 กะทะจวยเล็ก
ความสุขของกะทะ ตอน 1 กะทะจวยเล็ก
โดย kankan
คำนำ
…….
ไรท์เขียนเรื่องกะทะให้อ่านกันเล่นๆตั้งปี 2552 ผ่านมาจนถึงบัดนี้
ไม่เคยคิดว่ายังมีสนคนใจอยากอ่านกันอีก ไรท์เขียนเรื่องเอาไว้ 2 ภาค
คือ ภาค 1 ปฐมบท กับ ภาค 2 หิมพานต์
ไรท์ได้ร่างเค้าโครงภาค 3 และตั้งชื่อเอาไว้ ชื่อ คัมภีร์ตันตระสุดขอบฟ้า
แต่พอจบภาค 2 ไรท์ก็หยุดไปเขียนเรื่องอื่น
และไม่ได้ให้โอกาสให้กลับมาเขียนต่ออีกเลย
หลังจากที่ไรท์จบเรื่องที่พึ่งอ่านกันไป
ปรากฎว่ามีรีดเดอร์จำนวนหลายคนแจ้งไรท์ว่า
อยากอ่านความสุขของกะทะ
บางคนอ่านไปสิบกว่าตอนของภาคปฐมบท บางคนอ่านจบ
แต่ไม่ได้อ่านภาค 2 หิมพานต์
โดยขอให้ไรท์นำมาลงให้อ่านกันหน่อย
ด้วยเหตุนี้ ประกอบกับช่วงนี้ขี้เกียจเขียนเรื่องใหม่
เลยตัดสินใจปัดฝุ่นเอากะทะมาขัดตาทัพไปก่อน
แต่จะเอาเดิมๆที่เขียนไปลงมาให้อ่านก็กะไรอยู่
ไรท์จึงได้เอามาอ่านใหม่ (นานจนลืมละ)
แล้วถือโอกาสปรับโน่นนิดนี่หน่อย
เพื่อให้คนที่เคยอ่านก็น่าจะอ่านได้
คนมาอ่านใหม่ก็คงได้รับอรรถรสเต็มสมบูรณ์
ขอให้มีความสุข (ขอบคุณที่อยากอ่านเรื่องเก่าๆ) 555
kankan 2015
……………………….
กะทะเป็นชายหนุ่มกำลังเรียนปี 2 มหา’ลัยดังแห่งหนึ่ง
กะทะเป็นคนเรียนเก่งและเรียกได้ว่าเก่งมากๆ
เกรดเฉลี่ยที่กะทะทำได้ไม่ต่ำกว่า 3.75 ของแต่ละปี
แต่กะทะก็ยังไม่มีความสุข ชีวิตเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง
สิ่งเหล่านั้นมันคือ เงินทองก็ไม่ใช่
ทางบ้านกะทะจัดได้ว่าเป็นมหาเศรษฐี
แม้กะทะจะไม่ฟุ้งเฟ้อ กะทะเป็นชายหนุ่มติดดิน
พ่อซื้อรถให้กะทะเป็นรางวัลสอบติดคณะที่อยู่ในฝันของพ่อ
แต่กะทะไม่เคยเอารถมามหา’ลัย กะทะชอบนั่งรถเมล์
หรือไม่อย่างดีที่สุดกะทะก็โทรให้พ่อส่งคนรถมารับกลับบ้าน
ชีวิตกะทะมีปมด้อยที่ยิ่งใหญ่อยู่หลายข้อเหมือนกัน
เพื่อนๆกะทะมักเรียนกะทะทั้งต่อหน้าและลับหลังว่า “กะทะจวยมด”
ฉายานี้มันมีความเป็นมา ก็ความทะลึงของเพื่อนๆนั่นแหละ
พวกมันงัดเอาเจ้าโลกมาประชันขันแข่งกัน
แบบว่าใครจะใหญ่และยาวกว่ากัน
ผลปรากฎว่า…
จะด้วยความตระหนกตกใจของไอ้จ้อยของกะทะ
หรือเพราะอย่างไรก็ไม่ทราบได้
ไอ้บึ๊มของกะทะมันไม่สามารถจะผงาดค้ำฟ้าท้าปฐพีได้
ทำให้ผลจากการวัดเส้นรอบวงบวกกับวัดความยาวแพ้หมดทุกคน
ก็มันยาวสุด 7 นิ้ว และสั้นถึง 5.5 นิ้ว
อนิจา..ของกะทะมันสุดต่ำเตี้ยแค่ 5.2 นิ้ว
กะทะแพ้ทั้งความยาวและเส้นรอบวง
กะทะอ้วนตุ้ยนุ้ยพอสมควรจากการกินดีอยู่ดี..จ๋องลงแบบเสียเชิงชาย
ก้มหน้าอายเพื่อนที่หัวเราะกันเฮฮา
แล้วไอ้เชษตัวดีมันก็ให้ฉายาอันน่าเจ็บใจนี้กับกะทะ
จากปี 1 จนตอนนี้จะหมดปี 2 แล้ว เพื่อนๆ ก็ไม่เคยลืม
เพื่อนๆ รุมล้อกะทะอย่างมันปาก
แค่นี้กะทะยังไม่หมดเคราะห์
กะทะเจอเคราะห์อีกระลอกเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับ “ไข่” ในกระเปาะของผู้ชาย
ทุกคนต่างก็อยากพิสูจน์กัน
เมื่อเวลามาโอกาสเหมาะ
ต่างก็คลำพิสูจน์ดู
ธรรมชาติต่างก็มีเท่าทุนกันคละ 2 ใบ
แต่ธรรมชาติเรียบง่ายนี้ไม่ใช่ของกะทะ
ธรรมชาติไม่ให้ความเท่าเทียมนี้แก่กะทะ
ไข่ของกะทะมีเพียงใบเดียวเท่านัน
ไข่ของกะทะเป็นไข่โทน
หรือที่ไอ้เชษคู่ปรับกะทะเอาไปประจานทั้งวงว่า “กะทะมันทองแดง”
กะทะอายมาก
แต่จะทำไงได้ละ
ธรรมชาติมันให้มาใบเดียวนี่หว่า
กะทะไม่ได้ประสงค์ซักหน่อย
กะทะเลยมี 2 ฉายา คือ
“กะทะจวยมด” และ
“กะทะทองแดง”
ทั้งสองฉายาทำให้กระอักกระอ่วน
เดินไปไหนกระระแวงไปหมด
เห็นผู้หญิงเมียงมองแล้วกระซิบกัน
กะทะก็รู้สึกว่าเขาคุยกันเรื่องฉายาของตัวเอง
เหตะนี้เลยทำให้กะทะค่อนข้างเก็บตัว
แต่ไอ้เพื่อนชั่วๆทั้งหลาย
กะทะก็ยังมีเพื่อนที่แสนดีและเข้าใจ มันชื่อว่า “ไอ้น้อย”
ไอ้น้อยคอยปลอบอกปลอบใจกะทะเสมอๆ เช่น
“ทะ..แกจะไปสนใจอะไรว๊ะ จะเล็กจะใหญ่ ใบเดียวหรือสองใบ มันก็เอาผู้หญิงมันทั้งนั้นแหละ”
คำปลอบประโลมของไอ้น้อย ทำเอากะทะเสียวในหัวใจวูบ
กะทะเคยที่ไหนกันละกับผู้หญิง
แค่ช่วยตัวเองกะทะยังไม่หวั่นๆเลย
กะทะได้คอยความฝัน
ซึ่งมันเคยเอามาปรึกษาไอ้น้อยนี่แหละ
ไอ้น้อยบอกว่าเป็นธรรมชาติของผู้ชาย
แล้วไอ้น้อยก็ให้คำแนะนำให้กระทะช่วยตัวเองบ้าง จะได้ดีขึ้น
………….
กะทะคิดจะลองทำอย่างไอ้น้อยมันบอกเหมือนกัน
แต่ปมในใจมันผูกกันแน่น จะว่าเพราะถูกเพื่อนล้อก็ไม่เชิง
ปมที่ฝังอยู่ในใจคืออะไรกะทะก็ไม่ทราบได้
กะทะหวาดกับส่วนนั้นจนไม่กล้าทำ
กะทะไม่รู้เหมือนกันว่าทำ สำหรับกะทะมันยากจังไอ้เรื่องแบบนี้
ในที่สุดกะทะอาศัยเพียงความฝันเท่านั้นเอง
เดือนหรือสองเดือนกะทะจึงจะฝันกระฉูดเสียทีนึง
เฮ่อ..กะทะถอนหายใจให้ตัวเองบ่อย ๆ
……….
วันนึ่ง.. กลุ่มเพื่อนที่มีไอ้เชษเป็นหัวหน้า มันจะชวนกันจะไปยกครู
เพราะทุกคนอายุเกือบจะ 20 บรรลุนิติภาวะแล้ว
กะทะได้ยินก็หูผึ่ง มันคิดในใจทันทีว่า
“ไอ้เหี้ย..เชษมันจะไปยกครูทำไมว๊ะ..ประหลาด”
กะทะคิดอยู่นานกับปัญหานี้ มันจะไปยกครูทำไม
เมื่ออดรนทนต่อไปไม่ได้ กะทะจึงทะลุกลางปล้องถามไอ้เชษว่า
“ไอ้เชษ..มึงจะไปยกครูให้หนักทำไมวะ…”
เท่านั้นเอง…วงเพื่อนก็แตกกระจายเหมือนจอกแหนถูกก้อนหินทุ่มโครมลงไป
ทุกคนหัวเราะกันสนั่น หัวเราะกันตัวงอหงาย
บางคนถึงกับน้ำตาเล็ด
กะทะยิ่งเป็นงงที่สุด
กะทะไม่เข้าใจและไม่รู้ว่ามันหัวเราะกันหนักขนาดนั้นกันทำไม
เดือดร้อนถึงไอ้น้อยอีกรอบ
ไอ้น้อยต้องลากกะทะมาอธิบายความหมายยกครูของไอ้เชษ
กะทะจึงจะถึงบางอ้อ
ไอ้น้อยจึงถามกะทะว่าจะไปร่วมยกครูหรือปล่าว
กะทะส่ายหน้าด้วยแววตาอ่อนระโหย
กะทะคิดในใจว่าจะไปให้ไอ้เชษมันหัวเราะเยาะอีกทำไม
ไอ้น้อยชวนอยู่หลายครั้ง กะทะก็ยืนกรานปฏิเสธเหมือนเดิม
จนไอ้น้อยอ่อนใจ
……………
วันนั้น..กะทะกลับบ้านด้วยความห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อกลับมาถึงบ้านพ่อ-แม่ยังไม่กลับ เจอแต่พี่เลี้ยงที่ดูแลกะทะ
พี่เลี้ยงของกะทะเธอชื่อ “พลอย” อายุมากกว่าสี่สิบ
กะทะเรียกเธอว่า “พี่พลอย” กะทะสนิทกับพี่พลอยมาก
เมื่อกะทะทักทายพี่พลอยแล้วก็บอกพี่พลอยของเค้าไปว่า
“เดี่ยวผมขออาบน้ำแล้วนอนสักนิดก่อน ซักทุ่มพี่พลอยปลุกผมทานข้าวด้วยนะ”
กะทะเดินเข้าห้องส่วนตัวที่หรูหรา
ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ามานุ่งผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
แล้วกะทะก็รู้สึกว่าทำไมวันนี้ตัวเองรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว
ทั้งๆที่กะทะอาบน้ำอุ่นที่ค่อนข้างร้อน
กะทะปรับหมุนปุ่มควบคุมอุณหภูมิอีกครั้ง
ความสะท้านมันอยู่ในกระดูกไม่หาย
กะทะรีบล้างตัว
หยิบผ้าขนหนูเนื้อนุ่มออกเช็ดตัว
ออกจากห้องน้ำมาใส่ชุดนอนแล้วล้มตัวลงบนที่นอน
ผ่านไปไม่นานกะทะก็หลับสนิท
……………
19.00 น. มีเสียงเคาะประตูห้อง
กะทะเหมือนมีความรู้สึกว่าได้ยิน
แต่เลือนลางเหมือนไกลเสียเหลือเกิน
และเหมือนกับว่าตัวเองหลงทางอยู่ในกลางสายหมอกสีขาวอมเทา
หมอกนั้นกระจายตัวจนยากที่แยกแยะอะไรได้
กะทะแยกไม่ออกว่ามันความจริงหรือความฝันกันแน่
แล้วก็มีเสียงแว่วๆมาอีกว่า
“กะทะตัวร้อนจัง..สงสัยไม่สบายแน่เลย”
…
“ไม่สบายแน่เลย…”
……………
โดย : kankan (RE.W2015)